SlideShare a Scribd company logo
การบันทึกเสียง
ด้วยโปรแกรม Sound Forge 7
โดย ผศ. พิพิษณ์ สิทธิศักดิ์
สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง
Pipit.s@rmutr.ac.th
การจัดเตรียมคลิปเสียง (Audio Clip)
เสียงเป็นสิ่งสาคัญอย่างหนึ่งในการตัดต่อวีดิทัศน์ เพราะนอกจากจะทาให้วีดิทัศน์ของเราสื่อ
ความหมายกับผู้ชมได้เข้าใจแล้ว เสียงยังมีบทบาทในการเพิ่มอรรถรสในการชมวีดิทัศน์อีกด้วย (จุฑามาศ จิ
วะสังข์. 2547 : 120) ตัวอย่างเช่น วีดิทัศน์นาเสนอภาพศิลปินกาลังแกะสลักหิน ก็ต้องมีเสียงตอกหินอยู่ด้วย
หรือศิลปินชาวญี่ปุ่นกาลังใช้เลื่อยยนต์สร้างสรรค์งานศิลปะ ก็ต้องได้ยินเสียงเครื่องยนต์ขณะนั้นด้วย จึงจะ
สร้างให้เกิดความสมจริงขึ้น นอกจากนี้ยังมีเสียงบรรยายเพื่อทาให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวได้เร็วขึ้น ตลอดจน
เสียงเพลงประกอบเพื่อสร้างอรรถรสในการชมอีกด้วย
คุณสมบัติของเสียงในระบบดิจิตอล
เสียงโดยทั่วไปจะเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ แล้วส่งแรงสั่นสะเทือนนั้นมาตามตัวนาเสียง เช่น
อากาศมากระทบที่หูของเรา ทาให้ได้เสียงเหล่านั้น ซึ่งจะเรียกเสียงในรูปแบบนี้ว่า “เสียงในระบบอนาล็อก”
แต่สาหรับเสียงในระบบดิจิตอลเกิดจากการแปลงเสียงในระบบอนาล็อก โดยคุณภาพของเสียงในระบบ
ดิจิตอลจะถูกกาหนดโดย 2 ค่า ดังนี้
1. Sample Rate เป็นอัตราความละเอียดของเสียงในการแปลงจากเสียงในระบบอนาล็อกให้
กลายเป็นสัญญาณเสียงในระบบดิจิตอลใน 1 วินาที โดยมีหน่วยเป็น KHz เสียงที่มีคุณภาพดีจะต้องมีค่า
Sample Rate สูง ซึ่งก็จะทาให้ขนาดไฟล์เสียงมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย
Sample Rate รายละเอียด
8 KHz – 22.25 KHz คุณภาพเสียงที่ใช้กับงานเว็บไซต์และมัลติมีเดียบน
คอมพิวเตอร์
32 KHz - 48KHz คุณภาพเสียงสาหรับกล้องดิจิตอลวิดีโอ สาหรับค่า Sample
Rate ที่ 48 KHz จะให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-End
44.1 KHz คุณภาพเสียงสาหรับซีดีเพลงทั่วไปหรือเสียงจากการอัดเสียง
ผ่านไมโครโฟน
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2. Bit Depth เป็นจานวนข้อมูลที่ใช้ในการแปลงหรือเข้ารหัสเสียง ยิ่งมีค่ามากเท่าไร ก็จะยิ่งทาให้
ความเที่ยงตรงของเสียงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทาให้เสียงไม่ผิดเพี้ยนและคมชัด (จุฑามาศ จิวะสังข์. 2547 :
120)
Bit Depth
รายละเอียด
8 bit คุณภาพเสียงต่าที่สุด ใช้สาหรับงานบนอินเตอร์เน็ต
12 bit คุณภาพเสียงสาหรับกล้องดิจิตอลวิดีโอ
16 bit คุณภาพเสียงสาหรับซีดีเพลงทั่วไป
รูปแบบของเสียง
ปัจจุบันไฟล์เพลงมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีคุณลักษณะและข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
ไป อีกทั้งในการเล่นหรือเปิดฟังเพลงยังใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันไป เช่น ไฟล์ *.wav มีคุณภาพที่ดีกว่าไฟล์
*.mp3 แต่ไฟล์ *.mp3 ก็มีขนาดเล็กกว่าไฟล์ *.wav กว่า 10 เท่าตัว (ดุษฎี ชัยเลิศ. 2545 : 98) แต่ถ้า
ต้องการไฟล์เพลง *.mp3 ไปเล่นกับเครื่องเล่น Audio CD หรือเครื่องเล่นมินิคอมโป เราต้องแปลงไฟล์ให้อยู่
ในรูปของ Compact Disc Audio ที่เป็นไฟล์ *.cda
คลิปเสียง (Audio Clip) ที่สามารถนาเข้า (Import) ไปตัดต่อวีดิทัศน์ในโปรแกรม Adobe
Premiere ได้มีดังนี้ (จุฑามาศ จิวะสังข์. 2547 : 52)
รูปแบบไฟล์เสียง (Audio Formats) นามสกุลไฟล์
Audio Interchange *.aif
MPEG audio layer 3 *.mp3
Windows Waveform *.wav
Windows Media Audio *.wma
แหล่งที่มาของเสียง
บางครั้งในการตัดต่อวีดิทัศน์ อาจจะต้องมีการเพิ่มเสียงพากย์ หรือเสียงบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่ง
เราสามารถทาได้ด้วยโปรแกรมพื้นฐานง่าย ๆ ที่มาพร้อมกับการ์ดเสียง (Sound Card) ของคอมพิวเตอร์แต่ละ
เครื่อง เช่น โปรแกรม Sound Recorder หรืออาจจะใช้โปรแกรมอื่น ๆ ที่มีความสามารถในด้านเสียงมากขึ้น
เช่น Sound Forge , Gold Wave หรือ Cool Edit Pro เป็นต้น โดยไฟล์ที่บันทึกได้จะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุล
*.wav
นอกจากนี้ ยังมีเสียงประกอบอื่น ๆ เช่น เพลงบรรเลง หรือ Sound Effect จากสื่ออื่น ๆ ที่สามารถ
นามาใช้ประกอบในวีดิทัศน์ได้ ซึ่งอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมมาเป็นรูปแบบของไฟล์ที่มี
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 3
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
นามสกุล *.wav หรือไฟล์ที่มีนามสกุล *.mp3 โดยอาศัยโปรแกรมจัดการด้านเสียงเข้ามาช่วยในการทางาน
เช่น Audio Grabber ,VirtualDub , XingMP3 Encorder เป็นต้น
สรุปได้ว่าเสียงที่จะนามาใช้ในการผลิตสื่อวีดิทัศน์ มีที่มาได้ 2 ลักษณะ กล่าวคือ
1. บันทึกเสียงขึ้นมาใหม่ เช่น การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน หรือการแปลงเสียงจากเทปคาสเซ็ท
ให้มาอยู่ในรูปไฟล์เสียง
2. นาเสียงที่มีอยู่แล้วในสื่อบันทึกอื่น ๆ มาใช้งาน
1) นามาใช้ได้เลย เช่น ไฟล์เสียงที่มีนามสกุล *.wav หรือ *.mp3
2) แปลงไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบอื่น ให้มาอยู่ในรูปแบบที่ต้องการใช้งาน เช่น แปลงจาก Audio
CD หรือ VCD karaoke เป็น *.wav
การบันทึกเสียงบรรยาย
ภาพที่ 1 ไมโครโฟนสาหรับบันทึกเสียงเข้าคอมพิวเตอร์
(www.innovativetechinc.com, www.simbaelectronic.com)
การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน ถ้าเป็นการบันทึกที่ความยาวไม่ยาวนัก ก็สามารถใช้โปรแกรม
บันทึกเสียงที่แถมมากับการ์ดเสียง (Sound Card) เช่น Sound Recorder ใน Microsoft Windows 7 หรือ
