SlideShare a Scribd company logo
1

ประวัตความเป็ นมาของ HTML
      ิ

          ปี ค.ศ. 1961 อินเตอร์เน็ตได้เกิดและเติบโตขึน พร้อมกับภาษาคอมพิวเตอร์ และโปรโตคอล
(Protocol) จํา นวนมาก เพื อรองรั บ กับ การเติ บ โตอย่า งรวดเร็ ว ของอิ น เตอร์ เ น็ ต หนึ งใน
ภาษาคอมพิว เตอร์ และโปรโตคอลนันคื อ ภาษา HTML และ TCP/IP (Transmission Control
Protocol/ Internet Protocol) ทังนีเพราะ World Wide Web แม้จะเป็ นเพียงส่วนหนึงของอินเตอร์ เน็ต
แต่ได้รั บความนิ ย ม อย่างสู ง และรวดเร็ ว โปรโตคอล HTTP (ซึ งเป็ นส่ วนย่อยของโปรโตคอล
TCP/IP) จึงได้รับการพัฒนาเพือสนับสนุ น ภาษา HTML ซึง ใช้ในการจัด เก็บเอกสารบน World
Wide Web

         ภาษา HTML ในยุคแรกเริ ม ถูกใช้เพือจัดทํารู ปแบบตัวอักษรบนเอกสารประเภท Hypertext
ความสามารถจึงยังคงจํากัดอยูมาก เพียงทําได้แต่ การกําหนดรู ปแบบ heading แต่สาหรับตัวอักษร
                               ่                                           ํ
ทําได้แค่ bold และ italic เท่านัน

         ความทีภาษา HTML เป็ นภาษาทีได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื อง จนปั จจุบนมาถึง เวอร์ ชน
                                                                           ั             ั
4.0 จึงได้เพิมขีดความสามารถจากเดิม ทีมีความสามารถเพียงเพือจัดรู ปแบบตัวอักษร กลายเป็ นภาษา
ทีมีความสามารถในการจัดรู ปแบบเอกสารอย่างเต็มรู ปแบบ สิ งกระตุน แรกทีก่อให้เกิดการพัฒนา
                                                                 ้
ดังกล่าว เกิดขึนในปี 1993 เมือโปรแกรม Web browser มีความสามารถจะดูเอกสารแบบ Hypertext
พร้อมกับมีรูปภาพประกอบได้พร้อมๆ กัน และในระยะหลังจากนันอีก 5 ปี ภาษา HTML ก็ได้
พัฒนาตนเองมาเรื อยๆ จนเป็ นเวอร์ชน ปัจจุบน -- เวอร์ชน 4.0
                                  ั       ั         ั

         สิ งที ทําให้ HTML เวอร์ ชนปั จจุ บน มีความสามารถในการจัดรู ปแบบเอกสารอย่างเต็ ม
                                   ั        ั
รู ปแบบ คื อ ความสามารถในการใช้ Cascading Style Sheet เพิมเติ มจากเวอร์ ชน ก่ อนหน้านี
                                                                            ั
(เวอร์ชน 3.2) ซึงมีความสามารถจัดรู ปแบบเอกสารอยูในขันมาตรฐาน
       ั                                            ่

          ในอดีต สิ งที ทําให้ผูเ้ ขี ยนภาษา HTML ประสบกับปั ญหามากมาย คื อ การทีโปรแกรม
browser หลักๆ ยังคงมีความแตกต่างทาง ด้านเทคโนโลยีก ันอย่างมาก และต่างก็ได้พฒ นาภาษา
                                                                                 ั
HTML ของตนเพิมเติมจากมาตรฐานในเวอร์ชน 3.2 กันเอง โดยไม่ได้มีการตกลง ระหว่างกัน เป็ น
                                               ั
ผลให้ผเู้ ขียนภาษา HTML โดยถือตามมาตรฐาน หรื ออ้างอิงค่ ายใดค่ายหนึ งไม่สามารถจะแสดง
รู ปแบบของเอกสาร ให้เป็ นอย่างทีต้องการได้ ในปัจจุบน ปัญหาดังกล่าวกลับไม่ลดน้อยลงไป แม้ว่า
                                                     ั
จะได้มีก ารจัดตังคณะกรรมการ เพือกําหนดมาตรฐาน ให้โปรแกรม browser ในเวอร์ ชนใหม่ๆ   ั
นําเอา HTML เวอร์ชน 4.0 เป็ นมาตรฐานก็ตาม แต่ปัญหายังคงมีอยู่ ต่อไป ด้วยเหตุทีคณะกรรมการ
                     ั
ชุดดังกล่าวไม่สามารถผลักดันให้โปรแกรม browser รับเอามาตรฐานดังกล่าวไปใช้อย่างรวดเร็ ว
เพียงพอ
2

HTML คืออะไร

HTML หรื อ HyperText Markup Language เป็ นภาษา script ประเภทหนึ ง ซึงใช้ทา Web page เป็ น
                                                                              ํ
งานหลัก ในระบบ World Wide Web ในแรกเริ ม วัตถุประสงค์หลักของ HTML ถูกเสนอโดยนาย
ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee) แห่งศูนย์ปฏิบติการวิจยทางอนุภาคฟิ สิกส์ของยุโรป (CERN)
                                                    ั     ั
ซึงตังอยูทีกรุ งเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ได้กาหนดไว้ว่า
         ่                                ํ

    เพือสร้างสือทีนักวิทยาศาสตร์สามารถจะเผยแพร่ ผลงาน และใช้อางอิง ได้ตลอด 24 ช.ม.
                                                               ้
    เพือสร้างภาษาคอมพิวเตอร์ทีรองรับภาษาท้องถิน ทีไม่ขึนกับระบบของเครื องคอมพิวเตอร์
     (Platform) หรื อระบบเครื อข่ายใดๆ

และด้ว ยวัต ถุ ป ระสงค์ ข ้า งต้น ภาษา HTML จึ ง ถู ก ใช้ง านอย่า งแพร่ หลายในสั ง คมของ
นักวิทยาศาสตร์ และกําหนดให้เครื องมือทีใช้เขียน เป็ นโปรแกรม text editor ทัวๆ ไป

