Upload
Download free for 30 days
Login
Submit Search
แผนBioม.6 1
30 likes
41,866 views
Wichai Likitponrak
1 of 94
Download now
Downloaded 2,238 times
1
2
3
Most read
4
5
6
7
8
9
10
Most read
11
12
13
14
15
16
Most read
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
More Related Content
DOCX
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
Sirintip Arunmuang
PDF
แผนBioม.5 1
Wichai Likitponrak
PDF
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Thanyamon Chat.
PDF
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
เอเดียน คุณาสิทธิ์
PDF
เอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
Kobwit Piriyawat
PDF
สัญลักษณ์นิวเคลียร์
Chanthawan Suwanhitathorn
PDF
การสะท้อนและการหักเหของแสง
พัน พัน
PDF
แผนBioม.4 1
Wichai Likitponrak
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
Sirintip Arunmuang
แผนBioม.5 1
Wichai Likitponrak
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Thanyamon Chat.
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
เอเดียน คุณาสิทธิ์
เอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
Kobwit Piriyawat
สัญลักษณ์นิวเคลียร์
Chanthawan Suwanhitathorn
การสะท้อนและการหักเหของแสง
พัน พัน
แผนBioม.4 1
Wichai Likitponrak
What's hot
(20)
PDF
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
Biobiome
PDF
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
สำเร็จ นางสีคุณ
PDF
ประชากร1
Waralee Sinthwa
PDF
Taxonomy(อนุกรมวิทฐาน)
firstnarak
PDF
สอบกลางภาคชีวะ51 2m-5
Wichai Likitponrak
DOCX
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
dnavaroj
DOC
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
Wann Rattiya
PDF
บท4วิวัฒนาการ
Wichai Likitponrak
PDF
แบบทดสอบวิวัฒน
Wichai Likitponrak
PDF
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
สำเร็จ นางสีคุณ
PDF
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
Wichai Likitponrak
PDF
Evolution Plan : การคัดเลือกตามธรรมชาติ
กมลรัตน์ ฉิมพาลี
PDF
ระบบย่อยอาหาร ระบบย่อยอาหาร ระบบย่อยอาหาร
capchampz
PDF
แผนBioม.6 2
Wichai Likitponrak
PDF
แบบทดสอบย่อย เรื่องกล้องจุลทรรศน์
Phattarawan Wai
PDF
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
Khwankamon Changwiriya
PDF
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Pinutchaya Nakchumroon
PDF
อาณาจักรพืช
Pinutchaya Nakchumroon
DOC
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
PDF
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
สำเร็จ นางสีคุณ
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
Biobiome
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
สำเร็จ นางสีคุณ
ประชากร1
Waralee Sinthwa
Taxonomy(อนุกรมวิทฐาน)
firstnarak
สอบกลางภาคชีวะ51 2m-5
Wichai Likitponrak
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
dnavaroj
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
Wann Rattiya
บท4วิวัฒนาการ
Wichai Likitponrak
แบบทดสอบวิวัฒน
Wichai Likitponrak
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
สำเร็จ นางสีคุณ
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
Wichai Likitponrak
Evolution Plan : การคัดเลือกตามธรรมชาติ
กมลรัตน์ ฉิมพาลี
ระบบย่อยอาหาร ระบบย่อยอาหาร ระบบย่อยอาหาร
capchampz
แผนBioม.6 2
Wichai Likitponrak
แบบทดสอบย่อย เรื่องกล้องจุลทรรศน์
Phattarawan Wai
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
Khwankamon Changwiriya
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Pinutchaya Nakchumroon
อาณาจักรพืช
Pinutchaya Nakchumroon
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
สำเร็จ นางสีคุณ
Ad
Viewers also liked
(20)
PDF
รวมเล่มโครงการสอน
Wichai Likitponrak
PDF
แผนBioม.5 2
Wichai Likitponrak
PDF
แผนBioม.4 2
Wichai Likitponrak
PDF
แผนB slim.pdf
Belinda Bow
PDF
เล่มรยงานกิจกรรมกลุ่มวิทยาศาสตร์
Wichai Likitponrak
PDF
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
civicton
PDF
งานวิจัยในชั้นเรียนวิตกกังวล
Wichai Likitponrak
PDF
Toolkit for 21st century
Wichai Likitponrak
PDF
วิจัยอนามัยเพศ
Wichai Likitponrak
PDF
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
Wichai Likitponrak
PDF
ประสาท
Wichai Likitponrak
PDF
วิจัยในชั้นเรียนตรีโกณมิติ
Wichai Likitponrak
PDF
สืบดอก
Wichai Likitponrak
PDF
รักษาดุลม.5
Wichai Likitponrak
PDF
การเคลื่อนที่สมช
Wichai Likitponrak
PDF
ต่อมไร้ท่อ
Wichai Likitponrak
PDF
ตอบสนองพืช
Wichai Likitponrak
PDF
มหัศจรรย์พืช
Wichai Likitponrak
PDF
สังเคราะห์แสง
Wichai Likitponrak
PDF
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
Wichai Likitponrak
รวมเล่มโครงการสอน
Wichai Likitponrak
แผนBioม.5 2
Wichai Likitponrak
แผนBioม.4 2
Wichai Likitponrak
แผนB slim.pdf
Belinda Bow
เล่มรยงานกิจกรรมกลุ่มวิทยาศาสตร์
Wichai Likitponrak
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
civicton
งานวิจัยในชั้นเรียนวิตกกังวล
Wichai Likitponrak
Toolkit for 21st century
Wichai Likitponrak
วิจัยอนามัยเพศ
Wichai Likitponrak
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
Wichai Likitponrak
ประสาท
Wichai Likitponrak
วิจัยในชั้นเรียนตรีโกณมิติ
Wichai Likitponrak
สืบดอก
Wichai Likitponrak
รักษาดุลม.5
Wichai Likitponrak
การเคลื่อนที่สมช
Wichai Likitponrak
ต่อมไร้ท่อ
Wichai Likitponrak
ตอบสนองพืช
Wichai Likitponrak
มหัศจรรย์พืช
Wichai Likitponrak
สังเคราะห์แสง
Wichai Likitponrak
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
Wichai Likitponrak
Ad
Similar to แผนBioม.6 1
(20)
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้Biogang
Wichai Likitponrak
PDF
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ(อังกฤษ)
Wichai Likitponrak
PDF
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการสื่อสารอย่างสรา้งสรรค์
Wichai Likitponrak
PDF
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
Wichai Likitponrak
PDF
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
Wichai Likitponrak
DOC
Mko3 หลักชีววิทยา
Nanzzy Sutthanont
PDF
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
Wichai Likitponrak
DOC
การออกแบบการจัดการการเรียนรู้อิงมาตรฐาน หลักสูตรแกนกลาง 2551 ...
Weerachat Martluplao
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
Kobwit Piriyawat
DOC
1
Sriprai Noopoo
PDF
แผนการจัดการเรียนรุ้คุณธรรมนำความคิดเรื่องสารละลาย โดยใช้รูปแบบ 4 mat นายกอบว...
Kobwit Piriyawat
PDF
02 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
kruannchem
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
Ummara Kijruangsri
DOC
ทักษะกระบวนการวิทย์
สุรัชนี ภัทรเบญจพล
PDF
แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Ummara Kijruangsri
PDF
แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Ummara Kijruangsri
PDF
แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Ummara Kijruangsri
DOC
ม.4 แผนการสอน เรื่อง ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต .doc
ssuser0926fd
PDF
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
Wichai Likitponrak
PDF
Kamon
ขอให้ร่ำรวยความสุข สุข
แผนการจัดการเรียนรู้Biogang
Wichai Likitponrak
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ(อังกฤษ)
Wichai Likitponrak
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการสื่อสารอย่างสรา้งสรรค์
Wichai Likitponrak
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
Wichai Likitponrak
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
Wichai Likitponrak
Mko3 หลักชีววิทยา
Nanzzy Sutthanont
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
Wichai Likitponrak
การออกแบบการจัดการการเรียนรู้อิงมาตรฐาน หลักสูตรแกนกลาง 2551 ...
Weerachat Martluplao
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
Kobwit Piriyawat
1
Sriprai Noopoo
แผนการจัดการเรียนรุ้คุณธรรมนำความคิดเรื่องสารละลาย โดยใช้รูปแบบ 4 mat นายกอบว...
Kobwit Piriyawat
02 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
kruannchem
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
Ummara Kijruangsri
ทักษะกระบวนการวิทย์
สุรัชนี ภัทรเบญจพล
แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Ummara Kijruangsri
แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Ummara Kijruangsri
แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Ummara Kijruangsri
ม.4 แผนการสอน เรื่อง ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต .doc
ssuser0926fd
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
Wichai Likitponrak
Kamon
ขอให้ร่ำรวยความสุข สุข
More from Wichai Likitponrak
(20)
PDF
บทที่ 1 หลายหลากชีวภาพ วิชาชีววิทยา 5 ภาคเรียน 2/2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 2 ระบบนิเวศ วิชาชีววิทยา 5 ภาคเรียน 2/2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 3 ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม วิชาชีววิทยา 5 ภาคเรียน 2/2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 3 สืบพันธุ์เจริญเติบโตสัตว์ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย...
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 1 ระบบประสาท รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 2 ต่อมไร้ท่อ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 4 โครงสร้างเคลื่อนที่สัตว์ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่ 5 พฤติกรรมสัตว์ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ชีววิทยาพื้นฐาน-ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ชีววิทยาพื้นฐาน-ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่2แสง_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่4วัสดุในชีวิตประจำวัน_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / ...
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่3ปฏิกิริยาเคมี_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บทที่1คลื่น_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บท3ไฟฟ้า_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บท2ระบบนิเวศ_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บท4ระบบสุริยะ_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บท1พันธุกรรม_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
PDF
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
PDF
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
บทที่ 1 หลายหลากชีวภาพ วิชาชีววิทยา 5 ภาคเรียน 2/2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่ 2 ระบบนิเวศ วิชาชีววิทยา 5 ภาคเรียน 2/2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่ 3 ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม วิชาชีววิทยา 5 ภาคเรียน 2/2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่ 3 สืบพันธุ์เจริญเติบโตสัตว์ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย...
Wichai Likitponrak
บทที่ 1 ระบบประสาท รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่ 2 ต่อมไร้ท่อ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่ 4 โครงสร้างเคลื่อนที่สัตว์ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่ 5 พฤติกรรมสัตว์ รายวิชาชีววิทยา 4 ภาคเรียน 1 /2567_ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
แผนการจัดการเรียนรู้ชีววิทยาพื้นฐาน-ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ชีววิทยาพื้นฐาน-ครูวิชัย.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่2แสง_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่4วัสดุในชีวิตประจำวัน_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / ...
Wichai Likitponrak
บทที่3ปฏิกิริยาเคมี_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บทที่1คลื่น_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม2 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บท3ไฟฟ้า_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บท2ระบบนิเวศ_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บท4ระบบสุริยะ_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บท1พันธุกรรม_ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม1 / 2567.pdf
Wichai Likitponrak
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
แผนBioม.6 1
1.
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา 4 รหัส
ว 33244 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอน นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1
2.
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2555 รหัสวิชา ว 33244 รายวิชา ชีววิทยา 4 เวลาเรียน 3 คาบ/สัปดาห์/คาบ จานวน 1.5 หน่วยการเรียน รวมเวลาเรียน 60 คาบ/ภาคเรียน ............................................................................................................................................................... ชื่อครูผู้สอน นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายชื่อแบบเรียนที่ใช้ : แบบเรียนหลัก 1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 2. คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ
3.
คำอธิบำยรำยวิชำ ชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ
ว 33244 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 1.5 หน่วยกิต เวลำ 60 ชั่วโมง ศึกษำวิเครำะห์เกี่ยวกับกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรม กฎของเมนเดล กำรผสมเพื่อทดสอบ ลักษณะพันธุกรรมที่นอกเหนือกฏของเมนเดล ยีนและโครโมโซม กำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซม กำรค้นพบ สำรพันธุกรรม โครงสร้ำงและองค์ประกอบทำงเคมีของดีเอ็นเอ สมบัติของสำรพันธุกรรม มิวเทชัน พันธุศำสตร์ และเทคโนโลยีทำงดีเอ็นเอ พันธุวิศวกรรม กำรโคลนยีน กำรวิเครำะห์ดีเอ็นเอและกำรศึกษำจีโนม กำร ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของดีเอ็นเอ ควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำงดีเอ็นเอ มุมมองทำงสังคมและจริยธรรม วิวัฒนำกำร หลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต พันธุ ศำสตร์ประชำกร ปัจจัยที่ทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของอัลลีล กำเนิดของสปีชีส์ กำรศึกษำควำม หลำกหลำยทำงชีวภำพ กำเนิดชีวิต อำณำจักรของสิ่งมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทย กำร สูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ โดยใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบค้นข้อมูล และกำรอภิปรำยเพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเข้ำใจ สำมำรถสื่อสำรสิ่งที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำร ตัดสินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่ำนิยมที่เหมำะสม ตัวชี้วัด ว 1.2 ม.4/1 , ว 1.2 ม.4/2 , ว 1.2 ม.4/3 , ว 1.2 ม.4/4 ว 8.1 ม.4/1 , ว 8.1 ม.4/2 , ว 8.1 ม.4/3 , ว 8.1 ม.4/4 , ว 8.1 ม.4/5 , ว 8.1 ม.4/6 , ว 8.1 ม.4/7 , ว 8.1 ม.4/8 , ว 8.1 ม.4/9 , ว 8.1 ม.4/10 , ว 8.1 ม.4/11 , ว 8.1 ม.4/12 รวม 16 ตัวชี้วัด
4.
แบบวิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อจัดทาคาอธิบายรายวิชาชีววิทยา 4 ว
33244 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มฐ. ตัวชี้วัด คาสาคัญ (Keyword) ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอด สำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิดควำมหลำกหลำย ทำงชีวภำพ - กำรถ่ำยทอดทำง พันธุกรรม - ยีนและโครโมโซม - กำรสำรวจตรวจสอบ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต ม.4-6/2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผล ของเทคโนโลยีชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมและนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ - พันธุศำสตร์และ เทคโนโลยีทำง DNA - กำรนำควำมรู้ไปใช้ - ใฝ่เรียนรู้ - มีวินัย ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผล ของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม - ควำมหลำกหลำยทำง ชีววิทยำ - กำรสืบค้นข้อมูล - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นกำรทำงำน ม.4-6/4 อธิบำยกระบวนกำรคัดเลือก ตำมธรรมชำติและผลกำรคัดเลือกตำม ธรรมชำติต่อควำมลำกหลำยของสิ่งมีชีวิต - วิวัฒนำกำร - กำรคิดวิเครำะห์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ ว 8.1 ม.4-6/1 ตั้งคำถำมที่อยู่บนพื้นฐำนของ ควำมรู้และควำมเข้ำใจทำงวิทยำศำสตร์ หรือควำมสนใจหรือจำกประเด็นที่ เกิดขึ้นในขณะนั้นที่สำมำรถทำกำร สำรวจตรวจสอบหรือศึกษำค้นคว้ำได้ อย่ำงครอบคลุมและเชื่อถือได้ - กำรสืบค้นข้อมูล - กำรสำรวจตรวจสอบ - กำรตั้งคำถำม - มุ่งมั่นกำรทำงำน - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ ม.4-6/2 สร้ำงสมมติฐำนที่มีทฤษฎี รองรับหรือคำดกำรณ์สิ่งที่จะพบหรือ สร้ำงแบบจำลองหรือสร้ำงรูปแบบเพื่อ นำไปสู่กำรสำรวจตรวจสอบ -กำรสร้ำงสมมติฐำน - กำรตรวจสอบ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - ซื่อสัตย์สุจริต ม.4-6/3 ค้นคว้ำรวบรวมข้อมูลที่ต้อง พิจำรณำปัจจัยหรือตัวแปรสำคัญ ปัจจัย ที่มีผลต่อปัจจัยอื่น ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และจำนวนครั้งของกำรสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้ได้ผลที่มีควำมเชื่อมั่นอย่ำง เพียงพอ - กำรสืบค้นข้อมูล - กำรสำรวจตรวจสอบ - กำรรวบรวมข้มูล - มุ่งมั่นกำรทำงำน - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ ม.4-6/4 เลือกวัสดุเทคนิควิธีอุปกรณ์ที่ใช้ ในกำรสังเกต กำรวัด กำรสำรวจ ตรวจสอบอย่ำงถูกต้องทั้งทำงกว้ำงและ ลึกในเชิงปริมำณและคุณภำพ - กำรสังเกต -สำรวจตรวจสอบ - กำรออกแบบ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - ใฝ่เรียนรู้
5.
