ระบบฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก
Database Management System for Retail Shop




             นายสันติ พันไธสง
             Santi Panthaisong




 สารนิพนธ์ฉบับนี้ เป็ นส่วนหนึ่ งของการศึกษา
   ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต
 สาขาการจัดการเทคโนโลยี บัณฑิตวิทยาลัย
      มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
            ปี การศึกษา 2554
หัวข้อสารนิ พนธ์             ระบบฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก
นักศึกษา                     นาย สันติ พันไธสง
รหัสนักศึกษา                 5317670015
ปริ ญญา                      วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต
สาขาวิ ชา                    การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ
พ.ศ.                         2554
อาจารย์ผควบคุมสารนิ พนธ์ รศ.ดร. ฤกษ์ชย ฟูประทีปศิริ
        ู้                           ั




                                     บทคัดย่อ


        โครงงานนี้น้ีจะเป็ นการนําเสนอ ระบบการจัดการฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก มาช่วย
              ่ ี ่                           ่          ั
จัดการข้อมูลทีมอยูได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริมวิเคราะห์ปญหาทีพบบ่อยในกระบวนการการ
                                                              ่
                                                  ั ั
ทํางานต่างๆ ของร้านค้าปลีก และนําเทคโนโลยีในปจจุบนมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบงาน
                  ั
นี้ โดยหวังจะลดปญหาและข้อผิดพลาดต่างๆ ในการบริหารจัดการร้านค้าปลีก เช่น การจัดการ
ระบบคลังสินค้า ตรวจสอบยอดขาย เพือให้การดําเนินงานเป็ นไปอย่างรวดเร็ว และออกรายงาน
                                      ่
ทีตองการเพือนําไปวางแผนสําหรับการจัดการร้านค้าต่อไป
   ่ ้      ่




                                                                                     I
Project Title         Database Management System For Retail Shop
Student               Santi Panthaisong
Student ID            5317670015
Degree                Master of Science
Program               Information Technology Management
Year                  2011
Thesis Advisor        Assoc. Prof. Reckchai Fooprateepsiri, Ph.D.




                                    ABSTRACT


        This project will be presented. Database management system for retailers that
manage existing information effectively. By analyzing common problems in retailer
operation. Used current technology to developing this system. It is expected to reduce
the problems and errors in retail outlets management such as warehouse management
systems, check daily sales that improve retailer operation faster and higher
performance. And reporting with any requirement to plan for the management of the
store.




                                                                                    II
กิตติกรรมประกาศ


         สารนิพนธ์ฉบับนี้สาเร็จได้จากแนวความคิดและการแนะนําการดําเนินงานโครงงาน องค์
                          ํ
ความรูต่างๆจากอาจารย์ รศ.ดร.ฤกษ์ชย ฟูประทีปศิริ อาจารย์ทปรึกษาทีได้เสียสละเวลาให้
       ้                              ั                 ่ี       ่
คําปรึกษา ตรวจสอบข้อบกพร่องของระบบให้มความสมบูรณ์ อีกทังเพือๆทีคอยช่วยเหลือ
                                           ี               ้ ่ ่
สนับสนุนการจัดทําสารนิพนธ์ฉบับนี้
        ขอกราบขอพระคุณ คณาจารย์ทุกท่านทีชวยประสิทธิ ์ประสาทวิชาความรูจนสามารถ
                                              ่ ่                       ้
จัดทําสารนิพนธ์ให้สาเร็จได้ดวยดี ท้ายนี้ขอกราบพระคุณบิดามารดาทีคอยให้กาลังใจเสมอ
                   ํ        ้                                  ่      ํ


                                                                 สันติ พันไธสง




                                                                                   III
สารบัญ
                                                                  หน้า



บทคัดย่อภาษาไทย                                                       I

กิตติกรรมประกาศ                                                     II

สารบัญ                                                              III

สารบัญตาราง                                                         V

สารบัญรูป                                                          VI

บทที่ 1 บทนํา
               ั
        1.1 ปญหาและแรงจูงใจ                                         1
        1.2 วิเคราะห์                                               2
        1.3 จุดประสงค์                                              2
        1.4 ขอบเขต                                                  2
        1.5 แผนเวลาของโครงการ                                       3
บทที่ 2 ทฤษฎีและการออกแบบ

        2.1 กล่าวนํา                                                4
        2.2 ทฤษฏีฐานข้อมูล                                          4
        2.3 รหัสแท่ง                                               11
บทที่ 3 การดําเนินโครงการ

         3.1    ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูง                         16
         3.2    ผังกระแสข้อมูลระดับต่างๆ                           18
         3.3    ผังแสดงความสัมพันธ์ของแฟ้มข้อมูล                   31
         3.4    Mapping Entity-Relationship Diagram                32
         3.5    พจนาจุกรมข้อมูล                                    33
         3.6    การออกแบบ interface ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก    39




                                                                    IV
สารบัญ (ต่อ)
                                                        หน้า

บทที่ 4 ผลการทดลองหรือดําเนินงาน

        4.1 การออกแบบการดําเนินการในส่วนการเก็บข้อมูล    51
        4.2 การทดสอบกระบวนการทํางานแต่ละส่วน             52
บทที่ 5 สรุปผลการดําเนินงาน

      5.1 บทสรุป                                         69
              ั
      5.2 ปญหาและอุปสรรคทีพบจากการทําโครงงาน
                          ่                              69
      5.3 แนวทางการพัฒนาโครงการ                          69
เอกสารอ้างอิง                                            70




                                                          V
บทที่ 1
                                                บทนํา
ความเป็ นมา

        โดยทัว ไปแล้ว ร้า นค้า ปลีก ยัง เป็ น ระบบงานที่ใ ช้บุ ค ลากรเป็ น ผู้ป ฏิบ ัติง าน ซึ่ง เป็ น การ
               ่
ปฏิบติงานที่ยงมีขอผิดพลาดและขาดความเป็ นระเบียบเรียบร้อย เช่น การขายสินค้า การจัดการ
     ั        ั ้
คลังสินค้า การคิดราคาสินค้า การตรวจสอบใบเสร็จย้อนหลัง เป็ นต้น ซึงสิงต่างๆ เหล่านี้จะก็ให้เกิด
                                                                       ่ ่
   ั
ป ญ หาด้ า นการจัด การร้า น เป็ น ผลให้เ กิด ความเสีย หายทางธุ ร กิจ เกิด ความล่ า ช้า หรือ เกิด
ข้อผิดพลาดต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า เนื่องจากลุกค้าต้องการความรวดเร็วและ
ความถูกต้องจากการรับบริการ นอกจากนี้ลูกค้ายังมีทางเลือกทีหลากหลายจากการเกิดขึ้นของ
ร้านค้าปลีกรายใหญ่ดวย
                    ้
               ั ั
         ในปจจุบนได้มรานค้าปลีกต่างชาติได้เข้ามาเปิ ดสาขาในไทยมากมาย โดยร้านค้าเหล่านี้มี
                      ี้
จุดเด่นอยู่ทการจัดการร้านด้วยความรวดเร็ว และมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการทํางาน
            ่ี
ทําให้รานค้าปลีกของไทย ยากทีจะแข่งขันได้หากไม่มการเปลียนแปลง เพื่อตอบรับกับความต้องการ
       ้                      ่                 ี       ่
ของลูกค้า

        เพื่อให้การจัดการร้านค้าปลีกให้มประสิทธิภาพมากยิงขึน จึงได้มการทําเทคโนโลยีเข้ามา
                                        ี               ่ ้         ี
ช่วยในการดําเนินงาน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ เพื่อมาช่วยในการทํางานหลายๆ ด้าน เช่น จัดเก็บ
ข้อมูล ค้นหาข้อมูลต่างๆ การจัดแสดงรายงานต่อเจ้าของกิจการ เพื่อนําข้อมูลต่างๆ ไปปรับปรุงร้าน
เพือสร้างความพึงพอใจให้กบลูกค้าได้มากขึน
   ่                      ั               ้

1. ปัญหา และแรงจูงใจ (Problem/Motivation)
                        ั
     1.1. เพือลดปญหาจากการขายสินค้าเช่น คิดราคาผิด เป็ นต้น
              ่
     1.2. เพือสามารถจัดการคลังสินค้าได้ตอลดเวลา
                ่
     1.3. สามารถตรวจสอบสินค้าในคลังได้ทนที ไม่ตองใช้วธเดินไปตรวจสอบ
                                          ั       ้     ิี
     1.4. เพือเพิมความรวดเร็วในการขายสินค้า สร้างความพึงพอใจให้กบลูกค้า
                  ่ ่                                               ั
     1.5. สามารถตรวจสอบรายการขายย้อนหลังได้
     1.6. เพือให้จดการข้อมูลต่างๆ ภายในร้านได้อย่างถูกต้องและเป็ นระบบ
            ่         ั




                                                                                                        1 

 
2. วิ เคราะห์ (Analysis)

         ในร้านค้าปลีก จะมีลกค้าเข้ามาซือสินค้าเป็ นจํานวนมากในระยะเวลาหนึ่งๆ ซึงอาจทําให้เกิด
                              ู         ้                                      ่
ความล่าช้าในการขายสินค้าได้ นอกจากนี้ยงก่อให้เกิดความผิดพลาดทีอาจจะตามมาได้ เช่น การคิด
                                          ั                       ่
ราคาสินค้าผิด นับจํานวนสินค้าไม่ครบ เป็ นต้น เนื่องจากทางร้านดําเนินการด้วยคนเป็ นหลัก และ
เมื่อมีการจัดเก็บใบเสร็จทีเป็ นเอกสารต่างๆ แล้วก็จะพบว่าเกิดการสูญหายหรือเสียหายอยู่บ่อยครัง
                         ่                                                                   ้
                                   ั
เนื่องจากจํานวนของใบเสร็จและปญหาจากการจัดเก็บไม่ดี ทําให้ลูกค้าหลายคนไม่พอใจในการซื้อ
สินค้า

3. จุดประสงค์ (Objectives)
       การพัฒนาระบบร้านค้าปลีกมีวตถุประสงค์หลักในการดําเนินงาน ดังนี้
                                 ั
    3.1 ศึก ษาและทําการออกแบบระบบร้านค้าปลีก เพื่อจัดการข้อมูล ให้มีความเป็ น ระเบียบ
                                ั
        สะดวกต่อการใช้งานและแก้ปญหาการซํ้าซ้อนของข้อมูล
    3.2 เพือพัฒนาระบบร้านค้าปลีก โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
          ่
    3.3 เพื่อให้การดําเนินงานของร้านค้าปลีก เช่น การขาย การจัดการคลังสินค้า การซื้อสินค้า
        การบันทึกใบเสร็จ มีความรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดและสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้

4. ขอบเขต (Scope)
     4.1 ระบบจัดการข้อมูลพืนฐาน
                            ้
       4.1.1 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้า
                              ่
       4.1.2 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลลูกค้า
                                ่
       4.1.3 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลผูใช้ระบบ
                                  ่              ้
       4.1.4 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลผูผลิต
                                    ่          ้
     4.2 ระบบการขาย
       4.2.1 สามารถทําการขายสินค้า พร้อมกับคํานวณราคาและเงินทอนได้
       4.2.2 สามารถยกเลิกการขายสินค้าได้
       4.2.3 สามารถเปลียนแปลงรายการการขายแต่ละรายการได้
                        ่
       4.2.4 สามารถแสดงยอดค้างชําระของลูกค้าแต่ละคนได้
       4.2.5 สามารถแสดงสินค้าทีลกค้าซือเป็ นประจําได้
                                        ู่   ้
     4.3 ระบบการจองสินค้าหรือสังล่วงหน้า
                                      ่
       4.3.1 สามารถให้ลกค้าโทรมาสังสินค้าล่วงหน้า หรือสังสินค้าล่วงหน้าได้
                          ู                ่            ่


                                                                                            2 

 
4.4 ระบบคลังสินค้า
               4.4.1 สามารถบันทึกการรับสินค้าเข้าร้านได้
               4.4.2 สามารถคํานวณราคาสินค้าต่อหน่วย ต้นทุนสินค้าเมือรับสินค้าเข้าร้านได้
                                                                     ่
               4.4.3 สามารถตัดจํานวนสินค้าเมือมีการขายสินค้านันๆ ออกไปทันทีเมือมีการขาย
                                              ่                ้                  ่
               4.4.4 สามารถแจ้งเตือนเมือสินค้าใดๆ ในร้านเหลืออยูต่ํากว่าจุดสังซือ
                                      ่                           ่          ่ ้
               4.4.5 สามารถแจ้งตําแหน่งของสินค้าในโกดังได้ เมือทําการค้นหาจากระบบ
                                                             ่
             4.5 ระบบการแสดงรายงาน
               4.5.1 สามารถแสดงยอดรวมยอดขายตามเงือนไขได้ เช่น ยอดต่อวัน ยอดต่อเดือน
                                                        ่
               4.5.2 สามารถแสดงรายได้สทธิตามเงือนไขได้ เช่น กําไรต่อวัน ต่อเดือน
                                        ุ          ่
               4.5.3 สามารถแสดงข้อมูลสินค้าขายดีตามเงือนไขได้
                                                          ่
               4.5.4 สามารถแสดงข้อมูลลูกค้าค้างชําระได้
               4.5.5 สามารถแสดงรายาชื่อสินค้าในคลังได้
               4.5.6 สามารถแสดงสินค้าในคลังทีจานวนตํ่ากว่าจุดสังซือ
                                                ่ํ               ่ ้
               4.5.7 สามารถแสดงข้อมูลลูกค้าตามเงือนไขได้
                                                     ่

      5. แผนเวลาของโครงงาน (Calendar Planning)

      ชื่องาน (Task Name)     : ระบบฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก
      ลักษณะงาน (Description) : การพัฒนาระบบฐานข้อมูล
      ระยะเวลา (Duration)     : มิถุนายน 2554 – เมษายน 2554

                  ขั้นตอนการดําเนินงาน                มิ.ย.- ก.ค   ส.ค.- ก.ย   ต.ค.- พ.ย ธ.ค.- ก.พ มี.ค.- เม.ย

ระยะที่ 1 วิเคราะห์และศึกษาระบบงานปั จจุบน
                                         ั
ระยะที่ 2 ศึกษาความต้องการของระบบ
ระยะที่ 3 วิเคราะห์และออกแบบระบบ
ระยะที่ 4 พัฒนาและทดสอบระบบ
ระยะที่ 5 ทําคู่มือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง




                                                                                                      3 

       
 
 

                                           บทที่ 2
                                        ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

2.1 กล่าวนํา
            ั ั
        ในปจจุบนระบบบ่งชีอตโนมัติ (Automatic identification) ได้นิยมนํามาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ระบุ
                          ้ ั
สถานะของสัตว์ หรือสิงของต่างๆ เช่น สินค้าทีเราให้ความสนใจ ซึงระบบบ่งชีอตโนมัตทรจกและใช้งานกัน
                    ่                       ่                ่          ้ ั        ิ ่ี ู้ ั
อย่างแพร่หลายทีสดคือ ระบบบาร์โค้ด (Barcode System) ซึงสามารถพบเห็นได้ทวไปในธุรกิจหรือใน
                ุ่                                      ่                     ั่
ชีวตประจําวัน และด้วยเหตุผลของบาร์โค้ดทีทาให้งายต่อการจัดเก็บข้อมูลทําให้ถกนํามาใช้ในการจัดการ
   ิ                                     ่ ํ ่                              ู
ระบบคงคลังของธุรกิจมาก เพือให้ธุรกิจมีความรวดเร็วในการจัดการ ลดข้อจํากัดในเรืองระยะเวลา ลดเวลา
                            ่                                                    ่
ในการดําเนินงาน

2.2 ทฤษฎีฐานข้อมูล
           [1] ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลทีมความสัมพันธ์กน นํามาเก็บรวบรวมเข้าไว้
                                                             ่ ี             ั
ด้วยกันอย่างมีระบบ และต้องตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น ข้อมูลทะเบียนนักศึกษา จะมีขอมูล   ้
เกียวกับนักศึกษา ข้อมูลเกียวกับรายวิชาทีลงทะเบียน ข้อมูลอาจารย์ผสอน ข้อมูลเกียวกับเกรดของ
   ่                         ่             ่                            ู้     ่
นักศึกษา เป็ นต้น กลุ่มของข้อมูลนันอาจจะเกียวกับบุคคล สิงของ สถานที่ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ทีเราสนใจ
                                      ้      ่             ่                               ่
หรืออาจได้มาจากการสังเกต การนับการวัด รวมทังข้อมูลทีเป็ นตัวเลข ข้อความ และรูปภาพ ก็สามารถ
                                                  ้      ่
นํามาจัดเก็บเป็ นฐานข้อมูลได้แต่ทสาคัญข้อมูลทุกอย่างต้องมีความสัมพันธ์กน และเก็บรวบรวมอย่างเป็ น
                                    ่ี ํ                                   ั
ระบบ เพราะเป็ นสิงทีตองนํามาใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต
                     ่ ่ ้
           2.2.1 ระบบฐานข้อมูล (Database System)
           หมายถึง ระบบการรวบรวมฐานข้อมูลหลายๆ ฐานข้อมูล ทีมความสัมพันธ์กน โดยมีวตถุประสงค์
                                                                 ่ ี             ั       ั
เพือเป็ นการลดความซํ้าซ้อนของข้อมูล ภายในระบบฐานข้อมูลต้องมีสวนของซอฟต์แวร์ททาหน้าทีในการ
     ่                                                                ่             ่ี ํ     ่
เชื่อมโยงและจัดการฐานข้อมูล ด้วยวิธและรูปแบบเหมาะสมเพือให้ผใช้งานสามารถเก็บข้อมูล ดูแลรักษา
                                         ี                    ่   ู้
ความปลอดภัย และง่ายต่อการนํามาใช้งานซอฟต์แวร์ซงเรียกว่า Database Management System
                                                      ่ึ
(DBMS)
           2.2.2 องค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล
                   2.2.2.1 ฮาร์ดแวร์ (Hard Ware) ในระบบฐานข้อมูลทีมประสิทธิภาพควรมีฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่
                                                                     ่ ี
พร้อมจะอํานวยความสะดวกในการบริหารระบบงานฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่วาจะเป็ นความเร็ว
                                                                                       ่
ของหน่วยประมวลผล ขนาดของหน่วยความจํากลางอุปกรณ์นําเข้าและออกรายงาน รวมถึงหน่วยความจํา
สํารองทีรองรับการประมวลผลข้อมูลในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
         ่



                                                                                                      4 
 
 
 

                 2.2.2.2 ซอฟต์แวร์ (Soft Ware) ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management
System) คือ ซอฟท์แวร์ททาหน้าทีในการจัดการฐานข้อมูล ในเรืองของการสร้างการปรับเปลียนแก้ไข
                             ่ี ํ        ่                                  ่                                     ่
โครงสร้าง การเรียกใช้ การจัดทํารายงาน การควบคุม การดูแลรักษาความปลอดภัย โดยจะเป็ นสือกลาง                               ่
ระหว่างผูใช้กบโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ทีมอยูในฐานข้อมูล
            ้ ั                                  ่ ี ่
                 2.2.2.3 ข้อมูล (Data) ข้อมูลทีถูกเก็บอยูในฐานข้อมูล และมีความสัมพันธ์กนระหว่างข้อมูล
                                                               ่          ่                                     ั
ในฐานข้อมูลมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็ นศูนย์กลางข้อมูลอย่างเป็ นระบบ ซึงข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้  ่
ร่วมกันได้ ผูใช้ขอมูลในระบบฐานข้อมูล จะมองภาพข้อมูลในลักษณะทีแตกต่างกัน
              ้ ้                                                                     ่
                            1) มุมมองของการนําข้อมูลไปใช้ (External Level) จะสามารถแบ่งข้อมูลได้ดงนี้                             ั
                                       (1) ข้อมูลขาเข้า หรือข้อมูลดิบ (Data) เช่น ข้อมูลการสังซือข้อมูลการ  ่ ้
ตรวจรับ
                                       (2) ข้อมูลสารสนเทศ (Information) คือข้อมูลขาเข้าหรือข้อมูลดิบทีผาน                     ่ ่
                                ่
การประมวลผลแล้ว เช่น ฝายผลิตต้องการข้อมูลแสดงภาพรวมของสินค้าทีถูกสังเพือนําไปใช้ในการสัง่ ซือ
                                                                                            ่ ่ ่                                   ้
วัตถุดบ จึงทําการหาผลรวมจํานวนสินค้าทีถูกสัง่ แยกตามรายการสินค้า เพือความสะดวกในการใช้งาน
       ิ                                            ่                                         ่
                            2) มุมมองของผูออกแบบระบบฐานข้อมูล (Physical Level)
                                               ้
                                       (1) ข้อมูลทีผใช้ระบบต้องการใช้งาน (User Data) เช่น ข้อมูลของผูใช้ใน
                                                          ่ ู้                                                                  ้
ระบบงานขายสินค้า ได้แก่ ข้อมูลสินค้า, ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลการสังซือสินค้า เป็ นต้น่ ้
                                       (2) ข้อมูลทีใช้อธิบายโครงสร้างของข้อมูล (Metadata) ในระบบฐานข้อมูล
                                                        ่
จะเรียกว่าพจนานุกรมข้อมูล (Data dictionary) ใช้สาหรับการอธิบายโครงสร้างของข้อมูล ประเภทของ
                                                                    ํ
ข้อมูล และคุณลักษณะพิเศษอื่นๆ
                  2.2.2.4 บุคลากร (People) ในระบบฐานข้อมูลจะมีบุคลากรทีเกียวข้องดังนี้ คือ       ่ ่
                            1) ผูใช้ทวไป (User) หมายถึง บุคลากรทีใช้ขอมูลจากระบบฐานข้อมูล เพือให้งาน
                                  ้ ั่                                          ่ ้                                       ่
สําเร็จลุลวงได้ เช่น ในระบบการฝากเงินธนาคารผูใช้ทวไปคือ พนักงาน ธนกิจ ทีรบฝากเงิน หรือระบบดู
          ่                                                      ้ ั่                                  ่ั
เกรดนักศึกษา ผูใช้ทวไปคือนักศึกษา
                  ้ ั่
                            2) พนักงานปฏิบตการ (Operator) หมายถึงผูปฏิบตการด้านการประมวลผล การ
                                                  ั ิ                                   ้ ั ิ
ป้อนข้อมูลเข้าเครืองคอมพิวเตอร์
                   ่
                            3) นักเขียนโปรแกรม (Programmer) หมายถึงผูทมหน้าทีเขียนโปรแกรม ้ ่ี ี          ่
ประยุกต์ใช้งานต่างๆ เพือให้จดเก็บข้อมูล การเรียกใช้ขอมูลเป็ นไปตามความต้องการของผูใช้
                          ่          ั                                ้                                       ้
                            4) นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analyst) หมายถึงบุคลากรทีทาหน้าที่                         ่ ํ
วิเคราะห์ระบบฐานข้อมูล และออกแบบระบบงานทีจะนํามาใช้               ่
                            5) ผูบริหารฐานข้อมูล (Database Administrator) หมายถึงบุคลากรทีทาหน้าที่
                                   ้                                                                                ่ ํ
บริหารและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทังหมดเป็ นผูตดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าใน
                                                                        ้         ้ ั
ระบบ จัดเก็บโดยวิธใดเทคนิคการเรียกใช้ขอมูล กําหนดระบบวิธการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การ
                      ี                               ้                       ี

                                                                                                                                   5 
 
 
 




                        2.2.2.5 ขันตอนปฏิบตงาน (Procedure) ในระบบฐานข้อมูลทีดจะต้องมีการจัดทําเอกสารที่
                                   ้          ั ิ                                                   ่ ี
ระบุขนตอนการทํางานของหน้าทีต่างๆ ระบบฐานข้อมูลทังในสภาวะปกติ และในสภาวะทีระบบเกิดการ
         ั้                              ่                                 ้                              ่
                          ั
ขัดข้อง หรือเกิดปญหา ซึงจะเป็ นขันตอนการปฏิบตงานสําหรับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร
                                 ่         ้             ั ิ
                                                                                 ั
                2.2.3 โครงสร้างฐานข้อมูลโครงสร้างฐานข้อมูลหรือสถาปตยกรรมฐานข้อมูลแบ่งเป็ น 3 ระดับ
                        2.2.3.1 ระดับภายนอก - เป็นระดับการมองข้อมูลภายในฐานข้อมูลสําหรับผูใช้แต่ละคน        ้
ข้อมูลทีเห็นอาจจะมากน้อยแตกต่างกัน ขึนอยูกบสิทธิ ์การเข้าใช้งานฐานข้อมูล
              ่                                   ้ ่ ั
                        2.2.3.2 ระดับแนวคิด - เป็ นระดับของการออกแบบฐานข้อมูล จะมองเห็นข้อมูลทังหมดใน                 ้
ฐานข้อมูล
                        2.2.3.3 ระดับภายใน - เป็ นระดับของการจัดเก็บข้อมูลด้วยโครงสร้างข้อมูลทีเหมาะสม ซึง      ่         ่
โครงสร้างทีใช้เก็บข้อมูลมีผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลการแบ่งโครงสร้างฐานข้อมูล
                   ่
ออกเป็ น 3 ระดับนี้ ทําให้เกิดความเป็ นอิสระของข้อมูลเมือมีการเปลียนแปลงแก้ไขโครงสร้างข้อมูลในระดับ
                                                                         ่                 ่
ภายในหรือระดับแนวคิดจะไม่มผลกระทบต่อโปรแกรมทีผใช้ใช้งานอยูในระดับภายนอก
                                       ี                              ่ ู้                     ่
                2.2.4 แบบจําลองฐานข้อมูลแบบจํา ลองฐานข้อมูล คือโครงสร้างข้อมูลระดับตรรกะทีใช้นํา เสนอ         ่
ข้อมูลและความสัมพันธ์ ระหว่างข้อมูล ให้อยูในรูปแบบทีเข้าใจได้งาย แบบจําลองฐานข้อมูลมี 4 ประเภท
                                                    ่                  ่                 ่
ดังนี้
                        2.2.4.1 แบบจําลองฐานข้อมูลลําดับขัน (Hierarchical database model) แบบจําลองชนิดนี้
                                                               ้
ไฟล์ขอมูลจะถูกจัดไว้เป็ นโครงสร้างแบบบนลงล่าง ซึงมีลกษณะคล้ายกับโครงสร้างต้นไม้ เป็ นลําดับขัน
            ้                                                 ่ ั                                                       ้
ระดับสูงสุดจะเรียกว่า Root ระดับล่างสุดจะเรียกว่า Leaves ไฟล์ขอมูลต่างๆ จะมีเพียงไฟล์พอแค่หนึ่งไฟล์
                                                                                       ้                          ่
เท่านัน (one Parent) และแตกสาขาออกเป็ นหลายๆ ไฟล์ เรียกว่า ไฟล์ลก ปจจุบนไม่นิยมใช้กนแล้ว ข้อมูล
       ้                                                                                         ู ั ั              ั
จะมีความสัมพันธ์ในลักษณะ one-to-many
                                1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลลําดับชัน             ้
                                         (1) เหมาะกับข้อมูลทีมความสัมพันธ์แบบ one-to-many
                                                                 ่ ี
                                         (2) ความสามารถในการควบคุมความถูกต้องในข้อมูล
                                         (3) เหมาะกับข้อมูลทีมการเรียงลําดับแบบต่อเนื่อง
                                                                  ่ ี
                                2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลลําดับชัน                     ้
                                         (1) ไม่สามารถรองรับข้อมูลทีมความสัมพันธ์ในลักษณะของmany-to-
                                                                             ่ ี
many
                                         (2) มีความยืดหยุนน้อย ปรับเปลียนโครงสร้างมีความยุงยาก
                                                          ่                          ่                  ่
                                         (3) การค้นข้อมูลซึงอยูระดับล่างๆ จะต้องค้นหาไฟล์ทางด้านบนก่อน
                                                             ่ ่

