SlideShare a Scribd company logo
หลักฐานทางประวัตศาสตร์
ิ
ประเภทหลักฐานทางประวัตศาสตร์
ิ
จาแนกตามความสาคัญ

หลักฐานชั้นต้น

หลักฐานชั้นรอง

หลักฐานที่เกี่ยวข้ องโดยผู้ท่เกี่ยวข้ อง
ี
โดยตรงหรือ ผู้ร้ เห็นเหตุการด้ วยตัวเอง
ู
รวมทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุท่ี
สร้ างขึ้นในยุคสมัยนั้น

หลักฐานที่ผ้ ูบันทึกนามาจากบุคคลอื่นมา
อีกทอดหนึ่ง รวมทั้งงานเขียนทาง
ประวัติศาสตร์ท่ศึกษาข้ อมูลมาจาก
ี
หลักฐานชั้นต้ น ก็ถอว่าเป็ น
ื
หลักฐานชั้นรองด้ วยเช่นกัน

หมายเหตุ ผู้ศกษาประวัติศาสตร์ ต้องเข้ าใจว่า ทั ้งหลักฐานชั ้นต้ นและหลักฐานชั ้นรองมีทั ้งข้ อมูลจริงและข้ อมูลเท็จ จึงควร
ึ
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ เรี ยกว่า การประเมินคุณค่าของหลักฐานก่อนนาไปใช้ เป็ นข้ อมูล
ทางประวัติศาสตร์
ประเภทหลักฐานทางประวัตศาสตร์
ิ
จาแนกตามลักษณะของหลักฐาน
หลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์
อักษร
คือ หลักฐานที่เป็ นตัวหนังสือ เช่น
จารึก ตานาน เอกสารทางราชการ

หลักฐานที่ไม่เป็ นลายลักษณ์อกษร
ั
คือ หลักฐานที่เป็ นวัตถุ ซึ่งเป็ นหลักฐานทาง
วรรณคดี เช่น รูปภาพ มหาวิหาร
โครงกระดูกมนุษย์ กระดูกสัตว์
หลักฐานทางประวัตศาสตร์ ในภูมภาคต่ างๆของโลก
ิ
ิ
ภูมิภาค
ยุคสมัย

จีน

อินเดีย

ตะวันตก
1. โครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อน
ประวัติศาสตร์
2. ศิลปะถ ้า
3. สโตนเฮนจ์

ก่ อนประวัตศาสตร์
ิ

1. โครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์
2. เครื่ องปั นดินเผาวัฒนธรรมหยางเชา
้
และวัฒนธรรมหลงซาน

1. เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร
2. คัมภีร์พระเวทของชาวอารยัน

สมัยโบราณ

1. หลักฐานลายลักษณ์อกษรในสมัย
ั
ราชวงศ์ชาง
2. สื่อจี ้
3. สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี

1. ตาราอรรถศาสตร์
2. คัมภีร์มานวธรรมศาสตร์
3. ศิลาจารึกของพระเจ้ าอโศก
มหาราช

1. ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี
2. บันทึกในสมัยอียิบต์โบราณ
3. งานเขียนประวัติศาสตร์ ของ
กรี ก-โรมัน

สมัยกลาง

1.งานเขียนบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์
2. หลักฐานแหล่งโบราณคดีถ ้าพุทธศิลป
์
ในสมัยราชวงศหัน
่

1.หนังสือประวัติของสุลต่านฟี รุส
ชาห์ ตุคลุก
2.งานวรรณกรรมของอะมีร์ คุสเรา

1.มหากาพย์ชองซองเดอโรลองด์
2.ทะเบียนราษฎร
3.หนังสือแห่งกาลเวลา

สมัยใหม่ และปั จจุบัน

1.งานวรรณกรรมของหลู่ ซุน
่
2.เอกสารแถลงการณ์ร่วมจากการประ
ชมระหว่างผู้นารัฐบาลอาเซียนกับ
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน
ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ วันที่ 16 ธันวาคม
ค.ศ. 1997

