Upload
Download free for 30 days
Login
Submit Search
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
0 likes
349 views
Adisorn Tanprasert
1 of 6
Download now
Download to read offline
1
2
3
4
5
6
More Related Content
PDF
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
PDF
Vis varicella-zoster
Loveis1able Khumpuangdee
PDF
มารู้จักโรคไข้เลือดออก กันครับ
Panda Jing
PDF
Vis hib
Loveis1able Khumpuangdee
PDF
Vis ipv
Aimmary
PDF
Vaccineคู่มือประชาชน
Witsalut Saetae
PDF
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสำหรับครอบครัว
Utai Sukviwatsirikul
PPTX
การให้วัคซีน VZV และ dT
Chananart Yuakyen
คำแนะนำสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยหวัด 2009
Adisorn Tanprasert
Vis varicella-zoster
Loveis1able Khumpuangdee
มารู้จักโรคไข้เลือดออก กันครับ
Panda Jing
Vis hib
Loveis1able Khumpuangdee
Vis ipv
Aimmary
Vaccineคู่มือประชาชน
Witsalut Saetae
แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสำหรับครอบครัว
Utai Sukviwatsirikul
การให้วัคซีน VZV และ dT
Chananart Yuakyen
What's hot
(17)
PDF
วัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ
Utai Sukviwatsirikul
PPT
Dangue fever pp
นายสามารถ เฮียงสุข
PPTX
ไข้เลือดอ..
Prachaya Sriswang
PPT
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
Pawat Logessathien
PDF
Vis hpv
Aimmary
PPT
Rabies
Asst.Prof.Dr.Terdsak Rojsurakitti
PDF
วัคซีนที่ควรให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
งานควบคุมโรคต รพ.ธรรมศาสตร์
PDF
หลักทั่วไปในการให้วัคซีน
sucheera Leethochawalit
PDF
วัณโรค (Tuberculosis)
Wan Ngamwongwan
PPTX
อีสุก อีใส
Dbeat Dong
PPT
โรคเอดส์
tichana
PDF
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
nuttanansaiutpu
PPTX
Vaccine
Surat Piwsawang
PPT
Sex education
atit604
PPTX
Ppt. influenza (25.8.57)
Prachaya Sriswang
PDF
มะเร็งหลังโพรงจมูก
Wan Ngamwongwan
PPT
แนะนำโรคต่างๆ หรือ โรคติดต่อ
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ
วัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ
Utai Sukviwatsirikul
Dangue fever pp
นายสามารถ เฮียงสุข
ไข้เลือดอ..
Prachaya Sriswang
กลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
Pawat Logessathien
Vis hpv
Aimmary
Rabies
Asst.Prof.Dr.Terdsak Rojsurakitti
วัคซีนที่ควรให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
งานควบคุมโรคต รพ.ธรรมศาสตร์
หลักทั่วไปในการให้วัคซีน
sucheera Leethochawalit
วัณโรค (Tuberculosis)
Wan Ngamwongwan
อีสุก อีใส
Dbeat Dong
โรคเอดส์
tichana
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
nuttanansaiutpu
Vaccine
Surat Piwsawang
Sex education
atit604
Ppt. influenza (25.8.57)
Prachaya Sriswang
มะเร็งหลังโพรงจมูก
Wan Ngamwongwan
แนะนำโรคต่างๆ หรือ โรคติดต่อ
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ
Ad
Similar to คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
(20)
PDF
Vis varicella-zoster
