SlideShare a Scribd company logo
โครงงานคอมพิวเตอร์
Travel Check In
นาย พัฒนชัย แสงอรุณ ม.6/4 เลขที่ 17
นาย ณัฐวุฒิ สายรักษา ม.6/4 เลขที่ 20
นส. ณัชชา เงินโต ม.6/4 เลขที่ 30
นาย ภคพล โสมะเกษตริน ม.6/4 เลขที่ 31
นส. ณัฐสินี กรีติชัยพงศ์ ม.6/4 เลขที่ 32
นส. เนตรทยา สุภาพงษ์ ม6/4 เลขที่ 35
นส. เจณนิกา ประมงอุอมรัตน์ ม.6/4 เลขที่ 37
นส. สุชนิตา ชื่นชม ม.6/4 เลขที่ 42
นส. ทิพพากร เอื้อยรรยง ม.6/4 เลขที่ 46
เสนอ
มิส เขมจิรา ปลงไสว
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
โครงงานคอมพิวเตอร์
Travel Check In
นาย พัฒนชัย แสงอรุณ ม.6/4 เลขที่ 17
นาย ณัฐวุฒิ สายรักษา ม.6/4 เลขที่ 20
นส. ณัชชา เงินโต ม.6/4 เลขที่ 30
นาย ภคพล โสมะเกษตริน ม.6/4 เลขที่ 31
นส. ณัฐสินี กรีติชัยพงศ์ ม.6/4 เลขที่ 32
นส. เนตรทยา สุภาพงษ์ ม6/4 เลขที่ 35
นส. เจณนิกา ประมงอุอมรัตน์ ม.6/4 เลขที่ 37
นส. สุชนิตา ชื่นชม ม.6/4 เลขที่ 42
นส. ทิพพากร เอื้อยรรยง ม.6/4 เลขที่ 46
เสนอ
มิส เขมจิรา ปลงไสว
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
โครงงาน เรื่อง Travel Check In
ประเภทของโครงงาน โครงงานพัฒนาเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นาย พัฒนชัย แสงอรุณ ม.6/4 เลขที่ 17
2. นาย ณัฐวุฒิ สายรักษา ม.6/4 เลขที่ 20
3. นส. ณัชชา เงินโต ม.6/4 เลขที่ 30
4. นาย ภคพล โสมะเกษตริน ม.6/4 เลขที่ 31
5. นส. ณัฐสินี กรีติชัยพงศ์ ม.6/4 เลขที่ 32
6. นส. เนตรทยา สุภาพงษ์ ม6/4 เลขที่ 35
7. นส. เจณนิกา ประมงอุอมรัตน์ ม.6/4 เลขที่ 37
8.นส. สุชนิตา ชื่นชม ม.6/4 เลขที่ 42
9. นส. ทิพพากร เอื้อยรรยง ม.6/4 เลขที่ 46
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การทาโครงงานในครั้งนี้นั้นมีวัตถุประสงค์หลายประการ ทั้งเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมา
ทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ โดยผ่านการสร้างสื่อในการนาเสนอ
ในรูปแบบของสารคดีท่องเที่ยว และในบล็อกเกอร์ ซึ่งจะทาให้สะดวกสบายต่อบุคคลที่ต้องการทราบ
เกี่ยวกับข้อมูลในการท่องเที่ยวตามสถานที่นี้ ซึ่งในบล็อกเกอร์คณะผู้จัดทาได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
พร้อมแผนที่ในการเดินทางให้สะดวกมากขึ้น พร้อมกับวิดีโอสารคดีที่ทางคณะผู้จัดทาได้ไปถ่ายทารวมไว้
ด้วย
คณะผู้จัดทาได้ดาเนินงานตามขึ้นตอนที่วางไว้ และนาเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านทางบล๊อกเกอร์
และนาเสนอในรูปแบบวิดีโอและเผยแพร่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นสื่อนาเสนอที่มี
ประโยชน์ ต่อผู้อื่นได้อีกด้วย
กิติกรรมประกาศ
โครงงานฉบับนี้สาเร็จได้ เนื่องจากความกรุณาของคณะอาจารย์และคณะผู้บริหารแผนก
คอมพิวเตอร์ โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ซึ่งได้ให้คาปรึกษา และชี้แนะข้อผิดพลาดต่างๆ จนทาให้โครงงาน
สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทาขอกราบขอบคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้
ขอกราบขอบคุณ ท่านอาจารย์ที่ให้คาปรึกษา ที่ให้ความกรุณาในการให้คาแนะนาและชี้แจงแก้ไข
ข้อบกพร่องต่างๆ ของโครงงาน ทั้งหึความรู้ ให้คาแนะนา และให้กาลังใจ ท้ายนี้คณะผู้จัดทาหวังอย่างยิ่ง
ว่า โครงงานชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ทางดารการศึกษาและเป็นที่น่าสนใจสาหรับผู้ที่สนใจ
คณะผู้จัดทา
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ข
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบัญ ง
สารบัญภาพ จ
บทที่
1. บทนา
o ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
o วัตถุประสงค์
o ขอบเขตของโครงงาน
o ผลที่คาดหวังจะได้รับ
2. เอกสารที่เกี่ยวข้อง
o ความเป็นมาของสวนสมุนไพร
o ความหมายของพืชสมุนไพร
o วิธีการสร้างบล็อกเกอร์
3. อุปกรณ์และวิธีการดาเนินงาน
o ขั้นตอนการดาเนินงาน
o วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
o วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน
4. ผลการดาเนินงาน
5. สรุปผลและการดาเนินงาน
o ขั้นตอนการดาเนินงาน
o วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
o วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน
6. ภาคผนวก
บรรณานุกรม
บทที่ 1
บทนา
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
รายงานเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเล่มนี้ ผู้จัดทาได้ค้นคว้าและเรียบเรียงขึ้นจาก
ประสบการณ์ที่ได้พบมาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เป็นรายงานที่เหมาะสาหรับประกอบการเรียนเป็นอย่าง
ยิ่งซึ่งผู้จัดทาได้นาเนื้อหาที่มีสาระสาคัญรวบรวมและใส่ทุกรายละเอียดอยู่ในรายงานเล่มนี้
โดยเนื้อหาประกอบไปด้วย รูปภาพสถานที่ และเป็นการแนะนาที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่ศึกษาสนใจค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามโดยเฉพาะ ได้มีโอกาสศึกษารายละเอียดได้มาก
ที่สุด และสามารถเลือกสถานที่ก่อนออกเดินทางได้
รายงานเล่มนี้ ผู้จัดทาได้พยายามเขียนและจัดทาให้ดีที่สุด หากมีข้อบกพร่องประการใด หรือท่าน
ผู้อ่านมีข้อคิดเห็นหรือแนะนาประการใดเกี่ยวกับรายงานเล่มนี้ กรุณาแจ้งให้ผู้เขียนทราบเพื่อจะได้นาไป
แก้ไขและปรับปรุงให้สมบูรณ์ในโอกาสต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อโฆษณาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง
2. เพื่อศึกษาการใช้โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS6 การตัดต่อวิดีโอ
ขอบเขตของโครงงาน
สร้างเว็บไซต์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสวนสมุนไพร โดยจัดทาในบล็อกเกอร์ในการสร้างเว็บไซต์
และใช้โปรแกรม Microsoft Word 2013 , Adobe Premiere Pro CS6 ในการตกแต่งและจัดเรียง
เว็บไซต์ให้สวยงามน่าสนใจ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้สนใจมีความเข้าใจและให้ความสาคัญเกี่ยวกับสวนสมุนไพร
2. ได้รับความรู้เกี่ยวกับการสร้างบล็อกเกอร์
3. ได้นาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เว็บไซต์ สวนสมุนไพร คณะผู้จัดทา
ได้ศึกษาข้อมูล เอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1. ความเป็นมาของสวนสมุนไพร
2.2. ความหมายของพืชสมุนไพร
2.3. วิธีการสร้างบล็อกเกอร์
2.1. ความเป็นมาของสวนสมุนไพร
ความเป็นมา
สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เหมาะสาหรับคนที่มี
ความสนใจเรื่องพรรณไม้ และพืชสมุนไพรไทย เพราะเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้สมุนไพร
หลากหลายชนิด ให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม ศึกษาหาความรู้ด้านพฤกษศาสตร์สมุนไพร
และเป็นสวนที่ตกแต่งไว้สวยงาม เหมาะสาหรับการพักผ่อน
สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อยู่ในบริเวณศูนย์
บารุงรักษาและบ้านพักพนักงาน บนถนนทางหลวงหมายเลข 3191 ตาบลมาบข่า กิ่งอาเภอ
นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง สวนนี้สร้างขึ้นโดยบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) โดยสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงประกอบพิธีเปิดป้ายสวนสมุนไพร เมื่อวันที่ 18
เมษายน พ.ศ. 2528 และทรงปลูกต้นจันทน์เทศไว้ ณ สวนสมุนไพรแห่งนี้ด้วย
สวนสมุนไพรฯ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ โดยปลูกพืชสมุนไพรที่เคยใช้กับการแพทย์แผน
โบราณไว้มากกว่า 260 ชนิด มีประมาณ 20,000 ต้น มีการจัดแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆ ตามสรรพคุณ
การรักษาโรคในตารายาไทยโบราณ ซึ่งมีด้วยกันถึง 20 กลุ่ม เช่นกลุ่มพืชหอม กลุ่มพืชถอนพิษ
สมุนไพรที่เป็นยาระบาย ถ่ายพยาธิ แก้ท้องเดิน รวมถึงสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง
เป็นต้น พืชที่ทางสวนสมุนไพรฯ ปลูกไว้ ถือเป็นแหล่งความรู้ด้านสมุนไพร มรดกภูมิปัญญา
ไทย ที่นับวันจะสูญหายไป
การเที่ยวชมภายในสวนสมุนไพรฯ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือเพื่อเป็นการอนุรักษ์และพัฒนา
ทรัพยากรของชาติ ให้เกิดประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง ปตท. จึงได้จัดทาสวนสมุนไพร ขึ้นเป็น
แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2527-2528 ณ บริเวณศูนย์บารุงรักษาและบ้านพัก
พนักงาน บนเนื้อที่ 60 ไร่ โดยรวบรวมสมุนไพรพันธุ์ต่างๆ มาปลูกไว้เป็นจานวนมาก ทั้งนี้
ปตท. ได้น้อมเกล้าฯ ถวายสวนสมุนไพรแห่งนี้แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช
กุมารี เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2528 ต่อมา ปตท. ได้พัฒนาสถานที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ
และปลูกต้นไม้เพิ่มเติม เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม
บรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา
สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
1. สวนสมุนไพร
แหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 260 ชนิด ประมาณ 20,0000 ต้น แบ่งเป็น 20
กลุ่ม ตามสรรพคุณในการรักษาโรค เปิดกว้างเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสวนสาหรับพักผ่อนเพื่อ
ประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป ทั้งยังช่วยรักษามรดกภูมิปัญญาไทย...สมุนไพรไทย ให้คงอยู่ ตราบ
นานเท่านาน
2.อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา
จัดแสดงนิทรรศการผ่านสื่อหลายรูปแบบ ที่ให้ความรู้ ดูสนุก ชวนติดตาม กระตุ้นให้
เกิดความสนใจ ค้นหาความรู้ต่อไป ซึ่งจัดแสดงเป็นส่วนๆ เช่น
ห้องการเดินทางของลูกยาง
ห้องเจ้าฟ้านักอนุรักษ์
ห้องพลังงานที่ยั่งยืนของไทย
บ้านหมอยา
กินตามธาตุ
โลกของพืชสมุนไพร
ภูมิปัญญาของคนในสมัยก่อนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างเกื้อกูล รู้จักใช้
ประโยชน์จากสิ่งรอบตัวที่มีอยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายและชัดเจนคงหนีไม่พ้น พืชผักสมุนไพร ที่
เรานามาใช้ประกอบอาหาร รวมถึงใช้เป็น ยารักษาโรค ก็ล้วนแต่ให้สรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย
ทว่าทุกวันนี้เมื่อยาแผนปัจจุบันเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนเรามากขึ้น พืชสมุนไพร ที่ เคย
ใช้กันมาแต่เก่าก่อนก็เริ่มถูกลืมไปทีละน้อยๆ จนคนรุ่นใหม่อาจไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาของยา
วิเศษในสมัยปู่กับย่ากันเสีย แล้ว ทว่าก็ไม่ได้หมดหวังไปซะทีเดียว เพราะที่ สวนสมุนไพร
สมเด็จพระเทพฯ จังหวัดระยอง แห่งนี้ถือเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ พืช
สมุนไพร ให้กับผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมและหาความรู้กันได้แบบจุใจเลยทีเดียว
โดย สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อยู่ภายใต้การ
ดูแลของ บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) ที่ได้จัดสร้างและน้อมเกล้าฯ ถวายในวโรกาสที่
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา
สวนสมุนไพรแห่งนี้แบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ นิทรรศการภายใน อาคารเฉลิม
พระเกียรติ 50 พรรษา และ สวนสมุนไพร ซึ่ง ถือเป็นแหล่งรวบรวมพืชพันธุ์สมุนไพรมากกว่า
260 ชนิด จัดกลุ่มและจาแนกตามสรรพคุณในการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ 20 กลุ่ม
อาการ ซึ่งมีรถรางใช้ ก๊าซ NGV คอยบริการนาชมบรรยากาศโดยรอบสวน พร้อมกับวิทยากร
ที่จะคอยอธิบายถึงส่วนต่างๆ ภายในสวน ซึ่งแบ่งสัดส่วนไว้อย่างน่าสนใจ ด้วยการจาแนก
