1

                       คูมือการใชงานโปรแกรม Map Window GIS
                                                                               ชัยภัทร เนื่องคํามา
                                                                  Email: pk_a1977@hotmail.com


1. บทนํา
        MapWindow GIS เปนโปรแกรมประเภท Desktop GIS ซึ่งออกแบบมาใหผใชทั่วไป         ู
สามารถทํางานทางดานระบบสารสนเทศภูมิศาสตรไดอยางสะดวก โดยเนนไปที่การใชงานที่งาย
และมีฟงกชนการทํางานที่คอนขางหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฟงกชั่นเฉพาะในรูปแบบ
           ั              
ของ plug-in สําหรับการวิเคราะหที่เฉพาะทางเชน การวิเคราะหเรื่องน้ํา (hydrology), การวิเคราะห
ขอมูลสภาพภูมิประเทศ เปนตน โปรแกรมนี้จัดเปนโปรแกรมประเภทรหัสเปด (Open Source) ที่อยู
ภายใตลิขสิทธิ์ของ The Mozilla Public License 1.1 ดังนั้นผูใชจึงสามารถนําโปรแกรมนี้มาใชงาน
ไดโดยทีไดตองเสียคาซอฟทแวร ซึ่งเหมาะกับหนวยงานหรือสถาบันการศึกษาที่ตองการนําระบบ
        ่
สารสนเทศภูมิศาสตรมาใชในองคกรแตมขอจํากัดเรื่องงบประมาณ
                                        ี
        บทความชุดนีทําขึ้นเพื่อสงเสริมและเผยแพรความรูทางวิชาการ ไมไดมีเจตนาทําขึ้นเพื่อ
                      ้
จําหนายหรือใชเพื่อผลประโยชนทางธุรกิจแตอยางใด

2. การติดตั้งโปรแกรม
         1. ทําการดาวโหลดโปรแกรม MapWindow GIS จาก URL
http://www.mapwindow.org/download.php?file_name=http://svn.mapwindow.org/svnroot/Install
ationProjects/4.2/Release/MapWindow42SR.exe&show_details=1&dl=1
         2. Double click ไฟล MapWindow42SR.exe เพื่อทําการติดตั้งโปรแกรม
         3. ทดลองรันโปรแกรม MapWindow GIS กรณีที่สามารถติดตั้งไดสําเร็จจะปากฏหนาตา
เริ่มตนของโปรแกรมดังรูปที่ 1




                 รูปที่ 1 แสดงหนาตางตอนรับของโปรแกรม MapWindow GIS


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                  ชัยภัทร เนื่องคํามา
2

3. การใชงานโปรแกรม MapWindow GIS ทั่วไป
         สําหรับโปรแกรม MapWindow GIS มีหนาตาง แถบเครื่องมือและฟงกชนการทํางานที่
                                                                               ั
เหมือนกับโปรแกรม GIS ทั่วไป ผูใชหลายทานนาจะคุนเคยมาบางแลว ดังนั้นในสวนนี้ ผมจะขอ
กลาวถึงเฉพาะสวนทีแตกตางไปจากโปรแกรมทั่วไปเทานั้น
                     ่
         3.1 การนําเขาขอมูลเชิงพื้นที่
                 โปรแกรม MapWindow GIS สนับสนุนการทํางานกับขอมูลทั้งประเภทเวกเตอร
และราสเตอร โดยชนิดของรูปแบบการจัดเก็บขอมูล (format) มีคอนขางหลากหลายโดยเฉพาะใน
ขอมูลราสเตอร แตคอนขางจํากัดในขอมูลเวกเตอรเมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ โดยรูปแบบการ
จัดเก็บขอมูลของขอมูลเวกเตอรจะสนับสนุนเฉพาะ shapefile กับ coverage เทานั้น การนําเขาขอมูล
สามารถทําไดดังนี้ครับ
                 1. ไปที่คําสั่ง View >> Add Layer
                 2. ทําการเลือกไดเร็กทอรี่ที่เก็บชั้นขอมูลที่ตองการ




                    รูปที่ 2 แสดงการเลือกไฟลที่ตองการนําเขาในโปรแกรม




                    รูปที่ 3 แสดงการชนิดไฟลทสามารถนําเขาในโปรแกรม
                                             ี่


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                 ชัยภัทร เนื่องคํามา
3




                    รูปที่ 4 แสดงผลลัพธการนําเขาขอมูลในโปรแกรม

         3.2 การแสดงผลขอมูลเชิงพื้นที่
                 3.2.1 แถบควบคุมการแสดงผลแผนที่
                         โปรแกรม Map Window GIS มีแถบเครื่องมือควบคุมการทํางานของแผน
ที่เหมือนกับโปรแกรม GIS ทั่วไปดังภาพที่ 5




                   รูปที่ 5 แสดงแถบเครื่องมือควบคุมการแสดงผลแผนที่




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                          ชัยภัทร เนื่องคํามา
4

               3.2.2 การกําหนดรูปแบบและสัญลักษณของแผนที่
                       1. คลิ๊กขวาที่ชั้นขอมูล และเลือกแถบคําสั่ง Properties
                       2. เลือก Coloring Scheme บนหนาตาง Legend Editor




               รูปที่ 6 แสดงหนาตางที่ใชกาหนดรูปแบบการแสดงผลของแผนที่
                                           ํ
                         3. ทําการเลือกฟลดที่จะใชเปนคาในการจําแนกสี และกําหนดรูปแบบการ
จําแนกขอมูล




                    รูปที่ 7 แสดงการกําหนดรูปแบบการจําแนกกลุมขอมูล




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                     ชัยภัทร เนื่องคํามา
5




               รูปที่ 8 แสดงผลลัพธการกําหนดรูปแบบการจําแนกกลุมขอมูล

              3.2.3 การกําหนดมุมมองภาพรวมแผนที่ (Overview Map)
                      1. ไปที่เมนู Edit >> Preview Map >> Update Using Full Extents




                   รูปที่ 9 แสดงคําสั่งการเปดมุมมองภาพรวมของแผนที่




             Overview Map




               รูปที่ 10 แสดงผลลัพธคําสั่งการเปดมุมมองภาพรวมของแผนที่


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                              ชัยภัทร เนื่องคํามา
6

        3.3 การจัดการขอมูลเชิงบรรยาย
                โปรแกรม MapWindow GIS มีฟงกชันที่ใชในการจัดการขอมูลเชิงบรรยายที่
คอนขางสมบูรณ ผ็ใชสามารถใชงานผานอินเตอรเฟสไดอยางสะดวก
                3.3.1 การแสดงผลขอมูลเชิงบรรยาย
                        1. ทําการเลือกชั้นขอมูลที่ตองการ ดวยการ click บนแถบชั้นขอมูล
                        2. ไปที่แถบเครื่องมือ Table Editor
                                                              Table Editor Tool




                        รูปที่ 11 แสดงขอมูลเชิงบรรยายในรูปแบบตาราง

                3.3.2 การแกไขหรือปรับปรุงขอมูลเชิงบรรยาย
                        3.3.2.1 การเพิมฟลดของตารางขอมูล
                                      ่
                                 1. ไปที่เมนู Edit >> Add Field เพื่อทําการเพิ่มฟลด

                                                             กําหนดชื่อฟลด

                                                                  กําหนด Data Type

                                                                   กําหนด ขนาดขอมูล

                  รูปที่ 12 แสดงการกําหนดคุณสมบัติของฟลดที่จะทําการเพิ่ม



Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                     ชัยภัทร เนื่องคํามา
7

                          3.3.2.2 การลบฟลดของตารางขอมูล
                                   1. ไปที่เมนู Edit >> Remove Field เพื่อทําการเพิ่มฟลด

                                                          เลือกชื่อฟลดที่ตองการลบ




                            รูปที่ 13 แสดงการเลือกฟลดที่จะทําการลบ

                          3.3.2.3 การลบฟลดของตารางขอมูล
                                   1. ไปที่เมนู Edit >> Rename Field เพื่อทําการเปลี่ยนชื่อฟลด

