พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com
21 เมษายน 2561
by Colin Powell with Tony Koltz
Colin Powell’s rules are short but powerful. Use them as a reminder to manage
your emotions, model the behavior you want from others, and lead your team
through adversity.
Colin Powell
 Colin Luther Powell (เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1937) ใน
Harlem เมือง New York City เป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวจาเมกา
 Powell ดารงตาแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
(ค.ศ.1987-1989) ผู้บัญชาการกองทัพบก (ค.ศ. 1989) และผู้
บัญชาการทหารสูงสุด (ค.ศ. 1989-1993) ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย
 Powell เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกและคนเดียว ที่ได้
เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอเมริกา
 เขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนที่ 65 ภายใต้ประธานาธิบดี George
W. Bush ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001-2005 ซึ่งเป็นชาวอเมริกันแอฟริกันคน
แรก ที่เข้ามารับราชการในตาแหน่งนี้
กฎ 13 ข้อของผู้นา
 1. มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด
 2. โกรธได้แต่อย่านาน
 3. หลีกเลี่ยงการยึดติดกับตาแหน่ง
 4. มันสามารถทาได้
 5. ระวังสิ่งที่คุณเลือก คุณอาจต้องยอมรับมัน
 6. อย่าปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ไม่พึงประสงค์ ขวางทางการตัดสินใจที่ดี
 7. ไม่ควรให้คนอื่นเลือกแทนคุณ
 8. ตรวจสอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
 9. แบ่งปันความดีความชอบ
 10. สงบนิ่ง มีจิตใจดี
 11. มีวิสัยทัศน์ และตั้งความคาดหวัง
 12. ก้าวผ่านความกลัว
 13. มองในแง่ดีจะเพิ่มพลังเป็นทวีคูณ
1. มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด
 การออกจากที่ทางานในเวลากลางคืนโดยมีทัศนคติที่ดี มี
ผลกระทบมากกว่าที่คิด มันบ่งบอกทัศนคติของคุณให้กับลูกน้อง
 ทุกสิ่งจะดูดีขึ้นในตอนเช้า (It will look better in the morning) กฎ
นี้ สะท้อนถึงทัศนคติไม่ใช่การคาดการณ์
 พยายามทาให้ความเชื่อมั่นและมองโลกในแง่ดีเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะยากแค่ไหนก็ตาม
 สิ่งต่างๆ จะดีขึ้น คุณจะทาให้มันดีขึ้น
2. โกรธได้แต่อย่านาน
 แทนที่จะปล่อยให้ความโกรธทาลายคุณ จงใช้มันเพื่อสร้างการ
เปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์
 การโกรธและการอยู่กับการโกรธ (Getting mad and staying mad)
เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน การโกรธเป็นเรื่องที่เป็นธรรมชาติ แต่
การอยู่กับการโกรธไม่ได้ประโยชน์อะไร
 Powell กล่าวว่า ผมทางานหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้
แน่ใจว่าเมื่อผมโกรธ ผมจะระงับมันได้อย่างรวดเร็ว และไม่เคย
สูญเสียการควบคุมตัวเอง
3. หลีกเลี่ยงการยึดติดกับตาแหน่ง (เพราะเมื่อคุณออกจาก
ตาแหน่ง อัตตาของคุณจะหายไปพร้อมกับมันด้วย)
 ตาแหน่งเป็นเพียงหนทางที่ใช้เพื่อการทาให้บรรลุเป้ าหมาย
ไม่ใช่เป้ าหมาย
 ความภักดีคือการสามารถถกเถียงได้ ถ้าคิดว่านายไม่ถูกต้อง
(ก่อนที่นายจะตัดสินใจ) แต่จะต้องดาเนินการตามคาสั่งอย่าง
ซื่อสัตย์ (เมื่อนายออกเป็นคาสั่งแล้ว)
 ควบคุมอัตตาของคุณ และรู้ว่าคุณสามารถนาได้ในทุกสถานะ
4. มันสามารถทาได้
 ผู้นาทาให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น หากวิธีการหนึ่งไม่ได้ผล ให้หาวิธีอื่น
 อย่าทาให้ตัวเองเกิดความคลางแคลงใจ
 ในเวลาเดียวกัน อย่าปิดโอกาสความคลางแคลงใจและเพื่อน
ร่วมงาน ที่ให้ทรรศนะที่เป็นประโยชน์กับคุณ
5. ระวังสิ่งที่คุณเลือก คุณอาจต้องยอมรับมัน
 อย่าเร่งรีบในสิ่งต่างๆ
 ใช้หลักการ เรียบง่าย (Plain and simple)
 "คุณจะต้องอยู่กับทางเลือกของคุณ บางทางเลือกที่ไม่ดี คุณ
สามารถแก้ไขได้ แต่บางอย่าง คุณจะต้องยอมรับมัน"
 ทีมของคุณจะต้องอยู่กับทางเลือกของคุณ ดังนั้น อย่ารีบร้อน
(don’t rush)
6. อย่าปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ไม่พึงประสงค์ ขวางทางการตัดสินใจที่ดี
 ผู้นาที่เหนือกว่า มักเป็นเรื่องของสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยม เมื่อ
ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลาบาก ให้ใช้เวลาที่มีเพื่อรวบรวม
ข้อมูล ที่จะบอกกับสัญชาตญาณของคุณ
 การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง จะบ่งบอกถึงทางเลือกที่เหมาะสม
 บ่อยครั้งที่คุณจะต้องทาการตัดสินใจ เพื่อเลือกหนทางการ
ดาเนินการที่ดีที่สุด
7. ไม่ควรให้คนอื่นเลือกแทนคุณ
 ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นเลือกแทนคุณ
 เนื่องจากความรับผิดชอบสูงสุดเป็นของคุณ โปรดตรวจสอบให้
แน่ใจว่า ทางเลือกเป็นของคุณ และคุณจะไม่ตอบสนองต่อแรง
กดดันและความต้องการของผู้อื่น
 ในขณะที่ผู้นาที่ดีจะฟังและพิจารณามุมมองทั้งหมด ในท้ายที่สุด
พวกเขาต้องตัดสินใจด้วยตนเอง
 ยอมรับการตัดสินใจที่ดีของคุณ และเรียนรู้จากความผิดพลาด
8. ตรวจสอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
 ความสาเร็จส่วนใหญ่อาศัยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ (รายละเอียด)
มากมาย
 ผู้นาต้องรู้สึกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ คือรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อโยงสู่
ภาพใหญ่ขององค์กร (ที่มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ประกอบกันอยู่)
 ลูกน้อง หรือกองกาลัง อาศัยอยู่ในโลกของสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ
 ผู้นาต้องค้นหาวิธีทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อให้
มองเห็นโลก (ภาพใหญ่) จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้
9. แบ่งปันความดีความชอบ
 ผู้คนต้องการได้รับการยอมรับและความรู้สึกว่ามีคุณค่า
เช่นเดียวกับที่พวกเขาต้องการอาหารและน้า
 ผู้นาแบ่งปันความดีความชอบให้ลูกน้อง ยอมรับความผิดพลาด
แทน แล้วค่อยๆ ค้นหาและแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด
 เมื่อใดก็ตาม ที่คุณโยนสาเหตุของความผิดพลาดว่าไม่ได้เกิดจาก
ตัวคุณ นั่นเป็นข้อแก้ตัวไม่ใช่เหตุผล
10. สงบนิ่ง มีจิตใจดี
 มีไม่กี่คนที่ตัดสินใจได้ดีในบรรยากาศแห่งความสับสนวุ่นวาย ให้
สร้างเขตความสงบในขณะที่ต้องการความเร่งด่วน
 เมื่อเกิดสถานการณ์การสู้รบ (ไม่ว่าทางทหารหรือว่าในองค์กร)
ความเมตตากรุณา ความสงบนิ่ง จะสร้างความมั่นใจให้กับ
ลูกน้อง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขา
 ความเมตตากรุณาจะเชื่อมต่อคุณกับผู้คนอื่นๆ เพื่อสร้างความ
ผูกพันซึ่งกันและกัน
 หากคุณใส่ใจลูกน้องของคุณและแสดงความเมตตากรุณา พวก
เขาจะจงรักภักดีและห่วงใยคุณเช่นกัน
11. มีวิสัยทัศน์ และตั้งความคาดหวัง
 ลูกน้องจาเป็นต้องทราบว่า ผู้นาของพวกเขากาลังพาพวกเขาไปที่
ใด และเพื่อ จุดมุ่งหมาย (purpose) อะไร
 เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ผู้นาต้องกาหนดมาตรฐานที่ต้องการ
และให้แน่ใจว่าสามารถทาให้สาเร็จได้
 จุดมุ่งหมาย คือจุดมุ่งหมายของวิสัยทัศน์
 เพื่อสร้างพลังในการบรรลุวิสัยทัศน์ที่ต้องการ วิสัยทัศน์นั้นควร
เป็นแง่บวก มีพลัง และทาให้องค์กรดีขึ้น
12. ก้าวผ่านความกลัว
 องค์กรที่ประสบความสาเร็จ ไม่ได้สร้างโดยคนขี้ขลาดหรือคนนินทา
 ความกลัวเป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ มันไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้าย เรา
สามารถเรียนรู้ที่จะตระหนักถึงความกลัว และฝึกการทางานให้ผ่านพ้น
ไปได้ แม้จะมีความกลัว
 ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าเราไม่เข้าใจว่าความกลัวเป็นเรื่องปกติ ที่ต้องควบคุม
และเอาชนะมันให้ได้ จะทาให้เราเป็นอัมพาตและหยุดเดินในเส้นทาง
ของเรา (ถ้ากลัว เราจะไม่คิดอย่างชัดเจนหรือวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล)
 เราต้องเตรียมตัวและควบคุมความกลัว อย่าปล่อยให้มันควบคุมเรา
ถ้าทาไม่ได้ เราก็ไม่สามารถเป็นผู้นาได้
13. มองในแง่ดีจะเพิ่มพลังเป็นทวีคูณ
 มองในแง่ดี เชื่อในตัวเอง เชื่อในจุดมุ่งหมายของคุณ เชื่อว่าคุณ
จะต้องชนะ และแสดงให้เห็นถึงความรักและความเชื่อมั่น จะ
เป็นตัวคูณพลัง
 ถ้าคุณเชื่อและตระเตรียมลูกน้องของคุณ ลูกน้องของคุณก็จะเชื่อ
สรุป
 หนังสือเล่มนี้ เต็มไปด้วยประสบการณ์อันชัดเจน และบทเรียนที่
ได้รับจากการเรียนรู้ ซึ่งก่อให้เกิดเป็นตานานของอดีตนายพลเอก
และรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกาคือ Colin Powell
 Powell กล่าวว่า "ภาวะผู้นาเป็นเรื่องที่เรารับรู้ และได้เรียนรู้จาก
ผู้คนที่เราได้พบเจอ นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน" (It's about how
we touch and are touched by the people we meet. It's all about
the people.)
