SlideShare a Scribd company logo
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
จังหวัดลำปางเป็นแหล่งอารยธรรมของล้านนาไทยที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในอดีตมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ศรีดอนชัย
ลัมภะกัมปนคร เขลางค์นคร เวียงละกอน และ กุกกุฎนคร เมืองเขลางค์นครเป็นเมืองคู่แฝดกับอาณาจักรหริภุญไชย

	
ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง ในปัจจุบัน โดยมีพระเจ้าอนันตยศ พระโอรสแฝดของพระนางจามเทวีเคยมา

	
ปกครองเมืองนี้ในระยะแรกๆ ในภาษาล้านนา คำว่า ขลาง หมายถึง แอ่งกระทะ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพภูมิศาสตร์ที่มี
ภูเขาล้อมรอบ มีการทับถมของตะกอนดินซากพืชซากสัตว์จนเป็นที่ราบลุ่มอุดมสมบูรณ์ ชาวลำปางมีชีวิตเรียบง่าย 

	
เลื่อมใสศรัทธาและยึดมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น ซึ่งจะเห็นว่าในจังหวัดลำปางมีพุทธสถานที่สำคัญมากมาย
	
ผักถือเป็นพืชที่นำมารับประทานทั้งสดหรือปรุงให้สุก ในผักนานา ชนิดจะประกอบด้วยสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
ที่สำคัญหลายกลุ่ม เช่น เทอร์พีนอยด์ แอลคาลอยด์ ฟลาโวนอยด์ เป็นต้น องค์ประกอบทางเคมีเหล่านี้จะช่วยให้	


กระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายอีกด้วย
คนในสมัยโบราณนิยมรับประทานผักเป็นกิจวัตร โดยนำมาทำเป็นเครื่องเคียงหรือประกอบอาหารโดยตรง เช่น แกงแค 

	
ภูมิปัญญาชาวบ้านหรือของชาวลำปางที่สั่งสมลองผิดลองถูกในการนำผักมาใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ไม่เป็น
อันตรายต่อสุขภาพนั้น ได้มีการสืบทอดมาช้านาน
	
สังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จนทำให้การนำผักมารับประทานในหมู่เยาวชนแทบจะไม่มีให้เห็น

	
ซ้ำยังปฏิเสธผักอีกด้วย จึงเป็นสิ่งที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงจะต้องช่วยกันรณรงค์ให้เยาวชนหันมารับประทานผัก
ปลอดสารพิษและการปลูกผักไว้ทุกบ้านเรือน นอกจากนี้จะต้องให้ความรู้ถึงประโยชน์และโทษของการไม่รับประทานผัก
อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึง “ผักพื้นบ้าน” ด้วย การนำผักพื้นบ้านมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักรูปพรรณสัณฐาน
สรรพคุณทางยา และประโยชน์อื่นๆ เป็นแนวทางถึงที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางตระหนักถึง จึงมี
ความพยายามรวบรวมสรรพกำลังกายและความคิดจัดทำหนังสือ “ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร” เล่มนี้ขึ้น
	
คณะวิทยาศาสตร์รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากที่คุณณรงค์ นันทะแสน นักวิชาการ กรมอุทยานสัตว์ป่า
และพั น ธุ ์ พ ื ช กระทรวงทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ ่ ง แวดล้ อ ม ที ่ ไ ด้ ก รุ ณ าเขี ย นขึ ้ น จาก
ประสบการณ์ แ ละความมุ ่ ง มั ่ นที ่ จ ะให้ ส ื ่ อ เล่ ม นี ้ เป็ น สมบั ต ิ ข องชาวลำปางและผู ้ ส นใจ

	
ตลอดไป ในส่ ว นของเนื ้ อ หาและภาพประกอบได้ ถ ่ า ยทำจากตลาดในจั ง หวั ด ลำปาง

	
แทบทั้งสิ้น ทั้งนี้บางชนิดใกล้สูญพันธ์ุไปแล้วก็มี และมีจำนวนมากที่เยาวชนคนรุ่นหลัง

	
ไม่ทราบชื่อ คณะผู้จัดทำได้แทรกชื่อภาษาล้านนาด้วยการเขียนอักขระตัวเมืองโดยคุณเนตร
กองสิน ปราชญ์ชาวบ้านแห่งอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า	


ผักพื้นบ้านเหล่านี้อยู่คู่กับชาวเขลางค์นครสืบไป
	
ในนามของนักศึกษา คณาจารย์ เจ้าหน้าที่คณะวิทยาศาสตร์ทุกท่าน

	
ต้ อ งขอขอบคุ ณ คุ ณ ณรงค์ นั นทะแสน อี ก ครั ้ ง ที ่ ได้ ส ละเวลาอั น มี ค ่ า	


ตรวจทาน ออกแบบ พร้อมทั้งใส่จิตวิญญาณให้หนังสือนี้สำเร็จลง

	
อย่ า งสมบู ร ณ์ ผู ้ อ ่ า นท่ า นใดมี ม ุ ม มองบางมิ ต ิ ท ี ่ ต ้ อ งการแนะนำ 

	
คณะวิทยาศาสตร์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอน้อมรับด้วย
ความเต็มใจ ขอคุณความดีของหนังสือเล่่มนี้จงเป็นแรงบันดาลใจ
ให้ผู้อ่านทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ เผยแพร่ และสืบสาน ผักพื้นบ้าน
เขลางค์นคร ให้ดำรงอยู่คู่ชาวล้านนาตลอดไป

(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ   พุ่มพิมล)
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์
ผักพื้นบ้านเขลางค์นครฉบับนี้ เป็นความพยายามของ ผศ.ดร.วิลาศ พุ่มพิมล คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และ

	
คุณณรงค์ นันทะแสน เจ้าหน้าที่สำนักหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคณะผู้จัดทำได้เก็บรวบรวมผักพื้นบ้านที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยนำมาเสนอให้รู้ถึงชื่อ
ชนิด ลักษณะ ใบ ลำต้น ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร หรือประโยชน์ทางยา วิธีนำมาใช้ ฯลฯ 

	
ซึ่งองค์ความรู้ทั้งหมดเป็นทั้งทางวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานคุณค่าอย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง	


นับเป็นผลพวงแห่งความพยายามที่เป็นคุณูปการต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติโดยแท้
	
ผมขอแสดงความชื่นชมในผลงานและขอขอบคุณในนามของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ที่ ผศ.ดร.วิลาศ 

	
พุ่มพิมล คุณณรงค์ นันทะแสน และคณะผู้จัดทำทุกคน ที่ได้ศึกษา ค้นคว้า และนำมาเผยแพร่เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับ
ประโยชน์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาระดีๆ ที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้จะถูกนำไปใช้ในการศึกษา
ค้นคว้าต่อยอด หรือใช้ในการถ่ายทอดเพื่อประโยชน์สุขในสังคมประเทศชาติต่อไป

(ผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก   แสงมีอานุภาพ)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
ความพากเพียรและพยายามในการอนุรักษ์ของดีต่างๆ ในท้องถิ่นทั้งด้านวัฒนธรรมและการอนุรักษ์วัฒนธรรม
โดยเฉพาะวั ฒ นธรรมในการบริ โภคอาหารที ่ เป็ น พื ช ผั ก ในท้ อ งถิ ่ น หรื อ ผั ก พื ้ น บ้ า นในแต่ ล ะภาคของแต่ ล ะประเทศ

	
ย่อมจะนำมาเพื่อความมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันในตัวผู้บริโภค คณะวิทยาศาสตร์ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์	
 

ดร.วิลาศ พุ่มพิมล คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ และอาจารย์ณรงค์ นันทะแสน ได้ช่วยกันค้นคว้าและเรียบเรียงเขียนขึ้นมา
เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนในท้องถิ่นจังหวัดลำปางได้รับรู้และเข้าใจมากขึ้น
	
ผมขอแสดงความยินดีและชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้สร้างผลงานที่มีประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นตามเจตนารมณ์
ของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางทีี่ให้บริการทางวิชาการ และเผยแพร่ให้ชุมชนได้สามารถเรียนรู้อย่างถูกต้องและเป็น
วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะช่วยพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน และหวังว่าสาระดีๆ ที่มีอยู่ในหนังสือ
เล่มนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในท้องถิ่น เพิ่มคุณภาพชีวิตให้มีความสุข	
 

ความแข็งแรงของชุมชนและประเทศชาติต่อไป 





(นายประสิทธิ์    สิริศรีสกุลชัย)
ประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง
หนังสือผักพื้นบ้านเขลางค์นคร เล่มนี้ ข้าพเจ้ามีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการเขียนตลอดจนถ่ายภาพผักต่างๆ
เพื่อที่จะนำเสนอผักให้หลากหลายชนิดที่ชาวนครลำปาง หรือ เขลางค์นคร ในอดีตใช้ในการบริโภคเป็นอาหารมาตั้งแต่
อดีตจวบจนปัจจุบัน ที่มีกรรมวิธีและวัฒนธรรมการบริโภคผักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการที่
ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมงานกับคณะวิทยาศาสตร์   มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง  จึงได้มีโอกาสศึกษาพฤติกรรมการบริโภค
ผักของนิสิต นักศึกษา ตลอดจนเยาวชนทั่วไปในนครลำปาง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคผัก หรือนิยมบริโภคผักที่มาจาก
ต่างแดน หรือจำพวกผักเศรษฐกิจที่มีลักษณะสีสดใส สวยงาม สะดุดตา ซึ่งปัจจัยสำคัญในขบวนการผลิตที่ขาดไม่ได้	
 

คือ สารเคมีปราบคัตรูพืชที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเยาวชนทั้งหลายไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายในเรื่องนี้ ทำให้มองข้าม
ความสำคัญและคุณค่าทางโภชนาการตลอดจนประโยชน์ทางสมุนไพรของผักพื้นบ้าน หากทุกคนไม่ช่วยกันส่งเสริม	


สร้างค่านิยมในการบริโภคผักพืนบ้านอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากจะทำให้สขภาพร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว วัฒนธรรมการบริโภค

้
ุ
	
ผักพื้นบ้านที่บรรพบุรุษได้สร้างสมเอาไว้เป็นมรดกทางปัญญาก็จะสูญหายไปในที่สุด ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริม

	
อนุรักษ์วัฒนธรรม ภูมิปัญญาในการบริโภคผัก ข้าพเจ้าพร้อมด้วยคณบดี คณะวิทยาศาสตร์ตลอดเจ้าหน้าที่บุคลากร

	
ทุกท่าน จึงได้ร่วมมือกันจัดทำหนังสือผักพื้นบ้านเขลางค์นครเล่มนี้ เพื่อใช้เป็นสื่อในการทำความเข้าใจ และให้ความรู้

	
ความกระจ่างแก่นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป  ถึงประโยชน์และคุณค่าของผักพื้นบ้าน ตลอดจนกระตุ้นให้เยาวชนเป็น
ผู ้ ท ี ่ ม ี ค วามรั ก และหวงแหนในวั ฒ นธรรมและภู ม ิ ป ั ญ ญาของบรรพบุ ร ุ ษ ที ่ ได้ ม อบไว้ ให้ ภายในเล่ ม ได้ จ ั ด ภาพและ

	
คำบรรยายลักษณะของผักแต่ละชนิด ตลอดจนขั้นตอนวิธีการนำไปใช้ในการบริโภคและประโยชน์ทางสมุนไพร สำหรับ

	
ชื่อผักนั้นได้ใช้ชื่อพื้นเมืองเป็นชื่อหลักพร้อมเขียนตัวหนังสือล้านนากำกับไว้ด้วย เพื่อให้เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้สมบูรณ์
ที่สุดและใช้เป็นหลักฐานทางวิชาการได้อย่างเป็นสากล จึงได้เขียนชื่อทางวิทยาศาสตร์ของผัก
แต่ละชนิดกำกับไว้อย่างครบถ้วน ข้าพเจ้าหวังว่าหนังสือผักพื้นบ้านเขลางค์นครเล่มนี้
คงจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่มีความสนใจศึกษาเกี่ยวกับผักพื้นบ้านที่ชาว

	
นครลำปางใช้ บ ริ โภคมาตั ้ ง แต่ อ ดี ต จวบจนปั จ จุ บ ั น และขอขอบคุ ณ อธิ ก ารบดี	
 

คณบดี เจ้าหน้าที่และบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏทุกท่าน   ที่
ได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดทำหนังสือ ผักพื้นบ้านเขลางค์นครเล่มนี้ จนสำเร็จ
ความดีของหนังสือที่ได้รับ ข้าพเจ้าขอมอบให้ชาวราชภัฏลำปางทุกท่าน หากมี

	
ข้อบกพร่องประการใด ข้าพเจ้ากราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย





(ณรงค์   นันทะแสน)
เขลางค์นคร เป็นภาษาบาลี หมายถึง เมืองที่มีพื้นที่เป็นแอ่งรูปก้นกระทะซึ่งมีปรากฏอยู่
ในตำนานตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๓ เป็นชื่อเดิมเมืองลำปางในอดีต เมืองเขลางค์นครมีฐานะ

	
เป็นเมืองหลวงคู่แฝดของอาณาจักรหริภุญไชย เมืองเขลางค์นครแห่งอาณาจักรหริภุญไชยแห่งนี้

	
มีผู้ปกครองสืบทอดต่อกันมาตลอด ก่อนที่จะมีการสถาปนาอาณาจักรล้านนาของพระยามังราย

	
ที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มน้ำกกตอนเหนือ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีการปฏิรูประบอบการปกครองเป็นระบบ
มณฑล เมื อ งลำปางจึ ง ได้ ข ึ ้ น อยู ่ ก ั บ มณฑลพายั พ (เมื อ งเชี ย งใหม่ ) และมณฑลมหาราษฎร 

	
(เมืองแพร่) ต่อมาจึงได้เปลียนเป็นจังหวัดลำปางในสมัยรัชกาลที่ ๖ จังหวัดลำปางจึงเป็นจังหวัดหนึง
่
่
ในภาคเหนือ ตอนบน ภู ม ิ ป ระเทศ ทิ ศ เหนื อ ติ ด ต่ อ จั ง หวั ด เชี ย งรายและจั ง หวั ด พะเยา ทิศ ใต้

	
ติดต่อจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดตาก ทิศตะวันออกติดต่อจังหวัดแพร่ และทิศตะวันตกติดต่อจังหวัด
เชียงใหม่และจังหวัดลำพูน เมืองลำปางอยู่ในหุบเขารูปแอ่งกระทะล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาสูงชัน
บางส่วนก็ผดขึนเป็นแนวหินแกรนิตบนเทือกเขาผีปนน้ำด้านทิศตะวันตก ในบางยุคเกิดการเคลือนตัว
ุ ้
ั
่
ของเปลือกโลกอย่างรุนแรงจึงทำให้เกิดแอ่งที่ราบขนาดใหญ่ และทิวเขาที่ทับซ้อนกัน เมื่อผ่าน

	
กาลเวลามายาวนานส่วนที่เป็นแอ่งก็ได้กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เกิดการทับถมของตะกอนและ
ซากพืชซากสัตว์จนกลายเป็นผืนดินที่ราบ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแหล่งน้ำมันและถ่านหินลิกไนต์	
 

ด้วยลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ จึงทำให้อากาศอบอ้าวแบบฝนเมืองร้อนเฉพาะฤดู โดยได้รับ
อิ ท ธิ พ ลจากมรสุ ม ตะวั นตกเฉี ย งใต้ แ ละมรสุ ม ตะวั นตกเฉี ย งเหนื อ ซึ ่ ง มี อ ากาศแตกต่ า งกั น	


ตามฤดูกาล ในฤดูหนาวค่อนข้างหนาวจัด ส่วนฤดูร้อนจะยาวนาน สำหรับบริเวณที่ราบภูเขาสูงและ
ที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำอันเป็นที่ราบดินตะกอนเก่า ผืนดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์มีแม่น้ำวังไหลผ่าน

	
บางพื้นที่เป็นแหล่งที่ทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี บางส่วนก็ปกคลุมไปด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์

	
ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของเมืองลำปาง ดังนั้นวิถีชีวิตของชาวเขลางค์นครหรือชาวเมืองลำปาง
ในอดีตจึงผูกติดอยู่กับการทำเกษตรกรรมและการล่าสัตว์ ตลอดจนการเก็บหาของป่า พืชผักต่างๆ 

	
ที่มีอยู่ในธรรมชาติเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือนตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของแต่ละชุมชน ซึ่งอาจมีความ
แตกต่างกันบ้างด้านกรรมวิธี อันที่จริงชุมชนในภาคเหนือโดยเฉพาะชาวลำปางหรือเขลางค์นครนั้น
ถือว่าเป็นชนที่รู้จักผักต่างๆ ในธรรมชาติที่สามารถนำมาบริโภคได้มากที่สุดก็ว่าได้ ต่อมาจึงได้
ถ่ายทอดให้กับลูกหลานสืบต่อกันมา ปัจจุบันได้เรียกพืชผักต่างๆ ที่เก็บหามาได้จากแหล่งธรรมชาติ
เช่น ป่า เขา ห้วย หนอง คลอง บึง และบางชนิดที่ปลูกขึ้นมาว่า ผักป่าบ้าง ผักพื้นบ้านบ้าง 

	
ผักพื้นเมืองบ้าง หลายคนอาจเคยได้ยินได้ฟังคำว่า ผักป่า ผักพื้นบ้าน ผักพื้นเมือง มาบ้างแล้ว หรือ
บางคนอาจบอกว่าได้ยินมาจนชินหูแต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงเท่าใดนัก อันที่จริง 

	
คำว่า ผักป่า ผักพื้นบ้าน ผักพื้นเมือง ทั้ง ๓ คำนี้เป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าจะแตกต่างกันก็ตรงที่มุมมอง
ของแต่ละบุคคลว่าจะมองด้านไหน มองอย่างไร และมองดูที่ตรงไหน คือ ถ้าคนในชุมชนหรือ	


ชาวบ้านไปเก็บหาผักมาจากป่าเพื่อการบริโภคหรือนำมาขาย เขาก็จะเรียกผักนั้นว่า ผักป่า   แต่
หากมีคนในเขตเมืองมาซื้อหาผักเหล่านั้นเขาก็จะบอกว่า ผักพื้นบ้าน ในขณะที่มีคนมาจากต่างบ้าน
ต่างเมืองจะเป็นการมาท่องเที่ยวหรือมาเพื่อการใดก็สุดแท้แต่ละบุคคล เมื่อมาเจอผักเหล่านั้น

	
หรือเพือนสนิทมิตรสหายแนะนำก็จะบอกว่านีคอ ผักพืนเมือง ดังนัน คำว่า ป่า บ้าน เมือง ทัง ๓ คำนี้
่
้ื
้
้
้
แม้ความหมายจะไม่ค่อยกลมกลืนกันนัก แต่ก็เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันได้

	
เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในภูมประเทศเขตร้อนทีอดมไปด้วยความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช ดังนัน
ิ
ุ่
้
ผักป่า ผักพื้นบ้าน ผักพื้นเมือง จึงเป็นพืชที่ใช้ในการบริโภคและสามารถสร้างคุณค่าเป็นที่ประจักษ์
แก่บุคคลทั่วไป ตลอดจนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของป่าเขตร้อนที่เชื่อมสัมพันธ์กับภูมิปัญญาของ
คนในท้องถิ่น จนกลายเป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ กล่าวโดยสรุป ผักพื้นบ้าน
หมายถึง พืชชนิดใดก็ได้ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆ สามารถเก็บหาได้จากแหล่งธรรมชาติในแต่ละ
ฤดูกาล แต่ละภูมิภาค ที่แตกต่างกันไป ทั้งป่าเขา ริมลำธาร ลำห้วย หรือตามหัวไร่ ปลายนา
เพื่อใช้ในการประกอบอาหารในแต่ละวันตามวิถีความเป็นอยู่และวัฒนธรรมการบริโภค

	
ของชุมชนนั้นๆ ทั้งยังให้คุณค่าทางโภชนาการตลอดจนใช้เป็นสมุนไพรในครัวเรือน ที่ได้รับ
การถ่ายทอดสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ในการบริโภคพืชผักต่างๆ นั้น ในแต่ละ
ชุมชนยังได้ใช้ภูมิปัญญาในการจำแนกผักออกเป็นกลุ่มต่างๆ ตามวิถีและวัฒนธรรมในการ
บริโภค คือ กลุ่มที่รับประทานส่วนหัวรากและเหง้า, กลุ่มที่รับประทานส่วนใบและยอด,
กลุ่มที่รับประทานส่วนผลและฝัก และกลุ่มที่รับประทานส่วนแกนกลาง สิ่งเหล่านี้เป็น

	
ข้อบ่งบอกถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการบริโภคของคนในแต่ละชุมชน   ซึ่งอาจมีความ

	
แตกต่างกันบ้าง แต่ก็ยังมีผักจากต่างประเทศอีกหลายชนิดที่ถูกนำเข้ามาปลูกเป็นระยะ
เวลานานจนสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศได้ดี หลายคนเข้าใจว่า
เป็นผักดังเดิมของท้องถิน เช่น หอมขาว หอมบัว ขิงหยวก บ่ะแคว้ง หอมด่วน จ้ากอมก้อ ฯลฯ
้
่
่
ด้วยเหตุที่ผักเหล่านี้ได้รับความนิยมใช้กับอาหารไทยทั่วไปจึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ

	
ผักพื้นบ้านไทยเรื่อยมา ถึงกระนั้นก็ยังมีหลายคนที่มีความรู้สึกว่า ผักพื้นบ้าน ไม่น่า

	
รั บ ประทาน ไม่ อ ร่ อ ย สี ส ั น ไม่ ส วยงามสะดุ ด ตาเหมื อ นพวกผั ก เศรษฐกิ จ จึ ง ไม่ น ่ า มี
ประโยชน์ต่อร่างกาย แท้ที่จริงผักพื้นบ้านหลายชนิดกลับมีคุณค่าทางโภชนาการสูงพอๆ
กับผักเศรษฐกิจหรือมากกว่า เช่น ผักแว่น ผักแค ยอดผักก้านถิน ฯลฯ   ที่ให้วิตามินเอ

	
สูงกว่าผักเศรษฐกิจหลายชนิด ผักเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดเองโดยธรรมชาติตามฤดูกาล ปลอด
ซึ่งสารเคมีปราบศัตรูพืชที่ทำให้เกิดพิษต่อร่างกาย ซึ่งต่างกับผักเศรษฐกิจที่ส่วนใหญ่มักจะ
มีสารเคมีปนเปื้อน เพราะการผลิตผักเศรษฐกิจนั้นสารเคมีปราบศัตรูพืชถือว่าเป็นปัจจัย
สำคัญในการผลิตที่ขาดไม่ได้เนื่องจากเกษตรกรยังมีความต้องการผลผลิตในจำนวนมาก
และมีลักษณะสีสันที่สวยงามปราศจากแมลงเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค  
เมื ่ อ นำผั ก เหล่ า นั ้ น ไปบริ โภคอาจได้ ร ั บ สารเคมี ท ี ่ ป นเปื ้ อ นมากั บ ผั ก ซึ ่ ง ถื อ ว่ า มี โทษ

	
ต่อร่างกายอย่างยิง คนทีใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัวจึงหันมาบริโภค
่
่
ผักพื้นบ้านที่ปราศจากสารเคมีปราบศัตรูพืช ผักบางชนิดจึงกลายเป็นผักยอดนิยม เช่น 

	
ผักหวานป่า ผักหวานบ้าน ผักปัง ผักหนาม ผักไผ่ ผักแค ผักพา ผักเสลี่ยมและมะลิดไม้
เป็ นต้ น พื ช ผั ก เหล่ า นี ้ ส ่ ว นใหญ่ จ ะมี ส รรพคุ ณทางสมุ น ไพรพื ้ น บ้ า นที ่ เ ข้ า กั บ สภาพ

	
ภูมประเทศและวัฒนธรรมการบริโภคของคนชุมชนนันๆ เป็นอย่างดี รสของผักแต่ละชนิดจะ
ิ
้
เป็นตัวบ่งบอกถึงสรรพคุณของผักชนิดนั้นๆ เช่น รสฝาด มีสรรพคุณสมานแผล แก้ท้องเสีย
ท้องร่วง รักษาแผล   รสเปรี้ยว   สรรพคุณช่วยกัดเสมหะ กระตุ้นต่อมน้ำลาย ทำให้	


เจริญอาหาร รสหวาน สรรพคุณช่วยทำให้ชมชืน บำรุงกำลัง รสขม มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย
ุ่ ่
ลดไข้ แก้เลือดเป็นพิษ ถอนพิษเมา รสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณขับลมในกระเพาะอาหาร 

	
แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืดเฟ้อ รสมัน มีสรรพคุณแก้อาการเส้นเอ็นพิการ ปวดเสียว เคล็ด
ขัดยอก อาการกระตุก เป็นต้น ด้วยรสชาติและสรรพคุณของผักพืนบ้านทีใช้เป็นอาหารและ
้
่
ยาสมุนไพรควบคู่กันได้อย่างกลมกลืน จนกลายเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่ถูกถ่ายทอด
สืบต่อกันมา ดังนั้น คนในอดีตจึงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงกว่าคนในปัจจุบันที่นิยมบริโภค
อาหารที่ถูกปรุงแต่งแปลกๆ สีสันสดใส โดยมีส่วนประกอบของสารเคมีต่างๆ หลายชนิด
เป็นเครื่องปรุงแต่ง ซึ่งนับว่ามีโทษต่อร่างกายเป็นอย่างมาก   ดังนั้น เยาวชนคนรุ่นใหม่	


จึงควรใส่ใจในเรื่องการบริโภค โดยเฉพาะการบริโภคผักควรเลือกผักที่เป็นประโยชน์ต่อ
ร่างกาย เช่น ผักพื้นบ้านทั่วไป และสร้างค่านิยมใหม่โดยหันมานิยมการบริโภคผักพื้นบ้าน
ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย สามารถปลูกเองได้ภายในบริเวณบ้าน ถึงแม้ไปซื้อหา
ราคาก็ไม่แพง ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการบริโภคผัก เป็นมรดกทาง
ปัญญาที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ บรรพบุรุษมอบไว้ให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อกันมาจากรุ่น
สู่รุ่นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานจวบจนปัจจุบัน
๑	....................	กระเจี๊ยบ
	 	
กระเพราช้าง...............	๒
๓	.....................	กล้วยลิอ่อง
	 	
กอก............................	๔
๕	.....................	กอมก้อขาว
	 	
กาซะลอง................	...	๖
๗	.....................	กุ่มน้ำ
	 	
กุ่มบก......................	...	๘	
๙	.....................	เกี๋ยงพาลาบ
	 	
ข่าแกง..........................๑๐
๑๑....................	ข่าหลวง
	 	
ขิงหยวก......................	๑๒
๑๓....................	ขี้เหล็ก
	 	
เครือเขาคำ..................	๑๔
๑๕....................	แคขาว
	 	
แคนา...........................	 ๖
๑
๑๗...................	งิ้ว
	 	
จะค่าน........................	๑๘
๑๙...................	จะไค
	 	
ดอกก้าน..................	..	๒๐
.
๒๑...................	ดีงูว่า
	 	
ดีปลี............................	๒๒
๒๓...................	ตอง
	 	
ต้าง..............................	 ๔
๒
๒๕....................	 าล
ต
	 	
ตูน...............................	๒๖
๒๗....................	ตา
เ
	 	
ถั่วปู............................	๒๘
๒๙....................	 ั่วลันเตา
ถ
	 	
ถั่วเหลือง.....................	๓๐
๓๑....................	เถาวัลย์ด้วน
	 	
เทียนทั้งห้า..................	๓๒
๓๓....................	 างแลว
น
	 	
บวบหอม.....................	๓๔
๓๕...................	บ่ะก้วยเตส
	 	
บ่ะกูด...........................๓๖
๓๗....................	 ่ะขาม
บ

	 	
บ่ะเขือแจ้.....................	๓๘
๓๙....................	 ่ะเขือปั๋ง
บ
	 	
บ่ะเขือผ่อย..................	๔๐	 
๔๑....................	บ่ะเขือส้ม
	 	
บ่ะเขือหำม้า................	๔๒
๔๓....................	 ่ะแขว่น
บ
	 	
บ่ะค้อนก้อม................	๔๔
บ

 ๔๕....................	 ่ะแคว้ง
	 	
บ่ะแคว้งขม.................	๔๖	 
๔๗....................	 ่ะแคว้งเครือขม
บ
	 	
บ่ะจ้ำ.......................	...	๔๘
๔๙....................	 ่ะเดื่อเกลี้ยง
บ
	 	
บ่ะตาเสือ....................	๕๐
๕๑....................	บ่ะตึก
	 	
บ่ะเต้า.........................	๕๒
๕๓....................	 ่ะแตงลาย
บ
	 	
บ่ะนอยงู......................๕๔
๕๕....................	 ่ะนอยจา
บ
	 	
บ่ะนอยเหลี่ยม............	๕๖
๕๗....................	 ่ะน้ำ
บ
	 	
บ่ะป้าว........................	๕๘
๕๙....................	 ่ะปิ่น
บ
	 	
บ่ะปู่............................	๖๐
๖๑....................	บ่ะแปบ
	 	
บ่ะฟักแก้ว...................	๖๒
๖๓....................	บ่ะเฟือง
	 	
บ่ะม่วง.........................	 ๔
๖
๖๕....................	บ่ะเม่าสาย
	 	
บ่ะยม..........................	๖๖
๖๗....................	บ่ะลิดไม้
	 	
บ่ะหนุน.......................	๖๘
๖๙....................	บ่ะห่อย
	 	
บ่ะไห่..........................	๗๐
๗๑....................	บ่ะแฮะ
	 	
บัวกวัก.........................๗๒
๗๓....................	 ้าน
ป
	 	
ปุย............................... ๗๔
๗๕....................	 ูเลย
ป
	 	
ผักกาดจ้อน..................๗๖
๗๗....................	 ักกูด
ผ
	 	
ผักขี้ขวง........................๗๘
๗๙....................	 ักขี้มด
ผ
	 	
ผักขี้มูก........................	๘๐
๘๑....................	ผักขี้หูด	

	 	
ผักเข้า.........................	๘๒
๘๓....................	 ักโขม	
ผ

	 	
ผักคาวตอง..................๘๔
๘๕....................	 ักแค	
ผ

	 	
ผักแคบ.........................๘๖
๘๗....................	 ักจิก	
ผ

	 	
ผักจี.............................	๘๘
๘๙....................	 ักจีอ้อ	
ผ

	 	
ผักเชียงดา...................	 ๐
๙
๙๑....................	ผักด้ามพั่ว	

	 	
ผักตับแก้.....................	๙๒
๙๓....................	 ักติ้วขาว	
ผ

	 	
ผักตุ๊ด...........................๙๔
๙๕....................ผักบั้ง	

	 	
ผักบุ้ง...........................	 ๖	 	
๙
๙๗....................	 ักปอดม้า	
ผ

	 	
ผักปั๋ง...........................	 ๘
๙
๙๙....................	 ักปู่ย่า	
ผ

	 	
ผักแปม........................	 ๐๐
๑
๑๐๑.................ผักแปมป่า	

	 	
ผักเผ็ดขม....................	๑๐๒
๑๐๓.................	ผักเผ็ดน้อย
	 	
ผักไผ่...........................	๑๐๔
๑๐๕.................	ผักพญายอ	

	 	
ผักแว่น........................	๑๐๖
๑๐๗.................	ผักสาบ
	 	
ผักสีเสียด.....................๑๐๘
๑๐๙.................	ผักเสี้ยว	

	 	
ผักแส้ว.........................๑๑๐
๑๑๑.................	ผักหนอก	

	 	
ผักหนอง......................	 ๑๒
๑
๑๑๓.................	ผักหนาม	

	 	
ผักหละ........................	๑๑๔
๑๑๕.................ผักหวานบ้าน
	 	
ผักหวานป่า.................	๑๑๖

๑๑๗.................	ผักหอมป้อม	

	 	
ผักฮ้วนหมู...................	๑๑๘
๑๑๙.................ผักฮากกล้วย	

	 	
ผักฮิน..........................	๑๒๐
๑๒๑.................ผักเฮียด
	 	
ผำ................................	 ๒๒
๑
๑๒๓.................ไผ่ตง	

	 	
พริกแด้........................	๑๒๔
๑๒๕.................เพี้ยฟาน	

	 	
มะแหลบ......................๑๒๖
๑๒๗.................ย่านาง
	 	
ละแอน........................	๑๒๘
๑๒๙.................เล็บครุฑ
	 	
ส้มป่อง........................	๑๓๐
๑๓๑.................ส้มป่อย
	 	
ส้มสะเอาะ..................	๑๓๒	
๑๓๓.................ส้มสังกา
	 	
ส้มเสี้ยน......................	๑๓๔	
๑๓๕.................สลิด
	 	
สะเลียม.......................	 ๓๖
๑
๑๓๗.................สะเลียมหอม
	 	
สะแล.......................	...	๑๓๘
๑๓๙.................หญ้าเอ็นยืด
	 	
หน่อซาง......................	๑๔๐	
๑๔๑.................หน่อไร่
	 	
หน่อฮวก......................	 ๔๒	
๑
๑๔๓.................หวาย
	 	
หอมด่วนหลวง............	๑๔๔	
๑๔๕.................หอมเตียม
	 	
หอมบั่ว........................	 ๔๖
๑
๑๔๗.................หอมป้อมเป้อ
	 	
หอมแย้........................	 ๔๘	
๑
๑๔๙.................เห็ดขอนขาว
	 	
เห็ดไข่ขาว....................	 ๕๐	
๑
๑๕๑.................เห็ดถอบ
	 	
เห็ดเฟือง......................	 ๕๒	
๑
๑๕๓.................เห็ดลม
	 	
เห็ดห้า.........................	๑๕๔
๑๕๕.................เห็ดหูลัวะ
	 	
อังลาว.........................	๑๕๖	
๑๕๗.................อาว
	 	
เอื้องดิน.......................	๑๕๘
ชื่ออื่น	

กระเจี๊ยบแดง  กระเจี๊ยบเปรี้ยว ส้มพอดี


	
กระเจี๊ยบ เป็นไม้พุ่มอายุปีเดียว สูงประมาณ ๑ – ๒ เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบ รูปรีแหลม ขอบใบเว้าลึก
๓ หยักหรือเรียบ ก้านใบยาวประมาณ ๕ เซนติเมตร หรือบางครั้งพบใบหลายลักษณะ ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีชมพู ออกบริเวณ
ง่ามใบ ตรงกลางดอกมีสีเข้มกว่าด้านนอก ก้านดอกสั้น กลีบรองดอกลักษณะปลายแหลมมีประมาณ ๘ – ๑๒ กลีบ กลีบเลี้ยง

	
จะแผ่ขยายติดกันออกหุ้มเมล็ดไว้ มีสีแดงเข้ม หักง่าย ผล รูปรี ปลายแหลม ผลมีความยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร หุ้มไว้ด้วย
กลีบเลี้ยงสีแดงสด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	

	

	

	

	

	

	

ใบ ใช้ปรุงอาหารทำให้มีรสเปรี้ยว  
ใบอ่ อ น ช่ ว ยย่ อ ยอาหาร ละลายเสมหะ ขั บ ปั ส สาวะ กลี บ เลี ้ ย ง 

	
ขับปัสสาวะ ขับน้ำดี แก้นิ่ว แก้กระหายน้ำ

๑
ชื่ออื่น	

ยี่หร่า โหรพาช้าง กะเพราญวน


	
กระเพราช้าง เป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงประมาณ ๕๐ – ๘๐ เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นสีน้ำตาลแก่ ใบ เป็น

	
ใบเดี่ยวออกตรงข้ามคู่กัน ขอบใบหยัก ปลายใบแหลม แผ่นใบสาก ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอดประกอบด้วยดอกขนาดเล็ก	


จำนวนมาก เมล็ด ลักษณะกลมรีขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	




๒

ใบ ใช้ผัดกับเนื้อช่วยดับกลิ่นคาว ใส่แกง เมล็ด ทำเครื่องเทศ
ทั้งต้น เป็นยาขับลม ช่วยย่อย แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ชื่ออื่น	

กล้วยน้ำว้า กล้วยส้ม  กล้วยนิออง


	
กล้วยลิอ่อง  เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเทียมเกิดจากกาบหุ้มซ้อนกันเป็นลำขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๒ – ๕ เมตร กาบลำต้น
ด้านนอกสีเขียวอ่อน ใบ มีสีเขียวเป็นแผ่นยาวเส้นใบขนานกัน แกนใบเห็นได้ชัดเจน ท้องใบมีนวลขาว ดอก ออกเป็นช่อห้อยลง
กาบหุ้มสีแดงม่วงดอกย้อยติดกันเป็นแผง ฐานดอกเป็นดอกตัวเมีย ส่วนปลายเป็นดอกตัวผู้เมื่อดอกตัวเมียเติบโตเป็นผลดอกตัวผู้
จะเริ่มร่วงหล่น ผล เมื่อดอกเจริญกลายเป็นผลแล้วผลจะประกอบเป็นหวีเครือละประมาณ ๗ – ๑๐ หวี ผลอ่อนจะมีสีเขียว 

	
เมื่อสุกจะมีสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อในสีขาว มีรสหวาน ผลลักษณะเป็นเหลี่ยม เปลือกหนา ก้านผลสั้น แต่ละต้นจะให้ผลเพียง

	
ครั้งเดียวแล้วก็จะเน่าตายไป

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	
	
           


	

	

	

	

ดอก (หัวปลี)  ใช้แกง  รับประทานสดร่วมกับน้ำพริกต่างๆ  แกนกลาง 

	
(หยวก)  ใช้แกง  ดอง 

	
	

ผลดิบแก้ท้องเสีย รักษาโรคกระเพาะอาหาร ผลสุก เป็นยาระบาย 

	
ดอก (หัวปลี) แก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ โรคโลหิตจาง ลดน้ำตาลในเส้นเลือด

๓
ชื่ออื่น	

มะกอก  มะกอกป่า กอกเขา


	
กอก เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง ๑๕ – ๒๕   เมตร
ลำต้นเปลาตรง เปลือกหนา สีเทา เรียบมีต่อมระบายอากาศมาก
เรือนยอดเป็นพุ่มกลม โปร่ง กิ่งอ่อน เกลี้ยง ใบ เป็นช่อแบบ

	
ขนนกติดเรียงสลับเวียนกัน แต่ละช่อมีใบย่อยรูปรีแกมรูปไข่ ออก
เป็นคู่ๆ ตรงข้ามหรือเยื้องเล็กน้อยมี ๔ – ๖ คู่ ปลายใบสุดก้านช่อ
จะออกเดี่ยวๆ ขนาดกว้าง ๓ – ๔ เซนติเมตร ยาว ๗ - ๑๒
เซนติเมตร เนื้อใบหนา เนียน เกลี้ยงเป็นมัน ขอบใบเรียบ ใบอ่อน

	
สีน้ำตาลอมแดง ดอก ออกรวมกันเป็นช่อโตตามง่ามใบหรือปลายกิ่ง
มีสีขาว ขนาดเล็ก ผล กลมรี วัดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ - ๓.๕
เซนติเมตร ผลแก่สีเขียวอ่อน เมล็ดโตและแข็ง มีเมล็ดเดียว ผิวเมล็ด
เป็นเสี้ยนและมีเนื้อเยื่อบางๆ หุ้ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ใบอ่อนและยอดอ่อนใช้เป็นผักแกล้มลาบ หลู้ น้ำพริกปลาร้า ผลสุกมีรสเปรี้ยว
ใช้ปรุงส้มตำ น้ำพริกตาแดง ตำมะม่วง 

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ผล แก้ เ ลื อ ดออกตามไรฟั น แก้ ธ าตุ พ ิ ก าร แก้ บ ิ ด แก้ ด ี พ ิ ก าร แก้ โรค

	
ขาดแคลเซี่ยม ทำให้ชุ่มคอ เมล็ดแก้ไข้มีพิษร้อน แก้ร้อนในกระหายน้ำ


๔
ชื่ออื่น	

แมงลัก  อีตู่


	
กอมก้อขาว เป็นไม้ล้มลุก ต้นสูงประมาณ ๓๐ – ๙๐ เซนติเมตร ทุกส่วนมีกลิ่นเฉพาะ ลำต้นสี่เหลี่ยม กิ่งอ่อน

	
มีสีม่วงแดงแกมเขียว ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรี กว้างประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร  ยาวประมาณ ๔ – ๖
เซนติเมตร ขอบใบหยักแบบฟันเลือยห่างๆ ดอก ออกเป็นช่อทีปลายยอด กลีบเลียงและกลีบดอกต่างแยกเป็น ๒ ปาก กลีบดอกสีขาว
่
่
้
ปากล่างมีแถบสีม่วงแดงตามยาว ใบประดับสีเขียวแกมม่วง ผล เป็นผลแบบแห้งมี ๔ ผลย่อย

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ยอดอ่อนลวกรับประทานร่วมกับน้ำพริก ใบสดรับประทานกับขนมจีน  

	
ใส่แกงหน่อ แกงแค  แกงอ่อม  ดับกลิ่นคาวในอาหาร

	
	

ใบสดแก้ท้องอืดเฟ้อ น้ำมันหอมระเหยที่มีในใบช่วยการบีบตัวของ

	
ลำไส้เล็ก สามารถขับลมในลำไส้ได้ดี

๕
ชื่ออื่น	

ปีบ  ก้านของ  กาซะลอง


	
กาซะลอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง
สูงประมาณ ๑๕ เมตร ลำต้นเปลาตรงเปลือก
หนา สีเทาอมเหลือง แตกเป็นร่องหรือเป็น

	
สะเก็ดเล็กๆ ตามลำต้นและกิ่งก้าน ใบ ออก
เป็นช่อ แต่ละช่อประกอบด้วยใบเล็กๆ รูปไข่
ขอบใบเรี ย บหรื อ อาจหยั ก ห่ า งๆ ปลายใบ
แหลมเป็นติ่งยาว โคนใบมน ดอก สีขาว
กลิ ่ น หอมอ่ อ นๆ ออกรวมกั น เป็ นช่ อ โตๆ
ตามปลายกิ่ง ดอกรูปแตรเรียวยาวได้ถึง ๖
เซนติ เ มตร ปลายดอกห้ อ ยย้ อ ยลง  
ปลายดอกแยกออกเป็น ๕ แฉก ดอก
จะบานในเวลากลางคืน ผล เป็นฝัก
แบนๆ ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร
หั ว และปลายฝั ก แหลมภายใน

	
มีเมล็ดยาวสีขาว มีกลีบทำให้ปลิว
ไปตามลมได้ระยะไกล



การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร   
ยอดอ่ อ นย่ า งไฟให้ ห อมหรื อ นำมาต้ ม รั บ ประทานร่ ว มกั บ	


น้ำพริก ลาบ หรืออาหารที่มีรสจัด

ประโยชน์ทางสมุนไพร  
ดอกรักษาริดสีดวงจมูก ต้มน้ำดื่มแก้ไอ ราก บำรุงปอดและ
รักษาวัณโรค

๖
ชื่ออื่น	

	

	

กุ่มน้ำ (ทั่วไป)
	
กุ่มน้ำเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงถึง ๒๐ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
๔๐ เซนติเมตร แผ่กิ่งก้านสาขามาก ใบ ออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมี ๓ ใบรูปหอก กว้าง
๑.๕ – ๖.๕ เซนติเมตร ยาว ๔.๕ – ๒๓ เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบ
สอบแคบ เนื้อใบหนามันเป็นแผ่นหนัง เส้นกลางใบมีสีค่อนข้างแดงผิวใบด้านล่าง

	
จะมีละอองสีเทาปกคลุมก้านใบแข็งยาว ๔ – ๑๔ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ
ที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว ๑๐ – ๑๖ เซนติเมตร มี ๒๐ – ๑๐๐ ดอก กลีบรองดอกรูปไข่ปลายแหลม 

	
กลีบดอกกว้าง ๑.๕ – ๒ เซนติเมตร ยาว ๑.๕ – ๓ เซนติเมตร เกสรตัวผู้มีสีม่วง มี ๑๕ – ๒๕ อัน ดอกเมื่อ
บานจะมีสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อแก่ ผล รูปรียาว ๕ – ๘ เซนติเมตร เปลือกหนามีสะเก็ดบางๆ 

	
     เมื่อสุกจะมีสีเทา

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ยอดอ่อน และดอกอ่อนนำมาดองกับเกลือรับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก

แดง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกปลาร้า หรือยำกับปลาทู

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

         ผล แก้ไข้ ใบขับเหงื่อ แก้ไข้ แก้ปวดเส้น ดอกแก้เจ็บตา เจ็บคอ เปลือกต้น

	

แก้ไข้ ขับน้ำดี ระงับพิษที่ผิวหนัง ขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ

๗
ชื่ออื่น	

ก่าม
	
กุ่มบก เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๗ – ๑๐ เมตร   ใบ เป็นใบประกอบ มี ๓ ใบย่อย กว้าง ๑๓ – ๑๕
เซนติเมตร ยาว ๑๒ – ๑๓ เซนติเมตร มีใบย่อย กว้าง ๒.๗ – ๕ เซนติเมตร ยาว ๖ – ๙ เซนติเมตร ก้านใบย่อยยาวประมาณ
๐.๕ เซนติเมตร แผ่นใบคล้ายกระดาษ รูปไข่กลับ โคนใบรูปลิ่ม ปลายใบป้าน ขอบเรียบ ผิวใบทั้ง ๒ ด้านเกลี้ยง ดอก เป็นช่อ
แบบกระจะ ดอกย่อยมีก้านเรียงสลับบนแกนกลาง ช่อดอกยาว ๘ – ๙ เซนติเมตร มีใบประดับคล้ายใบดอกดอกย่อย มีเส้น

	
ผ่าศูนย์กลาง ๒.๕ – ๓ เซนติเมตร ก้านดอกย่อย ยาว ๓.๕ - ๕ เซนติเมตร กลีบเลี้ยงมี ๕ กลีบ โคนติดกัน กลีบดอกมีจำนวน 

	
๔ กลีบ สีขาวรูปรี ปลายมน มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ที่โคนติดกับก้านชูเกสรเพศเมีย ก้านชูเกสรเพศผู้สีชมพูยาวประมาณ 

	
๓ เซนติเมตร เกสรเพศเมียมี ๑ อัน อยู่เหนือวงกลีบมีสีขาวครีม ยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร ผล กลมเกลี้ยงเปลือกแข็ง	


เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ เซนติเมตร ก้านผลยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


๘

	

	

	

	

	

ยอดอ่อน ดอกอ่อน นำมาดองกับน้ำเกลือรับประทานเป็นผักจิ้มร่วมกับ	


น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกตาแดง ยำกับปลาทูนึ่ง

	
	

ผล ขับลม   แก้กลากเกลื้อน เปลือกต้น แก้ปวดท้อง บำรุงไต บำรุง

	
หัวใจ แก้บวม
ชื่ออื่น	

สันพร้าหอม 


	
เกี๋ยงพาลาบ เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร  ลำต้นสีแดง ทุกส่วนเมื่อขยี้ดมมีกลิ่นหอม ใบ ออกเป็นกระจุก
แคบเรียว เมื่อยังอ่อนขอบใบและเส้นกลางใบด้านท้องใบมีสีแดง และมีขนประปราย ใบ   ยาวประมาณ ๒๐ – ๒๕ เซนติเมตร
ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลม  ก้านใบสั้น ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด สีขาวอมชมพูอ่อน ๆ เป็นกระจุกเล็กๆ เมล็ด
ขนาดเล็ก ที่ปลายเมล็ดมีขนหรือ แพพพัส ช่วยในการกระจายพันธ์ุ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

	

ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ หลู้ ส้า น้ำพริก หรืออาหาร

	
ที่มีรสจัด

	
	
	

ทั้งต้นแก้ไข้ เป็นยาชูกำลัง ขับเหงื่อ แก้ท้องอืดเฟ้อ ช่วยให้ลมหายใจ

	
สดชื ่ น กระตุ ้ นทางเพศ น้ ำ ต้ ม รากขั บ พิ ษ และช่ ว ยให้ ป ระจำเดื อ น

	
เป็นปกติ

๙
ชื่ออื่น	

ข่าป่า ข่าลิง


	
ข่าแกง เป็นไม้ล้มลุกข้ามฤดู   สูงประมาณ ๑.๕ – ๒ เมตร ลำต้นอยู่ใต้ดิน (เหง้า) ขนาดเล็ก ลักษณะเป็นข้อๆ และ
ปล้องเห็นได้ชัดเจน ส่วนที่อยู่เหนือดินจะเป็นก้านและใบ ใบ รูปไข่ยาว หรือรูปรีขอบขนาน ปลายใบแหลมกว้างประมาณ ๔ – ๕
เซนติเมตร ยาวประมาณ ๘ – ๑๐ เซนติเมตร สีเขียวเข้มเป็นมัน ออกสลับมีกาบหุ้มลำต้น ดอก ออกเป็นช่อที่ยอด ก้านดอกยาว
ดอกย่อยมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาวกระสีน้ำตาล โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกออกเป็น ๓ กลีบ กลีบที่โตสุดมีริ้วสีแดง 

	
ผล กลม เมื่อสุกจะเป็นสีส้มภายในผลจะมีเมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	


	

๑๐

	

	

	

	

เหง้า ใช้เป็นเครื่องปรุงน้ำพริก ต้นอ่อน (หน่อ) ต้มรับประทานร่วมกับ

	
น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม

	
	

เหง้า  แก้กามโรค แก้ปวดท้อง แก้จุกเสียดแน่น ต้น แก้ฝีดาษ ฝีฝักบัว  

	
ใบ แก้โรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
ชื่ออื่น	

ข่า  ข่าหยวก


	
ข่าหลวง เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๑.๕ – ๒ เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดิน หรือเหง้าลักษณะเป็นข้อและปล้องชัดเจน  
ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ รูปหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้างประมาณ ๗ – ๙ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๐ – ๓๐
เซนติเมตร ดอก   ออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาวโคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ส่วนปลายแยกเป็น	
 

๓ กลีบ กลีบที่โตที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่  ผล เป็นผลแห้ง รูปกลมแตกได้


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
	

	

	

	

	

	

หน่ออ่อน ต้ม ลวก รับประทานร่วมกับน้ำพริก เหง้า ใช้ปรุงอาหาร 

	
ดับกลิ่นคาว เหง้าสดหั่นฝอยใส่ลาบเนื้อ ลาบปลา

	
	

เหง้าต้มน้ำดื่ม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม   เหง้าสดโขลกผสม

	
เหล้าโรงทาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน

๑๑
ชื่ออื่น	


	
ขิงหยวก เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๓๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร 

	
มีลำต้นอยู่ใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีนวล มีกลิ่น
เฉพาะ แทงหน่อหรือลำต้นเทียมตังขึนเหนือผิวดิน ใบ เป็นใบเดียว เรียงสลับ
้ ้
่
รูปขอบขนานแกมใบหอก กว้างประมาณ ๑ – ๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ
๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อแทงออกจากเหง้า กลีบดอกสีเหลือง
แกมเขียว ใบประดับสีเขียวอ่อน  ผล เป็นแบบผลแห้งมี ๓ พู 




การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

ขิง ขิงแกลง

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๑๒

	

เหง้ า อ่ อ นรั บ ประทานเป็ น เครื ่ อ งเคี ย งใน เมี ่ ย งคำ ยำ   ยอดอ่ อ น

	
รับประทานเป็นผักสดร่วมกับอาหารที่มีรสจัด

	

เหง้าแก่ทั้งสด และแห้ง เป็นยาขับลม แก้ท้องอืด แก้ไอ ขับเสมหะ
ชื่ออื่น	

ขี้เหล็กบ้าน  ขี้เหล็กใหญ่  ขี้เหล็กกินดอก  ผักจี้ลี้


	
ขี้เหล็ก เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง ๘ - ๑๕ เมตร ลำต้นมักขดงอเป็นปุ่มปม เปลือก

	
สีเทาหรือน้ำตาลดำ แตกเป็นร่องสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ยอดอ่อนและใบอ่อน
ออกเป็ น สี แดงเรื ่ อ ๆ ใบ   ออกเป็ นช่ อ แบบขนนกช่ อ ติ ด เรี ย งสลั บ ยาวประมาณ ๓๐
เซนติเมตร แต่ละช่อมีใบย่อยรูปขอบขนานแคบๆ กว้าง ๑ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓
เซนติเมตร ติดเป็นคู่ตรงข้ามกัน ๕ - ๑๒ คู่ ที่ปลายสุดของช่อเป็นใบเดี่ยว  ดอก  สีเหลือง
ออกเป็นช่อโตๆ ที่ปลายกิ่ง ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ก้านช่อย่อยมักติดสลับเวียนกัน
ดอกจะเริ่มบานจากโคนช่อสู่ปลายช่อ ผล เป็นฝักแบนสีคล้ำๆ ยาวได้ถึง ๓๐ เซนติเมตร
กว้างประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดเรียงตัวตามขวางมีประมาณ ๒๐ – ๓๐
เมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

	

	

	

	

ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกอ่อน ใช้แกง
ใบ แก้ระดูขาว ถ่ายพิษไข้   ดองสุราดื่มแก้อาการนอนไม่หลับ แก่น 

	
แก้เหน็บชา ขับโลหิต แก้กามโรค แก้หนองใน ถ่ายเส้น

๑๓
ชื่ออื่น	

	



ฝอยทอง  ผักไหม  ฝอยไหม


	
เครื อ เขาคำ เป็ น พื ช ล้ ม ลุ ก เจริ ญ เติ บ โตบนต้ น ไม้ อ ื ่ น	
  

โดยดูดอาหารจากต้นไม้ที่เกาะอาศัย   ลำต้นเป็นเถาเลื้อยยาวกลม
อ่อนนุ่มสีเหลืองแตกกิ่งมาก ใบ มีลักษณะเป็นเกล็ด รูปสามเหลี่ยม
เล็ ก ๆ ออกจากลำต้ น แบบสลั บ ใบมี ส ี เหลื อ งเหมื อ นสี ข องลำต้น  
ดอก มีขนาดเล็ก ดอกเป็นช่อสีขาว มีดอกย่อยจำนวนมาก ปลาย
กลีบดอกแยกออกเป็น ๕ กลีบ ลักษณะกลมมน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ลำต้นอ่อน  ยอดอ่อน ยำใส่มะเขือ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
๑๔

ทั้งต้น ช่วยห้ามเลือด  อุจจาระเป็นเลือด  บำรุงไต  แก้ปวดเอวและต้นขา
ชื่ออื่น	

แค แคบ้าน แคดอกแดง
	
แคขาว  เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๒ – ๕ เมตร โตเร็วแตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นสีน้ำตาลมีรอยขรุขระ
หนา เปลือกในสีชมพู   ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยขนาดเล็กเรียงเป็นคู่ประมาณ ๑๐ – ๒๕ คู่ ใบย่อยรูปขอบขนาน
ปลายกลมเว้าตื้น มีขนแนบชิดผิวใบทั้ง ๒ ด้าน ขนาดใบยาว ๓ – ๔ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ก้านใบย่อยยาว 

	
๐.๑ – ๐.๒ เซนติเมตร   ดอก   เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อแบบช่อกระจะ มี ๒ – ๔ ดอก ห้อยลงสีขาวหรือสีแดงเข้ม ยาว 

	
๑.๕ – ๕ เซนติเมตร ก้านดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ยาว ๕ – ๗.๕ เซนติเมตร กว้าง ๓.๕ – ๕ เซนติเมตร  ผล ลักษณะเป็นฝักยาว
ประมาณ  ๒๐ – ๕๐ เซนติเมตร กว้าง ๐.๗ – ๐.๙ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกออกเป็น ๒ ซีก มีเมล็ดอยู่ตรงกลางมีแถวเดียว
ลักษณะกลมแบนสีน้ำตาลอ่อน แข็ง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

ยอดอ่อน ดอก ใช้แกง ลวก นึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริก
ยอดอ่อน ใบอ่อน  ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้  แก้ลม บำรุงหัวใจ

๑๕
ชื่ออื่น	

แคขาว แคป่า  แคยอดดำ  แคอาว


	
แคนา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ ๑๐ – ๒๐ เมตร ลำต้นเปลาตรงมักแตกกิ่งต่ำเปลือกต้นสีน้ำตาล
อมเทาบางทีมีประสีดำ เปลือกในสีนวลหรือน้ำตาลปนเหลืองอ่อนๆ เรือนยอดเป็นพุ่มรูปไข่ค่อนข้างทึบ กิ่งอ่อนเกลี้ยงมีช่องระบาย
อากาศทั่วไป ใบ   เป็นช่อแต่ละช่อมีใบย่อยรูปรี ๓ – ๗ ใบ ติดตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ส่วนปลายสุดจะเป็นใบเดี่ยวกว้างประมาณ 

	
๓ – ๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร โคนใบสอบปลายใบเรียวแหลม เนื้อใบบางเกลี้ยง ก้านใบยาวประมาณ 

	
๑ – ๓ เซนติเมตร  ดอก  โต สีขาวรูปแตร ออกรวมกันเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่ง ช่อยาว ประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร มี ๓ – ๗
ดอก กลีบฐานดอกทรงรูปกรวยปลายด้านหนึ่งจะเป็นจะงอย ผิวคล้ำ โคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอกตอนครึ่งล่าง
ส่วนครึ่งบนผายโป่งออกผิวกลีบและขอบกลีบจะย่นเป็นริ้ว ฝัก  แบน รูปขอบขนานยาวประมาณ ๘๐ เซนติเมตร ลักษณะคดโค้ง
หรือบิดไปมา

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร	

	

	

๑๖

	

	

	

	

ดอก ต้ม ลวก บีบน้ำออกเพื่อลดความขม ใช้ยำ และจิ้มน้ำพริก
ดอก ขับเสมหะ โลหิต และลม ขับผายลม เมล็ดแก้ปวดประสาท 

	
แก้โรคชัก เปลือก แก้ท้องอืด
ชื่ออื่น	

งิ้วแดง    งิ้วบ้าน 


	
งิ้วเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ ๒๕ เมตร แตกกิ่ง
ก้านสาข าตามเรือนยอด ลำต้นมีหนามแหลมคม
ทั่วไป ใบ แบบใบรวมประกอบขึ้นจากใบย่อย
รูปร่างแหลมยาว มี ๕ – ๗ ใบ รวมกันยาว
ประมาณ ๓๐ เซนติ เมตร ใบย่ อ ยเรี ย งกั น
คล้ายนิ้วมือ ดอก สีแดงขนาดใหญ่มีเกสร
รวมกันหลายกระจุกอยู่ในวงล้อมเป็นของ
กลีบทั้ง ๕ กลีบรองดอกมีสีเขียว ลักษณะ
เป็นรูปถ้วยมนแข็งกลางดอกจะมีเกสรซ้อนเรียงกัน
อยู ่ ๓ ชั ้ น และตามกลี บ ดอกจะมี ข นมั น เป็ น เงาปกคลุ ม อยู 	
่ 

เวลาออกดอกจะทิ้งใบ ผล มีขนาดใหญ่ รูปมนรีปลายแหลม

	
ทั ้ ง สองข้ า ง ผลอ่ อ นมี ส ี เขี ย วแล้ ว เปลี ่ ย นเป็ น สี น ้ ำ ตาลตอนแก่
เปลือกแข็ง ยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ภายในมีใย

	
เป็นปุยสีขาวและมีเมล็ดสีดำจำนวนมาก
 

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
	

เกสรดอกงิ้วตากแห้งใช้โรยหน้าขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงแค

ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร  
	
ดอกตากแห้งนำมาต้มกับน้ำแก้ท้องร่วง เปลือกต้นแก้
กระเพาะอาหารอักเสบ แก้ท้องร่วง


๑๗
ชื่ออื่น	

สะค้าน  สะค้านเนื้อ
	
จะค่าน   เป็นไม้เลื้อย   ลำต้นอวบ   ผิวเป็นตุ่มเล็กๆ แตกกิ่งได้มาก  

	
ข้อโป่งนูน  ก้านใบยาว ๕ - ๗ เซนติเมตร  ใบบางเหนียวสีเขียวอ่อน  เมื่อใบแห้ง
แผ่ น ใบและเส้ น ใบมี ส ี แ ดงคล้ า ยสี อ ิ ฐ   แผ่ น ใบรู ป ไข่ แ กมรู ป หอก   กว้ า ง 

	
๗.๘ - ๑๐ เซนติเมตร  ยาว ๑๔ - ๒๐ เซนติเมตร ฐานใบรูปลิ่ม ปลายใบแหลม  
เส้นใบด้านท้องใบนูนมีจำนวน ๖ - ๗ เส้น ดอก  เป็นช่อห้อยลงช่อดอกเพศผู้
สีเหลือง ก้านช่อดอกยาว ๑ - ๒ เซนติเมตร  แกนช่อดอกมีขนใบประดับรูปกลม  
ด้านล่างมีขน ผล  รูปไข่หรือรูปรี  ช่อผลยาว ๑๕ - ๒๕ เซนติเมตร  ไม่มีก้านผล

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
	

	

๑๘

	

	

	

	

เถาใส่แกงแคเป็นเครื่องชูรส   โดยปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นแว่นๆ

	
หรือใส่แกงมะหนุน  ใบอ่อนรับประทานเป็นผักแกล้มกับลาบ  ก้อย

	
	

ใบ  ขับลมในลำไส้   แก้แน่นจุกเสียด  ดอกแก้ลมอัมพฤกษ์   ผลแก้ลม

	
ในทรวงอก  รากแก้ไข้  แก้จุกเสียด รักษาธาตุ
ชื่ออื่น	

ตะไคร้  ไคร  คาหอม หัวซิงไค


	
จะไค เป็นพืชล้มลุก ขึ้นเป็นกอ สูงประมาณ ๑ เมตร ลักษณะลำต้นเป็นรูปทรงกระบอกแข็ง เกลี้ยง ตามลำต้นมักมีไข
สีขาวปกคลุม มีอายุหลายปี   ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว แตกใบออกเป็นกอ รูปขอบขนานปลายใบแหลม ผิวใบสากทั้งสองด้าน 

	
เส้นกลางใบแข็ง ขอบใบมีขนขึ้นประปราย กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๖๐ – ๙๐ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อ
กระจาย ช่อดอกย่อยมีก้านออกเป็นคู่ๆ ในแต่ละคู่จะมีใบประดับรองรับ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	

	


	

	

	

	

	

ลำต้น ใช้ปรุงอาหารเพื่อดับกลิ่น ใส่แกง ซอยใส่ยำ ลาบ  ส้า
ทั้งต้น รักษาอาการหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืดเฟ้อ ขับลม 