สําหรับภาษา HTML ในอินเตอร์ เน็ต ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื อง เพือให้คนทุกๆ ชาติบนโลก
สามารถเข้าถึง เผยแพร่ และอ้างอิง วิ ทยาการความรู้ได้ ด้วยการเชือมโยงไปมาแบบ hyperlink
อาจจะด้วยตัวอักษร และ/หรื อ รู ปภาพ โดยอาจเชือมโยงเฉพาะภายใน เอกสารนัน หรื อเชือมโยงข้าม
ไปยังเอกสารอืนๆ ได้

ภาษา HTML มีตนแบบมาจากภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language) ซึงเป็ นภาษา
                 ้
ทีใช้ได้เฉพาะ กับประเภท ของคอมพิวเตอร์ และสิ งที HTML รับมาจาก SGML คือ การประกาศค่า
และ การกําหนดรู ปแบบเอกสาร (Document Type Definition --DTD)

สิ งทีทําให้ ภาษา HTML ได้รับความนิ ยมอย่างมาก และรวดเร็ ว ก็คือ HTML รวมถึง โปรโตคอล
HTTP (HyperText Transfer Protocol) เป็ นภาษาที ใช้สือสารกันได้ทวโลก โดยทีตัว ภาษาและ
                                                                  ั
โปรโตคอล ไม่ขึ นกับ ระบบเครื อ ข่ าย และประเภทของคอมพิว เตอร์ (Platform) ซึ งมี ค วาม
หลากหลาย อันเนืองมาจากเทคโนโลยีและประเภทการใช้งาน เป็ นผลให้เอกสารทีเขียนโดย HTML
สามารถถ่ายโอน ได้อย่างกว้างขวาง ทังในรู ปแบบของ ตัวอักษร ภาพ และเสียง

HTML เวอร์ ชันต่างๆ
               HTML เวอร์ชนแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ดีนก จนกระทังในปี 1994 HTML 2.0 จึง
                           ั                        ั
ได้รับการยอมรับเป็ นมาตรฐานทีสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ดี Netscapeและ Microsoft ต่างก็เพิมคําสัง
ใหม่ๆลงในโปรแกรมของตนเอง เพือให้ผให้ออกแบบเพจสามารถใช้ฟังก์ชนอืน นอกเหนือไปจาก
                                     ู้                             ั
HTML 2.0
3

                  ต่อมา W3C ได้พฒนามาตรฐาน HTML 3.0 ขึนมา แต่ปรากฏว่ามาตรฐานใหม่นี
                                 ั
ไม่เป็ นทียอมรับของ Netscape,Microsoft และบริ ษทอืนๆ โดยแต่ละบริ ษทต่างก็พยายามให้
                                                  ั                   ั
มาตรฐานใหม่มีฟังก์ชนทีตนเองต้องการ จนในทีสุด W3C จึงต้องกลับไปแก้ไขใหม่ และก็คือ
                       ั
HTML 3.2
          HTML 3.2 และ HTML 4.0
          HTML 3.2 เป็ นมาตรฐานในปัจจุบนของ W3C โปรแกรมเราเซอร์เกือบทังหมดได้รับการ
                                         ั
พัฒนาให้สามารถทํางานตามคําสังทีกําหนดในมาตรฐานของ HTML 3.2 นี
          HTML 3.2 เพิงจะได้รับการยอมรับเป็ นมาตรฐานเมือ ม.ค.1997 แต่กระนันก็ดียงมีขีดจํากัด
                                                                                     ั
บางประการทีนักออกแบบเพจต้องการทีจะให้ HTML 3.2 มีความสามารถเพิมมากขึน นักออกแบบ
จํานวนมากนิยมใช้คาสังใหม่ๆ ทียังไม่ถือว่าเป็ นมาตรฐาน ทังๆทีรู้ว่า การทําเช่นนี จะทําให้ตอง
                     ํ                                                                   ้
เสียเวลาในการเปลียน เบราเซอร์ใช้หลายๆตัว แต่ก็เป็ นการท้าทายความสามารถของนักออกแบบ
          ความต้องการของนักออกแบบทีเพิมมากขึน ทําให้องค์กร W3C ตกลงใจประกาศใช้
HTML 4.0 ฉบับร่ างขึนเมือ 8 ก.ค. 1997 ทุกๆบริ ษทก็พยายามปรับปรุ งโปรแกรมเบราเซอร์ของตน
                                                ั
ให้สามารถใช้คาสังใหม่ๆ ตามมาตรฐาน HTML 4.0 ความสามารถใหม่ทีเพิมขึนใน HTML 4.0 จะ
                ํ
ช่วยให้ผออกแบบเพจ สามารถควบคุมรู ปแบบเอกสาร และรู ปภาพได้ดีขึน แต่ทงนีโปรแกรมเบรา
          ู้                                                                 ั
เซอร์นนจะต้องสนับสนุนฟังก์ชนของ HTML 4.0 ด้วย
        ั                      ั
   คุณสมบัติบางประการของ HTML 4.0 ได้มีการนําไปใช้ใน Netscape และ Microsoft ก่อนทีจะมี
การพัฒนา HTML 4.0 เสียอีก หลังจากนันจึงเพิมความสามารถนี ลงในมาตรฐาน HTML 4.0 แต่ก็มี
คุณสมบัติบางประการของ HTML 4.0 ทีไม่เคยมีอยูในเบราเซอร์ใดๆ มาก่อนเลยก็คือ
                                                    ่
ความสามารถในการจัดการกับ Object Model (ฟังก์ชนยอดนิยมของโปรแกรมเมอร์)
                                                      ั

โดย HTML 4.0 ถูกแบ่งออกเป็ น 3 ประเภทได้แก่

         แบบเคร่ งครัด (Strict HTML 4.0)

เป็ นเอกสาร Hypertext ที เขี ย นด้วยภาษา HTML 4.0 ตามมาตรฐานอย่างเคร่ งครั ด tag ใดที
คณะกรรมการชุดนี นิยามว่า ล้าสมัย (Deprecate) หรื อ ให้เลิกใช้ (Obsolete) ก็จะไม่ใช้คาสังนันใน
                                                                                    ํ
การเขียนเอกสาร ซึงในความเป็ น จริ งขณะนี ยังคงไม่มี โปรแกรม browser ใด สนับสนุ นภาษา
HTML 4.0 อย่างเคร่ งครัด แต่คาดว่าในอนาคต อันใกล้ น่าจะมีความเป็ นไปได้