ม.4-6/5 รวบรวมข้อมูลและบันทึกผล กำรสำรวจตรวจสอบอย่ำงเป็นระบบ ถูกต้องครอบคลุมทั้งในเชิงปริมำณและ คุณภำพ โดยตรวจสอบควำมเป็นไปได้ ควำมเหมำะสมหรือควำมผิดพลำดของ ข้อมูล -
กำรรวบรวมข้อมูล - กำรบันทึก - สำรวจตรวจสอบ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ ม.4-6/6 จัดกระทำข้อมูลโดยคำนึงถึง กำรรำยงำนผลเชิงตัวเลขที่มีระดับ ควำมถุกต้องและนำเสนอข้อมูลด้วย เทคนิควิธีที่เหมำะสม - กำรจัดกระทำข้อมูล - กำรรำยงำนผล - กำรออกแบบ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต ม.4-6/7 วิเครำะห์ข้อมูล แปล ควำมหมำยข้อมูลและประเมินควำม สอดคล้องของข้อสรุป หรือสำระสำคัญ เพื่อตรวจสอบกับสมมติฐำนที่ตั้งไว้ - กำรวิเครำะห์ - กำรแปลควำมหมำย - กำรสำรวจตรวจสอบ - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ ม.4-6/8 พิจำรณำควำมน่ำเชื่อถือของ วิธีกำรและผลกำรสำรวจตรวจสอบโดย ใช้หลักควำมคำดเคลื่อนของกำรวัดและ กำรสังเกต เสนอแนะ กำรปรับปรุง วิธีกำรสำรวจตรวจสอบ - กำรสังเกต - กำรสำรวจตรวจสอบ - กำรสรุปผล - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ ม.4-6/9 นำผลกำรสำรวจตรวจสอบที่ได้ ทั้งวิธีกำรและองค์ควำมรู้ที่ได้ไปสร้ำง คำถำมใหม่ นำไปใช้แก้ปัญหำใน สถำนกำรณ์ใหม่และชีวิตจริง - กำรนำไปใช้ - กำรกำหนดปัญหำ - กำรแก้ปัญหำ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ ม.4-6/10 ตระหนักถึงควำมสำคัญในกำร ที่จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกำรอธิบำย กำรลงควำมเห็น และกำรสรุปผลกำร เรียนรู้วิทยำศำสตร์ที่นำเสนอต่อ สำธำรณชนด้วยควำมถูกต้อง - กำรอธิบำย - กำรลงข้อสรุป - กำรนำเสนอ - กำรสื่อสำร - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต ม.4-6/11 บันทึกและอธิบำยผลกำร สำรวจตรวจสอบอย่ำงมีเหตุผล ใช้ พยำนหลักฐำนอ้ำงอิงหรือค้นคว้ำ เพิ่มเติมเพื่อหำหลักฐำนอ้ำงอิงที่เชื่อถือ ได้และยอมรับว่ำควำมรู้เดิมอำจมีกำร เปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีข้อมูลและประจักษ์ พยำนใหม่เพิ่มเติมหรือโต้แย้งจำกเดิมซึ่ง ท้ำทำยให้มีกำรตรวจสอบอย่ำง ระมัดระวังอันจะนำไปสู่กำรยอมรับเป็น - กำรบันทึก - กำรอธิบำย - กำรสำรวจตรวจสอบ - กำรสืบค้นข้อมูล - กำรวิเครำะห์ - มุ่งมั่นกำรทำงำน - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต
6.
ควำมรู้ใหม่ ม.4-6/12 จัดแสดงผลงำน เขียนรำยงำน และ/หรืออธิบำยเกี่ยวกับแนวคิด กระบวนกำรและผลของโครงงำนหรือ ชิ้นงำนให้ผู้อื่นเข้ำใจ -
กำรอธิบำย - กำรสื่อสำรข้อมูล - มุ่งมั่นกำรทำงำน - มีวินัย - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้
7.
โครงสร้างรายวิชาชีววิทยา 4 รหัส
ว 33244 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หน่วยกิต ลาดับที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้าหนัก คะแนน 1 ว 1.2 ม.4-6/1 ว 8.1 ม.4-6/1-12 กำรถ่ำยทอดทำง พันธุกรรม กำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมเดล ควำม น่ำจะเป็นและกฎของกำรแยก กฎแห่ง กำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระ กำรผสมเพื่อ ทดสอบและลักษณะทำงพันธุกรรมที่ นอกเหนือกฎของเมนเดล 15 20 2 ว 1.2 ม.4-6/1 ว 8.1 ม.4-6/1-12 ยีนและโครโมโซม กำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซม กำร ค้นพบสำรพันธุกรรม โครโมโซม องค์ประกอบทำงเคมีของ DNA โครงสร้ำงของ DNA สมบัติของสำร พันธุกรรมและมิวเทชัน 15 20 3 ว 1.2 ม.4-6/2 ว 8.1 ม.4-6/1-12 พันธุศำสตร์และ เทคโนโลยีทำง DNA พันธุวิศวกรรม กำรโคลนยีน กำร วิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนม กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA และควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA และมุมมองทำงสังคมและ จริยธรรม 10 20 4 ว 1.2 ม.4-6/4 ว 8.1 ม.4-6/1-12 วิวัฒนำกำร หลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำร ของสิ่งมีชีวิต พันธุศำสตร์ประชำกร ปัจจัยที่ทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลง ควำมถี่ของแอลลีนและกำเนิดสปีชีส์ 10 20 5 ว 1.2 ม.4-6/3 ว 8.1 ม.4-6/1-12 ควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพ ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ กำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพ กำเนิดของชีวิต อำณำจักรของ สิ่งมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ในประเทศไทยและกำรสูญเสียควำม หลำกหลำยทำงชีวภำพ 10 20 รวม 60 100
8.
คุณลักษณะตามจุดเน้น ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 ลาดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด จุดเน้น ทักษะ/กระบวนการ 1 กำรถ่ำยทอดทำง พันธุกรรม ว 1.2 ม.4-6/1 ว 8.1 ม.4-6/1-12 - ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร - ควำมสำมำรถในกำรคิด - ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี - ค้นหำสำเหตุของปัญหำ วิเครำะห์ สภำพปัญหำจำกสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน กำหนด ทำงเลือกวิธีกำรขั้นตอนที่นำมำใช้ใน กำรแก้ปัญหำได้ผลดีที่สุด - สำรสนเทศนำเสนองำนและใช้ คอมพิวเตอร์สร้ำงชิ้นงำนหรือ โครงงำนอย่ำงมีจิตสำนึกและ วัฒนธรรม - ทดลอง - อธิบำย - สืบค้นข้อมูล - นำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ กำรสืบค้นข้อมูล - กำรสำรวจ - กำรตั้งคำถำม - กำรสร้ำงสมมติฐำน - กำรตรวจสอบ - กำรรวบรวมข้อมูล - กำรสังเกต - กำรออกแบบ - กำรบันทึก - กำรจัดกระทำข้อมูล - กำรรำยงำนผล - กำรวิเครำะห์ - กำรแปลควำมหมำย - กำรกำหนดปัญหำ - กำรแก้ปัญหำ - กำรนำเสนอ - กำรสื่อสำร - กำรสรุปผล 2 ยีนและโครโมโซม ว 1.2 ม.4-6/1 ว 8.1 ม.4-6/1-12 - ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร - ควำมสำมำรถในกำรคิด - ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ - ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี - ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรประมวลผล ข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศเพื่อกำร ตัดสินใจใช้เทคโนโลยี - สำรสนเทศนำเสนองำนและใช้ คอมพิวเตอร์สร้ำงชิ้นงำนหรือ โครงงำนอย่ำงมีจิตสำนึกและ วัฒนธรรม 3 พันธุศำสตร์และเทคโนโลยี ทำง DNA ว 1.2 ม.4-6/2 ว 8.1 ม.4-6/1-12 - ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร - ควำมสำมำรถในกำรคิด - ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ - ทักษะชีวิต - ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรประมวลผล ข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศเพื่อกำร ตัดสินใจใช้เทคโนโลยี - สำรสนเทศนำเสนองำนและใช้ คอมพิวเตอร์สร้ำงชิ้นงำนหรือ โครงงำนอย่ำงมีจิตสำนึกและ วัฒนธรรม
9.
4 วิวัฒนำกำร ว
1.2 ม.4-6/4 ว 8.1 ม.4-6/1-12 - ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร - ควำมสำมำรถในกำรคิด - ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี - ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ - ทักษะชีวิต - ค้นหำสำเหตุของปัญหำ วิเครำะห์ สภำพปัญหำจำกสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน กำหนด ทำงเลือกวิธีกำรขั้นตอนที่นำมำใช้ใน กำรแก้ปัญหำได้ผลดีที่สุด - สำรสนเทศนำเสนองำนและใช้ คอมพิวเตอร์สร้ำงชิ้นงำนหรือ โครงงำนอย่ำงมีจิตสำนึกและ วัฒนธรรม 5 ควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพ ว 1.2 ม.4-6/3 ว 8.1 ม.4-6/1-12 - ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร - ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี - ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ - ทักษะชีวิต - ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรประมวลผล ข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศเพื่อกำร ตัดสินใจใช้เทคโนโลยี - ค้นหำสำเหตุของปัญหำ วิเครำะห์ สภำพปัญหำจำกสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน กำหนด ทำงเลือกวิธีกำรขั้นตอนที่นำมำใช้ใน กำรแก้ปัญหำได้ผลดีที่สุด
10.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 หน่วยกำรเรียนที่ 1 เรื่อง
กำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดล กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยกระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดล เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำง ลักษณะเด่นกับลักษณะด้อยและจีโนไทป์กับฟีโนไทป์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยกระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดลได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงลักษณะเด่นกับลักษณะด้อยได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงจีโนไทป์กับฟีโนไทป์ได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - กระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดลซึ่งเลือกใช้ถั่วลันเตำผสมข้ำมต้นในรุ่นพ่อ-แม่และผสมภำยในดอก เดียวกันในรุ่นลูกโดยเลือกพิจำรณำลักษณะที่แตกต่ำงกัน 7 ลักษณะ - ลักษณะเด่น คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยยีนเด่นจึงทำให้โอกำสแสดงออกมำกในทุกๆรุ่น ส่วน ลักษณะด้อย คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยจึงทำให้โอกำสแสดงออกน้อย - จีโนไทป์ คือ ลักษณะของยีนที่อยู่ด้วยกันเป็นคู่ ซึ่งนิยมเขียนสัญลักษณ์แทนด้วยตัวอักษรส่วนฟีโนไทป์ คือ ลักษณะที่แสดงออกของสิ่งมีชีวิตจำกผลกำรควบคุมของคู่ยีนหรือจีโนไทป์ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยกระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดลได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) สรุปควำมแตกต่ำงระหว่ำงลักษณะเด่นกับลักษณะด้อยและจีโน ไทป์กับฟีโนไทป์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ ของเมนเดล
11.
5. สมรรถนะ การสื่อสาร ,การคิด
และการใช้เทคโนโลยี 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “ลักษณะต่ำงๆของสิ่งมีชีวิตถ่ำยทอดไปยังลูกหลำนได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ กระบวนกำรสืบพันธุ์ ขั้นสอน : ครูอธิบำยถึงกระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดลซึ่งเลือกใช้ถั่วลันเตำผสม ข้ำมต้นในรุ่นพ่อ-แม่และผสมภำยในดอกเดียวกันในรุ่นลูกโดยเลือกพิจำรณำลักษณะที่แตกต่ำงกัน 7 ลักษณะ ได้แก่ ควำมสูงของลำต้น รูปร่ำงของฝัก รูปร่ำงของเมล็ด สีของเมล็ด ตำแหน่งของดอก สีของดอกและสีของฝัก ครูอธิบำยถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงลักษณะเด่นกับลักษณะด้อยว่ำ “ลักษณะเด่น คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยยีนเด่นจึงทำให้โอกำสแสดงออกมำกในทุกๆรุ่น ส่วนลักษณะด้อย คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยจึงทำให้โอกำสแสดงออกน้อย” ครูอธิบำยถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงจีโนไทป์กับฟีโนไทป์ว่ำ “โนไทป์ คือ ลักษณะของ ยีนที่อยู่ด้วยกันเป็นคู่ ซึ่งนิยมเขียนสัญลักษณ์แทนด้วยตัวอักษรส่วนฟีโนไทป์ คือ ลักษณะที่แสดงออกของ สิ่งมีชีวิตจำกผลกำรควบคุมของคู่ยีนหรือจีโนไทป์” นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนกำรศึกษำพันธุ ศำสตร์ของเมนเดล กำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงลักษณะเด่นกับลักษณะด้อยและจีโนไทป์กับฟีโน ไทป์
12.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนเพื่อ ตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกระบวนกำรศึกษำพันธุศำสตร์ของเมนเดล กำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำง ระหว่ำงลักษณะเด่นกับลักษณะด้อยและจีโนไทป์กับฟีโนไทป์ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
13.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 หน่วยกำรเรียนที่ 1
เรื่อง ควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำรแยก กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยควำมหมำยควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำรแยก และสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ใน กระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยควำมน่ำจะเป็นได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยควำมหมำยกฎแห่งกำรแยกได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำรแยกมำประยุกต์ใช้ในกระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรมได้ อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - เมนเดลเป็นนักคณิตศำสตร์และสถิติ จึงนำกฎของควำมน่ำจะเป็น (probability) มำใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล จำกผลกำรทดลองเพื่ออธิบำยอัตรำส่วนของลักษณะเด่นและลักษณะด้อยในรุ่น F2 ที่เกิดขึ้น - กฎแห่งกำรแยก (Law of segregation) ซึ่งเป็นกฎข้อที่ 1 มีใจควำมว่ำยีนที่อยู่เป็นคู่จะแยกออกจำกกันใน ระหว่ำงกำรสร้ำงเซลล์สืบพันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์จะได้รับเพียงแอลลีนใดแอลลีนหนึ่ง 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำรแยกได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำรแยกมำประยุกต์ใช้ใน กระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำร แยกในกำรศึกษำวิชำพันธุศำสตร์ 5. สมรรถนะ การสื่อสาร ,การคิด และการแก้ปัญหา
14.
6. ชิ้นงาน /
ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “ในกำรผสมโดยพิจำรณำหนึ่งลักษณะเหคุใดอัตรำส่วนฟีโนไทป์ ของรุ่น F2 จึงมีลักษณะเด่นต่อลักษณะด้อยเท่ำกับ 3:1” แนวตอบ คือ ควำมน่ำจะเป็นและกฎกำรแยกของแอลลีน ขั้นสอน : ครูอธิบำยถึงควำมหมำยควำมน่ำจะเป็นว่ำ “เมนเดลเป็นนักคณิตศำสตร์และสถิติ จึงนำกฎของควำมน่ำจะเป็น (probability) มำใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูลจำกผลกำรทดลองเพื่ออธิบำย อัตรำส่วนของลักษณะเด่นและลักษณะด้อยในรุ่น F2 ที่เกิดขึ้นซึ่งพบว่ำกำรผสมพันธุ์ถั่วลันเตำรุ่น F1 โอกำสที่ ยีนในรุ่น F2 จะเข้ำคู่กันได้เป็น 3 แบบ เด่น-เด่น เด่น-ด้อย ด้อย-ด้อย ในอัตรำส่วน 1:2:1 และฟีโนไทป์ 2 แบบ คือ เด่น กับ ด้อย ในอัตรำส่วน 3:1” ครูอธิบำยถึงควำมหมำยของกฎกำรแยกว่ำ “กฎแห่งกำรแยก (Law of segregation) ซึ่งเป็นกฎข้อที่ 1 มีใจควำมว่ำยีนที่อยู่เป็นคู่จะแยกออกจำกกันในระหว่ำงกำรสร้ำงเซลล์สืบพันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์จะได้รับเพียงแอลลีนใดแอลลีนหนึ่งทำให้สำมำรถทำนำยลักษณะในรุ่น F1 ได้เมื่อรู้ จีโนไทป์ในรุ่นพ่อแม่” นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมน่ำจะเป็นและกฎ แห่งกำรแยก และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม
15.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนเพื่อ ตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมน่ำจะเป็นและกฎแห่งกำรแยก และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกระบวนกำร ถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
16.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 หน่วยกำรเรียนที่ 1
เรื่อง กฎแห่งกำรรวมกลุ่มอิสระ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยควำมหมำยควำมกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอิสระ และสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ใน กระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอิสระได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 สำมำรถนำกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอิสระมำประยุกต์ใช้ในกระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ในระยะแรกกำรทดลอง เมนเดลพิจำรณำเฉพำะลักษณะใดลักษณะหนึ่งเท่ำนั้น เรียกว่ำ กำรผสมพิจำรณำ ลักษณะเดียว (monohybrid cross) ต่อมำเมนเดลได้ศึกษำกำรผสมพันธุ์สองลักษณะพร้อมๆกัน เรียกว่ำ กำร ผสมพิจำรณำสองลักษณะ (dihybrid cross) - ยีนที่ทำหน้ำที่ควบคุมลักษณะแตกต่ำงกันสำมำรถแยกตัวออกจำกกันเข้ำสู่เซลล์สืบพันธุ์และรวมตัวกันได้ อย่ำงอิสระ เรียกกฎข้อที่ 2 คือ กฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระ (Law of independent assorment) 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระไปประยุกต์ใช้ในกระบวนกำร ถ่ำยทอดทำงพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระใน กำรศึกษำวิชำพันธุศำสตร์ 5. สมรรถนะ การสื่อสาร ,การคิด การใช้เทคโนโลยีและการแก้ปัญหา
17.