	
บำรุงธาตุไฟให้เจริญ

๑๙
ชื่ออื่น	

อีลอก บุก อีลอกเขา


	
ดอกก้าน เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน ลักษณะกลมผิวขรุขระมีรากโดยรอบ ในฤดูฝนจะมีก้านใบงอกโผล่ขึ้นมาเหนือดิน
ลักษณะอวบน้ำไม่มีแกนยาวประมาณ ๕๐ – ๑๒๐ เซนติเมตร มีลายสีเขียว น้ำตาล และดำ ทั้งแบบเป็นพื้นและจุดด่างหรือแถบ
ลายแตกต่างกันไป ใบ มีก้านใบย่อยแตกออกจากปลายก้านใบ ๒ – ๓ ก้าน และมีใบประกอบ ๑๐ – ๑๒ ใบ ออกเป็นคู่รูปหอก
ยาวประมาณ ๑๕ – ๒๕ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๕ – ๑๐ เซนิเมตร ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มหรือบางชนิดมีจุดสีขาว
กระจายอยู่ทั่วไปมีหูใบติดก้านใบย่อย ดอก มีก้านยาวออกบริเวณเหง้าลักษณะคล้ายก้านใบ มีดอกอยู่ตรงปลายก้าน มีเกสร

	
เป็นแท่งอยู่ตรงกลาง ผล ลักษณะกลม สีเขียวเรียงติดกันเป็นแท่งยาวประมาณ ๕ – ๘ เซนติเมตร และมีกลีบเลี้ยงห่อด้านหลัง
ผลสุกสีแดงส้ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	


	


	

ก้านใบและก้านดอกลอกเปลือกออกแล้วนำมาแกงอ่อม แกงหน่อและ

	
แกงร่วมกับเห็ดลม

	

เหง้าใช้พอกกัดฝีหนอง

ข้อควรระวัง ต้องปรุงให้สุกก่อนบริโภค

๒๐
ชื่ออื่น	

เนระพูสีไทย  ค้างคาวดำ  ว่านหูเลย  ม้าถอนหลัก


	
ดีงูว่า เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี   มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ลักษณะรูปทรงกระบอก ลำต้นสูงประมาณ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร  
ใบ ออกเรียงเวียนสลับ เป็นรัศมีวงรี รูปขอบขนานถึงรูปหอก กว้างประมาณ ๘ – ๑๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๒๐ – ๖๐
เซนติเมตร ก้านแผ่เป็นครีบ ดอก ลักษณะคล้ายค้างคาวบิน ออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม มีดอกย่อย ๔ – ๖ ดอก สีม่วงแกมเขียว

	
ถึงม่วงดำ มีใบประดับ ๒ คู่ สีเขียวถึงสีมวงดำ เรียงตังฉากกัน ผล เป็นผลสด รูปหอกขนานแกนสามเหลียม มีสนเป็นคลืนตามยาว
่
้
่
ั
่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	



ใบอ่อน ยอดอ่อน ลวก ต้ม รับประทานร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า หลู้
หัว  หั่นเป็นแว่น ๆ ดองเหล้า ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง  บำรุงกำหนัด

๒๑
ชื่ออื่น	

ดีปลีเชือก  ประดงข้อ บี้ฮวด


	
ดีปลี เป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันไปตามไม้อื่น มีรากที่ข้อสำหรับยึดเกาะ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับรูปไข่แกมขอบขนาน
กว้างประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๗ – ๑๐ เซนติเมตร ผิวเกลี้ยงเป็นมันโคนเบี้ยวปลายแหลม ขอบเรียบ  มีเส้นใบ
ออกจากโคนใบจำนวน ๓ – ๕ เส้น ดอก ออกเป็นช่อมีดอกย่อยเรียงแน่นบนช่อดอก ช่อดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน	


ช่อดอกตัวผู้ยาวประมาณ ๔ – ๕ เซนติเมตร ช่อดอกตัวเมียยาวประมาณ ๓ – ๔ เซนติเมตร ผล อัดกันแน่นบนแกนช่อ ยาว
ประมาณ ๒ – ๕ เซนติเมตร ผลเมื่อสุกจะเป็นสีน้ำตาลแกมแดง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	

	

	

๒๒

	

	

	

	

ผลใส่แกงแค  ใส่แกงโฮะ  ทำเครื่องปรุง
ผล กลิ่นหอม เผ็ดคล้ายพริกไทย เป็นยาขับลม   แก้อาการอ่อนเพลีย  

	
ช่วยย่อยอาหาร เจริญอาหาร ขับระดู ทำให้แท้ง
ชื่ออื่น	

ทองหลางน้ำ ทองหลางหนาม ทองหลางบ้าน


	
ตอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ ๑๐ – ๑๗ เมตร ตามกิ่งก้านมีหนามแหลมคมทั่วไป ใบ เป็นใบ
ประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ ยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร เนื้อใบหนาเหนียว เมื่อแก่ผิวใบด้านล่างมีแป้งขาวปกคลุม	
 

ใบย่อยตอนปลายยอดรูปไข่ขอบขนาน กว้างประมาณ ๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร ดอก   ออกเป็นช่อยาว
ประมาณ ๑๗ มิลลิเมตร มีกลีบดอก ๕ กลีบขนาดไม่เท่ากัน กลีบที่หนาจะใหญ่ที่สุด ส่วนกลีบในสุดจะเล็กและแคบที่สุด	
 

กลีบดอกมีสีม่วงถึงแดงเข้ม ดอกจะออกในช่วงที่ผลัดใบ ผล เป็นฝักลักษณะยาวตรง ยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร กว้าง
ประมาณ ๒ เซนติเมตร มีสีน้ำตาลอ่อน  เมล็ด รูปไตยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๗ มิลลิเมตร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
	


	

	

	

	

	

ยอดอ่ อ น ใบอ่ อ น   รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ น้ ำ พริ ก ตาแดง  

	
น้ำพริกปลาร้า และทำเมี่ยงคำ
เปลือกต้น แก้เสมหะ แก้ลมพิษ แก้ตาแดง   ราก   แก้พยาธิในท้อง 

	
แก้เสมหะและลม แก้ไข้หวัด

๒๓
ชื่ออื่น	

ต้างป่า  ต้างผา ต้าง
	
ต้าง  เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๓ – ๖ เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับหนาแน่นอยู่ที่ปลายยอด รูปโล่ ขอบใบ
หยักเว้าลึกเป็นพู ๕ – ๙ พู แผ่นใบสีเขียวแกมน้ำตาล ผิวใบมีขนละเอียดสีน้ำตาล ดอก ออกเป็นช่อที่ลำต้นใกล้กับปลายยอด
บริเวณง่ามใบ ช่อดอกมีรูปร่างกลมรีติดกันเป็นกระจุกกลม กระจุกละ ๓๐ – ๔๐ ดอก ช่อหนึ่งอาจมีหลายกระจุก กลีบดอกสีขาว
อมเหลือง มีเกสรตัวผู้เป็นเส้นยาว ผล กลมรูปถ้วยคว่ำ มี ๓ พูรวมกันเป็นกระจุกกลมสีเขียวและมีขนสีน้ำตาลปกคลุม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ดอกอ่อนนำมาลวกหรือต้มสุกรับประทานกับน้ำพริกต่างๆ แกงกับ	



	

	

ปลาแห้ง หรือแกงกับปลาแห้งร่วมกับปลีกล้วย

	

ดอกอ่อนช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ตัวร้อน กระหายน้ำ บำรุงร่างกาย

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	



๒๔
ชื่ออื่น	

ตาลโตนด ตาลใหญ่ 
	
ตาล  เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ ๓๐ เมตร ลำต้นกลมเรียว ไม่แตก
กิ่งก้านสาขา เปลือกเป็นเสี้ยนแข็ง ใบ   แบบใบเดี่ยวเรียงสลับหนาแน่น
บริเวณเรือนยอดรูปพัด แต่ละแฉกคล้ายกระดาษกว้าง ๖ – ๘ เซนติเมตร
ยาวได้ถึง ๑๔๐ เซนติเมตร ปลายแยกเป็น ๒ แฉก แผ่นใบมีเกล็ดเล็กๆ

	
ทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบเป็นกาบหนาแข็ง ขอบเป็นหนามคมสีดำ ดอก เป็นช่อ
แตกแขนงขนาดใหญ่ ดอกย่อยแยกเพศอยู่คนละต้นดอกตัวผู้เป็นช่อทรง
กระบอกเป็นงวงดอกตัวเมียเป็นช่อเรียกว่า จั่น และเป็นส่วนที่ให้น้ำตาล
ผล ทรงกลมติดเป็นทลายเมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	



  ดอกอ่อน ทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย  เรียก ปลีตาล ใช้แกงปลีตาล

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	



ราก แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้ ชูกำลัง ใบ แก้อาการกระสับกระส่ายหลังคลอด
งวง ต้มน้ำดื่มแก้พิษตานซาง กาบใบ อังไฟแล้วบิดเอาน้ำแก้ท้องร่วง

๒๕
ชื่ออื่น	

คูน  ทูน กระดาษขาว  


	
ตูน เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ก้านใบแทงออกจากเหง้า ยาว สีเขียว มีไขเคลือบที่ผิว ใบ ลักษณะ
ปลายมนฐานใบเว้าริมใบเรียบ ผิวใบมัน สีเขียว ก้านใบมีไขเคลือบมองดูมีสีขาวนวล เนื้อก้านใบกรอบน้ำมีรูอากาศแทรกอยู่ใน

	
เนื้อใบ กว้างประมาณ ๑๖ – ๑๗ นิ้ว ยาวประมาณ ๑๑ – ๑๙ นิ้ว ดอก ออกเป็นแท่งเดี่ยวๆ ดอกย่อยแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน
ลักษณะฉ่ำน้ำ ผล เป็นผลสดสีเขียว

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	



๒๖

ลำต้นรับประทานสด  แกงส้ม แกงกะทิ
หัวใต้ดิน รักษาแผล แก้น้ำกัดเท้าและกัดหนอง
ชื่ออื่น	

สาหร่ายน้ำจืด  เทา


	
เตา เป็นพืชน้ำพวกสาหร่าย ลักษณะเป็นเส้นยาวเล็กๆ รวมกันเป็นกลุ่มสีเขียว ไม่แตกกิ่งก้าน เมื่อสัมผัสจะเป็น	


เมือกลื่น เกิดในน้ำนิ่งและสะอาด เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	


	


ทั้งต้นใช้ยำ
บำรุงร่างกายเพราะมีโปรตีนสูง

ข้อควรระวัง ผู้สูงอายุไม่ควรรับประทาน จะทำให้เกิดอาการช้ำบวม

๒๗
ชื่ออื่น	

ถั่วพู 
	
ถั่วปู เป็นไม้เลื้อยลำต้นเลื้อยพันไม้อื่น ยาวประมาณ ๕ เมตร ใบ เป็นใบประกอบชนิด ๓ ใบ ใบย่อยรูปไข่กว้าง 

	
ปลายใบแหลม กว้าง ๖ เซนติเมตร ยาว ๑๐ เซนติเมตร ฐานใบแหลม เส้นใบมองเห็นชัดเจน ดอก ออกเป็นช่อสีม่วงอ่อน ผล  
เป็นฝักยาวทรงสี่เหลี่ยมยาว ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร มี ๔ ปีกตามยาวริมปีกจัก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๒๘

	

	

	

	

ฝักรับประทานสดหรือนึ่งสุกจิ้มน้ำพริก นำมาแกงแคร่วมกับผักชนิดอื่น
ใบช่วยย่อยอาหารจำพวกกรดไขมันที่อิ่มตัว ฝักแก้ร้อนใน บำรุงกำลัง  

	
ราก  แก้ปวดมวนท้อง
ชื่ออื่น	

ถั่วน้อย ถั่วลันเตาเปลือกหนา

                
	
ถั่วลันเตา  เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเลื้อยกึ่งพุ่ม ใบ เป็นใบประกอบมีใบย่อย ๓ ใบออกสลับกัน ปลายใบจะเปลี่ยนรูปเป็น
มือเกาะ  ดอก  ออกเป็นช่อสีขาวตามซอกใบจะเริ่มบานเมื่อมีใบ ๙ – ๑๐ ใบ  ผล เป็นฝักแบนโค้ง มีหลายขนาดขึ้นกับจำนวน
เมล็ด ในหนึ่งฝักจะมีเมล็ดประมาณ ๒ – ๑๐ เมล็ด   ผิวเรียบและเหี่ยวย่น ฝักที่ผิวเหี่ยวย่นจะมีรสหวานกว่าฝักที่ผิวเรียบ 

	
ความยาวของฝักประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร เมล็ด มีลกษณะกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๕ เซนติเมตร
ั

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



ฝักอ่อนใช้ผัด ลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ และแกงแครวมกับผักชนิดอื่น
เถารักษาอาการตับทรุด ตับพิการ เมล็ด บำรุงไขมัน บำรุงเส้นเอ็น

๒๙
ชื่ออื่น	

	

ถั่วเหลือง (ทั่วไป)

ถั่วเหลือง  เป็นพืชล้มลุก ต้นทรงพุ่ม สูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตร ลำต้นแตกกิ่ง
๓ – ๘ กิ่ง มีขนสีขาวน้ำตาลปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นใบรวมประกอบด้วยใบย่อย ๓ ใบ
รูปกลมรี ดอก ขนาดเล็กสีขาวหรือม่วงเกิดจากมุมใบและปลายยอดเป็นดอกสมบูรณ์
เพศจำนวน ๓ – ๑๕ ดอกต่อช่อ ผล เป็นฝักรูปยาวโค้ง ภายในมีเมล็ดจำนวน 

	
๒ – ๓ เมล็ด เรียงตัวตามแนวนอน เปลือกหุ้มเมล็ดมีสีเหลือง เขียว น้ำตาล และดำ
ภายในเมล็ดมีใบเลี้ยงสีเขียวหรือเหลืองจำนวน ๒ ใบหุ้มต้นอ่อนอยู่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
เมล็ด นำมาทำเครื่องปรุงรส (ถั่วเน่า) ใช้แทนกะปิและน้ำปลา มีทั้งแบบเปียกและ
แบบแห้ง

ประโยชน์ทางสมุนไพร
ถั่วเหลืองมีแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี ๑ วิตามินบี ๒ ป้องกันและรักษา
อาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด อาการครั่นเนื้อครั่นตัว แก้อาการหน้ามืดวิงเวียนศีรษะ

	
ของสตรีที่หมดประจำเดือน บำรุงร่างกาย บำรุงเส้นเอ็น



๓๐
ชื่ออื่น	

หมากหัวต่อ  หมากติดต่อ ตีนสิ้นบ่อหี่


	
เถาวัลย์ด้วน เป็นไม้เลื้อยที่พาดพันไปตามไม้อื่น ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม กว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร ยาว
ประมาณ ๖ เซนติเมตร สีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบ ขอบใบเรียบ ผล ออกเป็นขั้วและติดกัน ลักษณะเป็นฝักเรียงปลายแหลม ภายในมี
เมล็ดจำนวนมาก ฝักเมื่อแก่จัดจะแตก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



ผลอ่อนนำมาต้ม ลวก รับประทานร่วมกับ ลาบ หลู้ ส้า น้ำพริก
ผลให้วิตามินบี  บำรุงธาตุ  รากสดต้มน้ำดื่มแก้ปวดบั้นเอว 

๓๑
ชื่ออื่น	

   ผักชีช้าง   หญ้าน้ำมันกบ


	
เทียนทั้งห้า เป็นไม้พุ่มเตี้ยกึ่งเลื้อย ลำต้นมีใบ
ประกอบ แบบขนนก มีใบย่อยเป็นฝอยเส้นเล็ก ๆ รอบบริเวณข้อ   
มักจะเอนนอนราบไปกับพื้นดิน   ความสูงประมาณ   ๒๐ – ๓๐  
เซนติเมตร ใบ ลักษณะเป็นฝอย เส้นเล็กๆ มีความยาวประมาณ 

	
๑ – ๓ เซนติเมตร เรียงรอบข้อของแต่ละกิ่ง ดอก  ออกเป็นช่อตาม
ปลายยอดกิ่งและซอกใบ ลักษณะเป็นฝอยขนาดเล็กสีขาวออกเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร   
ใช้เป็นผักสด รับประทานกับลาบ ส้า หลู้

ประโยชน์ทางสมุนไพร  
ลำต้นแก้ซางเด็ก  รากแก้เบาหวาน  


๓๒
ชื่ออื่น	

นางแลว (ทั่วไป)


	
นางแลว เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอยู่ใต้ดิน แตกใบขึ้นเป็นกอสูงจากพื้นดินประมาณ ๕๐ – ๘๐ เซนติเมตร ใบ ออกเป็นกอ
จากลำต้นที่อยู่ใต้ดิน ก้านใบสั้นและกลายเป็นเนื้อเดียวกับใบ รูปร่างเรียวยาวขอบขนานปลายใบแหลม ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่น
เล็กน้อย แกนกลางใบเห็นได้ชดเจน ดอก ออกเป็นช่อ สีขาวยาวประมาณ ๘ – ๑๐ เซนติเมตร ดอกย่อยสีขาวอมม่วงหรือสีมวงเข้ม
ั
่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	



	

ช่อดอก นำมาลวก รับประทานสดเป็นผักจิ้มร่วมกับน้ำพริก แกงกับ

	
ปลาแห้ง แกงผักรวม หรือแกงแคร่วมกับผักชนิดอื่นๆ

	

ราก  เจริญอาหาร บำรุงตับ บำรุงน้ำดี

๓๓
ชื่ออื่น	

บวบ บวบกลม มะบวบ


	
บวบหอม เป็นไม้เลื้อยพาดพันไปตามต้นไม้อื่น มีหนวดยาวแตกออกตามข้อ ต้นอ่อนลักษณะกลมมีขนที่อ่อนนุ่ม	


ขึ้นปกคลุมทัวไป ใบ มีรอยหยักเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก หลังใบสีเขียวแก่สวนท้องใบสีเขียวอ่อน ใบอ่อนจะมีขนปกคลุมมาก
่
่
ใบมีขนาดกว้างประมาณ ๑๕ – ๒๕ เซนติเมตร เส้นใบนูนเห็นได้ชัดเจน ดอก มีทั้งดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน
บางครั้งอาจพบดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกเพศเมียกับดอกเพศผู้อยู่ในช่อเดียวกันและกลีบเลี้ยงดอกจะติดกัน ตรงปลาย

	
จะแยกออกเป็น ๕ กลีบ มีสีเหลืองบริเวณขอบดอกเป็นสีเหลืองขอบดอกเป็นรอยย่น ผล เป็นรูปทรงกระบอกกลม ยาวประมาณ 

	
๑๕ – ๖๐ เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียวมีลายสีเขียว ผลแก่สีเขียวออกเหลืองหรือเขียวเข้มอมเทา ผลเมื่อแก่จะมีเส้นใยเหนียว

	
มีลักษณะเป็นร่างแห เมล็ดเป็นวงรีแบน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	



ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

	

๓๔

	

	

	

	
	

ผลอ่อน  ยอดอ่อน แกงเลียง ผัด ต้ม จิ้มน้ำพริก
ใบ ขับระดู ฟอกโลหิต   ต้มน้ำดื่มขับปัสสาวะ   ขับลม ขับน้ำนม  

	
เมล็ด  ระบายท้อง ทำให้อาเจียน
ชื่ออื่น	

มะละกอ  หมักหุ่ง  กล้วยลา


	
บ่ะก้วยเตส  เป็นไม้ยืนต้น ลำต้นอ่อนอวบน้ำ ตั้งตรงไม่แตกกิ่งก้าน ลำต้นกลวง ผิวขรุขระ สีน้ำตาล เมื่อใช้มีดสับจะมี	


ยางขาวไหลซึมออกมา ใบ เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ แผ่คล้ายร่ม ขอบใบหยักเว้าลึก แยกออกเป็น ๗ – ๙ แฉก ออกที่ปลายยอด
แบบสลับ ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีขาวหรือเหลืองอ่อน มี ๕ กลีบมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ดอกตัวผู้และ
ดอกตัวเมียแยกกันอยู่คนละต้น ผล เป็นผลเดี่ยว รูปร่างกลมยาวรีหรือทรงกระบอก ผลดิบสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ภายในมีเมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาลผิวขรุขระมีเนื้อเยื่อใสหุ้ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ผลดิบ นำมานึ่ง ต้ม รับประทานกับน้ำพริกๆ แกง  ทำส้มตำ ยอดอ่อน

	
ดองรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก

	
	

ทั้งต้น ขับประจำเดือน ลดไข้   ราก แก้กลาก เกลื้อน   ยาง   ช่วยกัด

	
แผล รักษาตาปลาและหูด  ทำครีมทาแก้ส้นเท้าแตก

๓๕
ชื่ออื่น	

มะกูด มะขูด ส้มกรูด


	
บ่ะกูด เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง ๒ – ๘
เมตร ลำต้ น และกิ ่ ง มี ห นามแข็ ง ยาวปลายแหลม เปลื อ กต้ น เรี ย บ

	
สีน้ำตาลอ่อน ทรงพุ่มโปร่ง แตกกิ่งก้านแผ่กระจาย ใบ ลักษณะคล้าย
ใบไม้ ๒ ใบต่อกัน สีเขียวแก่ ผิวเรียบเกลี้ยงเป็นมัน มีต่อมน้ำมัน
กระจายอยู่ทั่วไป มีกลิ่นหอมฉุน   ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อสั้นๆ
ออกตามง่ามใบ กลีบดอกรูปไข่ปลายแหลมสั้นสีขาว ๕ กลีบ	
 

มี เ กสรตั ว ผู ้ ๑๘ – ๒๐ อั น เกสรตั ว เมี ย ยาวประมาณ 

	
๓ มิลลิเมตร รังไข่กลม ผล เป็นผลเดี่ยวแบบมีเนื้อลักษณะ

	
ค่อนข้างกลม ผิวเปลือกนอกขรุขระเป็นปุ่มปม มีต่อมน้ำมัน
กระจายอยู่ทั่วไป มีจุกที่ขั้วและที่ก้านผลผลอ่อนสีเขียวแก่แล้วจะ
เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด เมื่อผลแก่ เมล็ดมีจำนวนมาก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ผลและใบ ใช้ปรุงอาหาร  ซอยใส่ลาบ ส้า

ประโยชน์ด้านสมุนไพร   
น้ ำ บำรุ ง ผิ ว ฟอกเลื อ ดสตรี แก้ ไอ ขั บ เสมหะในลำคอ ใช้ ส ระผม

	
แก้รังแค



๓๖
ชื่ออื่น	

มะขาม มะขามไทย อำเปียล
	
บ่ะขาม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาบริเวณส่วนยอดของ
ลำต้น กิ่งและลำต้นแข็งเหนียว เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อนและแตกสะเก็ดเป็นร่องเล็กๆ ทั่วไป
ใบ เป็นใบรวมออกเป็นคู่เรียงตามก้านมีประมาณ ๑๐ – ๑๘ คู่ ใบย่อยลักษณะรูปขอบขนาน
ปลายใบและโคนใบมนสีเขียวแก่ ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ ตามบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งๆ จะมี
ประมาณ ๑๐ – ๑๕ ดอก กลีบดอกขนาดเล็กสีเหลืองมีประสีแดงตรงบริเวณกลางดอก ผล
เป็นฝัก เปลือกนอกเปราะสีเทาอมน้ำตาล ภายในผลมีเนื้อเยื่อแรกๆ จะเป็นสีเหลืองอ่อน
แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่จัดหุ้มเมล็ดอยู่ เมล็ดค่อนข้างกลม ผิวเกลี้ยงเป็นมัน สีดำ
หรือสีน้ำตาลเข้ม เนื้อเมล็ดสีขาวหรือสีเหลืองอ่อนๆ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

	

ใบอ่อน ดอก และฝักอ่อน รสเปรี้ยวใช้ปรุงรส

	
อาหาร เช่น ต้มส้ม เนื้อในฝักแก่ใช้เป็นเครื่องปรุงรส เช่น แกงส้ม

	
	
	

ใบแก่ ปรุงยาแก้ไอ แก้โรคบิด ขับเสมหะในลำไส้ เนื้อในแก้อาการ

	
ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ เมล็ด เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน

	
ในท้องเด็ก 

๓๗
ชื่ออื่น	

มะเขือขื่น  มะเขือหืน


	
บ่ะเขือแจ้ เป็นไม้พุ่มมีอายุหลายปี   กิ่งเปราะหักง่าย มีหนามแหลมทั่วลำต้น ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันสีเขียว  

	
ขอบใบหยักเป็นคลื่น มีหนามที่ท้องใบและหลังใบ   ขอบใบและก้านใบบริเวณยอดอ่อนมีขนอ่อนปกคลุม ดอก ออกเดี่ยวสีม่วง  
ออกที่ปลายยอดเกสรสีเหลือง กลีบเกลี้ยงสีขาว เมื่อเกิดผลกลีบเลี้ยงจะติดอยู่ที่ขั้วผล ผล เปลือกหนาเหนียวมีเมล็ดจำนวนมาก  
ผลดิบมีสีเขียวหรือรอยประสีขาว  เมื่อสุกจะมีสีเหลือง  ขั้วผลมีหนามแหลมคม


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	


	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

๓๘

	

	

	

	

ผลดิบ รับประทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริก   ผลสุกทุบให้เมล็ดหลุด	


แล้วล้างน้ำให้สะอาดแช่น้ำเกลือใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ

	
	

ราก แก้ไอ ลดไขมันในเลือด เมือกจากผลขูดตากแดดดองเหล้าโดยใช้	


อัตราส่วน ๓๒ ลูก / เหล้าขาว  ๑ ขวด  ดื่มแก้ปวดเมื่อย
ชื่ออื่น	

มะเขือม่วง  มะเขือจานมะพร้าว  บ่ะแขว้งคม


	
บ่ะเขือปั๋ง   เป็นไม้พุ่ม   สูงประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร
ลำต้นมีขนนุ่มอ่อนปกคลุมทั่วไป   ใบ ออกสลับกันรูปร่างค่อนข้าง
กลม โคนใบเบี้ยวปลายใบแหลม ขอบใบหยักหรือเป็นคลื่นบริเวณ
ท้องใบมีขน   ดอก   ออกเดี่ยวๆ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกมี 

	
๕ แฉก โคนเชื ่ อ มกั น เป็ นกรวยกลี บ ดอกสี ม ่ ว ง ผล สี ม ่ ว งเขี ย ว
ลักษณะกลมยาวมีกลีบเลี้ยงติดที่ขั้วผล ผิวเปลือกบางเรียบเกลี้ยง

	
เป็นมัน  เมล็ดมีจำนวนมาก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ใช้ประกอบอาหารต่างๆ  ผลดิบรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก

ประโยชน์ทางสมุนไพร  
ผลสดใช้พอกบริเวณแผลอักเสบ ฝีหนอง   ลำต้นและรากต้มน้ำดื่มแก้บิด	
 

ดอกเผาให้เป็นเถ้าบดให้ละเอียดแก้ปวดฟัน


๓๙
ชื่ออื่น	

มะเขือเปราะ  


	
บ่อเขือผ่อย เป็นไม้พุ่ม กิ่งก้านเปราะหักง่าย ใบ เป็นใบเดี่ยว สีเขียว ออกสลับกัน ขอบใบหยักเป็นคลื่น  ใบและก้านใบ
มีขนปกคลุมทั่วไป ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีม่วง ออกที่ปลายยอด เกสรสีเหลือง กลีบเลี้ยงสีขาว เมื่อเกิดผล กลีบเลี้ยงจะยังคงติดอยู่
ที่ขั้วผล ผล เป็นผลเดี่ยว เปลือกหนากรอบ สีเขียว หรือสีขาว หรือประสีขาว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ด
จำนวนมาก 

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	



๔๐

	

ผลอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า ผลสุก ทุบเอา

	
เมล็ดออก ดองน้ำเกลือ  รับประทานกับน้ำพริก

	

ราก  แก้ไอ  ลดไขมันในเลือด
ชื่ออื่น	

มะเขือเทศ , มะเขือเครือ


	
บ่ะเขือส้ม เป็นไม้พุ่มเตี้ยกึ่งเลื้อย   แตกกิ่งก้านมาก
ลำต้นสีเขียว   มีขนนุ่มปกคลุมและมีเมือกเหนียวมือ   ใบ เป็น
ใบประกอบออกตรงกันข้าม  ก้านใบยาว ๓ - ๕ เซนติเมตร มีใบ
ย่อย ๕ - ๙ ใบ ใบย่อยรูปสามเหลี่ยม ขอบใบหยัก แผ่นใบขรุขระ
เล็กน้อย มีขนนุ่มปกคลุมสีเขียวเข้ม ขนาดใบย่อย กว้าง ๒ - ๔
เซนติเมตร ยาว ๓ - ๖ เซนติเมตร  ดอก ออกเป็นช่อตามง่ามใบ
กิ่งหรือปลายยอดจำนวน ๘ - ๒๕ ดอกต่อช่อ  กลีบดอกมี ๕ แฉก

	
สีเหลืองอยู่ตรงกลางดอก   มีถุงเกสรตัวผู้ล้อมรอบก้านเกสรตัวเมีย  
ผล กลมหรื อ ค่ อ นข้ า งกลมหรื อ แป้ น แตกต่ า งกั นตามสายพั นธ์ 	
ุ  

เมื่อสุกมีสีแดง ภายในมีเมล็ดเรียงตัวเป็นช่องๆ และมีเมือกวุ้นห่อหุ้ม
เมล็ด  เมล็ดกลมแบนสีน้ำตาลอ่อน


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	



ผลสุกใช้ปรุงอาหารประเภทต้ม   แกง, ใส่น้ำเงี้ยว, ยำ หรือ 

	
รับประทานสด

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ผล เป็นยาระบาย  เจริญอาหาร


๔๑
ชื่ออื่น	

มะเขือยาว  มะเขือจานมะพร้าว  มะเขือกระโปกแพะ


	
บ่ ะ เขื อ หำม้ า เป็ น ไม้ ล ้ ม ลุ ก ต้ น สู ง ประมาณ 

	
๑ เมตร   มีลำต้นแข็งแรงสีเขียวหรือสีม่วง มีขนนุ่มสั้น
ปกคลุมทั่วไปหรืออาจมีหนามเล็กๆ ส่วนบนแตกกิ่งก้าน
สาขาหนาทึบ ใบ ออกสลับกัน รูปค่อนข้างกลม โคนใบ
เบี้ยวปลายแหลม ขอบใบหยักหรือเป็นคลื่น ท้องใบมีขนนุ่ม
ปกคลุม   ดอก ออกเป็นช่อหรือดอกเดี่ยวสีม่วง มีกลีบดอก 

	
๕ กลี บ   โคนกลี บเชื่อมติดกัน   ส่วนปลายแยกออกเป็ น	
 

๕ แฉก กลางดอกมีเกสรตัวผู้ ๕ อัน เกสรตัวเมีย ๑ อัน อยู่ติด
กับกลีบดอก   ก้านเกสรมีสีเหลือง ผล กลมยาวสีเขียวอ่อน 

	
สีม่วงคล้ำหรือขาว ผิวเปลือกเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ตรงขั้วของผล
จะมีกลีบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	  
ผล ต้มหรือเผาไฟ จิ้มกับน้ำพริก  ยำ  ชุบไข่ทอด  ผัด
หรือแกง

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
ลำต้นและราก   แก้บิดเรื้อรัง อุจจาระเป็นเลือด  

	
ใบแก้ปัสสาวะขัด  แก้โรคหนองใน  ผล แก้ปวด  แก้ตกเลือดในลำไส้  ขับเสมหะ


๔๒
ชื่ออื่น	

กำจัดต้น พริกหอม ลูกระมาศ


	
บ่ะแขว่น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๐ – ๑๕ เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ดอก
ออกเป็นช่อ ผล กลมเปลือกผลสีแดงเมื่อแก่จะแตกออก มีเมล็ดเล็กกลมขนาดเล็ก สีดำ ผิวมัน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ใบอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดจิ ้ ม ร่ ว มกั บ น้ ำ พริ ก ปลาร้ า ลาบ ส่ า 

	

ผลแห้ง เป็นเครื่องเทศปรุงรสและกลิ่น ลาบ หลู้ ยำต่างๆ และเครื่องแกงแค เป็นเครื่องเทศแกงอ่อมไก่ แกงอ่อมเนื้อ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

ใบ   แก้รำมะนาด แก้ปวดฟัน เมล็ดแก้ลมวิงเวียน บำรุงโลหิต บำรุง

หัวใจ ขับลมในลำไส้ บำรุงธาตุ รากและเนื้อไม้ ขับลมในลำไส้ แก้ลมเบื้องบน ขับระดู

๔๓
ชื่ออื่น	

มะรุม  ผักอีฮุม
	
บ่ะค้อนก้อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๕ - ๑๐ เมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกแตกใบย่อย ๓ ชั้น  
ยาว ๒๐ - ๔๐ เซนติเมตร ออกเรียงสลับ ใบย่อยยาว ๑ - ๒ เซนติเมตร  รูปไข่ ฐานใบมน ท้องใบสีอ่อนกว่าหลังใบมีขนประปราย
ดอก ออกเป็นช่อสีขาวตามซอกใบมีกลีบเลี้ยง ๕ กลีบ และมีกลีบดอก ๕ กลีบ ผล เป็นฝักยาวเปลือกสีเขียวมีลักษณะคอดมน
เป็นระยะๆ และมีเหลี่ยมตามความยาวของฝัก  ฝักยาวประมาณ ๒๐ - ๕๐ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดรูปสามเหลี่ยม มีปีกบางหุ้ม
๓ ปีก  เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ เซนติเมตร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร   น้ำพริกอปลาร้า   หรืออน  ำพริกตาแดง  ุสกฝัรักบอ่ประทานเป็นผักจิบ้มปลาย่าบง  

		
ยอดอ่ นและดอกอ่
นำมาต้มให้
ร่วมกั
	
	
	
	
	
น้
อนนำมาแกงกั

	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

๔๔

	

	

	

	

แกงกับกระดูกหมู

	
	

ใบแก้เลือดออกตามไรฟัน   ดอกขับปัสสาวะบำรุงกำลัง   เปลือกต้น	


ขับลมในลำไส้  แก้ฝี  รากกระตุ้นหัวใจ  บำรุงกำลัง  บำรุงธาตุไฟ
ชื่ออื่น	

มะเขือพวง  หมากแข้ง  มะแคว้งกูลา มะแว้ง


	
บ่ะแคว้ง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ ๑ – ๒ เมตร ลำต้นมีหนามสั้นๆ ทั่วไป แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ ลักษณะ

	
รูปรี ปลายใบแหลม  ขอบใบหยัก ใบยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ท้องใบและหลังใบมีขนสั้นๆ ปกคลุม ดอก ออกเป็น
พวงสีขาว ออกตามง่ามใบและปลายกิง มีกลีบดอกและกลีบเลียงอย่างละ ๕ กลีบ ดอกสมบูรณ์เพศ ผล เป็นผลกลุมลักษณะกลม
่
้
่
สีเขียวที่ขั้วผลมีกลีบเลี้ยงติด เมื่อผลแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



	

ผลอ่ อ นนำมานึ ่ ง ลวก หรื อ รั บ ประทานสด กั บ ลาบ น้ ำ พริ ก ต่ า งๆ 

	
ใส่แกงแค แกงปลีตาล

	

ผล ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ ตำคั้นเอาน้ำผสมเกลืออมแก้ไอ 

๔๕
ชื่ออื่น	

มะแว้งต้น  หมากแข้งขม  มะแคว้งดำ

 
	
บ่ะแคว้งขม  เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ ๑ – ๒ เมตร แตกกิ่งก้านมาก มีอายุประมาณ ๒ – ๕ ปี มีขนปกคลุมทั่วไป  ใบ
เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน ก้านใบยาว ใบแผ่กว้าง ขอบใบเว้าเข้าหาเส้นกลางใบมีขนสั้นๆ ทั่วทั้งใบ ดอก เป็นดอกเดี่ยวออกที	
่

ซอกใบ กลีบดอกสีม่วงอ่อนมี ๕ กลีบ ตรงกลางมีเกสรสีเหลือง ผล เป็นผลเดี่ยวลักษณะกลมผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกจะมีสีส้ม  
เมล็ดขนาดเล็กกลมแบนสีน้ำตาลอ่อน


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๔๖

	

	

	

	

ผลอ่อนรับประทานกับน้ำพริกต่างๆ  ลาบ
ขับเสมหะ แก้ไข้   แก้เบาหวาน เจริญอาหาร   ขับปัสสาวะ บำรุงน้ำดี 

	
แก้ไอ  (ห้ามใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเพราะอาจเป็นโทษต่อไตได้)
ชื่ออื่น	 	



มะแว้งเครือ  
	
บ่ะแคว้งเครือขม เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย มีลำต้นสีเขียว ผิวเรียบเป็นมัน
มีหนามแหลมคมทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ขอบใบหยักสีเขียวเข้ม 

	
แผ่นใบเรียบ เส้นกลางใบมีหนาม ดอก ออกเป็นช่อ สีม่วงอ่อน ตรงกลางดอก
มีเกสรสีเหลือง ผล ทรงกลม ก้านผลยาวประมาณ ๑ – ๔ เซนติเมตร สีขาวนวล
ไหล่ผลมีเส้นร่างแหสีเขียวเมื่อผลแก่หรือสุกจะมีสีแดงเข้ม  เมล็ด  ลักษณะกลมแบน ผิวเรียบสีน้ำตาลอ่อน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	

	

	

	

	

	

ผลอ่อน รับประทานกับลาบ หลู้ น้ำพริกต่างๆ
ผลสดตำผสมเกลือเล็กน้อย อมหรือจิบแก้ไอ แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ  

	
ผลแห้ง ปรุงยาแก้ไอ ขับปัสสาวะ เจริญอาหาร แก้เบาหวาน

๔๗
ชื่ออื่น	

พิลังกาสา  ก้างปลา  อ้ายรามใบใหญ่


	
บ่ะจ้ำ  เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ ๒ – ๔ เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันรูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้างประมาณ
๓ – ๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๓ – ๒๘ เซนติเมตร เนื้อใบหนาผิวเรียบ ก้านใบยาว ๘ – ๑๕ เซนติเมตร  ดอก  ออกเป็นช่อ
ที่ปลายกิ่ง ยาวประมาณ ๑๐ – ๑๘ เซนติเมตร แตกช่อย่อยออกเป็น ๓ ชั้น กลีบดอกสีขาวอมชมพูอ่อนๆ ติดกันที่โคนมีลักษณะ
สั้นๆ ปลายแยกออกเป็น ๕ แฉก แต่ละแฉกรูปหอก ผล กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๕ มิลลิเมตร มีเมล็ดเดียวเมือสุกมีสดำ
่
ี

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
๔๘

ยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก  ลาบ  ส้า  
ใบ  แก้ ตับ ปอด พิการ  ดอก คั้นเอาน้ำทาโรคผิวหนัง
ชื่ออื่น	

มะเดื่อชุมพร  มะเดื่ออุทุมพร 


	
บ่ะเดื่อเกลี้ยง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่  สูงได้ถึง ๓๐ เมตร ตามกิ่งอ่อน ผลและเปลือกมีน้ำยางสีขาว ใบ  
เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปรี   หรือรูปไข่ขอบขนาน  กว้างประมาณ  ๓.๕ – ๘.๕  เซนติเมตร  ยาวประมาณ  ๖ – ๑๙  เซนติเมตร  
ดอก ออกเป็นช่อ  เกิดภายในฐานรองดอก  ที่มีรูปร่างคล้ายผล  ออกบริเวณลำต้นและกิ่ง แยกเพศแต่อยู่ในช่อเดียวกัน ผล รูปไข่
แกมสามเหลี่ยม สีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงชมพู เมื่อผลสุก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก 

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	




ผลอ่อนใส่แกงแค  ต้มยำ  ยอดอ่อนรับประทานกับลาบ ยำมดแดง
ราก แก้ไข้ กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้หัว ไข้กาฬ ผล แก้ท้องร่วง สมานแผล

๔๙
ชื่ออื่น	

ยอบ้าน  ยอใหญ่  หมากยอ


	
บ่ะตาเสือ   เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก   เปลือกต้น	


สีน้ำตาลเทาเกลี้ยง สูงประมาณ ๑ - ๕ เมตร ใบ   เป็นใบ
เดี่ยวออกเรียงเป็นคู่ๆ ตามข้อรูปมนรี ปลายใบและโคนใบมน
ขอบใบเป็นคลื่น ผิวใบมันสีเขียว  ขนาดของใบกว้าง 	
๒.๕ - ๗ นิ้ว ยาว ๖ - ๑๒ นิ้ว ดอก  ออกเป็นช่อ
ตามง่ามใบ ช่อยาว ๑ - ๑.๕ นิ้ว  สีขาวขนาดเล็ก
โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อบริเวณปลาย
ดอกจะแยกเป็น ๕ กลีบ   กลีบด้านนอกเรียบ
ด้านในจะมีขนหนาแน่นเฉพาะส่วนบน
ผล สีเขียว เมื่อผลแก่จะมีสีเขียวอมเหลือง  
ภายในมีเมล็ด ๑ เมล็ด ขนาดกว้าง ๑ - ๒ นิว
้
ยาว ๒ - ๔ นิ้ว


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ใบอ่อนรองก้นกระทงทำห่อหมก  แกงเลียง


ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ต้ น แก้ ว ั ณ โรค   ใบแก้ ก ระษั ย   ดอกแก้ ว ั ณ โรค   ผลขั บ ลม  

	
บำรุงธาตุ  เจริญอาหาร  รากเป็นยาระบาย


๕๐
ชื่ออื่น	

พฤกษ์  ซึก  จามจุรีป่า  ท่อนนา  ตะคึก


	
บ่ะตึก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ ๑๕ - ๒๕ เมตร  ผลัดใบ เปลือกต้นสีเทาเข้ม ผิวขรุขระ เรือนยอด
แผ่กว้างกิ่งอ่อนมีขนประปราย ใบ เป็นช่อแบบขนนกสองชั้นติดเรียงสลับยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร แต่ละช่อมีช่อแขนงออก

	
ตรงข้ามกันเป็นคู่ ๒ - ๔ คู่   ช่อยาว ๕ - ๑๐ เซนติเมตร แต่ละช่อมีใบย่อยรูปรี   โคนใบเบี้ยว ปลายมน  หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขน
ตามเส้นกลางใบ ดอก สีขาว กลิ่นหอม ออกรวมกันเป็นช่อเดี่ยวหรือเป็นกระจุก ผล เป็นฝักรูปขอบขนานแบนและยาว กว้าง ๒.๕ - ๕
เซนติเมตร ยาว ๑๐ - ๓๐ เซนติเมตร ผิวฝักสีเทาอมเหลืองเกลี้ยงไม่มีขน แต่ละฝักมีเมล็ดเรียงตามขวาง ๔ - ๑๒ เมล็ด เป็นวงกลม
นูนเห็นได้ชัด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

	

	

	

	

	

ยอดอ่อน มีรสขมเล็กน้อยนำมาลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ   แกงแคร่วมกับผัก

	
ชนิดต่างๆ  แกงกับปลาแห้ง

	
	

ใบ แก้ไอ  เมล็ดบำรุงธาตุ   แก้ปวดบาดแผล  เปลือกต้นแก้ลงท้อง  บำรุง

	
เนื้อหนังและเส้นเอ็นให้บริบูรณ์

๕๑
ชื่ออื่น	

ชำมะเรียง ชำมะเรียงบ้าน พุมเรียง หวดข้าใหญ่


	
บะเต้า   เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางสูง ประมาณ ๔ – ๑๕ เมตร เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่อง ใบ เป็นใบ
ประกอบแบบขนนกเรียงสลับ  มีใบย่อยออกเยื้องกันเล็กน้อยรูปหอกเรียงยาว สีเขียวเข้ม หนา ปลายใบแหลม ฐานใบมนสอบเข้า
ขอบเรียบ ดอก ออกเป็นช่อบริเวณกิ่งและลำต้นมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ ช่อดอกยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐
เซนติเมตร กลีบดอกสีม่วงแดง ผล ผลสดรูปกลม หรือรูปไข่ ผลสีดำเต่ง แต่ละช่อมี ๒๐ – ๓๐ ผล แต่ละผลมีเมล็ด ๒ – ๓
เมล็ด  เมล็ดทรงกลมแบน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
๕๒

	

ใช้ยอดอ่อนแกงใส่ผักรวม แกงใส่ปลาย่าง หรือเป็นผักสดจิ้ม ลวก ต้ม

	
จิ้มกับน้ำพริก 

	

ราก แก้ไข้เหนือ  ไข้กำเดา แก้ร้อนใน ผล แก้ท้องเสีย
ชื่ออื่น	

แตงไทย  แตงจิง  มะแตงสุก
	
บ่ะแตงลาย เป็นไม้เถาล้มลุก ลำต้นเป็นสันมีขนปกคลุมนุ่ม ใบ เดี่ยวเรียงสลับกัน หยักเป็นมุม ๓ – ๗ หยัก ขอบใบ
หยักเป็นซี่ฟัน ปลายใบมน หลังใบเห็นเส้นใบได้ชัดเจน ใบยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๘ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๔ – ๑๐
เซนติเมตร ดอก เพศผู้ ดอกเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกัน ดอกเพศผู้ออกเป็นกระจุกอัดกันแน่นที่ซอกใบ ไม่มีก้านดอก มีกลีบเลี้ยง 

	
๕ กลีบ มีขนทั้ง ๒ ด้าน วงกลีบดอกสีเหลือง ๕ กลีบ ดอกเพศเมีย ดอกเดี่ยวสีเหลือง ก้านดอกยาว ๑ – ๒ เซนติเมตร 

	
ก้านเกสรสั้นที่โคนมีจานฐานรองดอกรูปถ้วยหรือวงแหวนล้อมรอบ ผล มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน รูปทรงรี กลมกดแบนลง
หรือรูปขอบขนาน ผิวเรียบ หรือมีลายและสีแตกต่างกัน เนื้อในผลสีเหลืองหรือส้ม  เมล็ดจำนวนมากสีขาวหรือสีชมพู ผิวเรียบ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 		
	
	
	
	
	
	


	

	

	

	

	

ผลอ่อนรับประทานเป็นผักร่วมกับลาบ หลู้  ส่า และน้ำพริก ฯลฯ
ดอกและใบ แก้ไข้ ระบาย  แก้โรคดีซ่าน บดเป็นผงใช้พ่นแก้แผลในจมูก	
  

ผลเป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ บำรุงน้ำนม   แก้ทางเดิน

	
ปัสสาวะอักเสบ

๕๓
ชื่ออื่น	

บวบงู หมากโงงิ้ว


	
บ่ะนอยงู   เป็นไม้เถาเลื้อยมีมือเกาะยึดไม้อื่น เถามีขนาดเล็กเป็นเหลี่ยมมีขนสั้นๆ ปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นเดี่ยวเรียงสลับ
รูปหัวใจ โคนใบกว้างเว้าเข้าหาขั้วใบ ขอบใบเว้าเล็กน้อย ใบเป็นรูป ๕ เหลี่ยม แผ่นใบแผ่เป็นคลื่นเล็กน้อย มีขนสั้นนุ่ม ดอก  
ออกเป็นช่อตามซอกใบ ก้านดอกย่อยยาว ๑ – ๒ เซนติเมตร กลีบดอกสีขาวมี ๕ – ๖ กลีบ มีเกสรอยู่ตรงกลางดอกออกจากจุด
เดียวกัน ดอกตัวผู้มีกลีบดอกเว้าเป็น ๕ แฉกสีเหลือง ส่วนดอกตัวเมียมีผลเล็กอยู่ที่ฐานดอกเป็นรูปถ้วยสีเขียวอ่อนยาวประมาณ ๒
เซนติเมตร ผล ลักษณะกลมยาว ปลายแหลม ผิวเรียบ มีแถบสีขาวสลับเขียวตามยาวตลอดผล ขนาดผลกว้าง ๑ – ๓ เซนติเมตร
ยาว ๒๕ – ๔๕ เซนติเมตร เมื่อสุกจะมีสีส้มภายในมีเมล็ด ๑๐ – ๔๐ เมล็ด มีเยื่อหุ้มสีแดงสด เมล็ดมีลักษณะแบนรีขอบข้างเว้า
เป็นหยักโดยรอบสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	


	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๕๔

	

ผลอ่ อ นรั บ ประทานสดหรื อ ลวกจิ ้ ม กั บ น้ ำ พริ ก อ่ อ ง น้ ำ พริ ก ตาแดง 

	
น้ำพริกปลาร้า หรือนำมาแกงรวมกับผักอื่น ผัดกับเนื้อหมู

	

ผลบำรุงร่างกายแก้กระหายน้ำ แก้ท่อน้ำดีอุดตัน
ชื่ออื่น	

กระดอม ผักแคบป่า ขี้กาดง เขียวขี้กา มะนอยหก


	
บ่ะนอยจา เป็นไม้เลื้อยทอดไปตามพื้นดิน เถาขนาดเล็กเป็นร่อง ปลายเถามีมือเป็นเส้นกลมสีเขียว ยาวประมาณ 

	
๑๔ – ๒๕ เซนติเมตร ใช้สำหรับเกาะยึด ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันรูปร่างหลายลักษณะรูปไต รูปสามเหลี่ยม รูปห้าเหลี่ยม
หรือแฉกขอบใบเว้าเป็นฟันเลื่อย กว้างประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร เส้นใบแยกจากโคนใบจุดเดียวกันฐานใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ 

	
มีขนแข็งปกคลุมเมื่อจับจะสากมือ ดอก สีขาวเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบดอกมี ๕ กลีบ ลักษณะเป็นหลอด

	
มีขนปกคลุม เวลาบานจะมีลักษณะรูปไข่ปนขอบขนาน ผล ลักษณะหัวและปลายรูปรีแหลมยาวประมาณ ๓ – ๑๐ เซนติเมตร

	
มีสัน ๑๐ สันตามยาวผล ผลอ่อนมีสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีส้มปนแดงเมื่อแก่ เนื้อในขาวนุ่มมีเมล็ดสีน้ำตาล

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ผลอ่อน ใช้ลวก ต้ม รับประทานร่วมกับน้ำพริกปลาทู น้ำพริกตาแดง

	
น้ำพริกหนุ่ม

	
	

ผล บำรุงน้ำดี แก้ดีแห้ง ดีเดือด ทำให้โลหิตเย็น ดับพิษโลหิต บำรุง

	
มดลูก รักษามดลูกหลังแท้งลูกหรือคลอดลูก แก้ไข้

๕๕
ชื่ออื่น	

บวบเหลี่ยม


	
บ่ะนอยเหลี่ยม เป็นไม้เถา เถามีลักษณะเป็นเหลี่ยมตามข้อของเถาจะมีมือเกาะเป็นเส้นยาว ใบ เป็นใบเดี่ยว
เรียงสลับแผ่นใบรูป ๕ – ๖ เหลี่ยม ขอบใบมีรอยเว้าตื้นๆ โคนใบเว้ารูปหัวใจ ก้านใบเป็นเหลี่ยมยาวประมาณ ๔ – ๗
เซนติเมตร ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อออกตามง่ามใบ กลีบดอกสีเหลือง ดอกเพศผู้หรือเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกัน
ผล รูปทรงกระบอกยาวประมาณ ๑๐ เซนติเมตร โคนเรียวเล็กมีเหลี่ยมเป็นสัน ๑๐ เส้นตามความยาวของผล     


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

๕๖

	

	

	

	

	

ผลอ่อนนำมาแกงเลียง แกงกับปลาแห้ง ผัดกับไข่ ต้มจิ้ม	


น้ำพริก ส่วนยอดอ่อนลวกจิ้มน้ำพริกต่างๆ

	
	

ใบขับปัสสาวะ แก้ระดูผิดปกติ ขับเสมหะ ผล บำรุงร่างกาย 

	
ลดไข้ แก้ร้อนใน ระบายท้อง ราก ต้มน้ำดื่มแก้บวมน้ำ
ชื่ออื่น	

น้ำเต้า  หมากน้ำ น้ำโต่น  นมนางสีดา 


	
บ่ะน้ำ เป็นไม้เถาอายุประมาณ ๑ - ๒ ปี เถามีเหลียมโต
่
อวบน้ำสีเขียวมีขนสั้นๆ ปกคลุมทั่วไป มีมือเกาะที่แตกออกจาก
จากข้อ   ใบ ออกสลับกัน รูปทรงฐานเว้า ขอบใบหยักเป็นคลื่น
เล็กน้อย  แผ่นใบตั้งขึ้น ขนาดกว้าง ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร  ก้าน
ใบยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร มีขนปกคลุมหนาแน่นทั่วไป

	
เส้นใบด้านท้องใบเห็นได้ชัดเจน ดอก เป็นแบบดอกเดี่ยว ก้านยาว
ประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกัน
อยู่ต่างดอกแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ดอกตัวผู้มีลักษณะคล้ายถ้วย
กลีบดอกสีขาว ส่วนดอกตัวเมียต่างกันที่มีผลขนาดเล็กๆ ติดที่

	
โคนดอก ผล มีลักษณะหลายรูปทรงแตกต่างตามสายพันธ์ุ เช่น
ทรงกลม ทรงกลมซ้อน ทรงกลมหัวจุก ทรงยาว  และสามารถบังคับ
รูปทรงได้ มีสีเขียว เนื้อในสีขาว มีเมล็ดอยู่ภายใน เมล็ด  มีลักษณะ
แบนส่วนปลายมีติ่งยื่น ๒ ข้าง สีน้ำตาลอ่อน และมีแถบสีน้ำตาล
พาดไปตามยาวของเมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ผลอ่อน ต้ม นึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริก  แกงเลียง  

ประโยชน์ด้านสมุนไพร   
ผลอ่อน ขับปัสสาวะ ทำให้เกิดน้ำนม โคนขั้วผลต้มน้ำดื่มแก้ปวดท้อง

	
ที่เกิดจากไข้ เมล็ดขับพยาธิ


๕๗
ชื่ออื่น	

มะพร้าว  หมากอูน ดุง  โพล หมากพร้าว


	
บ่ะป้าว  เป็นไม้ยืนต้นจำพวกปาล์ม ลำต้นสูงชะลูดไม่แตกกิ่งก้านสาขาสูงได้ประมาณ ๒๐ – ๓๐ เมตร ใบ เป็นใบรวม
มีใบย่อยเรียงสลับกันรูปขนนก ใบย่อยมีลักษณะเป็นแผ่นแคบยาว ปลายใบแหลม พื้นผิวเรียบเป็นมัน สีเขียวแก่ ยาวประมาณ
๖๐ – ๙๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒.๕ – ๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามกาบที่หุ้มดอกย่อยมีขนาดเล็กในช่อหนึ่งๆ

	
มีดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ดอกตัวผู้จะอยู่ส่วนปลายส่วนดอกตัวเมียจะอยู่บริเวณโคนช่อดอก  ผล  ออกเป็นกลุ่มรูปทรงกลมหรือรี
เปลือกนอกเรียบเกลี้ยง ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเปลือกชั้นกลางเป็นเส้นใย ชั้นในแข็งเป็นกะลา ภายในกะลา
เนื้อผลสีขาวและน้ำใส

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

	

๕๘

	

	

	

	

ยอดอ่ อ น (ออกป้ า ว) นำมาผั ด แกง เนื ้ อ มะพร้ า วทำกระทิ	


ใช้ปรุงอาหาร

	
	

เนื้อมะพร้าวเคี่ยวน้ำมันกินเป็นยาบำรุงกำลัง ทาแก้ปวดเมื่อย ทาแผล

	
น้ำร้อนลวก ไฟไหม้  น้ำมะพร้าว กินเป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ
ชื่ออื่น	

มะตูม  หมากตูม กะทันตาเถร
	
บ่ะปิ่น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๐ – ๑๕ เมตร กิ่งห้อยลง ตามกิ่งมีหนามออกเป็นคู่หรือเดี่ยว

	
ยาวประมาณ ๒.๕ – ๕ เซนติเมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือมีใบย่อย ๓ ใบ โคนใบสอบปลายใบแหลม ขอบใบหยักตื้นๆ 

	
มีต่อมน้ำมันเมื่อขยี้ดมจะได้กลิ่น ใบด้านข้าง ๒ ใบ ยาวประมาณ ๑.๒ – ๓.๒ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑.๗ – ๗.๕ เซนติเมตร
ใบที่อยู่ตรงกลางจะโตที่สุด ยาวได้ถึง ๑๕ เซนติเมตร ก้านยาวประมาณ ๑.๒ – ๓.๒ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อแบบกระจะ

	
กลิ่นหอมออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบ กลีบดอกกลมหรือป้านหนา ด้านนอกสีเขียว ด้านในสีขาวอมเขียว ผล กลม สีน้ำตาล

	
อมเทา เส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ – ๑๒.๕ เซนติเมตร ผลอ่อนเนื้อในเต็มไปด้วยน้ำยางเหนียวๆ เมื่อสุกผลสีเหลือง เปลือกแข็งเรียบ 

	
มีต่อมน้ำมันเล็กๆ เนื้อในผลเหนียวเป็นแป้งมีกลิ่นหอม มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ใบอ่ อ น ยอดอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ ลาบ หลู ้ ส้ า 

	
น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง

	
	

ผลอ่อน แก้ธาตุพิการ แก้ท้องเสีย แก้บิด เจริญอาหาร ผลแก่ บำรุง

	
ธาตุไฟ ลดความดันโลหิตสูง ขับผายลม บำรุงกำลัง

๕๙
ชื่ออื่น	

มะอึก    หมากเขือขน  หมากอึก  มะปู่


	
บ่ะปู่ เป็นไม้พุ่ม อายุ ๒ – ๓ ปี สูงประมาณ ๕๐ – ๑๒๐ เซนติเมตร ลำต้นและตามก้านใบมีหนามปกคลุมหนาแน่น  
ใบ แผ่กว้างขอบใบเว้า มีขนและหนามตามหลังใบและท้องใบ ดอก ลักษณะเป็นแฉกสีขาว ๔ – ๖ กลีบ ตรงกลางมีเกสรตัวเมีย	


มีสีเหลือง ผล เป็นแบบผลเดี่ยวลักษณะกลมมีขนทั่วทั้งผล ผลอ่อนสีเขียวเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



๖๐

ผลใส่แกงแค  ส้มตำ  น้ำพริก
ผลบำรุงฟัน ทำให้ฟันแข็งแรง
ชื่ออื่น	

ถั่วแปบน้อย ถั่วปลาซิว ถั่วแปบ


	
บ่ะแปบ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นกลมสีเขียว มีรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดินเลื้อยพันไปได้ยาวประมาณ ๖ เมตร ใบ เป็นใบ
ประกอบมีใบย่อย ๓ ใบรูปไข่เรียงสลับกัน โคนใบด้านปลายใบแหลมกว้างประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕ – ๑๒
เซนติเมตร แผ่นใบมีขนบางๆ ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีม่วงหรือสีขาว รูปไต ก้านช่อดอกยาว
ประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร ผล เป็นฝักแบนยาวมีจะงอยอยู่บริเวณปลายผล สีขาว สันฝักนูนขรุขระสีเขียวอ่อน ภายในผล

	
มีเมล็ด ๓ – ๖ เมล็ด สีขาวเหลืองหรือมีลาย เมล็ดลักษณะกลมสีน้ำตาลอ่อนมีแถบลายสีดำ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	

	

	

	

	

	

ฝักอ่อน ผัดกับเนื้อหมู ลวกจิ้มน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง และน้ำพริก

	
ปลาร้า

	
	

ราก แก้ซาง รักษาโรคที่เกิดในตับ ต้มน้ำดื่มแก้เจ็บคอ เมล็ดบำรุงกำลัง 

	
บำรุงธาตุ

๖๑
ชื่ออื่น	

ฟักทอง  หมากอึ  หมากคี้ส่ง  น้ำเต้า
	
บ่ะฟักแก้ว เป็นไม้เถาเลื้อยลำต้นแข็ง   กลมหรือ ๕ เหลี่ยม   มีมือเกาะ ๓ - ๔ แขนง   ใบ   แบบใบเดี่ยวเรียงสลับกัน  
กว้างประมาณ ๒๐ เซนติเมตร ยาว ๓๐ เซนติเมตร  ใบขอบหยักเว้าเป็นแฉกตื้นๆ  ปลายใบมนมีขนทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบยาวประมาณ  
๑๒ - ๓๐ เซนติเมตร  แผ่นใบรูปกลมหรือรูปไต โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ  ดอก  เป็นดอกเดี่ยว  ออกตามง่ามใบ  ดอกตูมปลายแหลม  
ดอกเพศผู้และเพศเมียเกิดบนต้นเดียวกัน กลีบดอกสีเหลืองปนส้ม กลีบรองกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ปลายแยกเป็น ๕ กลีบ  
ยาว ๕ เซนติเมตร ผล รูปร่างและขนาดต่างกันกลมหรือแป้น เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒ - ๔๐ เซนติเมตร เป็นพูเล็กๆ รอบผลสีเขียว

	
อมน้ำเงินหรืออมเทาด่างเหลืองเป็นทางแต้มจุดทั้งผล เนื้อผลสีเหลือง เหลืองอมเขียว ตรงกลางพรุน มีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดแบน
ขอบแข็งเป็นสันสีเข้ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	



	

๖๒

	

	

	

	

ยอดอ่ อ น   ผั ด หรื อ แกงแคร่ ว มกั บ ผั ก ชนิ ด ต่ า งๆ   ผลอ่ อ น แกงกั บ	


เห็ดไข่, เห็ดโคน

	
	

เมล็ดขับพยาธิตัวตืด   รากบำรุงร่างกาย   แก้ไอ   น้ำมันจากเมล็ดบำรุง

	
ประสาท
ชื่ออื่น	

บักเฟือง มะเฟือง


	
บ่ะเฟือง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ ๓ – ๗
เมตร ลำต้นสีน้ำตาลดำ แตกกิ่งเป็นพุ่มแน่นทรงกลม เปลือกบางผิวเรียบ 

	
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้าม ใบรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลาย
ใบแหลม โคนใบสอบมีใบประกอบ ๕ – ๖ คู่ ดอก ออกเป็นช่อกระจุกหนาแน่น
ตามกิ่งก้านและลำต้นสีชมพู ในแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย ๕ – ๑๐ ดอก
กลีบเลี้ยงรูประฆังสีน้ำตาล โคนกลีบด้านในสีม่วง เกสรตัวเมียสีเหลืองติดอยู่ที่
กลางดอก ผล รูปยาวรีเป็นฟันเฟืองขึ้นเป็นสัน ๔ พู ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุก	


จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียวฉ่ำน้ำภายในผลจะมีเมล็ดเรียวยาวสีดำ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร
ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบสุก และลาบดิบ

ประโยชน์ทางสมุนไพร  
แก่นและราก แก้ท้องร่วง แก้เจ็บเส้นเอ็น  ผล มีวิตามินซีสูงบำรุงฟัน เปลือกต้น
แก้ท้องเสีย

๖๓
ชื่ออื่น	

  มะม่วงบ้าน มะม่วงสวน แป
	
บ่ะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กและขนาดใหญ่  สูงประมาณ ๑๐ – ๔๐ เมตร แตกกิ่งต่ำ เรือนยอดโปร่ง ลำต้นเมื่อแก่
จะมีขนาดโตขึ้น เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาลปนเทา กิ่งเป็นพุ่มกลมทึบ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันรูปรี ยาว ขอบขนานแคบๆ หรือ
รูปหอก กว้างประมาณ ๓ – ๑๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๖ – ๔๕ เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบเป็นติ่งแหลม เนื้อใบหนา
เกลี้ยงเป็นมัน สีเขียวเข้ม ใบอ่อนจะออกสีม่วงอ่อนๆ ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อสีขาวนวลหรือสีเหลืองอ่อน

