1. ฉบับที่ #2 : พฤศจิกายน 2555
ISSUE#2 : November 2012www.eep.co.th
2. www.eep.co.th
กันเป็นครั้งที่สอง กับ
EEP Time ที่จะน�ำเอา
สาระและประโยชน์นานาในแวดวงการ
บันทึกภาพ ทั้งเรื่องราวของอุปกรณ์อันน่า
สนใจ ข่าวสาร และเทคนิคข้อคิดในการ
ถ่ายภาพ เพื่อพัฒนาความรู้ในการถ่ายภาพ
ของทุกท่านให้กว้างไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“นกนางนวล” ก�ำลังทะยอยร่อนลงที่
บางปูแล้ว ฉบับนี้เราไปเก็บภาพจากแหล่ง
ถ่ายภาพนกยอดฮิตมาฝากกัน รวมทั้งแง่คิด
มุมมองต่างๆ ในการถ่ายภาพแอ๊คชั่นของนก
เหล่านี้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะชี้เป้าให้นัก
ถ่ายภาพทั้งมือเก่ามือใหม่ได้ไอเดียเด็ดๆ ใน
การถ่ายภาพนกนางนวลให้ต่างออกไปจาก
เดิมเพื่อเพิ่มทักษะและฝีมือให้รุดหน้ากัน
TAMRON ชื่อนี้เราคุ้นหูคุ้นตากันมา
นาน แต่ใครจะรู้บ้างว่าประวัติของเส้นทาง
สายเลนส์ถ่ายภาพค่ายนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่
สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ผ่านร้อนผ่าน
หนาวมายาวนาน ประสบการณ์และ
เทคโนโลยีบนเส้นทางสายนี้คือสิ่งที่ส่งผล
ให้ TAMRON ก้าวขึ้นมายืนในแถวหน้าของ
ผู้ผลิตเลนส์อิสระชนิดที่เรียกได้ว่าไม่เป็น
รองใคร ประวัติและประสบการณ์ของ
TAMRON เป็นอย่างไร เราได้น�ำมาเสนอ
กันในฉบับนี้แล้ว...
เดือนหน้า...พบกันในงาน Photo
Fair 2012 ซึ่งเราได้ตระเตรียมอะไรหลาย
อย่างชนิดอัดแน่นเสียจนน่าเสียดายหาก
ไม่ได้แวะไปเยี่ยมเยือนกันเลยทีเดียว...
...แล้วพบกัน!
CONTENTISSUE 2 : November 2012
สัญลักษณ์ส�ำคัญ อันหมาย
ถึงการมีข้อมูลให้ศึกษาเพิ่ม
เติมบนเว็บไซต์
S H O O T I N G T H E W O R L D
P R O D U C T F I N D E R
T A M R O N T R I P & T R I C K
T E C H N I C A L
P H O T O O N B O A R D
I N F O S P A C E
เทคนิคและวิธีการถ่ายภาพแบบ “ซิลูเอท”
ภาพเงาด�ำพร้อมแสงสีอันตระการตา วิธี
การถ่ายภาพแบบนี้ต้องท�ำยังไง?
ฟิลเตอร์คุณภาพสูงที่ผลิตจากประเทศ
ญี่ปุ่น “HAKUBA” ลองไปท�ำความรู้จักกับ
ฟิลเตอร์จากค่ายนี้กันดู
ค�ำแนะน�ำในการไปถ่ายภาพที่ “สถานตาก
อากาศ บางปู” แหล่งถ่ายภาพนกสุดฮิต
ของตากล้องเมืองกรุง กับเลนส์เทเลซูม
คุณภาพสูงของ TAMRON
ชิ้นเลนส์ LD และ XLD มีความพิเศษและ
คุณสมบัติเช่นไร ท�ำหน้าที่อะไรในเลนส์
ระดับมืออาชีพ ไปท�ำความเข้าใจกันได้เลย
ผลงานภาพถ่ายเจ๋งๆ จากสมาชิก
ricohclub.net ฉบับนี้เป็นผลงานของใคร
ที่ควรชื่นชมบ้าง?
ประวัติอันยาวนานของเลนส์ TAMRON
มีที่มาที่ไปยังไง ลองติดตามประสบการณ์
ที่ผ่านช่วงเวลาของผู้ผลิตรายนี้กันดู
7
14
22
35
43
38
02
3. A C T I V I T I E S
Photo Hut Academy
ครั้งที่ 26
เลนส์ TAMRON เข้าร่วมกิจกรรมในงาน
Photo Hut Academy ครั้งที่ 26 ที่ มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ โดยในงานมีทั้งการจ�ำหน่ายสินค้า
และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้เลนส์
ในฐาน Work Shop ซึ่งมีทั้ง Portrait, Macro และ
Stop Action เพื่อทดสอบสมรรถภาพอันยอด
เยี่ยมของเลนส์ TAMRON ได้อย่างเต็มที่
ชมภาพกิจกรรมทั้งหมด
3
www.eep.co.th
4. A C T I V I T I E S
“TAMRON Lens Workshop”
อบรมการใช้งานเลนส์สำ�หรับลูกค้า
TAMRON
บริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จ�ำกัด ผู้แทน
จ�ำหน่ายเลนส์ TAMRON แต่ผู้เดียวในประเทศไทย
ได้จัดกิจกรรมการอบรม “TAMRON Lens Work-
shop” เพื่อมอบความรู้ในการใช้งานเลนส์ และ
เทคนิคการถ่ายภาพรูปแบบต่างๆ จากเลนส์ TAM-
RON ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อเลนส์ โดยได้รับเกียรติจาก
คุณอิสระ เสมือนโพธิ์ บรรณธิการบริหาร นิตยสาร
FOTOINFO เป็นวิทยากรในการอบรม และมอบ
ความรู้รวมไปถึงเคล็ดลับในการถ่ายภาพด้วยเลนส์
TAMRON แก่ผู้เข้าอบรมทุกท่าน
ชมภาพกิจกรรมทั้งหมด
4
www.eep.co.th
5. A C T I V I T I E S
Japan Festa in Bangkok 2012
Photo Vote by CASIO EXILIM
บริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จ�ำกัด ผู้แทน
จ�ำหน่ายกล้อง Casio Exilim ร่วมกิจกรรม Japan
Festa Photo Vote by CASIO EXILIM ลุ้น
รับกล้อง Exilim N10 โดยการถ่ายภาพร่วมกับทีม
งาน Casio Exilim ผู้ที่ได้รับการโหวตสูงสุดจะได้
รับกล้อง N10 ไปเป็นรางวัล กิจกรรมนี้ได้รับความ
สนใจจากบรรดาชาวคอสเพลย์ที่มาร่วมงานอย่าง
คับคั่ง โดยมีผู้ได้รับรางวัลจากการโหวตสูงสุดทั้ง
สามรางวัลดังที่เห็นในภาพ สมกับสไตล์ของกล้อง
N10 ที่มีสโลแกนประจ�ำตัวว่า “Your style Your