 กฎของผู้นำ 13 ข้อ It worked for Me - 13 Rules of Leadership
การนาไปใช้ประโยชน์ - การจัดการกับความขัดแย้งและวิกฤติ การ
แก้ปัญหาและการตัดสินใจ (Handling Conflict and Crisis, Problem
Solving and Decision Making)
 Powell ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ผู้นาทาคือ การแก้ปัญหา
 "ถ้าโต๊ะทางานของคุณสะอาดและไม่มีใครมีปัญหา คุณควรกังวล
ให้มาก" นี่เป็นสัญญาณว่า คนของคุณคิดว่าคุณไม่สามารถแก้ไข
ปัญหาได้ หรือแย่กว่านั้นคือ คุณไม่สนใจ
 เมื่อพวกเขาถามคุณเรื่องปัญหา นั่นหมายความว่าพวกเขาคิดว่า
คุณสามารถแก้ปัญหาได้ พวกเขายังเชื่อถือคุณ
 ดังนั้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสที่จะเสริมสร้างความ
เป็นผู้นาของคุณ
ทาตัวให้ว่างเพื่อรับฟัง (Make yourself available)
 Powell กล่าวว่า เขามักออกจากสานักงาน ไม่ว่าเขาจะเป็นทหาร
ในกองทัพหรือรัฐมนตรี เขาก็จะเดินไปรอบๆ เพื่อดูว่า มีอะไร
เกิดขึ้น พูดคุยกับผู้คน และทาความเข้าใจกับสิ่งที่กาลังเกิดขึ้น
 ในการทาเช่นนั้น ทาให้เขาได้เพิ่มโอกาสในการเจอปัญหาที่มี
ขนาดเล็ก ก่อนที่พวกมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และทาให้ตัวเอง
พร้อม สาหรับผู้คนที่อาจจะไม่มีโอกาสพูดคุยกับเขา
 การเดินไปรอบๆ ยังทาให้คุณมีโอกาสรู้ว่า สิ่งที่คุณคิดสามารถ
เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ คุณอาจระบุปัญหาได้ด้วยตัวของคุณเอง
แก้ปัญหาไม่ใช่จัดการกับปัญหา (Solve problems, don’t manage them)
 เมื่อคุณพบปัญหา ให้แก้ปัญหา
 บ่อยครั้งที่เราอาจจะเพิกเฉยต่อบางสิ่งบางอย่างที่ทาให้เราไม่สบาย
ใจ หรือต้องสนทนาที่ยากลาบากกับใครบางคน แต่การหลีกเลี่ยง
หรือการฝังปัญหา ไม่ได้ทาให้ปัญหาหายไป
 ในฐานะที่เป็นผู้นา เราจาเป็นต้องมีความกล้าหาญ เผชิญหน้ากับ
ความเป็นจริง และหาแนวทางแก้ไขซึ่งสร้างความแตกต่างที่แท้จริง
 Powell เน้นการติดตามผล และทาในลักษณะที่ไม่ทาร้าย
ผู้ใต้บังคับบัญชา (ยกเว้นกรณีที่เขาคือตัวปัญหา!)