โปรแกรม Quick time Player บน MAC เป็นต้น แต่ถ้าต้องการบันทึกแต่ละครั้งใช้เวลาเกินกว่า 1 นาที ควร
ใช้โปรแกรมบันทึกเสียงอื่น ๆ เช่น โปรแกรม Sound Force หรือ GarageBand บน MAC เป็นต้น เพราะ
นอกจากจะบันทึกเสียงเป็นไฟล์ .wav แล้วโปรแกรมยังมีความสามารถอื่น ๆ เช่น การแทรกเสียงเงียบ (Insert
Silence) การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ การเพิ่มความดังของเสียง
ตลอดจนการรวมไฟล์เสียง *.wav เข้าด้วยกัน เป็นต้น
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 4
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Sound Forge
โปรแกรม Sound Forge เป็นโปรแกรมจัดการด้านเสียง ทั้งการบันทึกเสียงขึ้นมาใหม่หรือ
การนาไฟล์เสียงสกุลอื่น ๆ เช่น WMA, WMV, WAV, MOV, AVI, PCA AIF, MP3 เข้ามาแก้ไข
1. การเข้าสู่โปรแกรม Sound Forge 7
1) ดับเบิ้ลคลิกที่ Shortcut ของ โปรแกรม Sound Forge 7
จะปรากฏหน้าต่างแรกของโปรแกรม
Sound Force Workspace
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 5
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2) คลิกเมาส์หน้าต่างแรก สักครู่จะเข้าหน้าต่างเมนู ของโปรแกรม ซึ่งภายใน
หน้าต่างประกอบด้วย
ส่วนประกอบ หน้าที่การทางาน
Program Title Bar แสดงชื่อโปรแกรม และชื่อของหน้าต่างไฟล์งาน (data window) ที่กาลัง
ทางานอยู่ในปัจจุบัน
Menu Bar แสดงเมนูหลัก ซึ่งจะประกอบด้วยคาสั่งต่าง ๆ อยู่ภายใน
Status Bar จะแสดง playback sample rate, sample size, ระบบเสียง
mono/stereo, เวลาของเสียงที่บันทึกไว้ใน Data window และพื้นที่ที่
เหลือในฮาร์ดดิสก์
Sound Forge Workspace พื้นที่ว่างที่อยู่หลัง Data
Data Window เป็นหน้าต่างของไฟล์เสียง (sound file
2. การบันทึกเสียง
1) กรณีที่เริ่มบันทึกเสียงใหม่ ให้เลือกเมนู File > New หรือ คลิกเมาส์ที่ปุ่ม New
จะปรากฏหน้าต่าง Data Window ขึ้น ดังภาพข้างล่าง
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 6
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Record) หรือกดคีย์ Ctrl+R
จะปรากฏหน้าต่าง Record ดังภาพข้างล่าง
3). คลิกเมาส์ที่ปุ่ม จะปรากฏหน้าต่าง Record Remote
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 7
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
4). ที่หน้าต่าง Record Remote ให้กดปุ่ม (Record) เพื่อเริ่มต้นบันทึกเสียง
5) เมื่อบันทึกเสร็จ ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Stop) เพื่อยุติการบันทึก
หมายเหตุ ปกติเมื่อมีการบันทึกเสียงไปแล้ว หากบันทึกเสียงใหม่เสียงจะบันทึกใหม่
ณ ตาแหน่งต้นไฟล์เสียง ซึ่งจะทับของเดิมที่มีอยู่ ดังนั้น ถ้าต้องการให้เป็นการบันทึกต่อจากการบันทึกครั้งที่
แล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Goto end) หรือกดคีย์ End บนคีย์บอร์ด ก่อนบันทึกเสียงใหม่
6) กดปุ่ม ที่ไตเติ้ลบาร์ หรือปุ่ม Close เพื่อปิดหน้าต่าง Record Remote
ภายในหน้าต่างทางานจะปรากฏสัญลักษณ์คลื่นเสียง (Waveform)
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 8
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. การจัดเก็บ (Save) ไฟล์เสียง
เสียงที่ปรากฏในหน้าต่าง Work area หากไม่มีการจัดเก็บลงฮาร์ดดิสก์ (Hard disk)
หรือสื่อบันทึกอื่น ๆ ไว้ก่อน เมื่อมีการปิดโปรแกรม Sound Forge จะทาให้เสียงที่บันทึกไว้ในหน้าต่างนั้น
หายไปทันที ดังนั้นจึงต้องมีการบันทึกเสียงจากหน้าต่าง Work area เพื่อไปจัดเก็บในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมีขั้นตอน
ดังต่อไปนี้
1) คลิกเมาส์ที่เมนู File>Save as
จะปรากฏหน้าต่าง Save As
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 9
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2) คลิกเมาส์เลือกไดร์ฟ (Drive) โฟลเดอร์ (Folder) ในช่อง Save in
3) เปลี่ยนชื่อไฟล์ในช่อง File name เป็นชื่อไฟล์ใหม่ตามต้องการ แล้วคลิกเมาส์ที่
ปุ่ม
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 0
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
ภายหลังจากบันทึกเสียงเสร็จแล้ว อาจจะต้องมีการแก้ไข เพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียง เพื่อให้คลิปเสียงมี
ความสมบูรณ์มากขึ้น เช่น การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence) การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ
การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ การเพิ่มความดังของเสียง การรวมไฟล์เสียงเข้าด้วยกัน โดยมีขั้นตอนดังนี้
การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence)
บางครั้งเสียงบรรยายที่บันทึกไว้ เมื่อกดปุ่ม Play จะมีเสียงทันที ซึ่งไม่เป็นการดีนัก ดังนั้นเรา
สามารถแทรกเสียงเงียบเข้าไปได้ตามเวลาที่ต้องการในตอนต้นไฟล์ หรือกรณีที่เสียงบรรยายบางช่วงอาจจะ
ติดกันเกินไป เราต้องการเว้นวรรคเสียงให้แต่ละช่วงคาบรรยายให้ห่างกันก็สามารถทาได้ดังนี้
1. คลิกเมาส์เพื่อวางเคอร์เซอร์ (Cursor) หน้าตาแหน่งที่ต้องการแทรกเสียงเงียบ แต่ถ้า
ต้องการแทรก ณ ตาแหน่งเริ่มต้นของไฟล์เสียง ก็ให้กดคีย์ Home บนคีย์บอร์ด เพื่อให้เคอร์เซอร์ (Cursor)
กระโดดไป ซึ่งในตัวอย่างนี้จะเป็นการแทรกเสียงเงียบ ณ ต้นไฟล์เสียง
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 1
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2. ใช้คาสั่ง Process > Insert Silence
จะปรากฏหน้าต่าง Insert Silence
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 2
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. กาหนดเวลาที่ต้องการแทรก ซึ่งปกติจะกาหนดเป็น 1 วินาที ไว้ในช่อง
1) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม ขึ้นหรือลงเพื่อกาหนดเวลาใหม่ หรือคลิกเมาส์ที่ตัวเลขเดิมแล้ว
พิมพ์ตัวเลขใหม่เข้าไป
2) กาหนดตาแหน่งที่จะให้เสียงเงียบว่าจะอยู่ ณ ตาแหน่งใด เช่นหน้าเคอร์เซอร์ (Cursor)
ต้นไฟล์เสียง (Start of File) หรือท้ายไฟล์เสียง (End of File) ดังภาพข้างล่าง
4. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Ok จะปรากฏเสียงเงียบอยู่หน้าต้นไฟล์เสียง
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 3
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ
กรณีที่มีเสียงที่ไม่ต้องการแทรกเข้ามาขณะบันทึกเสียง เช่น เสียงเปิดประตู เสียงจามหรือไอ
ของผู้บันทึกเสียง เป็นต้น แต่ต้องไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงพูด เราสามารถทาให้เป็นเสียงเงียบได้ ดังนี้
1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมบริเวณเสียงที่ต้องการทาเป็นเสียงเงียบ โดยส่วนที่เลือกจะ
เป็นแถบสีดา
2. คลิกเมาส์เลือกเมนูบาร์และคาสั่งที่ Process>Mute
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 4
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
เสียงที่ไม่ต้องการจะหายไปเป็นเสียงเงียบ ดังภาพข้างล่าง
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 5
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์
ในขณะที่บันทึกเสียง อาจมีเสียงฮัมหรือเสียงซ่าของอุปกรณ์เกิดขึ้นตลอดเวลา เราสามารถลด
เสียงเหล่านั้นได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. เปิดหน้าต่างไฟล์เสียงที่ต้องการลดเสียงรบกวน
2. คลิกเมาส์เลือกเมนูและคาสั่ง Effect>Noise Gate
จะปรากฏหน้าต่าง Noise Gate
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 6
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. เลือกรูปแบบในช่อง Name เป็น Noise gate 1 แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK
เสียงรบกวนจะหายไป
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 7
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การเพิ่มความดังของเสียง
บางครั้งขณะที่บันทึกเสียง ผู้พูดอาจจะพูดเบาไปหรือตาแหน่งของไมโครโฟนอยู่ห่างจากริม
ฝีปาก ทาให้ได้เสียงไม่ดังเท่าที่ควร เรามีวิธีการเพิ่มระดับเสียงดังนี้
1. เปิดหน้าต่างไฟล์เสียงที่ต้องการเพิ่มความดังของเสียง
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 8
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. คลิกเมาส์ที่เมนู Process >Volume
จะปรากฏหน้าต่าง Volume
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 9
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
4. เลือก Name เป็น 6 dB Boost เมื่อต้องการให้เสียงดังเพิ่มขึ้น 200 % แต่ถ้าต้องการลด
ระดับเสียงลงให้เลือกเป็น 6 dB Cut
5. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK ระดับเสียงจะเพิ่มขึ้น สังเกตดูว่าคลื่นเสียงจะขยายขึ้น
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 0
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การรวมไฟล์เสียง *.wav เข้าด้วยกัน
กรณีที่บันทึกเสียงแยกเป็นไฟล์เสียงไว้หลายไฟล์ และถ้าต้องการนามาเรียงต่อกัน สามารถทา
ได้ดังนี้
1 เปิดโปรแกรม Sound Forge ขึ้นมาทางาน
2 เปิดไฟล์แรก และไฟล์ที่สอง ที่จะนามาต่อกัน
1) คลิกเมาส์ที่เมนู File > Open หรือคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Open (หรือ Ctrl+O)
จะปรากฏหน้าต่าง Open
2) ให้คลิกเมาส์เลือกไดร์ฟ เลือกโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์เสียง
3) คลิกเมาส์เลือกไฟล์แรก
4) เลือกไฟล์ต่อไป โดยกดปุ่ม Ctrl ที่คีย์บอร์ดค้างไว้ก่อน แล้วคลิกเมาส์เลือกไฟล์อื่นที่จะ
นามาต่อท้ายไฟล์แรก
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 1
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
5) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Open จะปรากฏหน้าต่างของทั้งสองไฟล์
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 2
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3 นาไฟล์แรก และไฟล์ที่สอง มาต่อกัน
1) คลิกเมาส์ที่หน้าต่างไฟล์ที่สองที่จะนามาต่อไฟล์แรก
2) เลือกเสียงทั้งหมดใน Data Window ของไฟล์ที่สองนี้ โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Select
All หรือกดปุ่ม Ctrl + A ที่คีย์บอร์ด
3) คัดลอก (Copy) เสียงทั้งหมด โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Copy หรือกดปุ่ม Ctrl + C บน
คีย์บอร์ด
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 3
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
4) ปิดหน้าต่างของไฟล์ที่สอง โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Close
5) คัดลอกไฟล์เสียงที่คัดลอกจากไฟล์ที่สองมาวางในไฟล์เสียงแรก คลิกเมาส์ที่หน้าต่าง
ไฟล์แรก
6) กดคีย์ Ctrl + End บนคีย์บอร์ด เพื่อให้เคอร์เซอร์ (Cursor) กระโดดไปอยู่ท้ายสุด
ของไฟล์
7) ปะวาง (Paste) เสียงที่คัดลอกไว้ลงมาต่อท้ายไฟล์แรก โดยใช้คาสั่งเมนู Edit >
Paste หรือกดคีย์ Ctrl + V
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 4
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
8) บันทึกไฟล์ที่รวมเสียงแล้ว โดยใช้คาสั่งเมนู File > Save as หรือกดปุ่ม Ctrl + S ที่
คีย์บอร์ด ควรเปลี่ยนชื่อไฟล์ที่รวมกันแล้วเป็นชื่อใหม่
ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 5
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
หนังสืออ้างอิง
จุฑามาศ จิวะสังข์. (2547). Adobe Premiere Pro ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : ซัคเซส มีเดีย.
