Introduction to Database
- 1. 4121201 ฐานข้อมูลเบื้องต้น อ . โอภาส แก้วต่าย
- 3. ระหว่างเรียน 20 % สอบย่อย
- 4. งานในชั่วโมง กลางภาค 20 %
- 5. ปลายภาค 25 %
- 6. โปรเจค 25 %
- 7. คำอธิบายรายวิชา ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิธีการเก็บข้อมูลโดยการใช้ไฟล์เมื่อเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล ฐานข้อมูลประเภทต่างๆ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับการใช้ฐานข้อมูลและไฟล์ ในการจัดเก็บข้อมูล ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบและใช้งานฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) เรียนรู้ค าสั่งของภาษา SQL : Structure Query Language เพื่อใช้งานและจัดการกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
- 8. หนังสือ / ตำราอ้างอิง การออกแบบและจัดการฐานข้อมูล - โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์ http://www.se-ed.com/eShop/Products/Detail.aspx?CategoryId=0&No=9789745346093
- 9. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล I NTRODUCTION TO D ATABASE
- 10. Q UIZ ? เราเคยพบการใช้ฐานข้อมูลที่ใดบ้าง
- 11. A NSWER : D ATABASE IS E VERYWHERE
- 13. E VOLUTION OF D ATABASE
- 14. D ATA M ANAGEMENT
- 17. โครงสร้างของแฟ้มข้อมูล บิต (bit)
- 18. ไบต์ (Byte)
- 19. ฟิลด์ (Field)
- 20. เรคอร์ด (record)
- 21. ไฟล์ (File)
- 22. บิต (Bit - Binary Digit) ลำดับชั้นของหน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุด
- 24. เมื่อแปลงแล้วจะได้ตัวเลขแทนสถานะเปิดและปิดของสัญญาณไฟฟ้าที่เรียกว่าบิต คือ บิต 0 และบิต 1
- 25. ไบต์ (Byte) เมื่อนำบิตมารวมกันหลายๆบิต จะได้หน่วยข้อมูลกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า ไบต์ (byte)
- 27. สำหรับรหัสแอสกี 1 ตัวอักษรหรือ 1 ไบต์ = 8 บิต
- 28. ฟีลด์หรือเขตของข้อมูล (Field) ประกอบด้วยกลุ่มของตัวอักษรหรือไบต์ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไปมาประกอบกันเป็นหน่วยข้อมูลที่ใหญ่ขึ้นเพื่อแสดงลักษณะหรือความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง
- 29. ยกตัวอย่างเขตข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน เช่น รหัสพนักงาน ชื่อ นามสกุล เงินเดือน ตำแหน่ง เป็นต้น
- 30. เรคอร์ด (Record) กลุ่มของเขตข้อมูลหรือฟีลด์ที่มีความสัมพันธ์กัน และนำมาจัดเก็บรวมกันเป็นหน่วยใหม่ที่ใหญ่ขึ้นเพียงหน่วยเดียว
- 32. ไฟล์หรือแฟ้มตารางข้อมูล (File) เป็นการนำเอาข้อมูลทั้งหมดหลายๆ เรคอร์ดที่ต้องการจัดเก็บ มาเรียงอยู่ในรูปแบบของแฟ้มตารางข้อมูลเดียวกัน เช่น แฟ้มตารางข้อมูลเกี่ยวกับคะแนนนักศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์ อาจประกอบด้วย เรคอร์ดของนักศึกษาหลายๆคนที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับ รหัสนักศึกษา ชื่อ นามสกุล และคะแนนที่ได้ เป็นต้น
- 33. ชนิดของข้อมูล (Type of Data) ข้อมูลชนิดข้อความ (text)
- 34. ข้อมูลชนิดที่เป็นรูปแบบ (formatted data)
- 37. ข้อมูลชนิดข้อความ (text) ประกอบไปด้วยอักขระต่าง ๆ ที่นำมารวมกันโดยไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนแน่นอน
- 39. ข้อมูลชนิดที่เป็นรูปแบบ (formatted data) ประกอบไปด้วยอักขระต่างๆ ที่มีรูปแบบแน่นอน โดยอาจอยู่ในรูปแบบบของรหัส
- 41. เช่น TH001
- 42. ข้อมูลชนิดรูปภาพ (images) เป็นรูปภาพที่ใช้แทนข้อมูล
- 44. ข้อมูลชนิดเสียง (audio/sound) เป็นข้อมูลอีกชนิดหนึ่งที่จัดเก็บเป็นลักษณะของเสียง เช่น midi, digital audio
- 45. การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล (File Organizations) Mastet File
- 46. Transaction File
- 47. Document File
- 48. Archival File
- 50. Audit File
- 52. เช่น แฟ้มข้อมูลประวัตินักศึกษา ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
- 54. เช่น แฟ้มข้อมูลรายการซื้อ - ขาย สินค้าในแต่ละวัน
- 55. Document File แฟ้มข้อมูลเอกสาร หรือรายงาน ที่มีการจัดเตรียมไว้แล้ว
- 58. Archival File แฟ้มข้อมูลที่บรรจุ Master File และ Transaction File ที่ประกอบไปด้วยเรคอร์ดต่าง ๆ ที่ถูกลบ
- 59. หรือเก็บข้อมูลการเคลื่อนย้ายของแฟ้มต่างๆ เช่น เคลื่อนย้ายจากสื่ออุปกรณ์ออนไลน์ ไปยังสื่อแบบออฟไลน์
- 61. บางครั้งอาจเรียกว่า Historical File
- 62. Table Look-Up File เป็นแฟ้มข้อมูลที่ใช้ในการอ้างอิง (Referrence)
- 65. Audit File เป็นแฟ้มข้อมูลชนิดพิเศษที่ใช้ในการจัดเก็บเรคอร์ดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแฟ้มต่างๆ
