SlideShare a Scribd company logo
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม
การปฏิรูปศาสนา กําเนิดรัฐชาติ
เสนอ
อาจารย์ปรางค์สุวรรณ ศักดิ์โสภณกุล
จัดทําโดย
1. นางสาวจิตรจารี เลิศวิลัยวิทยา ม.6.7 เลขที่ 1
2. นางสาวพลอยพรรณ วัฒนาศรมศิริ ม.6.7 เลขที่ 7
โรงเรียนสตรีวิทยา
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
1. การปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนา (Religious Reformation) เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มี
สาเหตุสําคัญมาจากความเสื่อมความนิยมในผู้นําทางศาสนาและการเกิดแนวคิดใหม่
เกี่ยวกับ ศาสนา เนื่องจากมีการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและแปลออกเป็นภาษาต่างๆ เช่น
ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ทําให้คริสต์ศาสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจใหม่ การ
ปฏิรูปศาสนาจึงเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ โดยมีผู้นําการปฏิรูปหลายคนและใช้ชื่อ
แตกต่างกัน
การปฏิรูปคริสต์ศาสนา หมายถึง ขบวนการในยุโรปตะวันตกที่ปัจเจกชนและ
สถาบันต่างๆ แสดงความเห็นคัดค้านการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามหลักในคัมภีร์ไบเบิล
การปฏิรูปเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดคริสต์ศาสนาในยุโรปได้แตกแยกเป็น
2 นิกาย คือโรมันคาทอลิกและ โปรเตสแตนต์
1.1 สาเหตุของการปฏิรูปศาสนา
1. ความเป็นอยู่ของสันตะปาปาและพระชั้นสูงบางองค์มีความฟุ่มเฟือย สะสมทรัพย์
สมบัติไว้ให้ลูก และยังเรียกเก็บภาษีสูงขึ้นเพื่อนําเงินไปใช้จ่ายในคริสตจักร มีการซื้อ
ขายตําแหน่งกัน รวมทั้งชาวยุโรปมีการศึกษาที่สูงขึ้นจึงไม่เชื่อคําสั่งสอนของฝ่าย
ศาสนจักร และเกิดความคิดที่จะปรับปรุงศาสนาให้บริสุทธิ์
3. ศาสนจักรมุ่งเน้นพิธีกรรมมากจนเกินไป ทําให้ประชาชนต้องการทําความเข้าใจใน
หลักธรรมทางศาสนามากขึ้น จนมีนักคิดเสนอว่ามนุษย์ควรเข้าถึงพระเจ้าและทําความ
เข้าใจในคัมภีร์ไบเบิลด้วยตนเองมากกว่าผ่านทางพิธีกรรมของศาสนจักร
1.1 สาเหตุของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
2. สันตะปาปาทรงมีฐานะเป็นเจ้าผู้ปกครองฝ่ายศาสนจักร มีส่วนร่วมทางการเมืองของ
ยุโรปและเข้าไปครอบงํารัฐต่างๆ ทําให้เจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆต้องการเป็นอิสระต้องการ
ปฏิรูปศาสนา
4. สันตะปาปาจูเลียสที่ 2 และสันตะปาปาลีโอที่ 10 ต้องการงบประมาณในการก่อสร้าง
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ จึงส่งสมณทูตมาขายใบยกบาปในดินแดนเยอรมัน ด้วยภาวะ
ทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ทําให้เกิดกลุ่มต่อต้านคริสตจักรทั้งขุนนาง นักคิด
และปัญญาชนในเยอรมัน
1.1 สาเหตุของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
http://www.bloggang.com/viewdiary.php
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์
จากภาพเขียนโดยวิเวียโนโคดาซซี (Viviano Codazzi)
เมื่อ ค.ศ. 1630 หอสองหอที่เห็นในภาพถูกรี้อภายหลัง
http://en.wikipedia.org/wiki/Indulgence
การขายใบไถ่บาป The sellingof
indulgencies
1.2 การเริ่มปฏิรูปศาสนา
มาร์ตินลูเทอร์ นักบวชชาวเยอรมันทําการประท้วง
การขายใบยกโทษบาปด้วยการปิดประกาศคําประท้วง 95 ข้อ
โดยลูเทอร์ได้ประกาศว่า สันตะปาปาไม่ควรเก็บภาษีใน
เยอรมันเพื่อไปสร้างมหาวิหาร และสันตะปาปาไม่ได้เป็น
บุคคลเพียงผู้เดียวที่นําพามนุษย์ไปสู่พระเจ้า ประกาศดังกล่าว
ถือว่าเป็นที่มาของนิกายโปรเตสแตนต์ คําประกาศของเขา
ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างในเยอรมัน
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph
p?id=vinitsiri&month=02-
2010&date=15&group=45&gblog=75
มาร์ตินลูเทอร์
ค.ศ. 1521 มาร์ตินลูเทอร์ ได้รับคําสั่งจากจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิ
โรมันให้เข้าไปประชุมสภาแห่งเวิร์ม เขาถูกกล่าวหาจากจักรพรรดิว่ามีท่าทีเป็น
ปฏิปักษ์ต่อคริสต์ศาสนาและเป็นบุคคลนอกศาสนา แต่เจ้าผู้ครองแคว้นแซกโซนีได้
อุปถัมภ์เขาไว้และเข้าได้แปลคัมภีร์ไบเบิลจากภาษาละตินมาเป็นภาษาเยอรมัน ทําให้
ความรู้ทางศาสนาเป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนเพิ่มมากขึ้น