unique” ซึ่งแต่ละท่านก็มีสไตล์แบบเฉพาะตัวกัน
จริงๆ
ชมภาพกิจกรรมทั้งหมด
5
www.eep.co.th
6. A C T I V I T I E S
Thailand blog.awards 2012
CASIO EXILIM
บริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จ�ำกัด ผู้แทน
จ�ำหน่ายกล้อง Casio Exilim ร่วมมอบรางวัล และ
เปิดบูธกล้องในงาน Thailand Blog Award 2012
ที่ลาน Eden ศูนย์การค้า Central World โดย
กล้อง Casio Exilim เป็นผู้สนับสนุนรางวัลหัวข้อ
Recreation Blog
6
www.eep.co.th
7. หนึ่งในลักษณะของภาพถ่ายที่สามารถหยุด
คนดูภาพได้มากที่สุด โดยที่มีรายละเอียดน้อยที่สุด
ก็คือภาพแบบ “เงาด�ำ” หรือภาพถ่ายที่เรียกกัน
อย่างเป็นทางการว่า “ซิลูเอท” (Silhouette)
ภาพถ่ายชนิดนี้จะปรากฏแสงสีของฉากหลัง
ให้เป็นเสมือนเวที โดยมีตัวแสดงหลักเป็นโครงร่าง
ของวัตถุต่างๆ เป็นสีด�ำสนิทอยู่ที่ฉากหน้า ซึ่งเป็นได้
ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สิ่งก่อสร้าง
ฯลฯ ที่มีรูปทรงหรือลักษณะอันน่าสนใจ
เหตุที่ภาพลักษณะนี้สามารถหยุดคนดูภาพเอา
ไว้ได้ ก็เพราะเป็นภาพที่ต้องใช้จินตนาการในการ
พิจารณาถึงรายละเอียดของเงาด�ำเหล่านั้นว่าคือ
อะไร? ก�ำลังท�ำอะไรอยู่ ด้วยเหตุที่ความอยากรู้อยาก
เห็นนั้นเป็นสัญชาตญาณโดยปกติของมนุษย์ ซึ่งเงา
EPISODE 2 : Silhouette
S H O O T I N G T H E W O R L D
35mm • f/10 • 1/1600 sec. • ISO 200
7
www.eep.co.th
8. ด�ำในภาพจะเรียกร้องให้ความรู้สึกส่วนนั้นขึ้นมาท�ำงานโดย
อัตโนมัติ...นี่แหละคือเสน่ห์อันส�ำคัญของภาพ “ซิลูเอท” ที่เราก�ำลัง
จะมาเรียนรู้ถึงวิธีการถ่ายภาพ และเทคนิคที่จะท�ำให้ภาพซิลูเอท
ของเราได้รับความสนใจจากคนดูภาพ...
...ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเกินก�ำลังของคนถ่ายภาพแต่อย่างใดเลย
ก่อนอื่น...ต้องท�ำความเข้าใจถึงส่วนส�ำคัญสองส่วนของภาพ
ซิลูเอทเสียก่อน ซึ่งเราจะแบ่งออกเป็น ฉากหลัง และ ตัวแบบ
ฉากหลัง จ�ำเป็นต้องเป็นพื้นที่แสงสว่าง ซึ่งจะต้องมีความ
เปรียบต่างกับตัวแบบให้มากที่สุด ฉากหลังที่จะส่งผลให้ภาพซิลู
เอทประสบความส�ำเร็จก็คือ ฉากหลังที่มีความสว่างและมีสีสันสดใส
รวมไปถึงมีลักษณะอย่างอื่นทางแสงสีที่น่าสนใจ เช่น ท้องฟ้ายาม
เช้าหรือยามเย็นที่ก�ำลังมีสีสันอันน่าตื่นตา แสงจากไฟฟ้าประเภท
ต่างๆ เป็นต้น
ตัวแบบ ควรจะต้องมีรูปทรงภายนอกอันน่าสนใจ เพราะ
จะไม่มีการแสดงรายละเอียดใดๆ บนตัวแบบเหล่านี้เลย ดังนั้น
ลักษณะรูปทรงภายนอกจึงส�ำคัญที่สุด หากเป็นสิ่งมีชีวิตก็ควรจะ
ต้องอยู่ในลักษณะท่าทางที่น่าสนใจ หรือหากเป็นสิ่งก่อสร้างต่างๆ
ก็ควรต้องมีรูปทรงที่สวยงามสะดุดตา และควรจะต้องกระตุ้น
จินตนาการของผู้ชมภาพให้ได้มากที่สุด ที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือตัวแบบ
อันมีลักษณะสลับซับซ้อนยุ่งเหยิง เพราะเมื่อมีแต่โครงร่างเป็นเงา
ด�ำแล้วจะท�ำให้ความน่าสนใจถูกลดระดับลงไปเป็นอย่างมาก
S H O O T I N G T H E W O R L D
60mm • f/22 • 1/125 sec. • ISO 100
8
www.eep.co.th
9. ส่วนส�ำคัญอื่นๆ ที่ควรจะต้องพิจารณา
เพิ่มเติมก็คือ มุมกล้อง และการจัดวางองค์
ประกอบภาพ ซึ่งนักถ่ายภาพจ�ำเป็นต้องศึกษา
และฝึกฝนถึงเรื่องราวพื้นฐานเหล่านี้ให้ดี
ในช่วงเวลาหรือสภาวะที่แสงมีความ
เปรียบต่างสูงๆ ระหว่างฉากหลังและตัวแบบนั้น
หากจะถ่ายภาพแบบปกติให้ออกมาดีก็ต้องมี
การใช้เทคนิคทางด้านการเพิ่มแสงชนิดต่างๆ
เข้ามาช่วยให้แสงกับตัวแบบ แต่มันจะเป็นการ
ดีส�ำหรับการถ่ายภาพแบบซิลูเอททันที เพราะ
ยิ่งมีความเปรียบต่างสูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งถ่าย
ภาพได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น
หลักการกว้างๆ ก็คือ การปรับตั้งค่าการ
เปิดรับแสงของกล้องให้ได้ระดับที่พอดีกับ
ปริมาณแสงที่ฉากหลัง ซึ่งจะท�ำให้วัตถุต่างๆ ที่
อยู่ด้านหน้ากล้อง (หรือตัวแบบ) ซึ่งมีปริมาณแสง
น้อยกว่าตกอยู่ในภาวะ “อันเดอร์” ไปโดยปริยาย
ซึ่งก็จะกลายเป็นภาพแบบซิลูเอทไปทันที
สิ่งที่ควรระวังก็คือ หากตัวแบบเองก็มี
ปริมาณแสงที่มากก็จะท�ำให้ความเปรียบต่างไม่สูง
มากนัก ส่งผลให้รายละเอียดต่างๆ ของตัวแบบ
ถูกบันทึกลงมาในภาพด้วย ท�ำให้หลุดจากความ
เป็นภาพแบบซิลูเอทไปได้เช่นกัน
ควรเลือกใช้ค่า ISO ต�่ำที่สุดเท่าที่กล้องจะ
สามารถท�ำได้ เลือกใช้ค่ารูรับแสงที่เหมาะสมโดยค�ำนึง
ถึงความชัดลึกและชัดตื้นเป็นส�ำคัญ ซึ่งโดยปกติทั่วไป
แล้วมักจะเน้นที่ความชัดลึก (แต่ก็ไม่จ�ำเป็นเสมอไป)
ส่วนค่าสปีดชัตเตอร์นั้นจะมีความส�ำคัญมากเมื่อตัว