โปรดจาไว้ว่า พวกเขากาลังเฝ้ าดูอยู่ (Remember: They are watching )
 การกระทาของคุณจะถูกเผ้ามองอยู่เสมอ
 หากคุณพบสิ่งต่างๆ เช่นการละเมิดด้านความปลอดภัย การลัด
ขั้นตอนที่ไม่ถูกระเบียบ หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แล้วไม่ทา
อะไรกับเรื่องนี้ การอยู่เฉยๆ ของคุณ ส่งสัญญาณว่าเรื่องนั้นไม่
สาคัญต่อคุณ
 คุณกาลังส่งสัญญาณว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับความพยายามใน
การแก้ไข และถ้าคุณไม่สนใจ พวกเขาจะไม่สนใจด้วย
 อย่าละเลยความผิดพลาด (Never walk by a mistake)
อีกหนึ่งประเด็น (One more thought here)
 เพียงเพราะคุณระบุปัญหาได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้อง
แก้ปัญหาด้วยตนเอง คนที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติ ตามธรรมชาติ
มักจะได้พบกับความท้าทายต่างๆ
 หากเป็นความท้าทายส่วนตัวของพวกเขา คุณสามารถถามพวก
เขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้คาปรึกษาบางอย่าง แบ่งปันความคิด
บางอย่าง แต่ไม่แก้ปัญหาให้กับพวกเขา ถ้าคุณทา พวกเขาจะ
ยังคงมาหาคุณ ด้วยสิ่งที่พวกเขาควรจะแก้ไขตัวเอง
หากต้องการค้นหาปัญหา ให้ถามคาถามเหล่านี้ (To find the kind of
problems you are looking for, ask questions like these)
 กระบวนการและการทางาน สนับสนุนทีมงานและลูกค้าของคุณ
หรือไม่?
 สภาพแวดล้อมในการทางานเป็นบวก มีสุขภาวะที่ดีและมี
ประสิทธิผลสาหรับทีมของคุณหรือไม่?
 ทีมมีสารสนเทศ ทรัพยากร และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้งานเสร็จสิ้น
หรือไม่?
 แผนงาน นโยบาย หรือโครงการต่างๆ ควรดาเนินในลักษณะเช่นนี้
หรือไม่?
สรุปโดยย่อ
 ความเชื่อถือ ความเคารพ การสนับสนุนในเชิงบวก และการ
เชื่อมต่อเป็นส่วนบุคคล เป็นรากฐานของอิทธิพลและความเป็น
ผู้นา (Trust, respect, positive reinforcement, and personal
connection are the foundations of influence and leadership.)
 เมื่อผู้คนเห็นว่า คุณพร้อม เต็มใจ และสามารถแก้ปัญหาให้เขา
ได้ คุณจะเติบโตขึ้นในทุกด้าน และกลายเป็นผู้นาที่ดีขึ้น (When
people see that you are ready, willing, and able to solve their
problems, you grow stronger in all these areas, and you become
a better leader in the process.)
Colin Powell

More Related Content

PDF
หลักการผู้นำ 7 ประการ 7 proven leadership principles .pdf
PDF
ทำอย่างไรดีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด When things go wrong
PDF
เก็บเล็กผสมน้อย Slight Edge.pdf
PDF
ผู้นำทุกทิศ The 360º Leader by Maxwell
PDF
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
PDF
กฏ 3 ข้อในการกำหนดอนาคตตนเองและองค์กร 3 laws of performance
PDF
คุณสมบัติผู้นำ Leadership competencies
PDF
องค์กรที่กล้าหาญ Fearless organization
หลักการผู้นำ 7 ประการ 7 proven leadership principles .pdf
ทำอย่างไรดีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด When things go wrong
เก็บเล็กผสมน้อย Slight Edge.pdf
ผู้นำทุกทิศ The 360º Leader by Maxwell
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
กฏ 3 ข้อในการกำหนดอนาคตตนเองและองค์กร 3 laws of performance
คุณสมบัติผู้นำ Leadership competencies
องค์กรที่กล้าหาญ Fearless organization

Similar to กฎของผู้นำ 13 ข้อ It worked for Me - 13 Rules of Leadership (20)

PDF
Leadership 2.0 (adaptive leadership) ภาวะผู้นำ 2.0
PPTX
การจัดการตนเอง Drucker - Managing Oneself.pptx
PDF
หนทางสู่ความสำเร็จ Ultimate productivity
PDF
5 คุณภาพของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ 5 qualities of a successful leader
PDF
พัฒนาตนเอง Managing oneself
PDF
ผู้นำที่ไม่ยอมแพ้ Leadership the hard way
PDF
ทักษะผู้นำ The leadership skills handbook
PDF
ทำงานให้สำเร้จ ทีม มนุษยสัมพันธ์, พค54
PDF
กฏของภาวะผู้นำ The laws of leadership
PDF
24 ไม้เด็ดของผู้บริหาร How to be a great coach
PDF
เส้นทางสู่ความเป็นเลิศ Baptist's journey to excellence
PPT
7 habits (19 5-2554)
PPTX
นำตนเองก่อน Lead Yourself First.pptx
PDF
เจ็ดอุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง
PPT
กว่าจะเป็นผู้นำ
PDF
10 จุดบอดของผู้นำ Leaders' 10 top blind spots
PDF
PDF
เป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร บทเรียนจาก Jack Welch - How to be a good leader
PDF
5 laws for nida
PPTX
ทางเลือกที่สาม 3rd alternative
Leadership 2.0 (adaptive leadership) ภาวะผู้นำ 2.0
การจัดการตนเอง Drucker - Managing Oneself.pptx
หนทางสู่ความสำเร็จ Ultimate productivity
5 คุณภาพของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ 5 qualities of a successful leader
พัฒนาตนเอง Managing oneself
ผู้นำที่ไม่ยอมแพ้ Leadership the hard way
ทักษะผู้นำ The leadership skills handbook
ทำงานให้สำเร้จ ทีม มนุษยสัมพันธ์, พค54
กฏของภาวะผู้นำ The laws of leadership
24 ไม้เด็ดของผู้บริหาร How to be a great coach
เส้นทางสู่ความเป็นเลิศ Baptist's journey to excellence
7 habits (19 5-2554)
นำตนเองก่อน Lead Yourself First.pptx
เจ็ดอุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง
กว่าจะเป็นผู้นำ
10 จุดบอดของผู้นำ Leaders' 10 top blind spots
เป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร บทเรียนจาก Jack Welch - How to be a good leader
5 laws for nida
ทางเลือกที่สาม 3rd alternative
Ad

More from maruay songtanin (20)

DOCX
25. ปัพพโตปมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
24. อิสสัตถสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
23. โลกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
22. อัยยิกาสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
21. ปุคคลสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
20. ทุติยอปุตตกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬา...