- 66. จะใช้งานร่วมกับ Archival File ในการกู้้คืน (recover) ข้อมูลที่เสียหาย
- 67. การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล (File Organizations) ทำให้การค้นหาหรือเรียกดูข้อมูลทำได้รวดเร็ว
- 70. โครงสร้างของแฟ้มข้อมูล โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลำดับ (sequential file organizations)
- 71. โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบดัชนี (indexed file organizations)
- 72. โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบแฮช (hashed file organizations)
- 73. โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลำดับ (sequential file organizations) โครงสร้างของแฟ้มข้อมูลชนิดพื้นฐานที่สามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด
- 77. จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์ประเภทเทปแม่เหล็ก (magnetic tape)
- 78. โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลำดับ (sequential file organizations)
- 79. โครงสร้างของแฟ้มข้อมูลแบบดรรชนี (indexed file organizations) ใช้แฟ้มดรรชนี (index) ทำการค้นหาหรือเข้าถึงข้อมูลโดยตรง
- 80. แฟ้มดรรชนีประกอบด้วยคีย์ 2 ตัวคือ คีย์ของข้อมูลและคีย์ของตำแหน่งที่เก็บข้อมูล
- 82. โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบแฮช (hashed file organizations) อาศัยอัลกอริทึมที่เรียกว่า แฮชชิ่ง (hashing) ในการคำนวณหาค่าคีย์ฟีลด์
- 83. ถ้าข้อมูลมาก การแปลงค่าตำแหน่งอาจเกิดการชนกัน (collision) ได้
- 84. ระบบแฟ้มข้อมูล (File-Based System) จัดเก็บข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
- 88. ข้อจำกัดของวิธีแฟ้มข้อมูล ข้อมูลมีการเก็บแยกจากกัน (separation and isolation of data)
- 89. ข้อมูลมีความซำ้ซ้อน (duplication of data/data redundancy)
- 90. ข้อมูลมีความขึ้นต่อกัน (data independence)
- 91. มีรูปแบบไม่ตรงกัน (incompatible file formats)
- 92. รายงานต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้อย่างจำกัด (fixed queries/proliferation of application)
- 93. ข้อมูลมีการเก็บแยกจากกัน (separation and isolation of data) แต่ละส่วนมีการเก็บข้อมูลของตนเอง
- 95. ข้อมูลมีความซำ้ซ้อน (duplication of data/data redundancy) การเก็บข้อมูลแยกกันทำให้ไม่สามารถควบคุมข้อมูลไม่ให้ซำ้ซ้อนกันได้
- 97. ความผิดพลาดของข้อมูล (data anomalies) เกิดได้ 3 ลักษณะคือ ข้อผิดพลาดจากการเพิ่มข้อมูล (insert anomalies)
- 98. ข้อผิดพลาดจากการลบข้อมูล (deletion anomalies)
- 99. ข้อผิดพลาดจากการเปลี่ยนแปลงข้อมูล (modification anomalies)
- 100. ข้อมูลมีความขึ้นต่อกัน (data independence)
- 101. มีรูปแบบไม่ตรงกัน (incompatible file formats) เช่น หน่วยทศนิยมของจำนวนเงิน
- 102. รายงานต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้อย่างจำกัด (fixed queries/proliferation of application) รายงานต่าง ๆ ถูกกำหนดมาอยู่แล้ว
- 106. ระบบฐานข้อมูล (Database System) มีแนวคิดตรงข้ามกับแฟ้มข้อมูล
- 110. ระบบการจัดการฐานข้อมูล (Database Management System : DBMS ) DBMS
- 112. มักจะใช้ภาษา SQL ในการติดต่อกับฐานข้อมูล
- 113. สามารถสร้าง เรียกดู บำรุงรักษา ดูแลการเข้าถึงข้อมูล
- 115. ส่วนประกอบของสภาพแวดล้อมระบบการจัดการฐานข้อมูล (Components of the DBMS Environment) Hardware
- 116. Software
- 117. Data
- 118. Procedure
- 119. People
- 122. ขึ้นอยู่กับความต้องการของงาน และ DBMS
- 123. Software หมายถึงระบบปฏิบัติการ (Operating Systems) ซอร์ฟแวร์การจัดการฐานข้อมูล หรือแอปพลิเคชันต่างๆ
- 125. อาจพัฒนาขึ้นเองก็ได้
- 127. เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างเครื่องมือ (machine) และมนุษย์ (human)
- 128. ในฐานข้อมูลจะประกอบไปด้วย ข้อมูลปฏิบัติการ (operational data)
- 129. ตัวอธิบายข้อมูล (meta data)
- 133. People ผู้บริหารข้อมูล (data administrators) วางแผน ออกแบบระดับแนวคิด บำรุงรักษา ผู้บริหารฐานข้อมูล (database administrators) ออกแบบระดับฟิสิคอล พัฒนาฐานข้อมูล ควบคุมความปลอดภัย
- 134. People นักออกแบบฐานข้อมูล (database designers) นักออกแบบฐานข้อมูลระดับลอจิคอล (logical database designer)
- 135. นักออกแบบฐานข้อมูลระดับฟิสิคอล (physical database designer)
- 136. People นักเขียนโปรแกรมประยุกต์ (application programmers)
- 137. ผู้ใช้งาน (end user) ผู้ใช้งานทั่วไป (native users) ใช้งานทั่ว ๆ ไป ผู้ใช้งานที่มีความรู้ (sophisticated users) สามารถเขียนคำสั่ง sql เพื่อเรียกดูข้อมูลได้