แบบคือสิ่งที่สามารถเคลื่อนไหวได้ เพราะควรต้องใช้
สปีดชัตเตอร์ที่เหมาะสมเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวเหล่า
นั้นเอาไว้
S H O O T I N G T H E W O R L D
30mm • f/8 • 1/100 sec. • ISO 50
9
www.eep.co.th
10. S H O O T I N G T H E W O R L D
24mm • f/8 • 1/125 sec. • ISO 125
ซึ่งโดยปกติแล้ว การตั้งค่าเปิดรับแสงในภาพแบบ
ซิลูเอทนั้นจะไม่ยุ่งยาก เพราะเป็นการเน้นที่แสงฉากหลัง
เพื่อให้วัตถุฉากหน้าอยู่ในภาวะอันเดอร์ จึงมักจะเอื้อ
อ�ำนวยให้ใช้สปีดชัตเตอร์สูง รูรับแสงแคบ และค่า ISO
ต�่ำๆ เป็นปกติ ซึ่งเมื่อถ่ายภาพซิลูเอทบ่อยๆ ก็จะสามารถ
ปรับตั้งค่าการเปิดรับแสงเอาไว้ล่วงหน้าได้โดยอาศัย
ประสบการณ์และความช�ำนาญโดยที่ไม่ต้องวัดแสงก่อน
แต่อย่างใด เหลือเพียงการให้ความส�ำคัญกับจังหวะและ
การจัดองค์ประกอบภาพเพียงเท่านั้น ซึ่งก็จะท�ำให้มี
โอกาสได้ภาพซิลูเอทที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย
10
www.eep.co.th
11. S H O O T I N G T H E W O R L D
50mm • f/16 • 1/15 sec. • ISO 100
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภาพแบบซิลูเอทนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนที่
จะท�ำหน้าที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน นั่นก็คือฉากหลังอันเป็นพื้นที่ส่วน
แสงสีและความสว่างอันเปรียบเสมือนเวที และส่วนของตัวแบบที่จะ
มีแต่เพียงโครงขอบร่างภายนอกสีด�ำสนิท การประยุกต์เทคนิคอื่นๆ
เพิ่มเติมเข้าไปก็จะยิ่งท�ำให้ภาพซิลูเอทดูน่าตื่นตามากยิ่งขึ้น แต่ส่วน
หลักทั้งสองคือฉากหลังและตัวแบบต้องดูน่าสนใจจริงๆ จึงจะได้รับ
ความสนใจจากผู้ชมภาพ
11
www.eep.co.th
12. S H O O T I N G T H E W O R L D
24mm • f/8 • 1/10 sec. • ISO 200
หากใครยังไม่เคยลองถ่ายภาพแนวนี้ ขอ
แนะน�ำให้ลองดู แล้วจะรู้ว่าการถ่ายภาพประเภท
กระตุ้นจินตนาการนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด และเป็น
อีกหนึ่งเทคนิคการถ่ายภาพที่สนุกสนานเพลิดเพลิน
ในการจับจังหวะลั่นชัตเตอร์เก็บภาพได้เป็นอย่างดียิ่ง
เลยทีเดียว!
วิธีการถ่ายภาพ
1. ปรับโหมดถ่ายภาพไปที่โหมด M
2. ปรับระบบวัดแสงมาเป็นแบบ “เฉพาะจุด”
(Spot) หรือแบบเฉพาะส่วนกลางภาพ
3. วัดแสงไปที่ส่วนสว่างด้านหลัง (ฉากหลัง)
แล้วปรับค่าการเปิดรับแสงให้เหมาะสมกับ
ปริมาณแสงที่ฉากหลัง
4. จับโฟกัสที่วัตถุฉากหน้าแล้วลองถ่ายภาพ
ซึ่งหากค่าการเปิดรับแสงเหมาะสมกับฉาก
หลัง ก็จะได้ภาพซิลูเอทที่ตัวแบบเป็นโครงเงา
ด�ำทันที
5. หากตัวแบบยังไม่ด�ำสนิท ให้ลองปรับค่ารู
รับแสงให้แคบลงหรือใช้สปีดชัตเตอร์ที่สูงขึ้น
จุดวัดแสง
12
www.eep.co.th
13. S H O O T I N G T H E W O R L D
ส่วนของฉากหลังนั้นมีความส�ำคัญเป็นอย่าง
ยิ่ง ดังนั้นฉากหลังจึงควรจะต้องโล่งโดยไม่ควรมีสิ่ง
ใดไปปะปนให้ดูยุ่งเหยิง ซึ่งในกรณีที่ฉากหลังเป็น
ท้องฟ้านั้นจะยิ่งส�ำคัญมาก ดังนั้นมุมกล้องที่อยู่ต�่ำกว่า
ระดับสายตาปกติจะสามารถช่วยให้ตัวแบบดูโดดเด่น
น่าสนใจ เพราะนอกจากมุมภาพจะดูแปลกตาแล้ว ยัง
เปิดพื้นที่ให้ฉากหลังดูกว้างขวางน่าสนใจและหลีกเลี่ยง
สิ่งที่จะมารบกวนฉากหลังได้เป็นอย่างดีด้วย
ดังเช่นภาพตัวอย่างเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่า
เคล็ดลับภาพสวย ตัวแบบในภาพจากมุมต�่ำจะดูโดดเด่นและน่าสนใจมากกว่า
มุมภาพจากระดับสายตาปกติเป็นอย่างมาก เพราะส่วน
พื้นที่มืดด้านหลังจะท�ำให้ตัวแบบกลืนหายไปในความมืด
เช่นเดียวกันด้วย
อาจจะไม่ต้องนอนราบไปกับพื้น หากจอภาพของ
กล้องสามารถปรับมุมมองได้ก็ควรใช้งานมัน หรือใช้วิธีคาด
เดามุมภาพโดยการหย่อนกล้องลงสู่ระดับต�่ำ เงยหน้ากล้อง
ขึ้นเล็กน้อยแล้วลองถ่ายภาพ มันจะได้ผลดีอย่างยิ่งเมื่อใช้
ร่วมกับมุมรับภาพที่กว้างมากๆ
13
www.eep.co.th
14. P R O D U C T F I N D E R
“ฟิลเตอร์”หนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการ
ยอมรับมาอย่างยาวนานทั้งในหมู่ช่างภาพมืออาชีพและ
สมัครเล่น ถึงอรรถประโยชน์ในการสร้างสรรค์ทั้งการ
เพิ่มคุณภาพและการแสดงผลพิเศษเพิ่มเติมให้กับ
ภาพถ่าย รวมไปถึงการปกป้องเลนส์ถ่ายภาพจาก
อันตรายและความเสี่ยงหลายประการที่อาจจะเกิดขึ้นได้
“HAKUBA” อีกหนึ่งในฟิลเตอร์คุณภาพสูงที่ผลิต
ในประเทศญี่ปุ่น คุณภาพระดับแถวหน้านั้นมาจากการ
ที่เลือกใช้ชิ้นเลนส์จาก Schott AG ซึ่งเป็นผู้ผลิตราย
ใหญ่ในเครือเดียวกับ Carl Zeiss ประเทศเยอรมันนี
ซึ่งเป็นผู้ผลิตเลนส์ระดับคุณภาพที่ได้รับการยอมรับกัน
มาอย่างยาวนาน...