                                               เลือกชื่อฟลดที่ตองการเปลี่ยนชื่อ


                                                             กําหนดชื่อใหมที่ตองการ




                         รูปที่ 14 แสดงการเลือกฟลดที่จะทําการเปลี่ยนชื่อ

                          3.3.2.4 การคํานวณคาของขอมูล
                                   1. ไปที่เมนู Tools >> Field Calculator Tool เพื่อทําการนําขอมูล
ที่อยูในฟลดมาคํานวณทางสถิติเบื้องตน
                                   2. ทําการสรางเงื่อนไขในการคํานวณโดยสามารถนําคาของ
ขอมูลที่อยูในฟลดตางๆมาใชคํานวณรวมในสมการได




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                          ชัยภัทร เนื่องคํามา
8
                        ฟลดตางๆที่นํามาใชในการคํานวณได




                            ฟงกชันคณิตศาสตรที่ใชคํานวณ


                                                 สรางสมการเงื่อนไขในการคํานวณ




                        รูปที่ 15 แสดงหนาตางของ Field Calculator Tool

                       3.3.2.5 การเชื่อมโยงตารางจากภายนอก
                                1. ไปที่เมนู Tools >> Import Field Definitions from DBF เพื่อ
ทําการเชื่อมโยงตารางหลักทีทีกับตารางอื่นๆภายนอกที่อยูในรูปแบบ dbf
                          ่
                                2. ทําการเลือกไฟล dbf ที่ตองการทําการเชือมโยง
                                                                          ่




              รูปที่ 16 แสดงการเลือกไฟล dbf เพื่อทําการเชื่อมโยงตารางฐานขอมูล




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                  ชัยภัทร เนื่องคํามา
9




                     รูปที่ 17 แสดงผลลัพธการเชื่อมโยงตารางฐานขอมูล

         3.4 การสืบคนขอมูล
                 การสืบคนขอมูลในโปรแกรม MapWindow GIS สามารถแบงออกเปนสอง
ประเภทคือการสืบคนดวยฟงกชั่นเชิงพืนทีและการสืบคนจากขอมูลเชิงบรรยาย
                                      ้ ่
                 3.4.1 การสืบคนขอมูลดวยฟงกชั่นเชิงพืนที่
                                                         ้
                         โปรแกรม MapWindow GIS สามารถทําการสืบคนดวยคาพิกัดภูมิศาสตร
และขอบเขตภูมิศาสตร โดยจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้
                         1. ไปที่แถบเครื่องมือ Feature Identifier
                         2. ทําการกําหนดคาพิกดที่จะใชในการสืบคน โดยการคลิ๊กไปยังตําแหนง
                                                ั
ที่ตองการสืบคนบนแผนที่


                                                         คลิ๊กตําแหนงที่ตองการ
       ผลลัพธทีไดจากการสืบคน




                      รูปที่ 18 แสดงตําแหนงบนแผนที่ที่ตองการสืบคน


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                ชัยภัทร เนื่องคํามา
10

                        3. ทดลองใชเมาสลากขอบเขตการคนหาบนแผนที่




                                              กําหนดขอบเขตการสืบคน



                 รูปที่ 19 แสดงการกําหนดขอบเขตบนแผนที่ที่ตองการสืบคน

               3.4.2 การสืบคนจากขอมูลเชิงบรรยาย
                       โปรแกรม MapWindow GIS มีเครื่องมือสําหรับสรางชุดคําสั่ง SQL ใน
การสืบคนขอมูลจากฐานขอมูล โดยมีขั้นตอนดังตอไปนี้
                       1. ทําการกําหนดชั้นขอมูลทีตองการจะทําการสืบคน ดวยการคลิ๊กที่ชน
                                                  ่                                     ั้
ขอมูลแผนที่บนแถบควบคุมชั้นขอมูลแผนที่
                       2. เปดตารางฐานขอมูลโดยไปที่แถบเครื่องมือ Table Editor




                               รูปที่ 20 แสดงตารางฐานขอมูล


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                ชัยภัทร เนื่องคํามา
11

                     3. ไปที่เมนู Selection >> Query
                     4. กําหนดฟลดที่จะใชในการสรางเงื่อนไขเพื่อสืบคน




               รูปที่ 21 แสดงหนาตา Query Builder สําหรับสรางคําสั่ง SQL




                รูปที่ 22 แสดงผลลัพธที่ไดจากการสืบคนในรูปแบบตาราง




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                 ชัยภัทร เนื่องคํามา
12

        3.5 การสรางและปรับแกขอมูลเชิงพื้นที่
                 3.5.1 การสรางขอมูลเชิงพื้นที่
                          โปรแกรม Map Window GIS มีฟงกชั่นการทํางานที่รองรับการสรางชั้น
ขอมูลแผนที่เชิงเสนทั้งประเภท จุด (Point), เสน (line), โพลีกอน (Polygon) โดยที่ผใชสามารถ
                                                                                    ู
สรางขอมูลดวยการทํา Head-Up Digitize จากหนาจอโปรแกรมไดทนที       ั
                          1. ทําการเปดภาพออรโธโฟโตที่ใชเปนแหลงขอมูลขึ้นมา โดยไปที่เมนู
View >> Add Layer
                          2. ทําการโหลด plug-in ที่ชื่อวา Shapfile Editor โดยไปที่เมนู Plug-ins >>
Shapfile Editor

                           รูปที่ 23 แสดงแถบเครื่องมือ Shapfile Editor

                         3. ไปคลิ๊กที่ Create New Shapefile บนแถบเครื่องมือ




    รูปที่ 24 แสดงการกําหนดไดเร็กทอรี่สําหรับจัดเก็บและชนิดของ Geometry ของ Shapfile
                          4. ทําการดิจิไตลอาคารจากภาพออรโธโฟโต โดยคลิ๊กทีปุม Add new
                                                                            ่
shape to current shapefile บนแถบเครื่องมือแลวลากเสนขอบอาคาร




                      รูปที่ 25 แสดงการดิจิไตลอาคารจากภาพออรโธโฟโต

Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                     ชัยภัทร เนื่องคํามา
13

                          5. ทําการเปดตารางฐานขอมูลของชั้นขอมูลอาคารที่สรางขึ้น




                    รูปที่ 26 แสดงตารางฐานขอมูลของชั้นขอมูลอาคารที่สรางใหม
                             6. เพิ่มคอลัมนเพื่อใชในการจัดเก็บขอมูลเชิงบรรยายที่สัมพันธกับขอมูล
เชิงพื้นที่ โดยไปที่เมนู edit>>add field




                    รูปที่ 27 แสดงการกําหนดคุณสมบัติคอลัมนที่สรางใหม
                        7. ทําการพิมพขอมูลเชิงบรรยายลงในตารางตามที่ตองการ แลวกดปุม
Apply เพื่อทําการบันทึกขอมูล




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                       ชัยภัทร เนื่องคํามา
14




                 รูปที่ 28 แสดงตารางผลลัพธที่ไดทําการใสคาขอมูลเชิงบรรยาย

                 3.5.2 การแกไขขอมูลเชิงพื้นที่
                         การแกไขขอมูลเชิงพื้นที่ดวยโปรแกรม Map Window GIS สามารถทําได
ตามขั้นตอนตางๆดังตอไปนี้
                         1. ทําการเลือกฟเจอรที่ตองการปรับแก โดยไปที่แถบคําสั่ง Move an
Existing vertex in Shape แลวใชเมาสคลิ๊กไปที่ฟเจอรบนแผนที่
                         2. เลือก vertex ที่ตองการปรับแกแลวทําการคลิ๊กเมาสขาง เพื่อลากจุด
vertexไปยังตําแหนงที่ตองการ


                                   คลิ๊กที่จุด Vertex ที่ตองการปรับแก




                    รูปที่ 29 แสดงผลลัพธที่ไดทําการใสคาขอมูลเชิงบรรยาย



Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                   ชัยภัทร เนื่องคํามา
15