คุณลักษณะและสรรพคุณทางยาของ พืชสมุนไพร ที่ใช้ในการรักษา เป็นต้นว่า พืชสมุนไพรแก้
โรคผิวหนัง กลุ่มยาบารุงหัวใจ กลุ่มยาบารุงเลือด กลุ่มยาแก้ไข้ กลุ่มยาถอนพิษ กลุ่มยาบารุง
กาลัง และอื่นๆ เราจึงได้เห็นหน้าตาของ พืชสมุนไพร แต่ละชนิดอย่างชัดเจน พร้อมกันนั้น
ภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ไม่เพียงแต่มากด้วยความรู้เพียงอย่าง เดียว ที่นี่นี้ยังมากด้วยความ
ร่มรื่นและความผ่อนคลายเป็นอย่างดี เพราะมีต้นไม้เป็นจานวนมาก ผู้คนในละแวกนี้ไม่ว่าเด็ก
หรือผู้ใหญ่ต่างชื่นชอบมาทากิจกรรม ทั้งการวิ่งออกกาลังกาย รวมถึงการปั่นจักรยานกันอย่าง
คึกคัก และที่สาคัญภายใน สวนสมุนไพร ยังมี ต้นจันทน์เทศน์ ไม้มงคลที่ พระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม
บรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรง
ปลูกขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์สัญลักษณ์ ในวโรกาสเมื่อครั้งเสด็จพระราชดาเนินมาในพิธีเปิด สวน
สมุนไพร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2528
เมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมบริเวณสวนด้านนอกแล้ว ก็มาต่อกันที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ
50 พรรษา โดย ภายในอาคารประกอบด้วยนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงผ่านสื่อสมัยใหม่
หลากหลายรูปแบบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตามส่วนต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน เริ่มตั้งแต่
ห้องการเดินทางของลูกยาง ที่นาเสนอเรื่องราวของต้นไม้แต่ละต้นว่า กว่าพวกมันจะเติบใหญ่
คอยให้ร่มเงาได้นั้นต้องผ่านอะไรมากันบ้าง ซึ่งสามารถเล่าเรื่องราวได้น่าสนใจด้วยรูปแบบ
ของ การ์ตูนแอนิเมชั่น ผ่านภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงพูดและดนตรีประกอบสลับกันไป จุดนี้
น่าจะถูกอกถูกใจเด็กๆ เป็นอย่างดี ส่วนผู้ใหญ่ก็หน้าชื่นตาบานไปกับความสุขของเจ้าตัวน้อย
เช่นเดียวกัน ขณะที่ห้องจัดแสดงถัดไปเราจะได้พบกับห้อง “เจ้าฟ้านักอนุรักษ์ ” นิทรรศการ
ซึ่งรวบรวมพระฉายาลักษณ์ในพระจริยะวัตรของ สมเด็จพระเทพฯ อันเกี่ยวเนื่องกับการ
อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้ชื่นชมพระบารมีอีกเช่นกัน และห้องจัดแสดงต่อไป ที่จะ
ได้ชมก็คือมหัศจรรย์แห่งภูมิปัญญา การรักษาแบบพื้นบ้านด้วยสมุนไพร หรือบ้านหมอยา จุด
นี้เป็นการจาลองบรรยากาศบ้านเรือนสมัยก่อนให้เราได้เห็นว่า เวลาที่หมอพื้นบ้านปรุงยา
สมุนไพรนั้น เขามีกรรมวิธีอย่างไรโดยข้อมูลต่างๆ จะบรรยายผ่านทางเสียงตามสายควบคู่กัน
ไป พร้อมกันนั้นส่วนจัดแสดงต่อจากนี้ก็มีความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือ นิทรรศการ
ตรวจธาตุเจ้าเรือนของตัวเอง ที่รวบรวมข้อมูลว่าอาหารเมนูใด หรือ สมุนไพร ชนิดไหนที่
เหมาะกับธาตุในร่างกายแต่ละคน เมื่อได้รู้เรื่องราวจากจุดนี้ไป เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนคงทราบ
ถึงสิ่งที่วาควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน ของตัวเองและคนในครอบครัวอย่างไรถึง
จะเหมาะสม
ขณะเดียวกัน นอกจากนิทรรศการที่มีให้ชมแล้ว เราก็ยังสนุกกับการเล่นเกม เมือง
สมุนไพร ในห้อง E-Learning ได้ ด้วย ในจุดนี้เป็นการนาความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรมา
นาเสนอในรูปแบบของเกมได้ อย่างสนใจได้ไม่น้อย ซึ่งก็หมายรวมไปถึงนิทรรศการสุดท้ายคือ
นิทรรศการเรียนรู้ประโยชน์สมุนไพร ในส่วนนี้คุณจะสะดุดตากับตู้ลิ้นชักไม้แบบจีนขนาดใหญ่
ลิ้นชักแต่ละช่องจะเก็บ พืชสมุนไพร พร้อมกับบอกข้อมูลและสรรพคุณเอาไว้ เวลาที่เปิด
ออกมาก็จะได้ยินเสียงบรรยายข้อมูลของพืชชนิดนั้นๆ ได้อย่างง่ายต่อการเข้าใจ และจาก
นิทรรศการทั้งหมดที่เห็นมา ถือว่านาเสนอได้อย่างน่าสนใจเข้ากับยุคสมัย ด้วยการใช้สื่อใน
รูปแบบใหม่ๆ จึงช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น และผู้ชมก็สามารถมีส่วนรวมกับกิจกรรม
ตามจุดต่างๆ อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย และยังไม่หมดเพียงเท่านั้น คุณยังสามารถซื้อหา
ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ที่มีจาหน่ายยังร้านขายของที่ระลึกได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเอาไปใช้เองที่
บ้าน หรือนาไปฝากญาติสนิทมิตรสหายก็ชื่นใจได้ทั้งสองฝ่าย
เมื่อฟังเรื่องราวมาถึงตอนนี้ ใครอยากจะรู้จักกับ พืชสมุนไพร ให้มากกว่าเดิม ก็ลองหา
โอกาสมาเยี่ยมชมพร้อมเก็บเกี่ยวความรู้จาก สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ กันดูนะครับ
เพราะเมื่อคุณได้รู้จักกับ พืชสมุนไพร มากขึ้นแล้ว คุณจะรู้เลยว่า ทาไมพืชจาพวกนี้ถึงถูก
ขนานนามว่าเป็นของวิเศษมาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงทุกวันนี้
สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ.เมืองระยอง จ.ระยอง บริษัท
ปตท. จากัด (มหาชน) สร้างสวนสมุนไพรแห่งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด มิติการเรียนรู้ด้านสมุนไพรอย่าง
สนุกสนานเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 20,000 ต้น (260 ชนิดโดยจัดกลุ่มจาแนกตาม
สรรพคุณการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ; 20 กลุ่มอาการ) เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม พักผ่อน
หย่อนใจ และศึกษาหาความรู้ด้านพฤษภศาสตร์และสมุนไพร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่- อาคาร
เฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษาซึ่งประกอบด้วยห้องประชุมสัมมนา ห้องนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร
ไทย ทั้งที่ควรอนุรักษ์และที่ใกล้ตัวในวิถีชีวิตประจาวันโดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนาชมตลอดเส้นทาง
โดยไม่เสียค่าใช้ใดๆทั้งสิ้น ในส่วนสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะมี
การชมโดยรถ NGV (รถที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ) โดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนาชมตลอดเส้นทาง
เช่นเดียวกัน โดยรถ NGV จะออกทุก 30 นาที (ตามตารางรอบกาหนด) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ทางส่วนสมุนไพรฯ ยังได้จัดให้มีร้านค้าส่วนบริการ ได้แก่ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านขายของที่
ระลึก และร้านนวดเพื่อสุขภาพ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่
บริเวณศูนย์บารุงรักษาและบ้านพัก ปตท. บนถนนทางหลวงหมายเลข 3191 ต.มาบข่า กิ่งอ.นิคมพัฒนา
จ.ระยอง เปิดทาการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์)
การเดินทาง เดินทางได้หลายเส้นทางดังนี้ การเดินทางไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 36
(บายพาส) จากกรุงเทพฯ โดยมีจุดเริ่มต้นตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร อ.บางนา ผ่าน อ.บางพลี
จนมาถึง กม.ที่ 140 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส) จากนั้น
เดินทางไป จ.ระยอง มาถึงแยกมาบข่าเลี้ยวขวาประมาณ 800 เมตร สวนสมุนไพรจะอยู่ขวามือ
สายมอเตอร์เวย์เริ่มต้นที่ถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพฯ จะสิ้นสุดที่ จ.ชลบุรี ระยะทาง 75
กม. จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส) อีก 100 เมตร จะถึงแยกมาบข่าเลี้ยวขวาประมาณ
800 เมตร สวนสมุนไพรจะอยู่ขวามือ
เดินทางมาจากจันทบุรีหรือในตัวเมืองระยองใช้ถนนสาย 36 (บายพาส) วิ่งตรงมาประมาณ 15
กม. ถึงแยกมาบข่าเลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 800 เมตร สวนสมุนไพรจะอยู่ขวามือ
การติดต่อจองเข้าใช้สถานที่เพื่อเยี่ยมชม กรณีเดินทางมาเป็นหมู่คณะควรทาเป็นหนังสือแจ้ง
ล่วงหน้า ถึงผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่โรงแยกก๊าซธรรมชาติ จ.ระยอง เลขที่ 555 ถนนสุขุมวิท ต.มาบ
ตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โทร.0 3868 5000 ต่อ 6720 หรือติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการสวน
สมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ โทร.0 3891 5213-5 โทรสาร. 0 3891 5216
กรณีเดินทางมาส่วนตัวหรือเป็นครอบครัว สามารถเข้ามาติดต่อและลงทะเบียนที่จุด
ประชาสัมพันธ์ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ได้เลย การติดต่อขอใช้ห้องประชุมทาหนังสือแจ้งล่วงหน้าถึงผู้ช่วย
กรรมการผู้จัดการใหญ่โรงแยกกาซธรรมชาติ เลขที่ 555 ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง
วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการประชุมสัมมนาทางวิชาการเช่นด้านพฤษศาสตร์ การแพทย์แผนไทย สมุนไพร
ไทย และอื่น ๆ ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์) อัตราค่าบริการใช้ห้อง
ประชุมประมาณ 2,500 - 15,000 บาท
อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา หลังจากเลี้ยวขวาเข้าทางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไม่นาน
ก็เห็นป้ายเขียนว่า สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กลับรถ ก็เตรียมกลับ
รถตามป้ายบอก แล้วไปเข้าประตู จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เดินมาส่งบัตรจอดรถให้ แล้วชี้บอก
เราว่าให้ไปจอดที่ลานไหน เพราะลานจอดรถในนี้มีหลายลาน ถ้าในวันปกติคนน้อยส่วนใหญ่ก็จะจอดใกล้ๆ
อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา แต่ในช่วงวันที่ผมไปวาเลนไทน์ มีโดมทิวลิปสวยๆ ให้ชมภายใต้ชื่อ
โครงการ THE MIRACLE OF NATURAL GAS งานนี้จึงทาให้นักท่องเที่ยวมากันเยอะเป็นพิเศษ ผมต้องไปจอด
ที่ข้างสระว่ายน้า
สระบัวหลวง ภายในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ของสวนสมุนไพรแห่งนี้ มีทางเดินที่ร่มรื่น ภายใต้ร่มเงาของ
สมุนไพรที่เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ที่พื้นก็จะมีกลุ่มสมุนไพรที่เป็นต้นเล็กๆ หรือไม้พุ่ม จัดวางอย่าง
เหมาะสม จากด้านหน้ามองเข้าไปลึกๆ ก็จะเห็นสระน้าพุ ชื่อว่าสระบัวหลวง เป็นจุดที่นิยมที่สุดในสวน
สาหรับการถ่ายภาพ
ต้นไม้ทรงปลูก นอกเหนือไปจากการศึกษาสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในสวนแห่งนี้ ก็จะมี
ต้นไม้สาคัญๆ ได้แก่ต้นไม้ทรงปลูก โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นต้น
ศาลาพักผ่อนสวนสมุนไพร ระหว่างทางเดินชมภายในสวนสมุนไพร จะมีศาลาและม้านั่ง จัดวางไว้
ให้สาหรับนั่งพักผ่อน กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ หลายจุด
นมแมว ในระหว่างเดินเก็บภาพภายในสวน ผมก็ใช้โอกาสนี้ในการศึกษาสมุนไพรหลายๆ อย่างไป
ด้วย แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่า สมุนไพรจานวนมากมายในสวนนี้ผมคงไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ดูได้ทั้งหมด
ถ้าสนใจจริงๆ ก็คงต้องไปศึกษากันถึงที่ ส่วนต้นนมแมวที่เอามาให้ชมกันนี้ ก็เพราะเห็นว่าชื่อนี้เราเคยได้
ยินกันมาบ้าง แต่ไม่ค่อยได้เห็นต้นนมแมวจริงๆ ซักที ดอกของนมแมวมีน้ามันหอมระเหย ส่วนราก กับเนื้อ
ไม้ ใช้รักษาไข้หวัด
สระลีลาวดี เป็นอีกสระหนึ่งที่อยู่ตรงด้านข้างของสวนสมุนไพร มีสะพานข้ามเข้ามาในสวน มุ่งตรง
ไปยังสระบัวหลวงได้
บรรยากาศทางเดินชมสวนสมุนไพร มาถึงตรงนี้เห็นแสงเงากาลังสวยก็เลยเก็บภาพให้ชม เป็น
ทางเดินใต้ต้นมะขาม และมะขามก็เป็นสมุนไพรไทยอย่างหนึ่ง มีตัวยาหลายอย่าง แต่ที่รู้จักกันดีคือใช้เป็น
ยาช่วยระบาย
ทิวลิประยอง นี่ก็เป็นภาพบางส่วนที่ถ่ายมาจากโดมทิวลิป ส่วนหนึ่งของสวนสมุนไพรสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลายคนเห็นภาพนี้โผล่มาตอนท้ายคิดว่าผมเอารูปมาลงผิด
หรือเปล่า ยืนยันว่าไม่ผิดหรอกครับ ที่นี่มีทิวลิปให้ชมกันจริงๆ แต่ต้องเป็นระหว่างงาน The Miracle of
Natural Gas ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปี บางปีมี 2 ครั้งด้วยครับ อย่างในปีนี้จัดขึ้นตรงกับวันแห่งความรัก คือวา
เลนไทน์ ทิวลิปที่ปลูกที่นี่กาหนดวันให้บานได้ด้วย 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาคนไปเที่ยวกันเยอะมาก งานนี้
จะจัดขึ้นครั้งละประมาณ 1 สัปดาห์ ครับ ต้องติดตามข่าวให้ดีว่าคราวหน้าจะจัดขึ้นในวันที่เท่าไหร่ ชม
ภาพโดมทิวลิประยองอีกมากมายหลายภาพคลิกที่นี่เลย
2.2. ความหมายของสมุนไพร
ความหมายของพืชสมุนไพร
คาว่า สมุนไพร ตาม พระราชบัญญัติยา หมายถึง "ยาที่ได้จากพืช สัตว์ หรือแร่ ซึ่งยัง
ไม่ได้ผสม ปรุง หรือเปลี่ยนสภาพ" เช่น พืชก็ยังเป็นส่วนของ ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซึ่ง
ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการแปรรูปใด ๆ แต่ในทางการค้าสมุนไพรมักจะถูกดัดแปลงในรูปต่าง ๆ
เข่น ถูกหั่นให้เป็นชิ้นเล็กลง บดเป็นผงละเอียด หรืออัดเป็นแท่ง อย่างไรก็ตามในความรู้สึก
ของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อกล่าวถึงสมุนไพร มักจะนึกถึงเฉพาะต้นไม้ที่นามาใช้เป็นยาเท่านั้น ทั้งนี้
อาจเป็นเพราะว่าสัตว์ หรือแร่ มีการนามาใช้น้อย และใช้ในโรคบางชนิดเท่านั้น
พืชสมุนไพร หมายถึงพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่สามารถนามาใช้ปรุงหรือประกอบเป็นยารักษา
โรคต่าง ๆ ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพร่างกายได้
ความสาคัญของพืชสมุนไพร
1. ความสาคัญในด้านสาธารณสุข
พืชสมุนไพร เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ที่มนุษย์รู้จักนามาใช้เป็นประโยชน์ เพื่อการ
รักษาโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่โบราณกาลแล้ว เช่นในเอเชียก็มีหลักฐานแสดงว่ามนุษย์รู้จักใช้พืช
สมุนไพรมากว่า 6,000 ปี แต่หลังจากที่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ มีการพัฒนาเจริญก้าวหน้า
มากขึ้น มีการสังเคราะห์ และผลิตยาจากสารเคมี ในรูปที่ใช้ประโยชน์ได้ง่าย สะดวกสบายใน
การใช้มากกว่าสมุนไพร ทาให้ความนิยมใช้ยาสมุนไพรลดลงมาเป็นอันมาก เป็นเหตุให้ความรู้
วิทยาการด้านสมุนไพรขาดการพัฒนา ไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร ในปัจจุบันทั่วโลกได้ยอมรับ
แล้วว่าผลที่ได้จากการสกัดสมุนไพร ให้คุณประโยชน์ดีกว่ายา ที่ได้จากการสังเคราะห์ทาง
วิทยาศาสตร์ประกอบกับในประเทศไทยเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ มีพืช
ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นสมุนไพรได้อย่างมากมายนับหมื่นชนิด ยังขาดก็แต่เพียงการค้นคว้าวิจัยในทาง
ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น ความตื่นตัวที่จะพัฒนาความรู้ด้านพืชสมุนไพร จึงเริ่มขึ้นอีก
ครั้งหนึ่ง มีการเริ่มต้นนโยบายสาธารณสุขขั้นมูลฐานอย่างเป็นทางการของประเทศไทยในปี
พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มโครงการสาธารณสุขขั้นมูลฐานเข้าในแผนพัฒนาการสาธารณสุข ตาม
แผนพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520-2524) ต่อเนื่องจนถึง
แผนพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539) โดยมี กลวิธีการ
พัฒนาสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยในงานสาธารณสุขมูลฐาน คือ
(1) สนับสนุนและพัฒนาวิชาการและเทคโนโลยีพื้นบ้านอันได้แก่ การแพทย์แผนไทย
เภสัช กรรมแผนไทย การนวดไทย สมุนไพร และเทคโนโลยีพื้นบ้าน เพื่อใช้ประโยชน์ในการ
แก้ไขปัญหา สุขภาพของชุมชน
(2) สนับสนุนและส่งเสริมการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง โดยใช้ สมุนไพร
การแพทย์พื้นบ้าน การนวดไทย ในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
เป็นระบบสามารถปรับประสานการดูแลสุขภาพแผนปัจจุบันได้ อาจกล่าวได้ว่าสมุนไพรสาหรับ
สาธารณสุขมูลฐานคือสมุนไพรที่ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ และการรักษาโรค/อาการเจ็บป่วย
เบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้มากขึ้น
2. ความสาคัญในด้านเศรษฐกิจ
ในปัจจุบันพืชสมุนไพรจัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ต่างประเทศกาลังหาทางลงทุน
และคัดเลือกสมุนไพรไทยไปสกัดหาตัวยาเพื่อรักษาโรคบางโรคและมีหลายประเทศที่นา
สมุนไพรไทยไปปลูกและทาการค้าขายแข่งกับประเทศไทย สมุนไพรหลายชนิดที่เราส่งออกเป็น
รูปของวัตถุดิบคือ กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว เปล้าน้อยและมะขามเปียกเป็นต้น ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้
ตลาดต่างประเทศยังคงมีความต้องการอีกมาก และในปัจจุบันกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริม
การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสนใจในการศึกษาเพิ่มขึ้นและมี
โครงการวิจัยบรรจุไว้ในแผนพัฒนาระบบการผลิต การตลาดและการสร้างงานในแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพื่อหาความเป็นไปได้ในการ
พัฒนาคุณภาพและแหล่งปลูกสมุนไพรเพื่อส่งออก โดยกาหนดชนิดของสมุนไพรที่มีศักยภาพ
13 ชนิด คือ มะขามแขก กานพลู เทียนเกล็ดหอย ดองดึง เร่ว กระวาน ชะเอมเทศ ขมิ้น
จันทร์เทศ ใบพลู พริกไทย ดีปลี และน้าผึ้ง
ประโยชน์ของพืชสมุนไพร
1. สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง
และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น
2. ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่า
แผนปัจจุบัน
3. สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ
ชนบท
4. มีราคาถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซื้อจากต่าง
ประเทศเป็นการลดการขาดดุลทางการค้า
5. ใช้เป็นยาบารุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
6. ใช้เป็นอาหารและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตาลึง
7. ใช้ในการถนอมอาหารเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู
8. ใช้ปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารพวก ขนมปัง
เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน
9. สามารถปลูกเป็นไม้ประดับอาคารสถานที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ
10.ใช้ปรุงเป็นเครื่องสาอางเพื่อเสริมความงาม เช่น ว่านหางจระเข้ ปรนะคาดีควาย
11.ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในสวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ
12.เป็นพืชที่สามารถส่งออกทารายได้ให้กับประเทศ เช่น กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว
13.เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น รู้จักช่วยตนเองในการ นาพืช
สมุนไพรในท้องถิ่นของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ
14.ทาให้คนเห็นคุณค่าและกลับมาดาเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น
15.ทาให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทย
ความหมายของสมุนไพร
สมุนไพร หมายถึง “พืชที่ใช้ทาเป็นเครื่องยา” ส่วน ยาสมุนไพร หมายถึง “ยาที่ได้จาก
ส่วนของพืช สัตว์ และแร่ ซึ่งยังมิได้ผสมปรุง หรือ แปรสภาพ” ส่วนการนามาใช้ อาจดัดแปลง
รูปลักษณะของสมุนไพรให้ใช้ได้สะดวกขึ้น เช่น นามาหั่นให้มีขนาดเล็กลง หรือ นามาบดเป็น
ผงเป็นต้นมีแต่พืชเพียงอย่างเดียวหามิได้้เพราะยังมีสัตว์และแร่ธาตุอื่นๆอีกสมุนไพร ที่เป็น
สัตว์ได้แก่ เขา หนัง กระดูก ดี หรือเป็นสัตว์ทั้งตัวก็มี เช่น ตุ๊กแกไส้เดือน ม้าน้า ฯลฯ "พืช
สมุนไพร" นั้นตั้งแต่โบราณก็ทราบกันดีว่ามีคุณค่าทางยามากมายซึ่ง เชื่อกันอีกด้วยว่า ต้นพืช
ต่างๆ ก็เป็นพืชที่มีสารที่เป็นตัวยาด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่ว่าพืชชนิดไหนจะมีคุณค่าทางยามาก
น้อยกว่ากันเท่านั้น"พืชสมุนไพร" หรือวัตถุธาตุนี้ หรือตัวยาสมุนไพรนี้ แบ่งออกเป็น 5
ประการ
1.รูป ได้แก่ ใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ แก่นไม้ กระพี้ไม้ รากไม้ เมล็ด
2.สี มองแล้วเห็นว่าเป็นสีเขียวใบไม้ สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีม่วง สีน้าตาล สีดา
3.กลิ่น ให้รู้ว่ามรกลิ่น หอม เหม็น หรือกลิ่นอย่างไร
4.รส ให้รู้ว่ามีรสอย่างไร รสจืด รสฝาด รสขม รสเค็ม รสหวาน รสเปรี้ยว รสเย็น
5.ชื่อ ต้องรู้ว่ามีชื่ออะไรในพืชสมุนไพรนั้นๆ ให้รู้ว่า ขิงเป็นอย่างไร ข่า เป็นอย่างไร ใบ
ขี้เหล็กเป็นอย่างไร
ดอกมะขามเป็นอย่างไร ผลมะเกลือเป็นอย่างไรสมุนไพรนอกจากจะนามาใช้ประโยชน์
เป็นยารักษาโรคแล้ว ยังสามารถนามาใช้ประโยชน์ทางด้านอื่นๆอีก เช่นนามาบริโภคเป็น
อาหาร อาหารเสริมสุขภาพ เครื่องดื่ม สีผสมอาหาร และสีย้อม ตลอดจนใช้ทาเครื่องสาอางอีก
ด้วย การใช้สมุนไพรเป็นยาบาบัดโรคนั้น อาจใช้ในรูปยาสมุนไพรเดี่ยวๆ หรือใช้ในรูปตารับยา
สมุนไพร
ปัจจุบันตารับยาสามัญประจาบ้านแผนโบราณที่กระทรวงสาธารณสุขออนุญาติให้ใช้
รักษาโรคได้มีทั้งหมด 28 ขนาน เช่น
- ยาจันทน์ลีลา ใช้แก้ไข้ แก้ตัวร้อน
- ยามหานิลแท่งทอง ใช้แก้ไข้ แก้หัด อีสุกอีใส
- ยาหอมเทพพิจิตร แก้ลม บารุงหัวใจ
- ยาเหลืองปิดสมุทร แก้ท้องเสีย
- ยาประสะมะแว้ง แก้ไอ ขับเสมหะ
- ยาตรีหอม แก้ท้องผูกในเด็กระบายพิษไข้
สาหรับสมุนไพรที่นิยมใช้เดี่ยวๆ รักษาอาการของโรคที่พบบ่อยๆ ได้แก่
- สมุนไพรแก้ไข้ ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด
- สมุนไพรแก้ท้องเสีย กล้วยน้าว้า ทับทิม ฝรั่งดิบ
- สมุนไพรแก้ไอ มะแว้ง ขิง มะนาว
- สมุนไพรแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขมิ้นชัน แห้วหมู กระชาย
- สมุนไพรช่วยให้นอนหลับ ขี้เหล็ก ดอกบัวหลวง หัวหอมใหญ่
- สมุนไพรแก้เชื้อรา กระเทียม ข่า ชุมเห็ดเทศ
- สมุนไพรแก้เริม เสลดพังพอนตัวเมีย และตัวผู้
ลักษณะของพืชสมุนไพร
"พืชสมุนไพร" โดยทั่วไปนั้น แบ่งออกเป็น 5 ส่วนสาคัญด้วยกัน คือ
1. ราก
2. ลาต้น
3. ใบ
4. ดอก
5. ผล
"พืชสมุนไพร" เหล่านี้มีลักษณะลาต้น ยอด ใบ ดอก ที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่
ส่วนต่างๆ ก็ทาหน้าที่เช่นเดียวกัน เช่นรากก็ทาหน้าที่ดูดอาหาร มาเลี้ยงลาต้นกิ่งก้านต่างๆและ
ใบกับส่วนต่างๆนั่นเองใบก็ทาหน้าที่ปรุงอาหารดูดออกซิเจน คายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
ดอก ผล เมล็ด ก็ทาหน้าที่สืบพันธุ์กันต่อไป เพื่อทาให้พืชพันธุ์นี้แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆไม่มี
ที่สิ้นสุด
ส่วนต่างๆของพืชที่ใช้เป็นพืชสมุนไพร
1. ราก รากของพืชมีมากมายหลายชนิดเอามาเป็นยาสมุนไพรได้อย่างดี เช่นกระชาย
ขมิ้นชัน ขิง ข่า เร่ว ขมิ้นอ้อย เป็นต้น รูปร่างและลักษณะของราก แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1.1 รากแก้ว ต้นพืชมากมายหลายชนิดมีรากแก้วอยู่นับ ว่าเป็นรากที่สาคัญมากงอก
ออกจาลาต้นส่วนปลายรูปร่างยาวใหญ่ เป็นรูปกรวยด้านข้างของรากแก้วจะแตกแยกออกเป็น
รากเล็กรากน้อยและ รากฝอยออกมาเป็นจานวนมากเพื่อทาการดูดซึมอาหารในดินไปบารุง
เลี้ยงส่วนต่างๆของต้นพืชที่มีรากแก้วได้แก่ ต้นขี้เหล็ก ต้นคูน เป็นต้น
1.2 รากฝอย รากฝอยเป็นส่วนที่งอกมาจากลาต้นของพืชที่ส่วนปลายงอกออกมาเป็น
รากฝอยจานวนมากลักษณะรากจะกลมยาวมีขนาดเท่าๆกันต้นพืชที่มีใบเลี้ยงเดี่ยวจะมีราก
ฝอย เช่น หญ้าคา ตะไคร้ เป็นต้น
2. ลาต้น นับว่าเป็นโครงสร้างที่สาคัญของต้นพืชทั้งหงายที่มีอยู่สามารถค้ายันเอาไว้ได้
ไม่ให้โค่นล้มลงโดยปกติแล้วลาต้นจะอยู่ บนดินแต่บางส่วนจะอยู่ใต้ดินพอสมควร รูปร่างของ
ลาต้นนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ตา ข้อ ปล้อง บริเวณเหล่านี้จะมีกิ่งก้าน ใบดอก
เกิดขึ้นอีกด้วยซึ่งจะทาให้พืช มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปชนิดของลาต้นพืช แบ่งตาม
ลักษณะภายนอกของลาต้นได้เป็น
1. ประเภทไม้ยืนต้น
2. ประเภทไม้พุ่ม
3. ประเภทหญ้า
4. ประเภทไม้เลื้อย
3. ใบ ใบเป็นส่วนประกอบที่สาคัญของต้นพืชทั่วไป มีหน้าที่ทาการสังเคราะห์แสง ผลิต
อาหารและ เป็นส่วนที่แลกเปลี่ยนน้า และอากาศให้ต้นพืชใบเกิดจากการงอกของกิ่งและตา
ใบไม้โดยทั่วไปจะมีสีเขียว (สีเขียวเกิดจากสารที่มีชื่อว่า"คอลโรฟิลล์"อยู่ในใบของพืช)ใบของ
พืชหลายชนิดใช้เป็นยาสมุนไพรได้ดีมาก รูปร่างและลักษณะของใบนั้น
ใบที่สมบูรณ์มีส่วนประกอบรวม 3 ส่วนด้วยกันคือ
1. ตัวใบ
2. ก้านใบ
3. หูใบ
ชนิดของใบ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
1. ชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว หมายถึงก้านใบอันหนึ่ง มีเพียงใบเดียว เช่น กานพลู ขลู่ ยอ
กระวาน
2. ชนิดใบประกอบ หมายถึงตั้งแต่ 2 ใบขึ้นไปที่เกิดขึ้นก้านใบอันเดียว มีมะขามแขก
แคบ้าน ขี้เหล็ก มะขาม เป็นต้น
4. ดอก ส่วนจองดอกเป็นส่วนที่สาคัญของพืชเพื่อเป็นการแพร่พันธุ์ของพืชเป็นลักษณะ
เด่นพิเศษของต้นไม้แต่ละชนิด ส่วนประกอบของดอกมีความแตกต่างกันตามชนิดของพันธุ์ไม้
และลักษณะที่แตกต่างกันนี้เป็นข้อมูลสาคัญในการจาแนกประเภทของ ต้นไม้รูปร่างลักษณะ
ของดอก
ดอกจะต้องมีส่วนประกอบที่สาคัญ 5 ส่วนคือ
1. ก้านดอก
2. กลีบรอง
3. กลีบดอก
4. เกสรตัวผู้
5. เกสรตัวเมีย
5. ผล ผลคือส่วนหนึ่งของพืชที่เกิดจากการผสมเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียในดอก
เดียวกันหรือคนละดอกก็ได้ มีลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทและสายพันธุ์
รูปร่างลักษณะของผลมีหลายอย่าง ตามชนิดของต้นไม้ที่แตกต่างกัน แบ่งตามลักษณะของการ
เกิดได้รวม 3 แบบ
1. ผลเดี่ยว หมายถึง ผลที่เกิดจากรังไข่อันเดียวกัน
2. ผลกลุ่ม หมายถึง ผลที่เกิดจากปลายช่อของรังไข่ในดอกเดียวกัน เช่น น้อยหน่า
3. ผลรวม หมายถึง ผลที่เกิดมาจากดอกหลายดอก เช่น สับปะรด
มีการแบ่งผลออกเป็น 3 ลักษณะคือ
1. ผลเนื้อ
2. ผลแห้งชนิดแตก
3. ผลแห้งชนิดไม่แตก
2.3. วิธีการสร้างบล็อคเกอร์
เรามาทาความรู้จักกับ Blogspot กันก่อนดีกว่า บล๊อกสปอตนั้นเป็นของ google ที่สามารถให้คน
ทั่วไปได้เข้าถึงการ เขียนบล๊อกต่างๆ หรือการเขียนเว็บแบบง่ายๆนั้นเอง การที่จะเข้าใช้งาน blogspot
นั้นจะต้องมี Gmail ซึ่งใช้ในการล๊อกอิน สามารถสมัครได้ง่ายๆ เราว่าดูวิธีทาบล็อกสปอร์ตกันเลยดีกว่า
1.ให้เราทาการพิมพ์ในช่อง URL ด้านบนว่า www.blogspot.com หรือการเข้าสู่เว็บ blogspot
นั้นเอง ตามภาพด้านบน
2.ก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้เราทาการล๊อกอินเข้าไป โดยใช้ Gmail ของเรา
3.พอทาการล๊อกอินเสร็จก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บล็อกใหม่
4.พอมาถึงหน้านี้
– ในช่องหัวข้อ ให้เราทาการตั้งชื่อหัวข้อของบล๊อกของเรา(เรื่องที่เราจะเขียนบล๊อก หรือ Title)
– ในช่องที่อยู่ ให้เราทาการตั้งชื่อ URL ของเรา อาทิเช่น gunoob.blogspot.com , cnx-
it.blogspot.com เป็นต้น (.blogspot.com จะมาการเติมให้โดยอัตโนมัติ ให้พิมพ์แค่ gunoob หรือ
cnx-it)
– ในช่องแม่แบบ ให้เราทาการเลือก รูปแบบของบล๊อกหรือ Theme นั้นเอง (แนะนาให้ใช้แบบง่าย ธีมสา
มารถเปลี่ยนภายหลังได้)
5.จะได้อกมาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกเข้าไปเลย (ของผมได้ทาการสร้างไว้ก่อนแล้ว)
6.จะได้หน้าต่างเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บทความใหม่ เพื่อทาการเขียนบทความหรือ blog
7.พอได้หน้าตาแบบนี้ให้เราทาการเขียนบล๊อก หรือบทความที่เราต้องการได้เลย
– ในช่องโพสต์ด้านบนตัวหนังสือสีส้ม ให้เราทาการเขียนหัวข้อหรือหัวเรื่อง บทความที่เราต้องการเขียน
– การเขียนบทความ ข้อมูล หรือบล๊อกนั้นสามารถทาการเขียนได้ใช้ กระดาษ ตรงกลางหน้า
– ด้านขวามือจะมีป้ายกากับ ให้เราทาการคลิกเพื่อพิมพ์ คา ที่ผู้อื่นสามารถค้นบทความของเราเจอได้
– การใส่ลิ้งให้ทาการคลิกที่ ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ เพื่อทาการใส่ URL ที่เราต้องการลิ้ง
– การใส่รูปภาพ สามารถทาได้โดยการคลิกที่ แทกรูปภาพ ด้านขวา ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ แล้วทาการเลือก
ไฟล์เพื่ออัพโหลดรูปภาพแล้ว คลิกรูปภาพที่ต้องการเลือก แล้วกดเพิ่มรายการที่เลือก
– ถ้าทาการเขียนบทความเสร็จ ให้ทาการคลิกที่ เผยแพร่ เพื่อทาการเผยแพร่บทความที่สามารถให้ผู้อื่นได้
อ่าน หรือเข้าชมได้
8.การเปลี่ยนธีม ตามที่เราต้องการ ให้ทาการคลิกที่ แม่แบบ จะมีให้เราเลือกธีมตามที่เราต้องการ
ถ้าจะเอาอันไหนให้ทาการคลิก แล้วกด ใช้กับบล๊อก(ปุ่มสีส้ม)เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ (ธีมเราสามารถออกแบบ
เองและทาเองตามที่เราต้องการได้)
บทที่ 3
อุปกรณ์และวิธีการดาเนินการ
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เว็บไซต์ สวนสมุนไพร คณะผู้จัดทา
ได้ศึกษาข้อมูล เอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
3.1. ขั้นตอนการดาเนินงาน
1. ศึกษาความเป็นมาและความสาคัญของสวนสมุนไพร
2. วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเลือกหัวข้อในการทาโครงงานและนาเสนออาจารย์ที่ปรึกษา
3. ปรึกษาและรับคาแนะนาในการเขียนโครงงานจากอาจารย์ที่ปรึกษา
4. นาเสนอเค้าโครงเรื่อง สมาชิกในกลุ่มรวบรวมข้อมูลในการทาโครงงาน
5. ศึกษารูปแบบการทาโครงงาน พร้อมการดาเนินการตามขั้นตอนของการทาโครงงา
6. ดาเนินงานการจัดพิมพ์ตามรูปแบบของโครงงานเพื่อจัดทาเป็นรูปแบบโครงงาน
7. การนาเสนอร่างรูปเล่มโครงงาน
8. จัดทาเล่มโครงงานฉบับสมบูรณ์
3.2. วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ศึกษาของมูลเกี่ยวกับสมุนไพร
2. ศึกษาเรื่องการสร้างเว็บบล็อกเกอร์
3. ศึกษาเรื่องการทางานของโปรแกรมต่างๆ
o Microsoft Word 2013
o Adobe Premiere Pro CS6
3.3. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน
1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
2. ซอฟแวร์
o Microsoft Word 2013
o Adobe Premiere Pro CS6
บทที่ 4
ผลการดาเนินงาน
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์พัฒนาเพื่อศึกษา สร้างเว็บไซต์ สถานที่สวนสมุนไพรจังหวัด
ระยอง เนื้อหา ประวัติ ความเป็นมาและความสาคัญของสมุนไพร ซึ่งมีผลการดาเนินงาน ดังนี้
4.1 ผลงานการพัฒนาโครงงาน
การพัฒนาโครงงานสร้างเว็บไซต์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของสวนสมุนไพร คณะ
ผู้จัดทาได้ดาเนินงานได้วางแผนไว้ และได้นาเสนอผลงานทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึง
ได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ เป็นแหล่งเรียนรู้โลกออนไลน์และรวดเร็วการรับข้อมูล
4.2 ตัวอย่างผลงาน
http://travelmmwjf.blogspot.com/2015_09_01_archive.html
บทที่ 5
สรุปผลการดาเนินงาน / ข้อเสนอแนะ
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์ สวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง สามารถสรุปผลการ
ดาเนินงาน โครงงานและข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน
5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจเกี่ยวกับ สวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง
5.1.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน
1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2. ซอฟแวร์
o Microsoft Word 2013
o Adobe Premiere Pro CS6
5.2 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน
การดาเนินโครงงานนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กาหนดไว้ คือ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจ
เกี่ยวกับสวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง เว็บไซต์ สวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง เป็นเว็บไซต์ที่จัดทาเพื่อ
เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสวนสมุนไพร จังหวัด ระยองนาเสนอระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทาให้ผู้ที่สนใจ
สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วได้รับความรู้ ความเข้าใจ เล็งเห็นความสาคัญของสวนสมุนไพร จังหวัด
ระยอง จึงทาเป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ และเป็นการนาเทคโนโลยีและซอฟแวร์มาพัฒนาประยุกต์ได้อย่างมี
คุณค่าและเกิดประโยชน์
บรรณานุกรม
http://www.touronthai.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0
%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8
%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E
%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0
%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8
%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%AF_%E0%B8%AA%E0%B8%A
2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0
%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8
%A3%E0%B8%B5-43000012.html
http://www.thaiticketmajor.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7
%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0
%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8
%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E
%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0
%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%
9E%E0%B8%AF-
%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0
%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8
%B8%E0%B8%82%E0%B9%83%E0%B8%88-
%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0
%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8
%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%
E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%
B8%9E-2016.html

More Related Content

PDF
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.3
DOC
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
DOC
แบบเสนอร่างโครงงาน
PDF
2562 final project 26,31
PDF
เผ็ดจังหม่าล่า
PDF
2562 final-project-2731 (1)
PDF
2562 final-project-2731 (1)
PDF
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.3
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงาน
2562 final project 26,31
เผ็ดจังหม่าล่า
2562 final-project-2731 (1)
2562 final-project-2731 (1)
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์

What's hot (20)

DOCX
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
PDF
โครงงานคอม เรื่องเยลลี่เพื่อสุขภาพ
DOCX
2562 final project 26,31
PDF
ใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
DOCX
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
DOC
คอม
DOC
คอม
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
โครงงานหม่าล่า
PDF
วิเคราะห์เว็บไซต์
PDF
Bathbomb
PDF
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
กิจกรรมที่ 1
DOCX
โครงงานกอท
PDF
โครงงานภูมิปัญญาพื้นบ้าน
PDF
โครงงานงานคอมพิวเตอร์
PDF
คอม1
โครงงานคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร1
โครงงานคอม เรื่องเยลลี่เพื่อสุขภาพ
2562 final project 26,31
ใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
คอม
คอม
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานหม่าล่า
วิเคราะห์เว็บไซต์
Bathbomb
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 1
โครงงานกอท
โครงงานภูมิปัญญาพื้นบ้าน
โครงงานงานคอมพิวเตอร์
คอม1
Ad

Similar to Travel check in (20)

PDF
โครงงานกอท
DOCX
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง แคคตัส ม.5/1
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง แคคตัส ม.5/1
DOCX
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
DOCX
กล้วยฉาบ (Banana Crips)
DOCX
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
DOCX
โครงงานถั่วกวนอบควันเทียน
PDF
หนังสือเล่มเล็ก
PDF
Project m607
PDF
สมบูรณ์ -
DOCX
โครงงาน
DOCX
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเปลือกไข่สารพัดประโยชน์
DOCX
โครงงาน
PDF
รายชื่อ
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
PDF
ผักออร์แกนิกOrganic food
PDF
รายงายโมบายหอย
DOCX
เค้าโครงโครงงานคอม
DOCX
computer
โครงงานกอท
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง แคคตัส ม.5/1
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง แคคตัส ม.5/1
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
กล้วยฉาบ (Banana Crips)
โครงงานเรื่อง กล้วยฉาบ
โครงงานถั่วกวนอบควันเทียน
หนังสือเล่มเล็ก
Project m607
สมบูรณ์ -
โครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องเปลือกไข่สารพัดประโยชน์
โครงงาน
รายชื่อ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
ผักออร์แกนิกOrganic food
รายงายโมบายหอย
เค้าโครงโครงงานคอม
computer
Ad

Travel check in

  • 1. โครงงานคอมพิวเตอร์ Travel Check In นาย พัฒนชัย แสงอรุณ ม.6/4 เลขที่ 17 นาย ณัฐวุฒิ สายรักษา ม.6/4 เลขที่ 20 นส. ณัชชา เงินโต ม.6/4 เลขที่ 30 นาย ภคพล โสมะเกษตริน ม.6/4 เลขที่ 31 นส. ณัฐสินี กรีติชัยพงศ์ ม.6/4 เลขที่ 32 นส. เนตรทยา สุภาพงษ์ ม6/4 เลขที่ 35 นส. เจณนิกา ประมงอุอมรัตน์ ม.6/4 เลขที่ 37 นส. สุชนิตา ชื่นชม ม.6/4 เลขที่ 42 นส. ทิพพากร เอื้อยรรยง ม.6/4 เลขที่ 46 เสนอ มิส เขมจิรา ปลงไสว โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
  • 2. โครงงานคอมพิวเตอร์ Travel Check In นาย พัฒนชัย แสงอรุณ ม.6/4 เลขที่ 17 นาย ณัฐวุฒิ สายรักษา ม.6/4 เลขที่ 20 นส. ณัชชา เงินโต ม.6/4 เลขที่ 30 นาย ภคพล โสมะเกษตริน ม.6/4 เลขที่ 31 นส. ณัฐสินี กรีติชัยพงศ์ ม.6/4 เลขที่ 32 นส. เนตรทยา สุภาพงษ์ ม6/4 เลขที่ 35 นส. เจณนิกา ประมงอุอมรัตน์ ม.6/4 เลขที่ 37 นส. สุชนิตา ชื่นชม ม.6/4 เลขที่ 42 นส. ทิพพากร เอื้อยรรยง ม.6/4 เลขที่ 46 เสนอ มิส เขมจิรา ปลงไสว โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
  • 3. โครงงาน เรื่อง Travel Check In ประเภทของโครงงาน โครงงานพัฒนาเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นาย พัฒนชัย แสงอรุณ ม.6/4 เลขที่ 17 2. นาย ณัฐวุฒิ สายรักษา ม.6/4 เลขที่ 20 3. นส. ณัชชา เงินโต ม.6/4 เลขที่ 30 4. นาย ภคพล โสมะเกษตริน ม.6/4 เลขที่ 31 5. นส. ณัฐสินี กรีติชัยพงศ์ ม.6/4 เลขที่ 32 6. นส. เนตรทยา สุภาพงษ์ ม6/4 เลขที่ 35 7. นส. เจณนิกา ประมงอุอมรัตน์ ม.6/4 เลขที่ 37 8.นส. สุชนิตา ชื่นชม ม.6/4 เลขที่ 42 9. นส. ทิพพากร เอื้อยรรยง ม.6/4 เลขที่ 46 ปีการศึกษา 2558
  • 4. บทคัดย่อ การทาโครงงานในครั้งนี้นั้นมีวัตถุประสงค์หลายประการ ทั้งเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมา ทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ โดยผ่านการสร้างสื่อในการนาเสนอ ในรูปแบบของสารคดีท่องเที่ยว และในบล็อกเกอร์ ซึ่งจะทาให้สะดวกสบายต่อบุคคลที่ต้องการทราบ เกี่ยวกับข้อมูลในการท่องเที่ยวตามสถานที่นี้ ซึ่งในบล็อกเกอร์คณะผู้จัดทาได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ พร้อมแผนที่ในการเดินทางให้สะดวกมากขึ้น พร้อมกับวิดีโอสารคดีที่ทางคณะผู้จัดทาได้ไปถ่ายทารวมไว้ ด้วย คณะผู้จัดทาได้ดาเนินงานตามขึ้นตอนที่วางไว้ และนาเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านทางบล๊อกเกอร์ และนาเสนอในรูปแบบวิดีโอและเผยแพร่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นสื่อนาเสนอที่มี ประโยชน์ ต่อผู้อื่นได้อีกด้วย
  • 5. กิติกรรมประกาศ โครงงานฉบับนี้สาเร็จได้ เนื่องจากความกรุณาของคณะอาจารย์และคณะผู้บริหารแผนก คอมพิวเตอร์ โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ซึ่งได้ให้คาปรึกษา และชี้แนะข้อผิดพลาดต่างๆ จนทาให้โครงงาน สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทาขอกราบขอบคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ ขอกราบขอบคุณ ท่านอาจารย์ที่ให้คาปรึกษา ที่ให้ความกรุณาในการให้คาแนะนาและชี้แจงแก้ไข ข้อบกพร่องต่างๆ ของโครงงาน ทั้งหึความรู้ ให้คาแนะนา และให้กาลังใจ ท้ายนี้คณะผู้จัดทาหวังอย่างยิ่ง ว่า โครงงานชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ทางดารการศึกษาและเป็นที่น่าสนใจสาหรับผู้ที่สนใจ คณะผู้จัดทา
  • 6. สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ข กิตติกรรมประกาศ ค สารบัญ ง สารบัญภาพ จ บทที่ 1. บทนา o ที่มาและความสาคัญของโครงงาน o วัตถุประสงค์ o ขอบเขตของโครงงาน o ผลที่คาดหวังจะได้รับ 2. เอกสารที่เกี่ยวข้อง o ความเป็นมาของสวนสมุนไพร o ความหมายของพืชสมุนไพร o วิธีการสร้างบล็อกเกอร์ 3. อุปกรณ์และวิธีการดาเนินงาน o ขั้นตอนการดาเนินงาน o วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล o วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน 4. ผลการดาเนินงาน 5. สรุปผลและการดาเนินงาน o ขั้นตอนการดาเนินงาน o วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล o วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน 6. ภาคผนวก บรรณานุกรม
  • 7. บทที่ 1 บทนา ที่มาและความสาคัญของโครงงาน รายงานเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเล่มนี้ ผู้จัดทาได้ค้นคว้าและเรียบเรียงขึ้นจาก ประสบการณ์ที่ได้พบมาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เป็นรายงานที่เหมาะสาหรับประกอบการเรียนเป็นอย่าง ยิ่งซึ่งผู้จัดทาได้นาเนื้อหาที่มีสาระสาคัญรวบรวมและใส่ทุกรายละเอียดอยู่ในรายงานเล่มนี้ โดยเนื้อหาประกอบไปด้วย รูปภาพสถานที่ และเป็นการแนะนาที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่ศึกษาสนใจค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามโดยเฉพาะ ได้มีโอกาสศึกษารายละเอียดได้มาก ที่สุด และสามารถเลือกสถานที่ก่อนออกเดินทางได้ รายงานเล่มนี้ ผู้จัดทาได้พยายามเขียนและจัดทาให้ดีที่สุด หากมีข้อบกพร่องประการใด หรือท่าน ผู้อ่านมีข้อคิดเห็นหรือแนะนาประการใดเกี่ยวกับรายงานเล่มนี้ กรุณาแจ้งให้ผู้เขียนทราบเพื่อจะได้นาไป แก้ไขและปรับปรุงให้สมบูรณ์ในโอกาสต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อโฆษณาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง 2. เพื่อศึกษาการใช้โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS6 การตัดต่อวิดีโอ ขอบเขตของโครงงาน สร้างเว็บไซต์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสวนสมุนไพร โดยจัดทาในบล็อกเกอร์ในการสร้างเว็บไซต์ และใช้โปรแกรม Microsoft Word 2013 , Adobe Premiere Pro CS6 ในการตกแต่งและจัดเรียง เว็บไซต์ให้สวยงามน่าสนใจ ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้สนใจมีความเข้าใจและให้ความสาคัญเกี่ยวกับสวนสมุนไพร 2. ได้รับความรู้เกี่ยวกับการสร้างบล็อกเกอร์ 3. ได้นาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์
  • 8. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เว็บไซต์ สวนสมุนไพร คณะผู้จัดทา ได้ศึกษาข้อมูล เอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 2.1. ความเป็นมาของสวนสมุนไพร 2.2. ความหมายของพืชสมุนไพร 2.3. วิธีการสร้างบล็อกเกอร์ 2.1. ความเป็นมาของสวนสมุนไพร ความเป็นมา สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เหมาะสาหรับคนที่มี ความสนใจเรื่องพรรณไม้ และพืชสมุนไพรไทย เพราะเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้สมุนไพร หลากหลายชนิด ให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม ศึกษาหาความรู้ด้านพฤกษศาสตร์สมุนไพร และเป็นสวนที่ตกแต่งไว้สวยงาม เหมาะสาหรับการพักผ่อน สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อยู่ในบริเวณศูนย์ บารุงรักษาและบ้านพักพนักงาน บนถนนทางหลวงหมายเลข 3191 ตาบลมาบข่า กิ่งอาเภอ นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง สวนนี้สร้างขึ้นโดยบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) โดยสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงประกอบพิธีเปิดป้ายสวนสมุนไพร เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2528 และทรงปลูกต้นจันทน์เทศไว้ ณ สวนสมุนไพรแห่งนี้ด้วย สวนสมุนไพรฯ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ โดยปลูกพืชสมุนไพรที่เคยใช้กับการแพทย์แผน โบราณไว้มากกว่า 260 ชนิด มีประมาณ 20,000 ต้น มีการจัดแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆ ตามสรรพคุณ การรักษาโรคในตารายาไทยโบราณ ซึ่งมีด้วยกันถึง 20 กลุ่ม เช่นกลุ่มพืชหอม กลุ่มพืชถอนพิษ สมุนไพรที่เป็นยาระบาย ถ่ายพยาธิ แก้ท้องเดิน รวมถึงสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น พืชที่ทางสวนสมุนไพรฯ ปลูกไว้ ถือเป็นแหล่งความรู้ด้านสมุนไพร มรดกภูมิปัญญา ไทย ที่นับวันจะสูญหายไป การเที่ยวชมภายในสวนสมุนไพรฯ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือเพื่อเป็นการอนุรักษ์และพัฒนา ทรัพยากรของชาติ ให้เกิดประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง ปตท. จึงได้จัดทาสวนสมุนไพร ขึ้นเป็น แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2527-2528 ณ บริเวณศูนย์บารุงรักษาและบ้านพัก พนักงาน บนเนื้อที่ 60 ไร่ โดยรวบรวมสมุนไพรพันธุ์ต่างๆ มาปลูกไว้เป็นจานวนมาก ทั้งนี้ ปตท. ได้น้อมเกล้าฯ ถวายสวนสมุนไพรแห่งนี้แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2528 ต่อมา ปตท. ได้พัฒนาสถานที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ
  • 9. และปลูกต้นไม้เพิ่มเติม เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ 1. สวนสมุนไพร แหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 260 ชนิด ประมาณ 20,0000 ต้น แบ่งเป็น 20 กลุ่ม ตามสรรพคุณในการรักษาโรค เปิดกว้างเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสวนสาหรับพักผ่อนเพื่อ ประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป ทั้งยังช่วยรักษามรดกภูมิปัญญาไทย...สมุนไพรไทย ให้คงอยู่ ตราบ นานเท่านาน 2.อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา จัดแสดงนิทรรศการผ่านสื่อหลายรูปแบบ ที่ให้ความรู้ ดูสนุก ชวนติดตาม กระตุ้นให้ เกิดความสนใจ ค้นหาความรู้ต่อไป ซึ่งจัดแสดงเป็นส่วนๆ เช่น ห้องการเดินทางของลูกยาง ห้องเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ ห้องพลังงานที่ยั่งยืนของไทย บ้านหมอยา กินตามธาตุ โลกของพืชสมุนไพร ภูมิปัญญาของคนในสมัยก่อนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างเกื้อกูล รู้จักใช้ ประโยชน์จากสิ่งรอบตัวที่มีอยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายและชัดเจนคงหนีไม่พ้น พืชผักสมุนไพร ที่ เรานามาใช้ประกอบอาหาร รวมถึงใช้เป็น ยารักษาโรค ก็ล้วนแต่ให้สรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ทว่าทุกวันนี้เมื่อยาแผนปัจจุบันเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนเรามากขึ้น พืชสมุนไพร ที่ เคย