14
www.eep.co.th
15. Schott AG เป็นผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์
หลากหลายชนิด โดยเฉพาะงานทางด้าน
กระจกและชิ้นแก้ว เพื่อใช้ทั้งในงาน
อุตสาหกรรมและงานทางภาคครัวเรือน
Schott AG มีสโลแกนของตนคือ
“Glass made of ideas” ซึ่งหมายถึง
การประยุกต์และพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ที่
เกี่ยวข้องกับแก้วและกระจกเป็นส�ำคัญ
มีอายุการด�ำเนินกิจการมายาวนานถึง 125
ปี ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Schott AG นั้นมี
มากมายหลากหลายด้าน
ด้วยความที่เป็นบริษัทในเครือ Carl
Zeiss ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านการผลิตเลนส์
ถ่ายภาพมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่าชิ้น
เลนส์จาก Schoot AG นั้นจะมีคุณภาพ
และประสิทธิภาพอันเป็นเลิศ
สามารถดูข้อมูลของ Schott AG
เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้ :
www.schott.com/thai/index.html
P R O D U C T F I N D E R
นอกจากชิ้นเลนส์คุณภาพจาก Schott AG แล้ว
HAKUBA ยังใช้เทคโนโลยีและเทคนิคขั้นสูงในการผลิตฟิล
เตอร์แต่ละชนิดเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งาน
ตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับมืออาชีพ เทคโนโลยีเหล่านั้น
ได้แก่ :
• MC (Multi Coating) การเคลือบผิวแบบหลายชั้น
เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาทางด้านแสงประเภทต่างๆ มี
อัตราการสะท้อนแสงเพียง 1.5% ซึ่งหมายความว่าแสงจะ
ผ่านได้มากถึง 98.5%
• SMCP (Super Multi Coating) การเคลือบผิวหลาย
ชั้นแบบพิเศษ เหมาะส�ำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ มี
อัตราการสะท้อนแสงเพียง 0.5% แสงผ่านเข้าสู่เลนส์ได้
มากถึง 99.5%
• WPC (Water Proof Coating) เทคโนโลยีการเคลือบ
ผิวแบบกันน�้ำ ช่วยให้หยดน�้ำหรือละอองน�้ำไม่เกาะผิวเลนส์
ง่ายต่อการท�ำความสะอาดและดูแลรักษา
• ฟิลเตอร์ชนิดขอบบาง เพื่อการใช้งานร่วมกับเลนส์มุม
กว้าง หลีกเลี่ยงปัญหาการเกิดขอบมืดตามมุมภาพ
15
www.eep.co.th
16. P R O D U C T F I N D E R
Without C-PL
Without C-PL
With C-PL
With C-PL
Circular PL (C-PL)
ฟิลเตอร์โพลาไรซ์จะท�ำหน้าที่ในการตัดแสงบางส่วน
ออกไปจากภาพ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือการตัดแสง
สะท้อนออกจากวัตถุที่มีพื้นผิวมันวาว เช่นผิวน�้ำ
กระจก โลหะ ฯลฯ ท�ำให้วัตถุนั้นๆ มีสีสันที่อิ่มตัวมาก
ยิ่งขึ้นกว่าการถ่ายภาพปกติ
คุณลักษณะที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งของฟิล
เตอร์ชนิดนี้ก็คือ การเพิ่มความอิ่มตัวในสีสันของ
ท้องฟ้าในภาพแบบทิวทัศน์ให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น เพราะ
แสงที่ฟุ้งกระจายสว่างขาวบางส่วนจะถูกตัดออกไป
ด้วยฟิลเตอร์โพลาไรซ์นั่นเอง
ขนาดของฟิลเตอร์ :
25 มม. - 82 มม.
16
www.eep.co.th
17. P R O D U C T F I N D E R
Neutral Density (ND)
ฟิลเตอร์ ND มีความส�ำคัญในแง่ของการลดปริมาณ
แสงที่จะผ่านตัวมันเองให้น้อยลง เพราะในการถ่าย
ภาพบางประเภท โดยเฉพาะภาพถ่ายที่ต้องแสดงการ
เคลื่อนไหว (เช่นภาพสายน�้ำตก) โดยใช้สปีดชัตเตอร์
ช้านั้นต้องลดปริมาณแสงลงเพื่อไม่ให้เกิดภาพโอเวอร์
จากการที่ใช้สปีดชัตเตอร์ช้านั่นเอง
ไม่เพียงเฉพาะการลดแสงเพียงอย่างเดียว แต่
ฟิลเตอร์ ND ที่ดีต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความเปรียบ
ต่างทางด้านแสงของสิ่งที่ก�ำลังจะบันทึกภาพด้วย
ค่าแสงที่สามารถผ่านได้ :
2X = 50%
4X = 25%
8X = 12.5%
ขนาดของฟิลเตอร์ :
49 มม. - 82 มม.
Without ND With ND
17
www.eep.co.th
18. P R O D U C T F I N D E R
Close-up Filter
ฟิลเตอร์โคลส-อัพ ใช้สวมติดหน้าเลนส์เพื่อเพิ่ม
ก�ำลังขยายในการถ่ายภาพให้สูงขึ้น ช่วยให้ถ่ายภาพ
วัตถุขนาดเล็กในลักษณะภาพมาโครได้
ระยะที่สามารถถ่ายภาพได้ :
No.1 33-100 cm
No.2 24-50 cm
No.3 20-33 cm
No.4 17-25 cm
No.5 15-20 cm
No.10 8-10 cm
*หมายเหตุ : ระยะเมื่อใช้เลนส์
ทางยาวโฟกัส 55 มม.
ขนาดของฟิลเตอร์ :
49 มม. - 77 มม.
Without CU Filter CU Filter No.2
CU Filter No.4 CU Filter No.10
18
www.eep.co.th
19. P R O D U C T F I N D E R
Cross Screen
ฟิลเตอร์ส�ำหรับช่วยสร้างประกายแฉกให้กับดวงแสง
แบบต่างๆ เช่นหลอดไฟ แสงเทียน ฯลฯ ท�ำให้ภาพดู
มีลักษณะพิเศษ หรูหรา มีคุณค่ามากกว่าภาพถ่าย
ปกติธรรมดา
ลักษณะพิเศษของฟิลเตอร์ :
4X ให้ประกายแสง 4 แฉก
6X ให้ประกายแสง 6 แฉก
ขนาดของฟิลเตอร์ :
49 มม. - 82 มม.
Without Cross Screen
Cross Screen 4X
Cross Screen 6X
19
www.eep.co.th
20. P R O D U C T F I N D E R
Protector
ฟิลเตอร์ส�ำหรับช่วยปกป้องหน้าเลนส์ ทั้งจากฝุ่น
ละอองหรือสิ่งสกปรกต่างๆ รวมไปถึงป้องกันสิ่งที่จะ
เข้ามากระทบกับหน้าเลนส์โดยตรง ซึ่งฟิลเตอร์
ป้องกันหน้าเลนส์ที่ดีจะต้องไม่ท�ำให้คุณภาพของแสง
ลดต�่ำลงจากความเป็นจริง
ลักษณะพิเศษของฟิลเตอร์ :
MC Lens Guard : ชิ้นเลนส์ใส ไม่มีสี เน้นการ
ถ่ายทอดคุณภาพของเลนส์ที่ใช้อย่างครบถ้วนอย่างเป็น
ธรรมชาติที่สุด
MCUV : ดูดซับคลื่นรังสี UV
ช่วยให้ได้ภาพที่มีความเปรียบ
ต่างสูงขึ้น
ขนาดของฟิลเตอร์ :
25 มม. - 82 มม.
