Sql ta2

คำสั่งในการกำหนดประเภทของข้อมูล (Data Definition Language Command : DDL)

(Data Definition Language Command : DDL) CREATE TABLE FORMAT: CREATE TABLE table_name ( column_name DATATYPE COLUMN_CONSTRAINT, column_name DATATYPE COLUMN_CONSTRAINT, … TABLE_CONSTRAINT );

(Data Definition Language Command : DDL) ชื่อของข้อกำหนดที่ต้องการสร้างให้กับตาราง TABLE_CONSTRAINT ชื่อของข้อกำหนดที่ต้องการสร้างให้กับคอลัมน์ COLUMN_CONSTRAINT ชนิดข้อมูลของคอลัมน์นั้น ๆ DATATYPE ชื่อคอลัมน์แต่ละคอลัมน์ column_name กำหนดชื่อตาราง table_name คำสั่งให้สร้างตาราง CREATE TABLE ความหมาย คำสั่ง

ประเภทของข้อมูลใน Oracle ตัวอักขระเช่นเดียวกับ VARCHAR2 แต่จะเก็บข้อมูลตามค่าใน National Character Set NCHAR(size) ตัวอักขระที่มีความยาวผันเปลี่ยนไปตามความยาวของข้อมูล ค่าสูงสุดคือ 4,000 ไบต์ VARCHAR2(size) ตัวอักขระที่มีความยาวของข้อมูลตามค่า size ค่าสูงสุดคือ 2,000 ไบต์ CHAR(size) ความหมาย ประเภทของข้อมูล

ประเภทของข้อมูลใน Oracle ตัวเลข ซึ่งแสดงจำนวนหลักด้วย p และจำนวนหลังทศนิยมด้วย s โดยที่ p จะมีค่าอยู่ระหว่าง 1 ถึง 38 s จะมีค่าอยู่หว่าง – 84 ถึง 27 NUMBER(p,s) ตัวอักษรที่มีการกำหนดความยาวที่แน่นอนเอาไว้ มีความยาวสูงสุด 2 กิกะไบต์ LONG ความหมาย ประเภทของข้อมูล

ประเภทของข้อมูลใน Oracle ข้อมูลไบนารีที่สามารถปรับขนาดได้ และมีความยาวสูงสุด 2 กิกะไบต์ LONG RAW ข้อมูลไบนารีที่กำหนดขนาดที่แน่นอนเอาไว้ และมีความยาวสูงสุด 255 ไบต์ RAW(size) วันที่ และเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 4712 ก่อนคริสตศักราช ถึง 31 ธันวาคม 4712 หลังคริสตศักราช DATE ความหมาย ประเภทของข้อมูล

ประเภทของข้อมูลใน Oracle จัดเก็บข้อมูลไบนารีแบบ Large Object มีความยาวสูงสุด 4 GB BLOB จัดเก็บข้อมูลตัวอักษรที่เป็นแบบ Large Object มีความยาวสูงสุด 4 GB CLOB เลขฐานสองที่แสดงถึงตำแหน่งที่อยู่ในเรคอร์ด ROW ID ความหมาย ประเภทของข้อมูล

ประเภทของข้อมูลใน Oracle จัดเก็บลิงค์ ( pointer ) ที่ใช้ในการเรียกไฟล์ที่จัดเก็บเป็น os file นอกฐานข้อมูล BFILE จัดเก็บข้อมูลตัวอักษรหลายชุดที่เป็นแบบ Large Object มีความยาวสูงสุด 4 GB NCLOB ความหมาย ประเภทของข้อมูล

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่าง 1 : การสร้างตารางแผนก ชื่อ department โดยจะประกอบไปด้วยข้อมูล รหัสแผนก , ชื่อแผนก CREATE TABLE department( D_No CHAR(3) NOT NULL, D_Name VARCHAR2(50), CONSTRAINT Dept_Pk PRIMARY KEY (D_No) );

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่าง 2 : การสร้างตารางพนักงาน ชื่อ employee โดยจะประกอบไปด้วยรหัสพนักงาน , ชื่อ , สกุล , รหัสแผนก , ตำแหน่ง และเงินเดือน CREATE TABLE employee( E_No CHAR(4) not null, E_Name VARCHAR2(30), E_Last VARCHAR2(30), D_No CHAR(3) DEFAULT 'D01', Position VARCHAR2(20), Salary NUMBER(9,2), CONSTRAINT Emp_Pk PRIMARY KEY (E_No), CONSTRAINT Dept_Fk FOREIGN KEY (D_No) REFERENCES department (D_NO) );

