Submit Search
Econ100 04 sec015
0 likes
2,124 views
O
oraya wongdee
economy
Business
Read more
1 of 39
Download now
Download to read offline
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
More Related Content
PPTX
Chapter3 ความยืดหยุ่น
Pattapong Promchai
PDF
บทที่ 3 ความยืดหยุ่นของอุปสงค์อุปทาน
Ornkapat Bualom
PPTX
Chapter2 อุปสงค์อุปทาน
Pattapong Promchai
PPT
Powerpoint อุปสงค์ อุปทาน
warinda_lorsawat
PPTX
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ (Elasticity of demand)
Areewan Plienduang
PDF
Stp การตลาด
rungtiwasalakan
PPTX
พฤติกรรมผู้บริโภค
tumetr1
PPTX
Chapter4 พฤติกรรมผู้บริโภค
Pattapong Promchai
Chapter3 ความยืดหยุ่น
Pattapong Promchai
บทที่ 3 ความยืดหยุ่นของอุปสงค์อุปทาน
Ornkapat Bualom
Chapter2 อุปสงค์อุปทาน
Pattapong Promchai
Powerpoint อุปสงค์ อุปทาน
warinda_lorsawat
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ (Elasticity of demand)
Areewan Plienduang
Stp การตลาด
rungtiwasalakan
พฤติกรรมผู้บริโภค
tumetr1
Chapter4 พฤติกรรมผู้บริโภค
Pattapong Promchai
What's hot
(20)
PPT
Econ presentation 2
wowwilawanph
PPTX
ความยืดหยุ่น การแทรกแซงของรัฐ
tumetr1
PDF
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
VolunteerCharmSchool
PPTX
Unit3 elasticity
savinee
PPT
Demand and supply
bnongluk
PDF
บทที่ 7 สมดุลเคมี
oraneehussem
PDF
บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
Ornkapat Bualom
PPTX
Chapter5 ทฤษฎีการผลิต
Pattapong Promchai
PPT
ค่าคงที่สมดุล (K)
Manchai
PDF
Macro Economics c6 นโยบายการคลัง
Ornkapat Bualom
PDF
Chapter5
Sorasak Tongon
PDF
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นทางเศรษฐศาสตร์
Ornkapat Bualom
PDF
บทที่ 10 การเงินการธนาคาร การคลังรัฐบาล
Ornkapat Bualom
PDF
มูลค่าเงินตามเวลา
tumetr1
PDF
ทฤษฎีเกมส์กับการตัดสินใจทางเศรษฐศาสตร์
Rose Banioki
PDF
วิชาต้นทุน บทที่ 2 ต้นทุนและงบ 1
กุลเศรษฐ บานเย็น
PPTX
02 เคลื่อนที่แนวตรง
wiriya kosit
PPTX
ไฟฟ้ากระแสสลับ
เติ้ล ดาว'เหนือ
PDF
Macro Economics c5 นโยบายการเงิน
Ornkapat Bualom
PDF
บทที่ 5 การเลือกทำเลที่ตั้ง
Rungnapa Rungnapa
Econ presentation 2
wowwilawanph
ความยืดหยุ่น การแทรกแซงของรัฐ
tumetr1
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน และประโยชน์ของการนำความรู้ทางความยืดหยุ่นไปวิเค...
