1 
 
หลักสูตรมาตรฐานสากล
สาระการเรียนรู้ IS1-IS3
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
พุทธศักราช 2556
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ 
2 
 
ประกาศโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรมาตรฐานสากล โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ พุทธศักราช 2556
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
สังคมและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นการสร้างกลยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาคุณภาพการ
ศึกษาให้สามารถตอบสนองความต้องการของบุคคล สังคมไทย ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขัน
และร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในสังคมโลก ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสํานึกในความเป็นไทย
มีระเบียบวินัย คํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นไปตามเจตนารมณ์มาตรา 80 ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตร 12 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ปรากฏรายละเอียดตามคําสั่งดังแนบ
ทั้งนี้ หลักสูตรมาตรฐานสากลโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ได้รับความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 29 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2556 จึงประกาศให้
ใช้หลักสูตรโรงเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 29 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2556
……………………………
(นายสมพล เก้าเอี้ยน)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
……………………………
(นายภิญโญ จินตนปัญญา)
ผู้อํานวยการโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
3 
 
คํานํา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทางกระทรวงศึกษาธิการให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน เพื่อมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาและประกอบอาชีพ
มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ รวมทั้งมีจิตสํานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย
พัฒนาสิ่งแวดล้อม ร่วมกันอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน เห็นว่าเป็นหลักสูตรแกนกลางที่มีประโยชน์ มุ่ง
พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ต่อเยาวชนของท้องถิ่นและของชาติ มีความสามารถใน
การสื่อสาร , ความสามารถในการคิด , ความสามารถในการแก้ปัญหา , ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ,
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ให้ถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม จึงเห็นสมควรและสนับสนุนส่งเสริมให้
ทางโรงเรียนได้นําหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมาใช้และจัดการเรียน การสอนเพื่อพัฒนาเด็ก
และเยาวชนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในลําดับต่อไป
(นายสมพล เก้าเอี้ยน)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
4 
 
2. โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา
2.1 โครงสร้างเวลาเรียนโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ ปีการศึกษา 2556
กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม
เวลาเรียน
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ม.1 ม.2 ม.3 ม.4-6
กลุ่มสาระการเรียนรู้
รายวิชาพื้นฐาน รวม 880 (22 นก) 880 (22 นก) 880 (22 นก) 1,640(41 นก)
ภาษาไทย 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก)
คณิตศาสตร์ 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก)
วิทยาศาสตร์ 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก)
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก)
ประวัติศาสตร์ 40 (1 นก) 40 (1 นก) 40 (1 นก) 80(2 นก)
สุขศึกษาและพลศึกษา 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 120(3 นก)
ศิลปะ 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 120(3 นก)
การงานอาชีพและเทคโนโลยี 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 120(3 นก)
ภาษาต่างประเทศ 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก)
รายวิชาเพิ่มเติม รวม 400(10 นก) 520(13 นก) 400(10 นก) 1,800(45 นก)
พลศึกษา-เพศศึกษา 40 (1 นก) 40 (1 นก) - 60 (1.5 นก)
ภาษาจีน 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก)
ภาษาอังกฤษ 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก)
อาเซียนศึกษา 40 (1 นก) - - 40 (1 นก)
IS1-IS2 - 120 (3 นก) - 120 (3 นก)
เลือกตามความสนใจ 8 กลุ่มสาระ 160 (4 นก) 160 (4 นก) 160 (4 นก) -
รายวิชาและกิจกรรมไม่คิดหน่วยกิต
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 120
กิจกรรมนักเรียน
60 60 60 180* กิจกรรมชุมนุม
* กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี กิจกรรม 5ส
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณาประโยชน์ 20 20 20 20
รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 120 120 360
รวมเวลาเรียน 1,600 ชั่วโมง/ปี 1,600 ชั่วโมง/ปี 1,600 ชั่วโมง/ปี รวม 3 ปี 4,800 ชั่วโมง
5 
 
โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2556
ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2
ที่ รหัสวิชา รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน ที่ รหัสวิชา รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน
รายวิชาพื้นฐาน 11(440) รายวิชาพื้นฐาน 11(440)
1 ท 22101 ภาษาไทย 3 1.5(60) 1 ค 21102 ภาษาไทย 4 1.5(60)
2 ค 22101 คณิตศาสตร์ 3 1.5(60) 2 ค 21102 คณิตศาสตร์ 4 1.5(60)
3 ว 22101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน 3 1.5(60) 3 ว 21102 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน 4 1.5(60)
4 ส 22101 สังคมศึกษา 3 1.5(60) 4 ส 21103 สังคมศึกษา 4 1.5(60)
5 ส 22102 ประวัติศาสตร์ 3 0.5(20) 5 ส 21104 ประวัติศาสตร์ 4 0.5(20)
6 พ 22101 สุขศึกษา 3 0.5(20) 6 พ 21103 สุขศึกษา 4 0.5(20)
7 พ 22102 พลศึกษา 3 0.5(20) 7 พ 21104 พลศึกษา 4 0.5(20)
8 ศ 22101 ดนตรี 1 1.0(40) 8 ศ 21102 ดนตรี 2 1(40)
9 ง 22101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 4
(งานเกษตร)
0.5(20) 9 ง 21102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
(งานช่าง)
0.5(20)
10 ง 22102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 5
(คอมพิวเตอร์)
0.5(20) 10 ง 21103 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 7
(คอมพิวเตอร์)
0.5(20)
11 อ 22101 ภาษาอังกฤษ 3 1.5(60) 11 อ 21102 ภาษาอังกฤษ 4 1.5(60)
รายวิชาเพิ่มเติมเรียนทุกคน 2.5(100) รายวิชาเพิ่มเติมเรียนทุกคน 1.0(40)
12 จ 22201 ภาษาจีน 5 1.0(40) 12 จ 22202 ภาษาจีน 6 1.0(40)
13 พ 22201 เพศศึกษา 2 0.5(20) 13 พ 22202 พลศึกษาเพิ่มเติม 1 0.5(20)
14 อ 22201 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน 1 1.0(40) 14 อ 22202 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน 2 1.0(40)
รายวิชาเพิ่มเติมเลือกเรียนตามความสนใจ 3.5 (140) รายวิชาเพิ่มเติมเลือกเรียนตามความสนใจ 1.5(60)
14 I 22201 การศึกษาค้นคว้า(IS1) 1.5(60) 14 I 22201 การสื่อสาร(IS2) 1.5(60)
15 ค 22201 คณิตศาสตร์ 3 1.0(40) 15 ค 22202 คณิตศาสตร์ 4 1.0(40)
16 ว 22201 โครงงานวิทยาศาสตร์ 1.0(40) 16 ว 22202 วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม 1.0(40)
17 ศ 22201 จิตกรรม 1 2.0(80) 17 ศ 22203 จิตกรรม 2 2.0(80)
18 ง 22201 งานมาลัย 1 2.0(80) 18 ง 22202 งานมาลัย 2 2.0(80)
19 ง 22202 งานเกษตร 1 2.0(80) 19 ง 22202 งานเกษตร 2 2.0(80)
20 ง 22203 คอมพิวเตอร์ 3 2.0(80) 20 ง 22204 คอมพิวเตอร์ 4 2.0(80)
รายวิชาเพิ่มเติมไม่คิดหน่วยกิต (3 คาบ) รายวิชาเพิ่มเติมไม่คิดหน่วยกิต (3 คาบ)
21 ท 20201 หลักการใช้ห้องสมุด 1 คาบ 21 ท 20201 หลักการใช้ห้องสมุด 1 คาบ
โฮมรูมและอบรม 2 คาบ โฮมรูมและอบรม 2 คาบ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
22 แนะแนว 1 คาบ 22 แนะแนว 1 คาบ
23 ลูกเสือ-เนตรนารี 1 คาบ 23 ลูกเสือ-เนตรนารี 1 คาบ
24 กิจกรรมชุมนุม 1 คาบ 24 กิจกรรมชุมนุม 1 คาบ
25 กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและ
สาธารณประโยชน์
ทํานอกเวลา 25 กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและ
สาธารณประโยชน์
ทํานอกเวลา
รวมเวลาเรียน 40 คาบ รวมเวลาเรียน 40 คาบ
6 
 
การจัดการเรียนรู้โรงเรียนมาตรฐานสากล โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
การพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลที่กําหนด สถานศึกษาควรส่งเสริมให้ครูผู้สอน
ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากลจัดทําหน่วยการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม
กระบวนการ 5 ขั้นตอน หรือบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล ทั้งในรายวิชา
พื้นฐาน รายวิชาเพิ่มเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งกระบวนการ 5 ขั้นตอน หรือบันได 5 ขั้น ของการ
จัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล เป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่อง ได้แก่
1. การตั้งประเด็นคําถาม / สมมุติฐาน
2. การสืบค้นความรู้จากแหล่งการเรียนรู้และสารสนเทศ
3. การสรุปองค์ความรู้
4. การสื่อสารและการนําเสนออย่างมีประสิทธิภาพ
5. การบริการสังคมและจิตสาธารณะ
1. การตั้งประเด็นคําถาม/ Formulation
กระบวนการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ และได้รับการ
พัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ บรรลุตามเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล
การจัดการเรียนรู้ IS (Independent Study) ในโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับมัธยมศึกษา
สามารถจัดได้ 2 ลักษณะ คือ จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม 2 รายวิชา ได้แก่ 1) รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้าง
องค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) เป็นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้และทักษะ
ตาม IS1 ผู้เรียนเลือกประเด็นที่สนใจในการเรียนรู้ เพื่อกําหนดประเด็นปัญหา ตั้งสมมุติฐาน ค้นคว้า แสวงหา
ความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ และ 2)
รายวิชาการสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2) เป็นการเรียนรู้ต่อเนื่องจาก
รายวิชา IS1 ผู้เรียนนําสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้าจากรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้มาเขียนรายงาน
หรือเอกสารทางวิชาการ และนําเสนอเพื่อสื่อสารถ่ายทอดข้อมูลความรู้นั้นให้ผู้อื่นเข้าใจ โดยจัดทําเป็นผลงาน
การเขียนทางวิชาการ 1 ชิ้น และการสื่อสารนําเสนอสิ่งที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เป็นภาษาไทย 2,500 คํา มัธยมศึกษาตอนปลายเป็นภาษาไทย 4,000 คํา
หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คํา และจัดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
โดยจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity: IS3) ซึ่งเป็นการนําสิ่งที่เรียนรู้
จากรายวิชาเพิ่มเติมทั้ง 2 รายวิชาข้างต้น ไปประยุกต์ใช้ในการทําประโยชน์ต่อสังคม ดังตัวอย่างการจัดการ
เรียนรู้ ต่อไปนี้
7 
 
รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1)
รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1)
ประกอบด้วยสาระการค้นคว้าและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้เรียนได้พิสูจน์ประเด็นความรู้
ข้อค้นพบหรือสมมติฐานของความรู้ที่ได้รับรู้ และส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ
แหล่งที่มาของความรู้ รวมทั้งจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเรียนรู้กระบวนการรับรู้ในลักษณะที่เป็นวัฒนธรรมของ
การรับรู้และการรับรู้ที่ใช้ความรู้สึก และปลูกฝังการสร้างความเข้าใจที่เป็นสากลให้แก่ผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนแสดง
ความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ ตั้งสมมติฐานและหาคําตอบเกี่ยวกับสิ่งที่รู้ ตั้งคําถาม
ให้คําอธิบายแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ รู้จักหาทางออกในการแก้ปัญหาได้อย่างกระจ่างชัด เชื่อมโยงความรู้
เปรียบเทียบวิธีการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชาต่าง ๆ และวิธีการรับความรู้ (Ways of Knowing) 4 วิธี
ได้แก่ 1) วิธีการสร้างความรู้จากการสัมผัสรับรู้ 2) วิธีการสร้างความรู้จากการใช้ภาษา 3) วิธีการสร้างความรู้
จากการให้เหตุผล และ 4) วิธีการการสร้างความรู้จากสิ่งที่เป็นอารมณ์
แนวการจัดการเรียนรู้
1. ครูผู้สอนร่วมกับผู้เรียนในการกําหนด หรือตั้งประเด็นความรู้ หรือหัวข้อเกี่ยวกับ Public
Issues หรือ Global Issues สําหรับการศึกษาค้นคว้า เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะรับรู้ถึงจุดหมายและมีแรงจูงใจในการ
เรียนรู้บทเรียน ผู้สอนสามารถเลือกใช้กิจกรรมต่าง ๆ ในการจัดการเรียนรู้ เช่น
1.1 การเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้เรียนซักถาม หรือตั้งคําถาม
1.2 การฉายภาพนิ่งให้ผู้เรียนชมและติดตาม
1.3 การชวนสนทนา เพื่อให้ผู้เรียนตั้งประเด็นที่ต้องการรู้
1.4 การกระตุ้นความสนใจด้วยเกม เพลง ภาพ ฯลฯ
1.5 การอ่าน / ฟังข่าวจากหนังสือพิมพ์
1.6 การตั้งประเด็นอภิปราย / คําถามสร้างพลังความคิด
1.7 การยกตัวอย่างประโยค คําพังเพย บทกวี
1.8 การกําหนด หรือการตั้งประเด็นความรู้ หรือหัวข้อเกี่ยวกับ Public Issues หรือ Global
Issues
2. ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างองค์ความรู้ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 “Ways of
Knowing” วิถีการรับรู้ ความรู้ ส่วนที่ 2 “Areas of Knowledge” ศาสตร์ / สาขา แขนงความรู้ ส่วนที่ 3
การเรียบเรียงข้อมูล ข้อค้นพบ ความคิด ความคิดเห็น การให้เหตุผลโต้แย้ง และสนับสนุน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ
ถึงการกระบวนการสร้างองค์ความรู้ ครูผู้สอนควรมีเทคนิคการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้แก่
2.1 การอภิปรายกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
2.2 การระดมพลังความคิด
2.3 การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จําลอง
8 
 
3. ปรับเปลี่ยนความคิด เป็นขั้นตอนสําคัญซึ่งเป็นหัวใจของขั้นตอนการเรียนรู้ ผู้เรียนจะศึกษา
ค้นคว้าตามประเด็นความรู้ หรือหัวข้อที่ครอบคลุม Public Issues และ Global Issues ครูผู้สอนควรมีเทคนิค
การจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้แก่
3.1 ทําความกระจ่างและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ครูผู้สอนจะกระตุ้นให้ผู้เรียนดําเนิน
กิจกรรมเพื่อสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ โดยใช้วิธีการ ดังนี้
- ค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ
- สัมภาษณ์ผู้รู้
- ปฏิบัติการค้นหา (ทดลอง สืบเสาะ สังเกต สํารวจ)
- ร่วมมือเพื่อเขียนคําอธิบาย
- แบ่งงานความรับผิดชอบภายในกลุ่ม
3.2 สร้างความคิดใหม่ ผู้เรียนนําผลการอภิปรายและสาธิตที่เป็นผลจากการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันมากําหนดเป็นความคิดใหม่ หรือความรู้ใหม่ โดยใช้วิธีการ ดังนี้
- เขียนด้วยแผนผังความคิด
- เขียนโครงงาน / โครงการ
- เขียนบรรยาย / เขียนรายงาน
- นําเสนอแนวคิดใหม่
- นําเสนอรูปแบบนวัตกรรมใหม่
3.3 ประเมินความคิดใหม่ ผู้เรียนออกแบบดําเนินการตรวจสอบความรู้ ความคิดใหม่
ที่ผู้เรียนสร้างขึ้น โดยใช้วิธีการ ดังนี้
- อภิปราย
- ทดสอบผลงาน
- ทดสอบความคิดของกลุ่ม
- ทดสอบความรู้
3.4 นําความคิดไปใช้ เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนใช้แนวคิด หรือความรู้ความเข้าใจที่ได้พัฒนาขึ้น
ใหม่ในสถานการณ์ต่าง ๆ จนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย เป็นกิจกรรมที่ต้องการให้ผู้เรียนได้ประมวลองค์
ความรู้เพื่อการนําไปใช้ประโยชน์ โดยใช้วิธีการ ดังนี้
- สรุปแผนผังความคิดเกี่ยวกับความรู้ใหม่
- นําเสนอโครงงาน / โครงการที่ผู้เรียนคิดค้น / ประดิษฐ์ขึ้น
- บรรยายสรุปแนวคิดใหม่ / การสร้างสถานการณ์ใหม่
- จัดนิทรรศการ / สาธิตผลงานของกลุ่ม
- แสดงบทบาทสมมติ / โต้วาทีเพื่อสรุปการแก้ปัญหา
4. สะท้อนความคิด /ทบทวน เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนได้ประเมินและพัฒนาความคิดอย่างรอบคอบ
และต่อเนื่องจนสามารถประเมินผลได้ ประกอบด้วย
9 
 