ดุษฎี ชัยเลิศ. (2545). Video CD คุณทาได้ ง่ายนิดเดียว. นนทบุรี : อินโฟเพรส.
DID International. (มปป). การตัดต่อและปรับแต่งเสียงด้วย Sound Forge แบบมืออาชีพ . กรุงเทพฯ :
DID International.

More Related Content

PDF
คู่มือการทำคาราโอเกะจาก Powerpoint
PDF
AR VR Metaverse ทางการแพทย์และพยาบาล
PDF
การถ่ายภาพเบื้องต้น
PDF
How to การเตรียมรูปเล่มนิยาย
PDF
HTML, CSS, PHP,MySQL, Database เขียนเว็บติดต่อฐานข้อมูล เริ่ม จาก 0 (ศูนย์)
DOC
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
PDF
การใช้งาน Padlet
คู่มือการทำคาราโอเกะจาก Powerpoint
AR VR Metaverse ทางการแพทย์และพยาบาล
การถ่ายภาพเบื้องต้น
How to การเตรียมรูปเล่มนิยาย
HTML, CSS, PHP,MySQL, Database เขียนเว็บติดต่อฐานข้อมูล เริ่ม จาก 0 (ศูนย์)
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
การใช้งาน Padlet

What's hot (20)

PDF
โครงงานอินเตอร์เน็ต
PDF
การผลิตสื่อวิดีโอระบบดิจิทัลเบื้องต้น (Basic Digital Video Production)
PDF
AR / VR / MR / XR มุ่งสู่อนาคตการท่องเที่ยวที่เหนือจริง
PDF
แสงและองค์ประกอบของภาพ
DOCX
บท Mv อยากเป็นคนสำคัญของเธอ
PDF
โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีไทย1
DOCX
เครื่องมือ Sonyvegas
PDF
การสร้างสื่อ AR Augmented Reality ด้วย Unity + Vuforia
PDF
เอกสาร Infographic การทำ Infographic เบื้องต้น
PDF
ระบบนำทัวร์เสมือนจริง (Virtual Tour: VR Tour)
PDF
สคริปต์ Story board-หนังสั้นเพียงเพราะ..
PDF
อินโฟกราฟิกในยุคการศึกษา 4.0 (Infographic in Education 4.0)
PDF
คู่มือ Handbook app inventor
PDF
แผนการสอนการสร้างเว็บเพจ
PPT
ดร.เอ็ดเบ็ดการ์
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
โครงงาน สื่อมัลติมิเดีย เรื่อง การตัดเสียงโดยโปรแกรม Wavepad
PDF
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
PDF
สร้างสื่อ Augmented Reality ง่ายๆ ด้วย Vidinoti
โครงงานอินเตอร์เน็ต
การผลิตสื่อวิดีโอระบบดิจิทัลเบื้องต้น (Basic Digital Video Production)
AR / VR / MR / XR มุ่งสู่อนาคตการท่องเที่ยวที่เหนือจริง
แสงและองค์ประกอบของภาพ
บท Mv อยากเป็นคนสำคัญของเธอ
โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีไทย1
เครื่องมือ Sonyvegas
การสร้างสื่อ AR Augmented Reality ด้วย Unity + Vuforia
เอกสาร Infographic การทำ Infographic เบื้องต้น
ระบบนำทัวร์เสมือนจริง (Virtual Tour: VR Tour)
สคริปต์ Story board-หนังสั้นเพียงเพราะ..