	
มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ผล เป็นผลเดี่ยวลักษณะผลจะแตกต่างกันตามสายพันธ์ุ ขนาดผลกว้างประมาณ ๔ – ๔๐
เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕ – ๒๐ เซนติเมตร ผลอ่อนมีน้ำยางมากสีเขียว เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือส้ม กลิ่นหอม 

	
มีเนื้อเยื่อหุ้มและมีเส้นใยมาก ภายในผลมีเมล็ด ๑ เมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	

    


๖๔

ใบอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า ผลดิบ ใช้ปรุง

	
อาหาร ใส่น้ำพริก  ใช้จิ้มน้ำพริก
เนื้อในเมล็ด แก้ท้องร่วง สมานลำไส้ ฝนทาสมานแผล
ชื่ออื่น	

เม่าไข่ปลา  เม่าทุ่ง  เม่าจัง  มะเม่าข้าวเมา
	
บ่ะเม่าสาย เป็นไม้ตนขนาดเล็ก สูง ๒ - ๖ เมตร  กิงอ่อนและยอดอ่อนมีขน  ใบ  เป็นใบเดียวออกเรียงสลับลักษณะรูปรี
้
่
่
ถึงรูปไข่   กว้าง ๓ - ๕ เซนติเมตร   ยาว ๕ - ๗ เซนติเมตร   หลังใบเกลี้ยงท้องใบมีขนสั้นๆ   ดอก   ออกเป็นช่อที่ซอกใบและ

	
ปลายกิ่งมีดอกย่อยจำนวนมากสีเขียวอ่อน ผล  รูปทรงกลมสีเขียวเมื่อสุกมีสีแดงถึงดำ  มีเมล็ดเดียว

การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 ใบอ่อนและยอดอ่อน   แกงรวมกับเห็ดถอบ   หรือเห็ดไข่ห่าน  
	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

เพื่อปรุงให้มีรสเปรี้ยว

	
	

ใบและผลใช้ ต ้ ม อาบ   แก้ อ าการโลหิ ต ซี ด จาง   ลำต้ นขั บ ปั ส สาวะ 

	
บำรุงไต  แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย  แก้มดลูกพิการ

๖๕
ชื่ออื่น	

มะยม  หมากยม  ยม


	
บ่ะยม เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้นตั้งตรงแตกกิ่งก้านสาขาบริเวณเรือนยอด กิ่งเปราะหักได้ง่าย ใบ
เป็นใบรวมมีใบย่อยเรียงกันเป็นคู่ๆ คู่หนึ่งๆ มีใบย่อยประมาณ ๒๐ – ๓๐ คู่ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปหอกขอบใบเรียบ ปลายใบ
แหลม ดอก มีลักษณะขนาดเล็กออกเป็นช่อหรือกระจุกตามบริเวณลำต้นและกิ่ง สีเหลืองอมน้ำตาล ผล ลักษณะเป็นพู่ห้อยเป็น
พวงระย้า ผลมีขนาดเล็กรูปร่างเป็นเพือง ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อแก่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๖๖

	

	

	

	

ยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก แหนมหมู
เปลื อ กต้ น แก้ ไ ข้ ท ั บ ระดู ราก แก้ โ รคผิ ว หนั ง เม็ ด ผดผื ่ น คั น 

	
ผล ขับเสมหะ แก้ไอ ระบายท้อง
ชื่ออื่น	

เพกา  ลิ้นไม้  สิ้นไม้
	
บ่ะลิดไม้ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง ๕ - ๑๓ เมตร  ผลัดใบ  เปลือกต้นสีเทาอมขาวเรียบ มีช่องระบายอากาศ
กระจายตามผิวเปลือกทั่วไป ใบ เป็นช่อ ๒ - ๓ ชั้น ติดตรงข้ามเป็นคู่ๆ  ช่อยาว ๖๐ - ๑๗๐ เซนติเมตร โคนก้านช่อรวมและ
ก้านช่อย่อยจะยุบเมื่อแห้ง   ช่อจะแยกเป็น ๓ แขนงเสมอโดยแยกออกจากปลายก้านช่อและก้านช่อย่อยแต่ละแขนงจะมี

	
ใบย่อยรูปมนถึงรูปขอบขนานออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๓ - ๕ คู่ ใบยอดสุดเป็นใบเดี่ยว กว้าง ๓ - ๘ เซนติเมตร ยาว ๕ - ๑๓
เซนติเมตร ดอก ขนาดใหญ่รูปแจกันทรงสูงสีม่วงอมแดงอ่อน  ออกรวมกันเป็นช่อโตๆ ตามปลายกิ่งช่อจะชี้ตั้งขึ้นและมีดอก
อยู่ปลายช่อ ผล เป็นฝักรูปขอบขนานแบนๆ โค้งงอเป็นรูปดาบ กว้าง ๕ - ๙ เซนติเมตร ยาว ๔๐ - ๑๒๐ เซนติเมตร 

	
เปลือกฝักหนาและแข็งเมื่อแห้ง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	

	

	

	

	

	

ฝักอ่อน นำมาเผาไฟให้ผิวด้านนอกไหม้เกรียม แล้วขูดเอาผิว

	
ที่ไหม้ไฟออก รับประทานร่วมกับน้ำพริก  ลาบ  ยำ  หรือผัดกับ	


เนื้อหมู แกงแคร่วมกับผักอื่นๆ
เปลือกต้น แก้ท้องร่วง   บิด   บำรุงโลหิต   ฝักอ่อนขับผายลม  

	
เมล็ดแก้ไอ

๖๗
ชื่ออื่น	

ขนุน  บักมี่ แนน นากอ


	
บ่ะหนุน   เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง
ประมาณ ๑๕ – ๓๐ เมตร ลำต้นและกิ่งจะมียางสีขาวไหลออก
มาเวลาถูกตัดและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงเมื่อถูกอากาศนานๆ  
ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับสีเขียวเข้ม เป็นมัน หนา ท้องใบจะสาก
มือ แผ่นใบรูปรีกว้างประมาณ ๕ – ๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ
๑๐ – ๑๕ เซนติเมตร ปลายใบทู่ถึงแหลม โคนใบมน ดอก  ออก
เป็นกลุ่ม ช่อดอกตัวผู้และช่อดอกตัวเมียจะอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อ
ดอกตัวผู้จะออกที่โคนกิ่งของลำต้นและบริเวณง่ามใบ  มีลักษณะเป็น
แท่ง ยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ส่วนช่อดอกตัวเมียจะมีลักษณะ
เป็นแท่งกลมออกจากลำต้น   ก้านดอกขนาดใหญ่ ดอกตัวผู้จะมีกลิ่น
คล้ายส่าเหล้า   ผล   เป็นผลรวม ลักษณะกลมยาวมีน้ำหนักเฉลี่ย
ประมาณ ๑๐ – ๖๐ กิโลกรัม ในหนึ่งผลจะมีผลย่อยจำนวนมาก  เมล็ด  
กลมรีเนื้อหุ้มเมล็ดสีเหลือง เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม เปลือกหุ้มบาง


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	



ผลอ่อน นำมาทำตำ  แกง ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสด


ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร	

	


	

๖๘

	

	

	

	

ใบ บำรุ ง โลหิ ต แก้ ก ามโรค เนื ้ อ ในเมล็ ด บำรุ ง น้ ำ นม บำรุ ง กำลั ง 

	
ขับน้ำนม ควรต้มให้สุกก่อนรับประทาน
ชื่ออื่น	

มะระขี้นก  ผักไซ  ผักสะไล  ผักไห่
	
บ่ะห้อย  เป็นไม้เลื้อยพันพาดไปกับต้นไม้อื่น  มีมือเกาะลำต้นเป็นเลี่ยม  มีขนปกคลุมทั่วไป ใบ  เป็นใบเดี่ยว ออก
สลับกัน มีสีเขียวทั่วตลอดทั้งใบ ขอบใบหยักเว้าลึกประมาณ ๕ - ๗ หยัก ปลายใบแหลม ดอก ออกเดี่ยวๆ สีเหลืองมี ๕ กลีบ  
เกสรสีเหลืองถึงสีส้ม   กลีบดอกบางอ่อน   ผล เป็นผลเดี่ยวรูปกระสวย   ผิวขรุขระมีปุ่มปมยื่นออกมาชัดเจน   ผลอ่อนมีสีเขียว
เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองส้ม  เมื่อผลแก่เต็มที่จะแตกอ้าออกเห็นเมล็ดชัดเจนสีแดงสดรูปร่างกลมแบน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	
	



	
	

	
	

	
	

	
	

	

ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลอ่อน   ลวกให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มกับ

	
น้ำพริกปลาร้า  น้ำพริกปลาทู

	
	
	

ทั้งต้น   แก้เบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด   ผลดิบแก้โรคตับอักเสบ  

	
ปวดหัวเข่า  ผลสุก  ใช้คั้นน้ำทาสิว  เป็นยาระบายอ่อนๆ  ส่วนน้ำคั้น

	
ผลดิบใช้รักษาอาการปวดเมื่อย  ปากเป็นขุย  บำรุงระดู

๖๙
ชื่ออื่น	

มะระป่า  ผักไห่ ฮุนไฮ


	
บ่ะไห่ เป็นไม้เลื้อย อายุประมาณ ๒ – ๓ ปี มีมือเกาะยึดไปตามต้นไม้อื่นลำต้นเป็นเหลี่ยมมีขนสั้นขึ้นประปราย
ทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ก้านใบยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร แผ่นใบลักษณะเป็นรูปหัวใจมีขนขึ้นประปราย 

	
ฐานใบเว้าเข้าหาก้านใบ ขอบใบเว้าเป็นเหลี่ยมหยักเล็กน้อยสีเขียวอ่อน ขนาดใบกว้างและยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร
ดอก เป็นดอกเดี่ยวแยกเพศแต่เกิดบนต้นเดียวกันออกบริเวณซอกใบ ดอกตัวผู้มีก้านดอกเล็กยาวประมาณ ๒ – ๓
เซนติเมตร กลีบดอกบานออกเป็น ๕ – ๗ แฉก มีอับละอองเกสรตรงกลาง ส่วนดอกตัวเมียจะมีก้านดอกที่โตกว่าและมีผล
ขนาดเล็กที่ฐานดอก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
	


๗๐

	

	

	

	

	

ยอดอ่อนและผลอ่อน ใช้ลวกรับประทานร่วมกับน้ำพริกตาแดง 

	
น้ ำ พริ ก หนุ ่ ม น้ ำ พริ ก ปลาร้ า (ก่ อ นรั บ ประทานควรใช้ ว ิ ธ ี ล วก 

	
ถ้าใช้วิธีต้มจะมีรสขมจัด)
ยอดอ่ อ น ผลอ่ อ น เจริ ญ อาหาร เมล็ ด เป็ น ยาบำรุ ง กำหนั ด	
 

หัวใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน เข้ายารักษามะเร็ง
ชื่ออื่น	

	
ถั่วแฮ  ถั่วแรด
	
บ่ะแฮะ เป็นไม้พุ่ม ลำต้นสูงตรงประมาณ ๓ – ๕ เมตร
ลำต้นเมื่อแก่จะออกสีม่วงแดงและแตกเป็นร่อง   ใบ เป็นใบประกอบ
แบบขนนกมีใบย่อย ๓ ใบ ออกเรียงสลับรูปขอบขนานแกมหอก
ผิวใบมีขนทัง ๒ ด้าน ใบกว้าง ๑ – ๓ เซนติเมตร ยาว ๒ – ๑๐
้
เซนติ เมตร ดอกออกเป็ นช่ อ ที ่ ซ อกใบรู ป ดอกถั ่ ว กลี บ ดอก

	
สีเหลืองขอบสีน้ำตาล ผล เป็นฝักแบบถั่วปลายแหลมทั้ง 

	
๒ ด้าน ภายในมี ๓ – ๕ เมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร   
  ฝักอ่อนรับประทานสดจิ้มกับน้ำพริก ลาบ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	




ฝักแก้ท้องร่วง รากแก้ไข้เรื้อรัง

๗๑
ชื่ออื่น	

ตาลปัตรฤาษี  บอนจีน  คันจ้อง

	

	
บัวกวัก เป็นพืชน้ำมีรากยึดติดกับผิวดินในน้ำชูก้านใบขึ้นเหนือน้ำมีราก
สีเขียวและสีน้ำตาลแดง ใบ เป็นใบเดี่ยวทรงสามเหลี่ยมสีเขียวอ่อน ก้านใบยาว
ประมาณ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร ใบไม่เปียกน้ำ เนื้อก้านใบและก้านดอกคล้าย
ฟองน้ำมียางสีขาวขุ่นเล็กน้อย  ใบขนาดใหญ่  กว้าง ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร รูปไข่
ปลายมน โคนใบป้านโค้งมนเข้าหาก้านใบ ดอก   เป็นช่อมีก้านดอกลักษณะ
คล้ายก้านใบ แตกออกจากยอด มีดอก ๕ – ๑๐ ดอก ดอกตูมลักษณะคล้าย
ดอกบัว เมื่อดอกบานมีกลีบดอก  ๔ – ๕ กลีบ สีเหลือง ผล ลักษณะทรงกลม
ภายในแบ่งออกเป็น ๒ ซีก มีเมล็ดเรียงตัวอัดแน่น

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร
ก้านดอก ใช้บริโภคเป็นผักสด ลวก นึ่ง จิ้มน้ำพริกต่างๆ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



๗๒

-
ชื่ออื่น	

บัวกินสาย  บัวแดง  บัวจงกลนี  บัวขม


	
ป้าน  เป็นไม้น้ำมีรากฝังลึกในโคลนเลน ก้านดอกอ่อนมีเปลือกเป็นสายใยลอกออกได้ ผิวเกลี้ยง ใบ เป็นแผ่นกว้าง แผ่น
ใบอ่อน วางอยู่บนผิวน้ำสีเขียวแกมน้ำตาล ดอก ลักษณะรูปหอกยาวเรียว ปลายแหลมได้สัดส่วนที่สวยงาม เกสรตัวผู้เป็นแท่ง
แบนยาวคล้ายนิ้วมือเรียวเล็กล้อมด้วยเกสรตัวเมียเป็นชั้นๆ ดอกจะบานในเวลากลางวันและจะหุบในช่วงกลางคืน ผล เป็นฝัก
ขนาดเล็กมีเมล็ดขนาดเล็กสีดำอยู่ในเนื้อหุ้มที่มีลักษณะเป็นวุ้นใสๆ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
	


	

	

	

	

	

ก้านดอก ลอกผิวที่หุ้มออกรับประทานเป็นผักสด จิ้มน้ำพริก  แกง  ผัด
ดอกบำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื้น บำรุงกำลัง   เมล็ด คั่วรับประทาน บำรุง

	
กำลัง  หัวใต้ดิน บำรุงครรภ์รักษา บำรุงธาตุ

๗๓
ชื่ออื่น	

กระโดน  ปุยขาว พุย  กระนอน
	
ปุย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ ๘ – ๑๒ เมตร เปลือกหนาสีน้ำตาลปนเทาแตกปริเป็นสะเก็ดทั่วไป
เรือนยอดเป็นพุ่มทึบมีกิ่งก้านสาขามาก กิ่งอ่อนมักเป็นสันสี่เหลี่ยมตามยาว  ใบ  เป็นชนิดใบเดี่ยวติดเรียงเวียนสลับเป็นกลุ่มตาม
ปลายกิงรูปทรงไข่กลับ กว้าง ๖ – ๑๒ เซนติเมตร ยาว ๑๒ – ๒๐ เซนติเมตร เนือใบหนา เกลียงทัง ๒ ด้าน ด้านท้องใบจะมีสจาง
่
้
้ ้
ี
กว่าหลังใบ มีเส้นแขนงใบ  ๙ – ๑๕ คู่    ดอก โต สีเขียวอ่อนออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามปลายกิ่ง  กลีบฐานดอก ๔ กลีบ กลีบ
ดอกรูปช้อน สีเขียวอ่อนตามบริเวณขอบกลีบและโคนกลีบออกสีชมพูหลุดล่วงง่าย เกสรตัวผู้สีขาวมีมาก ลักษณะเป็นฝอย

	
เป็นพู่โตๆ ผล กลมแข็ง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๖ – ๗ เซนติเมตร ที่ปลายผลยังคงปรากฏกลีบฐานดอกรวมทั้งหลอดท่อรังไข่
ติดอยู่เป็นจุก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
	


	

๗๔

	

	

	

	

ใบอ่อน ยอดอ่อน ใช้รับประทานเป็นผักจิ้ม น้ำพริก ลาบ หลู้ 
ใบ สมานแผล เปลื อ กต้ น สมานแผล แก้ ป วดเมื ่ อ ย ดอกบำรุ ง

	
ร่างกาย แก้หวัด แก้ไอ บำรุงร่างกายสตรีหลังคลอด
ชื่ออื่น	

ไพล ว่านไฟ


	
ปูเลย เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๑.๕ เมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดินแล้วแทงหน่อหรือลำต้น
เทียมขึ้นเหนือดิน ซึ่งประกอบด้วยกาบหรือโคนใบหุ้มซ้อนกันเป็นลำ ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ 

	
รูปขอบขนานแกมหอก กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อ
แทงออกจากเหง้ากลีบสีนวลใบประดับสีม่วง ผล เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลืองเนื้อในสีส้ม
ภายในมีเมล็ดสีดำกลมขนาดเล็ก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

ยอดอ่ อ น ใบอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น

	
ผั ก สดร่ ว มกั บ ลาบ หลู ้ น้ ำ พริ ก	
 

ซุบหน่อไม้

	
	
	

เหง้าแก้ทองอืด ท้องเฟ้อ ขับประจำเดือน 

้
	
แก้ บ ิ ด แก้ เ คล็ ด ขั ด ยอก ฟกบวม 

	
สมานแผล

๗๕
ชื่ออื่น	

ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดดอก
	
ผักกาดจ้อน เป็นพืชล้มลุกลำต้นสีเขียวอ่อนอวบน้ำ สูงประมาณ
๒๔ – ๔๐ เซนติเมตร แตกแขนงด้านข้างเล็กน้อย ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับลักษณะ
กลมรีปลายใบป้าน โคนสอบเข้าหาก้านใบ กว้าง ๕ – ๑๕ เซนติเมตร ยาว ๑๕ – ๓๐
เซนติเมตร เส้นกลางใบสีเขียวอมขาว ดอก ออกเป็นช่อสีเหลืองที่ปลายดอกมีแขนงช่อดอก
จำนวนมาก ผล เป็นฝักกลมยาวปลายแหลม สีเขียวเข้ม ยาวประมาณ ๒ – ๕ เซนติเมตร
ภายในมีเมล็ดกลมจำนวน ๒๐ – ๔๐ เมล็ด เรียงเป็น ๒ แถวตลอดฝัก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	 	 ต้น ใบ ช่อดอก ใช้ลวกเป็นผักจิ้ม 
	
	

ต้ม แกง และผัด

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
๗๖

	

ช่วยระบายท้อง
ชื่ออื่น	

ผักกูด
	
ผักกูด เป็นเฟิร์นมีเหง้าตั้งตรงสูงได้มากกว่า ๑ เมตร มีเกล็ด
สีน้ำตาลเข้ม ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ๒ ชั้น แผ่นใบมีขนาด
ต่ า งกั น ส่ ว นมากยาวกว่ า ๑ เมตร ก้ า นใบยาว ๗๐ เซนติเมตร 

	
กลุ่มใบย่อยคู่ล่างมักลดขนาดปลายใบเรียวแหลมขอบใบหยักเว้าลึก
เป็นแฉกเกือบถึงเส้นกลางใบย่อย แฉกปลายมน ขอบหยักเป็นซี่ฟัน
แผ่นใบบางกลุ่มสปอร์อยู่ตามความยาวของเส้นใบย่อยหรือเชื่อมกับ
กลุ่มสปอร์ที่อยู่ในแฉกติดกัน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ใบอ่อน และช่ออ่อน นำมาจอผักกูด แกงกับปลาสด ลวกจิ้มน้ำพริก

	
หรือนำมาแกงแคร่วมกับผักชนิดอื่น

	
	

ใบ แก้ไข้ตัวร้อน แก้พิษอักเสบ บำรุงสายตา บำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง 

	
ขับปัสสาวะ

๗๗
ชื่ออื่น	
	

ผักขี้ขวง เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขาแผ่กระจาย

	
ออกไปโดยรอบ ใบ เล็กเรียวยาวออกตามข้อๆ ละประมาณ ๔ – ๕ ใบ 

	
ขอบใบเรียบกว้าง ๐.๒ – ๐.๕ เซนติเมตร ยาว ๑ – ๕ เซนติเมตร ก้านใบ
สั้น ดอก ออกรอบๆ ข้อๆ ละ ๔ – ๖ ดอก กลีบดอกมี ๕ กลีบสีขาว

	
อมเขียว ผล รูปยาวรี ยาวประมาณ ๐.๓ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกเป็น	
 

๓ แฉก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๗๘

	

	

	

	

ผักขม สะเดาดิน ผักขวง

ใบ ลำต้น ลวกจิ้มน้ำพริก แกงกับปลาทู 
ทั ้ ง ต้ น บำรุ ง น้ ำ ดี แก้ ไข้ ไข้ เพื ่ อ ดี พ ิ ก าร ดั บ พิ ษ ร้ อ น ตำกั บ ขิ ง สด

	
ปิดกระหม่อมเด็กแก้หวัด
ชื่ออื่น	

เม็ก  เม็ดชุน เสม็ดแดง


	
ผักขี้มด  เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางสูงประมาณ ๒ – ๑๐ เมตร ลำต้น
กลมหรือสี่เหลี่ยมเปลือกสีน้ำตาลซ้อนกันหลายๆ ชั้น ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 

	
ใบอ่อนสีน้ำตาล - ชมพู ใบแก่เขียวเข้มเป็นมัน รูปหอกหรือรูปไข่ โคนใบแหลมหรือป้าน ปลายใบแหลมเส้น
กลางใบมีรอยทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบยาว ๒ – ๑๐ มิลลิเมตร แผ่นใบยาว ๕ – ๑๑ เซนติเมตร กว้าง ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร ดอก
ออกเป็นช่อเล็กๆ สีขาวรูปกรวยทรงกระบอกแคบไม่มีก้านฐานดอก กลีบเลี้ยง ๕ กลีบรูปครึ่งวงกลม กลีบดอก ๕ กลีบ เป็นเยื่อรูป
กลม ช่อดอกตั้งขึ้นยาวประมาณ ๑๒ เซนติเมตร ออกที่ปลายยอดและตามซอกใบ ช่อดอกเป็นช่อแยกแขนง ก้านช่อดอกยาวได้ถึง
๒๐ มิลลิเมตร แกนกลางแตกแขนงได้เป็น ๔ มุม ผล สีขาวรูปร่างกลม ก้านผลเป็นนูนออกมา และบุ๋ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ หลู้ ส้า น้ำพริกต่างๆ
เปลือกต้นต้มทาแก้พิษน้ำเกลี้ยง  ใบแก้ท้องเสีย

๗๙
ชื่ออื่น	

กระทกรก ตำลึงทอง เถาสิงห์โต ผักบ่วง


	
ผักขี้มูก เป็นไม้เถามีมือเกาะเกี่ยวพันต้นไม้อื่น ลำต้นกลมสีเขียวมีขนสีทองอ่อนนุ่มปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นสามแฉก ขอบ
ใบหยัก ปลายใบแหลม กว้างประมาณ ๔ เซนติเมตร ยาว ๕ เซนติเมตร ดอก เป็นแบบดอกเดี่ยว สีขาว ผล สีเขียวมีรกหุ้ม

	
สีเขียวอ่อน เมื่อผลสุกจะมีสีเหลือง รกที่หุ้มผลก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	




๘๐

ยอด ใช้ลวกรับประทานกับลาบ น้ำพริก หรือแกงรวมกับผักอื่น
ทั้งต้น บำรุงหัวใจ แก้โรคเหน็บชา
ชื่ออื่น	

ผักกาดหัวขาว  ผักกาดจีน  ผักกาดหัว


	
ผักขี้หูด เป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียวลำต้นตรงสูงประมาณ ๒๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร   ใบ มีขนหรือเรียบ ใบเดี่ยวมีก้านสั้น
รูปช้อนแกมรี ยาว ๕ – ๓๐ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๓ – ๕.๕ เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นซี่ฟัน  ดอก ออกเป็นช่อยาวแบบช่อ
กระจะ ก้านดอกยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กลีบเลี้ยงเรียวยาวรูปขอบขนานกลีบดอกสีม่วงมี ๔ กลีบ ลักษณะรูปช้อนปลายงุ้ม
ยาวเท่ากับวงกลีบเลี้ยง มีเกสรตัวผู้ ๖ อัน ยาว ๔ อัน สั้น ๒ อัน   ผล  เป็นฝักค่อนข้างกลมตั้งตรง กว้าง ๑.๕ เซนติเมตร ยาว
ได้ถึง ๑๐ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดประมาณ ๒ – ๕ เมล็ด รูปไข่แกมทรงกลมสีเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
	


	

	

	

	

	

ฝักอ่อนแกงแค ลวก ต้ม จิ้มน้ำพริก
ใบ แก้ท้องอืด แก้บิด แก้ท้องร่วง เมล็ด เป็นยาระบาย หัว บำรุงกำลัง 

	
แก้ร้อนใน ช่วยล้างพิษ

๘๑
ชื่ออื่น	

ฟักผ่าว  ฟักข้าว  ขี้กาเครือ
	
ผักเข้า เป็นไม้เถาเลื้อยมีมือเกาะยึดต้นไม้อื่น เถาสีเขียวเข้มลักษณะสี่เหลี่ยม ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปหัวใจ ปลายใบแหลม  
โคนใบโค้งมนและเว้าเข้าหาก้านใบ  ขอบใบทั้ง ๒ ข้างเว้าเข้าหาเส้นกลางใบเป็น ๓ แฉก  แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม  ดอก
เป็นดอกเดี่ยวขนาดใหญ่   สีเขียวอมเหลืองมีกลีบดอก ๕ กลีบ   ผล   ทรงกลมรี   กว้างประมาณ ๘ - ๑๐ เซนติเมตร 

	
มีหนามทั่วทั้งผล  ผลอ่อนสีเขียวแล้วเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดงเมื่อแก่   ภายในมีเมล็ดเรียงตัวแบบเมล็ดแตงเป็นรูปไข่ยาวประมาณ
๑.๕ - ๒ เซนติเมตร มีเปลือกหุ้มเมล็ดสีดำ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
	


	

๘๒

	

	

	

	

ยอดอ่อนและผลอ่อน ลวกให้สุกรับประทานร่วมกับน้ำพริก แกงแคหรือ	


แกงกับปลาย่าง

	
	

ใบ แก้ไข้ตัวร้อน ถอนพิษอักเสบ ตำพอกแก้ปวดท้อง เมล็ดคั่วให้กรอบ

	
รับประทานบำรุงโลหิต
ชื่ออื่น	

  ผักขม ผักโหม ผักขมหัด

	
ผักโขม เป็นพืชล้มลุกมีรากแก้ว ลำต้นตั้งตรงเรียบ อวบน้ำ
สีเขียวเป็นมัน มักมีรอยแตกเป็นร่องยาว สูงประมาณ ๒๐ – ๔๐
เซนติเมตร ใบ เป็นใบเดียว รูปร่างค่อนข้างเป็นรูปสามเหลียมหรือรูปไข่
่
่
ฐานใบกว้าง ปลายใบมนมีรอยหยักเล็กน้อยบริเวณปลายใบ ขอบใบ
เรียบหรือเป็นคลื่น ก้านใบเรียวเล็กออกจากลำต้นแบบสลับกัน ดอก
ออกเป็นช่อตามปลายยอดและตามซอกใบ ดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย
แยกกันอยู่ต่างดอกกัน มีดอกย่อยขนาดเล็กสีม่วงปนเขียว ช่อดอกยาว
ประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ลักษณะเป็นกระจุกรอบๆ แกนกลาง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ต้นอ่อนและยอดอ่อน ลวก จิ้มน้ำพริก ผัด และแกงเลียง

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ทั้งต้น ขับปัสสาวะ แก้คันตามผิวหนัง แก้ไข้ แก้ไข้หวัด


๘๓
ชื่ออื่น	

พลูคาว


	
ผักคาวตอง เป็นไม้เลื้อยสูงประมาณ ๕ – ๓๐ เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรงสีเขียวอมม่วง ลำต้นที่เลื้อยไปตามดินจะมีราก
แขนงออกตามข้อ ใบ เป็นแบบใบเดี่ยวรูปไข่สีเขียวอมม่วงหนากลมเรียงสลับ ปลายใบแหลมยาว ๒.๕ – ๓ เซนติเมตร ขยี้ใบดม
จะมีกลิ่นเหม็นคาว   ดอก ออกเป็นช่อตรงปลายยอด ประกอบด้วยดอกที่ไม่มีก้านดอกขนาดเล็กแต่มีกลีบเลี้ยงสีขาว เกสรเป็น
กระจุกสีเหลืองนวล ผล เป็นผลแห้งแตกเมื่อแก่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

๘๔

	

	

	

	

ยอดอ่อนและใบอ่อนมีรสเผ็ดคาวรับประทานเป็นผักสดแกล้มกับน้ำพริก	


ปลาร้า ลาบ ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี 

	
	

ทั้งต้น แก้กามโรค เข้าข้อ แก้น้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลแห้ง ฆ่าเชื้อโรค

	
ทางเดินปัสสาวะ ทาภายนอกให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนัง
ชื่ออื่น	



ช้าพลู ผักปูลิง อีไร ผักอีเลิศ

	
ผักแค เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรงสูงประมาณ
๓๐ เซนติเมตร ทุกส่วนเกลี้ยง ก้านใบยาว ๑ - ๒.๕ เซนติเมตร 

	
เนื้อใบหนา ผิวมัน เหนียวหรือกรอบคล้ายกระดาษ แผ่นใบรูปไข่
กว้างถึงรูปรี ฐานใบเว้าลึกแบบสมมาตร มีเส้นใบจำนวน ๗ เส้น
ดอก เป็ นช่ อ รู ป ทรงกระบอกตั้งขึ้นช่อดอกมีทั้งเพศผู ้ แ ละเพศเมี ย 

	
ก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร เกสรเพศผู้ ๑ อัน ยอดเกสร
เพศเมียมี ๓ - ๔ อัน ช่อดอกที่มีเฉพาะเพศเมียมีดอกเรียงซ้อนกันแน่น
ผล เป็นผลกลุ่มทรงกระบอกภายในมีเมล็ดขนาดเล็ก


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ แกงแคร่วมกับ
ผักชนิดอื่น แกงหอยขม แกงปลาแห้งร่วมกับหัวปลี

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ใบ   เจริญอาหาร ขับเสมหะ ทำให้เลือดลมซ่าน ต้น แก้เสมหะในทรวงอก 

	
ขับเสมหะ ราก แก้คูถเสมหะ ขับเสมหะให้ตกทางทวารหนัก บำรุงธาตุ ทำให้เสมหะแห้ง


๘๕
ชื่ออื่น	

ตำลึง  ตำนิน 


	
ผักแคบ   เป็นไม้เถาเลื้อยอายุหลายปี มีมือพันแบบเดี่ยวพาดพันไปตามไม้อื่นหรือทอดนอนไปตามพื้นดิน มีรากเป็นหัว
สะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันรูปร่างค่อนข้างกลมมี ๓ – ๕ แฉก ความยาวและกว้างของใบเกือบเท่ากัน
ประมาณ ๓.๕ – ๑๐ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๒ – ๖ เซนติเมตร โคนใบเว้าลึกรูปหัวใจ ขอบใบเรียบหรือหยักแบบซี่ฟัน แผ่นใบ
เรียบเกลี้ยง ด้านท้องใบมีจุดโปร่งแสง ระหว่างฐานและเส้นกลางใบด้านหลังมีต่อมฝังลึกอยู่   ดอก แยกเพศ เป็นดอกเพศผู้และ
เพศเมีย ดอกเพศผู้ออกตามซอกใบมี ๑ – ๓ ดอก ดอกเพศเมียออกเดี่ยวๆ ก้านดอกย่อย ยาว ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร วงกลีบ
เลี้ยงส่วนโค้งเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ผล   ลักษณะมีเนื้อหลายเมล็ดผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีแดงสดใส ภายในมีเมล็ด
จำนวนมากรูปไข่กดแบนลง


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	
	

	
	

๘๖

	
	

	
	

	
	

	
	

ใบ ยอดอ่อน ใส่แกงแค ใช้แกงอ่อม แกงจืด ลวกหรือนึ่ง จิ้มน้ำพริก
ใบ ขยี ้ ท าแก้ ค ั น ถอนพิ ษ ปวดแสบปวดร้ อ น เป็ น ยาพอกรั กษาโรค

	
ผิวหนัง น้ำย่อยจากใบชื่อ amylase มีคุณสมบัติย่อยแป้ง แก้ท้องอืดเฟ้อ 

	
เถาแห้งและผลดิบลดน้ำตาลในเลือด
ชื่ออื่น    จิกนา  กระโดนน้ำ


	
ผักจิก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ  ๘ – ๑๗ เมตร ทรงต้นแผ่กว้าง เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม หยาบและหนา   
ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่กลับหรือรูปรีกว้าง ๓ – ๘ เซนติเมตร ยาว ๖ – ๑๖ เซนติเมตร ท้องใบสีอ่อน ปลายใบทู่มนหรือเว้าเล็กน้อย
ขอบใบหยักเล็กๆ ถี่ๆ ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบแหลม ดอก ออกเป็นช่อห้อยระย้าที่ปลายกิ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ก้านดอกยาว 

	
๓ – ๗ เซนติเมตร กลีบรองกลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อสั้นๆ ปลายแยกเป็นสี่กลีบสีชมพูมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ก้านเกสรยาว
สีแดงสด ผลรูปสี่เหลี่ยม กว้าง ๑ – ๓ เซนติเมตร ยาว ๒ – ๖ เซนติเมตร


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	


	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดกับลาบ น้ำพริกต่างๆ และนำมายำกับ	


ปลาทูนึ่ง

	
	

ใบแก้ท้องเสีย   แกบิดมูกเลือด แก้อุจจาระพิการ เปลือกต้นสมานแผล

	
แก้เลือดออกตามไรฟัน

๘๗
ชื่ออื่น	

ผักชีลาว  ผักชี เทียนข้าวเปลือก ผักชีเทียน


	
ผักจี   เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นกลมเรียบเกลี้ยงและตั้งตรง มีกลิ่น
หอม ลำต้นมีรูกลวงตลอดความยาว ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก
หยักลึกมี ๒ – ๔ คู่ ใบย่อยลักษณะรูปเส้นด้าย ดอก ออกเป็นช่อ	


ที่จุดเดียว ลักษณะแบบซี่ร่ม ก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑๒ - ๒๐
เซนติเมตร ดอกวงนอกมี ๕ – ๒๐ ดอก ก้านดอกยาว ๑.๕ – ๗.๕
เซนติเมตร ดอกเป็นแบบซี่ร่มมีดอกย่อย ๕ – ๒๕ ดอก ก้านดอกย่อย
ยาวประมาณ ๑ เซนติ เ มตร กลี บ ดอกสี เ หลื อ ง หลุ ด ร่ ว งง่ า ย  

	
ผล ลักษณะรูปรีมีสันบางๆ ๓ เส้น

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร
ยอด ใบ ใช้แกงอ่อม   แกงหน่อ ห่อหมก   หรือรับประทานเป็นผักสด

	
กับน้ำพริก  ลาบ 

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
๘๘

เมล็ดแก้ชีพจรอ่อน  แก้นอนสะดุ้ง บำรุงธาตุ แก้เสมหะพิการ เมล็ดแห้ง
ที่แก่จัดเต็มที่ใช้เป็นยาบำรุงกำลังชั่วคราว
ชื่ออื่น	

ผักชีล้อม  


	
ผักจีอ้อ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๖๐ เซนติเมตร ขึ้นในน้ำลำต้นกลวงอวบน้ำ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น
เรียงสลับ ใบย่อยรูปหอกกว้างประมาณ ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ขอบใบยักแบบฟันเลื่อย ดอก
ออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบดอกสีขาว ก้านดอกย่อยขนาดเท่ากัน  ผล  เป็นผลแห้งรูปไข่กลับและแตกได้


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	



ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	
	

ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริก ลาบ ยำ หลู้ ส้า
ทั้งต้นใช้เป็นสมุนไพรต้มอาบ อบ เพื่อรักษาอาการเหน็บชา ขับเหงื่อ  

	
ผล ขับลม แก้ธาตุพิการ แก้หืดหอบ คลื่นเหียนอาเจียน

๘๙
ชื่ออื่น	

ผักจินดา 


	
ผักเชียงดา เป็นไม้เลื้อยเถามีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๕ – ๕ เซนติเมตร เลื้อยพาดไปตามต้นไม้อื่น เถายาวประมาณ 

	
๕ – ๑๐ เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปกลมรีปลายแหลม ออกจากข้อเรียงเป็นคู่ตรงข้ามกันสีเขียวเข้ม หลังใบมีสีเขียวเข้มกว่าท้องใบ
ดอก ออกเป็นช่อแน่นสีขาวอมเขียวลักษณะกลมเล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ – ๖ มิลลิเมตร
          

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๙๐

	

ยอดอ่อนและดอกใช้แกงกับปลาแห้ง   แกงรวมกับผักเสี้ยว แกงแค

	
ร่วมกับผักชนิดอื่น

	

นำใบมาตำให้ละเอียดพอกกระหม่อมแก้หวัด  ลดน้ำตาลในเลือด
ชื่ออื่น	

ผักพาย


	
ผักด้ามพั่ว เป็นไม้น้ำ ชอบขึ้นในนาข้าวที่มีน้ำขังลึกประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร มีอายุฤดูเดียว มีลำต้นและรากยึด
ติดกับผิวดินในน้ำ ชูก้านและใบเหนือน้ำขึ้นมา ก้านใบลักษณะอวบกลม ส่วนโคนก้านใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกันมียอดอยู่ตรงกลาง
ความสูงเรือนยอดเฉลี่ยประมาณ ๑๐ – ๓๐ เซนติเมตร ใบ รูปไข่ยาวรีสีเขียวออกฟ้า มีไขเคลือบไม่เปียกน้ำ ปลายใบ้ป้าน

	
โค้งมน โคนใบสอบเข้าหาก้านใบ กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ดอก ออกที่ปลายยอด มีก้าน
ดอกชูยาวเหนือผิวน้ำมีกลีบดอก ๔ – ๕ อัน สีขาว ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



ก้านใบ และใบ รับประทานเป็นผักสด ร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส่า หลู้
ไม่นิยมใช้ในทางสมุนไพร 

๙๑
ชื่ออื่น	

เฟิร์นแผง, พ่อค้าตีเมีย
	
ผักตับแก้ เป็นไม้ล้มลุกประเภทเฟิร์น   มีลำต้นเป็นเหง้ามีไหลทอดไปกับพื้นดิน ใบ เป็นใบประกอบ ก้านใบยาว

	
แข็งหนา ยาว ๓๐ - ๔๐ เซนติเมตร ใบแผ่คลี่ออกเป็นแผ่น ใบอ่อนจะม้วนงอลักษณะใบเรียงตัวแบบเป็นเกลียววนรอบลำต้น	


ก้านใบจะมีขนปกคลุมอยู่ทั่วไปท้องใบจะมีสปอร์ขนาดเล็กเบาหลุดออกจากชั้นสปอร์สามารถปลิวไปได้ไกล เมื่อตกในที่เหมาะสม

	
ก็จะเกิดเป็นต้นอ่อนต่อไป

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๙๒

	

ยอดอ่อนที่ม้วนงอ นำมาแกงกับปลาแห้งหรือแกงแครวมกับผักอื่นหรือ

	
ลวกเป็นผักจิ้มรับประทานกับน้ำพริกตาแดง  น้ำพริกปลาร้า

	

ทั้งต้นใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
ชื่ออื่น	

ติ้วส้ม ติ้วเลือด ผักติ้ว กุยฉ่องเซ้า
	
ผักติ้วขาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูง ๘ – ๑๕ เมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลดำ เปลือกในสีน้ำตาล

	
เหลือง มีน้ำยางเหนียวสีเหลืองปนแดงซึมออกมา เมื่อถูกตัดใหม่ๆ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม โปร่ง ตามลำต้นและกิ่ง	


ขนาดใหญ่มักกลายสภาพเป็นหนามแข็งๆ   ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ติดตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ทรงใบรูปรีแกมรูปไข่และรูปขอบ
ขนาน กว้าง ๒.๕ – ๔.๕ เซนติเมตร ยาว ๓ – ๑๓ เซนติเมตร โคนใบสอบเนื้อใบบาง หลังใบมีขนสาก ท้องใบมีขนนุ่ม
หนาแน่น เส้นแขนงใบ มี ๗ – ๑๓ คู่   ดอก สีชมพูอ่อนถึงแดง กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นกระจุกตามซอกใบ มีกลีบดอก
และกลีบฐานดอกมีอย่างละ ๕ กลีบ ผล เป็นชนิดผลแห้งรูปรี ยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร มีนวลขาวติดตามผล ผลแก่

	
จะแตกอ้าออกตามรอยประสาน เป็น ๓ แฉก เมล็ดสีน้ำตาล

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

	

ยอดอ่ อ นรั บ ประทานเป็ น ผั ก จิ ้ ม ลาบ น้ ำ พริ ก ใส่ ต ้ ม ต่ า งๆ

	
เพื่อปรุงรสเปรี้ยว

การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 น้ำยางทารักษาอาการรอยแตกของส้นเท้า




๙๓
ชื่ออื่น	

มะกล่ำต้น  มะกล่ำตาช้าง  มะหัวแดง


	
ผักตุ๊ด  เป็นไม้ยืนต้นสูง ๑๕ - ๒๕ เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นหนา ลำต้นผิวขรุขระสีน้ำตาลดำ เรือนยอด
เป็นพุ่มกลมปลายกิ่งจะห้อยลงกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขน ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นออกเรียงสลับยาว ๑๕ – ๔๐
เซนติเมตร แต่ละช่อมีช่อย่อยออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ปลายสุดของช่อย่อยเป็นใบเดี่ยว ดอก ออกเป็นช่อสีเหลือง รูปทรงกระบอก
ออกที่ซอกใบคล้ายหางกระรอก ออกปีละ ๒ ครั้ง  ผล เป็นฝักลักษณะแบนยาวประมาณ ๑๐ – ๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๑๒ – ๒๐
เซนติเมตร สีน้ำตาลเข้ม ฝักเมื่อแก่จะแตกเป็น ๒ ซีกแล้วม้วนเข้าหากัน  เมล็ดสีแดงติดอยู่ที่ขอบผนังฝัก ฝักหนึ่งๆ มีหลายเมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	
	


	

๙๔

	

	

	

	

ยอดอ่อน ใบอ่อน ลวก นึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริกต่างๆ
เมล็ ด แก้ โรคตั บ พอกดั บ พิ ษ รั ก ษาแผลหนอง ใบต้ ม รั บ ประทาน

	
แก้ปวดข้อ บำรุงธาตุ
ชื่ออื่น	

	

หางปลาช่อน  ผักบั้ง  ผักแดง
	
ผักบั้ง เป็นไม้ล้มลุก สูง ๒๕ – ๔๐ เซนติเมตร  ใบ  ออกติด
ลำต้นไม่มีก้านใบ กว้าง ๑ – ๘ เซนติเมตร ยาว ๔ – ๑๖ เซนติเมตร

	
ใบล่างๆ จะออกติดผิวดินขอบใบส่วนล่างหยักเว้าลึกเข้าหาเส้นกลางใบ

	
ใบส่วนบนค่อนข้างกลมรูปไต รูปไข่หรือรูปสามเหลี่ยม ขอบใบหยักเป็น

	
ซี่ฟันเล็กน้อย โคนใบสอบเข้าสู่เส้นกลางใบคล้ายเป็นก้านใบ ใบกลาง

	
มีขนาดเล็กกว่ารูปหอกแกมรูปไข่ ขอบเรียบ ส่วนใบบนจะเล็กแคบโคนใบ
รูปหัวลูกศร ระหว่างใบกลางและใบบนจะเรียงห่าง ๆ กัน ทั้งหมด

	
ปลายแหลม เนื้อใบเกลี้ยง  ดอก ออกเป็นกระจุกกลีบสีชมพู   ผล  เป็น

	
  ผลแห้งมี ๕ สัน มีระยางค์สีขาว

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ใบอ่อน   ลวกเป็นผักจิ้ม

ร่วมกับน้ำพริกแดง น้ำพริกปลาร้า และนำมาแกงแคร่วมกับผักอื่น

การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 ใบ คั้นหยอดแก้เจ็บตา  
แก้เจ็บหู แก้หืดไอ ห้ามเลือด แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ แก้บิด



๙๕
ชื่ออื่น	

ผักทอดยอด โหนเดาะ
	
ผักบุ้ง   เป็นไม้เลื้อยล้มลุก เนื้ออ่อน ลำต้นกลวง มีรากออกตามข้อ ใบ มีรูปร่างหลายแบบ หลายขนาดแตกต่างกัน	
 

แม้อยู่ต้นเดียวกัน เช่น รูปไข่   รูปสามเหลี่ยม รูปไข่กลับ รูปหอก โคนใบเว้าหรือรูปศร ปลายใบมนหรือแหลม ดอก ออกตาม

	
ซอกใบ รูปกรวยปลายบาน สีชมพูหรือชมพูออน ตรงกลางมีสเี ข้ม  ผล  รูปไข่ หรือกลม ผิวเกลียง ภายในมีเมล็ด ๔ เมล็ด มีขนสีเทา
่
้
หนาแน่น

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ใบอ่อน  ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสด ลวก รับประทานร่วมกับน้ำพริก

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ทั้งต้น เป็นยาระบาย แก้ไข้ แก้นอนไม่หลับ แก้ปวดศีรษะ แก้อาการอ่อนเพลีย


๙๖
ชื่ออื่น	

ผักตับเต่า ตับเต่านา
	
ผักปอดม้า   เป็นพืชน้ำ ลำต้นเจริญเติบโตอยู่ในน้ำมีราก

	
และไหลเป็นเส้นสีขาวปลายไหลจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ ใบ รูปร่าง
กลมคล้ายใบบัวบก ฐานใบเว้าเข้าหาก้านใบเป็นรูปหัวใจ ก้านใบยาว
ขอบใบเรียบ ใบเมื่อลอยน้ำจะมีลักษณะคล้ายเต่า ในช่วงฤดูแล้งกลาง
แผ่นใบจะพองออกคล้ายกับฟองน้ำ ดอก ออกตามซอกใบ ก้านดอก
ยาว ดอกมีสีขาว ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียเกิดแยกกันคนละดอก มีใบ
ประดั บ หุ ้ ม ดอกตั ว ผู ้ ก้ า นดอกตั ว ผู ้ จ ะยาวกว่ า ดอกตั ว เมี ย ผล 

	
กลมเรียบ เมื่อแก่จะแตกออกภายในมีเมล็ดรูปรีเล็กๆ จำนวนมาก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ยอดอ่อน ใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก  ส้มตำ ลาบ ส้า

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 	



	

ทั้งต้น แก้ลม แก้เสมหะ บำรุงธาตุไฟให้บริบูรณ์

๙๗
ชื่ออื่น	

ผักปังขาว ผักปังใหญ่


	
ผักปั๋ง เป็นไม้เลื้อยลำต้นอวบน้ำ ผิวเรียบเป็นมันสีเขียวอ่อนๆ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับขอบเรียบรูปหัวใจ แผ่นใบ

	
เป็นมันวาว สีเขียวอ่อน มีความกว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร ยาว ๘ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อออกตามซอกใบดอกติดอยู่ที่

	
ก้านดอกมีสขาวหรือชมพูออนๆ ผลกลมสีเขียวขนาด ๐.๓ – ๐.๕ เซนติเมตร เมือสุกจะมีสนำตาลเข้มภายในมีเมล็ดกลมเปลือกแข็ง
ี
่
่
ี ้


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๙๘

	

	

	

	

ยอดและช่อดอก ใช้แกงและลวกจิ้มกับน้ำพริก
ทั้งต้นรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ขับปัสสาวะ ระบายท้อง แก้บิด 

	
คั้นเอาน้ำจากดอกทาแก้หัวนมแตกเจ็บ
ชื่ออื่น	

ช้าเลือด ผักกาดย่า ผักขะยา


	
ผักปู่ย่า   เป็นไม้เลื้อยลำต้นตรงหรือพันต้นไม้อื่น ลำต้นมี
หนามแหลมจำนวนมาก ทั้งลำต้นและก้านใบ ยอดอ่อนมีสีน้ำตาล
แดง ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบ
ยาว ๒๕ – ๓๐ เซนติเมตร ใบมี ๑๐ – ๓๐ คู่ ก้านใบสีแดงมีหนาม
แหลมคม ออกตามกิ่งก้านทั่วไป ใบสามารถหุบเข้าหากันได้เมื่อถูก
สัมผัส ดอก เป็นช่อยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร สีเหลือง บานในช่วง

	
ฤดูหนาว ผล เป็นฝักบวมพองมีหนามเล็กๆ ภายในมีเมล็ด ๒ เมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ยอดอ่อนรับประทานกับซุบหน่อไม้ น้ำพริกปลาร้า

ประโยชน์ทางสมุนไพร 
ทั้งต้นบำรุงเลือด แก้วิงเวียน


๙๙
ชื่ออื่น	

ผักแปม (ทั่วไป)


	
ผักแปม เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๒ – ๖ เมตร ลำต้นมีหนามงุ้ม  ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือมีใบย่อย
๓ – ๕ ใบ ลักษณะรูปรีหรือรูปรีแกมไข่ ขนาดยาว ๕ – ๘ เซนติเมตร กว้าง ๒ – ๓.๕ เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก
แบบฟันเลือยหรือซีฟน เส้นใบเห็นได้ชดด้านหน้าใบและหลังใบ ก้านใบย่อย ยาว ๑ – ๑.๒ เซนติเมตร ด้านบนเป็นร่อง ก้านใบรวม
่
่ ั
ั
ยาว ๓.๕ – ๖ เซนติเมตร  ด้านบนแบนมีหนาม เมื่อขยี้ใบจะมีกลิ่นเฉพาะ  ดอก  ออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม สีเขียวอมเหลือง ดอก
จำนวนมากออกที่เดียวรวมกันเป็นกระจุกที่ปลายก้าน ก้านดอกย่อยยาว ๑ – ๒ เซนติเมตร มีกลีบดอก ๕ กลีบ มีเกสรเพศผู้ 

	
๕ อัน และเกสรเพศเมีย ๒ อัน ผล  แบนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๔ เซนติเมตร


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๑๐๐

	

	

	

	

ใบอ่อน ยอดอ่อน  รับประทานเป็นผักสดกับลาบ หลู้ ส้า
น้ำต้มจากเปลือกต้นดื่มแก้โรคผอมแห้ง และโรคประสาท หรือนำเปลือก

	
ย่างไฟแล้วนำมาแช่ในเหล้าขาวจะเห็นผลเร็วกว่า
ชื่ออื่น	

เล็บเลาะ ดีงูเห่า เครืองูเห่า ตีนเกีย


	
ผักแปมป่า เป็นไม้เถา ลำต้นเมื่อยังอ่อนจะมีหนามแหลมคมทั่วไป พอต้นแก่จะกลายเป็นปุ่มปม ใบ เป็นใบประกอบ
แบบฝ่ามือมีใบย่อย ๓ ใบ รูปขอบขนานแกมไข่ กว้างประมาณ ๑ – ๑.๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๘ เซนติเมตร เนื้อใบ

	
มีจุดน้ำมันกระจายอยู่ทั่วไป ดอก ออกเป็นช่อ ที่ปลายกิ่งและซอกใบ กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว มีรังไข่ขนาดใหญ่ลักษณะกลม

	
อยู่ตรงกลางดอกแล้วจะกลายเป็นผล  ผล กลมสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	

	


	

	

	

	

	

ยอดอ่อนใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ ส้า หลู้
ลำต้น ฝนทาแก้พษแมลงสัตว์กดต่อย ผสมกับแก่นฝางและกำลังช้างสาร

ิ
ั
	
ต้มน้ำดื่มแก้อาการปวดหลังและบั้นเอว

๑๐๑
ชื่ออื่น	

ผักกาดช้าง  หญ้าดอกฟุ้ง  หญ้าคออ่อน ผักเผ็ดแม้ว


	
ผักเผ็ดขม เป็นไม้พุ่มล้มลุก สูงได้ถึงประมาณ ๕๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร ชอบขึ้นในที่มีความชุ่มชื้น ลำต้นเป็นเหลี่ยม 

	
สีเขียวอ่อน ใบ เป็นใบเดี่ยว ขอบใบเว้า กว้างประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร เส้นใบด้านท้องใบนูนมองเห็นได้ชัดเจน ดอก  
สีชมพู - ม่วง ลักษณะเป็นปุยถ้วยทรงกลม ออกจากปลายยอดชูก้านช่อดอกขึ้นเหนือเรือนยอด เกสรสีแดง ดอกเมื่อแก่จะแตกออก
และปลิวไปตามลม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๑๐๒

	

ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสด หรือลวกให้สุก รับประทานกับ

	
น้ำพริก ใช้แกงเลียง 

	

ใบ ยอดอ่อนมีกลิ่นหอม ดับกลิ่นคาว ช่วยเจริญอาหาร
ชื่ออื่น	

ผักคราดหัวแหวน ผักตุ้มหู หญ้าตุ้มหู


	
ผักเผ็ดน้อย  เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๒๐ – ๓๐  เซนติเมตร หรือทอดไปตามพื้นดิน ปลายยอดชูขึ้น ลำต้น
อวบน้ำสีเขียวอมม่วง ต้นอ่อนมีขนปกคลุมเล็กน้อย ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปสามเหลี่ยมออกตรงข้ามต้น ขอบใบหยัก ก้านใบยาว
ผิวใบสาก มีขนใบกว้าง ๓ – ๔ เซนติเมตร ยาว ๓ – ๖ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่งเป็นกระจุก	


สีเหลือง ลักษณะกลม ปลายแหลมคล้ายหัวแหวน ดอกย่อยมีวง ๒ วง วงนอกเป็นตัวเมีย วงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผล 

	
เป็นผลแห้งรูปไข่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

	

ใบ ต้น รับประทานสดเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก แจ่ว ใส่แกงอ่อม 

	
แกงหอยขม ดับกลิ่นคาวดีมาก

	
	
	

ใช้ เ ป็ น ยาชาแก้ ป วดฟั น สะกั ด เป็ น ยาชาแก้ พ ิ ษ ตามทวาร

	
ต้ น สดตำผสมเหล้ า อมแก้ ฝ ี ใ นคอ ต่ อ มน้ ำ ลายอั ก เสบ ช่ ว ย

	
เจริญอาหาร ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร

๑๐๓
ชื่ออื่น	

ผักแพว พริกบ้า


	
ผักไผ่ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๓๐ – ๓๕ เซนติเมตร
ลำต้นทอดเรียวยาวไปตามพื้นดิน และมีรากงอกออกตามข้อของลำต้น
ที่สัมผัสกับผิวดิน ใบ รูปหอก ขอบเรียบปลายแหลมฐานใบรูปลิ่ม กว้าง
๕ – ๕.๘ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อมีดอกย่อยขนาดเล็ก สีชมพูม่วง

	
หรือขาวนวล


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ใบรับประทานเป็นผักสด หั่นใส่ลาบ ช่วยดับกลิ่นคาว

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร ช่วยเจริญอาหาร


๑๐๔
ชื่ออื่น	

พญาปล้องทอง เสลดพังพอนตัวเมีย ผักลิ้นเขียด 


	
ผักพญายอ เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย   ลำต้นตรงกลมผิวเรียบเป็นปล้อง ต้นอ่อนสีเขียว ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหอกเรียวยาว

	
ปลายใบและโคนใบแหลม ผิวและขอบใบเรียบ กว้างประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๗ – ๙ เซนติเมตร ออกเป็นคู่

	
ตามข้อใบ ดอก ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกเป็นหลอดสีแดงส้ม ยาวประมาณ ๓ – ๔ เซนติเมตร กลีบรองดอกสีเขียว 

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	




ยอดอ่อนใส่แกงแค  
ทั้งต้น แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้เริม งูสวัด แก้เม็ดผดผื่นคัน

๑๐๕
ชื่ออื่น	

ผักลิ้นปี่
	
ผักแว่น เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นเป็นเง้าเรียวยาวทอดเลื้อยแตกกิ่งก้านระเกะระกะ
อย่างไม่เป็นระเบียบ ลำต้นมีขนสีน้ำตาลอ่อน เมื่อขึ้นบนพื้นดินจะมีลำต้นสูงประมาณ ๒ – ๓
เซนติเมตร ถ้าขึ้นในน้ำจะมีลำต้นที่สูงกว่า สูงได้ถึง ๑๘ เซนติเมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบ
พัดมีใบย่อย ๔ ใบ ใบย่อยลักษณะรูปพัด กว้าง ๐.๕ ยาว ๒ เซนติเมตร มีอับสปอร์ออก
เดี่ยวๆ หรือหลายอันบนก้านที่ชูขึ้นมาสั้นๆ รูปขอบขนานมีขนและร่วงง่าย

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ยอดและลำต้ น อ่ อ นรั บ ประทาน

	

เป็นผักสด กับน้ำพริกต่างๆ เช่น น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

ทั ้ ง ต้ น สมานแผลในปาก ในคอ 

	

	

	

แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ

	

๑๐๖
ชื่ออื่น	

  ผักอีนูน


	
ผักสาบ   เป็นไม้เลื้อย อายุหลายปี พาดเลื้อยไปตามต้นไม้อื่น แตกแขนงออกตามข้อของลำต้นที่มี
ลักษณะกลมสีเขียวเข้ม ผิวเรียบแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนเมื่อแก่ ผิวขรุขระ มีร่องลึกๆ ตามลำต้น ใบ เป็น
ใบเดี่ยวรูปหัวใจ ก้านสั้น ออกตรงข้ามโคนใบสอบปลายใบแหลม ขอบเรียบ แผ่นใบแข็งสีเขียวเข้ม กว้าง ๕ – ๘
เซนติเมตร ยาว ๘ – ๑๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นกลุ่มสีเขียวออกเหลืองตามซอกใบแบบก้านร่ม ก้านดอกยาวประมาณ 

	
๓ เซนติเมตร ผล  กลมสีเขียว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ – ๒.๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดเดียวลักษณะกลม


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร  	 	



ผลอ่อนและยอดอ่อนใช้ลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ
ไม่มีรายงานการนำไปใช้

๑๐๗
ชื่ออื่น	

ผักขี้เสียด  ผักขี้เขียด  ผักอีไร ผักส้ม


	
ผักสีเสียด เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นแผ่เป็นแผ่นกว้างราบไปกับพื้นดิน   ใบ   ลักษณะกลมใบอ่อนสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็น

	
สีแดงเมื่อแก่ ดอก ขนาดเล็ก สีขาวอมแดงออกบริเวณซอกใบ  ผล  เกิดจากช่อดอกและจะแตกอ้าออกเวลาแก่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	



๑๐๘

ทั้งต้น แกงใส่ปลาย่าง นำมาแกงรวมกับผักขม
ทั้งต้นแก้โรคเบาหวาน
ชื่ออื่น	







เสี้ยวดอกแดง  เสี้ยวหวาน

	
ผั ก เสี้ ย ว เป็ น ไม้ ย ื น ต้ น ขนาด
กลาง สูงประมาณ ๑๐ เมตร กิ่งอ่อนมีขน  
ใบ เป็ น ใบเดี ่ ย วเรี ย งสลั บ รู ป เกื อ บกลม
ปลายใบผ่าลึกเว้าเข้าหากัน โคนใบกลม
ถึงเว้าเป็นรูปหัวใจ หลังใบเกลี้ยง ท้องใบ

	
มีขนเล็กน้อยมีหูใบขนาดเล็ก ดอก สีชมพูอ่อน
ถึ ง แดง ออกเป็ น ช่ อ กระจายตามปลายกิ ่ ง

	
หรื อ ซอกใบ มี ก ลิ ่ น หอมอ่ อ นๆ มี ด อกย่ อ ย 

	
๖ – ๑๕ ดอก เมื ่ อ บานจะแยกออก 

	
ด้านนอกสีเขียว ด้านในสีชมพูอ่อนปนเขียว
ผล เป็นฝักรูปขอบขนานเกลี้ยง มีเมล็ด
จำนวนมากลั ก ษณะรู ป ทรงแบนกลม

	
สีน้ำตาล

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ใบอ่อน ยอดอ่อน นำมานึ่งให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก
ตาแดง น้ำพริกปลาร้า ใช้แกงกับปลาย่าง และแกงแครวมกับ

	
ผักอื่น

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ใบ   แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ดอกระบายพิษไข้ ราก ระบายพิษไข้
เปลือกต้นแก้ไอ ห้ามเลือด ดอกและแก่นแก้บิด


๑๐๙
ชื่ออื่น	

มะลิวัลย์  เถาวัลย์ดำ


	
ผักแส้ว   เป็นไม้เลื้อย เถากลมสีเขียว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๑๕
เซนติเมตร   ใบ   เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน สีเขียวรูปหอกหรือรูปหอกแกมไข่

	
กว้างประมาณ ๒.๓ – ๔ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๔ – ๑๒ เซนติเมตร ก้านใบสั้น
หลังใบจะมีสีที่เข้มกว่าท้องใบ ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ฐานใบสอบค่อนข้างแหลม  
ดอก ออกเดี่ยวๆ กลีบขนาดเล็กเรียวบางสีขาว มีกลิ่นหอม  ผล  ขนาดเล็ก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	


	

๑๑๐

	

	

	

	

ยอดอ่อนและใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกแดง น้ำพริก

	
ปลาร้า ยำกับปลาทู นำมาแกงกับปลาแห้ง  หรือแกงแคร่วมกับผักอื่น 

	
	

ใบช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ  ดอก บำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์	
  

ราก ถอนพิษเมาเบื่อ
ชื่ออื่น	

บัวบก  แว่นโคก
	
ผักหนอก เป็นพืชล้มลุกทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน มีรากออก

	
ตามข้อชูใบตั้งตรง ใบ เป็นใบเดี่ยวมีก้านยาวชูใบลักษณะรูปไตหรือรูปกลม
มีรอยเว้าลึกที่ฐานใบ ขอบใบมีรอยหยักผิวใบด้านบนค่อนข้างเรียบ ดอก
ออกเป็นช่อคล้ายร่มออกจากข้อ ช่อละ ๓ – ๔ ดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก
๕ กลีบ สีม่วงอมแดง โดยเรียงสลับกับเกสรตัวผู้ เมล็ดมีขนาดเล็กสีดำ


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ทั้งต้นรับประทานเป็นผักสด จิ้มกับลาบและน้ำพริกต่างๆ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ทั้งต้นต้มน้ำดื่ม แก้ฟกช้ำ ลดอาการอักเสบได้ดี แก้ร้อนใน


๑๑๑
ชื่ออื่น	

กระถินไทย กระถินบ้าน สะตอเบา

	

	
ผักหนอง เป็นไม้พุ่มยืนต้น สูงประมาณ ๕ เมตร ลำต้นสีน้ำตาลผิวขรุขระ ใบ เป็นใบประกอบ ก้านใบยาว  ๑๕ – ๓๐
เซนติเมตร แตกออกเป็นก้านย่อย ๓ – ๑๐ คู่   ใบมีขนาดเล็ก จำนวน ๕ – ๒๐ คู่ ใบรูปขนานปลายแหลม ยาว ๖ – ๒๑
เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๕ มิลลิเมตร   ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็ก กลมฟู สีขาว มีกลิ่นหอมเล็กน้อย   ผล เป็นฝักแบนยาว 

	
๑๒ – ๑๘ เซนติเมตร   กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร   เมล็ดสีน้ำตาลเมื่อแก่ผิวเรียบ มี ๑๕ – ๓๐ เมล็ดต่อฝัก
 

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	


๑๑๒

  

ยอดอ่อน ฝักอ่อน รับประทานกับน้ำพริก

เปลือกต้นเป็นยาฝาดสมาน รากเป็นยาอายุวัฒนะ ขับลม ขับระดูขาว
ชื่ออื่น	

ผักหวาน  กะลี
	
ผักหนาม   เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นทอดเลื้อยมีหนามขึ้นทั่วไป ลำต้นทอดเลื้อยไปตามผิวดินแล้วชูยอด
ตั้งขึ้น   ใบ   เป็นแบบใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปลูกศร หรือขอบใบหยักเว้าลึกและมีหนามที่เส้นใบด้านท้องใบ 

	
ก้านใบยาวประมาณ ๑ เมตร มีหนามตลอด   ดอก   เป็นช่อแทงออกจากกาบใบ ก้านดอกยาวประมาณ 

	
๗๕ เซนติเมตร มีหนามตลอด มีจานรองดอกสีม่วงบิดเป็นเกลียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ มีเกสร
เป็นแท่งสีขาวอยูตรงกลาง ผล ติดอยูทตรงดอก ออกเป็นกระจุก ผลอ่อนสีเขียวพอสุกจะมีสเี หลืองแกมแดง
่
่ ่ี

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ยอดอ่อน ใบอ่อน ลวก ต้มให้สุก นำมาดอง

	

	

	

รับประทานร่วมกับน้ำพริกฯ นำมาแกง

	

เหง้าแก้ไอ ขับเสมหะ แก้คนเนืองจากพิษหัด  

ั ่
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
	
	


	
	
	
	
	
สุกใส  ราก และใบแก้เสมหะ
ข้อควรระวัง ทุกส่วนมีสารไฮโดรไซยาไนต์ มีพิษ ควรทำให้สุกก่อน

๑๑๓
ชื่ออื่น	

ชะอม ผักขา
	
ผักหละ  เป็นไม้พุ่มเลื้อยลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมอยู่ทั่วไป ใบ เป็น
ใบประกอบคล้ายใบส้มป่อยหรือใบกระถิน ใบอ่อนมีกลิ่นฉุน ใบเรียงสลับใบย่อย

	
อยู่ตรงข้ามกันมี ๑๓ – ๑๘ คู่ ดอก ลักษณะคล้ายดอกกระถิน ออกที่ซอกใบสีขาว
หรือสีขาวนวล ดอกขนาดเล็กจะเห็นชัดเจนเฉพาะเกสรตัวผู้มีลักษณะเป็นฝอย

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

ยอดอ่ อ นรั บ ประทานได้

	

ทั้งสดและลวกสุก ยอดอ่อนแกงกับหน่อไม้ แกงเห็ด

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

รากแก้ ท ้ อ งเฟ้ อ ขั บ ลม

	

ในลำไส้ แก้อาการปวดเสียวในท้อง
	
ข้ อ ควรระวั ง หญิ ง ที่ ค ลอดบุ ต รใหม่ ๆ ไม่ ค วรรั บ ประทาน

เพราะจะทำให้น้ำนมแห้ง


๑๑๔
ชื่ออื่น	

ผักหวานบ้าน  ก้านตบมะยมป่า  ผักหวานใต้ใบ


	
ผักหวานบ้าน  เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ ๒ - ๓ เมตร มีกิ่งก้านขนาดเล็กจำนวนมาก  ใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ  
ก้านใบสั้น ใบรูปไข่ปลายแหลม  ขอบใบเรียบออกตรงข้ามกัน รูปใบคล้ายขนมเปียกปูน  กว้าง ๑.๕ - ๓ เซนติเมตร ยาว ๒ - ๖
เซนติเมตร โคนใบมน มีหูใบเล็กๆ ที่โคนก้านใบ  หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีเขียวอ่อนๆ ดอก  เป็นช่อออกเป็นกระจุก ที่ซอกใบ
มีดอกตัวเมียประมาณ ๓ ดอก แต่ดอกตัวผู้มีจำนวนมากไม่มีกลีบดอก ส่วนดอกตัวเมียมีกลีบเลี้ยงสีแดงเข้มหรือสีเหลืองจุดปะ

	
สีแดงเข้ม ผล กลมแป้นฉ่ำน้ำเป็นพูเล็กๆ ๓ พู สีเขียวถึงขาวเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร   มีขั้วสีแดงห้อยลง

	
ผลแห้งจะแตก เมล็ดขนาดเล็กสีดำ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
	
	
	
	

	


	

ยอดอ่อนและใบอ่อนนำมาแกงร่วมกับผักอืนๆ แกงเลียง แกงกับปลาแห้ง  

่
	
ลวก  นึ่ง  ผัดกับน้ำมัน  รับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริกตาแดง

	
	

ใบและต้นใช้น้ำยางหยอดตาแก้ตาอักเสบ   รักษาแผลในจมูก   ราก

	
ระงับความร้อน  ถอนพิษไข้  ใบปรุงยาเขียว

๑๑๕
ชื่ออื่น	

ผักหวาน


	
ผักหวานป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบสูง ๖ - ๑๐ เมตร  แตกกิ่งก้านสาขามาก  ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่หรือรูปรี	


สีเขียวเข้มหนา ปลายแหลม เรียงสลับตรงข้ามกันคล้ายใบประกอบ  ยอดอ่อนใบเล็กเรียบสีเขียวอมเหลือง มีใบประดับขนาดเล็ก

	
ที่ลำต้นและกิ่ง ดอก ออกเป็นกลุ่มสีเขียวตามซอกใบ ผล กลมรีออกเป็นพวงสีเหลืองอมน้ำตาล เมื่อสุกจะมีสีแดงขนาดกว้าง 

	
๑.๕ - ๑.๗ ซม.  ยาว ๓.๕ ซม.

