2. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2. Bit Depth เป็นจานวนข้อมูลที่ใช้ในการแปลงหรือเข้ารหัสเสียง ยิ่งมีค่ามากเท่าไร ก็จะยิ่งทาให้
ความเที่ยงตรงของเสียงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทาให้เสียงไม่ผิดเพี้ยนและคมชัด (จุฑามาศ จิวะสังข์. 2547 :
120)
Bit Depth
รายละเอียด
8 bit คุณภาพเสียงต่าที่สุด ใช้สาหรับงานบนอินเตอร์เน็ต
12 bit คุณภาพเสียงสาหรับกล้องดิจิตอลวิดีโอ
16 bit คุณภาพเสียงสาหรับซีดีเพลงทั่วไป
รูปแบบของเสียง
ปัจจุบันไฟล์เพลงมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีคุณลักษณะและข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
ไป อีกทั้งในการเล่นหรือเปิดฟังเพลงยังใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันไป เช่น ไฟล์ *.wav มีคุณภาพที่ดีกว่าไฟล์
*.mp3 แต่ไฟล์ *.mp3 ก็มีขนาดเล็กกว่าไฟล์ *.wav กว่า 10 เท่าตัว (ดุษฎี ชัยเลิศ. 2545 : 98) แต่ถ้า
ต้องการไฟล์เพลง *.mp3 ไปเล่นกับเครื่องเล่น Audio CD หรือเครื่องเล่นมินิคอมโป เราต้องแปลงไฟล์ให้อยู่
ในรูปของ Compact Disc Audio ที่เป็นไฟล์ *.cda
คลิปเสียง (Audio Clip) ที่สามารถนาเข้า (Import) ไปตัดต่อวีดิทัศน์ในโปรแกรม Adobe
Premiere ได้มีดังนี้ (จุฑามาศ จิวะสังข์. 2547 : 52)
รูปแบบไฟล์เสียง (Audio Formats) นามสกุลไฟล์
Audio Interchange *.aif
MPEG audio layer 3 *.mp3
Windows Waveform *.wav
Windows Media Audio *.wma
แหล่งที่มาของเสียง
บางครั้งในการตัดต่อวีดิทัศน์ อาจจะต้องมีการเพิ่มเสียงพากย์ หรือเสียงบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่ง
เราสามารถทาได้ด้วยโปรแกรมพื้นฐานง่าย ๆ ที่มาพร้อมกับการ์ดเสียง (Sound Card) ของคอมพิวเตอร์แต่ละ
เครื่อง เช่น โปรแกรม Sound Recorder หรืออาจจะใช้โปรแกรมอื่น ๆ ที่มีความสามารถในด้านเสียงมากขึ้น
เช่น Sound Forge , Gold Wave หรือ Cool Edit Pro เป็นต้น โดยไฟล์ที่บันทึกได้จะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุล
*.wav
นอกจากนี้ ยังมีเสียงประกอบอื่น ๆ เช่น เพลงบรรเลง หรือ Sound Effect จากสื่ออื่น ๆ ที่สามารถ
นามาใช้ประกอบในวีดิทัศน์ได้ ซึ่งอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมมาเป็นรูปแบบของไฟล์ที่มี
3. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 3
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
นามสกุล *.wav หรือไฟล์ที่มีนามสกุล *.mp3 โดยอาศัยโปรแกรมจัดการด้านเสียงเข้ามาช่วยในการทางาน
เช่น Audio Grabber ,VirtualDub , XingMP3 Encorder เป็นต้น
สรุปได้ว่าเสียงที่จะนามาใช้ในการผลิตสื่อวีดิทัศน์ มีที่มาได้ 2 ลักษณะ กล่าวคือ
1. บันทึกเสียงขึ้นมาใหม่ เช่น การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน หรือการแปลงเสียงจากเทปคาสเซ็ท
ให้มาอยู่ในรูปไฟล์เสียง
2. นาเสียงที่มีอยู่แล้วในสื่อบันทึกอื่น ๆ มาใช้งาน
1) นามาใช้ได้เลย เช่น ไฟล์เสียงที่มีนามสกุล *.wav หรือ *.mp3
2) แปลงไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบอื่น ให้มาอยู่ในรูปแบบที่ต้องการใช้งาน เช่น แปลงจาก Audio
CD หรือ VCD karaoke เป็น *.wav
การบันทึกเสียงบรรยาย
ภาพที่ 1 ไมโครโฟนสาหรับบันทึกเสียงเข้าคอมพิวเตอร์
(www.innovativetechinc.com, www.simbaelectronic.com)
การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน ถ้าเป็นการบันทึกที่ความยาวไม่ยาวนัก ก็สามารถใช้โปรแกรม
บันทึกเสียงที่แถมมากับการ์ดเสียง (Sound Card) เช่น Sound Recorder ใน Microsoft Windows 7 หรือ
โปรแกรม Quick time Player บน MAC เป็นต้น แต่ถ้าต้องการบันทึกแต่ละครั้งใช้เวลาเกินกว่า 1 นาที ควร
ใช้โปรแกรมบันทึกเสียงอื่น ๆ เช่น โปรแกรม Sound Force หรือ GarageBand บน MAC เป็นต้น เพราะ
นอกจากจะบันทึกเสียงเป็นไฟล์ .wav แล้วโปรแกรมยังมีความสามารถอื่น ๆ เช่น การแทรกเสียงเงียบ (Insert