1.2 การเริ่มปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
https://th.m.wikipedia.org/wiki
จักรพรรดิชาลส์ที่ 5
หลังจากนั้น พวกเจ้านายในเยอรมันได้แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเหนือ ซึ่งสนับสนุน
มาร์ตินลูเทอร์ กับฝ่ายใต้ซึ่งสนับสนุนคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่กรุงโรม ทําให้เกิด
สงครามกลางเมืองขึ้นใน ค.ศ. 1546 ในที่สุดก็มีการสงบศึก โดยการทําสนธิสัญญา
สันติภาพแห่งเอากส์บูร์กใน ค.ศ. 1555 โดยให้เจ้าชายเยอรมันและแคว้นของพระองค์มี
สิทธิที่จะเลือกนับถือนิกายลูเทอร์หรือนิกายโรมันคาทอลิกก็ได้
1.2 การเริ่มปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
1.2 การเริ่มปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
การปฏิรูปคริสต์ศาสนาได้ขยายตัวจาก
เยอรมันไปยังประเทศอื่นๆ ผลการปฏิรูปทาง
ศาสนาได้ก่อให้เกิดนิกายโปรเตสแตนต์ขึ้น
แบ่งเป็น 3 นิกายสําคัญคือ
1.นิกายลูเทอร์ แพร่หลายในเยอรมันและประเทศ
กลุ่มสแกนดิเนเวีย
2.นิกายคาลวิน แพร่หลายในสวิตเซอร์แลนด์
ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสกอตแลนด์
3.นิกายอังกฤษหรือแองกลิคัน เป็นนิกายประจํา
ประเทศอังกฤษ
http://users.humboldt.edu/ogayle/hist110/expl.html
การปฏิรูปคริสต์ศาสนา
1.3 การปฏิรูปศาสนจักร
1.ศาสนจักรได้จัดการประชุมสังคายนาพระศาสนาที่เมืองเทรนต์ ในค.ศ.1545
โดยมีบทสรุปคือ
1) สันตะปาปาทรงเป็นประมุขของคริสต์ศาสนา
2) การประกาศหลักธรรมทางศาสนาต้องให้ศาสนจักรเป็นผู้ประกาศแก่
ศาสนิกชน
3) คัมภีร์ไบเบิลต้องเป็นภาษาละติน
4) ยกเลิกการขายใบยกโทษบาปและตําแหน่งทางศาสนา มีการกําหนดระเบียบ
วินัยมาตรฐานการศึกษาของพระและให้ใช้ภาษาพื้นเมืองในการสอนศาสนา
เมื่อเกิดการปฏิรูปศาสนาในดินแดนส่วนต่างๆของยุโรป คริสตจักรที่กรุงโรมได้
พยายามต่อต้านปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยวิธีต่างๆได้แก่
1.3 การปฏิรูปศาสนจักร(ต่อ)
2.ศาสนจักรได้ตั้งศาลศาสนาเพื่อลงโทษพวกนอกศาสนา โดยมีการลงโทษ
โดยการเผาคนทั้งเป็นการต่อต้านการปฏิรูปศาสนาของคริสตจักรที่กรุงโรมนั้นได้ผล
คือ นิกายโรมันคาทอลิกสามารถป้องกันไม่ให้ศาสนิกชนโรมันคาทอลิกหันไปนับถือ
นิกายโปรเตสแตนต์เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถดึงศาสนิกชนโปรเตสแตนต์ให้กลับมานับ
ถือนิกายโรมันคาทอลิกได้
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=1491
กองฟืนที่เตรียมไว้เผาทั้งเป็นพวกโปรเตสแตนท์ที่ยอมตายเพื่อรักษาความเชื่อของตน
1.4 ผลของการปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปก่อให้เกิดผลกระทบ ได้แก่
1.คริสตจักรตะวันออกได้แตกแยกเป็น 2 นิกาย คือ นิกายโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางอยู่ที่
กรุงโรม มีสันตะปาปาเป็นประมุข กับนิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งแยกเป็นนิกายต่างๆใน
ประเทศทางภาคเหนือของยุโรป ความเป็นเอกภาพทางศาสนาของยุโรปสิ้นสุดลง
2.เกิดกระแสชาตินิยมในประเทศต่างๆ เช่น กรณีที่มาร์ตินลูเทอร์ หนุนให้เจ้าผู้ครองรัฐ
ต่างๆ ในเยอรมันต่อต้านจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน ผู้ที่นับถือนิกายคาลวินใน
เนเธอร์แลนด์ ส่วนที่เป็นเจ้าของสเปนต่อต้านกษัตริย์สเปนจะได้รับเอกราช
1.4 ผลของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
3.เกิดการแข่งขันระหว่างนิกายต่างๆ มีการปรับปรุงสิ่งที่บกพร่องเพื่อเรียกศรัทธาและ
ก่อให้เกิดขันติธรรมในการอยู่ร่วมกับผู้นับถือนิกายต่างกัน
4.สภาพสังคมเปลี่ยนไป นิกายโปรเตสแตนต์ได้สนับสนุนการประกอบอาชีพด้าน
การค้าและอุตสาหกรรม ทําให้ระบบทุนนิยมในยุโรปเจริญเติบโต
5.ระบบรัฐชาติแข็งแรงขึ้น การเกิดนิกายโปรเตสแตนต์ได้ส่งเสริมวัฒนธรรมของ
แต่ละท้องถิ่น เช่น การแปลคัมภีร์เป็นภาษาท้องถิ่น และยังส่งเสริมอํานาจของ
ผู้ปกครอง ได้แก่ กษัตริย์ในฐานะตัวแทนของพระเป็นเจ้าในการปกครองประเทศ จึง
เท่ากับส่งเสริมระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
1.4 ผลของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
6.ผลของการแตกแยกทางศาสนา ทําให้เกิดสงครามศาสนาขึ้นในยุโรปหายครั้ง เช่น