อินโฟกราฟิกในยุคการศึกษา 4.0 (Infographic in Education 4.0)
คู่มือ Handbook app inventor
แผนการสอนการสร้างเว็บเพจ
ดร.เอ็ดเบ็ดการ์
รูปเล่มวิชาโครงงาน
โครงงาน สื่อมัลติมิเดีย เรื่อง การตัดเสียงโดยโปรแกรม Wavepad
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
สร้างสื่อ Augmented Reality ง่ายๆ ด้วย Vidinoti
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
การใส่ลิงก์ (link) และจัดหมวดหมู่ของลิงก์ใน wordpress
PDF
การแปลง Dvd video เป็นไฟล์ avi ด้วยโปรแกรม dvd2 avi ver3
PDF
สอบปฏิบัติ ปลายภาค 1-2554
PDF
ลบเสียงรบกวนโปรแกรม Adacity
PDF
การสมัครเป็นสมาชิก Google
PPT
วิวัฒนาการภาพยนตร์ไทย
 
PDF
การเพิ่ม User ใน wordpress
PDF
ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โลก
PDF
การใช้ Google+ เพื่อการแชร์ (Share) ภาพ
ODP
Cinema history
PDF
4 การแชร์ไฟล์จาก slideshare ไปยังเว็บบล็อก
PDF
4 คุณลักษณะ บทบาทหน้าที่และอิทธิพลของภาพยนตร์
PPT
การผลิตรายการวิทยุกระจายเสียง
PDF
คำศัพท์ด้านการตัดต่อภาพ
PDF
ภาพยนตร์เบื้องต้น
PDF
1.3 แนวภาพยนตร์
PDF
Part 2.2 ส่วนประกอบของกล้องถ่ายภาพ
PPT
ระบบปฏิบัติการ
PPTX
Mac os x power point ฉบับสมบูรณ์
PDF
คู่มือการบันทึกคะแนน
การใส่ลิงก์ (link) และจัดหมวดหมู่ของลิงก์ใน wordpress
การแปลง Dvd video เป็นไฟล์ avi ด้วยโปรแกรม dvd2 avi ver3
สอบปฏิบัติ ปลายภาค 1-2554
ลบเสียงรบกวนโปรแกรม Adacity
การสมัครเป็นสมาชิก Google
วิวัฒนาการภาพยนตร์ไทย
 
การเพิ่ม User ใน wordpress
ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โลก
การใช้ Google+ เพื่อการแชร์ (Share) ภาพ
Cinema history
4 การแชร์ไฟล์จาก slideshare ไปยังเว็บบล็อก
4 คุณลักษณะ บทบาทหน้าที่และอิทธิพลของภาพยนตร์
การผลิตรายการวิทยุกระจายเสียง
คำศัพท์ด้านการตัดต่อภาพ
ภาพยนตร์เบื้องต้น
1.3 แนวภาพยนตร์
Part 2.2 ส่วนประกอบของกล้องถ่ายภาพ
ระบบปฏิบัติการ
Mac os x power point ฉบับสมบูรณ์
คู่มือการบันทึกคะแนน
Ad

Similar to การบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Sound forge 7 (20)

PDF
Unit 16
PDF
การใส่เสียงเพิ่มเติมให้กับสไลด์และวัตถุ
PDF
คู่มือ Audacity 1.3 beta (unicode)
PDF
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี 6
PDF
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี 6
PDF
Lmms basic course manual(Thai)
PPT
Ulead studio
PDF
PDF
Sonyvegas 100608114316-phpapp01
PPT
Karaoke Gen Progress Presentation
PDF
Audacity use
PPT
Sound for radio
PPT
Sound for Radio Script
PPTX
อบรม PowerPoint
PPTX
PowerPoint
PDF
การแปลงไฟล์ Dat เป็นไฟล์ mpeg –1 ด้วย tmpg enc plus
PDF
การตกแต่งวิดีโอและการจัดการเสียง
PDF
การตัดต่อวิดีโอด้วยUlead Video Studio 11
PDF
Ulead video studio 11 [compatibility mode]
Unit 16
การใส่เสียงเพิ่มเติมให้กับสไลด์และวัตถุ
คู่มือ Audacity 1.3 beta (unicode)
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี 6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี 6
Lmms basic course manual(Thai)
Ulead studio
Sonyvegas 100608114316-phpapp01
Karaoke Gen Progress Presentation
Audacity use
Sound for radio
Sound for Radio Script
อบรม PowerPoint
PowerPoint
การแปลงไฟล์ Dat เป็นไฟล์ mpeg –1 ด้วย tmpg enc plus
การตกแต่งวิดีโอและการจัดการเสียง
การตัดต่อวิดีโอด้วยUlead Video Studio 11
Ulead video studio 11 [compatibility mode]

More from Pipit Sitthisak (19)

PDF
การใส่ลายน้ำแสดงลิขสิทธ์และใส่รหัสป้องกัน
PDF
การสมัครเป็นสมาชิก slideshare
PDF
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แมคอินทอช Ver2
PDF
Unit 3 1 basic to television pdf
PDF
Unit 3 2 basic to video-pdf
PDF
Project 1 การสื่อความหมายด้วยภาพ
PDF
Project 2 final project -p3
PDF
Project 1 การสื่อความหมายด้วยภาพ
PDF
Chapter7 6-pr5-exporting movies-pdf
PDF
Chapter7 5-pr5-mac-title-pdf
PDF
Chapter7 3-pr5-mac-transition
PDF
Chapter7 2-pr5-mac-capturing-importing
PDF
Chapter1 pr5-mac-introduction-pdf
PDF
การสร้างเนื้อเพลง Karaoke ด้วยโปรแกรม photo shop cs5
PDF
การแปลง Dvd video เป็นไฟล์ avi ด้วยโปรแกรม dvd2 avi
PDF
Chapter 1 set mac os
PDF
101 introduction to movie
PDF
Imv unit7-5-pr3-title-pdf
PDF
Imv unit7-3-pr3-transition-pdf
การใส่ลายน้ำแสดงลิขสิทธ์และใส่รหัสป้องกัน
การสมัครเป็นสมาชิก slideshare
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แมคอินทอช Ver2
Unit 3 1 basic to television pdf
Unit 3 2 basic to video-pdf
Project 1 การสื่อความหมายด้วยภาพ
Project 2 final project -p3
Project 1 การสื่อความหมายด้วยภาพ
Chapter7 6-pr5-exporting movies-pdf
Chapter7 5-pr5-mac-title-pdf
Chapter7 3-pr5-mac-transition
Chapter7 2-pr5-mac-capturing-importing
Chapter1 pr5-mac-introduction-pdf
การสร้างเนื้อเพลง Karaoke ด้วยโปรแกรม photo shop cs5
การแปลง Dvd video เป็นไฟล์ avi ด้วยโปรแกรม dvd2 avi
Chapter 1 set mac os
101 introduction to movie
Imv unit7-5-pr3-title-pdf
Imv unit7-3-pr3-transition-pdf

การบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Sound forge 7