         แบบค่อยเป็ นไป (Transitional/ Loose HTML 4.0)
4

เป็ นเอกสารที สร้ างด้วยภาษา HTML 4.0 โดยใช้ร่ วมกับคําสังใน HTML เวอร์ ชน 3.2 เพือให้
                                                                          ั
เอกสารทีสร้างขึนมีรูปแบบ และใช้งานได้ตามจริ ง แม้ว่าจะใช้โปรแกรม browser ระบบเครื อข่าย
และประเภท คอมพิวเตอร์ทีหลากหลายก็ตาม และแน่ นอนว่า ในบทความนี เอกสารทีเราสร้างขึ น
จะถูกจัดให้อยูในเป็ นประเภทนี
              ่

         แบบ Frameset (Frameset HTML 4.0)

เป็ นเอกสารที รวมเอาประเภท Transitional เข้า กับ tag ประเภท frame (ได้แ ก่ FRAME,
FRAMESET, NOFRAMES และ IFRAME) ซึงเป็ น tag ใหม่เพิงจะมีในเวอร์ชน 4.0 นี
                                                                ั

เครืองมือ

           การสร้างไฟล์เอชทีเอ็มแอลสามารถทําได้โดยใช้โปรแกรมโน้ตแพด (Notepad) ซึงเป็ น
โปรแกรมพิมพ์ประจําบนไมโครซอฟต์วิ น โดว์ทุก เวอร์ ชน สําหรั บโปรแกรมพิมพ์ประจําบน
                                                        ั
ไมโครซอฟต์วินโดวส์ 95 (Windows 95) นอกจากโปรแกรมโน้ตแพดยังสามารถใช้โปรแกรมเวิร์ด
แพด (Wordpad) ได้ดวย การพิมพ์คาสังภาษาเอชทีเอ็มแอล โดยโปรแกรมดังกล่าวเป็ นการพิมพ์
                      ้              ํ
โดยปกติธรรมดาไม่มีเครื องมือช่วยสร้างคําสัง ดังนัน การเขียนไฟล์เอชทีเอ็มแอลโดยโปรแกรม
พิมพ์ดงกล่าวอาจทําให้เสียเวลามากกว่าการเขียนโดยโปรแกรมพิมพ์เอชทีเอ็มแอลอืนๆ โดยเฉพาะ
         ั
ปัจจุบนมีโปรแกรมพิมพ์เอชทีเอ็มแอลหลายโปรแกรมด้วยกันซึงมีชือทัวไปว่า โปรแกรมเอชทีเอ็ม
       ั
แอลเอดิ เตอร์ (HTML editor) หรื อโปรแกรมไฮเปอร์ เอดิเตอร์ (hyper editor) โปรแกรมพิมพ์
ดัง กล่า วเป็ นโปรแกรมอํา นวยความสะดวกในการสร้ า งไฟล์เอชที เ อ็มแอลได้ใ นระดับ หนึ ง
โปรแกรมเหล่านี ได้แก่ โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ (HTML – Assistant) โปรแกรม
เอชทีเอ็มแอล-เอ็ด (HTML Ed) โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-ไฮเปอร์ อีดิต (HTML-Hyper Edit) และ
โปรแกรมเดอะฮอตเมตทอล – เอดิเตอร์ (The HoTMetal editor) โปรแกรมฮอตด็อก (HoTDog)
และโปรแกรมเน็ ตสเปค-เนวิเกเตอร์ – โกลด์ 2.02 เอดิเตอร์ (Netscape’s Navigator Gold 2.02
Editor) เป็ นต้น โปรแกรมพิมพ์เหล่านี ทํางานภายใต้ระบบวินโดวส์ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมพิมพ์
เอชที เ อ็มแอลดังกล่ าวต้อ งทํางานร่ ว มกับโปรแกรมเวิ ลด์ไวด์เ ว็บเบราเซอร์ เสมอ ดังนั น ผูใ ช้
                                                                                           ้
คอมพิวเตอร์จึงต้องมีโปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์อย่างใดอย่างหนึงไว้สาหรับแสดงผลลัพธ์
                                                                       ํ

        โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล – แอสซิสแตนต์ (HTML-Assistant)
        โปรแกรมเอชที เอ็มแอล-แอสซิ สแตนต์เขีย นโดย เอช ฮาราวิ ต ซ์ (H. Harawitz) เป็ น
โปรแกรมพิมพ์ภาษาเอชทีเอ็มแอลทีได้รับความนิ ยมมากโปรแกรมหนึ ง โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-
แอลซิ ส แตนต์ท ํางานร่ วมกับ โปรแกรมเวิ ล ด์ไ วด์เ ว็บ เบราเซอร์ ได้ห ลายโปรแกรมอัน ได้แ ก่
5