6. ชิ้นงาน /
ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “ในกำรผสมพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะแตกต่ำงกัน 2 ลักษณะ พร้อมกัน กำรแยกของยีนที่เป็นคู่กันไปยังเซลล์สืบพันธุ์จะเหมือนหรือแตกต่ำงจำกกำรแยกคู่ของยีนที่พิจำรณำ เพียงลักษณะเดียวอย่ำงไร” แนวตอบ คือ แตกต่ำงกันเนื่องจำกกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระ ขั้นสอน : ครูอธิบำยถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงกำรผสมพิจำรณำลักษณะเดียวกับกำรผสม พิจำรณำสองลักษณะว่ำ “ในระยะแรกกำรทดลอง เมนเดลพิจำรณำเฉพำะลักษณะใดลักษณะหนึ่งเท่ำนั้น เรียกว่ำ กำรผสมพิจำรณำลักษณะเดียว (monohybrid cross) ต่อมำเมนเดลได้ศึกษำกำรผสมพันธุ์สอง ลักษณะพร้อมๆกัน เรียกว่ำ กำรผสมพิจำรณำสองลักษณะ (dihybrid cross)” ครูอธิบำยถึงควำมหมำยของกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระว่ำ “ยีนที่ทำหน้ำที่ ควบคุมลักษณะแตกต่ำงกันสำมำรถแยกตัวออกจำกกันเข้ำสู่เซลล์สืบพันธุ์และรวมตัวกันได้อย่ำงอิสระ เรียกกฎ ข้อที่ 2 คือ กฎแห่งกำรรวมกลุ่มอย่ำงอิสระ (Law of independent assorment) สรุปใจควำมว่ำ ยีนที่แยก ออกจำกยีนที่เป็นคู่กัน จะจัดกลุ่มอย่ำงอิสระกับยีนอื่นที่แยกออกจำกคู่กันเช่นกันในกำรเข้ำคู่ไปอยู่ในเซลล์ สืบพันธุ์” นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับกฎแห่งกำรรวมกลุ่ม อย่ำงอิสระ และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม
18.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำกิจกรรมตำรำงพัน เนตต์พร้อมบันทึกผลในใบกิจกรรมเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกฎแห่ง กำรรวมกลุ่มอิสระ และสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ในกระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
19.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 หน่วยกำรเรียนที่ 1
เรื่อง กำรผสมเพื่อทดสอบ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรผสมเพื่อทดสอบ และสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยกำรผสมเพื่อทดสอบได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยกระบวนกำรของกำรผสมเพื่อทดสอบได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำกำรผสมเพื่อกำรทดสอบไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ในกำรตรวจสอบฟีโนไทป์ลักษณะเด่นของสิ่งมีชีวิตว่ำมีลักษณะจีโนไทป์แบบพันธุ์แท้ (เด่น-เด่น) หรือพันทำง (เด่น-ด้อย) เรำสำมำรถใช้กฎแห่งกำรแยกไปใช้ในกำรทดสอบลูกผสม โดยนำลักษณะเด่นที่ต้องกำรตรวจสอบ ไปผสมกับลักษณะด้อย เรียกต้นนี้ว่ำ ต้นทดสอบ (tester) - ถ้ำผลกำรผสมเพื่อทดสอบพบว่ำลูกผสมที่ได้มีฟีโนไทป์ลักษณะเด่นทั้งหมด แสดงว่ำเป็นลักษณะจีโนไทป์แบบ พันธุ์แท้ (เด่น-เด่น) แต่ถ้ำลูกผสมที่ได้มีฟีโนไทป์ลักษณะเด่น : ด้อย เท่ำกับ 1 : 1 แสดงว่ำเป็นลักษณะจีโนไทป์ แบบพันทำง (เด่น-ด้อย) 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรผสมเพื่อทดสอบได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำกำรผสมเพื่อทดสอบไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุ ศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรผสมเพื่อกำรทดสอบไป ประยุกต์ใช้ทำงด้ำนเกษตรกรรมและอุตสำหกรรม
20.
5. สมรรถนะ การสื่อสาร ,การคิด
การใช้เทคโนโลยีและการแก้ปัญหา 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “เรำจะทรำบได้อย่ำงไรว่ำลูกรุ่น F1 มีจีโนไทป์เป็นฮอมอไซกัส หรือเฮเทอโรไซกัส” แนวตอบ คือ กำรผสมเพื่อทดสอบ ขั้นสอน : ครูอธิบำยถึงควำมหมำยของกำรผสมเพื่อทดสอบว่ำ “ในกำรตรวจสอบฟีโนไทป์ ลักษณะเด่นของสิ่งมีชีวิตว่ำมีลักษณะจีโนไทป์แบบพันธุ์แท้ (เด่น-เด่น) หรือพันทำง (เด่น-ด้อย) เรำสำมำรถใช้ กฎแห่งกำรแยกไปใช้ในกำรทดสอบลูกผสม โดยนำลักษณะเด่นที่ต้องกำรตรวจสอบไปผสมกับลักษณะด้อย เรียกต้นนี้ว่ำ ต้นทดสอบ (tester) และเรียกกระบวนกำรนี้ว่ำ กำรผสมเพื่อทดสอบ หรือ เทสต์ครอส (testcross)” ครูอธิบำยถึงกระบวนกำรของกำรผสมเพื่อทดสอบว่ำ “ถ้ำผลกำรผสมเพื่อทดสอบ พบว่ำลูกผสมที่ได้มีฟีโนไทป์ลักษณะเด่นทั้งหมด แสดงว่ำเป็นลักษณะจีโนไทป์แบบพันธุ์แท้ (เด่น-เด่น) หรือ ฮอมอไซกัส แต่ถ้ำลูกผสมที่ได้มีฟีโนไทป์ลักษณะเด่น : ด้อย เท่ำกับ 1 : 1 แสดงว่ำเป็นลักษณะจีโนไทป์แบบ พันทำง (เด่น-ด้อย) หรือเฮเทอโรไซกัส”
21.
นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับกำรผสมเพื่อทดสอบ และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำกิจกรรมกำรแก้ โจทย์ปัญหำพร้อมบันทึกผลในใบกิจกรรมเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ กำรผสมเพื่อทดสอบ และสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
22.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 หน่วยกำรเรียนที่ 1
เรื่อง ลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎเมนเดล กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของ เมนเดลแบบต่ำงๆ และสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำกระบวนกำรถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดลแบบต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยกระบวนกำรของลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดลแบบต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดลแบบต่ำงๆไปประยุกต์ใช้ในกระบวนกำร ถ่ำยทอดพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดลแบบต่ำงๆ เช่น ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์ กำรข่มร่วมกัน มัล ติเปิลแอลลีน พอลิยีน ยีนในโครโมโซมเพศ ยีนในโครโมโซมเดียวกัน พันธุกรรมที่ขึ้นกับอิทธิพลของเพศ และ พันธุกรรมจำกัดเพศ - ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์ (Incomplete dominant) คือ แอลลีน 2 แอลลีนโดยที่แอลลีนหนึ่งไม่สำมำรถข่มแอ ลลีนหนึ่งได้อย่ำงสมบูรณ์ ทำให้ฟีโนไทป์อยู่ระหว่ำงฟีโนไทป์ของรุ่นพ่อแม่ที่เป็นฮอมอไซกัส เช่น สีชมพูของ ดอกลิ้นมังกร - กำรข่มร่วมกัน (Codominance) คือ แอลลีนทั้งสองแอลลีนแสดงลักษณะเด่นเท่ำๆกันจึงแสดงออกร่วมกัน เช่น หมู่เลือด AB ในระบบเลือด ABO - มัลติเปิลแอลลีน (multiple alleles) คือ ยีนที่มีมำกกว่ำ 2 แอลลีนใน 1 โลคัส เช่น ลักษณะพันธุกรรมของ หมู่เลือดระบบ ABO เป็นลักษณะที่ควบคุมด้วยยีน 3 แอลลีน คือ IA IB และ i - พอลิยีนหรือมัลติเปิลยีน (polygene or multiple gene) คือ ลักษณะทำงพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีน หลำยคู่ หรือเรียกว่ำ พอลิจีนิก เทรต (polygenic trait) เป็นลักษณะที่มีควำมแตกต่ำงกันเพียงเล็กน้อยและ
23.
ลดหลั่นกันไป เรียกลักษณะเช่นนี้ว่ำ ลักษณะทำงพัดนธุกรรมที่มีกำรแปรผันต่อเนื่อง
(continuous variation trait) เช่น ลักษณะควำมสูง สีผิวของคน - ยีนที่เกี่ยวเนื่องกับเพศ (sex-linked gene) คือ กำรถ่ำยทอดลักษณะที่ควบคุมด้วยยีนที่อยู่บนโครโมโซมเพศ เช่น สีตำของแมลงหวี่ โรคทำงพันธุกรรมของคนบำงชนิด (โรคฮีโมฟีเลีย โรคภำวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD โรค ตำบอดสี) - ยีนในโครโมโซมเดียวกัน หรือ ลิงค์ยีน (linked gene) คือ ลักษณะที่ถูถ่ำยทอดไปด้วยกันเสมอเพรำะเป็นยีน ที่อยู่บนโครโมโซมเดียวกัน เช่น สีลำตัวและลักษณะปีกของแมลงหวี่ - พันธุกรรมที่ขึ้นกับอิทธิพลของเพศ (sex influenced traits) คือ กำรแสดงของยีนจะเป็นยีนเด่นหรือยีนด้อย ขึ้นอยู่กับเพศหรืออิทธิพลของฮอร์โมนเพศจึงทำให้ลักษณะที่ถูกควบคุมด้วยยีนที่แสดงลักษณะเด่นในเพศหนึ่ง และแสดงลักษณะด้อยในอีกเพศหนึ่ง เช่น อำกำรศรีษะล้ำนของมนุษย์ (เด่นในชำย-ด้อยในหญิง) - พันธุกรรมจำกัดเพศ (sex limited traits) คือ ลักษณะทำงพันธุกรรมที่แสดงออกเฉพำะในเพศใดเพศหนึ่ง เช่น ยีนควบคุมกำรผลิตน้ำนมจะแสดงออกเฉพำะในเพศหญิง 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือ กฎของเมนเดลแบบต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำกระบวนกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎ ของเมนเดลแบบต่ำงๆไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกระบวนกำรถ่ำยทอดลักษณะ ทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดลแบบต่ำงๆกับชีวิตประจำวัน 5. สมรรถนะ การสื่อสาร ,การคิด ,การใช้เทคโนโลยี ,ทักษะชีวิตและการแก้ปัญหา 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map
24.
7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล
เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “กำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรมเป็นไปตำมกฎของ เมนเดลทุกลักษณะหรือไม่” แนวตอบ คือ ไม่ (ลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดล) ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “ลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดล” ว่ำ - ลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดลแบบต่ำงๆ เช่น ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์ กำรข่มร่วมกัน มัล ติเปิลแอลลีน พอลิยีน ยีนในโครโมโซมเพศ ยีนในโครโมโซมเดียวกัน พันธุกรรมที่ขึ้นกับอิทธิพลของเพศ และ พันธุกรรมจำกัดเพศ - ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์ (Incomplete dominant) คือ แอลลีน 2 แอลลีนโดยที่แอลลีนหนึ่งไม่สำมำรถข่มแอ ลลีนหนึ่งได้อย่ำงสมบูรณ์ ทำให้ฟีโนไทป์อยู่ระหว่ำงฟีโนไทป์ของรุ่นพ่อแม่ที่เป็นฮอมอไซกัส เช่น สีชมพูของ ดอกลิ้นมังกร - กำรข่มร่วมกัน (Codominance) คือ แอลลีนทั้งสองแอลลีนแสดงลักษณะเด่นเท่ำๆกันจึงแสดงออกร่วมกัน เช่น หมู่เลือด AB ในระบบเลือด ABO - มัลติเปิลแอลลีน (multiple alleles) คือ ยีนที่มีมำกกว่ำ 2 แอลลีนใน 1 โลคัส เช่น ลักษณะพันธุกรรมของ หมู่เลือดระบบ ABO เป็นลักษณะที่ควบคุมด้วยยีน 3 แอลลีน คือ IA IB และ i - พอลิยีนหรือมัลติเปิลยีน (polygene or multiple gene) คือ ลักษณะทำงพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีน หลำยคู่ หรือเรียกว่ำ พอลิจีนิก เทรต (polygenic trait) เป็นลักษณะที่มีควำมแตกต่ำงกันเพียงเล็กน้อยและ ลดหลั่นกันไป เรียกลักษณะเช่นนี้ว่ำ ลักษณะทำงพัดนธุกรรมที่มีกำรแปรผันต่อเนื่อง (continuous variation trait) เช่น ลักษณะควำมสูง สีผิวของคน
25.
- ยีนที่เกี่ยวเนื่องกับเพศ (sex-linked
gene) คือ กำรถ่ำยทอดลักษณะที่ควบคุมด้วยยีนที่อยู่บนโครโมโซมเพศ เช่น สีตำของแมลงหวี่ โรคทำงพันธุกรรมของคนบำงชนิด (โรคฮีโมฟีเลีย โรคภำวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD โรค ตำบอดสี) - ยีนในโครโมโซมเดียวกัน หรือ ลิงค์ยีน (linked gene) คือ ลักษณะที่ถูถ่ำยทอดไปด้วยกันเสมอเพรำะเป็นยีน ที่อยู่บนโครโมโซมเดียวกัน เช่น สีลำตัวและลักษณะปีกของแมลงหวี่ - พันธุกรรมที่ขึ้นกับอิทธิพลของเพศ (sex influenced traits) คือ กำรแสดงของยีนจะเป็นยีนเด่นหรือยีนด้อย ขึ้นอยู่กับเพศหรืออิทธิพลของฮอร์โมนเพศจึงทำให้ลักษณะที่ถูกควบคุมด้วยยีนที่แสดงลักษณะเด่นในเพศหนึ่ง และแสดงลักษณะด้อยในอีกเพศหนึ่ง เช่น อำกำรศรีษะล้ำนของมนุษย์ (เด่นในชำย-ด้อยในหญิง) - พันธุกรรมจำกัดเพศ (sex limited traits) คือ ลักษณะทำงพันธุกรรมที่แสดงออกเฉพำะในเพศใดเพศหนึ่ง เช่น ยีนควบคุมกำรผลิตน้ำนมจะแสดงออกเฉพำะในเพศหญิง นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับลักษณะทำงพันธุกรรมที่ นอกเหนือกฎของเมนเดล และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำกิจกรรมกำรแก้ โจทย์ปัญหำพร้อมบันทึกผลในใบกิจกรรมเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ ลักษณะทำงพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดล และสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
26.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง กำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซม และสำมำรถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยกระบวนกำรของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่แต่ละชนิดประกอบขึ้นด้วยเพศที่แตกต่ำงกัน คือ เพศผู้และเพศเมีย ลูกที่เกิดขึ้นจะพัฒนำ มำจำกเซลล์ที่เกิดจำกเซลล์พิเศษของเพศผู้คือ สเปิร์ม และเซลล์พิเศษของเพศเมีย คือ เซลล์ไข่มำรวมตัวเป็น ไซโกตโดยกระบวนกำรสืบพันธุ์ - ทฤษฎีโครโมโซมในกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรม (chormosome theory of inheritance) 1. ยีนมี 2 ชุด และโครโมโซมก็มี 2 ชุด 2. ยีนและโครโมโซมสำมำรถถ่ำยทอดไปสู่รุ่นลูกหลำน 3. ขณะที่มีกำรแบ่งเซลลฺไมโอซิส โครโมโซมมีกำรเข้ำคู่กันและแยกจำกกันไปยังเซลล์ลูกคนละเซลล์ 4. กำรแยกตัวของโครโมโซมจะดำเนินไปอย่ำงอิสระ 5. ขณะเกิดกำรสืบพันธุ์จะเกิดกำรรวมกันระหว่ำงชุดโครโมโซมของเซลล์สเปิร์มและเซลล์ไข่ 6. ทุกเซลล์ที่พัฒนำมำจำกไซโกตจะมีโครโมโซมครึ่งหนึ่งจำกแม่และอีกครึ่งหนึ่งจำกพ่อ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมได้อย่ำง ถูกต้อง
27.
ทักษะ / กระบวนกำร
(P) นำกระบวนกำรกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมไปประยุกต์ใช้ใน กำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมกับ ชีวิตประจำวัน 5. สมรรถนะ การสื่อสาร ,การคิด ,การใช้เทคโนโลยี และทักษะชีวิต 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “ยีนของพ่อแม่ถ่ำยทอดสู่ลุกหลำนได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ กระบวนกำรสืบพันธุ์ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซม” ว่ำ - สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่แต่ละชนิดประกอบขึ้นด้วยเพศที่แตกต่ำงกัน คือ เพศผู้และเพศเมีย ลูกที่เกิดขึ้นจะพัฒนำ มำจำกเซลล์ที่เกิดจำกเซลล์พิเศษของเพศผู้คือ สเปิร์ม และเซลล์พิเศษของเพศเมีย คือ เซลล์ไข่มำรวมตัวเป็น ไซโกตโดยกระบวนกำรสืบพันธุ์ - ทฤษฎีโครโมโซมในกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรม (chormosome theory of inheritance) 1. ยีนมี 2 ชุด และโครโมโซมก็มี 2 ชุด 2. ยีนและโครโมโซมสำมำรถถ่ำยทอดไปสู่รุ่นลูกหลำน 3. ขณะที่มีกำรแบ่งเซลลฺไมโอซิส โครโมโซมมีกำรเข้ำคู่กันและแยกจำกกันไปยังเซลล์ลูกคนละเซลล์
28.
4. กำรแยกตัวของโครโมโซมจะดำเนินไปอย่ำงอิสระ 5. ขณะเกิดกำรสืบพันธุ์จะเกิดกำรรวมกันระหว่ำงชุดโครโมโซมของเซลล์สเปิร์มและเซลล์ไข่ 6.