  • 1. การบันทึกเสียง ด้วยโปรแกรม Sound Forge 7 โดย ผศ. พิพิษณ์ สิทธิศักดิ์ สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง Pipit.s@rmutr.ac.th การจัดเตรียมคลิปเสียง (Audio Clip) เสียงเป็นสิ่งสาคัญอย่างหนึ่งในการตัดต่อวีดิทัศน์ เพราะนอกจากจะทาให้วีดิทัศน์ของเราสื่อ ความหมายกับผู้ชมได้เข้าใจแล้ว เสียงยังมีบทบาทในการเพิ่มอรรถรสในการชมวีดิทัศน์อีกด้วย (จุฑามาศ จิ วะสังข์. 2547 : 120) ตัวอย่างเช่น วีดิทัศน์นาเสนอภาพศิลปินกาลังแกะสลักหิน ก็ต้องมีเสียงตอกหินอยู่ด้วย หรือศิลปินชาวญี่ปุ่นกาลังใช้เลื่อยยนต์สร้างสรรค์งานศิลปะ ก็ต้องได้ยินเสียงเครื่องยนต์ขณะนั้นด้วย จึงจะ สร้างให้เกิดความสมจริงขึ้น นอกจากนี้ยังมีเสียงบรรยายเพื่อทาให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวได้เร็วขึ้น ตลอดจน เสียงเพลงประกอบเพื่อสร้างอรรถรสในการชมอีกด้วย คุณสมบัติของเสียงในระบบดิจิตอล เสียงโดยทั่วไปจะเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ แล้วส่งแรงสั่นสะเทือนนั้นมาตามตัวนาเสียง เช่น อากาศมากระทบที่หูของเรา ทาให้ได้เสียงเหล่านั้น ซึ่งจะเรียกเสียงในรูปแบบนี้ว่า “เสียงในระบบอนาล็อก” แต่สาหรับเสียงในระบบดิจิตอลเกิดจากการแปลงเสียงในระบบอนาล็อก โดยคุณภาพของเสียงในระบบ ดิจิตอลจะถูกกาหนดโดย 2 ค่า ดังนี้ 1. Sample Rate เป็นอัตราความละเอียดของเสียงในการแปลงจากเสียงในระบบอนาล็อกให้ กลายเป็นสัญญาณเสียงในระบบดิจิตอลใน 1 วินาที โดยมีหน่วยเป็น KHz เสียงที่มีคุณภาพดีจะต้องมีค่า Sample Rate สูง ซึ่งก็จะทาให้ขนาดไฟล์เสียงมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย Sample Rate รายละเอียด 8 KHz – 22.25 KHz คุณภาพเสียงที่ใช้กับงานเว็บไซต์และมัลติมีเดียบน คอมพิวเตอร์ 32 KHz - 48KHz คุณภาพเสียงสาหรับกล้องดิจิตอลวิดีโอ สาหรับค่า Sample Rate ที่ 48 KHz จะให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-End 44.1 KHz คุณภาพเสียงสาหรับซีดีเพลงทั่วไปหรือเสียงจากการอัดเสียง ผ่านไมโครโฟน
  • 2. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 2. Bit Depth เป็นจานวนข้อมูลที่ใช้ในการแปลงหรือเข้ารหัสเสียง ยิ่งมีค่ามากเท่าไร ก็จะยิ่งทาให้ ความเที่ยงตรงของเสียงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทาให้เสียงไม่ผิดเพี้ยนและคมชัด (จุฑามาศ จิวะสังข์. 2547 : 120) Bit Depth รายละเอียด 8 bit คุณภาพเสียงต่าที่สุด ใช้สาหรับงานบนอินเตอร์เน็ต 12 bit คุณภาพเสียงสาหรับกล้องดิจิตอลวิดีโอ 16 bit คุณภาพเสียงสาหรับซีดีเพลงทั่วไป รูปแบบของเสียง ปัจจุบันไฟล์เพลงมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีคุณลักษณะและข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ไป อีกทั้งในการเล่นหรือเปิดฟังเพลงยังใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันไป เช่น ไฟล์ *.wav มีคุณภาพที่ดีกว่าไฟล์ *.mp3 แต่ไฟล์ *.mp3 ก็มีขนาดเล็กกว่าไฟล์ *.wav กว่า 10 เท่าตัว (ดุษฎี ชัยเลิศ. 2545 : 98) แต่ถ้า ต้องการไฟล์เพลง *.mp3 ไปเล่นกับเครื่องเล่น Audio CD หรือเครื่องเล่นมินิคอมโป เราต้องแปลงไฟล์ให้อยู่ ในรูปของ Compact Disc Audio ที่เป็นไฟล์ *.cda คลิปเสียง (Audio Clip) ที่สามารถนาเข้า (Import) ไปตัดต่อวีดิทัศน์ในโปรแกรม Adobe Premiere ได้มีดังนี้ (จุฑามาศ จิวะสังข์. 2547 : 52) รูปแบบไฟล์เสียง (Audio Formats) นามสกุลไฟล์ Audio Interchange *.aif MPEG audio layer 3 *.mp3 Windows Waveform *.wav Windows Media Audio *.wma แหล่งที่มาของเสียง บางครั้งในการตัดต่อวีดิทัศน์ อาจจะต้องมีการเพิ่มเสียงพากย์ หรือเสียงบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่ง เราสามารถทาได้ด้วยโปรแกรมพื้นฐานง่าย ๆ ที่มาพร้อมกับการ์ดเสียง (Sound Card) ของคอมพิวเตอร์แต่ละ เครื่อง เช่น โปรแกรม Sound Recorder หรืออาจจะใช้โปรแกรมอื่น ๆ ที่มีความสามารถในด้านเสียงมากขึ้น เช่น Sound Forge , Gold Wave หรือ Cool Edit Pro เป็นต้น โดยไฟล์ที่บันทึกได้จะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุล *.wav นอกจากนี้ ยังมีเสียงประกอบอื่น ๆ เช่น เพลงบรรเลง หรือ Sound Effect จากสื่ออื่น ๆ ที่สามารถ นามาใช้ประกอบในวีดิทัศน์ได้ ซึ่งอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมมาเป็นรูปแบบของไฟล์ที่มี
  • 3. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 3 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 นามสกุล *.wav หรือไฟล์ที่มีนามสกุล *.mp3 โดยอาศัยโปรแกรมจัดการด้านเสียงเข้ามาช่วยในการทางาน เช่น Audio Grabber ,VirtualDub , XingMP3 Encorder เป็นต้น สรุปได้ว่าเสียงที่จะนามาใช้ในการผลิตสื่อวีดิทัศน์ มีที่มาได้ 2 ลักษณะ กล่าวคือ 1. บันทึกเสียงขึ้นมาใหม่ เช่น การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน หรือการแปลงเสียงจากเทปคาสเซ็ท ให้มาอยู่ในรูปไฟล์เสียง 2. นาเสียงที่มีอยู่แล้วในสื่อบันทึกอื่น ๆ มาใช้งาน 1) นามาใช้ได้เลย เช่น ไฟล์เสียงที่มีนามสกุล *.wav หรือ *.mp3 2) แปลงไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบอื่น ให้มาอยู่ในรูปแบบที่ต้องการใช้งาน เช่น แปลงจาก Audio CD หรือ VCD karaoke เป็น *.wav การบันทึกเสียงบรรยาย ภาพที่ 1 ไมโครโฟนสาหรับบันทึกเสียงเข้าคอมพิวเตอร์ (www.innovativetechinc.com, www.simbaelectronic.com) การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน ถ้าเป็นการบันทึกที่ความยาวไม่ยาวนัก ก็สามารถใช้โปรแกรม บันทึกเสียงที่แถมมากับการ์ดเสียง (Sound Card) เช่น Sound Recorder ใน Microsoft Windows 7 หรือ โปรแกรม Quick time Player บน MAC เป็นต้น แต่ถ้าต้องการบันทึกแต่ละครั้งใช้เวลาเกินกว่า 1 นาที ควร ใช้โปรแกรมบันทึกเสียงอื่น ๆ เช่น โปรแกรม Sound Force หรือ GarageBand บน MAC เป็นต้น เพราะ นอกจากจะบันทึกเสียงเป็นไฟล์ .wav แล้วโปรแกรมยังมีความสามารถอื่น ๆ เช่น การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence) การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ การเพิ่มความดังของเสียง ตลอดจนการรวมไฟล์เสียง *.wav เข้าด้วยกัน เป็นต้น