โปรแกรมเซลโล โปรแกรมโมเซอิค และโปรแกรมเน็ ตสเคป การกําหนดไดเรกทอรี ข องไฟล์
เอชที เอ็มแอลที เขี ย นโดยโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิ สแตนต์ต ้องระบุไดเรกทอรี ให้ต รงกับ
โปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์ และการแสดงผลลัพธ์ของไฟล์เอชทีเอ็มแอลทีได้รับการแก้ไข ทํา
ได้โดยกดปุ่ มคําสัง “รี โหลด” (reload) บนโปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์ ทุกครั ง อย่างไรก็ตาม
โปรแกรมเอชที เ อ็ม แอล แอสซิ ส -แตนต์ สามารถทํา งานร่ ว มกับโปรแกรมเซลโลภายใต้ก าร
เชือมโยงแบบดีดีแอล (DDL : Dynamic Data Exchange) ทําให้โปรแกรมเซลโลสามารถแสดง
ผลลัพธ์ซึงสอดคล้องกับข้อมูลทีได้รับการแก้ไขโดยไม่จาเป็ นต้องกดปุ่ มรี โหมด กล่าวคือ การแสดง
                                                      ํ
ผลลัพธ์บนโปรแกรมเซลโลขึ นกับการแก้ไขข้อมูลบนโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์
โดยตรง
         การเข้าสู่โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-เอสซิสแตนต์ ทําได้โดยการคลิกเมาส์ไปทีไอคอนรู ป
ดินสอ ทําให้ปรากฏภาพโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ซึงประกอบด้วยเมนูและทูลบาร์
(tool bar) สําหรับตัวอย่างการพิมพ์ไฟล์เอชทีเอ็มแอลบนโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์
และผลลัพธ์บนโปรแกรมเซลโล
         โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล์-เอ็ด (HTML Ed)
         โปรแกรมเอชที เ อ็มแอล-เอ็ด เขี ย นโดย ปี เตอร์ กรอว์ชอว์ (Peter Crawshaw) เป็ น
โปรแกรมอํานวยความสะดวกทีคล้ายคลึงกับโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิ สแตนต์ ข้อดีข อง
โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-เอ็ดคือให้ค วามสะดวกในการพิมพ์อกขระกลุ่ม หรื อกษรต่ างประเทศที
                                                            ั              ั
ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ซึงนับว่าดีกว่าโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ โดยทีโปรแกรมเอชทีเอ็ม
แอล-เอ็ด กําหนดอักษรต่างประเทศไว้บนทูลบาร์ ข้อด้อยของโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-เอ็ด คือไม่
สามารถเชือมโยงแบบดีดีแอลกับโปรแกรมเซลโลได้เช่นเดียวกับโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิส
แตนต์
         โปรแกรมฮอตเมตทอล (HoTMetL)
         โปรแกรมฮอตเมตทอลเป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสารเอชทีเอ็มแอล โปรแกรมฮอต
เมตทอลเป็ นของบริ ษท ซอฟท์ควอด จํากัด จุดเด่นของโปรแกรมฮอตเมตทอลคือ เน้นคําสังรู ปแบบ
                       ั
ภาพเพือให้ง่ายต่อความเข้าใจ
         โปรแกรมฮอตด็อก (HoTDog)
         โปรแกรมฮอตด็อกเป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสารเอชทีเอ็มแอลทีได้รับความนิ ยม
สูงสุดโปรแกรมหนึง โปรแกรมฮอตด็อกเป็ นของบริ ษท ซอสเสจ จํากัด ประเทศออสเตรเลีย จุดเด่น
                                                   ั
ของโปรแกรมฮอตด็อกคือ เป็ นโปรแกรมทีใช้ง่าย
         โปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิเตอร์ (Netscape’s Navicator Gold Editor)
         โปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิ เตอร์ เป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสาร
เอชทีเอ็มแอลแบบโดยตรงจากจอภาพของโปรแกรม ซึงเป็ นไปตามนิ ยามของคําว่า “สิ งทีคุณเห็น
6

คือสิ งทีคุณได้รับ” หรื อมาจากนิ ยามภาษาอังกฤษทีว่า WYSIWYG (What You See Is What You
Get) โปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์-โกลด์ เอดิเตอร์ เป็ นของบริ ษท เน็ตสเคป คอมมูนิเคชัน จํากัด
                                                              ั
จุดเด่นของโปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิเตอร์ คือ เป็ นโปรแกรมทีแสดงภาพได้เอง
เนืองจากตัวมันเองเป็ นโปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์ ดังนันการแก้ไขข้อมูลจึงทําได้สะดวก
          โปรแกรมฟรอนต์เพจ (Front Page)
          โปรแกรมฟรอนต์เพจเป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสารเอชทีเอ็มแอลแบบโดยตรง
จากจอภาพการแก้ไขสามารถแสดงผลบนจอภาพของโปรแกรม โปรแกรมฟรอนต์เพจเป็ นของ
บริ ษ ัท ไมโครซอฟต์ จํากัด จุดเด่น ของโปรแกรมฟรอนต์เพจคือ เป็ นโปรแกรมพิมพ์และแก้ไข
ข้อมูลที เชื อมโยงกับเว็บเซิ ร์ ฟเวอร์ เพือสะดวกต่ อการตรวจสอบโอมเพจที มาจากไฟล์เอกสาร
เอชทีเอ็มแอล
          โปรแกรมแบ็กสเตจ-ดีไซเนอร์ (Backstage Designer)
          โปรแกรมแบ็กสเตจ-ดีไซเนอร์เป็ นของบริ ษท แมคโครมีเดีย เป็ นโปรแกรมพิมพ์และแก้ไข
                                                    ั
ไฟล์เ อกสารเอชที เ อ็มแอลแบบโดยตรงจาก “สิ งที คุ ณ เห็ น คื อ สิ งที คุ ณ ได้รั บ ” เช่ น เดี ย วกับ
โปรแกรมฟรอนต์เพจ โปรแกรมเน็ต สเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิเตอร์ จุด เด่ น ของโปรแกรม
แบ็กสเตจ-ดีไซเนอร์ คือ สามารถแทรกงานประยุกต์ของโปรแกรมแอกทีฟ-เอ็กซ์ (Active-X) ของ
บริ ษทไมโครซอฟต์ จาวาแอปเพล็ตของบริ ษทซันไมโครซิสเต็ม และงานประยุกต์เน็ตสเคปปลักอิน
      ั                                      ั
(Netscape Plug-In) ของบริ ษท เน็ตสเคป เพือแสดงงานประยุกต์แบบมัลติมีเดีย
                              ั

More Related Content

PDF
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
PPTX
การเขียนโปรแกรมภาษา
PPT
เริ่มต้นกับ PHP
PDF
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
PDF
Course Syllabus การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
PPTX
Web browser คืออะไร
PDF
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาPhp
PDF
โปรแกรมประยุกต์บนเว็บ
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
การเขียนโปรแกรมภาษา
เริ่มต้นกับ PHP
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
Course Syllabus การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
Web browser คืออะไร
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาPhp
โปรแกรมประยุกต์บนเว็บ

What's hot (13)

PDF
น.ส.ศิรพร โมกศิริ เลขที่ 9 ม.4.5
PDF
HTML PHP MySQL สำหรับเว็บโปรแกรมเมอร์มือใหม่
PDF
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
PPTX
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
PPTX
2.เริ่มต้นกับ xhtml และ xhtml
PDF
PDF
ประวัติภาษาซี
PPTX
รู้จักกับ Html(แก้ไข)
PDF
ใบงานที่5
PDF
Work
PDF
ข้อสอบกลางภาค
PPTX
บทที่2การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
น.ส.ศิรพร โมกศิริ เลขที่ 9 ม.4.5
HTML PHP MySQL สำหรับเว็บโปรแกรมเมอร์มือใหม่
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
2.เริ่มต้นกับ xhtml และ xhtml
ประวัติภาษาซี
รู้จักกับ Html(แก้ไข)
ใบงานที่5
Work
ข้อสอบกลางภาค
บทที่2การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Ad