สงครามศาสนาในเยอรมนี(1546-1555) สงครามศาสนาในประเทศฝรั่งเศส (1562-1589)
สงครามสามสิบปี (1618-1648) การเกิดสงครามศาสนาทําให้สถาบันกษัตริย์มีอํานาจ
เหนือคริสตจักร เพราะสันตะปาปาต้องอาศัยอํานาจของกษัตริย์ที่นับถือคาทอลิกทําการ
ต่อต้านกษัตริย์ที่นับถือโปรเตสแตนด์
http://th.wikipedia.org/wiki/
สงครามศาสนาในประเทศฝรั่งเศสเหตุการณ์สังหารหมู่
วันเซนต์บาร์โธโลมิว
2. กําเนิดรัฐชาติ
รัฐชาติ เป็นการรวมกลุ่มคนตามสภาพทางภูมิศาสตร์และตามเชื้อชาติ
คนในชาติพูดภาษาเดียวกัน มีขนบธรรมเนียมประเพณีคล้ายคลึงกัน
จึงมีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติของตน
2.1 ปัจจัยที่ทําให้เกิดรัฐชาติ
2.1.1 การขยายตัวทางเศรษฐกิจการค้า
การเปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ๆ ทําให้เครือข่ายการค้าขยายตัวขึ้น โดยเพิ่มทั้ง
ด้านระดับการค้า ปริมาณและชนิดของสินค้า ทําให้ทองคําและเงินได้หลั่งไหลเข้าสู่
ดินแดนยุโรป กษัตริย์จึงมีเงินนําไปสร้างเป็นฐานอํานาจทางการเมืองและการทหารใน
การรวมชาติ
http://jjxxsb.gog.com.cn/system/2008/02/28/010222774.shtml
เงินจากหลายประเทศ
2.1 ปัจจัยที่ทําให้เกิดรัฐชาติ(ต่อ)
2.1.2 ความเสื่อมของขุนนาง
ช่วงต้นสมัยใหม่ ขุนนางในระบบฟิวดัลอ่อนแอลงและหมดสิ้นเงินจํานวนมาก
จากการรบในสงครามครูเสด ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อทําให้ขุนนางต้องขายทรัพย์สิน
ให้กับพ่อค้า ขุนนางจึงยากจนลงจนไม่สามารถสะสมกําลังในการสร้างความวุ่นวายให้
กษัตริย์แต่กลับต้องพึ่งการอุปถัมภ์ของกษัตริย์แทน และได้กลายเป็นข้าราชบริพารของ
กษัตริย์ซึ่งเป็นการเพิ่มอํานาจของกษัตริย์ให้มากขึ้น
http://th.wikipedia.org/wiki/
สงครามครูเสด
2.1 ปัจจัยที่ทําให้เกิดรัฐชาติ(ต่อ)
2.1.3 ความสํานึกในการสร้างชาติ
ความสํานึกในการสร้างชาติเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้ภาษาของตนในดินแดนต่างๆ เช่น สเปน
โปรตุเกส ฝรั่งเศส อังกฤษ แทนภาษาละตินที่เคยใช้มาแต่เดิม การมีภาษาของตนเองทํา
ให้เกิดความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อชาติของตนในเวลาต่อมา
2.2 กําเนิดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
ประเทศฝรั่งเศส โปรตุเกส สเปนและอังกฤษเกิดการล่มสลายของระบบฟิวดัล
มีการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีระบบการบริหารรวมศูนย์กลางอํานาจ
ไว้ที่ส่วนกลาง ประชาชนก็ยินยอมและจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ที่เป็นประมุข
http://www.thaigoodview.com/library/c
ontest2552/type2/social04/18/middleages
/feudal_system_i.html
ระบอบฟิวดัล (Feudalism)
3. การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และ
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
3.1 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)
3.1.1 สภาพภูมิหลังของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
งานด้านวิทยาศาสตร์เป็นที่สนใจของชาวตะวันตกมาตั้งแต่สมัยกลางแล้ว วิชา
เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เช่น ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ได้ถูกนํามาบรรจุในหลักสูตรการสอน
ในมหาวิทยาลัยตะวันตกตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 12-13
3.1 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)(ต่อ)
คริสต์ศตวรรษที่ 14-17 ศิลปินที่สําคัญของยุคนี้เช่น เลโอนาร์โด ดาวินชี และ
ไมเคิลแองเจโลได้ใช้หลักกายวิภาคศาสตร์มาสร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปกรรมทั้งด้าน
จิตรกรรมและประติมากรรม นอกจากนี้ชาวตะวันตกได้ค้นพบคุณสมบัติของเลนส์และ
นํามาทําเป็นส่วนประกอบของกล้องส่องทางไกลและกล้องดูดาวช่วยในการเดินเรือ
ในที่สุดก็สามารถพัฒนาเครื่องมือในการวัดและการคํานวณอย่างแม่นยําซึ่งช่วย
แก้ปัญหาในการเดินเรือ
http://artsfortourist.blogspot.com/2013/02/renaissance-
architecture.html
เดอะวิทรูเวียนแมน - ลีโอนาโด ดาวินชี
www.sistinepuzzle.com
ลิโอนาโด ดา วินชี ในวัยหนุ่ม
http://joejocute.diaryclub.com/20070714
ไมเคิล แองเจโล
http://joejocute.diaryclub.com/20070714
รูปปั้นแกะสลักเฟียต้า ผลงานระดับโลกของไมเคิล แองเจโล