  • 4. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 4 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 การบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Sound Forge โปรแกรม Sound Forge เป็นโปรแกรมจัดการด้านเสียง ทั้งการบันทึกเสียงขึ้นมาใหม่หรือ การนาไฟล์เสียงสกุลอื่น ๆ เช่น WMA, WMV, WAV, MOV, AVI, PCA AIF, MP3 เข้ามาแก้ไข 1. การเข้าสู่โปรแกรม Sound Forge 7 1) ดับเบิ้ลคลิกที่ Shortcut ของ โปรแกรม Sound Forge 7 จะปรากฏหน้าต่างแรกของโปรแกรม Sound Force Workspace
  • 5. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 5 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 2) คลิกเมาส์หน้าต่างแรก สักครู่จะเข้าหน้าต่างเมนู ของโปรแกรม ซึ่งภายใน หน้าต่างประกอบด้วย ส่วนประกอบ หน้าที่การทางาน Program Title Bar แสดงชื่อโปรแกรม และชื่อของหน้าต่างไฟล์งาน (data window) ที่กาลัง ทางานอยู่ในปัจจุบัน Menu Bar แสดงเมนูหลัก ซึ่งจะประกอบด้วยคาสั่งต่าง ๆ อยู่ภายใน Status Bar จะแสดง playback sample rate, sample size, ระบบเสียง mono/stereo, เวลาของเสียงที่บันทึกไว้ใน Data window และพื้นที่ที่ เหลือในฮาร์ดดิสก์ Sound Forge Workspace พื้นที่ว่างที่อยู่หลัง Data Data Window เป็นหน้าต่างของไฟล์เสียง (sound file 2. การบันทึกเสียง 1) กรณีที่เริ่มบันทึกเสียงใหม่ ให้เลือกเมนู File > New หรือ คลิกเมาส์ที่ปุ่ม New จะปรากฏหน้าต่าง Data Window ขึ้น ดังภาพข้างล่าง
  • 6. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 6 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 2) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Record) หรือกดคีย์ Ctrl+R จะปรากฏหน้าต่าง Record ดังภาพข้างล่าง 3). คลิกเมาส์ที่ปุ่ม จะปรากฏหน้าต่าง Record Remote
  • 7. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 7 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 4). ที่หน้าต่าง Record Remote ให้กดปุ่ม (Record) เพื่อเริ่มต้นบันทึกเสียง 5) เมื่อบันทึกเสร็จ ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Stop) เพื่อยุติการบันทึก หมายเหตุ ปกติเมื่อมีการบันทึกเสียงไปแล้ว หากบันทึกเสียงใหม่เสียงจะบันทึกใหม่ ณ ตาแหน่งต้นไฟล์เสียง ซึ่งจะทับของเดิมที่มีอยู่ ดังนั้น ถ้าต้องการให้เป็นการบันทึกต่อจากการบันทึกครั้งที่ แล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Goto end) หรือกดคีย์ End บนคีย์บอร์ด ก่อนบันทึกเสียงใหม่ 6) กดปุ่ม ที่ไตเติ้ลบาร์ หรือปุ่ม Close เพื่อปิดหน้าต่าง Record Remote ภายในหน้าต่างทางานจะปรากฏสัญลักษณ์คลื่นเสียง (Waveform)
  • 8. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 8 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 3. การจัดเก็บ (Save) ไฟล์เสียง เสียงที่ปรากฏในหน้าต่าง Work area หากไม่มีการจัดเก็บลงฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือสื่อบันทึกอื่น ๆ ไว้ก่อน เมื่อมีการปิดโปรแกรม Sound Forge จะทาให้เสียงที่บันทึกไว้ในหน้าต่างนั้น หายไปทันที ดังนั้นจึงต้องมีการบันทึกเสียงจากหน้าต่าง Work area เพื่อไปจัดเก็บในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1) คลิกเมาส์ที่เมนู File>Save as จะปรากฏหน้าต่าง Save As
  • 9. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 9 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 2) คลิกเมาส์เลือกไดร์ฟ (Drive) โฟลเดอร์ (Folder) ในช่อง Save in 3) เปลี่ยนชื่อไฟล์ในช่อง File name เป็นชื่อไฟล์ใหม่ตามต้องการ แล้วคลิกเมาส์ที่ ปุ่ม
  • 10. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 0 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 ภายหลังจากบันทึกเสียงเสร็จแล้ว อาจจะต้องมีการแก้ไข เพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียง เพื่อให้คลิปเสียงมี ความสมบูรณ์มากขึ้น เช่น การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence) การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ การเพิ่มความดังของเสียง การรวมไฟล์เสียงเข้าด้วยกัน โดยมีขั้นตอนดังนี้ การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence) บางครั้งเสียงบรรยายที่บันทึกไว้ เมื่อกดปุ่ม Play จะมีเสียงทันที ซึ่งไม่เป็นการดีนัก ดังนั้นเรา สามารถแทรกเสียงเงียบเข้าไปได้ตามเวลาที่ต้องการในตอนต้นไฟล์ หรือกรณีที่เสียงบรรยายบางช่วงอาจจะ ติดกันเกินไป เราต้องการเว้นวรรคเสียงให้แต่ละช่วงคาบรรยายให้ห่างกันก็สามารถทาได้ดังนี้ 1. คลิกเมาส์เพื่อวางเคอร์เซอร์ (Cursor) หน้าตาแหน่งที่ต้องการแทรกเสียงเงียบ แต่ถ้า ต้องการแทรก ณ ตาแหน่งเริ่มต้นของไฟล์เสียง ก็ให้กดคีย์ Home บนคีย์บอร์ด เพื่อให้เคอร์เซอร์ (Cursor) กระโดดไป ซึ่งในตัวอย่างนี้จะเป็นการแทรกเสียงเงียบ ณ ต้นไฟล์เสียง
  • 11. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 1 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 2. ใช้คาสั่ง Process > Insert Silence จะปรากฏหน้าต่าง Insert Silence
  • 12. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 2 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 3. กาหนดเวลาที่ต้องการแทรก ซึ่งปกติจะกาหนดเป็น 1 วินาที ไว้ในช่อง 1) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม ขึ้นหรือลงเพื่อกาหนดเวลาใหม่ หรือคลิกเมาส์ที่ตัวเลขเดิมแล้ว พิมพ์ตัวเลขใหม่เข้าไป 2) กาหนดตาแหน่งที่จะให้เสียงเงียบว่าจะอยู่ ณ ตาแหน่งใด เช่นหน้าเคอร์เซอร์ (Cursor) ต้นไฟล์เสียง (Start of File) หรือท้ายไฟล์เสียง (End of File) ดังภาพข้างล่าง 4. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Ok จะปรากฏเสียงเงียบอยู่หน้าต้นไฟล์เสียง