VolunteerCharmSchool
Unit3 elasticity
savinee
Demand and supply
bnongluk
บทที่ 7 สมดุลเคมี
oraneehussem
บทที่ 7 ต้นทุนการผลิต และรายรับจากการผลิต
Ornkapat Bualom
Chapter5 ทฤษฎีการผลิต
Pattapong Promchai
ค่าคงที่สมดุล (K)
Manchai
Macro Economics c6 นโยบายการคลัง
Ornkapat Bualom
Chapter5
Sorasak Tongon
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นทางเศรษฐศาสตร์
Ornkapat Bualom
บทที่ 10 การเงินการธนาคาร การคลังรัฐบาล
Ornkapat Bualom
มูลค่าเงินตามเวลา
tumetr1
ทฤษฎีเกมส์กับการตัดสินใจทางเศรษฐศาสตร์
Rose Banioki
วิชาต้นทุน บทที่ 2 ต้นทุนและงบ 1
กุลเศรษฐ บานเย็น
02 เคลื่อนที่แนวตรง
wiriya kosit
ไฟฟ้ากระแสสลับ
เติ้ล ดาว'เหนือ
Macro Economics c5 นโยบายการเงิน
Ornkapat Bualom
บทที่ 5 การเลือกทำเลที่ตั้ง
Rungnapa Rungnapa
Ad
Similar to Econ100 04 sec015
(20)
PPT
Present c5
Chaira Nawar
PDF
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
Ornkapat Bualom
PPT
การกำหนดราคา
ssuser214242
DOC
Ch7mk
ToonkabToon PrinPron
PDF
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
Ornkapat Bualom
PPTX
โครงสร้างตลาด
tumetr1
PPTX
เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
tumetr1
PPT
Econ presentation 1
wowwilawanph
PPT
Econ presentation 3
wowwilawanph
PDF
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
PDF
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
PDF
9789740329848
CUPress
PDF
การค้าระหว่างประเทศ
thnaporn999
PPT
เศรษฐศาสตร์
Krumai Kjna
PDF
ทดสอบเศรษฐศาสตร์
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
PPTX
ความรู้ทั่วไปและอุปสงค์ อุปทาน ความยืดหยุ่น
tumetr1
PDF
Economy ppt-05
Chompoo Yao
PPTX
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
PariwanButsat
PDF
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
PariwanButsat
PDF
9789740335337
CUPress
Present c5
Chaira Nawar
บทที่ 8 การกำหนดราคา และผลผลิตในตลาด
Ornkapat Bualom
การกำหนดราคา
ssuser214242
Ch7mk
ToonkabToon PrinPron
บทที่ 4 อุปสงค์และอุปทานในทางปฏิบัติ
Ornkapat Bualom
โครงสร้างตลาด
tumetr1
เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
tumetr1
Econ presentation 1
wowwilawanph
Econ presentation 3
wowwilawanph
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
ใบงานที่ 1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
ไพบููลย์ หัดรัดชัย
9789740329848
CUPress
การค้าระหว่างประเทศ
thnaporn999
เศรษฐศาสตร์
Krumai Kjna
ทดสอบเศรษฐศาสตร์
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
ความรู้ทั่วไปและอุปสงค์ อุปทาน ความยืดหยุ่น
tumetr1
Economy ppt-05
Chompoo Yao
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
PariwanButsat
ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
PariwanButsat
9789740335337
CUPress
Ad
Econ100 04 sec015
1.
บทที่ 4 ดุลยภาพของตลาด 751100
2.
บทที่ 4 ดุลยภาพของตลาด
การกาหนดราคาและดุลยภาพตลาด การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ การแทรกแซงราคาของรัฐบาล ตลาดและการแข่งขัน
3.
การกาหนดราคาและดุลยภาพตลาด (Price Determination and
Market Equilibrium) ดุลยภาพของตลาด (Market equilibrium) คือ ภาวะที่ปริมาณความต้องการเสนอซื้อเท่ากับปริมาณความต้องการเสนอ ขาย ณ ระดับราคาใดราคาหนึ่ง จุดดุลยภาพดังกล่าวนี้จะถูกกาหนดโดยอุปสงค์และอุปทานของตลาด ณ จุดที่เส้นอุปสงสค์ตัดกับเส้นอุปทาน เรียกว่า “จุดดุลยภาพ” (Equilibrium point) ระดับราคา “ราคาดุลยภาพ” (Equilibrium price) ระดับปริมาณ “ปริมาณดุลยภาพ” (Equilbrium quantity)
4.