4.1 ประเมินผลงาน
4.2 เสนอแนะความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงและพัฒนา
4.3 วางแผนเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
บทบาทของผู้สอน
1. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสังเกต เพื่อให้สามารถมองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน
2. มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน แนะนํา ถามให้คิด เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบ หรือสร้างความรู้
ความเข้าใจได้ด้วยตนเอง
3. สร้างแรงจูงใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน ช่วยให้ผู้เรียนคิดค้นต่อไป ฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะการทํางาน
เป็นกลุ่ม
4. เป็นผู้ชี้แนะไม่ใช่ผู้ชี้นํา กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดมากกว่าบอกความรู้
5. ประเมินความคิดรวบยอดของผู้เรียน ตรวจสอบความคิดและทักษะการคิด
บทบาทของผู้เรียน
1. ค้นคว้า แสวงหาความรู้ ฝึกฝนวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นเจ้าของบทเรียน ลงมือ
ปฏิบัติจริง
2. กระตือรือร้นในการเรียนรู้ กล้าแสดงออก กล้านําเสนอความคิดอย่างสร้างสรรค์
3. มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนด้วยกันและกับครูผู้สอน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ยอมรับฟัง
ความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นผู้นําและผู้ตามที่ดี
4. ทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม
5. เชื่อมโยงความรู้เดิมเข้ากับความรู้ใหม่ มีผลงานที่สร้างสรรค์
6. เคารพกติกาทางสังคม รับผิดชอบต่อส่วนรวม
7. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ รักการอ่าน กล้าซักถาม
8. บันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ นําความรู้สู่การปฏิบัติได้จริง
10 
 
คําอธิบายรายวิชา
รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้
(Research and Knowledge Formation: IS1)
รายวิชาเพิ่มเติม บูรณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ตามศักยภาพ I 33201
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จํานวน 1.5 หน่วยกิต
-------------------------------------------------
ศึกษา วิเคราะห์การตั้งประเด็น / คําถามในเรื่องที่สนใจ การตั้งสมมติฐาน การค้นคว้า
การแสวงหาความรู้ข้อมูล การออกแบบ การวางแผนรวบรวมข้อมูล การใช้กระบวนการกลุ่ม
การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ การสังเคราะห์ การสรุปองค์ความรู้และการเสนอวิธีคิดแก้ปัญหา
ที่เป็นระบบ
ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา / ตั้งคําถามในเรื่องที่สนใจโดยเริ่มจากตนเอง เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่น
และประเทศ ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่าง ๆ ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับ
สมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ออกแบบ วางแผน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้
วิธีการที่เหมาะสม สังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ด้วย
กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติและกระบวนการกลุ่มในการ
วิพากษ์
เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้า แสวงหาความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปราย เปรียบเทียบเชื่อมโยงองค์
ความรู้และมีทักษะการนําเสนอการศึกษาค้นคว้าและนําองค์ความรู้ไปแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เห็นประโยชน์
และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชนท้องถิ่น ประเทศ
2. ตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือก จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูลได้
6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการที่เหมาะสม
7. สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม
8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
11 
 
โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1)
ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสําคัญ เวลา น้ําหนักคะแนน
1 ไขข้อสงสัย 1. ตั้งประเด็นปัญหา โดย
เลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจาก
ตนเอง ชุมชน ท้องถิ่น
ประเทศ
2. ตั้งสมมติฐานประเด็น
ปัญหาที่ตนเองสนใจ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้
กระบวนการรวบรวมข้อมูล
อย่างมีประสิทธิภาพ
- การตั้งคําถาม
ในเรื่องที่สนใจเริ่ม
จากตัวเอง เชื่อมโยง
กับชุมชน ท้องถิ่น
และประเทศ
-การตั้งสมมติฐาน
และให้เหตุผล โดย
ใช้ความรู้จากศาสตร์
สาขาต่าง ๆ
5 - 9 15
2 ห ล า ก ห ล า ย จ า ก
แหล่งเรียนรู้
4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหา
ความรู้เกี่ยวกับประเด็น
ที่เลือก จากแหล่งเรียนรู้
ที่หลากหลาย
- การค้นคว้า
แสวงหาความรู้
เกี่ยวกับสมมติฐาน
ที่ตั้งไว้
10 - 15 20
3 เปิดประตูสู่ความจริง 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ
ของแหล่งที่มาของข้อมูลได้
6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วย
สถิติที่เหมาะสม
- วิเคราะห์
ความน่าเชื่อถือของ
ข้อมูล
10 - 15 25
4 ประมวลทุกสิ่งที่ค้นพบ 6. วิเครา ะห์ข้อค้นพบ
ด้วยสถิติที่เหมาะสม
7. สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้
ด้วยกระบวนการกลุ่ม
8. เสนอแนวคิด การแก้
ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วย
องค์ความรู้จากการค้นพบ
9. เห็นประโยชน์และคุณค่า
ของการศึกษาค้นคว้าด้วย
ตนเอง
- การเปรียบเทียบ /
เชื่อมโยงองค์ความรู้
สังเคราะห์ สรุป
อภิปรายเพื่อให้เห็น
ประโยชน์และคุณค่า
ข อ ง ก า ร ศึ ก ษ า
ค้นคว้าด้วยตัวเอง
15 - 21 40
รวม 40 - 60 100
12 
 
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ไขข้อสงสัย รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 5 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ
2. ตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
- การตั้งคําถามในเรื่องที่สนใจเริ่มจากตัวเอง เชื่อมโยง
กับชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ
- การตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จาก
ศาสตร์สาขาต่าง ๆ
- การออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูล
คําถามสําคัญ
- จะตั้งคําถามในเรื่องที่สนใจให้เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่นและ
ประเทศได้อย่างไร
- จะตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขา
ต่าง ๆ ได้อย่างไร
- จะออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลได้
อย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
- การกําหนดประเด็นความรู้
- ธรรมชาติของความรู้
- ลักษณะของความรู้
- แหล่งเรียนรู้
- วิธีการสร้างความรู้
1) การสร้างความรู้จากความรู้สึก
2) การสร้างความรู้จากภาษา
3) การสร้างความรู้จากเหตุผล
4) การสร้างความรู้จากอารมณ์
- ทฤษฎีของกลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ
- ศาสตร์ / สาขาวิชาของความรู้
- นักคิด / บิดาศาสตร์ของแต่ละสาระการเรียนรู้
- หลักการตั้งวัตถุประสงค์และสมมุติฐาน
- วิธีการนําเสนอ
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ)
- การคิดวิเคราะห์
- การคิดเปรียบเทียบ
- การคิดเชื่อมโยง
- การคิดสร้างสรรค์
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
- กระบวนการปฏิบัติ
- กระบวนการกลุ่ม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมั่นในการทํางาน
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
1. การออกแบบโครงร่างการศึกษาค้นคว้า 2. ผลงานที่ปรากฏจริง
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน)
13 
 
1. มีองค์ประกอบครบ (ขอบเขตของข้อมูล แผนการจัดเก็บข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล)
2. มีความสัมพันธ์กันอย่างสมเหตุสมผลระหว่างขอบเขตของข้อมูล แผนการจัดเก็บข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
3. สามารถนําไปใช้ได้จริง
ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. ดูตัวอย่างประเด็นความรู้จากสาระวิชาพื้นฐาน
2. ร่วมกันวิเคราะห์ประเด็นความรู้ ตั้งสมมติฐาน และข้อสันนิษฐานของประเด็นความรู้
3. ตั้งคําถามกระตุ้นให้เหตุผล ความคิดต่างมุม เพื่อแก้ไขปัญหาโดยใช้สาขาวิชาต่าง ๆ โดยใช้วิธีการโต้แย้งสนับสนุนและ
โต้แย้งคัดค้าน
4. แบ่งกลุ่มนักเรียนค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ตามสาขาวิชาต่าง ๆ
5. นําเสนอข้อมูลจากการค้นคว้า ระบุแหล่งเรียนรู้ ความคิด เหตุผล วิธีการแก้ปัญหาในแต่ละสาขาวิชา
6. ร่วมกันสรุปเชื่อมโยงและเปรียบเทียบ วิธีการค้นคว้าหาความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. ตัวอย่างประเด็นความรู้
2. ตัวอย่างแหล่งการเรียนรู้
14 
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ หลากหลายจากแหล่งเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 10 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือกจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
การค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่ศึกษา
นํามาสู่การตั้งสมมติฐานได้
คําถามสําคัญ
- จะค้นคว้า แสวงหาความรู้ได้อย่างไร
- จะนําความรู้มาตั้งสมมติฐานได้อย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
- วิธีการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
- การกําหนดประเด็นความรู้จากเรื่องที่ศึกษาค้นคว้า
- การตั้งสมมติฐาน
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ)
- ค้นคว้าความรู้ในประเด็นที่ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้
ที่หลากหลาย
- กําหนดประเด็นความรู้จากเรื่องที่สนใจศึกษาค้นคว้า
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้า
- ทํ า ง า น ร่ ว ม กั บ ผู้ อื่ น ต า ม ก ร ะ บ ว น ก า ร ก ลุ่ ม
- วิพากษ์ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
- นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานงานของตน
- นําประเด็นความรู้จากเรื่องที่ศึกษามาตั้งสมมติฐาน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทํางาน
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
- แฟ้มผลงานที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้า
- สมมติฐาน
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน)
- ความหลากหลายของแหล่งข้อมูล
- กระบวนการรวบรวมมีระบบชัดเจน สะดวกต่อการใช้ ตรวจสอบได้
ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ
- แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล
- แบบบันทึกการตรวจสอบคุณภาพของข้อมูล
- แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. ศึกษาวิธีการค้นคว้า / แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
2. ตรวจสอบความครบถ้วนของข้อมูล / สารสนเทศในประเด็นที่ศึกษาจากแหล่งสืบค้นข้อมูลที่หลากหลาย
3. แบ่งกลุ่มนักเรียนฝึกทักษะการตรวจสอบข้อมูล / สารสนเทศ ด้วยตนเอง
4. วางแผนจัดเก็บข้อมูลในประเด็นที่ศึกษา
5. จัดหมวดหมู่ข้อมูล / สารสนเทศ เรียงลําดับตามที่วางแผนให้เป็นระบบ
6. ตรวจทาน / วิพากษ์นําผลไปปรับปรุงข้อมูล / สารสนเทศรายบุคคล
7. นําความรู้จากประเด็นที่ศึกษามาตั้งสมมติฐาน
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. ตัวอย่างการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นระบบ
2. ตัวอย่างการตั้งสมมติฐาน
15 
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เปิดประตูสู่ความจริง รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 10 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูลได้
6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยสถิติที่เหมาะสม
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลจะช่วยให้
ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มีคุณภาพ
คําถามสําคัญ
- จะมีวิธีตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้อย่างไร
- จะนําสถิติพื้นฐานมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
- การตรวจความน่าเชื่อถือของข้อมูล
- สถิติพื้นฐาน
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ)
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล
- นําสถิติพื้นฐานมาวิเคราะห์ข้อมูล
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ซื่อสัตย์
3. ใฝ่เรียนรู้
4. มุ่งมั่นในการทํางาน
5. จิตสาธารณะ
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคล
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน(ระบุประเด็นประเมิน)
- ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่สืบค้น
- ความถูกต้อง / ครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล
- กระบวนการรวบรวมมีระบบชัดเจน สะดวกต่อการใช้ ตรวจสอบได้
ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ
- แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล
- แบบบันทึกการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล
- แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน
- แบบบันทึกการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. ศึกษาการตรวจสอบความน่าเชื่อของข้อมูล
2. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล
3. รวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เตรียมข้อมูลวิเคราะห์
4. เลือกสถิติพื้นฐานที่เหมาะสมกับข้อมูลที่วิเคราะห์
5. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
6. ร่วมกันตรวจสอบผลการวิเคราะห์ข้อมูล
7. วิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการตรวจสอบ
8. นําผลการวิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมาปรับ / พัฒนา
9. รวบรวมผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนําไปสังเคราะห์สรุปเป็นองค์ความรู้
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ
2. เครื่องคอมพิวเตอร์
16 
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ประมวลทุกสิ่งที่ค้นพบ รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 15 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการรที่เหมาะสม
7. สังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม
8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
การวิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการที่เหมาะสม
การสังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ และเสนอแนวคิด
การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการ
ค้นพบ เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเอง
คําถามสําคัญ
- จะใช้วิธีการที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ข้อค้นพบได้อย่างไร
- จะสังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนกลุ่มได้อย่างไร
- จะเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้
จากการค้นพบได้อย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
- การใช้วิธีการในการวิเคราะห์ข้อค้นพบ
- การเปรียบเทียบ / เชื่อมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์
สรุป อภิปรายเพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าของ
การศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง
- การเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วย
องค์ความรู้จากการค้นพบ
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ)
- ใช้วิธีการในการวิเคราะห์ข้อค้นพบ
- เปรียบเทียบ / เชื่อมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปราย
เพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง
- เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้
จากการค้นพบ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. วินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทํางาน
4. รักความเป็นไทย
5. จิตสาธารณะ
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
เขียนรายงานนําเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาจากการศึกษาค้นคว้า
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน)
- ความถูกต้อง / ครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล / สารสนเทศ
- ความถูกต้องและน่าเชื่อถือของข้อค้นพบที่นําเสนอ
- กระบวนการรวบรวมมีระบบชัดเจน
ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ
- แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์สรุปองค์ความรู้
17 
 
- แบบบันทึกการตรวจสอบคุณภาพงานเขียน
- แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. รวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เตรียมข้อมูลวิเคราะห์
2. เลือกสถิติที่เหมาะสมกับข้อมูลที่วิเคราะห์
3. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม
4. ร่วมกันตรวจสอบและวิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
5. นําผลการวิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมาปรับ / พัฒนา
6. รวบรวมผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนําไปสังเคราะห์สรุปเป็นองค์ความรู้
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
- แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ
- เครื่องคอมพิวเตอร์
18 
 
รายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2)
รายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2) เป็น
สาระการเรียนรู้ที่จัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนนําข้อสรุป ข้อค้นพบใหม่ ความคิดใหม่ หรือองค์ความรู้
ใหม่ที่ได้จากการศึกษาศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ในสิ่งที่สนใจแล้วเรียบเรียงนําเสนอความคิด
ข้อคิดเห็น และข้อเสนอเชิงวิชาการ โดยใช้ภาษาอย่างถูกต้อง และนําเสนอองค์ความรู้ด้วยด้วยวิธีการที่
หลากหลายและเหมาะสม
การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถ
สื่อสารและนําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุป หรือองค์ความรู้ ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
และเหมาะสม
แนวการจัดการเรียนรู้
ครูผู้สอนจะต้องให้ความสําคัญกับ “การจัดโครงร่างของผลงาน” เนื่องจากจะช่วยให้ผู้เรียนจัดลําดับ
เนื้อหาของการเขียนรายงานการค้นคว้าและการนําเสนอได้ดี โดยดําเนินการ ดังนี้
1. การรายงานการค้นคว้าของผู้เรียน ให้ผู้เรียนนําหัวข้อเรื่องจากข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่
องค์ความรู้ใหม่ที่ตนเองสนใจเรียนรู้ เป็นข้อมูลในการนําเสนอ จากนั้นครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมี
ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
- การเรียบเรียงหัวข้อการศึกษาค้นคว้า (Research Question)
- แหล่งค้นคว้า / แหล่งการเรียนรู้
- การกําหนด / เขียนโครงร่าง (Outline)
2. การกําหนดโครงร่างของผลงาน การเขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้จากแหล่ง
การเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อเรื่องที่ผู้เรียนได้เลือกอย่างอิสระ จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ คํา
นํา (Introduction) เนื้อเรื่อง (Body /Development) และบทสรุป (Conclusion)
3. การนําเสนอการนําเสนองาน เป็นทักษะที่มีความสําคัญอย่างยิ่งสําหรับการนําเสนอ
ผลการศึกษาค้นคว้า ตามองค์ประกอบ 3 ประการ ได้แก่
3.1 การกําหนดวัตถุประสงค์และวิเคราะห์ผู้ฟัง
3.2 การวางโครงสร้างเนื้อหาการนําเสนอ
3.3 วิธีการนําเสนอ
การวิเคราะห์ผู้ฟัง เป็นการวิเคราะห์ความต้องการ ความสนใจ หรือความกังวลใจของผู้ฟัง
รวมถึงความเข้าใจในสไตล์ ความชอบของผู้ฟัง เพื่อให้สามารถออกแบบโครงสร้างและเนื้อหาการนําเสนอ
รวมทั้งการใช้สื่อประกอบที่มีความเหมาะสม สอดคล้องและถูกใจผู้ฟัง
บทบาทของผู้สอน
1. ส่งเสริม กระตุ้น สนับสนุน ชี้แนะให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการคิด ค้นคว้าเกี่ยวกับหัวข้อ / เรื่องที่ผู้เรียน
เลือกค้นคว้า
19 
 
2. ช่วยเหลือ แนะนําผู้เรียนในการค้นคว้าความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ
3. ช่วยเหลือแนะนําผู้เรียนสามารถเขียนรายงานการค้นคว้าได้อย่างถูกต้องตามเกณฑ์กําหนด
4. การนําเสนอ ครูควรดําเนินการ ดังนี้
4.1 นําเสนอด้วยสื่อรูปธรรม เช่น รูปภาพ ของจริง กราฟ ตาราง แผนภูมิ ภาพสัญลักษณ์ สื่อ
วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วให้ผู้เรียนได้พรรณนาถึงสิ่งที่พบ
4.2 ควรใช้คําถามที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดอย่างหลากหลายและคิดอย่างสร้างสรรค์ สามารถ
อธิบายความคิดของตนออกมา ด้วยการพูด การเขียน และให้ผู้เรียนได้ตั้งคําถามและหาคําตอบด้วยตนเองตาม
ความสนใจ
4.3 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงแนวคิดของตนเอง
4.4 จัดกลุ่มให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดการสื่อสาร
ในรูปแบบของการอธิบายแนวคิดและการอภิปรายในกลุ่ม
4.5 ใช้การชี้แนะทางตรงและชี้แนะทางอ้อม เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ และเห็น
เป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
บทบาทของผู้เรียน
1. กําหนดแผนการทํางาน วันส่งงาน และการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งค้นคว้า รวมทั้ง
การวางแผนการเขียนเรียบเรียงผลงาน
2. ศึกษาและฝึกการเขียนรายงานเชิงวิชาการแต่ละองค์ประกอบให้ถูกต้องสมบูรณ์
3. เรียบเรียง รวบรวมโครงร่าง (Rough draft) ของรายงานให้ครบองค์ประกอบ และฝึกการ
ตรวจสอบ (Edit) รายงานโดยใช้สัญลักษณ์ในการตรวจสอบ
4. จัดทําสื่อประกอบการนําเสนอ และเลือกวิธีการนําเสนอที่เหมาะสมกับผู้อ่าน/ผู้ฟัง
20 
 
คําอธิบายรายวิชา
การสื่อสารและการนําเสนอ
(Communication and Presentation: IS2)
รายวิชาเพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จํานวน 1.5 หน่วยกิต
เงื่อนไขการเรียน: ผู้เรียนต้องผ่านการเรียนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้มาก่อน
----------------------------------
ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจากข้อมูลองค์ความรู้จากการศึกษา
ค้นคว้าในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) โดย
เขียนโครงร่าง บทนํา เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิงวิชาการ โดยใช้คําจํานวน 2,500 คํา มีการอ้างอิง
แหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการ
นําเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อประกอบที่
หลากหลาย และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการ
สื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็น
ประโยชน์แก่สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง
2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว 2,500 คํา
3. นําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual
presentation) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่ออุปกรณ์ในการนําเสนอได้อย่างเหมาะสม
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ
5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้แก่สาธารณะ
21 
 
โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอ
ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสําคัญ ชั่วโมง น้ําหนักคะแนน
1 เตรียมความพร้อม 1. วางโครงร่างการเขียน
ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ์
องค์ประกอบและวิธีการ
เขียนโครงร่าง
5. เห็นประโยชน์และ
คุณค่าในการสร้างสรรค์
งานและถ่ายทอดสิ่งที่
เรียนรู้แก่สาธารณะ
การเชื่อมโยงทบทวนความรู้จาก
การศึกษาค้นคว้า การวิเคราะห์
สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้
มาสู่การสื่อสาร และการนําเสนอ
มาเขียนสรุปความให้เป็นความ
เรียงเชิงวิชาการพร้อมอ้างอิงตาม
หลักวิชาการเป็นพื้นฐานสําคัญ
ของการสื่อสารและการนําเสนอให้
เหมาะสมกับผู้อ่าน / ผู้ฟัง
4 10
2 ฝึ ก ซ้ อ ม เ ขี ย น
โครงร่าง
1. วางโครงร่างการเขียน
ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ์
องค์ประกอบและวิธีการ
เขียนโครงร่าง
การฝึกเขียนโครงร่างรายงาน
เชิงวิชาการ ซึ่งมีองค์ประกอบด้วย
ชื่อเรื่อง ความนํา วัตถุประสงค์
สมมุติฐาน ขอบเขตการศึกษา
เนื้อหา วิธีการศึกษาและการเก็บ
รวบรวมข้อมูล เป็นการวางแผน
การเขียนรายงานเชิงวิชาการอย่าง
เป็นระบบ และการตรวจสอบทั้ง
ด้วยตนเอง และเพื่อนช่วย
ตรวจสอบโดยใช้สัญลักษณ์ในการ
ตรวจสอบช่วยให้รายงานเชิง
วิชาการนั้นถูกต้องแม่นยําและ
สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
8 20
3 สร้างผลงานเขียน 2. เขียนรายงานการศึกษา
ค้ น ค ว้ า เ ชิ ง วิ ช า ก า ร
ภาษาไทย ความยาว
2,500 คํา
การถ่ายโอนองค์ความรู้จาก
การศึกษา ค้นคว้า และข้อค้นพบ
โดยการรายงานที่ใช้รูปแบบการ
เขียนรายงานเชิงวิชาการได้ครบ
องค์ประกอบและถูกต้องตาม
หลักวิชาการเป็นการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ
28 40
22 
 
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสําคัญ ชั่วโมง น้ําหนักคะแนน
4 เพียรนําเสนอ 3. นําเสนอข้อค้นพบ
ข้อสรุปจากประเด็นที่
เลือกในรูปแบบเดี่ยว
(Oral individual
presentation) หรือกลุ่ม
(Oral panel
presentation)
โดยใช้สื่อ อุปกรณ์ในการ
นําเสนอได้อย่างเหมาะสม
4. เผยแพร่ผลงานสู่
สาธารณะ
การนําเสนอผลงานจากการศึกษา
ค้นคว้า ข้อค้นพบโดยมีการเตรียม
ความพร้อมของผู้นําเสนอ
การเลือกรูปแบบประเภทสื่อ
ประกอบการนําเสนอให้เหมาะสม
และสอดคล้องกับตามความ
ต้องการ ความสนใจ ความชื่นชอบ
ของผู้ฟัง ช่วยให้การเผยแพร่
ผลงานได้อย่างมีประสิทธิผล
20 30
รวม 60 100
23 
 
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เตรียมความพร้อม รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 4 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง
5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้แก่สาธารณะ
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
การเชื่อมโยงทบทวนความรู้จากการศึกษาค้นคว้า
การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้มาสู่
การสื่อสารและการนําเสนอ มาเขียนสรุปความให้เป็น
ความเรียงเชิงวิชาการพร้อมอ้างอิงตามหลักวิชาการ
เป็นพื้นฐานสําคัญของการสื่อสารและการนําเสนอให้
เหมาะสมกับผู้อ่าน / ผู้ฟัง
คําถามสําคัญ
- จะนําทักษะและองค์ความรู้ที่สังเคราะห์ได้จากรายวิชา IS1
ม า ใ ช้ ใ น ก า ร นํ า เ ส น อ แ ล ะ ก า ร สื่ อ ส า ร อ ย่ า ง ไ ร
- การเขียนสรุปความมีวิธีการอย่างไร
- การเขียนความเรียงวิธีการอย่างไร
- การเขียนอ้างอิงวิธีการอย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร(สาระการเรียนรู้)
- การเชื่อมโยงข้อมูลและองค์ความรู้จากรายวิชา IS1
สู่การเรียนรายวิชา IS2
- การเขียนสรุปความ
- การเขียนความเรียง
- การเขียนอ้างอิง
ผู้เรียนทําอะไรได้(ทักษะ/ทักษะกระบวนการ)
- รวบรวมข้อมูลและองค์ความรู้จากรายวิชา IS1
มาเชื่อมโยงสู่การนําเสนอและการสื่อสาร
- เขียนสรุปความและนํามาเชื่อมเป็นความเรียง
- เ ขี ย น อ้ า ง อิ ง ไ ด้ ถู ก ห ลั ก ก า ร
- ทํ า ง า น ร่ ว ม กั บ ผู้ อื่ น ต า ม ก ร ะ บ ว น ก า ร ก ลุ่ ม
- ตรวจสอบงานเขียนความเรียง
- วิ พ า ก ษ์ ง า น เ ขี ย น ค ว า ม เ รี ย ง ข อ ง ผู้ อื่ น
- นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานเขียนของตน
- นําข้อมูลจาก IS1มาวางแผนปฏิบัติใน IS2 - IS3
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทํางาน
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
นําเสนอการวางแผนนําข้อมูลจากรายวิชา IS1 สู่การจัดทํารายงานเชิงวิชาการในรายวิชา IS2 และเชื่อมโยง
นําความรู้สู่การปฏิบัติบริการสังคมในรายวิชา IS3
เกณฑ์การประเมินภาระงาน/ชิ้นงาน(ระบุประเด็นประเมิน)
- ความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล
- การเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่การเขียน
- ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลของการศึกษา IS1 - IS3
24 
 
ร่องรอยการเรียนรู้อื่นๆ
- แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ / สังเคราะห์ข้อมูล
- แบบบันทึกการเชื่อมข้อมูลจาก IS1 - IS3
- แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. รวบรวมข้อมูลพื้นฐานจากการเรียน IS1 มาทบทวนความรู้จากการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ สังเคราะห์และสร้างองค์
ความรู้มาสู่การสื่อสารและการนําเสนอ
2. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลที่จะนํามาออกแบบ วางแผนเชื่อมโยงข้อมูลสู่การเรียน IS2
3. ฝึกทักษะการเขียนสรุปความ
4. ฝึกทักษะการเขียนความเรียง
5. ฝึกทักษะการเขียนอ้างอิง
6. ศึกษาตัวอย่างการวางแผนการนําข้อมูลสู่การปฏิบัติโดยใช้แผนผังความคิด
7. ใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกันวางแผนนําข้อมูลจากการสรุปความและเขียนความเรียงใน IS1 สู่การจัดทํารายงานเชิง
วิชาการใน IS2 และเชื่อมโยงนําความรู้สู่การปฏิบัติบริการสังคมใน IS3
8. ใช้ความรู้ หลักการและจินตนาการเพื่อคาดคะเนคําตอบที่เป็นไปได้ของการวางแผนจาก IS1 - IS3
9. ร่วมกันอภิปรายการวางแผนจาก IS1 - IS3 แล้วนําข้อมูลมานําเสนอ
10.ร่วมกันวิพากษ์การวางแผนของแต่และกลุ่ม
11.ปรับปรุงแผนที่วางไว้ก่อนนําไปจัดทําแผนการปฏิบัติระยะยาว
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. ตัวอย่างการเขียนสรุปความ, การเขียนความเรียง,การเขียนอ้างอิง
2. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ
3. ตัวอย่างการวางแผนระยะยาว
4. แผนผังการคิด
25 
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ฝึกซ้อมเขียนโครงร่าง รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 6 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
การเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ มีองค์ประกอบคือ ชื่อเรื่อง
ความนํา วัตถุประสงค์ สมมติฐาน ขอบเขตการศึกษา เนื้อหา วิธี
การศึกษาและการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นการวางแผนการเขียนรายงาน
เชิงวิชาการอย่างเป็นระบบ และการตรวจสอบด้วยตนเองและเพื่อนช่วย
ตรวจสอบ โดยใช้สัญลักษณ์ในการตรวจสอบช่วยให้รายงานเชิงวิชาการ
นั้นถูกต้องแม่นยําและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
คําถามสําคัญ
- องค์ประกอบของการเขียนโครงร่างมีอะไรบ้าง
- แต่ละองค์ประกอบของการเขียนโครงร่าง
มีวิธีการเขียนอย่างไร
- การเขียนโครงร่างที่สมบูรณ์มีลักษณะอย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
การวางโครงร่างการเขียนรายงานเชิงวิชาการ
- องค์ประกอบของโครงร่าง
- ชื่อเรื่อง
- ความนํา
- วัตถุประสงค์
- สมมุติฐาน
- ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า
- เนื้อเรื่อง
- วิธีการศึกษาและรวบรวมข้อมูล
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / ทักษะกระบวนการ)
- เขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
- ทํางานร่วมกับผู้อื่นตามกระบวนการกลุ่ม
- ตรวจสอบงานเขียนโครงร่างเชิงวิชาการ
- วิพากษ์งานเขียนโครงร่างของผู้อื่น
- นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานเขียนโครงร่าง
ของตนได้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทํางาน
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
โครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน)
- ความครบถ้วนขององค์ประกอบโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
- ความถูกต้องสมบูรณ์ของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ
- แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตรวจสอบ / วิพากษ์
- แบบบันทึกการประเมินการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
- แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน
26 
 