วิทยาศาสตร์ยังทําให้ชาวตะวันตกเริ่มเป็น กบฏทางความคิด ต่ออํานาจเหนือ
ธรรมชาติของพระเป็นเจ้าตามคําสั่งสอนของคริสต์ศาสนา วิธีการศึกษาทาง
วิทยาศาสตร์ทําให้ประชาชนต้องการหาคําตอบให้แก่ความลี้ลับของธรรมชาติที่
สามารถอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ได้
3.1 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)(ต่อ)
3.1.2 นักวิทยาศาสตร์
นิโคเลาส์ โคเพอร์นิคัส ชาวโปแลนด์ ได้ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์อธิบาย
ระบบสุริยจักรวาล ว่าโลกไม่ได้หยุดนิ่งหรือเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลแต่
ดาวเคราะห์ทุกดวงรวมทั้งโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งทฤษฎีนี้เป็นการล้มล้างคําสอน
ของศาสนจักรในสมัยกลาง และล้มความเชื่อตั้งแต่สมัยกรีกโดยงานของอริสโตเติลและ
โตเลมี
http://www.thetooi.com/1866-nicolaus-copernicus
นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส
http://scientistsofworld.blogspot.com/2009/12/nicolaus-copernicus.html
ระบบสุริยะจักรวาล
กาลิเลโอ กาลิเลอิ ชาวอิตาลีได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์เพื่อสังเกตดูการ
เคลื่อนไหวของดวงดาว เขาได้รวบรวมผลการสํารวจนับสิบปีของเขาพิมพ์หนังสือ
เผยแพร่เพื่อโต้แย้งความคิดเกี่ยวกับจักรวาลวิทยาของกรีก ซึ่งแนวคิดของเขาขัดกับคํา
สอนของคริสตจักร เข้าจึงถูกศาสนจักรลงโทษด้วยการประณามและถูกข่มขู่ต่างๆนานา
http://www.thaigoodview.com/library/students
how/2549/m6-6/no03-07/person/sec01p32.html
กาลิเลโอ กาลิเลอิ
http://www.oknation.net/blog/buzz/2009/08/25/entry-2
กล้องดูดาวแบบกาลิเลโอ" (Galileo'sTelescope)
กาลิเลโอได้รับขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่ง
วิทยาศาสตร์ยุคใหม่“ ได้ทําการทดลองครั้งสําคัญใน
ปี 1591 (ที่ต่อมาภายหลังได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียง
มาก) เพื่อพิสูจน์ว่าทฤษฎีการตกของวัตถุที่นําเสนอโดย
อริสโตเติลนั้นไม่ถูกต้อง โดยอริสโตเติลได้นําเสนอว่า
วัตถุที่มีมวลต่างกัน เมื่อปล่อยให้ตกลงมา วัตถุที่หนักจะ
ตกถึงพื้นก่อน
กาลิเลโอได้ทําการปล่อยวัตถุที่มีมวลต่างกัน 2 ชิ้น
จากยอดหอเอนปิซา ในเวลาพร้อมกัน ซึ่งวัตถุดังกล่าว
ดังกล่าว ได้ตกลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงโลก และถึงพื้น
เกือบจะพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าความคิดของ
อริสโตเติลนั้นไม่ถูกต้อง
เรื่องน่ารู้
http://www.space.mict.go.th/astronomer.php?name=galileo
การปล่อยวัตถุที่มีมวลต่างกัน 2 ชิ้น จากยอดหอเอนปิซา
เซอร์ฟรานซิส เบคอน นักปราชญ์ชาวอังกฤษ
ได้วางรากฐานและทัศนคติใหม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
ได้กระตุ้นให้ชาวอังกฤษและรัฐบาลมายอมรับ
ความสําคัญของงานด้านวิทยาศาสตร์และเป็นแรง
บันดาลใจให้ตั้งราชบัณฑิตยสมาคมเพื่อสงเสริม
งานค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์
http://www.baanjomyut.com/library_2/philosopher/01.html
เซอร์ฟรานซิส เบคอน
เรอเน เดการ์ต นักปรัชญาและ
นักคณิตศาสตร์ได้นําหลักคณิตศาสตร์
โดยเฉพาะเรขาคณิตมาพิสูจน์และตรวจสอบ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับระบบจักรวาล
http://dieulux.exteen.com/20090818/il-pense-donc-il-est
เรอเน เดการ์ต
เซอร์ไอแซก นิวตัน ชาวอังกฤษ ค้นพบกฎแรงดึงดูดของจักรวาล และกฎ
แห่งแรงโน้มถ่วง โดยอาศัยหลักคณิตศาสตร์ของเดการ์ตและแนวทางการศึกษาของ
เคปเลอร์และกาลิเลโอ หนังสือของนิวตันเป็นที่รู้จักในชื่อ The Mathematical Priciples
of Natural Knowledge นอกจากนี้นิวตันได้ทําให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจเรื่องของจักรวาล
สสาร พลังงานตลอดจนการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งต่อมาเป็นหัวใจแห่งวิชากลศาสตร์อีก
ด้วย
http://www.oknation.net/blog/kanteen/2012/09/20/entry-1
เซอร์ไอแซก นิวตัน
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)
ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิธีการและระบบผลิต
ดั้งเดิมจากการใช้แรงงานของคน สัตว์และพลังงานธรรมชาติ มาเป็นการใช้เครื่องมือ