                                                                                                                          6 
 
 
 

                                  (4) ยากต่อการพัฒนาโปรแกรม
                 2.2.4.2 แบบจําลองฐานข้อมูลเครือข่าย (Network database model) มีโครงสร้างคล้ายกับ
โครงสร้างแบบลําดับขัน แต่จะมีความแตกต่างกันคือความสัมพันธ์ของข้อมูลมีทงแบบ one-to-many และ
                       ้                                                       ั้
many-to-many ซึงมีความยืดหยุนทีสงกว่า
                  ่              ่ ู่
                         1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลเครือข่าย
                                  (1) สนับสนุนความสัมพันธ์แบบ many-to-many
                                  (2) ความซํ้าซ้อนในข้อมูลเกิดขึนน้อยกว่าแบบลําดับขัน
                                                                 ้                    ้
                                  (3) มีความยืดหยุนในด้านของการค้นหาข้อมูลดีกว่าเพราะใช้พอยน์เตอร์
                                                     ่
ในการเข้าถึง
                         2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลเครือข่าย
                                  (1) ความปลอดภัยของข้อมูลตํ่า
                                  (2) ใช้เนื้อทีหน่วยความจําในการเก็บพอยน์เตอร์
                                                   ่
                                  (3) การเปลียนแปลงในโครงสร้างมีความยุงยากอยู่
                                                 ่                           ่
                 2.2.4.3 แบบจําลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational database model) เป็ นลักษณะการ
ออกแบบฐานข้อมูลโดยจัดข้อมูลให้อยูในลักษณะของตารางภายในตารางประกอบด้วยแถว (Row) และ
                                       ่
คอลัมน์ (Column) สามารถมีความสัมพันธ์กบตารางอื่นๆ ได้ ไม่วาเป็ นแบบ one-to-many หรือ แบบ
                                               ั                   ่
many-to-many และจะใช้ Key ในการอ้างอิงถึงตารางอื่นๆ ทีเกียวข้อง ซึง Key สามารถเป็ นได้ทง Primary
                                                             ่ ่           ่                 ั้
Key และ Secondary Key เพือเข้าถึงข้อมูลได้ ดังนันผูออกแบบฐานข้อมูลจะต้องมีการวางแผนถึง
                              ่                        ้ ้
ตารางข้อมูลทีจาเป็ นต้องใช้
              ่ํ
                         1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
                                  (1) มีความเข้าใจและสือสารได้เข้าใจง่าย เนื่องจากนําเสนอในลักษณะ
                                                           ่
ตาราง 2 มิติ
                                  (2) สามารถเลือกวิวข้อมูลตามเงือนไขได้
                                                                     ่
                                  (3) ความซับซ้อนในข้อมูลมีน้อย
                                  (4) มีระบบความปลอดภัยทีดี เพราะผูใช้งานจะไม่ทราบถึงกระบวนการ
                                                              ่          ้
จัดเก็บข้อมูล
                                  (5) โครงสร้างข้อมูลมีความเป็ นอิสระจากโปรแกรม
                         2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
                                  (1) มีคาใช้จายในระบบค่อนข้างสูง เนื่องจากใช้ทรัพยากรทีมความสามารถ
                                            ่ ่                                          ่ ี
สูง
                                  (2) แก้ไขปรับปรุงแฟ้มข้อมูลมีความยุงยาก เนื่องจากไม่ทราบถึง
                                                                       ่
กระบวนการจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลทีแท้จริง่

                                                                                                  7 
 
 
 

                  2.2.4.4 แบบจําลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object-Oriented database model) เป็ นเทคโนโลยี
          ใหม่ของการจัดการฐานข้อมูลเชิงวัตถุ ให้ความสนใจด้วยการมองทุกสิงเป็ นวัตถุ โดยแต่ละวัตถุจะ      ่
          เป็ นแหล่งรวมของข้อมูล มีคลาสเป็ นตัวกําหนดคุณสมบัตหรือรายละเอียดของวัตถุ รวมทัง
                                                                                   ิ                                              ้
          คุณสมบัตการปกปิ ดความลับของวัตถุ
                    ิ
                           1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
                                         (1) สามารถจัดการกับข้อมูลชนิดต่างๆ ทีมความสลับซับซ้อนได้เป็ นอย่าง
                                                                                                    ่ ี
                            ดี ไม่วาจะเป็ นภาพกราฟิก วิดโอ และเสียง
                                     ่                               ี
                                         (2) สนับสนุนคุณสมบัตของการนํากลับมาใช้ใหม่ (Reusable)
                                                                         ิ
                            2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุตองใช้บุคลากรทีมความรูความ
                                                                                           ้                          ่ ี       ้
เชียวชาญ และประสบการณ์ในการจัดการกับข้อมูลทีมความสลับซับซ้อน
   ่                                                           ่ ี
          2.2.5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database)
                  [2] เป็ นฐานข้อมูลทีใช้โมเดลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Model) มีการเก็บ
                                                   ่
แฟ้มข้อมูลในรูปตาราง 2 มิติ คือ ในแต่ละตารางแบ่งออกเป็ น แถวๆ และในแต่ละแถวจะแบ่งเป็ นคอลัมน์
ทําให้งายต่อการเข้าใจและการประยุกต์ใช้งาน ด้วยเหตุน้ี ระบบฐานข้อมูลแบบนี้จงได้รบความนิยมมากทีสด
        ่                                                                                                   ึ ั                         ุ่
เนื่องจากแบบจําลองนี้เกิดจากทฤษฎีทางคณิตศาสตร์เรืองเซ็ท (Set) ดังนัน เราจะมีคาศัพท์เฉพาะดังนี้
                                                                       ่                          ้                 ํ
                           1) รีเลชัน (Relation) ตาราง (Table)
                                         ่
                           2) ทูเปิ ล (Tuple) แถว (Row) หรือ เรคคอร์ด (Record) หรือ ระเบียน
                           3) แอททริบวต์ (Attribute) คอลัมน์ (Column) หรือฟิลด์ (Field)
                                                     ิ
                           4) คาร์ดนลลิต้ิ (Cardinality) จํานวนแถว (Number of rows)
                                             ิ ั
                           5) ดีกรี (Degree) จํานวนแอททริบวต์ (Number of attribute)
                                                                             ิ
                           6) คียหลัก (Primary key) ค่าเอกลักษณ์ (Unique identifier)
                                   ์
                           7) โดเมน (Domain) ขอบเขตค่าของข้อมูลที่ Attribute ควรจะเป็ น
                  2.2.5.1 ชนิดของรีเลชัน ในระบบจัดการฐานข้อมูลทัวๆ ไปรีเลชันสามารถจําแนกออกได้
                                                       ่                                 ่                ่
เป็ น 2 ประเภท คือ
                            1) รีเลชันหลัก (Base Relation)เป็ นรีเลชันทีถูกกําหนดขึนเพือเก็บข้อมูล และเพือ
                                           ่                                         ่ ่                     ้ ่                        ่
นําข้อมูลไปใช้เมือมีการสร้างรีเลชัน โดยใช้ Data Definition Language เช่น ใน SQL คําสัง่ CREATE
                  ่                           ่
TABLEเป็ นการสร้างรีเลชันหลัก หลังจากนันก็จะทําการเก็บข้อมูลเพือการเรียกใช้ขอมูลในภายหลัง
                             ่                           ้                             ่                        ้
                           2) วิว (View) หรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารีเลชันสมมติเป็ นรีเลชันทีถูกสร้างขึน
                                                                                                ่                           ่ ่       ้
ตามความต้องการใช้ขอมูลของผูใช้แต่ละคนเนื่องจากผูใช้แต่ละคนอาจต้องการใช้ขอมูลในลักษณะทีแตกต่าง
                        ้              ้                           ้                                          ้                     ่
กัน จึงทําการกําหนดวิวของตัวเองขึนมาจาก Relation หลัก เพือความสะดวกในการใช้ขอมูล และช่วยให้
                                                 ้                               ่                                        ้
การรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทําได้งายขึนรีเลชันทีถกสมมติขนมานี้จะไม่มการเก็บข้อมูลจริงๆ ใน
                                                           ่ ้             ่ ่ ู             ้ึ                   ี
ระบบฐานข้อมูล

                                                                                                                                        8 
 
 
 

                       2.2.5.2 ประเภทของคีย์
                                 1) คียผสม (Combine key หรือComposite key) หมายถึง คียทประกอบ ด้วยแอท
                                             ์                                                                                                            ์ ่ี
ริบวต์มากกว่า 1 แอททริบวต์ เช่น รีเลชันของรายการสังอาหาร มีคย์ คือแอททริบวต์เลขทีใบสังอาหาร และ
    ิ                               ิ                            ่                        ่                             ี                           ิ           ่ ่
แอททริบวต์รหัสรายการอาหาร เพราะใบสังอาหารแต่ละใบจะมีรายการอาหารอยูในใบสังอาหารได้มากกว่า
               ิ                                                       ่                                                                          ่        ่
1 รายการ ดังนันถ้าใช้แอททริบวต์เลขทีใบสังอาหารเพียงตัวเดียวจะไม่สามารถแยกความแตกต่างแต่ละแถว
                     ้                              ิ           ่ ่
ได้
                                 2) คียคแข่ง (Candidate key) หมายถึง แอททริบวต์ทสามารถถูกกําหนดให้เป็ นคีย์
                                                 ์ ู่                                                                                     ิ ่ี
ในรีเลชันได้มากกว่า 1 แอททริบวต์ เช่น รีเลชันพนักงานมีแอททริบวต์ทสามารถเป็ นคียได้ 2 แอททริบวต์
           ่                                          ิ                      ่                                              ิ ่ี                              ์                 ิ
คือ แอททริบวต์รหัสพนักงาน กับแอททริบวต์เลขทีบตรประชาชน ดังนันในรีเลชันพนักงานสามารถเลือกแอ
                   ิ                                                 ิ               ่ ั                                       ้                ่
ททริบวต์ตวใดตัวหนึ่งเป็ นคียกได้
         ิ ั                            ์ ็
                                 3) คียหลัก (Primary key) หมายถึง คียคแข่งทีถูกกําหนดให้เป็ นคียเพือระบุแถวใน
                                               ์                                                                  ์ ู่             ่                               ์ ่
รีเลชัน ซึงคียหลักอาจเป็ นแอททริบวต์หรือกลุ่มของแอททริบวต์กได้ แต่คาทีมตองไม่ซ้าและต้องไม่เป็ นค่า
        ่ ่ ์                                               ิ                                             ิ ็                        ่ ่ ี ้            ํ
ว่าง ส่วนแอททริบวต์ทเี่ ป็ น คียคแข่งแต่ไม่ถูกเลือกเป็ นคียหลักเรียกว่า คียรอง (Alternate Key หรือ
                         ิ                  ์ ู่                                                  ์                                     ์
Secondary Key)
                                 4) คียนอก (Foreign key) หมายถึง คียทแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างรีเลชัน
                                                  ์                                                              ์ ่ี                                                       ่
กล่าวคือ แอททริบวต์ หรือกลุ่มของแอททริบวต์ทเี่ ป็ นคียหลักในรีเลชันหนึ่งสามารถเป็ นคียนอกของรีเลชัน
                           ิ                                             ิ                      ์                            ่                                   ์                  ่
อื่นๆ ได้ เช่น รีเลชันพนักงานมีรหัสพนักงานเป็ นคียหลัก ส่วนรีเลชันใบสังอาหารมีเลขทีใบสังเป็นคียหลัก
                             ่                                                         ์                                  ่           ่                      ่ ่          ์
และมีรหัสพนักงานเป็ นคียนอก       ์
                                                        (1) แอททริบวต์ทเี่ ป็ นคียนอกมีคาว่างได้ แต่ถาคียนอก เป็ นกลุ่มของแอทท
                                                                           ิ                        ์               ่                          ้ ์
ริบวต์ จะไม่สามารถมีคาว่างได้
      ิ                        ่
                                                        (2) ค่าของแอททริบวต์ ทีเป็ นคียนอกสามารถซํ้ากันได้
                                                                                         ิ ่                          ์
                                                        (3) รีเลชันหนึ่งๆ มีหรือไม่มคยนอกได้ แต่ทุกรีเลชันต้องมีคยหลักเสมอ
                                                                   ่                                       ี ี ์                                      ่             ี ์
                       2.2.5.3 คุณสมบัตของ Relational     ิ
                                 1) ข้อมูลในแต่ละแถวไม่ซ้ากัน โดยระบบจัดการฐานข้อมูล มีกลไกทีใช้ในการ
                                                                                   ํ                                                                                 ่
ควบคุมไม่ให้เกิดการซํ้าซ้อนของข้อมูล เช่น รีเลชันพนักงานมีแอททริบวต์รหัสพนักงานเป็ นคีย์ เมือมีการ
                                                                                 ่                                               ิ                                      ่
ป้อนรหัสพนักงานซํ้ากันระบบจะการแจ้งเตือนว่ารหัสพนักงานซํ้าซ้อนกัน
                                 2) การเรียงลําดับข้อมูลในแต่ละแถวไม่เป็ นสาระสําคัญ เนื่องจากการเรียกใช้ขอมูล                                                                ้
ในรีเลชันสามารถเรียกใช้ตามความต้องการของผูใช้
             ่                                                                 ้
                                 3) การเรียงลําดับของแอททริบวต์ไม่เป็นสาระสําคัญ เพราะการอ้างอิงแอททริบวต์
                                                                                              ิ                                                                                   ิ
ใดๆ จะใช้ช่อของแอททริบวต์นนๆ ในการอ้างอิง ไม่ใช้ลาดับทีของแอททริบวต์
                 ื                    ิ ั้                                                  ํ                ่                             ิ
                                 4) ค่าของข้อมูลในแต่ละแอททริบวต์จะเป็ นค่าของข้อมูลประเภทเดียวกัน เช่น แอ
                                                                                                      ิ
ททริบวต์วนเกิด จะเก็บข้อมูลประเภทวันที่ ไม่ใช่เงินเดือนทีเป็ นตัวเลข
          ิ ั                                                                                           ่

                                                                                                                                                                                   9 
 
 
 

                                        5) ค่าของข้อมูลในแต่ละแอททริบวต์ของแถวหนึ่งๆ จะเก็บข้อมูลได้เพียงค่าเดียว
                                                                                 ิ
(Single Value) ไม่ใช่กลุ่มของข้อมูลทีแสดงค่ามากกว่าหนึ่งแถว (Repeating Group)
                                                             ่
          2.2.6 Entity Relationship Model (ER Model)
          เป็ นเครืองมือในการอธิบายโครงสร้างของฐานข้อมูลในระดับ Conceptual ออกมาในลักษณะของ
                        ่
แผนภาพ ทีงายต่อความเข้าใจ เพือใช้สอสารระหว่างนักออกแบบฐานข้อมูล และผูใช้
                     ่่                              ่ ่ื                                                      ้
2.2.6.1 ส่วนประกอบของ ER model
                          1) เอนทิต้ี (Entity) คือบุคคล สถานที่ วัตถุ หรือเหตุการณ์ทเี่ ราสนใจ โดยทัวไปแล้วเอนทิต้ี             ่
จะมีกลุ่มทีบอกคุณสมบัตทบอกลักษณะของเอนทิต้ี เช่น พนักงานมีรหัส ชื่อ นามสกุล โดยจะมีคาของ
                   ่                    ิ ่ี                                                                                                ่
คุณสมบัตบางกลุ่มทีทาให้สามารถแยกเอนทิตออกจากเอนทิตอ่นได้ เช่น รหัสพนักงานทีจะไม่มพนักงานคน
                 ิ              ่ ํ                                ้ี                ้ี ื                              ่                ี
ไหนใช้ซ้ากันเลย เราเรียกค่าของคุณสมบัตกลุ่มนี้วาเป็น คีย์ ของเอนทิต้ี เอนทิตสามารถแบ่งได้ดงนี้
           ํ                                                     ิ     ่                                   ้ี                                    ั
                                        (1) เอนทิตปกติ (Regular Entity หรือ Strong Entity) คือเอนทิตทวๆ ไป ทีมแอ
                                                        ้ี                                                               ้ี ั ่                         ่ ี
ททริบวต์หนึ่งแยกความแตกต่างของข้อมูลแต่ละแถวได้ โดยไม่ตองอาศัยแอททริบวต์ของเอนทิตอ่น
       ิ                                                                                   ้                     ิ                            ้ี ื
สัญลักษณ์ของเอนทิตปกติ            ้ี
                                        (2) เอนทิตแบบอ่อน (Weak Entity) คือเอนทิตทตองอาศัยแอททริบวต์จากเอนทิต้ี
                                                        ้ี                                         ้ี ่ี ้                        ิ
อื่นมาช่วยในแยกความแตกต่างของข้อมูลแต่ละแถว
                          2.2.6.2 แอททริบวต์ (Attribute) คือคุณสมบัตหรือลักษณะของเอนทิต้ี เช่น แอททริบวต์ของ
                                                      ิ                                ิ                                                                 ิ
พนักงาน ประกอบด้วย รหัสพนักงาน, ชือ, นามสกุล, วันเกิด โดยมีช่อของแอททริบวต์กากับอยูภายใน และ
                                                               ่                                ื                  ิ ํ                ่
มีเส้นเชื่อมต่อกับเอนทิตแอททริบวต์สามารถแบ่งได้ 6 ประเภท
                                     ้ี            ิ
                                        1) Simple Attributeแอททริบวต์ทไม่สามารถแบ่งแยกย่อยได้อก เช่น เพศ,
                                                                              ิ ่ี                                   ี
เงินเดือนสัญลักษณ์ของแอททริบวต์                  ิ
                                        2) Composite Attributeมีลกษณะตรงข้ามกับแบบ Simple Attribute ทีสามารถ
                                                                          ั                                                               ่
แบ่งแยกย่อยไปได้อก เช่น แอททริบวต์ ชื่อสกุล สามารถแบ่งออกได้เป็ นแอททริบวต์ช่อ และ แอททริบวต์
                              ี                            ิ                                                  ิ ื                                           ิ
นามสกุล
                                        3) Key Attributeแอททริบวต์ทสามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเอนทิตนนได้ และ
                                                                         ิ ่ี                                                                  ้ี ั ้
แอททริบวต์ประเภทนี้มคาไม่ซ้ากันสัญลักษณ์ของ Key Attribute
               ิ                     ี่        ํ
                                        4) Single - Valued Attributeแอททริบวต์ทมคาของข้อมูลได้เพียงแค่คาเดียว เช่น
                                                                                          ิ ่ี ี ่                                  ่
แอททริบวต์เพศ ทีระบุได้เพียง ชาย หรือ หญิง เท่านัน เพราะมนุษย์มเี พียงเพศเดียว
             ิ              ่                                               ้
                                        5) Multi - Valued Attributeมีลกษณะตรงข้ามกับแบบ Single Attribute ทีสามารถ
                                                                               ั                                                                      ่
มีคาของข้อมูลได้หลายค่า เช่น พนักงานแต่ละคนมีระดับการศึกษาทีแตกต่างกันสัญลักษณ์ของ Multi-
     ่                                                                                        ่
Valued Attribute
                                        6) Derived Attributeเป็ นแอททริบวต์ทได้มาจากการคํานวณ โดยอาศัยค่าในแอทท
                                                                                   ิ ่ี
ริบวต์อ่นๆ เช่น ค่าของอายุ ทีได้มาจากแอททริบวต์วนเกิด สัญลักษณ์ของ Derived Attribute
    ิ ื                                      ่                        ิ ั

                                                                                                                                                         10 
 
 
 

              2.2.6.3 รีเลชัน (Relation)เป็ นความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิต้ี เช่น รีเลชันระหว่างเอนทิต้ี
                            ่                                                       ่
นักงานกับเอนทิตใบสังอาหาร มีความสัมพันธ์ คือ พนักงานเป็ นคนเขียนใบสังอาหารทีรบรายการมาจาก
               ้ี ่                                                       ่         ่ั
ลูกค้า

2.3 รหัสแท่ง (Barcode)
         [3] Barcode Scanner หรือ เครืองอ่านบาร์โค๊ด คือ เป็ นอุปกรณ์ทใช้อานข้อมูลทีอยูในแท่งบาร์โค้ด
                                       ่                              ่ี ่          ่ ่
แล้วแปลงให้เป็ นข้อมูลทีสามารถเข้าใจได้โดยคอมพิวเตอร์หน้าทีของเครืองอ่านบาร์โค้ด
                        ่                                     ่     ่
        1. หา Elements ทีถูกต้องของ Bar และ Space
                           ่
        2. กําหนดส่วนกว้างของแต่ละ Bar และ Space
        3. จัดกลุ่มของบาร์โค้ดทีอานเข้ามา
                                ่่
        4. นํา Element Widths เปรียบเทียบกับรูปแบบตารางบาร์โค้ด
        5. ตรวจสอบ Start/Stop Characters เวลาทีมการอ่านกลับทิศทาง
                                                 ่ ี
        6. ยืนยัน Quiet Zone ทังสองข้างของบาร์โค้ด
                                ้
        7. ยืนยันความถูกต้องของ Check Characters

      2.3.1 หลักการทํางานของเครืองอ่านบาร์โค๊ด
                                 ่
              1. เครืองอ่าน (Reader) ฉายแสงลงบนแท่งบาร์โค้ด หรือ แหล่งกําเนิดแสง (Light Source)
                    ่
ภายในเครืองอ่านบาร์โค้ดจะฉายแสงลงบนแท่งบาร์โค้ด และกวาดแสงอ่านผ่านแท่งบาร์
        ่




                                    รูปที่ 2.1แสดงตัวอย่างรหัสแท่ง

                                                                                                       11 
 
 
 

              2. รับแสงทีสะท้อนกลับมาจากตัวบาร์โค๊ด ฉายการอ่านบาร์โค้ดจะใช้หลักการสะท้อนแสง
                         ่
กลับมาทีตวรับแสง
        ่ ั




                           รูปที่ 2.2 แสดงการทํางานของตัวอ่านรหัสแท่ง

              3. เปลียนปริมาณแสงทีสะท้อนกลับมาให้เป็ นสัญญาณไฟฟ้า ภายในเครืองอ่านบาร์โค้ดจะมี
                     ่            ่                                       ่
อุปกรณ์เปลียนปริมาณแสง ทีสะท้อนกลับมาให้เป็ นสัญญาณทางไฟฟ้า
           ่              ่




                รูปที่ 2.3 แสดงตัวอย่างข้อมูลทีเครืองอ่านรหัสแปลงได้แปลงสัญญาณ
                                               ่ ่

               4. เปลียนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็ นข้อมูลทีนําไปใช้งานได้ สัญญาณไฟฟ้าจะไปเปรียบเทียบ
                       ่                           ่
กับตารางบาร์โค้ดที่ ตัวถอดรหัส (Decoder) และเปลียนให้เป็ นข้อมูลทีสามารถนําไปใช้งานได้
                                                ่                 ่




                                                                                               12 
 
 
 




                         รูปที่ 2.4 แสดงลําดับการทํางานของเครืองอ่านรหัสแท่ง
                                                             ่

          สรุปหลักการทํางานของเครืองอ่านบาร์โค้ด เครืองอ่านบาร์โค้ดจะฉายแสงลงบนแท่งบาร์โค้ด แล้ว
                                 ่                  ่
รับแสงทีสะท้อนกลับจากแท่งบาร์โค้ด ซึง Space จะสะท้อนแสงได้ดกว่าแท่งBar จากนันปริมาณแสง
          ่                          ่                          ี              ้
สะท้อนจะถูกเปลียนไปเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้า แล้วถูกส่งต่อไปยังตัวถอดรหัส (Decoder) และแปลงให้เป็ น
                  ่
ข้อมูลทีสามารถนําไปใช้งานได้
        ่