20
www.eep.co.th
21. P R O D U C T F I N D E R
นี่คือฟิลเตอร์คุณภาพสูงอีกระดับจากญี่ปุ่น ที่จะเข้า
มาสร้างความแตกต่างให้กับภาพถ่ายของคุณโดยเริ่ม
ตั้งแต่หน้าเลนส์ เพื่อคุณภาพของแสงที่จะถูกถ่ายทอด
ได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ท�ำให้คุณภาพของแสง
เหล่านั้นเสียไป
ทั้งเพื่อเพิ่มคุณภาพและความสวยงาม, สร้าง
ผลพิเศษให้กับภาพ ไปจนถึงปกป้องหน้าเลนส์แสน
รักของคุณ ฟิลเตอร์ HAKUBA ก็พร้อมส�ำหรับ
หน้าที่เหล่านั้นแล้ว!
21
www.eep.co.th
22. T A M R O N T R I P & T R I C K
This issue power by :
มาตรฐานใหม่ ของการออกแบเลนส์ซูมเทเลโฟโต้
300mm • F/22 • 1/1250 sec. • ISO 200
Model A005
22
www.eep.co.th
23. T A M R O N T R I P & T R I C K
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD300mm • F/13 • 1/1250 sec. • ISO 100
Model A005
23
www.eep.co.th
24. T A M R O N T R I P & T R I C K
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD300mm • F/29 • 1/1000 sec. • ISO 200
Model A005
24
www.eep.co.th
25. ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อเป็น “สถานตากอากาศ” แต่ใน
ความรับรู้ของคนทั่วไป “บางปู” เป็นเหมือนที่พัก
ผ่อนหย่อนใจยามแดดร่มลมตก และเป็นสถานที่
อันน่าตื่นตาในช่วงเวลาปลายปียามลมหนาวมา
เยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส�ำหรับผู้ที่เพิ่งจะเคยมา
สัมผัสสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก เพราะมีเหล่านก
นางนวลนับร้อยนับพัน ที่บินฉวัดเฉวียนสร้างสีสัน
ความมีชีวิตชีวาอันดูน่าตื่นเต้นอยู่ในระยะที่แทบ
จะเอื้อมมือถึง
ยามเย็น...โดยเฉพาะช่วงวันหยุดและวันเสาร์-
อาทิตย์ นอกจากนกนางนวลนับร้อยนับพันแล้ว
ผู้คนที่มาเที่ยวชมก็มีจ�ำนวนนับร้อยนับพันเช่นกัน
ซึ่งจะว่าไปแล้ว บางปูแห่งนี้ก็ยังเป็นสถานที่อันน่า
โรแมนติกด้วยแสงสีที่ฉาบทาท้องฟ้าเมื่อได้เวลา
โพล้เพล้ อากาศเย็นๆ ที่เคล้าคลอด้วยสีสันอันอบอุ่น
ทางทิศตะวันตก เติมบรรยากาศด้วยเสียงนก
นางนวลที่บินอยู่บนท้องฟ้า ไม่ว่าใครก็ย่อมจะ
เคลิบเคลิ้มไปตามบรรยากาศได้ไม่ยาก...
จนกระทั่งแสงสีสุดท้ายจากไป เมื่อนั้นบางปู
ก็จะเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบทันที! (ติดตามต่อไป
ว่าเกิดอะไรขึ้น?)
T A M R O N T R I P & T R I C K
SP AF10-24mm F/3.5-4.5 Di II LD Aspherical [IF]F/16 • 1/160 sec. • ISO 100
สถานตากอากาศ
25
www.eep.co.th
26. SP AF10-24mm F/3.5-4.5 Di II LD Aspherical [IF]13mm • F/6.3 • 1/8 sec. • ISO 100
Model B001
T A M R O N T R I P & T R I C K
26
www.eep.co.th
27. บางปูแห่งนี้ ได้รับความนิยมจากช่างภาพทั้งมือ
อาชีพและมือสมัครเล่นไม่ใช่น้อย ในช่วงฤดูที่นก
นางนวลมาปรากฏกายที่นี่ ไม่มีวันใดเลยที่สะพาน
แห่งนี้จะว่างเว้นไปจากคนที่มีกล้องถ่ายภาพอยู่ใน
มือ บ้างก็มาถ่ายภาพบรรยากาศ บ้างก็มาถ่ายภาพ
นกนางนวลโดยเฉพาะ แต่บางปูก็หาได้มีแค่นก
นางนวลเท่านั้น ยังคงมีอีกหลากหลายชีวิตที่ท่อง
เที่ยวหากินอยู่ในป่าชายเลนแห่งนี้...
รอบนี้เราน�ำเอาเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ในระยะ
ท�ำการ 70-300mm มาเก็บภาพแบบเน้นเจาะตัว
แบบ เพื่อ “ลองของ” กับเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ค่าตัว
หมื่นกลางๆ ที่ได้รับการยกย่องจากผู้ที่ได้เคยสัมผัส
กับมันมาแล้วว่าเป็นเลนส์ถ่ายภาพที่ดีเยี่ยมจนดู
เหมือนจะเกินราคาค่าตัว ทางที่จะรู้และพิสูจน์ทราบ
กันได้ก็คือต้องเอาออกมาลองในภาคสนามเท่านั้น
ในฐานะที่เป็นผู้ถ่ายภาพ...บอกได้เต็มปาก
เต็มค�ำว่า สมแล้วที่เป็นเลนส์ในอนุกรม “SP”
ของ TAMRON อันหมายถึงเลนส์คุณภาพสูงใน
สายการออกแบบและผลิต การเก็บรายละเอียด
ของแสงและสีสันนั้นท�ำได้อย่างน่าประทับใจ การ
ท�ำงานของระบบโฟกัสอัตโนมัติรวดเร็วทันใจ แต่
ที่น่าชื่นชมมากที่สุดก็คือระบบกันสั่น “VC” ของ
เจ้าตัวนี้ที่นิ่งสนิทเสียจนน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว!