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. ศึกษาและวิธีเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการฉบับสมบูรณ์
2. ร่วมกันฝึกเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
3. กลุ่มอภิปรายการเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
4. สรุปผลการอภิปรายการเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการของกลุ่มเตรียมนําเสนอ
5. กลุ่มนําเสนอโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
6. ร่วมกันตรวจสอบและวิพากษ์ความสมบูรณ์ของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
7. กลุ่มปรับโครงร่างรายงานเชิงวิชาการตามข้อเสนอแนะ
8. นักเรียนแต่ละคนนําแนวทางการจัดทําโครงร่างรายงานเชิงวิชาการที่ถูกต้อง ไปจัดทําโครงร่างรายงาน
เชิงวิชาการของตนเอง
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. ตัวอย่างการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
2. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ
27 
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สร้างผลการเขียน รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 18 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้(ผลการเรียนรู้)
2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว 2,500 คํา
ความเข้าใจที่คงทน(สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด)
การถ่ายโอนองค์ความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า และ
ข้อค้นพบ โดยการรายงานที่ใช้รูปแบบการเขียนรายงาน
เชิงวิชาการได้ครบองค์ประกอบและถูกต้องตามหลัก
วิชาการเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
คําถามสําคัญ
- จะนําทักษะการวางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์
องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่างมาใช้อย่างไร
- องค์ประกอบของรายงานเชิงวิชาการมีอะไรบ้าง
และแต่ละองค์ประกอบมีวิธีการเขียนอย่างไร
- การตรวจสอบงานเขียนมีวิธีการตรวจสอบอย่างไรและใช้
สัญลักษณ์อย่างไร
- มารยาทในการวิพากษ์งานผู้อื่นมีอย่างไรบ้าง
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
การเขียนรายงานเชิงวิชาการ โดยมีองค์ประกอบ
3 ส่วน
1) องค์ประกอบส่วนหน้า
- ปกนอก ปกใน
- บทคัดย่อ กิตติกรรมประกาศ
- สารบัญ สารบัญตาราง สารบัญภาพ
2) องค์ประกอบส่วนเนื้อเรื่อง
- ความนํา วัตถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขต
- เนื้อเรื่อง
- วิธีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
- ผลการศึกษา
- บทสรุป และอภิปรายผล
3) องค์ประกอบส่วนท้าย
- บรรณานุกรม ภาคผนวก
- ประวัติผู้จัดทํา
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / ทักษะกระบวนการ)
- เขียนรายงานเชิงวิชาการฉบับสมบูรณ์
- ทํางานร่วมกับผู้อื่นตามกระบวนการกลุ่ม
- ตรวจสอบงานเขียนเชิงวิชาการโดยใช้สัญลักษณ์
- วิพากษ์งานเขียนของผู้อื่น
- นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานเขียนของตน
คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทํางาน
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
รายงานเชิงวิชาการฉบับสมบูรณ์
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน(ระบุประเด็นประเมิน)
- ความครบถ้วนขององค์ประกอบรายงาน
- ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลขององค์ประกอบ
- ความถูกต้องตามหลักวิชาการและความสมบูรณ์ของรายงาน
ร่องรอยการเรียนรู้อื่นๆ
- แบบประเมินองค์ประกอบ และความสมบูรณ์รายงานเชิงวิชาการ
28 
 
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. ดูตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์แล้วระดมสมองวิเคราะห์องค์ประกอบของรายงานนั้นแล้วร่วมกันวิเคราะห์อภิปราย
องค์ประกอบของรายงาน
2. ร่วมกันวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลขององค์ประกอบของตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์
3. ร่วมกันประเมินตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์ แล้วนําเสนอจุดเด่นจุดด้อย
4. ศึกษาวิธีการเขียนแต่ละองค์ประกอบ
5. ฝึกปฏิบัติการเขียนแต่ละองค์ประกอบของรายงาน
6. นําองค์ประกอบของรายงานมาเรียบเรียงตามลําดับ
7. ทบทวนการแก้ไขรายงานฉบับร่าง (Edit rough draft) และสัญลักษณ์การแก้ที่เรียนมาจากหน่วยการเรียนรู้ที่ 2
8. ศึกษามารยาทในการวิพากษ์งานของผู้อื่น
9. ปฏิบัติการแก้ไข และวิพากษ์รายงาน
10. เขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ที่ครบองค์ประกอบ
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. ตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์
2. สัญลักษณ์การตรวจสอบงานเขียน
3. ตัวอย่างโครงร่างการศึกษาค้นคว้า
4. ผังองค์ประกอบของรายงานเชิงวิชาการ
29 
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เพียรนําเสนอ รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 12 ชั่วโมง
เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)
3. นําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual presentation) หรือกลุ่ม (Oral
panel presentation) โดยใช้สื่ออุปกรณ์ในการนําเสนอได้เหมาะสม
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ
ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด)
การนําเสนอผลงานจากการศึกษาค้นคว้า ข้อค้นพบ
โดยการเตรียมความพร้อมของผู้นําเสนอ การเลือก
รูปแบบ สื่อประกอบการนําเสนอที่เหมาะสม สอดคล้อง
กับความต้องการ ความสนใจ ความชื่นชอบของผู้ฟัง
ช่วยให้การนําเสนอผลงานประสบผลสําเร็จ
คําถามสําคัญ
- การนําเสนอผลงานมีขั้นตอนอย่างไร
- การนําเสนอแบบปากเปล่ารูปแบบเดี่ยวและกลุ่ม เหมือน หรือ
แตกต่างกันอย่างไร
- การวิเคราะห์ผู้ฟัง / ผู้อ่านมีวิธีการและให้ผลดีอย่างไร
- จะใช้สื่ออุปกรณ์ประกอบการนําเสนอได้อย่างไร
ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้)
- วิธีวิเคราะห์ผู้ฟัง / ผู้อ่าน
- ประเภทของการนําเสนอแบบปากเปล่า
- วิธีการจัดทําสื่อประกอบการนําเสนอ
- ขั้นตอนและเทคนิคการนําเสนอแบบปากเปล่า
ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / ทักษะกระบวนการ)
- วิเคราะห์ผู้ฟัง / ผู้อ่าน
- ทํางานร่วมกับผู้อื่นตามกระบวนการกลุ่ม
- จัดทําสื่อ / สื่อเทคโนโลยีประกอบการนําเสนอ
- นําเสนอผลงานทางวิชาการแบบปากเปล่า
คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทํางาน
4. ซื่อสัตย์สุจริต
การออกแบบการวัดผลประเมินผล
ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน
การนําเสนอผลงานศึกษาค้นคว้า
เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน)
- ขั้นตอนของการนําเสนอแบบปากเปล่า
- ความชัดเจนของการนําเสนอ
- เทคนิควิธีการนําเสนอ
- การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟัง
ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ
แผนการนําเสนอและร่างการนําเสนอผลงาน
การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนจะ
1. ดูวีดิทัศน์ตัวอย่างการนําเสนอผลงานแบบปากเปล่าทั้งแบบ Oral individual presentation และ Oral panel
presentation และร่วมกันวิเคราะห์รูปแบบวิธีการของการนําเสนอ
2. ศึกษารูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการนําเสนอผลงานแบบปากเปล่า และอภิปรายแสดงความคิดเห็น
3. ฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนการนําเสนอผลงาน
4. สะท้อนผลการฝึกปฏิบัติการนําเสนอผลงาน
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1. วีดิทัศน์ตัวอย่างการนําเสนอผลงาน
2. รูปแบบและขั้นตอนวิธีการนําเสนอผลงาน
3. ตัวอย่างคําพูดที่จะนําเสนอในแต่ละขั้นตอน
4. ผังองค์ประกอบของรายงานเชิงวิชาการ
30 
 
การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
(Social Service Activity: IS3)
การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity: IS3) เป็น
กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกทั้งด้านพื้นฐานความคิด ความรู้สึกและ
การกระทําที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์ ความเสมอภาค ความยุติธรรมในสังคม
ความเข้าใจกันในระหว่างมนุษย์ มุ่งเน้นกระบวนการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วมเพื่อให้ผู้เรียน
มีความตระหนักรู้ในตนเอง ร่วมกันศึกษาสภาพและการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่นที่จะส่งผลกระทบต่อ
สังคมโลก โดยการวิเคราะห์ข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ที่เป็นความจริงใกล้ตัวของผู้เรียน
เลือกนําประเด็น / เรื่องราวที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระตุ้นให้เชื่อมโยงเหตุการณ์ในระดับท้องถิ่นกับ
ระดับโลกในภาพกว้าง และอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเหตุการณ์
ดังกล่าวโดยจัดเป็นกิจกรรม โครงการ หรือโครงงาน
เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน
คุณภาพผู้เรียน มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย
การนําความรู้ไปใช้
บริการสังคม
- นําความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์
ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน
- เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์
ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน
- นําความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์ประโยชน์
ต่อสังคมและโลก
- เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จาก
การลงมือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและ
โลก
การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคมมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเอง
และพัฒนาซึ่งกันและกันผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential learning) ค้นพบตนเอง โดยการ
ริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรม (Creativity) ปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (Action) อาสาช่วยเหลือ
ผู้อื่นด้วยความสมัครใจ (Service) พัฒนาค่านิยมที่อยู่บนพื้นฐานความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของโลก ได้แก่
1. ความนับถือและเชื่อมั่นในตนเอง
2. ความเคารพในตนเองและผู้อื่น
3. ความรับผิดชอบต่อสังคม
4. ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
5. การเปิดใจกว้าง
6. เจตคติในการพัฒนา วิสัยทัศน์
31 
 
7. เป็นสมาชิกชุมชนที่แข็งขัน มีส่วนร่วมรับผิดชอบ พัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้อง และสร้างเสริมเจตคติ
ในการเป็นพลโลกทั้งในระดับบุคคลและส่วนรวม
แนวทางการจัดกิจกรรม / โครงการ / โครงงาน
การจัดกิจกรรม / โครงการ / โครงงานการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม มีหลักการและแนว
ทางการดําเนินการ ดังนี้
1. การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม มีหลักการ ดังนี้
1.1 เป็นการเรียนรู้ที่อาศัยประสบการณ์ของผู้เรียน
1.2 ทําให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่ท้าทายอย่างต่อเนื่องและเป็นการเรียนรู้ที่เรียกว่า "Active
Learning"
1.3 มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้สอนและผู้ที่เกี่ยวข้อง
1.4 เป็นการสร้างเครือข่ายความรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวาง
1.5 ใช้การพูด หรือการเขียนเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน วิเคราะห์ สังเคราะห์
ความรู้ พฤติกรรม และผลงาน
2. การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม สามารถจัดเป็นกิจกรรม / โครงงาน /
โครงการ โดยจัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน 5 ขั้นตอน ดังนี้
2.1 วางแผน (Plan) เป็นขั้นเริ่มต้นการปฏิบัติกิจกรรม ประกอบด้วย การกําหนดเป้าหมาย
ความสําเร็จ การทําความกระจ่างในเป้าหมาย และการตัดสินใจว่าจะนําองค์ความรู้และประสบการณ์เดิมของ
แต่ละคนมาใช้ได้อย่างไร
2.2 ลงมือปฏิบัติ (Act) เป็นขั้นลงมือปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของกิจกรรมนั้น ๆ โดย
ใช้ประสบการณ์และองค์ความรู้ที่มีอยู่เป็นฐานในการเรียนรู้ใหม่
2.3 สังเกต (Observe/Analyze) เป็นขั้นการวิเคราะห์การรับรู้ของผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้สังเกตและ
พิจารณาถึงความรู้สึกของตนเอง รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับสมาชิกในกลุ่มและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้
ประสบการณ์จะเปลี่ยนเป็นการเรียนรู้เมื่อเจ้าของประสบการณ์ได้พิจารณาถึงอารมณ์ ความคิดและการกระทํา
ของตนเองในเหตุการณ์ นั้น ๆ โดยไม่ปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นผ่านพ้นและจบไป
2.4 สะท้อน (Reflect) เป็นขั้นสะท้อนให้เห็นถึงสัมฤทธิ์ผลของผู้เรียน ประเด็นสําคัญที่ได้เรียนรู้
องค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน จุดแข็งและความท้าทายของแต่ละคน รวมทั้งเป็นขั้นการประเมินการปฏิบัติ
ของผู้เรียน สังเคราะห์ความรู้ความเข้าใจใหม่ ๆ นับเป็นขั้นตอนที่สําคัญอย่างยิ่งของการเรียนรู้ผ่าน
ประสบการณ์ ความสามารถในการสะท้อนการจัดกิจกรรมไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่จําเป็นต้องได้รับการ
พัฒนาและสั่งสมประสบการณ์จากการฝึกฝน และชี้แนะ
2.5 ประยุกต์ (Apply) เป็นขั้นการนําผลการจัดกิจกรรมประสบการณ์และองค์ความรู้
ที่เกิดขึ้นไปใช้ ในสถานการณ์ใหม่ ๆ และชีวิตประจําวัน
32 
 
บทบาทของครูผู้สอน / ครูที่ปรึกษา
1. ศึกษาและทําความเข้าใจเกี่ยวกับความตระหนักถึงความสําคัญของทัศนะและบทบาทของเยาวชน
ในการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีผลต่อประเด็นต่าง ๆ ในระดับโลก เข้าใจบทบาทของภาษา
ขนบธรรมเนียม ถิ่นฐาน ศิลปะ ศาสนา ที่เป็นอัตลักษณ์ของตนเองและผู้อื่นในโลก
2. สนทนา ชี้แนะ ชี้แจง ผู้เรียนเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติกิจกรรม
3. แลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรม
4. สนับสนุนและเป็นกําลังใจในการคิดและการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
5. ประเมินผลการดําเนินกิจกรรมและผลที่เกิดกับผู้เรียน
บทบาทของผู้เรียน
1. สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและความจําเป็นของการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
และมีความรับผิดชอบ
2. สนทนา รับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะปฏิบัติ
3. วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลข่าวสารและความเห็นจากสื่อการเรียนรู้และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
4. ตัดสินใจเลือกกิจกรรมและวางแผนการปฏิบัติกิจกรรม
5. ปฏิบัติกิจกรรมตามแผนที่กําหนดด้วยความกระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบ
6. ประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
7. สรุปและรายงานผลการปฏิบัติกิจกรรม
33 
 
การปฏิบัติกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ลําดับ กิจกรรม ชั่วโมง หมายเหตุ
1 วิเคราะห์องค์ความรู้เพื่อกําหนดแนวทางการนําไปประยุกต์ ใช้ให้เกิด
ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน เช่น
- แนวทางในเรื่องภัยธรรมชาติ
- แนวทางการป้องกันแก้ไข
2 วางแผนการทํากิจกรรมเพื่อนําความรู้ไปสร้างประโยชน์ต่อโรงเรียน
และชุมชน เช่น
- โครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ
3 ปฏิบัติกิจกรรมตามปฏิทินที่กําหนด เช่น
- การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ
- แนวทางการป้องกันแก้ไข
4 สรุปผลการดําเนินกิจกรรม
- บันทึก
- สะท้อนความคิดเห็นของตน / ชุมชนต่อการทํากิจกรรม
5 เผยแพร่ผลงาน
- จัดทําแผ่นพับ
- จัดทําเว็บไซต์
- จัดทํา Facebook
รวม
34 
 
กิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 15 ชั่วโมง / มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 20 ชั่วโมง
ลําดับ
ที่
ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรม ภาระงาน
เวลา
(ชั่วโมง)
1 น้ําใจสู่ชุมชน เป็นสมาชิกชุมชนที่
แข็งขัน มีส่วนร่วม
รับผิดชอบ พัฒนาทักษะ
ที่เกี่ยวข้อง และสร้าง
เสริมเจตคติในการเป็น
พลโลกทั้งในระดับบุคคล
และส่วนรวม
กิจกรรมบน Facebook
สร้างความตระหนักและ
ขอความช่วยเหลือ
สร้าง
เครือข่าย
จิตสาธารณะ
ผ่าน
facebook.com
2 เล่มนี้เพื่อน้อง ความรับผิดชอบต่อสังคม ชมรม ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม
บริจาคหนังสือ
โรงเรียน ขาด
แคลน
3 การดูแลและ
บํารุงรักษา
ป่าต้นน้ํา
ความรับผิดชอบต่อ
สิ่งแวดล้อม
ค่ายอนุรักษ์ รายงาน /
นิทรรศการ
4 ก า ร เ ยี่ ย ม
ผู้ป่วยไร้ญาติ
การเปิดใจกว้าง โครงการอุ่นไอรัก รายงาน /
นิทรรศการ
5 ต้นทางเศรษฐี ความนับถือและเชื่อมั่น
ในตนเอง
ธนาคารขยะ รายงาน / ชิ้นงาน
6 ดนตรีบําบัด ความเคารพในตนเอง
และผู้อื่น
การแสดงความสามารถ
ทางดนตรี หรือสร้าง
ผลงานทางศิลปะ เพื่อ
หารายได้สําหรับการกุศล
รายงาน /
นิทรรศการ
7 รักษ์ศิลปกรรม เจตคติในการพัฒนา
วิสัยทัศน์
การดูแลรักษาโบสถ์วิหาร
การเฝ้าระวังโบราณสถาน
และโบราณวัตถุไม่ให้
ถูกทําลาย
รายงาน /
นิทรรศการ
รวม 15
35 
 
ตารางปฏิทินการปฏิบัติกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 15 ชั่วโมง / มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 20 ชั่วโมง
ชื่อกิจกรรม ......................................... ภาคเรียนที่...................ปีการศึกษา............................
สัปดาห์ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ
- รับสมัครสมาชิก
- ชี้แจงวัตถุประสงค์และร่วมวางแผนการดําเนินกิจกรรม
- เขียนโครงการ
- กําหนดขอบข่ายและวางแผนพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น
และประเทศ
- นําเสนอแผนพัฒนาต่อครูที่ปรึกษา
- ประชุมปรับปรุงแผนและเตรียมแบ่งงานในความ
รับผิดชอบ
- กิจกรรมที่ 1…………….…..
- กิจกรรมที่ 2…………………
- สรุปผลการดําเนินงานระยะที่ 1
- จัดบอร์ดแสดงผลงาน
- กิจกรรมที่ 3………………..
- กิจกรรมที่ 4………………..
- สรุปผลการดําเนินงานระยะที่ 2
- จัดบอร์ดแสดงผลงาน
- ประชุมสรุปผลการดําเนินงาน
- เสนอ (ร่าง) รายงานต่อครูที่ปรึกษาโครงการ
- ครูที่ปรึกษาตรวจแก้ไขงาน
- จัดทํารายงานฉบับสมบูรณ์ (ชิ้นงาน)
- นําเสนอบทสรุปต่อโรงเรียนและประเมินผลโครงการ
36 
 
การวัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS )
ตามหลักสูตรสถานศึกษา อาศัยหลักการดําเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยพิจารณาจากคุณภาพของชิ้นงานหรือการปฏิบัติที่เป็นผลผลิต/
ร่องรอยหลักฐานการเรียนรู้ของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของผู้เรียนว่าเป็นไปตามเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน
โรงเรียนมาตรฐานสากลหรือไม่ โดยใช้วิธีการและเครื่องมือที่หลากหลายและเกณฑ์การประเมิน (Rubrics)
แนวทางการวัดและประเมิน
1. กรณีที่จัดบูรณาการสาระการเรียนรู้การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS )ใน
รายวิชาพื้นฐาน ที่โรงเรียนพิจารณาเห็นว่าเหมาะสมให้แยกจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้เฉพาะและประเมินผลการ
เรียนรู้ของหน่วยการเรียนรู้นี้ให้ชัดเจน
2. กรณีที่จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ต้องประเมินและตัดสินผลการเรียนโดยให้ระดับผลการเรียนรายวิชา
ของสาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study: IS) ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด
3. กรณีที่จัดบูรณาการสาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study: IS) เฉพาะ
เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (IS3 : Social Service Activity) ในกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์) ซึ่งเป็นการนําความรู้ที่ได้จาก IS1 และ IS2 มาใช้
ให้วัดและประเมินผลการวางแผนการปฏิบัติกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมตามแผนที่กําหนด และการสรุป
รายงานผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยให้ผลการประเมินเป็นผ่านและไม่ผ่าน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด
37 
 
-ตัวอย่าง-
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลระดับมัธยมศึกษา
สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS)
คะแนนคะแนน คะแนน+ +
= 100
หน่วยที่ 1 คําถาม/สมมติฐาน หน่วยที่ 2 สืบค้น/ทดลอง หน่วยที่ 3 สรุปองค์ความรู้
IS1: รายวิชาการศึกษาคนควาเพื่อการเรียนรู
ร่องรอย/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
ร่องรอย/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
ร่องรอย/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
38 
 
-ตัวอย่าง-
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลระดับมัธยมศึกษา
สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS)
ความรู/ทักษะ/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ
ความรู/ทักษะ/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ
งานเขียนเชิงวิชาการ/การนําเสนอองคความรู
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ
+ คะแนนคะแนนคะแนน + = 100
IS2: รายวิชาการสื่อสารและการนําเสนอ
หนวยที่ 2
ICT กับการนําเสนอ
หนวยที่ 3
การเขียนและการนําเสนอ
หนวยที่ 1
หลักการเขียนงานเชิงวิชาการ
39 
 
-ตัวอย่าง-
โครงสร้างการจัดการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลระดับมัธยมศึกษา
สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS)
ร่องรอย/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
ร่องรอย/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
ร่องรอย/ชิ้นงาน
วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
+
ผ่าน/ไม่ผ่านผ่าน/ไม่ผ่านผ่าน/ไม่ผ่าน + = ผ่าน/ไม่ผ่าน
IS3 : การนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
จุดประสงคสําคัญ 2
การปฏิบัติกิจกรรมตามแผน
จุดประสงคสําคัญ 3
สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมและการเผยแพร
จุดประสงคสําคัญ 1
แผนการปฏิบัติกิจกรรม
40 
 
แนวทางการวัดและประเมินผลในระดับมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 2
เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน
ตัวอย่างชิ้นงาน/ผล
การเรียนรู้
ตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียน
แนวทางการวัดและประเมินผล
วิธีการ เครื่องมือ
การตั้งประเด็นคําถาม/
สมมติฐานอย่างมีเหตุผล
(Hypothesis Formulation)
1.แบบบันทึกประเด็น
คําถาม
2 . แ บ บ บั น ทึ ก
สมมติฐาน/คําตอบที่
คาดคะเน
1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่ตน
สนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เชื่อมโยง
กับชุมชนท้องถิ่น ประเทศ
2.ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้
ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ
ตรวจสอบการตั้งคําถาม
และการตั้งสมมติฐานของ
นักเรียน
แบบบันทึกการตรวจสอบการตั้งคําถามและการ
ตั้งสมมติฐานของนักเรียน
เกณฑ์การประเมิน
การสืบค้นความรู้จากแหล่ง
เรียนรู้และสารสนเทศหรือ
จากการปฏิบัติทดลอง
(Searching for Information)
1 . แ ผ น ก า ร เ ก็ บ
รวบรวม/การสืบค้น
ข้อมูล
2.แบบบันทึกการ
สืบค้นข้อมูล
3.ออกแบบ วางแผนรวบรวมข้อมูล
โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูล
อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ศึกษาแสวงหาข้อมูล ประเด็น
ความรู้เกี่ยวข้องกับสมมติฐานที่ตั้ง
ไว้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
เช่น ห้องสมุด หนังสือ วารสาร
แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ วารสาร
ฯลฯ)
ประเมินการสืบค้นข้อมูล
จากแหล่งเรียนรู้ของ
นักเรียน
แบบประเมินการสืบค้นข้อมูล
เกณฑ์การประเมิน
41 
 
เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน
ตัวอย่างชิ้นงาน/ผล
การเรียนรู้
ตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียน
แนวทางการวัดและประเมินผล
วิธีการ เครื่องมือ
5.ใช้กระบวนการกลุ่มในการ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้
ความรู้จากสาขาวิชาและแหล่ง
เรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่
ครบถ้วนสมบูรณ์
6.ทํางานบรรลุเป้าหมายภายใต้
กรอบการดําเนินงานที่กําหนด
โดยการกํากับดูแลของครูอย่าง
ต่อเนื่อง
ก า ร ส รุ ป อ ง ค์ ค ว า ม รู้
(Knowledge Formation)
1.แบบบันทึกการ
วิ เ ค ร า ะ ห์ ก า ร
สังเคราะห์ข้อมูล
2.แบบบันทึกการสรุป
องค์ความรู้
7.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่
เหมาะสม
8.สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้
อภิปรายผลและ เปรียบเทียบ
เชื่อมโยงความรู้จากแหล่งค้นคว้า
ต่าง ๆ
9.เสนอแนวคิดหรือวิธีการ
แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ตรวจผลงานการวิเคราะห์
สังเคราะห์ และการสรุปองค์
ความรู้และอภิปรายผลของ
นักเรียน
แบบบันทึกการตรวจผลงานการวิเคราะห์
สังเคราะห์ สรุปองค์และอภิปรายผลของนักเรียน
เกณฑ์การประเมิน
42 
 
เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน
ตัวอย่างชิ้นงาน/ผล
การเรียนรู้
ตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียน
แนวทางการวัดและประเมินผล
วิธีการ เครื่องมือ
การสื่อสารและการนําเสนอ
อย่างมีประสิทธิภาพ
(Effective Communication)
1.ผลงานการเขียนเชิง
วิชาการ
2.การนําเสนอองค์
ความรู้
10.เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิด
อย่างชัดเจนเป็นระบบ
11.นําเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral
individual presentation)หรือกลุ่ม
(Oral panel presentation) โดยใช้
สื่อประกอบหลากหลาย
12.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิง
วิชาการความยาว 2,500 คํา โดยมีการ
อ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่าง
หลากหลาย
13.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ
1.ตรวจผลงานการเขียน
รายงานเชิงวิชาการของ
นักเรียน
2.สังเกตการพูดนําเสนองาน
ของนักเรียน
1.แบบบันทึกการตรวจผลงาน
การเขียนรายงานเชิงวิชาการ
ของนักเรียน
2.แบบบันทึกการสังเกตการ
นําเสนองานของนักเรียน
เกณฑ์การประเมิน
การนําความรู้ไปใช้บริการ
สังคม(Public Service)
1.การปฏิบัติกิจกรรม
เพื่อบริการชุมชน
2.การเผยแพร่ผลการ
ปฏิบัติกิจกรรมบริการ
ชุมชน
14.นําความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์
ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน
15.เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ที่
ได้จากการลงมือปฏิบัติเพื่อประโยชน์
ต่อโรงเรียนและชุมชน
ประเมินการนําความรู้ไปใช้
ในการทํากิจกรรมบริการ
โรงเรียน ชุมชนและการ
เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ
ประสบการณ์การบริการ
โรงเรียนและชุมชน
แบบประเมินการทํากิจกรรม
บริการโรงเรียนและชุมชน
43 
 
ระดับคุณภาพการประเมินผลระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ประเด็นการประเมิน
ระดับคุณภาพ
ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
1.1 การตั้งประเด็นคําถาม 1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่
ตนเองสนใจได้ด้วยตนเอง
2.ขอบข่ายประเด็นคําถาม
ชัดเจน ครอบคลุมข้อมูล/
ปัจจัยหรือตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ
ตนเองเชื่อมโยงกับชุมชน
ท้ อ ง ถิ่ น ป ร ะ เ ท ศ
3.คําถามมีความแปลกใหม่และ
สร้างสรรค์ มีความเป็นไปได้ใน
การแสวงหาคําตอบ
1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่
ตนเองสนใจได้โดยมีครูคอย
ชี้แนะ
2.ขอบข่ายประเด็นคําถาม
ชัดเจน ครอบคลุมข้อมูล/
ปัจจัยหรือตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ
ตนเองเชื่อมโยงกับชุมชน
ท้องถิ่น ประเทศ
3.คําถามมีความเป็นไปได้ใน
การแสวงหาคําตอบ
1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่
ตนเองสนใจได้โดยมีครูคอย
ชี้แนะ
2.ขอบข่ายประเด็นคําถามชัดเจน
แต่ยังไม่ครอบคลุมข้อมูล/ปัจจัย
หรือตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับตนเอง
เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่น
ประเทศ
3.คําถามมีความเป็นไปได้ในการ
แสวงหาคําตอบ
ใช้คําถามที่ครูชี้แนะมากําหนด
ประเด็นคําถาม
1.2 การตั้งสมมติฐาน 1.พูดหรือเขียนคาดคะเน
คําตอบล่วงหน้าโดยอาศัย
ความรู้สาขาวิชาต่าง ๆ
2.คําตอบที่คาดคะเนหรือ
สมมุติฐานแสดงการเชื่อมโยง
1.พูดหรือเขียนคาดคะเน
คําตอบล่วงหน้าโดยอาศัย
ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ
2.คําตอบที่คาดคะเนหรือ
สมมุติแสดงการเชื่อมโยง
1.พูดหรือเขียนคาดคะเนคําตอบ
ล่วงหน้าโดยอาศัยความรู้จาก
สาขาวิชาต่าง ๆ
2. คําตอบที่คาดคะเนหรือ
สมมุติฐานมีความสัมพันธ์ของ
1.พูดหรือเขียนคาดคะเนคําตอบ
ล่วงหน้าได้ โดยอาศัยความรู้จาก
สาขาวิชาต่าง ๆ
2.คําตอบหรือสมมุติฐานไม่มี
ความสัมพันธ์ของข้อมูล/ตัว
44 
 