และเครื่องจักรกลในระบบโรงงานแทนระบบการจ่ายงานให้ไปทําตามบ้าน เพื่อผลิต
สินค้าชนิดเดียวกันจํานวนมาก
http://www.philadelphia-reflections.com/images/indust.jpg
เครื่องจักรกลในระบบโรงงาน
กระบวนการผลิตแบบโรงงานดังกล่าวนี้ทําให้เกิดระบบอุตสาหกรรมนิยม
(Industrialism) ขึ้น หรือเรียกว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเกิดขึ้นอย่างช้าๆ แต่
ต่อเนื่องเป็นเวลานานนับศตวรรษ โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ และยังคง
เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและแบบแผนความเป็นอยู่
ของมนุษย์ทุกมุมโลกจากสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมกึ่งเกษตรกรรม กึ่งอุตสาหกรรม
หรือสังคมอุตสาหกรรม และมีผลกระทบให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและ
รวดเร็วกว่ายุคใดๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ทั้งทางกายภาพ สิ่งแวดล้อม และ
ระบบนิเวศ
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
1. การปฏิวัติเกษตรกรรม เกิดจากการนําเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการมา
ปรับปรุงการเกษตรกรรมให้ได้ผลดีขึ้น โดยเริ่มต้นประมาณกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16
รัฐบาลออกพระราชบัญญัติล้อมเขตที่ดิน มาใช้ในการปรับปรุงเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ยังทําให้สามารถนําเอาวิธีการเกษตรกรรมแบบใหม่ๆ มา
ช่วยในการปรับปรุงวิธีการทํานาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
3.2.1 สาเหตุของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษเป็นประเทศแรก
การปฏิวัติเกษตรกรรมจึงทําให้อังกฤษมี
ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นอันมาก และมี
อาหารอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะเลี้ยงดู
ประชากรทั้งประเทศ โดยเฉพาะประชากรใน
เขตเมืองที่จะเป็นแรงงานสําคัญต่อการพัฒนา
ระบบอุตสาหกรรมของประเทศ
http://th.wikipedia.org/wiki
การปฏิวัติเกษตรกรรมในอังกฤษ
นอกจากนี้อังกฤษได้จัดตั้งธนาคารแห่งอังกฤษขึ้น ทําให้นครลอนดอนเป็น
ศูนย์กลางทางการเงินที่สําคัญของยุโรป และเป็นแหล่งระดมเงินทุนของรัฐบาลที่ให้การ
สนับสนุนความก้าวหน้าทางวิทยาการ
2. คุณสมบัติเฉพาะตัวของชาวอังกฤษ คือ กล้าได้กล้าเสีย และกระตือรือร้นต่อความ
เปลี่ยนแปลงต่างๆอันเป็นผลมาจากอิทธิพลของคริสต์ศาสนานิกายอังกฤษ ชาว
อังกฤษโดยทั่วไปมีความเชื่อว่า ความมั่งคั่งทางโภคทรัพย์เป็นความสําเร็จสูงสุด ของ
ชีวิตที่ทุกคนต้องปฏิบัติ เพื่อชื่อเสียง เกียรติยศของตนเองและครอบครัว ทัศนคติทาง
วัตถุธรรมดังกล่าวจึงทําให้ชาวอังกฤษโดยทั่วไปเห็นการค้าขายเป็นงานมีเกียรติ
พร้อมจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ถ้าจะทําให้ฐานะทางเศรษฐกิจของตนมั่งคั่ง
และมั่นคงยิ่งขึ้น
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
3. การขยายตัวของตลาดการค้า นโยบายการค้าแบบเสรีและการยกเลิกการเก็บภาษีการ
ขนถ่ายสินค้าผ่านด่านก่อนประเทศอื่นๆในยุโรปได้กระตุ้นให้มีการขยายตัวของตลาด
การค้าภายในอย่างกว้างขวาง ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้มีการออกพระราชบัญญัติ
หลายฉบับในการสร้างถนน ท่าจอดเรือ และขุดคูคลองต่างๆ เป็นจํานวนมาก เพื่อใช้เป็น
เส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้า ให้เป็นไปด้วยความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นอังกฤษได้เข้ารบในสงครามกับประเทศคู่แข่งในการขยายอํานาจ
ทางทะเล ทําให้อังกฤษสามารถขยายปริมาณสินค้าส่งออกและเพิ่มจํานวนตลาดการค้า
ในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว
จากปัจจัยทั้งสามดังกล่าวนี้ทําให้การวางรากฐานการอุตสาหกรรมในอังกฤษมี
ความมั่นคง และก่อให้เกิดแรงจูงใจในการค้นคิดหาวิธีการผลิตสินค้าต่างๆให้มีจํานวน
เพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดได้มีการค้นคิดประดิษฐ์เครื่องจักรและเครื่องทุ่นแรงต่างๆมาใช้
ในโรงงานอุตสาหกรรม และเกิดเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา
http://nattakan18.weebly.com/
การขยายอํานาจทางทะเล
การปฏิวัติอุตสาหกรรมของอังกฤษเกิดจากการนําเครื่องจักรไอนํ้ามาใช้ในงาน