Silence) การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ การเพิ่มความดังของเสียง
ตลอดจนการรวมไฟล์เสียง *.wav เข้าด้วยกัน เป็นต้น
4. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 4
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การบันทึกเสียงด้วยโปรแกรม Sound Forge
โปรแกรม Sound Forge เป็นโปรแกรมจัดการด้านเสียง ทั้งการบันทึกเสียงขึ้นมาใหม่หรือ
การนาไฟล์เสียงสกุลอื่น ๆ เช่น WMA, WMV, WAV, MOV, AVI, PCA AIF, MP3 เข้ามาแก้ไข
1. การเข้าสู่โปรแกรม Sound Forge 7
1) ดับเบิ้ลคลิกที่ Shortcut ของ โปรแกรม Sound Forge 7
จะปรากฏหน้าต่างแรกของโปรแกรม
Sound Force Workspace
5. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 5
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2) คลิกเมาส์หน้าต่างแรก สักครู่จะเข้าหน้าต่างเมนู ของโปรแกรม ซึ่งภายใน
หน้าต่างประกอบด้วย
ส่วนประกอบ หน้าที่การทางาน
Program Title Bar แสดงชื่อโปรแกรม และชื่อของหน้าต่างไฟล์งาน (data window) ที่กาลัง
ทางานอยู่ในปัจจุบัน
Menu Bar แสดงเมนูหลัก ซึ่งจะประกอบด้วยคาสั่งต่าง ๆ อยู่ภายใน
Status Bar จะแสดง playback sample rate, sample size, ระบบเสียง
mono/stereo, เวลาของเสียงที่บันทึกไว้ใน Data window และพื้นที่ที่
เหลือในฮาร์ดดิสก์
Sound Forge Workspace พื้นที่ว่างที่อยู่หลัง Data
Data Window เป็นหน้าต่างของไฟล์เสียง (sound file
2. การบันทึกเสียง
1) กรณีที่เริ่มบันทึกเสียงใหม่ ให้เลือกเมนู File > New หรือ คลิกเมาส์ที่ปุ่ม New
จะปรากฏหน้าต่าง Data Window ขึ้น ดังภาพข้างล่าง
6. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 6
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Record) หรือกดคีย์ Ctrl+R
จะปรากฏหน้าต่าง Record ดังภาพข้างล่าง
3). คลิกเมาส์ที่ปุ่ม จะปรากฏหน้าต่าง Record Remote
7. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 7
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
4). ที่หน้าต่าง Record Remote ให้กดปุ่ม (Record) เพื่อเริ่มต้นบันทึกเสียง
5) เมื่อบันทึกเสร็จ ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Stop) เพื่อยุติการบันทึก
หมายเหตุ ปกติเมื่อมีการบันทึกเสียงไปแล้ว หากบันทึกเสียงใหม่เสียงจะบันทึกใหม่
ณ ตาแหน่งต้นไฟล์เสียง ซึ่งจะทับของเดิมที่มีอยู่ ดังนั้น ถ้าต้องการให้เป็นการบันทึกต่อจากการบันทึกครั้งที่
แล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Goto end) หรือกดคีย์ End บนคีย์บอร์ด ก่อนบันทึกเสียงใหม่
6) กดปุ่ม ที่ไตเติ้ลบาร์ หรือปุ่ม Close เพื่อปิดหน้าต่าง Record Remote
ภายในหน้าต่างทางานจะปรากฏสัญลักษณ์คลื่นเสียง (Waveform)
8. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 8
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. การจัดเก็บ (Save) ไฟล์เสียง
เสียงที่ปรากฏในหน้าต่าง Work area หากไม่มีการจัดเก็บลงฮาร์ดดิสก์ (Hard disk)
หรือสื่อบันทึกอื่น ๆ ไว้ก่อน เมื่อมีการปิดโปรแกรม Sound Forge จะทาให้เสียงที่บันทึกไว้ในหน้าต่างนั้น
หายไปทันที ดังนั้นจึงต้องมีการบันทึกเสียงจากหน้าต่าง Work area เพื่อไปจัดเก็บในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมีขั้นตอน
ดังต่อไปนี้
1) คลิกเมาส์ที่เมนู File>Save as
จะปรากฏหน้าต่าง Save As
9. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 9
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2) คลิกเมาส์เลือกไดร์ฟ (Drive) โฟลเดอร์ (Folder) ในช่อง Save in
3) เปลี่ยนชื่อไฟล์ในช่อง File name เป็นชื่อไฟล์ใหม่ตามต้องการ แล้วคลิกเมาส์ที่
ปุ่ม
10. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 0
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