                                   รูปที่ 2.5 แสดงภาพรวมการทํางาน

            2.3.2 ประเภทของเครืองอ่านบาร์โค้ด จําแนกออกได้ 2 กลุ่มใหญ่คอ เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบสัมผัส
                                    ่                                        ื       ่
และ เครืองอ่านบาร์โค้ด ไมสมผัส และยังสามารถแยกประเภทตามลักษณะการเคลื่อนย้ายได้ โดยแบ่งกลุ่ม
            ่                 ่ ั
เป็ นเครองอ่านบาร์โค้ด แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable) และ เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบยึดติดกับที่ (Fixed
         ่ื                                                         ่
Positioning Scanners)
                    2.3.2.1 เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable) เครืองอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้
                                  ่                                                ่
                                           ่            ่่                 ่
ส่วนมากจะมีหน่วยความจําในตัวเอง เพือเก็บข้อมูลทีอานหรือบันทึกด้วยปุมกดสามารถนําอุปกรณ์ไปใช้ได้
ง่ายโดย สามารถพกพาได้ การอ่านรหัสแต่ละครังจะนําเอาเครืองอ่านเข้าไปยังตําแหน่งทีสนค้าอยู่ ส่วนมาก
                                                     ้            ่                    ่ ิ
เครืองอานลักษณะนี้จะมีน้ําหนักเบา ส่วนแบบทีไม่มหน่วยความจําในตัวเองจะทํางานแบบไร้สายเหมือน
     ่ ่                                            ่ ี
โทรศัพท์ไร้สาย ทีใช้ภายในบ้านซึงมีขอจํากัดเรืองระยะทาง
                      ่               ่ ้         ่
                    2.3.2.2 เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบยึดติดกับที่ (Fixed Positioning Scanners) เครือง อ่าน
                                ่                                                               ่
บาร์โค้ด ประเภทนี้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ส่วนมากจะติดตังกับด้านข้าง หรือตําแหน่งใดๆ ทีเหมาะสมใน
                                                                ้                             ่
แนวทางวิงของสายพานลําเลียง เพืออ่านรหัสทีตดกับบรรจุภณฑ์และเคลื่อนทีผานไปตามระบบสายพาน
              ่                        ่         ่ ิ          ั                ่ ่
ลําเลียง บางครังเครืองอ่านประเภทนี้จะติดตังภายในอุปกรณ์ของระบบสายพานลําเลียง เพือให้สามารถอ่าน
                   ้ ่                         ้                                           ่
                                                                                                     13 
 
 
 



                                                                              อตังไว้ดานข้าง เครืองอ่านจะทําการอ่าน
                                                                              ื ้ ้             ่
บาร์โค้ดโดยอัตโนมัติ เมือมีวตถุเคลื่อนไหวอยูขางหน้าตัวเครือง
                           ่ ั                                    ่ ้                 ่
                  2.3.2.3 เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบสัมผัส (Contact Scanners) เครืองอ่านบาร์โค้ดประเภทนี้
                                          ่                                                                       ่
เป็ นอุปกรณ์ทเี่ วลาอ่าน ต้องสัมผัสกับผิวหน้าของรหัสแท่ง แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม คือเครืองอ่านบาร์โค้ดแบบ                 ่
ปากกา (Pen Scanner) หรือแวนด์ (Wand) เป็ นเครืองอ่านบาร์โค้ด ที่ มีลกษณะเหมือนหัวปากกา โดยม ี
                                                                          ่                              ั
ปลายปากกาเป็ นอุปกรณ์สาหรับผลิตลําแสงเพืออ่านข้อมูล นํ้าหนักเบา พกพาสะดวก มีขอจํากัดเรือง
                                ํ                                  ่                                                    ้ ่
คุณภาพฉลากต้องดีมาก เพราะหัวอ่านทีสมผสบนรหัสแท่งอาจจะทําให้รหัสลบหรือเสียหายได้ เหมาะ
                                                          ่ ั ั
สําหรับอ่านบาร์โค้ดบนเอกสารหรือคูปอง
                  2.3.2.4เครืองอ่านบาร์โค้ดแบบไม่สมผัส (Non Contact Scanner)
                                  ่                                     ั
เป็ น เครืองอ่านบาร์โค้ด ทีมหลายรูปแบบจากแบบง่ายๆ ทีลกษณะคล้ายปี นทีเห็นตามร้านค้าปลีก จนถึง
             ่                 ่ ี                                              ่ ั                        ่
ระบบแบบ Pocket PC สามารถอ่านโดยห่างจากรหัสแท่งได้ ทําให้ทางานได้รวดเร็ว ง่ายและสะดวก โดย            ํ
แบ่งเป็ นหลายชนิดดังนี้
                            1) เครืองอ่านบาร์โค้ดแบบ CCD (Charge Coupled Device Scanner) เครืองอ่าน
                                              ่                                                                             ่
บาร์โค้ด ประเภทนี้ เป็ นเครืองอ่านราคาถูก การทํางานจะอาศัยการสะท้อนของแสงจากรหัสแท่งและช่องว่าง
                                    ่
แล้วเปลียนเป็ น สัญญาณวีดโอ เครืองอ่านแบบนี้ในขณะอ่านจะไม่มการเคลื่อนทีชนส่วน ความแม่นยําจะสูง
           ่                            ี            ่                                           ี           ่ ้ิ
กว่าแบบเลเซอร์ ใช้พลังงานน้อย อายุการใช้งานของอุปกรณ์ในการสร้างลําแสง (LED) จะยาวนานกว่า
เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบนี้ยงเป็ นแบบตัดวงจรไฟอัตโนมัตในกรณีทไม่มการใช้งาน
       ่                              ั                                       ิ                ่ี ี
                            2) เครืองอ่านบาร์โคดแบบ Linear Imaging เครืองอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ เป็ น
                                                  ่                                                    ่
เครืองอ่านบาร์โค้ด ทีใช้หลักการอ่านโดยวิธจบภาพโดยเลนซ์รบภาพเช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูป ทําให้ระบบ
         ่               ่                                     ีั                           ั
หัวอ่านมีความสามารถในการอ่านในเชิงเรขาคณิตสูงกว่าเครืองอ่านแบบ CCD สามารถอ่านบาร์โค้ดขนาด
                                                                                    ่
เล็กมากๆได้ เนื่องจากใช้การอ่านด้วยตัวเลนซ์รบภาพทําให้จบภาพได้ระยะไกลขึน อ่านได้เร็วถึง 100-450
                                                                      ั                 ั                       ้
scan ต่อวินาที ดังนันจึงอาจกล่าวได้วา เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบ Linear Imaging มีความสามารถในการ
                       ้                                ่    ่
อ่านและความเร็วในการอ่านเหนือว่าการอ่านแบบ CCD แต่มความทนทานเหมือนกัน และอ่านในระยะไกล    ี
ได้เทียบเท่ามาตรฐานของเครืองอ่านบาร์โค้ด แบบเลเซอร์
                                            ่
                            3) เครืองอ่านบาร์โค้ดแบบเลเซอร์ ( Laser Scanner) เครืองอ่านบาร์โค้ด ชนิดนี้ม ี
                                                ่                                                                     ่
                     ่       ่
วิธการทํางาน คือเมือกดปุมอ่านรหัสจะเกิดลําแสงเลเซอร์ซงมีกระจกเงาเคลื่อนทีมารับแสง แล้วสะท้อนไป
     ี                                                                           ่ึ                           ่
ตกกระทบกับรหัส และผ่านเป็ นแนวเส้นตรงเพียงครังเดียว ลําแสงทียงออกมาจะมีขนาดเล็กด้วย ความถี่
                                                                            ้                      ่ ิ
เดียว ไมกระจายออกไปนอกเขตทีตองการทําให้สามารถอ่านรหัสทีมขนาดเล็กได้ดี
               ่                                    ่ ้                                       ่ ี
ไวดวย
    ้ ้



                                                                                                                          14 
 
 
 

2.2.7 นอร์มลไลซ์ (Normalization)
            ั
        [4] คือวิธทใช้ในการปรับโครงสร้างของตารางให้อยูในรูปแบบทีเป็ นบรรทัดฐาน(Normal Form)
                  ี ่ี                                 ่              ่
   ่                                ี ั
เพือให้สามารถเก็บข้อมูลได้โดยไม่มปญหาใดๆ ใช้ในการออกแบบฐานข้อมูลทีเป็ นแบบ Relational
                                                                          ่
Databaseการทํานอร์มลไลซ์ เป็ นขันตอนหนึ่งในการออกแบบระบบฐานข้อมูลทีกระทําหลงจากได้ตาราง
                       ั          ้                                         ่       ั
ER Diagram และก่อนขันตอนทีจะนําตารางไปสร้างฐานข้อมูล โดยมีขนตอนดังนี้ [5]
                         ้     ่                                   ั้
                 2.2.7.1 เปลียนตารางทียงไม่เคย Normalization เป็ น First Normal Form หรือ 1NF
                             ่          ่ ั
วธพจารณา คือ แยกข้อมูลเป็ นระเบียน โดยไม่มการจัดกลุ่ม
 ิี ิ                                        ี

                    ่                            ่
        ตารางที่ไม่ผานการ normalization ตารางที่ผานการ normalization ในระดับ 1NF
        orderid orderdate productid   quan orderid orderdate      productid quan
        305 31/01/47 432              20 305       31/01/47       432          20
                          455         2
                          467         1    305     31/01/47       455          2
                                           305     31/01/47       467          1

                                   ่                                                ่        ่ ี ั
                    2.2.7.2 เปลียนจาก 1NF เป็ น 2NF(Second Normal Form) คือการเปลียนตารางทีมปญหา
4 ประการ วิธพจารณาเปลียน 1NF เป็ น 2NF คือ ไม่มี non key ตัวใด ไม่สมพันธ์กบ primary key (ให้
                ี ิ            ่                                         ั        ั
พิจารณาเฉพาะ non key และ primary key) สิงทีได้จากตาราง 1 ตาราง จะแตกออกมาเป็ นหลายตาราง
                                                   ่ ่
                                                                                ั
                    2.2.7.3 เปลียนจาก 2NF เป็ น 3NF(Third Normal Form) คือแก้ปญหายังไม่หมด อาจยังมี
                                 ่
        ่ ี ั
ข้อมูลทีมปญหาอีก จึงต้องทํา 3NF วิธพจารณาเปลียน 2NF เป็ น 3NF คือ ไม่มี non key ตัวใด ขึนอยูกบ
                                           ี ิ          ่                                  ้ ่ ั
non key ตัวอืนใน entity เดียวกัน (ให้พจารณาเฉพาะ non key และ non key)
              ่                              ิ
                    จาก orders (orderid,custid,custname,date,proid,proname,price,quantity)
                    เป็ น orders (orderid,custid,date)
                    เป็ น customers (custid,custname)
                    เป็ น order details (orderid,proid,price,quantity)
                    เป็ น products (proid,proname)




                                                                                                15 
 
บทที่ 3
                                วิเคราะห์และออกแบบระบบ

3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูง (Context Diagram)
        คือ ผังแสดงข้อมูลทีเข้าสูระบบและข้อมูลทีออกจากระบบ รวมทังบุคคลทีเกียวข้องกับระบบ โดยผัง
                           ่ ่                  ่               ้       ่ ่
แสดงการไหลของข้อมูลระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก ประกอบไปด้วนกระบวนการต่างๆ ตามขันตอน ดังรูปที่
                                                                                    ้
3.1




                รูปที่ 3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูงของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก



                                                                                            16 
 
จากรูปที่ 3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูงของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก มีกลุมบุคคลทีเกียวข้อง
                                                                                    ่         ่ ่
ด้วยทังหมด 4 กลุ่ม คือ เจ้าของกิจการ ลูกค้า พนักงาน และผูจดจําหน่าย ซึงการดําเนินงานจะเริมจาก
      ้                                                    ้ั          ่                    ่
เจ้าของกิจการได้นําข้อมูลพืนฐานเข้าสูระบบ เช่น ข้อมูลสินค้า ข้อมูลประเภทสินค้า ข้อมูลลูกค้า ข้อมูล
                            ้           ่
พนักงาน เป็ นต้น จากนันลูกค้าจะมาซือสินค้าแล้วใช้ขอมูลพืนฐานนันมาใช้ประโยชน์ โดยผ่านตัวกลางใน
                         ้            ้            ้     ้       ้
การทํางานผ่านระบบคือ พนักงานทีจะทําหน้าทีประจําจุดขายสินค้าและเป็ นคนให้ขอมูลสินค้าแต่ละชนิดที่
                                  ่           ่                               ้
ลุกค้าต้องการโดยใช้ขอมูลพืนฐานทีได้นําเข้าสูระบบไปก่อนหน้านี้แล้ว
                       ้      ้     ่       ่




                                                                                                 17 
 
3.2 ผังกระแสข้อมูลระดับต่างๆ (Data Flow Diagram)
        ระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีกสามารถแสดงเป็ นผังแสดงฐานข้อมูลต่างๆ ได้ดงนี้
                                                                         ั




                รูปที่ 3.2 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับ 1 ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก




                                                                                   18 
 
รูปที่ 3.3 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับ 1 ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก (ต่อ)

       จากรูปที่ 3.2 และ 3.3 แสดงผังแสดงกระแสข้อมูลระดับ 1 ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก แสดงให้
ทราบถึงกระบายการทํางานหลักของระบบ โดยมีกระบานการทํางานหลักๆ ทังสิน 9 กระบวนการได้ คือ
                                                                      ้ ้
       3.2.1 กระบวนการที่ 1 เพิมลูกค้าใหม่
                                ่
              3.2.1.1 ลูกค้าได้ให้ขอมูลแก่พนักงาน
                                   ้
              3.2.1.2 พนักงานบันทึกข้อมูลลงสูระบบ
                                               ่
       3.2.2 กระบวนการที่ 2 ขายสินค้า
              3.2.2.1 ลูกค้ายืนสินค้าให้พนักงานสแกนบาร์โค้ดสินค้าทังหมด
                              ่                                    ้
              3.2.2.2 ระบบจะคิดเงินทังหมด พนักงานรับเงินจากลูกค้าแล้วคิดเงิน
                                       ้

                                                                                            19 
 
3.2.3 กระบวนการที่ 3 สังจองสินค้า
                                    ่
                   3.2.3.1 ลูกค้าทีจะสังจองได้นนได้เป็ นลูกค้าประทีมขอมูลอยูในระบบฐานข้อมูลแล้วเท่านัน
                                   ่ ่            ั้                                     ่ ี ้ ่               ้
ลูกค้าแจ้งชื่อสินค้าทีตองการ โดยพนักงานเป็ นคนบันทึกข้อมูล
                       ่ ้
                   3.2.2.2 ระบบแสดงราคาสุทธิทงหมด           ั้
                   3.2.2.3 ลูกค้าชําระเงินมัดจําและรับเงินทอน
        3.2.4 กระบวนการที่ 4 รับสินค้า
                   3.2.4.1 ลูกค้าแสดงรหัสลูกค้า หรือแสดงข้อมูลเพือค้นหาข้อมูลการจอง    ่
                   3.2.4.2 ระบบแสดงข้อมูลสินค้าทีได้จองไว้ และแสดงข้อมูลการชําระเงิน
                                                               ่
                   3.2.4.3 ลูกค้าชําระเงินทีเหลือ และรับสินค้าทีได้ทาการจองไว้
                                            ่                                   ่ ํ
        3.2.5 กระบวนการที่ 5 คืนสินค้า
                   3.2.5.1 ลูกค้าแสดงใบเสร็จ และสินค้าทีตองการจะคืน     ่ ้
                   3.2.5.2 พนักงานนําข้อมูลสินค้าทีนํามาคืนเข้าสูระบบ
                                                                 ่                   ่
        3.2.6 กระบวนการที่ 6 สังสินค้า่
                   3.2.6.1 เจ้าของกิจการเข้าไปทําการสังสินค้า ระบบจะแสดงสินค้าทีต่ํากว่าจุดสังซือและ
                                                                     ่                           ่     ่ ้
สินค้าทีลกค้าสังจองล่วงหน้าไว้ โดยสามารถเพิมสินค้าทีตองการได้
        ู่       ่                                       ่             ่ ้
                   3.2.6.2 ระบบจะออกใบสังซือทีได้บนทึกเข้าสูระบบไว้แล้ว
                                              ่ ้ ่ ั                            ่
        3.2.7 กระบวนการที่ 7 จัดการข้อมูลพืนฐาน      ้
                   3.2.7.1 เจ้าของกิจการจะเป็ นผูททาหน้าทีสวนนี้โดย จะกรอกข้อมูลเข้าสูระบบ
                                                           ้ ่ี ํ           ่่                     ่
                   3.2.7.2 ระบบทําการตรวจสอบข้อมูลว่ามีการซํ้าซ้อนกันขอข้อมูลหรือไม่ หากไม่กทาการ          ็ ํ
บันทึกลงฐานข้อมูล แต่หากมีการซํ้าซ้อนก็ตองการการกรอกข้อมูลใหม่
                                                ้
        3.2.8 กระบวนการที่ 8 พิมพ์รายงาน
                   3.2.8.1 เจ้าของกิจการเลือกเงือนไขในการแสดงรายงาน เช่น รายงานการสังจองสินค้า
                                                       ่                                             ่
รายงานการขายประจําวัน เป็ นต้น
                   3.2.8.2ระบบทําการพิมพ์รายงานตามเงือนไขทีได้เลือกไว้   ่         ่
        3.2.9 กระบวนการที่ 9 ค้นหาสินค้า
                   3.2.9.1 พนักงานจะเป็ นคนค้นหาสินค้า เมือลูกค้าต้องการหาสินค้าแต่ไม่สามารถหาได้พบ
                                                                              ่
                   3.2.9.2 ระบบจะแสดงสินค้าตามเงือนไขทีได้เลือกไว้ก่อนการค้นหา
                                                                   ่        ่




                                                                                                              20 
 
รูปที่ 3.4 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการเพิมลูกค้าใหม่
                                                                       ่

        3.2.10 กระบวนการที่ 1 เพิมลูกค้าใหม่
                                  ่
                3.2.10.1 กระบวนการที่ 1.1 ตรวจสอบข้อมูล
                        ระบบจะทําการตรวจสอบข้อมูลทีลกค้าได้ให้มาว่าถูกต้องหรือไม่ เคยมีการบันทึก
                                                     ู่
ข้อมูลเข้าไปในฐานข้อมูลแล้วหรือยัง
                3.2.10.2 กระบวนการ 1.2 บันทึกข้อมูลลูกค้าใหม่
                        บันทึกข้อมูลทีได้ทาการตรวจสอบแล้ว
                                      ่ ํ




                                                                                               21 
 
2.1
                            ข้อมูลลูกค้า
                                                                       ตรวจสอบ           ข้อมูลลูกค้า             D1           ลูกค้า
                                                                      การเป็นลูกค้า
                                                                         สถานะลูกค้า



                                                                            2.2
                                           สินค้าทีซื้อ
                                                   ่                                         ข้อมูลสินค้า                  D3            สินค้า
                                                                   ตรวจสอบข้อมูลสินค้า

                                                                                                                       สินค้าคงเหลือ
                   ลูกค้า                                               ข้อมูลการขาย


                                                                            2.3                                                        2.5
                                                   แจ้งราคาสุทธิ
                                                                                                                             หักลบจํานวน
                                                                       คํานวนราคา
                                                                                                                              สินค้าที่ขาย

                                                                        ข้อมูลการขาย



                                                                            2.4                         สินค้าที่ขาย

                                   ข้อมูลการชําระเงิน                                      ข้อมูลการขาย                    D7           การขาย
                                                                      บันทึกการขาย
                                                                                                                           D2           พนักงาน
                                                                                                                                ข้อมูลพนักงาน
                                                                        ข้อมูลการขาย

                                                                                         รหั สพนักงาน



                                                                            2.7                                                        2.6
                              ใบเสร็จ
                                                                                                                           รับรหัสพนักงาน
                                                                       ออกใบเสร็จ
                                                                                                                             ทีทาการขาย
                                                                                                                               ่ ํ



              รูปที่ 3.5 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการขายสินค้า

    3.2.11 กระบวนการที่ 2 ขายสินค้า
            3.2.11.1 กระบวนการ 2.1 ตรวจสอบการเป็ นลูกค้า
                    ลูกค้าตรวจสอบการเป็ นลูกค้ากับระบบ ซึงหากมีขอมูลก็จะได้รบส่วนลด
                                                           ่    ้           ั
            3.2.11.2 กระบวนการ 2.2 ตรวจสอบข้อมูลสินค้า
                    พนักงานบันทึกข้อมูลสินค้าทีลกค้าได้เลือกไว้
                                                ู่
            3.2.11.3 กระบวนการ 2.3 คํานวณราคา
                    คํานวณราคาสินค้าทีได้ แล้วแสดงผ่านทางหน้าจอ
                                         ่
            3.2.11.4 กระบวนการ 2.4 บันทึกการขาย
                    ลูกค้าชําระเงิน และรับเงินทอนตามทีระบบคํานวณ จากนันจึงทําการบันทึกข้อมูล
                                                      ่                ้


                                                                                                                                                  22 
 
3.2.11.5 กระบวนการ 2.5 หักลบจํานวนสินค้าทีขาย
                                                        ่
                    นําจํานวนสินค้าทีขายได้ไปหักลบกับจํานวนสินค้าทีอยูในคลังสินค้า เพือให้จานวน
                                     ่                             ่ ่               ่ ํ
    สินค้าอยูในจํานวนทีควรจะเป็ น
             ่          ่
            3.2.11.6 กระบวนการ 2.6 รับรหัสพนักงานขายทีทาการขาย
                                                          ่ ํ
                    รับรหัสพนักงานโดยรหัสพนักงานขายนี้จะนําได้จากการทีพนักงานได้ทาการ
                                                                        ่             ํ
    ล็อกอินเข้าสูระบบเมือตอนเริมโปรแกรม โดยจะถูกบันทึกเข้าสูขอมูลการขาย
                 ่        ่    ่                              ่ ้
            3.2.11.7 กระบวนการ 2.7 ออกใบเสร็จ
                    ออกใบเสร็จโดยใช้ขอมูลจากการขาย
                                       ้




                                                                           


          รูปที่ 3.6 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการสังสินค้าของลูกค้า
                                                                 ่

    3.2.12 กระบวนการที่ 3 สังจองสินค้า
                              ่
            3.2.12.1 กระบวนการ 3.1 ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า
                    ตรวจสอบข้อมูลลูกค้าหากไม่ใช่ลกค้าจะไม่ทาการสังจองได้
                                                  ู           ํ     ่
            3.2.12.2 กระบวนการ 3.2 รับข้อมูลสินค้าสังจอง
                                                    ่
                    รับข้อมูลสินค้าทีลกค้าต้องการ
                                     ู่
            3.2.12.3 กระบวนการ 3.3 คํานวณราคาสินค้า
                    คํานวณราคาสินค้าสุทธิ แจ้งราคาสุทธิ ให้ลกค้าชําระเงินมันจํา
                                                            ู
                                                                                             23 
 
3.2.12.4 กระบวนการ 3.4
                   นําข้อมูลทีได้นําไปบันทึกลงฐานข้อมูล
                              ่




        รูปที่ 3.7 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการรับสินค้าทีสงของลูกค้า
                                                                        ่ ั่

    3.2.13 กระบวนการที่ 3 รับสินค้า
            3.2.13.1 กระบวนการ 4.1 ค้นหาข้อมูลการจอง
                    ตรวจสอบข้อมูลว่าลูกค้าได้มการสังจองสินค้าล่วงหน้าหรือไม่
                                              ี    ่
            3.2.13.2 กระบวนการ 4.2 คํานวณราคา


                                                                                      24 
 
เมือพบข้อมูลการจองจึงทําการคํานวณค่าใช้จาย และแสดงค่าใช้จายทีเหลือในกรณี
                        ่                                    ่                  ่ ่
    ทีลกค้าได้จายเงินมัดจําไปแล้ว
      ู่        ่
             3.2.13.3 กระบวนการ 4.3 อัพเดทสถานการณ์จอง
                     เปลียนแปลงข้อมูลการจองของลูกค้าให้เป็ นสถานะทีควรจะเป็ น เช่น รับสินค้าแล้ว
                            ่                                        ่
    เป็ นต้น
             3.2.13.4 กระบวนการ 4.4 บันทึกข้อมูลการขาย
                     นําข้อมูลการจองทังหมดมาบันทึกลงข้อมูลการขาย
                                        ้
             3.2.13.5 กระบวนการ 4.5 หักลบจํานวนทีขาย่
                     นําจํานวนสินค้าทีขายได้ไปหักลบกับจํานวนสินค้าทีอยูในคลังสินค้า เพือให้จานวน
                                      ่                             ่ ่               ่ ํ
    สินค้าอยูในจํานวนทีควรจะเป็ น
             ่            ่
             3.2.13.6 กระบวนการ 4.6 รหัสพนักงานทีทาการขาย
                                                   ่ ํ
                     รับรหัสพนักงานโดยรหัสพนักงานขายนี้จะนําได้จากการทีพนักงานได้ทาการ
                                                                         ่             ํ
    ล็อกอินเข้าสูระบบเมือตอนเริมโปรแกรม โดยจะถูกบันทึกเข้าสูขอมูลการขาย
                  ่           ่  ่                             ่ ้
             3.2.12.7 กระบวนการ 4.7 ออกใบเสร็จ
                     ออกใบเสร็จโดยใช้ขอมูลจากการขาย
                                          ้




                                                                          


              รูปที่ 3.8 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการคืนสินค้า

    3.2.14 กระบวนการที่ 5 คืนสินค้า
            3.2.14.1 กระบวนการที่ 5.1 ตรวจสอบเลขทีใบเสร็จ
                                                  ่
                    ค้นหาข้อมูลการขายจากเลขทีใบเสร็จทีลกค้าได้นํามาแสดง
                                             ่        ู่
                                                                                             25 
 
3.2.14.1 กระบวนการที่ 5.2 บันทึกการคืนสินค้า
                       ตรวจสอบข้อมูลสินค้าทีนํามาคืน เมือครบทุกชินแล้วจึงจะบันทึกข้อลงข้อมูลการคืน
                                             ่          ่         ้
สินค้า และไปปรับจํานวนสินค้าให้เพิมขึนเพือให้สอดคล้องกับสินค้าทีคงคลัง
                                  ่ ้ ่                         ่
               3.2.14.1 กระบวนการที่ 5.3 ลบออกจากข้อมูลการขาย
                       ลบสินค้าออกจากข้อมูลการขาย




                                                                                               26 
 
รูปที่ 3.9 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการออกใบสังซือและรับสินค้าเข้าร้าน
                                                                ่ ้