ประเด็นการประเมิน
ระดับคุณภาพ
ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
ความสัมพันธ์ของข้อมูล/ตัวแปร
ที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน
ครอบคลุมสอดคล้องกับ
ประเด็นคําถาม สมเหตุสมผล มี
ความเป็นไปได้ในการตรวจสอบ
ความสัมพันธ์ของข้อมูล/ตัวแปร
ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ไ ด้ ชั ด เ จ น
สอดคล้องกับประเด็นคําถาม
สมเหตุสมผล มีความเป็นไปได้
ในการตรวจสอบ
ข้อมูล/ตัวแปรที่เกี่ยวข้องบ้าง
สอดคล้องกับประเด็นคําถาม แต่
มีความเป็นไปได้น้อย ในการ
ตรวจสอบ
แปรที่เกี่ยวข้อง ไม่สอดคล้องกับ
ประเด็นคําถาม มีความเป็นไปได้
น้อย ในการตรวจสอบ
2.การสืบค้นความรู้ 1.วางแผนเก็บรวบรวม/สืบค้น
ข้อมูลชัดเจนและปฏิบัติได้
วิธีการรวบรวม/สืบค้นข้อมูล
เหมาะสม
2.ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
แหล่งเรียนรู้หลากหลาย
ครอบคลุมทุกประเด็นคําตอบที่
คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้
3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ภายในกลุ่ม โดยใช้ความรู้จาก
สาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่
ครบถ้วนสมบูรณ์
1.วางแผนเก็บรวบรวม/สืบค้น
ข้อมูลชัดเจนและปฏิบัติได้
วิธีการรวบรวม/สืบค้นข้อมูล
เหมาะสม
2.ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
แหล่งเรียนรู้หลากหลาย
ครอบคลุมทุกประเด็นคําตอบที่
คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้
3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ภายในกลุ่ม โดยใช้ความรู้จาก
สาขาวิชาต่าง ๆ
1.วางแผนเก็บรวบรวม/สืบค้น
ข้อมูลชัดเจนและปฏิบัติได้
วิธีการรวบรวม/สืบค้นข้อมูล
เหมาะสมไว้
2.ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
แหล่งเรียนรู้ไม่หลากหลาย แต่
ครอบคลุมทุกประเด็นคําตอบที่
คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้
3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ภายในกลุ่ม โดยใช้ความรู้จาก
สาขาวิชาต่าง ๆ
1.ไม่มีการวางแผนหรือมีการ
วางแผนแต่ไม่สามารถนําไปปฏิบัติ
จริงได้
2. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
แหล่งเรียนรู้ไม่หลากหลาย และไม่
ครอบคลุมประเด็นคําตอบที่
คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้
3.ไม่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ภายในกลุ่ม
45 
 
ประเด็นการประเมิน
ระดับคุณภาพ
ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
4.มีการบันทึกข้อมูลเหมาะสม
และได้ข้อมูลครบทุกประเด็น
ตามเป้าหมาย โดยมีการปรึกษา
ครูอย่างสม่ําเสมอและต่อเนื่อง
4.มีการบันทึกข้อมูลเหมาะสม
และได้ข้อมูลเฉพาะประเด็น
สําคัญ โดยการปรึกษาครูเป็น
ครั้งคราว
4.มีการบันทึกข้อมูล ได้ข้อมูลใน
ประเด็นสําคัญ มีการปรึกษาครู
บ้าง
4.บันทึกข้อมูล ไม่ตรงประเด็น
สําคัญ
3.การสรุปองค์ความรู้ 1.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่
เหมาะสม
2.สังเคราะห์และสรุปองค์
ความรู้ได้อย่างชัดเจน มีการ
อภิปรายผล เปรียบเทียบ
เ ชื่ อ ม โ ย ง ค ว า ม รู้ อ ย่ า ง
สมเหตุสมผล
3.นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเสนอ
แนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่าง
เป็นระบบ
1.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่
เหมาะสม
2.สังเคราะห์และสรุปองค์
ความรู้ได้อย่างชัดเจน มีการ
อภิปรายผล เปรียบเทียบ
เชื่อมโยงความรู้
3.นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเสนอ
แนวคิด วิธีการแก้ปัญหาได้แต่
ยังไม่เป็นระบบ
1.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่
เหมาะสม
2.สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้
ได้อย่างชัดเจน มีการอภิปรายผล
เปรียบเทียบแต่ยังไม่ชัดเจน
3.นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเสนอ
วิธีการแก้ปัญหาได้แต่ยังไม่เป็น
ระบบ
1.ไม่มีการวิเคราะห์ข้อมูลหรือ
วิเคราะห์ข้อมูลไม่ถูกต้อง
2.สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้ได้
ไม่ชัดเจน
3.ไม่มีการนําองค์ความรู้ไปเสนอ
แนวคิด วิธีการแก้ปัญหา
46 
 
ประเด็นการประเมิน
ระดับคุณภาพ
ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
4.การสื่อสารและการนําเสนอ 1.เรียบเรียงและถ่ายทอด
ความคิดจากการศึกษาค้นคว้า
ได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ
2.เขียนรายงานการศึกษา
ค้นคว้าเชิงวิชาการเป็น
ภาษาไทยความยาวประมาณ
2,500 คํา เนื้อหาสาระถูกต้อง
สมบูรณ์ เข้าใจง่ายโดยอ้างอิง
แหล่งความรู้ที่เชื่อถืออย่าง
หลากหลาย
1.เรียบเรียงและถ่ายทอด
ความคิดจากการศึกษาค้นคว้า
ได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ
2.เขียนรายงานการศึกษา
ค้นคว้าเชิงวิชาการเป็น
ภาษาไทยความยาวประมาณ
2,500 คําเนื้อหาสาระถูกต้อง
สมบูรณ์ โดยอ้างอิงแหล่ง
ความรู้ที่เชื่อถือได้อย่าง
หลากหลาย
1.เรียบเรียงและถ่ายทอด
ความคิดจากการศึกษาค้นคว้าได้
อย่างชัดเจน
2.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า
เชิงวิชาการเป็นภาษาไทยความ
ยาว ประมาณ 2,500 คําเนื้อหา
สาระถูกต้อง โดยอ้างอิงแหล่ง
ความรู้ที่เชื่อถือได้
1.เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิด
จากการศึกษาค้นคว้าได้
2.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าได้
โดยอ้างอิงแหล่งความรู้
47 
 
ประเด็นการประเมิน
ระดับคุณภาพ
ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้า
ในรูปแบบเดี่ยวและกลุ่มโดยใช้
สื่อที่หลากหลายอย่างเหมาะสม
4.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ
ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากกว่า
2 ช่องทาง
3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้า
ในรูปแบบเดี่ยวหรือกลุ่มโดยใช้
สื่อที่หลากหลาย
4.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ
ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2
ช่องทาง
3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้าใน
รูปแบบเดี่ยวหรือกลุ่มโดยใช้สื่อ
ประกอบ
4.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะผ่าน
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 1 ช่องทาง
3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้าใน
รูปแบบกลุ่ม
4.ไม่มีการเผยแพร่ผลงานสู่
สาธารณะ
5.การนําความรู้ไปใช้บริการ
สังคม
1.นําความรู้จากการศึกษา
ค้นคว้าไปประยุกต์ใช้ใน
กิจกรรมที่สร้างสรรค์เป็น
ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน
2 . เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ
ประสบการณ์ที่ได้จากการลง
มือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อ
โรงเรียนและชุมชน ผ่านสื่อ
หลากหลายรูปแบบ
1.นําความรู้จากการศึกษา
ค้นคว้าไปประยุกต์ใช้ใน
กิจกรรมที่สร้างสรรค์เป็น
ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน
2 . เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ
ประสบการณ์ที่ได้จากการลง
มือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อ
โรงเรียนและชุมชน ผ่านสื่อ
รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
1.นําความรู้จากการศึกษาค้นคว้า
ไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมที่
สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อ
โรงเรียน
2 . เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ
ประสบการณ์ที่ได้จากการลง
มือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อ
โรงเรียน ผ่านสื่อรูปแบบใด
รูปแบบหนึ่ง
1.ไม่ได้นําความรู้จากการศึกษา
ค้นคว้าไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมที่
เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนหรือ
ชุมชน
2.ไม่มีการเผยแพร่ความรู้และ
ประสบการณ์ที่ได้จากการลง
มือปฏิบัติ
48 
 
การรายงานผลการเรียนรู้การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
ชั้นมัธยมศึกษาที่จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติมจํานวน 2 รายวิชา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งต้องตัดสิน
ผลการเรียนเป็นระดับผลการเรียน หรือผ่าน/ไม่ผ่านตามที่สถานศึกษากําหนดแล้ว สถานศึกษาสามารถจัดทํา
ใบรายงานผลการพัฒนาผู้เรียนเฉพาะสาระการศึกษาค้นคว้า ด้วยตนเอง (Independent Study :IS) เพื่อ
แสดงระดับคุณภาพของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ประกอบ ปพ. 6 ได้ ดังนี้
แบบรายงานผลการพัฒนาผู้เรียนการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study :IS)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่..............ปีการศึกษา...................
โรงเรียน.................................................. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต..............
ชื่อ เด็กชาย/เด็กหญิง/นาย/นางสาว......................................................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่.........................
วิชา/กิจกรรม สาระการเรียนรู้ เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน ระดับ
คุณภาพ
1.วิชาการศึกษา
ค้นคว้า
แ ล ะ ส ร้ า ง อ ง ค์
ความรู้
IS1:การศึกษาค้นคว้า
และสร้างองค์ความรู้
1.การตั้งประเด็นคําถาม/สมมติฐาน
2.การสืบค้นความรู้จากแหล่งเรียนรู้และ
สารสนเทศ
3.การสรุปองค์ความรู้
2.วิชาการสื่อสาร
และการนําเสนอ
IS2:การสื่อสารและ
การนําเสนอ
4.การสื่อสารและการนําเสนออย่างมี
ประสิทธิภาพ
3.กิจกรรมเพื่อ
สั ง ค ม แ ล ะ
สาธารณประโยชน์
IS3:การนําความรู้ไปใช้
บริการสังคม
5.การบริการสังคมและจิตสาธารณะ
กิจกรรม.....................................................
.....................................................................
สรุปภาพรวม
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของครูผู้สอน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน ลงชื่อ..................................................ฝ่ายวิชาการ
(...............................................) (...............................................)
ลงชื่อ.....................................................ผู้อํานวยการโรงเรียน
(....................................................)
49 
 
การรายงานภาพรวมระดับห้องเรียน
โรงเรียน...................................................สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา........................................................
รายวิชา.............................................ชั้น.........................................................ปีการศึกษา.............................
เลขที่ เลขประจําตัว ชื่อ – สกุล ระดับคุณภาพเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน
สรุปภาพรวม
การตั้งคําถาม
การสืบค้นความรู้
การสรุปองค์ความรู้
การสื่อสารและการนําเสนอ
การบริการสังคม/จิตสาธารณะ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15

More Related Content

PDF
หลักสูตร Is ม.ปลาย56
PDF
PA1ครูไม่มีวิทยฐานะ2.pdf
PDF
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
PDF
แบบรายงานการสร้างนวัตกรรม โสภิญญา.pdf
PDF
แบบเสนอขอรับรางวัล หนึ่งแสนครูดี
PDF
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
PPT
สื่อการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ(65)
หลักสูตร Is ม.ปลาย56
PA1ครูไม่มีวิทยฐานะ2.pdf
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
แบบรายงานการสร้างนวัตกรรม โสภิญญา.pdf
แบบเสนอขอรับรางวัล หนึ่งแสนครูดี
กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ม.1 ม.3
สื่อการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ(65)

What's hot (20)

PDF
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
PDF
พุทธประวัติ ส16101 ป.6
PDF
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
PDF
เด็กไม่ส่งการบ้าน
PDF
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
PDF
รายงานกฎกติกาเทเบิลเทนนิส
PDF
6.2 หลักการผลิตสินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพ
PDF
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
PDF
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
PDF
ใบงานกฎหมาย
PDF
ปกโครงงานคณิตศาสตร์
PDF
แผ่นพับ
DOCX
เรื่อง ภาวะโลกร้อน
PDF
สังคมศึกษา ม.ปลาย สค31001
PDF
ใบงาน2
PDF
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
PDF
การพัฒนาตนอง ชุมชน สังคม ม.ปลาย สค31003
PDF
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
PDF
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
PDF
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม3
โจทย์ปัญหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
พุทธประวัติ ส16101 ป.6
ใบงานที่ 1 รวมกลุ่มเศรษฐกิจฯ พร้อมเฉลย
เด็กไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
รายงานกฎกติกาเทเบิลเทนนิส
6.2 หลักการผลิตสินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงงานวิทยาศาสตร์ ถ่านอัดแท่งสมุนไพร1
การหางานจากพื้นที่ใต้กราฟ
ใบงานกฎหมาย
ปกโครงงานคณิตศาสตร์
แผ่นพับ
เรื่อง ภาวะโลกร้อน
สังคมศึกษา ม.ปลาย สค31001
ใบงาน2
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การพัฒนาตนอง ชุมชน สังคม ม.ปลาย สค31003
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม3
Ad

Similar to หลักสูตร Is ม.ต้น.56doc (20)

PPT
หลักสูตรสถานศึกษา พายุพงศ์1
PPT
หลักสูตรแกนกลาง2551(ล่าสุด)
PPT
หลักสูตรแกนกลาง2551(ล่าสุด)
PPT
หลักสูตรwin win1
PDF
สรุปย่อวิชาการศึกษา
PPT
การพัฒนาหลักสูตร สว
PPT
การพัฒนาหลักสูตร สว
PDF
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา (แทนตัวเดิม)
PPT
หลักสูตร51สู่ห้องเรียน
PDF
บทที่ 2 คณิตฯ
PDF
Wpกำหนดการสอน is1 พ.ค
PPTX
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน๒๕๕๑
PDF
แผ่นพับ Brochure3
PDF
Is1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
PDF
บทที่ 2++77
PPT
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑
PDF
หลักสูตรสถานศึกษา-66 แก้ไข.pdf
หลักสูตรสถานศึกษา พายุพงศ์1
หลักสูตรแกนกลาง2551(ล่าสุด)
หลักสูตรแกนกลาง2551(ล่าสุด)
หลักสูตรwin win1
สรุปย่อวิชาการศึกษา
การพัฒนาหลักสูตร สว
การพัฒนาหลักสูตร สว
ร่างหลักสูตรสถานศึกษา (แทนตัวเดิม)
หลักสูตร51สู่ห้องเรียน
บทที่ 2 คณิตฯ
Wpกำหนดการสอน is1 พ.ค
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน๒๕๕๑
แผ่นพับ Brochure3
Is1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
บทที่ 2++77
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑
หลักสูตรสถานศึกษา-66 แก้ไข.pdf
Ad

More from krupornpana55 (20)

PDF
รายงานผล กิจกรรมต่างๆ
PDF
การคงสภาพโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน
PDF
ผังการดำเนินการกิจกรรมสภานักเรียนโรงเรียน A4
PDF
ถอดบทเรียนองค์ประกอบที่ 1 การดำเนินการส่งเสริมสภานักเรียน และประชาธิปไตยในโรง...
PDF
โฟมบอร์ดห้องเรียนสีขาว
PDF
บอร์ดสิ่งแวดล้อม
PDF
บอร์ดโรงเรียนสีขาว
PDF
บอร์ดพลโลก
PDF
คุณลักษณะ
PDF
การสร้างเครือข่าย
PDF
5สิทธิเด็ก
PDF
3คุณธรรมตามวิถีประชาธิปไตย
PDF
ผังการดำเนินการกิจกรรมสภานักเรียนโรงเรียน A4
PDF
คู่มือสภานักเรียน
PDF
2บันทึกรายงานผลการเข้าร่วม
PDF
1ปกรายงานการประชุม
PDF
3ภาพประกอบการอบรม เปล่า
PDF
2บันทึกรายงานผลการเข้าร่วม
PDF
1ปกรายงานการประชุม
PDF
3ภาพประกอบการอบรม เปล่า
รายงานผล กิจกรรมต่างๆ
การคงสภาพโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน
ผังการดำเนินการกิจกรรมสภานักเรียนโรงเรียน A4
ถอดบทเรียนองค์ประกอบที่ 1 การดำเนินการส่งเสริมสภานักเรียน และประชาธิปไตยในโรง...
โฟมบอร์ดห้องเรียนสีขาว
บอร์ดสิ่งแวดล้อม
บอร์ดโรงเรียนสีขาว
บอร์ดพลโลก
คุณลักษณะ
การสร้างเครือข่าย
5สิทธิเด็ก
3คุณธรรมตามวิถีประชาธิปไตย
ผังการดำเนินการกิจกรรมสภานักเรียนโรงเรียน A4
คู่มือสภานักเรียน
2บันทึกรายงานผลการเข้าร่วม
1ปกรายงานการประชุม
3ภาพประกอบการอบรม เปล่า
2บันทึกรายงานผลการเข้าร่วม
1ปกรายงานการประชุม
3ภาพประกอบการอบรม เปล่า