ภายหลังจากบันทึกเสียงเสร็จแล้ว อาจจะต้องมีการแก้ไข เพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียง เพื่อให้คลิปเสียงมี
ความสมบูรณ์มากขึ้น เช่น การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence) การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ
การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์ การเพิ่มความดังของเสียง การรวมไฟล์เสียงเข้าด้วยกัน โดยมีขั้นตอนดังนี้
การแทรกเสียงเงียบ (Insert Silence)
บางครั้งเสียงบรรยายที่บันทึกไว้ เมื่อกดปุ่ม Play จะมีเสียงทันที ซึ่งไม่เป็นการดีนัก ดังนั้นเรา
สามารถแทรกเสียงเงียบเข้าไปได้ตามเวลาที่ต้องการในตอนต้นไฟล์ หรือกรณีที่เสียงบรรยายบางช่วงอาจจะ
ติดกันเกินไป เราต้องการเว้นวรรคเสียงให้แต่ละช่วงคาบรรยายให้ห่างกันก็สามารถทาได้ดังนี้
1. คลิกเมาส์เพื่อวางเคอร์เซอร์ (Cursor) หน้าตาแหน่งที่ต้องการแทรกเสียงเงียบ แต่ถ้า
ต้องการแทรก ณ ตาแหน่งเริ่มต้นของไฟล์เสียง ก็ให้กดคีย์ Home บนคีย์บอร์ด เพื่อให้เคอร์เซอร์ (Cursor)
กระโดดไป ซึ่งในตัวอย่างนี้จะเป็นการแทรกเสียงเงียบ ณ ต้นไฟล์เสียง
11. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 1
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
2. ใช้คาสั่ง Process > Insert Silence
จะปรากฏหน้าต่าง Insert Silence
12. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 2
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. กาหนดเวลาที่ต้องการแทรก ซึ่งปกติจะกาหนดเป็น 1 วินาที ไว้ในช่อง
1) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม ขึ้นหรือลงเพื่อกาหนดเวลาใหม่ หรือคลิกเมาส์ที่ตัวเลขเดิมแล้ว
พิมพ์ตัวเลขใหม่เข้าไป
2) กาหนดตาแหน่งที่จะให้เสียงเงียบว่าจะอยู่ ณ ตาแหน่งใด เช่นหน้าเคอร์เซอร์ (Cursor)
ต้นไฟล์เสียง (Start of File) หรือท้ายไฟล์เสียง (End of File) ดังภาพข้างล่าง
4. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Ok จะปรากฏเสียงเงียบอยู่หน้าต้นไฟล์เสียง
13. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 3
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การทาให้เสียงที่ไม่ต้องการเป็นเสียงเงียบ
กรณีที่มีเสียงที่ไม่ต้องการแทรกเข้ามาขณะบันทึกเสียง เช่น เสียงเปิดประตู เสียงจามหรือไอ
ของผู้บันทึกเสียง เป็นต้น แต่ต้องไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงพูด เราสามารถทาให้เป็นเสียงเงียบได้ ดังนี้
1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมบริเวณเสียงที่ต้องการทาเป็นเสียงเงียบ โดยส่วนที่เลือกจะ
เป็นแถบสีดา
2. คลิกเมาส์เลือกเมนูบาร์และคาสั่งที่ Process>Mute
14. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 4
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
เสียงที่ไม่ต้องการจะหายไปเป็นเสียงเงียบ ดังภาพข้างล่าง
15. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 5
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การลดเสียงรบกวนทั้งไฟล์
ในขณะที่บันทึกเสียง อาจมีเสียงฮัมหรือเสียงซ่าของอุปกรณ์เกิดขึ้นตลอดเวลา เราสามารถลด
เสียงเหล่านั้นได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. เปิดหน้าต่างไฟล์เสียงที่ต้องการลดเสียงรบกวน
2. คลิกเมาส์เลือกเมนูและคาสั่ง Effect>Noise Gate
จะปรากฏหน้าต่าง Noise Gate
16. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 6
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. เลือกรูปแบบในช่อง Name เป็น Noise gate 1 แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK
เสียงรบกวนจะหายไป
17. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 7
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การเพิ่มความดังของเสียง
บางครั้งขณะที่บันทึกเสียง ผู้พูดอาจจะพูดเบาไปหรือตาแหน่งของไมโครโฟนอยู่ห่างจากริม