                                                                                           27 
 
3.2.15 กระบวนการที่ 6 สังสินค้า
                                   ่
                 3.2.15.1 กระบวนการที่ 6.1 ข้อมูลสินค้าทีลกค้าสัง่
                                                              ู่
                         แสดงข้อมูลสินค้าทีลกค้าได้สงไว้และยังไม่ได้มารับ
                                              ู่         ั่
                 3.2.15.2 กระบวนการที่ 6.2 ข้อมูลสินค้าทีจานวนตํ่ากว่าจุดสังซือ
                                                              ่ํ                      ่ ้
                         แสดงสินค้าทีมจานวนคงคลังเหลืออยูต่ํากว่าทีได้กาหนดไว้
                                      ่ ีํ                         ่           ่ ํ
                 3.2.15.3 กระบวนการที่ 6.3 รับจํานวนสินค้าทีสง่ั     ่
                         รับข้อมูลสินค้าทีได้จากกระบวนการที่ 6.1 และ 6.2 และระบุจานวนทีตองการสัง่
                                           ่                                                 ํ ่ ้
ซึงสามารถเพิมรายชื่อสินค้าทีตองการสังซือสินค้าได้
  ่          ่                ่ ้        ่ ้
                 3.2.15.4 กระบวนการที่ 6.4 บันทึกข้อมูลการซือ            ้
                         บันทึกข้อมูลการสังซือ
                                             ่ ้
                 3.2.15.5 กระบวนการที่ 6.5 ออกใบสังซือ    ่ ้
                         นําข้อมูลการสังซือล่าสุดทีได้มาออกใบสังซือ และนําไปสังสินค้ากับผูจดจําหน่าย
                                        ่ ้        ่                       ่ ้             ่   ้ั
                 3.2.15.6 กระบวนการที่ 6.6 รับใบส่งสินค้า
                         รับใบส่งสินค้าจากผูจดจําหน่าย กรอกข้อมูลสินค้าทีผจดจําหน่ายนํามาส่ง
                                               ้ั                                   ่ ู้ ั
                 3.2.15.7 กระบวนการที่ 6.7 บันทึกข้อมูลการซือ          ้
                         บันทึกลงข้อมูลการซือ    ้
                 3.2.15.8 กระบวนการที่ 6.8 คํานวณต้นทุนและราคาขาย
                         คํานวณต้นทุนต่อหน่วย เจ้าจองกิจการจะเป็ นผูกาหนดราคาต่อหน่วยของสินค้า
                                                                                ้ ํ
และเมือมีการเปลียนแปลงราคาสินค้า ข้อมูลสินค้าทีมการเปลียนแปลงราคาขายต่อหน่วยจะถูกบันทึกลง
      ่           ่                                  ่ ี         ่
ข้อมูลราคาสนิคาย้อนหลัง
               ้




                                                                                                       28 
 
รูปที่ 3.10 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการเพิมข้อมูลพืนฐาน
                                                             ่        ้


                                                                             29 
 
3.2.16 กระบวนการที่ 7 จัดการข้อมูลพืนฐาน
                                             ้
                3.2.16.1 กระบวนการที่ 7.1, 7.3, 7.5, 7.7, 7.9 และ 7.11 ตรวจสอบข้อมูล
                        ตรวจสอบข้อมูลทีได้กรอกเข้ามาว่าเคยบันทึกข้อมูลลงระบบหรือไม่ ซํ้าซ้อนกับ
                                          ่
ข้อมูลเก่าหรือไม่
                3.2.16.1 กระบวนการที่ 7.2, 7.4, 7.6, 7.8, 7.10 และ 7.12 บันทึกข้อมูล
                        บันทึกข้อมูลทีได้ผานการตรวจสอบข้อมูลลงระบบ
                                      ่ ่




                                                                                                  30 
 
3.3 ผังแสดงความสัมพันธ์ของแฟ้ มข้อมูล (Entity-Relationship Diagram)




              รูปที่ 3.10 Entity-Relationship Diagram ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก




                                                                                    31 
 
3.4 Mapping Entity-Relationship Diagram




              รูปที่ 3.10 Entity-Relationship Diagram ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก




                                                                                    32 
 
3.5 พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary)
       จากผังแสดงความสัมพันธ์ของแฟ้มข้อมูลของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก นํามาออกแบบ
พจนานุกรมข้อมูล มีทง หมด 15 ตาราง ดังต่อไปนี้
                   ั้

3.1 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Province
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                ขนาด            ความหมาย                 ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Province_id                 Int      2 หมายเลขจังหวัด                       Not Null PK
Province_name            Varchar    50 ชื่อจังหวัด                          Not Null

3.2 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Supplier
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                  ขนาด             ความหมาย              ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Sup_id                      Int       4     เลขทีผจดจําหน่าย
                                                    ่ ู้ ั                  Not Null PK
Sup_name                 Varchar     50     ชื่อผูจดจําหน่าย
                                                  ้ั                        Not Null
Sup_address              Varchar     100    ทีอยูผจดจําหน่าย
                                               ่ ่ ู้ ั
Sup_tel                  Varchar     20     หมายเลขโทรศัพท์ตดต่อ
                                                             ิ              Not Null
Contract_name            Varchar     50     ชื่อผูทตดต่อ
                                                  ้ ่ี ิ
Province_id                 int       2     หมายเลขจังหวัด                  Not Null   FK

3.3 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Shelf
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                  ขนาด             ความหมาย              ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Shelf_no                    Int       4     หมายเลขชันวางสินค้า
                                                       ้                    Not Null PK
Shelf_name               varchar      50    ชื่อของชันวางสินค้า
                                                     ้




                                                                                         33 
 
3.4 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Product_Category
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                 ขนาด           ความหมาย            ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Cate_id                     Int        4 รหัสประเภทสินค้า              Not Null PK
Cate_name                Varchar      50 ชื่อประเภทสินค้า

3.5 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Previous_Cost
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                 ขนาด               ความหมาย        ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Pro_id                      Int       20    รหัสสินค้า                 Not Null   FK
Pro_cost                 Decimal      6,2   ต้นทุนต่อหน่วย             Not Null
Pro_salePrice            Decimal      6,2   ราคาขายปกติ                Not Null
Pro_memberPrice          Decimal      6,2   ราคาลูกค้าประจํา           Not Null
Record_date             Datetime       8    วันเวลาทีบนทึก
                                                     ่ ั               Not Null

3.6 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Product
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                 ขนาด               ความหมาย        ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Pro_id                      Int     20      รหัสสินค้า                 Not Null PK
Pro_name                 Varchar    100     ชื่อสินค้า                 Not Null
Pro_cost                 Decimal    6,2     ต้นทุนต่อหน่วย             Not Null
Pro_salePrice            Decimal    6,2     ราคาขายปกติ                Not Null
Pro_menberPrice          Decimal    6,2     ราคาลูกค้าประจํา           Not Null
Pro_amount                  Int      5      จํานวนสินค้าในคลังสินค้า   Not Null
Cate_id                     Int      4      รหัสประเภทสินค้า           Not Null FK
Shelf_no                    Int      4      หมายเลขชันวางสินค้า
                                                          ้            Not Null FK
Sup_id                      Int      4      เลขทีผจดจําหน่าย
                                                   ่ ู้ ั              Not Null FK
Point_ofSale                Int      5      จํานวนจุดสังซือ ่ ้        Not Null
Pro_status                  Int      1      สถานะสินค้า                Not Null
                                            1 : มีขาย
                                            2 : ยกเลิกสินค้านี้

                                                                                    34 
 
3.7 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Employee
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                ขนาด            ความหมาย       ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Emp_id                      Int      5 เลขทีพนักงาน
                                              ่                   Not Null PK
User_name                Varchar    10 Username                   Not Null
Pass_word                Varchar    10 Password                   Not Null
Emp_name                 Varchar    50 ชื่อ-นามสกุลจริง           Not Null
Emp_status                  Int      1 สถานะพนักงาน               Not Null
                                        1 : เข้าระบบได้
                                        2 : ไม่อนุญาตให้เข้าได้
Emp_type                    Int      1 ประเภทของพนักงาน           Not Null
                                        1 : พนักงาน
                                        2 : เจ้าของกิจการ


3.8 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Customer
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                ขนาด             ความหมาย      ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Cust_id                     Int     10 รหัสลูกค้า                 Not Null PK
Cust_name                Varchar    50 ชื่อ                       Not Null
Cust_lastName            Varchar    50 นามสกุล
Cust_address             Varchar    100 ทีอยู่
                                          ่
Province_id                 Int      2 หมายเลขจังหวัด             Not Null   FK
Cust_tel                 Varchar    20 โทรศัพท์                   Not Null
Admit_date              Datetime     8 วันทีเก็บข้อมูลเข้าระบบ
                                               ่                  Not Null
Cust_picture              Image         รูปลูกค้า
Cust_status                 Int      1 สถานะลูกค้า                Not Null
                                        1 : ซือสินค้าได้
                                                 ้
                                        2 : ยกเลิกลูกค้ารายนี้




                                                                               35 
 
3.9 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Sale
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                 ขนาด               ความหมาย   ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Sale_id                     Int      10      เลขทีการขาย
                                                    ่             Not Null PK
Cust_id                     Int      10      รหัสลูกค้า           Not Null FK
Sale_date               Datetime      8      วันทีขาย
                                                  ่
Net_price                Decimal     6,2     ราคาสุทธิ            Not Null
Net_discount             Decimal     6,2     ส่วนลดสุทธิ
Sale_status                 Int       1      สถานะการขาย
                                             1 : ยกเลิกการขาย

3.10 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Sale_detail
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                   ขนาด             ความหมาย   ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Sale_id                     Int        10    เลขทีการขาย
                                                  ่               Not Null   FK
Pro_id                      Int        20    รหัสสินค้า           Not Null   FK
Amount                      Int         5    จํานวน               Not Null
Sale_price               Decimal       6,2   ราคาขาย              Not Null
Discount                 Decimal       6,2   ส่วนลด

3.11 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Return
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                 ขนาด               ความหมาย   ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Sale_id                     Int      10      เลขทีการขาย
                                                   ่              Not Null   FK
Pro_id                      Int      20      รหัสสินค้า           Not Null   FK
Amount                      Int       5      จํานวน               Not Null
Return_date             Datetime      8      วันเวลาทีคน
                                                       ่ ื        Not Null
Comment                  Varchar     100     หมายเหตุ
Return_type                 int       2      ประเภทการคืน
                                             1 : สินค้าเสียหาย
                                             2 : สินค้าหมดอายุ

                                                                               36 
 
3.12 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Order
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                  ขนาด               ความหมาย   ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Order_id                    Int       10      เลขทีการสังซือ
                                                     ่      ่ ้    Not Null PK
Cust_id                     Int       10      รหัสลูกค้า           Not Null FK
Order_date              Datetime       8      วันทีสง่ั
                                                   ่               Not Null
Net_price                Decimal      6,2     ราคาสุทธิ            Not Null
FirstPaid                Decimal      6,2     ค่ามัดจํา
isPaidAll                   Int        1      สถานะการจ่ายเงิน
                                              1 : จ่ายยังไม่ครบ
                                              2 : จ่ายครบแล้ว
isRecieveAll               Int         1      สถานะการรับสินค้า
                                              1 : ได้รบสินค้าครบ
                                                          ั
                                              2 : ได้รบไม่ครบ
                                                        ั
Receive_date            Datetime       8      วันรับสินค้า         Not Null
Order_status               Int         1      สถานะการสังสินค้า
                                                              ่
                                              1 : ยกเลิกการสัง่
                                              2 : ไม่ยกเลิก

3.13 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Order_detail
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                  ขนาด               ความหมาย   ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Order_id                    Int         10    เลขทีการสังซือ
                                                   ่     ่ ้       Not Null   FK
Pro_id                      Int         20    รหัสสินค้า           Not Null   FK
Amount                      Int          5    จํานวน               Not Null
Sale_price               Decimal        6,2   ราคาขาย              Not Null
Discount                 Decimal        6,2   ส่วนลด




                                                                                37 
 
3.14 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Buy
                         ประเภท
   ชื่อแอททริ บิวท์                 ขนาด               ความหมาย                ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Buy_id                      Int              เลขทีการสังซือ
                                                      ่  ่ ้                   Not Null PK
Buy_date                Datetime             วันทีออกใบสังซือ
                                                   ่       ่ ้                 Not Null
Receive_date            Datetime             วันทีรบสินค้า
                                                     ่ั
Paid_date               Datetime             วันทีจายเงิน
                                                     ่่
Net_price                Decimal     6,2     ราคาสุทธิ                         Not Null
Paid_by                     Int       5      ชื่อผูจายเงินโดยอิงเลขทีพนักงาน
                                                   ้่                   ่
Receive_by                  Int       5      ชื่อผูรบสินค้าโดยเลขทีพนักงาน
                                                   ้ั                 ่
Buy_status                  Int       1      สถานะการออกใบสังซือ  ่ ้
                                             1 : ยกเลิกการสัง่
                                             2 : รับสินค้าแต่ได้ไม่ครบ
                                             3 : รับสินค้าและได้ครบ

3.15 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Buy_detail
                         ประเภท
    ชื่อแอททริ บิวท์                  ขนาด             ความหมาย                ค่าว่าง    คีย์
                          ข้อมูล
Buy_id                      Int         5    เลขทีพนักงาน
                                                  ่                            Not Null   FK
Pro_id                      Int        20    รหัสสินค้า                        Not Null   FK
Amount                      Int         5    จํานวน                            Not Null
price                    Decimal       6,2   ราคาขาย                           Not Null




                                                                                            38 
 
3.6 การออกแบบ Interface ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก




                           รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ




                                                               39 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอขายสินค้า




                                      40 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอการคืนสินค้า




                                         41 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอการสังจองสินค้า
                               ่




    รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ

                                            42 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอการค้นหาสินค้า




    รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ



                                           43 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลลูกค้า




                                               44 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลพนักงาน




    รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลประเภทสินค้า


                                                     45 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลผูจดจําหน่าย
                                        ้ั




    รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลช้นวางสินค้า



                                                     46 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ




    รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลสินค้า


                                               47 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลราคาสินค้า




                                                   48 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอเพิมสินค้าใหม่
                             ่




                                           49 
 
รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลจุดสังซือ
                                           ่ ้




                                                  50 
 
บทที่ 4
                                     การทดสอบระบบ
4.1 ออกแบบการดําเนิ นการในส่วนการเก็บข้อมูล

      4.1.1 ค่าคงที่

              4.1.1.1 ชันวางของ
                        ้
              4.1.1.2 ประเภทสินค้า
              4.1.1.3 จังหวัด
              4.1.1.4 พนักงาน
              4.1.1.5 สินค้า
      4.1.2 การเข้าใช้งานระบบ
      4.1.3 การขายสินค้า
              4.1.3.1 การขายสินค้า
              4.1.3.2 การคืนสินค้า
      4.1.4 การสังสินค้าเข้าร้าน
                 ่

              4.1.4.2 การสังสินค้า
                           ่
              4.1.4.2 การรับสินค้า
      4.1.5 การออกใบเสร็จ
              4.1.5.1 ออกใบเสร็จการขาย
              4.1.5.2 ออกใบสังซือ
                             ่ ้




                                                    51 

 
4.2 การทดสอบกระบวนการการทํางานแต่ละส่วน

       4.2.1 การเข้าใช้ระบบ




                              รูปที่ 4.1 แสดงหน้าจอการเข้าใช้ระบบ
               1) กรอก Username และ Password
               2) กด Login เพือเข้าสูระบบ หรือกด Cancel เพือปิดหน้าจอ
                             ่       ่                    ่


       4.2.2 หน้าจอหลักของโปรแกรม

               หน้าจอหลักจะประกอบไปด้วยเมนู การจัดการต่างๆ แบ่งเป็ นเมนู การจัดการทัวไป่
และเมนูสาหรับผูดแลระบบ ซึงผูทมสทธิใช้เมนูน้ีได้ตองได้สทธิเป็ นผูดแลระบบหรือเท่านัน หากไม่ได้
          ํ     ้ ู       ่ ้ ่ี ี ิ            ้     ิ         ้ ู              ้
เป็ นจะไม่สามารถมองเห็นเมนูกลุ่มนี้ได้




                                                                                         52 

 
รูปที่ 4.1 แสดงหน้าจอหลัก




                 รูปที่ 4.2 แสดงหน้าจอหลักทีไม่ได้สทธิ ์เป็นผูดแลระบบ
                                            ่      ิ          ้ ู


    4.2.3 จัดการข้อมูลสมาชิก




                      รูปที่ 4.3 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลสมาชิก
                                                                        53 

 
่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่
           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้
    4.2.4 จัดการข้อมูลพนักงาน




                     รูปที่ 4.4 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลพนักงาน


                                                          ่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่
           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้




                                                                                  54 

 
4.2.5 การจัดการข้อมูลพนักงาน




                     รูปที่ 4.5 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลพนักงาน


                                                          ่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่

           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้




                                                                                  55 

 
4.2.6 จัดการข้อมูลผูจดจําหน่าย
                        ้ั




                    รูปที่ 4.6 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลผูจดจําหน่าย
                                                       ้ั


                                                          ่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่
           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้


    4.2.7 จัดการข้อมูลสินค้า




                        รูปที่ 4.7 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลสินค้า

                                                                                  56 

 
่ ่
            1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                  ่
            2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                        ่         ่ ่
                           ่
               ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                     ่
            3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                     ้                     ่ ้


    4.2.8 จัดการข้อมูลจุดสังซือ
                           ่ ้




                       รูปที่ 4.8 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลจุดสังซือ
                                                             ่ ้


            1) เลือกสินค้ามาแสดง โดยเลือกจากรายชื่อของผูจดจําหน่าย
                                                        ้ั
            2) แก้ไขข้อมูลจุดสังซือ โดยการเปลียนตัวเลขทีชองสุดท้ายของแต่ละบรรทัด
                               ่ ้            ่         ่ ่
            3) กดบันทึกข้อมูลเป็ นอันเสร็จสิน
                                            ้




                                                                                   57 

 
4.2.9 จัดการข้อมูลต้นทุน




                        รูปที่ 4.9 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลต้นทุน


            1) เลือกสินค้ามาแสดง โดยเลือกจากรายชื่อของผูจดจําหน่าย
                                                        ้ั
            2) แก้ไขข้อมูลต้นทุนสินค้า โดยการเปลียนตัวเลขทีชองสุดท้ายของแต่ละบรรทัด
                                                 ่         ่ ่
            3) กดบันทึกข้อมูลเป็ นอันเสร็จสิน
                                            ้


    4.2.10 การรับสินค้าเข้า




                         รูปที่ 4.10 แสดงหน้าจอการรับสินค้าเข้า
                                                                                      58 

 
่ ่
           1) กรอกรหัสสินค้า/ชื่อสินค้า และจํานวนสินค้าทีรบเข้า กดปุม เพิม
                                                         ่ั
           2) กดบันทึกเพือบันทึกข้อมูลการรับสินค้าเข้า
                        ่
           3) กด ล้างข้อมูล เพือล้างข้อมูลและนําเข้าสินค้าใหม่
                              ่


    4.2.11 จัดการข้อมูลประเภทสินค้า




                  รูปที่ 4.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลประเภทสินค้า


                                                          ่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่
           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้


                                                                                  59 

 
4.2.12 จัดการข้อมูลต้นทุนจัดการข้อมูลชันวาง
                                           ้




             รูปที่ 4.12 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลต้นทุนจัดการข้อมูลชันวาง
                                                                   ้


                                                          ่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่
           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้




                                                                                  60 

 
4.2.13 จัดการข้อมูลจังหวัด




                      รูปที่ 4.13 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลจังหวัด


                                                          ่ ่
           1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                 ่
           2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือจังหวัดทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม
                                       ่         ่ ่
                          ่
              ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล
                                    ่
           3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                    ้                     ่ ้




                                                                                   61 

 
4.2.14 ออกรายงายการขาย




                    รูปที่ 4.14 แสดงหน้าจอออกรายงายการขาย


          1) เลือกช่วงเวลาทีตองการแสดงรายงานการขาย
                            ่ ้
          2) เลือกตรวจสอบ เพือแสดงข้อมูลการขายในตารางด้านล่าง
                            ่

          3) สามารถเลือกนําออกข้อมูลได้ ทังเป็ นเอกสารเวิรด และเอกเซล
                                          ้               ์


                                                                        62 

 
รูปที่ 4.15 แสดงรายงานการขายแบบเวิรด
                                        ์




    รูปที่ 4.16 แสดงรายงานการขายแบบเอกเซล




                                            63 

 
4.2.15 ออกรายงานสินค้าคงคลัง




                   รูปที่ 4.17 แสดงหน้าจอออกรายงานสินค้าคงคลัง


           1) เลือกตรวจสอบ เพือแสดงข้อมูลสินค้าคงคลังในตารางด้านล่าง
                             ่
           2) สามารถเลือกนําออกข้อมูลได้ ทังเป็ นเอกสารเวิรด และเอกเซล
                                           ้               ์




                     รูปที่ 4.18 แสดงรายสินค้าคงคลังแบบเวิรด
                                                           ์
                                                                         64 

 
รูปที่ 4.19 แสดงรายสินค้าคงคลังแบบเอกเซล


    4.2.16 ขายสินค้า




                          รูปที่ 4.20 แสดงหน้าจอการขายสินค้า




                                                                  65 

 
่ ่
    1) กรอกรหัสสินค้า/ชื่อสินค้า และจํานวนสินค้าทีรบเข้า กดปุม เพิม
                                                  ่ั
    2) กดบันทึกเพือบันทึกข้อมูลการรับสินค้าเข้า
                 ่
    3) เลือก คิดเงิน เพือคํานวณเงินทอน
                       ่
    4) กด ล้างข้อมูล เพือล้างข้อมูลและนําเข้าสินค้าใหม่
                       ่




               รูปที่ 4.21 แสดงหน้าจอการคํานวณเงินทอน




                                                                      66 

 
4.2.9 คืนสินค้า




                           รูปที่ 4.22 แสดงหน้าจอคืนสินค้า


            1) กรอกเลขทีใบเสร็จ
                        ่
            2) จะแสดงสินค้าทีได้ถูกซือไปแล้วจากเลขทีการขายข้างต้น
                             ่       ้              ่
            3) ลากสินค้าทีตองการจะคืนจากตาราง ไปทีตารางสินค้าทีคนและกรอกจํานวนที่
                          ่ ้                     ่            ่ ื
               ต้องการคืน
            4) กดคํานวณค่าปรับ เพือคํานวณเงินทีตองคืนแกลูกค้าไป
                                 ่             ่ ้
            5) กดบันทึก เพือบันทึกข้อมูลการคืน
                          ่
            6) กด ล้างรายการ เพือล้างข้อมูลทังหมด
                               ่             ้
                                                                                67 

 
4.2.9 ลูกค้าใหม่




                          รูปที่ 4.23 แสดงหน้าจอลูกค้าใหม่


                                                           ่ ่
            1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม
                  ่
            2) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ
                                     ้                     ่ ้




                                                                      68 

 
บทที่ 5
                                        สรุปผลการทดลอง


5.1 บทสรุป
            โครงงานนี้ได้ทําการออกแบบโครงสร้างของระบบ โดยมีการสร้าง Dataflow Diagram ของ
ขันตอนการทํางานต่างๆ ขึนมาและทําการออกแบบ Entity – Relationship Diagram เพื่อสร้างระบบ
  ้                                   ้
ฐานข้อมูลที่ถูกต้อง และครอบคลุมความต้องการของระบบทังหมด เมื่อได้ขอมูลตารางที่ถูกต้องและ
                                                                      ้            ้
ครอบคลุมความต้องการของระบบทังหมดแล้ว ก็จะทําการทดลองใส่ขอมูลจริงลงไป เพื่อดูว่าสามารถ
                                                ้                           ้
เก็บข้อมูลและเรียกใช้ขอมูลได้จริง จากนันจะนํ าตารางทีได้ทําการสร้างขึนมา ไปเชื่อมโยงกับการเขียน
                                ้                 ้       ่                   ้
โปรแกรมในการสร้างระบบจริง
                  ั
            ปญหาทีพบในช่วงของการพัฒนาระบบ บางโครงสร้างของระบบนันผูพฒนายังมองข้าม ส่วนใน
                        ่                                                       ้ ้ ั
การทํางานบางส่วนทีจําเป็ น ซึงในการออกแบบในระบบนันจําเป็ นจะต้องมองระบบให้รดกุม และต้องมี
                            ่           ่                   ้                             ั
การเขียนโปรแกรม ที่เป็ นระบบระเบียบ เพื่อความมีประสิทธิภาพในการเรียกใช้และส่งผ่านข้อมูล ซึ่ง
เมือผูดาเนินโครงการได้มองข้ามการทํางานในบางส่วนไปนัน ทําให้ตองทําการเขียนกระบวนการทํางาน
    ่ ้ ํ                                                     ้           ้
ย่อยเพิมขึ้นมา เพื่อใช้ในงานที่มลกษณะเฉพาะเพียงงานเดียว ซึ่งจะมีขอเสียคือ เมื่อมีกระบวนการ
          ่                               ี ั                                    ้
ทํางานย่อยในลักษณะนี้เพิมมากขึน จะทําให้การเขียนโปรแกรมไม่มระเบียบ ทําให้ยากในการแก้ไข และ
                                    ่      ้                            ี
พัฒนาต่อไปในอนาคต
              ั
            ปญหาเกี่ยวกับขันตอนการเขียนโปรแกรม เนื่องจากการเขียนโปรแกรมนันผูดําเนินโครงการ
                                  ้                                                   ้ ้
จําเป็ นจะต้องเขียนโปรแกรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามทีตองการ โดยบางทีในการลําดับขันตอนการ
                                                                  ่ ้                          ้
เขียนโปรแกรมนันยังขาดเสถียรภาพ รวมถึงผูพฒนาเองก็ยงขาดประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรมทีดี
                          ้                           ้ ั       ั                                      ่
พอ ทําให้กระบวนการบางกระบวนการทีได้ได้ออกแบบไว้ต้องมีการปรับเลี่ยนกระบวนการการทํางาน
                                                    ่
ภายในเล็ก น้ อ ย เพื่อ ให้ผ ลลัพ ธ์ข องระบบใกล้เ คีย งกับ ที่อ อกแบบไว้แ ต่ ต้น จึง ทํา ให้โ ปรแกรมยัง มี
ข้อผิดพลาดอยู่ จึงต้องมีการแก้ไขเพือให้โปรแกรมใช้งานได้อย่างถูกต้อง
                                              ่
                ั
            ปญหาที่เกิดขึนในช่วงของการทดสอบระบบส่วนใหญ่มาจาก ผลจากการเขียนโปรแกรมที่ไม่
                              ้
รัดกุมจึงทําให้เกิดข้อผิดพลาด ในการประมวลผล เช่น การคํานวณผลต่าง ๆ การแสดงค่าต่าง ๆ ซึ่ง
ข้อผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมเหล่านี้อาจทําให้เกิดผลเสียอย่างมาก เมื่อทําการนําระบบไปใช้ในการ
ทํางานจริง ผูพฒนาจึงต้องทดลอง
                    ้ ั