Aimmary
PDF
Vis meningo-poly
Aimmary
PDF
Vis meningo-poly
Loveis1able Khumpuangdee
PDF
Vis hib
Aimmary
PPT
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
นายสามารถ เฮียงสุข
PPT
นำเสนอโรคติดต่อ
pissamaiza Kodsrimoung
PPT
นำเสนอโรคติดต่อ
nuting
PPT
โรคเอดส์
tichana
PDF
Topic meningoecephalitis
Bow A
PDF
Finalpresentationl20 23
mewsanit
PPT
H1n1 For Safe 040852
viroonya vindubrahmanakul
PDF
โรคไข้หวัด
Wan Ngamwongwan
PDF
แนวทางการดูแลผู้ป่วย ไข้เลือดออก (สำหรับครอบครัว)
chalunthorn teeyamaneerat
PDF
1129
chatchawank1
PDF
02 lepto
สปสช นครสวรรค์
PDF
Respiratory1 2
Theeraput Naulpradit
PDF
Transfer factor chewable 15.5.2555
4LIFEYES
PPT
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
Dr.Ratchaneewan Sinawat Poomsa-ad
PDF
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
4LIFEYES
DOC
โรคมือเท้าปาก
sivapong klongpanich
Vis varicella-zoster
Aimmary
Vis meningo-poly
Aimmary
Vis meningo-poly
Loveis1able Khumpuangdee
Vis hib
Aimmary
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
นายสามารถ เฮียงสุข
นำเสนอโรคติดต่อ
pissamaiza Kodsrimoung
นำเสนอโรคติดต่อ
nuting
โรคเอดส์
tichana
Topic meningoecephalitis
Bow A
Finalpresentationl20 23
mewsanit
H1n1 For Safe 040852
viroonya vindubrahmanakul
โรคไข้หวัด
Wan Ngamwongwan
แนวทางการดูแลผู้ป่วย ไข้เลือดออก (สำหรับครอบครัว)
chalunthorn teeyamaneerat
1129
chatchawank1
02 lepto
สปสช นครสวรรค์
Respiratory1 2
Theeraput Naulpradit
Transfer factor chewable 15.5.2555
4LIFEYES
การควบคุมและป้องกันฟันผุ
Dr.Ratchaneewan Sinawat Poomsa-ad
โรคภูมิแพ้ 15.5.2555
4LIFEYES
โรคมือเท้าปาก
sivapong klongpanich
Ad
More from Adisorn Tanprasert
(11)
PDF
Daily tensilon mc checksheet
Adisorn Tanprasert
PDF
Pramo Thai Movie
Adisorn Tanprasert
PDF
Performance Network Analysis of Nylon Filaments Process
Adisorn Tanprasert
PDF
การเตรียมการรับมือหวัด 2009 ในโรงเรียน
Adisorn Tanprasert
DOC
แบบทดสอบทัศนคติด้านความปลอดภัย
Adisorn Tanprasert
DOC
รวมพระอรหันต์ที่อยู่ในประเทศไทยเวลานี้
Adisorn Tanprasert
PDF
Quize 01
Adisorn Tanprasert
PDF
The Sulotion Focus
Adisorn Tanprasert
PPT
Solution Focus
Adisorn Tanprasert
PDF
Chemical management procedure [th]
Adisorn Tanprasert
PPT
Intro to TS-16949
Adisorn Tanprasert
Daily tensilon mc checksheet
Adisorn Tanprasert
Pramo Thai Movie
Adisorn Tanprasert
Performance Network Analysis of Nylon Filaments Process
Adisorn Tanprasert
การเตรียมการรับมือหวัด 2009 ในโรงเรียน
Adisorn Tanprasert
แบบทดสอบทัศนคติด้านความปลอดภัย
Adisorn Tanprasert
รวมพระอรหันต์ที่อยู่ในประเทศไทยเวลานี้
Adisorn Tanprasert
Quize 01
Adisorn Tanprasert
The Sulotion Focus
Adisorn Tanprasert
Solution Focus
Adisorn Tanprasert
Chemical management procedure [th]
Adisorn Tanprasert
Intro to TS-16949
Adisorn Tanprasert
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยหวัด 2009
1.