หลักสูตร Is ม.ต้น.56doc

  • 1. 1    หลักสูตรมาตรฐานสากล สาระการเรียนรู้ IS1-IS3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ พุทธศักราช 2556 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13 สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 
  • 2. 2    ประกาศโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรมาตรฐานสากล โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ พุทธศักราช 2556 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคมและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นการสร้างกลยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาคุณภาพการ ศึกษาให้สามารถตอบสนองความต้องการของบุคคล สังคมไทย ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขัน และร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในสังคมโลก ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสํานึกในความเป็นไทย มีระเบียบวินัย คํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นไปตามเจตนารมณ์มาตรา 80 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตร 12 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปรากฏรายละเอียดตามคําสั่งดังแนบ ทั้งนี้ หลักสูตรมาตรฐานสากลโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 29 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2556 จึงประกาศให้ ใช้หลักสูตรโรงเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 29 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 …………………………… (นายสมพล เก้าเอี้ยน) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน …………………………… (นายภิญโญ จินตนปัญญา) ผู้อํานวยการโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
  • 3. 3    คํานํา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทางกระทรวงศึกษาธิการให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เพื่อมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาและประกอบอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ รวมทั้งมีจิตสํานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย พัฒนาสิ่งแวดล้อม ร่วมกันอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน เห็นว่าเป็นหลักสูตรแกนกลางที่มีประโยชน์ มุ่ง พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ต่อเยาวชนของท้องถิ่นและของชาติ มีความสามารถใน การสื่อสาร , ความสามารถในการคิด , ความสามารถในการแก้ปัญหา , ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต , ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ให้ถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม จึงเห็นสมควรและสนับสนุนส่งเสริมให้ ทางโรงเรียนได้นําหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมาใช้และจัดการเรียน การสอนเพื่อพัฒนาเด็ก และเยาวชนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในลําดับต่อไป (นายสมพล เก้าเอี้ยน) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์
  • 4. 4    2. โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 2.1 โครงสร้างเวลาเรียนโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ ปีการศึกษา 2556 กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม เวลาเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.1 ม.2 ม.3 ม.4-6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐาน รวม 880 (22 นก) 880 (22 นก) 880 (22 นก) 1,640(41 นก) ภาษาไทย 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก) คณิตศาสตร์ 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก) วิทยาศาสตร์ 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก) สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก) ประวัติศาสตร์ 40 (1 นก) 40 (1 นก) 40 (1 นก) 80(2 นก) สุขศึกษาและพลศึกษา 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 120(3 นก) ศิลปะ 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 120(3 นก) การงานอาชีพและเทคโนโลยี 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 120(3 นก) ภาษาต่างประเทศ 120 (3 นก) 120 (3 นก) 120 (3 นก) 240(6 นก) รายวิชาเพิ่มเติม รวม 400(10 นก) 520(13 นก) 400(10 นก) 1,800(45 นก) พลศึกษา-เพศศึกษา 40 (1 นก) 40 (1 นก) - 60 (1.5 นก) ภาษาจีน 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) ภาษาอังกฤษ 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) 80 (2 นก) อาเซียนศึกษา 40 (1 นก) - - 40 (1 นก) IS1-IS2 - 120 (3 นก) - 120 (3 นก) เลือกตามความสนใจ 8 กลุ่มสาระ 160 (4 นก) 160 (4 นก) 160 (4 นก) - รายวิชาและกิจกรรมไม่คิดหน่วยกิต กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 120 กิจกรรมนักเรียน 60 60 60 180* กิจกรรมชุมนุม * กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี กิจกรรม 5ส กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณาประโยชน์ 20 20 20 20 รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 120 120 360 รวมเวลาเรียน 1,600 ชั่วโมง/ปี 1,600 ชั่วโมง/ปี 1,600 ชั่วโมง/ปี รวม 3 ปี 4,800 ชั่วโมง
  • 5. 5    โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2556 ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ที่ รหัสวิชา รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน ที่ รหัสวิชา รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน รายวิชาพื้นฐาน 11(440) รายวิชาพื้นฐาน 11(440) 1 ท 22101 ภาษาไทย 3 1.5(60) 1 ค 21102 ภาษาไทย 4 1.5(60) 2 ค 22101 คณิตศาสตร์ 3 1.5(60) 2 ค 21102 คณิตศาสตร์ 4 1.5(60) 3 ว 22101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน 3 1.5(60) 3 ว 21102 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน 4 1.5(60) 4 ส 22101 สังคมศึกษา 3 1.5(60) 4 ส 21103 สังคมศึกษา 4 1.5(60) 5 ส 22102 ประวัติศาสตร์ 3 0.5(20) 5 ส 21104 ประวัติศาสตร์ 4 0.5(20) 6 พ 22101 สุขศึกษา 3 0.5(20) 6 พ 21103 สุขศึกษา 4 0.5(20) 7 พ 22102 พลศึกษา 3 0.5(20) 7 พ 21104 พลศึกษา 4 0.5(20) 8 ศ 22101 ดนตรี 1 1.0(40) 8 ศ 21102 ดนตรี 2 1(40) 9 ง 22101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 4 (งานเกษตร) 0.5(20) 9 ง 21102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 6 (งานช่าง) 0.5(20) 10 ง 22102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 5 (คอมพิวเตอร์) 0.5(20) 10 ง 21103 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 7 (คอมพิวเตอร์) 0.5(20) 11 อ 22101 ภาษาอังกฤษ 3 1.5(60) 11 อ 21102 ภาษาอังกฤษ 4 1.5(60) รายวิชาเพิ่มเติมเรียนทุกคน 2.5(100) รายวิชาเพิ่มเติมเรียนทุกคน 1.0(40) 12 จ 22201 ภาษาจีน 5 1.0(40) 12 จ 22202 ภาษาจีน 6 1.0(40) 13 พ 22201 เพศศึกษา 2 0.5(20) 13 พ 22202 พลศึกษาเพิ่มเติม 1 0.5(20) 14 อ 22201 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน 1 1.0(40) 14 อ 22202 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน 2 1.0(40) รายวิชาเพิ่มเติมเลือกเรียนตามความสนใจ 3.5 (140) รายวิชาเพิ่มเติมเลือกเรียนตามความสนใจ 1.5(60) 14 I 22201 การศึกษาค้นคว้า(IS1) 1.5(60) 14 I 22201 การสื่อสาร(IS2) 1.5(60) 15 ค 22201 คณิตศาสตร์ 3 1.0(40) 15 ค 22202 คณิตศาสตร์ 4 1.0(40) 16 ว 22201 โครงงานวิทยาศาสตร์ 1.0(40) 16 ว 22202 วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม 1.0(40) 17 ศ 22201 จิตกรรม 1 2.0(80) 17 ศ 22203 จิตกรรม 2 2.0(80) 18 ง 22201 งานมาลัย 1 2.0(80) 18 ง 22202 งานมาลัย 2 2.0(80) 19 ง 22202 งานเกษตร 1 2.0(80) 19 ง 22202 งานเกษตร 2 2.0(80) 20 ง 22203 คอมพิวเตอร์ 3 2.0(80) 20 ง 22204 คอมพิวเตอร์ 4 2.0(80) รายวิชาเพิ่มเติมไม่คิดหน่วยกิต (3 คาบ) รายวิชาเพิ่มเติมไม่คิดหน่วยกิต (3 คาบ) 21 ท 20201 หลักการใช้ห้องสมุด 1 คาบ 21 ท 20201 หลักการใช้ห้องสมุด 1 คาบ โฮมรูมและอบรม 2 คาบ โฮมรูมและอบรม 2 คาบ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 22 แนะแนว 1 คาบ 22 แนะแนว 1 คาบ 23 ลูกเสือ-เนตรนารี 1 คาบ 23 ลูกเสือ-เนตรนารี 1 คาบ 24 กิจกรรมชุมนุม 1 คาบ 24 กิจกรรมชุมนุม 1 คาบ 25 กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและ สาธารณประโยชน์ ทํานอกเวลา 25 กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและ สาธารณประโยชน์ ทํานอกเวลา รวมเวลาเรียน 40 คาบ รวมเวลาเรียน 40 คาบ
  • 6. 6    การจัดการเรียนรู้โรงเรียนมาตรฐานสากล โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ การพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลที่กําหนด สถานศึกษาควรส่งเสริมให้ครูผู้สอน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากลจัดทําหน่วยการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม กระบวนการ 5 ขั้นตอน หรือบันได 5 ขั้น ของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล ทั้งในรายวิชา พื้นฐาน รายวิชาเพิ่มเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งกระบวนการ 5 ขั้นตอน หรือบันได 5 ขั้น ของการ จัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล เป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่อง ได้แก่ 1. การตั้งประเด็นคําถาม / สมมุติฐาน 2. การสืบค้นความรู้จากแหล่งการเรียนรู้และสารสนเทศ 3. การสรุปองค์ความรู้ 4. การสื่อสารและการนําเสนออย่างมีประสิทธิภาพ 5. การบริการสังคมและจิตสาธารณะ 1. การตั้งประเด็นคําถาม/ Formulation กระบวนการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ และได้รับการ พัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ บรรลุตามเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล การจัดการเรียนรู้ IS (Independent Study) ในโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับมัธยมศึกษา สามารถจัดได้ 2 ลักษณะ คือ จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม 2 รายวิชา ได้แก่ 1) รายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้าง องค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) เป็นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้และทักษะ ตาม IS1 ผู้เรียนเลือกประเด็นที่สนใจในการเรียนรู้ เพื่อกําหนดประเด็นปัญหา ตั้งสมมุติฐาน ค้นคว้า แสวงหา ความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ และ 2) รายวิชาการสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2) เป็นการเรียนรู้ต่อเนื่องจาก รายวิชา IS1 ผู้เรียนนําสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้าจากรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้มาเขียนรายงาน หรือเอกสารทางวิชาการ และนําเสนอเพื่อสื่อสารถ่ายทอดข้อมูลความรู้นั้นให้ผู้อื่นเข้าใจ โดยจัดทําเป็นผลงาน การเขียนทางวิชาการ 1 ชิ้น และการสื่อสารนําเสนอสิ่งที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นภาษาไทย 2,500 คํา มัธยมศึกษาตอนปลายเป็นภาษาไทย 4,000 คํา หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คํา และจัดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity: IS3) ซึ่งเป็นการนําสิ่งที่เรียนรู้ จากรายวิชาเพิ่มเติมทั้ง 2 รายวิชาข้างต้น ไปประยุกต์ใช้ในการทําประโยชน์ต่อสังคม ดังตัวอย่างการจัดการ เรียนรู้ ต่อไปนี้
  • 7. 7    รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) ประกอบด้วยสาระการค้นคว้าและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้เรียนได้พิสูจน์ประเด็นความรู้ ข้อค้นพบหรือสมมติฐานของความรู้ที่ได้รับรู้ และส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ แหล่งที่มาของความรู้ รวมทั้งจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเรียนรู้กระบวนการรับรู้ในลักษณะที่เป็นวัฒนธรรมของ การรับรู้และการรับรู้ที่ใช้ความรู้สึก และปลูกฝังการสร้างความเข้าใจที่เป็นสากลให้แก่ผู้เรียน การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนแสดง ความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ ตั้งสมมติฐานและหาคําตอบเกี่ยวกับสิ่งที่รู้ ตั้งคําถาม ให้คําอธิบายแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ รู้จักหาทางออกในการแก้ปัญหาได้อย่างกระจ่างชัด เชื่อมโยงความรู้ เปรียบเทียบวิธีการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชาต่าง ๆ และวิธีการรับความรู้ (Ways of Knowing) 4 วิธี ได้แก่ 1) วิธีการสร้างความรู้จากการสัมผัสรับรู้ 2) วิธีการสร้างความรู้จากการใช้ภาษา 3) วิธีการสร้างความรู้ จากการให้เหตุผล และ 4) วิธีการการสร้างความรู้จากสิ่งที่เป็นอารมณ์ แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูผู้สอนร่วมกับผู้เรียนในการกําหนด หรือตั้งประเด็นความรู้ หรือหัวข้อเกี่ยวกับ Public Issues หรือ Global Issues สําหรับการศึกษาค้นคว้า เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะรับรู้ถึงจุดหมายและมีแรงจูงใจในการ เรียนรู้บทเรียน ผู้สอนสามารถเลือกใช้กิจกรรมต่าง ๆ ในการจัดการเรียนรู้ เช่น 1.1 การเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้เรียนซักถาม หรือตั้งคําถาม 1.2 การฉายภาพนิ่งให้ผู้เรียนชมและติดตาม 1.3 การชวนสนทนา เพื่อให้ผู้เรียนตั้งประเด็นที่ต้องการรู้ 1.4 การกระตุ้นความสนใจด้วยเกม เพลง ภาพ ฯลฯ 1.5 การอ่าน / ฟังข่าวจากหนังสือพิมพ์ 1.6 การตั้งประเด็นอภิปราย / คําถามสร้างพลังความคิด 1.7 การยกตัวอย่างประโยค คําพังเพย บทกวี 1.8 การกําหนด หรือการตั้งประเด็นความรู้ หรือหัวข้อเกี่ยวกับ Public Issues หรือ Global Issues 2. ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างองค์ความรู้ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 “Ways of Knowing” วิถีการรับรู้ ความรู้ ส่วนที่ 2 “Areas of Knowledge” ศาสตร์ / สาขา แขนงความรู้ ส่วนที่ 3 การเรียบเรียงข้อมูล ข้อค้นพบ ความคิด ความคิดเห็น การให้เหตุผลโต้แย้ง และสนับสนุน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ ถึงการกระบวนการสร้างองค์ความรู้ ครูผู้สอนควรมีเทคนิคการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้แก่ 2.1 การอภิปรายกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2.2 การระดมพลังความคิด 2.3 การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จําลอง
  • 8. 8    3. ปรับเปลี่ยนความคิด เป็นขั้นตอนสําคัญซึ่งเป็นหัวใจของขั้นตอนการเรียนรู้ ผู้เรียนจะศึกษา ค้นคว้าตามประเด็นความรู้ หรือหัวข้อที่ครอบคลุม Public Issues และ Global Issues ครูผู้สอนควรมีเทคนิค การจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้แก่ 3.1 ทําความกระจ่างและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ครูผู้สอนจะกระตุ้นให้ผู้เรียนดําเนิน กิจกรรมเพื่อสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ โดยใช้วิธีการ ดังนี้ - ค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ - สัมภาษณ์ผู้รู้ - ปฏิบัติการค้นหา (ทดลอง สืบเสาะ สังเกต สํารวจ) - ร่วมมือเพื่อเขียนคําอธิบาย - แบ่งงานความรับผิดชอบภายในกลุ่ม 3.2 สร้างความคิดใหม่ ผู้เรียนนําผลการอภิปรายและสาธิตที่เป็นผลจากการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันมากําหนดเป็นความคิดใหม่ หรือความรู้ใหม่ โดยใช้วิธีการ ดังนี้ - เขียนด้วยแผนผังความคิด - เขียนโครงงาน / โครงการ - เขียนบรรยาย / เขียนรายงาน - นําเสนอแนวคิดใหม่ - นําเสนอรูปแบบนวัตกรรมใหม่ 3.3 ประเมินความคิดใหม่ ผู้เรียนออกแบบดําเนินการตรวจสอบความรู้ ความคิดใหม่ ที่ผู้เรียนสร้างขึ้น โดยใช้วิธีการ ดังนี้ - อภิปราย - ทดสอบผลงาน - ทดสอบความคิดของกลุ่ม - ทดสอบความรู้ 3.4 นําความคิดไปใช้ เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนใช้แนวคิด หรือความรู้ความเข้าใจที่ได้พัฒนาขึ้น ใหม่ในสถานการณ์ต่าง ๆ จนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย เป็นกิจกรรมที่ต้องการให้ผู้เรียนได้ประมวลองค์ ความรู้เพื่อการนําไปใช้ประโยชน์ โดยใช้วิธีการ ดังนี้ - สรุปแผนผังความคิดเกี่ยวกับความรู้ใหม่ - นําเสนอโครงงาน / โครงการที่ผู้เรียนคิดค้น / ประดิษฐ์ขึ้น - บรรยายสรุปแนวคิดใหม่ / การสร้างสถานการณ์ใหม่ - จัดนิทรรศการ / สาธิตผลงานของกลุ่ม - แสดงบทบาทสมมติ / โต้วาทีเพื่อสรุปการแก้ปัญหา 4. สะท้อนความคิด /ทบทวน เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนได้ประเมินและพัฒนาความคิดอย่างรอบคอบ และต่อเนื่องจนสามารถประเมินผลได้ ประกอบด้วย