T A M R O N T R I P & T R I C K
300mm • F/5.6 • 1/80 sec. • ISO 100
300mm • F/5.6 • 1/80 sec. • ISO 100
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
• ภาพซิลูเอททั้งสองภาพนี้บันทึก
ในขณะที่มีแสงน้อย สปีดชัตเตอร์
เพียง 1/80 sec ต้องถือว่าต�่ำมาก
เมื่อเทียบกับระยะที่ 300mm แต่
ทั้งสองภาพนี้ใช้มือเปล่าในการจับ
ถือกล้อง ซึ่งท�ำได้อย่างสบายๆ ด้วย
ความสามารถของ “VC” ในเลนส์
ตัวนี้นั่นเอง
27
www.eep.co.th
28. T A M R O N T R I P & T R I C K
นางนวลหลากหลายสายพันธ์ุที่อพยพ
หนีหนาวจากทางเหนือคือจุดขายหลักของที่นี่ ใน
ประเด็นของคนถ่ายภาพแล้วคือประสบการณ์และ
ความรู้ที่ค่อนข้างสนุกสนาน และเป็นเรื่องของการ
ฝึกปรือฝีมือทางการถ่ายภาพชั้นดีเลยทีเดียว
หากคุณคิดที่จะมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ การ
มาถึงตอนช่วงเย็นแดดร่มลมตกคือเวลาที่เหมาะสม
แต่ถ้าหากต้องการถ่ายภาพแบบจริงจัง เวลาที่เหมาะ
คือตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นไป
เหตุผลก็คือ ในช่วงเช้าจะไม่มีผู้คนมามากนัก
เพราะอากาศและแสงแดดจะค่อนข้างร้อน แต่มัน
กลับเป็นผลดีต่อคนถ่ายภาพในแง่ของทิศทางแสง
และไม่วุ่นวายจอแจมาก สามารถจับจังหวะและมี
สมาธิกับการถ่ายภาพได้มากกว่า
“สะพานสุขตา” คือบริเวณที่เราใช้ถ่ายภาพ
เป็นสะพานปูนที่ทอดยาวออกไปในทะเล สองฟาก
ฝั่งสะพานจะมีนกนางนวลมาคอยจิกกินอาหารที่นัก
ท่องเที่ยวโยนขึ้นไป บ้างก็โฉบลงมาจิกอาหารที่ตก
ลอยอยู่บนผิวน�้ำ ซึ่งนั่นคือจังหวะที่น่าสนใจส�ำหรับ
การถ่ายภาพ เพราะท่าทางของนกและผืนน�้ำที่แตก
กระจายจะช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ
ภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งการใช้เลนส์เทเลโฟโต้ดู
จะเข้าทางส�ำหรับภาพถ่ายท�ำนองนี้มากที่สุด
300mm • F/6.3 • 1/1250 sec. • ISO 200
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
28
www.eep.co.th
29. T A M R O N T R I P & T R I C K
300mm • F/5.6 • 1/1250 sec. • ISO 100
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
• ในช่วงสายจะมีนกสายพันธ์ุอื่นๆ ออกมาหากินตาม
ชายทะเลจ�ำนวนมากพอสมควร ซึ่งต้องคอยสอดส่องดูให้ดี
เพราะบางชนิดที่น่าสนใจก็มีขนาดเล็กมากเสียจนอาจหลุด
รอดจากการมองเห็นไปได้เหมือนกัน
29
www.eep.co.th
30. T A M R O N T R I P & T R I C K
ก่อนอื่น ขอให้คุณสังเกตทิศทางของแสงให้ดี
ก่อน พิจารณาดูว่าคุณต้องการภาพถ่ายลักษณะใด
แสงอาทิตย์ที่มีอยู่นั้นสามารถให้ภาพอย่างที่ต้องการ
ได้หรือไม่ ต�ำแหน่งที่คุณอยู่นั้นเหาะสมหรือเปล่า
ข้อบังคับอันส�ำคัญส�ำหรับการถ่ายภาพใน
ลักษณะทางด้านซ้ายมือนี้ก็คือ คุณจ�ำเป็นต้องใช้
สปีดชัตเตอร์ในระดับที่ไม่ต�่ำไปกว่า 1/1000 sec.
จึงจะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้ได้ทั้งหมด
โดยเฉพาะหยดน�้ำที่จะเป็นตัวช่วยสร้างอารมณ์ใน
ภาพลักษณะเช่นนี้ ส่วนอีกสองปัจจัยคือค่ารูรับแสง
และ ISO นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการจะให้มันมี
ลักษณะเป็นอย่างไร?
ส�ำหรับค�ำแนะน�ำของเรา ค่ารูรับแสงนั้นไม่
ควรจะต�่ำกว่า F/5.6 ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยในเรื่องของการ
ควบคุมระยะความคมชัด ซึ่งในการถ่ายภาพแบบนี้
มีความเป็นไปได้ที่ส่วนส�ำคัญจะหลุดจากพื้นที่โฟกัส
เนื่องจากมันมีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างรวดเร็ว ค่า
รูรับแสงที่ครอบคลุมระยะชัดลึกจะไว้วางใจได้
มากกว่า ดังนั้นเมื่อต้องใช้รูรับแสงที่แคบลง ก็จ�ำเป็น
ต้องเพิ่มค่า ISO ให้เหมาะสมกันด้วย มิฉะนั้นแล้ว
ภาพจะมืดเกินไป (Under Exposure)
สังเกตจังหวะของนก ใช้โหมดถ่ายภาพต่อ
เนื่อง จากนั้นลองจับจังหวะการลั่นชัตเตอร์ดู แล้ว
คุณจะรู้ว่านี่แหละคือความสนุกในโลกของการถ่าย
ภาพอย่างแท้จริงเลยทีเดียว!
170mm • F/13 • 1/1250 sec. • ISO 100 SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
30
www.eep.co.th
31. T A M R O N T R I P & T R I C K
นอกจากแอ๊คชั่นและการจัดวางองค์
ประกอบภาพแล้ว สิ่งส�ำคัญที่คุณควรใส่ใจให้มาก
ก็คือ “แสง” ซึ่งภาพที่ถ่ายจากที่นี่โดยมากนั้นมัก
จะมองข้ามเรื่องนี้ไป ท�ำให้ภาพออกมาดูธรรมดา ไม่
น่าสนใจเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าจะมีการจัดองค์ประกอบ
ภาพได้ดีก็ตาม
ลองสังเกตทิศทางของแสงที่จะกระท�ำต่อตัว
แบบของเราให้ดี ทิศทางของกล้องที่เราจะหันไปนั้น
ควรที่จะเป็นอย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายตามแสง
หรือถ่ายภาพย้อนแสงก็ตาม หากคุณสามารถ
ควบคุมค่าการเปิดรับแสงได้เหมาะสม ภาพก็จะออก
มาดูน่าสนใจได้เช่นกัน ดังจะเห็นได้จากหลายๆ
ภาพที่เราน�ำมาให้ดูนี้ก็มีทั้งที่ถ่ายภาพย้อนแสงและ
ตามแสงทั้งคู่
แน่นอนว่า หากต้องการได้ภาพที่ดีในเรื่องของ
แสง คุณจ�ำเป็นต้องแลกมาด้วยความร้อนจากการ
อดทนรอคอยในการเผชิญกับอุณหภูมิที่ค่อยๆ เพิ่ม
สูงขึ้นหากคุณมาถ่ายภาพตั้งแต่ช่วงเช้า แต่รับรอง
ว่าคุณจะมีโอกาสได้ภาพดีๆ มากกว่าการถ่ายภาพ
ในช่วงเย็นแน่นอน
ที่ส�ำคัญก็คือ เนื่องจากเป็นป่าชายเลน หลัง
สิ้นแสงตะวันไปแล้ว บางปูแห่งนี้จะกลายสภาพเป็น
สนามรบของฝูงยุงแห่งป่าชายเลนทันที! และนั่นคือ
สาเหตุที่ท�ำให้อยู่ต่อไม่ได้อย่างแน่นอน...
