SlideShare a Scribd company logo
บทที่ 4 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต 
1
หน่วยของสิ่งมีชีวิต 
2
เซลล์ (cell) 
? 
คอื หน่วยที่เล็กที่สุดของ 
สิ่งมีชีวิต 
3
Robert Hooke 
? 
• เป็นคนแรกที่เห็นเซลล์จากการใช้ 
กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์ประกอบ ที่ 
ประดิษฐ์ขึ้นเอง 
• ศึกษาไม้คอร์กภาพที่เห็นเป็นห้องสี่เหลี่ยมกล 
วงๆคล้ายรังผึ้ง ได้ตั้งชื่อสงิ่ที่มองเห็นว่า เซล 
ลูเล(cellulae) เป็นเซลล์ที่ตายแล้ว 
4
5
Anton van Leewenhoek 
? 
• มองเป็นเซลล์ที่ยังมชีีวิตเป็นคนแรก โดย 
เรียกสิ่งที่เห็นว่า animalicules ซึ่งหมายถึง 
สัตว์ตัวล็กๆ 
6
7
Matthias Jakop Schleiden และ 
Theodor Schwann 
? 
• เสนอทฤษฏีเซลล์ (cell theory) ว่า เซลล์ 
ประกอบไปด้วยองค์ประกอบของเซลล์ และ 
ผลิตภัณฑ์เซลล์ 
8
9
GGEENNEERRAALL BBOODDYY OORRGGAANNIIZZAATTIIOONN 
-สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular oIIrNNg aAAniNNsmIIMM) มAAีLLSS 
การจัดเรียงตัวของหน่วยต่าง ๆ เป็นลำาดับขั้นดังนี้ 
-เซลล์เป็นหน่วย 
ย่อยที่เล็กที่สุด 
-ในแต่ละลำาดับขั้น 
จะมีการทำางานร่วม 
กันอย่างเป็นระบบ 
10 
เซลล์ 
เนื้อเยื่อ 
อวัยวะ 
ระบบอวัยวะ 
สิ่งมีชีวิตหนึ่งหน่วย
การศึกษาเซลล์ 
 ศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ 
ทำาให้สามารถเห็นรายละเอียด 
โครงสร้างของเซลล์ 
 ศึกษาด้วยวิธีแยกชิ้นส่วนของ 
เซลล์โดยการเหวี่ยงด้วยความเร็ว 
ที่ต่างๆกัน organelles ที่แยกออก 
มาสามารถนำาไปศึกษาโครงสร้าง 
และหน้าที่ของมัน 11
Light microscope 
VS. 
Electron microscope 
? 
12
13
Electron micrographs 
Transmission electron 
micrographs (TEM) 
Scanning electron 
micrographs (SEM) 
14
คำาถาม? 
15
Different Types of Light Microscope: A Comparison 
Human Cheek Epithelial Cells 
Brightfield 
(unstained 
specimen) 
Brightfield 
(stained 
specimen) 
Fluorescene 
Phase-contrast 
Differential-interference-contrast 
(Nomarski) 
Confocal 
16
Cell Fractionation 
วิธีการแยกชิ้นส่วนของเซลล์ทำาได้โดย 
การเหวี่ยงด้วยความเร็วที่ต่างๆกัน organelles 
ที่แยกออกมาสามารถนำาไปศึกษาโครงสร้าง 
และหน้าที่ของมัน 
17
The size range 
of cells 
ชนิดของ 
เซลล์ 
เส้นผ่า 
ศูนย์กลาง 
Myoplasmas 
แบคทีเรีย 
ส่วนใหญ่ของ 
eukaryotic cell 
0.1 - 1.0 
ไมครอน 
1.0 - 10.0 
ไมครอน 
10.0 - 100.0 
ไมครอน 
18
Prokaryotic and Eukaryotic cell 
สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์ เซลล์ 
แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 
1. prokaryotic cell 
2. eukaryotic cell 
มีโครงสร้างแตกต่างกัน ดั้งนี้ 
19
Prokaryotic cell 
(pro=before; karyon=kernel) 
พบเฉพาะใน Kingdom Monera 
ไม่มีนิวเคลียสแท้จริง, ไม่มีเยื่อหุ้ม 
นิวเคลียส 
สารพันธุกรรมอยู่ในบริเวณที่เรียก 
ว่า nucleoid 
ไม่มี organelles ที่มีเยอื่หุ้ม 
ได้แก่ bacteria,blue green algae 20
A prokaryotic cell 
21
Eukaryotic cell 
(eu=true; karyon=kernel) 
พบใน Kingdoms Protista, Fungi, Plante 
และ Animalia 
มีนิวเคลียสที่แท้จริง, หุ้มด้วยเยื่อหุ้ม 
นิวเคลียส 
สารพันธุกรรมอยู่ในนิวเคลียส 
ภายใน cytoplasm ประกอบด้วย cytosol 
และมี organelles ที่มีเยื่อหุ้ม 
ยCกytเoวp้นlaสs่วmน =ข บอรงิเนวิวณเคภลาียยสในเซลล์ทั้งหมด 
Cytosol = สารกิ่งของเหลงภายใน cytopla2s2m
Animal cell 
23
Plant cell 
24
เเยยอื่หหุ้มุ้มเเซซลลล์์ ((CCeellll 
mmeemmbbrraannee)) 
25 
• Plasma membrane 
• Cytoplasmic membrane 
ทำาหน้าที่เป็นเยื่อเลือกผ่าน 
- Semipermeable membrane 
- Differentially membrane 
- Selectively permeable membrane
The plasma membrane 
26
27 
หนน้า้าทที่ขี่ของ cceellll 
mmeemmbbrraannee 
• ควบคุมการผ่านเข้าออกของสาร อาจเปลี่ยน 
รูปร่างเป็นไมโครวิลไลและเยื่อไมอีลิน
นิวเคลียส (nucleus) 
เป็นออร์แกเนลล์ขนาดใหญ่ที่มี 
เยื่อหุ้มนิวเคลียสแยกออกจากไซโต 
พลาสซึมในเซลล์พวกยูคาริโอต 
ภายในบรรจุยีนซึ่งควบคุมการทำางาน 
ของเซลล์ มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 
5 ไมครอน 
28
ภายในนิวเคลียสบรรจุสารพันธุกรรมที่อยู่ 
ในรูปของโมเลกุล DNA ที่จับกับโมเลกุลของ 
โปรตีน เป็นโครโมโซม 
29
Nucleolus 
nucleolus ทำาหน้าที่สร้าง ribosome 
30
นิวเคลียสทำาหน้าที่ควบคุมการสร้าง 
โปรตีนในไซโตพลาสซึม 
Messenger RNA (mRNA) transcribed in the nucleus 