ทุกเซลล์ที่พัฒนำมำจำกไซโกตจะมีโครโมโซมครึ่งหนึ่งจำกแม่และอีกครึ่งหนึ่งจำกพ่อ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซม และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมและสำมำรถ นำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
29.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง กำรค้นพบสำรพันธุกรรม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยควำมหมำยของสำรพันธุกรรมและกระบวนกำรของกำรค้นพบสำรพันธุกรรม และ สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยและองค์ประกอบของสำรพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยกระบวนกำรของกำรค้นพบสำรพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรค้นพบสำรพันธุกรรมไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - DNA เป็นสำรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทั่วไปทั้ง คน สัตว์ พืช โพรทิสต์ แบคทีเรีย ไวรัสและยังพบว่ำ RNA เป็น สำรพันธุกรรมในไวรัสบำงชนิด เช่น ไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคใบด่ำงในใบยำสูบ ไวรัสที่เป็นสำเหตุของโรคโปลิโอ เอดส์ ซำร์ส ไข้หวัดนก และโรคมะเร็งบำงชนิดเป็นต้น - นักวิทยำศำสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกำรค้นพบสำรพันธุกรรม ได้แก่ เอฟ มิเชอร์ ,อำร์ ฟอยล์เกน ,เอฟ กริฟฟิท และโอ ที แอเวอรี่ ,ซีแมคลอยด์ ,เอ็ม แมคคำร์ที 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยของสำรพันธุกรรมและกระบวนกำรค้นพบสำรพันธุกรรมได้ อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำกระบวนกำรค้นพบสำรพันธุกรรมไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ รำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรถ่ำยทอดยีนและโครโมโซมกับ กำรศึกษำพันธุศำสตร์
30.
5. สมรรถนะ การคิด ,การใช้เทคโนโลยี
และการแก้ปัญหา 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “สำรพันธุกรรมคืออะไร มีโครงสร้ำงและกำรทำงำนอย่ำงไร” แนวตอบ คือ DNA และ RNA โครงสร้ำงเป็น polynucleotide เกรียวคู่และสำย เดี่ยวตำมลำดับ มีหน้ำที่ควบคุมลักษณะทำงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรค้นพบสำรพันธุกรรม” ว่ำ - DNA เป็นสำรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทั่วไปทั้ง คน สัตว์ พืช โพรทิสต์ แบคทีเรีย ไวรัสและยังพบว่ำ RNA เป็น สำรพันธุกรรมในไวรัสบำงชนิด เช่น ไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคใบด่ำงในใบยำสูบ ไวรัสที่เป็นสำเหตุของโรคโปลิโอ เอดส์ ซำร์ส ไข้หวัดนก และโรคมะเร็งบำงชนิดเป็นต้น - นักวิทยำศำสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกำรค้นพบสำรพันธุกรรม ได้แก่ 1. เอฟ มิเชอร์ : กำรวิเครำะห์ทำงเคมีของสำรที่สกัดได้จำกนิวเคลียส คือ นิวคลีอิน (nuclein) 2. อำร์ ฟอยล์เกน : กำรย้อมติดสีแดงของ DNA ด้วยสีฟุคซินพบว่ำติดที่นิวเคลียสและโครโมโซม 3. เอฟ กริฟฟิท : กำรทดลองโดยฉีดแบคทีเรีย (streptococcus pneumoniae) สำยพันธุ์ R และ S 4. โอ ที แอเวอรี่ ,ซีแมคลอยด์ ,เอ็ม แมคคำร์ที : สำรสกัดสำยพันธุ์ S ผสมแบคทีเรียสำยพันธุ์ R นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับกำรค้นพบสำรพันธุกรรมและกำร นำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์
31.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยของสำรพันธุกรรมและกระบวนกำรค้นพบสำรพันธุกรรม อีกทั้ง สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำพันธุศำสตร์ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
32.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง โครโมโซม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยลักษณะโครงสร้ำงและองค์ประกอบของโครโมโซมและสำมำรถนำควำมรู้ไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยลักษณะโครงสร้ำงของโครโมโซมได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยองค์ประกอบของโครโมโซมได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องโครโมโซมไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - DNA เป็นองค์ประกอบของโครโมโซมและยีนคือส่วนของ DNA ที่ทำหน้ำที่กำหนดลักษณะทำงพันธุกรรมที่ อยู่บนโครโมโซม - รูปร่ำงและลักษณะของโครโมโซมของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอำจมีแบบเดียวหรือหลำยแบบก็ได้ ส่วนจำนวน โครโมโซมของสิ่งแต่ละชนิดจะไม่เท่ำกันซึ่งเป็นลักษณะเฉพำะของแต่ละ species - ส่วนประกอบของโครโมโซม คือ DNA + histone protein เป็นนิวคลีโอโซม โครมำทิน โครโมทิด โครโมโซม 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยลักษณะโครงสร้ำงและองค์ประกอบของโครโมโซมได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องโครโมโซมไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุ ศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของลักษณะโครงสร้ำงและ องค์ประกอบของโครโมโซมกับกำรศึกษำพันธุศำสตร์
33.
5. สมรรถนะ การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและการคิด 6.
ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และConcept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “ยีนกับโครโมโซมมีควำมสัมพันธ์กันอย่ำงไร” แนวตอบ คือ ยีนเป็นหน่วยพันธุกรรมที่อยู่บนโครโมโซม ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “โครโมโซม” ว่ำ - DNA เป็นองค์ประกอบของโครโมโซมและยีนคือส่วนของ DNA ที่ทำหน้ำที่กำหนดลักษณะทำงพันธุกรรมที่ อยู่บนโครโมโซมทำให้นักวิทยำศำสตร์ทั้งหลำยมุ่งศึกษำโครโมโซมและDNA โดยละเอียด เพรำะจะนำไปสู่ ควำมเข้ำใจกำรเกิดลักษณะต่ำงๆของสิ่งมีชีวิต - รูปร่ำงและลักษณะของโครโมโซมของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอำจมีแบบเดียวหรือหลำยแบบก็ได้โดยใช้ตำแหน่ง ของเซนโทนเมียร์ในกำรจำแนก เช่น เมตำเซนทริก ซับเมตำเซนทริก อะโครเซนทริกและเทโลเซนทริก ส่วน จำนวนโครโมโซมของสิ่งแต่ละชนิดจะไม่เท่ำกันซึ่งเป็นลักษณะเฉพำะของแต่ละ species เช่น มนุษย์มีจำนวน โครโมโซม 46 แท่ง (23 คู่) - ส่วนประกอบของโครโมโซม คือ DNA + histone protein เป็นนิวคลีโอโซม โครมำทิน โครโมทิด โครโมโซม โดยสำรพันธุกรรมทั้งหมดของโครโมโซม 1 ชุด ของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆ เรียกว่ำ จี โนม (genome)
34.
นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับลักษณะโครงสร้ำงและ องค์ประกอบของโครโมโซมและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับลักษณะโครงสร้ำงและองค์ประกอบของโครโมโซม อีกทั้งสำมำรถนำไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำพันธุศำสตร์ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
35.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง องค์ประกอบทำงเคมีของ DNA กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงองค์ประกอบทำงเคมีของ DNA และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ รำยวิชำพันธุศำสตร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยองค์ประกอบทำงเคมีของ DNAได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 สำมำรถนำควำมรู้เรื่ององค์ประกอบทำงเคมีของ DNA ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้ อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - DNA เป็นกรดนิคลีอิกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ (polymer) สำยยำวประกอบด้วยหน่วยย่อยหรือมอนอ เมอร์ (monomer) ที่เรียนว่ำ นิวคลีโอไทด์ - นิวคลีโอไทด์ประกอบขึ้นด้วยสำมส่วนโดยมีน้ำตำลเป็นแกนหลัก มีไนโตรจีนัสเบสอยู่ที่คำร์บอนตำแหน่งที่ 1 และหมู่ฟอสเฟตอยู่ที่คำร์บอนตำแหน่งที่ 5 - กฎของชำร์กำฟฟ์ (Chargaff’s Rule) กล่ำวว่ำ สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีปริมำณของเบส 4 ชนิดแตกต่ำงกัน แต่กลับพบว่ำปริมำณของเบส A ใกล้เคียงกับ T และเบส C ใกล้เคียงกับ G เสมอ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยองค์ประกอบทำงเคมีของ DNA ได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่ององค์ประกอบทำงเคมีของ DNAไปประยุกต์ใช้ใน กำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญขององค์ประกอบทำงเคมีของ DNA กับกำรศึกษำพันธุศำสตร์
36.
5. สมรรถนะ การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี
การสื่อสารและการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “DNA มีโครงสร้ำงและส่วนประกอบอย่ำงไรจึงสำมำรถควบคุม ลักษณะทำงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตได้” แนวตอบ คือ หน่วยย่อย Nucleotide เรียงต่อกันเป็นสำยเกลียวคู่เวียนขวำ polynucleotide ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “องค์ประกอบทำงเคมีของ DNA” ว่ำ - DNA เป็นกรดนิคลีอิกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ (polymer) สำยยำวประกอบด้วยหน่วยย่อยหรือมอนอ เมอร์ (monomer) ที่เรียนว่ำ นิวคลีโอไทด์ ซึ่งแต่ละนิวคลีโอไทด์ประกอบด้วย 1. น้ำตำลเพนโทส ซึ่งมีคำร์บอน 5 อะตอม คือ น้ำตำลดีออกซีไรโบส 2. ไนโตรจีนัสเบส (nitrogenous base) เป็นโครงสร้ำงประกอบด้วยวงแหวนที่มีอะตอมของคำร์บอน และไนโตรเจน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เบสพิวรีน (purine) มี 2 ชนิด คือ อะดีนีน (adenine หรือ A) และกวำนีน (guanine หรือ G) และเบสไพริมิดีน (pyrimidine) มี 2 ชนิด คือ ไซโทซีน (cytosine หรือ C) และ ไทมีน (thymine หรือ T) 3. หมู่ฟอสเฟต (PO4 3- )
37.
- นิวคลีโอไทด์ประกอบขึ้นด้วยสำมส่วนโดยมีน้ำตำลเป็นแกนหลัก มีไนโตรจีนัสเบสอยู่ที่คำร์บอนตำแหน่งที่
1 และหมู่ฟอสเฟตอยู่ที่คำร์บอนตำแหน่งที่ 5 ดังนั้น นิวคลีโอไทด์ใน DNA จึงมี 4 ชนิด ซึ่งจะแตกต่ำงกันตำม องค์ประกอบที่เป็นเบส ได้แก่ A T C และ G - กฎของชำร์กำฟฟ์ (Chargaff’s Rule) กล่ำวว่ำ สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีปริมำณของเบส 4 ชนิด แตกต่ำงกัน แต่กลับพบว่ำปริมำณของเบส A ใกล้เคียงกับ T และเบส C ใกล้เคียงกับ G เสมอ และสิ่งมีชีวิตจะ มีอัตรำส่วนระหว่ำงเบส A : T และอัตรำส่วนระหว่ำงเบส G : C คงที่เสมอ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์ประกอบทำงเคมีของ DNA และกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับองค์ประกอบทำงเคมีของ DNA อีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ พันธุศำสตร์ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
38.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง โครงสร้ำงของ DNA กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงลักษณะโครงสร้ำงของ DNA และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ รำยวิชำพันธุศำสตร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยลักษณะโครงสร้ำงของ DNAได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องโครงสร้ำงของ DNA ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - แบบจำลอง DNA คือ พอลินิวคลีโอไทด์ 2 สำยเรียงสลับทิศกัน ปลำย 3’ ของสำยหนึ่งเข้ำคู่กับปลำย 5’ ของ อีกสำยหนึ่ง เบส A ของอีกสำยหนึ่งตรงกับ T ของอีกสำยหนึ่ง และ เบส C ของอีกสำยหนึ่งตรงกับ G ของอีก สำยหนึ่งเสมอ - โครงสร้ำงเกลียวคู่ทำให้โครงสร้ำงของ DNA มีลักษณะคล้ำยบันไดเวียนโดยมีนำตำลดีออกซีไรโบสจับกับหมู่ ฟอสเฟตเป็นรำวบันได (backbones) และบันไดแต่ละขั้นคือคู่เบส 1 คู่ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยลักษณะโครงสร้ำงของ DNA ได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องโครงสร้ำงของ DNAไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ รำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของลักษณะโครงสร้ำง DNA กับ กำรศึกษำพันธุศำสตร์ 5. สมรรถนะ การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และการคิด
39.
6. ชิ้นงาน /
ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “พอลินิวคลีโอไทด์ประกอบกันเป็น DNA ได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ พันธะโคเวเลนต์ ที่เรียกว่ำ พันธะฟอสโฟไดเอสเตอร์ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “โครงสร้ำงของ DNA” ว่ำ - เอ็ม เอฟ วิลคินส์ และโรซำลินด์ แฟรงคลิน ศึกษำโครงสร้ำงของ DNA โดยใช้เทคนิค เอกซ์เรย์ดิฟแฟรกชัน (X-ray diffraction) พบว่ำ โครงสร้ำง DNA จำกสิ่งมีชีวิตชนิดต่ำงๆมีลักษณะที่คล้ำยกันมำก คือ ประกอบด้วย พอลินิวคลีโอไทด์มำกกว่ำ 1 สำยมีลักษณะเป็นเกลียว เกลียวแต่ละรอบมีระยะห่ำงเท่ำๆกัน - แบบจำลอง DNA คือ พอลินิวคลีโอไทด์ 2 สำยเรียงสลับทิศกัน ปลำย 3’ ของสำยหนึ่งเข้ำคู่กับปลำย 5’ ของ อีกสำยหนึ่ง เบส A ของอีกสำยหนึ่งตรงกับ T ของอีกสำยหนึ่ง และ เบส C ของอีกสำยหนึ่งตรงกับ G ของอีก สำยหนึ่งเสมอ - โครงสร้ำงเกลียวคู่ทำให้โครงสร้ำงของ DNA มีลักษณะคล้ำยบันไดเวียนโดยมีนำตำลดีออกซีไรโบสจับกับหมู่ ฟอสเฟตเป็นรำวบันได (backbones) และบันไดแต่ละขั้นคือคู่เบส 1 คู่ โดยพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สำย อยู่ห่ำง กัน 20 อังสตรอม เกลียวแต่ละรอบยำว 34 อังสตรอมแต่ละนิวคลีโอไทด์มีระยะห่ำงกัน 3.4 อังสตรอม นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงสร้ำงของ DNAและกำร นำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์
40.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับลักษณะโครงสร้ำงของ DNA อีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ พันธุศำสตร์ชั้นสูงต่อไปได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
41.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง สมบัติของสำรพันธุกรรม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงสมบัติของสำรพันธุกรรม และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำ พันธุศำสตร์ชั้นสูงต่อไปได้ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยสมบัติของสำรพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องสมบัติไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - กำรพิสูจน์และตรวจสอบว่ำโครงสร้ำงของ DNA มีสมบัติที่จะเป็นสำรพันธุกรรมได้นั้นจะต้องมีสมบัติสำคัญ 3 ประกำร คือ 1. ต้องสำมำรถเพิ่มจำนวนตัวเองได้โดยมีลักษณะเหมือนเดิมเพื่อให้สำมำรถถ่ำยทอดลักษณะทำง พันธุกรรมจำกรุ่นพ่อแม่ไปยังรุ่นลูกได้ 2. สำมำรถควบคุมให้เซลล์สังเครำะห์สำรต่ำงๆเพื่อแสดงลักษณะทำงพันธุกรรมให้ปรำกฏ 3. ต้องสำมำรถแลกเปลี่ยนได้บ้ำงซึ่งกำรแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นอำจก่อให้เกิดลักษณะพันธุกรรมที่ผิด แผกไปจำกเดิมและเป็นช่องทำงให้สิ่งมีชีวิตเกิดสปีชีส์ใหม่ๆขึ้น 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยสมบัติของสำรพันธุกรรมได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องสมบัติของสำรพันธุกรรมไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำ รำยวิชำพันธุศำสตร์ได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของสมบัติของสำรพันธุกรรมกับ กำรศึกษำพันธุศำสตร์
42.
5. สมรรถนะ การสื่อสาร การแก้ปัญหา
การใช้เทคโนโลยี และการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “โครงสร้ำงของ DNA มีควำมเหมำะสมกับสมบัติของ DNA อย่ำงไรจึงจะสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรมจำกพ่อแม่ไปสู่ลูกหลำนได้” แนวตอบ คือ สำยเกลียวคู่ที่มีเบสคู่สม A=T และ CG เสมอ จึงสมำรถจำลอง ตัวเองที่มีลักษณะเหมือนเดิมส่งต่อให้ลูกหลำนได้ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “สมบัติของสำรพันธุกรรม” ว่ำ - กำรพิสูจน์และตรวจสอบว่ำโครงสร้ำงของ DNA มีสมบัติที่จะเป็นสำรพันธุกรรมได้นั้นจะต้องมีสมบัติสำคัญ 3 ประกำร คือ 1. ต้องสำมำรถเพิ่มจำนวนตัวเองได้โดยมีลักษณะเหมือนเดิมเพื่อให้สำมำรถถ่ำยทอดลักษณะทำง พันธุกรรมจำกรุ่นพ่อแม่ไปยังรุ่นลูกได้ 2. สำมำรถควบคุมให้เซลล์สังเครำะห์สำรต่ำงๆเพื่อแสดงลักษณะทำงพันธุกรรมให้ปรำกฏ 3. ต้องสำมำรถแลกเปลี่ยนได้บ้ำงซึ่งกำรแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นอำจก่อให้เกิดลักษณะพันธุกรรมที่ผิด แผกไปจำกเดิมและเป็นช่องทำงให้สิ่งมีชีวิตเกิดสปีชีส์ใหม่ๆขึ้น
43.