Viewers also liked (8)

PDF
รับตรง ปี 56 คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
PDF
Food and-healthy-ageing-louis-bonduelle-foundation-conference
PPTX
หน่วย 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ
PPTX
SoLoMo Thursday | Target: Audience
DOCX
ประวัต Html
PPTX
The livelihoods approach
PDF
Crossword puzzle (6-10y) -Louis Bonduelle Foundation
PDF
เนื้อหาการสอบ Gatpat 12556
รับตรง ปี 56 คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Food and-healthy-ageing-louis-bonduelle-foundation-conference
หน่วย 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ
SoLoMo Thursday | Target: Audience
ประวัต Html
The livelihoods approach
Crossword puzzle (6-10y) -Louis Bonduelle Foundation
เนื้อหาการสอบ Gatpat 12556
Ad

Similar to ประวัต Html (20)

PDF
Html5report
PDF
แนะนำ HTML5 แบบอ่านจบต้องรู้บ้างแหละ
PDF
เนื้อหา Html
PDF
Lernning 13
PDF
การสร้างเว็บเพจด้วยภาษา Html
PDF
เขียนเว็บไซต์ด้วย Html 5
PPTX
หน่วยที่ 2
PDF
Lab#2
PDF
เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฎิบัติการ การสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา PHP และ ภาษา SQL
PPTX
บทที่ 3 พื้นฐานภาษาสำหรับพัฒนาเว็บไซต์
PPT
การสอนเขียนHtml
PDF
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
PDF
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
PPT
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
PDF
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
PPT
08 W3 Browser
PPT
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
PPTX
Hyper text markup language
Html5report
แนะนำ HTML5 แบบอ่านจบต้องรู้บ้างแหละ
เนื้อหา Html
Lernning 13
การสร้างเว็บเพจด้วยภาษา Html
เขียนเว็บไซต์ด้วย Html 5
หน่วยที่ 2
Lab#2
เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฎิบัติการ การสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา PHP และ ภาษา SQL
บทที่ 3 พื้นฐานภาษาสำหรับพัฒนาเว็บไซต์
การสอนเขียนHtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
08 W3 Browser
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
Hyper text markup language