from DNA instructions 
ß 
Passes through nuclear pores into cytoplasm 
ß 
Attaches to ribosomes where the genetic message 
is translated into primary structure 
31
Ribosomes 
เป็น organelles ที่ไม่มีเยื่อหุ้ม ทำาหน้าที่สร้าง 
โปรตีน มี 2 ส่วนย่อย (subunit) สร้างจาก 
nucleolus ในเซลล์ที่มีการสร้างโปรตีนสูง 
จะพบว่ามี nucleolus และ ribosome เป็น 
32 
จำานวนมาก ตัวอย่างเช่นในเซลล์ตับของคนมี
Endoplasmic reticulum (ER) 
(Endoplasmic = อยู่ในไซโต 
พลาสซึม, reticulum = ร่างแห) 
เป็น organelles ที่มีเยื่อ 
หุ้ม มีลักษณะเป็นท่อแบนหรือ 
กลม กระจายอยู่ใน cytosol 
ช่องภายในท่อเรียกว่า 
cisternal space ซึ่งท่อนี้มีการ 
เชื่อมติดต่อกับช่องว่างที่อยู่ 
ระหว่างเยื่อหุ้มนิวเคลียสชั้น 
นอกและชั้นในด้วย 
33
ER มี 2 ชนิด คือ 
1. Rough endoplasmic reticulum (RER) 
มีไรโบโซมเกาะติดอยู่ที่เยื่อหุ้มด้านนอก 
ทำาให้มองเห็นขรุขระ ทำาหน้าที่สร้างโปรตีน 
ที่ส่งออกไปนอกเซลล์ (secondary protein) 
โดยไรโบโซมที่เกาะอยู่นี้สร้างโปรตีน 
34
2. Smooth endoplasmic reticulum (SER) 
•ไม่มีไรโบโซมมาเกาะที่เยื่อหุ้มด้านนอก 
จึงมองเห็นเป็นผิวเรียบๆ ท่อของ SER 
เชื่อมติดต่อกับ RER ได้ 
•SER ไม่เกี่ยวกับการสร้างโปรตีน ส่วน 
ใหญ่มีความสำาคัญเกี่ยวกับการสร้าง 
ฮอร์โมนชนิดสเตอรอยด์ และไขมัน 
35
The Golgi apparatus 
36
Golgi complex 
มีลักษณะเป็นถุงแบนหลายถุงเรียง 
ซ้อนกัน เรียกว่า Golgi cisternar บริเวณ 
ตรงกลางเป็นท่อแคบและปลายสองข้าง 
โป่งออก และมีกลุ่มของถุงกลม (vesicles) 
อยู่รอบๆ 
37
หน้าที่ของ Golgi complex คือ 
เสริมสร้างคาร์โบไฮเดรดให้กับโปรตีนที่ 
สร้างมาจาก RER ให้เป็น glycoprotein เพื่อ 
ส่งออกไปภายนอกเซลล์ 
เก็บสะสมและกระจายสิ่งที่เซลล์สร้างขึ้น 
โดยเก็บไว้ภายใน secondary granules เพื่อ 
ส่งออกนอกเซลล์ โดยกระบวนการ 
exocytosis 
สร้าง primary lysosomes ซึ่งบรรจุ 
hydrolytic enzymes นำ้าย่อยเหล่านี้มักเป็น 
พวก glycoprotein โดยมีการเติม 
คาร์โบไฮเดรตที่ Golgi complex 
38
Lysosomes 
(a) Lysosomes in a white blood cell 
39
(b) A Lysosome in action 
sPoermoexi 
fernatgm 
nMditroiocnho 
fnrtagme 
Lmyesoso 
40
Lysosomes 
เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้มรูปกลม 
ขนาดเล็ก ภายในบรรจุ hydrolytic 
enzyme หรือ lysosomal enzyme หลาย 
ชนิดที่ทำาหน้าที่ย่อยโมเลกุลขนาดใหญ่ 
ได้แก่ polysaccharides, fats และ nucleic 
acids 
เอ็นไซม์ต่างๆเหล่านี้ ทำางานดีที่สุดที่ 
pH 5 lysosomal membrane ทำาหน้าที่ 
รักษาสภาพแวดล้อมภายในให้เหมาะแก่ 
41 
การทำางานของเอ็นไซม์ โดยการปั้ม H+
ถ้า lysosome ฉีกขาดจะไม่สามารถ 
ทำางานได้ดี หรือเอ็นไซม์อาจออกมา 
ทำาอันตรายให้แก่เซลล์ได้ 
42
The formation and functions of lysosomes 
43
หน้าที่ของ lysosome 
เป็นแหล่งย่อยภายในเซลล์ (intracellular 
digestion) ตย. เช่น 
• อมีบากินอาหารโดยวิธี phagocytosis 
เกิดเป็น food vacuole ซึ่งจะรวมกับ 
lysosome เอ็นไซม์ในcytosome จะทำา 
หน้าที่ย่อยอาหารนั้น 
• เซลล์ของคน เช่น macrophage ก็ 
สามารถทำาลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา 
ในเซลล์ด้วยวิธี phagocytosis และถูก 
ย่อยโดย lysosome ได้เช่นกัน 44
Vacuoles 
เป็น organelles ที่มีลักษณะเป็น 
เยื่อหุ้ม แต่มีขนาดใหญ่กว่า vesicles มี 
แบบต่างๆได้แก่ food vacuole, 
contractile vacuole และ central vacuole 
45
The plant cell vacuole 
46
Relationships among organelles of the 
endomembrane system 
47
Membranous organelles 
อื่นๆ 
1. Energy transcucers ได้แก่ 
Mitochondria 
Chloroplast 
2. Peroxisomes (microbodies) 
48
The mitochondrion, site of cellular respiration 
49
Mitochondria 
พบใน eukaryotic cell เกือบทุกชนิด ในเซลล์บาง 
ชนิดอย่างมีเพียงหนึ่งอันที่มีขนาดใหญ่ หรือใน 
เซลล์บางชนิดอาจมี mitochondria เป็นจำานวนร้อย 
หรือพันทั้งนี้ขึ้นกับกิจกรรมของเซลล์นั้นๆ 
Mitochondria มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น มีลักษณะเป็นสองวง 
ซ้อนกัน แต่ละชั้นของ phospholipid bilayer จะมี 
ลักษณะเฉพาะตัวที่เกิดจากโมเลกุลของโปรตีนที่ 
ฝังตัวบนเยื่อแต่ละชั้น 
50
The chloroplast, site of photosynthesis 
51
Chloroplast 
Chloroplast เป็น plastids ชนิดหนึ่งของ 
เซลล์พืชที่มีรงควัตถุสีเขียว ที่เรียกว่า 
chlorophyll ซึ่งประกอบด้วยเอ็นไซม์และ 