                        3. กรณีที่ตองการเพิ่มหรือลบจุด vertex ใหไปที่แถบเครื่องมือและคลิ๊กที่
ปุม Add vertex หรือ Remove Vertex เพื่อทําการเพิ่มหรือลบขอมูลจากฟเจอร



                      รูปที่ 30 แสดงแถบเครื่องมือสําหรับเพิ่มหรือลบ vertex

         3.6 การประมวลผลขอมูลเชิงพื้นที่
                 โปรแกรม Map Window GIS มีฟงกชันการประมวลผลขอมูลเชิงพื้นที่ที่
หลากหลาย ครอบคลุมการทํางานทั่วไปของระบบงาน GIS โดยแบงประเภทของฟงกชั่นออกเปน 3
ประเภทหลักคือ Vector, Raster และ Image
                 3.6.1 ฟงกชั่นการวิเคราะหและประมวลผลสําหรับขอมูล Vector
                          3.6.1.1 ฟงกชน Assign Projection to shapefile
                                         ั่
                                   Assign Projection to shapefile เปนฟงกชนที่ใชสําหรับ
                                                                             ั่
กําหนดคาระบบพิกัดอางอิง (Spatial Reference System) ดวยการสรางไฟล prj กํากับ ใหกับขอมูล
Vector โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้
                                   1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Assign Projection to
shapefile
                                   2. ทําการหาไดเร็กทอรี่ที่เก็บไฟล แลวเลือก shapefile ที่ตองการ
                                   3. กําหนดคา Map Projection และคา Datum ใหกับขอมูล




            รูปที่ 31 แสดงการกําหนดคาระบบพิกัดอางอิง (Spatial Reference System)




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                     ชัยภัทร เนื่องคํามา
16



                                                             ผลลัพธที่ได




                รูปที่ 32 แสดงไฟลผลลัพธที่ไดจากการกําหนดคาระบบพิกัดอางอิง

                            3.6.1.2 ฟงกชน Buffer Shapes
                                           ั่
                                     ฟงกชั่น Buffer Shapes เปนฟงกชั่นที่ใชสาหรับในการวิเคราะห
                                                                                 ํ
ขอมูลเชิงพื้นที่ โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้
                                     1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>>Buffer Shapes
                                     2. กําหนดชั้นขอมูลที่ตองการวิเคราะห


                           รูปที่ 33 แสดงชั้นขอมูลที่ตองการสราง buffer
                                    3. กําหนดรายละอียดในการคํานวณสําหรับสราง buffer


                                             ขนาดรัศมีของ Buffer




                                      ตําแหนงการสราง


                                   ระบุไดเร็กทอรี่ที่ทําการจัดเก็บขอมูล


                    รูปที่ 35 แสดงการกําหนดรายละเอียดในการคํานวณ Buffer



Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                       ชัยภัทร เนื่องคํามา
17




                        รูปที่ 36 แสดงผลลัพธที่ไดจากการคํานวณ Buffer

                          3.6.1.3 ฟงกชน Calculate Polygon Area
                                         ั่
                                   ฟงกชั่น Calculate Polygon Area เปนฟงกชั่นที่ใชสําหรับ
คํานวณพื้นที่ของสี่เหลี่ยมรูปปด โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้
                                   1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>>Calculate Polygon Area
                                   2. ทําการกําหนดชั้นขอมูลประเภทโพลีกอนเพื่อทําการคํานวณ
                                   3. กําหนดคอลัมนที่จะทําการเก็บคาพื้นทีที่ไดจากการคํานวณ
                                                                           ่
                                   4. กําหนดหนวยของผลลัพธพื้นที่ที่ตองการ



                                       เลือกชั้นขอมูลที่ตองการ




                               กําหนดชื่อฟลดใหมทเี่ ก็บผลลัพธ




                 กําหนดหนวยของพื้นที่

                รูปที่ 37 แสดงหนาตางการกําหนดพารามิเตอรในการคํานวณพื้นที่


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                   ชัยภัทร เนื่องคํามา
18

                        3.6.1.4 ฟงกชน Clip Shapefile with polygon
                                       ั่
                                 ฟงกชั่น Clip Shapefile with polygon เปนฟงกชั่นที่ใชสาหรับ
                                                                                           ํ
การตัดชั้นขอมูลดวยโพลีกอน โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้
                                 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Clip Shapefile with polygon
                                 2. กําหนดชั้นขอมูลที่ตองการจะ Clip
                                 3. กําหนดชั้นขอมูลที่ใชเปนตัวแบบ (template) ในการตัด ผูใช
สามารถเลือกเฉพาะบางฟเจอรในชั้นขอมูลเพื่อทําการตัดได
                                 4. กําหนดไดเร็กทอรี่ที่ใชในการจัดเก็บผลลัพธที่ได


                                              เลือกชั้นขอมูลที่ตองการ Clip


                                             เลือกเฉพาะบางฟเจอรในชันขอมูลเพื่อใชในการตัด
                                                                     ้

               เลือกตัวแบบ Template ที่ใชในการตัด


                    กําหนดไดเรกทอรี่ที่ใชในการจัดเก็บขอมูล


                 รูปที่ 38 แสดงหนาตางการกําหนดพารามิเตอรในการประมวลผล

                          3.6.1.5 ฟงกชน Merge Shapefile
                                         ั่
                                   ฟงกชั่น Merge Shapefile เปนฟงกชันทีใชในการเชื่อมชันขอมูล
                                                                           ่               ้
แผนที่สองชุดใหกลายเปนชันขอมูลเดียวกันหรือใชในการเชื่อมฟเจอรหลายๆฟเจอรเขาดวยกัน
                            ้
โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้
                                   1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Merge Shapefile
                                   2. กําหนดชั้นขอมูลที่ตองการจะ Merge ในกรณีที่ตองการ
Merge เฉพาะฟเจอรที่อยูในชั้นขอมูลเดียวกัน ก็สามารถทําโดยการใชเมาสคลิ๊กเลือกฟเจอรที่
ตองการ




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                     ชัยภัทร เนื่องคํามา
19




                 รูปที่ 39 แสดงการกําหนดฟเจอรที่ตองการจะทําการ Merge

                               3. ทําการกําหนดไดเรกทอรี่ปลายทางที่จะทําการจัดเก็บผลลัพธ


                             เลือกชั้นขอมูลชุดแรกที่ตองการ Merge


    กดปุม Select Shape เมื่อตองการจะเลือกบางฟเจอร


                เลือกชั้นขอมูลชุดที่สองที่ตองการ Merge




                        กําหนดไดเร็กทอรี่จัดเก็บขอมูลปลายทาง



                   รูปที่ 40 แสดงการกําหนดพารามิเตอรในการประมวลผล




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                               ชัยภัทร เนื่องคํามา
20




                                          ผลลัพธที่ไดจากการ Merge Feature




                         รูปที่ 41 แสดงผลลัพธที่ไดจากการประมวลผล

                 3.6.2 ฟงกชั่นการวิเคราะหและประมวลผลสําหรับขอมูล Raster
                           3.6.2.1 ฟงกชนการ Reproject Grid
                                          ั่
                                    ฟงกชั่นการ Reproject Grid เปนฟงกชั่นทีใชในการแปลงคา
                                                                               ่
ระบบพิกัดอางอิง (Spatial Reference System) ของขอมูลราสเตอร โดยขอมูลราสเตอรจําเปนตองมี
คาพิกัดภูมิศาสตรเริ่มตองกอนทําการประมวลผลทุกครั้ง การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้
                                    1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Reproject Grid
                                    2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการแปลงคาระบบ
พิกัดเขาสูโปรแกรม




              ไฟลราสเตอรที่จะทําการแปลงคาพิกัด



        รูปที่ 42 แสดงหนาตางรายงานสถานะของขอมูลราสเตอรที่จะทําการประมวลผล



Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                   ชัยภัทร เนื่องคํามา
21