DOCX
19. ปฐมอปุตตกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
DOCX
18. ทุติยอัปปมาทสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬ...
DOCX
17. ปฐมอัปปมาทสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
DOCX
16. ธีตุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
15. ทุติยสังคามสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬา...
DOCX
14. ปฐมสังคามสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
DOCX
13. โทณปากสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
12. ปัญจราชสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
11. สัตตชฏิลสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
10. พันธนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
09. ยัญญสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
08. มัลลิกาสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
07. อัตถกรณสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
06. อัปปกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
25. ปัพพโตปมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
24. อิสสัตถสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
23. โลกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
22. อัยยิกาสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
21. ปุคคลสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
20. ทุติยอปุตตกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬา...
19. ปฐมอปุตตกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
18. ทุติยอัปปมาทสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬ...
17. ปฐมอัปปมาทสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
16. ธีตุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
15. ทุติยสังคามสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬา...
14. ปฐมสังคามสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
13. โทณปากสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
12. ปัญจราชสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
11. สัตตชฏิลสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
10. พันธนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
09. ยัญญสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
08. มัลลิกาสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
07. อัตถกรณสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
06. อัปปกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
Ad

กฎของผู้นำ 13 ข้อ It worked for Me - 13 Rules of Leadership

  • 1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 21 เมษายน 2561
  • 2. by Colin Powell with Tony Koltz Colin Powell’s rules are short but powerful. Use them as a reminder to manage your emotions, model the behavior you want from others, and lead your team through adversity.
  • 3. Colin Powell  Colin Luther Powell (เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1937) ใน Harlem เมือง New York City เป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวจาเมกา  Powell ดารงตาแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ (ค.ศ.1987-1989) ผู้บัญชาการกองทัพบก (ค.ศ. 1989) และผู้ บัญชาการทหารสูงสุด (ค.ศ. 1989-1993) ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย  Powell เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกและคนเดียว ที่ได้ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอเมริกา  เขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนที่ 65 ภายใต้ประธานาธิบดี George W. Bush ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001-2005 ซึ่งเป็นชาวอเมริกันแอฟริกันคน แรก ที่เข้ามารับราชการในตาแหน่งนี้