โมเลกุลของสารที่ทำาให้เกิดกระบวนการ 
สังเคราะห์ด้วยแสง 
Chloroplast มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น หุ้มล้อม 
รอบของเหลวที่เรียกว่า stroma ภายในมีถุง 
แบน thylakoids ซึ่งซ้อนกันเป็นตั้งเรียกว่า 
granum 
52
Peroxisomes 
53
Peroxisomes (microbodies) 
เป็น organelles ที่พบในเซลล์ยูคาริโอตเกือบทุก 
ชนิด มีลักษณะเป็นถุงที่มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว ภายใน 
มี granular core ซึ่งเป็นที่รวมของเอ็นไซม์ย้อมติด 
สีเข้ม 
54
การลำาเลียงสารผ่านเยื่อหุ้ม 
เซลล์ 
(Traffic Across 
Membranes) 
เยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติที่ยอมให้สารบาง 
อย่างผ่านเข้าไปในเซลล์ได้ง่ายกว่า 
สารบางอย่างชนิดอื่น เรียกว่า 
selective permeability ดังนั้นเยื่อหุ้ม 
เซลล์จะควบคุมชนิดและอัตราการ 
ลำาเลียงโมเลกุลของสารผ่านเข้าและ 
ออกจากเซลล์ 
55
Selective permeability ของเยื่อหุ้มเซลล์ 
ขึ้นอยู่กับ 
1. Phospholipid bilayer 
1.1 โมเลกุลไม่มีขั้วไฟฟ้า (nonpolar 
(hydrophobic) molecules) เช่น hydrocarbons 
และ O2 ซึ่งสามารถละลายได้ในเยื่อหุ้ม 
เซลล์จะผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ง่ายกว่าสารอื่น 
และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างสาร 2 ชนิด 
ที่ละลายในไขมันได้เท่ากันสารที่มีขนาด 
เล็กกว่าสามารถผ่านไปได้ดีกว่า 
56
1.2 โมเลกุลมีขั้วไฟฟ้า (polar (hydrophilic) 
molecules) 
 โมเลกุลขนาดเล็กที่มีขั้วไฟฟ้าแต่ไม่มีอิ 
ออน (small, polar uncharged molecules)เช่น 
HO, COสามารถผ่านเยื่อหุ้มสังเคราะห์ 
22 (synthetic membranes) ได้ง่าย 
 โมเลกุลขนาดใหญ่ที่มีขั้วไฟฟ้าแต่ไม่มีอิ 
ออน (large, polar uncharged molecules) เช่น 
นำ้าตาลกลูโคส ผ่านเยื่อหุ้มสังเคราะห์ได้ไม่ 
ง่าย 
 สารที่มีอิออน (ions) ทุกชนิดถึงแม้ว่าจะมี 
57 
ขนาดเล็ก เช่น Na+, H+ ผ่านชั้น
- 2. Specific integral transport 
proteins 
โมเลกุลของนำ้า CO2 และ สารที่ไม่มีขั้ว 
ไฟฟ้า (nonpolar molecules) สามารถผ่าน 
เยื่อหุ้มเซลล์ได้ง่ายเช่นเดียวกับเยื่อหุ้ม 
สังเคราะห์ 
เยื่อหุ้มเซลล์ต่างจากเยื่อหุ้มสังเคราะห์ 
คือมีสมบัติยอมให้สารบางอย่างที่มีอิออน 
และสารที่มีขั้วไฟฟ้าขนาดกลางผ่านได้ 
โดยสารเหล่านี้ผ่านเข้าไปที่ transport 
proteins 
58
Diffusion and Passive transport 
การแพร่ (diffusion) หมายถึง 
การเคลื่อนที่ของโมเลกุลของสารจาก 
บริเวณที่มีความเข้มข้นของสาร 
มากกว่าไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้น 
ของสารน้อยกว่า จนกว่าจะอยู่ใน 
สภาพสมดุล (dynamic equilibrium) 
เมื่ออยู่ในสภาพสมดุลแล้ว โมเลกุล 
ของสารยังคงเคลื่อนอยู่แต่เคลื่อนที่ 
ด้วยอัตราเร็วเท่ากันทั้งสองบริเวณ 59
การแพร่ของโมเลกุลของสารผ่าน 
เยื่อหุ้มเซลล์ เรียกว่า passive transport 
เซลล์ไม่ต้องใช้พลังงานที่จะทำาให้เกิด 
การแพร่ขึ้น และเยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติ 
selective permeable ดังนั้นอัตราการ 
แพร่ของสารชนิดต่างๆจะไม่เท่ากัน 
นำ้าจะสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้ม 
เซลล์ได้อย่างอิสระซึ่งมีความสำาคัญ 
มากสำาหรับการดำารงอยู่ของเซลล์ 
60
การแพร่ของโมเลกุลของสาร 
ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ 
(a) โมเลกุลของสารเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความ 
เข้มข้นมากกว่าไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นน้อย 
กว่า จนกระทั่งอยู่ในสภาพสมดุล (dynamic 
equilibrium) เมื่ออยู่ในสภาพสมดุลแล้วโมเลกุล 
ของสารยังคงเคลื่อนที่อยู่แต่อัตราการเคลื่อนที่ 
ของสารจากทั้งสองด้านของเยื่อหุ้มเซลล์เท่ากัน61
(b) ในกรณีนี้ แสดงสารละลายของสี 2 
ชนิด ที่อยู่คนละด้านของเยื่อหุ้มเซลล์ 
โมเลกุลของสารสีเขียวจะเคลื่อนที่ไปยัง 
ด้านซ้าย ทั้งๆที่ตอนเริ่มต้นความเข้มข้น 
ของสารในด้านซ้ายสูงกว่า 
62
ตัวอย่างการแพร่ในสิ่งมีชีวิต 
ได้แก่ การหายใจของสัตว์ ขณะ 
หายใจเข้าก๊าซออกซิเจนจากอากาศ 
ที่ผ่านเข้าไปในถุงลมในปอดมีความ 
เข้มข้นสูงกว่าในเส้นเลือดฝอย 
ออกซิเจนจึงแพร่จากถุงลมเข้าไปใน 
เส้นเลือดฝอย และในขณะเดียวกัน 
คาร์บอนไดออกไซด์จะแพร่จาก 
เส้นเลือดเข้าสู่ถุงลม 
63
Osmosis 
Osmosis หมายถึงการแพร่ของโมเลกุลของ 
นำ้าจากบริเวณที่มีโมเลกุลของนำ้าหนาแน่น 
มากกว่าหรือสารละลายที่เจือจางกว่า 
(hypoosmotic solution)ไปยังบริเวณที่มี 
โมเลกุลของนำ้าน้อยกว่าหรือสารละลายที่เข้มข้น 
64