                             3. กําหนดระบบพิกัดผลลัพธที่ตองการแปลง ในกรณีที่ขอมูลยัง
ไมมีการระบุรายละเอียดของระบบพิกัดมากอนโปรแกรมจะบังคับใหผูใชระบุพิกดของขอมูลกอน
                                                                       ั




                      รูปที่ 43 แสดงการเลือกระบบพิกัดที่ตองการแปลง

                      3.6.2.2 ฟงกชนการ Change Grid format
                                     ั่
                               ฟงกชั่นการ Change Grid format เปนฟงกชั่นที่ใชในการแปลง
รูปแบบชนิดการเก็บขอมูลของราสเตอร การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้
                               1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Change Grid format
                               2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการแปลงรูปแบบ
ชนิดการเก็บขอมูลของราสเตอร




               ไฟลราสเตอรที่จะทําการแปลงรูปแบบการจัดเก็บ




        รูปที่ 44 แสดงหนาตางรายงานสถานะของขอมูลราสเตอรที่จะทําการประมวลผล
                                3. กําหนดประเภทฟอรแมทที่ตองการและขนาดของการจัดเก็บ
ขอมูลของแตละพิกเซล




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                               ชัยภัทร เนื่องคํามา
22




                 รูปที่ 45 แสดงการกําหนดรายละเอียดสําหรับขอมูลผลลัพธ

                     3.6.2.3 ฟงกชนการ Resample Grids
                                    ั่
                              ฟงกชั่นการ Resample Grids เปนฟงกชนทีใชในการแปลงขนาด
                                                                     ั่ ่
พิกเซลของขอมูลของราสเตอร การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้
                              1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Resample Grids
                              2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการแปลงรูปแบบ
ขนาดพิกเซลของราสเตอร




                ไฟลราสเตอรที่จะทําการแปลงขนาดพิกเซล




        รูปที่ 46 แสดงหนาตางรายงานสถานะของขอมูลราสเตอรที่จะทําการประมวลผล

                             3. กําหนดขนาดของพิกเซลที่ตองการสําหรับภาพผลลัพธ แลว
ทําการกําหนดรูปแบบการจัดเก็บขอมูล




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                              ชัยภัทร เนื่องคํามา
23




             รูปที่ 47 แสดงการกําหนดรายละเอียดการจัดเก็บขอมูลของภาพผลลัพธ




                       รูปที่ 48 แสดงภาพผลลัพธที่ไดจากการประมวลผล

                       3.6.2.4 ฟงกชน GeoReference Image or grid
                                      ั่
                                ฟงกชั่น Geo Reference Image and grid เปนฟงกชั่นทีใชในการ
                                                                                      ่
กําหนดคาพิกดภูมิศาสตรอางอิงใหกับขอมูลภาพราสเตอร การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้
             ั
                                1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>>GeoReference Image or grid
                                2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการกําหนดคา
พิกัดภูมิศาสตร




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                  ชัยภัทร เนื่องคํามา
24




                            กดปุมคําสั่ง Load file เพื่อนําภาพเขามาทําการ Rectify




                   รูปที่ 49 แสดงการนําเขาขอมูลภาพที่จะทําการตรึงคาพิกด
                                                                         ั

                              3. ทําการนําเขาขอมูลตําแหนงพิกัดอางอิงที่จะใชในการ
กําหนดคาพิกดใหกับขอมูลภาพราสเตอร โดยในตัวอยางนี้จะทําการนําเขา point จากการเก็บคา
             ั
พิกัดดวย GPS ดังภาพที่ 50




        คาพิกัดภูมิศาสตรของตําแหนงควบคุมภาพที่ไดจากการวัดดวย GPS


        รูปที่ 50 แสดงการเตรียมขอมูลคาพิกัดภูมศาสตรที่จะใชในการ Rectify ขอมูลภาพ
                                                ิ



Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                   ชัยภัทร เนื่องคํามา
25

                                   4. ทําการกําหนดตําแหนงทีจะตรึงคาพิกด โดยใชเมาสคลิ๊กบน
                                                            ่           ั
ภาพดังภาพที่ 51

                                คาพิกัดภาพของตําแหนงบนภาพที่อานได




                  ทําการ Click ที่จุดแรกเพื่ออานคาพิกัดภาพ




             รูปที่ 51 แสดงการกําหนดตําแหนงที่สนใจบนภาพเพื่ออานคาพิกัดภาพ

                                5. ทําการ Click ที่ตําแหนงเดียวกันบนแผนที่ที่ทราบคาพิกัด
ภูมิศาสตรโลก โดยในตัวอยางนี้ใชคาพิกดจากการเก็บดวย GPS และนําเขามาแสดงในรูปแบบ
                                       ั
point




                        นําเมาสไป Click ที่จุดทราบคาพิกัดภูมิศาสตร
                              เพื่อนําคานั้นมาใชในการคํานวณ


                     รูปที่ 52 แสดงการกําหนดคาพิกัดภูมิศาสตรโลกจากแผนที่


Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                  ชัยภัทร เนื่องคํามา
26

                                  6. ทําจนครบทั้งหมด 3 ตําแหนงทั้ง Point 1, Point2, Point3 แลว
ทําการกดปุม Georeference เพื่อทําการคํานวณ




                                  คาพิกัดใหมทไดจากการคํานวณ โดยใชคาพิกัดที่
                                               ี่                     
                                                  ทําการเก็บดวย GPS




          รูปที่ 53 แสดงภาพผลลัพธที่มีพิกัดภูมิศาตรหลังจากการประมวลผลเรียบรอยแลว

4. สรุป
           บทความฉบับนี้เนนไปที่การทํางานของฟงกชั่นหลักๆของโปรแกรม Map Window GIS
เพื่อใหผูใชหลายทานไดทําความรูจักกับโปรแกรม Open Source ตัวนี้ ยังมีอีกหลายฟงกชั่นที่ผมยัง
ไมไดกลาวถึงในบทความชุดนี้ รวมถึงความสามารถขั้นสูงของโปรแกรม Map Window GIS เชน
การเปดชองทางใหโอกาสโปรแกรมเมอรเขียน script ดวยภาษา vb.net หรือ C# เพื่อสรางฟงกชั่น
หรือ customizes โปรแกรมใหเฉพาะทางได และการวิเคราะหขั้นสูงดวยโมเดลตางๆเปนตน คิดวา
ในอนาคตถาโอกาสอํานวยนาจะไดมีโอกาสกลาวถึงเรื่องนี้ตอไป ขอบคุณครับ...




Map Window GIS 4.2.2 Manual                                                   ชัยภัทร เนื่องคํามา

More Related Content

PPT
Still image
PDF
แบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน
PDF
Epi info unit05
PDF
แนวข้อสอบคอมพิวเตอร์กราฟิก ปี 2555
PDF
Epi info unit02
PPT
IAE B2B feedback 20120113
DOCX
E zine 2_french_20131003
Still image
แบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน
Epi info unit05
แนวข้อสอบคอมพิวเตอร์กราฟิก ปี 2555
Epi info unit02
IAE B2B feedback 20120113
E zine 2_french_20131003

Viewers also liked (20)

PDF
Unsupervised analysis for decipherment problems
PDF
Learning phoneme mappings for transliteration without parallel data
PDF
Mobile app
PDF
Diaz payen
PPT
File foldername
PPTX
Live@edu benefit sso benefit
PPTX
Grid theory
PPT
Fast web design
PPT
Designing web navigation
PDF
Innovation china india_sep.07_ramamurthy
PDF
Copiale 11
PDF
ธนาคารธนชาต จำกัด
PDF
Web services technology with customer contact center management
PPTX
Accounting Basics Quantum presentation at Dubai SME
PPT
คุณเมธินี
PPT
2 google verified
PDF
รายงาน Project2
PPTX
20111020 Soirée Centre d'Affaires Vannetais
PPTX
Petite boite à outils à destination du chef d'entreprise
Unsupervised analysis for decipherment problems
Learning phoneme mappings for transliteration without parallel data
Mobile app
Diaz payen
File foldername
Live@edu benefit sso benefit
Grid theory
Fast web design
Designing web navigation
Innovation china india_sep.07_ramamurthy
Copiale 11
ธนาคารธนชาต จำกัด
Web services technology with customer contact center management
Accounting Basics Quantum presentation at Dubai SME
คุณเมธินี
2 google verified
รายงาน Project2
20111020 Soirée Centre d'Affaires Vannetais
Petite boite à outils à destination du chef d'entreprise
Ad