  • 13. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 3 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ กรณีที่มีเสียงที่ไม่ต้องการแทรกเข้ามาขณะบันทึกเสียง เช่น เสียงเปิดประตู เสียงจามหรือไอ ของผู้บันทึกเสียง เป็นต้น แต่ต้องไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงพูด เราสามารถทาให้เป็นเสียงเงียบได้ ดังนี้ 1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมบริเวณเสียงที่ต้องการทาเป็นเสียงเงียบ โดยส่วนที่เลือกจะ เป็นแถบสีดา 2. คลิกเมาส์เลือกเมนูบาร์และคาสั่งที่ Process>Mute
  • 14. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 4 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 เสียงที่ไม่ต้องการจะหายไปเป็นเสียงเงียบ ดังภาพข้างล่าง
  • 15. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 5 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ ในขณะที่บันทึกเสียง อาจมีเสียงฮัมหรือเสียงซ่าของอุปกรณ์เกิดขึ้นตลอดเวลา เราสามารถลด เสียงเหล่านั้นได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ 1. เปิดหน้าต่างไฟล์เสียงที่ต้องการลดเสียงรบกวน 2. คลิกเมาส์เลือกเมนูและคาสั่ง Effect>Noise Gate จะปรากฏหน้าต่าง Noise Gate
  • 16. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 6 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 3. เลือกรูปแบบในช่อง Name เป็น Noise gate 1 แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK เสียงรบกวนจะหายไป
  • 17. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 7 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 การเพิ่มความดังของเสียง บางครั้งขณะที่บันทึกเสียง ผู้พูดอาจจะพูดเบาไปหรือตาแหน่งของไมโครโฟนอยู่ห่างจากริม ฝีปาก ทาให้ได้เสียงไม่ดังเท่าที่ควร เรามีวิธีการเพิ่มระดับเสียงดังนี้ 1. เปิดหน้าต่างไฟล์เสียงที่ต้องการเพิ่มความดังของเสียง
  • 18. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 8 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 3. คลิกเมาส์ที่เมนู Process >Volume จะปรากฏหน้าต่าง Volume
  • 19. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 9 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 4. เลือก Name เป็น 6 dB Boost เมื่อต้องการให้เสียงดังเพิ่มขึ้น 200 % แต่ถ้าต้องการลด ระดับเสียงลงให้เลือกเป็น 6 dB Cut 5. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK ระดับเสียงจะเพิ่มขึ้น สังเกตดูว่าคลื่นเสียงจะขยายขึ้น
  • 20. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 0 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 การรวมไฟล์เสียง *.wav เข้าด้วยกัน กรณีที่บันทึกเสียงแยกเป็นไฟล์เสียงไว้หลายไฟล์ และถ้าต้องการนามาเรียงต่อกัน สามารถทา ได้ดังนี้ 1 เปิดโปรแกรม Sound Forge ขึ้นมาทางาน 2 เปิดไฟล์แรก และไฟล์ที่สอง ที่จะนามาต่อกัน 1) คลิกเมาส์ที่เมนู File > Open หรือคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Open (หรือ Ctrl+O) จะปรากฏหน้าต่าง Open 2) ให้คลิกเมาส์เลือกไดร์ฟ เลือกโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์เสียง 3) คลิกเมาส์เลือกไฟล์แรก 4) เลือกไฟล์ต่อไป โดยกดปุ่ม Ctrl ที่คีย์บอร์ดค้างไว้ก่อน แล้วคลิกเมาส์เลือกไฟล์อื่นที่จะ นามาต่อท้ายไฟล์แรก
  • 21. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 1 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 5) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Open จะปรากฏหน้าต่างของทั้งสองไฟล์
  • 22. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 2 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 3 นาไฟล์แรก และไฟล์ที่สอง มาต่อกัน 1) คลิกเมาส์ที่หน้าต่างไฟล์ที่สองที่จะนามาต่อไฟล์แรก 2) เลือกเสียงทั้งหมดใน Data Window ของไฟล์ที่สองนี้ โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Select All หรือกดปุ่ม Ctrl + A ที่คีย์บอร์ด 3) คัดลอก (Copy) เสียงทั้งหมด โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Copy หรือกดปุ่ม Ctrl + C บน คีย์บอร์ด
  • 23. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 3 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 4) ปิดหน้าต่างของไฟล์ที่สอง โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Close 5) คัดลอกไฟล์เสียงที่คัดลอกจากไฟล์ที่สองมาวางในไฟล์เสียงแรก คลิกเมาส์ที่หน้าต่าง ไฟล์แรก 6) กดคีย์ Ctrl + End บนคีย์บอร์ด เพื่อให้เคอร์เซอร์ (Cursor) กระโดดไปอยู่ท้ายสุด ของไฟล์ 7) ปะวาง (Paste) เสียงที่คัดลอกไว้ลงมาต่อท้ายไฟล์แรก โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Paste หรือกดคีย์ Ctrl + V
  • 24. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 4 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 8) บันทึกไฟล์ที่รวมเสียงแล้ว โดยใช้คาสั่งเมนู File > Save as หรือกดปุ่ม Ctrl + S ที่ คีย์บอร์ด ควรเปลี่ยนชื่อไฟล์ที่รวมกันแล้วเป็นชื่อใหม่
  • 25. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 5 Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558 หนังสืออ้างอิง จุฑามาศ จิวะสังข์. (2547). Adobe Premiere Pro ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : ซัคเซส มีเดีย. ดุษฎี ชัยเลิศ. (2545). Video CD คุณทาได้ ง่ายนิดเดียว. นนทบุรี : อินโฟเพรส. DID International. (มปป). การตัดต่อและปรับแต่งเสียงด้วย Sound Forge แบบมืออาชีพ . กรุงเทพฯ : DID International.