คําแนะนําสําหรับผูปวยไขหวัดใหญฯ 2009
โดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ไขหวัดใหญสายพันธุใหม ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไขหวัดใหญ ซึ่งเปนเชื้อที่ เกิดขึ้นใหม และสามารถแพรจากคนสูคนไดอยางรวดเร็ว เนื่องจากคนสวนใหญไมมีภูมิตานทานโรค ระยะฟกตัว (ระยะเวลาตั้งแตติดเชื้อจนถึงแสดงอาการ) สั้น ประมาณ 1-4 วัน ผูปวยสวนใหญมีอาการไมรุนแรง ผูปวยรอยละ 90 - 95 สามารถหายไดเองโดยไมจําเปนตอง ไดรั บยาตานไวรั ส กรณี ที่อาการไม รุน แรง ผู ปวยจะมีอ าการ ไข เจ็ บ คอ ไอ ปวดศี รษะ ปวดเมื่ อ ยเนื้ อ ตั ว ออนเพลีย คัดจมูก น้ํามูกไหล เบื่ออาหาร บางรายอาจมีอาการอาเจียนและทองเสียรวมดวย หลังจากนั้น อาการจะทุเลาขึ้นตามลําดับ คือ ไขลดลง ไอนอยลง รับประทานอาหารไดมากขึ้น และหายปวยภายใน 5-7 วัน ผูปวยบางราย (รอยละ 5 – 10) อาจมีอาการปวยรุนแรง หรือเกิดภาวะแทรกซอนทําใหเกิดปอด บวม ซึ่งจะทําใหมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลําบาก และเสียชีวิตได ภาวะแทรกซอน (ปอดบวม) นี้มักจะเกิดขึ้นในผูสูงอายุ (อายุมากกวา 65 ป) เด็กอายุต่ํากวา 5 ป ผูมีภูมิตานทานต่ํา ผูท่ีมีปญหาโรคอวน หญิงมีครรภ และผูที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง (เชน โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคเลือด โรคตับเรื้อรัง เปนตน) เมื่อปวยแลว ผูปวยจะมีโอกาสเสียชีวิต (อัตราปวยตาย) ประมาณรอยละ 0.1 – 0.5 ผูเสียชีวิต สวนใหญมีโรคประจําตัว หรือเปนผูที่มีความเสี่ยง (ผูสูงอายุ (อายุมากกวา 65 ป) เด็กอายุต่ํากวา 5 ป ผูมีภูมิ ตานทานต่ํา ผูที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง (เชน โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคเลือด โรคตับเรื้อรัง เปนตน) ผูท่มีปญหาโรคอวน และหญิงมีครรภ) ี อนึ่ง คําแนะนําตางๆ อาจปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณการระบาดที่เปลี่ยนไป ดังนั้น ทานจึง ควรติดตามขาวสารจากกระทรวงสาธารณสุขเปนระยะๆ จัดทําโดย สํานักจัดการความรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ www.kmddc.go.th
2.
คําแนะนําสําหรับผูปวย
ในการดูแลรักษาอาการปวย 1. หากมีอาการปวยดวยอาการไขหวัด เชน มีอาการไข ไอ เจ็บคอ หรือมีน้ํามูก ซึ่งเปนอาการที่พบไดทั้งใน ไขหวัดธรรมดา และไขหวัดใหญ ควรปฏิบัติตัวดังนี้ 1.1 หากอาการปวยไมรุนแรง เชน ไขไมสูง ไมซึม และรับประทานอาหารได ผูปวยสามารถรักษาตาม อาการดวยตนเองที่บานได ไมจําเปนตองไปโรงพยาบาล ควรใชพาราเซตามอลเพื่อลดไข (หามใช ยาแอสไพริน) นอนหลับพักผอนใหเพียงพอ และดื่มน้ํามากๆ 1.2 ผูปวยที่จัดอยูในกลุมเสี่ยง 6 กลุม (ไดแก ผูสูงอายุ (อายุมากกวา 65 ป) เด็กอายุต่ํากวา 5 ป ผู มีภูมิตานทานต่ํา ผูท่ีมีโรคประจําตัวเรื้อรัง (เชน โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคเลือด โรคตับเรื้อรัง เปนตน) ควรรีบไปพบแพทย 1.3 หากมีไข ควรเช็ดตัวลดไข ดวยน้ําสะอาดที่ไมเย็น 1.4 ผูปวยควรเฝาระวังอาการปวยของตัวเอง หากเริ่มมีอาการที่บงวาโรคจะรุนแรง เชน หายใจลําบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม หรืออาการปวยไมดขึ้นใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย ี 1.5 ผูปวยที่มีอาการไมรุนแรง หรือผูปวยเพิ่งจะเริ่มปวย 1-2 วัน ไมมีความจําเปนที่จะตองไดรับการ ตรวจยืนยันวาติดเชื้อไขหวัดใหญสายพันธุใหม ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 หรือไม เนื่องจากแนวทาง (วิธี) การดูแลรักษาผูปวยไมแตกตางกัน 2. ผูปวยไขหวัดใหญที่อาจจําเปนตองไดรับยาตานไวรัส 2.1 ผูปวยไขหวัดใหญที่อยูในกลุมเสี่ยง (ไดแก ผูสูงอายุ (มากกวา 65 ป) เด็กอายุต่ํากวา 5 ป ผูมีภูมิ ตานทานต่ํา โรคอวน หญิงมีครรภ และผูที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง เชน โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจ และหลอดเลือด เบาหวาน เปนตน) 2.2 ผูปวยที่มีอาการรุนแรง (เชน หายใจลําบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม) 2.3 ผูปวยที่อาการไขหรืออาการปวยไมดีขึ้นใน 3 วัน 3. ติดตามขาวสารและคําแนะนําตางๆ จากกระทรวงสาธารณสุขเปนระยะๆ จัดทําโดย สํานักจัดการความรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ www.kmddc.go.th
3.