Similar to Map windowgismanual (20)

PDF
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
PDF
ใบความรู้ที่ 4โปรแกรมสำหรับงานกราฟิก
PDF
คู่มือ Arc gis
PDF
877353_นวรัตน์ ศรชัย_58670064_กลุ่ม3303
PDF
ใบความรู้ที่ 1ความหมายของซอฟต์แวร์
PPT
บทที่1
PPT
บทที่1
PDF
เกมส์รถถังออนไลน์ ผลงานนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน
PDF
01 intro computergraphic
PDF
ใบความรู้หน่วยที่ 1
PDF
Lesson 6 การสร้างรายงาน
PPT
การสอนครั้งที่ 2 intro ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
PPT
บทที่1
PDF
Start with maya
PDF
sample plot 3D form depth map using OpenCV
PDF
ใบความรู้ที่ 5 การสร้างแผนภูมิ
PDF
การออกแบบและตกแต่งภาพสำหรับจัดทำเว็บไซต์ ม.ต้น
PDF
Epi info unit01
PDF
ใบงานที่ 8
PPT
การจัดห้องปฏิบัติการกราฟิก
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
ใบความรู้ที่ 4โปรแกรมสำหรับงานกราฟิก
คู่มือ Arc gis
877353_นวรัตน์ ศรชัย_58670064_กลุ่ม3303
ใบความรู้ที่ 1ความหมายของซอฟต์แวร์
บทที่1
บทที่1
เกมส์รถถังออนไลน์ ผลงานนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน
01 intro computergraphic
ใบความรู้หน่วยที่ 1
Lesson 6 การสร้างรายงาน
การสอนครั้งที่ 2 intro ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
บทที่1
Start with maya
sample plot 3D form depth map using OpenCV
ใบความรู้ที่ 5 การสร้างแผนภูมิ
การออกแบบและตกแต่งภาพสำหรับจัดทำเว็บไซต์ ม.ต้น
Epi info unit01
ใบงานที่ 8
การจัดห้องปฏิบัติการกราฟิก
Ad

More from Attaporn Ninsuwan (20)

PDF
J query fundamentals
PDF
Jquery enlightenment
PDF
Jquery-Begining
PDF
Br ainfocom94
PDF
Chapter 12 - Computer Forensics
PDF
Techniques for data hiding p
PDF
Stop badware infected_sites_report_062408
PDF
Steganography past-present-future 552
PDF
Ch03-Computer Security
PDF
Ch02-Computer Security
PDF
Ch01-Computer Security
PDF
Ch8-Computer Security
PDF
Ch7-Computer Security
PDF
Ch6-Computer Security
PDF
Ch06b-Computer Security
PDF
Ch5-Computer Security
PDF
Ch04-Computer Security
PDF
Chapter5 - The Discrete-Time Fourier Transform
PDF
Chapter4 - The Continuous-Time Fourier Transform
PDF
Chapter3 - Fourier Series Representation of Periodic Signals
J query fundamentals
Jquery enlightenment
Jquery-Begining
Br ainfocom94
Chapter 12 - Computer Forensics
Techniques for data hiding p
Stop badware infected_sites_report_062408
Steganography past-present-future 552
Ch03-Computer Security
Ch02-Computer Security
Ch01-Computer Security
Ch8-Computer Security
Ch7-Computer Security
Ch6-Computer Security
Ch06b-Computer Security
Ch5-Computer Security
Ch04-Computer Security
Chapter5 - The Discrete-Time Fourier Transform
Chapter4 - The Continuous-Time Fourier Transform
Chapter3 - Fourier Series Representation of Periodic Signals