อุตสาหกรรมใน ค.ศ.1721 ทอมัส นิวโคเมน สามารถสร้างเครื่องจักรที่ใช้พลังงานไอนํ้า
ใน ค.ศ.1729 เจมส์ วัตต์ ได้ปรับปรุงเครื่องจักรของนิวโคเมนให้ใช้ในอุตสาหกรรมทอ
ผ้าได้สําเร็จ ใน ค.ศ.1764 เจมส์ ฮาร์กรีฟส์ สร้างเครื่องปั่นด้ายชื่อ สปินนิงเจนนี ที่ปั่น
ด้ายได้พร้อมกันทีละ 16 เส้น
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
http://neoeu.blogspot.com/2009/11/5_01.html
สปินนิง เจนนี ( spinning jenny )
3.2.2 อุตสาหกรรมทอผ้ากับความก้าวหน้าของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ต่อมาใน ค.ศ.1769 ริชาร์ต อาร์คไรต์ ได้ปรับปรุงเครื่องปั่นด้ายสปินนิงเจนนีให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยพัฒนาเป็นเครื่องจักรกลที่ใช้พลังนํ้าหมุนแทนแรงคน และเรียก
วอเตอร์เฟรม นับเป็นก้าวสําคัญของการเริ่มต้นการผลิตสิ่งทอในอังกฤษจากที่ทํากันใน
บ้าน หรือโรงนา มาเป็นระบบโรงงานอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง อุตสาหกรรมการทอผ้า
ของอังกฤษได้พัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนปริมาณฝ้ายที่ส่งมาจากทวีปเอเชียไม่
เพียงพอ จึงต้องหันไปขยายตลาดค้าฝ้ายกับทวีปอเมริกา
http://th.wikipedia.org/wiki
โรงงานปั่นด้ายในยุคปฏิวัติอุสาหกรรม
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อโรงงานทอผ้าต่างๆได้นําเอาเครื่องจักรไอนํ้าที่
เจมส์ วัตต์ คิดประดิษฐ์ใน ค.ศ.1769 มาใช้ขับเคลื่อนเครื่องจักรกลแทนพลังงานนํ้า อีก
50 ปีต่อมาอุตสาหกรรมการทอผ้าส่วนใหญ่ต่างใช้เครื่องจักรไอนํ้าเป็นพลังขับเคลื่อน
เครื่องจักรกล
http://th.wikipedia.org/wiki
เครื่องจักรไอนํ้าของเจมส์ วัตต์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 อังกฤษสามารถผลิตเหล็กได้ไม่เพียงพอต่อการขยายตัว
ของอุตสาหกรรมหนักประเภทต่างๆ เมื่อเครื่องจักรไอนํ้าได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์
ขึ้นแล้วก็ได้มีการนําถ่านโค้ก ซึ่งเป็นถ่านหินที่ผ่านกระบวนการเผาจนหมดควันแล้วมา
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหลอมโลหะ ทําให้อุตสาหกรรมเหล็กของอังกฤษสามารถขยาย
ปริมาณการผลิตได้อย่างรวดเร็ว และมีจํานวนมากเพียงพอต่อความต้องการขยาย
อุตสาหกรรมภายในประเทศ
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
http://th.wikipedia.org/wiki
ภาพ เหล็กและถ่านหิน โดยวิลเลียม เบลล์ สกอตต์, ค.ศ. 1855-60
3.2.3 การขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ใน ค.ศ.1784 เฮนรี คอร์ต ได้ค้นคิดวิธีการหลอมเหล็กให้ได้เหล็กบริสุทธิ์ที่มี
คุณภาพดีขึ้นโดยปราศจากโลหะอื่นเจือปน สามารถปรับปรุงคุณภาพของปืนใหญ่ และ
ปืนคาบศิลา ตลอดจนยุทโธปกรณ์ต่างๆให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การพัฒนาคุณภาพของเหล็ก ทําให้สังคมตะวันตกโดยทั่วไปเจริญ
รุดหน้าอย่างรวดเร็ว เกิดการปฏิวัติทางคมนาคมขนส่ง มีการสร้างและพัฒนาเรือกลไฟที่
ใช้พลังไอนํ้าให้เป็นพาหนะสําคัญในการคมนาคมขนส่งทางนํ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นับตั้งแต่ ค.ศ.1830 โลกได้เข้าสู่ยุคม้าเหล็ก เมื่ออังกฤษได้เปิดเส้นทางรถไฟไอนํ้าสาย
แรก
http://goldenstate.files.wordpress.com/2009/09/train.jpg
รถไฟไอนํ้า
ความสําเร็จของการปฏิรูปอุตสาหกรรมของอังกฤษได้กลายเป็นแรงกระตุ้นให้
ประเทศอื่นๆหันมาสนใจอย่างจริงจังต่อกระบวนการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนในที่สุดใน
ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ก็สามารถก้าวมาเป็น
คู่แข่งในเชิงอุตสาหกรรมกับอังกฤษได้
การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะแรก เป็นการใช้พลังไอนํ้าในการขับเคลื่อน
เครื่องจักรในอุตสาหกรรมทอผ้า และต่อมามีการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ประเทศ
อังกฤษเป็นผู้นําอุตสาหกรรมประเทศแรกในการปฏิวัติอุตสาหกรรม
การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะที่สอง เป็นช่วงที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้า ก๊าซ และ
นํ้ามันมาใช้แทนถ่านหินหรือเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมเหล็กกล้า มีกระบวนการ