คําแนะนําสําหรับผูปวยในการปองกัน
การแพรกระจายของเชื้อสูผูอ่ืน 1. การแพรระบาดของโรคจะเร็วหรือชาเพียงใดขึ้นอยูกับการ ปฏิบัติตัวของผูปวยในการปองกันการแพรกระจายของเชื้อ หาก ผูปวยปฏิบัติตัวไดอยางถูกตอง จะมีจํานวนผูสัมผัส เชื้อนอยและจะมีผูปวยไมมากนัก แตหากผูปวยไมใหความ รวมมือ ผูปวยจะสามารถแพรเชื้อไปสูผูอื่นได ซึ่งสวนใหญก็จะ เปนการแพรเชื้อไปสู บุคคลที่ผูปวยใกลชิดและคลุกคลีดวย นั่นคือ หากผูปวยปองกันการแพรกระจายเชื้อไดไมดี จะมี บุคคลอื่นในครอบครัวหรือบุคคล อื่นในที่ทํางานปวยตามมา ไดนั่นเอง 2. ผูปวยควรหยุดเรียน หรือหยุดงาน และพักอยูกับบานหรือหอพัก หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผูอื่นหรือใช สิ่งของรวมกับผูอื่น เปนเวลาอยางนอย 7 วันหลังวันเริ่มปวย เพื่อใหพนระยะการแพรเชื้อ และกลับเขา เรียนหรือทํางานได เมื่อหายปวยแลวอยางนอย 24 ชั่วโมง 3. สวมหนากากอนามัยเมื่อจําเปนตองอยูกับผูอื่น หรือใชกระดาษทิชชู ผาเช็ดหนา ปดปากและจมูกทุกครั้งที่ ไอ จาม 4. ลางมือบอยๆ ดวยน้ําและสบู หรือใชแอลกอฮอลเจลทําความสะอาดมือ โดยเฉพาะหลังการไอ จาม จัดทําโดย สํานักจัดการความรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ www.kmddc.go.th
4.
คําถามที่พบบอย 1.
หากเรามีอาการปวยสงสัยจะเปนไขหวัดใหญ เราควรรีบไปพบแพทยทนทีหรือไม? ั ตอบ หากเรามีอาการปวยสงสัยจะเปนไขหวัดใหญใหตรวจสอบวาเราจัดอยูในกลุมเสี่ยงหรือไม นั่นคือ เราเปน ผูสูงอายุ (อายุมากกวา 65 ป) เปนเด็กอายุนอยกวา 5 ป เปนหญิงตั้งครรภ เปนผูที่มีปญหาโรคอวน เปนผูที่มี ภูมิคุมกันต่ํา หรือเปนผูท่ีมีโรคประจําตัวเรื้อรังหรือไม (โรคประจําตัวเรื้อรัง เชน หอบหืด โรคปอด โรคตับตับ โรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ เปนตน) หากเราเปนผูที่อยูในกลุมเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรง เราควรรีบไปพบแพทย หากเราไมจัดอยูในกลุมเสี่ยง เรายังไมจําเปนตองไปพบแพทยในทันที เราสามารถพักรักษาตัวอยูที่บานได รับประทานยาตามอาการ เชน ถามีไข ก็ใหรับประทานยาพาราเซตตามอล และเช็ดตัวดวยน้ําอุน หรือถามี อาการไอมาก ก็ใหด่ืมน้ํามาก เปนตน หากไขไมลด อาการไมดีขึ้นภายใน 3 วัน หรือเริ่มมีอาการที่บงวาจะมี อาการรุนแรง (เชน หายใจลําบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม) จึงควรไปพบแพทย หากเราไมใชกลุมเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงจากการปวยดวยไขหวัดใหญ การไปพบแพทยจะทําใหเราเพิ่ม ความเสี่ยงในการรับเชื้อจากผูปวยอื่นที่โรงพยาบาล และยังไมไดรับประโยชนใดๆ เพิ่มเติม เนื่องจากแพทยก็จะ แนะนําใหเรากลับมาพักฟนที่บาน ใหยารักษาตามอาการ และแนะนําใหเราคอยเฝาระวังการเปลี่ยนแปลงของ อาการของโรคอยูดี 2. เราจําเปนตองไดรับยาตานไวรัสหรือไม ตอบ เนื่องจากผูที่ปวยดวยโรคนี้สวนใหญจะหายไดเอง