300mm • F/5.6 • 1/1250 sec. • ISO 100
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
31
www.eep.co.th
32. T A M R O N T R I P & T R I C K
300mm • F/5.6 • 1/1250 sec. • ISO 100
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
• บางจังหวะ นกก็จะมีกิริยาอาการที่แตกต่างออกไปจาก
ปกติ การเล็งโฟกัสค้างเอาไว้ที่ตัวนกเป็นเรื่องธรรมดาที่นัก
ถ่ายภาพนกต้องท�ำกัน เพราะในบางจังหวะก็อาจจะได้ภาพ
ในขณะที่นกก�ำลังท�ำอะไรบางอย่าง ซึ่งจะท�ำให้ภาพถ่ายดู
มีเรื่องราวและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
32
www.eep.co.th
33. T A M R O N T R I P & T R I C K
ถึงแม้ว่า “สถานตากอากาศบางปู” จะเป็นสถานที่ท่อง
เที่ยวอันส�ำคัญและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่บางปู
ก�ำลังเป็นที่นิยมของบรรดานักถ่ายภาพที่ต้องการฝึกปรือฝีมือ
มากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากจ�ำนวนของนักถ่ายภาพที่ทวี
จ�ำนวนมากขึ้นทุกปี
ช่วงเวลาที่เหมาะสมส�ำหรับการมาที่นี่ก็คือช่วงเดือน
ตุลาคม-มีนาคม แต่ช่วงที่มีนกเยอะมากที่สุดก็คือปลายเดือน
พฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมกราคม หลังจากนั้นนกก็จะเริ่ม
ทยอยเดินทางกลับขึ้นเหนือตามเดิมต่อไป
หนาวนี้ หากยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ลองพกเลนส์เท-
เลโฟโต้ไปเก็บแอ๊คชั่นมันๆ ของนกนางนวลแห่งบางปูเพื่อ
เป็นการวอร์มทั้งกล้องทั้งคน ก่อนที่จะสะพายกล้องออกไป
ส่องโลกในฤดูแห่งการท่องเที่ยว รับรองว่าบางปูจะช่วยจุดไฟ
ถ่ายภาพของคุณให้ลุกโชนขึ้นมาได้อีกกองใหญ่ๆ เลยทีเดียว
หนึ่งปีมีแค่ช่วงไม่กี่เดือนนี้เท่านั้นที่จะได้ตื่นตากับฝูง
นกนางนวลขนาดใหญ่ ในสถานที่อันไม่ไกลเกินการขับรถ
ไปเก็บภาพแห่งนี้ ...อย่าบอกนะว่าคุณจะยอมพลาด?
300mm • F/5.6 • 1/6 sec. • ISO 100
SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
33
www.eep.co.th
34. T A M R O N T R I P & T R I C K
คุณอาจสนใจวิธีการถ่ายภาพแนวเดียวกับภาพนี้ และคุณก็อาจจะรู้อยู่
แล้วว่าต้องใช้รูรับแสงแคบๆ ตั้งแต่ F/16 เป็นต้นไป เพื่อท�ำให้ดวงแสงต่างๆ
เกิดประกายแฉกขึ้นเนื่องจากผลของกลีบรูรับแสงในตัวเลนส์
แน่นอนว่ารูรับแสงแคบคือเรื่องส�ำคัญ แต่ที่ส�ำคัญยิ่งไปกว่าก็คือ “ช่วง
เวลา” เพราะถ้าช่วงเวลาไม่เหมาะสม ลักษณะการท�ำมุมของแสงอาทิคย์ที่
จะสะท้อนกับส่วนโค้งของลอนคลื่นผิวน�้ำจะไม่แสดงผลเต็มที่ และมันอาจจะ
มีพื้นที่แคบ ลักษณะของแสงและเงาไม่สวยงาม ฯลฯ
ภาพนี้บันทึกในช่วงเวลาเช้าก่อน 8 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่แสง
อาทิตย์ท�ำมุมเฉียงกับผืนน�้ำ และเป็นเวลาที่ระดับน�้ำทะเลยังไม่ลงจนตื้น
เกินไป แต่หลังจากช่วงนี้ระดับน�้ำจะลดและแห้งจนติดพื้น ไม่เหลือ
ประกายแสงแบบนี้ให้ถ่ายภาพได้อีก ดังนั้นนอกจากรูรับแสงแคบแล้วก็
จ�ำเป็นต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาด้วย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องส�ำคัญจริงๆ
นอกจากคุณภาพของชิ้นเลนส์ที่เน้นในเรื่องคุณภาพของภาพแล้ว ระบบป้องกันอาการสั่นไหว VC ของ
เลนส์ตัวนี้ยังน่าทึ่ง เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันภาพเบลอในสปีดชัตเตอร์ต�่ำๆ แล้ว มันยังช่วยให้คุณมีสมาธิ
มากขึ้นส�ำหรับการจับโฟกัสในสปีดชัตเตอร์สูงๆ ด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าท�ำไมเลนส์ตัวนี้จึงได้รับรางวัล
ระดับโลกต่างๆ มากมาย ...นี่แหละเสน่ห์ของเลนส์ตัวนี้
“ประกายแฉก”
มาตรฐานใหม่ ของการออกแบเลนส์ซูมเทเลโฟโต้
Model A005
300mm • F/29 • 1/1000 sec. • ISO 200
34
www.eep.co.th
35. T E C H N I C A L
ในการออกแบบสร้างเลนส์ถ่ายภาพหนึ่งตัว ภายในจะ
ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ที่ผลิตจากกระจกหรือแก้วลักษณะต่างๆ
เพื่อถ่ายทอดล�ำแสงเข้าสู่ภายในกล้องหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็
จะท�ำหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะทางกายภาพของชิ้น
เลนส์นั้นๆ
โดยลักษณะและองศาการรับภาพของเลนส์แต่ละแบบจะถูก
ออกแบบเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันไป ซึ่งในเลนส์บางประเภทก็
จะมีการใช้ชิ้นเลนส์ชนิดพิเศษที่ต่างออกไปจากชิ้นเลนส์ที่ผลิตจาก
กระจกหรือชิ้นแก้วธรรมดา ทั้งนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาหรือเสริม
ประสิทธิภาพในการถ่ายทอดล�ำแสงให้ดีขึ้นก่อนที่จะส่งต่อไปยัง
เซนเซอร์รับภาพในตัวกล้อง
ชิ้นเลนส์พิเศษนั้นมีหลายชนิด หนึ่งในชิ้นเลนส์พิเศษที่ใช้
อยู่ในเลนส์ TAMRON ระดับมืออาชีพก็คือชิ้นเลนส์ชนิด LD และ
XLD ทั้งนี้ก็เพื่อคุณภาพของแสงในระดับสูงสุดนั่นเอง...
