More Related Content
ารเขียนอัลกอลิทึมแบบโฟล์วชาร์ต การคำนวณโดยใช้ฟังก์ชันของ โปรแกรม Excel What's hot (10)
นาย วสันต์-ล่าเริง-58170125 01 วิธีทำการคำนวณอย่างเร็วใน Excel นางสาวศิริลักษณ์ ธิวัง สบบ.56.2 เลขที่ 24 เรื่องทะเบียนรับสินค้า นางสาว นันทิยา แก้วตา 58170108 02 Similar to Learn 4 (20)
Introduction to problem_solving หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนอัลกอริทึมแบบโฟลวชาร์ต บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา 03 โครงสร้างและผังงานโปรแกรม อัลกอริทึมและการวิเคราะห์ปัญหา การเขียนผังงาน(Flowchart) บทที่1ProgramFlowchart สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม More from Sompon Ketsuwong (6)
Learn 4
- 1. ใบความรู้ท ี่ 4
เรื่อ ง การเขีย นอัล กอริท ึม แบบโฟลวชาร์ต
Flowchart (โฟลวชาร์ต) คือการแสดงขั้นตอนการทำางานโดยใช้
สัญลักษณ์รูปภาพเป็นตัวสื่อความหมาย รูปภาพแต่ละรูปจะมีความ
หมายเฉพาะตัว และใช้ลูกศรกำา หนดทิศทางการทำา งานในแต่ล ะ
ขั้ น ต อ น
สัญ ลัก ษณ์ร ูป ภาพของโฟลวชาร์ต
สัญ ลัก ษณ์ร ูป ภาพ ความหมาย
จุดเริ่มต้น (start) หรือจุดสิ้นสุด (stop)
รับข้อมูล (input) หรือแสดงผลข้อมูล (output)
รับข้อมูลนำาเข้าจากคีย์บอร์ด (Input from
keyboard)
การคำานวณ (Process)
การตัดสินใจ (Decision) หรือ การเปรียบเทียบ
(compare)
แสดงผลข้อมูลออกทางเครื่องพิมพ์ (printer)
การทำางานย่อย (subprogram)
จุดเชื่อมต่อ (connection)
ทิศทาง (Flow)
จากตารางข้างบนเป็นสัญลักษณ์รูปภาพของโฟลวชาร์ตเพียงบาง
ส่วนที่มีการใช้งานบ่อย ๆ เท่านั้น ซึ่งสัญลักษณ์รูปภาพของโฟลว
ช า ร์ ต ยั ง มี อี ก ม า ก ม า ย
- 2. ตัว อย่า งที่ 1 จงเขียนโฟลวชาร์ตแสดงขั้นตอนการหาพื้นที่ของรูป
สี่เหลี่ยมคางหมู
วิเ คราะห์ป ัญ หา
1. ปัญหาคือ ต้องการทำาการคำานวณหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม
คางหมู จากสูตร
พื้นที่สี่เหลี่ยมคางหมู =1/2 X ผลบวกของด้านคู่ขนาด x สูง
2. ตัวแปรที่ใช้ คือ
W1 ใช้เก็บความยาวของด้านคู่ขนานด้านที่ 1 ของรูป
สี่เหลี่ยมคางหมู
W2 ใช้เก็บความยาวของด้านคู่ขนานด้านที่ 2 ของรูป
สี่เหลี่ยมคางหมู
H ใช้เก็บความสูงของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
Areaใช้เก็บพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
1. ข้อมูลนำาเข้าคือ ค่าของ W1,W2,H
2. ผลลัพธ์คือ คำานวณพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมูจากสูตร
Area = ½ x(W1+W2) X H
ขั้น ตอนการทำา งาน
1. รับค่า W1,W2,H เข้ามาในโปรแกรม
2. คำานวณหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
จากสูตร Area = ½ x(W1+W2) X H
STAR
T
INPUT
W1,W2,H
Area = ½ x(W1+W2)
XH
STOP