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๑๑๖

	

ยอดอ่อน  ใบอ่อน  ดอกอ่อน  นำมาแกง  แกงกับไข่มดแดง  แกงกับ

	
ปลาแห้ง  แกงเลียงปลากรอบ  หรือนึ่ง  ทำผักจิ้มกับน้ำพริก

	

ราก  ระงับพิษ  แก้พิษร้อนกระสับกระส่าย  แก้น้ำดีพิการ  แก้เชื่อมมัน
ชื่ออื่น	

ผักชี ผักหอมน้อย ผักชีหอม


	
ผั ก หอมป้ อ ม เป็ น ไม้ ล ้ ม ลุ ก ลำต้ นตั ้ ง ตรงภายในกลวง

	
กิ่งเล็กเรียบ รากแก้วสั้น รากฝอยจำนวนมาก สูงประมาณ ๒๐ – ๒๕
เซนติเมตร ลำต้นมีสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมน้ำตาลเมื่อต้น
แก่ ใบ ทรงรูปพัด ใบที่โคนจะมีขนาดโตกว่าใบที่ปลายสีเขียวสด
ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็กสีขาวหรือชมพูอ่อนๆ มีกลีบดอก ๕ กลีบ
ออกตรงส่วนยอดของลำต้น ผล รูปทรงกลมโตประมาณ ๕ มิลลิเมตร
สีน้ำตาล ปลายผลจะแยกออกเป็น ๒ แฉก ตามผิวจะมีเส้นคลื่น	
 

๑๐ เส้น

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ต้นและใบรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ หลู้ แหนม หรือ
ใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งกลิ่นให้อาหารน่ารับประทาน ซอยใส่น้ำพริก ยำ 

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ทั้งต้น เป็นยาขับเสมหะ แก้หัดผื่นคัน ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ 
	
ข้ อ ควรระวั ง ไม่ ค วรรั บ ประทานมากเกิ น ไป

เพราะจะทำให้มีกลิ่นตัวแรงและตาลาย


๑๑๗
ชื่ออื่น	

กระทุ้งหมาบ้า  กระทงหมาบ้า


	
ผั ก ฮ้ ว นหมู เป็ น ไม้ เ ลื ้ อ ย เถาเนื ้ อ แข็ ง ขนาดใหญ่ เปลื อ ก

	
สี น ้ ำ ตาลอ่ อ น กิ ่ ง อ่ อ นและใบ มี ข นสั ้ น ๆ ประปรายหรื อ เกลี ้ ย ง

	
เถามี ย า...เดี ่ ย วออกเป็ นคู ่ ต รงข้ า มรู ป ไข่ กว้ า ง 

	
๔ – ๑๐ เซนติเมตร ยาว ๖ – ๑๔ เซนติเมตร
ปลายใบแหลมเป็นติ่งขอบใบเรียบ โคนใบตัดกลม
หรือเว้า เนื้อใบหนา ด้านล่างสีอ่อน ก้านใบยาว
๒.๕ เซนติเมตร ดอก สีเขียวอ่อนออกเป็นช่อที่
ง่ามใบ แต่ละช่อมีดอกจำนวนมาก ก้านช่อยาว
๒.๕ – ๗.๕ เซนติ เ มตร   ก้ า นดอกยาว 

	
๑.๒ – ๒.๕ เซนติเมตร เรียวเล็ก กลีบรอง
ดอก ๕ กลีบ ยาวประมาณ ๒ มิลลิเมตร ผล
เป็นฝักรูปหอก กว้าง ๑๖ – ๓๐ มิลลิเมตร
ยาว ๗ – ๑๐ เซนติเมตร สีเหลือง เมล็ดมันเป็นเงารูปรี
หรือรูปไข่มีปีกกว้าง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร   	

	 
	
ใบอ่ อ น ยอดอ่ อ น และดอก นำมาต้ ม ให้ ส ุ ก รั บ ประทาน

	
เป็นผักจิ้ม หรือแกงแครวมกับผักอื่น          

ประโยชน์ด้านสมุนไพร     
	
ลำต้นดับ พิ ษร้ อ นถอนพิษ ไข้ ขั บปัส สาวะ ช่ ว ยให้ น อนหลั บ 

	
ใบ แก้แผลน้ำร้อนลวก แก้บวม  ราก ทำให้อาเจียน ขับพิษได้


๑๑๘
ชื่ออื่น	

ผักกระสัง ผักราชวงศ์ ผักสังเขา


	
ผักฮากกล้วย เป็นไม้ล้มลุก ต้นสูงประมาณ ๑๐ – ๒๐
เซนติเมตร ลำต้นทุกส่วนอวบน้ำ ใบ รูปหัวใจปลายใบแหลม ดอก
ออกเป็นช่อ ขนาดเล็กตั้งตรงออกที่ซอกใบปลายยอดติดที่ก้านยาวๆ

	
ของช่อดอก ผล เป็นเม็ดกลมๆ ติดตามก้านช่อดอก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ทั้งต้น ลวกจิ้มน้ำพริก ยำ

ประโยชน์ทางสมุนไพร   
ทั้งต้น เป็นยาเย็น แก้ปวดท้อง แก้ไข้ แก้ชัก



๑๑๙
ชื่ออื่น	

ขาเขียด ผักริ้น ผักฮิ้นน้ำ ผักเป็ด


	
ผักฮิน   เป็นไม้น้ำ ชอบขึ้นตามที่น้ำขัง ในท้องนา หนอง บึง ลำต้นตั้งตรง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีไหลขนาดสั้นๆ และมี
รากฝอยจำนวนมาก ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาว ๑ – ๘ เซนติเมตร ออกสลับกัน ก้านใบอวบน้ำ
โคนก้านใบแผ่ออกเป็นกาบหุ้มใบที่อ่อนกว่า ด้านในของก้านใบมีเยื่อบางสีขาว ดอก ออกเป็นช่อจากก้านใบมีสีม่วง ดอกย่อย

	
มี ๖ – ๑๕ ดอก กลีบดอกสีม่วงอมน้ำเงิน ดอกย่อยมีกลีบดอก ๖ กลีบ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



๑๒๐

ทั้งต้นรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกปลาร้า ลาบ หลู้ ส้า
ขับปัสสาวะ ดับพิษ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ
ชื่ออื่น	

เลียบ  ผักเฮือด


	
ผักเฮียด เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่   สูงประมาณ ๘ - ๑๕ เมตร  เปลือกเรียบและบาง  ผลัดใบพร้อมกันทั้งต้น  หลังจาก
ผลัดใบจะแตกใบอ่อนเร็ว ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่   ปลายใบแหลม หางโคนใบแหลมก้านใบยาว หลังใบเรียบ  ใบอ่อนสีแดงเมื่อแก่
จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เส้นใบนูนเห็นได้ชัดเจน ใบประดับจะมีปลอกสีแดงหุ้มในระยะแรก ผล กลมแป้นเล็กน้อยออกตามข้อใบรอบ
กิ่งก้าน ผลสั้น

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

ยอดอ่อน  ใบอ่อน  ใช้เป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ
เนื้อไม้และเปลือกเป็นยาสมาน  คุมธาตุ  แก้ไข้สะบัดร้อนสะบัดหนาว

๑๒๑
ชื่ออื่น	

ไข่น้ำ  ไข่ผำ  ไข่แหน


	
ผำ เป็นพืชน้ำขนาดเล็ก ไม่มีราก ใบ เป็นก้อนกลมเล็กๆ พอง   ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๕ – ๑
มิลลิเมตร สีเขียว  เป็นก้อนเดี่ยวๆ หรือติดกันเป็นคู่   ผลิดอกเป็นช่อเล็กๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นพืชดอกที่มี
ขนาดเล็กที่สุด ผำจะมีมากในฤดูฝน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	
	
	
	
            

๑๒๒

	
	

	
	

	
	

	
	

นำไปแกงคั่วร่วมกับปลาดุก
ไม่มีรายงานการนำมาใช้ทางสมุนไพร แต่เมื่อบริโภคผำ ร่างกาย

	
จะได้รับพลังงาน เส้นใย แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ 

	
วิตามินบี วิตามินซี และไนอาซิน
ชื่ออื่น	

ไผ่ตง (ทั่วไป)


	
ไผ่ตง เป็นไม้ในตระกูลหญ้า สูงได้ถึง ๒๐ เมตร ลำต้นเมื่อยังอ่อนมีขนสีน้ำตาลละเอียดคลุมแนบเรียบพอลำต้นแก่

	
จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว   ลำปล้องยาวประมาณ ๔๐ – ๕๐ เซนติเมตร ข้อนูนเห็นชัดเจนข้อตามปล้องต่ำๆ ใกล้ผิวดินจะมีรากเป็น
ฝอยแตกออกมา มักมีกิ่งเล็กๆ ตามข้อหลายกิ่ง กาบ หุ้มลำต้นยาวประมาณ ๓๐ – ๔๐ เซนติเมตร ลักษณะคล้ายแผ่นหนัง

	
เมื่อยังอ่อน มีสีเขียวจางๆ มีขนสีน้ำตาลปกคลุมหนาแน่น พอแห้งจะมีสีน้ำตาลเข้ม กระจังกาบหุ้มลำเห็นชัดเจน สูงประมาณ 

	
๑ – ๒ เซนติเมตร ปลายแยกเป็นแฉก ใบยอดกาบรูปหอกปลายใบเรียวแหลมมักจะงอกลับขอบหยักเป็นฟันเลื่อย ใบ ปลายเรียว
แหลม โคนใบป้านไม่เท่ากัน ขอบใบสากคม หลังใบไม่มีขน ท้องใบมีขนอ่อนหนาแน่น ก้านใบสั้น ดอก  เป็นช่อมีกาบหุ้มเหมือน
ดอกหญ้า เมื่อดอกแห้งต้นมักจะตาย (ไผ่ตายขุย) เมล็ด ขนาดเล็กลักษณะคล้ายเมล็ดข้าว

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	

	

	

	

	

	

หน่ออ่อน แกงกับไก่ ต้มกระดูกหมู แกงกับปลาหรือเนื้อ ทำแกงหน่อ	


ร่วมกับผักอื่น ต้มจิ้มน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปู๋ น้ำพริกเก๋

	
	

ใบ ขั บ ปั ส สาวะ ตา แก้ ร ้ อ นในกระหายน้ ำ ราก แก้ ไ ตพิ ก าร 

	
ขับปัสสาวะ

๑๒๓
ชื่ออื่น	

พริกขี้หนู  พริกแจ


	
พริกแด้ เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ ๕๐ – ๑๒๐ เซนติเมตร แตกกิ่งมาก กิ่งอ่อนสีเขียวเมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ใบ
เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม ลักษณะกลมรี โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบและแผ่นใบเรียบ สีเขียวเป็นมันวาว   ขนาดกว้าง 

	
๓ – ๕ เซนติเมตร ยาว ๒ – ๓ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นกลุ่มตามง่ามกิ่ง ลักษณะดอกชี้ขึ้น ๑ – ๓ ดอก กลีบดอกสีขาวบาง
จำนวน ๕ กลีบ และมีถงเกสรตัวผูสเี ทาล้อมรอบแทนเกสรตัวเมีย ผล เป็นฝักชีขนฟ้าภายในมีเมล็ดเป็น ๒ – ๓ พู ผลอ่อนสีเขียวอ่อน
ุ
้
้ ้ึ
เมื่อแก่จะมีสีแดงส้ม  เมล็ด  กลมแบน สีเหลืองอ่อน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	




๑๒๔

	

ใบอ่อน ยอดอ่อน ใช้แกง ผล รสเผ็ดใช้ปรุงรสอาหาร แกง ลาบ ต้ม 

	
ทำน้ำพริก

	

ผล  ช่วยเจริญอาหาร ลดอาการบวม ไขข้ออักเสบ
ชื่ออื่น	

ต่อไส้  ตาลขโมย  ตาลอีลิ้น  จ้าตอง


	
เพี้ยฟาน เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก  สูงประมาณ ๕๐ – ๑๐๐  เซนติเมตร  ลำต้น และกิ่งก้านสีแดง  แตกกิ่งก้านออก
ในแนวด้านข้าง ดูคล้ายกับเป็นก้านของใบ มักเกิดลำต้นใหม่จากส่วนรากบริเวณนอกทรงพุ่ม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ	
 

รูปทรงกลม สีเขียวเข้ม ออกด้านข้างของกิ่งและแผ่ขนานกับพื้นดิน ขอบใบเรียบ มีไขปกคลุมแผ่นใบ มีริ้วสีขาวบริเวณเส้นใบ
ขนาดของใบกว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร ใบมีรสขมจัด ดอก ขนาดเล็กออกตามง่ามใบ 

	
และซอกใบ  

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	




ใบอ่อน  ยอดอ่อน  รับประทานเป็นผักสดกับลาบ  ส้า หลู้
ใบ ต้มน้ำดื่มเป็นยาขับปัสสาวะ  แก้ปวดเมื่อย แก้ริดสีดวงทวาร  

๑๒๕
ชื่ออื่น	

มะแหลบ (ทั่วไป)


	
มะแหลบ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีรากเป็นหัวอยู่ใต้ดินตื้นๆ ขนานกับผิวดิน เจริญเติบโตเป็นพุ่ม 

	
สูงประมาณ ๔๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร ใบ เป็นใบประกอบมีใบย่อย ๓ ใบหรือแยกเป็น ๓ แฉก รูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายใบ
แหลม ดอก เป็นช่อแบบซี่ร่ม มีดอกย่อยจำนวนมากสีขาวอมเหลืองอ่อน ผล ลักษณะรูปหัวใจแบนๆ ตรงกลางส่วนที่เป็น
เมล็ดนูนขึ้นเมื่อแก่จะแห้ง สีน้ำตาล

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	



๑๒๖

	

ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม	
 

น้ำพริกตาแดง  เมล็ด ปรุงน้ำพริกลาบหมู ลาบวัว ลาบควาย

	

ราก เป็นยาบำรุง แก้ไข้ เจริญอาหาร
ชื่ออื่น	

	



	

ย่านาง  เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว

ย่านาง เป็นไม้เถา ลักษณะกลม ขนาดเล็กยาวพาดพันไปตาม
ต้นไม้อื่น เถาสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำเมื่อเถาแก่ ใบ รูปไข่หนา

	
ขอบใบเรี ย บ ปลายใบแหลม ผิ ว ใบเป็ น คลื ่ น เล็ ก น้ อ ยสี เ ขี ย วเข้ ม 

	
ยาวประมาณ ๕ – ๗ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร 

	
ก้านใบยาวประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นพวงเล็กๆ สีเหลือง
ผล กลมสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อแก่

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ใบคั้นเอาน้ำสีเขียวใส่แกงหน่อและแกงอื่นๆ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
รากต้มเอาน้ำอาบแก้อีสุกอีใส ผื่นคัน  ต้มน้ำดื่มแก้ไข้มาลาเลีย

๑๒๗
ชื่ออื่น	 	

กระชาย  กระแอน  ขิงทราย กระชายเหลือง


	
ละแอน เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน มีรากสะสมอาหารจำนวนมาก
ลักษณะอวบน้ำ ตรงกลางพองโตกว่าส่วนหัวท้ายจะแตกยอดอ่อนในช่วง

	
ฤดูฝน โดยชูขึ้นมาเหนือพื้นดิน มีกาบใบห่อซ้อนกันออกสีน้ำตาลแดง ใบ
เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับในระนาบเดียวกัน รูปขอบขนานกว้าง ๔ – ๑๐
เซนติเมตร ยาว ๑๕ – ๓๐ เซนติเมตร เส้นกลางใบเป็นร่องลึกมองเห็นได้
ชัดเจน แผ่นใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน   ดอก   ออกเป็นช่อ ออกแทรกอยู่
ระหว่างกาบใบที่โคนต้น กลีบดอกสีขาวอมชมพูมีใบประดับลักษณะรูปหอก

	
สีม่วงแดง ดอกย่อยบานทีละ ๑ ดอก ผล เวลาแก่จะแตกออกเป็น ๓ พู เมล็ดโต
รากเป็นส่วนที่สะสมอาหารลักษณะพองกลมสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นฉุน

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	



รากใช้ทำน้ำยาขนมจีน  ใส่แกง  ต้นอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับซุบหน่อ

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
๑๒๘

	



แก้ ท ้ อ งอื ด ท้ อ งเฟ้ อ   แก้ โรคอั น เกิ ด ในปาก แก้ ป วดมวนในท้ อ ง แก้ ป วดเบ่ ง	
 

แก้กามตายด้าน บำรุงกำหนัด
ชื่ออื่น	

ครุฑทอดมัน  ครุฑใบเทศ


	
เล็บครุฑ   เป็นไม้พุ่มสูงได้ถึง ๒ เมตร ลำต้นส่วนยอดมีสีเขียว

	
ถึงอมน้ำตาล มีกระตามกิ่งที่มีรูอากาศทั่วไปเห็นได้ชัดเจน ใบ เป็นใบ
ประกอบแบบขนนก ๓ ชั้นติดกับกิ่งแบบขั้นบันไดเวียน ความยาวของใบมีขนาด
แตกต่างกัน ใบย่อยรูปขอบขนานมีขนาดต่างกัน ขอบใบหยักลึกแบบฟันเลื่อย 

	
หรือหยักแบบขนนก ปลายใบเสี้ยวแหลม โคนใบแหลมตัดตรง เว้าเป็นรูปหัวใจ 

	
เส้นกลางใบและเส้นใบเห็นได้ชัดเจน ดอก ออกเป็นช่อแบบผสมแกนกลางช่อ

	
ยาวประมาณ ๖๐ เซนติ เ มตร มี ก ิ ่ ง แตกออกจากแกนกลางยาวประมาณ 

	
๓๐ เซนติเมตร ดอกติดเป็นกระจุกๆ ละ ๑๐ – ๒๐ ดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก 

	
๕ กลีบ  เกสรตัวผู้ ๕ อัน เกสรตัวเมีย ๑ อัน  ผล ลักษณะเกือบกลม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	



ยอดอ่ อ นรั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ ลาบ หลู ้ ส้ า ชุ บ แป้ ง ทอดให้ ก รอบ 

	
รับประทานเป็นผักร่วมกับน้ำพริก

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ใบ ตำพอกแก้ปวดบวมอักเสบ ทั้งต้นสมานแผล ราก ระงับประสาท แก้ปวดข้อ


๑๒๙
ชื่ออื่น	

ชะมวง  ส้มโมง หมากโมง


	
ส้มป่อง เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบขนาดกลาง สูงประมาณ ๔ – ๑๐ เมตร ลำต้นแตกเป็นสะเก็ดหรือเรียบสีน้ำตาลเข้ม

	
ถึงน้ำตาลดำ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน สีเขียวอ่อนหรือสีเขียวอมม่วงแดง ขอบใบเรียบ หนา บริเวณปลายกิ่งมักแตก

	
เป็นยอด ๒ – ๓ ยอด ใบค่อนข้างหนา ก้านใบยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ใบยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร  ดอก
ออกตามกิ่ง ขนาดเล็กสีขาว มีจำนวนมาก กลีบดอกสีนวลเหลือง ผล รูปทรงกลมข้างผลเว้าเป็นพู ผลเมื่อสุกจะมีสีเหลืองส้ม
ภายในมีเมล็ด ๔ – ๖ เมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	
๑๓๐

ใบอ่ อ น ยอดอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สด ใช้ ป รุ ง ต้ ม ส้ ม ต้ ม ยำ

	
ให้มีรสเปรี้ยว
ผล เป็นยาระบายท้อง กัดฟอกเสมหะ แก้ธาตุพิการ  ราก แก้ไข้
ชื่ออื่น	

ส้มขอน ส้มพอดี
	
ส้มป่อย เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย   ลำต้นสีน้ำตาลแดงผิวเรียบ มีหนาม
แหลมคมทั่วไปตามลำต้นและบริเวณก้านใบมักเลื้อยพาดไปตามไม้อื่น ใบ
เป็นใบประกอบแบบขนนก ๒ ชั้น มีใบย่อยเรียงสลับ รูปไข่ ปลายมน ขอบใบ
หนา แผ่นใบเรียบ กว้างประมาณ ๐.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑.๒
เซนติเมตร ดอก ออกเป็นกลุ่มบนก้านดอกเดียวกันสีขาวนวล ปลายดอก
สีชมพู ออกตามซอกใบข้างลำต้น ผล เป็นฝักแบนยาวประมาณ ๕ – ๘
เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร สีน้ำตาลเข้ม ผิวขรุขระ ขอบฝักบิด
เป็นคลื่น เมล็ดรูปกลมรีและแบน เปลือกแข็งสีน้ำตาลเข้ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ยอดอ่อน ใบอ่อน มีรสเปรี้ยว รับประทานเป็นผักสด หรือใช้ปรุงอาหารให้มี	


รสเปรี้ยว

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ใบ ฟอกโลหิต ขับเสมหะ ฝัก เป็นยาขับเสมหะ ช่วยขจัดรังแค บำรุงผม 


๑๓๑
ชื่ออื่น	

ส้มสันดาน  ส้มออบแอบ


	
ส้มสะเอาะ เป็นไม้เลื้อยทอดไปตามต้นไม้อื่น ลักษณะเถาเป็นเหลี่ยม สีม่วงแดง มีมือเกาะบริเวณข้อ เมื่อต้นแก่รากจะ
กลายเป็นหัวขนาดใหญ่ ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ ปลายแหลม ขอบใบจักแบบฟันเลื่อย ยอดอ่อนมีสีแดง ดอก ออกเป็นกระจุก
เล็กๆ สีขาว กลีบเลี้ยงสีม่วง ออกที่ซอกใบปลายยอด ผล  เป็นผลกลุ่มสีเขียวเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
ใบ ใส่แกงที่ต้องการรสเปรี้ยวโดยเฉพาะแกงเห็ด

ประโยชน์ทางสมุนไพร   
ทั้งต้นและใบใช้ปรุงเป็นยาแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ผลเป็น	


ยาระบายอ่อนๆ

๑๓๒
ชื่ออื่น	

ส้มสามตา ส้มกบ  ส้มดิน สังส้ม


	
ส้มสังกา เป็นวัชพืชลักษณะพุ่มเตี้ย มีอายุหลายฤดู ลำต้น
จะทอดเลื ้ อ ยตามพื ้ น ดิ น ส่ ว นของลำต้ น มี ข นปกคลุ ม ใบ เป็ น

	
ใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ เกิดจากจุดเดียวกันที่ปลายก้านใบ ใบย่อย
รูปหัวใจ ดอก   ออกตามซอกใบ เป็นดอกเดี่ยวสีเหลือง ส่วนโคนกลีบ
ดอกจะหลอมรวมเป็ น รู ป กรวย ปลายกลี บ ดอกแยกออกจากกั น

	
มี ๕ กลีบ ก้านดอกยาวประมาณ ๓ – ๘ เซนติเมตร ผล เป็นฝัก

	
ตั้งตรง มีลักษณะเป็นเหลี่ยม มี ๕ เหลี่ยม มีขนปกคลุมทั่วไป ฝักยาว
ประมาณ ๔ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแห้งและแตกดีดเมล็ดออก เมล็ด
ลักษณะแบนผิวย่นสีน้ำตาล

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ทั้งใบและก้านดองรับประทานเช่นเดียวกับผักดอง

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ทั้งต้นเป็นยาเจริญอาหาร ใช้ทาภายนอกขจัดตาปลา หูด และเนื้อปู
ชนิดอื่นๆ

๑๓๓
ชื่ออื่น	

ผักเสี้ยน  ผักเสี้ยนขาว


	
ส้มเสี้ยน เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี  ใบ  เป็นลักษณะแบบนิ้วมือ ใบล่างสุดมีใบย่อย ๓ ใบ ส่วนที่เหนือขึ้นมามี ๕ ใบ
ก้านใบย่อยสีเขียวอ่อน ใบลักษณะรูปไข่หัวกลับ แกมขอบขนานปลายแหลม ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย ใบที่อยู่ตรงกลาง

	
ยาวประมาณ ๒ – ๗ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๔ เซนติเมตร เส้นใบมี ๕ – ๙ คู่  ดอก สีขาวหรือแกมเหลืองกลีบดอกยาวประมาณ
๑ – ๑.๕ เซนติเมตร  ผล  แบบผลแห้ง ก้านผลยาวประมาณ ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดจำนวนมากเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ ๐.๕ เซนติเมตร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	
	



	
	

๑๓๔

	
	

	
	

	
	

	
	

ยอด  ใบ  ต้น  ดองก่อนรับประทานร่วมกับน้ำพริกตาแดง
รากแก้ โ รคผอมแห้ ง ในสตรี ห ลั ง คลอดบุ ต รเนื ่ อ งจากอยู ่ ไ ฟไม่ ไ ด้  

	
แก้ ว ั ณ โรค ต้ น ขั บ หนอง ทำให้ ห นองแห้ ง แก้ โ รคน้ ำ เหลื อ งเสี ย  

	
ขับระดูขาว  เมล็ด  ขับพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิตัวกลม ฆ่าเหา
ชื่ออื่น	

ขจร กระจอน  ขะจอน


	
สลิด เป็นไม้เลื้อย เปลือกหนานุ่ม มีรอยแตกลึกทุกส่วนมียางขาว ยอดอ่อนมีขน ใบ ออกเป็นคู่ตรงข้าม ใบกลมโต 

	
รูปร่างคล้ายหัวใจ ปลายใบแหลมขอบใบเรียบเนื้อใบบางด้านล่างมีขนตามเส้นใบมีสีเขียวอมแดงเล็กน้อย ดอก จะออกเป็นช่อ
กระจุก หรือเป็นวงดอกสีเขียวอมเหลือง เกสรจะเป็นใยสีขาวคล้ายใบนุน ผล กลมและยาวคล้ายลูกนุนทียงเล็ก ผลอ่อนจะมีรสหวาน
่
่ ่ั

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

ยอดอ่อน ดอก ผลอ่อน มีรสหวาน นำมาแกงกับปลาย่าง แกงแค

	
รวมกับผักชนิดอื่น หรือนึ่งรับประทานเป็นผักจิ้มรวมกับน้ำพริก

	
	

ดอกบำรุงตับ แก้เสมหะและโลหิต  ราก แก้พิษเบื่อเมา  ทำให้อาเจียน 

	
ทำให้รู้รสอาหาร

๑๓๕
ชื่ออื่น	

สะเดา  กะเดา จะตัง


	
สะเลียม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มี ๒ ชนิด คือ สะเลียมไทยและ

	
สะเลียมอินเดีย มีข้อสังเกตุง่ายๆ คือ สะเลียมอินเดียใบจะเล็กและเรียวกว่า

	
สะเลียมไทย สะเลียมเป็นไม้ผลัดใบ ออกช่อดอกพร้อมใบอ่อนในเวลาเดียวกัน
ลำต้นเปลาตรงเปลือกสีเทาอมน้ำตาล แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดไปตามยาวของ
ลำต้น ใบ ออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งๆ มีใบย่อย ๗ – ๘ คู่ ใบย่อยรูปไข่แกมหอก โคนใบ
เบี้ยว ส่วนปลายใบเรียวแหลมมักติดเยื้องกันเล็กน้อย ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ขอบใบ
หยัก ดอก ขนาดเล็กสีขาวออกรวมกันเป็นช่อโตๆ ตามปลายกิ่ง ผล รูปรี เส้น

	
ผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ เซนติเมตร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร
ดอก ยอดอ่อน ต้ม ลวก รับประทานร่วมกับลาบ หลู้ ส้า น้ำพริก

ประโยชน์ด้านสมุนไพร 
ใบแก่ บำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร ดอก แก้พิษโลหิต บำรุงธาตุ แก้พิษกำเดา
เปลือกต้นแก้บิด มูกเลือด แก้ท้องร่วง ไข้ ราก แก้เสมหะที่เกาะแน่นในอก


๑๓๖
ชื่ออื่น	

ไคร้หอม เพี้ยฟาน


	
สะเลียมหอม   เป็นไม้พุ่ม ต้นสูงประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร ใบ รูปรีปลายใบเรียวแหลมสีเขียวเข้ม แผ่นใบบาง ดอก
ออกเป็นช่อตามลำต้นเป็นดอกแยกเพศ มีกลีบดอก ๕ กลีบ สีแดง ผล กลม เมื่อแก่จะแตกออก

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	



ยอดอ่อน รับประทานร่วมกับลาบ ส้า หลู้ น้ำพริกต่างๆ หรืออาหารที่มีรสจัด

ประโยชน์ทางสมุนไพร 
ใบ บำรุงตับ บำรุงน้ำดี ดอก กลิ่นหอมแก้อาการภูมิแพ้

๑๓๗
ชื่ออื่น	

ชะแล สาแล


	
สะแล เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เปลือกต้นเรียบสีขาวมีตุ่มสีน้ำตาลเล็กๆ กระจายทั่วไป
ใบ   เป็นใบเดี่ยวออกเรียงลับรูปหัวใจ โคนใบเว้า ปลายใบแหลมขอบใบหยัก แผ่นใบเมื่อ
สัมผัสจะสากๆ สีเขียวอ่อน  ดอก  ออกเป็นกลุ่มบริเวณซอกใบ กลมสีเขียว ดอกเพศผู้และ
เพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น ดอกเพศผู้จะมีช่อยาวกว่าดอกเพศเมีย  ผล ลักษณะทรงกลม
สีเขียวขนาดประมาณ ๐.๕ – ๐.๗ เซนติเมตร  

การใช้ประโยชน์ทางอาหาร	



ดอกและผลอ่อนแกงร่วมกับปลาย่าง  ลวก จิ้มน้ำพริก

ประโยชน์ทางสมุนไพร	
ไม่มีรายงานการนำไปใช้ทางสมุนไพร


๑๓๘
ชื่ออื่น	

ผักกาดน้ำ  หมอน้อย

หญ้าเอ็นยืด เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร
ลำต้นสั้นติดผิวดิน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเป็นกระจุก รูปไข่กลม
กว้ า งประมาณ ๑๒ – ๑๖ เซนติ เ มตร ยาวประมาณ 

	
๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร แผ่นใบเรียบมีร่องขอบเส้นใบ ก้านใบ
ยาวเท่ากับแผ่นใบ ดอก แทงช่อออกจากกลางลำต้น ดอก
ย่อยมีขนาดเล็กสีเขียวแกมน้ำตาล ผล เป็นผลแห้งแตกได้
ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กรูปรี สีดำเรียบลื่นเป็นมัน


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 
รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
ใบ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้รอนใน ใช้ตำพอกแก้อาการ
้
ผิวหนังอักเสบ แมลงกัด แผลเรื้อรัง         


๑๓๙
ชื่ออื่น	

ไผ่หวาน ไผ่โปก  ไผ่เปาะ


	
หน่อซาง เป็นไม้ตระกูลหญ้า สูงประมาณ ๒๕ – ๓๐ เมตร เป็นไผ่ขนาดใหญ่ลำต้นเรียวปล้องค่อนข้างสั้นเนื้อบาง

	
ตอนล่างของลำเปลา ไม่มีกิ่ง ตอนปลายของลำสีเขียวอมเทา ลำต้นอ่อนและข้อตอนล่างมีขนและมีรอยราก กาบหุ้มลำสีม่วงอ่อน
ยาวประมาณ ๒๕ – ๕๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒๕ - ๕๐ เซนติเมตร  มักร่วงเร็วขณะยังอ่อน  ด้านนอกมีขนสีน้ำตาลคลุม
ขอบกาบ กระจังกาบหุ้มลำมองเห็นได้ชัดเจนสูงประมาณ ๖ – ๑๒ เซนติเมตร ขอบหยักมีขนเป็นเส้นๆ ใบยอดกาบรูปหอกงอพับ
ใบ เรียวแหลม โคนใบทู่เป็นมุมป้าน ยาวประมาณ ๔๕ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๓ – ๖ เซนติเมตร หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสี
เขียวอ่อน ขอบใบสากคม ก้านใบสั้น ดอก เป็นช่อมีกาบหุ้มเมื่อมีดอก ดอกแห้งแล้วต้นมักจะตาย (ไผ่ตายขุย) เมล็ด ลักษณะ
คล้ายเมล็ดข้าวสาร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	

	

๑๔๐

	

	

	

	
	

หน่อสด มีรสหวานนำมาทำแกงหน่อร่วมกับเห็ดลม น้ำคั้นใบย่านาง 

	
ยอดฟักแก้วและผักหละ ต้มกับน้ำคั้นใบย่านางรับประทานเป็นผักจิ้ม

	
ร่วมกับน้ำพริกกะปิ น้ำปู๋ และน้ำพริกอีเก๋

	
	

ใบ ขับปัสสาวะ ขับฟอกโลหิตระดู แก้มดลูกอักเสบ ตา แก้ร้อนใน

	
กระหายน้ำ ราก ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
ชื่ออื่น	

ไผ่คาย  ผาก ไม้ผาก  ไม้ไร่  หน่อไร่


	
หน่อไร่ ลำต้นขึ้นเป็นกอหนาแน่นสีเขียวอมเทา ถ้าขึ้นในป่าดงดิบใบจะเขียวตลอดปี ถ้าขึ้นในป่าผสมจะผลัดใบ ลำต้น
สูงประมาณ ๗ – ๑๐ เมตร ขนาดความโตเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ – ๓.๐  เซนติเมตร ข้อนูนเห็นได้ชัดเจน ปล้องยาว
ประมาณ ๑๕ – ๔๐ เซนติเมตร มีขนสั้นๆ ปกคลุมทั่วไป   กาบหุ้มลำยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ 

	
๑๕ เซนติเมตร มีขนอ่อนสีน้ำตาลปกคลุมทั่วไปขณะยังอ่อน ปลายกาบเรียบ ตัด ขอบล่างโค้งงอเข้า ลักษณะเป็นแผ่นหนัง 

	
ใบยอดกาบยาวรูปหอกปลายเรียวแหลม โคน กว้าง กลม ใบ ยาวเรียวเล็ก โคนใบกลม ขนาดยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐
เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒.๐ – ๒.๕ เซนติเมตร เส้นลายใบมี ๖ – ๘ คู่ หลังใบสาก ก้านใบยาวประมาณ ๐.๒ – ๐.๓
เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อมีกาบหุ้ม เมื่อดอกแห้งต้นมักจะตายหรือที่เรียก ไผ่ตายขุย   เมล็ด  ลักษณะเหมือนเมล็ดข้าว

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

หน่ออ่อนต้มรับประทานร่วมกับน้ำพริกกระปิ น้ำปู๋ น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริก

	
ตาแดง แกงหน่อ แกงแคร่วมกับผักอื่น

	
	

ใบ ขับปัสสาวะ ขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย แก้มดลูกอักเสบ ราก 

	
แก้หนองใน แก้ฝีหนองที่เกิดในร่างกาย

๑๔๑
ชื่ออื่น	

ไม้รวก รวก ฮวก


	
หน่อฮวก ลำต้นเจริญเติบโตขึ้นเป็นกอสูงประมาณ ๗ – ๑๕ เมตร   ลำต้นเปลาตรง บริเวณปลายจะมีกิ่งเรียวเล็กๆ
ขนาดของลำต้นเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  ๒ – ๖  เซนติเมตร  ผิวเรียบมีวงใต้ข้อสีขาว ลำต้นสีเขียวอมเทา ปล้องยาวประมาณ
๑๕ – ๓๐ เซนติเมตร ใบ เรียวแหลม โคนใบเกือบกลมทั้ง ๒ ด้าน เกลี้ยงไม่มีขน ขนาดของใบยาวประมาณ ๗ – ๑๒ เซนติเมตร  
กว้างประมาณ ๑.๒ เซนติเมตร  ขอบใบ คาย คม ก้านใบยาวประมาณ ๒ มิลลิเมตร กระจังใบเรียว ขอบเรียบ สั้น กาบหุ้มใบ

	
มีขนอ่อนปกคลุมปลายตัดหรือป้านลักษณะพองโตกว่าส่วนอื่น ดอก ออกเป็นช่อมีกาบหุ้ม เมื่อดอกแห้งแล้วต้นมักตายหรือที่เรียก
ไผ่ตายขุย เมล็ด ลักษณะเหมือนเมล็ดข้าว

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	



๑๔๒

หน่ออ่อน ต้มจิ้มน้ำพริกกระปิ และน้ำปู๋ หรือต้มใส่ใบย่านาง
ใบและราก ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
ชื่ออื่น	

หวายขม  หวายหางหนู


	
หวาย เป็นไม้เลื้อย ลำต้นเลื้อยและแตกกอ กาบใบสีเขียวเข้มเคลือบด้วยไขสีขาวหุ้ม ลำต้นมีหนามทั่วไปแต่เป็นระเบียบ  
ใบ เป็นใบประกอบ มีใบย่อยสีเขียวเข้มเรียงตัวในแนวระนาบแบบขนนก กลางใบและขอบด้านข้างของใบมีหนามตลอดแนว  
ดอก ออกเป็นช่อ ประกอบด้วยกลุ่มแขนงช่อดอกที่ไม่สมบูรณ์เพศ ปลายช่อดอกมีส่วนเรียวที่ยื่นออกไป ผล มีลักษณะกลม

	
ผลอ่อนจะมีสีเขียวเข้ม และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลครีมเมื่อผลแก่ เปลือกผลมีลักษณะเป็นเกล็ดบางเรียงเกยซ้อนกันหันด้าน
ปลายของเกล็ดไปทางขั้วผล  เมล็ดแข็ง ผิวขรุขระสีน้ำตาลเข้ม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	



นำยอดอ่อนปลอกเปลือกออกแล้วใช้แกงร่วมกับน้ำใจ๋นาง
แก้อาการท้องเสีย  ท้องร่วง  ถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้ท้องผูก 

๑๔๓
ชื่ออื่น	

เนียมหูเสือ  หูเสือ หอมด่วนหลวง


	
หอมด่วนหลวง เป็นไม้ล้มลุก สูงได้ถึง ๓๐ เซนติเมตร ทุกส่วนอวบน้ำหักง่าย ใบ รูปไข่ป้อม หนา โคนใบสอบ 

	
ปลายใบมน ขอบใบหยักฟันเลื่อย มีขนนุ่มปกคลุมทั่วไป เมื่อขยี้จะมีกลิ่นหอม ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ชูตั้งขึ้น สีขาว

	
อมม่วง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ภายในมีเมล็ดกลมสีน้ำตาลคล้ำ ในแต่ละผลมีจำนวน ๔ เมล็ด

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

	
	



๑๔๔

	
	

	
	

	
	

	
	

	

ยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ หลู้ น้ำพริก	
 

ซุบหน่อไม้

	
	
	

ใบ แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ช่วยขับน้ำคาวปลาหญิงหลังคลอด 

	
คั้นน้ำยอดหูแก้หูเป็นน้ำหนวก แก้ปวดท้อง แก้ไอเรื้อรัง แก้อาหาร

	
ไม่ย่อย พอกศีรษะแก้ปวด ลดไข้
ชื่ออื่น	

กระเทียม  หอมขาว ผักเทียม เทียม


	
หอมเตียม เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเนื้ออ่อน ต้นสูงประมาณ ๓๐ – ๔๐ เซนติเมตร ใบ มีสีเขียวเป็นใบเดี่ยวแบนยาว

	
รูปขนานเรียวแหลมข้างในกลวง ยาวประมาณ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ส่วนโค้งของใบจะหุ้ม
ซ้อนกัน ด้านล่างของใบมีสันเป็นรอยพับตลอดความยาว ดอก มีสีขาวแกมสีม่วงหรืออมชมพูออกเป็นช่อติดเป็นกระจุกอยู่บน

	
ก้านช่อ ดอกทียาวประกอบด้วยดอกหลายดอก มีกลีบดอก ๖ กลีบ ลักษณะยาว มีกาบหุมเป็นจะงอยยาว หัว อยูใต้ดนประกอบด้วย
่
้
่ ิ
หัวเล็กหลายหัวรวมกัน เปลือกนอกสีขาวหุ้มอยู่จำนวน ๒ – ๔ ชั้น

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	


	

	

	

	

	

หัว ใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งกลิ่น รับประทานสดเป็นเครื่องเคียงกับแหนม 

	
น้ำพริก

	
	

หั ว แก้ ไอ แก้ โรคผิ ว หนั ง บำรุ ง ธาตุ ขั บ โลหิ ต ร้ า ย แก้ โรคในปาก 

	
บำรุงปอด แก้เสมหะ ขจัดไขมันที่อุดตันในหลอดเลือด  แก้ท้องอืด

๑๔๕
ชื่ออื่น	

หอมแดง  หอมไท  หอมเล็ก  หอมหัว  


	
หอมบั่ว เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นอยู่ใต้ดินสำหรับสะสมอาหาร สูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร หัวที่อยู่ใต้ดินมีสีแดงหรือสีขาว
กว้างประมาณ ๑ – ๔ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร   ใบ มีลักษณะเป็นท่อกลมๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ ๓ – ๙ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร  ดอก ออกเป็นช่อกลมๆ มีดอกย่อยจำนวนมากอัดแน่นรวมกัน
มีกาบหุ้มเมื่อดอกยังตูม เมื่อดอกบานกาบหุ้มนี้จะฉีกขาดออกด้านหนึ่ง ดอกย่อยมีก้านดอกยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร

	
สีเขียวอ่อน มีกลีบดอก ๖ กลีบ สีขาวหรือสีขาวอมม่วงมีเส้นสีเขียวพาดตรงกลางกลีบ 

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	
	

	
	

	
	

	
	

	
	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	

	


	

๑๔๖

	

	

	

	
	

หั ว ใช้ เป็ น เครื ่ อ งปรุ ง อาหาร ปรุ ง น้ ำ พริ ก ใส่ แ กงรวมกั บ ผั ก อื ่ น	
 

เป็นเครื่องเคียงรับประทานกับแหนม ใบใส่แกงจืด, แกงอ่อม และ

	
รับประทานเป็นผักสด

	
	

หัวแก่ เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้ปวดท้อง แก้หวัดคัดจมูก น้ำหัวหอม

	
เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้ปวดหู และเป็นยาบำรุงกำหนัด
ชื่ออื่น	

ผักชีฝรั่ง ผักชีดอย ผักหอมห้อ ผักหอมเป


	
หอมป้อมเป้อ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ    ๖ – ๓๕ เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ระดับดินชูใบขึ้น   ใบ   รูปไข่ขอบขนาน

	
ขอบใบหยักแบบฟันเลือย ยาวประมาณ ๗ – ๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๒ เซนติเมตร ใบสีเขียวเข้มและแข็ง ดอก ออกเป็นช่อก้าน
่
ยาวสีเขียวเข้ม แต่ละดอกมีกลีบดอก ๕ กลีบ ยาว ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร กว้าง ๓ – ๕ เซนติเมตร ออกที่ปลายกิ่ง มีดอกย่อย
เรียงตัวอัดแน่นเป็นรูปกระบอกหรือรูปไข่สีเขียวเข้ม  ผล  สีน้ำตาลขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ มิลลิเมตร

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	




	

รับประทานเป็นผักสด หรือใช้ปรุงอาหาร เช่น ซอยใส่ลาบ หลู้ ส้า 

	
ต้มยำ พื่อดับกลิ่นคาว

	

ใบแก้ท้องอืด ลำต้น หมกไฟให้สุกประคบแก้ปวดเมื่อย

๑๔๗
ชื่ออื่น	

ผักชีไร่  ผักชีป่า ผักสะแงะ ผักอีแยะ


	
หอมแย้   เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรงไม่ค่อยแตกกิ่งลำต้นกลวงและสูงขึ้นเมื่อออกดอก สูงได้ประมาณ ๑๐ – ๒๐
เซนติเมตร  ใบ เป็นใบเดี่ยว ขอบใบหยักเว้าลึกเข้าหาเส้นกลางใบ ใบมีสีเขียวเข้ม ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกขนาดเล็ก

	
สีขาวมี ๕ กลีบ ผล เป็นผลแห้งรูปไข่มีขนนุ่มปกคลุมทั่วไป  เมล็ด ขนาดเล็กสีน้ำตาลปลายแหลมทั้ง ๒ ด้าน
    

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	

          


๑๔๘

	

ใบ ลำต้น ใส่แกงหน่อ รับประทานเป็นผักสด ใส่ยำ ใบมีกลิ่นหอม

	
สามารถเก็บแห้งได้กลิ่นไม่เปลี่ยน

	

ทั้งต้นแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้วิงเวียน
ชื่ออื่น	

เห็ดมัน


	
เห็ดขอนขาว ลักษณะหมวกเห็ดเป็นรูปกรวย
ตื้นๆ สีขาวขึ้นมาดอกเดียวหรือเป็นกลุ่ม เส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ ๒ – ๘ เซนติเมตร ขอบงอเล็กน้อย ผิวมีเกล็ด
เล็กๆ ขาวนวลหรือน้ำตาลหม่นกระจายจากกลางหมวก

	
ไปยังขอบ เนื้อเหนียว ครีบดอก มีสีขาวเรียงชิดกันยาว
ขนานกับกรวยไปยึดติดกับก้าน ก้าน รูปทรงกระบอกสีขาว

	
ยาวประมาณ ๒ – ๖ เซนติเมตร โคนก้านเรียว บริเวณ

	
บนก้านมีเกล็ดเนื้อสีขาว

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ทั้งดอก แกงร่วมกับปลาย่าง ผักหละ นึ่งจิ้มน้ำพริก  
แกงแคร่วมกับผักอื่นๆ

ประโยชน์ทางสมุนไพร	



ทั้งดอก  บำรุงร่างกาย ชูกำลัง


๑๔๙
ชื่ออื่น	

เห็ดระโงก เห็ดไข่ห่าน


	
เห็ดไข่ขาว เมื่อยังตูมมีลักษณะกลมรี ขนาดกว้างประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร 

	
ยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร มีเปลือกสีขาวหุ้มไว้ทั้งดอก เมื่อเจริญเติบโตด้านบนจะปริให้
ดอกเห็ดออกมา เปลือกหุ้มดอกเห็ดจึงกลายเป็นฐานมีลักษณะคล้ายถ้วยรองรับที่โคนก้าน
หมวกกางออกคล้ายร่ม เมื่อบานเต็มที่ขอบจะเหยียดตรง ผิวหมวกเรียบเป็นมันเงา ขอบหมวก
มี ร อยหยั ก ตื ้ น ๆ ซึ ่ ง ตรงกั บ ร่ อ งของครี บ รอยหยั ก มองดู ค ล้ า ยหมวกมี เ ส้ น ลายเป็ นขี ด	
 

ยาวประมาณ ๓ – ๕ มิลลิเมตร เรียงห่างกันประมาณ ๒ มิลลิเมตร ครีบมีขนาดยาวเท่ากัน
และไม่ติดกับก้าน ก้ า นรู ป ทรงกระบอก เมื ่ อ เห็ ด โตเต็ ม ที ่ ภ ายในก้ า นมี รู ก ลวงตลอดก้าน 

	
ก้านตอนบนมีวงแหวนเป็นแผ่นเยื่อบางๆ ยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร รับประทานได้
รสชาติหวานอร่อย กลิ่นหอม เมื่อนำไปต้มหรือแกง โพลีแซคคาไรค์ที่ผิวของสายใยจะพองน้ำ
ทำให้มีเมือกออกมา โพรีแซคคาไรค์จะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อต้มกับน้ำเป็นระยะเวลานาน ซึ่งมีลักษณะ
เป็นเมือกๆ รอบๆ ชิ้นส่วนของเห็ด และจะมีรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้นถ้าผสมน้ำคั้นจากใบย่านาง 

	
เห็ดในสกุลนี้ชนิดที่รับประทานไม่ได้ คือ เห็ดระโงกหิน A. verna (Fries) Quel. เมื่อยังตูมจะมี
ลักษณะเหมือนกับชนิดที่รับประทานได้ แต่เมื่อบานจะปรากฏลักษณะให้เห็นความแตกต่าง

	
คื อ สี ข องหมวกเห็ ด จะออกสี ข าวอมเขี ย วตองอ่ อ น และสี ข องครี บ ใต้ ห มวกจะมี ส ี ข าว 

	
ก้านหมวกเห็ดไม่มีรูกลวง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร 	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	
๑๕๐



	

ทั้งดอก ต้ม แกงร่วมกับยอดมะเม่า 

	
น้ำคั้นจากใบย่านาง

	

ไม่มรายงานการนำมาใช้ทางสมุนไพร
ี
ชื่ออื่น	

เห็ดหนัง  เห็ดเผาะ


	
เห็ดถอบ ลักษณะหมวกเห็ด เป็นก้อนกลมสีดำหม่น ๆ ขนาดประมาณ ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร  เมื่อโตเต็มที่ดอกจะบาน
เปลือกนอกแตกออกเป็นรูปดาว ๕ แฉก เมื่อแห้งจะยุบเข้า เห็ดชนิดนี้จะบานหรือยุบขึ้นอยู่กับสภาพความเปียกชื้น หรือแห้ง
ภายในมีถุงกลมสีขาวหม่น ด้านบนแตกออกเป็นรู ให้สปอร์ฟุ้งกระจายออกมา สปอร์ รูปกลมสีน้ำตาล ผิวขรุขระ

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ทางสมุนไพร	



	

ทังดอก นำมาแกงรวมกับยอดใบมะขาม หรือยอดมะเม่า ต้มรับประทาน

้
	
เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก

	

ทั้งดอก  บำรุงร่างกาย  ชูกำลัง  แก้ช้ำใน

๑๕๑
ชื่ออื่น	

เห็ดฟาง เห็ดบัว  


	
เห็ดเฟือง ลักษณะเมื่อแรกเกิดเป็นก้อนกลมสีขาว

	
ตรงยอดสีเทาดำ ขนาด ๑ – ๓ เซนติเมตร เมือโตขึนแล้วแตกออก
่ ้
ภายในมีดอกเห็ดและก้านเห็ด เหลือส่วนที่ห่อหุ้มเป็นกระเปาะ
รองรับที่ฐานดอกเห็ด หมวกเห็ดเมื่อกางเต็มที่มีลักษณะคล้ายร่ม
ขนาด ๔ – ๖ เซนติเมตร ผิวเรียบสีเทา บริเวณกลางหมวกสีเทา
ดำ ขอบหมวกเรียบ ใต้หมวกเป็นครีบสีขาวแผ่ออกในแนวรัศมีและ
จะเปลี ่ ย นเป็ น สี น ้ ำ ตาลอ่ อ นเมื ่ อ แก่ ภ ายในมี ส ปอร์ ก้ า นดอก
ลักษณะกลวงกลม ขนาดประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาว ๔ – ๖
เซนติเมตร ผิวเรียบ


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร  
ดอกเห็ด ใช้ต้ม แกง ผัด หรือลวกจิ้มน้ำพริก

ประโยชน์ด้านสมุนไพร  
บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้ช้ำใน บำรุงตับ


๑๕๒
ชื่ออื่น	

เห็ดกระด้าง  เห็ดขอน  เห็ดบด
	
เห็ดลม มีลักษณะเป็นหมวก รูปกรวยลึก สีขาวนวลหรือสีน้ำตาลอ่อนอมเทา เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๕ – ๘
เซนติเมตร เหนียวคล้ายหนัง ขอบงอเล็กน้อย ผิวมีขนสั้นๆ สีน้ำตาลทั่วไปซึ่งรวมกันคล้ายเกล็ดเล็กๆ ปลายงอเล็กน้อย ดอกอ่อน

	
ขอบบางและม้วนงอลง ครีบ สีน้ำตาลอ่อนอมเทา บางและแคบ เมื่อแห้งจะเหนียวแข็งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงบริเวณครีบ

	
มีความยาวแตกต่างกัน ด้านในยาวขนานเรียวเล็กลงไปติดก้าน ด้านนอกเรียวแคบไปติดขอบหมวกขอบครีบมีลักษณะเป็นหยัก
ฟันเลื่อยเล็กๆ สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าถ้าใช้มือลูบจะรู้สึกสาก ก้านแข็งเหนียวสีขาวนวลแล้วเปลี่ยนเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล
ดำ ยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร อยู่กึ่งกลางหมวกหรือเยื้องไปข้างใดข้างหนึ่ง  
สปอร์ รูปสีขาวโค้งเล็กน้อย ผิวเรียบบาง

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



	

ทั้งดอก นำมาแกงร่วมกับผักอื่น ต้ม นึ่ง รับประทานเป็นผักร่วมกับ

	
น้ำพริก

	

บำรุงร่างกาย ชูกำลัง แก้ไข้พิษ

๑๕๓
ชื่ออื่น	

เห็ดตับเต่า เห็ดผึ้ง 


	
เห็ดห้า มีลกษณะหมวกเห็ดเป็นรูปกะทะคว่ำ เมือโตเต็มทีจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง
ั
่
่
ประมาณ ๑๒ – ๓๐ เซนติเมตร ขึ้นเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มโคนติดกัน กลุ่มละ 

	
๓ – ๕ ดอก   ดอกอ่อนมีขนละเอียดคล้ายกำมะหยี่สีน้ำตาลบริเวณกลางหมวกจะเว้า
เล็กน้อย เมื่อบานเต็มที่ผิวสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อนและจะปริแตกเป็นแห่งๆ เนื้อในเห็ด
เมื่อถูกตัดหรือถูกอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอมเขียว โดยเฉพาะบริเวณก้านตอนบน
จนถึงหมวกเห็ด ก้าน อวบใหญ่สีน้ำตาลอมเหลือง ยาวประมาณ ๔ – ๘ เซนติเมตร
เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ – ๔ เซนติเมตร โคนก้านโป่งเป็นกระเปาะบางส่วนนูน
และเว้าเป็นร่องลึก ผิวมันละเอียดคล้ายกำมะหยี่ สปอร์ ค่อนข้างกลมสีน้ำตาล

	
อมเขียวอ่อน ผิวเรียบผนังบาง ภาคเหนือโดยเฉพาะลำปางเรียกเห็ดห้า เพราะมักขึ้นบริเวณพุ่มต้นบ่ะห้า (ต้นหว้า)

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	



๑๕๔

ทั้งดอก แกงร่วมกับยอดฟักทอง ผักกอมก้อขาวและผักส้มสะเอาะ
บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง กระจายโลหิต ดับพิษร้อนภายใน
ชื่ออื่น	

เห็ดหูหนู
	
เห็ดหูลัวะ ลักษณะเป็นแผ่นใสคล้ายวุ้น อ่อนนุ่ม เหนียว ด้านบนเป็นมันเงาสีน้ำตาลปนดำหรือสีน้ำตาลปนแดง

	
หรือน้ำตาลอ่อน มีรอยจีบหรือหยักเป็นคลื่น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๒ – ๑๕ เซนติเมตร ด้านล่างมีขนอ่อนละเอียด
คล้ายกำมะหยี่ สีอ่อนกว่าด้านบน ก้านขนาดสั้นอยู่ตรงกลางดอกหรือค่อนข้างไปด้านใดด้านหนึ่งที่ยึดติดอยู่กับกิ่งไม้

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ทางสมุนไพร	 	



ทั้งดอก ยำ ผัดหรือต้มจืด หรือแกงแคกับผักชนิดอื่นๆ
ทั้งดอกแก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

๑๕๕
ชื่ออื่น	

นางลาว  ดีปลากั้ง ดีกั้ง อาวลาว


	
อังลาว เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตเป็นกอ อายุหลายปี 

	
สูงประมาณ ๗๐ เซนติเมตร ใบ รูปหอก ยาวประมาณ ๕๐ – ๖๐ เซนติเมตร
ปลายใบเรียวแหลมออกเวียนรอบลำต้น แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นเงามัน  ดอก ออก
เป็นช่อแทงออกจากเหง้าใต้ดินตั้งสูงขึ้นเหนือผิวดินยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐
เซนติเมตร มีดอกย่อยสีม่วงเรื่อๆ โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 

	
๖ กลีบ ผล ลักษณะกลม

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



๑๕๖

	

ช่อดอกอ่อน รับประทานเป็นผักสด ต้ม ลวก จิ้มน้ำพริก ใส่แกงเลียง 

	
แกงหน่อ แกงปลาย่าง

	

เหง้า ต้มน้ำดื่มแก้อาการปวดหลัง ปวดบริเวณบั้นเอว
ชื่ออื่น	

กระเจียวโคก  ดอกดิน 


	
อาว เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตรงสูงได้ถึง ๗๐ เซนติเมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นหอมฉุน ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูป

	
ขอบขนานแกมหอก กว้างประมาณ ๖ – ๑๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๖ – ๒๕ เซนติเมตร ก้านใบแผ่เป็นกาบ ดอก ออกเป็น
ช่อบริเวณปลายยอดมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีแดงอมชมพู เกสรตัวผู้มักแผ่เป็นแผ่นคล้ายกลีบดอก ผล เป็นแบบผลแห้ง
รูปไข่กลับมีขนประปราย

การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	

	

	

	

	

	

ประโยชน์ด้านสมุนไพร	



	

ช่อดอกอ่อน หน่ออ่อน ลวกรับประทานเป็นผักจิ้มร่วมกับน้ำพริกหรือนึ่ง	


รับประทานร่วมกับน้ำพริกปลาร้าหรือน้ำพริกตาแดง

	

ดอกอ่อนช่วยขับลม เหง้าแก้ปวดเมื่อย

๑๕๗
ชื่ออื่น	

ผักตูบหมูบ ว่านนอนหลับ ว่านส้ม เปราะหอม


	
เอื้องดิน  มีลำต้นอยู่ใต้ดิน มีส่วนของรากเป็นที่สะสมอาหาร ใบ จะแตกชูขึ้นมาเหนือดินในช่วงฤดูฝน ใบมีขนาดใหญ่
รูปหัวใจสีเขียวเข้ม ใบอ่อนจะมีลักษณะม้วนแทงขึ้นมาจากหัวใต้ดินพอแก่แล้วจะคลี่ออกแล้วจะโตแผ่อยู่ติดดิน หลังใบจะมีสีเขียว
ท้องใบจะมีสีขาวนวล ดอก เป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็ก มีกลีบบางสีขาวโผล่ขึ้นมาตรงกลางยอด


การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร	
ประโยชน์ด้านสมุนไพร	 	

	


	

๑๕๘

	

	

	

	

ใบอ่อนรับประทานสดร่วมกับซุบหน่อไม้ แกงอ่อมช่วยดับกลิ่นคาว
เหง้ า แก้ ห วั ด แก้ ก ำเดา ขั บ ลมในลำไส้ สุ ม กระหม่ อ มเด็ ก แก้ ห วั ด

	
และกำเดา
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
เต็ม สมิตินันทน์. ๒๕๔๔ ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ ๒๕๔๔ พิมพ์ครั้งที่ ๒ 
	
กรุงเทพฯ : บริษัทประชาชนจำกัด
ม.ร.ว ภัทรชัย  รัชนี บุญชุบ  บุญทวี และจำลอง  เพ็งคล้าย ๒๕๓๕ พรรณไม้ในสวนป่าสิริกิติ์ 
	
ภาคกลาง (ราชบุรี) กรุงเทพฯ : ชุติมาการพิมพ์
อรุณรัตน์  ฉวีราช  พืชสกุลพริกไทยในประเทศไทย ๑ เมษายน ๒๕๔๘ ห.จ.ก. ขอนแก่นการพิมพ์
สะอาด  บุญเกิด  ไม้ไผ่บางชนิดในประเทศไทย ๒๕๒๘ 
วัชรี  ประชาศัรยสรเดช  ๓๐ พฤษภาคม  ๒๕๔๒ ผักพื้นบ้าน อีสาน ใต้ เหนือ 
สำลี  ใจดี สุนทรี วิทยนารถไพศาล รพีพล  ภโรวาท  จิรพร  ลิ้มปานานนท์ นิยดา  เกียรติยิ่อังศุมาลี  
	
วิพิต  วัฒนาวิบูล  โครงการพัฒนาเทคนิคการทำยาสมุนไพร ตุลาคม  ๒๕๒๒ – กรกฎาคม 
	
๒๕๒๔ การใช้สมุนไพร เล่มที่ ๒
วุฒิ  วุฒิธรรมเวช เภสัชกรรมไทย รวบรวมสมุนไพร ฉบับปรับปรุงใหม่ พิมพ์ครั้งที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๗ 
	
พิมพ์ครั้งที่ ๒  เมษายน ๒๕๔๐  โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ๒๕๕๐ ร่มไม้ไพรพฤกษา  ลำปาง : คณะวิทยาศาสตร์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ๒๕๓๕ สมุนไพรสวนสิริรุกขชาติ´กรุงเทพ : คณะเภสัชศาสตร์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ๒๕๓๙ สมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. กรุงเทพฯ : คณะเภสัชศาสตร์
ดีพร้อม  ไชยวงศ์เกียรติ เห็ดไทย ๒๕๓๙ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ 
	
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชมรมถ่ายทอด เทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
	
กรุงเทพฯ
คณะกรรมการจัดทำอนุกรมวิธานพืช ราชบัญฑิตยสถาน  กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘  รวมคำอธิบาย เห็ด
Kai  Larsen & Supee  Saksuwan  Larsen  2006 GINGERS of THAILAND
สถาบันแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เภสัชกรรมแผนไทย  กรกฎาคม ๒๕๔๒ 
	
โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กรุงเทพฯ
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร

More Related Content

PDF
แบบประเมินการออกแบบ สพม.25 ระดับ ม.4 6
DOC
หลักการของไดนาโม
PDF
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
PDF
หน่วยย่อยที่ 2 แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
PPTX
14.พืช C4 and CAM
PDF
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
PDF
ตัวอย่างรายงานโครงงาน
PDF
รายงานผลการดำเนินโครงการกิจกรรมค่ายบูรณาการ 2 2555
แบบประเมินการออกแบบ สพม.25 ระดับ ม.4 6
หลักการของไดนาโม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
หน่วยย่อยที่ 2 แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา
14.พืช C4 and CAM
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
ตัวอย่างรายงานโครงงาน
รายงานผลการดำเนินโครงการกิจกรรมค่ายบูรณาการ 2 2555

What's hot (20)

PDF
เอกสารประกอบการพิจารณาส่งเสริมและคัดเลือกนวัตกรรมสร้างสรรค์คนดี
PDF
กล้วยบวชชี
DOCX
อาหารว่างไทย ความหมาย
PDF
การหักเหของแสง
PDF
Lesson2plantreproduction2561
PDF
กระบี่กระบอง
PDF
ขั้นตอนการจัดทำโครงงาน
PDF
สื่อแนะแนวการศึกษาต่อม.3ภาค1 ปี57
PDF
Going shopping presentation aj.rey
PDF
ความเรียงขั้นสูง
PDF
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
PDF
รายงานกล้วยฉาบ.Docx อันใหม่
DOCX
การผูกเงื่อน
PDF
เรื่อง ทบทวนการบวก ลบ คูณ และหารเศษส่วน
PDF
ความสัมพันธ์กับอาณาจักรต่างๆในสมัยสุโขทัย อยุธยา
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
PPTX
โคลงสี่สุภาพ
DOCX
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
ใบความรู้ที่ 5 การเขียนผังงานโปรแกรม
เอกสารประกอบการพิจารณาส่งเสริมและคัดเลือกนวัตกรรมสร้างสรรค์คนดี
กล้วยบวชชี
อาหารว่างไทย ความหมาย
การหักเหของแสง
Lesson2plantreproduction2561
กระบี่กระบอง
ขั้นตอนการจัดทำโครงงาน
สื่อแนะแนวการศึกษาต่อม.3ภาค1 ปี57
Going shopping presentation aj.rey
ความเรียงขั้นสูง
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
รายงานกล้วยฉาบ.Docx อันใหม่
การผูกเงื่อน
เรื่อง ทบทวนการบวก ลบ คูณ และหารเศษส่วน
ความสัมพันธ์กับอาณาจักรต่างๆในสมัยสุโขทัย อยุธยา
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
โคลงสี่สุภาพ
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 5 การเขียนผังงานโปรแกรม
Ad

Viewers also liked (6)

PPT
งานวิจัยโยเกิร์ตข้าวโพด
DOC
Unit1 organism
PDF
9789740328322
PDF
เภสัชตำรับโรงพยาบาลแผนปัจจุบัน จาก สมุนไพร 49 v3 0
DOC
Paper การแยกแบคทีเรียแลคติกที่สามารถผลิตแบคทีริโอซินจากผัก ผลไม้ และธัญพืชหมัก
PDF
PROBIOTICS Alternative Microorganisms for Health
งานวิจัยโยเกิร์ตข้าวโพด
Unit1 organism
9789740328322
เภสัชตำรับโรงพยาบาลแผนปัจจุบัน จาก สมุนไพร 49 v3 0
Paper การแยกแบคทีเรียแลคติกที่สามารถผลิตแบคทีริโอซินจากผัก ผลไม้ และธัญพืชหมัก
PROBIOTICS Alternative Microorganisms for Health
Ad

Similar to ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร (20)

DOC
หน้าแรก
DOC
หน้าแรก
DOC
หน้าแรก
PDF
อาหารอีสาน
PDF
อาหารภาคอีสาน
PDF
วัฒนธรรมอาหารไทย - ภาคเหนือ (2556).pdf
PDF
ข้อมูลรายได้จากการปลูกพืชWeb
PDF
ลักษณะอาหารพื้นบ้านจังหวัดนครพนม
PDF
โครงงานเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
PDF
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
PDF
วัฒนธรรมอาหารไทย - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (2556).pdf
PDF
สาระพันธุ์ผลไม้และผักสวนครัวสุ่อาหารรสเด็ด
PDF
2562 final-project 37
PDF
เกษตรผสมผสานรวม Web
PDF
เกษตรผสมผสาน มีรายได้ สร้างอาชีพ
PDF
รายชื่อผู้รับทุนวิจัยปี 51 52
PDF
โครงงานปลาร้าสมุนไพร
PDF
โครงงานปลาร้าสมุนไพร
หน้าแรก
หน้าแรก
หน้าแรก
อาหารอีสาน
อาหารภาคอีสาน
วัฒนธรรมอาหารไทย - ภาคเหนือ (2556).pdf
ข้อมูลรายได้จากการปลูกพืชWeb
ลักษณะอาหารพื้นบ้านจังหวัดนครพนม
โครงงานเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
วัฒนธรรมอาหารไทย - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (2556).pdf
สาระพันธุ์ผลไม้และผักสวนครัวสุ่อาหารรสเด็ด
2562 final-project 37
เกษตรผสมผสานรวม Web
เกษตรผสมผสาน มีรายได้ สร้างอาชีพ
รายชื่อผู้รับทุนวิจัยปี 51 52
โครงงานปลาร้าสมุนไพร
โครงงานปลาร้าสมุนไพร

More from Intrapan Suwan (7)

PDF
จดหมายเหตุภาพ2475
PDF
มหากาพย์จำนำข้าว สู่มหกรรมกอบกู้สุจริต
PDF
นโยบายและแผนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1
PDF
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
PDF
เกษตรทฤษฎีใหม่
PDF
กุดชุม
PDF
งานวิจัยข้าวหอมมะลิแดง
จดหมายเหตุภาพ2475
มหากาพย์จำนำข้าว สู่มหกรรมกอบกู้สุจริต
นโยบายและแผนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
เกษตรทฤษฎีใหม่
กุดชุม
งานวิจัยข้าวหอมมะลิแดง

ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร

  • 2. จังหวัดลำปางเป็นแหล่งอารยธรรมของล้านนาไทยที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในอดีตมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ศรีดอนชัย ลัมภะกัมปนคร เขลางค์นคร เวียงละกอน และ กุกกุฎนคร เมืองเขลางค์นครเป็นเมืองคู่แฝดกับอาณาจักรหริภุญไชย ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง ในปัจจุบัน โดยมีพระเจ้าอนันตยศ พระโอรสแฝดของพระนางจามเทวีเคยมา ปกครองเมืองนี้ในระยะแรกๆ ในภาษาล้านนา คำว่า ขลาง หมายถึง แอ่งกระทะ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพภูมิศาสตร์ที่มี ภูเขาล้อมรอบ มีการทับถมของตะกอนดินซากพืชซากสัตว์จนเป็นที่ราบลุ่มอุดมสมบูรณ์ ชาวลำปางมีชีวิตเรียบง่าย เลื่อมใสศรัทธาและยึดมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น ซึ่งจะเห็นว่าในจังหวัดลำปางมีพุทธสถานที่สำคัญมากมาย ผักถือเป็นพืชที่นำมารับประทานทั้งสดหรือปรุงให้สุก ในผักนานา ชนิดจะประกอบด้วยสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ที่สำคัญหลายกลุ่ม เช่น เทอร์พีนอยด์ แอลคาลอยด์ ฟลาโวนอยด์ เป็นต้น องค์ประกอบทางเคมีเหล่านี้จะช่วยให้ กระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายอีกด้วย คนในสมัยโบราณนิยมรับประทานผักเป็นกิจวัตร โดยนำมาทำเป็นเครื่องเคียงหรือประกอบอาหารโดยตรง เช่น แกงแค ภูมิปัญญาชาวบ้านหรือของชาวลำปางที่สั่งสมลองผิดลองถูกในการนำผักมาใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ไม่เป็น อันตรายต่อสุขภาพนั้น ได้มีการสืบทอดมาช้านาน สังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จนทำให้การนำผักมารับประทานในหมู่เยาวชนแทบจะไม่มีให้เห็น ซ้ำยังปฏิเสธผักอีกด้วย จึงเป็นสิ่งที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงจะต้องช่วยกันรณรงค์ให้เยาวชนหันมารับประทานผัก ปลอดสารพิษและการปลูกผักไว้ทุกบ้านเรือน นอกจากนี้จะต้องให้ความรู้ถึงประโยชน์และโทษของการไม่รับประทานผัก อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึง “ผักพื้นบ้าน” ด้วย การนำผักพื้นบ้านมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักรูปพรรณสัณฐาน สรรพคุณทางยา และประโยชน์อื่นๆ เป็นแนวทางถึงที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางตระหนักถึง จึงมี ความพยายามรวบรวมสรรพกำลังกายและความคิดจัดทำหนังสือ “ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร” เล่มนี้ขึ้น คณะวิทยาศาสตร์รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากที่คุณณรงค์ นันทะแสน นักวิชาการ กรมอุทยานสัตว์ป่า และพั น ธุ ์ พ ื ช กระทรวงทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ ่ ง แวดล้ อ ม ที ่ ไ ด้ ก รุ ณ าเขี ย นขึ ้ น จาก ประสบการณ์ แ ละความมุ ่ ง มั ่ นที ่ จ ะให้ ส ื ่ อ เล่ ม นี ้ เป็ น สมบั ต ิ ข องชาวลำปางและผู ้ ส นใจ ตลอดไป ในส่ ว นของเนื ้ อ หาและภาพประกอบได้ ถ ่ า ยทำจากตลาดในจั ง หวั ด ลำปาง แทบทั้งสิ้น ทั้งนี้บางชนิดใกล้สูญพันธ์ุไปแล้วก็มี และมีจำนวนมากที่เยาวชนคนรุ่นหลัง ไม่ทราบชื่อ คณะผู้จัดทำได้แทรกชื่อภาษาล้านนาด้วยการเขียนอักขระตัวเมืองโดยคุณเนตร กองสิน ปราชญ์ชาวบ้านแห่งอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ผักพื้นบ้านเหล่านี้อยู่คู่กับชาวเขลางค์นครสืบไป ในนามของนักศึกษา คณาจารย์ เจ้าหน้าที่คณะวิทยาศาสตร์ทุกท่าน ต้ อ งขอขอบคุ ณ คุ ณ ณรงค์ นั นทะแสน อี ก ครั ้ ง ที ่ ได้ ส ละเวลาอั น มี ค ่ า ตรวจทาน ออกแบบ พร้อมทั้งใส่จิตวิญญาณให้หนังสือนี้สำเร็จลง อย่ า งสมบู ร ณ์ ผู ้ อ ่ า นท่ า นใดมี ม ุ ม มองบางมิ ต ิ ท ี ่ ต ้ อ งการแนะนำ คณะวิทยาศาสตร์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอน้อมรับด้วย ความเต็มใจ ขอคุณความดีของหนังสือเล่่มนี้จงเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้อ่านทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ เผยแพร่ และสืบสาน ผักพื้นบ้าน เขลางค์นคร ให้ดำรงอยู่คู่ชาวล้านนาตลอดไป (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล) คณบดีคณะวิทยาศาสตร์
  • 3. ผักพื้นบ้านเขลางค์นครฉบับนี้ เป็นความพยายามของ ผศ.ดร.วิลาศ พุ่มพิมล คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และ คุณณรงค์ นันทะแสน เจ้าหน้าที่สำนักหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคณะผู้จัดทำได้เก็บรวบรวมผักพื้นบ้านที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยนำมาเสนอให้รู้ถึงชื่อ ชนิด ลักษณะ ใบ ลำต้น ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร หรือประโยชน์ทางยา วิธีนำมาใช้ ฯลฯ ซึ่งองค์ความรู้ทั้งหมดเป็นทั้งทางวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานคุณค่าอย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นผลพวงแห่งความพยายามที่เป็นคุณูปการต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติโดยแท้ ผมขอแสดงความชื่นชมในผลงานและขอขอบคุณในนามของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ที่ ผศ.ดร.วิลาศ พุ่มพิมล คุณณรงค์ นันทะแสน และคณะผู้จัดทำทุกคน ที่ได้ศึกษา ค้นคว้า และนำมาเผยแพร่เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับ ประโยชน์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาระดีๆ ที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้จะถูกนำไปใช้ในการศึกษา ค้นคว้าต่อยอด หรือใช้ในการถ่ายทอดเพื่อประโยชน์สุขในสังคมประเทศชาติต่อไป (ผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ) อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
  • 4. ความพากเพียรและพยายามในการอนุรักษ์ของดีต่างๆ ในท้องถิ่นทั้งด้านวัฒนธรรมและการอนุรักษ์วัฒนธรรม โดยเฉพาะวั ฒ นธรรมในการบริ โภคอาหารที ่ เป็ น พื ช ผั ก ในท้ อ งถิ ่ น หรื อ ผั ก พื ้ น บ้ า นในแต่ ล ะภาคของแต่ ล ะประเทศ ย่อมจะนำมาเพื่อความมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันในตัวผู้บริโภค คณะวิทยาศาสตร์ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ และอาจารย์ณรงค์ นันทะแสน ได้ช่วยกันค้นคว้าและเรียบเรียงเขียนขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนในท้องถิ่นจังหวัดลำปางได้รับรู้และเข้าใจมากขึ้น ผมขอแสดงความยินดีและชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้สร้างผลงานที่มีประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นตามเจตนารมณ์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางทีี่ให้บริการทางวิชาการ และเผยแพร่ให้ชุมชนได้สามารถเรียนรู้อย่างถูกต้องและเป็น วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะช่วยพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน และหวังว่าสาระดีๆ ที่มีอยู่ในหนังสือ เล่มนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในท้องถิ่น เพิ่มคุณภาพชีวิตให้มีความสุข ความแข็งแรงของชุมชนและประเทศชาติต่อไป (นายประสิทธิ์ สิริศรีสกุลชัย) ประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง
  • 5. หนังสือผักพื้นบ้านเขลางค์นคร เล่มนี้ ข้าพเจ้ามีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการเขียนตลอดจนถ่ายภาพผักต่างๆ เพื่อที่จะนำเสนอผักให้หลากหลายชนิดที่ชาวนครลำปาง หรือ เขลางค์นคร ในอดีตใช้ในการบริโภคเป็นอาหารมาตั้งแต่ อดีตจวบจนปัจจุบัน ที่มีกรรมวิธีและวัฒนธรรมการบริโภคผักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมงานกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จึงได้มีโอกาสศึกษาพฤติกรรมการบริโภค ผักของนิสิต นักศึกษา ตลอดจนเยาวชนทั่วไปในนครลำปาง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคผัก หรือนิยมบริโภคผักที่มาจาก ต่างแดน หรือจำพวกผักเศรษฐกิจที่มีลักษณะสีสดใส สวยงาม สะดุดตา ซึ่งปัจจัยสำคัญในขบวนการผลิตที่ขาดไม่ได้ คือ สารเคมีปราบคัตรูพืชที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเยาวชนทั้งหลายไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายในเรื่องนี้ ทำให้มองข้าม ความสำคัญและคุณค่าทางโภชนาการตลอดจนประโยชน์ทางสมุนไพรของผักพื้นบ้าน หากทุกคนไม่ช่วยกันส่งเสริม สร้างค่านิยมในการบริโภคผักพืนบ้านอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากจะทำให้สขภาพร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว วัฒนธรรมการบริโภค ้ ุ ผักพื้นบ้านที่บรรพบุรุษได้สร้างสมเอาไว้เป็นมรดกทางปัญญาก็จะสูญหายไปในที่สุด ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม ภูมิปัญญาในการบริโภคผัก ข้าพเจ้าพร้อมด้วยคณบดี คณะวิทยาศาสตร์ตลอดเจ้าหน้าที่บุคลากร ทุกท่าน จึงได้ร่วมมือกันจัดทำหนังสือผักพื้นบ้านเขลางค์นครเล่มนี้ เพื่อใช้เป็นสื่อในการทำความเข้าใจ และให้ความรู้ ความกระจ่างแก่นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ถึงประโยชน์และคุณค่าของผักพื้นบ้าน ตลอดจนกระตุ้นให้เยาวชนเป็น ผู ้ ท ี ่ ม ี ค วามรั ก และหวงแหนในวั ฒ นธรรมและภู ม ิ ป ั ญ ญาของบรรพบุ ร ุ ษ ที ่ ได้ ม อบไว้ ให้ ภายในเล่ ม ได้ จ ั ด ภาพและ คำบรรยายลักษณะของผักแต่ละชนิด ตลอดจนขั้นตอนวิธีการนำไปใช้ในการบริโภคและประโยชน์ทางสมุนไพร สำหรับ ชื่อผักนั้นได้ใช้ชื่อพื้นเมืองเป็นชื่อหลักพร้อมเขียนตัวหนังสือล้านนากำกับไว้ด้วย เพื่อให้เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้สมบูรณ์ ที่สุดและใช้เป็นหลักฐานทางวิชาการได้อย่างเป็นสากล จึงได้เขียนชื่อทางวิทยาศาสตร์ของผัก แต่ละชนิดกำกับไว้อย่างครบถ้วน ข้าพเจ้าหวังว่าหนังสือผักพื้นบ้านเขลางค์นครเล่มนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่มีความสนใจศึกษาเกี่ยวกับผักพื้นบ้านที่ชาว นครลำปางใช้ บ ริ โภคมาตั ้ ง แต่ อ ดี ต จวบจนปั จ จุ บ ั น และขอขอบคุ ณ อธิ ก ารบดี คณบดี เจ้าหน้าที่และบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏทุกท่าน ที่ ได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดทำหนังสือ ผักพื้นบ้านเขลางค์นครเล่มนี้ จนสำเร็จ ความดีของหนังสือที่ได้รับ ข้าพเจ้าขอมอบให้ชาวราชภัฏลำปางทุกท่าน หากมี ข้อบกพร่องประการใด ข้าพเจ้ากราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย (ณรงค์ นันทะแสน)
  • 6. เขลางค์นคร เป็นภาษาบาลี หมายถึง เมืองที่มีพื้นที่เป็นแอ่งรูปก้นกระทะซึ่งมีปรากฏอยู่ ในตำนานตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๓ เป็นชื่อเดิมเมืองลำปางในอดีต เมืองเขลางค์นครมีฐานะ เป็นเมืองหลวงคู่แฝดของอาณาจักรหริภุญไชย เมืองเขลางค์นครแห่งอาณาจักรหริภุญไชยแห่งนี้ มีผู้ปกครองสืบทอดต่อกันมาตลอด ก่อนที่จะมีการสถาปนาอาณาจักรล้านนาของพระยามังราย ที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มน้ำกกตอนเหนือ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีการปฏิรูประบอบการปกครองเป็นระบบ มณฑล เมื อ งลำปางจึ ง ได้ ข ึ ้ น อยู ่ ก ั บ มณฑลพายั พ (เมื อ งเชี ย งใหม่ ) และมณฑลมหาราษฎร (เมืองแพร่) ต่อมาจึงได้เปลียนเป็นจังหวัดลำปางในสมัยรัชกาลที่ ๖ จังหวัดลำปางจึงเป็นจังหวัดหนึง ่ ่ ในภาคเหนือ ตอนบน ภู ม ิ ป ระเทศ ทิ ศ เหนื อ ติ ด ต่ อ จั ง หวั ด เชี ย งรายและจั ง หวั ด พะเยา ทิศ ใต้ ติดต่อจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดตาก ทิศตะวันออกติดต่อจังหวัดแพร่ และทิศตะวันตกติดต่อจังหวัด เชียงใหม่และจังหวัดลำพูน เมืองลำปางอยู่ในหุบเขารูปแอ่งกระทะล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาสูงชัน บางส่วนก็ผดขึนเป็นแนวหินแกรนิตบนเทือกเขาผีปนน้ำด้านทิศตะวันตก ในบางยุคเกิดการเคลือนตัว ุ ้ ั ่ ของเปลือกโลกอย่างรุนแรงจึงทำให้เกิดแอ่งที่ราบขนาดใหญ่ และทิวเขาที่ทับซ้อนกัน เมื่อผ่าน กาลเวลามายาวนานส่วนที่เป็นแอ่งก็ได้กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เกิดการทับถมของตะกอนและ ซากพืชซากสัตว์จนกลายเป็นผืนดินที่ราบ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแหล่งน้ำมันและถ่านหินลิกไนต์ ด้วยลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ จึงทำให้อากาศอบอ้าวแบบฝนเมืองร้อนเฉพาะฤดู โดยได้รับ อิ ท ธิ พ ลจากมรสุ ม ตะวั นตกเฉี ย งใต้ แ ละมรสุ ม ตะวั นตกเฉี ย งเหนื อ ซึ ่ ง มี อ ากาศแตกต่ า งกั น ตามฤดูกาล ในฤดูหนาวค่อนข้างหนาวจัด ส่วนฤดูร้อนจะยาวนาน สำหรับบริเวณที่ราบภูเขาสูงและ ที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำอันเป็นที่ราบดินตะกอนเก่า ผืนดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์มีแม่น้ำวังไหลผ่าน บางพื้นที่เป็นแหล่งที่ทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี บางส่วนก็ปกคลุมไปด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของเมืองลำปาง ดังนั้นวิถีชีวิตของชาวเขลางค์นครหรือชาวเมืองลำปาง ในอดีตจึงผูกติดอยู่กับการทำเกษตรกรรมและการล่าสัตว์ ตลอดจนการเก็บหาของป่า พืชผักต่างๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือนตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของแต่ละชุมชน ซึ่งอาจมีความ แตกต่างกันบ้างด้านกรรมวิธี อันที่จริงชุมชนในภาคเหนือโดยเฉพาะชาวลำปางหรือเขลางค์นครนั้น ถือว่าเป็นชนที่รู้จักผักต่างๆ ในธรรมชาติที่สามารถนำมาบริโภคได้มากที่สุดก็ว่าได้ ต่อมาจึงได้ ถ่ายทอดให้กับลูกหลานสืบต่อกันมา ปัจจุบันได้เรียกพืชผักต่างๆ ที่เก็บหามาได้จากแหล่งธรรมชาติ เช่น ป่า เขา ห้วย หนอง คลอง บึง และบางชนิดที่ปลูกขึ้นมาว่า ผักป่าบ้าง ผักพื้นบ้านบ้าง ผักพื้นเมืองบ้าง หลายคนอาจเคยได้ยินได้ฟังคำว่า ผักป่า ผักพื้นบ้าน ผักพื้นเมือง มาบ้างแล้ว หรือ บางคนอาจบอกว่าได้ยินมาจนชินหูแต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงเท่าใดนัก อันที่จริง คำว่า ผักป่า ผักพื้นบ้าน ผักพื้นเมือง ทั้ง ๓ คำนี้เป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าจะแตกต่างกันก็ตรงที่มุมมอง ของแต่ละบุคคลว่าจะมองด้านไหน มองอย่างไร และมองดูที่ตรงไหน คือ ถ้าคนในชุมชนหรือ ชาวบ้านไปเก็บหาผักมาจากป่าเพื่อการบริโภคหรือนำมาขาย เขาก็จะเรียกผักนั้นว่า ผักป่า แต่ หากมีคนในเขตเมืองมาซื้อหาผักเหล่านั้นเขาก็จะบอกว่า ผักพื้นบ้าน ในขณะที่มีคนมาจากต่างบ้าน ต่างเมืองจะเป็นการมาท่องเที่ยวหรือมาเพื่อการใดก็สุดแท้แต่ละบุคคล เมื่อมาเจอผักเหล่านั้น หรือเพือนสนิทมิตรสหายแนะนำก็จะบอกว่านีคอ ผักพืนเมือง ดังนัน คำว่า ป่า บ้าน เมือง ทัง ๓ คำนี้ ่ ้ื ้ ้ ้ แม้ความหมายจะไม่ค่อยกลมกลืนกันนัก แต่ก็เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันได้ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในภูมประเทศเขตร้อนทีอดมไปด้วยความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช ดังนัน ิ ุ่ ้ ผักป่า ผักพื้นบ้าน ผักพื้นเมือง จึงเป็นพืชที่ใช้ในการบริโภคและสามารถสร้างคุณค่าเป็นที่ประจักษ์ แก่บุคคลทั่วไป ตลอดจนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของป่าเขตร้อนที่เชื่อมสัมพันธ์กับภูมิปัญญาของ คนในท้องถิ่น จนกลายเป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ กล่าวโดยสรุป ผักพื้นบ้าน หมายถึง พืชชนิดใดก็ได้ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆ สามารถเก็บหาได้จากแหล่งธรรมชาติในแต่ละ ฤดูกาล แต่ละภูมิภาค ที่แตกต่างกันไป ทั้งป่าเขา ริมลำธาร ลำห้วย หรือตามหัวไร่ ปลายนา
  • 7. เพื่อใช้ในการประกอบอาหารในแต่ละวันตามวิถีความเป็นอยู่และวัฒนธรรมการบริโภค ของชุมชนนั้นๆ ทั้งยังให้คุณค่าทางโภชนาการตลอดจนใช้เป็นสมุนไพรในครัวเรือน ที่ได้รับ การถ่ายทอดสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ในการบริโภคพืชผักต่างๆ นั้น ในแต่ละ ชุมชนยังได้ใช้ภูมิปัญญาในการจำแนกผักออกเป็นกลุ่มต่างๆ ตามวิถีและวัฒนธรรมในการ บริโภค คือ กลุ่มที่รับประทานส่วนหัวรากและเหง้า, กลุ่มที่รับประทานส่วนใบและยอด, กลุ่มที่รับประทานส่วนผลและฝัก และกลุ่มที่รับประทานส่วนแกนกลาง สิ่งเหล่านี้เป็น ข้อบ่งบอกถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการบริโภคของคนในแต่ละชุมชน ซึ่งอาจมีความ แตกต่างกันบ้าง แต่ก็ยังมีผักจากต่างประเทศอีกหลายชนิดที่ถูกนำเข้ามาปลูกเป็นระยะ เวลานานจนสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศได้ดี หลายคนเข้าใจว่า เป็นผักดังเดิมของท้องถิน เช่น หอมขาว หอมบัว ขิงหยวก บ่ะแคว้ง หอมด่วน จ้ากอมก้อ ฯลฯ ้ ่ ่ ด้วยเหตุที่ผักเหล่านี้ได้รับความนิยมใช้กับอาหารไทยทั่วไปจึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ผักพื้นบ้านไทยเรื่อยมา ถึงกระนั้นก็ยังมีหลายคนที่มีความรู้สึกว่า ผักพื้นบ้าน ไม่น่า รั บ ประทาน ไม่ อ ร่ อ ย สี ส ั น ไม่ ส วยงามสะดุ ด ตาเหมื อ นพวกผั ก เศรษฐกิ จ จึ ง ไม่ น ่ า มี ประโยชน์ต่อร่างกาย แท้ที่จริงผักพื้นบ้านหลายชนิดกลับมีคุณค่าทางโภชนาการสูงพอๆ กับผักเศรษฐกิจหรือมากกว่า เช่น ผักแว่น ผักแค ยอดผักก้านถิน ฯลฯ ที่ให้วิตามินเอ สูงกว่าผักเศรษฐกิจหลายชนิด ผักเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดเองโดยธรรมชาติตามฤดูกาล ปลอด ซึ่งสารเคมีปราบศัตรูพืชที่ทำให้เกิดพิษต่อร่างกาย ซึ่งต่างกับผักเศรษฐกิจที่ส่วนใหญ่มักจะ มีสารเคมีปนเปื้อน เพราะการผลิตผักเศรษฐกิจนั้นสารเคมีปราบศัตรูพืชถือว่าเป็นปัจจัย สำคัญในการผลิตที่ขาดไม่ได้เนื่องจากเกษตรกรยังมีความต้องการผลผลิตในจำนวนมาก และมีลักษณะสีสันที่สวยงามปราศจากแมลงเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เมื ่ อ นำผั ก เหล่ า นั ้ น ไปบริ โภคอาจได้ ร ั บ สารเคมี ท ี ่ ป นเปื ้ อ นมากั บ ผั ก ซึ ่ ง ถื อ ว่ า มี โทษ ต่อร่างกายอย่างยิง คนทีใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัวจึงหันมาบริโภค ่ ่ ผักพื้นบ้านที่ปราศจากสารเคมีปราบศัตรูพืช ผักบางชนิดจึงกลายเป็นผักยอดนิยม เช่น ผักหวานป่า ผักหวานบ้าน ผักปัง ผักหนาม ผักไผ่ ผักแค ผักพา ผักเสลี่ยมและมะลิดไม้ เป็ นต้ น พื ช ผั ก เหล่ า นี ้ ส ่ ว นใหญ่ จ ะมี ส รรพคุ ณทางสมุ น ไพรพื ้ น บ้ า นที ่ เ ข้ า กั บ สภาพ ภูมประเทศและวัฒนธรรมการบริโภคของคนชุมชนนันๆ เป็นอย่างดี รสของผักแต่ละชนิดจะ ิ ้ เป็นตัวบ่งบอกถึงสรรพคุณของผักชนิดนั้นๆ เช่น รสฝาด มีสรรพคุณสมานแผล แก้ท้องเสีย ท้องร่วง รักษาแผล รสเปรี้ยว สรรพคุณช่วยกัดเสมหะ กระตุ้นต่อมน้ำลาย ทำให้ เจริญอาหาร รสหวาน สรรพคุณช่วยทำให้ชมชืน บำรุงกำลัง รสขม มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ุ่ ่ ลดไข้ แก้เลือดเป็นพิษ ถอนพิษเมา รสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืดเฟ้อ รสมัน มีสรรพคุณแก้อาการเส้นเอ็นพิการ ปวดเสียว เคล็ด ขัดยอก อาการกระตุก เป็นต้น ด้วยรสชาติและสรรพคุณของผักพืนบ้านทีใช้เป็นอาหารและ ้ ่ ยาสมุนไพรควบคู่กันได้อย่างกลมกลืน จนกลายเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่ถูกถ่ายทอด สืบต่อกันมา ดังนั้น คนในอดีตจึงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงกว่าคนในปัจจุบันที่นิยมบริโภค อาหารที่ถูกปรุงแต่งแปลกๆ สีสันสดใส โดยมีส่วนประกอบของสารเคมีต่างๆ หลายชนิด เป็นเครื่องปรุงแต่ง ซึ่งนับว่ามีโทษต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ดังนั้น เยาวชนคนรุ่นใหม่ จึงควรใส่ใจในเรื่องการบริโภค โดยเฉพาะการบริโภคผักควรเลือกผักที่เป็นประโยชน์ต่อ ร่างกาย เช่น ผักพื้นบ้านทั่วไป และสร้างค่านิยมใหม่โดยหันมานิยมการบริโภคผักพื้นบ้าน ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย สามารถปลูกเองได้ภายในบริเวณบ้าน ถึงแม้ไปซื้อหา ราคาก็ไม่แพง ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการบริโภคผัก เป็นมรดกทาง ปัญญาที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ บรรพบุรุษมอบไว้ให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อกันมาจากรุ่น สู่รุ่นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานจวบจนปัจจุบัน
  • 8. ๑ .................... กระเจี๊ยบ กระเพราช้าง............... ๒ ๓ ..................... กล้วยลิอ่อง กอก............................ ๔ ๕ ..................... กอมก้อขาว กาซะลอง................ ... ๖ ๗ ..................... กุ่มน้ำ กุ่มบก...................... ... ๘ ๙ ..................... เกี๋ยงพาลาบ ข่าแกง..........................๑๐ ๑๑.................... ข่าหลวง ขิงหยวก...................... ๑๒ ๑๓.................... ขี้เหล็ก เครือเขาคำ.................. ๑๔ ๑๕.................... แคขาว แคนา........................... ๖ ๑ ๑๗................... งิ้ว จะค่าน........................ ๑๘ ๑๙................... จะไค ดอกก้าน.................. .. ๒๐ . ๒๑................... ดีงูว่า ดีปลี............................ ๒๒ ๒๓................... ตอง ต้าง.............................. ๔ ๒ ๒๕.................... าล ต ตูน............................... ๒๖ ๒๗.................... ตา เ ถั่วปู............................ ๒๘ ๒๙.................... ั่วลันเตา ถ ถั่วเหลือง..................... ๓๐ ๓๑.................... เถาวัลย์ด้วน เทียนทั้งห้า.................. ๓๒ ๓๓.................... างแลว น บวบหอม..................... ๓๔ ๓๕................... บ่ะก้วยเตส บ่ะกูด...........................๓๖ ๓๗.................... ่ะขาม บ บ่ะเขือแจ้..................... ๓๘ ๓๙.................... ่ะเขือปั๋ง บ บ่ะเขือผ่อย.................. ๔๐ ๔๑.................... บ่ะเขือส้ม บ่ะเขือหำม้า................ ๔๒ ๔๓.................... ่ะแขว่น บ บ่ะค้อนก้อม................ ๔๔ บ ๔๕.................... ่ะแคว้ง บ่ะแคว้งขม................. ๔๖ ๔๗.................... ่ะแคว้งเครือขม บ บ่ะจ้ำ....................... ... ๔๘ ๔๙.................... ่ะเดื่อเกลี้ยง บ บ่ะตาเสือ.................... ๕๐ ๕๑.................... บ่ะตึก บ่ะเต้า......................... ๕๒ ๕๓.................... ่ะแตงลาย บ บ่ะนอยงู......................๕๔ ๕๕.................... ่ะนอยจา บ บ่ะนอยเหลี่ยม............ ๕๖ ๕๗.................... ่ะน้ำ บ บ่ะป้าว........................ ๕๘ ๕๙.................... ่ะปิ่น บ บ่ะปู่............................ ๖๐ ๖๑.................... บ่ะแปบ บ่ะฟักแก้ว................... ๖๒ ๖๓.................... บ่ะเฟือง บ่ะม่วง......................... ๔ ๖ ๖๕.................... บ่ะเม่าสาย บ่ะยม.......................... ๖๖ ๖๗.................... บ่ะลิดไม้ บ่ะหนุน....................... ๖๘ ๖๙.................... บ่ะห่อย บ่ะไห่.......................... ๗๐ ๗๑.................... บ่ะแฮะ บัวกวัก.........................๗๒ ๗๓.................... ้าน ป ปุย............................... ๗๔
  • 9. ๗๕.................... ูเลย ป ผักกาดจ้อน..................๗๖ ๗๗.................... ักกูด ผ ผักขี้ขวง........................๗๘ ๗๙.................... ักขี้มด ผ ผักขี้มูก........................ ๘๐ ๘๑.................... ผักขี้หูด ผักเข้า......................... ๘๒ ๘๓.................... ักโขม ผ ผักคาวตอง..................๘๔ ๘๕.................... ักแค ผ ผักแคบ.........................๘๖ ๘๗.................... ักจิก ผ ผักจี............................. ๘๘ ๘๙.................... ักจีอ้อ ผ ผักเชียงดา................... ๐ ๙ ๙๑.................... ผักด้ามพั่ว ผักตับแก้..................... ๙๒ ๙๓.................... ักติ้วขาว ผ ผักตุ๊ด...........................๙๔ ๙๕....................ผักบั้ง ผักบุ้ง........................... ๖ ๙ ๙๗.................... ักปอดม้า ผ ผักปั๋ง........................... ๘ ๙ ๙๙.................... ักปู่ย่า ผ ผักแปม........................ ๐๐ ๑ ๑๐๑.................ผักแปมป่า ผักเผ็ดขม.................... ๑๐๒ ๑๐๓................. ผักเผ็ดน้อย ผักไผ่........................... ๑๐๔ ๑๐๕................. ผักพญายอ ผักแว่น........................ ๑๐๖ ๑๐๗................. ผักสาบ ผักสีเสียด.....................๑๐๘ ๑๐๙................. ผักเสี้ยว ผักแส้ว.........................๑๑๐ ๑๑๑................. ผักหนอก ผักหนอง...................... ๑๒ ๑ ๑๑๓................. ผักหนาม ผักหละ........................ ๑๑๔ ๑๑๕.................ผักหวานบ้าน ผักหวานป่า................. ๑๑๖ ๑๑๗................. ผักหอมป้อม ผักฮ้วนหมู................... ๑๑๘ ๑๑๙.................ผักฮากกล้วย ผักฮิน.......................... ๑๒๐ ๑๒๑.................ผักเฮียด ผำ................................ ๒๒ ๑ ๑๒๓.................ไผ่ตง พริกแด้........................ ๑๒๔ ๑๒๕.................เพี้ยฟาน มะแหลบ......................๑๒๖ ๑๒๗.................ย่านาง ละแอน........................ ๑๒๘ ๑๒๙.................เล็บครุฑ ส้มป่อง........................ ๑๓๐ ๑๓๑.................ส้มป่อย ส้มสะเอาะ.................. ๑๓๒ ๑๓๓.................ส้มสังกา ส้มเสี้ยน...................... ๑๓๔ ๑๓๕.................สลิด สะเลียม....................... ๓๖ ๑ ๑๓๗.................สะเลียมหอม สะแล....................... ... ๑๓๘ ๑๓๙.................หญ้าเอ็นยืด หน่อซาง...................... ๑๔๐ ๑๔๑.................หน่อไร่ หน่อฮวก...................... ๔๒ ๑ ๑๔๓.................หวาย หอมด่วนหลวง............ ๑๔๔ ๑๔๕.................หอมเตียม หอมบั่ว........................ ๔๖ ๑ ๑๔๗.................หอมป้อมเป้อ หอมแย้........................ ๔๘ ๑ ๑๔๙.................เห็ดขอนขาว เห็ดไข่ขาว.................... ๕๐ ๑ ๑๕๑.................เห็ดถอบ เห็ดเฟือง...................... ๕๒ ๑ ๑๕๓.................เห็ดลม เห็ดห้า......................... ๑๕๔ ๑๕๕.................เห็ดหูลัวะ อังลาว......................... ๑๕๖ ๑๕๗.................อาว เอื้องดิน....................... ๑๕๘
  • 10. ชื่ออื่น กระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบเปรี้ยว ส้มพอดี กระเจี๊ยบ เป็นไม้พุ่มอายุปีเดียว สูงประมาณ ๑ – ๒ เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบ รูปรีแหลม ขอบใบเว้าลึก ๓ หยักหรือเรียบ ก้านใบยาวประมาณ ๕ เซนติเมตร หรือบางครั้งพบใบหลายลักษณะ ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีชมพู ออกบริเวณ ง่ามใบ ตรงกลางดอกมีสีเข้มกว่าด้านนอก ก้านดอกสั้น กลีบรองดอกลักษณะปลายแหลมมีประมาณ ๘ – ๑๒ กลีบ กลีบเลี้ยง จะแผ่ขยายติดกันออกหุ้มเมล็ดไว้ มีสีแดงเข้ม หักง่าย ผล รูปรี ปลายแหลม ผลมีความยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร หุ้มไว้ด้วย กลีบเลี้ยงสีแดงสด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ใบ ใช้ปรุงอาหารทำให้มีรสเปรี้ยว ใบอ่ อ น ช่ ว ยย่ อ ยอาหาร ละลายเสมหะ ขั บ ปั ส สาวะ กลี บ เลี ้ ย ง ขับปัสสาวะ ขับน้ำดี แก้นิ่ว แก้กระหายน้ำ ๑
  • 11. ชื่ออื่น ยี่หร่า โหรพาช้าง กะเพราญวน กระเพราช้าง เป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงประมาณ ๕๐ – ๘๐ เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นสีน้ำตาลแก่ ใบ เป็น ใบเดี่ยวออกตรงข้ามคู่กัน ขอบใบหยัก ปลายใบแหลม แผ่นใบสาก ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอดประกอบด้วยดอกขนาดเล็ก จำนวนมาก เมล็ด ลักษณะกลมรีขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๒ ใบ ใช้ผัดกับเนื้อช่วยดับกลิ่นคาว ใส่แกง เมล็ด ทำเครื่องเทศ ทั้งต้น เป็นยาขับลม ช่วยย่อย แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • 12. ชื่ออื่น กล้วยน้ำว้า กล้วยส้ม กล้วยนิออง กล้วยลิอ่อง เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเทียมเกิดจากกาบหุ้มซ้อนกันเป็นลำขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๒ – ๕ เมตร กาบลำต้น ด้านนอกสีเขียวอ่อน ใบ มีสีเขียวเป็นแผ่นยาวเส้นใบขนานกัน แกนใบเห็นได้ชัดเจน ท้องใบมีนวลขาว ดอก ออกเป็นช่อห้อยลง กาบหุ้มสีแดงม่วงดอกย้อยติดกันเป็นแผง ฐานดอกเป็นดอกตัวเมีย ส่วนปลายเป็นดอกตัวผู้เมื่อดอกตัวเมียเติบโตเป็นผลดอกตัวผู้ จะเริ่มร่วงหล่น ผล เมื่อดอกเจริญกลายเป็นผลแล้วผลจะประกอบเป็นหวีเครือละประมาณ ๗ – ๑๐ หวี ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อในสีขาว มีรสหวาน ผลลักษณะเป็นเหลี่ยม เปลือกหนา ก้านผลสั้น แต่ละต้นจะให้ผลเพียง ครั้งเดียวแล้วก็จะเน่าตายไป การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ดอก (หัวปลี) ใช้แกง รับประทานสดร่วมกับน้ำพริกต่างๆ แกนกลาง (หยวก) ใช้แกง ดอง ผลดิบแก้ท้องเสีย รักษาโรคกระเพาะอาหาร ผลสุก เป็นยาระบาย ดอก (หัวปลี) แก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ โรคโลหิตจาง ลดน้ำตาลในเส้นเลือด ๓
  • 13. ชื่ออื่น มะกอก มะกอกป่า กอกเขา กอก เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง ๑๕ – ๒๕ เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกหนา สีเทา เรียบมีต่อมระบายอากาศมาก เรือนยอดเป็นพุ่มกลม โปร่ง กิ่งอ่อน เกลี้ยง ใบ เป็นช่อแบบ ขนนกติดเรียงสลับเวียนกัน แต่ละช่อมีใบย่อยรูปรีแกมรูปไข่ ออก เป็นคู่ๆ ตรงข้ามหรือเยื้องเล็กน้อยมี ๔ – ๖ คู่ ปลายใบสุดก้านช่อ จะออกเดี่ยวๆ ขนาดกว้าง ๓ – ๔ เซนติเมตร ยาว ๗ - ๑๒ เซนติเมตร เนื้อใบหนา เนียน เกลี้ยงเป็นมัน ขอบใบเรียบ ใบอ่อน สีน้ำตาลอมแดง ดอก ออกรวมกันเป็นช่อโตตามง่ามใบหรือปลายกิ่ง มีสีขาว ขนาดเล็ก ผล กลมรี วัดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ - ๓.๕ เซนติเมตร ผลแก่สีเขียวอ่อน เมล็ดโตและแข็ง มีเมล็ดเดียว ผิวเมล็ด เป็นเสี้ยนและมีเนื้อเยื่อบางๆ หุ้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่อนและยอดอ่อนใช้เป็นผักแกล้มลาบ หลู้ น้ำพริกปลาร้า ผลสุกมีรสเปรี้ยว ใช้ปรุงส้มตำ น้ำพริกตาแดง ตำมะม่วง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผล แก้ เ ลื อ ดออกตามไรฟั น แก้ ธ าตุ พ ิ ก าร แก้ บ ิ ด แก้ ด ี พ ิ ก าร แก้ โรค ขาดแคลเซี่ยม ทำให้ชุ่มคอ เมล็ดแก้ไข้มีพิษร้อน แก้ร้อนในกระหายน้ำ ๔
  • 14. ชื่ออื่น แมงลัก อีตู่ กอมก้อขาว เป็นไม้ล้มลุก ต้นสูงประมาณ ๓๐ – ๙๐ เซนติเมตร ทุกส่วนมีกลิ่นเฉพาะ ลำต้นสี่เหลี่ยม กิ่งอ่อน มีสีม่วงแดงแกมเขียว ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรี กว้างประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร ขอบใบหยักแบบฟันเลือยห่างๆ ดอก ออกเป็นช่อทีปลายยอด กลีบเลียงและกลีบดอกต่างแยกเป็น ๒ ปาก กลีบดอกสีขาว ่ ่ ้ ปากล่างมีแถบสีม่วงแดงตามยาว ใบประดับสีเขียวแกมม่วง ผล เป็นผลแบบแห้งมี ๔ ผลย่อย การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อนลวกรับประทานร่วมกับน้ำพริก ใบสดรับประทานกับขนมจีน ใส่แกงหน่อ แกงแค แกงอ่อม ดับกลิ่นคาวในอาหาร ใบสดแก้ท้องอืดเฟ้อ น้ำมันหอมระเหยที่มีในใบช่วยการบีบตัวของ ลำไส้เล็ก สามารถขับลมในลำไส้ได้ดี ๕
  • 15. ชื่ออื่น ปีบ ก้านของ กาซะลอง กาซะลอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๕ เมตร ลำต้นเปลาตรงเปลือก หนา สีเทาอมเหลือง แตกเป็นร่องหรือเป็น สะเก็ดเล็กๆ ตามลำต้นและกิ่งก้าน ใบ ออก เป็นช่อ แต่ละช่อประกอบด้วยใบเล็กๆ รูปไข่ ขอบใบเรี ย บหรื อ อาจหยั ก ห่ า งๆ ปลายใบ แหลมเป็นติ่งยาว โคนใบมน ดอก สีขาว กลิ ่ น หอมอ่ อ นๆ ออกรวมกั น เป็ นช่ อ โตๆ ตามปลายกิ่ง ดอกรูปแตรเรียวยาวได้ถึง ๖ เซนติ เ มตร ปลายดอกห้ อ ยย้ อ ยลง ปลายดอกแยกออกเป็น ๕ แฉก ดอก จะบานในเวลากลางคืน ผล เป็นฝัก แบนๆ ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร หั ว และปลายฝั ก แหลมภายใน มีเมล็ดยาวสีขาว มีกลีบทำให้ปลิว ไปตามลมได้ระยะไกล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่ อ นย่ า งไฟให้ ห อมหรื อ นำมาต้ ม รั บ ประทานร่ ว มกั บ น้ำพริก ลาบ หรืออาหารที่มีรสจัด ประโยชน์ทางสมุนไพร ดอกรักษาริดสีดวงจมูก ต้มน้ำดื่มแก้ไอ ราก บำรุงปอดและ รักษาวัณโรค ๖
  • 16. ชื่ออื่น กุ่มน้ำ (ทั่วไป) กุ่มน้ำเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงถึง ๒๐ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๔๐ เซนติเมตร แผ่กิ่งก้านสาขามาก ใบ ออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมี ๓ ใบรูปหอก กว้าง ๑.๕ – ๖.๕ เซนติเมตร ยาว ๔.๕ – ๒๓ เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบ สอบแคบ เนื้อใบหนามันเป็นแผ่นหนัง เส้นกลางใบมีสีค่อนข้างแดงผิวใบด้านล่าง จะมีละอองสีเทาปกคลุมก้านใบแข็งยาว ๔ – ๑๔ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว ๑๐ – ๑๖ เซนติเมตร มี ๒๐ – ๑๐๐ ดอก กลีบรองดอกรูปไข่ปลายแหลม กลีบดอกกว้าง ๑.๕ – ๒ เซนติเมตร ยาว ๑.๕ – ๓ เซนติเมตร เกสรตัวผู้มีสีม่วง มี ๑๕ – ๒๕ อัน ดอกเมื่อ บานจะมีสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อแก่ ผล รูปรียาว ๕ – ๘ เซนติเมตร เปลือกหนามีสะเก็ดบางๆ เมื่อสุกจะมีสีเทา การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อน และดอกอ่อนนำมาดองกับเกลือรับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก แดง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกปลาร้า หรือยำกับปลาทู ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผล แก้ไข้ ใบขับเหงื่อ แก้ไข้ แก้ปวดเส้น ดอกแก้เจ็บตา เจ็บคอ เปลือกต้น แก้ไข้ ขับน้ำดี ระงับพิษที่ผิวหนัง ขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ๗
  • 17. ชื่ออื่น ก่าม กุ่มบก เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๗ – ๑๐ เมตร ใบ เป็นใบประกอบ มี ๓ ใบย่อย กว้าง ๑๓ – ๑๕ เซนติเมตร ยาว ๑๒ – ๑๓ เซนติเมตร มีใบย่อย กว้าง ๒.๗ – ๕ เซนติเมตร ยาว ๖ – ๙ เซนติเมตร ก้านใบย่อยยาวประมาณ ๐.๕ เซนติเมตร แผ่นใบคล้ายกระดาษ รูปไข่กลับ โคนใบรูปลิ่ม ปลายใบป้าน ขอบเรียบ ผิวใบทั้ง ๒ ด้านเกลี้ยง ดอก เป็นช่อ แบบกระจะ ดอกย่อยมีก้านเรียงสลับบนแกนกลาง ช่อดอกยาว ๘ – ๙ เซนติเมตร มีใบประดับคล้ายใบดอกดอกย่อย มีเส้น ผ่าศูนย์กลาง ๒.๕ – ๓ เซนติเมตร ก้านดอกย่อย ยาว ๓.๕ - ๕ เซนติเมตร กลีบเลี้ยงมี ๕ กลีบ โคนติดกัน กลีบดอกมีจำนวน ๔ กลีบ สีขาวรูปรี ปลายมน มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ที่โคนติดกับก้านชูเกสรเพศเมีย ก้านชูเกสรเพศผู้สีชมพูยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร เกสรเพศเมียมี ๑ อัน อยู่เหนือวงกลีบมีสีขาวครีม ยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร ผล กลมเกลี้ยงเปลือกแข็ง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓ เซนติเมตร ก้านผลยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๘ ยอดอ่อน ดอกอ่อน นำมาดองกับน้ำเกลือรับประทานเป็นผักจิ้มร่วมกับ น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกตาแดง ยำกับปลาทูนึ่ง ผล ขับลม แก้กลากเกลื้อน เปลือกต้น แก้ปวดท้อง บำรุงไต บำรุง หัวใจ แก้บวม
  • 18. ชื่ออื่น สันพร้าหอม เกี๋ยงพาลาบ เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร ลำต้นสีแดง ทุกส่วนเมื่อขยี้ดมมีกลิ่นหอม ใบ ออกเป็นกระจุก แคบเรียว เมื่อยังอ่อนขอบใบและเส้นกลางใบด้านท้องใบมีสีแดง และมีขนประปราย ใบ ยาวประมาณ ๒๐ – ๒๕ เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลม ก้านใบสั้น ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด สีขาวอมชมพูอ่อน ๆ เป็นกระจุกเล็กๆ เมล็ด ขนาดเล็ก ที่ปลายเมล็ดมีขนหรือ แพพพัส ช่วยในการกระจายพันธ์ุ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ หลู้ ส้า น้ำพริก หรืออาหาร ที่มีรสจัด ทั้งต้นแก้ไข้ เป็นยาชูกำลัง ขับเหงื่อ แก้ท้องอืดเฟ้อ ช่วยให้ลมหายใจ สดชื ่ น กระตุ ้ นทางเพศ น้ ำ ต้ ม รากขั บ พิ ษ และช่ ว ยให้ ป ระจำเดื อ น เป็นปกติ ๙
  • 19. ชื่ออื่น ข่าป่า ข่าลิง ข่าแกง เป็นไม้ล้มลุกข้ามฤดู สูงประมาณ ๑.๕ – ๒ เมตร ลำต้นอยู่ใต้ดิน (เหง้า) ขนาดเล็ก ลักษณะเป็นข้อๆ และ ปล้องเห็นได้ชัดเจน ส่วนที่อยู่เหนือดินจะเป็นก้านและใบ ใบ รูปไข่ยาว หรือรูปรีขอบขนาน ปลายใบแหลมกว้างประมาณ ๔ – ๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๘ – ๑๐ เซนติเมตร สีเขียวเข้มเป็นมัน ออกสลับมีกาบหุ้มลำต้น ดอก ออกเป็นช่อที่ยอด ก้านดอกยาว ดอกย่อยมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาวกระสีน้ำตาล โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกออกเป็น ๓ กลีบ กลีบที่โตสุดมีริ้วสีแดง ผล กลม เมื่อสุกจะเป็นสีส้มภายในผลจะมีเมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๐ เหง้า ใช้เป็นเครื่องปรุงน้ำพริก ต้นอ่อน (หน่อ) ต้มรับประทานร่วมกับ น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม เหง้า แก้กามโรค แก้ปวดท้อง แก้จุกเสียดแน่น ต้น แก้ฝีดาษ ฝีฝักบัว ใบ แก้โรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
  • 20. ชื่ออื่น ข่า ข่าหยวก ข่าหลวง เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๑.๕ – ๒ เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดิน หรือเหง้าลักษณะเป็นข้อและปล้องชัดเจน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ รูปหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้างประมาณ ๗ – ๙ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๐ – ๓๐ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาวโคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ส่วนปลายแยกเป็น ๓ กลีบ กลีบที่โตที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่ ผล เป็นผลแห้ง รูปกลมแตกได้ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร หน่ออ่อน ต้ม ลวก รับประทานร่วมกับน้ำพริก เหง้า ใช้ปรุงอาหาร ดับกลิ่นคาว เหง้าสดหั่นฝอยใส่ลาบเนื้อ ลาบปลา เหง้าต้มน้ำดื่ม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม เหง้าสดโขลกผสม เหล้าโรงทาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน ๑๑
  • 21. ชื่ออื่น ขิงหยวก เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๓๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีนวล มีกลิ่น เฉพาะ แทงหน่อหรือลำต้นเทียมตังขึนเหนือผิวดิน ใบ เป็นใบเดียว เรียงสลับ ้ ้ ่ รูปขอบขนานแกมใบหอก กว้างประมาณ ๑ – ๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อแทงออกจากเหง้า กลีบดอกสีเหลือง แกมเขียว ใบประดับสีเขียวอ่อน ผล เป็นแบบผลแห้งมี ๓ พู การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ขิง ขิงแกลง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๒ เหง้ า อ่ อ นรั บ ประทานเป็ น เครื ่ อ งเคี ย งใน เมี ่ ย งคำ ยำ ยอดอ่ อ น รับประทานเป็นผักสดร่วมกับอาหารที่มีรสจัด เหง้าแก่ทั้งสด และแห้ง เป็นยาขับลม แก้ท้องอืด แก้ไอ ขับเสมหะ
  • 22. ชื่ออื่น ขี้เหล็กบ้าน ขี้เหล็กใหญ่ ขี้เหล็กกินดอก ผักจี้ลี้ ขี้เหล็ก เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง ๘ - ๑๕ เมตร ลำต้นมักขดงอเป็นปุ่มปม เปลือก สีเทาหรือน้ำตาลดำ แตกเป็นร่องสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ยอดอ่อนและใบอ่อน ออกเป็ น สี แดงเรื ่ อ ๆ ใบ ออกเป็ นช่ อ แบบขนนกช่ อ ติ ด เรี ย งสลั บ ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร แต่ละช่อมีใบย่อยรูปขอบขนานแคบๆ กว้าง ๑ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร ติดเป็นคู่ตรงข้ามกัน ๕ - ๑๒ คู่ ที่ปลายสุดของช่อเป็นใบเดี่ยว ดอก สีเหลือง ออกเป็นช่อโตๆ ที่ปลายกิ่ง ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ก้านช่อย่อยมักติดสลับเวียนกัน ดอกจะเริ่มบานจากโคนช่อสู่ปลายช่อ ผล เป็นฝักแบนสีคล้ำๆ ยาวได้ถึง ๓๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดเรียงตัวตามขวางมีประมาณ ๒๐ – ๓๐ เมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกอ่อน ใช้แกง ใบ แก้ระดูขาว ถ่ายพิษไข้ ดองสุราดื่มแก้อาการนอนไม่หลับ แก่น แก้เหน็บชา ขับโลหิต แก้กามโรค แก้หนองใน ถ่ายเส้น ๑๓
  • 23. ชื่ออื่น ฝอยทอง ผักไหม ฝอยไหม เครื อ เขาคำ เป็ น พื ช ล้ ม ลุ ก เจริ ญ เติ บ โตบนต้ น ไม้ อ ื ่ น โดยดูดอาหารจากต้นไม้ที่เกาะอาศัย ลำต้นเป็นเถาเลื้อยยาวกลม อ่อนนุ่มสีเหลืองแตกกิ่งมาก ใบ มีลักษณะเป็นเกล็ด รูปสามเหลี่ยม เล็ ก ๆ ออกจากลำต้ น แบบสลั บ ใบมี ส ี เหลื อ งเหมื อ นสี ข องลำต้น ดอก มีขนาดเล็ก ดอกเป็นช่อสีขาว มีดอกย่อยจำนวนมาก ปลาย กลีบดอกแยกออกเป็น ๕ กลีบ ลักษณะกลมมน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ลำต้นอ่อน ยอดอ่อน ยำใส่มะเขือ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๔ ทั้งต้น ช่วยห้ามเลือด อุจจาระเป็นเลือด บำรุงไต แก้ปวดเอวและต้นขา
  • 24. ชื่ออื่น แค แคบ้าน แคดอกแดง แคขาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๒ – ๕ เมตร โตเร็วแตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นสีน้ำตาลมีรอยขรุขระ หนา เปลือกในสีชมพู ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยขนาดเล็กเรียงเป็นคู่ประมาณ ๑๐ – ๒๕ คู่ ใบย่อยรูปขอบขนาน ปลายกลมเว้าตื้น มีขนแนบชิดผิวใบทั้ง ๒ ด้าน ขนาดใบยาว ๓ – ๔ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ก้านใบย่อยยาว ๐.๑ – ๐.๒ เซนติเมตร ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อแบบช่อกระจะ มี ๒ – ๔ ดอก ห้อยลงสีขาวหรือสีแดงเข้ม ยาว ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร ก้านดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ยาว ๕ – ๗.๕ เซนติเมตร กว้าง ๓.๕ – ๕ เซนติเมตร ผล ลักษณะเป็นฝักยาว ประมาณ ๒๐ – ๕๐ เซนติเมตร กว้าง ๐.๗ – ๐.๙ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกออกเป็น ๒ ซีก มีเมล็ดอยู่ตรงกลางมีแถวเดียว ลักษณะกลมแบนสีน้ำตาลอ่อน แข็ง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อน ดอก ใช้แกง ลวก นึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริก ยอดอ่อน ใบอ่อน ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้ลม บำรุงหัวใจ ๑๕
  • 25. ชื่ออื่น แคขาว แคป่า แคยอดดำ แคอาว แคนา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ ๑๐ – ๒๐ เมตร ลำต้นเปลาตรงมักแตกกิ่งต่ำเปลือกต้นสีน้ำตาล อมเทาบางทีมีประสีดำ เปลือกในสีนวลหรือน้ำตาลปนเหลืองอ่อนๆ เรือนยอดเป็นพุ่มรูปไข่ค่อนข้างทึบ กิ่งอ่อนเกลี้ยงมีช่องระบาย อากาศทั่วไป ใบ เป็นช่อแต่ละช่อมีใบย่อยรูปรี ๓ – ๗ ใบ ติดตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ส่วนปลายสุดจะเป็นใบเดี่ยวกว้างประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร โคนใบสอบปลายใบเรียวแหลม เนื้อใบบางเกลี้ยง ก้านใบยาวประมาณ ๑ – ๓ เซนติเมตร ดอก โต สีขาวรูปแตร ออกรวมกันเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่ง ช่อยาว ประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร มี ๓ – ๗ ดอก กลีบฐานดอกทรงรูปกรวยปลายด้านหนึ่งจะเป็นจะงอย ผิวคล้ำ โคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอกตอนครึ่งล่าง ส่วนครึ่งบนผายโป่งออกผิวกลีบและขอบกลีบจะย่นเป็นริ้ว ฝัก แบน รูปขอบขนานยาวประมาณ ๘๐ เซนติเมตร ลักษณะคดโค้ง หรือบิดไปมา การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร ๑๖ ดอก ต้ม ลวก บีบน้ำออกเพื่อลดความขม ใช้ยำ และจิ้มน้ำพริก ดอก ขับเสมหะ โลหิต และลม ขับผายลม เมล็ดแก้ปวดประสาท แก้โรคชัก เปลือก แก้ท้องอืด
  • 26. ชื่ออื่น งิ้วแดง งิ้วบ้าน งิ้วเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ ๒๕ เมตร แตกกิ่ง ก้านสาข าตามเรือนยอด ลำต้นมีหนามแหลมคม ทั่วไป ใบ แบบใบรวมประกอบขึ้นจากใบย่อย รูปร่างแหลมยาว มี ๕ – ๗ ใบ รวมกันยาว ประมาณ ๓๐ เซนติ เมตร ใบย่ อ ยเรี ย งกั น คล้ายนิ้วมือ ดอก สีแดงขนาดใหญ่มีเกสร รวมกันหลายกระจุกอยู่ในวงล้อมเป็นของ กลีบทั้ง ๕ กลีบรองดอกมีสีเขียว ลักษณะ เป็นรูปถ้วยมนแข็งกลางดอกจะมีเกสรซ้อนเรียงกัน อยู ่ ๓ ชั ้ น และตามกลี บ ดอกจะมี ข นมั น เป็ น เงาปกคลุ ม อยู ่ เวลาออกดอกจะทิ้งใบ ผล มีขนาดใหญ่ รูปมนรีปลายแหลม ทั ้ ง สองข้ า ง ผลอ่ อ นมี ส ี เขี ย วแล้ ว เปลี ่ ย นเป็ น สี น ้ ำ ตาลตอนแก่ เปลือกแข็ง ยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ภายในมีใย เป็นปุยสีขาวและมีเมล็ดสีดำจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร เกสรดอกงิ้วตากแห้งใช้โรยหน้าขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงแค ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร ดอกตากแห้งนำมาต้มกับน้ำแก้ท้องร่วง เปลือกต้นแก้ กระเพาะอาหารอักเสบ แก้ท้องร่วง ๑๗
  • 27. ชื่ออื่น สะค้าน สะค้านเนื้อ จะค่าน เป็นไม้เลื้อย ลำต้นอวบ ผิวเป็นตุ่มเล็กๆ แตกกิ่งได้มาก ข้อโป่งนูน ก้านใบยาว ๕ - ๗ เซนติเมตร ใบบางเหนียวสีเขียวอ่อน เมื่อใบแห้ง แผ่ น ใบและเส้ น ใบมี ส ี แ ดงคล้ า ยสี อ ิ ฐ แผ่ น ใบรู ป ไข่ แ กมรู ป หอก กว้ า ง ๗.๘ - ๑๐ เซนติเมตร ยาว ๑๔ - ๒๐ เซนติเมตร ฐานใบรูปลิ่ม ปลายใบแหลม เส้นใบด้านท้องใบนูนมีจำนวน ๖ - ๗ เส้น ดอก เป็นช่อห้อยลงช่อดอกเพศผู้ สีเหลือง ก้านช่อดอกยาว ๑ - ๒ เซนติเมตร แกนช่อดอกมีขนใบประดับรูปกลม ด้านล่างมีขน ผล รูปไข่หรือรูปรี ช่อผลยาว ๑๕ - ๒๕ เซนติเมตร ไม่มีก้านผล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๘ เถาใส่แกงแคเป็นเครื่องชูรส โดยปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นแว่นๆ หรือใส่แกงมะหนุน ใบอ่อนรับประทานเป็นผักแกล้มกับลาบ ก้อย ใบ ขับลมในลำไส้ แก้แน่นจุกเสียด ดอกแก้ลมอัมพฤกษ์ ผลแก้ลม ในทรวงอก รากแก้ไข้ แก้จุกเสียด รักษาธาตุ
  • 28. ชื่ออื่น ตะไคร้ ไคร คาหอม หัวซิงไค จะไค เป็นพืชล้มลุก ขึ้นเป็นกอ สูงประมาณ ๑ เมตร ลักษณะลำต้นเป็นรูปทรงกระบอกแข็ง เกลี้ยง ตามลำต้นมักมีไข สีขาวปกคลุม มีอายุหลายปี ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว แตกใบออกเป็นกอ รูปขอบขนานปลายใบแหลม ผิวใบสากทั้งสองด้าน เส้นกลางใบแข็ง ขอบใบมีขนขึ้นประปราย กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๖๐ – ๙๐ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อ กระจาย ช่อดอกย่อยมีก้านออกเป็นคู่ๆ ในแต่ละคู่จะมีใบประดับรองรับ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ลำต้น ใช้ปรุงอาหารเพื่อดับกลิ่น ใส่แกง ซอยใส่ยำ ลาบ ส้า ทั้งต้น รักษาอาการหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืดเฟ้อ ขับลม บำรุงธาตุไฟให้เจริญ ๑๙
  • 29. ชื่ออื่น อีลอก บุก อีลอกเขา ดอกก้าน เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน ลักษณะกลมผิวขรุขระมีรากโดยรอบ ในฤดูฝนจะมีก้านใบงอกโผล่ขึ้นมาเหนือดิน ลักษณะอวบน้ำไม่มีแกนยาวประมาณ ๕๐ – ๑๒๐ เซนติเมตร มีลายสีเขียว น้ำตาล และดำ ทั้งแบบเป็นพื้นและจุดด่างหรือแถบ ลายแตกต่างกันไป ใบ มีก้านใบย่อยแตกออกจากปลายก้านใบ ๒ – ๓ ก้าน และมีใบประกอบ ๑๐ – ๑๒ ใบ ออกเป็นคู่รูปหอก ยาวประมาณ ๑๕ – ๒๕ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๕ – ๑๐ เซนิเมตร ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มหรือบางชนิดมีจุดสีขาว กระจายอยู่ทั่วไปมีหูใบติดก้านใบย่อย ดอก มีก้านยาวออกบริเวณเหง้าลักษณะคล้ายก้านใบ มีดอกอยู่ตรงปลายก้าน มีเกสร เป็นแท่งอยู่ตรงกลาง ผล ลักษณะกลม สีเขียวเรียงติดกันเป็นแท่งยาวประมาณ ๕ – ๘ เซนติเมตร และมีกลีบเลี้ยงห่อด้านหลัง ผลสุกสีแดงส้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ก้านใบและก้านดอกลอกเปลือกออกแล้วนำมาแกงอ่อม แกงหน่อและ แกงร่วมกับเห็ดลม เหง้าใช้พอกกัดฝีหนอง ข้อควรระวัง ต้องปรุงให้สุกก่อนบริโภค ๒๐
  • 30. ชื่ออื่น เนระพูสีไทย ค้างคาวดำ ว่านหูเลย ม้าถอนหลัก ดีงูว่า เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ลักษณะรูปทรงกระบอก ลำต้นสูงประมาณ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร ใบ ออกเรียงเวียนสลับ เป็นรัศมีวงรี รูปขอบขนานถึงรูปหอก กว้างประมาณ ๘ – ๑๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๒๐ – ๖๐ เซนติเมตร ก้านแผ่เป็นครีบ ดอก ลักษณะคล้ายค้างคาวบิน ออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม มีดอกย่อย ๔ – ๖ ดอก สีม่วงแกมเขียว ถึงม่วงดำ มีใบประดับ ๒ คู่ สีเขียวถึงสีมวงดำ เรียงตังฉากกัน ผล เป็นผลสด รูปหอกขนานแกนสามเหลียม มีสนเป็นคลืนตามยาว ่ ้ ่ ั ่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ใบอ่อน ยอดอ่อน ลวก ต้ม รับประทานร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า หลู้ หัว หั่นเป็นแว่น ๆ ดองเหล้า ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด ๒๑
  • 31. ชื่ออื่น ดีปลีเชือก ประดงข้อ บี้ฮวด ดีปลี เป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันไปตามไม้อื่น มีรากที่ข้อสำหรับยึดเกาะ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับรูปไข่แกมขอบขนาน กว้างประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๗ – ๑๐ เซนติเมตร ผิวเกลี้ยงเป็นมันโคนเบี้ยวปลายแหลม ขอบเรียบ มีเส้นใบ ออกจากโคนใบจำนวน ๓ – ๕ เส้น ดอก ออกเป็นช่อมีดอกย่อยเรียงแน่นบนช่อดอก ช่อดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ช่อดอกตัวผู้ยาวประมาณ ๔ – ๕ เซนติเมตร ช่อดอกตัวเมียยาวประมาณ ๓ – ๔ เซนติเมตร ผล อัดกันแน่นบนแกนช่อ ยาว ประมาณ ๒ – ๕ เซนติเมตร ผลเมื่อสุกจะเป็นสีน้ำตาลแกมแดง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๒๒ ผลใส่แกงแค ใส่แกงโฮะ ทำเครื่องปรุง ผล กลิ่นหอม เผ็ดคล้ายพริกไทย เป็นยาขับลม แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยย่อยอาหาร เจริญอาหาร ขับระดู ทำให้แท้ง
  • 32. ชื่ออื่น ทองหลางน้ำ ทองหลางหนาม ทองหลางบ้าน ตอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ ๑๐ – ๑๗ เมตร ตามกิ่งก้านมีหนามแหลมคมทั่วไป ใบ เป็นใบ ประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ ยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร เนื้อใบหนาเหนียว เมื่อแก่ผิวใบด้านล่างมีแป้งขาวปกคลุม ใบย่อยตอนปลายยอดรูปไข่ขอบขนาน กว้างประมาณ ๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อยาว ประมาณ ๑๗ มิลลิเมตร มีกลีบดอก ๕ กลีบขนาดไม่เท่ากัน กลีบที่หนาจะใหญ่ที่สุด ส่วนกลีบในสุดจะเล็กและแคบที่สุด กลีบดอกมีสีม่วงถึงแดงเข้ม ดอกจะออกในช่วงที่ผลัดใบ ผล เป็นฝักลักษณะยาวตรง ยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร กว้าง ประมาณ ๒ เซนติเมตร มีสีน้ำตาลอ่อน เมล็ด รูปไตยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๗ มิลลิเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่ อ น ใบอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ น้ ำ พริ ก ตาแดง น้ำพริกปลาร้า และทำเมี่ยงคำ เปลือกต้น แก้เสมหะ แก้ลมพิษ แก้ตาแดง ราก แก้พยาธิในท้อง แก้เสมหะและลม แก้ไข้หวัด ๒๓
  • 33. ชื่ออื่น ต้างป่า ต้างผา ต้าง ต้าง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๓ – ๖ เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับหนาแน่นอยู่ที่ปลายยอด รูปโล่ ขอบใบ หยักเว้าลึกเป็นพู ๕ – ๙ พู แผ่นใบสีเขียวแกมน้ำตาล ผิวใบมีขนละเอียดสีน้ำตาล ดอก ออกเป็นช่อที่ลำต้นใกล้กับปลายยอด บริเวณง่ามใบ ช่อดอกมีรูปร่างกลมรีติดกันเป็นกระจุกกลม กระจุกละ ๓๐ – ๔๐ ดอก ช่อหนึ่งอาจมีหลายกระจุก กลีบดอกสีขาว อมเหลือง มีเกสรตัวผู้เป็นเส้นยาว ผล กลมรูปถ้วยคว่ำ มี ๓ พูรวมกันเป็นกระจุกกลมสีเขียวและมีขนสีน้ำตาลปกคลุม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ดอกอ่อนนำมาลวกหรือต้มสุกรับประทานกับน้ำพริกต่างๆ แกงกับ ปลาแห้ง หรือแกงกับปลาแห้งร่วมกับปลีกล้วย ดอกอ่อนช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ตัวร้อน กระหายน้ำ บำรุงร่างกาย ประโยชน์ทางสมุนไพร ๒๔
  • 34. ชื่ออื่น ตาลโตนด ตาลใหญ่ ตาล เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ ๓๐ เมตร ลำต้นกลมเรียว ไม่แตก กิ่งก้านสาขา เปลือกเป็นเสี้ยนแข็ง ใบ แบบใบเดี่ยวเรียงสลับหนาแน่น บริเวณเรือนยอดรูปพัด แต่ละแฉกคล้ายกระดาษกว้าง ๖ – ๘ เซนติเมตร ยาวได้ถึง ๑๔๐ เซนติเมตร ปลายแยกเป็น ๒ แฉก แผ่นใบมีเกล็ดเล็กๆ ทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบเป็นกาบหนาแข็ง ขอบเป็นหนามคมสีดำ ดอก เป็นช่อ แตกแขนงขนาดใหญ่ ดอกย่อยแยกเพศอยู่คนละต้นดอกตัวผู้เป็นช่อทรง กระบอกเป็นงวงดอกตัวเมียเป็นช่อเรียกว่า จั่น และเป็นส่วนที่ให้น้ำตาล ผล ทรงกลมติดเป็นทลายเมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ดอกอ่อน ทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย เรียก ปลีตาล ใช้แกงปลีตาล ประโยชน์ด้านสมุนไพร ราก แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้ ชูกำลัง ใบ แก้อาการกระสับกระส่ายหลังคลอด งวง ต้มน้ำดื่มแก้พิษตานซาง กาบใบ อังไฟแล้วบิดเอาน้ำแก้ท้องร่วง ๒๕
  • 35. ชื่ออื่น คูน ทูน กระดาษขาว ตูน เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ก้านใบแทงออกจากเหง้า ยาว สีเขียว มีไขเคลือบที่ผิว ใบ ลักษณะ ปลายมนฐานใบเว้าริมใบเรียบ ผิวใบมัน สีเขียว ก้านใบมีไขเคลือบมองดูมีสีขาวนวล เนื้อก้านใบกรอบน้ำมีรูอากาศแทรกอยู่ใน เนื้อใบ กว้างประมาณ ๑๖ – ๑๗ นิ้ว ยาวประมาณ ๑๑ – ๑๙ นิ้ว ดอก ออกเป็นแท่งเดี่ยวๆ ดอกย่อยแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน ลักษณะฉ่ำน้ำ ผล เป็นผลสดสีเขียว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๒๖ ลำต้นรับประทานสด แกงส้ม แกงกะทิ หัวใต้ดิน รักษาแผล แก้น้ำกัดเท้าและกัดหนอง
  • 36. ชื่ออื่น สาหร่ายน้ำจืด เทา เตา เป็นพืชน้ำพวกสาหร่าย ลักษณะเป็นเส้นยาวเล็กๆ รวมกันเป็นกลุ่มสีเขียว ไม่แตกกิ่งก้าน เมื่อสัมผัสจะเป็น เมือกลื่น เกิดในน้ำนิ่งและสะอาด เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ทั้งต้นใช้ยำ บำรุงร่างกายเพราะมีโปรตีนสูง ข้อควรระวัง ผู้สูงอายุไม่ควรรับประทาน จะทำให้เกิดอาการช้ำบวม ๒๗
  • 37. ชื่ออื่น ถั่วพู ถั่วปู เป็นไม้เลื้อยลำต้นเลื้อยพันไม้อื่น ยาวประมาณ ๕ เมตร ใบ เป็นใบประกอบชนิด ๓ ใบ ใบย่อยรูปไข่กว้าง ปลายใบแหลม กว้าง ๖ เซนติเมตร ยาว ๑๐ เซนติเมตร ฐานใบแหลม เส้นใบมองเห็นชัดเจน ดอก ออกเป็นช่อสีม่วงอ่อน ผล เป็นฝักยาวทรงสี่เหลี่ยมยาว ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร มี ๔ ปีกตามยาวริมปีกจัก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๒๘ ฝักรับประทานสดหรือนึ่งสุกจิ้มน้ำพริก นำมาแกงแคร่วมกับผักชนิดอื่น ใบช่วยย่อยอาหารจำพวกกรดไขมันที่อิ่มตัว ฝักแก้ร้อนใน บำรุงกำลัง ราก แก้ปวดมวนท้อง
  • 38. ชื่ออื่น ถั่วน้อย ถั่วลันเตาเปลือกหนา ถั่วลันเตา เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเลื้อยกึ่งพุ่ม ใบ เป็นใบประกอบมีใบย่อย ๓ ใบออกสลับกัน ปลายใบจะเปลี่ยนรูปเป็น มือเกาะ ดอก ออกเป็นช่อสีขาวตามซอกใบจะเริ่มบานเมื่อมีใบ ๙ – ๑๐ ใบ ผล เป็นฝักแบนโค้ง มีหลายขนาดขึ้นกับจำนวน เมล็ด ในหนึ่งฝักจะมีเมล็ดประมาณ ๒ – ๑๐ เมล็ด ผิวเรียบและเหี่ยวย่น ฝักที่ผิวเหี่ยวย่นจะมีรสหวานกว่าฝักที่ผิวเรียบ ความยาวของฝักประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร เมล็ด มีลกษณะกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๕ เซนติเมตร ั การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ฝักอ่อนใช้ผัด ลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ และแกงแครวมกับผักชนิดอื่น เถารักษาอาการตับทรุด ตับพิการ เมล็ด บำรุงไขมัน บำรุงเส้นเอ็น ๒๙
  • 39. ชื่ออื่น ถั่วเหลือง (ทั่วไป) ถั่วเหลือง เป็นพืชล้มลุก ต้นทรงพุ่ม สูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตร ลำต้นแตกกิ่ง ๓ – ๘ กิ่ง มีขนสีขาวน้ำตาลปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นใบรวมประกอบด้วยใบย่อย ๓ ใบ รูปกลมรี ดอก ขนาดเล็กสีขาวหรือม่วงเกิดจากมุมใบและปลายยอดเป็นดอกสมบูรณ์ เพศจำนวน ๓ – ๑๕ ดอกต่อช่อ ผล เป็นฝักรูปยาวโค้ง ภายในมีเมล็ดจำนวน ๒ – ๓ เมล็ด เรียงตัวตามแนวนอน เปลือกหุ้มเมล็ดมีสีเหลือง เขียว น้ำตาล และดำ ภายในเมล็ดมีใบเลี้ยงสีเขียวหรือเหลืองจำนวน ๒ ใบหุ้มต้นอ่อนอยู่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร เมล็ด นำมาทำเครื่องปรุงรส (ถั่วเน่า) ใช้แทนกะปิและน้ำปลา มีทั้งแบบเปียกและ แบบแห้ง ประโยชน์ทางสมุนไพร ถั่วเหลืองมีแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี ๑ วิตามินบี ๒ ป้องกันและรักษา อาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด อาการครั่นเนื้อครั่นตัว แก้อาการหน้ามืดวิงเวียนศีรษะ ของสตรีที่หมดประจำเดือน บำรุงร่างกาย บำรุงเส้นเอ็น ๓๐
  • 40. ชื่ออื่น หมากหัวต่อ หมากติดต่อ ตีนสิ้นบ่อหี่ เถาวัลย์ด้วน เป็นไม้เลื้อยที่พาดพันไปตามไม้อื่น ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม กว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร ยาว ประมาณ ๖ เซนติเมตร สีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบ ขอบใบเรียบ ผล ออกเป็นขั้วและติดกัน ลักษณะเป็นฝักเรียงปลายแหลม ภายในมี เมล็ดจำนวนมาก ฝักเมื่อแก่จัดจะแตก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่อนนำมาต้ม ลวก รับประทานร่วมกับ ลาบ หลู้ ส้า น้ำพริก ผลให้วิตามินบี บำรุงธาตุ รากสดต้มน้ำดื่มแก้ปวดบั้นเอว ๓๑
  • 41. ชื่ออื่น ผักชีช้าง หญ้าน้ำมันกบ เทียนทั้งห้า เป็นไม้พุ่มเตี้ยกึ่งเลื้อย ลำต้นมีใบ ประกอบ แบบขนนก มีใบย่อยเป็นฝอยเส้นเล็ก ๆ รอบบริเวณข้อ มักจะเอนนอนราบไปกับพื้นดิน ความสูงประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร ใบ ลักษณะเป็นฝอย เส้นเล็กๆ มีความยาวประมาณ ๑ – ๓ เซนติเมตร เรียงรอบข้อของแต่ละกิ่ง ดอก ออกเป็นช่อตาม ปลายยอดกิ่งและซอกใบ ลักษณะเป็นฝอยขนาดเล็กสีขาวออกเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใช้เป็นผักสด รับประทานกับลาบ ส้า หลู้ ประโยชน์ทางสมุนไพร ลำต้นแก้ซางเด็ก รากแก้เบาหวาน ๓๒
  • 42. ชื่ออื่น นางแลว (ทั่วไป) นางแลว เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอยู่ใต้ดิน แตกใบขึ้นเป็นกอสูงจากพื้นดินประมาณ ๕๐ – ๘๐ เซนติเมตร ใบ ออกเป็นกอ จากลำต้นที่อยู่ใต้ดิน ก้านใบสั้นและกลายเป็นเนื้อเดียวกับใบ รูปร่างเรียวยาวขอบขนานปลายใบแหลม ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่น เล็กน้อย แกนกลางใบเห็นได้ชดเจน ดอก ออกเป็นช่อ สีขาวยาวประมาณ ๘ – ๑๐ เซนติเมตร ดอกย่อยสีขาวอมม่วงหรือสีมวงเข้ม ั ่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ช่อดอก นำมาลวก รับประทานสดเป็นผักจิ้มร่วมกับน้ำพริก แกงกับ ปลาแห้ง แกงผักรวม หรือแกงแคร่วมกับผักชนิดอื่นๆ ราก เจริญอาหาร บำรุงตับ บำรุงน้ำดี ๓๓
  • 43. ชื่ออื่น บวบ บวบกลม มะบวบ บวบหอม เป็นไม้เลื้อยพาดพันไปตามต้นไม้อื่น มีหนวดยาวแตกออกตามข้อ ต้นอ่อนลักษณะกลมมีขนที่อ่อนนุ่ม ขึ้นปกคลุมทัวไป ใบ มีรอยหยักเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก หลังใบสีเขียวแก่สวนท้องใบสีเขียวอ่อน ใบอ่อนจะมีขนปกคลุมมาก ่ ่ ใบมีขนาดกว้างประมาณ ๑๕ – ๒๕ เซนติเมตร เส้นใบนูนเห็นได้ชัดเจน ดอก มีทั้งดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน บางครั้งอาจพบดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกเพศเมียกับดอกเพศผู้อยู่ในช่อเดียวกันและกลีบเลี้ยงดอกจะติดกัน ตรงปลาย จะแยกออกเป็น ๕ กลีบ มีสีเหลืองบริเวณขอบดอกเป็นสีเหลืองขอบดอกเป็นรอยย่น ผล เป็นรูปทรงกระบอกกลม ยาวประมาณ ๑๕ – ๖๐ เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียวมีลายสีเขียว ผลแก่สีเขียวออกเหลืองหรือเขียวเข้มอมเทา ผลเมื่อแก่จะมีเส้นใยเหนียว มีลักษณะเป็นร่างแห เมล็ดเป็นวงรีแบน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๓๔ ผลอ่อน ยอดอ่อน แกงเลียง ผัด ต้ม จิ้มน้ำพริก ใบ ขับระดู ฟอกโลหิต ต้มน้ำดื่มขับปัสสาวะ ขับลม ขับน้ำนม เมล็ด ระบายท้อง ทำให้อาเจียน
  • 44. ชื่ออื่น มะละกอ หมักหุ่ง กล้วยลา บ่ะก้วยเตส เป็นไม้ยืนต้น ลำต้นอ่อนอวบน้ำ ตั้งตรงไม่แตกกิ่งก้าน ลำต้นกลวง ผิวขรุขระ สีน้ำตาล เมื่อใช้มีดสับจะมี ยางขาวไหลซึมออกมา ใบ เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ แผ่คล้ายร่ม ขอบใบหยักเว้าลึก แยกออกเป็น ๗ – ๙ แฉก ออกที่ปลายยอด แบบสลับ ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีขาวหรือเหลืองอ่อน มี ๕ กลีบมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ดอกตัวผู้และ ดอกตัวเมียแยกกันอยู่คนละต้น ผล เป็นผลเดี่ยว รูปร่างกลมยาวรีหรือทรงกระบอก ผลดิบสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในมีเมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาลผิวขรุขระมีเนื้อเยื่อใสหุ้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลดิบ นำมานึ่ง ต้ม รับประทานกับน้ำพริกๆ แกง ทำส้มตำ ยอดอ่อน ดองรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทั้งต้น ขับประจำเดือน ลดไข้ ราก แก้กลาก เกลื้อน ยาง ช่วยกัด แผล รักษาตาปลาและหูด ทำครีมทาแก้ส้นเท้าแตก ๓๕