ผลิตแยกส่วนแล้วนํามาประกอบกัน มีโรงงานขนาดใหญ่ขึ้น มีจํานวนคนทํางานใน
เมืองมากขึ้น เกิดเป็นสังคมเมืองขนาดใหญ่
การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะที่สาม เป็นสมัยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ มีการ
ประดิษฐ์เครื่องจักรไดนาโมของไมเคิล ฟาราเดย์เช่น ภาพยนตร์ โทรเลข โทรศัพท์
การพิมพ์
ระยะของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
1. ด้านสังคม ผลกระทบพื้นฐานที่สําคัญของการปฏิวัติอุตสาหกรรม คือ การเพิ่มจํานวน
ประชากรอย่างรวดเร็วของทั่วโลก สาเหตุสําคัญเกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
และการแพทย์ความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ตลอดจนการปรับปรุงระบบสาธารณสุข
และการดูแลสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น ก่อให้เกิดการขยายตัวของสังคมเมือง และการ
เปลี่ยนแปลงทางสังคม ทําให้ชาวชนบทจํานวนมากหลั่งไหลเข้าเมือง ปัญหาสวัสดิภาพ
ของคนงาน การเอารัดเอาเปรียบในอัตราค่าจ้าง
3.2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
3.2.4 ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
แนวคิดของระบบสังคมนิยม ของคาร์ล มากซ์ ที่เรียกร้องให้กรรมกรรวมพลัง
กันเพื่อต่อสู้โค่นล้มระบบทุนนิยม จึงเริ่มมีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้น เพื่อสร้าง
สังคมใหม่ที่มีความเสมอภาคและปราศจากความเหลื่อมลํ้าทางเศรษฐกิจและการเมือง
http://th.wikipedia.org/wiki
คาร์ล มากซ์
2. ด้านเศรษฐกิจ แอดัม สมิท ได้พิมพ์เผยแพร่งานเขียนชื่อ Wealth of Nations เพื่อให้
รัฐบาลเห็นด้วยว่าความมั่นคงของประเทศจะเกิดจากระบบการค้าแบบเสรีที่รัฐบาลควร
ปล่อยให้เอกชนประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเสรีโดยปราศจากการควบคุม
หลักการของระบบการค้าแบบเสรีดังกล่าวทําให้ชนชั้นกลางของประเทศมีบทบาทสูง
ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
http://library.cmu.ac.th/faculty/econ/index.php
แอดัม สมิท
http://ideasareimmortal.blogspot.com/2011/09/adam-smiths-wealth-of-nations.html
Wealth of Nations
3. ด้านการเมือง ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 กรรมกรในอังกฤษได้จัดตั้งสหภาพแรงงาน
ขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์และให้ความคุ้มครองแก่พวกตน จนในที่สุดก็สามารถ
เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ทําให้ประชาชน
ทั่วไปมีสิทธิในการเลือกตั้ง
กล่าวได้ว่า การปฏิวัติวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรมก่อให้เกิดผลกระทบ
อย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวตะวันตก โดยการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ทําให้
ชาวตะวันตกมองโลกและสังคมด้วยทัศนะที่เป็นจริงมากขึ้น นอกจากนี้การค้นพบทาง
วิทยาศาสตร์ ก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาการต่างๆ ได้มีการนําความรู้
ทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการคิดค้นประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้หรือเครื่องทุ่นแรง
ในการดํารงชีพต่างๆ ทําให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม และความมั่งคั่งบริบูรณ์ทางวัตถุ
อย่างไม่ขาดระยะ
สรุป
ส่งผลให้โครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ล้าหลังของยุโรปเปลี่ยนแปลงเป็น
ประเทศอุตสาหกรรมอันทันสมัย ทําให้ชาวยุโรปส่วนใหญ่เริ่มมีสภาพชีวิตที่
สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้การปฏิวัติอุตสาหกรรมยังมรผลให้ชนชั้นกลางและชน
ชั้นกรรมาชีพมีบทบาทในสังคมมากขึ้นด้วย เกิดการรามตัวกันและมีบทบาทในการ
เรียกร้องประชาธิปไตยในนานาประเทศในยุโรป
สรุป(ต่อ)

More Related Content

PDF
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
PDF
ภูมิรัฐศาสตร์ สกว.
PPTX
บทที่ 3 ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
PPTX
โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ ม.4 เล่ม 1_บทที่ 3 ธรณีพิบัติ
PDF
การเคลื่อนที่แบบ shm
PDF
บรรยากาศ (Atmosphere)
DOCX
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
ภูมิรัฐศาสตร์ สกว.