ประวัต Html

  • 1. 1 ประวัตความเป็ นมาของ HTML ิ ปี ค.ศ. 1961 อินเตอร์เน็ตได้เกิดและเติบโตขึน พร้อมกับภาษาคอมพิวเตอร์ และโปรโตคอล (Protocol) จํา นวนมาก เพื อรองรั บ กับ การเติ บ โตอย่า งรวดเร็ ว ของอิ น เตอร์ เ น็ ต หนึ งใน ภาษาคอมพิว เตอร์ และโปรโตคอลนันคื อ ภาษา HTML และ TCP/IP (Transmission Control Protocol/ Internet Protocol) ทังนีเพราะ World Wide Web แม้จะเป็ นเพียงส่วนหนึงของอินเตอร์ เน็ต แต่ได้รั บความนิ ย ม อย่างสู ง และรวดเร็ ว โปรโตคอล HTTP (ซึ งเป็ นส่ วนย่อยของโปรโตคอล TCP/IP) จึงได้รับการพัฒนาเพือสนับสนุ น ภาษา HTML ซึง ใช้ในการจัด เก็บเอกสารบน World Wide Web ภาษา HTML ในยุคแรกเริ ม ถูกใช้เพือจัดทํารู ปแบบตัวอักษรบนเอกสารประเภท Hypertext ความสามารถจึงยังคงจํากัดอยูมาก เพียงทําได้แต่ การกําหนดรู ปแบบ heading แต่สาหรับตัวอักษร ่ ํ ทําได้แค่ bold และ italic เท่านัน ความทีภาษา HTML เป็ นภาษาทีได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื อง จนปั จจุบนมาถึง เวอร์ ชน ั ั 4.0 จึงได้เพิมขีดความสามารถจากเดิม ทีมีความสามารถเพียงเพือจัดรู ปแบบตัวอักษร กลายเป็ นภาษา ทีมีความสามารถในการจัดรู ปแบบเอกสารอย่างเต็มรู ปแบบ สิ งกระตุน แรกทีก่อให้เกิดการพัฒนา ้ ดังกล่าว เกิดขึนในปี 1993 เมือโปรแกรม Web browser มีความสามารถจะดูเอกสารแบบ Hypertext พร้อมกับมีรูปภาพประกอบได้พร้อมๆ กัน และในระยะหลังจากนันอีก 5 ปี ภาษา HTML ก็ได้ พัฒนาตนเองมาเรื อยๆ จนเป็ นเวอร์ชน ปัจจุบน -- เวอร์ชน 4.0 ั ั ั สิ งที ทําให้ HTML เวอร์ ชนปั จจุ บน มีความสามารถในการจัดรู ปแบบเอกสารอย่างเต็ ม ั ั รู ปแบบ คื อ ความสามารถในการใช้ Cascading Style Sheet เพิมเติ มจากเวอร์ ชน ก่ อนหน้านี ั (เวอร์ชน 3.2) ซึงมีความสามารถจัดรู ปแบบเอกสารอยูในขันมาตรฐาน ั ่ ในอดีต สิ งที ทําให้ผูเ้ ขี ยนภาษา HTML ประสบกับปั ญหามากมาย คื อ การทีโปรแกรม browser หลักๆ ยังคงมีความแตกต่างทาง ด้านเทคโนโลยีก ันอย่างมาก และต่างก็ได้พฒ นาภาษา ั HTML ของตนเพิมเติมจากมาตรฐานในเวอร์ชน 3.2 กันเอง โดยไม่ได้มีการตกลง ระหว่างกัน เป็ น ั ผลให้ผเู้ ขียนภาษา HTML โดยถือตามมาตรฐาน หรื ออ้างอิงค่ ายใดค่ายหนึ งไม่สามารถจะแสดง รู ปแบบของเอกสาร ให้เป็ นอย่างทีต้องการได้ ในปัจจุบน ปัญหาดังกล่าวกลับไม่ลดน้อยลงไป แม้ว่า ั จะได้มีก ารจัดตังคณะกรรมการ เพือกําหนดมาตรฐาน ให้โปรแกรม browser ในเวอร์ ชนใหม่ๆ ั นําเอา HTML เวอร์ชน 4.0 เป็ นมาตรฐานก็ตาม แต่ปัญหายังคงมีอยู่ ต่อไป ด้วยเหตุทีคณะกรรมการ ั ชุดดังกล่าวไม่สามารถผลักดันให้โปรแกรม browser รับเอามาตรฐานดังกล่าวไปใช้อย่างรวดเร็ ว เพียงพอ
  • 2. 2 HTML คืออะไร HTML หรื อ HyperText Markup Language เป็ นภาษา script ประเภทหนึ ง ซึงใช้ทา Web page เป็ น ํ งานหลัก ในระบบ World Wide Web ในแรกเริ ม วัตถุประสงค์หลักของ HTML ถูกเสนอโดยนาย ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee) แห่งศูนย์ปฏิบติการวิจยทางอนุภาคฟิ สิกส์ของยุโรป (CERN) ั ั ซึงตังอยูทีกรุ งเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ได้กาหนดไว้ว่า ่ ํ  เพือสร้างสือทีนักวิทยาศาสตร์สามารถจะเผยแพร่ ผลงาน และใช้อางอิง ได้ตลอด 24 ช.ม. ้  เพือสร้างภาษาคอมพิวเตอร์ทีรองรับภาษาท้องถิน ทีไม่ขึนกับระบบของเครื องคอมพิวเตอร์ (Platform) หรื อระบบเครื อข่ายใดๆ และด้ว ยวัต ถุ ป ระสงค์ ข ้า งต้น ภาษา HTML จึ ง ถู ก ใช้ง านอย่า งแพร่ หลายในสั ง คมของ นักวิทยาศาสตร์ และกําหนดให้เครื องมือทีใช้เขียน เป็ นโปรแกรม text editor ทัวๆ ไป สําหรับภาษา HTML ในอินเตอร์ เน็ต ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื อง เพือให้คนทุกๆ ชาติบนโลก สามารถเข้าถึง เผยแพร่ และอ้างอิง วิ ทยาการความรู้ได้ ด้วยการเชือมโยงไปมาแบบ hyperlink อาจจะด้วยตัวอักษร และ/หรื อ รู ปภาพ โดยอาจเชือมโยงเฉพาะภายใน เอกสารนัน หรื อเชือมโยงข้าม ไปยังเอกสารอืนๆ ได้ ภาษา HTML มีตนแบบมาจากภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language) ซึงเป็ นภาษา ้ ทีใช้ได้เฉพาะ กับประเภท ของคอมพิวเตอร์ และสิ งที HTML รับมาจาก SGML คือ การประกาศค่า และ การกําหนดรู ปแบบเอกสาร (Document Type Definition --DTD) สิ งทีทําให้ ภาษา HTML ได้รับความนิ ยมอย่างมาก และรวดเร็ ว ก็คือ HTML รวมถึง โปรโตคอล HTTP (HyperText Transfer Protocol) เป็ นภาษาที ใช้สือสารกันได้ทวโลก โดยทีตัว ภาษาและ ั โปรโตคอล ไม่ขึ นกับ ระบบเครื อ ข่ าย และประเภทของคอมพิว เตอร์ (Platform) ซึ งมี ค วาม หลากหลาย อันเนืองมาจากเทคโนโลยีและประเภทการใช้งาน เป็ นผลให้เอกสารทีเขียนโดย HTML สามารถถ่ายโอน ได้อย่างกว้างขวาง ทังในรู ปแบบของ ตัวอักษร ภาพ และเสียง HTML เวอร์ ชันต่างๆ HTML เวอร์ชนแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ดีนก จนกระทังในปี 1994 HTML 2.0 จึง ั ั ได้รับการยอมรับเป็ นมาตรฐานทีสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ดี Netscapeและ Microsoft ต่างก็เพิมคําสัง ใหม่ๆลงในโปรแกรมของตนเอง เพือให้ผให้ออกแบบเพจสามารถใช้ฟังก์ชนอืน นอกเหนือไปจาก ู้ ั HTML 2.0