0 (P) (Q) เส้น Demand =
D1 เส้น Supply = S1 การกาหนดราคาและดุลยภาพตลาด (ต่อ) ดุลยภาพอยู่ที่จุด E ราคาดุลยภาพ = ปริมาณดุลยภาพ =
5.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q หมายถึง ปริมาณเสนอขาย
มากกว่า ปริมาณเสนอซื้อ อุปทานส่วนเกิน (Excess Supply) ที่ระดับราคา = P2 อุปสงค์ = อุปทาน = อุปทานส่วนเกิน =
6.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q อุปสงค์ส่วนเกิน (Excess Demand)
หมายถึง ปริมาณเสนอซื้อ มากกว่า ปริมาณเสนอขาย ที่ระดับราคา = P3 อุปสงค์ = อุปทาน = อุปสงค์ส่วนเกิน =
7.
ภาวะดุลยภาพของตลาดจะเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อปัจจัยโดยอ้อมของอุปสงค์ หรืออุปทานเปลี่ยนแปลงไป ทาให้เส้นอุปสงค์หรือเส้นอุปทานย้ายไปทั้งเส้น การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ (Change
in Equilibrium) โดยการเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพของตลาดอาจเกิดขึ้นได้ใน3 กรณี คือ 1. อุปสงค์เปลี่ยนแปลง โดยที่อุปทานคงที่ 2. อุปทานเปลี่ยนแปลง โดยที่อุปสงค์คงที่ 3. อุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลง 3.1. D S 3.2. D S 3.3. D S 3.4. D S
8.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 1. อุปสงค์เปลี่ยนแปลง โดยที่อุปทานคงที่ กรณีอุปสงค์เพิ่ม D
= D1เดิม S = S1 ดุลยภาพ = E1 D =ต่อมา S = ดุลยภาพ = ทาให้
9.
อุปสงค์เปลี่ยนแปลง โดยที่อุปทานคงที่ (ต่อ) 0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q กรณีอุปสงค์ลดลง D3
10.
2. อุปทานเปลี่ยนแปลง โดยที่อุปสงค์คงที่ 0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q กรณีอุปทานเพิ่มขึ้น S2
11.
อุปทานเปลี่ยนแปลง โดยที่อุปสงค์คงที่ (ต่อ) 0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q กรณีอุปทานลดลง S3
12.
เกิดจากปัจจัยทางอ้อมที่กาหนดอุปสงค์และอุปทานเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงทั้งอุปสงค์และอุปทานพร้อมกันมีผลทาให้ดุลยภาพเปลี่ยนแปลง แต่ราคาและปริมาณดุลยภาพจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี
ราคาและปริมาณใหม่อาจสูงหรือต่ากว่าราคาและปริมาณเดิมขึ้นอยู่กับขนาดการ เปลี่ยนแปลงของเส้นอุปสงค์และอุปทาน 3. อุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นได้4 กรณี คือ 3.1. อุปสงค์เพิ่ม อุปทานเพิ่ม 3.2. อุปสงค์เพิ่ม อุปทานลด 3.3. อุปสงค์ลด อุปทานเพิ่ม 3.4. อุปสงค์เพิ่ม อุปทานลด
13.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.1 อุปสงค์เพิ่ม อุปทานเพิ่ม 3.1.1
อุปสงค์เพิ่ม มากกว่า อุปทานเพิ่ม D2 S2
14.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.1 อุปสงค์เพิ่ม อุปทานเพิ่ม
(ต่อ) 3.1.2 อุปสงค์เพิ่ม เท่ากับ อุปทานเพิ่ม D2 S2
15.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.1 อุปสงค์เพิ่ม อุปทานเพิ่ม
(ต่อ) 3.1.3 อุปสงค์เพิ่ม น้อยกว่า อุปทานเพิ่ม D2 S2
16.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.2 อุปสงค์เพิ่ม อุปทานลด
(ต่อ) 3.2.1 อุปสงค์เพิ่ม มากกว่า อุปทานลด D2 S2
17.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.2 อุปสงค์เพิ่ม อุปทานลด
(ต่อ) 3.2.2 อุปสงค์เพิ่ม เท่ากับ อุปทานลด D2 S2
18.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.2 อุปสงค์เพิ่ม อุปทานลด
(ต่อ) 3.2.3 อุปสงค์เพิ่ม น้อยกว่า อุปทานลด D2 S2
19.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.3 อุปสงค์ลด อุปทานเพิ่ม 3.3.1
อุปสงค์ลด มากกว่า อุปทานเพิ่ม D2 S2
20.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.3 อุปสงค์ลด อุปทานเพิ่ม
(ต่อ) 3.3.2 อุปสงค์ลด เท่ากับ อุปทานเพิ่ม D2 S2
21.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.3 อุปสงค์ลด อุปทานเพิ่ม
(ต่อ) 3.3.3 อุปสงค์ลด น้อยกว่า อุปทานเพิ่ม D2 S2
22.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.4 อุปสงค์ลด อุปทานลด 3.4.1
อุปสงค์ลด มากกว่า อุปทานลด D2 S2
23.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.4 อุปสงค์ลด อุปทานลด
(ต่อ) 3.4.2 อุปสงค์ลด เท่ากับ อุปทานลด D2 S2
24.