5.2 ปัญหาและอุปสรรคที่พบจากการทําโครงงาน
        5.2.1 ผูจดทําระบบมีประสบการณ์ในงานวิเคราะห์และออกแบบระบบงานค่อนข้างน้อย จึงทํา
                ้ั
ให้การศึกษาอาจไม่สมบูรณ์และครอบคลุมถึงความต้องการจริงของผูใช้ทงหมด
                                                          ้ ั้
        5.2.2 การเก็บรวบรวมความต้องการค่อนข้างใช้เวลาเนื่องจากความต้องการนันเปลียนแปลง
                                                                           ้ ่
เรือยๆ
  ่
                                                                                                      69
5.2.6 ในการออกแบบโครงสร้างระบบฐานข้อมูลส่วนของ Data Flow Diagram และEntity-
Relationship Diagram มีความซับซ้อนในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของแต่ละตารางเข้าด้วยกัน จึงทํา
ให้เกิดความล้าช้าในการออกแบบ

5.4 แนวทางการพัฒนาโครงงาน
       จากการทดสอบการใช้งานระบบการจัดการการร้านค้าปลีกนี้ ได้สรุปแล้วพบว่ายังมีหลายส่วนที่
ควรปรับปรุงให้ดขน เพือให้ระบบสามารถให้ขอมูลทีคลอบคลุม ครบถ้วน ตรงตามความต้องการของผูใช้
                 ี ้ึ ่                ้     ่                                         ้
ดังนันแนวทางทีสามารถพัฒนาระบบ จึงสามารถเพิมสิงต่างได้ตามหัวข้อเสนอแนะทีได้กล่าวไป เพื่อให้
     ้         ่                               ่ ่                     ่
ระบบมีประสิทธิภาพเพิมยิงขึน และครอบคลุมระบบการดําเนินงานอย่างแท้จริง
                      ่ ่ ้




                                                                                        70
เอกสารอ้างอิง

[1]   มณีโชติ สมานไทย, การออกแบบฐานข้อมูลและภาษา SQL, อินโฟเพรส : กรุงเทพฯ, 2546
[2]   รวิวรรณ เทนอิสสระ, ฐานข้อมูลและการออกแบบ, ซีเอ็ดยูเคชัน : กรุงเทพฯ, 2543
                                                            ่
[3]   http://riverplusblog.com/2011/06/20/ความหมายและประเภทของ-barcode-scannerrea
[4]   วราภรณ์ โกวิทวรางกูร, ระบบฐานข้อมูลและการออกแบบ, ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์
      มหาวิทยาลัย : กรุงเทพฯ, 2543
[5]   http://www.thaiall.com/learn/sader.htm#05




                                                                                    71 
 

More Related Content

DOCX
การเขียนบรรณานุกรม
PDF
บทที่1 บทนำ
PPTX
ระบบจัดการร้านเบเกอรี่
PDF
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
PPTX
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
PDF
O-NET ม.6-สถิติ
PDF
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
DOCX
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง การเขียนบรรณานุกรมออนไลน์
การเขียนบรรณานุกรม
บทที่1 บทนำ
ระบบจัดการร้านเบเกอรี่
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
O-NET ม.6-สถิติ
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง การเขียนบรรณานุกรมออนไลน์

What's hot (20)

PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
หน้าปกโครงงาน
PDF
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
PDF
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
PDF
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
ตัวอย่างโครงงานคอม
DOCX
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
PDF
แผ่นพับโครงงาน
PPTX
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
PDF
บทที่ 3 บทที่ 4 และบทที่ 5
PDF
บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน [โครงการอ่านหนังสือให้กับผู้พิการทางสายตา]
PDF
บทที่ 6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
PPT
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)51
PDF
อินโฟกราฟิกในยุคการศึกษา 4.0 (Infographic in Education 4.0)
DOCX
บทที่ 1-5 โครงงาน
DOCX
สารบัญโครงงานคอม
PDF
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
DOCX
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
PDF
บทที่ 3
รูปเล่มวิชาโครงงาน
หน้าปกโครงงาน
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รูปเล่มวิชาโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานคอม
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
แผ่นพับโครงงาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
บทที่ 3 บทที่ 4 และบทที่ 5
บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน [โครงการอ่านหนังสือให้กับผู้พิการทางสายตา]
บทที่ 6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)51
อินโฟกราฟิกในยุคการศึกษา 4.0 (Infographic in Education 4.0)
บทที่ 1-5 โครงงาน
สารบัญโครงงานคอม
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
บทที่ 3
Ad

Similar to ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง (20)

PDF
Manual
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PPT
Sallai pro
PDF
ผลงานนักศึกษาวิชาโครงงาน
PDF
ตัวอย่างบทที่ 3 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
PDF
Project Sky
PDF
ระบบฐานข้อมูลเรื่องค้าปลีก
PDF
โครงงานใบงานที่ 7
PDF
Project ii v.2.0
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
รูปเล่มวิชาโครงงาน
PDF
Budget estimation for commuting by bts and mrt, information technology, sripa...
PDF
Knowledge Sharing for Travelling in Thailand, ICT, Sripatum University
PDF
Accounting software
PDF
ตัวอย่างเอกสารปวส.
PDF
เรื่องที่ 3 การคัดเลือกแหล่งจัดซื้อสินค้า การจัดจำหน่าย การจัดการงานบุคคล
PPT
ระบบฐานข้อมูลเรื่องค้าปลีก
PDF
เรื่องที่ 3 การคัดเลือกแหล่งจัดซื้อสินค้า การจัดจำหน่าย การจัดการงานบุคคล
Manual
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
Sallai pro
ผลงานนักศึกษาวิชาโครงงาน
ตัวอย่างบทที่ 3 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
Project Sky
ระบบฐานข้อมูลเรื่องค้าปลีก
โครงงานใบงานที่ 7
Project ii v.2.0
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
Budget estimation for commuting by bts and mrt, information technology, sripa...
Knowledge Sharing for Travelling in Thailand, ICT, Sripatum University
Accounting software
ตัวอย่างเอกสารปวส.
เรื่องที่ 3 การคัดเลือกแหล่งจัดซื้อสินค้า การจัดจำหน่าย การจัดการงานบุคคล
ระบบฐานข้อมูลเรื่องค้าปลีก
เรื่องที่ 3 การคัดเลือกแหล่งจัดซื้อสินค้า การจัดจำหน่าย การจัดการงานบุคคล
Ad

More from Utai Sukviwatsirikul (20)

PDF
Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
PDF
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
PDF
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
PDF
Supply chain management
PDF
Best practice in communication
PDF
Basic communication skills 2554
PDF
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
PDF
SME Handbook
PDF
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
PDF
Scientific evidence of BIOFLOR
PDF
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
PDF
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
PDF
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
PDF
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
PDF
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
PDF
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
PDF
ความรู้เรื่องโรคไต
PDF
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
PDF
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
PDF
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน
Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
Supply chain management
Best practice in communication
Basic communication skills 2554
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
SME Handbook
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
Scientific evidence of BIOFLOR
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
ความรู้เรื่องโรคไต
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน

ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง

  • 1. ระบบฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก Database Management System for Retail Shop นายสันติ พันไธสง Santi Panthaisong สารนิพนธ์ฉบับนี้ เป็ นส่วนหนึ่ งของการศึกษา ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการเทคโนโลยี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ปี การศึกษา 2554
  • 2. หัวข้อสารนิ พนธ์ ระบบฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก นักศึกษา นาย สันติ พันไธสง รหัสนักศึกษา 5317670015 ปริ ญญา วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิ ชา การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ พ.ศ. 2554 อาจารย์ผควบคุมสารนิ พนธ์ รศ.ดร. ฤกษ์ชย ฟูประทีปศิริ ู้ ั บทคัดย่อ โครงงานนี้น้ีจะเป็ นการนําเสนอ ระบบการจัดการฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก มาช่วย ่ ี ่ ่ ั จัดการข้อมูลทีมอยูได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริมวิเคราะห์ปญหาทีพบบ่อยในกระบวนการการ ่ ั ั ทํางานต่างๆ ของร้านค้าปลีก และนําเทคโนโลยีในปจจุบนมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบงาน ั นี้ โดยหวังจะลดปญหาและข้อผิดพลาดต่างๆ ในการบริหารจัดการร้านค้าปลีก เช่น การจัดการ ระบบคลังสินค้า ตรวจสอบยอดขาย เพือให้การดําเนินงานเป็ นไปอย่างรวดเร็ว และออกรายงาน ่ ทีตองการเพือนําไปวางแผนสําหรับการจัดการร้านค้าต่อไป ่ ้ ่ I
  • 3. Project Title Database Management System For Retail Shop Student Santi Panthaisong Student ID 5317670015 Degree Master of Science Program Information Technology Management Year 2011 Thesis Advisor Assoc. Prof. Reckchai Fooprateepsiri, Ph.D. ABSTRACT This project will be presented. Database management system for retailers that manage existing information effectively. By analyzing common problems in retailer operation. Used current technology to developing this system. It is expected to reduce the problems and errors in retail outlets management such as warehouse management systems, check daily sales that improve retailer operation faster and higher performance. And reporting with any requirement to plan for the management of the store. II
  • 4. กิตติกรรมประกาศ สารนิพนธ์ฉบับนี้สาเร็จได้จากแนวความคิดและการแนะนําการดําเนินงานโครงงาน องค์ ํ ความรูต่างๆจากอาจารย์ รศ.ดร.ฤกษ์ชย ฟูประทีปศิริ อาจารย์ทปรึกษาทีได้เสียสละเวลาให้ ้ ั ่ี ่ คําปรึกษา ตรวจสอบข้อบกพร่องของระบบให้มความสมบูรณ์ อีกทังเพือๆทีคอยช่วยเหลือ ี ้ ่ ่ สนับสนุนการจัดทําสารนิพนธ์ฉบับนี้ ขอกราบขอพระคุณ คณาจารย์ทุกท่านทีชวยประสิทธิ ์ประสาทวิชาความรูจนสามารถ ่ ่ ้ จัดทําสารนิพนธ์ให้สาเร็จได้ดวยดี ท้ายนี้ขอกราบพระคุณบิดามารดาทีคอยให้กาลังใจเสมอ ํ ้ ่ ํ สันติ พันไธสง III
  • 5. สารบัญ หน้า บทคัดย่อภาษาไทย I กิตติกรรมประกาศ II สารบัญ III สารบัญตาราง V สารบัญรูป VI บทที่ 1 บทนํา ั 1.1 ปญหาและแรงจูงใจ 1 1.2 วิเคราะห์ 2 1.3 จุดประสงค์ 2 1.4 ขอบเขต 2 1.5 แผนเวลาของโครงการ 3 บทที่ 2 ทฤษฎีและการออกแบบ 2.1 กล่าวนํา 4 2.2 ทฤษฏีฐานข้อมูล 4 2.3 รหัสแท่ง 11 บทที่ 3 การดําเนินโครงการ 3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูง 16 3.2 ผังกระแสข้อมูลระดับต่างๆ 18 3.3 ผังแสดงความสัมพันธ์ของแฟ้มข้อมูล 31 3.4 Mapping Entity-Relationship Diagram 32 3.5 พจนาจุกรมข้อมูล 33 3.6 การออกแบบ interface ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก 39 IV
  • 6. สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 4 ผลการทดลองหรือดําเนินงาน 4.1 การออกแบบการดําเนินการในส่วนการเก็บข้อมูล 51 4.2 การทดสอบกระบวนการทํางานแต่ละส่วน 52 บทที่ 5 สรุปผลการดําเนินงาน 5.1 บทสรุป 69 ั 5.2 ปญหาและอุปสรรคทีพบจากการทําโครงงาน ่ 69 5.3 แนวทางการพัฒนาโครงการ 69 เอกสารอ้างอิง 70 V
  • 7. บทที่ 1 บทนํา ความเป็ นมา โดยทัว ไปแล้ว ร้า นค้า ปลีก ยัง เป็ น ระบบงานที่ใ ช้บุ ค ลากรเป็ น ผู้ป ฏิบ ัติง าน ซึ่ง เป็ น การ ่ ปฏิบติงานที่ยงมีขอผิดพลาดและขาดความเป็ นระเบียบเรียบร้อย เช่น การขายสินค้า การจัดการ ั ั ้ คลังสินค้า การคิดราคาสินค้า การตรวจสอบใบเสร็จย้อนหลัง เป็ นต้น ซึงสิงต่างๆ เหล่านี้จะก็ให้เกิด ่ ่ ั ป ญ หาด้ า นการจัด การร้า น เป็ น ผลให้เ กิด ความเสีย หายทางธุ ร กิจ เกิด ความล่ า ช้า หรือ เกิด ข้อผิดพลาดต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า เนื่องจากลุกค้าต้องการความรวดเร็วและ ความถูกต้องจากการรับบริการ นอกจากนี้ลูกค้ายังมีทางเลือกทีหลากหลายจากการเกิดขึ้นของ ร้านค้าปลีกรายใหญ่ดวย ้ ั ั ในปจจุบนได้มรานค้าปลีกต่างชาติได้เข้ามาเปิ ดสาขาในไทยมากมาย โดยร้านค้าเหล่านี้มี ี้ จุดเด่นอยู่ทการจัดการร้านด้วยความรวดเร็ว และมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการทํางาน ่ี ทําให้รานค้าปลีกของไทย ยากทีจะแข่งขันได้หากไม่มการเปลียนแปลง เพื่อตอบรับกับความต้องการ ้ ่ ี ่ ของลูกค้า เพื่อให้การจัดการร้านค้าปลีกให้มประสิทธิภาพมากยิงขึน จึงได้มการทําเทคโนโลยีเข้ามา ี ่ ้ ี ช่วยในการดําเนินงาน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ เพื่อมาช่วยในการทํางานหลายๆ ด้าน เช่น จัดเก็บ ข้อมูล ค้นหาข้อมูลต่างๆ การจัดแสดงรายงานต่อเจ้าของกิจการ เพื่อนําข้อมูลต่างๆ ไปปรับปรุงร้าน เพือสร้างความพึงพอใจให้กบลูกค้าได้มากขึน ่ ั ้ 1. ปัญหา และแรงจูงใจ (Problem/Motivation) ั 1.1. เพือลดปญหาจากการขายสินค้าเช่น คิดราคาผิด เป็ นต้น ่ 1.2. เพือสามารถจัดการคลังสินค้าได้ตอลดเวลา ่ 1.3. สามารถตรวจสอบสินค้าในคลังได้ทนที ไม่ตองใช้วธเดินไปตรวจสอบ ั ้ ิี 1.4. เพือเพิมความรวดเร็วในการขายสินค้า สร้างความพึงพอใจให้กบลูกค้า ่ ่ ั 1.5. สามารถตรวจสอบรายการขายย้อนหลังได้ 1.6. เพือให้จดการข้อมูลต่างๆ ภายในร้านได้อย่างถูกต้องและเป็ นระบบ ่ ั 1   
  • 8. 2. วิ เคราะห์ (Analysis) ในร้านค้าปลีก จะมีลกค้าเข้ามาซือสินค้าเป็ นจํานวนมากในระยะเวลาหนึ่งๆ ซึงอาจทําให้เกิด ู ้ ่ ความล่าช้าในการขายสินค้าได้ นอกจากนี้ยงก่อให้เกิดความผิดพลาดทีอาจจะตามมาได้ เช่น การคิด ั ่ ราคาสินค้าผิด นับจํานวนสินค้าไม่ครบ เป็ นต้น เนื่องจากทางร้านดําเนินการด้วยคนเป็ นหลัก และ เมื่อมีการจัดเก็บใบเสร็จทีเป็ นเอกสารต่างๆ แล้วก็จะพบว่าเกิดการสูญหายหรือเสียหายอยู่บ่อยครัง ่ ้ ั เนื่องจากจํานวนของใบเสร็จและปญหาจากการจัดเก็บไม่ดี ทําให้ลูกค้าหลายคนไม่พอใจในการซื้อ สินค้า 3. จุดประสงค์ (Objectives) การพัฒนาระบบร้านค้าปลีกมีวตถุประสงค์หลักในการดําเนินงาน ดังนี้ ั 3.1 ศึก ษาและทําการออกแบบระบบร้านค้าปลีก เพื่อจัดการข้อมูล ให้มีความเป็ น ระเบียบ ั สะดวกต่อการใช้งานและแก้ปญหาการซํ้าซ้อนของข้อมูล 3.2 เพือพัฒนาระบบร้านค้าปลีก โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ่ 3.3 เพื่อให้การดําเนินงานของร้านค้าปลีก เช่น การขาย การจัดการคลังสินค้า การซื้อสินค้า การบันทึกใบเสร็จ มีความรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดและสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ 4. ขอบเขต (Scope) 4.1 ระบบจัดการข้อมูลพืนฐาน ้ 4.1.1 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้า ่ 4.1.2 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลลูกค้า ่ 4.1.3 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลผูใช้ระบบ ่ ้ 4.1.4 สามารถค้นหา เพิม ลบ แก้ไข ข้อมูลผูผลิต ่ ้ 4.2 ระบบการขาย 4.2.1 สามารถทําการขายสินค้า พร้อมกับคํานวณราคาและเงินทอนได้ 4.2.2 สามารถยกเลิกการขายสินค้าได้ 4.2.3 สามารถเปลียนแปลงรายการการขายแต่ละรายการได้ ่ 4.2.4 สามารถแสดงยอดค้างชําระของลูกค้าแต่ละคนได้ 4.2.5 สามารถแสดงสินค้าทีลกค้าซือเป็ นประจําได้ ู่ ้ 4.3 ระบบการจองสินค้าหรือสังล่วงหน้า ่ 4.3.1 สามารถให้ลกค้าโทรมาสังสินค้าล่วงหน้า หรือสังสินค้าล่วงหน้าได้ ู ่ ่ 2   
  • 9. 4.4 ระบบคลังสินค้า 4.4.1 สามารถบันทึกการรับสินค้าเข้าร้านได้ 4.4.2 สามารถคํานวณราคาสินค้าต่อหน่วย ต้นทุนสินค้าเมือรับสินค้าเข้าร้านได้ ่ 4.4.3 สามารถตัดจํานวนสินค้าเมือมีการขายสินค้านันๆ ออกไปทันทีเมือมีการขาย ่ ้ ่ 4.4.4 สามารถแจ้งเตือนเมือสินค้าใดๆ ในร้านเหลืออยูต่ํากว่าจุดสังซือ ่ ่ ่ ้ 4.4.5 สามารถแจ้งตําแหน่งของสินค้าในโกดังได้ เมือทําการค้นหาจากระบบ ่ 4.5 ระบบการแสดงรายงาน 4.5.1 สามารถแสดงยอดรวมยอดขายตามเงือนไขได้ เช่น ยอดต่อวัน ยอดต่อเดือน ่ 4.5.2 สามารถแสดงรายได้สทธิตามเงือนไขได้ เช่น กําไรต่อวัน ต่อเดือน ุ ่ 4.5.3 สามารถแสดงข้อมูลสินค้าขายดีตามเงือนไขได้ ่ 4.5.4 สามารถแสดงข้อมูลลูกค้าค้างชําระได้ 4.5.5 สามารถแสดงรายาชื่อสินค้าในคลังได้ 4.5.6 สามารถแสดงสินค้าในคลังทีจานวนตํ่ากว่าจุดสังซือ ่ํ ่ ้ 4.5.7 สามารถแสดงข้อมูลลูกค้าตามเงือนไขได้ ่ 5. แผนเวลาของโครงงาน (Calendar Planning) ชื่องาน (Task Name) : ระบบฐานข้อมูลสําหรับร้านค้าปลีก ลักษณะงาน (Description) : การพัฒนาระบบฐานข้อมูล ระยะเวลา (Duration) : มิถุนายน 2554 – เมษายน 2554 ขั้นตอนการดําเนินงาน มิ.ย.- ก.ค ส.ค.- ก.ย ต.ค.- พ.ย ธ.ค.- ก.พ มี.ค.- เม.ย ระยะที่ 1 วิเคราะห์และศึกษาระบบงานปั จจุบน ั ระยะที่ 2 ศึกษาความต้องการของระบบ ระยะที่ 3 วิเคราะห์และออกแบบระบบ ระยะที่ 4 พัฒนาและทดสอบระบบ ระยะที่ 5 ทําคู่มือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง 3   
  • 10.     บทที่ 2 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 2.1 กล่าวนํา ั ั ในปจจุบนระบบบ่งชีอตโนมัติ (Automatic identification) ได้นิยมนํามาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ระบุ ้ ั สถานะของสัตว์ หรือสิงของต่างๆ เช่น สินค้าทีเราให้ความสนใจ ซึงระบบบ่งชีอตโนมัตทรจกและใช้งานกัน ่ ่ ่ ้ ั ิ ่ี ู้ ั อย่างแพร่หลายทีสดคือ ระบบบาร์โค้ด (Barcode System) ซึงสามารถพบเห็นได้ทวไปในธุรกิจหรือใน ุ่ ่ ั่ ชีวตประจําวัน และด้วยเหตุผลของบาร์โค้ดทีทาให้งายต่อการจัดเก็บข้อมูลทําให้ถกนํามาใช้ในการจัดการ ิ ่ ํ ่ ู ระบบคงคลังของธุรกิจมาก เพือให้ธุรกิจมีความรวดเร็วในการจัดการ ลดข้อจํากัดในเรืองระยะเวลา ลดเวลา ่ ่ ในการดําเนินงาน 2.2 ทฤษฎีฐานข้อมูล [1] ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลทีมความสัมพันธ์กน นํามาเก็บรวบรวมเข้าไว้ ่ ี ั ด้วยกันอย่างมีระบบ และต้องตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น ข้อมูลทะเบียนนักศึกษา จะมีขอมูล ้ เกียวกับนักศึกษา ข้อมูลเกียวกับรายวิชาทีลงทะเบียน ข้อมูลอาจารย์ผสอน ข้อมูลเกียวกับเกรดของ ่ ่ ่ ู้ ่ นักศึกษา เป็ นต้น กลุ่มของข้อมูลนันอาจจะเกียวกับบุคคล สิงของ สถานที่ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ทีเราสนใจ ้ ่ ่ ่ หรืออาจได้มาจากการสังเกต การนับการวัด รวมทังข้อมูลทีเป็ นตัวเลข ข้อความ และรูปภาพ ก็สามารถ ้ ่ นํามาจัดเก็บเป็ นฐานข้อมูลได้แต่ทสาคัญข้อมูลทุกอย่างต้องมีความสัมพันธ์กน และเก็บรวบรวมอย่างเป็ น ่ี ํ ั ระบบ เพราะเป็ นสิงทีตองนํามาใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต ่ ่ ้ 2.2.1 ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง ระบบการรวบรวมฐานข้อมูลหลายๆ ฐานข้อมูล ทีมความสัมพันธ์กน โดยมีวตถุประสงค์ ่ ี ั ั เพือเป็ นการลดความซํ้าซ้อนของข้อมูล ภายในระบบฐานข้อมูลต้องมีสวนของซอฟต์แวร์ททาหน้าทีในการ ่ ่ ่ี ํ ่ เชื่อมโยงและจัดการฐานข้อมูล ด้วยวิธและรูปแบบเหมาะสมเพือให้ผใช้งานสามารถเก็บข้อมูล ดูแลรักษา ี ่ ู้ ความปลอดภัย และง่ายต่อการนํามาใช้งานซอฟต์แวร์ซงเรียกว่า Database Management System ่ึ (DBMS) 2.2.2 องค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล 2.2.2.1 ฮาร์ดแวร์ (Hard Ware) ในระบบฐานข้อมูลทีมประสิทธิภาพควรมีฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่ ่ ี พร้อมจะอํานวยความสะดวกในการบริหารระบบงานฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่วาจะเป็ นความเร็ว ่ ของหน่วยประมวลผล ขนาดของหน่วยความจํากลางอุปกรณ์นําเข้าและออกรายงาน รวมถึงหน่วยความจํา สํารองทีรองรับการประมวลผลข้อมูลในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ่ 4   
  • 11.     2.2.2.2 ซอฟต์แวร์ (Soft Ware) ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) คือ ซอฟท์แวร์ททาหน้าทีในการจัดการฐานข้อมูล ในเรืองของการสร้างการปรับเปลียนแก้ไข ่ี ํ ่ ่ ่ โครงสร้าง การเรียกใช้ การจัดทํารายงาน การควบคุม การดูแลรักษาความปลอดภัย โดยจะเป็ นสือกลาง ่ ระหว่างผูใช้กบโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ทีมอยูในฐานข้อมูล ้ ั ่ ี ่ 2.2.2.3 ข้อมูล (Data) ข้อมูลทีถูกเก็บอยูในฐานข้อมูล และมีความสัมพันธ์กนระหว่างข้อมูล ่ ่ ั ในฐานข้อมูลมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็ นศูนย์กลางข้อมูลอย่างเป็ นระบบ ซึงข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้ ่ ร่วมกันได้ ผูใช้ขอมูลในระบบฐานข้อมูล จะมองภาพข้อมูลในลักษณะทีแตกต่างกัน ้ ้ ่ 1) มุมมองของการนําข้อมูลไปใช้ (External Level) จะสามารถแบ่งข้อมูลได้ดงนี้ ั (1) ข้อมูลขาเข้า หรือข้อมูลดิบ (Data) เช่น ข้อมูลการสังซือข้อมูลการ ่ ้ ตรวจรับ (2) ข้อมูลสารสนเทศ (Information) คือข้อมูลขาเข้าหรือข้อมูลดิบทีผาน ่ ่ ่ การประมวลผลแล้ว เช่น ฝายผลิตต้องการข้อมูลแสดงภาพรวมของสินค้าทีถูกสังเพือนําไปใช้ในการสัง่ ซือ ่ ่ ่ ้ วัตถุดบ จึงทําการหาผลรวมจํานวนสินค้าทีถูกสัง่ แยกตามรายการสินค้า เพือความสะดวกในการใช้งาน ิ ่ ่ 2) มุมมองของผูออกแบบระบบฐานข้อมูล (Physical Level) ้ (1) ข้อมูลทีผใช้ระบบต้องการใช้งาน (User Data) เช่น ข้อมูลของผูใช้ใน ่ ู้ ้ ระบบงานขายสินค้า ได้แก่ ข้อมูลสินค้า, ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลการสังซือสินค้า เป็ นต้น่ ้ (2) ข้อมูลทีใช้อธิบายโครงสร้างของข้อมูล (Metadata) ในระบบฐานข้อมูล ่ จะเรียกว่าพจนานุกรมข้อมูล (Data dictionary) ใช้สาหรับการอธิบายโครงสร้างของข้อมูล ประเภทของ ํ ข้อมูล และคุณลักษณะพิเศษอื่นๆ 2.2.2.4 บุคลากร (People) ในระบบฐานข้อมูลจะมีบุคลากรทีเกียวข้องดังนี้ คือ ่ ่ 1) ผูใช้ทวไป (User) หมายถึง บุคลากรทีใช้ขอมูลจากระบบฐานข้อมูล เพือให้งาน ้ ั่ ่ ้ ่ สําเร็จลุลวงได้ เช่น ในระบบการฝากเงินธนาคารผูใช้ทวไปคือ พนักงาน ธนกิจ ทีรบฝากเงิน หรือระบบดู ่ ้ ั่ ่ั เกรดนักศึกษา ผูใช้ทวไปคือนักศึกษา ้ ั่ 2) พนักงานปฏิบตการ (Operator) หมายถึงผูปฏิบตการด้านการประมวลผล การ ั ิ ้ ั ิ ป้อนข้อมูลเข้าเครืองคอมพิวเตอร์ ่ 3) นักเขียนโปรแกรม (Programmer) หมายถึงผูทมหน้าทีเขียนโปรแกรม ้ ่ี ี ่ ประยุกต์ใช้งานต่างๆ เพือให้จดเก็บข้อมูล การเรียกใช้ขอมูลเป็ นไปตามความต้องการของผูใช้ ่ ั ้ ้ 4) นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analyst) หมายถึงบุคลากรทีทาหน้าที่ ่ ํ วิเคราะห์ระบบฐานข้อมูล และออกแบบระบบงานทีจะนํามาใช้ ่ 5) ผูบริหารฐานข้อมูล (Database Administrator) หมายถึงบุคลากรทีทาหน้าที่ ้ ่ ํ บริหารและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทังหมดเป็ นผูตดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าใน ้ ้ ั ระบบ จัดเก็บโดยวิธใดเทคนิคการเรียกใช้ขอมูล กําหนดระบบวิธการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การ ี ้ ี 5   
  • 12.     2.2.2.5 ขันตอนปฏิบตงาน (Procedure) ในระบบฐานข้อมูลทีดจะต้องมีการจัดทําเอกสารที่ ้ ั ิ ่ ี ระบุขนตอนการทํางานของหน้าทีต่างๆ ระบบฐานข้อมูลทังในสภาวะปกติ และในสภาวะทีระบบเกิดการ ั้ ่ ้ ่ ั ขัดข้อง หรือเกิดปญหา ซึงจะเป็ นขันตอนการปฏิบตงานสําหรับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร ่ ้ ั ิ ั 2.2.3 โครงสร้างฐานข้อมูลโครงสร้างฐานข้อมูลหรือสถาปตยกรรมฐานข้อมูลแบ่งเป็ น 3 ระดับ 2.2.3.1 ระดับภายนอก - เป็นระดับการมองข้อมูลภายในฐานข้อมูลสําหรับผูใช้แต่ละคน ้ ข้อมูลทีเห็นอาจจะมากน้อยแตกต่างกัน ขึนอยูกบสิทธิ ์การเข้าใช้งานฐานข้อมูล ่ ้ ่ ั 2.2.3.2 ระดับแนวคิด - เป็ นระดับของการออกแบบฐานข้อมูล จะมองเห็นข้อมูลทังหมดใน ้ ฐานข้อมูล 2.2.3.3 ระดับภายใน - เป็ นระดับของการจัดเก็บข้อมูลด้วยโครงสร้างข้อมูลทีเหมาะสม ซึง ่ ่ โครงสร้างทีใช้เก็บข้อมูลมีผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลการแบ่งโครงสร้างฐานข้อมูล ่ ออกเป็ น 3 ระดับนี้ ทําให้เกิดความเป็ นอิสระของข้อมูลเมือมีการเปลียนแปลงแก้ไขโครงสร้างข้อมูลในระดับ ่ ่ ภายในหรือระดับแนวคิดจะไม่มผลกระทบต่อโปรแกรมทีผใช้ใช้งานอยูในระดับภายนอก ี ่ ู้ ่ 2.2.4 แบบจําลองฐานข้อมูลแบบจํา ลองฐานข้อมูล คือโครงสร้างข้อมูลระดับตรรกะทีใช้นํา เสนอ ่ ข้อมูลและความสัมพันธ์ ระหว่างข้อมูล ให้อยูในรูปแบบทีเข้าใจได้งาย แบบจําลองฐานข้อมูลมี 4 ประเภท ่ ่ ่ ดังนี้ 2.2.4.1 แบบจําลองฐานข้อมูลลําดับขัน (Hierarchical database model) แบบจําลองชนิดนี้ ้ ไฟล์ขอมูลจะถูกจัดไว้เป็ นโครงสร้างแบบบนลงล่าง ซึงมีลกษณะคล้ายกับโครงสร้างต้นไม้ เป็ นลําดับขัน ้ ่ ั ้ ระดับสูงสุดจะเรียกว่า Root ระดับล่างสุดจะเรียกว่า Leaves ไฟล์ขอมูลต่างๆ จะมีเพียงไฟล์พอแค่หนึ่งไฟล์ ้ ่ เท่านัน (one Parent) และแตกสาขาออกเป็ นหลายๆ ไฟล์ เรียกว่า ไฟล์ลก ปจจุบนไม่นิยมใช้กนแล้ว ข้อมูล ้ ู ั ั ั จะมีความสัมพันธ์ในลักษณะ one-to-many 1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลลําดับชัน ้ (1) เหมาะกับข้อมูลทีมความสัมพันธ์แบบ one-to-many ่ ี (2) ความสามารถในการควบคุมความถูกต้องในข้อมูล (3) เหมาะกับข้อมูลทีมการเรียงลําดับแบบต่อเนื่อง ่ ี 2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลลําดับชัน ้ (1) ไม่สามารถรองรับข้อมูลทีมความสัมพันธ์ในลักษณะของmany-to- ่ ี many (2) มีความยืดหยุนน้อย ปรับเปลียนโครงสร้างมีความยุงยาก ่ ่ ่ (3) การค้นข้อมูลซึงอยูระดับล่างๆ จะต้องค้นหาไฟล์ทางด้านบนก่อน ่ ่ 6   
  • 13.     (4) ยากต่อการพัฒนาโปรแกรม 2.2.4.2 แบบจําลองฐานข้อมูลเครือข่าย (Network database model) มีโครงสร้างคล้ายกับ โครงสร้างแบบลําดับขัน แต่จะมีความแตกต่างกันคือความสัมพันธ์ของข้อมูลมีทงแบบ one-to-many และ ้ ั้ many-to-many ซึงมีความยืดหยุนทีสงกว่า ่ ่ ู่ 1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลเครือข่าย (1) สนับสนุนความสัมพันธ์แบบ many-to-many (2) ความซํ้าซ้อนในข้อมูลเกิดขึนน้อยกว่าแบบลําดับขัน ้ ้ (3) มีความยืดหยุนในด้านของการค้นหาข้อมูลดีกว่าเพราะใช้พอยน์เตอร์ ่ ในการเข้าถึง 2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลเครือข่าย (1) ความปลอดภัยของข้อมูลตํ่า (2) ใช้เนื้อทีหน่วยความจําในการเก็บพอยน์เตอร์ ่ (3) การเปลียนแปลงในโครงสร้างมีความยุงยากอยู่ ่ ่ 2.2.4.3 แบบจําลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational database model) เป็ นลักษณะการ ออกแบบฐานข้อมูลโดยจัดข้อมูลให้อยูในลักษณะของตารางภายในตารางประกอบด้วยแถว (Row) และ ่ คอลัมน์ (Column) สามารถมีความสัมพันธ์กบตารางอื่นๆ ได้ ไม่วาเป็ นแบบ one-to-many หรือ แบบ ั ่ many-to-many และจะใช้ Key ในการอ้างอิงถึงตารางอื่นๆ ทีเกียวข้อง ซึง Key สามารถเป็ นได้ทง Primary ่ ่ ่ ั้ Key และ Secondary Key เพือเข้าถึงข้อมูลได้ ดังนันผูออกแบบฐานข้อมูลจะต้องมีการวางแผนถึง ่ ้ ้ ตารางข้อมูลทีจาเป็ นต้องใช้ ่ํ 1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (1) มีความเข้าใจและสือสารได้เข้าใจง่าย เนื่องจากนําเสนอในลักษณะ ่ ตาราง 2 มิติ (2) สามารถเลือกวิวข้อมูลตามเงือนไขได้ ่ (3) ความซับซ้อนในข้อมูลมีน้อย (4) มีระบบความปลอดภัยทีดี เพราะผูใช้งานจะไม่ทราบถึงกระบวนการ ่ ้ จัดเก็บข้อมูล (5) โครงสร้างข้อมูลมีความเป็ นอิสระจากโปรแกรม 2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (1) มีคาใช้จายในระบบค่อนข้างสูง เนื่องจากใช้ทรัพยากรทีมความสามารถ ่ ่ ่ ี สูง (2) แก้ไขปรับปรุงแฟ้มข้อมูลมีความยุงยาก เนื่องจากไม่ทราบถึง ่ กระบวนการจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลทีแท้จริง่ 7   
  • 14.     2.2.4.4 แบบจําลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object-Oriented database model) เป็ นเทคโนโลยี ใหม่ของการจัดการฐานข้อมูลเชิงวัตถุ ให้ความสนใจด้วยการมองทุกสิงเป็ นวัตถุ โดยแต่ละวัตถุจะ ่ เป็ นแหล่งรวมของข้อมูล มีคลาสเป็ นตัวกําหนดคุณสมบัตหรือรายละเอียดของวัตถุ รวมทัง ิ ้ คุณสมบัตการปกปิ ดความลับของวัตถุ ิ 1) ข้อดีของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (1) สามารถจัดการกับข้อมูลชนิดต่างๆ ทีมความสลับซับซ้อนได้เป็ นอย่าง ่ ี ดี ไม่วาจะเป็ นภาพกราฟิก วิดโอ และเสียง ่ ี (2) สนับสนุนคุณสมบัตของการนํากลับมาใช้ใหม่ (Reusable) ิ 2) ข้อเสียของแบบจําลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุตองใช้บุคลากรทีมความรูความ ้ ่ ี ้ เชียวชาญ และประสบการณ์ในการจัดการกับข้อมูลทีมความสลับซับซ้อน ่ ่ ี 2.2.5 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) [2] เป็ นฐานข้อมูลทีใช้โมเดลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Model) มีการเก็บ ่ แฟ้มข้อมูลในรูปตาราง 2 มิติ คือ ในแต่ละตารางแบ่งออกเป็ น แถวๆ และในแต่ละแถวจะแบ่งเป็ นคอลัมน์ ทําให้งายต่อการเข้าใจและการประยุกต์ใช้งาน ด้วยเหตุน้ี ระบบฐานข้อมูลแบบนี้จงได้รบความนิยมมากทีสด ่ ึ ั ุ่ เนื่องจากแบบจําลองนี้เกิดจากทฤษฎีทางคณิตศาสตร์เรืองเซ็ท (Set) ดังนัน เราจะมีคาศัพท์เฉพาะดังนี้ ่ ้ ํ 1) รีเลชัน (Relation) ตาราง (Table) ่ 2) ทูเปิ ล (Tuple) แถว (Row) หรือ เรคคอร์ด (Record) หรือ ระเบียน 3) แอททริบวต์ (Attribute) คอลัมน์ (Column) หรือฟิลด์ (Field) ิ 4) คาร์ดนลลิต้ิ (Cardinality) จํานวนแถว (Number of rows) ิ ั 5) ดีกรี (Degree) จํานวนแอททริบวต์ (Number of attribute) ิ 6) คียหลัก (Primary key) ค่าเอกลักษณ์ (Unique identifier) ์ 7) โดเมน (Domain) ขอบเขตค่าของข้อมูลที่ Attribute ควรจะเป็ น 2.2.5.1 ชนิดของรีเลชัน ในระบบจัดการฐานข้อมูลทัวๆ ไปรีเลชันสามารถจําแนกออกได้ ่ ่ ่ เป็ น 2 ประเภท คือ 1) รีเลชันหลัก (Base Relation)เป็ นรีเลชันทีถูกกําหนดขึนเพือเก็บข้อมูล และเพือ ่ ่ ่ ้ ่ ่ นําข้อมูลไปใช้เมือมีการสร้างรีเลชัน โดยใช้ Data Definition Language เช่น ใน SQL คําสัง่ CREATE ่ ่ TABLEเป็ นการสร้างรีเลชันหลัก หลังจากนันก็จะทําการเก็บข้อมูลเพือการเรียกใช้ขอมูลในภายหลัง ่ ้ ่ ้ 2) วิว (View) หรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารีเลชันสมมติเป็ นรีเลชันทีถูกสร้างขึน ่ ่ ่ ้ ตามความต้องการใช้ขอมูลของผูใช้แต่ละคนเนื่องจากผูใช้แต่ละคนอาจต้องการใช้ขอมูลในลักษณะทีแตกต่าง ้ ้ ้ ้ ่ กัน จึงทําการกําหนดวิวของตัวเองขึนมาจาก Relation หลัก เพือความสะดวกในการใช้ขอมูล และช่วยให้ ้ ่ ้ การรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทําได้งายขึนรีเลชันทีถกสมมติขนมานี้จะไม่มการเก็บข้อมูลจริงๆ ใน ่ ้ ่ ่ ู ้ึ ี ระบบฐานข้อมูล 8   