- กำรสังเครำะห์ DNA
หรือกำรจำลองตัวเองของ DNA โดยวิธ๊ที่เรียกว่ำ DNA replication ซึ่งพอลินิวคลีโอ ไทด์ 2 สำย แยกออกจำกกันเหมือนกำรรูดซิปโดยกำรสลำยพันธะไฮโดรเจนระหว่ำง A=T และ CG ซึ่ง เปรียบเสมือนแม่พิมพ์สำหรับกำรสร้ำงสำยใหม่ต่อไปโดยกำรทำงำนของ DNA polymerase - กำรควบคุมลักษณะทำงพันธุกรรมโดย DNA เนื่องจำกโครงสร้ำงของ DNA ประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์สอง สำยที่มีควำมยำวนับพันนับหมื่นคู่เบสกำรเรียงลำดับจึงมีควำมแตกต่ำงอย่ำงหลำกหลำย เรียกว่ำ รหัส พันธุกรรม (genetic code) - DNA กับกำรสังเครำะห์โปรตีน ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ 1. กำรสังเครำะห์ RNA จำก DNA แม่พิมพ์ 2. กำรสังเครำะห์โปรตีนที่ไรโบโซม นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับสมบัติของสำรพันธุกรรม และ กำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำพันธุศำสตร์ ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับสมบัติของสำรพันธุกรรมอีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำพันธุ ศำสตร์ชั้นสูงต่อไปได้ กำรถอดรหัส กำรแปลรหัส DNA mRNA พอลิเพปไทด์ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
44.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 หน่วยกำรเรียนที่ 2
เรื่อง มิวเทชัน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรถ่ำยทอดสำรพันธุกรรม กำรแปรผันทำงพันธุกรรม มิวเทชัน และกำรเกิด ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรเกิดมิวเทชัน และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของมิวเทชันได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงกระบวนกำรเกิดมิวเทชันได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องมิวเทชันไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆจะมีลูกหลำนลักษณะที่ไม่เหมือนกันที่เดียว ซึ่งเป็นผลมำจำกยีนหรือ DNA มีกำร เปลี่ยนแปลง ซึ่งนักพันธุศำสตร์เรียกกำรเปลี่ยนแปลงลำดับหรือจำนวนของเบสใน DNA และกำรเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นกับโครโมโซมซึ่งมีผลทำให้ลักษณะหรือฟีโนไทป์ของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไป และสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะ ไปยังรุ่นต่อๆไปได้นี้ว่ำ กำรกลำยหรือมิวเทชัน (mutation) 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรเกิดมิวเทชันได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องมิวเทชันไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำง ถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของมิวเทชันกับกำรดำรงชีวิตของ มนุษย์ 5. สมรรถนะ การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และการคิด
45.
6. ชิ้นงาน /
ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “มิวเทชันหมำยถึงอะไรเกิดขึ้นได้อย่ำงไรและมิวเทชันมีผลกระทบ ต่อสิ่งมีชีวิตอย่ำงไร” แนวตอบ คือ กำรเปลี่ยนแปลงลำดับหรือจำนวนของเบสใน DNA และกำร เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโครโมโซมซึ่งมีผลทำให้ลักษณะหรือฟีโนไทป์ของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไป และสำมำรถ ถ่ำยทอดลักษณะไปยังรุ่นต่อๆไปได้ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “มิวเทชัน” ว่ำ - สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆจะมีลูกหลำนลักษณะที่ไม่เหมือนกันที่เดียว ซึ่งเป็นผลมำจำกยีนหรือ DNA มีกำร เปลี่ยนแปลง ซึ่งนักพันธุศำสตร์เรียกกำรเปลี่ยนแปลงลำดับหรือจำนวนของเบสใน DNA และกำรเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นกับโครโมโซมซึ่งมีผลทำให้ลักษณะหรือฟีโนไทป์ของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไป และสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะ ไปยังรุ่นต่อๆไปได้นี้ว่ำ กำรกลำยหรือมิวเทชัน (mutation) - กำรเกิดมิวเทชันเฉพำะที่ในบริเวณ DNA ที่เป็นตำแหน่งของยีน สำมำรถจัดได้เป็น 2 ประเภทคือ 1. กำรแทนที่คู่เบส (base-pair substitution) เช่น โรคโลหิตจำงชนิดซิกเคิลเซลล์ 2. กำรเพิ่มขึ้นของนิวคลีโอไทด์ (insertion) และกำรขำดหำยไปของนิวคลีโอไทด์ (deletion) ซึ่งทำ ให้ลำดับกรดอะมิโนมีกำรเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด เรียกว่ำ เฟรมชิฟท์ มิวเทชัน (frameshift mutation) - สิ่งก่อกำรกลำยพันธุ์ (mutagen) ทั้งที่เป็นรังสีและสำรเคมี รวมทั้งควำมผิดพลำดที่เกิดขณะมีกำรแบ่งเซลล์ แบบไมโอซิส สำมำรถทำให้เกิดมิวเทชันระดับโครโมโซม เช่น กลุ่มอำกำรคริดูชำต์ กลุ่มอำกำรดำวน์ กลุ่ม
46.
อำกำรพำทัวซินโดรม กลุ่มอำกำรเอ็ดเวิร์ด ซินโดรม
กลุ่มอำกำรเทอร์เนอร์ซินโดรม เอ็กซ์วำยวำย ซินโดรม และไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรเกิด มิวเทชันและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรเกิดมิวเทชันอีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 หน่วยกำรเรียนที่ 3 เรื่อง พันธุวิศวกรรม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์
47.
รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา
4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของเทคโนโลยีชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำควำมรู้ ไปใช้ประโยชน์ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรทำงพันธุวิศวกรรม และสำมำรถนำควำมรู้ไป ประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของพันธุวิศวกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงกระบวนกำรทำงพันธุวิศวกรรมได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องพันธุวิศวกรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - พันธุวิศวกรรมเป็นเทคนิคกำรสร้ำง DNA สำยผสมหรือ รีคอมบิแนนท์ DNA (recombinant DNA) ให้ได้ สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตำมควำมต้องกำร - เอนไซม์ในแบคทีเรียนที่สำมำรถตัดสำย DNA บริเวณที่มีลำดับเบสจำเพำะ เรียกว่ำ เอนไซม์ตัดจำเพำะ (restriction enzyme) และสำมำรถเชื่อมสำย DNA ที่ถูกตัดแล้วมำต่อกันได้ด้วย เอนไซม์ไลเกส (DNA ligase enzyme) 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรทำงพันธุวิศวกรรมได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องพันธุวิศวกรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของพันธุวิศวกรรมกับกำรดำรงชีวิต ของมนุษย์ 5. สมรรถนะ การสื่อสาร ทักษะชีวิต การใช้เทคโนโลยี และการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้
48.
สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม
และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “พันธุวิศวกรรมคืออะไรและมีกระบวนกำรอย่ำงไร” แนวตอบ คือ พันธุวิศวกรรมเป็นเทคนิคกำรสร้ำง DNA สำยผสมหรือ รีคอมบิแนนท์ DNA (recombinant DNA) ให้ได้สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตำมควำมต้องกำร ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “พันธุวิศวกรรม” ว่ำ - พันธุวิศวกรรมเป็นเทคนิคกำรสร้ำง DNA สำยผสมหรือ รีคอมบิแนนท์ DNA (recombinant DNA) ให้ได้ สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตำมควำมต้องกำร - เอนไซม์ในแบคทีเรียนที่สำมำรถตัดสำย DNA บริเวณที่มีลำดับเบสจำเพำะ เรียกว่ำ เอนไซม์ตัดจำเพำะ (restriction enzyme) และสำมำรถเชื่อมสำย DNA ที่ถูกตัดแล้วมำต่อกันได้ด้วย เอนไซม์ไลเกส (DNA ligase enzyme) - เอนไซม์ตัดจำเพำะจะทำให้เรำได้สำย DNA หลังจำกถูกตัดแล้วใน 2 รูปแบบ คือ ปลำยเหนียว (sticky end) และ ปลำยทู่ (blunt end) - กำรเชื่อมต่อสำย DNA ด้วยเอนไซม์ไลเกสเป็นกำรเร่งปฏิกิริยำกำรสร้ำงพันธะโควำเลนต์ที่เรียกว่ำ พันธะฟอส โฟไดเอสเตอร์ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรทำง พันธุวิศวกรรมและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
49.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรทำงพันธุวิศวกรรมอีกทั้งสำมำรถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
50.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 หน่วยกำรเรียนที่ 3
เรื่อง กำรโคลนยีน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของเทคโนโลยีชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำควำมรู้ ไปใช้ประโยชน์ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรโคลนยีน และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรโคลนยีนได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงกระบวนกำรของกำรโคลนยีนได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรโคลนยีนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - วิธีกำรที่จะสำมำรถดำรง DNA สำยผสมให้คงอยู่และเพิ่มจำนวนเพื่อใช้ในกำรศึกษำให้มำกพอและ เหมือนๆกัน นั้นเรียกว่ำ กำรโคลนยีน (DNA cloning) และหำก DNA บริเวณดังกล่ำวเป็นยีน ก็อำจเรียกว่ำ กำรโคลนยีน (gene cloning) - กำรโคลนยีนสำมรถทำได้หลำกหลำยแบบ เช่น 1. กำรโคลนยีนโคลนยีนโดยอำศัยพลำสมิดของแบคทีเรีย 2. กำรโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชันหรือพีซีอำร์ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรโคลนยีนได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องกำรโคลนยีนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำง ถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรโคลนยีนกับกำรดำรงชีวิตของ มนุษย์
51.
5. สมรรถนะ การคิด ทักษะชีวิต
และการใช้เทคโนโลยี 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “กำรโคลนยีนคืออะไรและมีวิธีกำรอย่ำงไร” แนวตอบ คือ วิธีกำรที่จะสำมำรถดำรง DNA สำยผสมให้คงอยู่และเพิ่มจำนวนเพื่อ ใช้ในกำรศึกษำให้มำกพอและเหมือนๆกัน ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรโคลนยีน” ว่ำ - วิธีกำรที่จะสำมำรถดำรง DNA สำยผสมให้คงอยู่และเพิ่มจำนวนเพื่อใช้ในกำรศึกษำให้มำกพอและ เหมือนๆกัน นั้นเรียกว่ำ กำรโคลนยีน (DNA cloning) และหำก DNA บริเวณดังกล่ำวเป็นยีน ก็อำจเรียกว่ำ กำรโคลนยีน (gene cloning) - กำรโคลนยีนสำมรถทำได้หลำกหลำยแบบ เช่น 1. กำรโคลนยีนโคลนยีนโดยอำศัยพลำสมิดของแบคทีเรีย 2. กำรโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชันหรือพีซีอำร์ - กำรโคลนยีนโคลนยีนโดยอำศัยพลำสมิดของแบคทีเรีย คือกำรอำศัยวิธีกำรเพิ่มจำนวนชุด DNA ในพลำสมิด (plasmid) ของแบคทีเรียซึ่งถือว่ำเป็น DNA พำหะ (vector) สำหรับกำรโคลน DNA อย่ำงหนึ่ง
52.
- กำรโคลนยีนในหลอดทดลองโดยเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชันหรือพีซีอำร์ (Polymerase
Chain Reaction : PCR)โดยปัจจุบันอำศัยเครื่องมือทีเรียกว่ำ เทอร์มอไซเคลอร์ (thermocycle) ซึ่งเป็นเครื่องมือ ควบคุมอุณหภูมิให้ปรับเปลี่ยนตำมกำหนดเวลำที่ตั้งไว้ได้ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ กำรโคลนยีนและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรโคลนยีนอีกทั้งสำมำรถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
53.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 หน่วยกำรเรียนที่ 3
เรื่อง กำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของเทคโนโลยีชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำควำมรู้ ไปใช้ประโยชน์ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนม และ สำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนมได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงกระบวนกำรของกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนมได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ในกำรศึกษำDNA ซึ่งรวมทั้งกำรวิเครำะห์ลำดับ DNA (DNA analysis) จะต้องอำศัยควำมรู้พื้นฐำนในกำร แยกโมเลกุลของ DNA ที่มีขนำดประจุปละรูปร่ำงแตกต่ำงกันออกจำกกันในสนำมไฟฟ้ำผ่ำนตัวกลำง ซึ่งเรียก วิธีนี้ว่ำ เจลอิเล็กโทรโฟริซิส (Gel electrophoresis) ซึ่งสำมำรถใช้แยกและศึกษำโมเลกุลของโปรตีนได้ด้วย - จีโนมของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันมีควำมแตกต่ำงกัน ซึ่งสำมำรถตรวจสอบควำมแตกต่ำงได้โดยอำศัยกำร ทำงำนของเอนไซม์ตัดจำเพำะแล้วนำชิ้น DNA ไปแยกขนำดโดยวิธีกำรเจลอิเล็กโทรโฟริซิสและตรวจสอบโดย วิธีจำเพำะจะได้รูปแบบของแถบ DNA ที่แตกต่ำงกัน เรียกวิธีกำรนี้ว่ำ เรสตริกชัน แฟรกเมนท์ เลจท์ พอลิมอร์ ฟิซึม (restriction fragment length polymorphism : RFLP) ซึ่งสำมำรถใช้เป็นเครื่องหมำยทำงพันธุกรรม (genetic marker) ได้ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนม ได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนมไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง
54.
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรวิเครำะห์
DNA และ กำรศึกษำจีโนมกับกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ การแก้ปัญหา การคิด ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “นักวิทยำศำสตร์สำมำรถแยกขนำดของ DNA ที่ได้จำกกำรโคลน ด้วยวิธีกำรใดและมีประโยชน์อย่ำงไร” แนวตอบ คือ กำรวิเครำะห์ลำดับ DNA (DNA analysis) ซึ่งสำมำรถนำไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำจีโนมโดยวิธีกำรเรสตริกชัน แฟรกเมนท์ เลจท์ พอลิมอร์ฟิซึม (restriction fragment length polymorphism : RFLP) ซึ่งสำมำรถใช้เป็นเครื่องหมำยทำงพันธุกรรม (genetic marker) ได้ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนม” ว่ำ - ในกำรศึกษำDNA ซึ่งรวมทั้งกำรวิเครำะห์ลำดับ DNA (DNA analysis) จะต้องอำศัยควำมรู้พื้นฐำนในกำร แยกโมเลกุลของ DNA ที่มีขนำดประจุปละรูปร่ำงแตกต่ำงกันออกจำกกันในสนำมไฟฟ้ำผ่ำนตัวกลำง ซึ่งเรียก วิธีนี้ว่ำ เจลอิเล็กโทรโฟริซิส (Gel electrophoresis) ซึ่งสำมำรถใช้แยกและศึกษำโมเลกุลของโปรตีนได้ด้วย
55.
- จีโนมของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันมีควำมแตกต่ำงกัน ซึ่งสำมำรถตรวจสอบควำมแตกต่ำงได้โดยอำศัยกำร ทำงำนของเอนไซม์ตัดจำเพำะแล้วนำชิ้น
DNA ไปแยกขนำดโดยวิธีกำรเจลอิเล็กโทรโฟริซิสและตรวจสอบโดย วิธีจำเพำะจะได้รูปแบบของแถบ DNA ที่แตกต่ำงกัน เรียกวิธีกำรนี้ว่ำ เรสตริกชัน แฟรกเมนท์ เลจท์ พอลิมอร์ ฟิซึม (restriction fragment length polymorphism : RFLP) ซึ่งสำมำรถใช้เป็นเครื่องหมำยทำงพันธุกรรม (genetic marker) ได้ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ กำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนมและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรวิเครำะห์ DNA และกำรศึกษำจีโนมอีก ทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
56.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 หน่วยกำรเรียนที่ 3
เรื่อง กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของเทคโนโลยีชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำควำมรู้ ไปใช้ประโยชน์ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในด้ำนต่ำงๆ และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในด้ำนต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงกระบวนกำรของกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในด้ำนต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในด้ำนต่ำงๆไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำง ถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงกำรแพทย์และเภสัชกรรม ได้แก่ 1. กำรวินิจฉัยโรค 2. กำรบำบัดด้วยยีน 3. กำรสร้ำงผลิตภัณฑ์ทำงเภสัชกรรม - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงนิติวิทยำศำสตร์ - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงกำรเกษตร - กำรใช้พันธุศำสตร์เพื่อศึกษำค้นคว้ำหำยีนและหน้ำที่ของยีน - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA เพื่อสิ่งแวดล้อม 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ใน ด้ำนต่ำงๆ ได้อย่ำงถูกต้อง
57.
ทักษะ / กระบวนกำร
(P) นำควำมรู้เรื่องกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในด้ำนต่ำงๆไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA กับกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ การแก้ปัญหา ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “มีกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยี DNA ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมอย่ำงไรบ้ำง” แนวตอบ คือ กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงกำรแพทย์และเภสัชกรรม กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงนิติวิทยำศำสตร์ กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิง กำรเกษตร กำรใช้พันธุศำสตร์เพื่อศึกษำค้นคว้ำหำยีนและหน้ำที่ของยีนและกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA เพื่อสิ่งแวดล้อม ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA” ว่ำ - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงกำรแพทย์และเภสัชกรรม ได้แก่ 1. กำรวินิจฉัยโรค เช่น โรคที่เกิดจำกกำรติดเชื้อต่ำงๆ โรคทำงพันธุกรรม
58.