  • 3. 3 ต่อมา W3C ได้พฒนามาตรฐาน HTML 3.0 ขึนมา แต่ปรากฏว่ามาตรฐานใหม่นี ั ไม่เป็ นทียอมรับของ Netscape,Microsoft และบริ ษทอืนๆ โดยแต่ละบริ ษทต่างก็พยายามให้ ั ั มาตรฐานใหม่มีฟังก์ชนทีตนเองต้องการ จนในทีสุด W3C จึงต้องกลับไปแก้ไขใหม่ และก็คือ ั HTML 3.2 HTML 3.2 และ HTML 4.0 HTML 3.2 เป็ นมาตรฐานในปัจจุบนของ W3C โปรแกรมเราเซอร์เกือบทังหมดได้รับการ ั พัฒนาให้สามารถทํางานตามคําสังทีกําหนดในมาตรฐานของ HTML 3.2 นี HTML 3.2 เพิงจะได้รับการยอมรับเป็ นมาตรฐานเมือ ม.ค.1997 แต่กระนันก็ดียงมีขีดจํากัด ั บางประการทีนักออกแบบเพจต้องการทีจะให้ HTML 3.2 มีความสามารถเพิมมากขึน นักออกแบบ จํานวนมากนิยมใช้คาสังใหม่ๆ ทียังไม่ถือว่าเป็ นมาตรฐาน ทังๆทีรู้ว่า การทําเช่นนี จะทําให้ตอง ํ ้ เสียเวลาในการเปลียน เบราเซอร์ใช้หลายๆตัว แต่ก็เป็ นการท้าทายความสามารถของนักออกแบบ ความต้องการของนักออกแบบทีเพิมมากขึน ทําให้องค์กร W3C ตกลงใจประกาศใช้ HTML 4.0 ฉบับร่ างขึนเมือ 8 ก.ค. 1997 ทุกๆบริ ษทก็พยายามปรับปรุ งโปรแกรมเบราเซอร์ของตน ั ให้สามารถใช้คาสังใหม่ๆ ตามมาตรฐาน HTML 4.0 ความสามารถใหม่ทีเพิมขึนใน HTML 4.0 จะ ํ ช่วยให้ผออกแบบเพจ สามารถควบคุมรู ปแบบเอกสาร และรู ปภาพได้ดีขึน แต่ทงนีโปรแกรมเบรา ู้ ั เซอร์นนจะต้องสนับสนุนฟังก์ชนของ HTML 4.0 ด้วย ั ั คุณสมบัติบางประการของ HTML 4.0 ได้มีการนําไปใช้ใน Netscape และ Microsoft ก่อนทีจะมี การพัฒนา HTML 4.0 เสียอีก หลังจากนันจึงเพิมความสามารถนี ลงในมาตรฐาน HTML 4.0 แต่ก็มี คุณสมบัติบางประการของ HTML 4.0 ทีไม่เคยมีอยูในเบราเซอร์ใดๆ มาก่อนเลยก็คือ ่ ความสามารถในการจัดการกับ Object Model (ฟังก์ชนยอดนิยมของโปรแกรมเมอร์) ั โดย HTML 4.0 ถูกแบ่งออกเป็ น 3 ประเภทได้แก่  แบบเคร่ งครัด (Strict HTML 4.0) เป็ นเอกสาร Hypertext ที เขี ย นด้วยภาษา HTML 4.0 ตามมาตรฐานอย่างเคร่ งครั ด tag ใดที คณะกรรมการชุดนี นิยามว่า ล้าสมัย (Deprecate) หรื อ ให้เลิกใช้ (Obsolete) ก็จะไม่ใช้คาสังนันใน ํ การเขียนเอกสาร ซึงในความเป็ น จริ งขณะนี ยังคงไม่มี โปรแกรม browser ใด สนับสนุ นภาษา HTML 4.0 อย่างเคร่ งครัด แต่คาดว่าในอนาคต อันใกล้ น่าจะมีความเป็ นไปได้  แบบค่อยเป็ นไป (Transitional/ Loose HTML 4.0)
  • 4. 4 เป็ นเอกสารที สร้ างด้วยภาษา HTML 4.0 โดยใช้ร่ วมกับคําสังใน HTML เวอร์ ชน 3.2 เพือให้ ั เอกสารทีสร้างขึนมีรูปแบบ และใช้งานได้ตามจริ ง แม้ว่าจะใช้โปรแกรม browser ระบบเครื อข่าย และประเภท คอมพิวเตอร์ทีหลากหลายก็ตาม และแน่ นอนว่า ในบทความนี เอกสารทีเราสร้างขึ น จะถูกจัดให้อยูในเป็ นประเภทนี ่  แบบ Frameset (Frameset HTML 4.0) เป็ นเอกสารที รวมเอาประเภท Transitional เข้า กับ tag ประเภท frame (ได้แ ก่ FRAME, FRAMESET, NOFRAMES และ IFRAME) ซึงเป็ น tag ใหม่เพิงจะมีในเวอร์ชน 4.0 นี ั เครืองมือ การสร้างไฟล์เอชทีเอ็มแอลสามารถทําได้โดยใช้โปรแกรมโน้ตแพด (Notepad) ซึงเป็ น โปรแกรมพิมพ์ประจําบนไมโครซอฟต์วิ น โดว์ทุก เวอร์ ชน สําหรั บโปรแกรมพิมพ์ประจําบน ั ไมโครซอฟต์วินโดวส์ 95 (Windows 95) นอกจากโปรแกรมโน้ตแพดยังสามารถใช้โปรแกรมเวิร์ด แพด (Wordpad) ได้ดวย การพิมพ์คาสังภาษาเอชทีเอ็มแอล โดยโปรแกรมดังกล่าวเป็ นการพิมพ์ ้ ํ โดยปกติธรรมดาไม่มีเครื องมือช่วยสร้างคําสัง ดังนัน การเขียนไฟล์เอชทีเอ็มแอลโดยโปรแกรม พิมพ์ดงกล่าวอาจทําให้เสียเวลามากกว่าการเขียนโดยโปรแกรมพิมพ์เอชทีเอ็มแอลอืนๆ โดยเฉพาะ ั ปัจจุบนมีโปรแกรมพิมพ์เอชทีเอ็มแอลหลายโปรแกรมด้วยกันซึงมีชือทัวไปว่า โปรแกรมเอชทีเอ็ม ั แอลเอดิ เตอร์ (HTML editor) หรื อโปรแกรมไฮเปอร์ เอดิเตอร์ (hyper editor) โปรแกรมพิมพ์ ดัง กล่า วเป็ นโปรแกรมอํา นวยความสะดวกในการสร้ า งไฟล์เอชที เ อ็มแอลได้ใ นระดับ หนึ ง โปรแกรมเหล่านี ได้แก่ โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ (HTML – Assistant) โปรแกรม เอชทีเอ็มแอล-เอ็ด (HTML Ed) โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-ไฮเปอร์ อีดิต (HTML-Hyper Edit) และ โปรแกรมเดอะฮอตเมตทอล – เอดิเตอร์ (The HoTMetal editor) โปรแกรมฮอตด็อก (HoTDog) และโปรแกรมเน็ ตสเปค-เนวิเกเตอร์ – โกลด์ 2.02 เอดิเตอร์ (Netscape’s Navigator Gold 2.02 Editor) เป็ นต้น โปรแกรมพิมพ์เหล่านี ทํางานภายใต้ระบบวินโดวส์ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมพิมพ์ เอชที เ อ็มแอลดังกล่ าวต้อ งทํางานร่ ว มกับโปรแกรมเวิ ลด์ไวด์เ ว็บเบราเซอร์ เสมอ ดังนั น ผูใ ช้ ้ คอมพิวเตอร์จึงต้องมีโปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์อย่างใดอย่างหนึงไว้สาหรับแสดงผลลัพธ์ ํ โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล – แอสซิสแตนต์ (HTML-Assistant) โปรแกรมเอชที เอ็มแอล-แอสซิ สแตนต์เขีย นโดย เอช ฮาราวิ ต ซ์ (H. Harawitz) เป็ น โปรแกรมพิมพ์ภาษาเอชทีเอ็มแอลทีได้รับความนิ ยมมากโปรแกรมหนึ ง โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล- แอลซิ ส แตนต์ท ํางานร่ วมกับ โปรแกรมเวิ ล ด์ไ วด์เ ว็บ เบราเซอร์ ได้ห ลายโปรแกรมอัน ได้แ ก่