คีย์หลัก ( Primary Key ) คือแอตทริบิวต์ที่น้อยที่สุดที่จะใช้ในการแยกตาราง โดยอาจจะมีเพียงคอลัมน์เดียวหรือหลายคอลัมน์ก็ได้ เช่น ในตาราง department จะมีคีย์หลักคือ D_No คีย์รอง ( Foreign Key ) คือกลุ่มของแอตทริบิวต์ที่มีน้อยที่สุดที่ใช้ในการอ้างถึงคีย์หลักในตารางแม่ เช่น ในตาราง employee จะมีคีย์รองคือ D_No ซึ่งจะเป็นคีย์ที่ใช้ในการอ้างถึงคอลัมน์ D_No ในตาราง department ซึ่งจริงๆแล้วในตาราง employee ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อ D_No เหมือนในตาราง department ก็ได้ (Data Definition Language Command : DDL)

(Data Definition Language Command : DDL) UNIQUE คือ ต้องมีเพียงตัวเดียวในคอลัมน์ DEFAULT คือ การกำหนดค่าให้อัตโนมัติ ในกรณีที่ไม่มีการส่งค่าใด ๆ ลงมา CHECK คือ การกำหนดเงื่อนไขข้อมูลที่จะใส่เข้ามาจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขเท่านั้น NOT NULL คือ การกำหนดห้ามไม่ให้ปล่อยค่าว่างในคอลัมน์

(Data Definition Language Command : DDL) การสร้าง Primary Key Format CONSTRAINT constraint_name PRIMARY KEY(column1[,column2]);

(Data Definition Language Command : DDL) การสร้าง Primary Key กำหนดประเภทของ CONSTRAINT เป็น PRIMARY KEY และกำหนดคอลัมน์ที่ต้องการสร้างให้เป็น PRIMARY KEY PRIMARY KEY (column1[,column2]) คำสั่งใช้สร้าง CONSTRAINT โดย constraint_name คือชื่อของ CONSTRAINT ที่ต้องการ CONSTRAINT constraint_name ความหมาย คำสั่ง

(Data Definition Language Command : DDL) การสร้าง Foreign Key Format CONSTRAINT constraint_name FOREIGN KEY(column1,column2,…) REFERENCES table_name (column1,column2,…);

(Data Definition Language Command : DDL) การสร้าง Foreign Key กำหนดประเภทของ CONSTRAINT เป็น FOREIGN KEY และกำหนดคอลัมน์ที่ต้องการสร้างให้เป็น FOREIGN KEY FOREIGN KEY(column1,column2,…) คำสั่งใช้สร้าง CONSTRAINT โดย constraint_name คือชื่อของ CONSTRAINT ที่ต้องการ CONSTRAINT constraint_name ความหมาย คำสั่ง

(Data Definition Language Command : DDL) การสร้าง Foreign Key ( ต่อ ) กำหนดชื่อตารางและคอลัมน์ของตารางที่ต้องการอ้างอิงถึง REFERENCES table_name (column1, column2,…) ความหมาย คำสั่ง

(Data Definition Language Command : DDL) ALTER เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราได้ทำการ CREATE ไปแล้ว ส่วนมากใช้ในการแก้ไขโครงสร้างของตารางเดิมที่มีอยู่ โดยมีรูปแบบคำสั่ง ดังนี้ ALTER TABLE table_name [ADD column_name DATATYPE COLUMN_CONSTRAINT] [MODIFY column_name DATATYPE COLUMN_CONSTRAINT] [DROP CONSTRAINT constraint_name [CASCADE]];

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่างที่ 1 ต้องการเพิ่มคอลัมน์ 2 คอลัมน์ในตาราง department จะใช้คำสั่งดังนี้ ALTER TABLE department Add (Test_Add NUMBER(1) not null, Test_Add2 VARCHAR2 (2) );

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่างที่ 2 ต้องการเปลี่ยน data type ของคอลัมน์ Test_Add2 จาก VARCHAR2 เป็น NUMBER ALTER TABLE department MODIFY ( Test_Add2 NUMBER(2));