The water balance of living cells 
ลูกศรแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของโมเลกุลของ 
นำ้าผ่านเซลล์สัตว์ซึ่งไม่มีผนังเซลล์ และเซลล์พื65 
ช 
ซึ่งมีผนังเซลล์
The contractile vacuole of Paramesium : an 
evolutionary adaptation for osmoregulation 
Filling vacuole 
Contracting vacuole 
66
Facilitated diffusion 
Transport proteins ช่วยในการนำาโมเลกุลของ 
สารผ่านเยื่อหุ้มเซลล์จากบริเวณที่มีความเข้ม 
ข้นของสารสูงไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นตำ่า 
กว่า เรียกกระบวนการนี้ว่า facilitated diffusion 
โดยเซลล์ไม่ต้องใช้พลังงาน 67
Active transport 
บางครั้งเซลล์ต้องการลำาเลียงสาร 
จากที่มีความเข้มข้นตำ่าไปยังที่มีความ 
เข้มข้นสูงกว่า กระบวนการนี้เรียกว่า 
active transport ซึ่งต้องการพลังงานคือ 
ATP 
ตัวอย่างเช่น เซลล์ขับ NA+ ออก 
นอกเซลล์และนำา K+ เข้าไปในเซลล์ 
ซึ่งเรียกว่า Sodium-potassium pump 
68
The sodium-potassium pump 
69
Sodium-potassium pump 
กระบวนการเริ่มต้นจาก Na+ จับ 
กับโปรตีนซึ่งเป็น transport protein 
แล้ว ATP ให้พลังงานแก่โปรตีนทำาให้ 
โปรตีนเปลี่ยนรูปร่างและปล่อย Na+ 
ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ออกไป ขณะ 
เดียวกัน K+ เข้าจับกับโปรตีน ทำาให้ 
โปรตีนเปลี่ยนแปลงรูปร่างอีกครั้งหนึ่ง 
ทำาให้ K+ ถูกปล่อยเข้าไปในเซลล์ 
แล้วโปรตีนกลับมีรูปร่างเหมือนเดิมอีก 
พร้อมที่จะเริ่มต้นกระบวนการใหม่ต่อ 
70
Diffusion 
Facilitated 
transport 
Active 
transport 
Passive 
transport 
71
An electrogenic pump 
Electrogenic pump เป็น transport protein 
ที่ทำาให้เกิดความต่างศักดิ์ที่เยื่อหุ้มเซลล์ 
72
An electrogenic pump 
ตัวอย่างเช่น 
Na+/K+ pump เป็น electrogenic 
pump ที่สำาคัญของเซลล์สัตว์ 
Proton pump เป็น electrogenic 
pump ที่สำาคัญของเซลล์พืช แบคทีเรีย 
และพวกเห็ดรา รวมทั้ง mitochondria 
และ chloroplasts ใช้ proton pump ใน 
การสังเคราะห์ ATP 73
Cotransport 
เป็นกระบวนการร่วมที่เกิดจาก ATP 
pump ตัวเดียวทำางานแล้วมีผลไปทำาให้ 
transport protein ตัวต่อไปทำางานเพื่อนำาสาร 
เข้าสู่เซลล์ 
ตัวอย่างเช่น ใน 
เซลล์พืชใช้ 
proton pump ร่วม 
กับ transport 
protein ที่นำา 
sucrose–H+ เข้าไป 
ในเซลล์ 
74
Exocytosis and endocytosis 
transport large molecules 
สารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ 
เช่น โปรตีน และ คาร์โบ 
ไฮเครต ผ่านออกนอกเซลล์ด้วย 
กระบวนการ exocytosis และเข้าไป 
ในเซลล์ด้วยกระบวนการ 
endocytosis 
75
Endocytosis มี 3 แบบ ได้แก่ 
1. Phagocytosis 
2. Pinocytosis 
3. Receptor-mediated endocytosis 
76
Phagocytosis 
Phagocytosis เป็นการนำาสารที่เป็นของแข็งเข้า 
เซลล์ โดยเซลล์ยื่นส่วน cytoplasm ไปโอบล้อม 
สารของแข็งนั้น แล้วเข้าไปในเซลล์ เป็น food 
vacuole แล้ว food vacuole นั้นจะไปรวมกับ 
lysosome ซึ่งภายในมี hydrolytic enzymes ที่จะ 
ย่อยสลายสารนั้นต่อไป อมีบากินแบคทีเรียด้ว77 
ย 
วิธีนี้
Pinocytosis 
Pinocytosis เป็นการนำาสารที่เป็นของเหลว 
เข้าเซลล์ โดยเยื่อหุ้มเซลล์เว้าเข้าไปเพื่อ 
นำาสารเข้าไป กลายเป็นถุงเล็กๆอยู่ใน 
cytoplasm 78
Receptor-mediated endocytosis 
Receptor-mediated endocytosis เป็นการนำาสาร 
เฉพาะบางชนิดเข้าไปในเซลล์ โดยที่ผิวเซลล์ 
มี receptor เฉพาะสำาหรับสารบางอย่างเข้ามา 
จับ แล้วถูกนำาเข้าไปในเซลล์เป็นถุงเล็กๆ เมื่อ 
ผ่านการย่อยแล้ว receptor สามารถถูกนำามา 
79 
ใช้ใหม่ได้อีก

More Related Content

PDF
Part cell&homeo acr_2
PDF
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
PDF
บทที่ 3 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
PPT
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
PDF
Cell+&+organelles acr
PDF
Cell.ppt25 copy
Part cell&homeo acr_2
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 3 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
Cell+&+organelles acr
Cell.ppt25 copy

What's hot (20)

PDF
ชีววิทยา เรื่อง พิ้นฐานเซลล์ ตอนที่ 1 general cell
PPT
M.4 สอนเสริมติว
DOCX
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
PDF
โครงสร้างของเซลล์
PDF
ติวสอบเตรียมเซลล์และลำเลียง
PDF
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
PPT
โครงสร้างของเซลล์
PPT
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
DOC
โอลิมปิก สอวน.