Map windowgismanual

  • 1. 1 คูมือการใชงานโปรแกรม Map Window GIS ชัยภัทร เนื่องคํามา Email: pk_a1977@hotmail.com 1. บทนํา MapWindow GIS เปนโปรแกรมประเภท Desktop GIS ซึ่งออกแบบมาใหผใชทั่วไป ู สามารถทํางานทางดานระบบสารสนเทศภูมิศาสตรไดอยางสะดวก โดยเนนไปที่การใชงานที่งาย และมีฟงกชนการทํางานที่คอนขางหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฟงกชั่นเฉพาะในรูปแบบ ั  ของ plug-in สําหรับการวิเคราะหที่เฉพาะทางเชน การวิเคราะหเรื่องน้ํา (hydrology), การวิเคราะห ขอมูลสภาพภูมิประเทศ เปนตน โปรแกรมนี้จัดเปนโปรแกรมประเภทรหัสเปด (Open Source) ที่อยู ภายใตลิขสิทธิ์ของ The Mozilla Public License 1.1 ดังนั้นผูใชจึงสามารถนําโปรแกรมนี้มาใชงาน ไดโดยทีไดตองเสียคาซอฟทแวร ซึ่งเหมาะกับหนวยงานหรือสถาบันการศึกษาที่ตองการนําระบบ ่ สารสนเทศภูมิศาสตรมาใชในองคกรแตมขอจํากัดเรื่องงบประมาณ ี บทความชุดนีทําขึ้นเพื่อสงเสริมและเผยแพรความรูทางวิชาการ ไมไดมีเจตนาทําขึ้นเพื่อ ้ จําหนายหรือใชเพื่อผลประโยชนทางธุรกิจแตอยางใด 2. การติดตั้งโปรแกรม 1. ทําการดาวโหลดโปรแกรม MapWindow GIS จาก URL http://www.mapwindow.org/download.php?file_name=http://svn.mapwindow.org/svnroot/Install ationProjects/4.2/Release/MapWindow42SR.exe&show_details=1&dl=1 2. Double click ไฟล MapWindow42SR.exe เพื่อทําการติดตั้งโปรแกรม 3. ทดลองรันโปรแกรม MapWindow GIS กรณีที่สามารถติดตั้งไดสําเร็จจะปากฏหนาตา เริ่มตนของโปรแกรมดังรูปที่ 1 รูปที่ 1 แสดงหนาตางตอนรับของโปรแกรม MapWindow GIS Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 2. 2 3. การใชงานโปรแกรม MapWindow GIS ทั่วไป สําหรับโปรแกรม MapWindow GIS มีหนาตาง แถบเครื่องมือและฟงกชนการทํางานที่ ั เหมือนกับโปรแกรม GIS ทั่วไป ผูใชหลายทานนาจะคุนเคยมาบางแลว ดังนั้นในสวนนี้ ผมจะขอ กลาวถึงเฉพาะสวนทีแตกตางไปจากโปรแกรมทั่วไปเทานั้น ่ 3.1 การนําเขาขอมูลเชิงพื้นที่ โปรแกรม MapWindow GIS สนับสนุนการทํางานกับขอมูลทั้งประเภทเวกเตอร และราสเตอร โดยชนิดของรูปแบบการจัดเก็บขอมูล (format) มีคอนขางหลากหลายโดยเฉพาะใน ขอมูลราสเตอร แตคอนขางจํากัดในขอมูลเวกเตอรเมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ โดยรูปแบบการ จัดเก็บขอมูลของขอมูลเวกเตอรจะสนับสนุนเฉพาะ shapefile กับ coverage เทานั้น การนําเขาขอมูล สามารถทําไดดังนี้ครับ 1. ไปที่คําสั่ง View >> Add Layer 2. ทําการเลือกไดเร็กทอรี่ที่เก็บชั้นขอมูลที่ตองการ รูปที่ 2 แสดงการเลือกไฟลที่ตองการนําเขาในโปรแกรม รูปที่ 3 แสดงการชนิดไฟลทสามารถนําเขาในโปรแกรม ี่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 3. 3 รูปที่ 4 แสดงผลลัพธการนําเขาขอมูลในโปรแกรม 3.2 การแสดงผลขอมูลเชิงพื้นที่ 3.2.1 แถบควบคุมการแสดงผลแผนที่ โปรแกรม Map Window GIS มีแถบเครื่องมือควบคุมการทํางานของแผน ที่เหมือนกับโปรแกรม GIS ทั่วไปดังภาพที่ 5 รูปที่ 5 แสดงแถบเครื่องมือควบคุมการแสดงผลแผนที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 4. 4 3.2.2 การกําหนดรูปแบบและสัญลักษณของแผนที่ 1. คลิ๊กขวาที่ชั้นขอมูล และเลือกแถบคําสั่ง Properties 2. เลือก Coloring Scheme บนหนาตาง Legend Editor รูปที่ 6 แสดงหนาตางที่ใชกาหนดรูปแบบการแสดงผลของแผนที่ ํ 3. ทําการเลือกฟลดที่จะใชเปนคาในการจําแนกสี และกําหนดรูปแบบการ จําแนกขอมูล รูปที่ 7 แสดงการกําหนดรูปแบบการจําแนกกลุมขอมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 5. 5 รูปที่ 8 แสดงผลลัพธการกําหนดรูปแบบการจําแนกกลุมขอมูล 3.2.3 การกําหนดมุมมองภาพรวมแผนที่ (Overview Map) 1. ไปที่เมนู Edit >> Preview Map >> Update Using Full Extents รูปที่ 9 แสดงคําสั่งการเปดมุมมองภาพรวมของแผนที่ Overview Map รูปที่ 10 แสดงผลลัพธคําสั่งการเปดมุมมองภาพรวมของแผนที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 6. 6 3.3 การจัดการขอมูลเชิงบรรยาย โปรแกรม MapWindow GIS มีฟงกชันที่ใชในการจัดการขอมูลเชิงบรรยายที่ คอนขางสมบูรณ ผ็ใชสามารถใชงานผานอินเตอรเฟสไดอยางสะดวก 3.3.1 การแสดงผลขอมูลเชิงบรรยาย 1. ทําการเลือกชั้นขอมูลที่ตองการ ดวยการ click บนแถบชั้นขอมูล 2. ไปที่แถบเครื่องมือ Table Editor Table Editor Tool รูปที่ 11 แสดงขอมูลเชิงบรรยายในรูปแบบตาราง 3.3.2 การแกไขหรือปรับปรุงขอมูลเชิงบรรยาย 3.3.2.1 การเพิมฟลดของตารางขอมูล ่ 1. ไปที่เมนู Edit >> Add Field เพื่อทําการเพิ่มฟลด กําหนดชื่อฟลด กําหนด Data Type กําหนด ขนาดขอมูล รูปที่ 12 แสดงการกําหนดคุณสมบัติของฟลดที่จะทําการเพิ่ม Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 7. 7 3.3.2.2 การลบฟลดของตารางขอมูล 1. ไปที่เมนู Edit >> Remove Field เพื่อทําการเพิ่มฟลด เลือกชื่อฟลดที่ตองการลบ รูปที่ 13 แสดงการเลือกฟลดที่จะทําการลบ 3.3.2.3 การลบฟลดของตารางขอมูล 1. ไปที่เมนู Edit >> Rename Field เพื่อทําการเปลี่ยนชื่อฟลด เลือกชื่อฟลดที่ตองการเปลี่ยนชื่อ กําหนดชื่อใหมที่ตองการ รูปที่ 14 แสดงการเลือกฟลดที่จะทําการเปลี่ยนชื่อ 3.3.2.4 การคํานวณคาของขอมูล 1. ไปที่เมนู Tools >> Field Calculator Tool เพื่อทําการนําขอมูล ที่อยูในฟลดมาคํานวณทางสถิติเบื้องตน 2. ทําการสรางเงื่อนไขในการคํานวณโดยสามารถนําคาของ ขอมูลที่อยูในฟลดตางๆมาใชคํานวณรวมในสมการได Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 8. 8 ฟลดตางๆที่นํามาใชในการคํานวณได ฟงกชันคณิตศาสตรที่ใชคํานวณ สรางสมการเงื่อนไขในการคํานวณ รูปที่ 15 แสดงหนาตางของ Field Calculator Tool 3.3.2.5 การเชื่อมโยงตารางจากภายนอก 1. ไปที่เมนู Tools >> Import Field Definitions from DBF เพื่อ ทําการเชื่อมโยงตารางหลักทีทีกับตารางอื่นๆภายนอกที่อยูในรูปแบบ dbf ่ 2. ทําการเลือกไฟล dbf ที่ตองการทําการเชือมโยง ่ รูปที่ 16 แสดงการเลือกไฟล dbf เพื่อทําการเชื่อมโยงตารางฐานขอมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 9. 9 รูปที่ 17 แสดงผลลัพธการเชื่อมโยงตารางฐานขอมูล 3.4 การสืบคนขอมูล การสืบคนขอมูลในโปรแกรม MapWindow GIS สามารถแบงออกเปนสอง ประเภทคือการสืบคนดวยฟงกชั่นเชิงพืนทีและการสืบคนจากขอมูลเชิงบรรยาย ้ ่ 3.4.1 การสืบคนขอมูลดวยฟงกชั่นเชิงพืนที่ ้ โปรแกรม MapWindow GIS สามารถทําการสืบคนดวยคาพิกัดภูมิศาสตร และขอบเขตภูมิศาสตร โดยจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้ 1. ไปที่แถบเครื่องมือ Feature Identifier 2. ทําการกําหนดคาพิกดที่จะใชในการสืบคน โดยการคลิ๊กไปยังตําแหนง ั ที่ตองการสืบคนบนแผนที่ คลิ๊กตําแหนงที่ตองการ ผลลัพธทีไดจากการสืบคน รูปที่ 18 แสดงตําแหนงบนแผนที่ที่ตองการสืบคน Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 10. 