1.ประวัติของอักบาร์
2. พระราชโองการของสมเด็จพระ
ราชินีนาถวิกตอเรี ย

1.คาประกาศสิทธิมนุษยชนและ
พลเมือง
2.สนธิสญญาแวร์ ซาย
ั
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สมัยก่อนประวัติศาสตร์
1. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์
2. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์
3. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์
1.โครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เช่น โครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่ง
ยุคหินเก่า พบที่ถ ้าโจวโซ่วเตี ้ยน และพบเครื่ องมือหินกระดูกสัตว์ รวมทัง้
เถ้ าถ่านที่แสดงว่ามนุษย์ร้ ูจกใช้ ไฟ
ั
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์
2. เครื่ องปั นดินเผาวัฒนธรรมหยางเชา และวัฒนธรรมหลงซาน เป็ นของ
้
มนุษย์ยคหินใหม่ วัฒนธรรมหยางเชาอยูบริเวณลุมแม่น ้าหวางเหอ พบ
ุ
่
่
เครื่ องปั นดินเผาลายเขียนสี เขียนเป็ นลายเรขาคณิต ลายต้ นไม้ และสัตว์
้
ต่างๆ รวมทังสลักลายเป็ นลายจักรสานและลายเชือกทาบ ส่วนวัฒนธรรม
้
หลงซานอยูบริเวณลุมแม่น ้าหวางเหอเช่นกัน เครื่ องปั นดินเผาชนิด 3 ขา
่
่
้
วิธีการเผาก้ าวหน้ ากว่าวัฒนธรรมหยางเชา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์
ส่วนใหญ่เป็ นโบราณสถาน โบราณวัตถุ และวรรณกรรมมุขปาฐะ เช่น
1. เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร เป็ นแหล่งหลักฐานทางด้ านโบราณคดีและ
ประวัติศาสตร์ ที่สาคัญที่สดของแหล่งอารยธรรมลุมแม่น ้าสินธุ โดยมีทง้ั
ุ
่
หลักฐานทางโบราณสถาน เช่น เมืองโบราณ สระอาบน ้าสาธารณะ และ
หลักฐานทางด้ านโบราณวัตถุ เช่น ประติมากรรมหล่อด้ วยโลหะ ปั นด้ วย
้
ดินเผา หลักฐานเมืองโบราณโมเฮนโจดาโรและฮารัปปา ก่อสร้ างโดย
ชาวดราวิเดียน โดยให้ ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งอารายธรรมลุมแม่น ้าสินธุ
่
ได้ แก่ ด้ านการปกครองที่มีลกษณะรวมอานาจ ระบบเศรษฐกิจแบบ
ั
เกษตรกรรม ระบบชลประทาน ความเชื่อ และศิลปะวัฒนธรรมของชาว
ดราวิเดียนในช่วงก่อนที่ชาวอารยันเข้ ามาในอินเดีย
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์
2. คัมภีร์พระเวทของชาวอารยัน เมื่อชาวอารยันเข้ ามาในอินเดีย
อารยธรรมลุมแม่น ้าสินธุได้ สิ ้นสุดลง โดยเกิดอารยธรรมใหม่ที่เรี ยกว่า
่
อารยธรรมพระเวท หลักฐานที่สาคัญสมัยนัน คือ คัมภีร์พระเวท ซึงเป็ น
้
่
คัมภีร์ทางศาสนาที่สาคัญที่สดของชาวอารยัน คัมภีร์พระเวทประกอบไป
ุ
ด้ วยคัมภีร์ฤคเวท สามเวท ยชุรเวท และอาถรรพเวท โดยใช้ การถ่ายทอด
แบบเล่าสืบต่อกันมา ยังไม่มีการเขียนเป็ นลายลักษณ์อกษร เนื ้อหาของ
ั
คัมภีร์พระเวทนันให้ ข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองและสังคมวัฒนธรรมใน
้
ช่วงเวลานันด้ วย
้
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์
1. โครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เช่น โครงกระดูกสไตน์ไฮม์
พบที่แหล่งโบราณคดีสไตน์ไฮม์ ประเทศเยอรมันี โครงกระดูกมนุษย์
นีแอนเตอร์ ทอล พบที่หบเขานีแอนเตอร์ ประเทศเยอรมันี โครงกระดูก
ุ
มนุษย์โคมันยอง ประเทศฝรั่งเศส โดยโครงกระดูกของมนุษย์ทาให้ เรา
เห็นวิวฒนาการของมนุษย์แต่ละสมัย นอกจากนี ้สิงของเครื่ องใช้ ที่ฝัง
ั
่
รวมไปกับศพช่วยให้ ร้ ูเกี่ยวกับการดาเนินชีวิตสมัยนันๆ
้
โครงกระดูกสไตน์ไฮม์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์
2. ศิลปะถ ้า เช่น ภาพเขียนสีววป่ า ในถ ้าอัลตามีรา ประเทศสเปน
ั
ภาพเขียนฝูงม้ าและวัวกาลังกระโดด ในถ ้าลาสโก ประเทศฝรั่งเศส
3. สโตนเฮนจ์ เป็ นแท่งหินขนาดใหญ่ตงเรี ยงเป็ นวงกลม บางวางแนวนอน
ั้
อยูที่ที่ราบซอลล์เบอรี ประเทศอังกฤษ แสดงให้ เห็นความสามารถด้ าน
่
สถาปั ตยกรรมของมนุษย์ยคหินเก่า
ุ
สโตนเฮนจ์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สมัยโบราณ
• หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ
• หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยโบราณ
• หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยโบราณ
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ
เริ่มตังแต่ราชวงศ์ชาง ไปจนสิ ้นสุดสมัยราชวงศ์อื่นในค.ศ. 220
้
1. หลักฐานลายลักษณ์อกษรในสมัยราชวงศ์ชาง ปรากฏเป็ น อักษรภาพ
ั
จารึกตามกระดองเต่า และภาชนะสาริดใช้ ในพิธีกรรม ผู้จารึกมักเป็ น
กษัตริย์และนักบวช โดยมีวตถุประสงค์เพื่อพิธีเสี่ยงทาย หลักฐานทาง
ั
ประวัติศาสตร์ เหล่านี ้ได้ ให้ ข้อมูลในด้ านความเชื่อในธรรมชาติและ
โชคลางของชาวจีน
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ
2. สื่อจี ้ เป็ นบันทึกประวัติศาสตร์ เขียนโดยซื่อหม่าเชียน โดยให้ ข้อมูล
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ จีนสมัยต้ นๆ เช่น ข้ อมูลทางด้ านการเมือง และ
เหตุการณ์สาคัญๆ เช่น เหตุการณ์ในสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี พัฒนาทางด้ าน
เศษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ
3. สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี จักรพรรดิจิ๋นซีเป็ นผู้รวบรวมจีนให้ เป็ นปึ กแผ่นและ
ตังราชวงศ์ฉินขึ ้น และยังเป็ นจักรพรรดิองศ์แรกของจีนอีกด้ วย ผลงาน
้
สาคัญ ได้ แก่ กาแพงยักษ์ พระราชวัง สุสาน การขุดค้ นสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี
พบหุ่นทหารดินเผาจานวนมากกว่า 6,000 ตัว รูปปั นม้ าศึก รถศึก ซึงจัด
้
่
ระเบียบทหารตามแบบกองทัพสมันราชวงศ์ฉิน หุ่นทหารที่พบมีลกษณะ
ั
หน้ าตาที่เป็ นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เครื่ องแต่งการเหมือนจริงและมีการ
ระบายสีด้วย โดยหุ่นเหล่านี ้แสดงถึงความเชื่อหลังความตายว่าทหาร
เหล่านี ้จะตามไปรับใช้ จกรพรรดิในโลกหน้ า
ั
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยโบราณ
เริ่มตังแต่มีการประดิษฐ์ อกษรอินเดียโบราณขึ ้น จนสิ ้นสุดราชวงศ์คปตะ
้
ั
ุ
1. ตาราอรรถศาสตร์ เขียนโดยพราหมณ์กาฏิลยะ สะท้ อนภาพการปกครอง
เศรษฐกิจ และสังคมสมัยนัน
้
2. คัมภีร์มานวธรรมศาสตร์ แต่งโดยพราหมณ์มนู เขียนเป็ นลายลักษณ์
อักษร แบ่งออกเป็ น 12 เล่ม 1ปรัชญา 2 ที่มาของกฎหมาย 3-5 หน้ าที่
ของคฤหัสถ์ 6 หน้ าที่ของวานปรัสถ์และสันยาสี 7 หน้ าที่ของราชา 8
กฎหมายแพ่งและอาญา 9-10 วรรณะต่างๆ 11 การให้ ทาน 12 ทาง
ไปสูโมกษะ
่
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยโบราณ
3. ศิลาจารึกของพระเจ้ าอโศกมหาราช คือ จารึกที่พระเจ้ าอโศกมหาราชให้
บันทึกเรื่ องราวของพระองค์ตามผนังถ ้า ศิลาจารึกหลักเล็กๆจารึกบนหิน
เสาหินที่ปรากฎอยูในปั จจุบนและมีชื่อเสียงมาก คือ เสาหินที่หวเสาเป็ นรูป
่
ั
ั
สิงห์หนหลังชนกัน ที่ตาบลสารนาถ เมืองพาราณสี หัวเสารูปสิงห์นี ้รัฐบาล
ั
อินเดียใช้ เป็ นสัญลักษณ์ของประเทศอินเดียตังแต่ได้ รับความเป็ นเอกราช
้
จากอังกฤษ พระเจ้ าอโศกมหาราชทรงพระปรี ชาสามารถทังด้ านการเมือง
้
การปกครอง การทานุบารุงบ้ านเมือง โดยเฉพาะด้ านศาสนา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยโบราณ
มีการพัฒนาที่ยาวนานตังแต่สมัยอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อารยธรรม
้
อียิปต์ มาจนถึงอารยธรรมกรี กและโรมัน
3.1 ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี เป็ นหลักฐานประเภทกฎหมาย โดยพระเจ้ า
ฮัมมูราบีแห่งอาณาจักรบาบิโลเนีย โดยคัดลอกลงบนแผ่นดินเหนียว
เผยแพร่ไปทัวราชอาณาจักร บทลงโทษค่อนข้ างรุนแรงในลักษณะ
่
ตาต่อตา ฟั นต่อฟั น
3.2 บันทึกในสมัยอียิบต์โบราณ
(1) อักษรไฮโรกลิฟิก เป็ นอักษรภาพ บันทึกเรื่ องราวทางศาสนา นิยมสลัก
บนหิน เสา ผนัง
(2) อักษรไฮแรติก เป็ นอักษรที่พฒนามาจากอักษรไฮโรกลิฟิก นิยมบันทึก
ั
ลงในกระดาษปาปิ รัส
การประดิษฐ์ ตวอักษรและการค้ นพบวิธีการทากระดาษทาให้ อารยธรรม
ั
อียิปต์ปรากฎหลักฐานเป็ นลายลักษณ์อกษร โดยความรู้ที่ถกบันทึกเป็ น
ั
ู
ตาราทางการแพทย์ ความรู้ด้านโหราศาสตร์ และดาราศาสตร์
3.3 งานเขียนประวัติศาสตร์ ของกรี ก-โรมัน
เป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สาคัญในการศึกษา
ประวัติศาสตร์ กรี ก-โรมัน โดยชาวกรี กมีความคิดว่าเหตุการณ์ทาง
ประวัติศาสตร์ เกิดขึ ้น เปลี่ยนแปลง หมุนเวียนกลับสูกาเนิดเดิม นันคือ
่
่
ประวัติศาสตร์ คือวัฏจักร ทาให้ การศึกษาประวัติศาสตร์ เป็ นการเรี ยนรู้
เพื่อเป็ นบทเรี ยนสาหรับปั จจุบน
ั
ตัวอย่างหลักฐานงานเขียนประวัติศาสตร์ กรี ก
• ประวัติศาสตร์ ของเฮโรโดตัส มีเนื ้อหาเกี่ยวกับสงครามระหว่างกรี กกับ
เปอร์ เซีย 490-480 ปี ก่อนคริสต์ศกราช
ั
• ประวัติศาสตร์ สงครามเพโลพอนนีเซียนของทูซดีดิส เป็ นงานบันทึก
ิ
ประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับสงครามระหว่างนครรัฐเอเธนส์กบนครรัฐสปาร์
ั
ตา ในช่วงระหว่าง 431-404 ปี ก่อนคริสต์ศกราช
ั
ตัวอย่างหลักฐานงานเขียนประวัติศาสตร์ โรมัน
• บันทึกสงครามกอล ของจูเลียส ซีซาร์ เป็ นบันทึกเรื่ องราวการทา
สงครามในแคว้ นโกล
• เยอรมาเนีย ของแทกซิตส เป็ นเรื่ องราวของชนเผ่าเยอรมัน ให้ ข้อมูล
ั
เกี่ยวกับสงครามและชนเผ่าเยอรมันในสมัยโรมัน
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สมัยกลาง
1.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยกลาง
2.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยกลาง
3. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยกลาง
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยกลาง
ประวัติศาสตร์ จีนในช่วงเวลานี ้เป็ นช่วงของการเปลี่ยนแปลงทาง
การเมืองและการได้ รับอิทธิพลอารยธรรมต่างชาติเข้ ามาโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งอิทธิพลพระพุทธศาสนา
1.งานบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์
• งานบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ เรี ยกว่า เจิ ้งสื่อ เป็ นการบันทึก
พฤติกรรมของชนชันปกครองเพื่อเป็ นบทเรี ยนทางศีลธรรมสาหรับชนชัน
้
้
ปกครองในปั จจุบนในราชวงศ์ปัจจุบน โดยใช้ ข้อมูลจากหลักฐานต่างๆ
ั
ั
เช่น สื่อลู่ หรื อจดหมายเหตุประจารัชกาล บันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์
ถือเป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สาคัญที่สดที่นกประวัติศาสตร์ ใช้
ุ ั
ในการศึกษาประวัติศาสตร์ จีน
ตัวอย่างบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ที่สาคัญใน
ประวัติศาสตร์ จีนสมัยกลาง
•
•
•
•
•