  • 4. กฎ 13 ข้อของผู้นา  1. มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด  2. โกรธได้แต่อย่านาน  3. หลีกเลี่ยงการยึดติดกับตาแหน่ง  4. มันสามารถทาได้  5. ระวังสิ่งที่คุณเลือก คุณอาจต้องยอมรับมัน  6. อย่าปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ไม่พึงประสงค์ ขวางทางการตัดสินใจที่ดี  7. ไม่ควรให้คนอื่นเลือกแทนคุณ  8. ตรวจสอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ  9. แบ่งปันความดีความชอบ  10. สงบนิ่ง มีจิตใจดี  11. มีวิสัยทัศน์ และตั้งความคาดหวัง  12. ก้าวผ่านความกลัว  13. มองในแง่ดีจะเพิ่มพลังเป็นทวีคูณ
  • 5. 1. มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด  การออกจากที่ทางานในเวลากลางคืนโดยมีทัศนคติที่ดี มี ผลกระทบมากกว่าที่คิด มันบ่งบอกทัศนคติของคุณให้กับลูกน้อง  ทุกสิ่งจะดูดีขึ้นในตอนเช้า (It will look better in the morning) กฎ นี้ สะท้อนถึงทัศนคติไม่ใช่การคาดการณ์  พยายามทาให้ความเชื่อมั่นและมองโลกในแง่ดีเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะยากแค่ไหนก็ตาม  สิ่งต่างๆ จะดีขึ้น คุณจะทาให้มันดีขึ้น
  • 6. 2. โกรธได้แต่อย่านาน  แทนที่จะปล่อยให้ความโกรธทาลายคุณ จงใช้มันเพื่อสร้างการ เปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์  การโกรธและการอยู่กับการโกรธ (Getting mad and staying mad) เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน การโกรธเป็นเรื่องที่เป็นธรรมชาติ แต่ การอยู่กับการโกรธไม่ได้ประโยชน์อะไร  Powell กล่าวว่า ผมทางานหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ แน่ใจว่าเมื่อผมโกรธ ผมจะระงับมันได้อย่างรวดเร็ว และไม่เคย สูญเสียการควบคุมตัวเอง
  • 7. 3. หลีกเลี่ยงการยึดติดกับตาแหน่ง (เพราะเมื่อคุณออกจาก ตาแหน่ง อัตตาของคุณจะหายไปพร้อมกับมันด้วย)  ตาแหน่งเป็นเพียงหนทางที่ใช้เพื่อการทาให้บรรลุเป้ าหมาย ไม่ใช่เป้ าหมาย  ความภักดีคือการสามารถถกเถียงได้ ถ้าคิดว่านายไม่ถูกต้อง (ก่อนที่นายจะตัดสินใจ) แต่จะต้องดาเนินการตามคาสั่งอย่าง ซื่อสัตย์ (เมื่อนายออกเป็นคาสั่งแล้ว)  ควบคุมอัตตาของคุณ และรู้ว่าคุณสามารถนาได้ในทุกสถานะ
  • 8. 4. มันสามารถทาได้  ผู้นาทาให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น หากวิธีการหนึ่งไม่ได้ผล ให้หาวิธีอื่น  อย่าทาให้ตัวเองเกิดความคลางแคลงใจ  ในเวลาเดียวกัน อย่าปิดโอกาสความคลางแคลงใจและเพื่อน ร่วมงาน ที่ให้ทรรศนะที่เป็นประโยชน์กับคุณ
  • 9. 5. ระวังสิ่งที่คุณเลือก คุณอาจต้องยอมรับมัน  อย่าเร่งรีบในสิ่งต่างๆ  ใช้หลักการ เรียบง่าย (Plain and simple)  "คุณจะต้องอยู่กับทางเลือกของคุณ บางทางเลือกที่ไม่ดี คุณ สามารถแก้ไขได้ แต่บางอย่าง คุณจะต้องยอมรับมัน"  ทีมของคุณจะต้องอยู่กับทางเลือกของคุณ ดังนั้น อย่ารีบร้อน (don’t rush)
  • 10. 6. อย่าปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ไม่พึงประสงค์ ขวางทางการตัดสินใจที่ดี  ผู้นาที่เหนือกว่า มักเป็นเรื่องของสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยม เมื่อ ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลาบาก ให้ใช้เวลาที่มีเพื่อรวบรวม ข้อมูล ที่จะบอกกับสัญชาตญาณของคุณ  การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง จะบ่งบอกถึงทางเลือกที่เหมาะสม  บ่อยครั้งที่คุณจะต้องทาการตัดสินใจ เพื่อเลือกหนทางการ ดาเนินการที่ดีที่สุด
  • 11. 7. ไม่ควรให้คนอื่นเลือกแทนคุณ  ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นเลือกแทนคุณ  เนื่องจากความรับผิดชอบสูงสุดเป็นของคุณ โปรดตรวจสอบให้ แน่ใจว่า ทางเลือกเป็นของคุณ และคุณจะไม่ตอบสนองต่อแรง กดดันและความต้องการของผู้อื่น  ในขณะที่ผู้นาที่ดีจะฟังและพิจารณามุมมองทั้งหมด ในท้ายที่สุด พวกเขาต้องตัดสินใจด้วยตนเอง  ยอมรับการตัดสินใจที่ดีของคุณ และเรียนรู้จากความผิดพลาด