PDF
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์ cell transport
PDF
ชีววิทยา เรื่อง พิ้นฐานเซลล์ ตอนที่ 2 general cell
PDF
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system ตอนที่ 2
PDF
เซลล์
PDF
2ติวสสวทเซลล์
PDF
โครงสร้างเซลล์ (Cell Structure)
PDF
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
PDF
Immune2551
ชีววิทยา เรื่อง พิ้นฐานเซลล์ ตอนที่ 1 general cell
M.4 สอนเสริมติว
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
โครงสร้างของเซลล์
ติวสอบเตรียมเซลล์และลำเลียง
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
โครงสร้างของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โอลิมปิก สอวน.
ชีววิทยา เรื่อง การลำเลียงสารระหว่างเซลล์ cell transport
ชีววิทยา เรื่อง พิ้นฐานเซลล์ ตอนที่ 2 general cell
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system ตอนที่ 2
เซลล์
2ติวสสวทเซลล์
โครงสร้างเซลล์ (Cell Structure)
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
Immune2551
Ad

Similar to Cell2 (20)

PDF
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
PPT
Pont มุนี
PPT
PPT
เซลล์
PPT
เซลล์
PPT
ใบงานที่7.1
PPT
PPT
การศึกษาเซลล์
PDF
1-1 เซลล์และกล้องจุลทรรศน์การประยุกต์.pdf
PPT
เรื่อง เซลล์
PDF
เซเรบอส Brands วิชาชีววิทยา (192 หน้า) new
PPTX
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
DOC
Structure of cell
PPTX
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
PDF
บท3เซลล์
PDF
PPT โพรโทพลาซึม (1).pdf55555555555555555555555555
PDF
Microscopy, cell and function By pitsanu duangkartok
PPT
เซลล์และการแบ่งเซลล์
PPT
เซลล์และการแบ่งเซลล์
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
Pont มุนี
เซลล์
เซลล์
ใบงานที่7.1
การศึกษาเซลล์
1-1 เซลล์และกล้องจุลทรรศน์การประยุกต์.pdf
เรื่อง เซลล์
เซเรบอส Brands วิชาชีววิทยา (192 หน้า) new
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
Structure of cell
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
บท3เซลล์
PPT โพรโทพลาซึม (1).pdf55555555555555555555555555
Microscopy, cell and function By pitsanu duangkartok
เซลล์และการแบ่งเซลล์
เซลล์และการแบ่งเซลล์
Ad

Cell2

  • 3. เซลล์ (cell) ? คอื หน่วยที่เล็กที่สุดของ สิ่งมีชีวิต 3
  • 4. Robert Hooke ? • เป็นคนแรกที่เห็นเซลล์จากการใช้ กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์ประกอบ ที่ ประดิษฐ์ขึ้นเอง • ศึกษาไม้คอร์กภาพที่เห็นเป็นห้องสี่เหลี่ยมกล วงๆคล้ายรังผึ้ง ได้ตั้งชื่อสงิ่ที่มองเห็นว่า เซล ลูเล(cellulae) เป็นเซลล์ที่ตายแล้ว 4
  • 5. 5
  • 6. Anton van Leewenhoek ? • มองเป็นเซลล์ที่ยังมชีีวิตเป็นคนแรก โดย เรียกสิ่งที่เห็นว่า animalicules ซึ่งหมายถึง สัตว์ตัวล็กๆ 6
  • 7. 7
  • 8. Matthias Jakop Schleiden และ Theodor Schwann ? • เสนอทฤษฏีเซลล์ (cell theory) ว่า เซลล์ ประกอบไปด้วยองค์ประกอบของเซลล์ และ ผลิตภัณฑ์เซลล์ 8
  • 9. 9
  • 10. GGEENNEERRAALL BBOODDYY OORRGGAANNIIZZAATTIIOONN -สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular oIIrNNg aAAniNNsmIIMM) มAAีLLSS การจัดเรียงตัวของหน่วยต่าง ๆ เป็นลำาดับขั้นดังนี้ -เซลล์เป็นหน่วย ย่อยที่เล็กที่สุด -ในแต่ละลำาดับขั้น จะมีการทำางานร่วม กันอย่างเป็นระบบ 10 เซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ ระบบอวัยวะ สิ่งมีชีวิตหนึ่งหน่วย
  • 11. การศึกษาเซลล์  ศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ ทำาให้สามารถเห็นรายละเอียด โครงสร้างของเซลล์  ศึกษาด้วยวิธีแยกชิ้นส่วนของ เซลล์โดยการเหวี่ยงด้วยความเร็ว ที่ต่างๆกัน organelles ที่แยกออก มาสามารถนำาไปศึกษาโครงสร้าง และหน้าที่ของมัน 11
  • 12. Light microscope VS. Electron microscope ? 12
  • 13. 13
  • 14. Electron micrographs Transmission electron micrographs (TEM) Scanning electron micrographs (SEM) 14
  • 16. Different Types of Light Microscope: A Comparison Human Cheek Epithelial Cells Brightfield (unstained specimen) Brightfield (stained specimen) Fluorescene Phase-contrast Differential-interference-contrast (Nomarski) Confocal 16
  • 17. Cell Fractionation วิธีการแยกชิ้นส่วนของเซลล์ทำาได้โดย การเหวี่ยงด้วยความเร็วที่ต่างๆกัน organelles ที่แยกออกมาสามารถนำาไปศึกษาโครงสร้าง และหน้าที่ของมัน 17
  • 18. The size range of cells ชนิดของ เซลล์ เส้นผ่า ศูนย์กลาง Myoplasmas แบคทีเรีย ส่วนใหญ่ของ eukaryotic cell 0.1 - 1.0 ไมครอน 1.0 - 10.0 ไมครอน 10.0 - 100.0 ไมครอน 18