  • 5. 5 โปรแกรมเซลโล โปรแกรมโมเซอิค และโปรแกรมเน็ ตสเคป การกําหนดไดเรกทอรี ข องไฟล์ เอชที เอ็มแอลที เขี ย นโดยโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิ สแตนต์ต ้องระบุไดเรกทอรี ให้ต รงกับ โปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์ และการแสดงผลลัพธ์ของไฟล์เอชทีเอ็มแอลทีได้รับการแก้ไข ทํา ได้โดยกดปุ่ มคําสัง “รี โหลด” (reload) บนโปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์ ทุกครั ง อย่างไรก็ตาม โปรแกรมเอชที เ อ็ม แอล แอสซิ ส -แตนต์ สามารถทํา งานร่ ว มกับโปรแกรมเซลโลภายใต้ก าร เชือมโยงแบบดีดีแอล (DDL : Dynamic Data Exchange) ทําให้โปรแกรมเซลโลสามารถแสดง ผลลัพธ์ซึงสอดคล้องกับข้อมูลทีได้รับการแก้ไขโดยไม่จาเป็ นต้องกดปุ่ มรี โหมด กล่าวคือ การแสดง ํ ผลลัพธ์บนโปรแกรมเซลโลขึ นกับการแก้ไขข้อมูลบนโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ โดยตรง การเข้าสู่โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-เอสซิสแตนต์ ทําได้โดยการคลิกเมาส์ไปทีไอคอนรู ป ดินสอ ทําให้ปรากฏภาพโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ซึงประกอบด้วยเมนูและทูลบาร์ (tool bar) สําหรับตัวอย่างการพิมพ์ไฟล์เอชทีเอ็มแอลบนโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ และผลลัพธ์บนโปรแกรมเซลโล โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล์-เอ็ด (HTML Ed) โปรแกรมเอชที เ อ็มแอล-เอ็ด เขี ย นโดย ปี เตอร์ กรอว์ชอว์ (Peter Crawshaw) เป็ น โปรแกรมอํานวยความสะดวกทีคล้ายคลึงกับโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิ สแตนต์ ข้อดีข อง โปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-เอ็ดคือให้ค วามสะดวกในการพิมพ์อกขระกลุ่ม หรื อกษรต่ างประเทศที ั ั ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ซึงนับว่าดีกว่าโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิสแตนต์ โดยทีโปรแกรมเอชทีเอ็ม แอล-เอ็ด กําหนดอักษรต่างประเทศไว้บนทูลบาร์ ข้อด้อยของโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-เอ็ด คือไม่ สามารถเชือมโยงแบบดีดีแอลกับโปรแกรมเซลโลได้เช่นเดียวกับโปรแกรมเอชทีเอ็มแอล-แอสซิส แตนต์ โปรแกรมฮอตเมตทอล (HoTMetL) โปรแกรมฮอตเมตทอลเป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสารเอชทีเอ็มแอล โปรแกรมฮอต เมตทอลเป็ นของบริ ษท ซอฟท์ควอด จํากัด จุดเด่นของโปรแกรมฮอตเมตทอลคือ เน้นคําสังรู ปแบบ ั ภาพเพือให้ง่ายต่อความเข้าใจ โปรแกรมฮอตด็อก (HoTDog) โปรแกรมฮอตด็อกเป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสารเอชทีเอ็มแอลทีได้รับความนิ ยม สูงสุดโปรแกรมหนึง โปรแกรมฮอตด็อกเป็ นของบริ ษท ซอสเสจ จํากัด ประเทศออสเตรเลีย จุดเด่น ั ของโปรแกรมฮอตด็อกคือ เป็ นโปรแกรมทีใช้ง่าย โปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิเตอร์ (Netscape’s Navicator Gold Editor) โปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิ เตอร์ เป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสาร เอชทีเอ็มแอลแบบโดยตรงจากจอภาพของโปรแกรม ซึงเป็ นไปตามนิ ยามของคําว่า “สิ งทีคุณเห็น
  • 6. 6 คือสิ งทีคุณได้รับ” หรื อมาจากนิ ยามภาษาอังกฤษทีว่า WYSIWYG (What You See Is What You Get) โปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์-โกลด์ เอดิเตอร์ เป็ นของบริ ษท เน็ตสเคป คอมมูนิเคชัน จํากัด ั จุดเด่นของโปรแกรมเน็ตสเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิเตอร์ คือ เป็ นโปรแกรมทีแสดงภาพได้เอง เนืองจากตัวมันเองเป็ นโปรแกรมเวิลด์ไวด์เว็บเบราเซอร์ ดังนันการแก้ไขข้อมูลจึงทําได้สะดวก โปรแกรมฟรอนต์เพจ (Front Page) โปรแกรมฟรอนต์เพจเป็ นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์เอกสารเอชทีเอ็มแอลแบบโดยตรง จากจอภาพการแก้ไขสามารถแสดงผลบนจอภาพของโปรแกรม โปรแกรมฟรอนต์เพจเป็ นของ บริ ษ ัท ไมโครซอฟต์ จํากัด จุดเด่น ของโปรแกรมฟรอนต์เพจคือ เป็ นโปรแกรมพิมพ์และแก้ไข ข้อมูลที เชื อมโยงกับเว็บเซิ ร์ ฟเวอร์ เพือสะดวกต่ อการตรวจสอบโอมเพจที มาจากไฟล์เอกสาร เอชทีเอ็มแอล โปรแกรมแบ็กสเตจ-ดีไซเนอร์ (Backstage Designer) โปรแกรมแบ็กสเตจ-ดีไซเนอร์เป็ นของบริ ษท แมคโครมีเดีย เป็ นโปรแกรมพิมพ์และแก้ไข ั ไฟล์เ อกสารเอชที เ อ็มแอลแบบโดยตรงจาก “สิ งที คุ ณ เห็ น คื อ สิ งที คุ ณ ได้รั บ ” เช่ น เดี ย วกับ โปรแกรมฟรอนต์เพจ โปรแกรมเน็ต สเคป-เนวิเกเตอร์ -โกลด์ เอดิเตอร์ จุด เด่ น ของโปรแกรม แบ็กสเตจ-ดีไซเนอร์ คือ สามารถแทรกงานประยุกต์ของโปรแกรมแอกทีฟ-เอ็กซ์ (Active-X) ของ บริ ษทไมโครซอฟต์ จาวาแอปเพล็ตของบริ ษทซันไมโครซิสเต็ม และงานประยุกต์เน็ตสเคปปลักอิน ั ั (Netscape Plug-In) ของบริ ษท เน็ตสเคป เพือแสดงงานประยุกต์แบบมัลติมีเดีย ั