2. กำรบำบัดด้วยยีน เช่น
Severe Combined Immunodefiency Disorder (SCID) 3. กำรสร้ำงผลิตภัณฑ์ทำงเภสัชกรรม เช่น ฮอร์โมนอินซูลินเพื่อรักษำโรคเบำหวำน - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงนิติวิทยำศำสตร์ เช่น ลำยพิมพ์ DNA โดยใช้ DNA band - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในเชิงกำรเกษตร 1. กำรทำฟำร์มสัตว์เพื่อสุขภำพมนุษย์ 2. กำรสร้ำงพืชดัดแปลงพันธุกรรม 3. กำรปรับปรุงพันธุ์โดยอำศัยวิธีกำรของโมเลกูลำร์ บรีดดิง - กำรใช้พันธุศำสตร์เพื่อศึกษำค้นคว้ำหำยีนและหน้ำที่ของยีน โดยใช้กำรจัดทำเป็นข้อมูลชีวสำรสนเทศ - กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA เพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้ำงสำยพันธุจุลินทรีย์หรือพืชที่มีควำมสำมำรถใน กำรย่อยสลำยสำรที่ไม่พึงประสงค์ที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ในด้ำนต่ำงๆและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA ใน ด้ำนต่ำงๆ อีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
59.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 หน่วยกำรเรียนที่ 3
เรื่อง ควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของเทคโนโลยีชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและนำควำมรู้ ไปใช้ประโยชน์ ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรของควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA และ สำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA ได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงกระบวนกำรของควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA ได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - เนื่องด้วยเทคโนโลยีของกำรสร้ำง DNA สำยผสมและกำรสร้ำงสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีที่มี ประสิทธิภำพและมีควำมก้ำวหน้ำอย่ำงรวดเร็ว เกิดกำรศึกษำทำงชีววิทยำอย่ำงกว้ำงขวำงพร้อมกับสำยพันธุ์ สิ่งมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นอย่ำงมำกมำยบนโลกอย่ำงที่ไม่เคยมีมำก่อน ทำให้สังคมเริ่มตระหนักและหวั่งเกรงผลเสียที่ อำจเนื่องมำจำกเทคโนโลยีนี้ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและกระบวนกำรของควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA ได้อย่ำงถูกต้อง ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA ไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำงถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA กับกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ การสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี
60.
6. ชิ้นงาน /
ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมและข้อมูลจำกจีโนมมนุษย์มี ผลกระทบต่อสังคมอย่ำงไรและจะมีระบบกำรจัดกำรเพื่อให้เกิดควำมปลอดภัยและมีจริยธรรมได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ มนุษย์ทุกคนควรมีสิทธิในกำรรับทรำบควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยี และใช้ข้อมูลต่ำงๆในกำรวิเครำะห์อย่ำงถี่ถ้วนรอบคอบเพื่อเป็นประโยชน์ต่อกำรตัดสินใจในกำรร่วมกันวำง แผนกำรใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีต่ำงๆร่วมกันในอนำคต ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “ควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA” ว่ำ - เนื่องด้วยเทคโนโลยีของกำรสร้ำง DNA สำยผสมและกำรสร้ำงสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีที่มี ประสิทธิภำพและมีควำมก้ำวหน้ำอย่ำงรวดเร็ว เกิดกำรศึกษำทำงชีววิทยำอย่ำงกว้ำงขวำงพร้อมกับสำยพันธุ์ สิ่งมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นอย่ำงมำกมำยบนโลกอย่ำงที่ไม่เคยมีมำก่อน ทำให้สังคมเริ่มตระหนักและหวั่งเกรงผลเสียที่ อำจเนื่องมำจำกเทคโนโลยีนี้ - ควำมหวั่งเกรงต่อควำมผิดพลำดเริ่มจำกควำมหวำดกลัวว่ำจะเป็นแนวทำงกำรเกิดเชื้อโรคสำยพันธุ์ใหม่ๆที่ดื้อ ยำปฏิชีวนะ นอกจำกนี้กระแสกำรต่อต้ำนพืช GMOs ของประชำชนในหลำยประเทศและได้สร้ำงข้อตกลงเพื่อ ควำมปลอดภัยทำงชีวภำพ - มนุษย์ทุกคนควรมีสิทธิในกำรรับทรำบควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีและใช้ข้อมูลต่ำงๆในกำรวิเครำะห์อย่ำงถี่ ถ้วนรอบคอบเพื่อเป็นประโยชน์ต่อกำรตัดสินใจในกำรร่วมกันวำงแผนกำรใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีต่ำงๆ ร่วมกันในอนำคต
61.
นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ ควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNAและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นสรุป :
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของควำมปลอดภัยของเทคโนโลยีทำง DNA อีก ทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
62.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 หน่วยกำรเรียนที่ 4
เรื่อง หลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/4 อธิบำยกระบวนกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติและผลกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติต่อควำมลำก หลำยของสิ่งมีชีวิต ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมสำคัญและควำมแตกต่ำงของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำวิวัฒนำกำร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมสำคัญของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตไปใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำรได้อย่ำง ถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - กำรเปลี่ยแปลง DNA ทำให้เกิดลักษณะของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปกำรเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตที่มี ลักษณะเปลี่ยนแปลงไปจำกบรรพบุรุษและสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะนี้ไปยังรุ่นต่อไป ทำให้ลูกหลำนที่เกิดขึ้นมี ลักษณะแตกต่ำงจำกบรรพบุรุษและถูกคัดเลือกให้มีชีวิตอยู่รอดในสภำพแวดล้อมที่ต่ำงกันในระยะเวลำที่ ยำวนำน เรียกกำรเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตนี้ว่ำ วิวัฒนำกำร (evolution) - หลักฐำนและข้อมูลที่สำมำรถบ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตได้ คือ 1. หลักฐำนจำกซำกดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิต 2. หลักฐำนจำกกำยวิภำคเปรียบเทียบ 3. หลักฐำนจำกคัพภะวิทยำเปรียบเทียบ 4. หลักฐำนด้ำนชีววิทยำระดับโมเลกุล 5. หลักฐำนด้ำนชีวภูมิศำสตร์
63.
4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K)
อธิบำยควำมสำคัญและควำมแตกต่ำงของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิต ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำร ของสิ่งมีชีวิตกับกำรศึกษำทำงด้ำนวิวัฒนำกำร 5. สมรรถนะ การสื่อสาร การคิด และการใช้เทคโนโลยี 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “หลักฐำนต่ำงๆสนับสนุนกำรเกิดวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต อย่ำงไร” แนวตอบ คือ ทำให้เรำทรำบถึงลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจำกบรรพ บุรุษและสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะนี้ไปยังรุ่นต่อไป ซึ่งถูกคัดเลือกให้มีชีวิตอยู่รอดในสภำพแวดล้อมที่ต่ำงกันใน ระยะเวลำที่ยำวนำน ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “หลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต” ว่ำ
64.
- กำรเปลี่ยแปลง DNA
ทำให้เกิดลักษณะของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปกำรเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตที่มี ลักษณะเปลี่ยนแปลงไปจำกบรรพบุรุษและสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะนี้ไปยังรุ่นต่อไป ทำให้ลูกหลำนที่เกิดขึ้นมี ลักษณะแตกต่ำงจำกบรรพบุรุษและถูกคัดเลือกให้มีชีวิตอยู่รอดในสภำพแวดล้อมที่ต่ำงกันในระยะเวลำที่ ยำวนำน เรียกกำรเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตนี้ว่ำ วิวัฒนำกำร (evolution) - หลักฐำนและข้อมูลที่สำมำรถบ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตได้ คือ 1. หลักฐำนจำกซำกดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเปรียบเสมือนกำรบันทึกเหตุกำรณ์สนับสนุนว่ำ สิ่งมีชีวิตเหล่ำนี้เคยปรำกฏอยู่บนโลกในอดีตแต่ในปัจจุบันสิ่งมีชีวิตหลำยชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 2. หลักฐำนจำกกำยวิภำคเปรียบเทียบ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ องค์ประกอบเหมือนกันแต่ทำ หน้ำที่แตกต่ำงกันในกำรดำรงชีวิต เรียกโครงสร้ำงลักษณะนี้ว่ำ ฮอโมโลกัส (homologous structure) แต่ถ้ำ องค์ประกอบต่ำงกันแต่ทำหน้ำที่เหมือนกันในกำรดำรงชีวิต จะเรียกโครงสร้ำงลักษณะนี้ว่ำ อะนำโลกัส (analogous structure) 3. หลักฐำนจำกคัพภะวิทยำเปรียบเทียบ โดยกำรเจริญเติบโตของเอ็มบริโอสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ระยะแรกๆจะเห็นว่ำมีอวัยวะบำงอย่ำงที่คล้ำยคลึงกัน เช่น ช่องเหงือก (gill slit) และหำง เป็นต้น 4. หลักฐำนด้ำนชีววิทยำระดับโมเลกุล เป็นหลักฐำนที่ได้จำกข้อเท็จจริงที่ว่ำสิ่งมีชีวิตมี DNA เป็นสำร พันธุกรรม ยกเว้น ไวรัสบำงชนิด และสิ่งมีชีวิตมีกลไกกำรสังเครำะห์ DNA RNA และโปรตีนแบบเดียวกัน 5. หลักฐำนด้ำนชีวภูมิศำสตร์ โดยสังเกตพืชและสัตว์ที่แพร่กระจำยในบริเวณภูมิศำสตร์ต่ำงๆบนพื้นที่ โลกนี้ จะเห็นได้ว่ำมีควำมแตกต่ำงกันและมีจำนวนมำกหลำกหลำยสปีชีส์ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมสำคัญและควำมแตกต่ำง ของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมสำคัญและควำมแตกต่ำงของหลักฐำนที่บ่งบอกถึงวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิตอีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
65.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 หน่วยกำรเรียนที่ 4
เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/4 อธิบำยกระบวนกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติและผลกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติต่อควำมลำก หลำยของสิ่งมีชีวิต ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและควำมแตกต่ำงของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตและ สำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำวิวัฒนำกำร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตไปใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำรได้อย่ำง ถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ในอดีตโดยเฉพำะในวัฒนธรรมของคนตะวันตกมีควำมเชื่อว่ำสิ่งมีชีวิตต่ำงๆบนโลกนี้เกิดจำกอนุภำพเหนือ ธรรมชำติ ต่อมำได้มีกำรค้นพบซำกดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิตในชั้นหินทำให้เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีตที่ สูญพันธุ์ไปแล้วอีกทั้งสภำพภูมิศำสตร์ของโลกที่มีกำรเปลี่ยนแปลงตลอดเวลำจึงเกิดควำมเชื่อว่ำสิ่งมีชีวิตน่ำจะ มีกำรเปลี่ยนแปลงให้เข้ำกับสภำพแวดล้อมในแต่ละยุคสมัยทำให้ยอมรับว่ำสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนำกำร - แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต ประกอบด้วย 1. แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของลำมำร์ก 2. แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรกำรคัดเลือกโดยธรรมชำติของดำร์วิน 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยและควำมแตกต่ำงของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิต ทักษะ / กระบวนกำร (P) นำควำมรู้เรื่องแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร
66.
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิตกับกำรศึกษำทำงด้ำนวิวัฒนำกำร 5.
สมรรถนะ การแก้ปัญหา การคิด และการใช้เทคโนโลยี 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “นักวิทยำศำสตร์ในอดีตมีแนวควำมคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิตอย่ำงไรบ้ำง” แนวตอบ คือ แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของลำมำร์กและแนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนำกำรกำรคัดเลือกโดยธรรมชำติของดำร์วิน ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต” ว่ำ - ในอดีตโดยเฉพำะในวัฒนธรรมของคนตะวันตกมีควำมเชื่อว่ำสิ่งมีชีวิตต่ำงๆบนโลกนี้เกิดจำกอนุภำพเหนือ ธรรมชำติ ต่อมำได้มีกำรค้นพบซำกดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิตในชั้นหินทำให้เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีตที่ สูญพันธุ์ไปแล้วอีกทั้งสภำพภูมิศำสตร์ของโลกที่มีกำรเปลี่ยนแปลงตลอดเวลำจึงเกิดควำมเชื่อว่ำสิ่งมีชีวิตน่ำจะ มีกำรเปลี่ยนแปลงให้เข้ำกับสภำพแวดล้อมในแต่ละยุคสมัยทำให้ยอมรับว่ำสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนำกำร - แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต ประกอบด้วย 1. แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของลำมำร์ก กล่ำวว่ำ อวัยวะส่วนใดที่มีกำรใช้งำนมำกในกำรดำรงชีวิต จะมีขนำดใหญ่และแข็งแรงขึ้น ขณะที่อวัยวะที่ไม่ค่อยได้ใช้งำนจะอ่อนแอและเสื่อมลงไป ซึ่งเรียกว่ำ กฎกำรใช้
67.
และไม่ใช้ (Law of
use and disuse) และกำรเปลี่ยนแปลงโครงสร้ำงของสิ่งมีชีวิตภำยในชั่วรุ่นนั่นนั้นสำมำรถ ถ่ำยทอดไปยังรุ่นลูกได้ ซึ่งเรียกว่ำ กฎกำรถ่ำยทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ (Law of inheritance of acquired characteritic) 2. แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรกำรคัดเลือกโดยธรรมชำติของดำร์วิน กล่ำวว่ำ สิ่งมีชีวิตที่พบ แพร่กระจำยบนโลกนี้เกิดจำกกำรสะสมควำมแตกต่ำงไปจำกบรรพบุรุษซึ่งเป็นลักษณะที่เหมำะสมกับ สภำพแวดล้อมขณะนั้นและถูกคัดเลือกให้สำมำรถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภำพแวดล้อมนั้น ลักษณะดังกล่ำวถือเป็น กำรปรับตัว (adaptation) ของสิ่งมีชีวิตให้เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมเพื่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ (specise) ใหม่ขึ้น แนวคิดดังกล่ำวนี้ เรียกว่ำ ทฤษฎีกำรคัดเลือกโดยธรรมชำติ (Theory of Natural Selection) นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและควำมแตกต่ำง ของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและควำมแตกต่ำงของแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต อีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
68.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 หน่วยกำรเรียนที่ 4
เรื่อง พันธุศำสตร์ประชำกร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/4 อธิบำยกระบวนกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติและผลกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติต่อควำมลำก หลำยของสิ่งมีชีวิต ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและสำมำรถแก้โจทย์ปัญหำที่เกี่ยวกับพันธุศำสตร์ประชำกรอีกทั้ง สำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำวิวัฒนำกำร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของพันธุศำสตร์ประชำกรได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 สำมำรถแก้โจทย์ปัญหำที่เกี่ยวกับพันธุศำสตร์ประชำกรได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องพันธุศำสตร์ประชำกรไปใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำรได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ประชำกร หมำยถึงกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่อำศัยอยู่รวมกันในพื้นที่หนึ่งๆ โดยสมำชิกในประชำกรของสิ่งมีชีวิตนั้น สำมำรถสืบพันธุ์ระหว่ำงกันได้และให้ลูกที่ไม่เป็นหมัน - พันธุศำสตร์ประชำกรเป็นกำรศึกษำที่เกี่ยวกับกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ยีน (gene frequency) หรือกำร เปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน(allele frequency) ที่เป็นองค์ประกอบทำงพันธุกรรมของประชำกรและ ปัจจัยที่ทำให้ควำมถี่แอลลีนเปลี่ยนแปลง - ทฤษฎีของฮำร์ดี-ไวท์เบิร์ก กล่ำวว่ำ ควำมถี่แอลลีนและควำมถี่จีโนไทป์ในยีนพูลของประชำกรจะมีค่ำคงที่ใน ทุกๆรุ่นถ้ำไม่มีปัจจัยบำงอย่ำงมำเกี่ยวข้อง เรียกว่ำ ภำวะสมดุลของฮำร์ดี-ไวท์เบิร์ก 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยของพันธุศำสตร์ประชำกร ทักษะ / กระบวนกำร (P) แก้โจทย์ปัญหำที่เกี่ยวกับพันธุศำสตร์ประชำกร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของพันธุศำสตร์ประชำกรกับ กำรศึกษำทำงด้ำนวิวัฒนำกำร
69.
5. สมรรถนะ การแก้ปัญหา การคิด
และการสื่อสาร 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “พันธุศำสตร์ประชำกรคืออะไรและเกี่ยวกับวิวัฒนำกำรอย่ำงไร” แนวตอบ คือ พันธุศำสตร์ประชำกรเป็นกำรศึกษำที่เกี่ยวกับกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ ยีน (gene frequency) หรือกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน (allele frequency) ที่เป็นองค์ประกอบ ทำงพันธุกรรมของประชำกรและปัจจัยที่ทำให้ควำมถี่แอลลีนเปลี่ยนแปลง ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “พันธุศำสตร์ประชำกร” ว่ำ - ประชำกร หมำยถึงกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่อำศัยอยู่รวมกันในพื้นที่หนึ่งๆ โดยสมำชิกในประชำกรของสิ่งมีชีวิตนั้น สำมำรถสืบพันธุ์ระหว่ำงกันได้และให้ลูกที่ไม่เป็นหมัน - พันธุศำสตร์ประชำกรเป็นกำรศึกษำที่เกี่ยวกับกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ยีน (gene frequency) หรือกำร เปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน(allele frequency) ที่เป็นองค์ประกอบทำงพันธุกรรมของประชำกรและ ปัจจัยที่ทำให้ควำมถี่แอลลีนเปลี่ยนแปลง - ทฤษฎีของฮำร์ดี-ไวท์เบิร์ก กล่ำวว่ำ ควำมถี่แอลลีนและควำมถี่จีโนไทป์ในยีนพูลของประชำกรจะมีค่ำคงที่ใน ทุกๆรุ่นถ้ำไม่มีปัจจัยบำงอย่ำงมำเกี่ยวข้อง เรียกว่ำ ภำวะสมดุลของฮำร์ดี-ไวท์เบิร์ก
70.
นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกำรแก้โจทย์ ปัญหำที่เกี่ยวกับพันธุศำสตร์ประชำกรและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบกิจกรรมแก้โจทย์ ปัญหำเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกำรแก้โจทย์ปัญหำที่เกี่ยวกับพันธุศำสตร์ประชำกรอีก ทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
71.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 หน่วยกำรเรียนที่ 4
เรื่อง ปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/4 อธิบำยกระบวนกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติและผลกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติต่อควำมลำก หลำยของสิ่งมีชีวิต ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลง ควำมถี่ของแอลลีนอีกทั้งสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำวิวัฒนำกำร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของปัจจัยกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนไปใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำรได้อย่ำง ถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - กำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนในประชำกรแต่ละรุ่นจะทำให้โครงสร้ำงทำงพันธุกรรมของประชำกรมี กำรเปลี่ยนแปลงน้อยจนไม่สำมำรถสังเกตเห็นได้ นั่นคือ ประชำกรเกิดวิวัฒนำกำรขึ้น เรียกว่ำ วิวัฒนำกำร ระดับจุลภำค (microevolution) ซึ่งถือได้ว่ำเป็นกำรเกิดวิวัฒนำกำรในระดับสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิต - ปัจจัยที่ทำให้ควำมถี่ของแอลลีนในประชำกรเปลี่ยนแปลงและเกิดวิวัฒนำกำร ได้แก่ 1. แรนดอมจีเนติกดริฟท์ 2. กำรคัดเลือกโดยธรรมชำติ 3. กำรถ่ำยเทเคลื่อนย้ำยยีน 4. มิวเทชัน 5. กำรเลือกคู่ผสมพันธุ์ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยควำมหมำยของปัจจัยกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน
72.
ทักษะ / กระบวนกำร
(P) สำมำรถเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงปัจจัยของกำร เปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของปัจจัยกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ ของแอลลีนกับกำรศึกษำทำงด้ำนวิวัฒนำกำร 5. สมรรถนะ การใช้เทคโนโลยี การคิด และการสื่อสาร 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “มีปัจจัยใดบ้ำงที่ทำให้ประชำกรเกิดวิวัฒนำกำรขึ้น” แนวตอบ คือ แรนดอมจีเนติกดริฟท์ กำรคัดเลือกโดยธรรมชำติ กำรถ่ำยเท เคลื่อนย้ำยยีน มิวเทชันและกำรเลือกคู่ผสมพันธุ์ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “ปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีน” ว่ำ - กำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนในประชำกรแต่ละรุ่นจะทำให้โครงสร้ำงทำงพันธุกรรมของประชำกรมี กำรเปลี่ยนแปลงน้อยจนไม่สำมำรถสังเกตเห็นได้ นั่นคือ ประชำกรเกิดวิวัฒนำกำรขึ้น เรียกว่ำ วิวัฒนำกำร ระดับจุลภำค (microevolution) ซึ่งถือได้ว่ำเป็นกำรเกิดวิวัฒนำกำรในระดับสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิต - ปัจจัยที่ทำให้ควำมถี่ของแอลลีนในประชำกรเปลี่ยนแปลงและเกิดวิวัฒนำกำร ได้แก่
73.
1. แรนดอมจีเนติกดริฟท์เป็นกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนที่เกิดขึ้นในประชำกรที่มีขนำดเล็ก ในธรรมชำติสำมำรถพบได้ 2
สถำนกำรณ์ คือ 1.1 ผลกระทบจำกผู้ก่อตัว (founder effect) 1.2 ปรำกฏกำรณ์คอขวด (bottleneck effect) 2. กำรคัดเลือกโดยธรรมชำติ กล่ำวว่ำ สิ่งมีชีวิตที่พบแพร่กระจำยบนโลกนี้เกิดจำกกำรสะสมควำม แตกต่ำงไปจำกบรรพบุรุษซึ่งเป็นลักษณะที่เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมขณะนั้นและถูกคัดเลือกให้สำมำรถ ดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภำพแวดล้อมนั้น ลักษณะดังกล่ำวถือเป็น กำรปรับตัว (adaptation) ของสิ่งมีชีวิตให้ เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมเพื่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ (specise) ใหม่ขึ้น 3. กำรถ่ำยเทเคลื่อนย้ำยยีน คือ โอกำสของกำรผสมพันธุ์ระหว่ำงสิ่งมีชีวิตทำให้เกิดกำรเคลื่อนย้ำยยีน หรือแอลลีนจำกประชำกรหนึ่งไปสู่อีกประชำกรหนึ่งทำให้ควำมถี่ของแอลลีนในประชำกรทั้งสองมีแนวโน้ม แตกต่ำงกันน้อยลงเรื่อยๆจนในที่สุดเปรียบเสมือนเป็นประชำกรเดียวกัน 4. มิวเทชัน คือ กำรที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆจะมีลูกหลำนลักษณะที่ไม่เหมือนกันที่เดียว ซึ่งเป็นผลมำ จำกยีนหรือ DNA มีกำรเปลี่ยนแปลง ซึ่งนักพันธุศำสตร์เรียกกำรเปลี่ยนแปลงลำดับหรือจำนวนของเบสใน DNA และกำรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโครโมโซมซึ่งมีผลทำให้ลักษณะหรือฟีโนไทป์ของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไป และสำมำรถถ่ำยทอดลักษณะไปยังรุ่นต่อๆไปได้ 5. กำรเลือกคู่ผสมพันธุ์ คือ ประชำกรที่สมำชิกทุกตัวมีโอกำสผสมพันธุ์ได้เท่ำๆกันจะไม่มีผลต่อกำร เปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนในยีนพูลของประชำกรในทุกๆรุ่นแต่ในธรรมชำติโดยทั่วไปสมำชิกในประชำกร มักจะมีกำรเลือกคู่ผสมพันธุ์จึงมีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนในยีนพูลของประชำกรรุ่นต่อไป นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับอธิบำยถึงควำมหมำยและกำร เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนและกำรนำมำประยุกต์ใช้ใน กำรศึกษำวิวัฒนำกำร ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบกิจกรรมแก้โจทย์ ปัญหำเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับอธิบำยถึงควำมหมำยและกำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำง ปัจจัยของกำรเปลี่ยนแปลงควำมถี่ของแอลลีนอีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
74.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 หน่วยกำรเรียนที่ 4
เรื่อง กำเนิดของสปีชีส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/4 อธิบำยกระบวนกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติและผลกำรคัดเลือกตำมธรรมชำติต่อควำมลำก หลำยของสิ่งมีชีวิต ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรกำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตอีกทั้งสำมำรถนำควำมรู้ไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำรำยวิชำวิวัฒนำกำร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรกำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 ลำดับขั้นตอนของกระบวนกำรกำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรกำเนิดสปีชีส์ไปใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำรได้อย่ำงถูกต้อง 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ควำมหมำยของสปีชีส์ ในปัจจุบันมี 2 แนวคิดสำคัญ คือ 1. สปีชีส์ทำงด้ำนสัณฐำนวิทยำ 2. สปีชีส์ทำงด้ำนชีววิทยำ - สิ่งมีชีวิตต่ำงสปีชีส์กันมีกำรป้องกันกำรผสมพันธุ์ระหว่ำงสปีชีส์ได้โดยกลไกกำรแยกกันทำงกำรสืบพันธุ์ ซึ่ง แบ่งออกได้ 2 ระดับ คือ 1. กลไกกำรแยกกันทำงกำรสืบพันธุ์ก่อนระยะไซโกต ได้แก่ ถิ่นที่อยู่อำศัย พฤติกรรมกำรผสมพันธุ์ ช่วงเวลำกำรผสมพันธุ์ โครงสร้ำงของอวัยวะสืบพันธุ์ และสรีรวิทยำของเซลล์สืบพันธุ์ 2. กลไกกำรแยกกันทำงกำรสืบพันธุ์หลังระยะไซโกต ได้แก่ ลูกผสมตำยก่อนถึงวัยเจริญพันธุ์ ลูกผสม เป็นหมัน และลูกผสมล้มเหลว - กำรเกิดสปีชีส์ใหม่ต่อเมื่อไม่มีกำรถ่ำยเทเคลื่อนย้ำยยีนระหว่ำงประชำกรในรุ่นบรรพบุรุษ ทำให้ประชำกรทั้ง สองมีโครงสร้ำงทำงพันธุกรรมที่แตกต่ำงกันและมีวิวัฒนำกำรเกิดเป็นสปีชีส์ใหม่ขึ้น ซึ่งมี 2 แนวทำงคือ 1. กำรเกิดสปีชีส์ใหม่จำกกำรแบ่งแยกทำงภูมิศำสตร์ 2. กำรเกิดสปีชีส์ใหม่ในเขตภูมิสำสตร์เดียวกัน
75.
4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K)
อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรกำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิต ทักษะ / กระบวนกำร (P) สำมำรถลำดับขั้นตอนของกระบวนกำรกำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรกำเนิดสปีชีส์กับกำรศึกษำ ทำงด้ำนวิวัฒนำกำร 5. สมรรถนะ การใช้เทคโนโลยี การแก้ปัญหา และการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “สปีชีส์มีควำมหมำยอย่ำงไรและสปีชีส์ใหม่เกิดได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ ควำมหมำยของสปีชีส์ ในปัจจุบันมี 2 แนวคิดสำคัญ คือ สปีชีส์ทำงด้ำนสัณฐำนวิทยำและสปีชีส์ทำงด้ำนชีววิทยำ ,กำรเกิดสปีชีส์ใหม่ต่อเมื่อไม่มีกำรถ่ำยเทเคลื่อนย้ำย ยีนระหว่ำงประชำกรในรุ่นบรรพบุรุษ ทำให้ประชำกรทั้งสองมีโครงสร้ำงทำงพันธุกรรมที่แตกต่ำงกันและมี วิวัฒนำกำรเกิดเป็นสปีชีส์ใหม่ขึ้น ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำเนิดของสปีชีส์” ว่ำ - ควำมหมำยของสปีชีส์ ในปัจจุบันมี 2 แนวคิดสำคัญ คือ 1. สปีชีส์ทำงด้ำนสัณฐำนวิทยำ 2. สปีชีส์ทำงด้ำนชีววิทยำ
76.
- สิ่งมีชีวิตต่ำงสปีชีส์กันมีกำรป้องกันกำรผสมพันธุ์ระหว่ำงสปีชีส์ได้โดยกลไกกำรแยกกันทำงกำรสืบพันธุ์ ซึ่ง แบ่งออกได้
2 ระดับ คือ 1. กลไกกำรแยกกันทำงกำรสืบพันธุ์ก่อนระยะไซโกต - ถิ่นที่อยู่อำศัย - พฤติกรรมกำรผสมพันธุ์ - ช่วงเวลำกำรผสมพันธุ์ - โครงสร้ำงของอวัยวะสืบพันธุ์ - สรีรวิทยำของเซลล์สืบพันธุ์ 2. กลไกกำรแยกกันทำงกำรสืบพันธุ์หลังระยะไซโกต - ลูกผสมตำยก่อนถึงวัยเจริญพันธุ์ - ลูกผสมเป็นหมัน - ลูกผสมล้มเหลว - กำรเกิดสปีชีส์ใหม่ต่อเมื่อไม่มีกำรถ่ำยเทเคลื่อนย้ำยยีนระหว่ำงประชำกรในรุ่นบรรพบุรุษ ทำให้ประชำกรทั้ง สองมีโครงสร้ำงทำงพันธุกรรมที่แตกต่ำงกันและมีวิวัฒนำกำรเกิดเป็นสปีชีส์ใหม่ขึ้น ซึ่งมี 2 แนวทำงคือ 1. กำรเกิดสปีชีส์ใหม่จำกกำรแบ่งแยกทำงภูมิศำสตร์ 2. กำรเกิดสปีชีส์ใหม่ในเขตภูมิสำสตร์เดียวกัน นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำร กำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรกำเนิดสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตอีกทั้งสำมำรถนำไป ประยุกต์ใช้ในกำรศึกษำวิวัฒนำกำร 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
77.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 หน่วยกำรเรียนที่ 5
เรื่อง ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและควำมสำคัญของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอีกทั้งสำมำรถนำ ควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 อธิบำยถึงควำมสำคัญของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพไปใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - สิ่งมีชีวิตที่พบในปัจจุบันเป็นผลมำจำกกำรเกิดวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตให้มีลักษณะเหมำะสมกับ สภำพแวดล้อมที่ดำรงชีวิตอยู่ซึ่งมีองค์ประกอบแตกต่ำงกันจนเกิดเป็นควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ (Biodiversity) ขึ้น - ในระบบนิเวศแต่ละระบบจะมีปัจจัยทำงกำยภำพและชีวภำพที่เหมำะสมกับสิ่งมีชีวิตที่อำศัยอยู่ในระบบนิเวศ นั้น ดังนั้น ระบบนิเวศที่แตกต่ำงกันย่อมจะมีสิ่งมีชีวิตที่อำศัยอยู่ในระบบนิเวศนั้นแตกต่ำงกันด้วย 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยถึงควำมหมำยและควำมสำคัญของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ทักษะ / กระบวนกำร (P) กำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของลักษณะควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพกับ กำรดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ การใช้เทคโนโลยี ทักษะชีวิต และการคิด
78.
6. ชิ้นงาน /
ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพคืออะไร” แนวตอบ คือ สิ่งมีชีวิตที่พบในปัจจุบันเป็นผลมำจำกกำรเกิดวิวัฒนำกำรของ สิ่งมีชีวิตให้มีลักษณะเหมำะสมกับสภำพแวดล้อมที่ดำรงชีวิตอยู่ซึ่งมีองค์ประกอบแตกต่ำงกัน ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ” ว่ำ - สิ่งมีชีวิตที่พบในปัจจุบันเป็นผลมำจำกกำรเกิดวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิตให้มีลักษณะเหมำะสมกับ สภำพแวดล้อมที่ดำรงชีวิตอยู่ซึ่งมีองค์ประกอบแตกต่ำงกันจนเกิดเป็นควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ (Biodiversity) ขึ้น - ในระบบนิเวศแต่ละระบบจะมีปัจจัยทำงกำยภำพและชีวภำพที่เหมำะสมกับสิ่งมีชีวิตที่อำศัยอยู่ในระบบนิเวศ นั้น ดังนั้น ระบบนิเวศที่แตกต่ำงกันย่อมจะมีสิ่งมีชีวิตที่อำศัยอยู่ในระบบนิเวศนั้นแตกต่ำงกันด้วย - องค์ประกอบสำคัญที่ก่อให้เกิดควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ได้แก่ 1. ควำมหลำกหลำยทำงพันธุกรรม 2. ควำมหลำกหลำยของสปีชีส์ 3. ควำมหลำกหลำยของระบบนิเวศ นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและควำมสำคัญของ ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม
79.
ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและควำมสำคัญของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอีกทั้งสำมำรถ นำไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
80.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 หน่วยกำรเรียนที่ 5
เรื่อง กำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอีกทั้ง สำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงขั้นตอนของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพไปใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - นักธรณีวิทยำและนักบรรพชีวินได้พยำยำมสร้ำงตำรำงเวลำเพื่อบันทึกลำดับเหตุกำรณ์กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ชนิดต่ำงๆในช่วงเวลำที่ผ่ำนมำ โดยใช้หลักฐำนของซำกดึกดำบรรพ์ที่สำมำรถคำนวณอำยุได้ ซึ่งเรียกว่ำ ตำรำง ธรณีกำล (The geologic time scale) - อนุกรมวิธำน (Taxonomy) ประกอบด้วย 1. กำรจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต 2. กำรตั้งชื่อของสิ่งมีชีวิต 3. กำรระบุชนิดของสิ่งมีชีวิต 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพ ทักษะ / กระบวนกำร (P) บอกถึงขั้นตอนของกระบวนกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพกับกำรดำรงชีวิตของมนุษย์
81.
5. สมรรถนะ การใช้เทคโนโลยี ทักษะชีวิต
การสื่อสารและการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “เรำจะศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวิภำพได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ อนุกรมวิธำน (Taxonomy) ประกอบด้วย กำรจัดหมวดหมู่ของ สิ่งมีชีวิต กำรตั้งชื่อของสิ่งมีชีวิตและกำรระบุชนิดของสิ่งมีชีวิต ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ” ว่ำ - นักธรณีวิทยำและนักบรรพชีวินได้พยำยำมสร้ำงตำรำงเวลำเพื่อบันทึกลำดับเหตุกำรณ์กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ชนิดต่ำงๆในช่วงเวลำที่ผ่ำนมำ โดยใช้หลักฐำนของซำกดึกดำบรรพ์ที่สำมำรถคำนวณอำยุได้ ซึ่งเรียกว่ำ ตำรำง ธรณีกำล (The geologic time scale) - อนุกรมวิธำน (Taxonomy) ประกอบด้วย 1. กำรจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต
82.