  • 19. Prokaryotic and Eukaryotic cell สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์ เซลล์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 1. prokaryotic cell 2. eukaryotic cell มีโครงสร้างแตกต่างกัน ดั้งนี้ 19
  • 20. Prokaryotic cell (pro=before; karyon=kernel) พบเฉพาะใน Kingdom Monera ไม่มีนิวเคลียสแท้จริง, ไม่มีเยื่อหุ้ม นิวเคลียส สารพันธุกรรมอยู่ในบริเวณที่เรียก ว่า nucleoid ไม่มี organelles ที่มีเยอื่หุ้ม ได้แก่ bacteria,blue green algae 20
  • 22. Eukaryotic cell (eu=true; karyon=kernel) พบใน Kingdoms Protista, Fungi, Plante และ Animalia มีนิวเคลียสที่แท้จริง, หุ้มด้วยเยื่อหุ้ม นิวเคลียส สารพันธุกรรมอยู่ในนิวเคลียส ภายใน cytoplasm ประกอบด้วย cytosol และมี organelles ที่มีเยื่อหุ้ม ยCกytเoวp้นlaสs่วmน =ข บอรงิเนวิวณเคภลาียยสในเซลล์ทั้งหมด Cytosol = สารกิ่งของเหลงภายใน cytopla2s2m
  • 25. เเยยอื่หหุ้มุ้มเเซซลลล์์ ((CCeellll mmeemmbbrraannee)) 25 • Plasma membrane • Cytoplasmic membrane ทำาหน้าที่เป็นเยื่อเลือกผ่าน - Semipermeable membrane - Differentially membrane - Selectively permeable membrane
  • 27. 27 หนน้า้าทที่ขี่ของ cceellll mmeemmbbrraannee • ควบคุมการผ่านเข้าออกของสาร อาจเปลี่ยน รูปร่างเป็นไมโครวิลไลและเยื่อไมอีลิน
  • 28. นิวเคลียส (nucleus) เป็นออร์แกเนลล์ขนาดใหญ่ที่มี เยื่อหุ้มนิวเคลียสแยกออกจากไซโต พลาสซึมในเซลล์พวกยูคาริโอต ภายในบรรจุยีนซึ่งควบคุมการทำางาน ของเซลล์ มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 5 ไมครอน 28
  • 29. ภายในนิวเคลียสบรรจุสารพันธุกรรมที่อยู่ ในรูปของโมเลกุล DNA ที่จับกับโมเลกุลของ โปรตีน เป็นโครโมโซม 29
  • 31. นิวเคลียสทำาหน้าที่ควบคุมการสร้าง โปรตีนในไซโตพลาสซึม Messenger RNA (mRNA) transcribed in the nucleus from DNA instructions ß Passes through nuclear pores into cytoplasm ß Attaches to ribosomes where the genetic message is translated into primary structure 31
  • 32. Ribosomes เป็น organelles ที่ไม่มีเยื่อหุ้ม ทำาหน้าที่สร้าง โปรตีน มี 2 ส่วนย่อย (subunit) สร้างจาก nucleolus ในเซลล์ที่มีการสร้างโปรตีนสูง จะพบว่ามี nucleolus และ ribosome เป็น 32 จำานวนมาก ตัวอย่างเช่นในเซลล์ตับของคนมี
  • 33. Endoplasmic reticulum (ER) (Endoplasmic = อยู่ในไซโต พลาสซึม, reticulum = ร่างแห) เป็น organelles ที่มีเยื่อ หุ้ม มีลักษณะเป็นท่อแบนหรือ กลม กระจายอยู่ใน cytosol ช่องภายในท่อเรียกว่า cisternal space ซึ่งท่อนี้มีการ เชื่อมติดต่อกับช่องว่างที่อยู่ ระหว่างเยื่อหุ้มนิวเคลียสชั้น นอกและชั้นในด้วย 33
  • 34. ER มี 2 ชนิด คือ 1. Rough endoplasmic reticulum (RER) มีไรโบโซมเกาะติดอยู่ที่เยื่อหุ้มด้านนอก ทำาให้มองเห็นขรุขระ ทำาหน้าที่สร้างโปรตีน ที่ส่งออกไปนอกเซลล์ (secondary protein) โดยไรโบโซมที่เกาะอยู่นี้สร้างโปรตีน 34
  • 35. 2. Smooth endoplasmic reticulum (SER) •ไม่มีไรโบโซมมาเกาะที่เยื่อหุ้มด้านนอก จึงมองเห็นเป็นผิวเรียบๆ ท่อของ SER เชื่อมติดต่อกับ RER ได้ •SER ไม่เกี่ยวกับการสร้างโปรตีน ส่วน ใหญ่มีความสำาคัญเกี่ยวกับการสร้าง ฮอร์โมนชนิดสเตอรอยด์ และไขมัน 35
  • 37. Golgi complex มีลักษณะเป็นถุงแบนหลายถุงเรียง ซ้อนกัน เรียกว่า Golgi cisternar บริเวณ ตรงกลางเป็นท่อแคบและปลายสองข้าง โป่งออก และมีกลุ่มของถุงกลม (vesicles) อยู่รอบๆ 37
  • 38. หน้าที่ของ Golgi complex คือ เสริมสร้างคาร์โบไฮเดรดให้กับโปรตีนที่ สร้างมาจาก RER ให้เป็น glycoprotein เพื่อ ส่งออกไปภายนอกเซลล์ เก็บสะสมและกระจายสิ่งที่เซลล์สร้างขึ้น โดยเก็บไว้ภายใน secondary granules เพื่อ ส่งออกนอกเซลล์ โดยกระบวนการ exocytosis สร้าง primary lysosomes ซึ่งบรรจุ hydrolytic enzymes นำ้าย่อยเหล่านี้มักเป็น พวก glycoprotein โดยมีการเติม คาร์โบไฮเดรตที่ Golgi complex 38
  • 39. Lysosomes (a) Lysosomes in a white blood cell 39
  • 40. (b) A Lysosome in action sPoermoexi fernatgm nMditroiocnho fnrtagme Lmyesoso 40
  • 41. Lysosomes เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้มรูปกลม ขนาดเล็ก ภายในบรรจุ hydrolytic enzyme หรือ lysosomal enzyme หลาย ชนิดที่ทำาหน้าที่ย่อยโมเลกุลขนาดใหญ่ ได้แก่ polysaccharides, fats และ nucleic acids เอ็นไซม์ต่างๆเหล่านี้ ทำางานดีที่สุดที่ pH 5 lysosomal membrane ทำาหน้าที่ รักษาสภาพแวดล้อมภายในให้เหมาะแก่ 41 การทำางานของเอ็นไซม์ โดยการปั้ม H+
  • 42. ถ้า lysosome ฉีกขาดจะไม่สามารถ ทำางานได้ดี หรือเอ็นไซม์อาจออกมา ทำาอันตรายให้แก่เซลล์ได้ 42
  • 43. The formation and functions of lysosomes 43