  • 15.     2.2.5.2 ประเภทของคีย์ 1) คียผสม (Combine key หรือComposite key) หมายถึง คียทประกอบ ด้วยแอท ์ ์ ่ี ริบวต์มากกว่า 1 แอททริบวต์ เช่น รีเลชันของรายการสังอาหาร มีคย์ คือแอททริบวต์เลขทีใบสังอาหาร และ ิ ิ ่ ่ ี ิ ่ ่ แอททริบวต์รหัสรายการอาหาร เพราะใบสังอาหารแต่ละใบจะมีรายการอาหารอยูในใบสังอาหารได้มากกว่า ิ ่ ่ ่ 1 รายการ ดังนันถ้าใช้แอททริบวต์เลขทีใบสังอาหารเพียงตัวเดียวจะไม่สามารถแยกความแตกต่างแต่ละแถว ้ ิ ่ ่ ได้ 2) คียคแข่ง (Candidate key) หมายถึง แอททริบวต์ทสามารถถูกกําหนดให้เป็ นคีย์ ์ ู่ ิ ่ี ในรีเลชันได้มากกว่า 1 แอททริบวต์ เช่น รีเลชันพนักงานมีแอททริบวต์ทสามารถเป็ นคียได้ 2 แอททริบวต์ ่ ิ ่ ิ ่ี ์ ิ คือ แอททริบวต์รหัสพนักงาน กับแอททริบวต์เลขทีบตรประชาชน ดังนันในรีเลชันพนักงานสามารถเลือกแอ ิ ิ ่ ั ้ ่ ททริบวต์ตวใดตัวหนึ่งเป็ นคียกได้ ิ ั ์ ็ 3) คียหลัก (Primary key) หมายถึง คียคแข่งทีถูกกําหนดให้เป็ นคียเพือระบุแถวใน ์ ์ ู่ ่ ์ ่ รีเลชัน ซึงคียหลักอาจเป็ นแอททริบวต์หรือกลุ่มของแอททริบวต์กได้ แต่คาทีมตองไม่ซ้าและต้องไม่เป็ นค่า ่ ่ ์ ิ ิ ็ ่ ่ ี ้ ํ ว่าง ส่วนแอททริบวต์ทเี่ ป็ น คียคแข่งแต่ไม่ถูกเลือกเป็ นคียหลักเรียกว่า คียรอง (Alternate Key หรือ ิ ์ ู่ ์ ์ Secondary Key) 4) คียนอก (Foreign key) หมายถึง คียทแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างรีเลชัน ์ ์ ่ี ่ กล่าวคือ แอททริบวต์ หรือกลุ่มของแอททริบวต์ทเี่ ป็ นคียหลักในรีเลชันหนึ่งสามารถเป็ นคียนอกของรีเลชัน ิ ิ ์ ่ ์ ่ อื่นๆ ได้ เช่น รีเลชันพนักงานมีรหัสพนักงานเป็ นคียหลัก ส่วนรีเลชันใบสังอาหารมีเลขทีใบสังเป็นคียหลัก ่ ์ ่ ่ ่ ่ ์ และมีรหัสพนักงานเป็ นคียนอก ์ (1) แอททริบวต์ทเี่ ป็ นคียนอกมีคาว่างได้ แต่ถาคียนอก เป็ นกลุ่มของแอทท ิ ์ ่ ้ ์ ริบวต์ จะไม่สามารถมีคาว่างได้ ิ ่ (2) ค่าของแอททริบวต์ ทีเป็ นคียนอกสามารถซํ้ากันได้ ิ ่ ์ (3) รีเลชันหนึ่งๆ มีหรือไม่มคยนอกได้ แต่ทุกรีเลชันต้องมีคยหลักเสมอ ่ ี ี ์ ่ ี ์ 2.2.5.3 คุณสมบัตของ Relational ิ 1) ข้อมูลในแต่ละแถวไม่ซ้ากัน โดยระบบจัดการฐานข้อมูล มีกลไกทีใช้ในการ ํ ่ ควบคุมไม่ให้เกิดการซํ้าซ้อนของข้อมูล เช่น รีเลชันพนักงานมีแอททริบวต์รหัสพนักงานเป็ นคีย์ เมือมีการ ่ ิ ่ ป้อนรหัสพนักงานซํ้ากันระบบจะการแจ้งเตือนว่ารหัสพนักงานซํ้าซ้อนกัน 2) การเรียงลําดับข้อมูลในแต่ละแถวไม่เป็ นสาระสําคัญ เนื่องจากการเรียกใช้ขอมูล ้ ในรีเลชันสามารถเรียกใช้ตามความต้องการของผูใช้ ่ ้ 3) การเรียงลําดับของแอททริบวต์ไม่เป็นสาระสําคัญ เพราะการอ้างอิงแอททริบวต์ ิ ิ ใดๆ จะใช้ช่อของแอททริบวต์นนๆ ในการอ้างอิง ไม่ใช้ลาดับทีของแอททริบวต์ ื ิ ั้ ํ ่ ิ 4) ค่าของข้อมูลในแต่ละแอททริบวต์จะเป็ นค่าของข้อมูลประเภทเดียวกัน เช่น แอ ิ ททริบวต์วนเกิด จะเก็บข้อมูลประเภทวันที่ ไม่ใช่เงินเดือนทีเป็ นตัวเลข ิ ั ่ 9   
  • 16.     5) ค่าของข้อมูลในแต่ละแอททริบวต์ของแถวหนึ่งๆ จะเก็บข้อมูลได้เพียงค่าเดียว ิ (Single Value) ไม่ใช่กลุ่มของข้อมูลทีแสดงค่ามากกว่าหนึ่งแถว (Repeating Group) ่ 2.2.6 Entity Relationship Model (ER Model) เป็ นเครืองมือในการอธิบายโครงสร้างของฐานข้อมูลในระดับ Conceptual ออกมาในลักษณะของ ่ แผนภาพ ทีงายต่อความเข้าใจ เพือใช้สอสารระหว่างนักออกแบบฐานข้อมูล และผูใช้ ่่ ่ ่ื ้ 2.2.6.1 ส่วนประกอบของ ER model 1) เอนทิต้ี (Entity) คือบุคคล สถานที่ วัตถุ หรือเหตุการณ์ทเี่ ราสนใจ โดยทัวไปแล้วเอนทิต้ี ่ จะมีกลุ่มทีบอกคุณสมบัตทบอกลักษณะของเอนทิต้ี เช่น พนักงานมีรหัส ชื่อ นามสกุล โดยจะมีคาของ ่ ิ ่ี ่ คุณสมบัตบางกลุ่มทีทาให้สามารถแยกเอนทิตออกจากเอนทิตอ่นได้ เช่น รหัสพนักงานทีจะไม่มพนักงานคน ิ ่ ํ ้ี ้ี ื ่ ี ไหนใช้ซ้ากันเลย เราเรียกค่าของคุณสมบัตกลุ่มนี้วาเป็น คีย์ ของเอนทิต้ี เอนทิตสามารถแบ่งได้ดงนี้ ํ ิ ่ ้ี ั (1) เอนทิตปกติ (Regular Entity หรือ Strong Entity) คือเอนทิตทวๆ ไป ทีมแอ ้ี ้ี ั ่ ่ ี ททริบวต์หนึ่งแยกความแตกต่างของข้อมูลแต่ละแถวได้ โดยไม่ตองอาศัยแอททริบวต์ของเอนทิตอ่น ิ ้ ิ ้ี ื สัญลักษณ์ของเอนทิตปกติ ้ี (2) เอนทิตแบบอ่อน (Weak Entity) คือเอนทิตทตองอาศัยแอททริบวต์จากเอนทิต้ี ้ี ้ี ่ี ้ ิ อื่นมาช่วยในแยกความแตกต่างของข้อมูลแต่ละแถว 2.2.6.2 แอททริบวต์ (Attribute) คือคุณสมบัตหรือลักษณะของเอนทิต้ี เช่น แอททริบวต์ของ ิ ิ ิ พนักงาน ประกอบด้วย รหัสพนักงาน, ชือ, นามสกุล, วันเกิด โดยมีช่อของแอททริบวต์กากับอยูภายใน และ ่ ื ิ ํ ่ มีเส้นเชื่อมต่อกับเอนทิตแอททริบวต์สามารถแบ่งได้ 6 ประเภท ้ี ิ 1) Simple Attributeแอททริบวต์ทไม่สามารถแบ่งแยกย่อยได้อก เช่น เพศ, ิ ่ี ี เงินเดือนสัญลักษณ์ของแอททริบวต์ ิ 2) Composite Attributeมีลกษณะตรงข้ามกับแบบ Simple Attribute ทีสามารถ ั ่ แบ่งแยกย่อยไปได้อก เช่น แอททริบวต์ ชื่อสกุล สามารถแบ่งออกได้เป็ นแอททริบวต์ช่อ และ แอททริบวต์ ี ิ ิ ื ิ นามสกุล 3) Key Attributeแอททริบวต์ทสามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเอนทิตนนได้ และ ิ ่ี ้ี ั ้ แอททริบวต์ประเภทนี้มคาไม่ซ้ากันสัญลักษณ์ของ Key Attribute ิ ี่ ํ 4) Single - Valued Attributeแอททริบวต์ทมคาของข้อมูลได้เพียงแค่คาเดียว เช่น ิ ่ี ี ่ ่ แอททริบวต์เพศ ทีระบุได้เพียง ชาย หรือ หญิง เท่านัน เพราะมนุษย์มเี พียงเพศเดียว ิ ่ ้ 5) Multi - Valued Attributeมีลกษณะตรงข้ามกับแบบ Single Attribute ทีสามารถ ั ่ มีคาของข้อมูลได้หลายค่า เช่น พนักงานแต่ละคนมีระดับการศึกษาทีแตกต่างกันสัญลักษณ์ของ Multi- ่ ่ Valued Attribute 6) Derived Attributeเป็ นแอททริบวต์ทได้มาจากการคํานวณ โดยอาศัยค่าในแอทท ิ ่ี ริบวต์อ่นๆ เช่น ค่าของอายุ ทีได้มาจากแอททริบวต์วนเกิด สัญลักษณ์ของ Derived Attribute ิ ื ่ ิ ั 10   
  • 17.     2.2.6.3 รีเลชัน (Relation)เป็ นความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิต้ี เช่น รีเลชันระหว่างเอนทิต้ี ่ ่ นักงานกับเอนทิตใบสังอาหาร มีความสัมพันธ์ คือ พนักงานเป็ นคนเขียนใบสังอาหารทีรบรายการมาจาก ้ี ่ ่ ่ั ลูกค้า 2.3 รหัสแท่ง (Barcode) [3] Barcode Scanner หรือ เครืองอ่านบาร์โค๊ด คือ เป็ นอุปกรณ์ทใช้อานข้อมูลทีอยูในแท่งบาร์โค้ด ่ ่ี ่ ่ ่ แล้วแปลงให้เป็ นข้อมูลทีสามารถเข้าใจได้โดยคอมพิวเตอร์หน้าทีของเครืองอ่านบาร์โค้ด ่ ่ ่ 1. หา Elements ทีถูกต้องของ Bar และ Space ่ 2. กําหนดส่วนกว้างของแต่ละ Bar และ Space 3. จัดกลุ่มของบาร์โค้ดทีอานเข้ามา ่่ 4. นํา Element Widths เปรียบเทียบกับรูปแบบตารางบาร์โค้ด 5. ตรวจสอบ Start/Stop Characters เวลาทีมการอ่านกลับทิศทาง ่ ี 6. ยืนยัน Quiet Zone ทังสองข้างของบาร์โค้ด ้ 7. ยืนยันความถูกต้องของ Check Characters 2.3.1 หลักการทํางานของเครืองอ่านบาร์โค๊ด ่ 1. เครืองอ่าน (Reader) ฉายแสงลงบนแท่งบาร์โค้ด หรือ แหล่งกําเนิดแสง (Light Source) ่ ภายในเครืองอ่านบาร์โค้ดจะฉายแสงลงบนแท่งบาร์โค้ด และกวาดแสงอ่านผ่านแท่งบาร์ ่ รูปที่ 2.1แสดงตัวอย่างรหัสแท่ง 11   
  • 18.     2. รับแสงทีสะท้อนกลับมาจากตัวบาร์โค๊ด ฉายการอ่านบาร์โค้ดจะใช้หลักการสะท้อนแสง ่ กลับมาทีตวรับแสง ่ ั รูปที่ 2.2 แสดงการทํางานของตัวอ่านรหัสแท่ง 3. เปลียนปริมาณแสงทีสะท้อนกลับมาให้เป็ นสัญญาณไฟฟ้า ภายในเครืองอ่านบาร์โค้ดจะมี ่ ่ ่ อุปกรณ์เปลียนปริมาณแสง ทีสะท้อนกลับมาให้เป็ นสัญญาณทางไฟฟ้า ่ ่ รูปที่ 2.3 แสดงตัวอย่างข้อมูลทีเครืองอ่านรหัสแปลงได้แปลงสัญญาณ ่ ่ 4. เปลียนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็ นข้อมูลทีนําไปใช้งานได้ สัญญาณไฟฟ้าจะไปเปรียบเทียบ ่ ่ กับตารางบาร์โค้ดที่ ตัวถอดรหัส (Decoder) และเปลียนให้เป็ นข้อมูลทีสามารถนําไปใช้งานได้ ่ ่ 12   
  • 19.     รูปที่ 2.4 แสดงลําดับการทํางานของเครืองอ่านรหัสแท่ง ่ สรุปหลักการทํางานของเครืองอ่านบาร์โค้ด เครืองอ่านบาร์โค้ดจะฉายแสงลงบนแท่งบาร์โค้ด แล้ว ่ ่ รับแสงทีสะท้อนกลับจากแท่งบาร์โค้ด ซึง Space จะสะท้อนแสงได้ดกว่าแท่งBar จากนันปริมาณแสง ่ ่ ี ้ สะท้อนจะถูกเปลียนไปเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้า แล้วถูกส่งต่อไปยังตัวถอดรหัส (Decoder) และแปลงให้เป็ น ่ ข้อมูลทีสามารถนําไปใช้งานได้ ่ รูปที่ 2.5 แสดงภาพรวมการทํางาน 2.3.2 ประเภทของเครืองอ่านบาร์โค้ด จําแนกออกได้ 2 กลุ่มใหญ่คอ เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบสัมผัส ่ ื ่ และ เครืองอ่านบาร์โค้ด ไมสมผัส และยังสามารถแยกประเภทตามลักษณะการเคลื่อนย้ายได้ โดยแบ่งกลุ่ม ่ ่ ั เป็ นเครองอ่านบาร์โค้ด แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable) และ เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบยึดติดกับที่ (Fixed ่ื ่ Positioning Scanners) 2.3.2.1 เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable) เครืองอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ ่ ่ ่ ่่ ่ ส่วนมากจะมีหน่วยความจําในตัวเอง เพือเก็บข้อมูลทีอานหรือบันทึกด้วยปุมกดสามารถนําอุปกรณ์ไปใช้ได้ ง่ายโดย สามารถพกพาได้ การอ่านรหัสแต่ละครังจะนําเอาเครืองอ่านเข้าไปยังตําแหน่งทีสนค้าอยู่ ส่วนมาก ้ ่ ่ ิ เครืองอานลักษณะนี้จะมีน้ําหนักเบา ส่วนแบบทีไม่มหน่วยความจําในตัวเองจะทํางานแบบไร้สายเหมือน ่ ่ ่ ี โทรศัพท์ไร้สาย ทีใช้ภายในบ้านซึงมีขอจํากัดเรืองระยะทาง ่ ่ ้ ่ 2.3.2.2 เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบยึดติดกับที่ (Fixed Positioning Scanners) เครือง อ่าน ่ ่ บาร์โค้ด ประเภทนี้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ส่วนมากจะติดตังกับด้านข้าง หรือตําแหน่งใดๆ ทีเหมาะสมใน ้ ่ แนวทางวิงของสายพานลําเลียง เพืออ่านรหัสทีตดกับบรรจุภณฑ์และเคลื่อนทีผานไปตามระบบสายพาน ่ ่ ่ ิ ั ่ ่ ลําเลียง บางครังเครืองอ่านประเภทนี้จะติดตังภายในอุปกรณ์ของระบบสายพานลําเลียง เพือให้สามารถอ่าน ้ ่ ้ ่ 13   
  • 20.     อตังไว้ดานข้าง เครืองอ่านจะทําการอ่าน ื ้ ้ ่ บาร์โค้ดโดยอัตโนมัติ เมือมีวตถุเคลื่อนไหวอยูขางหน้าตัวเครือง ่ ั ่ ้ ่ 2.3.2.3 เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบสัมผัส (Contact Scanners) เครืองอ่านบาร์โค้ดประเภทนี้ ่ ่ เป็ นอุปกรณ์ทเี่ วลาอ่าน ต้องสัมผัสกับผิวหน้าของรหัสแท่ง แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม คือเครืองอ่านบาร์โค้ดแบบ ่ ปากกา (Pen Scanner) หรือแวนด์ (Wand) เป็ นเครืองอ่านบาร์โค้ด ที่ มีลกษณะเหมือนหัวปากกา โดยม ี ่ ั ปลายปากกาเป็ นอุปกรณ์สาหรับผลิตลําแสงเพืออ่านข้อมูล นํ้าหนักเบา พกพาสะดวก มีขอจํากัดเรือง ํ ่ ้ ่ คุณภาพฉลากต้องดีมาก เพราะหัวอ่านทีสมผสบนรหัสแท่งอาจจะทําให้รหัสลบหรือเสียหายได้ เหมาะ ่ ั ั สําหรับอ่านบาร์โค้ดบนเอกสารหรือคูปอง 2.3.2.4เครืองอ่านบาร์โค้ดแบบไม่สมผัส (Non Contact Scanner) ่ ั เป็ น เครืองอ่านบาร์โค้ด ทีมหลายรูปแบบจากแบบง่ายๆ ทีลกษณะคล้ายปี นทีเห็นตามร้านค้าปลีก จนถึง ่ ่ ี ่ ั ่ ระบบแบบ Pocket PC สามารถอ่านโดยห่างจากรหัสแท่งได้ ทําให้ทางานได้รวดเร็ว ง่ายและสะดวก โดย ํ แบ่งเป็ นหลายชนิดดังนี้ 1) เครืองอ่านบาร์โค้ดแบบ CCD (Charge Coupled Device Scanner) เครืองอ่าน ่ ่ บาร์โค้ด ประเภทนี้ เป็ นเครืองอ่านราคาถูก การทํางานจะอาศัยการสะท้อนของแสงจากรหัสแท่งและช่องว่าง ่ แล้วเปลียนเป็ น สัญญาณวีดโอ เครืองอ่านแบบนี้ในขณะอ่านจะไม่มการเคลื่อนทีชนส่วน ความแม่นยําจะสูง ่ ี ่ ี ่ ้ิ กว่าแบบเลเซอร์ ใช้พลังงานน้อย อายุการใช้งานของอุปกรณ์ในการสร้างลําแสง (LED) จะยาวนานกว่า เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบนี้ยงเป็ นแบบตัดวงจรไฟอัตโนมัตในกรณีทไม่มการใช้งาน ่ ั ิ ่ี ี 2) เครืองอ่านบาร์โคดแบบ Linear Imaging เครืองอ่านบาร์โค้ด ประเภทนี้ เป็ น ่ ่ เครืองอ่านบาร์โค้ด ทีใช้หลักการอ่านโดยวิธจบภาพโดยเลนซ์รบภาพเช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูป ทําให้ระบบ ่ ่ ีั ั หัวอ่านมีความสามารถในการอ่านในเชิงเรขาคณิตสูงกว่าเครืองอ่านแบบ CCD สามารถอ่านบาร์โค้ดขนาด ่ เล็กมากๆได้ เนื่องจากใช้การอ่านด้วยตัวเลนซ์รบภาพทําให้จบภาพได้ระยะไกลขึน อ่านได้เร็วถึง 100-450 ั ั ้ scan ต่อวินาที ดังนันจึงอาจกล่าวได้วา เครืองอ่านบาร์โค้ด แบบ Linear Imaging มีความสามารถในการ ้ ่ ่ อ่านและความเร็วในการอ่านเหนือว่าการอ่านแบบ CCD แต่มความทนทานเหมือนกัน และอ่านในระยะไกล ี ได้เทียบเท่ามาตรฐานของเครืองอ่านบาร์โค้ด แบบเลเซอร์ ่ 3) เครืองอ่านบาร์โค้ดแบบเลเซอร์ ( Laser Scanner) เครืองอ่านบาร์โค้ด ชนิดนี้ม ี ่ ่ ่ ่ วิธการทํางาน คือเมือกดปุมอ่านรหัสจะเกิดลําแสงเลเซอร์ซงมีกระจกเงาเคลื่อนทีมารับแสง แล้วสะท้อนไป ี ่ึ ่ ตกกระทบกับรหัส และผ่านเป็ นแนวเส้นตรงเพียงครังเดียว ลําแสงทียงออกมาจะมีขนาดเล็กด้วย ความถี่ ้ ่ ิ เดียว ไมกระจายออกไปนอกเขตทีตองการทําให้สามารถอ่านรหัสทีมขนาดเล็กได้ดี ่ ่ ้ ่ ี ไวดวย ้ ้ 14   
  • 21.     2.2.7 นอร์มลไลซ์ (Normalization) ั [4] คือวิธทใช้ในการปรับโครงสร้างของตารางให้อยูในรูปแบบทีเป็ นบรรทัดฐาน(Normal Form) ี ่ี ่ ่ ่ ี ั เพือให้สามารถเก็บข้อมูลได้โดยไม่มปญหาใดๆ ใช้ในการออกแบบฐานข้อมูลทีเป็ นแบบ Relational ่ Databaseการทํานอร์มลไลซ์ เป็ นขันตอนหนึ่งในการออกแบบระบบฐานข้อมูลทีกระทําหลงจากได้ตาราง ั ้ ่ ั ER Diagram และก่อนขันตอนทีจะนําตารางไปสร้างฐานข้อมูล โดยมีขนตอนดังนี้ [5] ้ ่ ั้ 2.2.7.1 เปลียนตารางทียงไม่เคย Normalization เป็ น First Normal Form หรือ 1NF ่ ่ ั วธพจารณา คือ แยกข้อมูลเป็ นระเบียน โดยไม่มการจัดกลุ่ม ิี ิ ี ่ ่ ตารางที่ไม่ผานการ normalization ตารางที่ผานการ normalization ในระดับ 1NF orderid orderdate productid quan orderid orderdate productid quan 305 31/01/47 432 20 305 31/01/47 432 20 455 2 467 1 305 31/01/47 455 2 305 31/01/47 467 1 ่ ่ ่ ี ั 2.2.7.2 เปลียนจาก 1NF เป็ น 2NF(Second Normal Form) คือการเปลียนตารางทีมปญหา 4 ประการ วิธพจารณาเปลียน 1NF เป็ น 2NF คือ ไม่มี non key ตัวใด ไม่สมพันธ์กบ primary key (ให้ ี ิ ่ ั ั พิจารณาเฉพาะ non key และ primary key) สิงทีได้จากตาราง 1 ตาราง จะแตกออกมาเป็ นหลายตาราง ่ ่ ั 2.2.7.3 เปลียนจาก 2NF เป็ น 3NF(Third Normal Form) คือแก้ปญหายังไม่หมด อาจยังมี ่ ่ ี ั ข้อมูลทีมปญหาอีก จึงต้องทํา 3NF วิธพจารณาเปลียน 2NF เป็ น 3NF คือ ไม่มี non key ตัวใด ขึนอยูกบ ี ิ ่ ้ ่ ั non key ตัวอืนใน entity เดียวกัน (ให้พจารณาเฉพาะ non key และ non key) ่ ิ จาก orders (orderid,custid,custname,date,proid,proname,price,quantity) เป็ น orders (orderid,custid,date) เป็ น customers (custid,custname) เป็ น order details (orderid,proid,price,quantity) เป็ น products (proid,proname) 15   
  • 22. บทที่ 3 วิเคราะห์และออกแบบระบบ 3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูง (Context Diagram) คือ ผังแสดงข้อมูลทีเข้าสูระบบและข้อมูลทีออกจากระบบ รวมทังบุคคลทีเกียวข้องกับระบบ โดยผัง ่ ่ ่ ้ ่ ่ แสดงการไหลของข้อมูลระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก ประกอบไปด้วนกระบวนการต่างๆ ตามขันตอน ดังรูปที่ ้ 3.1 รูปที่ 3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูงของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก 16   
  • 23. จากรูปที่ 3.1 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับสูงของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก มีกลุมบุคคลทีเกียวข้อง ่ ่ ่ ด้วยทังหมด 4 กลุ่ม คือ เจ้าของกิจการ ลูกค้า พนักงาน และผูจดจําหน่าย ซึงการดําเนินงานจะเริมจาก ้ ้ั ่ ่ เจ้าของกิจการได้นําข้อมูลพืนฐานเข้าสูระบบ เช่น ข้อมูลสินค้า ข้อมูลประเภทสินค้า ข้อมูลลูกค้า ข้อมูล ้ ่ พนักงาน เป็ นต้น จากนันลูกค้าจะมาซือสินค้าแล้วใช้ขอมูลพืนฐานนันมาใช้ประโยชน์ โดยผ่านตัวกลางใน ้ ้ ้ ้ ้ การทํางานผ่านระบบคือ พนักงานทีจะทําหน้าทีประจําจุดขายสินค้าและเป็ นคนให้ขอมูลสินค้าแต่ละชนิดที่ ่ ่ ้ ลุกค้าต้องการโดยใช้ขอมูลพืนฐานทีได้นําเข้าสูระบบไปก่อนหน้านี้แล้ว ้ ้ ่ ่ 17   
  • 24. 3.2 ผังกระแสข้อมูลระดับต่างๆ (Data Flow Diagram) ระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีกสามารถแสดงเป็ นผังแสดงฐานข้อมูลต่างๆ ได้ดงนี้ ั รูปที่ 3.2 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับ 1 ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก 18   
  • 25. รูปที่ 3.3 ผังแสดงกระแสข้อมูลระดับ 1 ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก (ต่อ) จากรูปที่ 3.2 และ 3.3 แสดงผังแสดงกระแสข้อมูลระดับ 1 ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก แสดงให้ ทราบถึงกระบายการทํางานหลักของระบบ โดยมีกระบานการทํางานหลักๆ ทังสิน 9 กระบวนการได้ คือ ้ ้ 3.2.1 กระบวนการที่ 1 เพิมลูกค้าใหม่ ่ 3.2.1.1 ลูกค้าได้ให้ขอมูลแก่พนักงาน ้ 3.2.1.2 พนักงานบันทึกข้อมูลลงสูระบบ ่ 3.2.2 กระบวนการที่ 2 ขายสินค้า 3.2.2.1 ลูกค้ายืนสินค้าให้พนักงานสแกนบาร์โค้ดสินค้าทังหมด ่ ้ 3.2.2.2 ระบบจะคิดเงินทังหมด พนักงานรับเงินจากลูกค้าแล้วคิดเงิน ้ 19   
  • 26. 3.2.3 กระบวนการที่ 3 สังจองสินค้า ่ 3.2.3.1 ลูกค้าทีจะสังจองได้นนได้เป็ นลูกค้าประทีมขอมูลอยูในระบบฐานข้อมูลแล้วเท่านัน ่ ่ ั้ ่ ี ้ ่ ้ ลูกค้าแจ้งชื่อสินค้าทีตองการ โดยพนักงานเป็ นคนบันทึกข้อมูล ่ ้ 3.2.2.2 ระบบแสดงราคาสุทธิทงหมด ั้ 3.2.2.3 ลูกค้าชําระเงินมัดจําและรับเงินทอน 3.2.4 กระบวนการที่ 4 รับสินค้า 3.2.4.1 ลูกค้าแสดงรหัสลูกค้า หรือแสดงข้อมูลเพือค้นหาข้อมูลการจอง ่ 3.2.4.2 ระบบแสดงข้อมูลสินค้าทีได้จองไว้ และแสดงข้อมูลการชําระเงิน ่ 3.2.4.3 ลูกค้าชําระเงินทีเหลือ และรับสินค้าทีได้ทาการจองไว้ ่ ่ ํ 3.2.5 กระบวนการที่ 5 คืนสินค้า 3.2.5.1 ลูกค้าแสดงใบเสร็จ และสินค้าทีตองการจะคืน ่ ้ 3.2.5.2 พนักงานนําข้อมูลสินค้าทีนํามาคืนเข้าสูระบบ ่ ่ 3.2.6 กระบวนการที่ 6 สังสินค้า่ 3.2.6.1 เจ้าของกิจการเข้าไปทําการสังสินค้า ระบบจะแสดงสินค้าทีต่ํากว่าจุดสังซือและ ่ ่ ่ ้ สินค้าทีลกค้าสังจองล่วงหน้าไว้ โดยสามารถเพิมสินค้าทีตองการได้ ู่ ่ ่ ่ ้ 3.2.6.2 ระบบจะออกใบสังซือทีได้บนทึกเข้าสูระบบไว้แล้ว ่ ้ ่ ั ่ 3.2.7 กระบวนการที่ 7 จัดการข้อมูลพืนฐาน ้ 3.2.7.1 เจ้าของกิจการจะเป็ นผูททาหน้าทีสวนนี้โดย จะกรอกข้อมูลเข้าสูระบบ ้ ่ี ํ ่่ ่ 3.2.7.2 ระบบทําการตรวจสอบข้อมูลว่ามีการซํ้าซ้อนกันขอข้อมูลหรือไม่ หากไม่กทาการ ็ ํ บันทึกลงฐานข้อมูล แต่หากมีการซํ้าซ้อนก็ตองการการกรอกข้อมูลใหม่ ้ 3.2.8 กระบวนการที่ 8 พิมพ์รายงาน 3.2.8.1 เจ้าของกิจการเลือกเงือนไขในการแสดงรายงาน เช่น รายงานการสังจองสินค้า ่ ่ รายงานการขายประจําวัน เป็ นต้น 3.2.8.2ระบบทําการพิมพ์รายงานตามเงือนไขทีได้เลือกไว้ ่ ่ 3.2.9 กระบวนการที่ 9 ค้นหาสินค้า 3.2.9.1 พนักงานจะเป็ นคนค้นหาสินค้า เมือลูกค้าต้องการหาสินค้าแต่ไม่สามารถหาได้พบ ่ 3.2.9.2 ระบบจะแสดงสินค้าตามเงือนไขทีได้เลือกไว้ก่อนการค้นหา ่ ่ 20   
  • 27. รูปที่ 3.4 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการเพิมลูกค้าใหม่ ่ 3.2.10 กระบวนการที่ 1 เพิมลูกค้าใหม่ ่ 3.2.10.1 กระบวนการที่ 1.1 ตรวจสอบข้อมูล ระบบจะทําการตรวจสอบข้อมูลทีลกค้าได้ให้มาว่าถูกต้องหรือไม่ เคยมีการบันทึก ู่ ข้อมูลเข้าไปในฐานข้อมูลแล้วหรือยัง 3.2.10.2 กระบวนการ 1.2 บันทึกข้อมูลลูกค้าใหม่ บันทึกข้อมูลทีได้ทาการตรวจสอบแล้ว ่ ํ 21   
  • 28. 2.1 ข้อมูลลูกค้า ตรวจสอบ ข้อมูลลูกค้า D1 ลูกค้า การเป็นลูกค้า สถานะลูกค้า 2.2 สินค้าทีซื้อ ่ ข้อมูลสินค้า D3 สินค้า ตรวจสอบข้อมูลสินค้า สินค้าคงเหลือ ลูกค้า ข้อมูลการขาย 2.3 2.5 แจ้งราคาสุทธิ หักลบจํานวน คํานวนราคา สินค้าที่ขาย ข้อมูลการขาย 2.4 สินค้าที่ขาย ข้อมูลการชําระเงิน ข้อมูลการขาย D7 การขาย บันทึกการขาย D2 พนักงาน ข้อมูลพนักงาน ข้อมูลการขาย รหั สพนักงาน 2.7 2.6 ใบเสร็จ รับรหัสพนักงาน ออกใบเสร็จ ทีทาการขาย ่ ํ รูปที่ 3.5 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการขายสินค้า 3.2.11 กระบวนการที่ 2 ขายสินค้า 3.2.11.1 กระบวนการ 2.1 ตรวจสอบการเป็ นลูกค้า ลูกค้าตรวจสอบการเป็ นลูกค้ากับระบบ ซึงหากมีขอมูลก็จะได้รบส่วนลด ่ ้ ั 3.2.11.2 กระบวนการ 2.2 ตรวจสอบข้อมูลสินค้า พนักงานบันทึกข้อมูลสินค้าทีลกค้าได้เลือกไว้ ู่ 3.2.11.3 กระบวนการ 2.3 คํานวณราคา คํานวณราคาสินค้าทีได้ แล้วแสดงผ่านทางหน้าจอ ่ 3.2.11.4 กระบวนการ 2.4 บันทึกการขาย ลูกค้าชําระเงิน และรับเงินทอนตามทีระบบคํานวณ จากนันจึงทําการบันทึกข้อมูล ่ ้ 22   
  • 29. 3.2.11.5 กระบวนการ 2.5 หักลบจํานวนสินค้าทีขาย ่ นําจํานวนสินค้าทีขายได้ไปหักลบกับจํานวนสินค้าทีอยูในคลังสินค้า เพือให้จานวน ่ ่ ่ ่ ํ สินค้าอยูในจํานวนทีควรจะเป็ น ่ ่ 3.2.11.6 กระบวนการ 2.6 รับรหัสพนักงานขายทีทาการขาย ่ ํ รับรหัสพนักงานโดยรหัสพนักงานขายนี้จะนําได้จากการทีพนักงานได้ทาการ ่ ํ ล็อกอินเข้าสูระบบเมือตอนเริมโปรแกรม โดยจะถูกบันทึกเข้าสูขอมูลการขาย ่ ่ ่ ่ ้ 3.2.11.7 กระบวนการ 2.7 ออกใบเสร็จ ออกใบเสร็จโดยใช้ขอมูลจากการขาย ้   รูปที่ 3.6 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการสังสินค้าของลูกค้า ่ 3.2.12 กระบวนการที่ 3 สังจองสินค้า ่ 3.2.12.1 กระบวนการ 3.1 ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า ตรวจสอบข้อมูลลูกค้าหากไม่ใช่ลกค้าจะไม่ทาการสังจองได้ ู ํ ่ 3.2.12.2 กระบวนการ 3.2 รับข้อมูลสินค้าสังจอง ่ รับข้อมูลสินค้าทีลกค้าต้องการ ู่ 3.2.12.3 กระบวนการ 3.3 คํานวณราคาสินค้า คํานวณราคาสินค้าสุทธิ แจ้งราคาสุทธิ ให้ลกค้าชําระเงินมันจํา ู 23   