โฮ่วฮันฉู่ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ฮนยุคหลัง
ั่
สุยฉู่ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์สย
ุ
ถังฉู่ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ถง
ั
ซ่งสื่อ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ซง
่
หยวนสื่อ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์หยวน
2.หลักฐานแหล่งโบราณคดีถ ้าพุทธศิลปในสมัยราชวงศ์ฮน
์
ั่
• พระพุทธศาสนาได้ เผยแผ่เข้ ามาในประเทศจีนโดยผ่านเส้ นทางสายไหม
ในเอเชียกลาง หลังจากสมัยราชวงศ์ฮน พระพุทธศาสนาได้ แพร่หลาย
ั่
ทัวไปในสังคมจีน ตังแต่สมัยราชวงศ์เว่ย์เหนือ ได้ มีการขุดเจาะถ ้าและ
่
้
สร้ างสรรค์ศิลปกรรมตามปรัชญาทางพระพุทธศาสนา ถ ้าที่สาคัญ
ได้ แก่ ถ ้าหยุนกัง ในมณฑลฉ่านซี ถ ้าตุนหวง ในมณฑลกันซู
ถ ้าหลงเหมิน ในมณฑลเหอหนาน
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยกลาง
อินเดียสมัยกลางเป็ นสมัยของการแตกแยกทางการเมือง และการ
รุกรานจากพวกมุสลิม จนสามารถตังอาณาจักรสุลต่านแห่งเดลี
้
1.หนังสือประวัติของสุลต่านฟี รุส ชาห์ ตุคลุก
• หนังสือเล่มนี ้มีจดประสงค์เพื่อแนะนาให้ สลต่านแห่งเดลีทกพระองค์ทรง
ุ
ุ
ุ
ปฏิบติหน้ าที่ตอศาสนาอิสลาม
ั
่
• เป็ นเรื่ องราวของสุลต่านแห่งเดลี เนื ้อหานาเสนอถึงประวัติของสุลต่าน
การปฏิบติหน้ าที่ และจุดจบของสุลต่านแต่ละพระองค์ คุณค่าของ
ั
หนังสือเล่มนี ้คือ การรวบรวมข้ อมูลและการแยกแยะข้ อมูลเกี่ยวกับ
ปรัชญา การเมือง ประวัติศาสตร์ ศาสนา อักษรศาสตร์ ทาให้ งานเขียน
ชิ ้นนี ้มีคณค่าในฐานะหลักฐานข้ อมูลในการศึกษาประวัติศาสตร์ อินเดีย
ุ
สมัยสุลต่านแห่งเดลี
2.งานวรรณกรรมของอะมีร์ คุสเรา
• เป็ นงานที่ให้ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ กรอบความคิด สภาพชีวิต และ
วัฒนธรรมของชาวอินเดียในสมัยสุลต่านแห่งเดลี ซึงอาจจะมีการเจือ
่
ปนด้ วยความคิด อคติ และจินตนาการของผู้แต่งไปบ้ าง งานวรรณกรรม
ทางประวัติศาสตร์ ของเขาได้ แก่ ชิรัน-อัส-ซาเดน มิฟตาห์-อัล-ฟูตห์
ู
นูห์ซปีหร์ เป็ นต้ น
ิ
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยกลาง
• ยุโรปสมัยกลางเป็ นสังคมภายใต้ การครอบงาของคริสต์ศาสนาและ
ระบบฟิ วดัล หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมัยนี ้มีหลายประเภท เช่น
บันทึกของโบสถ์ คัมภีร์ทางศาสนา วรรณกรรมสดุดีวีรกรรมของอัศวิน
เอกสารทางราชการ
• เป็ นวรรณกรรมสดุดีวีรกรรมของอัศวินของฝรั่งเศสในช่วงสมัยกลาง ซ่ง
มีต้นกาเนิดจากสงครามในสเปนระหว่างจักรพรรดิชาร์ เลอมาญ กับ
กองทัพอาหรับ
• ความสาคัญคือ ให้ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ สงคมในกรอบความคิด
ั
และโลกทัศน์ของคนยุโรปในช่วงสมัยกลาง
2.ทะเบียนราษฎร
• เป็ นเอกสารการเมืองการปกครองอังกฤษพระเจ้ าวิลเลียมที่ 1 ทรงให้
จัดทาขึ ้น พระเจ้ าวิลเลียมเป็ นขุนนางแห่งแคว้ นนอร์ มองดีที่ยกทัพไปตี
อังกฤษได้ พระองค์ทรงให้ สารวจทรัพย์สนในประเทศอังกฤษแล้ วให้
ิ
รวบรวมลงในเอกสารทะเบียนราษฎรของพระองค์แล้ วเสร็จภายใน
ค.ศ. 1086
3.หนังสือแห่งกาลเวลา
• เป็ นวรรณกรรมชิ ้นสาคัญของสมัยกลาง มีเนื ้อหาเกี่ยวกับศาสนา
• ความสาคัญคือ เป็ นเอกสารที่ให้ ข้อมูลประวัติศาสตร์ สมัยกลางในด้ าน
ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้ านสังคม วิถีชีวิตของผู้คนในชนชันต่างๆ
้
ตามระบบฟิ วดัล
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
1.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
2.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
3. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
ประวัติศาสตร์ จีนสมัยใหม่เริ่มต้ นด้ วยการสถาปนาราชวงศ์หมิง สมัย
ราชวงศ์ชิง การปฏิวติประชาธิปไตยใน ค.ศ.1911 และการปฏิวติสงคม
ั
ั ั
นิยมของพรรคคอมมิวนิสต์ใน ค.ศ.1949 หลังจากนันจึงเป็ นสมัย
้
ปั จจุบน
ั
1.งานวรรณกรรมของหลู่ ซุน
่
• มีงานเขียนหลายรูปแบบด้ วยกัน ทังบทความ เรื่ องสัน เช่น บ้ านเกิด
้
้
และ ขงจื๊อกับสังคมยุคใหม่ของจีน เนื ้อหาส่วนใหญ่สะท้ อนปั ญหา
สังคมที่มีความอยุติธรรม ยึดมันในขนบธรรมเนียมที่ล้าหลัง ยึดถือการ
่
แบ่งชนชัน
้
• วัตถุประสงค์ของการเขียนงานวรรณกรรมของหลู่ ซุน คือ การกระตุ้นให้
่
สังคมจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ ไขเพื่อให้ สงคมจีนมี
ั
ความเจริญก้ าวหน้ า
• เป็ นเอกสารบันทึกข้ อแถลงการณ์ร่วมกันระหว่างหัวหน้ ารัฐบาลของ
ประเทศในอาเซียน กับประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน มีเนื ้อหาเกี่ยวกับ
ความร่วมมือระหว่างกันทังด้ านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
้
• เอกสารฉบับนี ้เป็ นหลักฐานชันต้ นที่ใช้ ในการศึกษาประวัติศาสตร์
้
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับกลุมอาเซียนในช่วงเวลาปั จจุบน
่
ั
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
• เริ่มต้ นด้ วยการที่พวกมุคลสถาปนาราชวงศ์มคลใน ค.ศ.1526 จนถึง
ั
ุ ั
สมัยอังกฤษปกครองอินเดีย และอินเดียได้ รับเอกราชใน ค.ศ.1947
ส่วนสมัยปั จจุบนเริ่มต้ นตังแต่อินเดียได้ รับเอกราชมาจนถึงปั จจุบน
ั
้
ั
1.ประวัติของอักบาร์
• เป็ นพระราชประวัติของพระเจ้ าอักบาร์ มหาราช กษัตริย์องค์สาคัญของ
ราชวงศ์มคล ประวัติอกบาร์ แบ่งออกเป็ น 3 ส่วน ส่วนแรกกล่าวถึงการ
ุ ั
ั
ประสูติของอักบาร์ และยุคสมัยของจักรพรรดิบาบูร์ ส่วนที่ 2 มีเนื ้อหา
เกี่ยวกับยุคสมัยจักรพรรดิอกบาร์ และส่วนที่ 3 เกี่ยวกับการบริหาร
ั
ปกครองโดยบันทึกรายละเอียดทังด้ านประชากร อุตสาหกรรม และ
้
สภาวะเศรษฐกิจของจักรวรรดิมคล
ุ ั
พระราชโองการของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรี ย
• เนื ้อหาของพระราชโองการฉบับนี ้มีลกษณะของคาสัญญาสาหรับชาว
ั
อินเดีย โดยกล่าวถึงการยกเลิกบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ สิทธิ
ของอังกฤษในอินเดียด้ วยการปองกันความยุติธรรมและกฎหมาย
้
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน
ั
• ตังแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็ นต้ นมา ยุโรปได้ เกิดความเปลี่ยนแปลง
้
อย่างรวดเร็วทังด้ านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม และ
้
วิทยาการต่างๆ เป็ นช่วงเวลาของการพัฒนาทางด้ านวิทยาศาสตร์
อุตสาหกรรม ปรัชญา ประชาธิปไตย และชาตินิยม
1.คาประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง
• เป็ นเอกสารคาประกาศของคณะปฏิวติฝรั่งเศสใน ค.ศ.1789 หลังจาก
ั
คณะปฏิวติฝรั่งเศสได้ ทาการปฏิวติโค่นล้ มอานาจ
ั
ั
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระเจ้ าหลุยส์ที่16 แล้ วเตรี ยมร่าง
รัฐธรรมนูญขึ ้น เอกสารนี ้เป็ นกรอบความคิดของการปฏิวติฝรั่งเศส
ั
สะท้ อนถึงความหวังของประชาชนในการมีสทธิและเสรี ภาพของแต่ละ
ิ
บุคคล
2.สนธิสญญาแวร์ ซาย
ั
• หลังจากสงครามโลกครังที่ 1 ยุติลงในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.918 ด้ วย
้
การยอมจานนของฝายเยอรมนี ประเทศมหาอานาจฝ่ ายสัมพันธมิตร
และประเทศอื่นได้ จดประชุมสันติภาพ ณ พระราชวังแวร์ ซาย ฝรั่งเศส
ั
และได้ ร่างสนธิสญญาขึ ้นมา 5 ฉบับ สาหรับชาติผ้ แพ้ สงคราม ได้ แก่
ั
ู
เยอรมนี ออสเตรี ย ฮังการี บัลแกเรี ย และตุรกี สนธิสญญาที่สาคัญที่สด
ั
ุ
คือ สนธิสญญาแวร์ ซายที่ฝ่ายสัมพันธมิตรลงนามกับเยอรมนีในวันที่ 28
ั
มิถนายน ค.ศ.1919
ุ
จบการนาเสนอ
ขอบคุณค่ะ
• นส. เบญจพร หวังวิบลย์ชย ม.6.7 เลขที่ 24
ู ั
• นส. พัทธ์ธีรา ณ น่าน
ม.6.7 เลขที่ 26