  • 12. 8. ตรวจสอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ  ความสาเร็จส่วนใหญ่อาศัยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ (รายละเอียด) มากมาย  ผู้นาต้องรู้สึกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ คือรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อโยงสู่ ภาพใหญ่ขององค์กร (ที่มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ประกอบกันอยู่)  ลูกน้อง หรือกองกาลัง อาศัยอยู่ในโลกของสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ  ผู้นาต้องค้นหาวิธีทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อให้ มองเห็นโลก (ภาพใหญ่) จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้
  • 13. 9. แบ่งปันความดีความชอบ  ผู้คนต้องการได้รับการยอมรับและความรู้สึกว่ามีคุณค่า เช่นเดียวกับที่พวกเขาต้องการอาหารและน้า  ผู้นาแบ่งปันความดีความชอบให้ลูกน้อง ยอมรับความผิดพลาด แทน แล้วค่อยๆ ค้นหาและแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด  เมื่อใดก็ตาม ที่คุณโยนสาเหตุของความผิดพลาดว่าไม่ได้เกิดจาก ตัวคุณ นั่นเป็นข้อแก้ตัวไม่ใช่เหตุผล
  • 14. 10. สงบนิ่ง มีจิตใจดี  มีไม่กี่คนที่ตัดสินใจได้ดีในบรรยากาศแห่งความสับสนวุ่นวาย ให้ สร้างเขตความสงบในขณะที่ต้องการความเร่งด่วน  เมื่อเกิดสถานการณ์การสู้รบ (ไม่ว่าทางทหารหรือว่าในองค์กร) ความเมตตากรุณา ความสงบนิ่ง จะสร้างความมั่นใจให้กับ ลูกน้อง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขา  ความเมตตากรุณาจะเชื่อมต่อคุณกับผู้คนอื่นๆ เพื่อสร้างความ ผูกพันซึ่งกันและกัน  หากคุณใส่ใจลูกน้องของคุณและแสดงความเมตตากรุณา พวก เขาจะจงรักภักดีและห่วงใยคุณเช่นกัน
  • 15. 11. มีวิสัยทัศน์ และตั้งความคาดหวัง  ลูกน้องจาเป็นต้องทราบว่า ผู้นาของพวกเขากาลังพาพวกเขาไปที่ ใด และเพื่อ จุดมุ่งหมาย (purpose) อะไร  เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ผู้นาต้องกาหนดมาตรฐานที่ต้องการ และให้แน่ใจว่าสามารถทาให้สาเร็จได้  จุดมุ่งหมาย คือจุดมุ่งหมายของวิสัยทัศน์  เพื่อสร้างพลังในการบรรลุวิสัยทัศน์ที่ต้องการ วิสัยทัศน์นั้นควร เป็นแง่บวก มีพลัง และทาให้องค์กรดีขึ้น
  • 16. 12. ก้าวผ่านความกลัว  องค์กรที่ประสบความสาเร็จ ไม่ได้สร้างโดยคนขี้ขลาดหรือคนนินทา  ความกลัวเป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ มันไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้าย เรา สามารถเรียนรู้ที่จะตระหนักถึงความกลัว และฝึกการทางานให้ผ่านพ้น ไปได้ แม้จะมีความกลัว  ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าเราไม่เข้าใจว่าความกลัวเป็นเรื่องปกติ ที่ต้องควบคุม และเอาชนะมันให้ได้ จะทาให้เราเป็นอัมพาตและหยุดเดินในเส้นทาง ของเรา (ถ้ากลัว เราจะไม่คิดอย่างชัดเจนหรือวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล)  เราต้องเตรียมตัวและควบคุมความกลัว อย่าปล่อยให้มันควบคุมเรา ถ้าทาไม่ได้ เราก็ไม่สามารถเป็นผู้นาได้
  • 17. 13. มองในแง่ดีจะเพิ่มพลังเป็นทวีคูณ  มองในแง่ดี เชื่อในตัวเอง เชื่อในจุดมุ่งหมายของคุณ เชื่อว่าคุณ จะต้องชนะ และแสดงให้เห็นถึงความรักและความเชื่อมั่น จะ เป็นตัวคูณพลัง  ถ้าคุณเชื่อและตระเตรียมลูกน้องของคุณ ลูกน้องของคุณก็จะเชื่อ
  • 18. สรุป  หนังสือเล่มนี้ เต็มไปด้วยประสบการณ์อันชัดเจน และบทเรียนที่ ได้รับจากการเรียนรู้ ซึ่งก่อให้เกิดเป็นตานานของอดีตนายพลเอก และรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกาคือ Colin Powell  Powell กล่าวว่า "ภาวะผู้นาเป็นเรื่องที่เรารับรู้ และได้เรียนรู้จาก ผู้คนที่เราได้พบเจอ นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน" (It's about how we touch and are touched by the people we meet. It's all about the people.)