โดยไมจําเปน ตองไดรับยาตานไวรัส กระทรวงสาธารณสุขจึงไมไดแนะนําใหยาตานไวรัส ในผูปวยที่สงสัยจะปวยดวยไขหวัดใหญสายพันธุใหม ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 การใหยาอยางกวางขวางในผูท่ไมจําเปนตองไดรับยา นอกจากจะเปนการ ี สิ้นเปลืองแลว ยังอาจจะทําใหเชื้อดื้อยาไดเร็วขึ้นอีกดวย กลุมผูปวยที่จําเปนตองไดรับยา ไดแก 1. ผูปวยไขหวัดใหญที่อยูในกลุมเสี่ยง (ไดแก ผูสูงอายุ (มากกวา 65 ป) เด็กอายุตํากวา 5 ป ผูมีภูมิตานทานต่ํา โรคอวน หญิงมีครรภ และผูที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง ่ เชน โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน เปนตน) 2. ผูปวยที่มอาการรุนแรง (เชน หายใจลําบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม) ี 3. ผูปวยที่อาการไขหรืออาการปวยไมดีขึ้นใน 3 วัน จัดทําโดย สํานักจัดการความรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ www.kmddc.go.th
5.
3. หากเราปวยดวยอาการที่คลายไขหวัดใหญ เราจําเปนตองไดรับการ
ตรวจเพื่อยืนยันเชื้อหรือไม? ตอบ ในปจจุบันที่เชื้อไขหวัดใหญสายพันธุใหม ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 ไดระบาดขยาย วงกวางออกไปเรื่อยๆ การตรวจวาเราติดเชื้อไขหวัดใหญสายพันธุใหมหรือไม ไมจําเปน เทาไรนัก การตรวจหรือไมตรวจไมไดเปลี่ยนแปลงแนวทางการดูแลรักษาผูปวย ดังนั้น ในปจจุบันในพื้นที่ที่มีการยืนยันการแพรระบาดของโรคชัดเจนแลวจึงไมจําเปนตองมี การตรวจยืนยันการติดเชื้อกอนใหการรักษาแตอยางใด 4. ในปจจุบัน ไดมีโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนหลายแหงไดแนะนําใหผูปวย ตรวจคัดกรองการติดเชื้อดวยชุดการตรวจสอบการติดเชื้อที่ใหผลเร็ว หากเราปวยดวยอาการ ที่คลายไขหวัดใหญ เราควรตรวจดวยชุดทดสอบใหผลเร็วเหลานี้หรือไม? ตอบ ไมจําเปน การตรวจหรือไมตรวจไมไดเปลี่ยนแปลงแนวทางการดูแลรักษาผูปวย นั่นคือ ไมวาผลจะ ออกมาเชนไร แนวทางการรักษาก็ยังคงเปนเชนเดิม (เหมือนขอ 1) เนื่องจากการดูแลรักษา หรือการตัดสินใจให ยาตานไวรัสในผูปวยกลุมนี้ขึ้นอยูกับอาการ และขึ้นอยูกับวาผูปวยจัดอยูในกลุมเสี่ยงหรือไม นอกจากจะเปนการสิ้นเปลืองโดยไมจําเปนแลว การตรวจดังกลาวยังไมถือเปนวิธีที่มาตรฐาน กลาวคือ การตรวจยังมีความผิดพลาดคอนขางสูง นั่นคือ หากมีผูปวยที่ปวยดวยไขหวัดใหญสายพันธุใหม ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 จริง 100 คน การตรวจดวยชุดทดสอบใหผลเร็วจะใหผลบวกถูกตองนอยกวา 50 คน (Sensitivity ต่ํา กวา 50%) นั่นคือ ชุดทดสอบจะบอกวาผูปวยไมติดเชื้อสูงถึงกวา 50 คนทั้งที่ผูปวยเหลานี้ความจริงแลวติดเชื้อ การใหผลผิดพลาดที่สูงมากขนาดนี้อาจทําใหผูปวยที่ปวยจริงเมื่อทราบผลวาตัวเองไมติดเชื้อวางใจ ไมดูแลรักษา ตัวเองหรือไมติดตามเฝาระวังอาการของตัวเองใหเหมาะสมจนอาจเกิดอาการุนแรงตามมาได 