More Related Content

PDF
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
PDF
Key of sheet 8 56x
PDF
อารยธรรมจีน
PPTX
อารยธรรมจีน
PDF
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
PDF
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
PPSX
การออมและการลงทุน ม.2
ODT
แบบทดสอบทวีปยุโรป
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
Key of sheet 8 56x
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
การออมและการลงทุน ม.2
แบบทดสอบทวีปยุโรป

What's hot (20)

PPT
วิธีการทางประวัติศาสตร์ ม.1
PDF
อารยธรรมโรมัน
DOC
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
PPT
วิธีการทางประวัติศาสตร์ ม.3
PPTX
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
PPTX
อารยธรรมอินเดีย
PDF
3.4 อารยธรรมกรีก
PPTX
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
PPTX
การเมืองการปกครองสมัยกรุงศรีอยุธยา
PDF
หลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ส16103 ประวัติศาสตร์ ป.6
PDF
การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์
PDF
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
PDF
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
PPTX
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
PDF
บท2การศึกษาชีววิทยา
PPSX
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
PDF
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
PDF
พัฒนาการยุโรป
PDF
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
PDF
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
วิธีการทางประวัติศาสตร์ ม.1
อารยธรรมโรมัน
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
วิธีการทางประวัติศาสตร์ ม.3
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
อารยธรรมอินเดีย
3.4 อารยธรรมกรีก
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
การเมืองการปกครองสมัยกรุงศรีอยุธยา
หลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ส16103 ประวัติศาสตร์ ป.6
การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
บท2การศึกษาชีววิทยา
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
พัฒนาการยุโรป
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
Ad

Viewers also liked (9)

PDF
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
PDF
7.2 การประสานประโยชน์
PDF
7.1 ความขัดแย้ง cold war
PDF
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
PDF
ความขัดแย้งและการประสานประโยชน์
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
7.2 การประสานประโยชน์
7.1 ความขัดแย้ง cold war
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
ความขัดแย้งและการประสานประโยชน์
Ad

Similar to 1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new (20)