บทที่ 3 ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ ม.4 เล่ม 1_บทที่ 3 ธรณีพิบัติ
การเคลื่อนที่แบบ shm
บรรยากาศ (Atmosphere)
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี

What's hot (20)

PPTX
แนวคิดเสรีนิยม
PPTX
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
PPTX
สอนเด็ก ม3
PPTX
อารยธรรมอียิปต์
PDF
การเมืองการปกครองของไทย
DOCX
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
PDF
สมัยจักรวรรดินิยม
PDF
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
PDF
1ธรรมชาติของฟิสิกส์
PDF
โครงงานระบบกรองน้ำ
PDF
PDF
โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ ม.4 เล่ม 1_บทที่ 1 โครงสร้างโลก
PDF
แผนการสอนหลักสูตรระยะสั้น
PDF
เรื่อง เมฆ
DOCX
แผนการจัดการเรียนรู้ ม.5 รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 4 ส32102.docx
PDF
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
PDF
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
PDF
การปกครองท้องถิ่นไทยกับการพัฒนา
PDF
ศาสนาเปรียบเทียบ
PDF
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านหนองเต่า
แนวคิดเสรีนิยม
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
สอนเด็ก ม3
อารยธรรมอียิปต์
การเมืองการปกครองของไทย
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
สมัยจักรวรรดินิยม
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
1ธรรมชาติของฟิสิกส์
โครงงานระบบกรองน้ำ
โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ ม.4 เล่ม 1_บทที่ 1 โครงสร้างโลก
แผนการสอนหลักสูตรระยะสั้น
เรื่อง เมฆ
แผนการจัดการเรียนรู้ ม.5 รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 4 ส32102.docx
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
การปกครองท้องถิ่นไทยกับการพัฒนา
ศาสนาเปรียบเทียบ
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านหนองเต่า
Ad

Viewers also liked (6)

DOC
แบบทดสอบ วิชาสังคม
PDF
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
PPT
การปฏิรูปศาสนา Religious Reformation
PDF
ปฏิรูปศาสนา
PPT
renaissance and religion
PPTX
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
แบบทดสอบ วิชาสังคม
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
การปฏิรูปศาสนา Religious Reformation
ปฏิรูปศาสนา
renaissance and religion
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
Ad

Similar to หน วยการเร ยนร__ท__ 5 พ_ฒนาการของย_โรปสม_ยใหม_ (1) (20)

PDF
5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new)
PPT
การปฎิรูปศาสนา Religious Reformation
PPT
การปฎิรูปศาสนา
PDF
ปฏิรูปศาสนา
PPTX
การปฏิรูปศาสนา
PPTX
การปฏิรูปศาสนา
PPTX
การปฏิรูปศาสนา
PPTX
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง
PDF
Humanities integration_1
PPTX
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
PPTX
เหตุการณ์สำคัญในสมัยยุโรปกลาง
PPTX
เหตุการณ์สำคัญและอารยธรรมสมัยยุโรปกลาง
PPTX
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
DOC
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ยุคก่อนประวัติศาสตร์
PDF
พัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
PPTX
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
PDF
พัฒนาการยุโรป
PPTX
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง4,21
PDF
4.4 อารยธรรมสมัยกลาง
5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new)
การปฎิรูปศาสนา Religious Reformation
การปฎิรูปศาสนา
ปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนา
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง
Humanities integration_1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
เหตุการณ์สำคัญในสมัยยุโรปกลาง
เหตุการณ์สำคัญและอารยธรรมสมัยยุโรปกลาง
บทที่ 1 ศาสนาคืออะไร
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ยุคก่อนประวัติศาสตร์
พัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศาสนา
พัฒนาการยุโรป
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง4,21
4.4 อารยธรรมสมัยกลาง

More from Jitjaree Lertwilaiwittaya (19)

PDF
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
PDF
อารยะธรรมจ นRe (1) (1)
PDF
3.4 อารยธรรมกร ก
PDF
8.1 8.3 เหตุการณ์-ความขัดแย้ง
PDF
7.2 การประสานประโยชน์
PDF
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
PDF
7.1 ความขัดแย้ง cold war
PDF
6.1 6.3 อเมริกา-แอฟริกา-เอเชีย
PDF
5.6 5.7 ยุคภูมิธรรม-ศิลปะสมัยใหม่
PDF
5.1 5.2 ขยายอิทธิพล-ฟื้นฟู
PDF
4.3 เหตุการณ์สมัยยุโรปกลาง
PDF
4.1 4.2 อิทธิพล-การเมือง เศรษฐกิจ
PDF
3.5 อารยธรรมโรมัน
PDF
3.4 อารยธรรมกรีก
PDF
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-เอเชียไมเนอร์
PDF
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
PDF
2.2 อารยธรรมอินเดีย
PDF
1.2 หลักฐานทางปวศ.
PDF
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
อารยะธรรมจ นRe (1) (1)
3.4 อารยธรรมกร ก
8.1 8.3 เหตุการณ์-ความขัดแย้ง
7.2 การประสานประโยชน์
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
7.1 ความขัดแย้ง cold war
6.1 6.3 อเมริกา-แอฟริกา-เอเชีย
5.6 5.7 ยุคภูมิธรรม-ศิลปะสมัยใหม่
5.1 5.2 ขยายอิทธิพล-ฟื้นฟู
4.3 เหตุการณ์สมัยยุโรปกลาง
4.1 4.2 อิทธิพล-การเมือง เศรษฐกิจ
3.5 อารยธรรมโรมัน
3.4 อารยธรรมกรีก
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-เอเชียไมเนอร์
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
2.2 อารยธรรมอินเดีย
1.2 หลักฐานทางปวศ.
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.

หน วยการเร ยนร__ท__ 5 พ_ฒนาการของย_โรปสม_ยใหม_ (1)