  • 45. ชื่ออื่น มะกูด มะขูด ส้มกรูด บ่ะกูด เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง ๒ – ๘ เมตร ลำต้ น และกิ ่ ง มี ห นามแข็ ง ยาวปลายแหลม เปลื อ กต้ น เรี ย บ สีน้ำตาลอ่อน ทรงพุ่มโปร่ง แตกกิ่งก้านแผ่กระจาย ใบ ลักษณะคล้าย ใบไม้ ๒ ใบต่อกัน สีเขียวแก่ ผิวเรียบเกลี้ยงเป็นมัน มีต่อมน้ำมัน กระจายอยู่ทั่วไป มีกลิ่นหอมฉุน ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อสั้นๆ ออกตามง่ามใบ กลีบดอกรูปไข่ปลายแหลมสั้นสีขาว ๕ กลีบ มี เ กสรตั ว ผู ้ ๑๘ – ๒๐ อั น เกสรตั ว เมี ย ยาวประมาณ ๓ มิลลิเมตร รังไข่กลม ผล เป็นผลเดี่ยวแบบมีเนื้อลักษณะ ค่อนข้างกลม ผิวเปลือกนอกขรุขระเป็นปุ่มปม มีต่อมน้ำมัน กระจายอยู่ทั่วไป มีจุกที่ขั้วและที่ก้านผลผลอ่อนสีเขียวแก่แล้วจะ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด เมื่อผลแก่ เมล็ดมีจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ผลและใบ ใช้ปรุงอาหาร ซอยใส่ลาบ ส้า ประโยชน์ด้านสมุนไพร น้ ำ บำรุ ง ผิ ว ฟอกเลื อ ดสตรี แก้ ไอ ขั บ เสมหะในลำคอ ใช้ ส ระผม แก้รังแค ๓๖
  • 46. ชื่ออื่น มะขาม มะขามไทย อำเปียล บ่ะขาม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาบริเวณส่วนยอดของ ลำต้น กิ่งและลำต้นแข็งเหนียว เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อนและแตกสะเก็ดเป็นร่องเล็กๆ ทั่วไป ใบ เป็นใบรวมออกเป็นคู่เรียงตามก้านมีประมาณ ๑๐ – ๑๘ คู่ ใบย่อยลักษณะรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมนสีเขียวแก่ ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ ตามบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งๆ จะมี ประมาณ ๑๐ – ๑๕ ดอก กลีบดอกขนาดเล็กสีเหลืองมีประสีแดงตรงบริเวณกลางดอก ผล เป็นฝัก เปลือกนอกเปราะสีเทาอมน้ำตาล ภายในผลมีเนื้อเยื่อแรกๆ จะเป็นสีเหลืองอ่อน แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่จัดหุ้มเมล็ดอยู่ เมล็ดค่อนข้างกลม ผิวเกลี้ยงเป็นมัน สีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม เนื้อเมล็ดสีขาวหรือสีเหลืองอ่อนๆ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบอ่อน ดอก และฝักอ่อน รสเปรี้ยวใช้ปรุงรส อาหาร เช่น ต้มส้ม เนื้อในฝักแก่ใช้เป็นเครื่องปรุงรส เช่น แกงส้ม ใบแก่ ปรุงยาแก้ไอ แก้โรคบิด ขับเสมหะในลำไส้ เนื้อในแก้อาการ ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ เมล็ด เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน ในท้องเด็ก ๓๗
  • 47. ชื่ออื่น มะเขือขื่น มะเขือหืน บ่ะเขือแจ้ เป็นไม้พุ่มมีอายุหลายปี กิ่งเปราะหักง่าย มีหนามแหลมทั่วลำต้น ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันสีเขียว ขอบใบหยักเป็นคลื่น มีหนามที่ท้องใบและหลังใบ ขอบใบและก้านใบบริเวณยอดอ่อนมีขนอ่อนปกคลุม ดอก ออกเดี่ยวสีม่วง ออกที่ปลายยอดเกสรสีเหลือง กลีบเกลี้ยงสีขาว เมื่อเกิดผลกลีบเลี้ยงจะติดอยู่ที่ขั้วผล ผล เปลือกหนาเหนียวมีเมล็ดจำนวนมาก ผลดิบมีสีเขียวหรือรอยประสีขาว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง ขั้วผลมีหนามแหลมคม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๓๘ ผลดิบ รับประทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริก ผลสุกทุบให้เมล็ดหลุด แล้วล้างน้ำให้สะอาดแช่น้ำเกลือใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ ราก แก้ไอ ลดไขมันในเลือด เมือกจากผลขูดตากแดดดองเหล้าโดยใช้ อัตราส่วน ๓๒ ลูก / เหล้าขาว ๑ ขวด ดื่มแก้ปวดเมื่อย
  • 48. ชื่ออื่น มะเขือม่วง มะเขือจานมะพร้าว บ่ะแขว้งคม บ่ะเขือปั๋ง เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร ลำต้นมีขนนุ่มอ่อนปกคลุมทั่วไป ใบ ออกสลับกันรูปร่างค่อนข้าง กลม โคนใบเบี้ยวปลายใบแหลม ขอบใบหยักหรือเป็นคลื่นบริเวณ ท้องใบมีขน ดอก ออกเดี่ยวๆ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกมี ๕ แฉก โคนเชื ่ อ มกั น เป็ นกรวยกลี บ ดอกสี ม ่ ว ง ผล สี ม ่ ว งเขี ย ว ลักษณะกลมยาวมีกลีบเลี้ยงติดที่ขั้วผล ผิวเปลือกบางเรียบเกลี้ยง เป็นมัน เมล็ดมีจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใช้ประกอบอาหารต่างๆ ผลดิบรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ประโยชน์ทางสมุนไพร ผลสดใช้พอกบริเวณแผลอักเสบ ฝีหนอง ลำต้นและรากต้มน้ำดื่มแก้บิด ดอกเผาให้เป็นเถ้าบดให้ละเอียดแก้ปวดฟัน ๓๙
  • 49. ชื่ออื่น มะเขือเปราะ บ่อเขือผ่อย เป็นไม้พุ่ม กิ่งก้านเปราะหักง่าย ใบ เป็นใบเดี่ยว สีเขียว ออกสลับกัน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ใบและก้านใบ มีขนปกคลุมทั่วไป ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีม่วง ออกที่ปลายยอด เกสรสีเหลือง กลีบเลี้ยงสีขาว เมื่อเกิดผล กลีบเลี้ยงจะยังคงติดอยู่ ที่ขั้วผล ผล เป็นผลเดี่ยว เปลือกหนากรอบ สีเขียว หรือสีขาว หรือประสีขาว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ด จำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๔๐ ผลอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า ผลสุก ทุบเอา เมล็ดออก ดองน้ำเกลือ รับประทานกับน้ำพริก ราก แก้ไอ ลดไขมันในเลือด
  • 50. ชื่ออื่น มะเขือเทศ , มะเขือเครือ บ่ะเขือส้ม เป็นไม้พุ่มเตี้ยกึ่งเลื้อย แตกกิ่งก้านมาก ลำต้นสีเขียว มีขนนุ่มปกคลุมและมีเมือกเหนียวมือ ใบ เป็น ใบประกอบออกตรงกันข้าม ก้านใบยาว ๓ - ๕ เซนติเมตร มีใบ ย่อย ๕ - ๙ ใบ ใบย่อยรูปสามเหลี่ยม ขอบใบหยัก แผ่นใบขรุขระ เล็กน้อย มีขนนุ่มปกคลุมสีเขียวเข้ม ขนาดใบย่อย กว้าง ๒ - ๔ เซนติเมตร ยาว ๓ - ๖ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามง่ามใบ กิ่งหรือปลายยอดจำนวน ๘ - ๒๕ ดอกต่อช่อ กลีบดอกมี ๕ แฉก สีเหลืองอยู่ตรงกลางดอก มีถุงเกสรตัวผู้ล้อมรอบก้านเกสรตัวเมีย ผล กลมหรื อ ค่ อ นข้ า งกลมหรื อ แป้ น แตกต่ า งกั นตามสายพั นธ์ ุ เมื่อสุกมีสีแดง ภายในมีเมล็ดเรียงตัวเป็นช่องๆ และมีเมือกวุ้นห่อหุ้ม เมล็ด เมล็ดกลมแบนสีน้ำตาลอ่อน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ผลสุกใช้ปรุงอาหารประเภทต้ม แกง, ใส่น้ำเงี้ยว, ยำ หรือ รับประทานสด ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผล เป็นยาระบาย เจริญอาหาร ๔๑
  • 51. ชื่ออื่น มะเขือยาว มะเขือจานมะพร้าว มะเขือกระโปกแพะ บ่ ะ เขื อ หำม้ า เป็ น ไม้ ล ้ ม ลุ ก ต้ น สู ง ประมาณ ๑ เมตร มีลำต้นแข็งแรงสีเขียวหรือสีม่วง มีขนนุ่มสั้น ปกคลุมทั่วไปหรืออาจมีหนามเล็กๆ ส่วนบนแตกกิ่งก้าน สาขาหนาทึบ ใบ ออกสลับกัน รูปค่อนข้างกลม โคนใบ เบี้ยวปลายแหลม ขอบใบหยักหรือเป็นคลื่น ท้องใบมีขนนุ่ม ปกคลุม ดอก ออกเป็นช่อหรือดอกเดี่ยวสีม่วง มีกลีบดอก ๕ กลี บ โคนกลี บเชื่อมติดกัน ส่วนปลายแยกออกเป็ น ๕ แฉก กลางดอกมีเกสรตัวผู้ ๕ อัน เกสรตัวเมีย ๑ อัน อยู่ติด กับกลีบดอก ก้านเกสรมีสีเหลือง ผล กลมยาวสีเขียวอ่อน สีม่วงคล้ำหรือขาว ผิวเปลือกเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ตรงขั้วของผล จะมีกลีบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ผล ต้มหรือเผาไฟ จิ้มกับน้ำพริก ยำ ชุบไข่ทอด ผัด หรือแกง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ลำต้นและราก แก้บิดเรื้อรัง อุจจาระเป็นเลือด ใบแก้ปัสสาวะขัด แก้โรคหนองใน ผล แก้ปวด แก้ตกเลือดในลำไส้ ขับเสมหะ ๔๒
  • 52. ชื่ออื่น กำจัดต้น พริกหอม ลูกระมาศ บ่ะแขว่น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๐ – ๑๕ เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ดอก ออกเป็นช่อ ผล กลมเปลือกผลสีแดงเมื่อแก่จะแตกออก มีเมล็ดเล็กกลมขนาดเล็ก สีดำ ผิวมัน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดจิ ้ ม ร่ ว มกั บ น้ ำ พริ ก ปลาร้ า ลาบ ส่ า ผลแห้ง เป็นเครื่องเทศปรุงรสและกลิ่น ลาบ หลู้ ยำต่างๆ และเครื่องแกงแค เป็นเครื่องเทศแกงอ่อมไก่ แกงอ่อมเนื้อ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ แก้รำมะนาด แก้ปวดฟัน เมล็ดแก้ลมวิงเวียน บำรุงโลหิต บำรุง หัวใจ ขับลมในลำไส้ บำรุงธาตุ รากและเนื้อไม้ ขับลมในลำไส้ แก้ลมเบื้องบน ขับระดู ๔๓
  • 53. ชื่ออื่น มะรุม ผักอีฮุม บ่ะค้อนก้อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๕ - ๑๐ เมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกแตกใบย่อย ๓ ชั้น ยาว ๒๐ - ๔๐ เซนติเมตร ออกเรียงสลับ ใบย่อยยาว ๑ - ๒ เซนติเมตร รูปไข่ ฐานใบมน ท้องใบสีอ่อนกว่าหลังใบมีขนประปราย ดอก ออกเป็นช่อสีขาวตามซอกใบมีกลีบเลี้ยง ๕ กลีบ และมีกลีบดอก ๕ กลีบ ผล เป็นฝักยาวเปลือกสีเขียวมีลักษณะคอดมน เป็นระยะๆ และมีเหลี่ยมตามความยาวของฝัก ฝักยาวประมาณ ๒๐ - ๕๐ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดรูปสามเหลี่ยม มีปีกบางหุ้ม ๓ ปีก เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร น้ำพริกอปลาร้า หรืออน ำพริกตาแดง ุสกฝัรักบอ่ประทานเป็นผักจิบ้มปลาย่าบง ยอดอ่ นและดอกอ่ นำมาต้มให้ ร่วมกั น้ อนนำมาแกงกั ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๔๔ แกงกับกระดูกหมู ใบแก้เลือดออกตามไรฟัน ดอกขับปัสสาวะบำรุงกำลัง เปลือกต้น ขับลมในลำไส้ แก้ฝี รากกระตุ้นหัวใจ บำรุงกำลัง บำรุงธาตุไฟ
  • 54. ชื่ออื่น มะเขือพวง หมากแข้ง มะแคว้งกูลา มะแว้ง บ่ะแคว้ง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ ๑ – ๒ เมตร ลำต้นมีหนามสั้นๆ ทั่วไป แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ ลักษณะ รูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก ใบยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ท้องใบและหลังใบมีขนสั้นๆ ปกคลุม ดอก ออกเป็น พวงสีขาว ออกตามง่ามใบและปลายกิง มีกลีบดอกและกลีบเลียงอย่างละ ๕ กลีบ ดอกสมบูรณ์เพศ ผล เป็นผลกลุมลักษณะกลม ่ ้ ่ สีเขียวที่ขั้วผลมีกลีบเลี้ยงติด เมื่อผลแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่ อ นนำมานึ ่ ง ลวก หรื อ รั บ ประทานสด กั บ ลาบ น้ ำ พริ ก ต่ า งๆ ใส่แกงแค แกงปลีตาล ผล ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ ตำคั้นเอาน้ำผสมเกลืออมแก้ไอ ๔๕
  • 55. ชื่ออื่น มะแว้งต้น หมากแข้งขม มะแคว้งดำ บ่ะแคว้งขม เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ ๑ – ๒ เมตร แตกกิ่งก้านมาก มีอายุประมาณ ๒ – ๕ ปี มีขนปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน ก้านใบยาว ใบแผ่กว้าง ขอบใบเว้าเข้าหาเส้นกลางใบมีขนสั้นๆ ทั่วทั้งใบ ดอก เป็นดอกเดี่ยวออกที ่ ซอกใบ กลีบดอกสีม่วงอ่อนมี ๕ กลีบ ตรงกลางมีเกสรสีเหลือง ผล เป็นผลเดี่ยวลักษณะกลมผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกจะมีสีส้ม เมล็ดขนาดเล็กกลมแบนสีน้ำตาลอ่อน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๔๖ ผลอ่อนรับประทานกับน้ำพริกต่างๆ ลาบ ขับเสมหะ แก้ไข้ แก้เบาหวาน เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ บำรุงน้ำดี แก้ไอ (ห้ามใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเพราะอาจเป็นโทษต่อไตได้)
  • 56. ชื่ออื่น มะแว้งเครือ บ่ะแคว้งเครือขม เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย มีลำต้นสีเขียว ผิวเรียบเป็นมัน มีหนามแหลมคมทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ขอบใบหยักสีเขียวเข้ม แผ่นใบเรียบ เส้นกลางใบมีหนาม ดอก ออกเป็นช่อ สีม่วงอ่อน ตรงกลางดอก มีเกสรสีเหลือง ผล ทรงกลม ก้านผลยาวประมาณ ๑ – ๔ เซนติเมตร สีขาวนวล ไหล่ผลมีเส้นร่างแหสีเขียวเมื่อผลแก่หรือสุกจะมีสีแดงเข้ม เมล็ด ลักษณะกลมแบน ผิวเรียบสีน้ำตาลอ่อน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่อน รับประทานกับลาบ หลู้ น้ำพริกต่างๆ ผลสดตำผสมเกลือเล็กน้อย อมหรือจิบแก้ไอ แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ ผลแห้ง ปรุงยาแก้ไอ ขับปัสสาวะ เจริญอาหาร แก้เบาหวาน ๔๗
  • 57. ชื่ออื่น พิลังกาสา ก้างปลา อ้ายรามใบใหญ่ บ่ะจ้ำ เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ ๒ – ๔ เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันรูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้างประมาณ ๓ – ๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๓ – ๒๘ เซนติเมตร เนื้อใบหนาผิวเรียบ ก้านใบยาว ๘ – ๑๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อ ที่ปลายกิ่ง ยาวประมาณ ๑๐ – ๑๘ เซนติเมตร แตกช่อย่อยออกเป็น ๓ ชั้น กลีบดอกสีขาวอมชมพูอ่อนๆ ติดกันที่โคนมีลักษณะ สั้นๆ ปลายแยกออกเป็น ๕ แฉก แต่ละแฉกรูปหอก ผล กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๕ มิลลิเมตร มีเมล็ดเดียวเมือสุกมีสดำ ่ ี การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๔๘ ยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า ใบ แก้ ตับ ปอด พิการ ดอก คั้นเอาน้ำทาโรคผิวหนัง
  • 58. ชื่ออื่น มะเดื่อชุมพร มะเดื่ออุทุมพร บ่ะเดื่อเกลี้ยง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงได้ถึง ๓๐ เมตร ตามกิ่งอ่อน ผลและเปลือกมีน้ำยางสีขาว ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปรี หรือรูปไข่ขอบขนาน กว้างประมาณ ๓.๕ – ๘.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๖ – ๑๙ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อ เกิดภายในฐานรองดอก ที่มีรูปร่างคล้ายผล ออกบริเวณลำต้นและกิ่ง แยกเพศแต่อยู่ในช่อเดียวกัน ผล รูปไข่ แกมสามเหลี่ยม สีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงชมพู เมื่อผลสุก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ผลอ่อนใส่แกงแค ต้มยำ ยอดอ่อนรับประทานกับลาบ ยำมดแดง ราก แก้ไข้ กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้หัว ไข้กาฬ ผล แก้ท้องร่วง สมานแผล ๔๙
  • 59. ชื่ออื่น ยอบ้าน ยอใหญ่ หมากยอ บ่ะตาเสือ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เปลือกต้น สีน้ำตาลเทาเกลี้ยง สูงประมาณ ๑ - ๕ เมตร ใบ เป็นใบ เดี่ยวออกเรียงเป็นคู่ๆ ตามข้อรูปมนรี ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเป็นคลื่น ผิวใบมันสีเขียว ขนาดของใบกว้าง ๒.๕ - ๗ นิ้ว ยาว ๖ - ๑๒ นิ้ว ดอก ออกเป็นช่อ ตามง่ามใบ ช่อยาว ๑ - ๑.๕ นิ้ว สีขาวขนาดเล็ก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อบริเวณปลาย ดอกจะแยกเป็น ๕ กลีบ กลีบด้านนอกเรียบ ด้านในจะมีขนหนาแน่นเฉพาะส่วนบน ผล สีเขียว เมื่อผลแก่จะมีสีเขียวอมเหลือง ภายในมีเมล็ด ๑ เมล็ด ขนาดกว้าง ๑ - ๒ นิว ้ ยาว ๒ - ๔ นิ้ว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่อนรองก้นกระทงทำห่อหมก แกงเลียง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ต้ น แก้ ว ั ณ โรค ใบแก้ ก ระษั ย ดอกแก้ ว ั ณ โรค ผลขั บ ลม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร รากเป็นยาระบาย ๕๐
  • 60. ชื่ออื่น พฤกษ์ ซึก จามจุรีป่า ท่อนนา ตะคึก บ่ะตึก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ ๑๕ - ๒๕ เมตร ผลัดใบ เปลือกต้นสีเทาเข้ม ผิวขรุขระ เรือนยอด แผ่กว้างกิ่งอ่อนมีขนประปราย ใบ เป็นช่อแบบขนนกสองชั้นติดเรียงสลับยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร แต่ละช่อมีช่อแขนงออก ตรงข้ามกันเป็นคู่ ๒ - ๔ คู่ ช่อยาว ๕ - ๑๐ เซนติเมตร แต่ละช่อมีใบย่อยรูปรี โคนใบเบี้ยว ปลายมน หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขน ตามเส้นกลางใบ ดอก สีขาว กลิ่นหอม ออกรวมกันเป็นช่อเดี่ยวหรือเป็นกระจุก ผล เป็นฝักรูปขอบขนานแบนและยาว กว้าง ๒.๕ - ๕ เซนติเมตร ยาว ๑๐ - ๓๐ เซนติเมตร ผิวฝักสีเทาอมเหลืองเกลี้ยงไม่มีขน แต่ละฝักมีเมล็ดเรียงตามขวาง ๔ - ๑๒ เมล็ด เป็นวงกลม นูนเห็นได้ชัด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อน มีรสขมเล็กน้อยนำมาลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ แกงแคร่วมกับผัก ชนิดต่างๆ แกงกับปลาแห้ง ใบ แก้ไอ เมล็ดบำรุงธาตุ แก้ปวดบาดแผล เปลือกต้นแก้ลงท้อง บำรุง เนื้อหนังและเส้นเอ็นให้บริบูรณ์ ๕๑
  • 61. ชื่ออื่น ชำมะเรียง ชำมะเรียงบ้าน พุมเรียง หวดข้าใหญ่ บะเต้า เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางสูง ประมาณ ๔ – ๑๕ เมตร เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่อง ใบ เป็นใบ ประกอบแบบขนนกเรียงสลับ มีใบย่อยออกเยื้องกันเล็กน้อยรูปหอกเรียงยาว สีเขียวเข้ม หนา ปลายใบแหลม ฐานใบมนสอบเข้า ขอบเรียบ ดอก ออกเป็นช่อบริเวณกิ่งและลำต้นมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ ช่อดอกยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร กลีบดอกสีม่วงแดง ผล ผลสดรูปกลม หรือรูปไข่ ผลสีดำเต่ง แต่ละช่อมี ๒๐ – ๓๐ ผล แต่ละผลมีเมล็ด ๒ – ๓ เมล็ด เมล็ดทรงกลมแบน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๕๒ ใช้ยอดอ่อนแกงใส่ผักรวม แกงใส่ปลาย่าง หรือเป็นผักสดจิ้ม ลวก ต้ม จิ้มกับน้ำพริก ราก แก้ไข้เหนือ ไข้กำเดา แก้ร้อนใน ผล แก้ท้องเสีย
  • 62. ชื่ออื่น แตงไทย แตงจิง มะแตงสุก บ่ะแตงลาย เป็นไม้เถาล้มลุก ลำต้นเป็นสันมีขนปกคลุมนุ่ม ใบ เดี่ยวเรียงสลับกัน หยักเป็นมุม ๓ – ๗ หยัก ขอบใบ หยักเป็นซี่ฟัน ปลายใบมน หลังใบเห็นเส้นใบได้ชัดเจน ใบยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๘ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๔ – ๑๐ เซนติเมตร ดอก เพศผู้ ดอกเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกัน ดอกเพศผู้ออกเป็นกระจุกอัดกันแน่นที่ซอกใบ ไม่มีก้านดอก มีกลีบเลี้ยง ๕ กลีบ มีขนทั้ง ๒ ด้าน วงกลีบดอกสีเหลือง ๕ กลีบ ดอกเพศเมีย ดอกเดี่ยวสีเหลือง ก้านดอกยาว ๑ – ๒ เซนติเมตร ก้านเกสรสั้นที่โคนมีจานฐานรองดอกรูปถ้วยหรือวงแหวนล้อมรอบ ผล มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน รูปทรงรี กลมกดแบนลง หรือรูปขอบขนาน ผิวเรียบ หรือมีลายและสีแตกต่างกัน เนื้อในผลสีเหลืองหรือส้ม เมล็ดจำนวนมากสีขาวหรือสีชมพู ผิวเรียบ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่อนรับประทานเป็นผักร่วมกับลาบ หลู้ ส่า และน้ำพริก ฯลฯ ดอกและใบ แก้ไข้ ระบาย แก้โรคดีซ่าน บดเป็นผงใช้พ่นแก้แผลในจมูก ผลเป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ บำรุงน้ำนม แก้ทางเดิน ปัสสาวะอักเสบ ๕๓
  • 63. ชื่ออื่น บวบงู หมากโงงิ้ว บ่ะนอยงู เป็นไม้เถาเลื้อยมีมือเกาะยึดไม้อื่น เถามีขนาดเล็กเป็นเหลี่ยมมีขนสั้นๆ ปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นเดี่ยวเรียงสลับ รูปหัวใจ โคนใบกว้างเว้าเข้าหาขั้วใบ ขอบใบเว้าเล็กน้อย ใบเป็นรูป ๕ เหลี่ยม แผ่นใบแผ่เป็นคลื่นเล็กน้อย มีขนสั้นนุ่ม ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ก้านดอกย่อยยาว ๑ – ๒ เซนติเมตร กลีบดอกสีขาวมี ๕ – ๖ กลีบ มีเกสรอยู่ตรงกลางดอกออกจากจุด เดียวกัน ดอกตัวผู้มีกลีบดอกเว้าเป็น ๕ แฉกสีเหลือง ส่วนดอกตัวเมียมีผลเล็กอยู่ที่ฐานดอกเป็นรูปถ้วยสีเขียวอ่อนยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร ผล ลักษณะกลมยาว ปลายแหลม ผิวเรียบ มีแถบสีขาวสลับเขียวตามยาวตลอดผล ขนาดผลกว้าง ๑ – ๓ เซนติเมตร ยาว ๒๕ – ๔๕ เซนติเมตร เมื่อสุกจะมีสีส้มภายในมีเมล็ด ๑๐ – ๔๐ เมล็ด มีเยื่อหุ้มสีแดงสด เมล็ดมีลักษณะแบนรีขอบข้างเว้า เป็นหยักโดยรอบสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๕๔ ผลอ่ อ นรั บ ประทานสดหรื อ ลวกจิ ้ ม กั บ น้ ำ พริ ก อ่ อ ง น้ ำ พริ ก ตาแดง น้ำพริกปลาร้า หรือนำมาแกงรวมกับผักอื่น ผัดกับเนื้อหมู ผลบำรุงร่างกายแก้กระหายน้ำ แก้ท่อน้ำดีอุดตัน
  • 64. ชื่ออื่น กระดอม ผักแคบป่า ขี้กาดง เขียวขี้กา มะนอยหก บ่ะนอยจา เป็นไม้เลื้อยทอดไปตามพื้นดิน เถาขนาดเล็กเป็นร่อง ปลายเถามีมือเป็นเส้นกลมสีเขียว ยาวประมาณ ๑๔ – ๒๕ เซนติเมตร ใช้สำหรับเกาะยึด ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันรูปร่างหลายลักษณะรูปไต รูปสามเหลี่ยม รูปห้าเหลี่ยม หรือแฉกขอบใบเว้าเป็นฟันเลื่อย กว้างประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร เส้นใบแยกจากโคนใบจุดเดียวกันฐานใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ มีขนแข็งปกคลุมเมื่อจับจะสากมือ ดอก สีขาวเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบดอกมี ๕ กลีบ ลักษณะเป็นหลอด มีขนปกคลุม เวลาบานจะมีลักษณะรูปไข่ปนขอบขนาน ผล ลักษณะหัวและปลายรูปรีแหลมยาวประมาณ ๓ – ๑๐ เซนติเมตร มีสัน ๑๐ สันตามยาวผล ผลอ่อนมีสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีส้มปนแดงเมื่อแก่ เนื้อในขาวนุ่มมีเมล็ดสีน้ำตาล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่อน ใช้ลวก ต้ม รับประทานร่วมกับน้ำพริกปลาทู น้ำพริกตาแดง น้ำพริกหนุ่ม ผล บำรุงน้ำดี แก้ดีแห้ง ดีเดือด ทำให้โลหิตเย็น ดับพิษโลหิต บำรุง มดลูก รักษามดลูกหลังแท้งลูกหรือคลอดลูก แก้ไข้ ๕๕
  • 65. ชื่ออื่น บวบเหลี่ยม บ่ะนอยเหลี่ยม เป็นไม้เถา เถามีลักษณะเป็นเหลี่ยมตามข้อของเถาจะมีมือเกาะเป็นเส้นยาว ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับแผ่นใบรูป ๕ – ๖ เหลี่ยม ขอบใบมีรอยเว้าตื้นๆ โคนใบเว้ารูปหัวใจ ก้านใบเป็นเหลี่ยมยาวประมาณ ๔ – ๗ เซนติเมตร ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อออกตามง่ามใบ กลีบดอกสีเหลือง ดอกเพศผู้หรือเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกัน ผล รูปทรงกระบอกยาวประมาณ ๑๐ เซนติเมตร โคนเรียวเล็กมีเหลี่ยมเป็นสัน ๑๐ เส้นตามความยาวของผล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๕๖ ผลอ่อนนำมาแกงเลียง แกงกับปลาแห้ง ผัดกับไข่ ต้มจิ้ม น้ำพริก ส่วนยอดอ่อนลวกจิ้มน้ำพริกต่างๆ ใบขับปัสสาวะ แก้ระดูผิดปกติ ขับเสมหะ ผล บำรุงร่างกาย ลดไข้ แก้ร้อนใน ระบายท้อง ราก ต้มน้ำดื่มแก้บวมน้ำ
  • 66. ชื่ออื่น น้ำเต้า หมากน้ำ น้ำโต่น นมนางสีดา บ่ะน้ำ เป็นไม้เถาอายุประมาณ ๑ - ๒ ปี เถามีเหลียมโต ่ อวบน้ำสีเขียวมีขนสั้นๆ ปกคลุมทั่วไป มีมือเกาะที่แตกออกจาก จากข้อ ใบ ออกสลับกัน รูปทรงฐานเว้า ขอบใบหยักเป็นคลื่น เล็กน้อย แผ่นใบตั้งขึ้น ขนาดกว้าง ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ก้าน ใบยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร มีขนปกคลุมหนาแน่นทั่วไป เส้นใบด้านท้องใบเห็นได้ชัดเจน ดอก เป็นแบบดอกเดี่ยว ก้านยาว ประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกัน อยู่ต่างดอกแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ดอกตัวผู้มีลักษณะคล้ายถ้วย กลีบดอกสีขาว ส่วนดอกตัวเมียต่างกันที่มีผลขนาดเล็กๆ ติดที่ โคนดอก ผล มีลักษณะหลายรูปทรงแตกต่างตามสายพันธ์ุ เช่น ทรงกลม ทรงกลมซ้อน ทรงกลมหัวจุก ทรงยาว และสามารถบังคับ รูปทรงได้ มีสีเขียว เนื้อในสีขาว มีเมล็ดอยู่ภายใน เมล็ด มีลักษณะ แบนส่วนปลายมีติ่งยื่น ๒ ข้าง สีน้ำตาลอ่อน และมีแถบสีน้ำตาล พาดไปตามยาวของเมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ผลอ่อน ต้ม นึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริก แกงเลียง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่อน ขับปัสสาวะ ทำให้เกิดน้ำนม โคนขั้วผลต้มน้ำดื่มแก้ปวดท้อง ที่เกิดจากไข้ เมล็ดขับพยาธิ ๕๗
  • 67. ชื่ออื่น มะพร้าว หมากอูน ดุง โพล หมากพร้าว บ่ะป้าว เป็นไม้ยืนต้นจำพวกปาล์ม ลำต้นสูงชะลูดไม่แตกกิ่งก้านสาขาสูงได้ประมาณ ๒๐ – ๓๐ เมตร ใบ เป็นใบรวม มีใบย่อยเรียงสลับกันรูปขนนก ใบย่อยมีลักษณะเป็นแผ่นแคบยาว ปลายใบแหลม พื้นผิวเรียบเป็นมัน สีเขียวแก่ ยาวประมาณ ๖๐ – ๙๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒.๕ – ๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามกาบที่หุ้มดอกย่อยมีขนาดเล็กในช่อหนึ่งๆ มีดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ดอกตัวผู้จะอยู่ส่วนปลายส่วนดอกตัวเมียจะอยู่บริเวณโคนช่อดอก ผล ออกเป็นกลุ่มรูปทรงกลมหรือรี เปลือกนอกเรียบเกลี้ยง ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเปลือกชั้นกลางเป็นเส้นใย ชั้นในแข็งเป็นกะลา ภายในกะลา เนื้อผลสีขาวและน้ำใส การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๕๘ ยอดอ่ อ น (ออกป้ า ว) นำมาผั ด แกง เนื ้ อ มะพร้ า วทำกระทิ ใช้ปรุงอาหาร เนื้อมะพร้าวเคี่ยวน้ำมันกินเป็นยาบำรุงกำลัง ทาแก้ปวดเมื่อย ทาแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ น้ำมะพร้าว กินเป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ
  • 68. ชื่ออื่น มะตูม หมากตูม กะทันตาเถร บ่ะปิ่น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๐ – ๑๕ เมตร กิ่งห้อยลง ตามกิ่งมีหนามออกเป็นคู่หรือเดี่ยว ยาวประมาณ ๒.๕ – ๕ เซนติเมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือมีใบย่อย ๓ ใบ โคนใบสอบปลายใบแหลม ขอบใบหยักตื้นๆ มีต่อมน้ำมันเมื่อขยี้ดมจะได้กลิ่น ใบด้านข้าง ๒ ใบ ยาวประมาณ ๑.๒ – ๓.๒ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑.๗ – ๗.๕ เซนติเมตร ใบที่อยู่ตรงกลางจะโตที่สุด ยาวได้ถึง ๑๕ เซนติเมตร ก้านยาวประมาณ ๑.๒ – ๓.๒ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อแบบกระจะ กลิ่นหอมออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบ กลีบดอกกลมหรือป้านหนา ด้านนอกสีเขียว ด้านในสีขาวอมเขียว ผล กลม สีน้ำตาล อมเทา เส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ – ๑๒.๕ เซนติเมตร ผลอ่อนเนื้อในเต็มไปด้วยน้ำยางเหนียวๆ เมื่อสุกผลสีเหลือง เปลือกแข็งเรียบ มีต่อมน้ำมันเล็กๆ เนื้อในผลเหนียวเป็นแป้งมีกลิ่นหอม มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบอ่ อ น ยอดอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ ลาบ หลู ้ ส้ า น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง ผลอ่อน แก้ธาตุพิการ แก้ท้องเสีย แก้บิด เจริญอาหาร ผลแก่ บำรุง ธาตุไฟ ลดความดันโลหิตสูง ขับผายลม บำรุงกำลัง ๕๙
  • 69. ชื่ออื่น มะอึก หมากเขือขน หมากอึก มะปู่ บ่ะปู่ เป็นไม้พุ่ม อายุ ๒ – ๓ ปี สูงประมาณ ๕๐ – ๑๒๐ เซนติเมตร ลำต้นและตามก้านใบมีหนามปกคลุมหนาแน่น ใบ แผ่กว้างขอบใบเว้า มีขนและหนามตามหลังใบและท้องใบ ดอก ลักษณะเป็นแฉกสีขาว ๔ – ๖ กลีบ ตรงกลางมีเกสรตัวเมีย มีสีเหลือง ผล เป็นแบบผลเดี่ยวลักษณะกลมมีขนทั่วทั้งผล ผลอ่อนสีเขียวเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๖๐ ผลใส่แกงแค ส้มตำ น้ำพริก ผลบำรุงฟัน ทำให้ฟันแข็งแรง
  • 70. ชื่ออื่น ถั่วแปบน้อย ถั่วปลาซิว ถั่วแปบ บ่ะแปบ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นกลมสีเขียว มีรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดินเลื้อยพันไปได้ยาวประมาณ ๖ เมตร ใบ เป็นใบ ประกอบมีใบย่อย ๓ ใบรูปไข่เรียงสลับกัน โคนใบด้านปลายใบแหลมกว้างประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕ – ๑๒ เซนติเมตร แผ่นใบมีขนบางๆ ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีม่วงหรือสีขาว รูปไต ก้านช่อดอกยาว ประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร ผล เป็นฝักแบนยาวมีจะงอยอยู่บริเวณปลายผล สีขาว สันฝักนูนขรุขระสีเขียวอ่อน ภายในผล มีเมล็ด ๓ – ๖ เมล็ด สีขาวเหลืองหรือมีลาย เมล็ดลักษณะกลมสีน้ำตาลอ่อนมีแถบลายสีดำ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ฝักอ่อน ผัดกับเนื้อหมู ลวกจิ้มน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง และน้ำพริก ปลาร้า ราก แก้ซาง รักษาโรคที่เกิดในตับ ต้มน้ำดื่มแก้เจ็บคอ เมล็ดบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ ๖๑
  • 71. ชื่ออื่น ฟักทอง หมากอึ หมากคี้ส่ง น้ำเต้า บ่ะฟักแก้ว เป็นไม้เถาเลื้อยลำต้นแข็ง กลมหรือ ๕ เหลี่ยม มีมือเกาะ ๓ - ๔ แขนง ใบ แบบใบเดี่ยวเรียงสลับกัน กว้างประมาณ ๒๐ เซนติเมตร ยาว ๓๐ เซนติเมตร ใบขอบหยักเว้าเป็นแฉกตื้นๆ ปลายใบมนมีขนทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบยาวประมาณ ๑๒ - ๓๐ เซนติเมตร แผ่นใบรูปกลมหรือรูปไต โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ดอก เป็นดอกเดี่ยว ออกตามง่ามใบ ดอกตูมปลายแหลม ดอกเพศผู้และเพศเมียเกิดบนต้นเดียวกัน กลีบดอกสีเหลืองปนส้ม กลีบรองกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ปลายแยกเป็น ๕ กลีบ ยาว ๕ เซนติเมตร ผล รูปร่างและขนาดต่างกันกลมหรือแป้น เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒ - ๔๐ เซนติเมตร เป็นพูเล็กๆ รอบผลสีเขียว อมน้ำเงินหรืออมเทาด่างเหลืองเป็นทางแต้มจุดทั้งผล เนื้อผลสีเหลือง เหลืองอมเขียว ตรงกลางพรุน มีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดแบน ขอบแข็งเป็นสันสีเข้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๖๒ ยอดอ่ อ น ผั ด หรื อ แกงแคร่ ว มกั บ ผั ก ชนิ ด ต่ า งๆ ผลอ่ อ น แกงกั บ เห็ดไข่, เห็ดโคน เมล็ดขับพยาธิตัวตืด รากบำรุงร่างกาย แก้ไอ น้ำมันจากเมล็ดบำรุง ประสาท
  • 72. ชื่ออื่น บักเฟือง มะเฟือง บ่ะเฟือง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ ๓ – ๗ เมตร ลำต้นสีน้ำตาลดำ แตกกิ่งเป็นพุ่มแน่นทรงกลม เปลือกบางผิวเรียบ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้าม ใบรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลาย ใบแหลม โคนใบสอบมีใบประกอบ ๕ – ๖ คู่ ดอก ออกเป็นช่อกระจุกหนาแน่น ตามกิ่งก้านและลำต้นสีชมพู ในแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย ๕ – ๑๐ ดอก กลีบเลี้ยงรูประฆังสีน้ำตาล โคนกลีบด้านในสีม่วง เกสรตัวเมียสีเหลืองติดอยู่ที่ กลางดอก ผล รูปยาวรีเป็นฟันเฟืองขึ้นเป็นสัน ๔ พู ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุก จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียวฉ่ำน้ำภายในผลจะมีเมล็ดเรียวยาวสีดำ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบสุก และลาบดิบ ประโยชน์ทางสมุนไพร แก่นและราก แก้ท้องร่วง แก้เจ็บเส้นเอ็น ผล มีวิตามินซีสูงบำรุงฟัน เปลือกต้น แก้ท้องเสีย ๖๓
  • 73. ชื่ออื่น มะม่วงบ้าน มะม่วงสวน แป บ่ะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๑๐ – ๔๐ เมตร แตกกิ่งต่ำ เรือนยอดโปร่ง ลำต้นเมื่อแก่ จะมีขนาดโตขึ้น เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาลปนเทา กิ่งเป็นพุ่มกลมทึบ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันรูปรี ยาว ขอบขนานแคบๆ หรือ รูปหอก กว้างประมาณ ๓ – ๑๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๖ – ๔๕ เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบเป็นติ่งแหลม เนื้อใบหนา เกลี้ยงเป็นมัน สีเขียวเข้ม ใบอ่อนจะออกสีม่วงอ่อนๆ ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อสีขาวนวลหรือสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ผล เป็นผลเดี่ยวลักษณะผลจะแตกต่างกันตามสายพันธ์ุ ขนาดผลกว้างประมาณ ๔ – ๔๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕ – ๒๐ เซนติเมตร ผลอ่อนมีน้ำยางมากสีเขียว เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือส้ม กลิ่นหอม มีเนื้อเยื่อหุ้มและมีเส้นใยมาก ภายในผลมีเมล็ด ๑ เมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๖๔ ใบอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส้า ผลดิบ ใช้ปรุง อาหาร ใส่น้ำพริก ใช้จิ้มน้ำพริก เนื้อในเมล็ด แก้ท้องร่วง สมานลำไส้ ฝนทาสมานแผล
  • 74. ชื่ออื่น เม่าไข่ปลา เม่าทุ่ง เม่าจัง มะเม่าข้าวเมา บ่ะเม่าสาย เป็นไม้ตนขนาดเล็ก สูง ๒ - ๖ เมตร กิงอ่อนและยอดอ่อนมีขน ใบ เป็นใบเดียวออกเรียงสลับลักษณะรูปรี ้ ่ ่ ถึงรูปไข่ กว้าง ๓ - ๕ เซนติเมตร ยาว ๕ - ๗ เซนติเมตร หลังใบเกลี้ยงท้องใบมีขนสั้นๆ ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบและ ปลายกิ่งมีดอกย่อยจำนวนมากสีเขียวอ่อน ผล รูปทรงกลมสีเขียวเมื่อสุกมีสีแดงถึงดำ มีเมล็ดเดียว การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบอ่อนและยอดอ่อน แกงรวมกับเห็ดถอบ หรือเห็ดไข่ห่าน ประโยชน์ด้านสมุนไพร เพื่อปรุงให้มีรสเปรี้ยว ใบและผลใช้ ต ้ ม อาบ แก้ อ าการโลหิ ต ซี ด จาง ลำต้ นขั บ ปั ส สาวะ บำรุงไต แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้มดลูกพิการ ๖๕
  • 75. ชื่ออื่น มะยม หมากยม ยม บ่ะยม เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้นตั้งตรงแตกกิ่งก้านสาขาบริเวณเรือนยอด กิ่งเปราะหักได้ง่าย ใบ เป็นใบรวมมีใบย่อยเรียงกันเป็นคู่ๆ คู่หนึ่งๆ มีใบย่อยประมาณ ๒๐ – ๓๐ คู่ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปหอกขอบใบเรียบ ปลายใบ แหลม ดอก มีลักษณะขนาดเล็กออกเป็นช่อหรือกระจุกตามบริเวณลำต้นและกิ่ง สีเหลืองอมน้ำตาล ผล ลักษณะเป็นพู่ห้อยเป็น พวงระย้า ผลมีขนาดเล็กรูปร่างเป็นเพือง ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อแก่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๖๖ ยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก แหนมหมู เปลื อ กต้ น แก้ ไ ข้ ท ั บ ระดู ราก แก้ โ รคผิ ว หนั ง เม็ ด ผดผื ่ น คั น ผล ขับเสมหะ แก้ไอ ระบายท้อง
  • 76. ชื่ออื่น เพกา ลิ้นไม้ สิ้นไม้ บ่ะลิดไม้ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง ๕ - ๑๓ เมตร ผลัดใบ เปลือกต้นสีเทาอมขาวเรียบ มีช่องระบายอากาศ กระจายตามผิวเปลือกทั่วไป ใบ เป็นช่อ ๒ - ๓ ชั้น ติดตรงข้ามเป็นคู่ๆ ช่อยาว ๖๐ - ๑๗๐ เซนติเมตร โคนก้านช่อรวมและ ก้านช่อย่อยจะยุบเมื่อแห้ง ช่อจะแยกเป็น ๓ แขนงเสมอโดยแยกออกจากปลายก้านช่อและก้านช่อย่อยแต่ละแขนงจะมี ใบย่อยรูปมนถึงรูปขอบขนานออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๓ - ๕ คู่ ใบยอดสุดเป็นใบเดี่ยว กว้าง ๓ - ๘ เซนติเมตร ยาว ๕ - ๑๓ เซนติเมตร ดอก ขนาดใหญ่รูปแจกันทรงสูงสีม่วงอมแดงอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อโตๆ ตามปลายกิ่งช่อจะชี้ตั้งขึ้นและมีดอก อยู่ปลายช่อ ผล เป็นฝักรูปขอบขนานแบนๆ โค้งงอเป็นรูปดาบ กว้าง ๕ - ๙ เซนติเมตร ยาว ๔๐ - ๑๒๐ เซนติเมตร เปลือกฝักหนาและแข็งเมื่อแห้ง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ฝักอ่อน นำมาเผาไฟให้ผิวด้านนอกไหม้เกรียม แล้วขูดเอาผิว ที่ไหม้ไฟออก รับประทานร่วมกับน้ำพริก ลาบ ยำ หรือผัดกับ เนื้อหมู แกงแคร่วมกับผักอื่นๆ เปลือกต้น แก้ท้องร่วง บิด บำรุงโลหิต ฝักอ่อนขับผายลม เมล็ดแก้ไอ ๖๗
  • 77. ชื่ออื่น ขนุน บักมี่ แนน นากอ บ่ะหนุน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง ประมาณ ๑๕ – ๓๐ เมตร ลำต้นและกิ่งจะมียางสีขาวไหลออก มาเวลาถูกตัดและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงเมื่อถูกอากาศนานๆ ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับสีเขียวเข้ม เป็นมัน หนา ท้องใบจะสาก มือ แผ่นใบรูปรีกว้างประมาณ ๕ – ๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๐ – ๑๕ เซนติเมตร ปลายใบทู่ถึงแหลม โคนใบมน ดอก ออก เป็นกลุ่ม ช่อดอกตัวผู้และช่อดอกตัวเมียจะอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อ ดอกตัวผู้จะออกที่โคนกิ่งของลำต้นและบริเวณง่ามใบ มีลักษณะเป็น แท่ง ยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ส่วนช่อดอกตัวเมียจะมีลักษณะ เป็นแท่งกลมออกจากลำต้น ก้านดอกขนาดใหญ่ ดอกตัวผู้จะมีกลิ่น คล้ายส่าเหล้า ผล เป็นผลรวม ลักษณะกลมยาวมีน้ำหนักเฉลี่ย ประมาณ ๑๐ – ๖๐ กิโลกรัม ในหนึ่งผลจะมีผลย่อยจำนวนมาก เมล็ด กลมรีเนื้อหุ้มเมล็ดสีเหลือง เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม เปลือกหุ้มบาง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ผลอ่อน นำมาทำตำ แกง ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสด ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร ๖๘ ใบ บำรุ ง โลหิ ต แก้ ก ามโรค เนื ้ อ ในเมล็ ด บำรุ ง น้ ำ นม บำรุ ง กำลั ง ขับน้ำนม ควรต้มให้สุกก่อนรับประทาน
  • 78. ชื่ออื่น มะระขี้นก ผักไซ ผักสะไล ผักไห่ บ่ะห้อย เป็นไม้เลื้อยพันพาดไปกับต้นไม้อื่น มีมือเกาะลำต้นเป็นเลี่ยม มีขนปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยว ออก สลับกัน มีสีเขียวทั่วตลอดทั้งใบ ขอบใบหยักเว้าลึกประมาณ ๕ - ๗ หยัก ปลายใบแหลม ดอก ออกเดี่ยวๆ สีเหลืองมี ๕ กลีบ เกสรสีเหลืองถึงสีส้ม กลีบดอกบางอ่อน ผล เป็นผลเดี่ยวรูปกระสวย ผิวขรุขระมีปุ่มปมยื่นออกมาชัดเจน ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองส้ม เมื่อผลแก่เต็มที่จะแตกอ้าออกเห็นเมล็ดชัดเจนสีแดงสดรูปร่างกลมแบน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลอ่อน ลวกให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มกับ น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกปลาทู ทั้งต้น แก้เบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด ผลดิบแก้โรคตับอักเสบ ปวดหัวเข่า ผลสุก ใช้คั้นน้ำทาสิว เป็นยาระบายอ่อนๆ ส่วนน้ำคั้น ผลดิบใช้รักษาอาการปวดเมื่อย ปากเป็นขุย บำรุงระดู ๖๙
  • 79. ชื่ออื่น มะระป่า ผักไห่ ฮุนไฮ บ่ะไห่ เป็นไม้เลื้อย อายุประมาณ ๒ – ๓ ปี มีมือเกาะยึดไปตามต้นไม้อื่นลำต้นเป็นเหลี่ยมมีขนสั้นขึ้นประปราย ทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ก้านใบยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร แผ่นใบลักษณะเป็นรูปหัวใจมีขนขึ้นประปราย ฐานใบเว้าเข้าหาก้านใบ ขอบใบเว้าเป็นเหลี่ยมหยักเล็กน้อยสีเขียวอ่อน ขนาดใบกว้างและยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ดอก เป็นดอกเดี่ยวแยกเพศแต่เกิดบนต้นเดียวกันออกบริเวณซอกใบ ดอกตัวผู้มีก้านดอกเล็กยาวประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร กลีบดอกบานออกเป็น ๕ – ๗ แฉก มีอับละอองเกสรตรงกลาง ส่วนดอกตัวเมียจะมีก้านดอกที่โตกว่าและมีผล ขนาดเล็กที่ฐานดอก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๗๐ ยอดอ่อนและผลอ่อน ใช้ลวกรับประทานร่วมกับน้ำพริกตาแดง น้ ำ พริ ก หนุ ่ ม น้ ำ พริ ก ปลาร้ า (ก่ อ นรั บ ประทานควรใช้ ว ิ ธ ี ล วก ถ้าใช้วิธีต้มจะมีรสขมจัด) ยอดอ่ อ น ผลอ่ อ น เจริ ญ อาหาร เมล็ ด เป็ น ยาบำรุ ง กำหนั ด หัวใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน เข้ายารักษามะเร็ง
  • 80. ชื่ออื่น ถั่วแฮ ถั่วแรด บ่ะแฮะ เป็นไม้พุ่ม ลำต้นสูงตรงประมาณ ๓ – ๕ เมตร ลำต้นเมื่อแก่จะออกสีม่วงแดงและแตกเป็นร่อง ใบ เป็นใบประกอบ แบบขนนกมีใบย่อย ๓ ใบ ออกเรียงสลับรูปขอบขนานแกมหอก ผิวใบมีขนทัง ๒ ด้าน ใบกว้าง ๑ – ๓ เซนติเมตร ยาว ๒ – ๑๐ ้ เซนติ เมตร ดอกออกเป็ นช่ อ ที ่ ซ อกใบรู ป ดอกถั ่ ว กลี บ ดอก สีเหลืองขอบสีน้ำตาล ผล เป็นฝักแบบถั่วปลายแหลมทั้ง ๒ ด้าน ภายในมี ๓ – ๕ เมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ฝักอ่อนรับประทานสดจิ้มกับน้ำพริก ลาบ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ฝักแก้ท้องร่วง รากแก้ไข้เรื้อรัง ๗๑
  • 81. ชื่ออื่น ตาลปัตรฤาษี บอนจีน คันจ้อง บัวกวัก เป็นพืชน้ำมีรากยึดติดกับผิวดินในน้ำชูก้านใบขึ้นเหนือน้ำมีราก สีเขียวและสีน้ำตาลแดง ใบ เป็นใบเดี่ยวทรงสามเหลี่ยมสีเขียวอ่อน ก้านใบยาว ประมาณ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร ใบไม่เปียกน้ำ เนื้อก้านใบและก้านดอกคล้าย ฟองน้ำมียางสีขาวขุ่นเล็กน้อย ใบขนาดใหญ่ กว้าง ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร รูปไข่ ปลายมน โคนใบป้านโค้งมนเข้าหาก้านใบ ดอก เป็นช่อมีก้านดอกลักษณะ คล้ายก้านใบ แตกออกจากยอด มีดอก ๕ – ๑๐ ดอก ดอกตูมลักษณะคล้าย ดอกบัว เมื่อดอกบานมีกลีบดอก ๔ – ๕ กลีบ สีเหลือง ผล ลักษณะทรงกลม ภายในแบ่งออกเป็น ๒ ซีก มีเมล็ดเรียงตัวอัดแน่น การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ก้านดอก ใช้บริโภคเป็นผักสด ลวก นึ่ง จิ้มน้ำพริกต่างๆ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๗๒ -
  • 82. ชื่ออื่น บัวกินสาย บัวแดง บัวจงกลนี บัวขม ป้าน เป็นไม้น้ำมีรากฝังลึกในโคลนเลน ก้านดอกอ่อนมีเปลือกเป็นสายใยลอกออกได้ ผิวเกลี้ยง ใบ เป็นแผ่นกว้าง แผ่น ใบอ่อน วางอยู่บนผิวน้ำสีเขียวแกมน้ำตาล ดอก ลักษณะรูปหอกยาวเรียว ปลายแหลมได้สัดส่วนที่สวยงาม เกสรตัวผู้เป็นแท่ง แบนยาวคล้ายนิ้วมือเรียวเล็กล้อมด้วยเกสรตัวเมียเป็นชั้นๆ ดอกจะบานในเวลากลางวันและจะหุบในช่วงกลางคืน ผล เป็นฝัก ขนาดเล็กมีเมล็ดขนาดเล็กสีดำอยู่ในเนื้อหุ้มที่มีลักษณะเป็นวุ้นใสๆ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ก้านดอก ลอกผิวที่หุ้มออกรับประทานเป็นผักสด จิ้มน้ำพริก แกง ผัด ดอกบำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื้น บำรุงกำลัง เมล็ด คั่วรับประทาน บำรุง กำลัง หัวใต้ดิน บำรุงครรภ์รักษา บำรุงธาตุ ๗๓
  • 83. ชื่ออื่น กระโดน ปุยขาว พุย กระนอน ปุย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ ๘ – ๑๒ เมตร เปลือกหนาสีน้ำตาลปนเทาแตกปริเป็นสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มทึบมีกิ่งก้านสาขามาก กิ่งอ่อนมักเป็นสันสี่เหลี่ยมตามยาว ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยวติดเรียงเวียนสลับเป็นกลุ่มตาม ปลายกิงรูปทรงไข่กลับ กว้าง ๖ – ๑๒ เซนติเมตร ยาว ๑๒ – ๒๐ เซนติเมตร เนือใบหนา เกลียงทัง ๒ ด้าน ด้านท้องใบจะมีสจาง ่ ้ ้ ้ ี กว่าหลังใบ มีเส้นแขนงใบ ๙ – ๑๕ คู่ ดอก โต สีเขียวอ่อนออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามปลายกิ่ง กลีบฐานดอก ๔ กลีบ กลีบ ดอกรูปช้อน สีเขียวอ่อนตามบริเวณขอบกลีบและโคนกลีบออกสีชมพูหลุดล่วงง่าย เกสรตัวผู้สีขาวมีมาก ลักษณะเป็นฝอย เป็นพู่โตๆ ผล กลมแข็ง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๖ – ๗ เซนติเมตร ที่ปลายผลยังคงปรากฏกลีบฐานดอกรวมทั้งหลอดท่อรังไข่ ติดอยู่เป็นจุก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๗๔ ใบอ่อน ยอดอ่อน ใช้รับประทานเป็นผักจิ้ม น้ำพริก ลาบ หลู้ ใบ สมานแผล เปลื อ กต้ น สมานแผล แก้ ป วดเมื ่ อ ย ดอกบำรุ ง ร่างกาย แก้หวัด แก้ไอ บำรุงร่างกายสตรีหลังคลอด
  • 84. ชื่ออื่น ไพล ว่านไฟ ปูเลย เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๑.๕ เมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดินแล้วแทงหน่อหรือลำต้น เทียมขึ้นเหนือดิน ซึ่งประกอบด้วยกาบหรือโคนใบหุ้มซ้อนกันเป็นลำ ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปขอบขนานแกมหอก กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อ แทงออกจากเหง้ากลีบสีนวลใบประดับสีม่วง ผล เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลืองเนื้อในสีส้ม ภายในมีเมล็ดสีดำกลมขนาดเล็ก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่ อ น ใบอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ ลาบ หลู ้ น้ ำ พริ ก ซุบหน่อไม้ เหง้าแก้ทองอืด ท้องเฟ้อ ขับประจำเดือน ้ แก้ บ ิ ด แก้ เ คล็ ด ขั ด ยอก ฟกบวม สมานแผล ๗๕
  • 85. ชื่ออื่น ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดดอก ผักกาดจ้อน เป็นพืชล้มลุกลำต้นสีเขียวอ่อนอวบน้ำ สูงประมาณ ๒๔ – ๔๐ เซนติเมตร แตกแขนงด้านข้างเล็กน้อย ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับลักษณะ กลมรีปลายใบป้าน โคนสอบเข้าหาก้านใบ กว้าง ๕ – ๑๕ เซนติเมตร ยาว ๑๕ – ๓๐ เซนติเมตร เส้นกลางใบสีเขียวอมขาว ดอก ออกเป็นช่อสีเหลืองที่ปลายดอกมีแขนงช่อดอก จำนวนมาก ผล เป็นฝักกลมยาวปลายแหลม สีเขียวเข้ม ยาวประมาณ ๒ – ๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดกลมจำนวน ๒๐ – ๔๐ เมล็ด เรียงเป็น ๒ แถวตลอดฝัก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ต้น ใบ ช่อดอก ใช้ลวกเป็นผักจิ้ม ต้ม แกง และผัด ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๗๖ ช่วยระบายท้อง
  • 86. ชื่ออื่น ผักกูด ผักกูด เป็นเฟิร์นมีเหง้าตั้งตรงสูงได้มากกว่า ๑ เมตร มีเกล็ด สีน้ำตาลเข้ม ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ๒ ชั้น แผ่นใบมีขนาด ต่ า งกั น ส่ ว นมากยาวกว่ า ๑ เมตร ก้ า นใบยาว ๗๐ เซนติเมตร กลุ่มใบย่อยคู่ล่างมักลดขนาดปลายใบเรียวแหลมขอบใบหยักเว้าลึก เป็นแฉกเกือบถึงเส้นกลางใบย่อย แฉกปลายมน ขอบหยักเป็นซี่ฟัน แผ่นใบบางกลุ่มสปอร์อยู่ตามความยาวของเส้นใบย่อยหรือเชื่อมกับ กลุ่มสปอร์ที่อยู่ในแฉกติดกัน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบอ่อน และช่ออ่อน นำมาจอผักกูด แกงกับปลาสด ลวกจิ้มน้ำพริก หรือนำมาแกงแคร่วมกับผักชนิดอื่น ใบ แก้ไข้ตัวร้อน แก้พิษอักเสบ บำรุงสายตา บำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง ขับปัสสาวะ ๗๗
  • 87. ชื่ออื่น ผักขี้ขวง เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขาแผ่กระจาย ออกไปโดยรอบ ใบ เล็กเรียวยาวออกตามข้อๆ ละประมาณ ๔ – ๕ ใบ ขอบใบเรียบกว้าง ๐.๒ – ๐.๕ เซนติเมตร ยาว ๑ – ๕ เซนติเมตร ก้านใบ สั้น ดอก ออกรอบๆ ข้อๆ ละ ๔ – ๖ ดอก กลีบดอกมี ๕ กลีบสีขาว อมเขียว ผล รูปยาวรี ยาวประมาณ ๐.๓ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกเป็น ๓ แฉก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๗๘ ผักขม สะเดาดิน ผักขวง ใบ ลำต้น ลวกจิ้มน้ำพริก แกงกับปลาทู ทั ้ ง ต้ น บำรุ ง น้ ำ ดี แก้ ไข้ ไข้ เพื ่ อ ดี พ ิ ก าร ดั บ พิ ษ ร้ อ น ตำกั บ ขิ ง สด ปิดกระหม่อมเด็กแก้หวัด
  • 88. ชื่ออื่น เม็ก เม็ดชุน เสม็ดแดง ผักขี้มด เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางสูงประมาณ ๒ – ๑๐ เมตร ลำต้น กลมหรือสี่เหลี่ยมเปลือกสีน้ำตาลซ้อนกันหลายๆ ชั้น ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบอ่อนสีน้ำตาล - ชมพู ใบแก่เขียวเข้มเป็นมัน รูปหอกหรือรูปไข่ โคนใบแหลมหรือป้าน ปลายใบแหลมเส้น กลางใบมีรอยทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบยาว ๒ – ๑๐ มิลลิเมตร แผ่นใบยาว ๕ – ๑๑ เซนติเมตร กว้าง ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ สีขาวรูปกรวยทรงกระบอกแคบไม่มีก้านฐานดอก กลีบเลี้ยง ๕ กลีบรูปครึ่งวงกลม กลีบดอก ๕ กลีบ เป็นเยื่อรูป กลม ช่อดอกตั้งขึ้นยาวประมาณ ๑๒ เซนติเมตร ออกที่ปลายยอดและตามซอกใบ ช่อดอกเป็นช่อแยกแขนง ก้านช่อดอกยาวได้ถึง ๒๐ มิลลิเมตร แกนกลางแตกแขนงได้เป็น ๔ มุม ผล สีขาวรูปร่างกลม ก้านผลเป็นนูนออกมา และบุ๋ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ หลู้ ส้า น้ำพริกต่างๆ เปลือกต้นต้มทาแก้พิษน้ำเกลี้ยง ใบแก้ท้องเสีย ๗๙
  • 89. ชื่ออื่น กระทกรก ตำลึงทอง เถาสิงห์โต ผักบ่วง ผักขี้มูก เป็นไม้เถามีมือเกาะเกี่ยวพันต้นไม้อื่น ลำต้นกลมสีเขียวมีขนสีทองอ่อนนุ่มปกคลุมทั่วไป ใบ เป็นสามแฉก ขอบ ใบหยัก ปลายใบแหลม กว้างประมาณ ๔ เซนติเมตร ยาว ๕ เซนติเมตร ดอก เป็นแบบดอกเดี่ยว สีขาว ผล สีเขียวมีรกหุ้ม สีเขียวอ่อน เมื่อผลสุกจะมีสีเหลือง รกที่หุ้มผลก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๘๐ ยอด ใช้ลวกรับประทานกับลาบ น้ำพริก หรือแกงรวมกับผักอื่น ทั้งต้น บำรุงหัวใจ แก้โรคเหน็บชา
  • 90. ชื่ออื่น ผักกาดหัวขาว ผักกาดจีน ผักกาดหัว ผักขี้หูด เป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียวลำต้นตรงสูงประมาณ ๒๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร ใบ มีขนหรือเรียบ ใบเดี่ยวมีก้านสั้น รูปช้อนแกมรี ยาว ๕ – ๓๐ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๓ – ๕.๕ เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นซี่ฟัน ดอก ออกเป็นช่อยาวแบบช่อ กระจะ ก้านดอกยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กลีบเลี้ยงเรียวยาวรูปขอบขนานกลีบดอกสีม่วงมี ๔ กลีบ ลักษณะรูปช้อนปลายงุ้ม ยาวเท่ากับวงกลีบเลี้ยง มีเกสรตัวผู้ ๖ อัน ยาว ๔ อัน สั้น ๒ อัน ผล เป็นฝักค่อนข้างกลมตั้งตรง กว้าง ๑.๕ เซนติเมตร ยาว ได้ถึง ๑๐ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดประมาณ ๒ – ๕ เมล็ด รูปไข่แกมทรงกลมสีเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ฝักอ่อนแกงแค ลวก ต้ม จิ้มน้ำพริก ใบ แก้ท้องอืด แก้บิด แก้ท้องร่วง เมล็ด เป็นยาระบาย หัว บำรุงกำลัง แก้ร้อนใน ช่วยล้างพิษ ๘๑
  • 91. ชื่ออื่น ฟักผ่าว ฟักข้าว ขี้กาเครือ ผักเข้า เป็นไม้เถาเลื้อยมีมือเกาะยึดต้นไม้อื่น เถาสีเขียวเข้มลักษณะสี่เหลี่ยม ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบโค้งมนและเว้าเข้าหาก้านใบ ขอบใบทั้ง ๒ ข้างเว้าเข้าหาเส้นกลางใบเป็น ๓ แฉก แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม ดอก เป็นดอกเดี่ยวขนาดใหญ่ สีเขียวอมเหลืองมีกลีบดอก ๕ กลีบ ผล ทรงกลมรี กว้างประมาณ ๘ - ๑๐ เซนติเมตร มีหนามทั่วทั้งผล ผลอ่อนสีเขียวแล้วเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดงเมื่อแก่ ภายในมีเมล็ดเรียงตัวแบบเมล็ดแตงเป็นรูปไข่ยาวประมาณ ๑.๕ - ๒ เซนติเมตร มีเปลือกหุ้มเมล็ดสีดำ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๘๒ ยอดอ่อนและผลอ่อน ลวกให้สุกรับประทานร่วมกับน้ำพริก แกงแคหรือ แกงกับปลาย่าง ใบ แก้ไข้ตัวร้อน ถอนพิษอักเสบ ตำพอกแก้ปวดท้อง เมล็ดคั่วให้กรอบ รับประทานบำรุงโลหิต
  • 92. ชื่ออื่น ผักขม ผักโหม ผักขมหัด ผักโขม เป็นพืชล้มลุกมีรากแก้ว ลำต้นตั้งตรงเรียบ อวบน้ำ สีเขียวเป็นมัน มักมีรอยแตกเป็นร่องยาว สูงประมาณ ๒๐ – ๔๐ เซนติเมตร ใบ เป็นใบเดียว รูปร่างค่อนข้างเป็นรูปสามเหลียมหรือรูปไข่ ่ ่ ฐานใบกว้าง ปลายใบมนมีรอยหยักเล็กน้อยบริเวณปลายใบ ขอบใบ เรียบหรือเป็นคลื่น ก้านใบเรียวเล็กออกจากลำต้นแบบสลับกัน ดอก ออกเป็นช่อตามปลายยอดและตามซอกใบ ดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย แยกกันอยู่ต่างดอกกัน มีดอกย่อยขนาดเล็กสีม่วงปนเขียว ช่อดอกยาว ประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ลักษณะเป็นกระจุกรอบๆ แกนกลาง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ต้นอ่อนและยอดอ่อน ลวก จิ้มน้ำพริก ผัด และแกงเลียง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งต้น ขับปัสสาวะ แก้คันตามผิวหนัง แก้ไข้ แก้ไข้หวัด ๘๓
  • 93. ชื่ออื่น พลูคาว ผักคาวตอง เป็นไม้เลื้อยสูงประมาณ ๕ – ๓๐ เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรงสีเขียวอมม่วง ลำต้นที่เลื้อยไปตามดินจะมีราก แขนงออกตามข้อ ใบ เป็นแบบใบเดี่ยวรูปไข่สีเขียวอมม่วงหนากลมเรียงสลับ ปลายใบแหลมยาว ๒.๕ – ๓ เซนติเมตร ขยี้ใบดม จะมีกลิ่นเหม็นคาว ดอก ออกเป็นช่อตรงปลายยอด ประกอบด้วยดอกที่ไม่มีก้านดอกขนาดเล็กแต่มีกลีบเลี้ยงสีขาว เกสรเป็น กระจุกสีเหลืองนวล ผล เป็นผลแห้งแตกเมื่อแก่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๘๔ ยอดอ่อนและใบอ่อนมีรสเผ็ดคาวรับประทานเป็นผักสดแกล้มกับน้ำพริก ปลาร้า ลาบ ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี ทั้งต้น แก้กามโรค เข้าข้อ แก้น้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลแห้ง ฆ่าเชื้อโรค ทางเดินปัสสาวะ ทาภายนอกให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนัง
  • 94. ชื่ออื่น ช้าพลู ผักปูลิง อีไร ผักอีเลิศ ผักแค เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรงสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ทุกส่วนเกลี้ยง ก้านใบยาว ๑ - ๒.๕ เซนติเมตร เนื้อใบหนา ผิวมัน เหนียวหรือกรอบคล้ายกระดาษ แผ่นใบรูปไข่ กว้างถึงรูปรี ฐานใบเว้าลึกแบบสมมาตร มีเส้นใบจำนวน ๗ เส้น ดอก เป็ นช่ อ รู ป ทรงกระบอกตั้งขึ้นช่อดอกมีทั้งเพศผู ้ แ ละเพศเมี ย ก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร เกสรเพศผู้ ๑ อัน ยอดเกสร เพศเมียมี ๓ - ๔ อัน ช่อดอกที่มีเฉพาะเพศเมียมีดอกเรียงซ้อนกันแน่น ผล เป็นผลกลุ่มทรงกระบอกภายในมีเมล็ดขนาดเล็ก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ แกงแคร่วมกับ ผักชนิดอื่น แกงหอยขม แกงปลาแห้งร่วมกับหัวปลี ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ เจริญอาหาร ขับเสมหะ ทำให้เลือดลมซ่าน ต้น แก้เสมหะในทรวงอก ขับเสมหะ ราก แก้คูถเสมหะ ขับเสมหะให้ตกทางทวารหนัก บำรุงธาตุ ทำให้เสมหะแห้ง ๘๕
  • 95. ชื่ออื่น ตำลึง ตำนิน ผักแคบ เป็นไม้เถาเลื้อยอายุหลายปี มีมือพันแบบเดี่ยวพาดพันไปตามไม้อื่นหรือทอดนอนไปตามพื้นดิน มีรากเป็นหัว สะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันรูปร่างค่อนข้างกลมมี ๓ – ๕ แฉก ความยาวและกว้างของใบเกือบเท่ากัน ประมาณ ๓.๕ – ๑๐ เซนติเมตร ก้านใบยาว ๒ – ๖ เซนติเมตร โคนใบเว้าลึกรูปหัวใจ ขอบใบเรียบหรือหยักแบบซี่ฟัน แผ่นใบ เรียบเกลี้ยง ด้านท้องใบมีจุดโปร่งแสง ระหว่างฐานและเส้นกลางใบด้านหลังมีต่อมฝังลึกอยู่ ดอก แยกเพศ เป็นดอกเพศผู้และ เพศเมีย ดอกเพศผู้ออกตามซอกใบมี ๑ – ๓ ดอก ดอกเพศเมียออกเดี่ยวๆ ก้านดอกย่อย ยาว ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร วงกลีบ เลี้ยงส่วนโค้งเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ผล ลักษณะมีเนื้อหลายเมล็ดผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีแดงสดใส ภายในมีเมล็ด จำนวนมากรูปไข่กดแบนลง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๘๖ ใบ ยอดอ่อน ใส่แกงแค ใช้แกงอ่อม แกงจืด ลวกหรือนึ่ง จิ้มน้ำพริก ใบ ขยี ้ ท าแก้ ค ั น ถอนพิ ษ ปวดแสบปวดร้ อ น เป็ น ยาพอกรั กษาโรค ผิวหนัง น้ำย่อยจากใบชื่อ amylase มีคุณสมบัติย่อยแป้ง แก้ท้องอืดเฟ้อ เถาแห้งและผลดิบลดน้ำตาลในเลือด
  • 96. ชื่ออื่น จิกนา กระโดนน้ำ ผักจิก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๘ – ๑๗ เมตร ทรงต้นแผ่กว้าง เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม หยาบและหนา ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่กลับหรือรูปรีกว้าง ๓ – ๘ เซนติเมตร ยาว ๖ – ๑๖ เซนติเมตร ท้องใบสีอ่อน ปลายใบทู่มนหรือเว้าเล็กน้อย ขอบใบหยักเล็กๆ ถี่ๆ ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบแหลม ดอก ออกเป็นช่อห้อยระย้าที่ปลายกิ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ก้านดอกยาว ๓ – ๗ เซนติเมตร กลีบรองกลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อสั้นๆ ปลายแยกเป็นสี่กลีบสีชมพูมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ก้านเกสรยาว สีแดงสด ผลรูปสี่เหลี่ยม กว้าง ๑ – ๓ เซนติเมตร ยาว ๒ – ๖ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดกับลาบ น้ำพริกต่างๆ และนำมายำกับ ปลาทูนึ่ง ใบแก้ท้องเสีย แกบิดมูกเลือด แก้อุจจาระพิการ เปลือกต้นสมานแผล แก้เลือดออกตามไรฟัน ๘๗
  • 97. ชื่ออื่น ผักชีลาว ผักชี เทียนข้าวเปลือก ผักชีเทียน ผักจี เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นกลมเรียบเกลี้ยงและตั้งตรง มีกลิ่น หอม ลำต้นมีรูกลวงตลอดความยาว ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก หยักลึกมี ๒ – ๔ คู่ ใบย่อยลักษณะรูปเส้นด้าย ดอก ออกเป็นช่อ ที่จุดเดียว ลักษณะแบบซี่ร่ม ก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑๒ - ๒๐ เซนติเมตร ดอกวงนอกมี ๕ – ๒๐ ดอก ก้านดอกยาว ๑.๕ – ๗.๕ เซนติเมตร ดอกเป็นแบบซี่ร่มมีดอกย่อย ๕ – ๒๕ ดอก ก้านดอกย่อย ยาวประมาณ ๑ เซนติ เ มตร กลี บ ดอกสี เ หลื อ ง หลุ ด ร่ ว งง่ า ย ผล ลักษณะรูปรีมีสันบางๆ ๓ เส้น การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอด ใบ ใช้แกงอ่อม แกงหน่อ ห่อหมก หรือรับประทานเป็นผักสด กับน้ำพริก ลาบ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๘๘ เมล็ดแก้ชีพจรอ่อน แก้นอนสะดุ้ง บำรุงธาตุ แก้เสมหะพิการ เมล็ดแห้ง ที่แก่จัดเต็มที่ใช้เป็นยาบำรุงกำลังชั่วคราว
  • 98. ชื่ออื่น ผักชีล้อม ผักจีอ้อ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๖๐ เซนติเมตร ขึ้นในน้ำลำต้นกลวงอวบน้ำ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับ ใบย่อยรูปหอกกว้างประมาณ ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ขอบใบยักแบบฟันเลื่อย ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบดอกสีขาว ก้านดอกย่อยขนาดเท่ากัน ผล เป็นผลแห้งรูปไข่กลับและแตกได้ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริก ลาบ ยำ หลู้ ส้า ทั้งต้นใช้เป็นสมุนไพรต้มอาบ อบ เพื่อรักษาอาการเหน็บชา ขับเหงื่อ ผล ขับลม แก้ธาตุพิการ แก้หืดหอบ คลื่นเหียนอาเจียน ๘๙
  • 99. ชื่ออื่น ผักจินดา ผักเชียงดา เป็นไม้เลื้อยเถามีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๕ – ๕ เซนติเมตร เลื้อยพาดไปตามต้นไม้อื่น เถายาวประมาณ ๕ – ๑๐ เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปกลมรีปลายแหลม ออกจากข้อเรียงเป็นคู่ตรงข้ามกันสีเขียวเข้ม หลังใบมีสีเขียวเข้มกว่าท้องใบ ดอก ออกเป็นช่อแน่นสีขาวอมเขียวลักษณะกลมเล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ – ๖ มิลลิเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๙๐ ยอดอ่อนและดอกใช้แกงกับปลาแห้ง แกงรวมกับผักเสี้ยว แกงแค ร่วมกับผักชนิดอื่น นำใบมาตำให้ละเอียดพอกกระหม่อมแก้หวัด ลดน้ำตาลในเลือด
  • 100. ชื่ออื่น ผักพาย ผักด้ามพั่ว เป็นไม้น้ำ ชอบขึ้นในนาข้าวที่มีน้ำขังลึกประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร มีอายุฤดูเดียว มีลำต้นและรากยึด ติดกับผิวดินในน้ำ ชูก้านและใบเหนือน้ำขึ้นมา ก้านใบลักษณะอวบกลม ส่วนโคนก้านใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกันมียอดอยู่ตรงกลาง ความสูงเรือนยอดเฉลี่ยประมาณ ๑๐ – ๓๐ เซนติเมตร ใบ รูปไข่ยาวรีสีเขียวออกฟ้า มีไขเคลือบไม่เปียกน้ำ ปลายใบ้ป้าน โค้งมน โคนใบสอบเข้าหาก้านใบ กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร ดอก ออกที่ปลายยอด มีก้าน ดอกชูยาวเหนือผิวน้ำมีกลีบดอก ๔ – ๕ อัน สีขาว ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ก้านใบ และใบ รับประทานเป็นผักสด ร่วมกับน้ำพริก ลาบ ส่า หลู้ ไม่นิยมใช้ในทางสมุนไพร ๙๑
  • 101. ชื่ออื่น เฟิร์นแผง, พ่อค้าตีเมีย ผักตับแก้ เป็นไม้ล้มลุกประเภทเฟิร์น มีลำต้นเป็นเหง้ามีไหลทอดไปกับพื้นดิน ใบ เป็นใบประกอบ ก้านใบยาว แข็งหนา ยาว ๓๐ - ๔๐ เซนติเมตร ใบแผ่คลี่ออกเป็นแผ่น ใบอ่อนจะม้วนงอลักษณะใบเรียงตัวแบบเป็นเกลียววนรอบลำต้น ก้านใบจะมีขนปกคลุมอยู่ทั่วไปท้องใบจะมีสปอร์ขนาดเล็กเบาหลุดออกจากชั้นสปอร์สามารถปลิวไปได้ไกล เมื่อตกในที่เหมาะสม ก็จะเกิดเป็นต้นอ่อนต่อไป การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๙๒ ยอดอ่อนที่ม้วนงอ นำมาแกงกับปลาแห้งหรือแกงแครวมกับผักอื่นหรือ ลวกเป็นผักจิ้มรับประทานกับน้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาร้า ทั้งต้นใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
  • 102. ชื่ออื่น ติ้วส้ม ติ้วเลือด ผักติ้ว กุยฉ่องเซ้า ผักติ้วขาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูง ๘ – ๑๕ เมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลดำ เปลือกในสีน้ำตาล เหลือง มีน้ำยางเหนียวสีเหลืองปนแดงซึมออกมา เมื่อถูกตัดใหม่ๆ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม โปร่ง ตามลำต้นและกิ่ง ขนาดใหญ่มักกลายสภาพเป็นหนามแข็งๆ ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ติดตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ทรงใบรูปรีแกมรูปไข่และรูปขอบ ขนาน กว้าง ๒.๕ – ๔.๕ เซนติเมตร ยาว ๓ – ๑๓ เซนติเมตร โคนใบสอบเนื้อใบบาง หลังใบมีขนสาก ท้องใบมีขนนุ่ม หนาแน่น เส้นแขนงใบ มี ๗ – ๑๓ คู่ ดอก สีชมพูอ่อนถึงแดง กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นกระจุกตามซอกใบ มีกลีบดอก และกลีบฐานดอกมีอย่างละ ๕ กลีบ ผล เป็นชนิดผลแห้งรูปรี ยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร มีนวลขาวติดตามผล ผลแก่ จะแตกอ้าออกตามรอยประสาน เป็น ๓ แฉก เมล็ดสีน้ำตาล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่ อ นรั บ ประทานเป็ น ผั ก จิ ้ ม ลาบ น้ ำ พริ ก ใส่ ต ้ ม ต่ า งๆ เพื่อปรุงรสเปรี้ยว การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร น้ำยางทารักษาอาการรอยแตกของส้นเท้า ๙๓
  • 103. ชื่ออื่น มะกล่ำต้น มะกล่ำตาช้าง มะหัวแดง ผักตุ๊ด เป็นไม้ยืนต้นสูง ๑๕ - ๒๕ เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นหนา ลำต้นผิวขรุขระสีน้ำตาลดำ เรือนยอด เป็นพุ่มกลมปลายกิ่งจะห้อยลงกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขน ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นออกเรียงสลับยาว ๑๕ – ๔๐ เซนติเมตร แต่ละช่อมีช่อย่อยออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ปลายสุดของช่อย่อยเป็นใบเดี่ยว ดอก ออกเป็นช่อสีเหลือง รูปทรงกระบอก ออกที่ซอกใบคล้ายหางกระรอก ออกปีละ ๒ ครั้ง ผล เป็นฝักลักษณะแบนยาวประมาณ ๑๐ – ๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๑๒ – ๒๐ เซนติเมตร สีน้ำตาลเข้ม ฝักเมื่อแก่จะแตกเป็น ๒ ซีกแล้วม้วนเข้าหากัน เมล็ดสีแดงติดอยู่ที่ขอบผนังฝัก ฝักหนึ่งๆ มีหลายเมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๙๔ ยอดอ่อน ใบอ่อน ลวก นึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริกต่างๆ เมล็ ด แก้ โรคตั บ พอกดั บ พิ ษ รั ก ษาแผลหนอง ใบต้ ม รั บ ประทาน แก้ปวดข้อ บำรุงธาตุ
  • 104. ชื่ออื่น หางปลาช่อน ผักบั้ง ผักแดง ผักบั้ง เป็นไม้ล้มลุก สูง ๒๕ – ๔๐ เซนติเมตร ใบ ออกติด ลำต้นไม่มีก้านใบ กว้าง ๑ – ๘ เซนติเมตร ยาว ๔ – ๑๖ เซนติเมตร ใบล่างๆ จะออกติดผิวดินขอบใบส่วนล่างหยักเว้าลึกเข้าหาเส้นกลางใบ ใบส่วนบนค่อนข้างกลมรูปไต รูปไข่หรือรูปสามเหลี่ยม ขอบใบหยักเป็น ซี่ฟันเล็กน้อย โคนใบสอบเข้าสู่เส้นกลางใบคล้ายเป็นก้านใบ ใบกลาง มีขนาดเล็กกว่ารูปหอกแกมรูปไข่ ขอบเรียบ ส่วนใบบนจะเล็กแคบโคนใบ รูปหัวลูกศร ระหว่างใบกลางและใบบนจะเรียงห่าง ๆ กัน ทั้งหมด ปลายแหลม เนื้อใบเกลี้ยง ดอก ออกเป็นกระจุกกลีบสีชมพู ผล เป็น ผลแห้งมี ๕ สัน มีระยางค์สีขาว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่อน ลวกเป็นผักจิ้ม ร่วมกับน้ำพริกแดง น้ำพริกปลาร้า และนำมาแกงแคร่วมกับผักอื่น การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ คั้นหยอดแก้เจ็บตา แก้เจ็บหู แก้หืดไอ ห้ามเลือด แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ แก้บิด ๙๕