  • 30. 3.2.12.4 กระบวนการ 3.4 นําข้อมูลทีได้นําไปบันทึกลงฐานข้อมูล ่ รูปที่ 3.7 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการรับสินค้าทีสงของลูกค้า ่ ั่ 3.2.13 กระบวนการที่ 3 รับสินค้า 3.2.13.1 กระบวนการ 4.1 ค้นหาข้อมูลการจอง ตรวจสอบข้อมูลว่าลูกค้าได้มการสังจองสินค้าล่วงหน้าหรือไม่ ี ่ 3.2.13.2 กระบวนการ 4.2 คํานวณราคา 24   
  • 31. เมือพบข้อมูลการจองจึงทําการคํานวณค่าใช้จาย และแสดงค่าใช้จายทีเหลือในกรณี ่ ่ ่ ่ ทีลกค้าได้จายเงินมัดจําไปแล้ว ู่ ่ 3.2.13.3 กระบวนการ 4.3 อัพเดทสถานการณ์จอง เปลียนแปลงข้อมูลการจองของลูกค้าให้เป็ นสถานะทีควรจะเป็ น เช่น รับสินค้าแล้ว ่ ่ เป็ นต้น 3.2.13.4 กระบวนการ 4.4 บันทึกข้อมูลการขาย นําข้อมูลการจองทังหมดมาบันทึกลงข้อมูลการขาย ้ 3.2.13.5 กระบวนการ 4.5 หักลบจํานวนทีขาย่ นําจํานวนสินค้าทีขายได้ไปหักลบกับจํานวนสินค้าทีอยูในคลังสินค้า เพือให้จานวน ่ ่ ่ ่ ํ สินค้าอยูในจํานวนทีควรจะเป็ น ่ ่ 3.2.13.6 กระบวนการ 4.6 รหัสพนักงานทีทาการขาย ่ ํ รับรหัสพนักงานโดยรหัสพนักงานขายนี้จะนําได้จากการทีพนักงานได้ทาการ ่ ํ ล็อกอินเข้าสูระบบเมือตอนเริมโปรแกรม โดยจะถูกบันทึกเข้าสูขอมูลการขาย ่ ่ ่ ่ ้ 3.2.12.7 กระบวนการ 4.7 ออกใบเสร็จ ออกใบเสร็จโดยใช้ขอมูลจากการขาย ้   รูปที่ 3.8 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการคืนสินค้า 3.2.14 กระบวนการที่ 5 คืนสินค้า 3.2.14.1 กระบวนการที่ 5.1 ตรวจสอบเลขทีใบเสร็จ ่ ค้นหาข้อมูลการขายจากเลขทีใบเสร็จทีลกค้าได้นํามาแสดง ่ ู่ 25   
  • 32. 3.2.14.1 กระบวนการที่ 5.2 บันทึกการคืนสินค้า ตรวจสอบข้อมูลสินค้าทีนํามาคืน เมือครบทุกชินแล้วจึงจะบันทึกข้อลงข้อมูลการคืน ่ ่ ้ สินค้า และไปปรับจํานวนสินค้าให้เพิมขึนเพือให้สอดคล้องกับสินค้าทีคงคลัง ่ ้ ่ ่ 3.2.14.1 กระบวนการที่ 5.3 ลบออกจากข้อมูลการขาย ลบสินค้าออกจากข้อมูลการขาย 26   
  • 33. รูปที่ 3.9 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการออกใบสังซือและรับสินค้าเข้าร้าน ่ ้ 27   
  • 34. 3.2.15 กระบวนการที่ 6 สังสินค้า ่ 3.2.15.1 กระบวนการที่ 6.1 ข้อมูลสินค้าทีลกค้าสัง่ ู่ แสดงข้อมูลสินค้าทีลกค้าได้สงไว้และยังไม่ได้มารับ ู่ ั่ 3.2.15.2 กระบวนการที่ 6.2 ข้อมูลสินค้าทีจานวนตํ่ากว่าจุดสังซือ ่ํ ่ ้ แสดงสินค้าทีมจานวนคงคลังเหลืออยูต่ํากว่าทีได้กาหนดไว้ ่ ีํ ่ ่ ํ 3.2.15.3 กระบวนการที่ 6.3 รับจํานวนสินค้าทีสง่ั ่ รับข้อมูลสินค้าทีได้จากกระบวนการที่ 6.1 และ 6.2 และระบุจานวนทีตองการสัง่ ่ ํ ่ ้ ซึงสามารถเพิมรายชื่อสินค้าทีตองการสังซือสินค้าได้ ่ ่ ่ ้ ่ ้ 3.2.15.4 กระบวนการที่ 6.4 บันทึกข้อมูลการซือ ้ บันทึกข้อมูลการสังซือ ่ ้ 3.2.15.5 กระบวนการที่ 6.5 ออกใบสังซือ ่ ้ นําข้อมูลการสังซือล่าสุดทีได้มาออกใบสังซือ และนําไปสังสินค้ากับผูจดจําหน่าย ่ ้ ่ ่ ้ ่ ้ั 3.2.15.6 กระบวนการที่ 6.6 รับใบส่งสินค้า รับใบส่งสินค้าจากผูจดจําหน่าย กรอกข้อมูลสินค้าทีผจดจําหน่ายนํามาส่ง ้ั ่ ู้ ั 3.2.15.7 กระบวนการที่ 6.7 บันทึกข้อมูลการซือ ้ บันทึกลงข้อมูลการซือ ้ 3.2.15.8 กระบวนการที่ 6.8 คํานวณต้นทุนและราคาขาย คํานวณต้นทุนต่อหน่วย เจ้าจองกิจการจะเป็ นผูกาหนดราคาต่อหน่วยของสินค้า ้ ํ และเมือมีการเปลียนแปลงราคาสินค้า ข้อมูลสินค้าทีมการเปลียนแปลงราคาขายต่อหน่วยจะถูกบันทึกลง ่ ่ ่ ี ่ ข้อมูลราคาสนิคาย้อนหลัง ้ 28   
  • 35. รูปที่ 3.10 ผังแสดงกระแสข้อมูล ระดับที่ 2 ของกระบวนการเพิมข้อมูลพืนฐาน ่ ้ 29   
  • 36. 3.2.16 กระบวนการที่ 7 จัดการข้อมูลพืนฐาน ้ 3.2.16.1 กระบวนการที่ 7.1, 7.3, 7.5, 7.7, 7.9 และ 7.11 ตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลทีได้กรอกเข้ามาว่าเคยบันทึกข้อมูลลงระบบหรือไม่ ซํ้าซ้อนกับ ่ ข้อมูลเก่าหรือไม่ 3.2.16.1 กระบวนการที่ 7.2, 7.4, 7.6, 7.8, 7.10 และ 7.12 บันทึกข้อมูล บันทึกข้อมูลทีได้ผานการตรวจสอบข้อมูลลงระบบ ่ ่ 30   
  • 37. 3.3 ผังแสดงความสัมพันธ์ของแฟ้ มข้อมูล (Entity-Relationship Diagram) รูปที่ 3.10 Entity-Relationship Diagram ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก 31   
  • 38. 3.4 Mapping Entity-Relationship Diagram รูปที่ 3.10 Entity-Relationship Diagram ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก 32   
  • 39. 3.5 พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary) จากผังแสดงความสัมพันธ์ของแฟ้มข้อมูลของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก นํามาออกแบบ พจนานุกรมข้อมูล มีทง หมด 15 ตาราง ดังต่อไปนี้ ั้ 3.1 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Province ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Province_id Int 2 หมายเลขจังหวัด Not Null PK Province_name Varchar 50 ชื่อจังหวัด Not Null 3.2 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Supplier ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Sup_id Int 4 เลขทีผจดจําหน่าย ่ ู้ ั Not Null PK Sup_name Varchar 50 ชื่อผูจดจําหน่าย ้ั Not Null Sup_address Varchar 100 ทีอยูผจดจําหน่าย ่ ่ ู้ ั Sup_tel Varchar 20 หมายเลขโทรศัพท์ตดต่อ ิ Not Null Contract_name Varchar 50 ชื่อผูทตดต่อ ้ ่ี ิ Province_id int 2 หมายเลขจังหวัด Not Null FK 3.3 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Shelf ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Shelf_no Int 4 หมายเลขชันวางสินค้า ้ Not Null PK Shelf_name varchar 50 ชื่อของชันวางสินค้า ้ 33   
  • 40. 3.4 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Product_Category ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Cate_id Int 4 รหัสประเภทสินค้า Not Null PK Cate_name Varchar 50 ชื่อประเภทสินค้า 3.5 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Previous_Cost ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Pro_id Int 20 รหัสสินค้า Not Null FK Pro_cost Decimal 6,2 ต้นทุนต่อหน่วย Not Null Pro_salePrice Decimal 6,2 ราคาขายปกติ Not Null Pro_memberPrice Decimal 6,2 ราคาลูกค้าประจํา Not Null Record_date Datetime 8 วันเวลาทีบนทึก ่ ั Not Null 3.6 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Product ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Pro_id Int 20 รหัสสินค้า Not Null PK Pro_name Varchar 100 ชื่อสินค้า Not Null Pro_cost Decimal 6,2 ต้นทุนต่อหน่วย Not Null Pro_salePrice Decimal 6,2 ราคาขายปกติ Not Null Pro_menberPrice Decimal 6,2 ราคาลูกค้าประจํา Not Null Pro_amount Int 5 จํานวนสินค้าในคลังสินค้า Not Null Cate_id Int 4 รหัสประเภทสินค้า Not Null FK Shelf_no Int 4 หมายเลขชันวางสินค้า ้ Not Null FK Sup_id Int 4 เลขทีผจดจําหน่าย ่ ู้ ั Not Null FK Point_ofSale Int 5 จํานวนจุดสังซือ ่ ้ Not Null Pro_status Int 1 สถานะสินค้า Not Null 1 : มีขาย 2 : ยกเลิกสินค้านี้ 34   
  • 41. 3.7 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Employee ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Emp_id Int 5 เลขทีพนักงาน ่ Not Null PK User_name Varchar 10 Username Not Null Pass_word Varchar 10 Password Not Null Emp_name Varchar 50 ชื่อ-นามสกุลจริง Not Null Emp_status Int 1 สถานะพนักงาน Not Null 1 : เข้าระบบได้ 2 : ไม่อนุญาตให้เข้าได้ Emp_type Int 1 ประเภทของพนักงาน Not Null 1 : พนักงาน 2 : เจ้าของกิจการ 3.8 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Customer ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Cust_id Int 10 รหัสลูกค้า Not Null PK Cust_name Varchar 50 ชื่อ Not Null Cust_lastName Varchar 50 นามสกุล Cust_address Varchar 100 ทีอยู่ ่ Province_id Int 2 หมายเลขจังหวัด Not Null FK Cust_tel Varchar 20 โทรศัพท์ Not Null Admit_date Datetime 8 วันทีเก็บข้อมูลเข้าระบบ ่ Not Null Cust_picture Image รูปลูกค้า Cust_status Int 1 สถานะลูกค้า Not Null 1 : ซือสินค้าได้ ้ 2 : ยกเลิกลูกค้ารายนี้ 35   
  • 42. 3.9 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Sale ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Sale_id Int 10 เลขทีการขาย ่ Not Null PK Cust_id Int 10 รหัสลูกค้า Not Null FK Sale_date Datetime 8 วันทีขาย ่ Net_price Decimal 6,2 ราคาสุทธิ Not Null Net_discount Decimal 6,2 ส่วนลดสุทธิ Sale_status Int 1 สถานะการขาย 1 : ยกเลิกการขาย 3.10 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Sale_detail ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Sale_id Int 10 เลขทีการขาย ่ Not Null FK Pro_id Int 20 รหัสสินค้า Not Null FK Amount Int 5 จํานวน Not Null Sale_price Decimal 6,2 ราคาขาย Not Null Discount Decimal 6,2 ส่วนลด 3.11 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Return ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Sale_id Int 10 เลขทีการขาย ่ Not Null FK Pro_id Int 20 รหัสสินค้า Not Null FK Amount Int 5 จํานวน Not Null Return_date Datetime 8 วันเวลาทีคน ่ ื Not Null Comment Varchar 100 หมายเหตุ Return_type int 2 ประเภทการคืน 1 : สินค้าเสียหาย 2 : สินค้าหมดอายุ 36   
  • 43. 3.12 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Order ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Order_id Int 10 เลขทีการสังซือ ่ ่ ้ Not Null PK Cust_id Int 10 รหัสลูกค้า Not Null FK Order_date Datetime 8 วันทีสง่ั ่ Not Null Net_price Decimal 6,2 ราคาสุทธิ Not Null FirstPaid Decimal 6,2 ค่ามัดจํา isPaidAll Int 1 สถานะการจ่ายเงิน 1 : จ่ายยังไม่ครบ 2 : จ่ายครบแล้ว isRecieveAll Int 1 สถานะการรับสินค้า 1 : ได้รบสินค้าครบ ั 2 : ได้รบไม่ครบ ั Receive_date Datetime 8 วันรับสินค้า Not Null Order_status Int 1 สถานะการสังสินค้า ่ 1 : ยกเลิกการสัง่ 2 : ไม่ยกเลิก 3.13 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Order_detail ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Order_id Int 10 เลขทีการสังซือ ่ ่ ้ Not Null FK Pro_id Int 20 รหัสสินค้า Not Null FK Amount Int 5 จํานวน Not Null Sale_price Decimal 6,2 ราคาขาย Not Null Discount Decimal 6,2 ส่วนลด 37   
  • 44. 3.14 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Buy ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Buy_id Int เลขทีการสังซือ ่ ่ ้ Not Null PK Buy_date Datetime วันทีออกใบสังซือ ่ ่ ้ Not Null Receive_date Datetime วันทีรบสินค้า ่ั Paid_date Datetime วันทีจายเงิน ่่ Net_price Decimal 6,2 ราคาสุทธิ Not Null Paid_by Int 5 ชื่อผูจายเงินโดยอิงเลขทีพนักงาน ้่ ่ Receive_by Int 5 ชื่อผูรบสินค้าโดยเลขทีพนักงาน ้ั ่ Buy_status Int 1 สถานะการออกใบสังซือ ่ ้ 1 : ยกเลิกการสัง่ 2 : รับสินค้าแต่ได้ไม่ครบ 3 : รับสินค้าและได้ครบ 3.15 พจนานุ กรมข้อมูลตาราง Buy_detail ประเภท ชื่อแอททริ บิวท์ ขนาด ความหมาย ค่าว่าง คีย์ ข้อมูล Buy_id Int 5 เลขทีพนักงาน ่ Not Null FK Pro_id Int 20 รหัสสินค้า Not Null FK Amount Int 5 จํานวน Not Null price Decimal 6,2 ราคาขาย Not Null 38   
  • 45. 3.6 การออกแบบ Interface ของระบบฐานข้อมูลร้านค้าปลีก รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ 39   
  • 48. รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอการสังจองสินค้า ่ รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ 42   
  • 49. รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอการค้นหาสินค้า รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ 43   
  • 51. รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลพนักงาน รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลประเภทสินค้า 45   
  • 52. รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลผูจดจําหน่าย ้ั รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลช้นวางสินค้า 46   
  • 53. รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอหลักของระบบ รูปที่ 3.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลสินค้า 47   
  • 57. บทที่ 4 การทดสอบระบบ 4.1 ออกแบบการดําเนิ นการในส่วนการเก็บข้อมูล 4.1.1 ค่าคงที่ 4.1.1.1 ชันวางของ ้ 4.1.1.2 ประเภทสินค้า 4.1.1.3 จังหวัด 4.1.1.4 พนักงาน 4.1.1.5 สินค้า 4.1.2 การเข้าใช้งานระบบ 4.1.3 การขายสินค้า 4.1.3.1 การขายสินค้า 4.1.3.2 การคืนสินค้า 4.1.4 การสังสินค้าเข้าร้าน ่ 4.1.4.2 การสังสินค้า ่ 4.1.4.2 การรับสินค้า 4.1.5 การออกใบเสร็จ 4.1.5.1 ออกใบเสร็จการขาย 4.1.5.2 ออกใบสังซือ ่ ้ 51   
  • 58. 4.2 การทดสอบกระบวนการการทํางานแต่ละส่วน 4.2.1 การเข้าใช้ระบบ รูปที่ 4.1 แสดงหน้าจอการเข้าใช้ระบบ 1) กรอก Username และ Password 2) กด Login เพือเข้าสูระบบ หรือกด Cancel เพือปิดหน้าจอ ่ ่ ่ 4.2.2 หน้าจอหลักของโปรแกรม หน้าจอหลักจะประกอบไปด้วยเมนู การจัดการต่างๆ แบ่งเป็ นเมนู การจัดการทัวไป่ และเมนูสาหรับผูดแลระบบ ซึงผูทมสทธิใช้เมนูน้ีได้ตองได้สทธิเป็ นผูดแลระบบหรือเท่านัน หากไม่ได้ ํ ้ ู ่ ้ ่ี ี ิ ้ ิ ้ ู ้ เป็ นจะไม่สามารถมองเห็นเมนูกลุ่มนี้ได้ 52   
  • 59. รูปที่ 4.1 แสดงหน้าจอหลัก รูปที่ 4.2 แสดงหน้าจอหลักทีไม่ได้สทธิ ์เป็นผูดแลระบบ ่ ิ ้ ู 4.2.3 จัดการข้อมูลสมาชิก รูปที่ 4.3 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลสมาชิก 53   
  • 60. ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 4.2.4 จัดการข้อมูลพนักงาน รูปที่ 4.4 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลพนักงาน ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 54   
  • 61. 4.2.5 การจัดการข้อมูลพนักงาน รูปที่ 4.5 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลพนักงาน ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 55   
  • 62. 4.2.6 จัดการข้อมูลผูจดจําหน่าย ้ั รูปที่ 4.6 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลผูจดจําหน่าย ้ั ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 4.2.7 จัดการข้อมูลสินค้า รูปที่ 4.7 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลสินค้า 56   
  • 63. ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 4.2.8 จัดการข้อมูลจุดสังซือ ่ ้ รูปที่ 4.8 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลจุดสังซือ ่ ้ 1) เลือกสินค้ามาแสดง โดยเลือกจากรายชื่อของผูจดจําหน่าย ้ั 2) แก้ไขข้อมูลจุดสังซือ โดยการเปลียนตัวเลขทีชองสุดท้ายของแต่ละบรรทัด ่ ้ ่ ่ ่ 3) กดบันทึกข้อมูลเป็ นอันเสร็จสิน ้ 57   
  • 64. 4.2.9 จัดการข้อมูลต้นทุน รูปที่ 4.9 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลต้นทุน 1) เลือกสินค้ามาแสดง โดยเลือกจากรายชื่อของผูจดจําหน่าย ้ั 2) แก้ไขข้อมูลต้นทุนสินค้า โดยการเปลียนตัวเลขทีชองสุดท้ายของแต่ละบรรทัด ่ ่ ่ 3) กดบันทึกข้อมูลเป็ นอันเสร็จสิน ้ 4.2.10 การรับสินค้าเข้า รูปที่ 4.10 แสดงหน้าจอการรับสินค้าเข้า 58   
  • 65. ่ ่ 1) กรอกรหัสสินค้า/ชื่อสินค้า และจํานวนสินค้าทีรบเข้า กดปุม เพิม ่ั 2) กดบันทึกเพือบันทึกข้อมูลการรับสินค้าเข้า ่ 3) กด ล้างข้อมูล เพือล้างข้อมูลและนําเข้าสินค้าใหม่ ่ 4.2.11 จัดการข้อมูลประเภทสินค้า รูปที่ 4.11 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลประเภทสินค้า ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 59   
  • 66. 4.2.12 จัดการข้อมูลต้นทุนจัดการข้อมูลชันวาง ้ รูปที่ 4.12 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลต้นทุนจัดการข้อมูลชันวาง ้ ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือสมาชิกทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 60   
  • 67. 4.2.13 จัดการข้อมูลจังหวัด รูปที่ 4.13 แสดงหน้าจอจัดการข้อมูลจังหวัด ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) แก้ไขโดยการกดเลือกรายชือจังหวัดทีอยูในตารางด้านล่าง แก้ไขข้อมูลตาม ่ ่ ่ ่ ต้องการ กดปุม แก้ไข เพือแก้ไขข้อมูล ่ 3) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 61   
  • 68. 4.2.14 ออกรายงายการขาย รูปที่ 4.14 แสดงหน้าจอออกรายงายการขาย 1) เลือกช่วงเวลาทีตองการแสดงรายงานการขาย ่ ้ 2) เลือกตรวจสอบ เพือแสดงข้อมูลการขายในตารางด้านล่าง ่ 3) สามารถเลือกนําออกข้อมูลได้ ทังเป็ นเอกสารเวิรด และเอกเซล ้ ์ 62   
  • 69. รูปที่ 4.15 แสดงรายงานการขายแบบเวิรด ์ รูปที่ 4.16 แสดงรายงานการขายแบบเอกเซล 63   
  • 70. 4.2.15 ออกรายงานสินค้าคงคลัง รูปที่ 4.17 แสดงหน้าจอออกรายงานสินค้าคงคลัง 1) เลือกตรวจสอบ เพือแสดงข้อมูลสินค้าคงคลังในตารางด้านล่าง ่ 2) สามารถเลือกนําออกข้อมูลได้ ทังเป็ นเอกสารเวิรด และเอกเซล ้ ์ รูปที่ 4.18 แสดงรายสินค้าคงคลังแบบเวิรด ์ 64   
  • 71. รูปที่ 4.19 แสดงรายสินค้าคงคลังแบบเอกเซล 4.2.16 ขายสินค้า รูปที่ 4.20 แสดงหน้าจอการขายสินค้า 65   
  • 72. ่ ่ 1) กรอกรหัสสินค้า/ชื่อสินค้า และจํานวนสินค้าทีรบเข้า กดปุม เพิม ่ั 2) กดบันทึกเพือบันทึกข้อมูลการรับสินค้าเข้า ่ 3) เลือก คิดเงิน เพือคํานวณเงินทอน ่ 4) กด ล้างข้อมูล เพือล้างข้อมูลและนําเข้าสินค้าใหม่ ่ รูปที่ 4.21 แสดงหน้าจอการคํานวณเงินทอน 66   
  • 73. 4.2.9 คืนสินค้า รูปที่ 4.22 แสดงหน้าจอคืนสินค้า 1) กรอกเลขทีใบเสร็จ ่ 2) จะแสดงสินค้าทีได้ถูกซือไปแล้วจากเลขทีการขายข้างต้น ่ ้ ่ 3) ลากสินค้าทีตองการจะคืนจากตาราง ไปทีตารางสินค้าทีคนและกรอกจํานวนที่ ่ ้ ่ ่ ื ต้องการคืน 4) กดคํานวณค่าปรับ เพือคํานวณเงินทีตองคืนแกลูกค้าไป ่ ่ ้ 5) กดบันทึก เพือบันทึกข้อมูลการคืน ่ 6) กด ล้างรายการ เพือล้างข้อมูลทังหมด ่ ้ 67   
  • 74. 4.2.9 ลูกค้าใหม่ รูปที่ 4.23 แสดงหน้าจอลูกค้าใหม่ ่ ่ 1) เพิมข้อมูลโดย กรอกข้อมูลต่างๆ ในช่องแล้วกดปุม เพิม ่ 2) ลบข้อมูลโดยการกดดับเบิลคลิก ในแถวของข้อมูลทีตองการลบ ้ ่ ้ 68   
  • 75. บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง 5.1 บทสรุป โครงงานนี้ได้ทําการออกแบบโครงสร้างของระบบ โดยมีการสร้าง Dataflow Diagram ของ ขันตอนการทํางานต่างๆ ขึนมาและทําการออกแบบ Entity – Relationship Diagram เพื่อสร้างระบบ ้ ้ ฐานข้อมูลที่ถูกต้อง และครอบคลุมความต้องการของระบบทังหมด เมื่อได้ขอมูลตารางที่ถูกต้องและ ้ ้ ครอบคลุมความต้องการของระบบทังหมดแล้ว ก็จะทําการทดลองใส่ขอมูลจริงลงไป เพื่อดูว่าสามารถ ้ ้ เก็บข้อมูลและเรียกใช้ขอมูลได้จริง จากนันจะนํ าตารางทีได้ทําการสร้างขึนมา ไปเชื่อมโยงกับการเขียน ้ ้ ่ ้ โปรแกรมในการสร้างระบบจริง ั ปญหาทีพบในช่วงของการพัฒนาระบบ บางโครงสร้างของระบบนันผูพฒนายังมองข้าม ส่วนใน ่ ้ ้ ั การทํางานบางส่วนทีจําเป็ น ซึงในการออกแบบในระบบนันจําเป็ นจะต้องมองระบบให้รดกุม และต้องมี ่ ่ ้ ั การเขียนโปรแกรม ที่เป็ นระบบระเบียบ เพื่อความมีประสิทธิภาพในการเรียกใช้และส่งผ่านข้อมูล ซึ่ง เมือผูดาเนินโครงการได้มองข้ามการทํางานในบางส่วนไปนัน ทําให้ตองทําการเขียนกระบวนการทํางาน ่ ้ ํ ้ ้ ย่อยเพิมขึ้นมา เพื่อใช้ในงานที่มลกษณะเฉพาะเพียงงานเดียว ซึ่งจะมีขอเสียคือ เมื่อมีกระบวนการ ่ ี ั ้ ทํางานย่อยในลักษณะนี้เพิมมากขึน จะทําให้การเขียนโปรแกรมไม่มระเบียบ ทําให้ยากในการแก้ไข และ ่ ้ ี พัฒนาต่อไปในอนาคต ั ปญหาเกี่ยวกับขันตอนการเขียนโปรแกรม เนื่องจากการเขียนโปรแกรมนันผูดําเนินโครงการ ้ ้ ้ จําเป็ นจะต้องเขียนโปรแกรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามทีตองการ โดยบางทีในการลําดับขันตอนการ ่ ้ ้ เขียนโปรแกรมนันยังขาดเสถียรภาพ รวมถึงผูพฒนาเองก็ยงขาดประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรมทีดี ้ ้ ั ั ่ พอ ทําให้กระบวนการบางกระบวนการทีได้ได้ออกแบบไว้ต้องมีการปรับเลี่ยนกระบวนการการทํางาน ่ ภายในเล็ก น้ อ ย เพื่อ ให้ผ ลลัพ ธ์ข องระบบใกล้เ คีย งกับ ที่อ อกแบบไว้แ ต่ ต้น จึง ทํา ให้โ ปรแกรมยัง มี ข้อผิดพลาดอยู่ จึงต้องมีการแก้ไขเพือให้โปรแกรมใช้งานได้อย่างถูกต้อง ่ ั ปญหาที่เกิดขึนในช่วงของการทดสอบระบบส่วนใหญ่มาจาก ผลจากการเขียนโปรแกรมที่ไม่ ้ รัดกุมจึงทําให้เกิดข้อผิดพลาด ในการประมวลผล เช่น การคํานวณผลต่าง ๆ การแสดงค่าต่าง ๆ ซึ่ง ข้อผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมเหล่านี้อาจทําให้เกิดผลเสียอย่างมาก เมื่อทําการนําระบบไปใช้ในการ ทํางานจริง ผูพฒนาจึงต้องทดลอง ้ ั 5.2 ปัญหาและอุปสรรคที่พบจากการทําโครงงาน 5.2.1 ผูจดทําระบบมีประสบการณ์ในงานวิเคราะห์และออกแบบระบบงานค่อนข้างน้อย จึงทํา ้ั ให้การศึกษาอาจไม่สมบูรณ์และครอบคลุมถึงความต้องการจริงของผูใช้ทงหมด ้ ั้ 5.2.2 การเก็บรวบรวมความต้องการค่อนข้างใช้เวลาเนื่องจากความต้องการนันเปลียนแปลง ้ ่ เรือยๆ ่ 69
  • 76. 5.2.6 ในการออกแบบโครงสร้างระบบฐานข้อมูลส่วนของ Data Flow Diagram และEntity- Relationship Diagram มีความซับซ้อนในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของแต่ละตารางเข้าด้วยกัน จึงทํา ให้เกิดความล้าช้าในการออกแบบ 5.4 แนวทางการพัฒนาโครงงาน จากการทดสอบการใช้งานระบบการจัดการการร้านค้าปลีกนี้ ได้สรุปแล้วพบว่ายังมีหลายส่วนที่ ควรปรับปรุงให้ดขน เพือให้ระบบสามารถให้ขอมูลทีคลอบคลุม ครบถ้วน ตรงตามความต้องการของผูใช้ ี ้ึ ่ ้ ่ ้ ดังนันแนวทางทีสามารถพัฒนาระบบ จึงสามารถเพิมสิงต่างได้ตามหัวข้อเสนอแนะทีได้กล่าวไป เพื่อให้ ้ ่ ่ ่ ่ ระบบมีประสิทธิภาพเพิมยิงขึน และครอบคลุมระบบการดําเนินงานอย่างแท้จริง ่ ่ ้ 70
  • 77. เอกสารอ้างอิง [1] มณีโชติ สมานไทย, การออกแบบฐานข้อมูลและภาษา SQL, อินโฟเพรส : กรุงเทพฯ, 2546 [2] รวิวรรณ เทนอิสสระ, ฐานข้อมูลและการออกแบบ, ซีเอ็ดยูเคชัน : กรุงเทพฯ, 2543 ่ [3] http://riverplusblog.com/2011/06/20/ความหมายและประเภทของ-barcode-scannerrea [4] วราภรณ์ โกวิทวรางกูร, ระบบฐานข้อมูลและการออกแบบ, ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย : กรุงเทพฯ, 2543 [5] http://www.thaiall.com/learn/sader.htm#05 71