ฝีปาก ทาให้ได้เสียงไม่ดังเท่าที่ควร เรามีวิธีการเพิ่มระดับเสียงดังนี้
1. เปิดหน้าต่างไฟล์เสียงที่ต้องการเพิ่มความดังของเสียง
18. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 8
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3. คลิกเมาส์ที่เมนู Process >Volume
จะปรากฏหน้าต่าง Volume
19. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 1 9
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
4. เลือก Name เป็น 6 dB Boost เมื่อต้องการให้เสียงดังเพิ่มขึ้น 200 % แต่ถ้าต้องการลด
ระดับเสียงลงให้เลือกเป็น 6 dB Cut
5. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK ระดับเสียงจะเพิ่มขึ้น สังเกตดูว่าคลื่นเสียงจะขยายขึ้น
20. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 0
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
การรวมไฟล์เสียง *.wav เข้าด้วยกัน
กรณีที่บันทึกเสียงแยกเป็นไฟล์เสียงไว้หลายไฟล์ และถ้าต้องการนามาเรียงต่อกัน สามารถทา
ได้ดังนี้
1 เปิดโปรแกรม Sound Forge ขึ้นมาทางาน
2 เปิดไฟล์แรก และไฟล์ที่สอง ที่จะนามาต่อกัน
1) คลิกเมาส์ที่เมนู File > Open หรือคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Open (หรือ Ctrl+O)
จะปรากฏหน้าต่าง Open
2) ให้คลิกเมาส์เลือกไดร์ฟ เลือกโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์เสียง
3) คลิกเมาส์เลือกไฟล์แรก
4) เลือกไฟล์ต่อไป โดยกดปุ่ม Ctrl ที่คีย์บอร์ดค้างไว้ก่อน แล้วคลิกเมาส์เลือกไฟล์อื่นที่จะ
นามาต่อท้ายไฟล์แรก
21. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 1
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
5) คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Open จะปรากฏหน้าต่างของทั้งสองไฟล์
22. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 2
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
3 นาไฟล์แรก และไฟล์ที่สอง มาต่อกัน
1) คลิกเมาส์ที่หน้าต่างไฟล์ที่สองที่จะนามาต่อไฟล์แรก
2) เลือกเสียงทั้งหมดใน Data Window ของไฟล์ที่สองนี้ โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Select
All หรือกดปุ่ม Ctrl + A ที่คีย์บอร์ด
3) คัดลอก (Copy) เสียงทั้งหมด โดยใช้คาสั่งเมนู Edit > Copy หรือกดปุ่ม Ctrl + C บน
คีย์บอร์ด
23. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 3
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
4) ปิดหน้าต่างของไฟล์ที่สอง โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Close
5) คัดลอกไฟล์เสียงที่คัดลอกจากไฟล์ที่สองมาวางในไฟล์เสียงแรก คลิกเมาส์ที่หน้าต่าง
ไฟล์แรก
6) กดคีย์ Ctrl + End บนคีย์บอร์ด เพื่อให้เคอร์เซอร์ (Cursor) กระโดดไปอยู่ท้ายสุด
ของไฟล์
7) ปะวาง (Paste) เสียงที่คัดลอกไว้ลงมาต่อท้ายไฟล์แรก โดยใช้คาสั่งเมนู Edit >
Paste หรือกดคีย์ Ctrl + V
24. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 4
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
8) บันทึกไฟล์ที่รวมเสียงแล้ว โดยใช้คาสั่งเมนู File > Save as หรือกดปุ่ม Ctrl + S ที่
คีย์บอร์ด ควรเปลี่ยนชื่อไฟล์ที่รวมกันแล้วเป็นชื่อใหม่
25. ก า ร บั น ทึ ก เ สี ย ง ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม S o u n d F o r g e 7 ห น ้ า | 2 5
Pipit Sitthisak | Poh-Chang Academy of Arts | RMUTR Last Update : 7 เมษายน 2558
หนังสืออ้างอิง
จุฑามาศ จิวะสังข์. (2547). Adobe Premiere Pro ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : ซัคเซส มีเดีย.
ดุษฎี ชัยเลิศ. (2545). Video CD คุณทาได้ ง่ายนิดเดียว. นนทบุรี : อินโฟเพรส.
DID International. (มปป). การตัดต่อและปรับแต่งเสียงด้วย Sound Forge แบบมืออาชีพ . กรุงเทพฯ :
DID International.