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่างที่ 3 ต้องการลบคอลัมน์ Test_Add2 ออกจากตาราง ALTER TABLE department DROP ( Test_Add2);

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่างที่ 4 ต้องการเพิ่ม PRIMARY KEY ให้กับคอลัมน์ E_Name ในตาราง employee Format ALTER TABLE table_name ADD CONSTRAINT ตัวแปร PRIMARY KEY (fieldname); ตัวอย่าง ALTER TABLE employee ADD CONSTRAINT enam_fk PRIMARY KEY (E_Name);

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่างที่ 5 ต้องการเพิ่ม FOREIGN KEY ให้กับคอลัมน์ E_Name ในตาราง employee Format ALTER TABLE table_name ADD CONSTRAINT ตัวแปร FOREIGN KEY (fieldname) REFERENCES table_name1(fieldname); ตัวอย่าง ALTER TABLE employee ADD CONSTRAINT dnam_fk FOREIGN KEY (E_Name) REFERENCES department(D_Name);

(Data Definition Language Command : DDL) ตัวอย่างที่ 6 ต้องการเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ E_Last ให้เป็น E_Lastname ในตาราง employee Format ALTER TABLE table_name RENAME ชื่อ คอลัมน์เดิม TO ชื่อคอลัมน์ใหม่ ; ตัวอย่าง ALTER TABLE employee RENAME E_Last TO E_Lastname;

(Data Definition Language Command : DDL) RENAME เป็นคำสั่งเปลี่ยนชื่อตาราง Format RENAME ชื่อตารางเดิม TO ชื่อตารางใหม่ ; DROP เป็นคำสั่งลบตาราง Format DROP TABLE ชื่อตาราง ;

คำสั่งในการควบคุมโครงสร้างของข้อมูล (Data Manipulation Language Command : DML)

(Data Manipulation Language Command : DML) INSERT คือการเพิ่มข้อมูลให้กับตารางโดยที่คำสั่งนี้จะสามารถเพิ่มได้ครั้งละ 1 record ถ้าหากต้องการเพิ่มข้อมูลหลาย record ก็ให้ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง โดยมีรูปแบบคำสั่งดังนี้ FORMAT INSERT TO table_name (Column_1, Column2,…, Column_n) VALUES (Value_1, Value_2, Value_3);

(Data Manipulation Language Command : DML) ตัวอย่างการใช้คำสั่ง INSERT เพื่อเพิ่มข้อมูลแถวที่ 1 INSERT INTO department (D_NO, D_NAME) VALUES ('D01','Sales'); ข้อมูลในตาราง department มีดังนี้ Finance D03 support Do2 Sales D01 D_Name D_No

(Data Manipulation Language Command : DML) INSERT ( ต่อ ) เมื่อ ใส่ข้อมูลแล้วอาจจะใช้คำสั่ง COMMIT เพื่อทำการยืนยันข้อมูลที่ใส่เข้าไปทั้งหมด ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาที่ออกจากโปรแกรมจะมีการ confirm อยู่แล้วแต่เราใส่เพื่อจะได้มั่นใจแน่ๆว่าสิ่งที่เราได้ทำมานั้นได้เก็บลงไปในฐานข้อมูล แล้วเผื่อเกิดความผิดพลาดอะไรกับระบบขึ้นมาเราจะได้สามารถกู้ข้อมูลเหล่านี้กลับมาได้

(Data Manipulation Language Command : DML) ข้อมูลในตาราง employee มีดังนี้ 32000 Manager D03 Rakwong Sirinate E007 37000 Manager D02 Boonyarat Satit E006 12000 Co-ordinator D03 Monthon Pikul E005 25000 System-Analyst D02 Kamalawat Jitlada E004 15000 Sales D01 Penkawin Oranuch E003 35000 Manager D01 Chartsakul Rujiya E002 18000 Programmer D02 Thongsawang Songkran E001 SALARY POSITION D_NO E_LAST E_NAME E_NO

(Data Manipulation Language Command : DML) UPDATE คือ การอ่านข้อมูล (read) ออกมาจากตารางแล้ว ทำการเขียน (write) ลงไปในตารางนั้นใหม่ โดยจะทำงานในลักษณะของ group of record ทำให้การอัพเดตใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะจะต้องทำงานถึง 2 รอบ FORMAT UPDATE table_name SET column = value [,column = value] WHERE <condition> ;