10 3. ทดลองใชเมาสลากขอบเขตการคนหาบนแผนที่ กําหนดขอบเขตการสืบคน รูปที่ 19 แสดงการกําหนดขอบเขตบนแผนที่ที่ตองการสืบคน 3.4.2 การสืบคนจากขอมูลเชิงบรรยาย โปรแกรม MapWindow GIS มีเครื่องมือสําหรับสรางชุดคําสั่ง SQL ใน การสืบคนขอมูลจากฐานขอมูล โดยมีขั้นตอนดังตอไปนี้ 1. ทําการกําหนดชั้นขอมูลทีตองการจะทําการสืบคน ดวยการคลิ๊กที่ชน ่ ั้ ขอมูลแผนที่บนแถบควบคุมชั้นขอมูลแผนที่ 2. เปดตารางฐานขอมูลโดยไปที่แถบเครื่องมือ Table Editor รูปที่ 20 แสดงตารางฐานขอมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 11. 11 3. ไปที่เมนู Selection >> Query 4. กําหนดฟลดที่จะใชในการสรางเงื่อนไขเพื่อสืบคน รูปที่ 21 แสดงหนาตา Query Builder สําหรับสรางคําสั่ง SQL รูปที่ 22 แสดงผลลัพธที่ไดจากการสืบคนในรูปแบบตาราง Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 12. 12 3.5 การสรางและปรับแกขอมูลเชิงพื้นที่ 3.5.1 การสรางขอมูลเชิงพื้นที่ โปรแกรม Map Window GIS มีฟงกชั่นการทํางานที่รองรับการสรางชั้น ขอมูลแผนที่เชิงเสนทั้งประเภท จุด (Point), เสน (line), โพลีกอน (Polygon) โดยที่ผใชสามารถ ู สรางขอมูลดวยการทํา Head-Up Digitize จากหนาจอโปรแกรมไดทนที ั 1. ทําการเปดภาพออรโธโฟโตที่ใชเปนแหลงขอมูลขึ้นมา โดยไปที่เมนู View >> Add Layer 2. ทําการโหลด plug-in ที่ชื่อวา Shapfile Editor โดยไปที่เมนู Plug-ins >> Shapfile Editor รูปที่ 23 แสดงแถบเครื่องมือ Shapfile Editor 3. ไปคลิ๊กที่ Create New Shapefile บนแถบเครื่องมือ รูปที่ 24 แสดงการกําหนดไดเร็กทอรี่สําหรับจัดเก็บและชนิดของ Geometry ของ Shapfile 4. ทําการดิจิไตลอาคารจากภาพออรโธโฟโต โดยคลิ๊กทีปุม Add new ่ shape to current shapefile บนแถบเครื่องมือแลวลากเสนขอบอาคาร รูปที่ 25 แสดงการดิจิไตลอาคารจากภาพออรโธโฟโต Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 13. 13 5. ทําการเปดตารางฐานขอมูลของชั้นขอมูลอาคารที่สรางขึ้น รูปที่ 26 แสดงตารางฐานขอมูลของชั้นขอมูลอาคารที่สรางใหม 6. เพิ่มคอลัมนเพื่อใชในการจัดเก็บขอมูลเชิงบรรยายที่สัมพันธกับขอมูล เชิงพื้นที่ โดยไปที่เมนู edit>>add field รูปที่ 27 แสดงการกําหนดคุณสมบัติคอลัมนที่สรางใหม 7. ทําการพิมพขอมูลเชิงบรรยายลงในตารางตามที่ตองการ แลวกดปุม Apply เพื่อทําการบันทึกขอมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 14. 14 รูปที่ 28 แสดงตารางผลลัพธที่ไดทําการใสคาขอมูลเชิงบรรยาย 3.5.2 การแกไขขอมูลเชิงพื้นที่ การแกไขขอมูลเชิงพื้นที่ดวยโปรแกรม Map Window GIS สามารถทําได ตามขั้นตอนตางๆดังตอไปนี้ 1. ทําการเลือกฟเจอรที่ตองการปรับแก โดยไปที่แถบคําสั่ง Move an Existing vertex in Shape แลวใชเมาสคลิ๊กไปที่ฟเจอรบนแผนที่ 2. เลือก vertex ที่ตองการปรับแกแลวทําการคลิ๊กเมาสขาง เพื่อลากจุด vertexไปยังตําแหนงที่ตองการ คลิ๊กที่จุด Vertex ที่ตองการปรับแก รูปที่ 29 แสดงผลลัพธที่ไดทําการใสคาขอมูลเชิงบรรยาย Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 15. 15 3. กรณีที่ตองการเพิ่มหรือลบจุด vertex ใหไปที่แถบเครื่องมือและคลิ๊กที่ ปุม Add vertex หรือ Remove Vertex เพื่อทําการเพิ่มหรือลบขอมูลจากฟเจอร รูปที่ 30 แสดงแถบเครื่องมือสําหรับเพิ่มหรือลบ vertex 3.6 การประมวลผลขอมูลเชิงพื้นที่ โปรแกรม Map Window GIS มีฟงกชันการประมวลผลขอมูลเชิงพื้นที่ที่ หลากหลาย ครอบคลุมการทํางานทั่วไปของระบบงาน GIS โดยแบงประเภทของฟงกชั่นออกเปน 3 ประเภทหลักคือ Vector, Raster และ Image 3.6.1 ฟงกชั่นการวิเคราะหและประมวลผลสําหรับขอมูล Vector 3.6.1.1 ฟงกชน Assign Projection to shapefile ั่ Assign Projection to shapefile เปนฟงกชนที่ใชสําหรับ ั่ กําหนดคาระบบพิกัดอางอิง (Spatial Reference System) ดวยการสรางไฟล prj กํากับ ใหกับขอมูล Vector โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Assign Projection to shapefile 2. ทําการหาไดเร็กทอรี่ที่เก็บไฟล แลวเลือก shapefile ที่ตองการ 3. กําหนดคา Map Projection และคา Datum ใหกับขอมูล รูปที่ 31 แสดงการกําหนดคาระบบพิกัดอางอิง (Spatial Reference System) Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 16. 16 ผลลัพธที่ได รูปที่ 32 แสดงไฟลผลลัพธที่ไดจากการกําหนดคาระบบพิกัดอางอิง 3.6.1.2 ฟงกชน Buffer Shapes ั่ ฟงกชั่น Buffer Shapes เปนฟงกชั่นที่ใชสาหรับในการวิเคราะห ํ ขอมูลเชิงพื้นที่ โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>>Buffer Shapes 2. กําหนดชั้นขอมูลที่ตองการวิเคราะห รูปที่ 33 แสดงชั้นขอมูลที่ตองการสราง buffer 3. กําหนดรายละอียดในการคํานวณสําหรับสราง buffer ขนาดรัศมีของ Buffer ตําแหนงการสราง ระบุไดเร็กทอรี่ที่ทําการจัดเก็บขอมูล รูปที่ 35 แสดงการกําหนดรายละเอียดในการคํานวณ Buffer Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 17. 17 รูปที่ 36 แสดงผลลัพธที่ไดจากการคํานวณ Buffer 3.6.1.3 ฟงกชน Calculate Polygon Area ั่ ฟงกชั่น Calculate Polygon Area เปนฟงกชั่นที่ใชสําหรับ คํานวณพื้นที่ของสี่เหลี่ยมรูปปด โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>>Calculate Polygon Area 2. ทําการกําหนดชั้นขอมูลประเภทโพลีกอนเพื่อทําการคํานวณ 3. กําหนดคอลัมนที่จะทําการเก็บคาพื้นทีที่ไดจากการคํานวณ ่ 4. กําหนดหนวยของผลลัพธพื้นที่ที่ตองการ เลือกชั้นขอมูลที่ตองการ กําหนดชื่อฟลดใหมทเี่ ก็บผลลัพธ กําหนดหนวยของพื้นที่ รูปที่ 37 แสดงหนาตางการกําหนดพารามิเตอรในการคํานวณพื้นที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 18. 