  • 44. หน้าที่ของ lysosome เป็นแหล่งย่อยภายในเซลล์ (intracellular digestion) ตย. เช่น • อมีบากินอาหารโดยวิธี phagocytosis เกิดเป็น food vacuole ซึ่งจะรวมกับ lysosome เอ็นไซม์ในcytosome จะทำา หน้าที่ย่อยอาหารนั้น • เซลล์ของคน เช่น macrophage ก็ สามารถทำาลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา ในเซลล์ด้วยวิธี phagocytosis และถูก ย่อยโดย lysosome ได้เช่นกัน 44
  • 45. Vacuoles เป็น organelles ที่มีลักษณะเป็น เยื่อหุ้ม แต่มีขนาดใหญ่กว่า vesicles มี แบบต่างๆได้แก่ food vacuole, contractile vacuole และ central vacuole 45
  • 46. The plant cell vacuole 46
  • 47. Relationships among organelles of the endomembrane system 47
  • 48. Membranous organelles อื่นๆ 1. Energy transcucers ได้แก่ Mitochondria Chloroplast 2. Peroxisomes (microbodies) 48
  • 49. The mitochondrion, site of cellular respiration 49
  • 50. Mitochondria พบใน eukaryotic cell เกือบทุกชนิด ในเซลล์บาง ชนิดอย่างมีเพียงหนึ่งอันที่มีขนาดใหญ่ หรือใน เซลล์บางชนิดอาจมี mitochondria เป็นจำานวนร้อย หรือพันทั้งนี้ขึ้นกับกิจกรรมของเซลล์นั้นๆ Mitochondria มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น มีลักษณะเป็นสองวง ซ้อนกัน แต่ละชั้นของ phospholipid bilayer จะมี ลักษณะเฉพาะตัวที่เกิดจากโมเลกุลของโปรตีนที่ ฝังตัวบนเยื่อแต่ละชั้น 50
  • 51. The chloroplast, site of photosynthesis 51
  • 52. Chloroplast Chloroplast เป็น plastids ชนิดหนึ่งของ เซลล์พืชที่มีรงควัตถุสีเขียว ที่เรียกว่า chlorophyll ซึ่งประกอบด้วยเอ็นไซม์และ โมเลกุลของสารที่ทำาให้เกิดกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง Chloroplast มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น หุ้มล้อม รอบของเหลวที่เรียกว่า stroma ภายในมีถุง แบน thylakoids ซึ่งซ้อนกันเป็นตั้งเรียกว่า granum 52
  • 54. Peroxisomes (microbodies) เป็น organelles ที่พบในเซลล์ยูคาริโอตเกือบทุก ชนิด มีลักษณะเป็นถุงที่มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว ภายใน มี granular core ซึ่งเป็นที่รวมของเอ็นไซม์ย้อมติด สีเข้ม 54
  • 55. การลำาเลียงสารผ่านเยื่อหุ้ม เซลล์ (Traffic Across Membranes) เยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติที่ยอมให้สารบาง อย่างผ่านเข้าไปในเซลล์ได้ง่ายกว่า สารบางอย่างชนิดอื่น เรียกว่า selective permeability ดังนั้นเยื่อหุ้ม เซลล์จะควบคุมชนิดและอัตราการ ลำาเลียงโมเลกุลของสารผ่านเข้าและ ออกจากเซลล์ 55
  • 56. Selective permeability ของเยื่อหุ้มเซลล์ ขึ้นอยู่กับ 1. Phospholipid bilayer 1.1 โมเลกุลไม่มีขั้วไฟฟ้า (nonpolar (hydrophobic) molecules) เช่น hydrocarbons และ O2 ซึ่งสามารถละลายได้ในเยื่อหุ้ม เซลล์จะผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ง่ายกว่าสารอื่น และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างสาร 2 ชนิด ที่ละลายในไขมันได้เท่ากันสารที่มีขนาด เล็กกว่าสามารถผ่านไปได้ดีกว่า 56
  • 57. 1.2 โมเลกุลมีขั้วไฟฟ้า (polar (hydrophilic) molecules)  โมเลกุลขนาดเล็กที่มีขั้วไฟฟ้าแต่ไม่มีอิ ออน (small, polar uncharged molecules)เช่น HO, COสามารถผ่านเยื่อหุ้มสังเคราะห์ 22 (synthetic membranes) ได้ง่าย  โมเลกุลขนาดใหญ่ที่มีขั้วไฟฟ้าแต่ไม่มีอิ ออน (large, polar uncharged molecules) เช่น นำ้าตาลกลูโคส ผ่านเยื่อหุ้มสังเคราะห์ได้ไม่ ง่าย  สารที่มีอิออน (ions) ทุกชนิดถึงแม้ว่าจะมี 57 ขนาดเล็ก เช่น Na+, H+ ผ่านชั้น
  • 58. - 2. Specific integral transport proteins โมเลกุลของนำ้า CO2 และ สารที่ไม่มีขั้ว ไฟฟ้า (nonpolar molecules) สามารถผ่าน เยื่อหุ้มเซลล์ได้ง่ายเช่นเดียวกับเยื่อหุ้ม สังเคราะห์ เยื่อหุ้มเซลล์ต่างจากเยื่อหุ้มสังเคราะห์ คือมีสมบัติยอมให้สารบางอย่างที่มีอิออน และสารที่มีขั้วไฟฟ้าขนาดกลางผ่านได้ โดยสารเหล่านี้ผ่านเข้าไปที่ transport proteins 58
  • 59. Diffusion and Passive transport การแพร่ (diffusion) หมายถึง การเคลื่อนที่ของโมเลกุลของสารจาก บริเวณที่มีความเข้มข้นของสาร มากกว่าไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้น ของสารน้อยกว่า จนกว่าจะอยู่ใน สภาพสมดุล (dynamic equilibrium) เมื่ออยู่ในสภาพสมดุลแล้ว โมเลกุล ของสารยังคงเคลื่อนอยู่แต่เคลื่อนที่ ด้วยอัตราเร็วเท่ากันทั้งสองบริเวณ 59
  • 60. การแพร่ของโมเลกุลของสารผ่าน เยื่อหุ้มเซลล์ เรียกว่า passive transport เซลล์ไม่ต้องใช้พลังงานที่จะทำาให้เกิด การแพร่ขึ้น และเยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติ selective permeable ดังนั้นอัตราการ แพร่ของสารชนิดต่างๆจะไม่เท่ากัน นำ้าจะสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้ม เซลล์ได้อย่างอิสระซึ่งมีความสำาคัญ มากสำาหรับการดำารงอยู่ของเซลล์ 60
  • 61. การแพร่ของโมเลกุลของสาร ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (a) โมเลกุลของสารเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความ เข้มข้นมากกว่าไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นน้อย กว่า จนกระทั่งอยู่ในสภาพสมดุล (dynamic equilibrium) เมื่ออยู่ในสภาพสมดุลแล้วโมเลกุล ของสารยังคงเคลื่อนที่อยู่แต่อัตราการเคลื่อนที่ ของสารจากทั้งสองด้านของเยื่อหุ้มเซลล์เท่ากัน61
  • 62. (b) ในกรณีนี้ แสดงสารละลายของสี 2 ชนิด ที่อยู่คนละด้านของเยื่อหุ้มเซลล์ โมเลกุลของสารสีเขียวจะเคลื่อนที่ไปยัง ด้านซ้าย ทั้งๆที่ตอนเริ่มต้นความเข้มข้น ของสารในด้านซ้ายสูงกว่า 62
  • 63. ตัวอย่างการแพร่ในสิ่งมีชีวิต ได้แก่ การหายใจของสัตว์ ขณะ หายใจเข้าก๊าซออกซิเจนจากอากาศ ที่ผ่านเข้าไปในถุงลมในปอดมีความ เข้มข้นสูงกว่าในเส้นเลือดฝอย ออกซิเจนจึงแพร่จากถุงลมเข้าไปใน เส้นเลือดฝอย และในขณะเดียวกัน คาร์บอนไดออกไซด์จะแพร่จาก เส้นเลือดเข้าสู่ถุงลม 63
  • 64. Osmosis Osmosis หมายถึงการแพร่ของโมเลกุลของ นำ้าจากบริเวณที่มีโมเลกุลของนำ้าหนาแน่น มากกว่าหรือสารละลายที่เจือจางกว่า (hypoosmotic solution)ไปยังบริเวณที่มี โมเลกุลของนำ้าน้อยกว่าหรือสารละลายที่เข้มข้น 64
  • 65. The water balance of living cells ลูกศรแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของโมเลกุลของ นำ้าผ่านเซลล์สัตว์ซึ่งไม่มีผนังเซลล์ และเซลล์พื65 ช ซึ่งมีผนังเซลล์
  • 66. The contractile vacuole of Paramesium : an evolutionary adaptation for osmoregulation Filling vacuole Contracting vacuole 66
  • 67. Facilitated diffusion Transport proteins ช่วยในการนำาโมเลกุลของ สารผ่านเยื่อหุ้มเซลล์จากบริเวณที่มีความเข้ม ข้นของสารสูงไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นตำ่า กว่า เรียกกระบวนการนี้ว่า facilitated diffusion โดยเซลล์ไม่ต้องใช้พลังงาน 67
  • 68. Active transport บางครั้งเซลล์ต้องการลำาเลียงสาร จากที่มีความเข้มข้นตำ่าไปยังที่มีความ เข้มข้นสูงกว่า กระบวนการนี้เรียกว่า active transport ซึ่งต้องการพลังงานคือ ATP ตัวอย่างเช่น เซลล์ขับ NA+ ออก นอกเซลล์และนำา K+ เข้าไปในเซลล์ ซึ่งเรียกว่า Sodium-potassium pump 68
  • 70. Sodium-potassium pump กระบวนการเริ่มต้นจาก Na+ จับ กับโปรตีนซึ่งเป็น transport protein แล้ว ATP ให้พลังงานแก่โปรตีนทำาให้ โปรตีนเปลี่ยนรูปร่างและปล่อย Na+ ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ออกไป ขณะ เดียวกัน K+ เข้าจับกับโปรตีน ทำาให้ โปรตีนเปลี่ยนแปลงรูปร่างอีกครั้งหนึ่ง ทำาให้ K+ ถูกปล่อยเข้าไปในเซลล์ แล้วโปรตีนกลับมีรูปร่างเหมือนเดิมอีก พร้อมที่จะเริ่มต้นกระบวนการใหม่ต่อ 70
  • 71. Diffusion Facilitated transport Active transport Passive transport 71
  • 72. An electrogenic pump Electrogenic pump เป็น transport protein ที่ทำาให้เกิดความต่างศักดิ์ที่เยื่อหุ้มเซลล์ 72
  • 73. An electrogenic pump ตัวอย่างเช่น Na+/K+ pump เป็น electrogenic pump ที่สำาคัญของเซลล์สัตว์ Proton pump เป็น electrogenic pump ที่สำาคัญของเซลล์พืช แบคทีเรีย และพวกเห็ดรา รวมทั้ง mitochondria และ chloroplasts ใช้ proton pump ใน การสังเคราะห์ ATP 73
  • 74. Cotransport เป็นกระบวนการร่วมที่เกิดจาก ATP pump ตัวเดียวทำางานแล้วมีผลไปทำาให้ transport protein ตัวต่อไปทำางานเพื่อนำาสาร เข้าสู่เซลล์ ตัวอย่างเช่น ใน เซลล์พืชใช้ proton pump ร่วม กับ transport protein ที่นำา sucrose–H+ เข้าไป ในเซลล์ 74
  • 75. Exocytosis and endocytosis transport large molecules สารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เช่น โปรตีน และ คาร์โบ ไฮเครต ผ่านออกนอกเซลล์ด้วย กระบวนการ exocytosis และเข้าไป ในเซลล์ด้วยกระบวนการ endocytosis 75
  • 76. Endocytosis มี 3 แบบ ได้แก่ 1. Phagocytosis 2. Pinocytosis 3. Receptor-mediated endocytosis 76
  • 77. Phagocytosis Phagocytosis เป็นการนำาสารที่เป็นของแข็งเข้า เซลล์ โดยเซลล์ยื่นส่วน cytoplasm ไปโอบล้อม สารของแข็งนั้น แล้วเข้าไปในเซลล์ เป็น food vacuole แล้ว food vacuole นั้นจะไปรวมกับ lysosome ซึ่งภายในมี hydrolytic enzymes ที่จะ ย่อยสลายสารนั้นต่อไป อมีบากินแบคทีเรียด้ว77 ย วิธีนี้
  • 78. Pinocytosis Pinocytosis เป็นการนำาสารที่เป็นของเหลว เข้าเซลล์ โดยเยื่อหุ้มเซลล์เว้าเข้าไปเพื่อ นำาสารเข้าไป กลายเป็นถุงเล็กๆอยู่ใน cytoplasm 78
  • 79. Receptor-mediated endocytosis Receptor-mediated endocytosis เป็นการนำาสาร เฉพาะบางชนิดเข้าไปในเซลล์ โดยที่ผิวเซลล์ มี receptor เฉพาะสำาหรับสารบางอย่างเข้ามา จับ แล้วถูกนำาเข้าไปในเซลล์เป็นถุงเล็กๆ เมื่อ ผ่านการย่อยแล้ว receptor สามารถถูกนำามา 79 ใช้ใหม่ได้อีก