(Data Manipulation Language Command : DML) UPDATE ( ต่อ ) โดยที่เงื่อนไข (condition) ที่สามารถใช้ในที่นี้ได้จะต้องมีรูปแบบดังตาราง

(Data Manipulation Language Command : DML) ตัวอย่าง การเปลี่ยน D_Name จาก ชื่อ “ Finance” ให้เป็น “ Accounting” UPDATE department SET D_Name = 'Accounting' WHERE D_No = 'D03' ;

(Data Manipulation Language Command : DML) DELETE คือ การลบข้อมูลออกจากตาราง FORMAT DELETE FROM table_name WHERE <condition> ; โดยที่ <condition> ในที่นี้จะเป็นแบบเดียวกับที่ได้แสดงไว้ในเรื่องของการ “ UPDATE ” ที่ได้กล่าวไปแล้ว

(Data Manipulation Language Command : DML) ตัวอย่าง การลบข้อมูลในเรคอร์ดที่เก็บข้อมูล ‘ E005’ จากตาราง employee DELETE FROM employee WHERE E_No = 'E005' ;

คำสั่งในการค้นหาข้อมูล (Data Retrival Command)

(Data Retrival Command) SELECT เป็นคำสั่งที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูล โครงสร้างของคำสั่ง SELECT ประกอบด้วย SELECT, FROM, WHERE,ORDER BY และ GROUP BY รูปแบบคำสั่งอย่างน้อยที่สุด SELECT <cluase> FROM <cluase>; ตัวอย่าง SELECT D_Name FROM department;

(Data Retrival Command) Where Clause จะช่วยให้เราสามารถเลือกเฉพาะเรคอร์ดที่เราต้องการเท่านั้น FORMAT : SELECT <cluase> FROM <cluase> WHERE <condition> ; โดยที่เงื่อนไข <condition> ในที่นี้จะเป็นแบบเดียวกับที่ได้แสดงไว้ในเรื่องของการ “ UPDATE ” ที่ได้กล่าวไปแล้ว

(Data Retrival Command) ตัวอย่าง การเลือก แสดง ข้อมูลเฉพาะเรคอร์ดที่บรรจุข้อมูล ‘ D01’ ในตาราง department SELECT * FROM department WHERE D_No = 'D01' ;

(Data Retrival Command) Boolean Operation Operation ในที่นี้จะประกอบไปด้วยเครื่องหมาย OR และ AND โดยมีสถานการณ์ของแต่ละเหตุการณ์ ซึ่งมีดังนี้ FALSE FALSE FALSE FALSE TRUE FALSE TRUE FALSE TRUE FALSE FALSE TRUE TRUE TRUE TRUE TRUE A OR B A AND B B A

(Data Retrival Command) เครื่องหมายในการเปรียบเทียบ ( comparison operator ) เครื่องหมายในการเปรียบเทียบอื่น ๆ ไม่เท่ากับ <> หรือ != น้อยกว่า หรือเท่ากับ <= มากกว่า หรือเท่ากับ >= น้อยกว่า < มากกว่า > เท่ากับ = ความหมาย เครื่องหมาย ทดสอบเปรียบเทียบค่าที่ไม่ใช่ค่าว่าง NOT NULL ทดสอบเปรียบเทียบค่าว่าง NULL หาค่าที่อยู่นอกเหนือจาก LIKE NOT LIKE ทดสอบเปรียบเทียบข้อความ LIKE ความหมาย เครื่องหมาย

(Data Retrival Command) ตัวอย่างที่ 1 การเลือก แสดง ข้อมูลเฉพาะพนักงานที่อยู่ในแผนก ‘ D01’ และ มีเงินเดือนมากกว่า 20,000 บาท ในตาราง employee SELECT E_Name FROM employee WHERE D_No = 'D01' AND Salary > 20000 ;

(Data Retrival Command) ตัวอย่างที่ 2 ต้องการค้นหาว่าใครมีเงินเดือนอยู่ในช่วง 15,000 ถึง 30,000 ในตาราง employee SELECT * FROM employee WHERE salary between 15000 and 30000 ;

Sql ta2

More Related Content

What's hot (12)

Viewers also liked (20)

Similar to Sql ta2 (20)

Sql ta2