35
www.eep.co.th
36. T E C H N I C A L
LD : Low Dispersion
ชิ้นเลนส์พิเศษที่มีหน้าที่ในการลดการเกิด Chromatic Aber-
ration (CA) ซึ่งคุณสมบัติทางกายภาพของชิ้นเลนส์ LD ก็คือจะมี
อัตราการกระจายล�ำแสงในแต่ละช่วงของสเปคตรัมแสงที่ต�่ำกว่าชิ้น
เลนส์ที่ผลิตจากแก้วหรือกระจกธรรมดา ส่งผลให้ภาพถ่ายมีความคม
ชัดและได้คุณภาพสูงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้มันยังช่วยในเรื่องของ
ความเร็วในการจับโฟกัสภาพในระบบโฟกัสอัตโนมัติอันเนื่องมาจาก
คุณภาพแสงที่ดีได้ด้วย
XLD : Extra Low Dispersion
ชิ้นเลนส์พิเศษที่ผลิตจากชิ้นแก้วคุณภาพสูงชนิดพิเศษ มีอัตรา
การกระจายสเปคตรัมของแสงในอัตราที่ต�่ำกว่าชิ้นเลนส์แบบ LD ปกติ
ชิ้นเลนส์แบบ XLD มีคุณสมบัติในการกระจายล�ำแสงเทียบ
เท่ากับชิ้นเลนส์แบบฟลูโอไรด์ ซึ่งเป็นชิ้นเลนส์ที่มีคุณสมบัติดีเลิศและ
มีราคาสูง และเมื่อออกแบบเลนส์โดยการใช้ชิ้นเลนส์ XLD ร่วมกับ
ชิ้นเลนส์ LD ก็จะยิ่งส่งผลให้อัตราการกระจายของล�ำแสงอยู่ในระดับ
ต�่ำมาก ส่งผลให้ภาพถ่ายมีความคมชัดและคุณภาพสูงสุด อันเป็นผล
มาจากการที่มีค่า Contrast อยู่ในระดับดีเลิศนั่นเอง
เลนส์ของ TAMRON ที่มีการใช้ชิ้นเลนส์ LD และ XLD ร่วมกัน
คือ SP 70-300mm F/4-5.6 Di VC USD
36
www.eep.co.th
37. T E C H N I C A L
Chromatic Aberration :
ความคลาดสี
ปัญหาส�ำคัญซึ่งส่งผลกระทบกับคุณภาพของภาพถ่ายที่มักจะพบใน
เลนส์ทางยาวโฟกัสสูงอย่างเลนส์เทเลโฟโต ลักษณะของ CA ก็คือ
เกิดสีที่ผิดเพี้ยนไปตามขอบของวัตถุในภาพถ่ายในลักษณะต่างๆ ซึ่ง
ท�ำให้คุณภาพความคมชัดของภาพถ่ายลดลง
สาเหตุส�ำคัญของปัญหานี้ก็คือ การกระจายของความยาวคลื่นแสง
แต่ละสีที่มีความยาวไม่เท่ากันในสเปคตรัม เมื่อเดินทางผ่านชิ้นเลนส์
ปกติจะท�ำให้เกิดการหักเหที่ความยาวแตกต่างกันและตกกระทบที่
เซนเซอร์รับภาพในต�ำแหน่งที่ต่างกัน ท�ำให้เกิดเป็นสีเหลื่อมตาม
ขอบของวัตถุในภาพถ่าย
วิธีการแก้ปัญหานี้ก็คือ เพิ่มชิ้นเลนส์ที่ช่วยลดการกระจายของคลื่น
ล�ำแสงให้ต�่ำลง เพื่อให้แต่ละคลื่นสีตกกระทบอยู่ในต�ำแหน่งเดียวกัน
อย่างชิ้นเลนส์ LD และ XLD เข้าไปในชุดเลนส์นั่นเอง ซึ่งก็จะท�ำให้
ภาพถ่ายมีคุณภาพความคมชัดสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
37
www.eep.co.th
38. I N F O S P A C E
หนึ่งในเลนส์อิสระที่มีชื่อเสียงการันตีว่า
เป็นเลนส์ที่โดดเด่นและทันสมัย ให้ผลงานชั้นเลิศ
ผ่านผลงานภาพถ่ายชั้นเยี่ยมมาแล้วมากมาย พร้อม
ทั้งเลนส์ในสายการผลิตที่ครอบคลุมกับทุกช่วงใช้งาน
ทั้งคุณภาพและเทคโนโลยีที่ส่งถึงมือผู้ใช้งานนั้นไม่
เคยเป็นที่สองรองใคร...
ผลงานและชื่อเสียงอันเป็นที่เลื่องลือย่อมต้องมี
ที่มาที่ไป “TAMRON” เองก็เช่นกัน ที่กว่าจะก้าวขึ้น
มายืนอยู่ในระดับแถวหน้านั้น ก็ต้องผ่านระยะเวลา
แห่งการบ่มเพาะที่ต้องถอยหลังย้อนกันไปยาวนาน
จนถึงช่วงสมัยสงครามโลกนั่นเลยทีเดียว
ประวัติของเลนส์ภายใต้ชื่อ TAMRON นั้นจะ
เป็นอย่างไรบ้าง? ไปติดตามความยิ่งใหญ่ในแง่ของ
ประวัติศาสตร์กันได้ ณ บัดนี้...
38
www.eep.co.th
39. I N F O S P A C E
1950 – 1959 ช่วงแห่งการถือก�ำเนิด
หลังจากมหาสงครามโลกครั้งที่สองสงบราบคาบลง
Mr. Herbert Keppler ซึ่งเป็นช่างภาพอิสระ ได้ออก
ตระเวนไปตามพื้นที่ต่างๆ ของญี่ปุ่น เพื่อชักจูงและแนะน�ำ
ให้นักลงทุนและบริษัทต่างๆ หันมาให้ความสนใจกับธุรกิจ
ทางด้านอุปกรณ์ทางการถ่ายภาพ ซึ่งเขาเชื่อว่าจะเป็นอีก
หนึ่งช่องทางที่จะช่วยกระตุ้นวงจรภาคธุรกิจให้กับ
เศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้ฟื้นตัวขึ้นจากความบอบช�้ำอันเป็น
ผลพวงส�ำคัญจากภาวะสงครามที่ส่งผลเสียไปทั่วทั้ง
ภูมิภาคในเวลานั้น
เป็นเวลาห้าปีหลังจาก
สงครามโลกครั้งที่สองได้
สงบลง Taisei Optical
Equipment Manufac-
turing ได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่
เมือง Urawa (ค.ศ. 1950) ด้วยจ�ำนวนเงินลงทุนถึง 2.5
ล้านเยน (ซึ่งเป็นจ�ำนวนเงินที่สูงมากในขณะนั้น) เพื่อผลิต
กล้องถ่ายภาพและกล้องส่องทางไกลออกสู่ตลาด แต่ใน
ยุคนั้นกล้องถ่ายภาพยังไม่ใช่สิ่งที่โดดเด่นมากนัก กลับ
เป็นกล้องส่องทางไกลที่ได้รับความนิยมและสร้างยอดขาย
ให้อย่างเป็นกอบเป็นก�ำชัดเจน อันเนื่องมาจากความนิยม
และความต้องการใช้งานในขณะนั้น
และในช่วงเวลานั้นเองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงและ
เคลื่อนไหวในวงการธุรกิจกล้องและการถ่ายภาพของญี่ปุ่น
อย่างมีนัยยะส�ำคัญ โดยดูได้จากการถือก�ำเนิดขึ้นของ
บริษัทซึ่งด�ำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพที่เรารู้จัก
กันในชื่อปัจจุบัน เช่น Pentax, Minolta, Nikon และอีก
หลายต่อหลายบริษัท ซึ่งการถือก�ำเนิดขึ้นอย่างมากมาย
ของบริษัทเหล่านี้ท�ำให้ธุรกิจการถ่ายภาพจากฝั่งญี่ปุ่นได้
รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมากด้วยเหตุผลทางด้านราคาที่
ต�่ำกว่าจ้าวแห่งอุปกรณ์ทางการถ่ายภาพอย่างเยอรมันใน
ขณะนั้น
Tamron ได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการถ่ายภาพอย่างจริงจัง
ในปี ค.ศ. 1957 ด้วยการเปิดตัวเลนส์ “T-mount” ซึ่งใช้
งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพ 35 mm ในท้องตลาดขณะนั้น
โดยเลนส์ T-mount ตัวแรกที่ออกสู่ตลาดคือ 135mm
F/4.5 รุ่น #280 ในปี ค.ศ. 1958 ซึ่งสร้างยอดขายให้กับ
บริษัท Taisei Optical ได้เป็นอย่างดี
รหัส “T” ที่ใช้นั้นน�ำมาจากตัวอักษรแรกของ
บริษัท “Taisei” นั่นเอง
#280 135mm F/4.5
ultra-wide-angle 7x35 11°
กล้องส่องทางไกลซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้น
แรกของ TAMRON
39
www.eep.co.th