5. เราควรพักฟนอยูที่บานนานเทาไหร? ตอบ ผูปวยควรหยุดงานและพักฟนอยูกับบาน หลีกเลี่ยงการพบปะ คลุกคลีกับผูอื่นเปนเวลาอยางนอย 7 วัน หากครบ 7 วันแลวยังคงมีอาการบางอยางหลงเหลืออยูบาง ก็ใหพักฟนอยูกับบาน และหลีกเลี่ยงการพบปะ คลุกคลีกับผูอื่นตอไปอีก จนกวาอาการจะหายสนิทแลว 1 วัน 6. ผูที่เปนโรคอวนเปนกลุมเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือไม? ตอบ ผูที่เปนโรคอวนมีโอกาสจะเกิดอาการรุนแรงไดสูงกวาคนปกติทั่วไปที่แข็งแรงดี ดังนั้น หากผูที่เปนโรคอวนปวยดวยอาการที่สงสัยจะเปนไขหวัดใหญ ก็ควรไปพบแพทยทันที จัดทําโดย สํานักจัดการความรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ www.kmddc.go.th
6.
7. หากเราเปนกลุมเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง และยังไมติดเชื้อ
เราควรตองปองกันอะไรเปน พิเศษ (เชน การสวมใสหนาการอนามัย) หรือไม? ตอบ ไมจําเปนตองปองกันอะไรเพิ่มเติมเปนพิเศษ และไมจําเปนตองสวมใสหนากากอนามัยในที่ชุมชน เนื่องจากหนากากอนามัยไมสามารถปองกันการติดเชื้อได หนากากอนามัยเปนเพียงเครื่องมือที่ปองกันการ แพรกระจายของเชื้อ (นั่นคือ ผูที่ควรสวมใสคือผูปวย) การลางมือบอยๆ และการหลีกเลี่ยงการขยี้ตา แคะจมูก หรือนํานิ้วเขาปาก เพื่อลดโอกาสการนําเชื้อจาก มือเขาสูรางกายเปนมาตรการในการปองกันโรคที่สําคัญในกลุมผูที่ยงไมปวย ั นอกจากนี้ กลุมประชากรกลุมเสี่ยง โดยเฉพาะผูที่มีภูมิตานทานต่ํามากๆ ควร 1. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่อากาศถายเทไมสะดวก 2. หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมผูปวยที่สงสัยวาจะปวยดวยไขหวัดใหญ 8. หากเราไมใชกลุมเสี่ยง แปลวาเราจะไมมีโอกาสเสียชีวิตใชหรือไม? ตอบ ไมใช ผูปวยที่ไมไดจัดอยูในกลุมเสี่ยงก็มีโอกาสเสียชีวิตเชนกัน แตโอกาสที่จะ มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตในกลุมที่ไมไดมีความเสี่ยงจะต่ํากวากลุมเสี่ยง ขอมูลจาก ประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงวารอยละ 30 ของผูที่เสียชีวิตทั้งหมดเปนผูที่ไมไดจัดอยู ในกลุมเสี่ยง และมีสุขภาพแข็งแรงกอนที่จะปวยดวยไขหวัดใหญสายพันธุใหม ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 9. ยาตานไวรัสโอเซลทามิเวียรในไทย ขณะนี้มพอเพียงหรือไม? ี ตอบ ในปจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรคไดสํารองยาตานไวรัสโอโซลทามิเวียรไวจํานวนหนึ่ง (ประมาณ 400,000 เม็ด) และมีแผนจะจัดซื้อเพิ่มตามความจําเปน ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขไดสํารองยาไว เพียงพอสําหรับผูปวยที่จําเปนตองไดรบยา ตามแนวทางการใชยาตานไวรัสที่ไดกลาวถึงแลวขางตน (ขอ 2) ั จัดทําโดย สํานักจัดการความรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ www.kmddc.go.th
Download