  • 20. การนาไปใช้ประโยชน์ - การจัดการกับความขัดแย้งและวิกฤติ การ แก้ปัญหาและการตัดสินใจ (Handling Conflict and Crisis, Problem Solving and Decision Making)  Powell ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ผู้นาทาคือ การแก้ปัญหา  "ถ้าโต๊ะทางานของคุณสะอาดและไม่มีใครมีปัญหา คุณควรกังวล ให้มาก" นี่เป็นสัญญาณว่า คนของคุณคิดว่าคุณไม่สามารถแก้ไข ปัญหาได้ หรือแย่กว่านั้นคือ คุณไม่สนใจ  เมื่อพวกเขาถามคุณเรื่องปัญหา นั่นหมายความว่าพวกเขาคิดว่า คุณสามารถแก้ปัญหาได้ พวกเขายังเชื่อถือคุณ  ดังนั้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสที่จะเสริมสร้างความ เป็นผู้นาของคุณ
  • 21. ทาตัวให้ว่างเพื่อรับฟัง (Make yourself available)  Powell กล่าวว่า เขามักออกจากสานักงาน ไม่ว่าเขาจะเป็นทหาร ในกองทัพหรือรัฐมนตรี เขาก็จะเดินไปรอบๆ เพื่อดูว่า มีอะไร เกิดขึ้น พูดคุยกับผู้คน และทาความเข้าใจกับสิ่งที่กาลังเกิดขึ้น  ในการทาเช่นนั้น ทาให้เขาได้เพิ่มโอกาสในการเจอปัญหาที่มี ขนาดเล็ก ก่อนที่พวกมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และทาให้ตัวเอง พร้อม สาหรับผู้คนที่อาจจะไม่มีโอกาสพูดคุยกับเขา  การเดินไปรอบๆ ยังทาให้คุณมีโอกาสรู้ว่า สิ่งที่คุณคิดสามารถ เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ คุณอาจระบุปัญหาได้ด้วยตัวของคุณเอง
  • 22. แก้ปัญหาไม่ใช่จัดการกับปัญหา (Solve problems, don’t manage them)  เมื่อคุณพบปัญหา ให้แก้ปัญหา  บ่อยครั้งที่เราอาจจะเพิกเฉยต่อบางสิ่งบางอย่างที่ทาให้เราไม่สบาย ใจ หรือต้องสนทนาที่ยากลาบากกับใครบางคน แต่การหลีกเลี่ยง หรือการฝังปัญหา ไม่ได้ทาให้ปัญหาหายไป  ในฐานะที่เป็นผู้นา เราจาเป็นต้องมีความกล้าหาญ เผชิญหน้ากับ ความเป็นจริง และหาแนวทางแก้ไขซึ่งสร้างความแตกต่างที่แท้จริง  Powell เน้นการติดตามผล และทาในลักษณะที่ไม่ทาร้าย ผู้ใต้บังคับบัญชา (ยกเว้นกรณีที่เขาคือตัวปัญหา!)
  • 23. โปรดจาไว้ว่า พวกเขากาลังเฝ้ าดูอยู่ (Remember: They are watching )  การกระทาของคุณจะถูกเผ้ามองอยู่เสมอ  หากคุณพบสิ่งต่างๆ เช่นการละเมิดด้านความปลอดภัย การลัด ขั้นตอนที่ไม่ถูกระเบียบ หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แล้วไม่ทา อะไรกับเรื่องนี้ การอยู่เฉยๆ ของคุณ ส่งสัญญาณว่าเรื่องนั้นไม่ สาคัญต่อคุณ  คุณกาลังส่งสัญญาณว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับความพยายามใน การแก้ไข และถ้าคุณไม่สนใจ พวกเขาจะไม่สนใจด้วย  อย่าละเลยความผิดพลาด (Never walk by a mistake)
  • 24. อีกหนึ่งประเด็น (One more thought here)  เพียงเพราะคุณระบุปัญหาได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้อง แก้ปัญหาด้วยตนเอง คนที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติ ตามธรรมชาติ มักจะได้พบกับความท้าทายต่างๆ  หากเป็นความท้าทายส่วนตัวของพวกเขา คุณสามารถถามพวก เขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้คาปรึกษาบางอย่าง แบ่งปันความคิด บางอย่าง แต่ไม่แก้ปัญหาให้กับพวกเขา ถ้าคุณทา พวกเขาจะ ยังคงมาหาคุณ ด้วยสิ่งที่พวกเขาควรจะแก้ไขตัวเอง
  • 25. หากต้องการค้นหาปัญหา ให้ถามคาถามเหล่านี้ (To find the kind of problems you are looking for, ask questions like these)  กระบวนการและการทางาน สนับสนุนทีมงานและลูกค้าของคุณ หรือไม่?  สภาพแวดล้อมในการทางานเป็นบวก มีสุขภาวะที่ดีและมี ประสิทธิผลสาหรับทีมของคุณหรือไม่?  ทีมมีสารสนเทศ ทรัพยากร และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้งานเสร็จสิ้น หรือไม่?  แผนงาน นโยบาย หรือโครงการต่างๆ ควรดาเนินในลักษณะเช่นนี้ หรือไม่?
  • 26. สรุปโดยย่อ  ความเชื่อถือ ความเคารพ การสนับสนุนในเชิงบวก และการ เชื่อมต่อเป็นส่วนบุคคล เป็นรากฐานของอิทธิพลและความเป็น ผู้นา (Trust, respect, positive reinforcement, and personal connection are the foundations of influence and leadership.)  เมื่อผู้คนเห็นว่า คุณพร้อม เต็มใจ และสามารถแก้ปัญหาให้เขา ได้ คุณจะเติบโตขึ้นในทุกด้าน และกลายเป็นผู้นาที่ดีขึ้น (When people see that you are ready, willing, and able to solve their problems, you grow stronger in all these areas, and you become a better leader in the process.)