18 3.6.1.4 ฟงกชน Clip Shapefile with polygon ั่ ฟงกชั่น Clip Shapefile with polygon เปนฟงกชั่นที่ใชสาหรับ ํ การตัดชั้นขอมูลดวยโพลีกอน โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Clip Shapefile with polygon 2. กําหนดชั้นขอมูลที่ตองการจะ Clip 3. กําหนดชั้นขอมูลที่ใชเปนตัวแบบ (template) ในการตัด ผูใช สามารถเลือกเฉพาะบางฟเจอรในชั้นขอมูลเพื่อทําการตัดได 4. กําหนดไดเร็กทอรี่ที่ใชในการจัดเก็บผลลัพธที่ได เลือกชั้นขอมูลที่ตองการ Clip เลือกเฉพาะบางฟเจอรในชันขอมูลเพื่อใชในการตัด ้ เลือกตัวแบบ Template ที่ใชในการตัด กําหนดไดเรกทอรี่ที่ใชในการจัดเก็บขอมูล รูปที่ 38 แสดงหนาตางการกําหนดพารามิเตอรในการประมวลผล 3.6.1.5 ฟงกชน Merge Shapefile ั่ ฟงกชั่น Merge Shapefile เปนฟงกชันทีใชในการเชื่อมชันขอมูล ่ ้ แผนที่สองชุดใหกลายเปนชันขอมูลเดียวกันหรือใชในการเชื่อมฟเจอรหลายๆฟเจอรเขาดวยกัน ้ โดยมีขั้นตอนการทํางานดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Merge Shapefile 2. กําหนดชั้นขอมูลที่ตองการจะ Merge ในกรณีที่ตองการ Merge เฉพาะฟเจอรที่อยูในชั้นขอมูลเดียวกัน ก็สามารถทําโดยการใชเมาสคลิ๊กเลือกฟเจอรที่ ตองการ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 19. 19 รูปที่ 39 แสดงการกําหนดฟเจอรที่ตองการจะทําการ Merge 3. ทําการกําหนดไดเรกทอรี่ปลายทางที่จะทําการจัดเก็บผลลัพธ เลือกชั้นขอมูลชุดแรกที่ตองการ Merge กดปุม Select Shape เมื่อตองการจะเลือกบางฟเจอร เลือกชั้นขอมูลชุดที่สองที่ตองการ Merge กําหนดไดเร็กทอรี่จัดเก็บขอมูลปลายทาง รูปที่ 40 แสดงการกําหนดพารามิเตอรในการประมวลผล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 20. 20 ผลลัพธที่ไดจากการ Merge Feature รูปที่ 41 แสดงผลลัพธที่ไดจากการประมวลผล 3.6.2 ฟงกชั่นการวิเคราะหและประมวลผลสําหรับขอมูล Raster 3.6.2.1 ฟงกชนการ Reproject Grid ั่ ฟงกชั่นการ Reproject Grid เปนฟงกชั่นทีใชในการแปลงคา ่ ระบบพิกัดอางอิง (Spatial Reference System) ของขอมูลราสเตอร โดยขอมูลราสเตอรจําเปนตองมี คาพิกัดภูมิศาสตรเริ่มตองกอนทําการประมวลผลทุกครั้ง การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Reproject Grid 2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการแปลงคาระบบ พิกัดเขาสูโปรแกรม ไฟลราสเตอรที่จะทําการแปลงคาพิกัด รูปที่ 42 แสดงหนาตางรายงานสถานะของขอมูลราสเตอรที่จะทําการประมวลผล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 21. 21 3. กําหนดระบบพิกัดผลลัพธที่ตองการแปลง ในกรณีที่ขอมูลยัง ไมมีการระบุรายละเอียดของระบบพิกัดมากอนโปรแกรมจะบังคับใหผูใชระบุพิกดของขอมูลกอน ั รูปที่ 43 แสดงการเลือกระบบพิกัดที่ตองการแปลง 3.6.2.2 ฟงกชนการ Change Grid format ั่ ฟงกชั่นการ Change Grid format เปนฟงกชั่นที่ใชในการแปลง รูปแบบชนิดการเก็บขอมูลของราสเตอร การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Change Grid format 2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการแปลงรูปแบบ ชนิดการเก็บขอมูลของราสเตอร ไฟลราสเตอรที่จะทําการแปลงรูปแบบการจัดเก็บ รูปที่ 44 แสดงหนาตางรายงานสถานะของขอมูลราสเตอรที่จะทําการประมวลผล 3. กําหนดประเภทฟอรแมทที่ตองการและขนาดของการจัดเก็บ ขอมูลของแตละพิกเซล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 22. 22 รูปที่ 45 แสดงการกําหนดรายละเอียดสําหรับขอมูลผลลัพธ 3.6.2.3 ฟงกชนการ Resample Grids ั่ ฟงกชั่นการ Resample Grids เปนฟงกชนทีใชในการแปลงขนาด ั่ ่ พิกเซลของขอมูลของราสเตอร การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้ 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Resample Grids 2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการแปลงรูปแบบ ขนาดพิกเซลของราสเตอร ไฟลราสเตอรที่จะทําการแปลงขนาดพิกเซล รูปที่ 46 แสดงหนาตางรายงานสถานะของขอมูลราสเตอรที่จะทําการประมวลผล 3. กําหนดขนาดของพิกเซลที่ตองการสําหรับภาพผลลัพธ แลว ทําการกําหนดรูปแบบการจัดเก็บขอมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 23. 23 รูปที่ 47 แสดงการกําหนดรายละเอียดการจัดเก็บขอมูลของภาพผลลัพธ รูปที่ 48 แสดงภาพผลลัพธที่ไดจากการประมวลผล 3.6.2.4 ฟงกชน GeoReference Image or grid ั่ ฟงกชั่น Geo Reference Image and grid เปนฟงกชั่นทีใชในการ ่ กําหนดคาพิกดภูมิศาสตรอางอิงใหกับขอมูลภาพราสเตอร การทํางานจะมีขั้นตอนดังตอไปนี้ ั 1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>>GeoReference Image or grid 2. ทําการนําเขาขอมูลราสเตอรที่ตองการจะทําการกําหนดคา พิกัดภูมิศาสตร Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 24. 24 กดปุมคําสั่ง Load file เพื่อนําภาพเขามาทําการ Rectify รูปที่ 49 แสดงการนําเขาขอมูลภาพที่จะทําการตรึงคาพิกด ั 3. ทําการนําเขาขอมูลตําแหนงพิกัดอางอิงที่จะใชในการ กําหนดคาพิกดใหกับขอมูลภาพราสเตอร โดยในตัวอยางนี้จะทําการนําเขา point จากการเก็บคา ั พิกัดดวย GPS ดังภาพที่ 50 คาพิกัดภูมิศาสตรของตําแหนงควบคุมภาพที่ไดจากการวัดดวย GPS รูปที่ 50 แสดงการเตรียมขอมูลคาพิกัดภูมศาสตรที่จะใชในการ Rectify ขอมูลภาพ ิ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 25. 25 4. ทําการกําหนดตําแหนงทีจะตรึงคาพิกด โดยใชเมาสคลิ๊กบน ่ ั ภาพดังภาพที่ 51 คาพิกัดภาพของตําแหนงบนภาพที่อานได ทําการ Click ที่จุดแรกเพื่ออานคาพิกัดภาพ รูปที่ 51 แสดงการกําหนดตําแหนงที่สนใจบนภาพเพื่ออานคาพิกัดภาพ 5. ทําการ Click ที่ตําแหนงเดียวกันบนแผนที่ที่ทราบคาพิกัด ภูมิศาสตรโลก โดยในตัวอยางนี้ใชคาพิกดจากการเก็บดวย GPS และนําเขามาแสดงในรูปแบบ ั point นําเมาสไป Click ที่จุดทราบคาพิกัดภูมิศาสตร เพื่อนําคานั้นมาใชในการคํานวณ รูปที่ 52 แสดงการกําหนดคาพิกัดภูมิศาสตรโลกจากแผนที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา
  • 26. 26 6. ทําจนครบทั้งหมด 3 ตําแหนงทั้ง Point 1, Point2, Point3 แลว ทําการกดปุม Georeference เพื่อทําการคํานวณ คาพิกัดใหมทไดจากการคํานวณ โดยใชคาพิกัดที่ ี่  ทําการเก็บดวย GPS รูปที่ 53 แสดงภาพผลลัพธที่มีพิกัดภูมิศาตรหลังจากการประมวลผลเรียบรอยแลว 4. สรุป บทความฉบับนี้เนนไปที่การทํางานของฟงกชั่นหลักๆของโปรแกรม Map Window GIS เพื่อใหผูใชหลายทานไดทําความรูจักกับโปรแกรม Open Source ตัวนี้ ยังมีอีกหลายฟงกชั่นที่ผมยัง ไมไดกลาวถึงในบทความชุดนี้ รวมถึงความสามารถขั้นสูงของโปรแกรม Map Window GIS เชน การเปดชองทางใหโอกาสโปรแกรมเมอรเขียน script ดวยภาษา vb.net หรือ C# เพื่อสรางฟงกชั่น หรือ customizes โปรแกรมใหเฉพาะทางได และการวิเคราะหขั้นสูงดวยโมเดลตางๆเปนตน คิดวา ในอนาคตถาโอกาสอํานวยนาจะไดมีโอกาสกลาวถึงเรื่องนี้ตอไป ขอบคุณครับ... Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคํามา