SlideShare a Scribd company logo
1
คำ�ตอบ(โต้)
คนคลั่งเจ้า
จาก
คนรักประชาธิปไตย
คำ�ตอบ(โต้)
คนคลั่งเจ้า
จาก
คนรักประชาธิปไตย
(เล่ม 2)
จรรยา ยิ้มประเสริฐ
2 3
ความเป็นมา
นับตั้งแต่เขียนบทความ “ทำ�ไมถึงไม่รักในหลวง” เมื่อปี 2553 และบทความและ
รายงานอีกหลายชิ้นที่เขียนตามมาหลังจากนั้น ผมก็ต้องเผชิญกับการข่มขู่คุกคาม
ทางโลกออนไลน์ รวมทั้งการเสียบประจานจากคนกลุ่มที่อ้างว่ารักในหลวงและ
แสดงออกถึงความรักในหลวงมากกว่าปกติ (ขอใช้คำ�ว่า “คนคลั่งเจ้า” และ ‘สื่อคลั่ง
เจ้า’) อยู่บ่อยครั้ง
ยามที่ต้องเผชิญหน้ากับคำ�ด่าอย่างหยาบคาย และคำ�ขู่ต่างๆ ในช่วงแรกๆ
ผมก็รู้สึกตกใจ เป็นวิตกกังวล และก็หวั่นเกรงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้า
จะต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้
แต่เมื่อต้องพบเจอกับมันบ่อยขึ้น ก็เริ่มเรียนรู้ เข้าใจ และกลายเป็นความ
เห็นใจคนเหล่านี้แทน ...
จากการคิดที่จะตอบโต้พวกเขาประเภท “แรงมาก็แรงไป” ก็เริ่มปรับมาเป็น
ว่า ถ้าคนคลั่งเจ้ามาข่มขู่ด่าทอกันอย่างหยาบคาย ผมก็จะพยายามนำ�มาตอบ (โต้)
รวมกันในหนังสือเป็นเล่มด้วยกันไปเลย จะได้ตอบโต้ได้ครอบคลุม และเพื่อที่ผู้คนใน
สังคม จะได้เรียนรู้และทำ�ความรู้จักคนคลั่งเจ้าไปด้วย
ในการตอบโต้คนที่เข้ามาด่าทอผมในเล่มนี้ ผมก็อยากเชิญชวนทุกท่านไป
ดาวน์โหลดหนังสือ “คำ�ตอบ (โต้) กับคนรักสถาบันฯ จากคนรักประชาธิปไตย”
(http://junyayimprasert.blogspot.fi/2013/03/blog-post_9937.html) มาอ่าน
ประกอบด้วยก็จะดี เพราะหลายประเด็นที่คนคลั่งเจ้ากังขานั้น ได้ถูกตอบไปแล้วใน
หนังสือเล่มแรกไปแล้ว
ในหนังสือ “คำ�ตอบ (โต้) กับคนคลั่งเจ้า” เล่มนี้ ผมคัดเลือกคำ�ต่อว่าด่าทอ
ต่างๆ ที่ส่งมาให้ผมทางกล่องข้อความในเฟซบุ๊คของผมมาตอบ เพื่อยกเป็นกรณี
ตัวอย่างให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ในสภาพการเมืองปัจจุบันที่คนที่ลุกขึ้นมาวิพากษ์
วิจารณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา (ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องวิพากษ์ทุกสถาบันฯ
รวมทั้งสถาบันกษัตริย์) พวกเราต้องรับมือกับความไร้สติของคนคลั่งเจ้ากันมากแค่
ไหน และต้องรับมือกันอย่างไรบ้าง
และเพื่อจะบอกกับคน “รักในหลวง” ที่ “คลั่งอย่างหนัก” ว่า การจะลุกขึ้นมา
วิจารณ์ใครนั้น มันก็ต้องมีการใช้เหตุใช้ผล และก็ต้องรับผิดชอบกับข้อเขียนหรือ
การกระทำ�นั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ไม่ว่าคนคลั่งเจ้า หรือ คนไม่คลั่งเจ้า ความเป็นมนุษย์มันก็เท่ากัน และ
มันมีขอบเขตที่จะกระทำ�ได้ในสังคมไทยและสังคมโลก
ถึงแม้จะดูเหมือนว่าผู้คนใช้สัญลักษณ์ “รักเจ้า” จะสามารถแสดงความคลั่งได้
อย่างไร้ขอบเขตในประเทศไทยก็ตามที (ณ ยามนี้) แต่ผมขอยืนยันว่า ความคลั่งเจ้า
อย่างป่าเถื่อนและละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับ ทั้งในดิน
แดนราชอาณาจักรไทย หรือในต่างแดน ที่พวกท่านนั้นเป็นตัวตลกที่น่าสมเพชมาก
ขนาดไหนในสายตาคนต่างชาติ
หวังว่าหนังสือเล่มนี้ จะช่วยส่องสะท้อนให้เห็นความโหดร้ายและหยาบคาย
ของกลุ่มคนที่อ้างว่า “รักในหลวง” กันได้บ้าง และหวังว่าคนรักเจ้า จะลุกขึ้นมา
ปรับปรุงพฤติกรรม พร้อมกับ “ใส่ความเป็นมนุษย์” ลงไปในการแสดงความคิดเห็น
กันมากขึ้น
ด้วยความปรารถนาดี อยากเห็นประเทศไทยสงบสุข โดยที่สังคมอดทนอด
กลั้นต่อความคิดเห็นที่ต่างกันได้มากขึ้น 	
					 ... จรรยา ยิ้มประเสริฐ ...
4 5
ภาพประกอบในสอง
หน้า ต่อไปนี้ เป็นการ
รวบรวมถ้อยคำ�ด่าทอ
คุกคาม และข่มขู่ของคน
คลั่งเจ้าที่ส่งมาที่กล่อง
ข้อความเฟซบุ๊คของ
Junya Yimprasert
6 7
8 9
คำ�ตอบ(โต้)คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย 	
													 	 เล่ม 2
												 		
														 28 ธันวาคม 2557
10 11
การตอบแบบด้วยเหตุด้วยผล คงเขียนได้ว่า
ไม่มีใครในโลกนี้ไม่มีที่ยืน หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ทุก
ประเทศในโลกได้ทำ�ข้อตกลงการอยู่ร่วมอย่างสันติ และร่วมกันก่อตั้ง
องค์กรสหประชาชาติ (ที่ไทยก็เป็นสมาชิกอันดับที่ 55) ทั้งยังได้ร่วม
ให้สัตยาบัน ‘ปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน’ เมื่อปี 2491 ที่
รับรองสิทธิและความเสมอภาคของคนทั่วโลก ที่เริ่มตันด้วยประโยคที่ว่า
“โดยที่การยอมรับศักดิ์ศรีแต่กำ�เนิด และสิทธิที่เท่าเทียมกันและที่ไม่อาจ
เพิกถอนได้ของสมาชิก ทั้งมวลแห่งครอบครัวมนุษยชาติ เป็นพื้นฐาน
แห่งอิสรภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพในโลก”
ทั้งนี้ 145 ประเทศในโลก ยังได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติ
เมื่อปี พ.ศ.2494 ว่าด้วยเรื่องสถานภาพของผู้ลี้ภัย นั่นหมายความว่า คน
ไทยที่ไม่อาจอยู่ในประเทศไทยได้เพราะความไม่ปลอดภัยและการไม่ได้
รับความยุติธรรม สามารถทำ�เรื่องขอลี้ภัยการเมืองได้ใน 145 ประเทศทั่ว
โลก
หรือจะตอบสั้นๆ แบบที่น้องอั้ม เนโกะ ตอบก็ได้ “แล้วที่กูยืนอยู่นี่
เขาเรียกว่าก้อนเมฆหรือคะ”
12 13
	 แหม ของอะไรขึ้นหรือครับ?
	 ถ้าคุณฉลาดสักนิด คุณก็จะต้องอ่านและทำ�ความรู้จักเกี่ยวกับผมมาบ้าง
ก่อนที่จะมาโพสต์ด่าและไล่กันให้ออกไป “จากแผ่นดินเสีย” เช่นนี้
	 และถ้าคุณทำ�ความรู้จักผมสักนิด คุณจะรู้ว่าผมวิจารณ์ทักษิณ ที่คุณ
เรียกว่า “แม้ว” มาโดยตลอดเช่นกัน
	 การด่าคนไม่รักในหลวงว่า ไม่กตัญญูรู้คุณ หรือพ่อแม่ไม่สอนให้รู้จัก
กตัญญูต่อในหลวง นี่ก็เห็นนำ�มาใช้ด่าผมกันมากทีเดียว แต่ผมขอเกทับหน่อย
ว่า พ่อแม่ผมฉลาดกว่าพ่อแม่คุณมาก เพราะพ่อแม่ผมไม่เคยสอนให้ลุ่มหลง
มัวเมา ต่อเฉพาะ “กตัญญูกับกษัตริย์” โดยไม่เห็นหัวคนไทยคนอื่นเช่นนี้
	 พ่อแม่สอนผมให้รู้จักคุณค่าคนทำ�งาน ให้รู้จักซื่อสัตย์ต่อตัวเองและต่อ
มนุษย์ผู้อื่น ให้รู้จักกตัญญูผู้ผลิตอาหารให้กิน ... และเพราะความกตัญญูรู้คุณ
ผู้ผลิตอาหารให้ผมกิน ผลิตเสื้อผ้าให้ผมใส่ และผลิตสินค้าต่างๆ ให้ผมใช้่นี่
ล่ะ ผมจึงต้องลุกขึ้นมาทวงถามหาความยุติธรรมมาตรฐานเดียวกันของคนทุก
คนในสังคม รวมทั้งเรียกร้องให้มีการจัดสรรทรัพยากรและกระจายความมั่งคั่ง
และอยู่ดีกินดีอย่างเป็นธรรมกับทุกคนในประเทศไทย
	 ผมทำ�หน้าที่ของผู้ที่กตัญญูรู้คุณแผ่นดิน และรู้คุณประชาชนในแผ่นดิน
ไทย แต่คุณต่างหากที่กำ�ลังทำ�ร้ายแผ่นดินและคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการไม่รู้
จักคิดให้รอบคอบ และไม่คิดถึงหัวอกหัวใจของมนุษย์ร่วมแผ่นดินคนอื่น 	
และ อ้อ ... ไอ้เรื่องเอะอะ ก็ไล่คนออกไปจากแผ่นดินไทย ผมก็ตอบไปหลาย
ครั้งแล้ว ดูคำ�ตอบผมในหน้าถัดไป ...
14 15
นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน ก็
ไป “ดูไบ” ไปขออยู่เป็น “ขี้ข้าขี้ตีน
ทักษิณ” ก็ได้... อย่าอยู่แม่งเลย -
ประเทศไทย ที่นี่มันเป็นแผ่นดินของ
คนที่ “รักในหลวง”
(ที่มา: http://junyayimprasert.blogspot.fi/2014/11/blog-post.html)
เท่าที่ผมทราบ ในรายงานของสำ�นักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ระบุว่า “ในปลายปี พ.ศ. 2556 สำ�นักงานทรัพย์สินฯ ถือครองอสังหา
ริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด รวมพื้นที่ 41,000 ไร่” 	
ทั้งนี้ที่ดินทั้งประเทศไทยมีจำ�นวน 320.70 ล้านไร่ มีโฉนดรวมทั้ง
สิ้นประมาณ 16 ล้านฉบับ ซึ่งคงต้องร่วมโฉนดที่ดินของคุณอยู่ในนี้ด้วย
แน่ๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคุณมีโฉนดที่ดินกี่ฉบับ (ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ ถัาคุณจะ
อ่านหนังสือได้มากกว่าวันละ 3 บรรทัด http://tcijthai.com/tcijthainews/
view.php?ids=4799)
เนื่องจากคนไทยทั้งหลายต่างก็ใช้เงินซื้อที่ดินและบำ�รุงรักษา
กันเองถึง 15-16 ล้านฉบับเช่นนี้ ที่ดินเหล่านี้จะเป็นของในหลวงไป
ได้อย่างไร แล้วคุณยินดีจะมอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตัวเองให้สำ�นัก
ทรัพย์สินหรือไม่?
แต่แหม! ถึงแม้ว่าคุณจะมุทะลุ ยอมยกให้จริงๆ ผมก็ไม่ยอมยกให้
สำ�นักงานทรัพย์สินนะครับ เพราะจนบัดนี้ผมยังใช้หนี้ที่กู้มาเพื่อซื้อที่ดิน
ผืนนี้ยังไม่หมดเลย!
(ไปอ่านคำ�ตอบฉบับเต็มได้ที่: http://junyayimprasert.blogspot.
fi/2014/11/blog-post.html)
16 17
ผมอยากอยู่ประเทศไทย อยากเป็นอีกหนึ่งกำ�ลังที่มีศักยภาพและคุณภาพ
เพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทย แต่ที่ไม่อาจอยู่ในประเทศไทย และต้องมาทำ�งานรณรงค์
เพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ต่างแดน เพราะผมไม่ต้องการใช้ชีวิตหรือทำ�งาน
บนความหวาดกลัวว่าตำ�รวจและทหาร จะบุกมาจับตัวเข้าคุกเมื่อไร เพราะการถูก
ฟ้องมาตรา 112 จากคนคลั่งเจ้า และก็ไม่ต้องการอยู่อย่างหวาดกลัวว่าจะถูกผู้่คน
คลั่งเจ้าที่บ้าคลั่งมาทำ�ร้ายผม
เรื่อง “เลียนแบบฝรั่ง” นี่เป็นคำ�ด่าแบบตามๆ กันมาโดยไม่ได้ใช้หัวคิด
ตอนนี้นอกจากประชาธิปไตยแบบแบบไทยไทยแล้ว มีอะไรบ้างใน
ประเทศไทยที่ไม่ได้เลียนแบบฝรั่งและต่างชาติ ตั้งแต่อาหารการกิน เสื้อผ้า อุปกรณ์
เครื่องใช้ รวมทั้งไฟฟ้าและอุปกรณ์ยานยนต์ต่างๆ รวมทั้งราชธรรมเนียมทั้งหลาย ที่
ต่างชาติพัฒนามาก่อนไทยเป็นจำ�นวนมาก แล้วไทยก็รับมาใช้อย่างหน้าชื่นตาบาน
แถมยังไม่เคยพูดว่า “ต้องตอบแทนบุญคุณ” คนที่คิดค้นและพัฒนามันมาให้ไทยใช้
อีกต่างหาก
คนไทยอยู่ได้เพราะพระมหากษัตริย์ หรือเพราะมีคนมากมายนับไม่ถ้วน
ที่คิดค้นผลิตสินค้าต่างๆ มาให้เราใช้กัน ... อย่าลืมบุญคุณ คนงานในโรงงาน
เกษตรกรหลายสิบล้านคนที่ทำ�งานกลางแดด เพื่อผลิตข้าวปลา อาหาร มาหล่อเลี้ยง
ประชากรไทยและประชากรโลกกันบ้างนะ
ผมยืนยันว่า คนไทยอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะพระมหากษัตริย์ แต่เพราะคนทั้ง
ประเทศ 65 ล้านคน เพราะคนในภูมิภาคเอเชีย 600 ล้านคน และคนในโลก 7,000
ล้านคน ที่ร่วมกันเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้บริการต่างๆ เพื่อสร้าง
ความสะดวกสบายให้กับชีวิตของทุกผู้คน ...
ประเทศไทยคงจะน่านับถือขึ้นมาก ถ้าคนคลั่งเจ้าไทย จะรู้จักคิดถึงบุญคุณ
คนอื่นบ้าง ไม่ใช่ยกความดีความชอบทุกอย่างให้กับ “กษัตริย์” เท่านั้น!
18 19
	 อยากจะเข้าใจตรงกับคุณนู๋ลูกตาล เหมือนกันนะ แต่ถ้าทางว่าจะเราจะ
เข้าใจอะไรต่างกันมากเหลือเกิน กว่าเราจะเข้าใจตรงกันได้นี่ อาจจะอีกสิบหรือ
ยี่สิบปี หรืออาจจะไม่มีโอกาสเข้าใจตรงกันได้เลย
	 อืม อึม แต่ก็จะลองตอบประเด็นของนู๋ฯ นะ ...
	 “อยากดังเหรอ” ก็อ่ะนะ ถ้าดังแล้วมีคนฟังผมมากขึ้น ติดตามอ่านความ
คิดความอ่านผมมากขึ้น ผมก็อยากดังนะ อยากให้คนอ่านสิ่งที่ผมเขียนเยอะๆ
	 “ว่่างมากรึไง” ... จริงๆ ก็ไม่ว่าง ่การศึกษาหาความรู้ และการเขียน
หนังสือ เป็นงานของผม ไม่ใช่ทำ�เพราะว่าง แต่ทำ�เพราะผมเลือกที่จะทำ�
	 ผมเห็นคนคลั่งเจ้าชอบด่าคนที่ไม่รักเจ้าว่า “สมองหมาปัญญาควาย” กัน
เยอะนะนู๋ฯ ขอตอบตรงๆ เลยก็แล้วกันว่า ... เมื่อครั้งอดีตกาล ก่อนที่คนไม่รัก
เจ้า จะเลิกรักเจ้า เขาจำ�นวนหนึ่ง ก็อาจจะเคยด่ากราดคนอื่นอย่างหยาบคาย
แบบที่นู๋ฯ กำ�ลังทำ�นั่นล่ะ แต่พอเขาเริ่มใช้สมองคิดและศึกษาถึงเหตุผลจนได้
ข้อสรุปว่า “ไม่รักเจ้าก็ได้ ... ไม่รักเจ้าก็เป็นคน”​สมองของพวกเขาก็เริ่มพัฒนา
จนกลายเป็นคนมีเหตุมีผลมากขึ้น ขอโทษนะ ... ถ้้าจะเลิกเป็นคนที่ฉลาดน้อย
กว่า “หมาและควาย”​คุณนู๋ฯ คงต้องรีบศึกษามากกว่านี้แล้วล่ะ
	 ผมแยกไม่ออกจริงๆ ว่านรกสวรรค์มันต่างกันตรงไหน โดยเฉพาะเมื่อ
เห็นคนคลั่งเจ้ามองเห็นนรกเป็นสวรรค์กันอยู่เช่นนี้
	 ผมไม่ได้ดึงสถาบันตํ่าหรอก แต่สถาบันฯ ก็อยู่ตํ่าเท่ากับมนุษย์ทุกคนใน
ประเทศไทยมาตั้งแต่ดึกดำ�บรรพ์แล้ว ... พวกคุณต่างหากที่มองสถาบันจาก
ปลายเท้าที่มอบกราบ ก็เลยเห็นว่าสถาบันฯ สูงกว่าตัวเอง ... ลองยืนดูซิ แล้ว
คุณจะเห็นว่าเท้าของสถาบันฯ ก็อยู่บนดินเช่นเดียวกับเท้าคุณนั่นล่ะ?
20 21
ผมก็อยากให้คุณเปิดตาดูความจริงอีกด้านหนึ่งด้วยว่า มีคนไทยจำ�นวน
ไม่น้อยเหมือนกันที่ไม่ได้รักในหลวง และเขาก็ไม่ใช่คน “สารเลว” เพียงเพราะ
ไม่ได้รักในหลวง
อยากให้คุณเปิดตใจยอมรับได้บ้างว่า ไม่ว่า ผมหรือคนที่คุณด่าว่า
“สารเลว” เพียงเพราะเขาประกาศตัวว่าไม่รักในหลวงนั้น เป็นคนทำ�ความดี
เพื่อชาติบ้านเมืองกันมาอย่างยาวนานขนาดไหนเช่นกัน
หลายคนเป็นครูบาอาจารย ์ที่พยายามใช้วิชาความรู้สั่งสอนลูกหลาน
คุณให้เป็นคนมีความรู้ รู้จักใช้สติปัญญา และมีเหตุมีผล
หลายคนเป็นคนที่เป็นสื่อมวลชน ที่พยายามทำ�หน้าที่สื่ออย่างตรงไป
ตรงมา ครอบคลุมทุกมิติ โดยไม่ยอมก้มหัวให้กับการถูกบังคับให้ต้องเสนอ
ข่าว “ด้านเดียว” ในประเทศไทย
หลายคนเป็นคนพยายามทำ�งานช่วยเหลือคนหาเช้ากินคํ่าให้ได้รับ
ความยุติธรรม และไม่ถูกนายจ้างหรือนายทุนเอาเปรียบ
หลายคนเป็นนักศึกษา ที่การเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย ทำ�ให้เขาเห็นความ
ซับซ้อนของปัญหาในประเทศไทย และเห็นว่าในวิถีโครงสร้างการเมืองศักดินา
ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เรียกว่า “คนชั้นล่าง” คือผู้ที่ถูกเอารัดเอา
เปรียบมากที่สุด แล้วพวกเขาไม่อาจนิ่งเฉยต่อพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบ
เหล่านี้ จนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและสังคมเท่าเทียม
หลายคนอาจเป็นลูกหลาน พี่น้อง และเครือญาติของคุณเอง ที่ทนไม่
ได้ที่จะเห็นคุณหยาบคาย และไล่บี้ด่าทอคนอื่นในนาม “รักในหลวง” เช่นนี้
22 23
	 โอโห คุณผู้ชายคนนี้นี่ปากจัด ด่าผู้หญิงที่ไม่เคยพบเจอกันได้เถื่อนมาก
	 แต่ ... แหม! คุณเองก็อุตสาห์หนีความยากจนจากไทย จนยอมติดคุก
ติดตารางที่สวิสฯ มาแล้วถึง 5 เมือง แถมยังม่ีหน้ามากรางขู่ทูตไทยที่สวิสฯ
และคนไทยที่นั่น ฟอดๆ ว่า พร้อมจะตายและติดคุกสวิสฯ อีกครั้งเพื่อในหลวง
	 อืม! อืม! คุณหนีความยากจนจากเมืองไทย มาอาศัยใบบุญของงบ
ประมาณแผ่นดินของประเทศสวิสฯ น่าจะเข้าใจดีพอสมควรว่า เมืองนอกโดย
เฉพาะในยุโรปน่ะ ... ไม่ยอมให้คนเร่ร่อนกันไม่ได้ง่ายๆ อย่างเด็ดขาด และ
ทุกประเทศในยุโรป ก็มีนโยบายดูแลประชาชนที่อยู่อาศัยในประเทศของตัว
เองด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีและเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะคนสวิสฯ หรือคนไทย
หรือคนต่างชาติิที่ลี้ภัยมาอยู่ในประเทศเขา 		
	 เมื่อเห็นคุณเขียนเองว่าติดคุกสวิสฯ มา 5 เมือง ผมก็พอจะเข้าใจได้ว่า
การอยู่ในสวิสฯ แบบอดีตนักโทษแม้จะได้รับการดูแลดีกว่าคุกไทยก็ตาม ก็
อาจทำ�ให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่เท่าเทียมกับคนอื่น จนต้องหาที่พึงทางใจ
ด้วยการขี่ความ “รักในหลวง” มาข่มขู่คุกคามคนไทยที่สวิสฯ เพื่อจะโชว์ความ
เป็นนักเลงหัวไม้คอยระรานคน เพียงเพื่อกลบความขมขื่นของตัวเอง และเพื่อ
จะได้ยก “ตัวตน” ของตัวเองขึ้นมาอยู่เหนือคนอื่นกับเขาบ้าง
	 ต้องขอบอกจริงๆว่า คุณมันทั้งน่าสงสารและน่าสมเพช ที่แม้มีโอกาส
ศึกษาหาความรู้แล้วยัง จมตัวเองไว้่กับการถูกมอมเมาในความรักในหลวงจน
ตามืดบอด จนมโนคิดจินตนาการไปว่า คนที่คิดต่าง ต้องเป็น “ทาสทักษิณ”
และคุณก็จะต้องไล่ล่า คุกคาม หรือข่มขู่จะเข่นฆ่าพวกเขาเช่นนี้!
24 25
ก่อนที่จะต่อว่ากันว่าวันๆ ทำ�ไมต้องโพสต์ด่าในหลวงด้วย ผมคิดว่าเราให้คำ�
จำ�กัดความคำ�ว่า “ด่า” ต่างกันนะ
เพราะถ้าคุณดู “สิ่งที่คุณและหลายคนเขียน ดังที่ผมยกมาอ้างนี้ อย่างนี้เขา
เรียกว่า “ด่า” ครับ แต่สิ่งที่ผมเขียนถึงสถาบันกษัตริย์หรือเขียนตอบคุณอยู่นี้เรียก
ว่าการ “วิจารณ์”
ผมขอให้คุณที่รักในหลวง และอ้างว่าในหลวงพัฒนาประเทศชาติ และต่อว่า
ผมและคนที่วิจารณ์ในหลวงอยู่ ณ​ขณะนี้ว่าคือคน “ทำ�ชาติล่มจม” คุณลองตอบ
คำ�ถามข้างล่างนี้สักนิดนะ ก่อนจะโยนความล่มจมในชาติมาให้ผมรับเละเช่นนี้
ในหลวงมีเวลาถึง 70 ปี (มากกว่านักการเมืองทุกคน) ตลอดรัชสมัยที่ครอง
ราชย์ ที่จะพัฒนาประเทศไทย ผมจึงขอถามคุณด้วยความสัตย์จริงว่า ...
- ณ ยามนี้ประเทศไทยพัฒนาแท้จริงแล้วหรือยัง?
- ประเทศไทยปราศจากความยากจนจริงหรือ?
- ประชาชนทุกคนในประเทศไทยมีความสุขจริงหรือเปล่า? และ
- ประเทศไทยปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยที่เคารพเสียงประชาชน	
ทุกคนหรือด้วยระบอบเผด็จการที่ปิดปากประชาชน?
คุณอาจจะยังคงเถียงข้างๆ คูๆ ว่าที่ประเทศไทยไม่พัฒนาเพราะนักการเมือง
ชั่ว เพราะข้าราชการเลว เพราะตำ�รวจคอรัปชั่น ขอให้คิดสักนิดว่า ...
ในหลวงมีเวลายาวนานมาก ที่จะช่วยชี้แนะและกำ�กับรัฐบาล ทหาร ตำ�รวจ
และข้าราชการ ให้ประพฤติตัวด้วยความเสียสละเพื่อบ้านเมือง ...
ถ้าในหลวงเก่งจริง ฉลาดจริง และทำ�จริง ประเทศไทยจะต้องพัฒนาไปนาน
แล้ว ... คงไม่ให้พวกคุณต้องโยน “ความล่มจม” ของประเทศไทย มาที่ประชาชนที่อ้า
ปากพูดความจริงกันเช่นนี้หรอก!
26 27
มาด่ากันอย่างเดียวเลยแบบนี้ คือถ้าผมจะด่าแบบแรงๆ แบบนี้กลับไป ...
“อีห่าบอด ลูกหมาขี้เรื้อน คันหอยมากใช่ไหม เลยไม่มีเวลาอ่านหนังสือ
หาความรู้ อีห่าราก ทำ�ตัวมืดบอด เป็นทาสที่ปล่อยไม่ไป เห่าโฮ่ง โฮ่ง
เฝ้าเจ้า ที่ไม่เคยเห็นหัวมึงแม้แต่น้อย มึงไม่โง่ก็บ้าล่ะว่ะ อีลูกขี้ตีน”
มันก็ได้ความสะใจ และเพิ่มความโกรธแค้นชิงชังกันไปเรื่อยๆ โดยไม่
จำ�เป็น ผมจึงขอเขียนเตือนสติคุณนู๋หน่อยนะว่า
คุณหนู แสนซน ที่ตั้งชื่อตัวเองเสียน่ารัก แต่ทำ�ไมหนอ ถึงเขียนด่าคนที่
ไม่รู้จักกันเลยแม้แต่น้อย ได้อย่างสกปรกและโสมมมาก (ขอโทษที่ต้องต่อว่า)
คุณหนู เขียนมาโดยไม่ได้ใช้สมองไตร่ตรองสักนิดว่า มันจะโชว์ให้เห็น
ความเป็นคนมืดบอดทางสติปัญญาของตัวเองแค่ไหน
อืม เพราะผมสงสัยจริงๆ เวลาผู้หญิงจะด่ากันเนี่ย มักจะยัดเยียดคำ�ด่า
กัน ประเภท อีกะหรี่ หีคัน ช้างเย็ด ตามที่คุณหนูฯ เองก็ใช้เช่นนี้ ... ในฐานะ
ที่เป็นเพศหญิงเช่นกัน คุณนู๋ไม่เคยตั้งคำ�ถามเลยหรือว่า การด่าแบบนี้ต่อผู้
หญิงด้วยกัน การเหยียบหยามและเหยียบยํ่าเพศเดียวกันเองเช่นนี้ มันก็จะ
กลายเป็นกระจกส่องสะท้อนมายังตัวเองด้วยเช่นกัน
ระวังนิดก็ดีนะจ๊ะ ถ้าจะใช้คำ�ด่าแบบนี้กับใคร เพราะมันจะย้อนกลับมาด่า
ตัวองได้
การมาสาปแช่งกันให้ตายเยี่ยงหมาข้างถนนนี่ ก็คงต้องดูประกอบควบคู่
ไปกับสถิติคนตายข้างถนนกันบ้างก็ดีนะฮะ โดยเฉพาะที่เมืองไทย สถิติสูง
เกือบที่สุดในโลก สูงกว่าประเทศที่ผมอาศัยอยู่หลายเท่าตัวมิใช่หรือ ... ผมคิด
ว่าคนที่ต้องระวังข้างถนนมากกว่า น่าจะเป็นคุณหนูมากกว่านะ!
28 29
สังเกตุกันไหมว่า คนคลั่งเจ้านี่จะใช้ชื่อเฟซบุ๊คกันอย่างน่ารัก แต่แหม
ปากของแต่ละคนนี่เน่าราวกับว่าไม่ได้แปลงฟันมาเป็นชาติกันทั้งนั้นเชียว (ขอ
ต่อว่าแรงๆ หน่อยเถอะ)
หนู “หมูน้อยรักพ่อแม่ที่สุด” คนนี้ ไม่รู้ว่าไปหัดใช้ภาษาหยาบคายเช่นนี้
มาจากไหน แบบนี้จะเรียกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนจะได้ไหม
อยากจะบอกหนูนะว่า สิ่งที่หนูเขียนว่า “รักพ่อกับแม่ที่สุด” นั้นผมก็เชื่อ
ว่า “พ่อกับแม่” ของหนูก็คงรักหนูที่สุดเช่นกัน
อยากจะบอกกับหนูว่า ถ้าหนูให้ความเป็นธรรมสักนิดกับคนทั่วไปใน
โลกนี้ ไม่ว่าเขาจะรักหรือไม่รักในหลวงที่รักของหนูหรือไม่ก็ตาม ... หนูก็จะ
ตระหนักว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็จะรักลูก และปรารถนาให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดี
เป็นสุภาพชน เป็นคนที่ประสบความสำ�เร็จ และเป็นที่รักของผู้พบเห็นกันทั้ง
นั้น ... ไม่มียกเว้นแม้แต่พ่อแม่ของผม
อยากจะบอกหนูว่า แม่ของผมนั้นไหว้พระสวดมนต์ให้คุณพระคุณเจ้า
คุ้มครองลูกๆ ที่อยู่ไกลบ้านทุกคํ่าคืน ... นี่คือเรื่องที่หมูน้อยไม่รู้จักเลยเกี่ยว
กับแม่ของผมเลย
ผมสะเทือนใจนะ ที่ความรักของพ่อแม่ของผมที่มีให้ผมมาทั้งชีวิต ส่งให้
ผมเรียนจนจบมหาวิทยาลัย สวดมนต์ทุกคํ่าคืนให้ผมปลอดภัยจากภยันตราย
ใดๆ เพราะผมต้องทำ�งานไกลบ้านตลอดนับตั้งแต่จบมหาวิทยาลัย จะต้องมา
ถูกพวกคุณคนคลั่งเจ้าที่ไม่รู้จักพ่อแม่ผมเลย นำ�มาหยามหมิ่นกันอยู่เรื่อยๆ
เช่นนี้ ... ผมรักพ่อแม่ผมที่สุด เช่นเดียวกับที่หมูน้อยรักพ่่อกับแม่ และความ
รักพ่อแม่ของผมก็มากพอ ที่จะทำ�ให้ผมไม่ใช้วาจาหยาบคายโต้ตอบกับหนู
30 31
ทำ�ตามที่ขอมาแล้วนะ ด้วยการนำ�มาประจานในหนังสือตอบโต้เล่มนี้ซะ
เลย และก็ขอประจานความตํ่าทราบและหยาบช้าของคุณ มา ณ​ที่นี้ด้วย
ผมอยากให้คุณดูคำ�ด่าพ่อแม่ผมของคุณ แล้วลองนึกสักนึดซิว่า ถ้านี่คือ
คำ�ด่าที่คนมาด่า “พ่อแม่ของคุณ” คุณจะรู้สึกอย่างไร
ผมเศร้าใจในทุกครั้ง ที่เห็นคนที่มีจิตใจหยาบช้าเช่นคุณ ใช้ความได้
เปรียบในสังคมขี่ “ความรักในหลวง” มาหยาบช้าและหยายคายกับคนอื่นกัน
อย่างง่ายๆ ด้วยความสะใจเช่นนี้ เพราะคิดว่าคู่วิวาทะจะไม่สามารถตอบโต้
ใดๆ ได้ ...
ยิ่งตอบโต้ คุณก็จะยิ่งลากประเด็นไปสู่การถกกันเรื่องในหลวงและเรื่อง
เจ้าไทยมากขึ้น
ยิ่งถกมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้คุณโยนข้อหาหมิ่นมาตรา 112 มาให้คู่
วิวาทะได้ง่ายๆ
นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำ�ให้คนคลั่งเจ้าเช่นคุณได้ใจ และกร่างไม่
เลือกที ไม่เลือกว่ากับใคร ไม่สนว่าจะทำ�ตัวจะเหี้ยจะหมาอย่างไร หรือจะใช้คำ�
หยาบคายอย่างไรก็ได้ กับคนที่คุณคิดว่า “ไม่รักเจ้า” และ “มีจุดอ่อน” ให้คุณ
ใช้แสดงอำ�นาจบาทใหญ่ กดข่มเขาอย่ากกักขฬะเช่นนี้
ความรักในหลวงไม่ใช่ใบอนุญาตให้ “ถ่อย” ข้อเขียนอย่างหยาบช้าของ
คุณนี้ มันก็คงจะประจานตัวคุณเอง เช่นที่คุณปรารถนาแน่นอน!
32 33
	 คุณควาย “๙ ทรงพระเจริญ” นี่อุตส่าห์เปลี่ยนโปรไฟล์มาใช้
ภาพ “๙ ทรงพระเจริญ” แล้วยังมาทำ�ขายหน้าคนที่คุณ “ทรงพระ
เจริญ” ได้อีก
แหม จะหัดด่าใครก็ดูโคตรพ่อโคตรแม่ตัวเองบ้างนะครับผม
แค่ภาษาไทยยังเขียนสื่อสารให้คนเข้าใจไม่ได้เลย แล้วยังมีหน้ามา
ด่าคนโน้นคนนี้เป็น “ควาย”
ขอตักเตือนตรงๆ นะ ถ้าไม่อายตัวเอง ก็สงสารพ่อแม่ตัวเอง
บ้างเถิด ที่จะถูกด่าว่าเลี้ยงลูกยังไงให้ออกมา “โง่ยิ่งกว่าควาย”
เช่นนี้
* * * * * * * * *
ส่วนคุณนายรัตนาภรณ์ นี่ก็ “9 ดอกทอง”​มาเลยนะเนี่ย
ถามแบบนักเลงโตมาเลยว่า “บ้านมึงอยู่ไหนว่ะ”
ถามจริง จะกล้าตามมาที่บ้านผมจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?
ผมรักสันติภาพ และไม่เคยทำ�ร้ายใคร แต่เพื่อนร่วมบ้านผมนี่
เป็นแชมป์มวยสากลนะจ๊ะ จะบอกให้?
34 35
ด้วยการมีพิธีรีตรองมากมายของราชสำ�นัก ทำ�ให้การเสด็จเยี่ยม
ประชาชนของในหลวงและเชื้อพระวงศ์แต่ละครั้ง แทบจะไม่มีการเดินทางไป
ศึกษาปัญหาของประเทศในสภาพความเป็นจริง เพราะต้องมีการเตรียมงาน
เตรียมจัดปะรำ�พิธี เตรียมฝึกซ้อมชาวบ้านไว้ต้อนรับ โดยที่ข้าราชการไทย
ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงฯ ผู้ว่า ข้าราชการทหารและตำ�รวจทุกเหล่า
ทัพ (รวมทั้งภรรยาแม่บ้าน) ต้องแต่งตัวเต็มยศไปเฝ้ารอรับเสด็จ ตั้งแต่เช้ายัน
คํ่ามืด และพระบรมวงศานุวงศ์แทบทุกพระองค์มักจะเสด็จช้ากว่ากำ�หนดการ
และบางครั้งก็เลื่อนไม่ยอมไปงาน ปล่อยให้คนมารอรับเสด็จต้องเสียเวลาเก้อ
ทั้งๆ การเตรียมงานราชพิธีแต่ละงาน ต้องมีการเตรียมงานกันอย่าง
หนัก และต้องใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนจำ�นวนมาก พร้อมทั้งต้อง
เกณฑ์ชาวบ้านมายืนและนั่งตากแดดตากฝนคอยต้อนรับด้วย เป็นความสิ้น
เปลืองของงบประมาณภาษีวันละไม่รู้กี่ล้านบาท ...
และทำ�มาแบบนี้ต่อเนื่องยาวนานมาหลายสิบปี
วิถีการเดินทางเยี่ยมประชาชนของราชสำ�นักไทย นับตั้งแต่อดีตมา
จนถึงปัจจุบัน มุ่งเพื่อการสร้างกิจกรรมให้วังเพื่อข่าวพระราชสำ�นักตอน 2
ทุ่ม จึงเป็นวิธีการที่มากพิธีรีตรอง ล้าสมัย ผักชีโรยหน้า และสิ้นเปลืองงบประ
มาณภาษี กัันอย่างไม่มีการตรวจสอบ​โดยที่วังไม่ได้ประจักษ์กับสภาพที่แท้จริง
ของประชาชน ทั้งนี้ไม่มีทีท่าว่าราชสำ�นักจะลดทอนพิธีการที่ฉาบฉวยและสิ้น
เปลืองทั้งเวลาของเจ้าหน้าที่รัฐและงบประมาณแผ่นดินเช่นนี้อีกด้วย
การที่ผมลุกขึ้นมาวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ไม่ได้เกิดจากความแค้นส่วน
ตัวใดๆ แต่จำ�เป็นต้องวิจารณ์ เพราะสถาบันกษัตริย์ไทยแทรกแซงการเมือง
มาตลอด ประชาชนจึงต้องวิพากษ์วิจารณ์ได้
จริงอยู่ที่ราชสำ�นักไทยเสด็จเยี่ยมผสกนิกร และเดินทางไปร่วมพิธีกรรม
ทางศาสนาต่างๆ เช่นที่ปรากฎในข่าวตอนสองทุ่มของทุกวันมาเป็นเวลาหลาย
สิบปี ด้วยงบประมาณที่จัดสรรให้โดยรัฐบาลต่างๆ กว่า 60 คณะ และเป็นเงิน
ที่มาจากภาษีประชาชน
36 37
นับตั้งแต่ปี 2553 คุณเป็นคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่แช่งผมให้ตายโหง
ภายใน 3 วัน 7 วัน แต่นี่เวลาก็เนิ่นนานมาหลายปีแล้ว ผมก็ยังสุขสบายดี
และก็มีกำ�ลังใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะต่อสู้เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็น
ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยที่คนทั้งประเทศ (รวมทั้งคุณด้วย) เคารพกฎ
กติกาการอยู่ร่วมกันอย่าง “คนเท่ากัน” เสียที
ตลอดเวลาร่วมห้าปีมานี้ สิ่งที่ผมประจักษ์คือ จำ�นวนคนคลั่งเจ้า ไร้
เหตุผล และโหดร้ายป่าเถื่อนทางความคิดและวาจาเช่นคุณทั้งหลายที่ผมยก
มาเป็นตัวอย่างอ้างอิงในหนังสือเล่มนี้ มีจำ�นวนลดน้อยลงเรื่อยๆ
อยากจะบอกคุณว่า จำ�นวนคนที่ส่งข้อความมาขอบคุณ ให้กำ�ลังใจ และ
สนับสนุนให้ผมเขียนและพูดเกี่ยวกับเมืองไทยอย่างตรงไปตรงมา จากการ
ศึกษาและวิเคราะห์ที่ผมได้ทำ�มาต่อเนื่องนั้น มีมากกว่าจำ�นวนคนคลั่งเจ้าที่
มาแช่งชักหักกระดูกและข่มขู่คุกคามมากนัก
เช่นเดียวกับเรื่องกระบวนการทางการเมือง ที่คนคลั่งเจ้าไม่เคยเอาชนะ
การเลือกตั้งได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในรอบสิบปี จนต้องไปเรียกร้องทหารให้มา
ใช้กำ�ลังอาวุธกดหัวประชาชน
จำ�นวนคนไทยที่ตาสว่าง และเข้าใจว่าปัญหาในประเทศไทยเกิด
จากชนชั้นอภิสิทธิชนคนคลั่งเจ้าเช่นพวกคุณทั้งหลาย ที่ไม่ยอมรับกติกา
ประชาธิปไตย และขี่หลัง “ความรักเจ้า” มาก่นด่า หรือ ถึงขั้นข่มขู่คุกคามหรือ
ถึงขั้นลุกมาทำ�ร้ายคนไทยด้วยกันนั้น มีจำ�นวนมากกว่าคนคลั่งไร้เหตุผล แต่
ที่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะพวกเขามีความเป็นมนุษย์มากกว่าคนคลั่ง
เจ้า และไม่อยากใช้ความรุนแรงกับเพื่อนร่วมชาติเท่านั้นเอง!
38 39
ผมไม่รู้ว่าคุณกัมปนามตีราคาความรวยของตัวเองเท่าไร เมื่อเทียบกับ
“คนที่คุณคิด” ซึ่งผมคิดว่าคุณหมอคงหมายถึง “ทักษิณ” ใช่ไหม
จริงๆ ผมคิดว่าผมน่าจะเขียนถึงคุณด้วยเหตุด้วยผล เพื่ออธิบายให้
ได้เข้าใจกันมากขึ้นว่าเพราะเหตุใดผมจึงต้องตัดสินใจทำ�งานรณรงค์เรื่อง
ประชาธิปไตยของประเทศไทยที่ต่างแดน และเพราะเหตุใดผมจึงต้องวิพากษ์
วิจารณ์ (ที่คุณเรียกว่า “เห่าหอน” นั่นล่ะ) สถาบันกษัตริย์ และเผด็จการทหาร
ของไทย
แต่เมื่อได้เห็น “คุณหมอ” ปลุกระดมให้แนวร่วม องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน
คนคลั่งเจ้า และคนคลั่งคุณหมอ ไปฟ้องร้องดำ�เนินคดีมาตรา 112 กับผม รวม
ทั้งกับคนอื่นๆ ที่คุณเห็นว่ามีแนวคิดทางการเมืองไม่ตรงกับคุณหมอ อาทิกับ
คุณอารีย์​พยาบาลขอนแก่น พร้อมทั้งยัดข้อหา “ทำ�ลายชาติ” ให้กับบก. ลาย
จุด หรือถึงขั้นใช้ข้อเขียนว่า “น่าจะเชือดอีเด็กเวรนี่ให้ตายคาเวที “ ซึ่งอีเด็ก
เวรนี้ คือ อั้ม นักศึกษาธรรมศาสตร์อนาคตสดใส ที่ต้องจบอนาคตการศึกษาที่
ธรรมศาสตร์ และต้องลี้ภัยการเมืองไปยังฝรั่งเศสเพราะไม่อาจต้านทนกับการ
ข่มขู่คุกคามของขบวนการคนคลั่งเจ้าของคุณหมอและพรรคพวกได้
คุณกัมปนาทครับ ประเทศไทยมีคน 65 ล้านคน คุณจะระดมมวลชนของ
คุณหมอมาล้มรัฐบาลที่พวกเขาเลือกตั้งมาอีกกี่ครั้ง และจะฟ้องร้องหมิ่นมาตรา
112 กับคนไทยร่วมชาติอีกกี่สิบหรือกี่ร้อยคน คุณหมอถึงจะหยุดพฤติกรรม
คลั่งเจ้าจนไม่เห็นหัวชาวบ้านทั่วไปกันเช่นนี้ ... แน่นอนผมไม่กลับไปเมือง
ไทยเพื่อไปติดคุกมาตรา 112 หรอกนะ ... ผมจะสู้กับคุณและขบวนการคนคลั่ง
เจ้าในเมืองไทยด้วยเหตุด้วยผลที่ต่างแดนนี่ล่ะครับ จนกว่าวันที่คุณกัมปนาท
จะยอมรับเสียทีว่า ไม่รักเจ้าก็เป็นคนเท่ากับคนรักเจ้า และเราอยู่ร่วมกันได้!
40 41
ขอเรียกว่าองค์กร “ขยะแผ่นดิน”
ขอประณาม
ทั้งคนตั้งเพจและแนวร่วม ที่ระดมกันไปฟ้องร้องคนโน้นคนนี้
ด้วยขอหาหมิ่นมาตรา 112
พวกคุณคนคลั่งเจ้า ทำ�ราวกับคนไทย
คนที่ไม่ได้รักในหลวงอย่างบ้าคลั่งเช่นพวกคุณ ไม่ใช่มนุษย์
และต้องถูกเข่นฆ่าสังหารให้หมดไปจากประเทศไทย
ถือว่ามีมาตรา 112 และทหาร ให้ท้าย จนไม่ต้องใส่ความ
เป็นมนุษย์ในหัวใจ และไม่สนว่า พวกคุณ ได้ทำ�ร้ายผู้คนใน
ประเทศไทยไปมากมายแค่ไหนกับความคลั่งเจ้าอย่างไม่พอ
เพียง อยากจะแสดงอำ�นาจว่ามีีอภิสิทธิเหนือคนอื่นเพราะ
“รักในหลวง” ก็ได้กระนั้นหรือ?
พวกทาสที่ปล่อยไม่ไปเช่นพวกคุณนี่
มันน่าสมเพชมากๆ จริงๆ!
42 43
พวกคนคลั่งเจ้าที่กดไลค์ กดแชร์ ข้อความที่แสดงความคลั่ง ยั่วยุ ปลุก
ปั่น ปลุกระดมให้พวกคุณลุกขึ้นมาใช้กฎหมายมาตรา 112 ที่โหดร้ายป่าเถื่อน
มาทำ�ร้ายใครก็ได้เช่นนี้ ไม่ได้คิดถึงหัวจิตหัวใจคนอื่นกันบ้างเลยหรือ?
คนที่พวกคุณเฮกันไป เฮกันมา ตามคำ�ยั่วยุของ “องค์กรเก็บขยะ
แผ่นดิน” เพื่อรุมประณาม รีพอร์ท และพากันไปแจ้งความคดีมาตรา 112
นั้น พวกคุณก็ไม่รู้จักกับพวกเขาเป็นการส่วนตัวเลย ไม่รู้ว่าเขาและเธอทำ�คุณ
ความดีอย่างไรบ้างให้ประเทศชาติ มีภาระและคนที่ต้องดูแลมากแค่ไหน และ
ทุกคนจะเดือดร้อนแค่ไหนถ้าถูกล่าแม่มด ถูกข่มขู่คุกคาม หรือถูกโจมตี หรือ
ต้องถูกจับกุมด้วยมาตรา 112
พวกคุณตระหนักหรือไม่ว่า สำ�นักข่าวต่างชาติรายงานว่าองค์กรเก็บ
ขยะแผ่นดินนี้ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเผด็จการทหาร เพื่อกระพือความ
แตกแยกในสังคม และช่วยเผด็จการทหารทำ�การปิดกั้นเสรีภาพ ในการแสดง
ความคิดเห็นของประชาชน และเพื่อจับโยนประชาชนที่ทหารเห็นว่า “เป็น
ภัยต่อความมั่นคงของทหาร” เข้าคุกในข้อหาหมิ่นมาตรา 112 ที่ ไม่ว่าใคร
ก็ตามที่เจอคดีมาตรานี้ แม้เพียงแค่ถูกฟ้องชีวิตของเขาก็พังทลายนับตั้งแต่
ตอนนั้นแล้ว เพราะมันไม่มีความยุติธรรมให้กับผู้คนที่ถูกดำ�เนินคดีด้วยมาตรา
112 พวกเขาต้องสูญเสียงาน ครอบครัวล่มสลาย และเผชิญกับความทุกข์ยาก
ต่างๆ นานา ...
ถ้าเขาไม่ต้องการถูกจับเข้าคุก ก็ต้องหนีออกไปเผชิญความยากลำ�บาก
ที่ต่างประเทศ ... เป็นความทุกข์ยากที่คนคลั่งเจ้าก่อนให้เกิดขึ้นกับคนคิดต่าง
อย่างเลือดเย็น และไร้ความเป็นมนุษย์ร่วมประเทศและร่วมโลก!
44 45
แล้วเราจะคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไร พวกคุณคนคลั่งเจ้า เล่นด่าผม ด่าคน
อื่นอยู่ฝ่ายเดียว ด่าแล้วก็ยัดข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 มาให้
กันดี้อๆ โดยรู้ดีว่า ใครโดนคดีนี้มันแก้ต่างแทบไม่ได้
แค่ถูกขู่ฟ้องชีวิตหลายคนก็วุ่นวายเสียแล้ว
ต้องตัดสินใจว่าจะหนีคดีหรือจะยอมให้ถูกจับเข้าคุก ห้ามประกัน
พิจารณาในศาลทหาร ห้องปิดลับ ไม่มีทนายแก้ต่าง ผิดหรือไม่ผิดไม่มีใคร
ทราบได้ แต่โดนสั่งขังคุกกันไปแล้วคนละ 3 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี
คุณคนคลั่งเจ้าอาจจะสนุก สะใจ ที่ทำ�ร้ายคนที่คุณคิดว่าไม่รักเจ้าได้ โดย
ไม่ใส่ใจใดๆ ทั้งสิ้นว่า ชีวิตของคนหนึ่ง ของครอบครัวของเขา นั้นจะต้องเผชิญ
กับความทุกข์ยากอย่างไรกันบ้าง เพียงเพราะความบ้าคลั่งไร้เหตุผล ของพวก
คุณกันไม่กี่คน
ยิ่งพวกคุณคลั่งเจ้า ไล่ฟ้องหมิ่นคนที่คุณเห็นว่าไม่รักเจ้าอย่างบ้าระหํ่า
เท่าใด ความรักเจ้าอย่างบ้าคลั่งของพวกคุณนั่นล่ะที่จะดังมูมเบอแรง ที่จะเป็น
อาวุธย้อนคืนมา “ล้มเจ้า” และการ “ล่มสลาย” ของราชสำ�นักไทย
ยิ่งราชสำ�นักไทยเพิกเฉยต่อพฤติกรรมของพวกคุณ และปล่อยให้พวก
คุณใช้มาตรา 112 กันอย่างพรํ่าเพรื่อต่อคนไทย และต่อคนต่างชาติ ความน่า
เชื่อถือของราชสำ�นักก็จะเสื่อมลงเรื่อยๆ ท้ายที่สุด
พวกคุณต้องการเช่นนั้นกันใช่ไหม ถึงได้ไม่ยอมใช้สติปัญญาในการปรับ
ตัวและปรับทัศนคติให้อยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมกันเลยเช่นนี้ โดยไม่ลุกขึ้น
มาข่มขู่แจ้งจับใครเพียงเพราะเขาไม่รักในหลวง
46 47
พวกคุณคนคลั่งเจ้านี่มาแบบคล้ายๆ กันหมดเลยนะ ที่มักจะด่าทอคนไม่รักเจ้าด้วย
ถ้อยคำ�เหล่านี้ ...
1. ไม่ได้รู้จักกัน ไม่เคยรู้จักพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย กันเลย ก็สามารถไปขุดพ่อแม่ และ
วงศ์ตระกูลเขามาด่ากันได้อย่างสาดเสียเทเสีย กล่าวหากันพล่อยๆ ว่าพ่อแม่ไม่อบรมสั่ง
สอน โดยไม่ยอมย้อนมองดู “สำ�เนียงส่อภาษา” ของตัวเองกันบ้างเลย
2. ชอบกล่าวอ้างว่าสงสารโคตรพ่อโคตรแม่คนโน้นคนนี้ แทนที่จะสงสารโคตรพ่อโคตร
แม่ของตัวเอง
3. ชอบด่าว่าเรื่องเพศ ทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตา การเลือกเพศ - ขี้เหร่ คนดอกทอง จัญไร
กะหรี่ หีคัน หีร่าน ทั้งๆ ที่บางคนก็เป็นผู้หญิงด้วยต่างหาก บางคนก็เป็นสามีผู้หญิงด้วย
4. อ้างว่าแผ่นดินนี้เป็นของในหลวง ทั้งๆ ที่ชาวบ้านชาวช่องเขาต่างก็ซื้อที่ดินและ
หาเงินหรือกู้เงินปลูกบ้านกันเองทั้งนั้น
5. ด่าว่าคนวิจารณ์เจ้าว่าเป็นพวกเนรคุณแผ่นดิน เนรคุณพ่อ เนรคุณพ่อแม่ ทั้งๆ ที่
จริงๆ สังคมไทยต้องเริ่มเปลี่ยนทัศนคติจากเรื่อง “เนรคุณ” มาสู่การยอมรับกันมากขึ้นว่า
ประเทศชาติสร้างเสริมด้วยกำ�ลังแรงงาน และแรงใจของคนทั้งประเทศ ควรจะหยุดด่ากัน
เรื่อง “เนรคุณ” แล้วหันมาเตือนกันมากขึ้นว่า “หัดขอบคุณคนทั้งแผ่นดิน” กันมากขึ้น
6. ชอบแช่งชักหักกระดูกให้ตาย หรือไม่ก็ให้ไปตกนรก ทั้งๆ ที่อยู่กันในปัจจุบันใน
สภาพเช่นนี้ มันยิ่งกว่านรก
7. แล้วก็มักจะมาแบบข่มขู่กันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จะฆ่าให้ตาย
8. ชอบขับไสไล่ส่งผู้คนที่ไม่รักเจ้าให้ไปอยู่ที่อื่น
9. พอเขาไปอยู่ที่อื่นจริงๆ ก็ลุกขึ้นมาท้าเขาเหย๋งๆ ว่าแน่จริง กลับมาเมืองไทยซิ
พวกคุณก็มีแต่ด่ากับด่าคนเขียนวิจารณ์เจ้ากันด้วยหลักๆ แค่ 9 ประเด็นนี้เท่านั้น เป็น
คำ�ด่าและคำ�ขู่กันล้วนๆ โดยไม่มีเหตุผลประกอบใดเจือปนอยู่แม้แต่น้อย ผมขอเสนอแนะ
ว่า ... เราพยายามคิดค้นเหตุผลมาถกเถียงกันอย่างจริงจังกันเถอะ ... คำ�ด่าพวกนี้ผมเจอ
มาตลอดเบื่อมากๆ แล้ว อยากเห็นคนคลั่งเจ้าฉลาดๆ กว่านี้สักหน่อย จะได้โต้กันด้วยการ
อ้างอิงหลักการและเหตุผลกันได้อย่างสนุกและมีสาระบ้าง
48 49
แหม ผมเพิ่งเขียนบรรยายถึงพฤติกรรมพวกคุณคนคลั่งเจ้าไปที่หน้าที่ผ่านมา
คุณมาแช่งให้นรกกินกระบาลผมอีกแล้ว
ไหนๆ คุณก็พูดถึงคำ�ว่า “นรก” ขึ้นมา ผมต้องขอบอกพวกคุณหน่อยนะว่าพวก
คุณคนคลั่งเจ้าทั้งหลาย ต่างก็พากันนิยามคำ�ว่า “นรก” กันผิดไปจากความจริงมาก
เลยรู้ไหม
“นรก” จริงๆ อาจจะเป็นแค่ “โลกสมมุติตามจินตนาการ” เพื่อเอาไว้คุมความ
ประพฤติผู้คนในสังคมให้อยู่ในศีลในธรรม ไม่ให้กระทำ�ความผิด คิดร้ายหรือลุกขึ้น
มาทำ�ร้ายกัน
“นรก” ไม่ใช่สถานที่สำ�หรับรองรับหรือรอทำ�ร้ายผู้คน เพียงเพราะเขาหรือเธอ
“ไม่รักเจ้า” หรือ “ไม่รักใคร” คนเดียวกับที่พวกคุณรักหรอก ...
การแช่งให้คนโน้นคนนี้ตกนรกกันมั่วๆ แบบคุณทำ�เนี่ย คิดหรือว่าผู้คนที่ตั้งมั่น
อยู่ในความบริสุทธิ์ใจจะกลัว
คนในสมัยปัจจุบัน เขาอ่านหนังสือกันมากขึ้น เขาทำ�ความเข้าใจกับความเป็น
จริงของโลกและจินตนาการ และเขาสามารถที่จะลุกขึ้นมาวิเคราะห์ถึงนิยาม ความ
หมาย และที่มาของคำ�ว่า “นรก” และ “สวรรค์” กันได้แล้วครับ
การจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์​มันไม่ได้ตัดสินกันที่ว่า “รักเจ้า” หรือ “ไม่รักเจ้า”
หรอกนะครับ
มาขู่กันเรื่องจะตกนรกและจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์เพราะไม่รักเจ้านี่ เป็นคำ�ขู่ที่ตลก
จริง คุณต้องเป็นคนที่ไม่มึดบอดทางสติปัญญา ที่อยู่ในความกลัวว่านรกจะลงโทษ
เพราะทำ�ผิดคิดร้ายกับผู้คนเอาไว้มาก ถึงใช้คำ�ขู่นี้กับคนอื่น
พยายามละโมหะจริตต่างๆ ออกไปบ้างนะครับคนรักเจ้า เพราะ “คนไม่รักเจ้า”
ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร และถ้าได้นั่งคุยกัน โดยไม่มีกฎหมายมาตรา 112 ให้ท้ายพวก
คุณแล้วละก็ เราอาจจะเป็นเพื่อนกันได้ ... ก็ได้นะ!
50 51
ขอตอบตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม “ครับ มันหนักหัวผม” และ “หนักกระเป๋า” ด้วย!
งบจัดงานวันพ่อ ที่ต้องจัดทุกปี เพียงแค่ปีละไม่กี่ล้านก็หนักหนากับประชาชนแล้ว ยิ่งไม่
ต้องพูดถึงว่างานวันพ่อวันแม่ตลอดช่วงความวุ่นวายทางการเมือง ใช้เงินงานละไม่ตํ่ากว่า 500
ล้านบาท/งาน
ประเทศที่มีกษัตริย์ประเทศอื่นๆ ที่รวยกว่าประเทศไทยอีก ก็ยังไม่ใช้เงินภาษีประชาชนจัด
งานวันพ่อกันทุกปีอย่างหรูหราเช่นประเทศไทย ที่ประชาชนยังยากจนอยู่มากเช่นนี้
และก็อยากชวนให้ดูงบประมาณแผ่นดินที่ใช้เพื่อสถาบันกษัตริย์ และเพื่อการรักษาพระ
เกียรติสถาบันกษัตริย์ของไทย (ในภาพประกอบด้านบน) งบวังนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี และภายในเวลา
แค่ 4 ปีตั้งแต่ปี 2554 - 2558 นั้น เพิ่มงบประมาณกันถึงเกือบเท่าตัว ...
นี่จึงเป็นสิ่งเรื่องสำ�คัญ ที่ประชาชนต้องตรวจสอบสถาบันกษัตริย์ได้ เพราะสถาบันกษัตริย์
ก็ได้รับการเลี้ยงดูจากงบประมาณภาษีที่เก็บจากประชาชน!
52 53
ถ้าท่านอ่านข้อเขียนในเล่มนี้มาจนถึงหน้านี้ได้ ก็คงรู้แล้วว่า
ผมและคิดว่าสหายหลายคน ที่ถูกคณะรัฐประหารและพวกรอยัลลิสต์
ฟาสซิสต์ ปรักปรำ�ว่า “ล้มเจ้า” ต้องเจอะเจอกับคนคลั่งไร้สติด่าทอ
อย่างหยาบคายกันมากขนาดไหน และอย่างไรบ้าง
นี่เป็นตัวอย่างที่ยกมาให้ดู หลายคนเหล่านี้ ยังดูเป็นเด็กๆ และ
มีผู้ชายที่เข้ามาทำ�ตัวกร่างขู่ผมเยอะกว่าผู้หญิงด้วย
ผู้ชายไทยอาจจะเคยชินกับการใช้อำ�นาจบาตรใหญ่เอากับผู้
หญิง เมื่อมีการเปิดช่องให้สามารถเถื่อน ถ่อย และกร่างได้ ก็กระทำ�
กันอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง โดยเฉพาะกับมนุษย์เพศหญิง
ผมอยากฝากพวกผู้ชายทั้งหลายว่า ประเทศไทยเป็นของ
มนุษย์เพศหญิงและเพศชายเท่าๆ กัน พวกเรามีภาระหน้าที่ที่จะ
ต้องเรียนรู้การเป็นสุภาพชน และเคารพกันและกันว่าเป็น “คนเท่า
กัน” ไม่ว่าจะมาจากเพศไหน เพื่อจะได้นำ�พาชาติไปด้วยกันอย่างเท่า
เทียม
การใช้ความเป็นชายมาข่มขู่ระรานคนอื่นแบบนักเลงโต ปาก
เปราะ หยาบคาย และไร้หัวคิด เช่นนี้ มันไม่น่ารักเลย และยังโชว์ว่า
พวกท่านนั้น เป็นคนไร้การศึกษา ไร้ความคิด และไร้เหตุผล อีกด้วย!
54 55
ผมหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับคนอย่างพวกคุณที่มาขู่ฆ่ากันอย่าง
โจ่งแจ้งเช่นกัน เพราะผมไม่ต้องการเอาชีวิตผมไปสังเวยให้ความคลั่งไร้สติเช่น
ที่พวกคุณแสดงออกมา
ชีวิตใครใครก็รัก และผมก็รักชีวิต แต่ผมจะไม่ยอมหลบตัวลีบในซอก
หลืบ ณ มุมใดมุมหนึ่งในประเทศไทยอย่างอดสู เพราะความกลัวอันตรายจาก
การถูกทำ�ร้ายจากคนคลั่งรักเจ้าอย่างพวกคุณ
ผมเลือกที่จะมาทำ�งานและใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีในประเทศอื่นที่ไม่ใช่
ประเทศไทย เพื่อที่่ผมจะไม่ต้องพบเจอกับการถูกขู่ฆ่า ขู่ทำ�ร้ายร่างกาย หรือขู่
จะแจ้งความจับผมโยนเข้าห้องขัง เพียงเพราะว่าวิจารณ์กษัตริย์ไทยอย่างตรง
ไปตรงมา ด้วยความหวังดีและอยากเห็นประเทศไทยพัฒนา
เป็นความหวังดีเดียวกันกับที่พวกคุณใส่พานถวายกษัตริย์ไทย และฝาก
ภาระในการนำ�พาชาติไว้กับสถาบันกษัตริย์เท่านั้น ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ผมไม่เห็น
ด้วยเป็นอย่างมาก
ผมเชื่อว่าการจะนำ�พาประเทศชาติพัฒนา ประชาชนทั้ง 66 ล้านคนใน
ประเทศไทยต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ เพื่อร่วมกัน
พัฒนาชาติให้ก้าวหน้าได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
สิ่งที่พวกคุณคนรักในหลวงกำ�ลังทำ�อยู่นี้ ด้วยการตามรังควาญและ
ข่มขู่คุกคาม ผู้คนที่กำ�ลังใช้ความรู้ความสามารถของพวกเขาเพื่อร่วมพัฒนา
ประเทศไทย เป็นการกระทำ�ที่รังแต่จะดึงประเทศไทยให้ถอยหลัง และล้าหลัง
เพื่อนบ้าน เป็นการทำ�ลายความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
56 57
พวกคุณที่อ้างว่าคนรักในหลวง เป็นคนที่รู้จักบุญคุณคนเท่านั้น
พวกคุณกำ�ลังโกหกและตอแหลอย่างที่สุด
เพราะถ้ารู้จักบุญคุณคนจริง พวกคุณจะต้องไม่มีพฤติกรรม
แบบนี้อย่างแน่นอน เพราะแผ่นดินไทยก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาด้วยนํ้า
พักนํ้าแรงของคนทั้งประเทศ ที่ทั้งเป็นกลุ่มคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ
จากคนเมืองหลวง และพวกนายทุนและนายจ้างหน้าเลือด
ชาวบ้านที่เลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ให้พวกคุณประท้วงและล้ม
เลือกตั้งมาหลายครั้ง เป็นกลุ่มคนที่ถูกรีดภาษีทางอ้อมหลายด้าน
รวมทั้งถูกดูดทรัพยากรจากชนบททั่วประเทศไทยเพื่อมาหล่อเลี้ยง
วังหลวงและคนในเมืองหลวงให้สุขสบาย
ถ้าคนที่อ้างว่าตอบแทนบบุญคุณแผ่นดิน แต่ไล่ด่า ไล่คุกคาม
คนที่กำ�ลังต่อสู้เพื่อให้ประเทศไทยรู้จักสำ�นึกบุญคุณชาวบ้าน และ
ตอบแทนบุญคุณชาวบ้านกันบ้าง พวกคุณกำ�ลังโกหกและหลอกลวง
ประเทศไทยไม่ใช่เป็นของพระมหากษัตริย์ ดังเช่นที่ผมพูดมา
หลายครั้งแล้้ว แต่เป็นประเทศของคนทั้ง 65 ล้านคน
คนรักในหลวงไม่มีสิทธิมาไล่ใครออกจากประเทศไทย เพียง
เพราะคุณคิดว่าพวกเขาไม่จงรักภักดีในหลวงอย่างเกินพอ เช่นพวก
คุณต้องการ ... เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนรักในหลวงเท่านั้น!
58 59
ถ้าคุณอ่านคำ�ตอบโต้ของผมเล่มนี้มาจนถึงบัดนี้ คุณคงเห็นแล้วนะว่า
พวกคุณคนคลั่งเจ้านั้น “ถ่อย” กันซะขนาดไหน และก็คงเห็นเช่นกันว่า ผมไม่
ได้ถ่อยหยาบคายตอบโต้พวกคุณเลย และพยายามชวนพวกคุณมาคุยกันด้วย
เหตุด้วยผลอยู่ตลอดเวลา
ผมเชื่อว่า ถ้าสถาบันกษัตริย์ไม่ได้เป็นเครื่องมือ ที่ใช้คุ้มครองคนกลุ่ม
หนึ่งในประเทศไทย ที่ฉกฉวยและใช้ประโยชน์ในการได้รับความคุ้มครองอย่าง
“ผู้ใดจะละเมิดหรือฟ้องร้องใดๆ มิได้” เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีและความเป็น
อภิสิทธิชนให้กับตัวเองและเพื่อชนชั้นสูงเท่านั้น
ประเทศไทยเจริญพัฒนากว่านี้แน่นอน และจะเจริญและพัฒนามานาน
แล้วด้วย
ผมเขียนถึงมาหลายครั้งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เข้าร่วมเป็น
สมาชิกองค์กรสหประชาชาติในลำ�ดับที่ 55 แต่ปัจจุบัน ดัชนีชี้วัดการพัฒนา
ของประเทศไทยโดยสหประชาชาติลดลงมาเป็นลำ�ดับจนมาอยู่ในลำ�ดับที่ 89
ของโลกเช่นปัจจุบัน
ประเทศไทยมีอัตราการทำ�รัฐประหารสูงที่สุดในอาเซียน และมีช่องว่าง
รายได้ระหว่างคนจนและคนรวยสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก ในขณะเดียวกัน
ระบบการศึกษาไทยก็ค่อยๆ ด้อยกว่าประเทศอาเซียนลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน
ประชาชนคนไทย จะต้องทนเห็นประเทศไทยล่มจมและพินาศไปเรื่อยๆ
ถึงขึ้นไหน ถึงจะรู้สึกว่า “การเสียสละพัฒนาการของประเทศเพื่อสถาบัน
กษัตริย์” มันถึงจุดที่ต้องบอกว่า “พอได้แล้ว”
60 61
ผมตอบพวกคุณมาเยอะแล้ว
สำ�หรับคุณ “๙ ทรงพระเจริญ” อีกคนหนึ่งนี้
ผมแทบจะไม่มีอะไรจะพูดกับคุณเลย
เพราะความหยาบสถุนของภาษาเขียนของคุณ
ก็คงทำ�หน้าที่ประจานตัวคุณเองไปเรียบร้อยแล้ว
โดยที่ผมไม่ต้องลุกขึ้นมาเขียนอะไรเพิ่มเติม
แต่ขอฝากไว้อย่างหนึ่งว่า
อย่าได้ไปด่าพ่อด่าแม่ใครแบบนี้กันโดยไม่ระมัดระวัง
ลูกของคนมีพ่อมีแม่คนอื่น
เขาอาจจะไม่ใจเย็นเช่นผมก็ได้
โดยเฉพาะถ้าเขารักและเคารพพ่อแม่ของเขามากๆ
เช่นเดียวกับที่คุณอ้างความรัก “ในหลวง”
มาถ่อยสถุนใส่เขาแบบที่ที่ใส่กับผมเช่นนี้
ขอเตือนด้วยความหวังดี!
62 63
นี่คุณยกความดีทุกเรื่องในจักรวาลให้กับสถาบันกษัตริย์หมดเลยหรือ
ตาคุณนี่บอดสนิทจริงๆ
คุณไม่รู้หรือว่า นานาชาติเขาเอือมระอากับพฤติกรรมของวิถีกษัตริย์ไทย
กันแค่ไหน ที่ไม่เคยปกป้องประชาธิปไตย ไม่เคยปกป้องชีวิตประชาชน แถมยัง
กอบโกยเอาจากภาษีประชาชนอย่างไม่มีความละอายใจเช่นนี้
แม้ไปเมืองนอก ก็ยังไม่มีความละอายใจ ยังไปโชว์ประเพณีมอบกราบและ
หรูหราฟุ่มเฟือยที่เมืองนอกจนสื่อต่างชาติออกข่าววิจารณ์กันอยู่เนืองๆ
ยิ่งเมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ ผมกล้ายืนยันว่า ถ้าสถาบันกษัตตริย์ไม่ได้ให้
ความร่วมมือกับทหารทำ�รัฐประหารมา 11 ครั้งเช่นนี้ ประเทศไทยพัฒนาเจริญ
มากกว่านี้มากมาย
ถ้าไม่มีพวกคุณคนคลั่งเจ้า มาประท้วงขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตอนนี้มั่นคงและมีเสถียรภาพ และเจริญกว่า
ปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน
ผมยืนยันว่า ถ้าไม่มีกษัตริย์ ประเทศไทยก็อยู่ได้ และ ณ ยามนั้น ประชาชน
ในประเทศไทยจะอยู่กันอย่างรู้จักเคารพในความเป็นมนุษย์ของคนอื่นมากกว่านี้
และมีความอดทน อดกลั้น ต่อกันได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ณ ปัจจุบันนี้ สถาบันกษัตริย์ไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงลงเรื่อยๆ ก็เพราะมีคนคลั่ง
เจ้าที่หูหนวกตาบอดเช่นพวกคุณนี่ล่ะ ที่รักเจ้ากันอย่างบ้าคลั่ง
“เมื่อกษัตริย์หูเบา ราชวงศ์์ก็พิพาศด้วยตัวเอง” ไม่ใช่เพราะผม หรือ
เพราะคนไม่รักเจ้าหรอก ...
คนไม่รักเจ้าเป็นปลายเหตุ ต้นต่อแห่งความล่มสหายของสถาบันกษัตริย์ เกิด
จากความไม่พัฒนาตัวเองของสถาบันฯ!
64 65
เมื่อมาถึงวันนี้ คุณคงไม่ถามแหล่งข้อมูลผมแล้ว เมื่อหลังจากปิดกันไม่
มิด เพราะโลกออนไลน์ต่างก็แชร์กันกระหน่ำ� ข่าวอย่างเป็นทางการของราช
สำ�นักก็ออกมาเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน
หลายเรื่องก็มีเอกสารอ้างอิงมากมาย ในงานเขียนของผมก็อ้างอิงแหล่ง
ที่มาเต็มไปหมด ว่างๆ คุณลองไปหางานเขียนของผมมาอ่านบ้าง เราอาจจะ
ได้รู้จักความคิดกันมากขึ้น
พักเรื่องคำ�หยาบคายของคุณไว้ก่อนแล้วกัน เพราะผมเหนื่อยจะตอบใน
เรื่องนี้แล้ว และก็ตอบไปเยอะแล้วในหน้าที่ผ่านมา
ขอตอบประเด็นว่า ผมเคยเดินทางเพื่อไปดูความทุกข์สุขของประชาชน
คนไทยเหมือนกษัตริย์หรือเปล่า ผมขอตอบอย่างไม่อ้อมค้อมว่า ตลอดชีวิต
การทำ�งาน 25 ปีของผมนั้น ผมเดินทางไปดูความเป็นอยู่ของประชาชนคน
ไทยในเกือบ 70 จังหวัดทั่วประเทศไทย บางครั้งก็ไปรถเมล์ ไปรถไฟ หรือ
ขับรถไปเอง ส่วนใหญ่จะไปเยี่ยมและนอนค้างบ้านชาวบ้าน ชาวบ้านกินอยู่
อย่างไร ผมก็ทำ�แบบนั้น โดยไม่ต้องมีพิธีรีตรอง โดยไม่ต้องจัดงานต้อนรับ
โดยไม่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านชาวช่องมานั่งรอขบวนเสด็จกันเป็นครึ่งค่อนวัน
และผมก็ไม่ใช่คนเดียวด้วยที่เดินทางไปเพื่อพยายามช่วยชาวบ้านแก้ไข
ปัญหาต่างๆ มีคนเยอะมากที่ทำ�งานแบบผม ที่พยายามจะช่วยแก้ไขปัญหา
ความยากจน ปัญหาความอยุติธรรมต่างๆ ในประเทศไทย
ขอพูดตรงๆ เลยว่า ไม่ใช่กษัตริย์เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่มีสิทธิ์พูดว่า
ห่วงใยประเทศไทย คนไทยจำ�นวนเยอะมากก็ห่วงใยประเทศไทย และทำ�งาน
กันทั้งชีวิตเพื่อประเทศไทย หลายคนแม้ชีวิตก็เสียสละชีวิตเพื่อประเทศไทย!
66 67
เรื่องราคายางก็คงไม่ต้องพูดมากแล้วนะเพราะสื่อต่างๆ ก็
รายงานว่าชาวสวนอย่างถึึงขนาดประท้วงด้วยชีวิตกันหลายคนแล้ว
ในชีวิตนี้คุณเคยเห็นชาวสวนยางประท้วงราคายางตกตํ่าจนถึง
ขั้นฆ่าตัวตายมาก่อนหรือเปล่า ชาวสวนยางขาดทุนจนฆ่าตัวตาย
หรือต้องตัดไร่ยางทิ้งกันแล้วตอนนี้ คุณคงทราบดีแล้วนะ
ผมก็อยากให้คุณลองตอบคำ�ถามดูอย่างจริงจังนะว่า ที่
ประเทศไทยยากจน มีแต่ความทุกข์ และเจอภัยพิบัติมากมาย ...
กษัตริย์ที่เป็นประมุขประเทศไทยมาอย่างยาวนาน 68 ปี ไม่
ต้องรับผิดชอบเลยหรือ แล้วความผิดทั้งหมดเกิดจากครม. 60 คณะ
ด้วยนายกรัฐมนตรีในพระปรมาภิไธยถึง 29 คน หรือ ตระกลูชินวัตร
ตระกูลเดียวต้องรับผิดชอบความเสียหายของประเทศไทย จริงหรือ
พวกคุณจะยกทุกความดีในประเทศไทย และตีกันกษัตริย์
ในฐานะประมุขของประเทศ ออกจากความรับผิดชอบงทั้งมวลต่อ
ความผิดพลาดทั้งหลายของการพัฒนาประเทศ ไปให้กับ ครม. ของ
นักการเมือง ที่มาจากการเลือกตั้งเพียงลำ�พังได้จริงหรือ?
68 69
จากการที่ต้องพบเจอกับคนคลั่งเจ้าและคนรักสถาบันอยู่เนืองๆ ผมเลยทำ�เส้นความรักและความคลั่งออกมา
คุณอยู่ตรงจุดไหน?
รักสถาบันกษัตริย์
รักในหลวง
รักพระเทพฯ
รักพระบรมฯ
มีเหตุผล
รักแบบไม่มีเหตุผล
คลั่งเกือบมาก
แตะต้องไม่ได้
เคลื่อนไหว
ปกป้องสถาบันฯ
คลั่งมาก
ลุกขึ้นมาตามล่า
คนที่ไม่รักในหลวง
และโยนเข้าคุก 112
คลั่งโหดมาก
ต้องตามด่าและ
ตามขู่ฆ่าคน
ที่ไม่รักฯ•	 เริ่มศึกษาถึงที่มาของ
การวิพากษ์วิจารณ์
สถาบันกษัตริย์
•	 เริ่มเปิดใจดู
สถานการณ์บ้านเมือง
อย่างตรงไปตรงมา
•	 เริ่มยอมรับความคิด
เห็นต่าง
ถ้าไม่รัก ...
กล้วว่าเป็นคนไม่ดี
กลัวว่าคนจะไม่รัก
กลัวว่าจะถูกกฎหมายลงโทษ
กลัวว่าจะถูกกฎหมู่ลงโทษ
กลัวว่าจะตกนรก
กลัวว่าจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์
กลัวว่าขี้กลากจะขึ้นหัว
กลัวว่าเหาจะกินหัว
กลัวว่าเทวดาฟ้าดินจะลงโทษ
ฯลฯ
เพราะ ...
กลัวจะเสียสิทธิประโยชน์
กลัวเสียความเป็นอภิสิทธิชน
กลัวจะถูกปฏิรูปองค์กร
กลัวไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล
ต้องก่อม็อบ ... พธม ... กปปส. ...ม๊อบสี
เครือข่ายพิทักษ์สถาบันฯ / องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน
ไม่รักสถาบันกษัตริย์
ทหาร
70 71
บทส่งท้าย
หนังสือเล่มเล็กนี้ คือการพยายามตอบข้อความที่คนคลั่งเจ้าส่งมาด่าว่า
หรือข่มขู่ผมที่เฟซบุ๊ค ที่คัดเลือกจากที่ส่งมาหาผมที่เฟซบุ๊ค
หลังจากพยายามคุยเป็นการส่วนตัว ผมค้นพบว่า การต่อความยาวสาว
ความยืดหรือตอบโต้กับพวกเขาเป็นการส่วนตัว ไม่เกิดประโยชน์ใดเลย เพราะ
พวกเขาอยู่ในโลกของตรรกะเหตุผลที่กลับด้าน ชนิดที่เรียกว่า ในทุกกรอบ
ความคิด หรือทุกทฤษฎี ... หรือว่าจริงๆ แล้ว พวกเขาไม่มีกรอบความคิด
หรือทฤษฎีใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากยึดติดในความคิดความเชื่อที่ไม่ตรวจสอบ ไม่
ต้องการตรวจสอบ และ/หรือไม่ต้องการให้ถูกตรวจสอบ
ผนวกกับความดันทุรังเพื่อจะเอาชนะโดยไม่สนใจหลักคิดหรือสิทธิ
มนุษยชนใด พวกเขาทำ�ตัวเป็นดั่งศาลเตี้ยที่จะพิพากษาลงโทษหรือทำ�ร้ายใคร
ก็ได้ ในประเทศที่กฎหมายไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้ประชาชนทุกคน
อยู่ภายใต้ความยุติธรรมมาตรฐานเดียวกัน และผู้คุมกฎหมายยังได้ให้ไฟเขียว
กับคนคลั่งเจ้าในการแสดงความคลุ้มคลั่งกับใครก็ได้ในนาม “รักในหลวง”
ด้วยเหตุนี้ การตอบโต้กับพวกคนคลั่งเจ้าจึงเป็นการเสียเวลาโดยไม่
จำ�เป็น ผมจึงเลือกที่จะคัดเลือกข้อความมาตอบโต้ในหนังสือเล่มนี้
ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเป็นการประจาน แต่เพื่อนำ�มาให้
สาธารณชนได้เห็น ได้ศึกษา เพราะตัวอย่างที่ผมยกมา เป็นสิ่งที่คนไทย
จำ�นวนมาก ต้องเผชิญกับมันกันมาหลายปี และทั้งนี้ ผมก็เขียนและเผยแพร่
หนังสือตอบโต้คนคลั่งเจ้าเล่มเล็กนี้ เพื่อตอบประเด็นทีชาวรอยัลลิสต์นิยม
ใช้กันกับผู้คนที่พวกเขาโจมตรี รวมทั้งเพื่อส่งสาส์นไปยังผู้คนในสังคมที่มี
ทัศนคติเลวร้ายกับผม เพราะหลงเชื่อคำ�ถูกโจมตีใส่ร้ายจากคนคลั่งเจ้า
กระนั้น ในความเป็นปัจเจก ผมก็เชื่อว่า ชาวรอยัลลิสต์คนคลั่งเจ้าหลาย
คน ก็เป็นคนเหมือนเราๆ ท่านๆ ไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายและป่าเถื่อน
แต่เพราะพวกเขาตกอยู่ในสงครามจิตวิทยา “พิทักษ์เทิดทูนและปกป้อง
สถาบันกษัตริย์” ที่มอมเมาพวกเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันมาอย่างยาวนาน ทำ�ให้
พากันหวาดกลัว ต่อสภาวะเปราะบางแห่งการสูญเสียกษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง
จนต้องลุกมาหมายหัว “คนอื่น” ที่ไม่ได้คิดและเชื่อเช่นเดียวกับตนเอง ราวกับ
ว่า ไม่ใช่เป็นมนุษย์ร่วมชาติหรือร่วมโลกเดียวกันกระนั้น
ในการพยายามหาเหตุผลอธิบายในความรักเจ้า พวกคนคลั่งเจ้า สนใจ
จะฟังแต่ข้อมูลด้านเดียว และเผิกเฉยต่อเสียงทัดทานทักท้วงหรือคำ�วิจารณ์
ทุกด้าน ประหนึ่งกลัวว่า มันจะเป็นเข้มที่บาดคม ที่จะมาทิ่มแทงลูกโป่งแห่ง
ความเชื่อที่เปราะบางของพวกเขาให้แตกสลายไปต่อหน้าต่อตา
ผมเข้าใจว่าพวกท่านกลัวว่าความเชื่อความรักที่ทุ่มเทให้กับ “ในหลวง”
จะสลายไป และพวกท่านกลัวการสูญเสียที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ... ความกลัวที่
กำ�ลังทำ�ให้ผู้คนในสังคมยิ่งพากันร้อนรนอย่างหลงทิศหลงทาง ความรักกำ�ลัง
ราดนํ้ามันบนกองไฟแห่งโมหะจริต
เราจะหยุดมันได้ก็ด้วยการเปิดใจรับฟังข้อมูลรอบด้านมากขึ้น และทำ�ใจ
ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความอดทนอดกลั้นระหว่างกันมากขึ้น เพื่อ
จะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และสงบสุข.
72

More Related Content

PDF
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
PDF
เล่มที่ 9 ชาวบ้านบางระจัน
PDF
เล่ม 2 อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
PDF
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
PPTX
โคลนติดล้อ ๑
PDF
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
PDF
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
PDF
เล่ม 1 ตำนานหมู่บ้านป่าคาตำบลแม่เงิน
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
เล่มที่ 9 ชาวบ้านบางระจัน
เล่ม 2 อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
โคลนติดล้อ ๑
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เล่ม 1 ตำนานหมู่บ้านป่าคาตำบลแม่เงิน

What's hot (19)

PDF
นัด
PDF
เล่มที่ 3 แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของเชียงแสน
PDF
เล่มที่ 11 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
PDF
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
PDF
เล่มที่ 10 พระยาพิชัยดาบหัก
PDF
เล่มที่ 5 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง)
PDF
เล่มที่ 4 โบราณสถานที่สำคัญของเชียงแสน
DOC
ตั้งฮั่น
PDF
เม็งราย
PDF
ภาษาไทย สำนวนไทย
PDF
เล่มที่ 8 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
PPT
thai
PPT
ภาษาไทย สำนวนไทย
PDF
คำอริยะถึงในหลวง
DOC
ไทยเตะเขมร
PPT
Pptลิลิตตะเลงพ่าย
PDF
PDF
สงครามนกกระสา
นัด
เล่มที่ 3 แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของเชียงแสน
เล่มที่ 11 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 10 พระยาพิชัยดาบหัก
เล่มที่ 5 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง)
เล่มที่ 4 โบราณสถานที่สำคัญของเชียงแสน
ตั้งฮั่น
เม็งราย
ภาษาไทย สำนวนไทย
เล่มที่ 8 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
thai
ภาษาไทย สำนวนไทย
คำอริยะถึงในหลวง
ไทยเตะเขมร
Pptลิลิตตะเลงพ่าย
สงครามนกกระสา
Ad

More from Junya Yimprasert (14)

PDF
One year after 2014’s military coup in Thailand: suffering and resistance
PDF
สลายหมอกควันเพื่อเห็นทางออกประเทศไทย
PDF
งบประมาณแผ่นดิน
PDF
การศึกษาสำหรับผู้ถูกกดขี่ - Pedagogy of the oppressed
PDF
60 years of suppression and oppression in thailand (thai)
PDF
Enough;time to fight back
PDF
รวมข้อเขียน Facebook2012
PDF
เอาชนะความกลัวพระบรมเดชานุภาพ
PDF
ไพร่สู้: บนเส้นทาง 78 ปีประชาธิปไตยไทย
PDF
บันทึกโลกาภิวัฒน์ เรียนรู้โลก-เพื่อรู้จักตัวเอง-และเตรียมรับวิกฤติ
PDF
กำไรสูงสุด กำไรจากการกดขี่แรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มโลก
PDF
ไม้ขีดก้านเดียวที่เปลี่ยนสังคมเกาหลี: ชีวประวัติชุน เต-อิล
PDF
กว่าจะพูดออกมาได้ว่า ทำไมถึงไม่รักในหลวง
PDF
หนังสืองานศพแม่
One year after 2014’s military coup in Thailand: suffering and resistance
สลายหมอกควันเพื่อเห็นทางออกประเทศไทย
งบประมาณแผ่นดิน
การศึกษาสำหรับผู้ถูกกดขี่ - Pedagogy of the oppressed
60 years of suppression and oppression in thailand (thai)
Enough;time to fight back
รวมข้อเขียน Facebook2012
เอาชนะความกลัวพระบรมเดชานุภาพ
ไพร่สู้: บนเส้นทาง 78 ปีประชาธิปไตยไทย
บันทึกโลกาภิวัฒน์ เรียนรู้โลก-เพื่อรู้จักตัวเอง-และเตรียมรับวิกฤติ
กำไรสูงสุด กำไรจากการกดขี่แรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มโลก
ไม้ขีดก้านเดียวที่เปลี่ยนสังคมเกาหลี: ชีวประวัติชุน เต-อิล
กว่าจะพูดออกมาได้ว่า ทำไมถึงไม่รักในหลวง
หนังสืองานศพแม่
Ad

คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย

  • 2. 2 3 ความเป็นมา นับตั้งแต่เขียนบทความ “ทำ�ไมถึงไม่รักในหลวง” เมื่อปี 2553 และบทความและ รายงานอีกหลายชิ้นที่เขียนตามมาหลังจากนั้น ผมก็ต้องเผชิญกับการข่มขู่คุกคาม ทางโลกออนไลน์ รวมทั้งการเสียบประจานจากคนกลุ่มที่อ้างว่ารักในหลวงและ แสดงออกถึงความรักในหลวงมากกว่าปกติ (ขอใช้คำ�ว่า “คนคลั่งเจ้า” และ ‘สื่อคลั่ง เจ้า’) อยู่บ่อยครั้ง ยามที่ต้องเผชิญหน้ากับคำ�ด่าอย่างหยาบคาย และคำ�ขู่ต่างๆ ในช่วงแรกๆ ผมก็รู้สึกตกใจ เป็นวิตกกังวล และก็หวั่นเกรงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้า จะต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ แต่เมื่อต้องพบเจอกับมันบ่อยขึ้น ก็เริ่มเรียนรู้ เข้าใจ และกลายเป็นความ เห็นใจคนเหล่านี้แทน ... จากการคิดที่จะตอบโต้พวกเขาประเภท “แรงมาก็แรงไป” ก็เริ่มปรับมาเป็น ว่า ถ้าคนคลั่งเจ้ามาข่มขู่ด่าทอกันอย่างหยาบคาย ผมก็จะพยายามนำ�มาตอบ (โต้) รวมกันในหนังสือเป็นเล่มด้วยกันไปเลย จะได้ตอบโต้ได้ครอบคลุม และเพื่อที่ผู้คนใน สังคม จะได้เรียนรู้และทำ�ความรู้จักคนคลั่งเจ้าไปด้วย ในการตอบโต้คนที่เข้ามาด่าทอผมในเล่มนี้ ผมก็อยากเชิญชวนทุกท่านไป ดาวน์โหลดหนังสือ “คำ�ตอบ (โต้) กับคนรักสถาบันฯ จากคนรักประชาธิปไตย” (http://junyayimprasert.blogspot.fi/2013/03/blog-post_9937.html) มาอ่าน ประกอบด้วยก็จะดี เพราะหลายประเด็นที่คนคลั่งเจ้ากังขานั้น ได้ถูกตอบไปแล้วใน หนังสือเล่มแรกไปแล้ว ในหนังสือ “คำ�ตอบ (โต้) กับคนคลั่งเจ้า” เล่มนี้ ผมคัดเลือกคำ�ต่อว่าด่าทอ ต่างๆ ที่ส่งมาให้ผมทางกล่องข้อความในเฟซบุ๊คของผมมาตอบ เพื่อยกเป็นกรณี ตัวอย่างให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ในสภาพการเมืองปัจจุบันที่คนที่ลุกขึ้นมาวิพากษ์ วิจารณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา (ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องวิพากษ์ทุกสถาบันฯ รวมทั้งสถาบันกษัตริย์) พวกเราต้องรับมือกับความไร้สติของคนคลั่งเจ้ากันมากแค่ ไหน และต้องรับมือกันอย่างไรบ้าง และเพื่อจะบอกกับคน “รักในหลวง” ที่ “คลั่งอย่างหนัก” ว่า การจะลุกขึ้นมา วิจารณ์ใครนั้น มันก็ต้องมีการใช้เหตุใช้ผล และก็ต้องรับผิดชอบกับข้อเขียนหรือ การกระทำ�นั้นๆ ด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าคนคลั่งเจ้า หรือ คนไม่คลั่งเจ้า ความเป็นมนุษย์มันก็เท่ากัน และ มันมีขอบเขตที่จะกระทำ�ได้ในสังคมไทยและสังคมโลก ถึงแม้จะดูเหมือนว่าผู้คนใช้สัญลักษณ์ “รักเจ้า” จะสามารถแสดงความคลั่งได้ อย่างไร้ขอบเขตในประเทศไทยก็ตามที (ณ ยามนี้) แต่ผมขอยืนยันว่า ความคลั่งเจ้า อย่างป่าเถื่อนและละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับ ทั้งในดิน แดนราชอาณาจักรไทย หรือในต่างแดน ที่พวกท่านนั้นเป็นตัวตลกที่น่าสมเพชมาก ขนาดไหนในสายตาคนต่างชาติ หวังว่าหนังสือเล่มนี้ จะช่วยส่องสะท้อนให้เห็นความโหดร้ายและหยาบคาย ของกลุ่มคนที่อ้างว่า “รักในหลวง” กันได้บ้าง และหวังว่าคนรักเจ้า จะลุกขึ้นมา ปรับปรุงพฤติกรรม พร้อมกับ “ใส่ความเป็นมนุษย์” ลงไปในการแสดงความคิดเห็น กันมากขึ้น ด้วยความปรารถนาดี อยากเห็นประเทศไทยสงบสุข โดยที่สังคมอดทนอด กลั้นต่อความคิดเห็นที่ต่างกันได้มากขึ้น ... จรรยา ยิ้มประเสริฐ ...
  • 3. 4 5 ภาพประกอบในสอง หน้า ต่อไปนี้ เป็นการ รวบรวมถ้อยคำ�ด่าทอ คุกคาม และข่มขู่ของคน คลั่งเจ้าที่ส่งมาที่กล่อง ข้อความเฟซบุ๊คของ Junya Yimprasert
  • 4. 6 7
  • 5. 8 9 คำ�ตอบ(โต้)คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย เล่ม 2 28 ธันวาคม 2557
  • 6. 10 11 การตอบแบบด้วยเหตุด้วยผล คงเขียนได้ว่า ไม่มีใครในโลกนี้ไม่มีที่ยืน หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ทุก ประเทศในโลกได้ทำ�ข้อตกลงการอยู่ร่วมอย่างสันติ และร่วมกันก่อตั้ง องค์กรสหประชาชาติ (ที่ไทยก็เป็นสมาชิกอันดับที่ 55) ทั้งยังได้ร่วม ให้สัตยาบัน ‘ปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน’ เมื่อปี 2491 ที่ รับรองสิทธิและความเสมอภาคของคนทั่วโลก ที่เริ่มตันด้วยประโยคที่ว่า “โดยที่การยอมรับศักดิ์ศรีแต่กำ�เนิด และสิทธิที่เท่าเทียมกันและที่ไม่อาจ เพิกถอนได้ของสมาชิก ทั้งมวลแห่งครอบครัวมนุษยชาติ เป็นพื้นฐาน แห่งอิสรภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพในโลก” ทั้งนี้ 145 ประเทศในโลก ยังได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติ เมื่อปี พ.ศ.2494 ว่าด้วยเรื่องสถานภาพของผู้ลี้ภัย นั่นหมายความว่า คน ไทยที่ไม่อาจอยู่ในประเทศไทยได้เพราะความไม่ปลอดภัยและการไม่ได้ รับความยุติธรรม สามารถทำ�เรื่องขอลี้ภัยการเมืองได้ใน 145 ประเทศทั่ว โลก หรือจะตอบสั้นๆ แบบที่น้องอั้ม เนโกะ ตอบก็ได้ “แล้วที่กูยืนอยู่นี่ เขาเรียกว่าก้อนเมฆหรือคะ”
  • 7. 12 13 แหม ของอะไรขึ้นหรือครับ? ถ้าคุณฉลาดสักนิด คุณก็จะต้องอ่านและทำ�ความรู้จักเกี่ยวกับผมมาบ้าง ก่อนที่จะมาโพสต์ด่าและไล่กันให้ออกไป “จากแผ่นดินเสีย” เช่นนี้ และถ้าคุณทำ�ความรู้จักผมสักนิด คุณจะรู้ว่าผมวิจารณ์ทักษิณ ที่คุณ เรียกว่า “แม้ว” มาโดยตลอดเช่นกัน การด่าคนไม่รักในหลวงว่า ไม่กตัญญูรู้คุณ หรือพ่อแม่ไม่สอนให้รู้จัก กตัญญูต่อในหลวง นี่ก็เห็นนำ�มาใช้ด่าผมกันมากทีเดียว แต่ผมขอเกทับหน่อย ว่า พ่อแม่ผมฉลาดกว่าพ่อแม่คุณมาก เพราะพ่อแม่ผมไม่เคยสอนให้ลุ่มหลง มัวเมา ต่อเฉพาะ “กตัญญูกับกษัตริย์” โดยไม่เห็นหัวคนไทยคนอื่นเช่นนี้ พ่อแม่สอนผมให้รู้จักคุณค่าคนทำ�งาน ให้รู้จักซื่อสัตย์ต่อตัวเองและต่อ มนุษย์ผู้อื่น ให้รู้จักกตัญญูผู้ผลิตอาหารให้กิน ... และเพราะความกตัญญูรู้คุณ ผู้ผลิตอาหารให้ผมกิน ผลิตเสื้อผ้าให้ผมใส่ และผลิตสินค้าต่างๆ ให้ผมใช้่นี่ ล่ะ ผมจึงต้องลุกขึ้นมาทวงถามหาความยุติธรรมมาตรฐานเดียวกันของคนทุก คนในสังคม รวมทั้งเรียกร้องให้มีการจัดสรรทรัพยากรและกระจายความมั่งคั่ง และอยู่ดีกินดีอย่างเป็นธรรมกับทุกคนในประเทศไทย ผมทำ�หน้าที่ของผู้ที่กตัญญูรู้คุณแผ่นดิน และรู้คุณประชาชนในแผ่นดิน ไทย แต่คุณต่างหากที่กำ�ลังทำ�ร้ายแผ่นดินและคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการไม่รู้ จักคิดให้รอบคอบ และไม่คิดถึงหัวอกหัวใจของมนุษย์ร่วมแผ่นดินคนอื่น และ อ้อ ... ไอ้เรื่องเอะอะ ก็ไล่คนออกไปจากแผ่นดินไทย ผมก็ตอบไปหลาย ครั้งแล้ว ดูคำ�ตอบผมในหน้าถัดไป ...
  • 8. 14 15 นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน ก็ ไป “ดูไบ” ไปขออยู่เป็น “ขี้ข้าขี้ตีน ทักษิณ” ก็ได้... อย่าอยู่แม่งเลย - ประเทศไทย ที่นี่มันเป็นแผ่นดินของ คนที่ “รักในหลวง” (ที่มา: http://junyayimprasert.blogspot.fi/2014/11/blog-post.html) เท่าที่ผมทราบ ในรายงานของสำ�นักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ระบุว่า “ในปลายปี พ.ศ. 2556 สำ�นักงานทรัพย์สินฯ ถือครองอสังหา ริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด รวมพื้นที่ 41,000 ไร่” ทั้งนี้ที่ดินทั้งประเทศไทยมีจำ�นวน 320.70 ล้านไร่ มีโฉนดรวมทั้ง สิ้นประมาณ 16 ล้านฉบับ ซึ่งคงต้องร่วมโฉนดที่ดินของคุณอยู่ในนี้ด้วย แน่ๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคุณมีโฉนดที่ดินกี่ฉบับ (ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ ถัาคุณจะ อ่านหนังสือได้มากกว่าวันละ 3 บรรทัด http://tcijthai.com/tcijthainews/ view.php?ids=4799) เนื่องจากคนไทยทั้งหลายต่างก็ใช้เงินซื้อที่ดินและบำ�รุงรักษา กันเองถึง 15-16 ล้านฉบับเช่นนี้ ที่ดินเหล่านี้จะเป็นของในหลวงไป ได้อย่างไร แล้วคุณยินดีจะมอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตัวเองให้สำ�นัก ทรัพย์สินหรือไม่? แต่แหม! ถึงแม้ว่าคุณจะมุทะลุ ยอมยกให้จริงๆ ผมก็ไม่ยอมยกให้ สำ�นักงานทรัพย์สินนะครับ เพราะจนบัดนี้ผมยังใช้หนี้ที่กู้มาเพื่อซื้อที่ดิน ผืนนี้ยังไม่หมดเลย! (ไปอ่านคำ�ตอบฉบับเต็มได้ที่: http://junyayimprasert.blogspot. fi/2014/11/blog-post.html)
  • 9. 16 17 ผมอยากอยู่ประเทศไทย อยากเป็นอีกหนึ่งกำ�ลังที่มีศักยภาพและคุณภาพ เพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทย แต่ที่ไม่อาจอยู่ในประเทศไทย และต้องมาทำ�งานรณรงค์ เพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ต่างแดน เพราะผมไม่ต้องการใช้ชีวิตหรือทำ�งาน บนความหวาดกลัวว่าตำ�รวจและทหาร จะบุกมาจับตัวเข้าคุกเมื่อไร เพราะการถูก ฟ้องมาตรา 112 จากคนคลั่งเจ้า และก็ไม่ต้องการอยู่อย่างหวาดกลัวว่าจะถูกผู้่คน คลั่งเจ้าที่บ้าคลั่งมาทำ�ร้ายผม เรื่อง “เลียนแบบฝรั่ง” นี่เป็นคำ�ด่าแบบตามๆ กันมาโดยไม่ได้ใช้หัวคิด ตอนนี้นอกจากประชาธิปไตยแบบแบบไทยไทยแล้ว มีอะไรบ้างใน ประเทศไทยที่ไม่ได้เลียนแบบฝรั่งและต่างชาติ ตั้งแต่อาหารการกิน เสื้อผ้า อุปกรณ์ เครื่องใช้ รวมทั้งไฟฟ้าและอุปกรณ์ยานยนต์ต่างๆ รวมทั้งราชธรรมเนียมทั้งหลาย ที่ ต่างชาติพัฒนามาก่อนไทยเป็นจำ�นวนมาก แล้วไทยก็รับมาใช้อย่างหน้าชื่นตาบาน แถมยังไม่เคยพูดว่า “ต้องตอบแทนบุญคุณ” คนที่คิดค้นและพัฒนามันมาให้ไทยใช้ อีกต่างหาก คนไทยอยู่ได้เพราะพระมหากษัตริย์ หรือเพราะมีคนมากมายนับไม่ถ้วน ที่คิดค้นผลิตสินค้าต่างๆ มาให้เราใช้กัน ... อย่าลืมบุญคุณ คนงานในโรงงาน เกษตรกรหลายสิบล้านคนที่ทำ�งานกลางแดด เพื่อผลิตข้าวปลา อาหาร มาหล่อเลี้ยง ประชากรไทยและประชากรโลกกันบ้างนะ ผมยืนยันว่า คนไทยอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะพระมหากษัตริย์ แต่เพราะคนทั้ง ประเทศ 65 ล้านคน เพราะคนในภูมิภาคเอเชีย 600 ล้านคน และคนในโลก 7,000 ล้านคน ที่ร่วมกันเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้บริการต่างๆ เพื่อสร้าง ความสะดวกสบายให้กับชีวิตของทุกผู้คน ... ประเทศไทยคงจะน่านับถือขึ้นมาก ถ้าคนคลั่งเจ้าไทย จะรู้จักคิดถึงบุญคุณ คนอื่นบ้าง ไม่ใช่ยกความดีความชอบทุกอย่างให้กับ “กษัตริย์” เท่านั้น!
  • 10. 18 19 อยากจะเข้าใจตรงกับคุณนู๋ลูกตาล เหมือนกันนะ แต่ถ้าทางว่าจะเราจะ เข้าใจอะไรต่างกันมากเหลือเกิน กว่าเราจะเข้าใจตรงกันได้นี่ อาจจะอีกสิบหรือ ยี่สิบปี หรืออาจจะไม่มีโอกาสเข้าใจตรงกันได้เลย อืม อึม แต่ก็จะลองตอบประเด็นของนู๋ฯ นะ ... “อยากดังเหรอ” ก็อ่ะนะ ถ้าดังแล้วมีคนฟังผมมากขึ้น ติดตามอ่านความ คิดความอ่านผมมากขึ้น ผมก็อยากดังนะ อยากให้คนอ่านสิ่งที่ผมเขียนเยอะๆ “ว่่างมากรึไง” ... จริงๆ ก็ไม่ว่าง ่การศึกษาหาความรู้ และการเขียน หนังสือ เป็นงานของผม ไม่ใช่ทำ�เพราะว่าง แต่ทำ�เพราะผมเลือกที่จะทำ� ผมเห็นคนคลั่งเจ้าชอบด่าคนที่ไม่รักเจ้าว่า “สมองหมาปัญญาควาย” กัน เยอะนะนู๋ฯ ขอตอบตรงๆ เลยก็แล้วกันว่า ... เมื่อครั้งอดีตกาล ก่อนที่คนไม่รัก เจ้า จะเลิกรักเจ้า เขาจำ�นวนหนึ่ง ก็อาจจะเคยด่ากราดคนอื่นอย่างหยาบคาย แบบที่นู๋ฯ กำ�ลังทำ�นั่นล่ะ แต่พอเขาเริ่มใช้สมองคิดและศึกษาถึงเหตุผลจนได้ ข้อสรุปว่า “ไม่รักเจ้าก็ได้ ... ไม่รักเจ้าก็เป็นคน”​สมองของพวกเขาก็เริ่มพัฒนา จนกลายเป็นคนมีเหตุมีผลมากขึ้น ขอโทษนะ ... ถ้้าจะเลิกเป็นคนที่ฉลาดน้อย กว่า “หมาและควาย”​คุณนู๋ฯ คงต้องรีบศึกษามากกว่านี้แล้วล่ะ ผมแยกไม่ออกจริงๆ ว่านรกสวรรค์มันต่างกันตรงไหน โดยเฉพาะเมื่อ เห็นคนคลั่งเจ้ามองเห็นนรกเป็นสวรรค์กันอยู่เช่นนี้ ผมไม่ได้ดึงสถาบันตํ่าหรอก แต่สถาบันฯ ก็อยู่ตํ่าเท่ากับมนุษย์ทุกคนใน ประเทศไทยมาตั้งแต่ดึกดำ�บรรพ์แล้ว ... พวกคุณต่างหากที่มองสถาบันจาก ปลายเท้าที่มอบกราบ ก็เลยเห็นว่าสถาบันฯ สูงกว่าตัวเอง ... ลองยืนดูซิ แล้ว คุณจะเห็นว่าเท้าของสถาบันฯ ก็อยู่บนดินเช่นเดียวกับเท้าคุณนั่นล่ะ?
  • 11. 20 21 ผมก็อยากให้คุณเปิดตาดูความจริงอีกด้านหนึ่งด้วยว่า มีคนไทยจำ�นวน ไม่น้อยเหมือนกันที่ไม่ได้รักในหลวง และเขาก็ไม่ใช่คน “สารเลว” เพียงเพราะ ไม่ได้รักในหลวง อยากให้คุณเปิดตใจยอมรับได้บ้างว่า ไม่ว่า ผมหรือคนที่คุณด่าว่า “สารเลว” เพียงเพราะเขาประกาศตัวว่าไม่รักในหลวงนั้น เป็นคนทำ�ความดี เพื่อชาติบ้านเมืองกันมาอย่างยาวนานขนาดไหนเช่นกัน หลายคนเป็นครูบาอาจารย ์ที่พยายามใช้วิชาความรู้สั่งสอนลูกหลาน คุณให้เป็นคนมีความรู้ รู้จักใช้สติปัญญา และมีเหตุมีผล หลายคนเป็นคนที่เป็นสื่อมวลชน ที่พยายามทำ�หน้าที่สื่ออย่างตรงไป ตรงมา ครอบคลุมทุกมิติ โดยไม่ยอมก้มหัวให้กับการถูกบังคับให้ต้องเสนอ ข่าว “ด้านเดียว” ในประเทศไทย หลายคนเป็นคนพยายามทำ�งานช่วยเหลือคนหาเช้ากินคํ่าให้ได้รับ ความยุติธรรม และไม่ถูกนายจ้างหรือนายทุนเอาเปรียบ หลายคนเป็นนักศึกษา ที่การเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย ทำ�ให้เขาเห็นความ ซับซ้อนของปัญหาในประเทศไทย และเห็นว่าในวิถีโครงสร้างการเมืองศักดินา ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เรียกว่า “คนชั้นล่าง” คือผู้ที่ถูกเอารัดเอา เปรียบมากที่สุด แล้วพวกเขาไม่อาจนิ่งเฉยต่อพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบ เหล่านี้ จนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและสังคมเท่าเทียม หลายคนอาจเป็นลูกหลาน พี่น้อง และเครือญาติของคุณเอง ที่ทนไม่ ได้ที่จะเห็นคุณหยาบคาย และไล่บี้ด่าทอคนอื่นในนาม “รักในหลวง” เช่นนี้
  • 12. 22 23 โอโห คุณผู้ชายคนนี้นี่ปากจัด ด่าผู้หญิงที่ไม่เคยพบเจอกันได้เถื่อนมาก แต่ ... แหม! คุณเองก็อุตสาห์หนีความยากจนจากไทย จนยอมติดคุก ติดตารางที่สวิสฯ มาแล้วถึง 5 เมือง แถมยังม่ีหน้ามากรางขู่ทูตไทยที่สวิสฯ และคนไทยที่นั่น ฟอดๆ ว่า พร้อมจะตายและติดคุกสวิสฯ อีกครั้งเพื่อในหลวง อืม! อืม! คุณหนีความยากจนจากเมืองไทย มาอาศัยใบบุญของงบ ประมาณแผ่นดินของประเทศสวิสฯ น่าจะเข้าใจดีพอสมควรว่า เมืองนอกโดย เฉพาะในยุโรปน่ะ ... ไม่ยอมให้คนเร่ร่อนกันไม่ได้ง่ายๆ อย่างเด็ดขาด และ ทุกประเทศในยุโรป ก็มีนโยบายดูแลประชาชนที่อยู่อาศัยในประเทศของตัว เองด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีและเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะคนสวิสฯ หรือคนไทย หรือคนต่างชาติิที่ลี้ภัยมาอยู่ในประเทศเขา เมื่อเห็นคุณเขียนเองว่าติดคุกสวิสฯ มา 5 เมือง ผมก็พอจะเข้าใจได้ว่า การอยู่ในสวิสฯ แบบอดีตนักโทษแม้จะได้รับการดูแลดีกว่าคุกไทยก็ตาม ก็ อาจทำ�ให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่เท่าเทียมกับคนอื่น จนต้องหาที่พึงทางใจ ด้วยการขี่ความ “รักในหลวง” มาข่มขู่คุกคามคนไทยที่สวิสฯ เพื่อจะโชว์ความ เป็นนักเลงหัวไม้คอยระรานคน เพียงเพื่อกลบความขมขื่นของตัวเอง และเพื่อ จะได้ยก “ตัวตน” ของตัวเองขึ้นมาอยู่เหนือคนอื่นกับเขาบ้าง ต้องขอบอกจริงๆว่า คุณมันทั้งน่าสงสารและน่าสมเพช ที่แม้มีโอกาส ศึกษาหาความรู้แล้วยัง จมตัวเองไว้่กับการถูกมอมเมาในความรักในหลวงจน ตามืดบอด จนมโนคิดจินตนาการไปว่า คนที่คิดต่าง ต้องเป็น “ทาสทักษิณ” และคุณก็จะต้องไล่ล่า คุกคาม หรือข่มขู่จะเข่นฆ่าพวกเขาเช่นนี้!
  • 13. 24 25 ก่อนที่จะต่อว่ากันว่าวันๆ ทำ�ไมต้องโพสต์ด่าในหลวงด้วย ผมคิดว่าเราให้คำ� จำ�กัดความคำ�ว่า “ด่า” ต่างกันนะ เพราะถ้าคุณดู “สิ่งที่คุณและหลายคนเขียน ดังที่ผมยกมาอ้างนี้ อย่างนี้เขา เรียกว่า “ด่า” ครับ แต่สิ่งที่ผมเขียนถึงสถาบันกษัตริย์หรือเขียนตอบคุณอยู่นี้เรียก ว่าการ “วิจารณ์” ผมขอให้คุณที่รักในหลวง และอ้างว่าในหลวงพัฒนาประเทศชาติ และต่อว่า ผมและคนที่วิจารณ์ในหลวงอยู่ ณ​ขณะนี้ว่าคือคน “ทำ�ชาติล่มจม” คุณลองตอบ คำ�ถามข้างล่างนี้สักนิดนะ ก่อนจะโยนความล่มจมในชาติมาให้ผมรับเละเช่นนี้ ในหลวงมีเวลาถึง 70 ปี (มากกว่านักการเมืองทุกคน) ตลอดรัชสมัยที่ครอง ราชย์ ที่จะพัฒนาประเทศไทย ผมจึงขอถามคุณด้วยความสัตย์จริงว่า ... - ณ ยามนี้ประเทศไทยพัฒนาแท้จริงแล้วหรือยัง? - ประเทศไทยปราศจากความยากจนจริงหรือ? - ประชาชนทุกคนในประเทศไทยมีความสุขจริงหรือเปล่า? และ - ประเทศไทยปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยที่เคารพเสียงประชาชน ทุกคนหรือด้วยระบอบเผด็จการที่ปิดปากประชาชน? คุณอาจจะยังคงเถียงข้างๆ คูๆ ว่าที่ประเทศไทยไม่พัฒนาเพราะนักการเมือง ชั่ว เพราะข้าราชการเลว เพราะตำ�รวจคอรัปชั่น ขอให้คิดสักนิดว่า ... ในหลวงมีเวลายาวนานมาก ที่จะช่วยชี้แนะและกำ�กับรัฐบาล ทหาร ตำ�รวจ และข้าราชการ ให้ประพฤติตัวด้วยความเสียสละเพื่อบ้านเมือง ... ถ้าในหลวงเก่งจริง ฉลาดจริง และทำ�จริง ประเทศไทยจะต้องพัฒนาไปนาน แล้ว ... คงไม่ให้พวกคุณต้องโยน “ความล่มจม” ของประเทศไทย มาที่ประชาชนที่อ้า ปากพูดความจริงกันเช่นนี้หรอก!
  • 14. 26 27 มาด่ากันอย่างเดียวเลยแบบนี้ คือถ้าผมจะด่าแบบแรงๆ แบบนี้กลับไป ... “อีห่าบอด ลูกหมาขี้เรื้อน คันหอยมากใช่ไหม เลยไม่มีเวลาอ่านหนังสือ หาความรู้ อีห่าราก ทำ�ตัวมืดบอด เป็นทาสที่ปล่อยไม่ไป เห่าโฮ่ง โฮ่ง เฝ้าเจ้า ที่ไม่เคยเห็นหัวมึงแม้แต่น้อย มึงไม่โง่ก็บ้าล่ะว่ะ อีลูกขี้ตีน” มันก็ได้ความสะใจ และเพิ่มความโกรธแค้นชิงชังกันไปเรื่อยๆ โดยไม่ จำ�เป็น ผมจึงขอเขียนเตือนสติคุณนู๋หน่อยนะว่า คุณหนู แสนซน ที่ตั้งชื่อตัวเองเสียน่ารัก แต่ทำ�ไมหนอ ถึงเขียนด่าคนที่ ไม่รู้จักกันเลยแม้แต่น้อย ได้อย่างสกปรกและโสมมมาก (ขอโทษที่ต้องต่อว่า) คุณหนู เขียนมาโดยไม่ได้ใช้สมองไตร่ตรองสักนิดว่า มันจะโชว์ให้เห็น ความเป็นคนมืดบอดทางสติปัญญาของตัวเองแค่ไหน อืม เพราะผมสงสัยจริงๆ เวลาผู้หญิงจะด่ากันเนี่ย มักจะยัดเยียดคำ�ด่า กัน ประเภท อีกะหรี่ หีคัน ช้างเย็ด ตามที่คุณหนูฯ เองก็ใช้เช่นนี้ ... ในฐานะ ที่เป็นเพศหญิงเช่นกัน คุณนู๋ไม่เคยตั้งคำ�ถามเลยหรือว่า การด่าแบบนี้ต่อผู้ หญิงด้วยกัน การเหยียบหยามและเหยียบยํ่าเพศเดียวกันเองเช่นนี้ มันก็จะ กลายเป็นกระจกส่องสะท้อนมายังตัวเองด้วยเช่นกัน ระวังนิดก็ดีนะจ๊ะ ถ้าจะใช้คำ�ด่าแบบนี้กับใคร เพราะมันจะย้อนกลับมาด่า ตัวองได้ การมาสาปแช่งกันให้ตายเยี่ยงหมาข้างถนนนี่ ก็คงต้องดูประกอบควบคู่ ไปกับสถิติคนตายข้างถนนกันบ้างก็ดีนะฮะ โดยเฉพาะที่เมืองไทย สถิติสูง เกือบที่สุดในโลก สูงกว่าประเทศที่ผมอาศัยอยู่หลายเท่าตัวมิใช่หรือ ... ผมคิด ว่าคนที่ต้องระวังข้างถนนมากกว่า น่าจะเป็นคุณหนูมากกว่านะ!
  • 15. 28 29 สังเกตุกันไหมว่า คนคลั่งเจ้านี่จะใช้ชื่อเฟซบุ๊คกันอย่างน่ารัก แต่แหม ปากของแต่ละคนนี่เน่าราวกับว่าไม่ได้แปลงฟันมาเป็นชาติกันทั้งนั้นเชียว (ขอ ต่อว่าแรงๆ หน่อยเถอะ) หนู “หมูน้อยรักพ่อแม่ที่สุด” คนนี้ ไม่รู้ว่าไปหัดใช้ภาษาหยาบคายเช่นนี้ มาจากไหน แบบนี้จะเรียกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนจะได้ไหม อยากจะบอกหนูนะว่า สิ่งที่หนูเขียนว่า “รักพ่อกับแม่ที่สุด” นั้นผมก็เชื่อ ว่า “พ่อกับแม่” ของหนูก็คงรักหนูที่สุดเช่นกัน อยากจะบอกกับหนูว่า ถ้าหนูให้ความเป็นธรรมสักนิดกับคนทั่วไปใน โลกนี้ ไม่ว่าเขาจะรักหรือไม่รักในหลวงที่รักของหนูหรือไม่ก็ตาม ... หนูก็จะ ตระหนักว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็จะรักลูก และปรารถนาให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดี เป็นสุภาพชน เป็นคนที่ประสบความสำ�เร็จ และเป็นที่รักของผู้พบเห็นกันทั้ง นั้น ... ไม่มียกเว้นแม้แต่พ่อแม่ของผม อยากจะบอกหนูว่า แม่ของผมนั้นไหว้พระสวดมนต์ให้คุณพระคุณเจ้า คุ้มครองลูกๆ ที่อยู่ไกลบ้านทุกคํ่าคืน ... นี่คือเรื่องที่หมูน้อยไม่รู้จักเลยเกี่ยว กับแม่ของผมเลย ผมสะเทือนใจนะ ที่ความรักของพ่อแม่ของผมที่มีให้ผมมาทั้งชีวิต ส่งให้ ผมเรียนจนจบมหาวิทยาลัย สวดมนต์ทุกคํ่าคืนให้ผมปลอดภัยจากภยันตราย ใดๆ เพราะผมต้องทำ�งานไกลบ้านตลอดนับตั้งแต่จบมหาวิทยาลัย จะต้องมา ถูกพวกคุณคนคลั่งเจ้าที่ไม่รู้จักพ่อแม่ผมเลย นำ�มาหยามหมิ่นกันอยู่เรื่อยๆ เช่นนี้ ... ผมรักพ่อแม่ผมที่สุด เช่นเดียวกับที่หมูน้อยรักพ่่อกับแม่ และความ รักพ่อแม่ของผมก็มากพอ ที่จะทำ�ให้ผมไม่ใช้วาจาหยาบคายโต้ตอบกับหนู
  • 16. 30 31 ทำ�ตามที่ขอมาแล้วนะ ด้วยการนำ�มาประจานในหนังสือตอบโต้เล่มนี้ซะ เลย และก็ขอประจานความตํ่าทราบและหยาบช้าของคุณ มา ณ​ที่นี้ด้วย ผมอยากให้คุณดูคำ�ด่าพ่อแม่ผมของคุณ แล้วลองนึกสักนึดซิว่า ถ้านี่คือ คำ�ด่าที่คนมาด่า “พ่อแม่ของคุณ” คุณจะรู้สึกอย่างไร ผมเศร้าใจในทุกครั้ง ที่เห็นคนที่มีจิตใจหยาบช้าเช่นคุณ ใช้ความได้ เปรียบในสังคมขี่ “ความรักในหลวง” มาหยาบช้าและหยายคายกับคนอื่นกัน อย่างง่ายๆ ด้วยความสะใจเช่นนี้ เพราะคิดว่าคู่วิวาทะจะไม่สามารถตอบโต้ ใดๆ ได้ ... ยิ่งตอบโต้ คุณก็จะยิ่งลากประเด็นไปสู่การถกกันเรื่องในหลวงและเรื่อง เจ้าไทยมากขึ้น ยิ่งถกมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้คุณโยนข้อหาหมิ่นมาตรา 112 มาให้คู่ วิวาทะได้ง่ายๆ นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำ�ให้คนคลั่งเจ้าเช่นคุณได้ใจ และกร่างไม่ เลือกที ไม่เลือกว่ากับใคร ไม่สนว่าจะทำ�ตัวจะเหี้ยจะหมาอย่างไร หรือจะใช้คำ� หยาบคายอย่างไรก็ได้ กับคนที่คุณคิดว่า “ไม่รักเจ้า” และ “มีจุดอ่อน” ให้คุณ ใช้แสดงอำ�นาจบาทใหญ่ กดข่มเขาอย่ากกักขฬะเช่นนี้ ความรักในหลวงไม่ใช่ใบอนุญาตให้ “ถ่อย” ข้อเขียนอย่างหยาบช้าของ คุณนี้ มันก็คงจะประจานตัวคุณเอง เช่นที่คุณปรารถนาแน่นอน!
  • 17. 32 33 คุณควาย “๙ ทรงพระเจริญ” นี่อุตส่าห์เปลี่ยนโปรไฟล์มาใช้ ภาพ “๙ ทรงพระเจริญ” แล้วยังมาทำ�ขายหน้าคนที่คุณ “ทรงพระ เจริญ” ได้อีก แหม จะหัดด่าใครก็ดูโคตรพ่อโคตรแม่ตัวเองบ้างนะครับผม แค่ภาษาไทยยังเขียนสื่อสารให้คนเข้าใจไม่ได้เลย แล้วยังมีหน้ามา ด่าคนโน้นคนนี้เป็น “ควาย” ขอตักเตือนตรงๆ นะ ถ้าไม่อายตัวเอง ก็สงสารพ่อแม่ตัวเอง บ้างเถิด ที่จะถูกด่าว่าเลี้ยงลูกยังไงให้ออกมา “โง่ยิ่งกว่าควาย” เช่นนี้ * * * * * * * * * ส่วนคุณนายรัตนาภรณ์ นี่ก็ “9 ดอกทอง”​มาเลยนะเนี่ย ถามแบบนักเลงโตมาเลยว่า “บ้านมึงอยู่ไหนว่ะ” ถามจริง จะกล้าตามมาที่บ้านผมจริงๆ หรือเปล่าล่ะ? ผมรักสันติภาพ และไม่เคยทำ�ร้ายใคร แต่เพื่อนร่วมบ้านผมนี่ เป็นแชมป์มวยสากลนะจ๊ะ จะบอกให้?
  • 18. 34 35 ด้วยการมีพิธีรีตรองมากมายของราชสำ�นัก ทำ�ให้การเสด็จเยี่ยม ประชาชนของในหลวงและเชื้อพระวงศ์แต่ละครั้ง แทบจะไม่มีการเดินทางไป ศึกษาปัญหาของประเทศในสภาพความเป็นจริง เพราะต้องมีการเตรียมงาน เตรียมจัดปะรำ�พิธี เตรียมฝึกซ้อมชาวบ้านไว้ต้อนรับ โดยที่ข้าราชการไทย ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงฯ ผู้ว่า ข้าราชการทหารและตำ�รวจทุกเหล่า ทัพ (รวมทั้งภรรยาแม่บ้าน) ต้องแต่งตัวเต็มยศไปเฝ้ารอรับเสด็จ ตั้งแต่เช้ายัน คํ่ามืด และพระบรมวงศานุวงศ์แทบทุกพระองค์มักจะเสด็จช้ากว่ากำ�หนดการ และบางครั้งก็เลื่อนไม่ยอมไปงาน ปล่อยให้คนมารอรับเสด็จต้องเสียเวลาเก้อ ทั้งๆ การเตรียมงานราชพิธีแต่ละงาน ต้องมีการเตรียมงานกันอย่าง หนัก และต้องใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนจำ�นวนมาก พร้อมทั้งต้อง เกณฑ์ชาวบ้านมายืนและนั่งตากแดดตากฝนคอยต้อนรับด้วย เป็นความสิ้น เปลืองของงบประมาณภาษีวันละไม่รู้กี่ล้านบาท ... และทำ�มาแบบนี้ต่อเนื่องยาวนานมาหลายสิบปี วิถีการเดินทางเยี่ยมประชาชนของราชสำ�นักไทย นับตั้งแต่อดีตมา จนถึงปัจจุบัน มุ่งเพื่อการสร้างกิจกรรมให้วังเพื่อข่าวพระราชสำ�นักตอน 2 ทุ่ม จึงเป็นวิธีการที่มากพิธีรีตรอง ล้าสมัย ผักชีโรยหน้า และสิ้นเปลืองงบประ มาณภาษี กัันอย่างไม่มีการตรวจสอบ​โดยที่วังไม่ได้ประจักษ์กับสภาพที่แท้จริง ของประชาชน ทั้งนี้ไม่มีทีท่าว่าราชสำ�นักจะลดทอนพิธีการที่ฉาบฉวยและสิ้น เปลืองทั้งเวลาของเจ้าหน้าที่รัฐและงบประมาณแผ่นดินเช่นนี้อีกด้วย การที่ผมลุกขึ้นมาวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ไม่ได้เกิดจากความแค้นส่วน ตัวใดๆ แต่จำ�เป็นต้องวิจารณ์ เพราะสถาบันกษัตริย์ไทยแทรกแซงการเมือง มาตลอด ประชาชนจึงต้องวิพากษ์วิจารณ์ได้ จริงอยู่ที่ราชสำ�นักไทยเสด็จเยี่ยมผสกนิกร และเดินทางไปร่วมพิธีกรรม ทางศาสนาต่างๆ เช่นที่ปรากฎในข่าวตอนสองทุ่มของทุกวันมาเป็นเวลาหลาย สิบปี ด้วยงบประมาณที่จัดสรรให้โดยรัฐบาลต่างๆ กว่า 60 คณะ และเป็นเงิน ที่มาจากภาษีประชาชน
  • 19. 36 37 นับตั้งแต่ปี 2553 คุณเป็นคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่แช่งผมให้ตายโหง ภายใน 3 วัน 7 วัน แต่นี่เวลาก็เนิ่นนานมาหลายปีแล้ว ผมก็ยังสุขสบายดี และก็มีกำ�ลังใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะต่อสู้เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็น ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยที่คนทั้งประเทศ (รวมทั้งคุณด้วย) เคารพกฎ กติกาการอยู่ร่วมกันอย่าง “คนเท่ากัน” เสียที ตลอดเวลาร่วมห้าปีมานี้ สิ่งที่ผมประจักษ์คือ จำ�นวนคนคลั่งเจ้า ไร้ เหตุผล และโหดร้ายป่าเถื่อนทางความคิดและวาจาเช่นคุณทั้งหลายที่ผมยก มาเป็นตัวอย่างอ้างอิงในหนังสือเล่มนี้ มีจำ�นวนลดน้อยลงเรื่อยๆ อยากจะบอกคุณว่า จำ�นวนคนที่ส่งข้อความมาขอบคุณ ให้กำ�ลังใจ และ สนับสนุนให้ผมเขียนและพูดเกี่ยวกับเมืองไทยอย่างตรงไปตรงมา จากการ ศึกษาและวิเคราะห์ที่ผมได้ทำ�มาต่อเนื่องนั้น มีมากกว่าจำ�นวนคนคลั่งเจ้าที่ มาแช่งชักหักกระดูกและข่มขู่คุกคามมากนัก เช่นเดียวกับเรื่องกระบวนการทางการเมือง ที่คนคลั่งเจ้าไม่เคยเอาชนะ การเลือกตั้งได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในรอบสิบปี จนต้องไปเรียกร้องทหารให้มา ใช้กำ�ลังอาวุธกดหัวประชาชน จำ�นวนคนไทยที่ตาสว่าง และเข้าใจว่าปัญหาในประเทศไทยเกิด จากชนชั้นอภิสิทธิชนคนคลั่งเจ้าเช่นพวกคุณทั้งหลาย ที่ไม่ยอมรับกติกา ประชาธิปไตย และขี่หลัง “ความรักเจ้า” มาก่นด่า หรือ ถึงขั้นข่มขู่คุกคามหรือ ถึงขั้นลุกมาทำ�ร้ายคนไทยด้วยกันนั้น มีจำ�นวนมากกว่าคนคลั่งไร้เหตุผล แต่ ที่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะพวกเขามีความเป็นมนุษย์มากกว่าคนคลั่ง เจ้า และไม่อยากใช้ความรุนแรงกับเพื่อนร่วมชาติเท่านั้นเอง!
  • 20. 38 39 ผมไม่รู้ว่าคุณกัมปนามตีราคาความรวยของตัวเองเท่าไร เมื่อเทียบกับ “คนที่คุณคิด” ซึ่งผมคิดว่าคุณหมอคงหมายถึง “ทักษิณ” ใช่ไหม จริงๆ ผมคิดว่าผมน่าจะเขียนถึงคุณด้วยเหตุด้วยผล เพื่ออธิบายให้ ได้เข้าใจกันมากขึ้นว่าเพราะเหตุใดผมจึงต้องตัดสินใจทำ�งานรณรงค์เรื่อง ประชาธิปไตยของประเทศไทยที่ต่างแดน และเพราะเหตุใดผมจึงต้องวิพากษ์ วิจารณ์ (ที่คุณเรียกว่า “เห่าหอน” นั่นล่ะ) สถาบันกษัตริย์ และเผด็จการทหาร ของไทย แต่เมื่อได้เห็น “คุณหมอ” ปลุกระดมให้แนวร่วม องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน คนคลั่งเจ้า และคนคลั่งคุณหมอ ไปฟ้องร้องดำ�เนินคดีมาตรา 112 กับผม รวม ทั้งกับคนอื่นๆ ที่คุณเห็นว่ามีแนวคิดทางการเมืองไม่ตรงกับคุณหมอ อาทิกับ คุณอารีย์​พยาบาลขอนแก่น พร้อมทั้งยัดข้อหา “ทำ�ลายชาติ” ให้กับบก. ลาย จุด หรือถึงขั้นใช้ข้อเขียนว่า “น่าจะเชือดอีเด็กเวรนี่ให้ตายคาเวที “ ซึ่งอีเด็ก เวรนี้ คือ อั้ม นักศึกษาธรรมศาสตร์อนาคตสดใส ที่ต้องจบอนาคตการศึกษาที่ ธรรมศาสตร์ และต้องลี้ภัยการเมืองไปยังฝรั่งเศสเพราะไม่อาจต้านทนกับการ ข่มขู่คุกคามของขบวนการคนคลั่งเจ้าของคุณหมอและพรรคพวกได้ คุณกัมปนาทครับ ประเทศไทยมีคน 65 ล้านคน คุณจะระดมมวลชนของ คุณหมอมาล้มรัฐบาลที่พวกเขาเลือกตั้งมาอีกกี่ครั้ง และจะฟ้องร้องหมิ่นมาตรา 112 กับคนไทยร่วมชาติอีกกี่สิบหรือกี่ร้อยคน คุณหมอถึงจะหยุดพฤติกรรม คลั่งเจ้าจนไม่เห็นหัวชาวบ้านทั่วไปกันเช่นนี้ ... แน่นอนผมไม่กลับไปเมือง ไทยเพื่อไปติดคุกมาตรา 112 หรอกนะ ... ผมจะสู้กับคุณและขบวนการคนคลั่ง เจ้าในเมืองไทยด้วยเหตุด้วยผลที่ต่างแดนนี่ล่ะครับ จนกว่าวันที่คุณกัมปนาท จะยอมรับเสียทีว่า ไม่รักเจ้าก็เป็นคนเท่ากับคนรักเจ้า และเราอยู่ร่วมกันได้!
  • 21. 40 41 ขอเรียกว่าองค์กร “ขยะแผ่นดิน” ขอประณาม ทั้งคนตั้งเพจและแนวร่วม ที่ระดมกันไปฟ้องร้องคนโน้นคนนี้ ด้วยขอหาหมิ่นมาตรา 112 พวกคุณคนคลั่งเจ้า ทำ�ราวกับคนไทย คนที่ไม่ได้รักในหลวงอย่างบ้าคลั่งเช่นพวกคุณ ไม่ใช่มนุษย์ และต้องถูกเข่นฆ่าสังหารให้หมดไปจากประเทศไทย ถือว่ามีมาตรา 112 และทหาร ให้ท้าย จนไม่ต้องใส่ความ เป็นมนุษย์ในหัวใจ และไม่สนว่า พวกคุณ ได้ทำ�ร้ายผู้คนใน ประเทศไทยไปมากมายแค่ไหนกับความคลั่งเจ้าอย่างไม่พอ เพียง อยากจะแสดงอำ�นาจว่ามีีอภิสิทธิเหนือคนอื่นเพราะ “รักในหลวง” ก็ได้กระนั้นหรือ? พวกทาสที่ปล่อยไม่ไปเช่นพวกคุณนี่ มันน่าสมเพชมากๆ จริงๆ!
  • 22. 42 43 พวกคนคลั่งเจ้าที่กดไลค์ กดแชร์ ข้อความที่แสดงความคลั่ง ยั่วยุ ปลุก ปั่น ปลุกระดมให้พวกคุณลุกขึ้นมาใช้กฎหมายมาตรา 112 ที่โหดร้ายป่าเถื่อน มาทำ�ร้ายใครก็ได้เช่นนี้ ไม่ได้คิดถึงหัวจิตหัวใจคนอื่นกันบ้างเลยหรือ? คนที่พวกคุณเฮกันไป เฮกันมา ตามคำ�ยั่วยุของ “องค์กรเก็บขยะ แผ่นดิน” เพื่อรุมประณาม รีพอร์ท และพากันไปแจ้งความคดีมาตรา 112 นั้น พวกคุณก็ไม่รู้จักกับพวกเขาเป็นการส่วนตัวเลย ไม่รู้ว่าเขาและเธอทำ�คุณ ความดีอย่างไรบ้างให้ประเทศชาติ มีภาระและคนที่ต้องดูแลมากแค่ไหน และ ทุกคนจะเดือดร้อนแค่ไหนถ้าถูกล่าแม่มด ถูกข่มขู่คุกคาม หรือถูกโจมตี หรือ ต้องถูกจับกุมด้วยมาตรา 112 พวกคุณตระหนักหรือไม่ว่า สำ�นักข่าวต่างชาติรายงานว่าองค์กรเก็บ ขยะแผ่นดินนี้ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเผด็จการทหาร เพื่อกระพือความ แตกแยกในสังคม และช่วยเผด็จการทหารทำ�การปิดกั้นเสรีภาพ ในการแสดง ความคิดเห็นของประชาชน และเพื่อจับโยนประชาชนที่ทหารเห็นว่า “เป็น ภัยต่อความมั่นคงของทหาร” เข้าคุกในข้อหาหมิ่นมาตรา 112 ที่ ไม่ว่าใคร ก็ตามที่เจอคดีมาตรานี้ แม้เพียงแค่ถูกฟ้องชีวิตของเขาก็พังทลายนับตั้งแต่ ตอนนั้นแล้ว เพราะมันไม่มีความยุติธรรมให้กับผู้คนที่ถูกดำ�เนินคดีด้วยมาตรา 112 พวกเขาต้องสูญเสียงาน ครอบครัวล่มสลาย และเผชิญกับความทุกข์ยาก ต่างๆ นานา ... ถ้าเขาไม่ต้องการถูกจับเข้าคุก ก็ต้องหนีออกไปเผชิญความยากลำ�บาก ที่ต่างประเทศ ... เป็นความทุกข์ยากที่คนคลั่งเจ้าก่อนให้เกิดขึ้นกับคนคิดต่าง อย่างเลือดเย็น และไร้ความเป็นมนุษย์ร่วมประเทศและร่วมโลก!
  • 23. 44 45 แล้วเราจะคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไร พวกคุณคนคลั่งเจ้า เล่นด่าผม ด่าคน อื่นอยู่ฝ่ายเดียว ด่าแล้วก็ยัดข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 มาให้ กันดี้อๆ โดยรู้ดีว่า ใครโดนคดีนี้มันแก้ต่างแทบไม่ได้ แค่ถูกขู่ฟ้องชีวิตหลายคนก็วุ่นวายเสียแล้ว ต้องตัดสินใจว่าจะหนีคดีหรือจะยอมให้ถูกจับเข้าคุก ห้ามประกัน พิจารณาในศาลทหาร ห้องปิดลับ ไม่มีทนายแก้ต่าง ผิดหรือไม่ผิดไม่มีใคร ทราบได้ แต่โดนสั่งขังคุกกันไปแล้วคนละ 3 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี คุณคนคลั่งเจ้าอาจจะสนุก สะใจ ที่ทำ�ร้ายคนที่คุณคิดว่าไม่รักเจ้าได้ โดย ไม่ใส่ใจใดๆ ทั้งสิ้นว่า ชีวิตของคนหนึ่ง ของครอบครัวของเขา นั้นจะต้องเผชิญ กับความทุกข์ยากอย่างไรกันบ้าง เพียงเพราะความบ้าคลั่งไร้เหตุผล ของพวก คุณกันไม่กี่คน ยิ่งพวกคุณคลั่งเจ้า ไล่ฟ้องหมิ่นคนที่คุณเห็นว่าไม่รักเจ้าอย่างบ้าระหํ่า เท่าใด ความรักเจ้าอย่างบ้าคลั่งของพวกคุณนั่นล่ะที่จะดังมูมเบอแรง ที่จะเป็น อาวุธย้อนคืนมา “ล้มเจ้า” และการ “ล่มสลาย” ของราชสำ�นักไทย ยิ่งราชสำ�นักไทยเพิกเฉยต่อพฤติกรรมของพวกคุณ และปล่อยให้พวก คุณใช้มาตรา 112 กันอย่างพรํ่าเพรื่อต่อคนไทย และต่อคนต่างชาติ ความน่า เชื่อถือของราชสำ�นักก็จะเสื่อมลงเรื่อยๆ ท้ายที่สุด พวกคุณต้องการเช่นนั้นกันใช่ไหม ถึงได้ไม่ยอมใช้สติปัญญาในการปรับ ตัวและปรับทัศนคติให้อยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมกันเลยเช่นนี้ โดยไม่ลุกขึ้น มาข่มขู่แจ้งจับใครเพียงเพราะเขาไม่รักในหลวง
  • 24. 46 47 พวกคุณคนคลั่งเจ้านี่มาแบบคล้ายๆ กันหมดเลยนะ ที่มักจะด่าทอคนไม่รักเจ้าด้วย ถ้อยคำ�เหล่านี้ ... 1. ไม่ได้รู้จักกัน ไม่เคยรู้จักพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย กันเลย ก็สามารถไปขุดพ่อแม่ และ วงศ์ตระกูลเขามาด่ากันได้อย่างสาดเสียเทเสีย กล่าวหากันพล่อยๆ ว่าพ่อแม่ไม่อบรมสั่ง สอน โดยไม่ยอมย้อนมองดู “สำ�เนียงส่อภาษา” ของตัวเองกันบ้างเลย 2. ชอบกล่าวอ้างว่าสงสารโคตรพ่อโคตรแม่คนโน้นคนนี้ แทนที่จะสงสารโคตรพ่อโคตร แม่ของตัวเอง 3. ชอบด่าว่าเรื่องเพศ ทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตา การเลือกเพศ - ขี้เหร่ คนดอกทอง จัญไร กะหรี่ หีคัน หีร่าน ทั้งๆ ที่บางคนก็เป็นผู้หญิงด้วยต่างหาก บางคนก็เป็นสามีผู้หญิงด้วย 4. อ้างว่าแผ่นดินนี้เป็นของในหลวง ทั้งๆ ที่ชาวบ้านชาวช่องเขาต่างก็ซื้อที่ดินและ หาเงินหรือกู้เงินปลูกบ้านกันเองทั้งนั้น 5. ด่าว่าคนวิจารณ์เจ้าว่าเป็นพวกเนรคุณแผ่นดิน เนรคุณพ่อ เนรคุณพ่อแม่ ทั้งๆ ที่ จริงๆ สังคมไทยต้องเริ่มเปลี่ยนทัศนคติจากเรื่อง “เนรคุณ” มาสู่การยอมรับกันมากขึ้นว่า ประเทศชาติสร้างเสริมด้วยกำ�ลังแรงงาน และแรงใจของคนทั้งประเทศ ควรจะหยุดด่ากัน เรื่อง “เนรคุณ” แล้วหันมาเตือนกันมากขึ้นว่า “หัดขอบคุณคนทั้งแผ่นดิน” กันมากขึ้น 6. ชอบแช่งชักหักกระดูกให้ตาย หรือไม่ก็ให้ไปตกนรก ทั้งๆ ที่อยู่กันในปัจจุบันใน สภาพเช่นนี้ มันยิ่งกว่านรก 7. แล้วก็มักจะมาแบบข่มขู่กันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จะฆ่าให้ตาย 8. ชอบขับไสไล่ส่งผู้คนที่ไม่รักเจ้าให้ไปอยู่ที่อื่น 9. พอเขาไปอยู่ที่อื่นจริงๆ ก็ลุกขึ้นมาท้าเขาเหย๋งๆ ว่าแน่จริง กลับมาเมืองไทยซิ พวกคุณก็มีแต่ด่ากับด่าคนเขียนวิจารณ์เจ้ากันด้วยหลักๆ แค่ 9 ประเด็นนี้เท่านั้น เป็น คำ�ด่าและคำ�ขู่กันล้วนๆ โดยไม่มีเหตุผลประกอบใดเจือปนอยู่แม้แต่น้อย ผมขอเสนอแนะ ว่า ... เราพยายามคิดค้นเหตุผลมาถกเถียงกันอย่างจริงจังกันเถอะ ... คำ�ด่าพวกนี้ผมเจอ มาตลอดเบื่อมากๆ แล้ว อยากเห็นคนคลั่งเจ้าฉลาดๆ กว่านี้สักหน่อย จะได้โต้กันด้วยการ อ้างอิงหลักการและเหตุผลกันได้อย่างสนุกและมีสาระบ้าง
  • 25. 48 49 แหม ผมเพิ่งเขียนบรรยายถึงพฤติกรรมพวกคุณคนคลั่งเจ้าไปที่หน้าที่ผ่านมา คุณมาแช่งให้นรกกินกระบาลผมอีกแล้ว ไหนๆ คุณก็พูดถึงคำ�ว่า “นรก” ขึ้นมา ผมต้องขอบอกพวกคุณหน่อยนะว่าพวก คุณคนคลั่งเจ้าทั้งหลาย ต่างก็พากันนิยามคำ�ว่า “นรก” กันผิดไปจากความจริงมาก เลยรู้ไหม “นรก” จริงๆ อาจจะเป็นแค่ “โลกสมมุติตามจินตนาการ” เพื่อเอาไว้คุมความ ประพฤติผู้คนในสังคมให้อยู่ในศีลในธรรม ไม่ให้กระทำ�ความผิด คิดร้ายหรือลุกขึ้น มาทำ�ร้ายกัน “นรก” ไม่ใช่สถานที่สำ�หรับรองรับหรือรอทำ�ร้ายผู้คน เพียงเพราะเขาหรือเธอ “ไม่รักเจ้า” หรือ “ไม่รักใคร” คนเดียวกับที่พวกคุณรักหรอก ... การแช่งให้คนโน้นคนนี้ตกนรกกันมั่วๆ แบบคุณทำ�เนี่ย คิดหรือว่าผู้คนที่ตั้งมั่น อยู่ในความบริสุทธิ์ใจจะกลัว คนในสมัยปัจจุบัน เขาอ่านหนังสือกันมากขึ้น เขาทำ�ความเข้าใจกับความเป็น จริงของโลกและจินตนาการ และเขาสามารถที่จะลุกขึ้นมาวิเคราะห์ถึงนิยาม ความ หมาย และที่มาของคำ�ว่า “นรก” และ “สวรรค์” กันได้แล้วครับ การจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์​มันไม่ได้ตัดสินกันที่ว่า “รักเจ้า” หรือ “ไม่รักเจ้า” หรอกนะครับ มาขู่กันเรื่องจะตกนรกและจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์เพราะไม่รักเจ้านี่ เป็นคำ�ขู่ที่ตลก จริง คุณต้องเป็นคนที่ไม่มึดบอดทางสติปัญญา ที่อยู่ในความกลัวว่านรกจะลงโทษ เพราะทำ�ผิดคิดร้ายกับผู้คนเอาไว้มาก ถึงใช้คำ�ขู่นี้กับคนอื่น พยายามละโมหะจริตต่างๆ ออกไปบ้างนะครับคนรักเจ้า เพราะ “คนไม่รักเจ้า” ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร และถ้าได้นั่งคุยกัน โดยไม่มีกฎหมายมาตรา 112 ให้ท้ายพวก คุณแล้วละก็ เราอาจจะเป็นเพื่อนกันได้ ... ก็ได้นะ!
  • 26. 50 51 ขอตอบตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม “ครับ มันหนักหัวผม” และ “หนักกระเป๋า” ด้วย! งบจัดงานวันพ่อ ที่ต้องจัดทุกปี เพียงแค่ปีละไม่กี่ล้านก็หนักหนากับประชาชนแล้ว ยิ่งไม่ ต้องพูดถึงว่างานวันพ่อวันแม่ตลอดช่วงความวุ่นวายทางการเมือง ใช้เงินงานละไม่ตํ่ากว่า 500 ล้านบาท/งาน ประเทศที่มีกษัตริย์ประเทศอื่นๆ ที่รวยกว่าประเทศไทยอีก ก็ยังไม่ใช้เงินภาษีประชาชนจัด งานวันพ่อกันทุกปีอย่างหรูหราเช่นประเทศไทย ที่ประชาชนยังยากจนอยู่มากเช่นนี้ และก็อยากชวนให้ดูงบประมาณแผ่นดินที่ใช้เพื่อสถาบันกษัตริย์ และเพื่อการรักษาพระ เกียรติสถาบันกษัตริย์ของไทย (ในภาพประกอบด้านบน) งบวังนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี และภายในเวลา แค่ 4 ปีตั้งแต่ปี 2554 - 2558 นั้น เพิ่มงบประมาณกันถึงเกือบเท่าตัว ... นี่จึงเป็นสิ่งเรื่องสำ�คัญ ที่ประชาชนต้องตรวจสอบสถาบันกษัตริย์ได้ เพราะสถาบันกษัตริย์ ก็ได้รับการเลี้ยงดูจากงบประมาณภาษีที่เก็บจากประชาชน!
  • 27. 52 53 ถ้าท่านอ่านข้อเขียนในเล่มนี้มาจนถึงหน้านี้ได้ ก็คงรู้แล้วว่า ผมและคิดว่าสหายหลายคน ที่ถูกคณะรัฐประหารและพวกรอยัลลิสต์ ฟาสซิสต์ ปรักปรำ�ว่า “ล้มเจ้า” ต้องเจอะเจอกับคนคลั่งไร้สติด่าทอ อย่างหยาบคายกันมากขนาดไหน และอย่างไรบ้าง นี่เป็นตัวอย่างที่ยกมาให้ดู หลายคนเหล่านี้ ยังดูเป็นเด็กๆ และ มีผู้ชายที่เข้ามาทำ�ตัวกร่างขู่ผมเยอะกว่าผู้หญิงด้วย ผู้ชายไทยอาจจะเคยชินกับการใช้อำ�นาจบาตรใหญ่เอากับผู้ หญิง เมื่อมีการเปิดช่องให้สามารถเถื่อน ถ่อย และกร่างได้ ก็กระทำ� กันอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง โดยเฉพาะกับมนุษย์เพศหญิง ผมอยากฝากพวกผู้ชายทั้งหลายว่า ประเทศไทยเป็นของ มนุษย์เพศหญิงและเพศชายเท่าๆ กัน พวกเรามีภาระหน้าที่ที่จะ ต้องเรียนรู้การเป็นสุภาพชน และเคารพกันและกันว่าเป็น “คนเท่า กัน” ไม่ว่าจะมาจากเพศไหน เพื่อจะได้นำ�พาชาติไปด้วยกันอย่างเท่า เทียม การใช้ความเป็นชายมาข่มขู่ระรานคนอื่นแบบนักเลงโต ปาก เปราะ หยาบคาย และไร้หัวคิด เช่นนี้ มันไม่น่ารักเลย และยังโชว์ว่า พวกท่านนั้น เป็นคนไร้การศึกษา ไร้ความคิด และไร้เหตุผล อีกด้วย!
  • 28. 54 55 ผมหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับคนอย่างพวกคุณที่มาขู่ฆ่ากันอย่าง โจ่งแจ้งเช่นกัน เพราะผมไม่ต้องการเอาชีวิตผมไปสังเวยให้ความคลั่งไร้สติเช่น ที่พวกคุณแสดงออกมา ชีวิตใครใครก็รัก และผมก็รักชีวิต แต่ผมจะไม่ยอมหลบตัวลีบในซอก หลืบ ณ มุมใดมุมหนึ่งในประเทศไทยอย่างอดสู เพราะความกลัวอันตรายจาก การถูกทำ�ร้ายจากคนคลั่งรักเจ้าอย่างพวกคุณ ผมเลือกที่จะมาทำ�งานและใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ ประเทศไทย เพื่อที่่ผมจะไม่ต้องพบเจอกับการถูกขู่ฆ่า ขู่ทำ�ร้ายร่างกาย หรือขู่ จะแจ้งความจับผมโยนเข้าห้องขัง เพียงเพราะว่าวิจารณ์กษัตริย์ไทยอย่างตรง ไปตรงมา ด้วยความหวังดีและอยากเห็นประเทศไทยพัฒนา เป็นความหวังดีเดียวกันกับที่พวกคุณใส่พานถวายกษัตริย์ไทย และฝาก ภาระในการนำ�พาชาติไว้กับสถาบันกษัตริย์เท่านั้น ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ผมไม่เห็น ด้วยเป็นอย่างมาก ผมเชื่อว่าการจะนำ�พาประเทศชาติพัฒนา ประชาชนทั้ง 66 ล้านคนใน ประเทศไทยต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ เพื่อร่วมกัน พัฒนาชาติให้ก้าวหน้าได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน สิ่งที่พวกคุณคนรักในหลวงกำ�ลังทำ�อยู่นี้ ด้วยการตามรังควาญและ ข่มขู่คุกคาม ผู้คนที่กำ�ลังใช้ความรู้ความสามารถของพวกเขาเพื่อร่วมพัฒนา ประเทศไทย เป็นการกระทำ�ที่รังแต่จะดึงประเทศไทยให้ถอยหลัง และล้าหลัง เพื่อนบ้าน เป็นการทำ�ลายความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
  • 29. 56 57 พวกคุณที่อ้างว่าคนรักในหลวง เป็นคนที่รู้จักบุญคุณคนเท่านั้น พวกคุณกำ�ลังโกหกและตอแหลอย่างที่สุด เพราะถ้ารู้จักบุญคุณคนจริง พวกคุณจะต้องไม่มีพฤติกรรม แบบนี้อย่างแน่นอน เพราะแผ่นดินไทยก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาด้วยนํ้า พักนํ้าแรงของคนทั้งประเทศ ที่ทั้งเป็นกลุ่มคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ จากคนเมืองหลวง และพวกนายทุนและนายจ้างหน้าเลือด ชาวบ้านที่เลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า ให้พวกคุณประท้วงและล้ม เลือกตั้งมาหลายครั้ง เป็นกลุ่มคนที่ถูกรีดภาษีทางอ้อมหลายด้าน รวมทั้งถูกดูดทรัพยากรจากชนบททั่วประเทศไทยเพื่อมาหล่อเลี้ยง วังหลวงและคนในเมืองหลวงให้สุขสบาย ถ้าคนที่อ้างว่าตอบแทนบบุญคุณแผ่นดิน แต่ไล่ด่า ไล่คุกคาม คนที่กำ�ลังต่อสู้เพื่อให้ประเทศไทยรู้จักสำ�นึกบุญคุณชาวบ้าน และ ตอบแทนบุญคุณชาวบ้านกันบ้าง พวกคุณกำ�ลังโกหกและหลอกลวง ประเทศไทยไม่ใช่เป็นของพระมหากษัตริย์ ดังเช่นที่ผมพูดมา หลายครั้งแล้้ว แต่เป็นประเทศของคนทั้ง 65 ล้านคน คนรักในหลวงไม่มีสิทธิมาไล่ใครออกจากประเทศไทย เพียง เพราะคุณคิดว่าพวกเขาไม่จงรักภักดีในหลวงอย่างเกินพอ เช่นพวก คุณต้องการ ... เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนรักในหลวงเท่านั้น!
  • 30. 58 59 ถ้าคุณอ่านคำ�ตอบโต้ของผมเล่มนี้มาจนถึงบัดนี้ คุณคงเห็นแล้วนะว่า พวกคุณคนคลั่งเจ้านั้น “ถ่อย” กันซะขนาดไหน และก็คงเห็นเช่นกันว่า ผมไม่ ได้ถ่อยหยาบคายตอบโต้พวกคุณเลย และพยายามชวนพวกคุณมาคุยกันด้วย เหตุด้วยผลอยู่ตลอดเวลา ผมเชื่อว่า ถ้าสถาบันกษัตริย์ไม่ได้เป็นเครื่องมือ ที่ใช้คุ้มครองคนกลุ่ม หนึ่งในประเทศไทย ที่ฉกฉวยและใช้ประโยชน์ในการได้รับความคุ้มครองอย่าง “ผู้ใดจะละเมิดหรือฟ้องร้องใดๆ มิได้” เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีและความเป็น อภิสิทธิชนให้กับตัวเองและเพื่อชนชั้นสูงเท่านั้น ประเทศไทยเจริญพัฒนากว่านี้แน่นอน และจะเจริญและพัฒนามานาน แล้วด้วย ผมเขียนถึงมาหลายครั้งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เข้าร่วมเป็น สมาชิกองค์กรสหประชาชาติในลำ�ดับที่ 55 แต่ปัจจุบัน ดัชนีชี้วัดการพัฒนา ของประเทศไทยโดยสหประชาชาติลดลงมาเป็นลำ�ดับจนมาอยู่ในลำ�ดับที่ 89 ของโลกเช่นปัจจุบัน ประเทศไทยมีอัตราการทำ�รัฐประหารสูงที่สุดในอาเซียน และมีช่องว่าง รายได้ระหว่างคนจนและคนรวยสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก ในขณะเดียวกัน ระบบการศึกษาไทยก็ค่อยๆ ด้อยกว่าประเทศอาเซียนลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน ประชาชนคนไทย จะต้องทนเห็นประเทศไทยล่มจมและพินาศไปเรื่อยๆ ถึงขึ้นไหน ถึงจะรู้สึกว่า “การเสียสละพัฒนาการของประเทศเพื่อสถาบัน กษัตริย์” มันถึงจุดที่ต้องบอกว่า “พอได้แล้ว”
  • 31. 60 61 ผมตอบพวกคุณมาเยอะแล้ว สำ�หรับคุณ “๙ ทรงพระเจริญ” อีกคนหนึ่งนี้ ผมแทบจะไม่มีอะไรจะพูดกับคุณเลย เพราะความหยาบสถุนของภาษาเขียนของคุณ ก็คงทำ�หน้าที่ประจานตัวคุณเองไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ผมไม่ต้องลุกขึ้นมาเขียนอะไรเพิ่มเติม แต่ขอฝากไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าได้ไปด่าพ่อด่าแม่ใครแบบนี้กันโดยไม่ระมัดระวัง ลูกของคนมีพ่อมีแม่คนอื่น เขาอาจจะไม่ใจเย็นเช่นผมก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเขารักและเคารพพ่อแม่ของเขามากๆ เช่นเดียวกับที่คุณอ้างความรัก “ในหลวง” มาถ่อยสถุนใส่เขาแบบที่ที่ใส่กับผมเช่นนี้ ขอเตือนด้วยความหวังดี!
  • 32. 62 63 นี่คุณยกความดีทุกเรื่องในจักรวาลให้กับสถาบันกษัตริย์หมดเลยหรือ ตาคุณนี่บอดสนิทจริงๆ คุณไม่รู้หรือว่า นานาชาติเขาเอือมระอากับพฤติกรรมของวิถีกษัตริย์ไทย กันแค่ไหน ที่ไม่เคยปกป้องประชาธิปไตย ไม่เคยปกป้องชีวิตประชาชน แถมยัง กอบโกยเอาจากภาษีประชาชนอย่างไม่มีความละอายใจเช่นนี้ แม้ไปเมืองนอก ก็ยังไม่มีความละอายใจ ยังไปโชว์ประเพณีมอบกราบและ หรูหราฟุ่มเฟือยที่เมืองนอกจนสื่อต่างชาติออกข่าววิจารณ์กันอยู่เนืองๆ ยิ่งเมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ ผมกล้ายืนยันว่า ถ้าสถาบันกษัตตริย์ไม่ได้ให้ ความร่วมมือกับทหารทำ�รัฐประหารมา 11 ครั้งเช่นนี้ ประเทศไทยพัฒนาเจริญ มากกว่านี้มากมาย ถ้าไม่มีพวกคุณคนคลั่งเจ้า มาประท้วงขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตอนนี้มั่นคงและมีเสถียรภาพ และเจริญกว่า ปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน ผมยืนยันว่า ถ้าไม่มีกษัตริย์ ประเทศไทยก็อยู่ได้ และ ณ ยามนั้น ประชาชน ในประเทศไทยจะอยู่กันอย่างรู้จักเคารพในความเป็นมนุษย์ของคนอื่นมากกว่านี้ และมีความอดทน อดกลั้น ต่อกันได้มากขึ้นอย่างแน่นอน ณ ปัจจุบันนี้ สถาบันกษัตริย์ไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงลงเรื่อยๆ ก็เพราะมีคนคลั่ง เจ้าที่หูหนวกตาบอดเช่นพวกคุณนี่ล่ะ ที่รักเจ้ากันอย่างบ้าคลั่ง “เมื่อกษัตริย์หูเบา ราชวงศ์์ก็พิพาศด้วยตัวเอง” ไม่ใช่เพราะผม หรือ เพราะคนไม่รักเจ้าหรอก ... คนไม่รักเจ้าเป็นปลายเหตุ ต้นต่อแห่งความล่มสหายของสถาบันกษัตริย์ เกิด จากความไม่พัฒนาตัวเองของสถาบันฯ!
  • 33. 64 65 เมื่อมาถึงวันนี้ คุณคงไม่ถามแหล่งข้อมูลผมแล้ว เมื่อหลังจากปิดกันไม่ มิด เพราะโลกออนไลน์ต่างก็แชร์กันกระหน่ำ� ข่าวอย่างเป็นทางการของราช สำ�นักก็ออกมาเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน หลายเรื่องก็มีเอกสารอ้างอิงมากมาย ในงานเขียนของผมก็อ้างอิงแหล่ง ที่มาเต็มไปหมด ว่างๆ คุณลองไปหางานเขียนของผมมาอ่านบ้าง เราอาจจะ ได้รู้จักความคิดกันมากขึ้น พักเรื่องคำ�หยาบคายของคุณไว้ก่อนแล้วกัน เพราะผมเหนื่อยจะตอบใน เรื่องนี้แล้ว และก็ตอบไปเยอะแล้วในหน้าที่ผ่านมา ขอตอบประเด็นว่า ผมเคยเดินทางเพื่อไปดูความทุกข์สุขของประชาชน คนไทยเหมือนกษัตริย์หรือเปล่า ผมขอตอบอย่างไม่อ้อมค้อมว่า ตลอดชีวิต การทำ�งาน 25 ปีของผมนั้น ผมเดินทางไปดูความเป็นอยู่ของประชาชนคน ไทยในเกือบ 70 จังหวัดทั่วประเทศไทย บางครั้งก็ไปรถเมล์ ไปรถไฟ หรือ ขับรถไปเอง ส่วนใหญ่จะไปเยี่ยมและนอนค้างบ้านชาวบ้าน ชาวบ้านกินอยู่ อย่างไร ผมก็ทำ�แบบนั้น โดยไม่ต้องมีพิธีรีตรอง โดยไม่ต้องจัดงานต้อนรับ โดยไม่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านชาวช่องมานั่งรอขบวนเสด็จกันเป็นครึ่งค่อนวัน และผมก็ไม่ใช่คนเดียวด้วยที่เดินทางไปเพื่อพยายามช่วยชาวบ้านแก้ไข ปัญหาต่างๆ มีคนเยอะมากที่ทำ�งานแบบผม ที่พยายามจะช่วยแก้ไขปัญหา ความยากจน ปัญหาความอยุติธรรมต่างๆ ในประเทศไทย ขอพูดตรงๆ เลยว่า ไม่ใช่กษัตริย์เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่มีสิทธิ์พูดว่า ห่วงใยประเทศไทย คนไทยจำ�นวนเยอะมากก็ห่วงใยประเทศไทย และทำ�งาน กันทั้งชีวิตเพื่อประเทศไทย หลายคนแม้ชีวิตก็เสียสละชีวิตเพื่อประเทศไทย!
  • 34. 66 67 เรื่องราคายางก็คงไม่ต้องพูดมากแล้วนะเพราะสื่อต่างๆ ก็ รายงานว่าชาวสวนอย่างถึึงขนาดประท้วงด้วยชีวิตกันหลายคนแล้ว ในชีวิตนี้คุณเคยเห็นชาวสวนยางประท้วงราคายางตกตํ่าจนถึง ขั้นฆ่าตัวตายมาก่อนหรือเปล่า ชาวสวนยางขาดทุนจนฆ่าตัวตาย หรือต้องตัดไร่ยางทิ้งกันแล้วตอนนี้ คุณคงทราบดีแล้วนะ ผมก็อยากให้คุณลองตอบคำ�ถามดูอย่างจริงจังนะว่า ที่ ประเทศไทยยากจน มีแต่ความทุกข์ และเจอภัยพิบัติมากมาย ... กษัตริย์ที่เป็นประมุขประเทศไทยมาอย่างยาวนาน 68 ปี ไม่ ต้องรับผิดชอบเลยหรือ แล้วความผิดทั้งหมดเกิดจากครม. 60 คณะ ด้วยนายกรัฐมนตรีในพระปรมาภิไธยถึง 29 คน หรือ ตระกลูชินวัตร ตระกูลเดียวต้องรับผิดชอบความเสียหายของประเทศไทย จริงหรือ พวกคุณจะยกทุกความดีในประเทศไทย และตีกันกษัตริย์ ในฐานะประมุขของประเทศ ออกจากความรับผิดชอบงทั้งมวลต่อ ความผิดพลาดทั้งหลายของการพัฒนาประเทศ ไปให้กับ ครม. ของ นักการเมือง ที่มาจากการเลือกตั้งเพียงลำ�พังได้จริงหรือ?
  • 35. 68 69 จากการที่ต้องพบเจอกับคนคลั่งเจ้าและคนรักสถาบันอยู่เนืองๆ ผมเลยทำ�เส้นความรักและความคลั่งออกมา คุณอยู่ตรงจุดไหน? รักสถาบันกษัตริย์ รักในหลวง รักพระเทพฯ รักพระบรมฯ มีเหตุผล รักแบบไม่มีเหตุผล คลั่งเกือบมาก แตะต้องไม่ได้ เคลื่อนไหว ปกป้องสถาบันฯ คลั่งมาก ลุกขึ้นมาตามล่า คนที่ไม่รักในหลวง และโยนเข้าคุก 112 คลั่งโหดมาก ต้องตามด่าและ ตามขู่ฆ่าคน ที่ไม่รักฯ• เริ่มศึกษาถึงที่มาของ การวิพากษ์วิจารณ์ สถาบันกษัตริย์ • เริ่มเปิดใจดู สถานการณ์บ้านเมือง อย่างตรงไปตรงมา • เริ่มยอมรับความคิด เห็นต่าง ถ้าไม่รัก ... กล้วว่าเป็นคนไม่ดี กลัวว่าคนจะไม่รัก กลัวว่าจะถูกกฎหมายลงโทษ กลัวว่าจะถูกกฎหมู่ลงโทษ กลัวว่าจะตกนรก กลัวว่าจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ กลัวว่าขี้กลากจะขึ้นหัว กลัวว่าเหาจะกินหัว กลัวว่าเทวดาฟ้าดินจะลงโทษ ฯลฯ เพราะ ... กลัวจะเสียสิทธิประโยชน์ กลัวเสียความเป็นอภิสิทธิชน กลัวจะถูกปฏิรูปองค์กร กลัวไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ต้องก่อม็อบ ... พธม ... กปปส. ...ม๊อบสี เครือข่ายพิทักษ์สถาบันฯ / องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ไม่รักสถาบันกษัตริย์ ทหาร
  • 36. 70 71 บทส่งท้าย หนังสือเล่มเล็กนี้ คือการพยายามตอบข้อความที่คนคลั่งเจ้าส่งมาด่าว่า หรือข่มขู่ผมที่เฟซบุ๊ค ที่คัดเลือกจากที่ส่งมาหาผมที่เฟซบุ๊ค หลังจากพยายามคุยเป็นการส่วนตัว ผมค้นพบว่า การต่อความยาวสาว ความยืดหรือตอบโต้กับพวกเขาเป็นการส่วนตัว ไม่เกิดประโยชน์ใดเลย เพราะ พวกเขาอยู่ในโลกของตรรกะเหตุผลที่กลับด้าน ชนิดที่เรียกว่า ในทุกกรอบ ความคิด หรือทุกทฤษฎี ... หรือว่าจริงๆ แล้ว พวกเขาไม่มีกรอบความคิด หรือทฤษฎีใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากยึดติดในความคิดความเชื่อที่ไม่ตรวจสอบ ไม่ ต้องการตรวจสอบ และ/หรือไม่ต้องการให้ถูกตรวจสอบ ผนวกกับความดันทุรังเพื่อจะเอาชนะโดยไม่สนใจหลักคิดหรือสิทธิ มนุษยชนใด พวกเขาทำ�ตัวเป็นดั่งศาลเตี้ยที่จะพิพากษาลงโทษหรือทำ�ร้ายใคร ก็ได้ ในประเทศที่กฎหมายไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้ประชาชนทุกคน อยู่ภายใต้ความยุติธรรมมาตรฐานเดียวกัน และผู้คุมกฎหมายยังได้ให้ไฟเขียว กับคนคลั่งเจ้าในการแสดงความคลุ้มคลั่งกับใครก็ได้ในนาม “รักในหลวง” ด้วยเหตุนี้ การตอบโต้กับพวกคนคลั่งเจ้าจึงเป็นการเสียเวลาโดยไม่ จำ�เป็น ผมจึงเลือกที่จะคัดเลือกข้อความมาตอบโต้ในหนังสือเล่มนี้ ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเป็นการประจาน แต่เพื่อนำ�มาให้ สาธารณชนได้เห็น ได้ศึกษา เพราะตัวอย่างที่ผมยกมา เป็นสิ่งที่คนไทย จำ�นวนมาก ต้องเผชิญกับมันกันมาหลายปี และทั้งนี้ ผมก็เขียนและเผยแพร่ หนังสือตอบโต้คนคลั่งเจ้าเล่มเล็กนี้ เพื่อตอบประเด็นทีชาวรอยัลลิสต์นิยม ใช้กันกับผู้คนที่พวกเขาโจมตรี รวมทั้งเพื่อส่งสาส์นไปยังผู้คนในสังคมที่มี ทัศนคติเลวร้ายกับผม เพราะหลงเชื่อคำ�ถูกโจมตีใส่ร้ายจากคนคลั่งเจ้า กระนั้น ในความเป็นปัจเจก ผมก็เชื่อว่า ชาวรอยัลลิสต์คนคลั่งเจ้าหลาย คน ก็เป็นคนเหมือนเราๆ ท่านๆ ไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายและป่าเถื่อน แต่เพราะพวกเขาตกอยู่ในสงครามจิตวิทยา “พิทักษ์เทิดทูนและปกป้อง สถาบันกษัตริย์” ที่มอมเมาพวกเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันมาอย่างยาวนาน ทำ�ให้ พากันหวาดกลัว ต่อสภาวะเปราะบางแห่งการสูญเสียกษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง จนต้องลุกมาหมายหัว “คนอื่น” ที่ไม่ได้คิดและเชื่อเช่นเดียวกับตนเอง ราวกับ ว่า ไม่ใช่เป็นมนุษย์ร่วมชาติหรือร่วมโลกเดียวกันกระนั้น ในการพยายามหาเหตุผลอธิบายในความรักเจ้า พวกคนคลั่งเจ้า สนใจ จะฟังแต่ข้อมูลด้านเดียว และเผิกเฉยต่อเสียงทัดทานทักท้วงหรือคำ�วิจารณ์ ทุกด้าน ประหนึ่งกลัวว่า มันจะเป็นเข้มที่บาดคม ที่จะมาทิ่มแทงลูกโป่งแห่ง ความเชื่อที่เปราะบางของพวกเขาให้แตกสลายไปต่อหน้าต่อตา ผมเข้าใจว่าพวกท่านกลัวว่าความเชื่อความรักที่ทุ่มเทให้กับ “ในหลวง” จะสลายไป และพวกท่านกลัวการสูญเสียที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ... ความกลัวที่ กำ�ลังทำ�ให้ผู้คนในสังคมยิ่งพากันร้อนรนอย่างหลงทิศหลงทาง ความรักกำ�ลัง ราดนํ้ามันบนกองไฟแห่งโมหะจริต เราจะหยุดมันได้ก็ด้วยการเปิดใจรับฟังข้อมูลรอบด้านมากขึ้น และทำ�ใจ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความอดทนอดกลั้นระหว่างกันมากขึ้น เพื่อ จะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และสงบสุข.
  • 37. 72