0 (P) (Q) 1S 1D 1E 1P 1Q 3.4 อุปสงค์ลด อุปทานลด
(ต่อ) 3.4.3 อุปสงค์ลด น้อยกว่า อุปทานลด D2 S2
25.
การปล่อยให้กลไกราคาทางานเอง โดยรัฐไม่เข้าไปแทรกแซงการดาเนิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาจเกิด
ราคาสินค้าอาจจะต่ามากจนไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต ทาให้ผู้ผลิตเดือดร้อน ได้รับความเสียหาย ราคาสินค้าอาจจะสูงเกินไป จนทาให้ผู้บริโภคเดือดร้อน ดังนั้นรัฐบาลจึงจาเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงราคา เรียกว่า “การแทรกแซงราคา” การแทรกแซงราคาของรัฐ การแทรกแซงราคา แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1. การประกันราคาขั้นต่า 2. การกาหนดราคาขั้นสูง
26.
คือวิธีการที่รัฐบาลเข้าช่วยเหลือผู้ผลิตให้สามารถขายสินค้าในราคาที่สูงขึ้น โดย การแทรกแซงราคาสินค้าให้
สูงกว่า ราคาดุลยภาพในตลาด เป็นการที่รัฐบาลใช้ช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้า เมื่อราคาสินค้าตกต่ามากเกินไปจนไม่ อาจคุ้มกับต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรกรรม 1. การประกันราคาขั้นต่า (Price Support) หรือการพยุงราคา มีวิธีการดังนี้ 1.1. รับซื้ออุปทานส่วนเกิน 1.2. ให้เงินอุดหนุนเกษตรกร
27.
0 P Q 1S 1D 1E 1P 1Q เมื่อรัฐบาลทาการประกันราคาขั้นต่าแล้ว รัฐบาลจะรับซื้อสินค้าที่ผู้ผลิตขายไม่ หมด (อุปทานส่วนเกิน)
เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตสามารถขายสินค้าได้ในราคาต่อหน่วยที่สูงขึ้น ตามที่รัฐบาลประกันราคาขั้นต่าไว้ 1.1 รับซื้ออุปทานส่วนเกิน รัฐบาลทาประกันราคาขั้นต่าที่ระดับราคา P2 อุปสงค์ = 0Q3 อุปทาน = 0Q2 อุปทานส่วนเกิน = Q2Q3 รัฐบาลจะต้องใช้งบประมาณ เท่ากับพื้นที่ ABQ2Q3 P2 Q3Q2 A B
28.
0 P Q 1S 1D 1E 1P 1Q 1.2 ให้เงินอุดหนุนเกษตรกร รัฐบาลจะให้การซื้อขายสินค้าเป็นไปตามกลไกของตลาด แต่รัฐบาลจะจ่ายเงิน อุดหนุนแก่เกษตรกรเพิ่มเติม
เพื่อให้เกษตรกรได้เงินเท่ากับราคาประกันขั้นต่า รัฐบาลทาการอุดหนุนเงินให้กับเกษตรกร เพื่อให้ได้เงินเท่ากับที่ราคาประกัน คือ ที่ราคา P2 โดยที่เกษตรกรจะได้รับเงิน - จากการขายสินค้าที่ราคา P1 = พื้นที่ 0P1E1Q1 - จากการอุดหนุนของรัฐบาลที่ราคา P2 = พื้นที่ P1P2AE1 - ดังนั้นเกษตรกรจะได้รับเงินทั้งหมด = พื้นที่ 0P2AQ1 P2 A
29.
เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนสินค้า เพราะเมื่อเกิดการขาดแคลนสินค้า
ราคาสินค้า จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทาให้ผู้บริโภคเดือดร้อน รัฐบาลจะเข้ามาควบคุมราคา ด้วยการกาหนดราคาขั้นสูง ซึ่งจะเป็นราคาที่ น้อยกว่า ราคาดุลยภาพ เช่น ข้าวสาร เนื้อหมู ไข่ไก่ น้ามันพืช น้าตาลทราย แก๊สหุงต้ม เป็นต้น 2. การกาหนดราคาขั้นสูง (Price Ceiling) หรือการควบคุมราคา
30.
การกาหนดราคาขั้นสูง (ต่อ) 0 P Q 1S 1D 1E 1P 1Q อุปสงค์ =
0Q3 อุปทาน = 0Q2 อุปสงค์ส่วนเกิน = Q2Q3 รัฐบาลทาการกาหนดราคาขั้นสูงที่ระดับราคา P3 Q3 P3 Q2
31.
“กิจกรรม” การตกลงซื้อขายสินค้าและบริการ
รวมทั้งปัจจัยการผลิต ดังนั้น ตลาดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสถานที่เท่านั้น แต่จะหมายถึง การทากิจกรรม การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน โดยผู้ซื้อและผู้ขายอาจไม่ได้พบกันเลย แต่ สามารถจะติดต่อซื้อขายกันได้ เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์การซื้อขายทองคา การซื้อขาย เงินตราต่างประเทศ เป็นต้น ตลาดในทางเศรษฐศาสตร์ ประกอบด้วย ผู้ซื้อ ผู้ขาย และสินค้าที่ซ้อขาย ตลาดและการแข่งขัน
32.
ประเภทของตลาดในทางเศรษฐศาสตร์ แบ่งได้เป็น2 ประเภทใหญ่
ๆ คือ 1. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ (Perfectly Competitive Market) 2. ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ (Imperfectly Competitive Market) 2.1 ตลาดผูกขาด (Monopoly) 2.2 ตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligopoly) 2.3 ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (Monopolistic Competition) ตลาดและการแข่งขัน (ต่อ)
33.
มีผู้ซื้อผู้ขายจานวนมากราย สินค้าที่ซื้อขายกันนั้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ
(Homogeneous Product) ผู้ขายสามารถเข้าและออกจากกิจการได้อย่างเสรี (Freedom of entry or exit) สินค้าและปัจจัยสามารถโยกย้ายได้อย่างเสรี (Free Mobility) ผู้ซื้อและผู้ขายมีความรอบรู้เกี่ยวกับสภาพของตลาดได้เป็นอย่างดี (Perfect Knowledge) 1. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ (Perfectly Competitive Market)
34.
มีผู้ขายจานวนไม่มาก ผลิตสินค้าเป็นสัดส่วนที่มากในตลาด
มีการกีดกันผู้ขายรายใหม่ด้วยวิธีการต่าง ๆ สินค้าที่ซื้อขายมีลักษณะแตกต่างกัน ผู้ขายแต่ละรายมีอานาจในการกาหนดราคาสินค้าได้บ้างและผู้ซื้อไม่สามารถ ทราบการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างสมบูรณ์ 2. ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ (Imperfectly Competitive Market)
35.
