เทอม 1 คาบ 10 เครือข่ายคอมพิวเตอร์
0 likes857 views
เครือข่ายคอมพิวเตอร์และโพรโทคอล
เทอม 1 คาบ 10 เครือข่ายคอมพิวเตอร์
- 2. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็นประเภทตามพื้นที่ที่ครอบคลุมการใช้งานของเครือข่ายดังนี้ 1. เครือข่ายส่วนบุคคลหรือแพน (Pan) เป็นเครือข่ายระดับบุคคล เช่น การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นระยะใกล้
- 3. 2. เครือข่ายเฉพาะที่หรือแลน (Lan) เครือข่ายที่ใช้ในการเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เช่นภายในบ้านหรือสานักงาน
- 4. 3. เครือข่ายนครหลวงหรือแมน (Man) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงแลนใน ระยะห่างออกไป เช่น การเชื่อมต่อเครือข่ายในสานักงานที่อยู่ภายใน เมืองเดียวกัน อาจใช้ไฟเบอร์ออพติก หรือคลื่นไมโครเวฟ
- 5. 4. เครือข่ายวงกว้างหรือ แวน (Wan) เป็นเครือข่ายที่นา LAN และ MAN มาเชื่อมต่อกัน ใช้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางเป็นระยะทาง หลาย ๆ กิโลเมตร จนถึงระดับประเทศ ทวีป
- 6. ลักษณะของเครือข่าย แบ่งตามบทบาทของคอมพิวเตอร์ที่ใช้สื่อสารได้ดังนี้ 1. เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ (Client-Server Network) จะมีคอมพิวเตอร์คอยให้บริการต่างๆ เช่น การให้บริการเว็บไซด์ ข้อดีของเครือข่าย คือ สามารถให้บริการแก่เครื่องรับได้จานวนมาก ข้อด้อยของเครือข่ายคือ มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบารุงรักษาสูง** 2. เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer-To-Peer) เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเป็นเครื่องให้บริการและรับบริการในเวลาเดียวกัน เช่น การใช้บริการฺ Bittorent ข้อดีของเครือข่าย คือ ง่ายต่อการใช้งาน ราคาไม่แพง ข้อด้อยของเครือข่ายคือ ขาดระบบความปลอดภัย อาจนาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง**
- 7. รูปร่างเครือข่าย แบ่งตามลักษณะทางกายภาพของรูปร่างเครือข่ายได้ 4 รูปแบบ ดังนี้ 1. เครือข่ายบัส (Bus Topology) การส่งแบบนี้ จะต้องจัดไม่ให้ แต่ละสถานีส่งข้อมูลพร้อมกัน เพราะข้อมูลจะชนกัน สถานีทุกสถานีจะ เชื่อมต่อกับสายหลักเพียงสายเดียว จึงมีขอเสียที่หากมีจดที่เสียหาย ้ ุ เพียงจุดเดียวจะทาให้ไม่สามารถใช้เครือข่ายได้ทั้งระบบ
- 8. 2. เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Topology) สัญญาณแบบนี้จะ ถูกส่งไปในทิศทางเดียวจนถึงผู้รับ ถ้าข้อมูลเป็นของสถานีใดก็รับไว้ถ้า ไม่ใช่ก็ส่งข้อมูลต่อไป ข้อด้อยคือจะต้องรอให้ถึงวงรอบของตนเอง จึงรับ-ส่งข้อมูลได้
- 9. 3. เครือข่ายแบบดาว (Star Topology) ทุกสถานีจะเชื่อมต่อกับฮับ หรือสวิตช์ ซึ่งทาหน้าที่เป็นศูนย์กลาง ข้อดีคือถ้าสายสัญญาณใดเสียจะไม่ ส่งผลต่อสายสัญญาณเส้นอื่นๆ การเชื่อมต่อแบบนี้จึงได้รับความนิยมใน ปัจจุบัน
- 10. 4. เครือข่ายแบบเมช (Mesh Topology) มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากถ้าสายสัญญาณใดขาดหายสายสัญญาณอื่นๆก็จะสามารถ ทาหน้าที่แทนได้ แต่มีค่าใช้จ่ายในการเชือมต่อสูงเนื่องจากต้องเดินสาย ่ หลายเส้น ปัจจุบัน การเชื่อมต่อแบบนี้นิยมใช้กบเครือข่ายแบบไร้สาย ั
- 11. โพรโทคอล คือระเบียบวิธีทกาหนดขึ้นเป็นมาตรฐานสาหรับการสื่อสารข้อมูล โดย ี่ สามารถส่งผ่านข้อมูลไปยังปลายทางได้อย่างถูกต้อง ซึ่งตัวโปรโตคอลที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ TCP/IP นอกจากนี้ยงมีการ ั ออกแบบโปรโตคอลตัวอื่นๆขึ้นมาใช้งานอีก เช่น โปรโตคอล IPX/SPX,โปรโตคอล NetBEUI และ โปรโตคอล Apple Talk
- 12. โพรโทคอลที่ควรรู้จัก 1. NetBEUI (NetBIOS Extended User Interface) เป็นโปรโตคอลที่เหมาะสาหรับระบบ เครือข่ายขนาดเล็ก เนื่องจาก โปรโตคอลนี้ใช้วิธีกระจายสัญญาณไปทั่วทั้งเครือข่ายไม่สามารถหา เส้นทาง (route) ไปยังคอมพิวเตอร์ที่ร้องขอข้อมูลได้ ข้อดีของ โปรโตคอลนี้คือ การติดตั้งซอฟต์แวร์เครือข่ายไม่ยงยากซับซ้อน ุ่
- 13. • 2. IPX/SPX (Internet Packet Exchange) • เป็นโปรโตคอลที่ถกพัฒนาขึ้นมาเพื่อนาไปใช้กับระบบเครือข่ายของ ู Netware โปรโตคอลนี้มีความสามารถในการหาเส้นทางได้ แต่ก็ไม่ ดีเท่ากับ TCP/IP ดังนั้นจึงเหมาะสาหรับเครือข่ายขนาดเล็กถึง ระดับกลางเท่านั้น ปัจจุบันNetwareได้พัฒนาความสามารถจน สามารถรองรับเครือข่ายขนาดใหญ่ และมีโปรโตคอลให้เลือกใช้ หลากหลายขึน ้
- 14. • 3. TCP/IP (Transfer Control Protocol/ Internet Protocol) • เป็นโปรโตคอลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเครือข่ายขนาดใหญ่และ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมีความสามารถในการค้นหาเส้นทางไป ยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ร้องขอข้อมูล จึงถูกใช้เป็นโปรโตคอลหลักใ น เ ค รือ ข่า ย อิน เ ท อ ร์เ น็ต ข้อ เ สีย ข อ งโปรโตคอลนี้ คือ ต้องมีความรู้ พื้นฐานเกี่ยวกับโปรโตคอล TCP/IP การกาหนด IP Addressอีก ทั้งจะต้องมีการปรับแต่งค่าต่าง ๆ หลังจากการติดตั้งซอฟต์แวร์ เครือข่าย
- 15. 4.โปรโตคอล AppleTalk เป็นโปรโตคอลสื่อสารข้อมูลของเครื่องแมคอินทอชโดยเฉพาะ เพื่อใช้เชื่อมโยงเครือข่ายของเครื่องแบบแมคอินทอช และสามารแชร์กับ อุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนียังขยายไปสู่การเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายของ ้ เซิร์ฟเวอร์,เครื่องพิมพ์ ทาให้กลุ่มผู้ใช้เครื่องแมคอินทอชสามารถ เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายได้ง่าย