2. กำรตั้งชื่อของสิ่งมีชีวิต โดยทั่วไปแบ่งเป็น
2 ประเภท คือ - ชื่อสำมัญ (common name) แตกต่ำงไปตำมภำษำและท้องถิ่นต่ำงๆ - ชื่อวิทยำศำสตร์ (scientific name) เป็นสำกล ประกอบด้วย ชื่อสกุลและชื่อสปีชีส์ 3. กำรระบุชนิดของสิ่งมีชีวิต โดยอำศัยเครื่องมือระบุชนิดหรือกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ำ ไดโคโตมัส คีย์ (dichotomous key) นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ กำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอีก ทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
83.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 หน่วยกำรเรียนที่ 5
เรื่อง กำเนิดของชีวิต กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรกำเนิดของชีวิตอีกทั้งสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ ในกำรดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยควำมหมำยของกำรกำเนิดของชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงขั้นตอนของกำรกำเนิดของชีวิตได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรศึกษำกำรกำเนิดของชีวิตไปใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - นักวิทยำศำสตร์ในอดีตหลำยท่ำนได้ตั้งสมมติฐำนเพื่ออธิบำยถึงกำเนิดของสิ่งมีชีวิตชนิดแรกบนโลก โดยเชื่อ กันว่ำสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้เองจำกสิ่งไม่มีชีวิตซึ่งเป็นอิทธิพลของควำมเชื่อทำงศำสนำต่อมำหลุยส์ พลำสเตอร์ (Louis Pasteur) ได้ทำกำรวิจัยและพิสูจน์ได้ว่ำสิ่งมีชีวิตกำเนิดมำจำกสิ่งมีชีวิตเท่ำนั้น - เอ ไอ โอพำริน (A.I. Oparin) ได้เสนอแนวคิดว่ำ สิ่งมีชีวิตไม่สำมำรถเกิดขึ้นไดเองในช่วงเวลำสั้นๆเพียง ขั้นตอนเดียวแต่ต้องใช้เวลำมำก โดยกระบวนกำรวิวัฒนำกำรทำงเคมีอย่ำงช้ำๆ เป็นกำรสังเครำะห์สำรอินทรีย์ จำกโมเลกุลง่ำยๆเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อนขึ้น - สแตนเลย์ มิลเลอร์ (Stanley Miller) ได้ทำกำรทดลองเพื่อพิสูจน์แนวคิดของโอพำริน โดยแสดงให้เห็นว่ำ สำรประกอบอย่ำงง่ำยของสิ่งมีชีวิต สำมำรถเกิดขึ้นได้ภำยในชุดทดลองที่คำดว่ำเป็นสภำวะของโลกในเวลำนั้น คือ ไม่มีออกซิเจน - กำเนิดของชีวิต 1) กำเนิดของเซลล์โพรคำริโอต 2) กำเนิดของเซลล์ยูคำริโอต
84.
4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K)
อธิบำยถึงควำมหมำยและกระบวนกำรกำเนิดของชีวิต ทักษะ / กระบวนกำร (P) บอกถึงขั้นตอนของกระบวนกำรกำเนิดของชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรกำเนิดของชีวิตกับกำร ดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ ทักษะชีวิต การสื่อสารและการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “สิ่งมีชีวิตเกิดมทำได้อย่ำงไรและวิวัฒนำกำรเป็นสิ่งมีชีวิต หลำกหลำยสปีชีส์ในปัจจุบันได้อย่ำงไร” แนวตอบ คือ สิ่งมีชีวิตไม่สำมำรถเกิดขึ้นไดเองในช่วงเวลำสั้นๆเพียงขั้นตอนเดียวแต่ ต้องใช้เวลำมำก โดยกระบวนกำรวิวัฒนำกำรทำงเคมีอย่ำงช้ำๆ เป็นกำรสังเครำะห์สำรอินทรีย์จำกโมเลกุล ง่ำยๆเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อนขึ้นประกอบกันเป็นเซลล์ซึ่งหน่วยพื้นฐำนของสิ่งมีชีวิต ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำเนิดของชีวิต” ว่ำ - นักวิทยำศำสตร์ในอดีตหลำยท่ำนได้ตั้งสมมติฐำนเพื่ออธิบำยถึงกำเนิดของสิ่งมีชีวิตชนิดแรกบนโลก โดยเชื่อ กันว่ำสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้เองจำกสิ่งไม่มีชีวิตซึ่งเป็นอิทธิพลของควำมเชื่อทำงศำสนำต่อมำหลุยส์ พลำสเตอร์ (Louis Pasteur) ได้ทำกำรวิจัยและพิสูจน์ได้ว่ำสิ่งมีชีวิตกำเนิดมำจำกสิ่งมีชีวิตเท่ำนั้น
85.
- เอ ไอ
โอพำริน (A.I. Oparin) ได้เสนอแนวคิดว่ำ สิ่งมีชีวิตไม่สำมำรถเกิดขึ้นไดเองในช่วงเวลำสั้นๆเพียง ขั้นตอนเดียวแต่ต้องใช้เวลำมำก โดยกระบวนกำรวิวัฒนำกำรทำงเคมีอย่ำงช้ำๆ เป็นกำรสังเครำะห์สำรอินทรีย์ จำกโมเลกุลง่ำยๆเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อนขึ้น - สแตนเลย์ มิลเลอร์ (Stanley Miller) ได้ทำกำรทดลองเพื่อพิสูจน์แนวคิดของโอพำริน โดยแสดงให้เห็นว่ำ สำรประกอบอย่ำงง่ำยของสิ่งมีชีวิต สำมำรถเกิดขึ้นได้ภำยในชุดทดลองที่คำดว่ำเป็นสภำวะของโลกในเวลำนั้น คือ ไม่มีออกซิเจน - กำเนิดของชีวิต 1) กำเนิดของเซลล์โพรคำริโอต 2) กำเนิดของเซลล์ยูคำริโอต นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของ กำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมหมำยและกระบวนกำรของกำรศึกษำควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอีก ทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
86.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 หน่วยกำรเรียนที่ 5
เรื่อง อำณำจักรของสิ่งมีชีวิต กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 4 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงลักษณะลำคัญและเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักรอีกทั้ง สำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยลักษณะลำคัญของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักรได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักรได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องอำณำจักรของชีวิตไปใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - สิ่งมีชีวิตในปัจจุบันมีบำงลักษณะที่คล้ำยคลึงกันเพรำะสิ่งมีชีวิตต่ำงๆเหล่ำนี้มีวิวัฒนำกำรมำจำกบรรพบุรุษ เดียวกันแต่ที่มีลักษณะแตกต่ำงกันเพรำะวิวัฒนำกำรไปตำมสภำพแวดล้อมที่ดำรงชีวิตอยู่นั่นเอง - ปัจจุบันเรำสำมำรถแบ่งสิ่งมีชีวิตออกได้เป็น 5 อำณำจักร ได้แก่ 1. อำณำจักรมอเนอรำ 2. อำณำจักรโพรทิสตำ 3. อำณำจักรฟังไจ 4. อำณำจักรพืช 5. อำณำจักรสัตว์ 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยลักษณะลำคัญของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักร ทักษะ / กระบวนกำร (P) เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของอำณำจักรสิ่งมีชีวิตกับกำร ดำรงชีวิตของมนุษย์
87.
5. สมรรถนะ ทักษะชีวิต การคิด
การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีและการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map 7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “นักวิทยำศำสตร์ใช้ลักษณะใดในกำรจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็น อำณำจักร” แนวตอบ คือ ควำมคล้ำยคลึงกันของสิ่งมีชีวิตทั้งกำรพิจำรณำจำกหลักฐำนซำกดึก ดำบรรพ์ ลักษณะทำงสัณฐำนวิทยำ ควำมคล้ำยคลึงกันของโครงสร้ำง กำรทำงำน กำรเปรียบเทียบสำรชีว โมเลกุลและควำมสัมพันธ์ทำงสำยวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “อำณำจักรของสิ่งมีชีวิต” ว่ำ - สิ่งมีชีวิตในปัจจุบันมีบำงลักษณะที่คล้ำยคลึงกันเพรำะสิ่งมีชีวิตต่ำงๆเหล่ำนี้มีวิวัฒนำกำรมำจำกบรรพบุรุษ เดียวกันแต่ที่มีลักษณะแตกต่ำงกันเพรำะวิวัฒนำกำรไปตำมสภำพแวดล้อมที่ดำรงชีวิตอยู่นั่นเอง - ปัจจุบันเรำสำมำรถแบ่งสิ่งมีชีวิตออกได้เป็น 5 อำณำจักร ได้แก่ 1. อำณำจักรมอเนอรำ 2. อำณำจักรโพรทิสตำ 3. อำณำจักรฟังไจ 4. อำณำจักรพืช 5. อำณำจักรสัตว์
88.
นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับลักษณะลำคัญและเปรียบเทียบ ควำมแตกต่ำงของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักรและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น
concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับลักษณะลำคัญและเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของสิ่งมีชีวิตแต่ละอำณำจักร อีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
89.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27 หน่วยกำรเรียนที่ 5
เรื่อง ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงสภำพและเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศ ไทยปัจจุบันอีกทั้งสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยสภำพของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทยปัจจุบันได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทยปัจจุบันได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทยไปใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - นักวิทยำศำสตร์ประมำณกันว่ำสิ่งมีชีวิตในโลกนี้มีมำกกว่ำ 5 ล้ำนสปีชีส์ ซึ่งพบอยู่ในประเทศไทยประมำณ ร้อยละ 7 ของจำนวนสิ่งมีชีวิตดังกล่ำว ขณะที่ประชำกรไทยมีเพียงร้อยละ 1 ของประชำกรโลก อำจกล่ำวได้ว่ำ ประเทศไทยมีควำมอุดมสมบูรณ์อย่ำงมำกทำงด้ำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพนั่นเอง 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) สภำพของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทยปัจจุบัน ทักษะ / กระบวนกำร (P) เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพใน ประเทศไทยปัจจุบัน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพใน ประเทศไทยกับกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ ทักษะชีวิต การคิด การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีและการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map
90.
7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล
เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “สถำนกำรณ์ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทยเป็น อย่ำงไร” แนวตอบ คือ แนวโน้มลดลงอย่ำงต่อเนื่องสำเหตุหลักก็คือมนุษย์นั่นเอง ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทย” ว่ำ - นักวิทยำศำสตร์ประมำณกันว่ำสิ่งมีชีวิตในโลกนี้มีมำกกว่ำ 5 ล้ำนสปีชีส์ ซึ่งพบอยู่ในประเทศไทยประมำณ ร้อยละ 7 ของจำนวนสิ่งมีชีวิตดังกล่ำว ขณะที่ประชำกรไทยมีเพียงร้อยละ 1 ของประชำกรโลก อำจกล่ำวได้ว่ำ ประเทศไทยมีควำมอุดมสมบูรณ์อย่ำงมำกทำงด้ำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพนั่นเอง นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับสภำพและควำมแตกต่ำงของ ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทยปัจจุบันและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับสภำพและควำมแตกต่ำงของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในประเทศไทย ปัจจุบันอีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
91.
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 28 หน่วยกำรเรียนที่ 5
เรื่อง กำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ รหัสวิชำ/รำยวิชำ ว 33244/ชีววิทยา 4 ชั้น ม. 6 เวลำเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ม.4-6/3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรำยผลของควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ว 8.1 ใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และจิตวิทยำศำสตร์ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรแก้ปัญหำ รู้ว่ำ ปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สำมำรถอธิบำยและตรวจสอบได้ ภำยใต้ ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลำนั้นๆ เข้ำใจว่ำ วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีควำม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ อธิบำยถึงสถำนกำรณ์และสำเหตุของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในปัจจุบันอีก ทั้งสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบำยสถำนกำรณ์ของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในปัจจุบันได้อย่ำงถูกต้อง 2.2 บอกถึงสำเหตุของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในปัจจุบันได้อย่ำงถูกต้อง 2.3 สำมำรถนำควำมรู้เรื่องกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพไปใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 3. สาระแกนกลาง / สาระสาคัญ - ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่ทำให้มีควำมหลำยหลำกของระบบนิเวศ ซึ่งก่อให้เกิดควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพขึ้น ดังนั้น ปัจจัยใดก็ตำมที่มีผลกระทบทำให้สูญเสียระบบนิเวศย่อมส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ นั้นๆซึ่งอำจทำให้เกิดกำรสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และทำให้เกิดควำมสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพด้วย 4. สาระการเรียนรู้ ควำมรู้ (K) อธิบำยสถำนกำรณ์ของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในปัจจุบัน ทักษะ / กระบวนกำร (P) เปรียบเทียบผลของสำเหตุกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพในปัจจุบัน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพในปัจจุบันกับกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ 5. สมรรถนะ ทักษะชีวิต การคิด การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีและการคิด 6. ชิ้นงาน / ภาระงานที่แสดงผลการเรียนรู้ สมุดบันทึก ,ใบงำน ,ใบกิจกรรม และ Concept map
92.
7. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วิธีวัดผล
เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1. สมุดบันทึกกำรเรียนกำร สอนประจำบทเรียน 2. ใบงำนแบบฝึกหัดทบทวน ประจำบทเรียน 3. ทดสอบเก็บคะแนนประจำ บทเรียน 4. แบบบันทึกกำรทำกิจกรรม ประจำบทเรียน 1. ตรวจสมุดบันทึกกำร เรียนกำรสอนประจำ บทเรียน 2. ตรวจใบงำนแบบฝึกหัด ทบทวนประจำบทเรียน 3. ตรวจแบบทดสอบเก็บ คะแนนประจำบทเรียน 4. ตรวจแบบบันทึกกำรทำ กิจกรรมประจำบทเรียน 1. กำรสังเกต ตรวจสอบ เปรียบเทียบกับเนื้อหำที่ทำกำร เรียนกำรสอนประจำบทเรียน จริง 2. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยใบงำนแบบฝึกหัดประจำ บทเรียน 3. กำรตรวจสอบคำตอบกับคำ เฉลยแบบทดสอบประจำ บทเรียน 4. กำรตรวจแบบบันทึกกำร กิจกรรมประจำบทเรียน 1. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำ ควำมเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงำมของกำรจด บันทึก 2. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 80% 3. ควำมถูกต้องของคำตอบ อย่ำงน้อยไม่ต่ำกว่ำ 50% 4. ควำมถูกต้อง ครบถ้วน ใน เนื้อหำกำรบันทึก ควำมเป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงำมของ กำรจดบันทึก 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ : ครูใช้คำถำมนำว่ำ “สำเหตุของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพคืออะไร” แนวตอบ คือ ผลกระทบที่ทำให้สูญเสียระบบนิเวศซึ่งส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ นั้นๆให้เกิดกำรสูญพันธุ์ ขั้นสอน : ครูอธิบำยเนื้อหำ “กำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ” ว่ำ - ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่ทำให้มีควำมหลำยหลำกของระบบนิเวศ ซึ่งก่อให้เกิดควำมหลำกหลำยทำง ชีวภำพขึ้น ดังนั้น ปัจจัยใดก็ตำมที่มีผลกระทบทำให้สูญเสียระบบนิเวศย่อมส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ นั้นๆซึ่งอำจทำให้เกิดกำรสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และทำให้เกิดควำมสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพด้วย นักเรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นและซักถำมข้อสงสัยเกี่ยวกับสถำนกำรณ์และสำเหตุของกำร สูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในปัจจุบันและกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม ขั้นสรุป : ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปควำมรู้เป็น concept map และทำใบงำนแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจเกี่ยวกับสถำนกำรณ์และสำเหตุของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพใน ปัจจุบันอีกทั้งสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรดำรงชีวิตอย่ำงเหมำะสม 9. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.2 คู่มือครูชีววิทยา เล่ม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้แต่ง สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9.3 ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์ 9.4 ห้องศูนย์สื่อกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ โรงเรียนศีลำจำรพิพัฒน์
93.
แบบสังเกตการตอบคาถามและการร่วมกิจกรรมหน้าชั้น ระดับชั้น ............. เรื่อง
...............................................วันที่ .......... เดือน .......................พ.ศ............. คาชี้แจง ครูผู้สอนประเมินนักเรียนโดยใช้วิธีสังเกตในขณะดำเนินกำรสอน แล้วให้ระดับคะแนนดังนี้ 3 เมื่อปฏิบัติบ่อยๆ 2 เมื่อปฏิบัติบำงครั้ง 1 เมื่อไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติน้อยมำก ที่ ชื่อ-สกุล กำรตอบคำถำม กำรร่วมกิจกรรม กำรแสดงควำมคิดเห็น กำรซักถำม รวมคะแนน ระดับคะแนน 10-12 7-9 4-6 3 3 3 3 12 ดี พอใช้ ปรับปรุง
94.
แบบประเมินการทางานกลุ่ม วิชาชีววิทยา เรื่อง .............................................วันที่
.......... เดือน ........................... พ.ศ............ ที่ ชื่อ-สกุล ประเด็นกำรประเมิน/คะเนน ระดับคะแนน ควำมรับผิดชอบของ แต่ละคน กำรมีส่วนร่วมในกำร ทำงำน ควำมคิดสร้ำงสรรค์ ผลงำน รวม 20-25 12-19 5-11 5 5 5 10 25 ดี พอใช้ ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน 5 เมื่อพฤติกรรมโดดเด่นชัดเจนดีมำกเป็นแบบอย่ำงให้แก่ผู้อื่น 4 เมื่อพฤติกรรมโดดเด่นดี 3 เมื่อพฤติกรรมเทียบเท่ำกันทั่วไปเป็นไปตำมที่กำหนด 2 เมื่อพฤติกรรมไม่ค่อยโดดเด่นและต่ำกว่ำมำตรฐำนทั่วไป 1 เมื่อพฤติกรรมไม่เหมำะสม ไม่ค่อยแสดงออกหรือให้ควำมร่วมมือ
Download