PDF
1.2 หลักฐานทางปวศ.
PPTX
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
PPTX
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
PPTX
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
PPT
ธนบุรี 2
PPT
ประวัติศาสตร์ ม.2
PDF
เอกสารประกอบการเรียประวัติศาสตร์
PDF
ประวัติ2
PDF
สื่อการเรียนรู้ History
PPT
PDF
ประวัติศาสตร์สากล(อารยธรรมลุ่มแม่น้ำ)
PPT
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
PPTX
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
PDF
ประวัติศาสตร์
PPTX
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่ 4,10
PPTX
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
PPTX
สังคม ม.6.7 เลขที่4,10
PPTX
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
PPTX
ประวัติศาสตร์อ.ปรางค์
PDF
History 1
1.2 หลักฐานทางปวศ.
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
ธนบุรี 2
ประวัติศาสตร์ ม.2
เอกสารประกอบการเรียประวัติศาสตร์
ประวัติ2
สื่อการเรียนรู้ History
ประวัติศาสตร์สากล(อารยธรรมลุ่มแม่น้ำ)
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่ 4,10
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
สังคม ม.6.7 เลขที่4,10
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7 เลขที่4,10
ประวัติศาสตร์อ.ปรางค์
History 1

More from Jitjaree Lertwilaiwittaya (15)

PDF
5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new)
PDF
อารยะธรรมจ นRe (1) (1)
PDF
3.4 อารยธรรมกร ก
PDF
8.1 8.3 เหตุการณ์-ความขัดแย้ง
PDF
6.1 6.3 อเมริกา-แอฟริกา-เอเชีย
PDF
5.6 5.7 ยุคภูมิธรรม-ศิลปะสมัยใหม่
PDF
5.1 5.2 ขยายอิทธิพล-ฟื้นฟู
PDF
4.4 อารยธรรมสมัยกลาง
PDF
4.3 เหตุการณ์สมัยยุโรปกลาง
PDF
4.1 4.2 อิทธิพล-การเมือง เศรษฐกิจ
PDF
3.5 อารยธรรมโรมัน
PDF
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-เอเชียไมเนอร์
PDF
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
PDF
2.2 อารยธรรมอินเดีย
PDF
หน วยการเร ยนร__ท__ 5 พ_ฒนาการของย_โรปสม_ยใหม_ (1)
5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new)
อารยะธรรมจ นRe (1) (1)
3.4 อารยธรรมกร ก
8.1 8.3 เหตุการณ์-ความขัดแย้ง
6.1 6.3 อเมริกา-แอฟริกา-เอเชีย
5.6 5.7 ยุคภูมิธรรม-ศิลปะสมัยใหม่
5.1 5.2 ขยายอิทธิพล-ฟื้นฟู
4.4 อารยธรรมสมัยกลาง
4.3 เหตุการณ์สมัยยุโรปกลาง
4.1 4.2 อิทธิพล-การเมือง เศรษฐกิจ
3.5 อารยธรรมโรมัน
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-เอเชียไมเนอร์
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
2.2 อารยธรรมอินเดีย
หน วยการเร ยนร__ท__ 5 พ_ฒนาการของย_โรปสม_ยใหม_ (1)