  • 10. ใช้กันมาแต่เก่าก่อนก็เริ่มถูกลืมไปทีละน้อยๆ จนคนรุ่นใหม่อาจไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาของยา วิเศษในสมัยปู่กับย่ากันเสีย แล้ว ทว่าก็ไม่ได้หมดหวังไปซะทีเดียว เพราะที่ สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพฯ จังหวัดระยอง แห่งนี้ถือเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ พืช สมุนไพร ให้กับผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมและหาความรู้กันได้แบบจุใจเลยทีเดียว โดย สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อยู่ภายใต้การ ดูแลของ บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) ที่ได้จัดสร้างและน้อมเกล้าฯ ถวายในวโรกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา สวนสมุนไพรแห่งนี้แบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ นิทรรศการภายใน อาคารเฉลิม พระเกียรติ 50 พรรษา และ สวนสมุนไพร ซึ่ง ถือเป็นแหล่งรวบรวมพืชพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 260 ชนิด จัดกลุ่มและจาแนกตามสรรพคุณในการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ 20 กลุ่ม อาการ ซึ่งมีรถรางใช้ ก๊าซ NGV คอยบริการนาชมบรรยากาศโดยรอบสวน พร้อมกับวิทยากร ที่จะคอยอธิบายถึงส่วนต่างๆ ภายในสวน ซึ่งแบ่งสัดส่วนไว้อย่างน่าสนใจ ด้วยการจาแนก คุณลักษณะและสรรพคุณทางยาของ พืชสมุนไพร ที่ใช้ในการรักษา เป็นต้นว่า พืชสมุนไพรแก้ โรคผิวหนัง กลุ่มยาบารุงหัวใจ กลุ่มยาบารุงเลือด กลุ่มยาแก้ไข้ กลุ่มยาถอนพิษ กลุ่มยาบารุง กาลัง และอื่นๆ เราจึงได้เห็นหน้าตาของ พืชสมุนไพร แต่ละชนิดอย่างชัดเจน พร้อมกันนั้น ภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ไม่เพียงแต่มากด้วยความรู้เพียงอย่าง เดียว ที่นี่นี้ยังมากด้วยความ ร่มรื่นและความผ่อนคลายเป็นอย่างดี เพราะมีต้นไม้เป็นจานวนมาก ผู้คนในละแวกนี้ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ต่างชื่นชอบมาทากิจกรรม ทั้งการวิ่งออกกาลังกาย รวมถึงการปั่นจักรยานกันอย่าง คึกคัก และที่สาคัญภายใน สวนสมุนไพร ยังมี ต้นจันทน์เทศน์ ไม้มงคลที่ พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรง ปลูกขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์สัญลักษณ์ ในวโรกาสเมื่อครั้งเสด็จพระราชดาเนินมาในพิธีเปิด สวน สมุนไพร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2528
  • 11. เมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมบริเวณสวนด้านนอกแล้ว ก็มาต่อกันที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา โดย ภายในอาคารประกอบด้วยนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงผ่านสื่อสมัยใหม่ หลากหลายรูปแบบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตามส่วนต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน เริ่มตั้งแต่ ห้องการเดินทางของลูกยาง ที่นาเสนอเรื่องราวของต้นไม้แต่ละต้นว่า กว่าพวกมันจะเติบใหญ่ คอยให้ร่มเงาได้นั้นต้องผ่านอะไรมากันบ้าง ซึ่งสามารถเล่าเรื่องราวได้น่าสนใจด้วยรูปแบบ ของ การ์ตูนแอนิเมชั่น ผ่านภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงพูดและดนตรีประกอบสลับกันไป จุดนี้ น่าจะถูกอกถูกใจเด็กๆ เป็นอย่างดี ส่วนผู้ใหญ่ก็หน้าชื่นตาบานไปกับความสุขของเจ้าตัวน้อย เช่นเดียวกัน ขณะที่ห้องจัดแสดงถัดไปเราจะได้พบกับห้อง “เจ้าฟ้านักอนุรักษ์ ” นิทรรศการ ซึ่งรวบรวมพระฉายาลักษณ์ในพระจริยะวัตรของ สมเด็จพระเทพฯ อันเกี่ยวเนื่องกับการ อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้ชื่นชมพระบารมีอีกเช่นกัน และห้องจัดแสดงต่อไป ที่จะ ได้ชมก็คือมหัศจรรย์แห่งภูมิปัญญา การรักษาแบบพื้นบ้านด้วยสมุนไพร หรือบ้านหมอยา จุด นี้เป็นการจาลองบรรยากาศบ้านเรือนสมัยก่อนให้เราได้เห็นว่า เวลาที่หมอพื้นบ้านปรุงยา สมุนไพรนั้น เขามีกรรมวิธีอย่างไรโดยข้อมูลต่างๆ จะบรรยายผ่านทางเสียงตามสายควบคู่กัน ไป พร้อมกันนั้นส่วนจัดแสดงต่อจากนี้ก็มีความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือ นิทรรศการ ตรวจธาตุเจ้าเรือนของตัวเอง ที่รวบรวมข้อมูลว่าอาหารเมนูใด หรือ สมุนไพร ชนิดไหนที่ เหมาะกับธาตุในร่างกายแต่ละคน เมื่อได้รู้เรื่องราวจากจุดนี้ไป เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนคงทราบ ถึงสิ่งที่วาควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน ของตัวเองและคนในครอบครัวอย่างไรถึง จะเหมาะสม
  • 12. ขณะเดียวกัน นอกจากนิทรรศการที่มีให้ชมแล้ว เราก็ยังสนุกกับการเล่นเกม เมือง สมุนไพร ในห้อง E-Learning ได้ ด้วย ในจุดนี้เป็นการนาความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรมา นาเสนอในรูปแบบของเกมได้ อย่างสนใจได้ไม่น้อย ซึ่งก็หมายรวมไปถึงนิทรรศการสุดท้ายคือ นิทรรศการเรียนรู้ประโยชน์สมุนไพร ในส่วนนี้คุณจะสะดุดตากับตู้ลิ้นชักไม้แบบจีนขนาดใหญ่ ลิ้นชักแต่ละช่องจะเก็บ พืชสมุนไพร พร้อมกับบอกข้อมูลและสรรพคุณเอาไว้ เวลาที่เปิด ออกมาก็จะได้ยินเสียงบรรยายข้อมูลของพืชชนิดนั้นๆ ได้อย่างง่ายต่อการเข้าใจ และจาก นิทรรศการทั้งหมดที่เห็นมา ถือว่านาเสนอได้อย่างน่าสนใจเข้ากับยุคสมัย ด้วยการใช้สื่อใน รูปแบบใหม่ๆ จึงช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น และผู้ชมก็สามารถมีส่วนรวมกับกิจกรรม ตามจุดต่างๆ อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย และยังไม่หมดเพียงเท่านั้น คุณยังสามารถซื้อหา ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ที่มีจาหน่ายยังร้านขายของที่ระลึกได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเอาไปใช้เองที่ บ้าน หรือนาไปฝากญาติสนิทมิตรสหายก็ชื่นใจได้ทั้งสองฝ่าย เมื่อฟังเรื่องราวมาถึงตอนนี้ ใครอยากจะรู้จักกับ พืชสมุนไพร ให้มากกว่าเดิม ก็ลองหา โอกาสมาเยี่ยมชมพร้อมเก็บเกี่ยวความรู้จาก สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ กันดูนะครับ เพราะเมื่อคุณได้รู้จักกับ พืชสมุนไพร มากขึ้นแล้ว คุณจะรู้เลยว่า ทาไมพืชจาพวกนี้ถึงถูก ขนานนามว่าเป็นของวิเศษมาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงทุกวันนี้
  • 13. สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ.เมืองระยอง จ.ระยอง บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) สร้างสวนสมุนไพรแห่งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด มิติการเรียนรู้ด้านสมุนไพรอย่าง สนุกสนานเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 20,000 ต้น (260 ชนิดโดยจัดกลุ่มจาแนกตาม สรรพคุณการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ; 20 กลุ่มอาการ) เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม พักผ่อน
  • 14. หย่อนใจ และศึกษาหาความรู้ด้านพฤษภศาสตร์และสมุนไพร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่- อาคาร เฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษาซึ่งประกอบด้วยห้องประชุมสัมมนา ห้องนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร ไทย ทั้งที่ควรอนุรักษ์และที่ใกล้ตัวในวิถีชีวิตประจาวันโดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนาชมตลอดเส้นทาง โดยไม่เสียค่าใช้ใดๆทั้งสิ้น ในส่วนสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะมี การชมโดยรถ NGV (รถที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ) โดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนาชมตลอดเส้นทาง เช่นเดียวกัน โดยรถ NGV จะออกทุก 30 นาที (ตามตารางรอบกาหนด) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ทางส่วนสมุนไพรฯ ยังได้จัดให้มีร้านค้าส่วนบริการ ได้แก่ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ ระลึก และร้านนวดเพื่อสุขภาพ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ บริเวณศูนย์บารุงรักษาและบ้านพัก ปตท. บนถนนทางหลวงหมายเลข 3191 ต.มาบข่า กิ่งอ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เปิดทาการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์) การเดินทาง เดินทางได้หลายเส้นทางดังนี้ การเดินทางไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส) จากกรุงเทพฯ โดยมีจุดเริ่มต้นตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร อ.บางนา ผ่าน อ.บางพลี จนมาถึง กม.ที่ 140 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส) จากนั้น เดินทางไป จ.ระยอง มาถึงแยกมาบข่าเลี้ยวขวาประมาณ 800 เมตร สวนสมุนไพรจะอยู่ขวามือ สายมอเตอร์เวย์เริ่มต้นที่ถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพฯ จะสิ้นสุดที่ จ.ชลบุรี ระยะทาง 75 กม. จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส) อีก 100 เมตร จะถึงแยกมาบข่าเลี้ยวขวาประมาณ 800 เมตร สวนสมุนไพรจะอยู่ขวามือ เดินทางมาจากจันทบุรีหรือในตัวเมืองระยองใช้ถนนสาย 36 (บายพาส) วิ่งตรงมาประมาณ 15 กม. ถึงแยกมาบข่าเลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 800 เมตร สวนสมุนไพรจะอยู่ขวามือ การติดต่อจองเข้าใช้สถานที่เพื่อเยี่ยมชม กรณีเดินทางมาเป็นหมู่คณะควรทาเป็นหนังสือแจ้ง ล่วงหน้า ถึงผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่โรงแยกก๊าซธรรมชาติ จ.ระยอง เลขที่ 555 ถนนสุขุมวิท ต.มาบ ตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โทร.0 3868 5000 ต่อ 6720 หรือติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการสวน สมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ โทร.0 3891 5213-5 โทรสาร. 0 3891 5216 กรณีเดินทางมาส่วนตัวหรือเป็นครอบครัว สามารถเข้ามาติดต่อและลงทะเบียนที่จุด ประชาสัมพันธ์ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ได้เลย การติดต่อขอใช้ห้องประชุมทาหนังสือแจ้งล่วงหน้าถึงผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการใหญ่โรงแยกกาซธรรมชาติ เลขที่ 555 ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการประชุมสัมมนาทางวิชาการเช่นด้านพฤษศาสตร์ การแพทย์แผนไทย สมุนไพร ไทย และอื่น ๆ ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์) อัตราค่าบริการใช้ห้อง ประชุมประมาณ 2,500 - 15,000 บาท
  • 15. อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา หลังจากเลี้ยวขวาเข้าทางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไม่นาน ก็เห็นป้ายเขียนว่า สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กลับรถ ก็เตรียมกลับ รถตามป้ายบอก แล้วไปเข้าประตู จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เดินมาส่งบัตรจอดรถให้ แล้วชี้บอก เราว่าให้ไปจอดที่ลานไหน เพราะลานจอดรถในนี้มีหลายลาน ถ้าในวันปกติคนน้อยส่วนใหญ่ก็จะจอดใกล้ๆ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา แต่ในช่วงวันที่ผมไปวาเลนไทน์ มีโดมทิวลิปสวยๆ ให้ชมภายใต้ชื่อ โครงการ THE MIRACLE OF NATURAL GAS งานนี้จึงทาให้นักท่องเที่ยวมากันเยอะเป็นพิเศษ ผมต้องไปจอด ที่ข้างสระว่ายน้า สระบัวหลวง ภายในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ของสวนสมุนไพรแห่งนี้ มีทางเดินที่ร่มรื่น ภายใต้ร่มเงาของ สมุนไพรที่เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ที่พื้นก็จะมีกลุ่มสมุนไพรที่เป็นต้นเล็กๆ หรือไม้พุ่ม จัดวางอย่าง เหมาะสม จากด้านหน้ามองเข้าไปลึกๆ ก็จะเห็นสระน้าพุ ชื่อว่าสระบัวหลวง เป็นจุดที่นิยมที่สุดในสวน สาหรับการถ่ายภาพ
  • 16. ต้นไม้ทรงปลูก นอกเหนือไปจากการศึกษาสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในสวนแห่งนี้ ก็จะมี ต้นไม้สาคัญๆ ได้แก่ต้นไม้ทรงปลูก โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นต้น ศาลาพักผ่อนสวนสมุนไพร ระหว่างทางเดินชมภายในสวนสมุนไพร จะมีศาลาและม้านั่ง จัดวางไว้ ให้สาหรับนั่งพักผ่อน กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ หลายจุด
  • 17. นมแมว ในระหว่างเดินเก็บภาพภายในสวน ผมก็ใช้โอกาสนี้ในการศึกษาสมุนไพรหลายๆ อย่างไป ด้วย แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่า สมุนไพรจานวนมากมายในสวนนี้ผมคงไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ดูได้ทั้งหมด ถ้าสนใจจริงๆ ก็คงต้องไปศึกษากันถึงที่ ส่วนต้นนมแมวที่เอามาให้ชมกันนี้ ก็เพราะเห็นว่าชื่อนี้เราเคยได้ ยินกันมาบ้าง แต่ไม่ค่อยได้เห็นต้นนมแมวจริงๆ ซักที ดอกของนมแมวมีน้ามันหอมระเหย ส่วนราก กับเนื้อ ไม้ ใช้รักษาไข้หวัด สระลีลาวดี เป็นอีกสระหนึ่งที่อยู่ตรงด้านข้างของสวนสมุนไพร มีสะพานข้ามเข้ามาในสวน มุ่งตรง ไปยังสระบัวหลวงได้
  • 18. บรรยากาศทางเดินชมสวนสมุนไพร มาถึงตรงนี้เห็นแสงเงากาลังสวยก็เลยเก็บภาพให้ชม เป็น ทางเดินใต้ต้นมะขาม และมะขามก็เป็นสมุนไพรไทยอย่างหนึ่ง มีตัวยาหลายอย่าง แต่ที่รู้จักกันดีคือใช้เป็น ยาช่วยระบาย ทิวลิประยอง นี่ก็เป็นภาพบางส่วนที่ถ่ายมาจากโดมทิวลิป ส่วนหนึ่งของสวนสมุนไพรสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลายคนเห็นภาพนี้โผล่มาตอนท้ายคิดว่าผมเอารูปมาลงผิด หรือเปล่า ยืนยันว่าไม่ผิดหรอกครับ ที่นี่มีทิวลิปให้ชมกันจริงๆ แต่ต้องเป็นระหว่างงาน The Miracle of Natural Gas ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปี บางปีมี 2 ครั้งด้วยครับ อย่างในปีนี้จัดขึ้นตรงกับวันแห่งความรัก คือวา เลนไทน์ ทิวลิปที่ปลูกที่นี่กาหนดวันให้บานได้ด้วย 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาคนไปเที่ยวกันเยอะมาก งานนี้ จะจัดขึ้นครั้งละประมาณ 1 สัปดาห์ ครับ ต้องติดตามข่าวให้ดีว่าคราวหน้าจะจัดขึ้นในวันที่เท่าไหร่ ชม ภาพโดมทิวลิประยองอีกมากมายหลายภาพคลิกที่นี่เลย
  • 19. 2.2. ความหมายของสมุนไพร ความหมายของพืชสมุนไพร คาว่า สมุนไพร ตาม พระราชบัญญัติยา หมายถึง "ยาที่ได้จากพืช สัตว์ หรือแร่ ซึ่งยัง ไม่ได้ผสม ปรุง หรือเปลี่ยนสภาพ" เช่น พืชก็ยังเป็นส่วนของ ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซึ่ง ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการแปรรูปใด ๆ แต่ในทางการค้าสมุนไพรมักจะถูกดัดแปลงในรูปต่าง ๆ เข่น ถูกหั่นให้เป็นชิ้นเล็กลง บดเป็นผงละเอียด หรืออัดเป็นแท่ง อย่างไรก็ตามในความรู้สึก ของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อกล่าวถึงสมุนไพร มักจะนึกถึงเฉพาะต้นไม้ที่นามาใช้เป็นยาเท่านั้น ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่าสัตว์ หรือแร่ มีการนามาใช้น้อย และใช้ในโรคบางชนิดเท่านั้น พืชสมุนไพร หมายถึงพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่สามารถนามาใช้ปรุงหรือประกอบเป็นยารักษา โรคต่าง ๆ ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพร่างกายได้ ความสาคัญของพืชสมุนไพร 1. ความสาคัญในด้านสาธารณสุข พืชสมุนไพร เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ที่มนุษย์รู้จักนามาใช้เป็นประโยชน์ เพื่อการ รักษาโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่โบราณกาลแล้ว เช่นในเอเชียก็มีหลักฐานแสดงว่ามนุษย์รู้จักใช้พืช สมุนไพรมากว่า 6,000 ปี แต่หลังจากที่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ มีการพัฒนาเจริญก้าวหน้า มากขึ้น มีการสังเคราะห์ และผลิตยาจากสารเคมี ในรูปที่ใช้ประโยชน์ได้ง่าย สะดวกสบายใน การใช้มากกว่าสมุนไพร ทาให้ความนิยมใช้ยาสมุนไพรลดลงมาเป็นอันมาก เป็นเหตุให้ความรู้ วิทยาการด้านสมุนไพรขาดการพัฒนา ไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร ในปัจจุบันทั่วโลกได้ยอมรับ แล้วว่าผลที่ได้จากการสกัดสมุนไพร ให้คุณประโยชน์ดีกว่ายา ที่ได้จากการสังเคราะห์ทาง วิทยาศาสตร์ประกอบกับในประเทศไทยเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ มีพืช ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นสมุนไพรได้อย่างมากมายนับหมื่นชนิด ยังขาดก็แต่เพียงการค้นคว้าวิจัยในทาง ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น ความตื่นตัวที่จะพัฒนาความรู้ด้านพืชสมุนไพร จึงเริ่มขึ้นอีก ครั้งหนึ่ง มีการเริ่มต้นนโยบายสาธารณสุขขั้นมูลฐานอย่างเป็นทางการของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มโครงการสาธารณสุขขั้นมูลฐานเข้าในแผนพัฒนาการสาธารณสุข ตาม แผนพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520-2524) ต่อเนื่องจนถึง แผนพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539) โดยมี กลวิธีการ พัฒนาสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยในงานสาธารณสุขมูลฐาน คือ (1) สนับสนุนและพัฒนาวิชาการและเทคโนโลยีพื้นบ้านอันได้แก่ การแพทย์แผนไทย เภสัช กรรมแผนไทย การนวดไทย สมุนไพร และเทคโนโลยีพื้นบ้าน เพื่อใช้ประโยชน์ในการ แก้ไขปัญหา สุขภาพของชุมชน (2) สนับสนุนและส่งเสริมการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง โดยใช้ สมุนไพร การแพทย์พื้นบ้าน การนวดไทย ในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
  • 20. เป็นระบบสามารถปรับประสานการดูแลสุขภาพแผนปัจจุบันได้ อาจกล่าวได้ว่าสมุนไพรสาหรับ สาธารณสุขมูลฐานคือสมุนไพรที่ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ และการรักษาโรค/อาการเจ็บป่วย เบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้มากขึ้น 2. ความสาคัญในด้านเศรษฐกิจ ในปัจจุบันพืชสมุนไพรจัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ต่างประเทศกาลังหาทางลงทุน และคัดเลือกสมุนไพรไทยไปสกัดหาตัวยาเพื่อรักษาโรคบางโรคและมีหลายประเทศที่นา สมุนไพรไทยไปปลูกและทาการค้าขายแข่งกับประเทศไทย สมุนไพรหลายชนิดที่เราส่งออกเป็น รูปของวัตถุดิบคือ กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว เปล้าน้อยและมะขามเปียกเป็นต้น ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ ตลาดต่างประเทศยังคงมีความต้องการอีกมาก และในปัจจุบันกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริม การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสนใจในการศึกษาเพิ่มขึ้นและมี โครงการวิจัยบรรจุไว้ในแผนพัฒนาระบบการผลิต การตลาดและการสร้างงานในแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพื่อหาความเป็นไปได้ในการ พัฒนาคุณภาพและแหล่งปลูกสมุนไพรเพื่อส่งออก โดยกาหนดชนิดของสมุนไพรที่มีศักยภาพ 13 ชนิด คือ มะขามแขก กานพลู เทียนเกล็ดหอย ดองดึง เร่ว กระวาน ชะเอมเทศ ขมิ้น จันทร์เทศ ใบพลู พริกไทย ดีปลี และน้าผึ้ง ประโยชน์ของพืชสมุนไพร 1. สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น 2. ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่า แผนปัจจุบัน 3. สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ ชนบท 4. มีราคาถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซื้อจากต่าง ประเทศเป็นการลดการขาดดุลทางการค้า 5. ใช้เป็นยาบารุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง 6. ใช้เป็นอาหารและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตาลึง 7. ใช้ในการถนอมอาหารเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู 8. ใช้ปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน 9. สามารถปลูกเป็นไม้ประดับอาคารสถานที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ
  • 21. 10.ใช้ปรุงเป็นเครื่องสาอางเพื่อเสริมความงาม เช่น ว่านหางจระเข้ ปรนะคาดีควาย 11.ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในสวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ 12.เป็นพืชที่สามารถส่งออกทารายได้ให้กับประเทศ เช่น กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว 13.เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น รู้จักช่วยตนเองในการ นาพืช สมุนไพรในท้องถิ่นของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ 14.ทาให้คนเห็นคุณค่าและกลับมาดาเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น 15.ทาให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทย ความหมายของสมุนไพร สมุนไพร หมายถึง “พืชที่ใช้ทาเป็นเครื่องยา” ส่วน ยาสมุนไพร หมายถึง “ยาที่ได้จาก ส่วนของพืช สัตว์ และแร่ ซึ่งยังมิได้ผสมปรุง หรือ แปรสภาพ” ส่วนการนามาใช้ อาจดัดแปลง รูปลักษณะของสมุนไพรให้ใช้ได้สะดวกขึ้น เช่น นามาหั่นให้มีขนาดเล็กลง หรือ นามาบดเป็น ผงเป็นต้นมีแต่พืชเพียงอย่างเดียวหามิได้้เพราะยังมีสัตว์และแร่ธาตุอื่นๆอีกสมุนไพร ที่เป็น สัตว์ได้แก่ เขา หนัง กระดูก ดี หรือเป็นสัตว์ทั้งตัวก็มี เช่น ตุ๊กแกไส้เดือน ม้าน้า ฯลฯ "พืช สมุนไพร" นั้นตั้งแต่โบราณก็ทราบกันดีว่ามีคุณค่าทางยามากมายซึ่ง เชื่อกันอีกด้วยว่า ต้นพืช ต่างๆ ก็เป็นพืชที่มีสารที่เป็นตัวยาด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่ว่าพืชชนิดไหนจะมีคุณค่าทางยามาก น้อยกว่ากันเท่านั้น"พืชสมุนไพร" หรือวัตถุธาตุนี้ หรือตัวยาสมุนไพรนี้ แบ่งออกเป็น 5 ประการ 1.รูป ได้แก่ ใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ แก่นไม้ กระพี้ไม้ รากไม้ เมล็ด 2.สี มองแล้วเห็นว่าเป็นสีเขียวใบไม้ สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีม่วง สีน้าตาล สีดา 3.กลิ่น ให้รู้ว่ามรกลิ่น หอม เหม็น หรือกลิ่นอย่างไร 4.รส ให้รู้ว่ามีรสอย่างไร รสจืด รสฝาด รสขม รสเค็ม รสหวาน รสเปรี้ยว รสเย็น 5.ชื่อ ต้องรู้ว่ามีชื่ออะไรในพืชสมุนไพรนั้นๆ ให้รู้ว่า ขิงเป็นอย่างไร ข่า เป็นอย่างไร ใบ ขี้เหล็กเป็นอย่างไร ดอกมะขามเป็นอย่างไร ผลมะเกลือเป็นอย่างไรสมุนไพรนอกจากจะนามาใช้ประโยชน์ เป็นยารักษาโรคแล้ว ยังสามารถนามาใช้ประโยชน์ทางด้านอื่นๆอีก เช่นนามาบริโภคเป็น อาหาร อาหารเสริมสุขภาพ เครื่องดื่ม สีผสมอาหาร และสีย้อม ตลอดจนใช้ทาเครื่องสาอางอีก ด้วย การใช้สมุนไพรเป็นยาบาบัดโรคนั้น อาจใช้ในรูปยาสมุนไพรเดี่ยวๆ หรือใช้ในรูปตารับยา สมุนไพร ปัจจุบันตารับยาสามัญประจาบ้านแผนโบราณที่กระทรวงสาธารณสุขออนุญาติให้ใช้ รักษาโรคได้มีทั้งหมด 28 ขนาน เช่น
  • 22. - ยาจันทน์ลีลา ใช้แก้ไข้ แก้ตัวร้อน - ยามหานิลแท่งทอง ใช้แก้ไข้ แก้หัด อีสุกอีใส - ยาหอมเทพพิจิตร แก้ลม บารุงหัวใจ - ยาเหลืองปิดสมุทร แก้ท้องเสีย - ยาประสะมะแว้ง แก้ไอ ขับเสมหะ - ยาตรีหอม แก้ท้องผูกในเด็กระบายพิษไข้ สาหรับสมุนไพรที่นิยมใช้เดี่ยวๆ รักษาอาการของโรคที่พบบ่อยๆ ได้แก่ - สมุนไพรแก้ไข้ ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด - สมุนไพรแก้ท้องเสีย กล้วยน้าว้า ทับทิม ฝรั่งดิบ - สมุนไพรแก้ไอ มะแว้ง ขิง มะนาว - สมุนไพรแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขมิ้นชัน แห้วหมู กระชาย - สมุนไพรช่วยให้นอนหลับ ขี้เหล็ก ดอกบัวหลวง หัวหอมใหญ่ - สมุนไพรแก้เชื้อรา กระเทียม ข่า ชุมเห็ดเทศ - สมุนไพรแก้เริม เสลดพังพอนตัวเมีย และตัวผู้ ลักษณะของพืชสมุนไพร "พืชสมุนไพร" โดยทั่วไปนั้น แบ่งออกเป็น 5 ส่วนสาคัญด้วยกัน คือ 1. ราก 2. ลาต้น 3. ใบ 4. ดอก 5. ผล "พืชสมุนไพร" เหล่านี้มีลักษณะลาต้น ยอด ใบ ดอก ที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่ ส่วนต่างๆ ก็ทาหน้าที่เช่นเดียวกัน เช่นรากก็ทาหน้าที่ดูดอาหาร มาเลี้ยงลาต้นกิ่งก้านต่างๆและ ใบกับส่วนต่างๆนั่นเองใบก็ทาหน้าที่ปรุงอาหารดูดออกซิเจน คายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดอก ผล เมล็ด ก็ทาหน้าที่สืบพันธุ์กันต่อไป เพื่อทาให้พืชพันธุ์นี้แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆไม่มี ที่สิ้นสุด ส่วนต่างๆของพืชที่ใช้เป็นพืชสมุนไพร 1. ราก รากของพืชมีมากมายหลายชนิดเอามาเป็นยาสมุนไพรได้อย่างดี เช่นกระชาย ขมิ้นชัน ขิง ข่า เร่ว ขมิ้นอ้อย เป็นต้น รูปร่างและลักษณะของราก แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1.1 รากแก้ว ต้นพืชมากมายหลายชนิดมีรากแก้วอยู่นับ ว่าเป็นรากที่สาคัญมากงอก ออกจาลาต้นส่วนปลายรูปร่างยาวใหญ่ เป็นรูปกรวยด้านข้างของรากแก้วจะแตกแยกออกเป็น