มีผู้ขายเพียงรายเดียว เรียกว่า
“ผู้ผูกขาด” (Monopolist) สินค้าที่ขายมีคุณสมบัติพิเศษไม่เหมือนใคร และไม่สามารถหาสินค้าอื่นมา ทดแทนได้(No close substitution) ผู้ขายเป็นผู้กาหนดราคาหรือปริมาณสินค้า อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ผู้ผูกขาดสามารถกีดกันไม่ให้ผู้ขายรายอื่นเข้ามาทาการผลิตแข่งขันได้(Barrier to entry) 2.1 ตลาดผูกขาด (Monopoly)
36.
สาเหตุที่เกิดการผูกขาด ผู้ผลิตหลายรายรวมตัวกันผูกขาด รัฐออกกฎหมายให้ผูกขาดการผลิตแต่เพียงผู้เดียว
เป็นการผลิตที่ต้องใช้ทุนจานวนมากและต้องมีขนาดการผลิตใหญ่ เพื่อจะได้รับ ประโยชน์จากการประหยัดของขนาดการผลิต (Economies of Scale) ทาให้ผู้ผลิต รายใหม่เข้ามาทาการแข่งขันได้ยาก เพราะต้องการเงินทุนที่สูงพอ การเป็นเจ้าของวัตถุดิบการผลิตแต่เพียงผู้เดียว การจดทะเบียนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ตลาดผูกขาด (ต่อ)
37.
มีผู้ขายจานวนน้อยราย ผู้ขายแต่ละรายมีส่วนแบ่งตลาดมาก
แต่อานาจในการกาหนดราคาหรือปริมาณ ขายของผู้ขายแต่ละรายมีน้อยกว่าตลาดผูกขาด สินค้าที่ซื้อขายกันในตลาดอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกันหรือแตกต่างกันก็ได้ - มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ (Pure oligopoly) เช่น น้ามัน - มีลักษณะแตกต่างกัน แต่ใช้ทดแทนกันได้ (Differentiated oligopoly) เช่น รถยนต์ ในตลาดน้อยรายผู้ขายมักจะไม่ลดราคาแข่งขันกัน เพราะการแข่งขันลดราคา สินค้าจะทาลายผลประโยชน์ของผู้ผลิตทุกคน 2.2 ตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligopoly)
38.
ผู้ผลิตในตลาดจะแข่งขันกันด้วยวิธีการ เช่น
การพัฒนาคุณภาพของสินค้าและการ ส่งเสริมการขาย เช่น การแจกของแถม การโฆษณา เป็นต้น เป็นการแข่งขันทางด้านการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการส่งเสริมการขายนี้ถือ เป็นการแข่งขันโดยไม่ใช่ราคา (Non-price Competition) เพราะการลดราคาสินค้าไม่ช่วยให้ผู้ขายสามารถขายสินค้าได้มากนัก เพราะผู้ แข่งขันรายอื่นจะโต้ตอบด้วยการลดราคาสินค้าเช่นกัน แต่ถ้าผู้ขายรายใดรายหนึ่ง ขึ้นราคาสินค้า ผู้ขายรายอื่น ๆ จะไม่ขึ้นราคาสินค้าตามไปด้วย ทาให้ขายได้ น้อยลง เช่น เบียร์ น้าอัดลม โทรศัพท์มือถือ ปูนซีเมนต์ ตลาดผู้ขายน้อยราย (ต่อ)
39.
• หมายถึงตลาดที่มีผู้ขายจานวนมาก แต่มีจานวนน้อยกว่าตลาดแข่งขันสมบูรณ์ •
ผู้ขายแต่ละรายขายสินค้าที่คล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน สินค้าจะแตกต่างกันดังนี้ - คุณภาพของสินค้า เช่น แชมพู สบู่ รองเท้า - ทางด้านการบริการ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล - การโฆษณา เป็นการทาให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าสินค้ามีความแตกต่างกัน - การบรรจุหีบห่อ • ผู้ผลิตแต่ละรายจะมีอานาจผูกขาดมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตสามารถทาให้ สินค้าของตนแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่นได้มากน้อยเพียงใด • เช่น สบู่ เครื่องเขียน เสื้อผ้านิตยสาร บริการเสริมสวย ถ่ายเอกสาร ซ่อมรถ 2.3 ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (Monopolistic Competition)
Download