1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new

  • 2. ประเภทหลักฐานทางประวัตศาสตร์ ิ จาแนกตามความสาคัญ หลักฐานชั้นต้น หลักฐานชั้นรอง หลักฐานที่เกี่ยวข้ องโดยผู้ท่เกี่ยวข้ อง ี โดยตรงหรือ ผู้ร้ เห็นเหตุการด้ วยตัวเอง ู รวมทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุท่ี สร้ างขึ้นในยุคสมัยนั้น หลักฐานที่ผ้ ูบันทึกนามาจากบุคคลอื่นมา อีกทอดหนึ่ง รวมทั้งงานเขียนทาง ประวัติศาสตร์ท่ศึกษาข้ อมูลมาจาก ี หลักฐานชั้นต้ น ก็ถอว่าเป็ น ื หลักฐานชั้นรองด้ วยเช่นกัน หมายเหตุ ผู้ศกษาประวัติศาสตร์ ต้องเข้ าใจว่า ทั ้งหลักฐานชั ้นต้ นและหลักฐานชั ้นรองมีทั ้งข้ อมูลจริงและข้ อมูลเท็จ จึงควร ึ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ เรี ยกว่า การประเมินคุณค่าของหลักฐานก่อนนาไปใช้ เป็ นข้ อมูล ทางประวัติศาสตร์
  • 3. ประเภทหลักฐานทางประวัตศาสตร์ ิ จาแนกตามลักษณะของหลักฐาน หลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์ อักษร คือ หลักฐานที่เป็ นตัวหนังสือ เช่น จารึก ตานาน เอกสารทางราชการ หลักฐานที่ไม่เป็ นลายลักษณ์อกษร ั คือ หลักฐานที่เป็ นวัตถุ ซึ่งเป็ นหลักฐานทาง วรรณคดี เช่น รูปภาพ มหาวิหาร โครงกระดูกมนุษย์ กระดูกสัตว์
  • 4. หลักฐานทางประวัตศาสตร์ ในภูมภาคต่ างๆของโลก ิ ิ ภูมิภาค ยุคสมัย จีน อินเดีย ตะวันตก 1. โครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อน ประวัติศาสตร์ 2. ศิลปะถ ้า 3. สโตนเฮนจ์ ก่ อนประวัตศาสตร์ ิ 1. โครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ 2. เครื่ องปั นดินเผาวัฒนธรรมหยางเชา ้ และวัฒนธรรมหลงซาน 1. เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร 2. คัมภีร์พระเวทของชาวอารยัน สมัยโบราณ 1. หลักฐานลายลักษณ์อกษรในสมัย ั ราชวงศ์ชาง 2. สื่อจี ้ 3. สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี 1. ตาราอรรถศาสตร์ 2. คัมภีร์มานวธรรมศาสตร์ 3. ศิลาจารึกของพระเจ้ าอโศก มหาราช 1. ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี 2. บันทึกในสมัยอียิบต์โบราณ 3. งานเขียนประวัติศาสตร์ ของ กรี ก-โรมัน สมัยกลาง 1.งานเขียนบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ 2. หลักฐานแหล่งโบราณคดีถ ้าพุทธศิลป ์ ในสมัยราชวงศหัน ่ 1.หนังสือประวัติของสุลต่านฟี รุส ชาห์ ตุคลุก 2.งานวรรณกรรมของอะมีร์ คุสเรา 1.มหากาพย์ชองซองเดอโรลองด์ 2.ทะเบียนราษฎร 3.หนังสือแห่งกาลเวลา สมัยใหม่ และปั จจุบัน 1.งานวรรณกรรมของหลู่ ซุน ่ 2.เอกสารแถลงการณ์ร่วมจากการประ ชมระหว่างผู้นารัฐบาลอาเซียนกับ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ วันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1997 1.ประวัติของอักบาร์ 2. พระราชโองการของสมเด็จพระ ราชินีนาถวิกตอเรี ย 1.คาประกาศสิทธิมนุษยชนและ พลเมือง 2.สนธิสญญาแวร์ ซาย ั
  • 5. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ 1. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 2. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 3. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์
  • 6. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 1.โครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เช่น โครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่ง ยุคหินเก่า พบที่ถ ้าโจวโซ่วเตี ้ยน และพบเครื่ องมือหินกระดูกสัตว์ รวมทัง้ เถ้ าถ่านที่แสดงว่ามนุษย์ร้ ูจกใช้ ไฟ ั
  • 7. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 2. เครื่ องปั นดินเผาวัฒนธรรมหยางเชา และวัฒนธรรมหลงซาน เป็ นของ ้ มนุษย์ยคหินใหม่ วัฒนธรรมหยางเชาอยูบริเวณลุมแม่น ้าหวางเหอ พบ ุ ่ ่ เครื่ องปั นดินเผาลายเขียนสี เขียนเป็ นลายเรขาคณิต ลายต้ นไม้ และสัตว์ ้ ต่างๆ รวมทังสลักลายเป็ นลายจักรสานและลายเชือกทาบ ส่วนวัฒนธรรม ้ หลงซานอยูบริเวณลุมแม่น ้าหวางเหอเช่นกัน เครื่ องปั นดินเผาชนิด 3 ขา ่ ่ ้ วิธีการเผาก้ าวหน้ ากว่าวัฒนธรรมหยางเชา
  • 8. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็ นโบราณสถาน โบราณวัตถุ และวรรณกรรมมุขปาฐะ เช่น 1. เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร เป็ นแหล่งหลักฐานทางด้ านโบราณคดีและ ประวัติศาสตร์ ที่สาคัญที่สดของแหล่งอารยธรรมลุมแม่น ้าสินธุ โดยมีทง้ั ุ ่ หลักฐานทางโบราณสถาน เช่น เมืองโบราณ สระอาบน ้าสาธารณะ และ หลักฐานทางด้ านโบราณวัตถุ เช่น ประติมากรรมหล่อด้ วยโลหะ ปั นด้ วย ้ ดินเผา หลักฐานเมืองโบราณโมเฮนโจดาโรและฮารัปปา ก่อสร้ างโดย ชาวดราวิเดียน โดยให้ ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งอารายธรรมลุมแม่น ้าสินธุ ่ ได้ แก่ ด้ านการปกครองที่มีลกษณะรวมอานาจ ระบบเศรษฐกิจแบบ ั เกษตรกรรม ระบบชลประทาน ความเชื่อ และศิลปะวัฒนธรรมของชาว ดราวิเดียนในช่วงก่อนที่ชาวอารยันเข้ ามาในอินเดีย
  • 9. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 2. คัมภีร์พระเวทของชาวอารยัน เมื่อชาวอารยันเข้ ามาในอินเดีย อารยธรรมลุมแม่น ้าสินธุได้ สิ ้นสุดลง โดยเกิดอารยธรรมใหม่ที่เรี ยกว่า ่ อารยธรรมพระเวท หลักฐานที่สาคัญสมัยนัน คือ คัมภีร์พระเวท ซึงเป็ น ้ ่ คัมภีร์ทางศาสนาที่สาคัญที่สดของชาวอารยัน คัมภีร์พระเวทประกอบไป ุ ด้ วยคัมภีร์ฤคเวท สามเวท ยชุรเวท และอาถรรพเวท โดยใช้ การถ่ายทอด แบบเล่าสืบต่อกันมา ยังไม่มีการเขียนเป็ นลายลักษณ์อกษร เนื ้อหาของ ั คัมภีร์พระเวทนันให้ ข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองและสังคมวัฒนธรรมใน ้ ช่วงเวลานันด้ วย ้
  • 10. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 1. โครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เช่น โครงกระดูกสไตน์ไฮม์ พบที่แหล่งโบราณคดีสไตน์ไฮม์ ประเทศเยอรมันี โครงกระดูกมนุษย์ นีแอนเตอร์ ทอล พบที่หบเขานีแอนเตอร์ ประเทศเยอรมันี โครงกระดูก ุ มนุษย์โคมันยอง ประเทศฝรั่งเศส โดยโครงกระดูกของมนุษย์ทาให้ เรา เห็นวิวฒนาการของมนุษย์แต่ละสมัย นอกจากนี ้สิงของเครื่ องใช้ ที่ฝัง ั ่ รวมไปกับศพช่วยให้ ร้ ูเกี่ยวกับการดาเนินชีวิตสมัยนันๆ ้ โครงกระดูกสไตน์ไฮม์
  • 11. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยก่อนประวัติศาสตร์ 2. ศิลปะถ ้า เช่น ภาพเขียนสีววป่ า ในถ ้าอัลตามีรา ประเทศสเปน ั ภาพเขียนฝูงม้ าและวัวกาลังกระโดด ในถ ้าลาสโก ประเทศฝรั่งเศส 3. สโตนเฮนจ์ เป็ นแท่งหินขนาดใหญ่ตงเรี ยงเป็ นวงกลม บางวางแนวนอน ั้ อยูที่ที่ราบซอลล์เบอรี ประเทศอังกฤษ แสดงให้ เห็นความสามารถด้ าน ่ สถาปั ตยกรรมของมนุษย์ยคหินเก่า ุ สโตนเฮนจ์
  • 12. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สมัยโบราณ • หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ • หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยโบราณ • หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยโบราณ
  • 13. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ เริ่มตังแต่ราชวงศ์ชาง ไปจนสิ ้นสุดสมัยราชวงศ์อื่นในค.ศ. 220 ้ 1. หลักฐานลายลักษณ์อกษรในสมัยราชวงศ์ชาง ปรากฏเป็ น อักษรภาพ ั จารึกตามกระดองเต่า และภาชนะสาริดใช้ ในพิธีกรรม ผู้จารึกมักเป็ น กษัตริย์และนักบวช โดยมีวตถุประสงค์เพื่อพิธีเสี่ยงทาย หลักฐานทาง ั ประวัติศาสตร์ เหล่านี ้ได้ ให้ ข้อมูลในด้ านความเชื่อในธรรมชาติและ โชคลางของชาวจีน
  • 14. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ 2. สื่อจี ้ เป็ นบันทึกประวัติศาสตร์ เขียนโดยซื่อหม่าเชียน โดยให้ ข้อมูล เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ จีนสมัยต้ นๆ เช่น ข้ อมูลทางด้ านการเมือง และ เหตุการณ์สาคัญๆ เช่น เหตุการณ์ในสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี พัฒนาทางด้ าน เศษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
  • 15. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยโบราณ 3. สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี จักรพรรดิจิ๋นซีเป็ นผู้รวบรวมจีนให้ เป็ นปึ กแผ่นและ ตังราชวงศ์ฉินขึ ้น และยังเป็ นจักรพรรดิองศ์แรกของจีนอีกด้ วย ผลงาน ้ สาคัญ ได้ แก่ กาแพงยักษ์ พระราชวัง สุสาน การขุดค้ นสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี พบหุ่นทหารดินเผาจานวนมากกว่า 6,000 ตัว รูปปั นม้ าศึก รถศึก ซึงจัด ้ ่ ระเบียบทหารตามแบบกองทัพสมันราชวงศ์ฉิน หุ่นทหารที่พบมีลกษณะ ั หน้ าตาที่เป็ นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เครื่ องแต่งการเหมือนจริงและมีการ ระบายสีด้วย โดยหุ่นเหล่านี ้แสดงถึงความเชื่อหลังความตายว่าทหาร เหล่านี ้จะตามไปรับใช้ จกรพรรดิในโลกหน้ า ั
  • 16. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยโบราณ เริ่มตังแต่มีการประดิษฐ์ อกษรอินเดียโบราณขึ ้น จนสิ ้นสุดราชวงศ์คปตะ ้ ั ุ 1. ตาราอรรถศาสตร์ เขียนโดยพราหมณ์กาฏิลยะ สะท้ อนภาพการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมสมัยนัน ้ 2. คัมภีร์มานวธรรมศาสตร์ แต่งโดยพราหมณ์มนู เขียนเป็ นลายลักษณ์ อักษร แบ่งออกเป็ น 12 เล่ม 1ปรัชญา 2 ที่มาของกฎหมาย 3-5 หน้ าที่ ของคฤหัสถ์ 6 หน้ าที่ของวานปรัสถ์และสันยาสี 7 หน้ าที่ของราชา 8 กฎหมายแพ่งและอาญา 9-10 วรรณะต่างๆ 11 การให้ ทาน 12 ทาง ไปสูโมกษะ ่
  • 17. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยโบราณ 3. ศิลาจารึกของพระเจ้ าอโศกมหาราช คือ จารึกที่พระเจ้ าอโศกมหาราชให้ บันทึกเรื่ องราวของพระองค์ตามผนังถ ้า ศิลาจารึกหลักเล็กๆจารึกบนหิน เสาหินที่ปรากฎอยูในปั จจุบนและมีชื่อเสียงมาก คือ เสาหินที่หวเสาเป็ นรูป ่ ั ั สิงห์หนหลังชนกัน ที่ตาบลสารนาถ เมืองพาราณสี หัวเสารูปสิงห์นี ้รัฐบาล ั อินเดียใช้ เป็ นสัญลักษณ์ของประเทศอินเดียตังแต่ได้ รับความเป็ นเอกราช ้ จากอังกฤษ พระเจ้ าอโศกมหาราชทรงพระปรี ชาสามารถทังด้ านการเมือง ้ การปกครอง การทานุบารุงบ้ านเมือง โดยเฉพาะด้ านศาสนา
  • 18. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยโบราณ มีการพัฒนาที่ยาวนานตังแต่สมัยอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อารยธรรม ้ อียิปต์ มาจนถึงอารยธรรมกรี กและโรมัน 3.1 ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี เป็ นหลักฐานประเภทกฎหมาย โดยพระเจ้ า ฮัมมูราบีแห่งอาณาจักรบาบิโลเนีย โดยคัดลอกลงบนแผ่นดินเหนียว เผยแพร่ไปทัวราชอาณาจักร บทลงโทษค่อนข้ างรุนแรงในลักษณะ ่ ตาต่อตา ฟั นต่อฟั น
  • 19. 3.2 บันทึกในสมัยอียิบต์โบราณ (1) อักษรไฮโรกลิฟิก เป็ นอักษรภาพ บันทึกเรื่ องราวทางศาสนา นิยมสลัก บนหิน เสา ผนัง (2) อักษรไฮแรติก เป็ นอักษรที่พฒนามาจากอักษรไฮโรกลิฟิก นิยมบันทึก ั ลงในกระดาษปาปิ รัส การประดิษฐ์ ตวอักษรและการค้ นพบวิธีการทากระดาษทาให้ อารยธรรม ั อียิปต์ปรากฎหลักฐานเป็ นลายลักษณ์อกษร โดยความรู้ที่ถกบันทึกเป็ น ั ู ตาราทางการแพทย์ ความรู้ด้านโหราศาสตร์ และดาราศาสตร์
  • 20. 3.3 งานเขียนประวัติศาสตร์ ของกรี ก-โรมัน เป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สาคัญในการศึกษา ประวัติศาสตร์ กรี ก-โรมัน โดยชาวกรี กมีความคิดว่าเหตุการณ์ทาง ประวัติศาสตร์ เกิดขึ ้น เปลี่ยนแปลง หมุนเวียนกลับสูกาเนิดเดิม นันคือ ่ ่ ประวัติศาสตร์ คือวัฏจักร ทาให้ การศึกษาประวัติศาสตร์ เป็ นการเรี ยนรู้ เพื่อเป็ นบทเรี ยนสาหรับปั จจุบน ั
  • 21. ตัวอย่างหลักฐานงานเขียนประวัติศาสตร์ กรี ก • ประวัติศาสตร์ ของเฮโรโดตัส มีเนื ้อหาเกี่ยวกับสงครามระหว่างกรี กกับ เปอร์ เซีย 490-480 ปี ก่อนคริสต์ศกราช ั • ประวัติศาสตร์ สงครามเพโลพอนนีเซียนของทูซดีดิส เป็ นงานบันทึก ิ ประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับสงครามระหว่างนครรัฐเอเธนส์กบนครรัฐสปาร์ ั ตา ในช่วงระหว่าง 431-404 ปี ก่อนคริสต์ศกราช ั
  • 22. ตัวอย่างหลักฐานงานเขียนประวัติศาสตร์ โรมัน • บันทึกสงครามกอล ของจูเลียส ซีซาร์ เป็ นบันทึกเรื่ องราวการทา สงครามในแคว้ นโกล • เยอรมาเนีย ของแทกซิตส เป็ นเรื่ องราวของชนเผ่าเยอรมัน ให้ ข้อมูล ั เกี่ยวกับสงครามและชนเผ่าเยอรมันในสมัยโรมัน
  • 24. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยกลาง ประวัติศาสตร์ จีนในช่วงเวลานี ้เป็ นช่วงของการเปลี่ยนแปลงทาง การเมืองและการได้ รับอิทธิพลอารยธรรมต่างชาติเข้ ามาโดยเฉพาะ อย่างยิ่งอิทธิพลพระพุทธศาสนา
  • 25. 1.งานบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ • งานบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ เรี ยกว่า เจิ ้งสื่อ เป็ นการบันทึก พฤติกรรมของชนชันปกครองเพื่อเป็ นบทเรี ยนทางศีลธรรมสาหรับชนชัน ้ ้ ปกครองในปั จจุบนในราชวงศ์ปัจจุบน โดยใช้ ข้อมูลจากหลักฐานต่างๆ ั ั เช่น สื่อลู่ หรื อจดหมายเหตุประจารัชกาล บันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ ถือเป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สาคัญที่สดที่นกประวัติศาสตร์ ใช้ ุ ั ในการศึกษาประวัติศาสตร์ จีน
  • 26. ตัวอย่างบันทึกประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ที่สาคัญใน ประวัติศาสตร์ จีนสมัยกลาง • • • • • โฮ่วฮันฉู่ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ฮนยุคหลัง ั่ สุยฉู่ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์สย ุ ถังฉู่ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ถง ั ซ่งสื่อ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ซง ่ หยวนสื่อ หรื อประวัติศาสตร์ ราชวงศ์หยวน
  • 27. 2.หลักฐานแหล่งโบราณคดีถ ้าพุทธศิลปในสมัยราชวงศ์ฮน ์ ั่ • พระพุทธศาสนาได้ เผยแผ่เข้ ามาในประเทศจีนโดยผ่านเส้ นทางสายไหม ในเอเชียกลาง หลังจากสมัยราชวงศ์ฮน พระพุทธศาสนาได้ แพร่หลาย ั่ ทัวไปในสังคมจีน ตังแต่สมัยราชวงศ์เว่ย์เหนือ ได้ มีการขุดเจาะถ ้าและ ่ ้ สร้ างสรรค์ศิลปกรรมตามปรัชญาทางพระพุทธศาสนา ถ ้าที่สาคัญ ได้ แก่ ถ ้าหยุนกัง ในมณฑลฉ่านซี ถ ้าตุนหวง ในมณฑลกันซู ถ ้าหลงเหมิน ในมณฑลเหอหนาน