  • 23. รากเล็กรากน้อยและ รากฝอยออกมาเป็นจานวนมากเพื่อทาการดูดซึมอาหารในดินไปบารุง เลี้ยงส่วนต่างๆของต้นพืชที่มีรากแก้วได้แก่ ต้นขี้เหล็ก ต้นคูน เป็นต้น 1.2 รากฝอย รากฝอยเป็นส่วนที่งอกมาจากลาต้นของพืชที่ส่วนปลายงอกออกมาเป็น รากฝอยจานวนมากลักษณะรากจะกลมยาวมีขนาดเท่าๆกันต้นพืชที่มีใบเลี้ยงเดี่ยวจะมีราก ฝอย เช่น หญ้าคา ตะไคร้ เป็นต้น 2. ลาต้น นับว่าเป็นโครงสร้างที่สาคัญของต้นพืชทั้งหงายที่มีอยู่สามารถค้ายันเอาไว้ได้ ไม่ให้โค่นล้มลงโดยปกติแล้วลาต้นจะอยู่ บนดินแต่บางส่วนจะอยู่ใต้ดินพอสมควร รูปร่างของ ลาต้นนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ตา ข้อ ปล้อง บริเวณเหล่านี้จะมีกิ่งก้าน ใบดอก เกิดขึ้นอีกด้วยซึ่งจะทาให้พืช มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปชนิดของลาต้นพืช แบ่งตาม ลักษณะภายนอกของลาต้นได้เป็น 1. ประเภทไม้ยืนต้น 2. ประเภทไม้พุ่ม 3. ประเภทหญ้า 4. ประเภทไม้เลื้อย 3. ใบ ใบเป็นส่วนประกอบที่สาคัญของต้นพืชทั่วไป มีหน้าที่ทาการสังเคราะห์แสง ผลิต อาหารและ เป็นส่วนที่แลกเปลี่ยนน้า และอากาศให้ต้นพืชใบเกิดจากการงอกของกิ่งและตา ใบไม้โดยทั่วไปจะมีสีเขียว (สีเขียวเกิดจากสารที่มีชื่อว่า"คอลโรฟิลล์"อยู่ในใบของพืช)ใบของ พืชหลายชนิดใช้เป็นยาสมุนไพรได้ดีมาก รูปร่างและลักษณะของใบนั้น ใบที่สมบูรณ์มีส่วนประกอบรวม 3 ส่วนด้วยกันคือ 1. ตัวใบ 2. ก้านใบ 3. หูใบ ชนิดของใบ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ 1. ชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว หมายถึงก้านใบอันหนึ่ง มีเพียงใบเดียว เช่น กานพลู ขลู่ ยอ กระวาน 2. ชนิดใบประกอบ หมายถึงตั้งแต่ 2 ใบขึ้นไปที่เกิดขึ้นก้านใบอันเดียว มีมะขามแขก แคบ้าน ขี้เหล็ก มะขาม เป็นต้น 4. ดอก ส่วนจองดอกเป็นส่วนที่สาคัญของพืชเพื่อเป็นการแพร่พันธุ์ของพืชเป็นลักษณะ เด่นพิเศษของต้นไม้แต่ละชนิด ส่วนประกอบของดอกมีความแตกต่างกันตามชนิดของพันธุ์ไม้
  • 24. และลักษณะที่แตกต่างกันนี้เป็นข้อมูลสาคัญในการจาแนกประเภทของ ต้นไม้รูปร่างลักษณะ ของดอก ดอกจะต้องมีส่วนประกอบที่สาคัญ 5 ส่วนคือ 1. ก้านดอก 2. กลีบรอง 3. กลีบดอก 4. เกสรตัวผู้ 5. เกสรตัวเมีย 5. ผล ผลคือส่วนหนึ่งของพืชที่เกิดจากการผสมเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียในดอก เดียวกันหรือคนละดอกก็ได้ มีลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทและสายพันธุ์ รูปร่างลักษณะของผลมีหลายอย่าง ตามชนิดของต้นไม้ที่แตกต่างกัน แบ่งตามลักษณะของการ เกิดได้รวม 3 แบบ 1. ผลเดี่ยว หมายถึง ผลที่เกิดจากรังไข่อันเดียวกัน 2. ผลกลุ่ม หมายถึง ผลที่เกิดจากปลายช่อของรังไข่ในดอกเดียวกัน เช่น น้อยหน่า 3. ผลรวม หมายถึง ผลที่เกิดมาจากดอกหลายดอก เช่น สับปะรด มีการแบ่งผลออกเป็น 3 ลักษณะคือ 1. ผลเนื้อ 2. ผลแห้งชนิดแตก 3. ผลแห้งชนิดไม่แตก
  • 25. 2.3. วิธีการสร้างบล็อคเกอร์ เรามาทาความรู้จักกับ Blogspot กันก่อนดีกว่า บล๊อกสปอตนั้นเป็นของ google ที่สามารถให้คน ทั่วไปได้เข้าถึงการ เขียนบล๊อกต่างๆ หรือการเขียนเว็บแบบง่ายๆนั้นเอง การที่จะเข้าใช้งาน blogspot นั้นจะต้องมี Gmail ซึ่งใช้ในการล๊อกอิน สามารถสมัครได้ง่ายๆ เราว่าดูวิธีทาบล็อกสปอร์ตกันเลยดีกว่า 1.ให้เราทาการพิมพ์ในช่อง URL ด้านบนว่า www.blogspot.com หรือการเข้าสู่เว็บ blogspot นั้นเอง ตามภาพด้านบน 2.ก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้เราทาการล๊อกอินเข้าไป โดยใช้ Gmail ของเรา
  • 26. 3.พอทาการล๊อกอินเสร็จก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บล็อกใหม่ 4.พอมาถึงหน้านี้ – ในช่องหัวข้อ ให้เราทาการตั้งชื่อหัวข้อของบล๊อกของเรา(เรื่องที่เราจะเขียนบล๊อก หรือ Title)
  • 27. – ในช่องที่อยู่ ให้เราทาการตั้งชื่อ URL ของเรา อาทิเช่น gunoob.blogspot.com , cnx- it.blogspot.com เป็นต้น (.blogspot.com จะมาการเติมให้โดยอัตโนมัติ ให้พิมพ์แค่ gunoob หรือ cnx-it) – ในช่องแม่แบบ ให้เราทาการเลือก รูปแบบของบล๊อกหรือ Theme นั้นเอง (แนะนาให้ใช้แบบง่าย ธีมสา มารถเปลี่ยนภายหลังได้) 5.จะได้อกมาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกเข้าไปเลย (ของผมได้ทาการสร้างไว้ก่อนแล้ว) 6.จะได้หน้าต่างเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บทความใหม่ เพื่อทาการเขียนบทความหรือ blog
  • 28. 7.พอได้หน้าตาแบบนี้ให้เราทาการเขียนบล๊อก หรือบทความที่เราต้องการได้เลย – ในช่องโพสต์ด้านบนตัวหนังสือสีส้ม ให้เราทาการเขียนหัวข้อหรือหัวเรื่อง บทความที่เราต้องการเขียน – การเขียนบทความ ข้อมูล หรือบล๊อกนั้นสามารถทาการเขียนได้ใช้ กระดาษ ตรงกลางหน้า – ด้านขวามือจะมีป้ายกากับ ให้เราทาการคลิกเพื่อพิมพ์ คา ที่ผู้อื่นสามารถค้นบทความของเราเจอได้ – การใส่ลิ้งให้ทาการคลิกที่ ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ เพื่อทาการใส่ URL ที่เราต้องการลิ้ง – การใส่รูปภาพ สามารถทาได้โดยการคลิกที่ แทกรูปภาพ ด้านขวา ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ แล้วทาการเลือก ไฟล์เพื่ออัพโหลดรูปภาพแล้ว คลิกรูปภาพที่ต้องการเลือก แล้วกดเพิ่มรายการที่เลือก – ถ้าทาการเขียนบทความเสร็จ ให้ทาการคลิกที่ เผยแพร่ เพื่อทาการเผยแพร่บทความที่สามารถให้ผู้อื่นได้ อ่าน หรือเข้าชมได้
  • 29. 8.การเปลี่ยนธีม ตามที่เราต้องการ ให้ทาการคลิกที่ แม่แบบ จะมีให้เราเลือกธีมตามที่เราต้องการ ถ้าจะเอาอันไหนให้ทาการคลิก แล้วกด ใช้กับบล๊อก(ปุ่มสีส้ม)เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ (ธีมเราสามารถออกแบบ เองและทาเองตามที่เราต้องการได้)
  • 30. บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการดาเนินการ ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เว็บไซต์ สวนสมุนไพร คณะผู้จัดทา ได้ศึกษาข้อมูล เอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 3.1. ขั้นตอนการดาเนินงาน 1. ศึกษาความเป็นมาและความสาคัญของสวนสมุนไพร 2. วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเลือกหัวข้อในการทาโครงงานและนาเสนออาจารย์ที่ปรึกษา 3. ปรึกษาและรับคาแนะนาในการเขียนโครงงานจากอาจารย์ที่ปรึกษา 4. นาเสนอเค้าโครงเรื่อง สมาชิกในกลุ่มรวบรวมข้อมูลในการทาโครงงาน 5. ศึกษารูปแบบการทาโครงงาน พร้อมการดาเนินการตามขั้นตอนของการทาโครงงา 6. ดาเนินงานการจัดพิมพ์ตามรูปแบบของโครงงานเพื่อจัดทาเป็นรูปแบบโครงงาน 7. การนาเสนอร่างรูปเล่มโครงงาน 8. จัดทาเล่มโครงงานฉบับสมบูรณ์ 3.2. วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล 1. ศึกษาของมูลเกี่ยวกับสมุนไพร 2. ศึกษาเรื่องการสร้างเว็บบล็อกเกอร์ 3. ศึกษาเรื่องการทางานของโปรแกรมต่างๆ o Microsoft Word 2013 o Adobe Premiere Pro CS6 3.3. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน 1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 2. ซอฟแวร์ o Microsoft Word 2013 o Adobe Premiere Pro CS6
  • 31. บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์พัฒนาเพื่อศึกษา สร้างเว็บไซต์ สถานที่สวนสมุนไพรจังหวัด ระยอง เนื้อหา ประวัติ ความเป็นมาและความสาคัญของสมุนไพร ซึ่งมีผลการดาเนินงาน ดังนี้ 4.1 ผลงานการพัฒนาโครงงาน การพัฒนาโครงงานสร้างเว็บไซต์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของสวนสมุนไพร คณะ ผู้จัดทาได้ดาเนินงานได้วางแผนไว้ และได้นาเสนอผลงานทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึง ได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ เป็นแหล่งเรียนรู้โลกออนไลน์และรวดเร็วการรับข้อมูล 4.2 ตัวอย่างผลงาน http://travelmmwjf.blogspot.com/2015_09_01_archive.html
  • 32. บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน / ข้อเสนอแนะ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์ สวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง สามารถสรุปผลการ ดาเนินงาน โครงงานและข้อเสนอแนะ ดังนี้ 5.1 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1. เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจเกี่ยวกับ สวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง 5.1.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน 1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 2. ซอฟแวร์ o Microsoft Word 2013 o Adobe Premiere Pro CS6 5.2 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน การดาเนินโครงงานนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กาหนดไว้ คือ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจ เกี่ยวกับสวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง เว็บไซต์ สวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง เป็นเว็บไซต์ที่จัดทาเพื่อ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสวนสมุนไพร จังหวัด ระยองนาเสนอระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทาให้ผู้ที่สนใจ สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วได้รับความรู้ ความเข้าใจ เล็งเห็นความสาคัญของสวนสมุนไพร จังหวัด ระยอง จึงทาเป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ และเป็นการนาเทคโนโลยีและซอฟแวร์มาพัฒนาประยุกต์ได้อย่างมี คุณค่าและเกิดประโยชน์
  • 33. บรรณานุกรม http://www.touronthai.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0 %B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8 %AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E %E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0 %B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8 %AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%AF_%E0%B8%AA%E0%B8%A 2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0 %B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8 %A3%E0%B8%B5-43000012.html http://www.thaiticketmajor.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7 %E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0 %B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8 %99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E %E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0 %B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8% 9E%E0%B8%AF- %E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0 %B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8 %B8%E0%B8%82%E0%B9%83%E0%B8%88- %E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0 %B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8 %84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88% E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0% B8%9E-2016.html