  • 105. ชื่ออื่น ผักทอดยอด โหนเดาะ ผักบุ้ง เป็นไม้เลื้อยล้มลุก เนื้ออ่อน ลำต้นกลวง มีรากออกตามข้อ ใบ มีรูปร่างหลายแบบ หลายขนาดแตกต่างกัน แม้อยู่ต้นเดียวกัน เช่น รูปไข่ รูปสามเหลี่ยม รูปไข่กลับ รูปหอก โคนใบเว้าหรือรูปศร ปลายใบมนหรือแหลม ดอก ออกตาม ซอกใบ รูปกรวยปลายบาน สีชมพูหรือชมพูออน ตรงกลางมีสเี ข้ม ผล รูปไข่ หรือกลม ผิวเกลียง ภายในมีเมล็ด ๔ เมล็ด มีขนสีเทา ่ ้ หนาแน่น การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสด ลวก รับประทานร่วมกับน้ำพริก ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งต้น เป็นยาระบาย แก้ไข้ แก้นอนไม่หลับ แก้ปวดศีรษะ แก้อาการอ่อนเพลีย ๙๖
  • 106. ชื่ออื่น ผักตับเต่า ตับเต่านา ผักปอดม้า เป็นพืชน้ำ ลำต้นเจริญเติบโตอยู่ในน้ำมีราก และไหลเป็นเส้นสีขาวปลายไหลจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ ใบ รูปร่าง กลมคล้ายใบบัวบก ฐานใบเว้าเข้าหาก้านใบเป็นรูปหัวใจ ก้านใบยาว ขอบใบเรียบ ใบเมื่อลอยน้ำจะมีลักษณะคล้ายเต่า ในช่วงฤดูแล้งกลาง แผ่นใบจะพองออกคล้ายกับฟองน้ำ ดอก ออกตามซอกใบ ก้านดอก ยาว ดอกมีสีขาว ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียเกิดแยกกันคนละดอก มีใบ ประดั บ หุ ้ ม ดอกตั ว ผู ้ ก้ า นดอกตั ว ผู ้ จ ะยาวกว่ า ดอกตั ว เมี ย ผล กลมเรียบ เมื่อแก่จะแตกออกภายในมีเมล็ดรูปรีเล็กๆ จำนวนมาก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อน ใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก ส้มตำ ลาบ ส้า ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งต้น แก้ลม แก้เสมหะ บำรุงธาตุไฟให้บริบูรณ์ ๙๗
  • 107. ชื่ออื่น ผักปังขาว ผักปังใหญ่ ผักปั๋ง เป็นไม้เลื้อยลำต้นอวบน้ำ ผิวเรียบเป็นมันสีเขียวอ่อนๆ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับขอบเรียบรูปหัวใจ แผ่นใบ เป็นมันวาว สีเขียวอ่อน มีความกว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร ยาว ๘ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อออกตามซอกใบดอกติดอยู่ที่ ก้านดอกมีสขาวหรือชมพูออนๆ ผลกลมสีเขียวขนาด ๐.๓ – ๐.๕ เซนติเมตร เมือสุกจะมีสนำตาลเข้มภายในมีเมล็ดกลมเปลือกแข็ง ี ่ ่ ี ้ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๙๘ ยอดและช่อดอก ใช้แกงและลวกจิ้มกับน้ำพริก ทั้งต้นรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ขับปัสสาวะ ระบายท้อง แก้บิด คั้นเอาน้ำจากดอกทาแก้หัวนมแตกเจ็บ
  • 108. ชื่ออื่น ช้าเลือด ผักกาดย่า ผักขะยา ผักปู่ย่า เป็นไม้เลื้อยลำต้นตรงหรือพันต้นไม้อื่น ลำต้นมี หนามแหลมจำนวนมาก ทั้งลำต้นและก้านใบ ยอดอ่อนมีสีน้ำตาล แดง ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบ ยาว ๒๕ – ๓๐ เซนติเมตร ใบมี ๑๐ – ๓๐ คู่ ก้านใบสีแดงมีหนาม แหลมคม ออกตามกิ่งก้านทั่วไป ใบสามารถหุบเข้าหากันได้เมื่อถูก สัมผัส ดอก เป็นช่อยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร สีเหลือง บานในช่วง ฤดูหนาว ผล เป็นฝักบวมพองมีหนามเล็กๆ ภายในมีเมล็ด ๒ เมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อนรับประทานกับซุบหน่อไม้ น้ำพริกปลาร้า ประโยชน์ทางสมุนไพร ทั้งต้นบำรุงเลือด แก้วิงเวียน ๙๙
  • 109. ชื่ออื่น ผักแปม (ทั่วไป) ผักแปม เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๒ – ๖ เมตร ลำต้นมีหนามงุ้ม ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือมีใบย่อย ๓ – ๕ ใบ ลักษณะรูปรีหรือรูปรีแกมไข่ ขนาดยาว ๕ – ๘ เซนติเมตร กว้าง ๒ – ๓.๕ เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก แบบฟันเลือยหรือซีฟน เส้นใบเห็นได้ชดด้านหน้าใบและหลังใบ ก้านใบย่อย ยาว ๑ – ๑.๒ เซนติเมตร ด้านบนเป็นร่อง ก้านใบรวม ่ ่ ั ั ยาว ๓.๕ – ๖ เซนติเมตร ด้านบนแบนมีหนาม เมื่อขยี้ใบจะมีกลิ่นเฉพาะ ดอก ออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม สีเขียวอมเหลือง ดอก จำนวนมากออกที่เดียวรวมกันเป็นกระจุกที่ปลายก้าน ก้านดอกย่อยยาว ๑ – ๒ เซนติเมตร มีกลีบดอก ๕ กลีบ มีเกสรเพศผู้ ๕ อัน และเกสรเพศเมีย ๒ อัน ผล แบนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๔ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๐๐ ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสดกับลาบ หลู้ ส้า น้ำต้มจากเปลือกต้นดื่มแก้โรคผอมแห้ง และโรคประสาท หรือนำเปลือก ย่างไฟแล้วนำมาแช่ในเหล้าขาวจะเห็นผลเร็วกว่า
  • 110. ชื่ออื่น เล็บเลาะ ดีงูเห่า เครืองูเห่า ตีนเกีย ผักแปมป่า เป็นไม้เถา ลำต้นเมื่อยังอ่อนจะมีหนามแหลมคมทั่วไป พอต้นแก่จะกลายเป็นปุ่มปม ใบ เป็นใบประกอบ แบบฝ่ามือมีใบย่อย ๓ ใบ รูปขอบขนานแกมไข่ กว้างประมาณ ๑ – ๑.๒ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๘ เซนติเมตร เนื้อใบ มีจุดน้ำมันกระจายอยู่ทั่วไป ดอก ออกเป็นช่อ ที่ปลายกิ่งและซอกใบ กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว มีรังไข่ขนาดใหญ่ลักษณะกลม อยู่ตรงกลางดอกแล้วจะกลายเป็นผล ผล กลมสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ยอดอ่อนใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ ส้า หลู้ ลำต้น ฝนทาแก้พษแมลงสัตว์กดต่อย ผสมกับแก่นฝางและกำลังช้างสาร ิ ั ต้มน้ำดื่มแก้อาการปวดหลังและบั้นเอว ๑๐๑
  • 111. ชื่ออื่น ผักกาดช้าง หญ้าดอกฟุ้ง หญ้าคออ่อน ผักเผ็ดแม้ว ผักเผ็ดขม เป็นไม้พุ่มล้มลุก สูงได้ถึงประมาณ ๕๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร ชอบขึ้นในที่มีความชุ่มชื้น ลำต้นเป็นเหลี่ยม สีเขียวอ่อน ใบ เป็นใบเดี่ยว ขอบใบเว้า กว้างประมาณ ๕ – ๑๐ เซนติเมตร เส้นใบด้านท้องใบนูนมองเห็นได้ชัดเจน ดอก สีชมพู - ม่วง ลักษณะเป็นปุยถ้วยทรงกลม ออกจากปลายยอดชูก้านช่อดอกขึ้นเหนือเรือนยอด เกสรสีแดง ดอกเมื่อแก่จะแตกออก และปลิวไปตามลม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๐๒ ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสด หรือลวกให้สุก รับประทานกับ น้ำพริก ใช้แกงเลียง ใบ ยอดอ่อนมีกลิ่นหอม ดับกลิ่นคาว ช่วยเจริญอาหาร
  • 112. ชื่ออื่น ผักคราดหัวแหวน ผักตุ้มหู หญ้าตุ้มหู ผักเผ็ดน้อย เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร หรือทอดไปตามพื้นดิน ปลายยอดชูขึ้น ลำต้น อวบน้ำสีเขียวอมม่วง ต้นอ่อนมีขนปกคลุมเล็กน้อย ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปสามเหลี่ยมออกตรงข้ามต้น ขอบใบหยัก ก้านใบยาว ผิวใบสาก มีขนใบกว้าง ๓ – ๔ เซนติเมตร ยาว ๓ – ๖ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่งเป็นกระจุก สีเหลือง ลักษณะกลม ปลายแหลมคล้ายหัวแหวน ดอกย่อยมีวง ๒ วง วงนอกเป็นตัวเมีย วงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผล เป็นผลแห้งรูปไข่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ ต้น รับประทานสดเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก แจ่ว ใส่แกงอ่อม แกงหอยขม ดับกลิ่นคาวดีมาก ใช้ เ ป็ น ยาชาแก้ ป วดฟั น สะกั ด เป็ น ยาชาแก้ พ ิ ษ ตามทวาร ต้ น สดตำผสมเหล้ า อมแก้ ฝ ี ใ นคอ ต่ อ มน้ ำ ลายอั ก เสบ ช่ ว ย เจริญอาหาร ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร ๑๐๓
  • 113. ชื่ออื่น ผักแพว พริกบ้า ผักไผ่ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๓๐ – ๓๕ เซนติเมตร ลำต้นทอดเรียวยาวไปตามพื้นดิน และมีรากงอกออกตามข้อของลำต้น ที่สัมผัสกับผิวดิน ใบ รูปหอก ขอบเรียบปลายแหลมฐานใบรูปลิ่ม กว้าง ๕ – ๕.๘ เซนติเมตร ดอก เป็นช่อมีดอกย่อยขนาดเล็ก สีชมพูม่วง หรือขาวนวล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบรับประทานเป็นผักสด หั่นใส่ลาบ ช่วยดับกลิ่นคาว ประโยชน์ด้านสมุนไพร ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร ช่วยเจริญอาหาร ๑๐๔
  • 114. ชื่ออื่น พญาปล้องทอง เสลดพังพอนตัวเมีย ผักลิ้นเขียด ผักพญายอ เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ลำต้นตรงกลมผิวเรียบเป็นปล้อง ต้นอ่อนสีเขียว ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหอกเรียวยาว ปลายใบและโคนใบแหลม ผิวและขอบใบเรียบ กว้างประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๗ – ๙ เซนติเมตร ออกเป็นคู่ ตามข้อใบ ดอก ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกเป็นหลอดสีแดงส้ม ยาวประมาณ ๓ – ๔ เซนติเมตร กลีบรองดอกสีเขียว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ยอดอ่อนใส่แกงแค ทั้งต้น แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้เริม งูสวัด แก้เม็ดผดผื่นคัน ๑๐๕
  • 115. ชื่ออื่น ผักลิ้นปี่ ผักแว่น เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นเป็นเง้าเรียวยาวทอดเลื้อยแตกกิ่งก้านระเกะระกะ อย่างไม่เป็นระเบียบ ลำต้นมีขนสีน้ำตาลอ่อน เมื่อขึ้นบนพื้นดินจะมีลำต้นสูงประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร ถ้าขึ้นในน้ำจะมีลำต้นที่สูงกว่า สูงได้ถึง ๑๘ เซนติเมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบ พัดมีใบย่อย ๔ ใบ ใบย่อยลักษณะรูปพัด กว้าง ๐.๕ ยาว ๒ เซนติเมตร มีอับสปอร์ออก เดี่ยวๆ หรือหลายอันบนก้านที่ชูขึ้นมาสั้นๆ รูปขอบขนานมีขนและร่วงง่าย การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดและลำต้ น อ่ อ นรั บ ประทาน เป็นผักสด กับน้ำพริกต่างๆ เช่น น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั ้ ง ต้ น สมานแผลในปาก ในคอ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ๑๐๖
  • 116. ชื่ออื่น ผักอีนูน ผักสาบ เป็นไม้เลื้อย อายุหลายปี พาดเลื้อยไปตามต้นไม้อื่น แตกแขนงออกตามข้อของลำต้นที่มี ลักษณะกลมสีเขียวเข้ม ผิวเรียบแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนเมื่อแก่ ผิวขรุขระ มีร่องลึกๆ ตามลำต้น ใบ เป็น ใบเดี่ยวรูปหัวใจ ก้านสั้น ออกตรงข้ามโคนใบสอบปลายใบแหลม ขอบเรียบ แผ่นใบแข็งสีเขียวเข้ม กว้าง ๕ – ๘ เซนติเมตร ยาว ๘ – ๑๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นกลุ่มสีเขียวออกเหลืองตามซอกใบแบบก้านร่ม ก้านดอกยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร ผล กลมสีเขียว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ – ๒.๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดเดียวลักษณะกลม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ผลอ่อนและยอดอ่อนใช้ลวกจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ ไม่มีรายงานการนำไปใช้ ๑๐๗
  • 117. ชื่ออื่น ผักขี้เสียด ผักขี้เขียด ผักอีไร ผักส้ม ผักสีเสียด เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นแผ่เป็นแผ่นกว้างราบไปกับพื้นดิน ใบ ลักษณะกลมใบอ่อนสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็น สีแดงเมื่อแก่ ดอก ขนาดเล็ก สีขาวอมแดงออกบริเวณซอกใบ ผล เกิดจากช่อดอกและจะแตกอ้าออกเวลาแก่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๐๘ ทั้งต้น แกงใส่ปลาย่าง นำมาแกงรวมกับผักขม ทั้งต้นแก้โรคเบาหวาน
  • 118. ชื่ออื่น เสี้ยวดอกแดง เสี้ยวหวาน ผั ก เสี้ ย ว เป็ น ไม้ ย ื น ต้ น ขนาด กลาง สูงประมาณ ๑๐ เมตร กิ่งอ่อนมีขน ใบ เป็ น ใบเดี ่ ย วเรี ย งสลั บ รู ป เกื อ บกลม ปลายใบผ่าลึกเว้าเข้าหากัน โคนใบกลม ถึงเว้าเป็นรูปหัวใจ หลังใบเกลี้ยง ท้องใบ มีขนเล็กน้อยมีหูใบขนาดเล็ก ดอก สีชมพูอ่อน ถึ ง แดง ออกเป็ น ช่ อ กระจายตามปลายกิ ่ ง หรื อ ซอกใบ มี ก ลิ ่ น หอมอ่ อ นๆ มี ด อกย่ อ ย ๖ – ๑๕ ดอก เมื ่ อ บานจะแยกออก ด้านนอกสีเขียว ด้านในสีชมพูอ่อนปนเขียว ผล เป็นฝักรูปขอบขนานเกลี้ยง มีเมล็ด จำนวนมากลั ก ษณะรู ป ทรงแบนกลม สีน้ำตาล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่อน ยอดอ่อน นำมานึ่งให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก ตาแดง น้ำพริกปลาร้า ใช้แกงกับปลาย่าง และแกงแครวมกับ ผักอื่น ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ดอกระบายพิษไข้ ราก ระบายพิษไข้ เปลือกต้นแก้ไอ ห้ามเลือด ดอกและแก่นแก้บิด ๑๐๙
  • 119. ชื่ออื่น มะลิวัลย์ เถาวัลย์ดำ ผักแส้ว เป็นไม้เลื้อย เถากลมสีเขียว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๑๕ เซนติเมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน สีเขียวรูปหอกหรือรูปหอกแกมไข่ กว้างประมาณ ๒.๓ – ๔ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๔ – ๑๒ เซนติเมตร ก้านใบสั้น หลังใบจะมีสีที่เข้มกว่าท้องใบ ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ฐานใบสอบค่อนข้างแหลม ดอก ออกเดี่ยวๆ กลีบขนาดเล็กเรียวบางสีขาว มีกลิ่นหอม ผล ขนาดเล็ก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๑๐ ยอดอ่อนและใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกแดง น้ำพริก ปลาร้า ยำกับปลาทู นำมาแกงกับปลาแห้ง หรือแกงแคร่วมกับผักอื่น ใบช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ดอก บำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์ ราก ถอนพิษเมาเบื่อ
  • 120. ชื่ออื่น บัวบก แว่นโคก ผักหนอก เป็นพืชล้มลุกทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน มีรากออก ตามข้อชูใบตั้งตรง ใบ เป็นใบเดี่ยวมีก้านยาวชูใบลักษณะรูปไตหรือรูปกลม มีรอยเว้าลึกที่ฐานใบ ขอบใบมีรอยหยักผิวใบด้านบนค่อนข้างเรียบ ดอก ออกเป็นช่อคล้ายร่มออกจากข้อ ช่อละ ๓ – ๔ ดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก ๕ กลีบ สีม่วงอมแดง โดยเรียงสลับกับเกสรตัวผู้ เมล็ดมีขนาดเล็กสีดำ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ทั้งต้นรับประทานเป็นผักสด จิ้มกับลาบและน้ำพริกต่างๆ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งต้นต้มน้ำดื่ม แก้ฟกช้ำ ลดอาการอักเสบได้ดี แก้ร้อนใน ๑๑๑
  • 121. ชื่ออื่น กระถินไทย กระถินบ้าน สะตอเบา ผักหนอง เป็นไม้พุ่มยืนต้น สูงประมาณ ๕ เมตร ลำต้นสีน้ำตาลผิวขรุขระ ใบ เป็นใบประกอบ ก้านใบยาว ๑๕ – ๓๐ เซนติเมตร แตกออกเป็นก้านย่อย ๓ – ๑๐ คู่ ใบมีขนาดเล็ก จำนวน ๕ – ๒๐ คู่ ใบรูปขนานปลายแหลม ยาว ๖ – ๒๑ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๕ มิลลิเมตร ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็ก กลมฟู สีขาว มีกลิ่นหอมเล็กน้อย ผล เป็นฝักแบนยาว ๑๒ – ๑๘ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร เมล็ดสีน้ำตาลเมื่อแก่ผิวเรียบ มี ๑๕ – ๓๐ เมล็ดต่อฝัก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๑๒ ยอดอ่อน ฝักอ่อน รับประทานกับน้ำพริก เปลือกต้นเป็นยาฝาดสมาน รากเป็นยาอายุวัฒนะ ขับลม ขับระดูขาว
  • 122. ชื่ออื่น ผักหวาน กะลี ผักหนาม เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นทอดเลื้อยมีหนามขึ้นทั่วไป ลำต้นทอดเลื้อยไปตามผิวดินแล้วชูยอด ตั้งขึ้น ใบ เป็นแบบใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปลูกศร หรือขอบใบหยักเว้าลึกและมีหนามที่เส้นใบด้านท้องใบ ก้านใบยาวประมาณ ๑ เมตร มีหนามตลอด ดอก เป็นช่อแทงออกจากกาบใบ ก้านดอกยาวประมาณ ๗๕ เซนติเมตร มีหนามตลอด มีจานรองดอกสีม่วงบิดเป็นเกลียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ มีเกสร เป็นแท่งสีขาวอยูตรงกลาง ผล ติดอยูทตรงดอก ออกเป็นกระจุก ผลอ่อนสีเขียวพอสุกจะมีสเี หลืองแกมแดง ่ ่ ่ี การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อน ใบอ่อน ลวก ต้มให้สุก นำมาดอง รับประทานร่วมกับน้ำพริกฯ นำมาแกง เหง้าแก้ไอ ขับเสมหะ แก้คนเนืองจากพิษหัด ั ่ ประโยชน์ด้านสมุนไพร สุกใส ราก และใบแก้เสมหะ ข้อควรระวัง ทุกส่วนมีสารไฮโดรไซยาไนต์ มีพิษ ควรทำให้สุกก่อน ๑๑๓
  • 123. ชื่ออื่น ชะอม ผักขา ผักหละ เป็นไม้พุ่มเลื้อยลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมอยู่ทั่วไป ใบ เป็น ใบประกอบคล้ายใบส้มป่อยหรือใบกระถิน ใบอ่อนมีกลิ่นฉุน ใบเรียงสลับใบย่อย อยู่ตรงข้ามกันมี ๑๓ – ๑๘ คู่ ดอก ลักษณะคล้ายดอกกระถิน ออกที่ซอกใบสีขาว หรือสีขาวนวล ดอกขนาดเล็กจะเห็นชัดเจนเฉพาะเกสรตัวผู้มีลักษณะเป็นฝอย การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่ อ นรั บ ประทานได้ ทั้งสดและลวกสุก ยอดอ่อนแกงกับหน่อไม้ แกงเห็ด ประโยชน์ด้านสมุนไพร รากแก้ ท ้ อ งเฟ้ อ ขั บ ลม ในลำไส้ แก้อาการปวดเสียวในท้อง ข้ อ ควรระวั ง หญิ ง ที่ ค ลอดบุ ต รใหม่ ๆ ไม่ ค วรรั บ ประทาน เพราะจะทำให้น้ำนมแห้ง ๑๑๔
  • 124. ชื่ออื่น ผักหวานบ้าน ก้านตบมะยมป่า ผักหวานใต้ใบ ผักหวานบ้าน เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ ๒ - ๓ เมตร มีกิ่งก้านขนาดเล็กจำนวนมาก ใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ ก้านใบสั้น ใบรูปไข่ปลายแหลม ขอบใบเรียบออกตรงข้ามกัน รูปใบคล้ายขนมเปียกปูน กว้าง ๑.๕ - ๓ เซนติเมตร ยาว ๒ - ๖ เซนติเมตร โคนใบมน มีหูใบเล็กๆ ที่โคนก้านใบ หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีเขียวอ่อนๆ ดอก เป็นช่อออกเป็นกระจุก ที่ซอกใบ มีดอกตัวเมียประมาณ ๓ ดอก แต่ดอกตัวผู้มีจำนวนมากไม่มีกลีบดอก ส่วนดอกตัวเมียมีกลีบเลี้ยงสีแดงเข้มหรือสีเหลืองจุดปะ สีแดงเข้ม ผล กลมแป้นฉ่ำน้ำเป็นพูเล็กๆ ๓ พู สีเขียวถึงขาวเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร มีขั้วสีแดงห้อยลง ผลแห้งจะแตก เมล็ดขนาดเล็กสีดำ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อนและใบอ่อนนำมาแกงร่วมกับผักอืนๆ แกงเลียง แกงกับปลาแห้ง ่ ลวก นึ่ง ผัดกับน้ำมัน รับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริกตาแดง ใบและต้นใช้น้ำยางหยอดตาแก้ตาอักเสบ รักษาแผลในจมูก ราก ระงับความร้อน ถอนพิษไข้ ใบปรุงยาเขียว ๑๑๕
  • 125. ชื่ออื่น ผักหวาน ผักหวานป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบสูง ๖ - ๑๐ เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่หรือรูปรี สีเขียวเข้มหนา ปลายแหลม เรียงสลับตรงข้ามกันคล้ายใบประกอบ ยอดอ่อนใบเล็กเรียบสีเขียวอมเหลือง มีใบประดับขนาดเล็ก ที่ลำต้นและกิ่ง ดอก ออกเป็นกลุ่มสีเขียวตามซอกใบ ผล กลมรีออกเป็นพวงสีเหลืองอมน้ำตาล เมื่อสุกจะมีสีแดงขนาดกว้าง ๑.๕ - ๑.๗ ซม. ยาว ๓.๕ ซม. การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๑๖ ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอกอ่อน นำมาแกง แกงกับไข่มดแดง แกงกับ ปลาแห้ง แกงเลียงปลากรอบ หรือนึ่ง ทำผักจิ้มกับน้ำพริก ราก ระงับพิษ แก้พิษร้อนกระสับกระส่าย แก้น้ำดีพิการ แก้เชื่อมมัน
  • 126. ชื่ออื่น ผักชี ผักหอมน้อย ผักชีหอม ผั ก หอมป้ อ ม เป็ น ไม้ ล ้ ม ลุ ก ลำต้ นตั ้ ง ตรงภายในกลวง กิ่งเล็กเรียบ รากแก้วสั้น รากฝอยจำนวนมาก สูงประมาณ ๒๐ – ๒๕ เซนติเมตร ลำต้นมีสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมน้ำตาลเมื่อต้น แก่ ใบ ทรงรูปพัด ใบที่โคนจะมีขนาดโตกว่าใบที่ปลายสีเขียวสด ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็กสีขาวหรือชมพูอ่อนๆ มีกลีบดอก ๕ กลีบ ออกตรงส่วนยอดของลำต้น ผล รูปทรงกลมโตประมาณ ๕ มิลลิเมตร สีน้ำตาล ปลายผลจะแยกออกเป็น ๒ แฉก ตามผิวจะมีเส้นคลื่น ๑๐ เส้น การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ต้นและใบรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ลาบ หลู้ แหนม หรือ ใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งกลิ่นให้อาหารน่ารับประทาน ซอยใส่น้ำพริก ยำ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งต้น เป็นยาขับเสมหะ แก้หัดผื่นคัน ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ข้ อ ควรระวั ง ไม่ ค วรรั บ ประทานมากเกิ น ไป เพราะจะทำให้มีกลิ่นตัวแรงและตาลาย ๑๑๗
  • 127. ชื่ออื่น กระทุ้งหมาบ้า กระทงหมาบ้า ผั ก ฮ้ ว นหมู เป็ น ไม้ เ ลื ้ อ ย เถาเนื ้ อ แข็ ง ขนาดใหญ่ เปลื อ ก สี น ้ ำ ตาลอ่ อ น กิ ่ ง อ่ อ นและใบ มี ข นสั ้ น ๆ ประปรายหรื อ เกลี ้ ย ง เถามี ย า...เดี ่ ย วออกเป็ นคู ่ ต รงข้ า มรู ป ไข่ กว้ า ง ๔ – ๑๐ เซนติเมตร ยาว ๖ – ๑๔ เซนติเมตร ปลายใบแหลมเป็นติ่งขอบใบเรียบ โคนใบตัดกลม หรือเว้า เนื้อใบหนา ด้านล่างสีอ่อน ก้านใบยาว ๒.๕ เซนติเมตร ดอก สีเขียวอ่อนออกเป็นช่อที่ ง่ามใบ แต่ละช่อมีดอกจำนวนมาก ก้านช่อยาว ๒.๕ – ๗.๕ เซนติ เ มตร ก้ า นดอกยาว ๑.๒ – ๒.๕ เซนติเมตร เรียวเล็ก กลีบรอง ดอก ๕ กลีบ ยาวประมาณ ๒ มิลลิเมตร ผล เป็นฝักรูปหอก กว้าง ๑๖ – ๓๐ มิลลิเมตร ยาว ๗ – ๑๐ เซนติเมตร สีเหลือง เมล็ดมันเป็นเงารูปรี หรือรูปไข่มีปีกกว้าง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบอ่ อ น ยอดอ่ อ น และดอก นำมาต้ ม ให้ ส ุ ก รั บ ประทาน เป็นผักจิ้ม หรือแกงแครวมกับผักอื่น ประโยชน์ด้านสมุนไพร ลำต้นดับ พิ ษร้ อ นถอนพิษ ไข้ ขั บปัส สาวะ ช่ ว ยให้ น อนหลั บ ใบ แก้แผลน้ำร้อนลวก แก้บวม ราก ทำให้อาเจียน ขับพิษได้ ๑๑๘
  • 128. ชื่ออื่น ผักกระสัง ผักราชวงศ์ ผักสังเขา ผักฮากกล้วย เป็นไม้ล้มลุก ต้นสูงประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ลำต้นทุกส่วนอวบน้ำ ใบ รูปหัวใจปลายใบแหลม ดอก ออกเป็นช่อ ขนาดเล็กตั้งตรงออกที่ซอกใบปลายยอดติดที่ก้านยาวๆ ของช่อดอก ผล เป็นเม็ดกลมๆ ติดตามก้านช่อดอก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ทั้งต้น ลวกจิ้มน้ำพริก ยำ ประโยชน์ทางสมุนไพร ทั้งต้น เป็นยาเย็น แก้ปวดท้อง แก้ไข้ แก้ชัก ๑๑๙
  • 129. ชื่ออื่น ขาเขียด ผักริ้น ผักฮิ้นน้ำ ผักเป็ด ผักฮิน เป็นไม้น้ำ ชอบขึ้นตามที่น้ำขัง ในท้องนา หนอง บึง ลำต้นตั้งตรง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีไหลขนาดสั้นๆ และมี รากฝอยจำนวนมาก ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาว ๑ – ๘ เซนติเมตร ออกสลับกัน ก้านใบอวบน้ำ โคนก้านใบแผ่ออกเป็นกาบหุ้มใบที่อ่อนกว่า ด้านในของก้านใบมีเยื่อบางสีขาว ดอก ออกเป็นช่อจากก้านใบมีสีม่วง ดอกย่อย มี ๖ – ๑๕ ดอก กลีบดอกสีม่วงอมน้ำเงิน ดอกย่อยมีกลีบดอก ๖ กลีบ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๒๐ ทั้งต้นรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกปลาร้า ลาบ หลู้ ส้า ขับปัสสาวะ ดับพิษ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ
  • 130. ชื่ออื่น เลียบ ผักเฮือด ผักเฮียด เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๘ - ๑๕ เมตร เปลือกเรียบและบาง ผลัดใบพร้อมกันทั้งต้น หลังจาก ผลัดใบจะแตกใบอ่อนเร็ว ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ปลายใบแหลม หางโคนใบแหลมก้านใบยาว หลังใบเรียบ ใบอ่อนสีแดงเมื่อแก่ จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เส้นใบนูนเห็นได้ชัดเจน ใบประดับจะมีปลอกสีแดงหุ้มในระยะแรก ผล กลมแป้นเล็กน้อยออกตามข้อใบรอบ กิ่งก้าน ผลสั้น การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อน ใบอ่อน ใช้เป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ เนื้อไม้และเปลือกเป็นยาสมาน คุมธาตุ แก้ไข้สะบัดร้อนสะบัดหนาว ๑๒๑
  • 131. ชื่ออื่น ไข่น้ำ ไข่ผำ ไข่แหน ผำ เป็นพืชน้ำขนาดเล็ก ไม่มีราก ใบ เป็นก้อนกลมเล็กๆ พอง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๕ – ๑ มิลลิเมตร สีเขียว เป็นก้อนเดี่ยวๆ หรือติดกันเป็นคู่ ผลิดอกเป็นช่อเล็กๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นพืชดอกที่มี ขนาดเล็กที่สุด ผำจะมีมากในฤดูฝน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๒๒ นำไปแกงคั่วร่วมกับปลาดุก ไม่มีรายงานการนำมาใช้ทางสมุนไพร แต่เมื่อบริโภคผำ ร่างกาย จะได้รับพลังงาน เส้นใย แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และไนอาซิน
  • 132. ชื่ออื่น ไผ่ตง (ทั่วไป) ไผ่ตง เป็นไม้ในตระกูลหญ้า สูงได้ถึง ๒๐ เมตร ลำต้นเมื่อยังอ่อนมีขนสีน้ำตาลละเอียดคลุมแนบเรียบพอลำต้นแก่ จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ลำปล้องยาวประมาณ ๔๐ – ๕๐ เซนติเมตร ข้อนูนเห็นชัดเจนข้อตามปล้องต่ำๆ ใกล้ผิวดินจะมีรากเป็น ฝอยแตกออกมา มักมีกิ่งเล็กๆ ตามข้อหลายกิ่ง กาบ หุ้มลำต้นยาวประมาณ ๓๐ – ๔๐ เซนติเมตร ลักษณะคล้ายแผ่นหนัง เมื่อยังอ่อน มีสีเขียวจางๆ มีขนสีน้ำตาลปกคลุมหนาแน่น พอแห้งจะมีสีน้ำตาลเข้ม กระจังกาบหุ้มลำเห็นชัดเจน สูงประมาณ ๑ – ๒ เซนติเมตร ปลายแยกเป็นแฉก ใบยอดกาบรูปหอกปลายใบเรียวแหลมมักจะงอกลับขอบหยักเป็นฟันเลื่อย ใบ ปลายเรียว แหลม โคนใบป้านไม่เท่ากัน ขอบใบสากคม หลังใบไม่มีขน ท้องใบมีขนอ่อนหนาแน่น ก้านใบสั้น ดอก เป็นช่อมีกาบหุ้มเหมือน ดอกหญ้า เมื่อดอกแห้งต้นมักจะตาย (ไผ่ตายขุย) เมล็ด ขนาดเล็กลักษณะคล้ายเมล็ดข้าว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร หน่ออ่อน แกงกับไก่ ต้มกระดูกหมู แกงกับปลาหรือเนื้อ ทำแกงหน่อ ร่วมกับผักอื่น ต้มจิ้มน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปู๋ น้ำพริกเก๋ ใบ ขั บ ปั ส สาวะ ตา แก้ ร ้ อ นในกระหายน้ ำ ราก แก้ ไ ตพิ ก าร ขับปัสสาวะ ๑๒๓
  • 133. ชื่ออื่น พริกขี้หนู พริกแจ พริกแด้ เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ ๕๐ – ๑๒๐ เซนติเมตร แตกกิ่งมาก กิ่งอ่อนสีเขียวเมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม ลักษณะกลมรี โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบและแผ่นใบเรียบ สีเขียวเป็นมันวาว ขนาดกว้าง ๓ – ๕ เซนติเมตร ยาว ๒ – ๓ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นกลุ่มตามง่ามกิ่ง ลักษณะดอกชี้ขึ้น ๑ – ๓ ดอก กลีบดอกสีขาวบาง จำนวน ๕ กลีบ และมีถงเกสรตัวผูสเี ทาล้อมรอบแทนเกสรตัวเมีย ผล เป็นฝักชีขนฟ้าภายในมีเมล็ดเป็น ๒ – ๓ พู ผลอ่อนสีเขียวอ่อน ุ ้ ้ ้ึ เมื่อแก่จะมีสีแดงส้ม เมล็ด กลมแบน สีเหลืองอ่อน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๒๔ ใบอ่อน ยอดอ่อน ใช้แกง ผล รสเผ็ดใช้ปรุงรสอาหาร แกง ลาบ ต้ม ทำน้ำพริก ผล ช่วยเจริญอาหาร ลดอาการบวม ไขข้ออักเสบ
  • 134. ชื่ออื่น ต่อไส้ ตาลขโมย ตาลอีลิ้น จ้าตอง เพี้ยฟาน เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ ๕๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร ลำต้น และกิ่งก้านสีแดง แตกกิ่งก้านออก ในแนวด้านข้าง ดูคล้ายกับเป็นก้านของใบ มักเกิดลำต้นใหม่จากส่วนรากบริเวณนอกทรงพุ่ม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปทรงกลม สีเขียวเข้ม ออกด้านข้างของกิ่งและแผ่ขนานกับพื้นดิน ขอบใบเรียบ มีไขปกคลุมแผ่นใบ มีริ้วสีขาวบริเวณเส้นใบ ขนาดของใบกว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร ใบมีรสขมจัด ดอก ขนาดเล็กออกตามง่ามใบ และซอกใบ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ใบอ่อน ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสดกับลาบ ส้า หลู้ ใบ ต้มน้ำดื่มเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปวดเมื่อย แก้ริดสีดวงทวาร ๑๒๕
  • 135. ชื่ออื่น มะแหลบ (ทั่วไป) มะแหลบ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีรากเป็นหัวอยู่ใต้ดินตื้นๆ ขนานกับผิวดิน เจริญเติบโตเป็นพุ่ม สูงประมาณ ๔๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร ใบ เป็นใบประกอบมีใบย่อย ๓ ใบหรือแยกเป็น ๓ แฉก รูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายใบ แหลม ดอก เป็นช่อแบบซี่ร่ม มีดอกย่อยจำนวนมากสีขาวอมเหลืองอ่อน ผล ลักษณะรูปหัวใจแบนๆ ตรงกลางส่วนที่เป็น เมล็ดนูนขึ้นเมื่อแก่จะแห้ง สีน้ำตาล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๒๖ ยอดอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง เมล็ด ปรุงน้ำพริกลาบหมู ลาบวัว ลาบควาย ราก เป็นยาบำรุง แก้ไข้ เจริญอาหาร
  • 136. ชื่ออื่น ย่านาง เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว ย่านาง เป็นไม้เถา ลักษณะกลม ขนาดเล็กยาวพาดพันไปตาม ต้นไม้อื่น เถาสีเขียวและจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำเมื่อเถาแก่ ใบ รูปไข่หนา ขอบใบเรี ย บ ปลายใบแหลม ผิ ว ใบเป็ น คลื ่ น เล็ ก น้ อ ยสี เ ขี ย วเข้ ม ยาวประมาณ ๕ – ๗ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๔ – ๖ เซนติเมตร ก้านใบยาวประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นพวงเล็กๆ สีเหลือง ผล กลมสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อแก่ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบคั้นเอาน้ำสีเขียวใส่แกงหน่อและแกงอื่นๆ ประโยชน์ด้านสมุนไพร รากต้มเอาน้ำอาบแก้อีสุกอีใส ผื่นคัน ต้มน้ำดื่มแก้ไข้มาลาเลีย ๑๒๗
  • 137. ชื่ออื่น กระชาย กระแอน ขิงทราย กระชายเหลือง ละแอน เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน มีรากสะสมอาหารจำนวนมาก ลักษณะอวบน้ำ ตรงกลางพองโตกว่าส่วนหัวท้ายจะแตกยอดอ่อนในช่วง ฤดูฝน โดยชูขึ้นมาเหนือพื้นดิน มีกาบใบห่อซ้อนกันออกสีน้ำตาลแดง ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับในระนาบเดียวกัน รูปขอบขนานกว้าง ๔ – ๑๐ เซนติเมตร ยาว ๑๕ – ๓๐ เซนติเมตร เส้นกลางใบเป็นร่องลึกมองเห็นได้ ชัดเจน แผ่นใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ออกเป็นช่อ ออกแทรกอยู่ ระหว่างกาบใบที่โคนต้น กลีบดอกสีขาวอมชมพูมีใบประดับลักษณะรูปหอก สีม่วงแดง ดอกย่อยบานทีละ ๑ ดอก ผล เวลาแก่จะแตกออกเป็น ๓ พู เมล็ดโต รากเป็นส่วนที่สะสมอาหารลักษณะพองกลมสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นฉุน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร รากใช้ทำน้ำยาขนมจีน ใส่แกง ต้นอ่อนรับประทานเป็นผักสดร่วมกับซุบหน่อ ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๒๘ แก้ ท ้ อ งอื ด ท้ อ งเฟ้ อ แก้ โรคอั น เกิ ด ในปาก แก้ ป วดมวนในท้ อ ง แก้ ป วดเบ่ ง แก้กามตายด้าน บำรุงกำหนัด
  • 138. ชื่ออื่น ครุฑทอดมัน ครุฑใบเทศ เล็บครุฑ เป็นไม้พุ่มสูงได้ถึง ๒ เมตร ลำต้นส่วนยอดมีสีเขียว ถึงอมน้ำตาล มีกระตามกิ่งที่มีรูอากาศทั่วไปเห็นได้ชัดเจน ใบ เป็นใบ ประกอบแบบขนนก ๓ ชั้นติดกับกิ่งแบบขั้นบันไดเวียน ความยาวของใบมีขนาด แตกต่างกัน ใบย่อยรูปขอบขนานมีขนาดต่างกัน ขอบใบหยักลึกแบบฟันเลื่อย หรือหยักแบบขนนก ปลายใบเสี้ยวแหลม โคนใบแหลมตัดตรง เว้าเป็นรูปหัวใจ เส้นกลางใบและเส้นใบเห็นได้ชัดเจน ดอก ออกเป็นช่อแบบผสมแกนกลางช่อ ยาวประมาณ ๖๐ เซนติ เ มตร มี ก ิ ่ ง แตกออกจากแกนกลางยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ดอกติดเป็นกระจุกๆ ละ ๑๐ – ๒๐ ดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก ๕ กลีบ เกสรตัวผู้ ๕ อัน เกสรตัวเมีย ๑ อัน ผล ลักษณะเกือบกลม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่ อ นรั บ ประทานเป็ น ผั ก สดร่ ว มกั บ ลาบ หลู ้ ส้ า ชุ บ แป้ ง ทอดให้ ก รอบ รับประทานเป็นผักร่วมกับน้ำพริก ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ ตำพอกแก้ปวดบวมอักเสบ ทั้งต้นสมานแผล ราก ระงับประสาท แก้ปวดข้อ ๑๒๙
  • 139. ชื่ออื่น ชะมวง ส้มโมง หมากโมง ส้มป่อง เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบขนาดกลาง สูงประมาณ ๔ – ๑๐ เมตร ลำต้นแตกเป็นสะเก็ดหรือเรียบสีน้ำตาลเข้ม ถึงน้ำตาลดำ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน สีเขียวอ่อนหรือสีเขียวอมม่วงแดง ขอบใบเรียบ หนา บริเวณปลายกิ่งมักแตก เป็นยอด ๒ – ๓ ยอด ใบค่อนข้างหนา ก้านใบยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ใบยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร ดอก ออกตามกิ่ง ขนาดเล็กสีขาว มีจำนวนมาก กลีบดอกสีนวลเหลือง ผล รูปทรงกลมข้างผลเว้าเป็นพู ผลเมื่อสุกจะมีสีเหลืองส้ม ภายในมีเมล็ด ๔ – ๖ เมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๓๐ ใบอ่ อ น ยอดอ่ อ น รั บ ประทานเป็ น ผั ก สด ใช้ ป รุ ง ต้ ม ส้ ม ต้ ม ยำ ให้มีรสเปรี้ยว ผล เป็นยาระบายท้อง กัดฟอกเสมหะ แก้ธาตุพิการ ราก แก้ไข้
  • 140. ชื่ออื่น ส้มขอน ส้มพอดี ส้มป่อย เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย ลำต้นสีน้ำตาลแดงผิวเรียบ มีหนาม แหลมคมทั่วไปตามลำต้นและบริเวณก้านใบมักเลื้อยพาดไปตามไม้อื่น ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ๒ ชั้น มีใบย่อยเรียงสลับ รูปไข่ ปลายมน ขอบใบ หนา แผ่นใบเรียบ กว้างประมาณ ๐.๕ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑.๒ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นกลุ่มบนก้านดอกเดียวกันสีขาวนวล ปลายดอก สีชมพู ออกตามซอกใบข้างลำต้น ผล เป็นฝักแบนยาวประมาณ ๕ – ๘ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร สีน้ำตาลเข้ม ผิวขรุขระ ขอบฝักบิด เป็นคลื่น เมล็ดรูปกลมรีและแบน เปลือกแข็งสีน้ำตาลเข้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อน ใบอ่อน มีรสเปรี้ยว รับประทานเป็นผักสด หรือใช้ปรุงอาหารให้มี รสเปรี้ยว ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ ฟอกโลหิต ขับเสมหะ ฝัก เป็นยาขับเสมหะ ช่วยขจัดรังแค บำรุงผม ๑๓๑
  • 141. ชื่ออื่น ส้มสันดาน ส้มออบแอบ ส้มสะเอาะ เป็นไม้เลื้อยทอดไปตามต้นไม้อื่น ลักษณะเถาเป็นเหลี่ยม สีม่วงแดง มีมือเกาะบริเวณข้อ เมื่อต้นแก่รากจะ กลายเป็นหัวขนาดใหญ่ ใบ เป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ ปลายแหลม ขอบใบจักแบบฟันเลื่อย ยอดอ่อนมีสีแดง ดอก ออกเป็นกระจุก เล็กๆ สีขาว กลีบเลี้ยงสีม่วง ออกที่ซอกใบปลายยอด ผล เป็นผลกลุ่มสีเขียวเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ใบ ใส่แกงที่ต้องการรสเปรี้ยวโดยเฉพาะแกงเห็ด ประโยชน์ทางสมุนไพร ทั้งต้นและใบใช้ปรุงเป็นยาแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ผลเป็น ยาระบายอ่อนๆ ๑๓๒
  • 142. ชื่ออื่น ส้มสามตา ส้มกบ ส้มดิน สังส้ม ส้มสังกา เป็นวัชพืชลักษณะพุ่มเตี้ย มีอายุหลายฤดู ลำต้น จะทอดเลื ้ อ ยตามพื ้ น ดิ น ส่ ว นของลำต้ น มี ข นปกคลุ ม ใบ เป็ น ใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ เกิดจากจุดเดียวกันที่ปลายก้านใบ ใบย่อย รูปหัวใจ ดอก ออกตามซอกใบ เป็นดอกเดี่ยวสีเหลือง ส่วนโคนกลีบ ดอกจะหลอมรวมเป็ น รู ป กรวย ปลายกลี บ ดอกแยกออกจากกั น มี ๕ กลีบ ก้านดอกยาวประมาณ ๓ – ๘ เซนติเมตร ผล เป็นฝัก ตั้งตรง มีลักษณะเป็นเหลี่ยม มี ๕ เหลี่ยม มีขนปกคลุมทั่วไป ฝักยาว ประมาณ ๔ เซนติเมตร เมื่อแก่จะแห้งและแตกดีดเมล็ดออก เมล็ด ลักษณะแบนผิวย่นสีน้ำตาล การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ทั้งใบและก้านดองรับประทานเช่นเดียวกับผักดอง ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งต้นเป็นยาเจริญอาหาร ใช้ทาภายนอกขจัดตาปลา หูด และเนื้อปู ชนิดอื่นๆ ๑๓๓
  • 143. ชื่ออื่น ผักเสี้ยน ผักเสี้ยนขาว ส้มเสี้ยน เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ใบ เป็นลักษณะแบบนิ้วมือ ใบล่างสุดมีใบย่อย ๓ ใบ ส่วนที่เหนือขึ้นมามี ๕ ใบ ก้านใบย่อยสีเขียวอ่อน ใบลักษณะรูปไข่หัวกลับ แกมขอบขนานปลายแหลม ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย ใบที่อยู่ตรงกลาง ยาวประมาณ ๒ – ๗ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๔ เซนติเมตร เส้นใบมี ๕ – ๙ คู่ ดอก สีขาวหรือแกมเหลืองกลีบดอกยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ผล แบบผลแห้ง ก้านผลยาวประมาณ ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดจำนวนมากเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๐.๕ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๓๔ ยอด ใบ ต้น ดองก่อนรับประทานร่วมกับน้ำพริกตาแดง รากแก้ โ รคผอมแห้ ง ในสตรี ห ลั ง คลอดบุ ต รเนื ่ อ งจากอยู ่ ไ ฟไม่ ไ ด้ แก้ ว ั ณ โรค ต้ น ขั บ หนอง ทำให้ ห นองแห้ ง แก้ โ รคน้ ำ เหลื อ งเสี ย ขับระดูขาว เมล็ด ขับพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิตัวกลม ฆ่าเหา
  • 144. ชื่ออื่น ขจร กระจอน ขะจอน สลิด เป็นไม้เลื้อย เปลือกหนานุ่ม มีรอยแตกลึกทุกส่วนมียางขาว ยอดอ่อนมีขน ใบ ออกเป็นคู่ตรงข้าม ใบกลมโต รูปร่างคล้ายหัวใจ ปลายใบแหลมขอบใบเรียบเนื้อใบบางด้านล่างมีขนตามเส้นใบมีสีเขียวอมแดงเล็กน้อย ดอก จะออกเป็นช่อ กระจุก หรือเป็นวงดอกสีเขียวอมเหลือง เกสรจะเป็นใยสีขาวคล้ายใบนุน ผล กลมและยาวคล้ายลูกนุนทียงเล็ก ผลอ่อนจะมีรสหวาน ่ ่ ่ั การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ยอดอ่อน ดอก ผลอ่อน มีรสหวาน นำมาแกงกับปลาย่าง แกงแค รวมกับผักชนิดอื่น หรือนึ่งรับประทานเป็นผักจิ้มรวมกับน้ำพริก ดอกบำรุงตับ แก้เสมหะและโลหิต ราก แก้พิษเบื่อเมา ทำให้อาเจียน ทำให้รู้รสอาหาร ๑๓๕
  • 145. ชื่ออื่น สะเดา กะเดา จะตัง สะเลียม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มี ๒ ชนิด คือ สะเลียมไทยและ สะเลียมอินเดีย มีข้อสังเกตุง่ายๆ คือ สะเลียมอินเดียใบจะเล็กและเรียวกว่า สะเลียมไทย สะเลียมเป็นไม้ผลัดใบ ออกช่อดอกพร้อมใบอ่อนในเวลาเดียวกัน ลำต้นเปลาตรงเปลือกสีเทาอมน้ำตาล แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดไปตามยาวของ ลำต้น ใบ ออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งๆ มีใบย่อย ๗ – ๘ คู่ ใบย่อยรูปไข่แกมหอก โคนใบ เบี้ยว ส่วนปลายใบเรียวแหลมมักติดเยื้องกันเล็กน้อย ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ขอบใบ หยัก ดอก ขนาดเล็กสีขาวออกรวมกันเป็นช่อโตๆ ตามปลายกิ่ง ผล รูปรี เส้น ผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ดอก ยอดอ่อน ต้ม ลวก รับประทานร่วมกับลาบ หลู้ ส้า น้ำพริก ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบแก่ บำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร ดอก แก้พิษโลหิต บำรุงธาตุ แก้พิษกำเดา เปลือกต้นแก้บิด มูกเลือด แก้ท้องร่วง ไข้ ราก แก้เสมหะที่เกาะแน่นในอก ๑๓๖
  • 146. ชื่ออื่น ไคร้หอม เพี้ยฟาน สะเลียมหอม เป็นไม้พุ่ม ต้นสูงประมาณ ๑ – ๑.๕ เมตร ใบ รูปรีปลายใบเรียวแหลมสีเขียวเข้ม แผ่นใบบาง ดอก ออกเป็นช่อตามลำต้นเป็นดอกแยกเพศ มีกลีบดอก ๕ กลีบ สีแดง ผล กลม เมื่อแก่จะแตกออก การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ยอดอ่อน รับประทานร่วมกับลาบ ส้า หลู้ น้ำพริกต่างๆ หรืออาหารที่มีรสจัด ประโยชน์ทางสมุนไพร ใบ บำรุงตับ บำรุงน้ำดี ดอก กลิ่นหอมแก้อาการภูมิแพ้ ๑๓๗
  • 147. ชื่ออื่น ชะแล สาแล สะแล เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เปลือกต้นเรียบสีขาวมีตุ่มสีน้ำตาลเล็กๆ กระจายทั่วไป ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงลับรูปหัวใจ โคนใบเว้า ปลายใบแหลมขอบใบหยัก แผ่นใบเมื่อ สัมผัสจะสากๆ สีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นกลุ่มบริเวณซอกใบ กลมสีเขียว ดอกเพศผู้และ เพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น ดอกเพศผู้จะมีช่อยาวกว่าดอกเพศเมีย ผล ลักษณะทรงกลม สีเขียวขนาดประมาณ ๐.๕ – ๐.๗ เซนติเมตร การใช้ประโยชน์ทางอาหาร ดอกและผลอ่อนแกงร่วมกับปลาย่าง ลวก จิ้มน้ำพริก ประโยชน์ทางสมุนไพร ไม่มีรายงานการนำไปใช้ทางสมุนไพร ๑๓๘
  • 148. ชื่ออื่น ผักกาดน้ำ หมอน้อย หญ้าเอ็นยืด เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ลำต้นสั้นติดผิวดิน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเป็นกระจุก รูปไข่กลม กว้ า งประมาณ ๑๒ – ๑๖ เซนติ เ มตร ยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร แผ่นใบเรียบมีร่องขอบเส้นใบ ก้านใบ ยาวเท่ากับแผ่นใบ ดอก แทงช่อออกจากกลางลำต้น ดอก ย่อยมีขนาดเล็กสีเขียวแกมน้ำตาล ผล เป็นผลแห้งแตกได้ ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กรูปรี สีดำเรียบลื่นเป็นมัน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก ประโยชน์ด้านสมุนไพร ใบ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้รอนใน ใช้ตำพอกแก้อาการ ้ ผิวหนังอักเสบ แมลงกัด แผลเรื้อรัง ๑๓๙
  • 149. ชื่ออื่น ไผ่หวาน ไผ่โปก ไผ่เปาะ หน่อซาง เป็นไม้ตระกูลหญ้า สูงประมาณ ๒๕ – ๓๐ เมตร เป็นไผ่ขนาดใหญ่ลำต้นเรียวปล้องค่อนข้างสั้นเนื้อบาง ตอนล่างของลำเปลา ไม่มีกิ่ง ตอนปลายของลำสีเขียวอมเทา ลำต้นอ่อนและข้อตอนล่างมีขนและมีรอยราก กาบหุ้มลำสีม่วงอ่อน ยาวประมาณ ๒๕ – ๕๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒๕ - ๕๐ เซนติเมตร มักร่วงเร็วขณะยังอ่อน ด้านนอกมีขนสีน้ำตาลคลุม ขอบกาบ กระจังกาบหุ้มลำมองเห็นได้ชัดเจนสูงประมาณ ๖ – ๑๒ เซนติเมตร ขอบหยักมีขนเป็นเส้นๆ ใบยอดกาบรูปหอกงอพับ ใบ เรียวแหลม โคนใบทู่เป็นมุมป้าน ยาวประมาณ ๔๕ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๓ – ๖ เซนติเมตร หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสี เขียวอ่อน ขอบใบสากคม ก้านใบสั้น ดอก เป็นช่อมีกาบหุ้มเมื่อมีดอก ดอกแห้งแล้วต้นมักจะตาย (ไผ่ตายขุย) เมล็ด ลักษณะ คล้ายเมล็ดข้าวสาร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๔๐ หน่อสด มีรสหวานนำมาทำแกงหน่อร่วมกับเห็ดลม น้ำคั้นใบย่านาง ยอดฟักแก้วและผักหละ ต้มกับน้ำคั้นใบย่านางรับประทานเป็นผักจิ้ม ร่วมกับน้ำพริกกะปิ น้ำปู๋ และน้ำพริกอีเก๋ ใบ ขับปัสสาวะ ขับฟอกโลหิตระดู แก้มดลูกอักเสบ ตา แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ราก ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
  • 150. ชื่ออื่น ไผ่คาย ผาก ไม้ผาก ไม้ไร่ หน่อไร่ หน่อไร่ ลำต้นขึ้นเป็นกอหนาแน่นสีเขียวอมเทา ถ้าขึ้นในป่าดงดิบใบจะเขียวตลอดปี ถ้าขึ้นในป่าผสมจะผลัดใบ ลำต้น สูงประมาณ ๗ – ๑๐ เมตร ขนาดความโตเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ – ๓.๐ เซนติเมตร ข้อนูนเห็นได้ชัดเจน ปล้องยาว ประมาณ ๑๕ – ๔๐ เซนติเมตร มีขนสั้นๆ ปกคลุมทั่วไป กาบหุ้มลำยาวประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑๕ เซนติเมตร มีขนอ่อนสีน้ำตาลปกคลุมทั่วไปขณะยังอ่อน ปลายกาบเรียบ ตัด ขอบล่างโค้งงอเข้า ลักษณะเป็นแผ่นหนัง ใบยอดกาบยาวรูปหอกปลายเรียวแหลม โคน กว้าง กลม ใบ ยาวเรียวเล็ก โคนใบกลม ขนาดยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒.๐ – ๒.๕ เซนติเมตร เส้นลายใบมี ๖ – ๘ คู่ หลังใบสาก ก้านใบยาวประมาณ ๐.๒ – ๐.๓ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อมีกาบหุ้ม เมื่อดอกแห้งต้นมักจะตายหรือที่เรียก ไผ่ตายขุย เมล็ด ลักษณะเหมือนเมล็ดข้าว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร หน่ออ่อนต้มรับประทานร่วมกับน้ำพริกกระปิ น้ำปู๋ น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริก ตาแดง แกงหน่อ แกงแคร่วมกับผักอื่น ใบ ขับปัสสาวะ ขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย แก้มดลูกอักเสบ ราก แก้หนองใน แก้ฝีหนองที่เกิดในร่างกาย ๑๔๑
  • 151. ชื่ออื่น ไม้รวก รวก ฮวก หน่อฮวก ลำต้นเจริญเติบโตขึ้นเป็นกอสูงประมาณ ๗ – ๑๕ เมตร ลำต้นเปลาตรง บริเวณปลายจะมีกิ่งเรียวเล็กๆ ขนาดของลำต้นเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ – ๖ เซนติเมตร ผิวเรียบมีวงใต้ข้อสีขาว ลำต้นสีเขียวอมเทา ปล้องยาวประมาณ ๑๕ – ๓๐ เซนติเมตร ใบ เรียวแหลม โคนใบเกือบกลมทั้ง ๒ ด้าน เกลี้ยงไม่มีขน ขนาดของใบยาวประมาณ ๗ – ๑๒ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑.๒ เซนติเมตร ขอบใบ คาย คม ก้านใบยาวประมาณ ๒ มิลลิเมตร กระจังใบเรียว ขอบเรียบ สั้น กาบหุ้มใบ มีขนอ่อนปกคลุมปลายตัดหรือป้านลักษณะพองโตกว่าส่วนอื่น ดอก ออกเป็นช่อมีกาบหุ้ม เมื่อดอกแห้งแล้วต้นมักตายหรือที่เรียก ไผ่ตายขุย เมล็ด ลักษณะเหมือนเมล็ดข้าว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๔๒ หน่ออ่อน ต้มจิ้มน้ำพริกกระปิ และน้ำปู๋ หรือต้มใส่ใบย่านาง ใบและราก ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
  • 152. ชื่ออื่น หวายขม หวายหางหนู หวาย เป็นไม้เลื้อย ลำต้นเลื้อยและแตกกอ กาบใบสีเขียวเข้มเคลือบด้วยไขสีขาวหุ้ม ลำต้นมีหนามทั่วไปแต่เป็นระเบียบ ใบ เป็นใบประกอบ มีใบย่อยสีเขียวเข้มเรียงตัวในแนวระนาบแบบขนนก กลางใบและขอบด้านข้างของใบมีหนามตลอดแนว ดอก ออกเป็นช่อ ประกอบด้วยกลุ่มแขนงช่อดอกที่ไม่สมบูรณ์เพศ ปลายช่อดอกมีส่วนเรียวที่ยื่นออกไป ผล มีลักษณะกลม ผลอ่อนจะมีสีเขียวเข้ม และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลครีมเมื่อผลแก่ เปลือกผลมีลักษณะเป็นเกล็ดบางเรียงเกยซ้อนกันหันด้าน ปลายของเกล็ดไปทางขั้วผล เมล็ดแข็ง ผิวขรุขระสีน้ำตาลเข้ม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร นำยอดอ่อนปลอกเปลือกออกแล้วใช้แกงร่วมกับน้ำใจ๋นาง แก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง ถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้ท้องผูก ๑๔๓
  • 153. ชื่ออื่น เนียมหูเสือ หูเสือ หอมด่วนหลวง หอมด่วนหลวง เป็นไม้ล้มลุก สูงได้ถึง ๓๐ เซนติเมตร ทุกส่วนอวบน้ำหักง่าย ใบ รูปไข่ป้อม หนา โคนใบสอบ ปลายใบมน ขอบใบหยักฟันเลื่อย มีขนนุ่มปกคลุมทั่วไป เมื่อขยี้จะมีกลิ่นหอม ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ชูตั้งขึ้น สีขาว อมม่วง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ภายในมีเมล็ดกลมสีน้ำตาลคล้ำ ในแต่ละผลมีจำนวน ๔ เมล็ด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๔๔ ยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ หลู้ น้ำพริก ซุบหน่อไม้ ใบ แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ช่วยขับน้ำคาวปลาหญิงหลังคลอด คั้นน้ำยอดหูแก้หูเป็นน้ำหนวก แก้ปวดท้อง แก้ไอเรื้อรัง แก้อาหาร ไม่ย่อย พอกศีรษะแก้ปวด ลดไข้
  • 154. ชื่ออื่น กระเทียม หอมขาว ผักเทียม เทียม หอมเตียม เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเนื้ออ่อน ต้นสูงประมาณ ๓๐ – ๔๐ เซนติเมตร ใบ มีสีเขียวเป็นใบเดี่ยวแบนยาว รูปขนานเรียวแหลมข้างในกลวง ยาวประมาณ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ส่วนโค้งของใบจะหุ้ม ซ้อนกัน ด้านล่างของใบมีสันเป็นรอยพับตลอดความยาว ดอก มีสีขาวแกมสีม่วงหรืออมชมพูออกเป็นช่อติดเป็นกระจุกอยู่บน ก้านช่อ ดอกทียาวประกอบด้วยดอกหลายดอก มีกลีบดอก ๖ กลีบ ลักษณะยาว มีกาบหุมเป็นจะงอยยาว หัว อยูใต้ดนประกอบด้วย ่ ้ ่ ิ หัวเล็กหลายหัวรวมกัน เปลือกนอกสีขาวหุ้มอยู่จำนวน ๒ – ๔ ชั้น การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร หัว ใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งกลิ่น รับประทานสดเป็นเครื่องเคียงกับแหนม น้ำพริก หั ว แก้ ไอ แก้ โรคผิ ว หนั ง บำรุ ง ธาตุ ขั บ โลหิ ต ร้ า ย แก้ โรคในปาก บำรุงปอด แก้เสมหะ ขจัดไขมันที่อุดตันในหลอดเลือด แก้ท้องอืด ๑๔๕
  • 155. ชื่ออื่น หอมแดง หอมไท หอมเล็ก หอมหัว หอมบั่ว เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นอยู่ใต้ดินสำหรับสะสมอาหาร สูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร หัวที่อยู่ใต้ดินมีสีแดงหรือสีขาว กว้างประมาณ ๑ – ๔ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร ใบ มีลักษณะเป็นท่อกลมๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๓ – ๙ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๒๐ – ๓๐ เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อกลมๆ มีดอกย่อยจำนวนมากอัดแน่นรวมกัน มีกาบหุ้มเมื่อดอกยังตูม เมื่อดอกบานกาบหุ้มนี้จะฉีกขาดออกด้านหนึ่ง ดอกย่อยมีก้านดอกยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร สีเขียวอ่อน มีกลีบดอก ๖ กลีบ สีขาวหรือสีขาวอมม่วงมีเส้นสีเขียวพาดตรงกลางกลีบ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ๑๔๖ หั ว ใช้ เป็ น เครื ่ อ งปรุ ง อาหาร ปรุ ง น้ ำ พริ ก ใส่ แ กงรวมกั บ ผั ก อื ่ น เป็นเครื่องเคียงรับประทานกับแหนม ใบใส่แกงจืด, แกงอ่อม และ รับประทานเป็นผักสด หัวแก่ เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้ปวดท้อง แก้หวัดคัดจมูก น้ำหัวหอม เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้ปวดหู และเป็นยาบำรุงกำหนัด
  • 156. ชื่ออื่น ผักชีฝรั่ง ผักชีดอย ผักหอมห้อ ผักหอมเป หอมป้อมเป้อ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๖ – ๓๕ เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ระดับดินชูใบขึ้น ใบ รูปไข่ขอบขนาน ขอบใบหยักแบบฟันเลือย ยาวประมาณ ๗ – ๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๑ – ๒ เซนติเมตร ใบสีเขียวเข้มและแข็ง ดอก ออกเป็นช่อก้าน ่ ยาวสีเขียวเข้ม แต่ละดอกมีกลีบดอก ๕ กลีบ ยาว ๑.๕ – ๒.๕ เซนติเมตร กว้าง ๓ – ๕ เซนติเมตร ออกที่ปลายกิ่ง มีดอกย่อย เรียงตัวอัดแน่นเป็นรูปกระบอกหรือรูปไข่สีเขียวเข้ม ผล สีน้ำตาลขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ มิลลิเมตร การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร รับประทานเป็นผักสด หรือใช้ปรุงอาหาร เช่น ซอยใส่ลาบ หลู้ ส้า ต้มยำ พื่อดับกลิ่นคาว ใบแก้ท้องอืด ลำต้น หมกไฟให้สุกประคบแก้ปวดเมื่อย ๑๔๗
  • 157. ชื่ออื่น ผักชีไร่ ผักชีป่า ผักสะแงะ ผักอีแยะ หอมแย้ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรงไม่ค่อยแตกกิ่งลำต้นกลวงและสูงขึ้นเมื่อออกดอก สูงได้ประมาณ ๑๐ – ๒๐ เซนติเมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว ขอบใบหยักเว้าลึกเข้าหาเส้นกลางใบ ใบมีสีเขียวเข้ม ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกขนาดเล็ก สีขาวมี ๕ กลีบ ผล เป็นผลแห้งรูปไข่มีขนนุ่มปกคลุมทั่วไป เมล็ด ขนาดเล็กสีน้ำตาลปลายแหลมทั้ง ๒ ด้าน การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๔๘ ใบ ลำต้น ใส่แกงหน่อ รับประทานเป็นผักสด ใส่ยำ ใบมีกลิ่นหอม สามารถเก็บแห้งได้กลิ่นไม่เปลี่ยน ทั้งต้นแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้วิงเวียน
  • 158. ชื่ออื่น เห็ดมัน เห็ดขอนขาว ลักษณะหมวกเห็ดเป็นรูปกรวย ตื้นๆ สีขาวขึ้นมาดอกเดียวหรือเป็นกลุ่ม เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๒ – ๘ เซนติเมตร ขอบงอเล็กน้อย ผิวมีเกล็ด เล็กๆ ขาวนวลหรือน้ำตาลหม่นกระจายจากกลางหมวก ไปยังขอบ เนื้อเหนียว ครีบดอก มีสีขาวเรียงชิดกันยาว ขนานกับกรวยไปยึดติดกับก้าน ก้าน รูปทรงกระบอกสีขาว ยาวประมาณ ๒ – ๖ เซนติเมตร โคนก้านเรียว บริเวณ บนก้านมีเกล็ดเนื้อสีขาว การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ทั้งดอก แกงร่วมกับปลาย่าง ผักหละ นึ่งจิ้มน้ำพริก แกงแคร่วมกับผักอื่นๆ ประโยชน์ทางสมุนไพร ทั้งดอก บำรุงร่างกาย ชูกำลัง ๑๔๙
  • 159. ชื่ออื่น เห็ดระโงก เห็ดไข่ห่าน เห็ดไข่ขาว เมื่อยังตูมมีลักษณะกลมรี ขนาดกว้างประมาณ ๒ – ๓ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓ – ๕ เซนติเมตร มีเปลือกสีขาวหุ้มไว้ทั้งดอก เมื่อเจริญเติบโตด้านบนจะปริให้ ดอกเห็ดออกมา เปลือกหุ้มดอกเห็ดจึงกลายเป็นฐานมีลักษณะคล้ายถ้วยรองรับที่โคนก้าน หมวกกางออกคล้ายร่ม เมื่อบานเต็มที่ขอบจะเหยียดตรง ผิวหมวกเรียบเป็นมันเงา ขอบหมวก มี ร อยหยั ก ตื ้ น ๆ ซึ ่ ง ตรงกั บ ร่ อ งของครี บ รอยหยั ก มองดู ค ล้ า ยหมวกมี เ ส้ น ลายเป็ นขี ด ยาวประมาณ ๓ – ๕ มิลลิเมตร เรียงห่างกันประมาณ ๒ มิลลิเมตร ครีบมีขนาดยาวเท่ากัน และไม่ติดกับก้าน ก้ า นรู ป ทรงกระบอก เมื ่ อ เห็ ด โตเต็ ม ที ่ ภ ายในก้ า นมี รู ก ลวงตลอดก้าน ก้านตอนบนมีวงแหวนเป็นแผ่นเยื่อบางๆ ยาวประมาณ ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร รับประทานได้ รสชาติหวานอร่อย กลิ่นหอม เมื่อนำไปต้มหรือแกง โพลีแซคคาไรค์ที่ผิวของสายใยจะพองน้ำ ทำให้มีเมือกออกมา โพรีแซคคาไรค์จะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อต้มกับน้ำเป็นระยะเวลานาน ซึ่งมีลักษณะ เป็นเมือกๆ รอบๆ ชิ้นส่วนของเห็ด และจะมีรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้นถ้าผสมน้ำคั้นจากใบย่านาง เห็ดในสกุลนี้ชนิดที่รับประทานไม่ได้ คือ เห็ดระโงกหิน A. verna (Fries) Quel. เมื่อยังตูมจะมี ลักษณะเหมือนกับชนิดที่รับประทานได้ แต่เมื่อบานจะปรากฏลักษณะให้เห็นความแตกต่าง คื อ สี ข องหมวกเห็ ด จะออกสี ข าวอมเขี ย วตองอ่ อ น และสี ข องครี บ ใต้ ห มวกจะมี ส ี ข าว ก้านหมวกเห็ดไม่มีรูกลวง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๕๐ ทั้งดอก ต้ม แกงร่วมกับยอดมะเม่า น้ำคั้นจากใบย่านาง ไม่มรายงานการนำมาใช้ทางสมุนไพร ี
  • 160. ชื่ออื่น เห็ดหนัง เห็ดเผาะ เห็ดถอบ ลักษณะหมวกเห็ด เป็นก้อนกลมสีดำหม่น ๆ ขนาดประมาณ ๑.๕ – ๕ เซนติเมตร เมื่อโตเต็มที่ดอกจะบาน เปลือกนอกแตกออกเป็นรูปดาว ๕ แฉก เมื่อแห้งจะยุบเข้า เห็ดชนิดนี้จะบานหรือยุบขึ้นอยู่กับสภาพความเปียกชื้น หรือแห้ง ภายในมีถุงกลมสีขาวหม่น ด้านบนแตกออกเป็นรู ให้สปอร์ฟุ้งกระจายออกมา สปอร์ รูปกลมสีน้ำตาล ผิวขรุขระ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ทังดอก นำมาแกงรวมกับยอดใบมะขาม หรือยอดมะเม่า ต้มรับประทาน ้ เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ทั้งดอก บำรุงร่างกาย ชูกำลัง แก้ช้ำใน ๑๕๑
  • 161. ชื่ออื่น เห็ดฟาง เห็ดบัว เห็ดเฟือง ลักษณะเมื่อแรกเกิดเป็นก้อนกลมสีขาว ตรงยอดสีเทาดำ ขนาด ๑ – ๓ เซนติเมตร เมือโตขึนแล้วแตกออก ่ ้ ภายในมีดอกเห็ดและก้านเห็ด เหลือส่วนที่ห่อหุ้มเป็นกระเปาะ รองรับที่ฐานดอกเห็ด หมวกเห็ดเมื่อกางเต็มที่มีลักษณะคล้ายร่ม ขนาด ๔ – ๖ เซนติเมตร ผิวเรียบสีเทา บริเวณกลางหมวกสีเทา ดำ ขอบหมวกเรียบ ใต้หมวกเป็นครีบสีขาวแผ่ออกในแนวรัศมีและ จะเปลี ่ ย นเป็ น สี น ้ ำ ตาลอ่ อ นเมื ่ อ แก่ ภ ายในมี ส ปอร์ ก้ า นดอก ลักษณะกลวงกลม ขนาดประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาว ๔ – ๖ เซนติเมตร ผิวเรียบ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ดอกเห็ด ใช้ต้ม แกง ผัด หรือลวกจิ้มน้ำพริก ประโยชน์ด้านสมุนไพร บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้ช้ำใน บำรุงตับ ๑๕๒
  • 162. ชื่ออื่น เห็ดกระด้าง เห็ดขอน เห็ดบด เห็ดลม มีลักษณะเป็นหมวก รูปกรวยลึก สีขาวนวลหรือสีน้ำตาลอ่อนอมเทา เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๕ – ๘ เซนติเมตร เหนียวคล้ายหนัง ขอบงอเล็กน้อย ผิวมีขนสั้นๆ สีน้ำตาลทั่วไปซึ่งรวมกันคล้ายเกล็ดเล็กๆ ปลายงอเล็กน้อย ดอกอ่อน ขอบบางและม้วนงอลง ครีบ สีน้ำตาลอ่อนอมเทา บางและแคบ เมื่อแห้งจะเหนียวแข็งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงบริเวณครีบ มีความยาวแตกต่างกัน ด้านในยาวขนานเรียวเล็กลงไปติดก้าน ด้านนอกเรียวแคบไปติดขอบหมวกขอบครีบมีลักษณะเป็นหยัก ฟันเลื่อยเล็กๆ สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าถ้าใช้มือลูบจะรู้สึกสาก ก้านแข็งเหนียวสีขาวนวลแล้วเปลี่ยนเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล ดำ ยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร อยู่กึ่งกลางหมวกหรือเยื้องไปข้างใดข้างหนึ่ง สปอร์ รูปสีขาวโค้งเล็กน้อย ผิวเรียบบาง การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ทั้งดอก นำมาแกงร่วมกับผักอื่น ต้ม นึ่ง รับประทานเป็นผักร่วมกับ น้ำพริก บำรุงร่างกาย ชูกำลัง แก้ไข้พิษ ๑๕๓
  • 163. ชื่ออื่น เห็ดตับเต่า เห็ดผึ้ง เห็ดห้า มีลกษณะหมวกเห็ดเป็นรูปกะทะคว่ำ เมือโตเต็มทีจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ั ่ ่ ประมาณ ๑๒ – ๓๐ เซนติเมตร ขึ้นเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มโคนติดกัน กลุ่มละ ๓ – ๕ ดอก ดอกอ่อนมีขนละเอียดคล้ายกำมะหยี่สีน้ำตาลบริเวณกลางหมวกจะเว้า เล็กน้อย เมื่อบานเต็มที่ผิวสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อนและจะปริแตกเป็นแห่งๆ เนื้อในเห็ด เมื่อถูกตัดหรือถูกอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอมเขียว โดยเฉพาะบริเวณก้านตอนบน จนถึงหมวกเห็ด ก้าน อวบใหญ่สีน้ำตาลอมเหลือง ยาวประมาณ ๔ – ๘ เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ – ๔ เซนติเมตร โคนก้านโป่งเป็นกระเปาะบางส่วนนูน และเว้าเป็นร่องลึก ผิวมันละเอียดคล้ายกำมะหยี่ สปอร์ ค่อนข้างกลมสีน้ำตาล อมเขียวอ่อน ผิวเรียบผนังบาง ภาคเหนือโดยเฉพาะลำปางเรียกเห็ดห้า เพราะมักขึ้นบริเวณพุ่มต้นบ่ะห้า (ต้นหว้า) การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๕๔ ทั้งดอก แกงร่วมกับยอดฟักทอง ผักกอมก้อขาวและผักส้มสะเอาะ บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง กระจายโลหิต ดับพิษร้อนภายใน
  • 164. ชื่ออื่น เห็ดหูหนู เห็ดหูลัวะ ลักษณะเป็นแผ่นใสคล้ายวุ้น อ่อนนุ่ม เหนียว ด้านบนเป็นมันเงาสีน้ำตาลปนดำหรือสีน้ำตาลปนแดง หรือน้ำตาลอ่อน มีรอยจีบหรือหยักเป็นคลื่น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๒ – ๑๕ เซนติเมตร ด้านล่างมีขนอ่อนละเอียด คล้ายกำมะหยี่ สีอ่อนกว่าด้านบน ก้านขนาดสั้นอยู่ตรงกลางดอกหรือค่อนข้างไปด้านใดด้านหนึ่งที่ยึดติดอยู่กับกิ่งไม้ การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ทางสมุนไพร ทั้งดอก ยำ ผัดหรือต้มจืด หรือแกงแคกับผักชนิดอื่นๆ ทั้งดอกแก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ๑๕๕
  • 165. ชื่ออื่น นางลาว ดีปลากั้ง ดีกั้ง อาวลาว อังลาว เป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตเป็นกอ อายุหลายปี สูงประมาณ ๗๐ เซนติเมตร ใบ รูปหอก ยาวประมาณ ๕๐ – ๖๐ เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมออกเวียนรอบลำต้น แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นเงามัน ดอก ออก เป็นช่อแทงออกจากเหง้าใต้ดินตั้งสูงขึ้นเหนือผิวดินยาวประมาณ ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร มีดอกย่อยสีม่วงเรื่อๆ โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น ๖ กลีบ ผล ลักษณะกลม การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๕๖ ช่อดอกอ่อน รับประทานเป็นผักสด ต้ม ลวก จิ้มน้ำพริก ใส่แกงเลียง แกงหน่อ แกงปลาย่าง เหง้า ต้มน้ำดื่มแก้อาการปวดหลัง ปวดบริเวณบั้นเอว
  • 166. ชื่ออื่น กระเจียวโคก ดอกดิน อาว เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตรงสูงได้ถึง ๗๐ เซนติเมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นหอมฉุน ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูป ขอบขนานแกมหอก กว้างประมาณ ๖ – ๑๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑๖ – ๒๕ เซนติเมตร ก้านใบแผ่เป็นกาบ ดอก ออกเป็น ช่อบริเวณปลายยอดมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีแดงอมชมพู เกสรตัวผู้มักแผ่เป็นแผ่นคล้ายกลีบดอก ผล เป็นแบบผลแห้ง รูปไข่กลับมีขนประปราย การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ช่อดอกอ่อน หน่ออ่อน ลวกรับประทานเป็นผักจิ้มร่วมกับน้ำพริกหรือนึ่ง รับประทานร่วมกับน้ำพริกปลาร้าหรือน้ำพริกตาแดง ดอกอ่อนช่วยขับลม เหง้าแก้ปวดเมื่อย ๑๕๗
  • 167. ชื่ออื่น ผักตูบหมูบ ว่านนอนหลับ ว่านส้ม เปราะหอม เอื้องดิน มีลำต้นอยู่ใต้ดิน มีส่วนของรากเป็นที่สะสมอาหาร ใบ จะแตกชูขึ้นมาเหนือดินในช่วงฤดูฝน ใบมีขนาดใหญ่ รูปหัวใจสีเขียวเข้ม ใบอ่อนจะมีลักษณะม้วนแทงขึ้นมาจากหัวใต้ดินพอแก่แล้วจะคลี่ออกแล้วจะโตแผ่อยู่ติดดิน หลังใบจะมีสีเขียว ท้องใบจะมีสีขาวนวล ดอก เป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็ก มีกลีบบางสีขาวโผล่ขึ้นมาตรงกลางยอด การใช้ประโยชน์ด้านอาหาร ประโยชน์ด้านสมุนไพร ๑๕๘ ใบอ่อนรับประทานสดร่วมกับซุบหน่อไม้ แกงอ่อมช่วยดับกลิ่นคาว เหง้ า แก้ ห วั ด แก้ ก ำเดา ขั บ ลมในลำไส้ สุ ม กระหม่ อ มเด็ ก แก้ ห วั ด และกำเดา
  • 173. เต็ม สมิตินันทน์. ๒๕๔๔ ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ ๒๕๔๔ พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรุงเทพฯ : บริษัทประชาชนจำกัด ม.ร.ว ภัทรชัย รัชนี บุญชุบ บุญทวี และจำลอง เพ็งคล้าย ๒๕๓๕ พรรณไม้ในสวนป่าสิริกิติ์ ภาคกลาง (ราชบุรี) กรุงเทพฯ : ชุติมาการพิมพ์ อรุณรัตน์ ฉวีราช พืชสกุลพริกไทยในประเทศไทย ๑ เมษายน ๒๕๔๘ ห.จ.ก. ขอนแก่นการพิมพ์ สะอาด บุญเกิด ไม้ไผ่บางชนิดในประเทศไทย ๒๕๒๘ วัชรี ประชาศัรยสรเดช ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๔๒ ผักพื้นบ้าน อีสาน ใต้ เหนือ สำลี ใจดี สุนทรี วิทยนารถไพศาล รพีพล ภโรวาท จิรพร ลิ้มปานานนท์ นิยดา เกียรติยิ่อังศุมาลี วิพิต วัฒนาวิบูล โครงการพัฒนาเทคนิคการทำยาสมุนไพร ตุลาคม ๒๕๒๒ – กรกฎาคม ๒๕๒๔ การใช้สมุนไพร เล่มที่ ๒ วุฒิ วุฒิธรรมเวช เภสัชกรรมไทย รวบรวมสมุนไพร ฉบับปรับปรุงใหม่ พิมพ์ครั้งที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๗ พิมพ์ครั้งที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๐ โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ๒๕๕๐ ร่มไม้ไพรพฤกษา ลำปาง : คณะวิทยาศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ๒๕๓๕ สมุนไพรสวนสิริรุกขชาติ´กรุงเทพ : คณะเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ๒๕๓๙ สมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. กรุงเทพฯ : คณะเภสัชศาสตร์ ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ เห็ดไทย ๒๕๓๙ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชมรมถ่ายทอด เทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ คณะกรรมการจัดทำอนุกรมวิธานพืช ราชบัญฑิตยสถาน กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ รวมคำอธิบาย เห็ด Kai Larsen & Supee Saksuwan Larsen 2006 GINGERS of THAILAND สถาบันแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เภสัชกรรมแผนไทย กรกฎาคม ๒๕๔๒ โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กรุงเทพฯ