  • 28. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยกลาง อินเดียสมัยกลางเป็ นสมัยของการแตกแยกทางการเมือง และการ รุกรานจากพวกมุสลิม จนสามารถตังอาณาจักรสุลต่านแห่งเดลี ้
  • 29. 1.หนังสือประวัติของสุลต่านฟี รุส ชาห์ ตุคลุก • หนังสือเล่มนี ้มีจดประสงค์เพื่อแนะนาให้ สลต่านแห่งเดลีทกพระองค์ทรง ุ ุ ุ ปฏิบติหน้ าที่ตอศาสนาอิสลาม ั ่ • เป็ นเรื่ องราวของสุลต่านแห่งเดลี เนื ้อหานาเสนอถึงประวัติของสุลต่าน การปฏิบติหน้ าที่ และจุดจบของสุลต่านแต่ละพระองค์ คุณค่าของ ั หนังสือเล่มนี ้คือ การรวบรวมข้ อมูลและการแยกแยะข้ อมูลเกี่ยวกับ ปรัชญา การเมือง ประวัติศาสตร์ ศาสนา อักษรศาสตร์ ทาให้ งานเขียน ชิ ้นนี ้มีคณค่าในฐานะหลักฐานข้ อมูลในการศึกษาประวัติศาสตร์ อินเดีย ุ สมัยสุลต่านแห่งเดลี
  • 30. 2.งานวรรณกรรมของอะมีร์ คุสเรา • เป็ นงานที่ให้ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ กรอบความคิด สภาพชีวิต และ วัฒนธรรมของชาวอินเดียในสมัยสุลต่านแห่งเดลี ซึงอาจจะมีการเจือ ่ ปนด้ วยความคิด อคติ และจินตนาการของผู้แต่งไปบ้ าง งานวรรณกรรม ทางประวัติศาสตร์ ของเขาได้ แก่ ชิรัน-อัส-ซาเดน มิฟตาห์-อัล-ฟูตห์ ู นูห์ซปีหร์ เป็ นต้ น ิ
  • 31. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยกลาง • ยุโรปสมัยกลางเป็ นสังคมภายใต้ การครอบงาของคริสต์ศาสนาและ ระบบฟิ วดัล หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมัยนี ้มีหลายประเภท เช่น บันทึกของโบสถ์ คัมภีร์ทางศาสนา วรรณกรรมสดุดีวีรกรรมของอัศวิน เอกสารทางราชการ
  • 32. • เป็ นวรรณกรรมสดุดีวีรกรรมของอัศวินของฝรั่งเศสในช่วงสมัยกลาง ซ่ง มีต้นกาเนิดจากสงครามในสเปนระหว่างจักรพรรดิชาร์ เลอมาญ กับ กองทัพอาหรับ • ความสาคัญคือ ให้ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ สงคมในกรอบความคิด ั และโลกทัศน์ของคนยุโรปในช่วงสมัยกลาง
  • 33. 2.ทะเบียนราษฎร • เป็ นเอกสารการเมืองการปกครองอังกฤษพระเจ้ าวิลเลียมที่ 1 ทรงให้ จัดทาขึ ้น พระเจ้ าวิลเลียมเป็ นขุนนางแห่งแคว้ นนอร์ มองดีที่ยกทัพไปตี อังกฤษได้ พระองค์ทรงให้ สารวจทรัพย์สนในประเทศอังกฤษแล้ วให้ ิ รวบรวมลงในเอกสารทะเบียนราษฎรของพระองค์แล้ วเสร็จภายใน ค.ศ. 1086
  • 34. 3.หนังสือแห่งกาลเวลา • เป็ นวรรณกรรมชิ ้นสาคัญของสมัยกลาง มีเนื ้อหาเกี่ยวกับศาสนา • ความสาคัญคือ เป็ นเอกสารที่ให้ ข้อมูลประวัติศาสตร์ สมัยกลางในด้ าน ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้ านสังคม วิถีชีวิตของผู้คนในชนชันต่างๆ ้ ตามระบบฟิ วดัล
  • 35. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั 1.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั 2.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั 3. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั
  • 36. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ จีนสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั ประวัติศาสตร์ จีนสมัยใหม่เริ่มต้ นด้ วยการสถาปนาราชวงศ์หมิง สมัย ราชวงศ์ชิง การปฏิวติประชาธิปไตยใน ค.ศ.1911 และการปฏิวติสงคม ั ั ั นิยมของพรรคคอมมิวนิสต์ใน ค.ศ.1949 หลังจากนันจึงเป็ นสมัย ้ ปั จจุบน ั
  • 37. 1.งานวรรณกรรมของหลู่ ซุน ่ • มีงานเขียนหลายรูปแบบด้ วยกัน ทังบทความ เรื่ องสัน เช่น บ้ านเกิด ้ ้ และ ขงจื๊อกับสังคมยุคใหม่ของจีน เนื ้อหาส่วนใหญ่สะท้ อนปั ญหา สังคมที่มีความอยุติธรรม ยึดมันในขนบธรรมเนียมที่ล้าหลัง ยึดถือการ ่ แบ่งชนชัน ้ • วัตถุประสงค์ของการเขียนงานวรรณกรรมของหลู่ ซุน คือ การกระตุ้นให้ ่ สังคมจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ ไขเพื่อให้ สงคมจีนมี ั ความเจริญก้ าวหน้ า
  • 38. • เป็ นเอกสารบันทึกข้ อแถลงการณ์ร่วมกันระหว่างหัวหน้ ารัฐบาลของ ประเทศในอาเซียน กับประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน มีเนื ้อหาเกี่ยวกับ ความร่วมมือระหว่างกันทังด้ านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ้ • เอกสารฉบับนี ้เป็ นหลักฐานชันต้ นที่ใช้ ในการศึกษาประวัติศาสตร์ ้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับกลุมอาเซียนในช่วงเวลาปั จจุบน ่ ั
  • 39. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ อินเดียสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั • เริ่มต้ นด้ วยการที่พวกมุคลสถาปนาราชวงศ์มคลใน ค.ศ.1526 จนถึง ั ุ ั สมัยอังกฤษปกครองอินเดีย และอินเดียได้ รับเอกราชใน ค.ศ.1947 ส่วนสมัยปั จจุบนเริ่มต้ นตังแต่อินเดียได้ รับเอกราชมาจนถึงปั จจุบน ั ้ ั
  • 40. 1.ประวัติของอักบาร์ • เป็ นพระราชประวัติของพระเจ้ าอักบาร์ มหาราช กษัตริย์องค์สาคัญของ ราชวงศ์มคล ประวัติอกบาร์ แบ่งออกเป็ น 3 ส่วน ส่วนแรกกล่าวถึงการ ุ ั ั ประสูติของอักบาร์ และยุคสมัยของจักรพรรดิบาบูร์ ส่วนที่ 2 มีเนื ้อหา เกี่ยวกับยุคสมัยจักรพรรดิอกบาร์ และส่วนที่ 3 เกี่ยวกับการบริหาร ั ปกครองโดยบันทึกรายละเอียดทังด้ านประชากร อุตสาหกรรม และ ้ สภาวะเศรษฐกิจของจักรวรรดิมคล ุ ั
  • 41. พระราชโองการของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรี ย • เนื ้อหาของพระราชโองการฉบับนี ้มีลกษณะของคาสัญญาสาหรับชาว ั อินเดีย โดยกล่าวถึงการยกเลิกบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ สิทธิ ของอังกฤษในอินเดียด้ วยการปองกันความยุติธรรมและกฎหมาย ้
  • 42. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตะวันตกสมัยใหม่และสมัยปั จจุบน ั • ตังแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็ นต้ นมา ยุโรปได้ เกิดความเปลี่ยนแปลง ้ อย่างรวดเร็วทังด้ านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม และ ้ วิทยาการต่างๆ เป็ นช่วงเวลาของการพัฒนาทางด้ านวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม ปรัชญา ประชาธิปไตย และชาตินิยม
  • 43. 1.คาประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง • เป็ นเอกสารคาประกาศของคณะปฏิวติฝรั่งเศสใน ค.ศ.1789 หลังจาก ั คณะปฏิวติฝรั่งเศสได้ ทาการปฏิวติโค่นล้ มอานาจ ั ั สมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระเจ้ าหลุยส์ที่16 แล้ วเตรี ยมร่าง รัฐธรรมนูญขึ ้น เอกสารนี ้เป็ นกรอบความคิดของการปฏิวติฝรั่งเศส ั สะท้ อนถึงความหวังของประชาชนในการมีสทธิและเสรี ภาพของแต่ละ ิ บุคคล
  • 44. 2.สนธิสญญาแวร์ ซาย ั • หลังจากสงครามโลกครังที่ 1 ยุติลงในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.918 ด้ วย ้ การยอมจานนของฝายเยอรมนี ประเทศมหาอานาจฝ่ ายสัมพันธมิตร และประเทศอื่นได้ จดประชุมสันติภาพ ณ พระราชวังแวร์ ซาย ฝรั่งเศส ั และได้ ร่างสนธิสญญาขึ ้นมา 5 ฉบับ สาหรับชาติผ้ แพ้ สงคราม ได้ แก่ ั ู เยอรมนี ออสเตรี ย ฮังการี บัลแกเรี ย และตุรกี สนธิสญญาที่สาคัญที่สด ั ุ คือ สนธิสญญาแวร์ ซายที่ฝ่ายสัมพันธมิตรลงนามกับเยอรมนีในวันที่ 28 ั มิถนายน ค.ศ.1919 ุ
  • 45. จบการนาเสนอ ขอบคุณค่ะ • นส. เบญจพร หวังวิบลย์ชย ม.6.7 เลขที่ 24 ู ั • นส. พัทธ์ธีรา ณ น่าน ม.6.7 เลขที่ 26