  • 9. 9    4.1 ประเมินผลงาน 4.2 เสนอแนะความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงและพัฒนา 4.3 วางแผนเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บทบาทของผู้สอน 1. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสังเกต เพื่อให้สามารถมองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน 2. มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน แนะนํา ถามให้คิด เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบ หรือสร้างความรู้ ความเข้าใจได้ด้วยตนเอง 3. สร้างแรงจูงใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน ช่วยให้ผู้เรียนคิดค้นต่อไป ฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะการทํางาน เป็นกลุ่ม 4. เป็นผู้ชี้แนะไม่ใช่ผู้ชี้นํา กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดมากกว่าบอกความรู้ 5. ประเมินความคิดรวบยอดของผู้เรียน ตรวจสอบความคิดและทักษะการคิด บทบาทของผู้เรียน 1. ค้นคว้า แสวงหาความรู้ ฝึกฝนวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นเจ้าของบทเรียน ลงมือ ปฏิบัติจริง 2. กระตือรือร้นในการเรียนรู้ กล้าแสดงออก กล้านําเสนอความคิดอย่างสร้างสรรค์ 3. มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนด้วยกันและกับครูผู้สอน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นผู้นําและผู้ตามที่ดี 4. ทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม 5. เชื่อมโยงความรู้เดิมเข้ากับความรู้ใหม่ มีผลงานที่สร้างสรรค์ 6. เคารพกติกาทางสังคม รับผิดชอบต่อส่วนรวม 7. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ รักการอ่าน กล้าซักถาม 8. บันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ นําความรู้สู่การปฏิบัติได้จริง
  • 10. 10    คําอธิบายรายวิชา รายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) รายวิชาเพิ่มเติม บูรณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ตามศักยภาพ I 33201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จํานวน 1.5 หน่วยกิต ------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์การตั้งประเด็น / คําถามในเรื่องที่สนใจ การตั้งสมมติฐาน การค้นคว้า การแสวงหาความรู้ข้อมูล การออกแบบ การวางแผนรวบรวมข้อมูล การใช้กระบวนการกลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ การสังเคราะห์ การสรุปองค์ความรู้และการเสนอวิธีคิดแก้ปัญหา ที่เป็นระบบ ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา / ตั้งคําถามในเรื่องที่สนใจโดยเริ่มจากตนเอง เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่น และประเทศ ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่าง ๆ ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับ สมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ออกแบบ วางแผน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ วิธีการที่เหมาะสม สังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ด้วย กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติและกระบวนการกลุ่มในการ วิพากษ์ เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้า แสวงหาความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปราย เปรียบเทียบเชื่อมโยงองค์ ความรู้และมีทักษะการนําเสนอการศึกษาค้นคว้าและนําองค์ความรู้ไปแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เห็นประโยชน์ และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ผลการเรียนรู้ 1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชนท้องถิ่น ประเทศ 2. ตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือก จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูลได้ 6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการที่เหมาะสม 7. สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม 8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ 9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
  • 11. 11    โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสําคัญ เวลา น้ําหนักคะแนน 1 ไขข้อสงสัย 1. ตั้งประเด็นปัญหา โดย เลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจาก ตนเอง ชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ 2. ตั้งสมมติฐานประเด็น ปัญหาที่ตนเองสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน ใช้ กระบวนการรวบรวมข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ - การตั้งคําถาม ในเรื่องที่สนใจเริ่ม จากตัวเอง เชื่อมโยง กับชุมชน ท้องถิ่น และประเทศ -การตั้งสมมติฐาน และให้เหตุผล โดย ใช้ความรู้จากศาสตร์ สาขาต่าง ๆ 5 - 9 15 2 ห ล า ก ห ล า ย จ า ก แหล่งเรียนรู้ 4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหา ความรู้เกี่ยวกับประเด็น ที่เลือก จากแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลาย - การค้นคว้า แสวงหาความรู้ เกี่ยวกับสมมติฐาน ที่ตั้งไว้ 10 - 15 20 3 เปิดประตูสู่ความจริง 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ของแหล่งที่มาของข้อมูลได้ 6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วย สถิติที่เหมาะสม - วิเคราะห์ ความน่าเชื่อถือของ ข้อมูล 10 - 15 25 4 ประมวลทุกสิ่งที่ค้นพบ 6. วิเครา ะห์ข้อค้นพบ ด้วยสถิติที่เหมาะสม 7. สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการกลุ่ม 8. เสนอแนวคิด การแก้ ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วย องค์ความรู้จากการค้นพบ 9. เห็นประโยชน์และคุณค่า ของการศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเอง - การเปรียบเทียบ / เชื่อมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปรายเพื่อให้เห็น ประโยชน์และคุณค่า ข อ ง ก า ร ศึ ก ษ า ค้นคว้าด้วยตัวเอง 15 - 21 40 รวม 40 - 60 100
  • 12. 12    การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ไขข้อสงสัย รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 5 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ 2. ตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) - การตั้งคําถามในเรื่องที่สนใจเริ่มจากตัวเอง เชื่อมโยง กับชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ - การตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จาก ศาสตร์สาขาต่าง ๆ - การออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูล คําถามสําคัญ - จะตั้งคําถามในเรื่องที่สนใจให้เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่นและ ประเทศได้อย่างไร - จะตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขา ต่าง ๆ ได้อย่างไร - จะออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลได้ อย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) - การกําหนดประเด็นความรู้ - ธรรมชาติของความรู้ - ลักษณะของความรู้ - แหล่งเรียนรู้ - วิธีการสร้างความรู้ 1) การสร้างความรู้จากความรู้สึก 2) การสร้างความรู้จากภาษา 3) การสร้างความรู้จากเหตุผล 4) การสร้างความรู้จากอารมณ์ - ทฤษฎีของกลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ - ศาสตร์ / สาขาวิชาของความรู้ - นักคิด / บิดาศาสตร์ของแต่ละสาระการเรียนรู้ - หลักการตั้งวัตถุประสงค์และสมมุติฐาน - วิธีการนําเสนอ ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ) - การคิดวิเคราะห์ - การคิดเปรียบเทียบ - การคิดเชื่อมโยง - การคิดสร้างสรรค์ - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ - กระบวนการปฏิบัติ - กระบวนการกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทํางาน การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน 1. การออกแบบโครงร่างการศึกษาค้นคว้า 2. ผลงานที่ปรากฏจริง เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน)
  • 13. 13    1. มีองค์ประกอบครบ (ขอบเขตของข้อมูล แผนการจัดเก็บข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล) 2. มีความสัมพันธ์กันอย่างสมเหตุสมผลระหว่างขอบเขตของข้อมูล แผนการจัดเก็บข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล 3. สามารถนําไปใช้ได้จริง ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. ดูตัวอย่างประเด็นความรู้จากสาระวิชาพื้นฐาน 2. ร่วมกันวิเคราะห์ประเด็นความรู้ ตั้งสมมติฐาน และข้อสันนิษฐานของประเด็นความรู้ 3. ตั้งคําถามกระตุ้นให้เหตุผล ความคิดต่างมุม เพื่อแก้ไขปัญหาโดยใช้สาขาวิชาต่าง ๆ โดยใช้วิธีการโต้แย้งสนับสนุนและ โต้แย้งคัดค้าน 4. แบ่งกลุ่มนักเรียนค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ตามสาขาวิชาต่าง ๆ 5. นําเสนอข้อมูลจากการค้นคว้า ระบุแหล่งเรียนรู้ ความคิด เหตุผล วิธีการแก้ปัญหาในแต่ละสาขาวิชา 6. ร่วมกันสรุปเชื่อมโยงและเปรียบเทียบ วิธีการค้นคว้าหาความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. ตัวอย่างประเด็นความรู้ 2. ตัวอย่างแหล่งการเรียนรู้
  • 14. 14    หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ หลากหลายจากแหล่งเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 10 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือกจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) การค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่ศึกษา นํามาสู่การตั้งสมมติฐานได้ คําถามสําคัญ - จะค้นคว้า แสวงหาความรู้ได้อย่างไร - จะนําความรู้มาตั้งสมมติฐานได้อย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) - วิธีการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย - การกําหนดประเด็นความรู้จากเรื่องที่ศึกษาค้นคว้า - การตั้งสมมติฐาน ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ) - ค้นคว้าความรู้ในประเด็นที่ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลาย - กําหนดประเด็นความรู้จากเรื่องที่สนใจศึกษาค้นคว้า - ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้า - ทํ า ง า น ร่ ว ม กั บ ผู้ อื่ น ต า ม ก ร ะ บ ว น ก า ร ก ลุ่ ม - วิพากษ์ความน่าเชื่อถือของข้อมูล - นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานงานของตน - นําประเด็นความรู้จากเรื่องที่ศึกษามาตั้งสมมติฐาน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทํางาน การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน - แฟ้มผลงานที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้า - สมมติฐาน เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน) - ความหลากหลายของแหล่งข้อมูล - กระบวนการรวบรวมมีระบบชัดเจน สะดวกต่อการใช้ ตรวจสอบได้ ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ - แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล - แบบบันทึกการตรวจสอบคุณภาพของข้อมูล - แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. ศึกษาวิธีการค้นคว้า / แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย 2. ตรวจสอบความครบถ้วนของข้อมูล / สารสนเทศในประเด็นที่ศึกษาจากแหล่งสืบค้นข้อมูลที่หลากหลาย 3. แบ่งกลุ่มนักเรียนฝึกทักษะการตรวจสอบข้อมูล / สารสนเทศ ด้วยตนเอง 4. วางแผนจัดเก็บข้อมูลในประเด็นที่ศึกษา 5. จัดหมวดหมู่ข้อมูล / สารสนเทศ เรียงลําดับตามที่วางแผนให้เป็นระบบ 6. ตรวจทาน / วิพากษ์นําผลไปปรับปรุงข้อมูล / สารสนเทศรายบุคคล 7. นําความรู้จากประเด็นที่ศึกษามาตั้งสมมติฐาน สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. ตัวอย่างการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นระบบ 2. ตัวอย่างการตั้งสมมติฐาน
  • 15. 15    หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เปิดประตูสู่ความจริง รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 10 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูลได้ 6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยสถิติที่เหมาะสม ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลจะช่วยให้ ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มีคุณภาพ คําถามสําคัญ - จะมีวิธีตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้อย่างไร - จะนําสถิติพื้นฐานมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) - การตรวจความน่าเชื่อถือของข้อมูล - สถิติพื้นฐาน ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ) - ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล - นําสถิติพื้นฐานมาวิเคราะห์ข้อมูล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ซื่อสัตย์ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมั่นในการทํางาน 5. จิตสาธารณะ การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคล เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน(ระบุประเด็นประเมิน) - ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่สืบค้น - ความถูกต้อง / ครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล - กระบวนการรวบรวมมีระบบชัดเจน สะดวกต่อการใช้ ตรวจสอบได้ ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ - แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล - แบบบันทึกการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล - แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน - แบบบันทึกการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. ศึกษาการตรวจสอบความน่าเชื่อของข้อมูล 2. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล 3. รวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เตรียมข้อมูลวิเคราะห์ 4. เลือกสถิติพื้นฐานที่เหมาะสมกับข้อมูลที่วิเคราะห์ 5. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 6. ร่วมกันตรวจสอบผลการวิเคราะห์ข้อมูล 7. วิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการตรวจสอบ 8. นําผลการวิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมาปรับ / พัฒนา 9. รวบรวมผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนําไปสังเคราะห์สรุปเป็นองค์ความรู้ สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ 2. เครื่องคอมพิวเตอร์
  • 16. 16    หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ประมวลทุกสิ่งที่ค้นพบ รายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 15 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการรที่เหมาะสม 7. สังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม 8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ 9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) การวิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการที่เหมาะสม การสังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ และเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการ ค้นพบ เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้า ด้วยตนเอง คําถามสําคัญ - จะใช้วิธีการที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ข้อค้นพบได้อย่างไร - จะสังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนกลุ่มได้อย่างไร - จะเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้ จากการค้นพบได้อย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) - การใช้วิธีการในการวิเคราะห์ข้อค้นพบ - การเปรียบเทียบ / เชื่อมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปรายเพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าของ การศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง - การเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วย องค์ความรู้จากการค้นพบ ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ) - ใช้วิธีการในการวิเคราะห์ข้อค้นพบ - เปรียบเทียบ / เชื่อมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปราย เพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง - เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้ จากการค้นพบ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. วินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทํางาน 4. รักความเป็นไทย 5. จิตสาธารณะ การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน เขียนรายงานนําเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาจากการศึกษาค้นคว้า เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน) - ความถูกต้อง / ครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล / สารสนเทศ - ความถูกต้องและน่าเชื่อถือของข้อค้นพบที่นําเสนอ - กระบวนการรวบรวมมีระบบชัดเจน ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ - แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์สรุปองค์ความรู้
  • 17. 17    - แบบบันทึกการตรวจสอบคุณภาพงานเขียน - แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. รวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เตรียมข้อมูลวิเคราะห์ 2. เลือกสถิติที่เหมาะสมกับข้อมูลที่วิเคราะห์ 3. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม 4. ร่วมกันตรวจสอบและวิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 5. นําผลการวิพากษ์ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมาปรับ / พัฒนา 6. รวบรวมผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนําไปสังเคราะห์สรุปเป็นองค์ความรู้ สื่อ / แหล่งเรียนรู้ - แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ - เครื่องคอมพิวเตอร์
  • 18. 18    รายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2) รายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2) เป็น สาระการเรียนรู้ที่จัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนนําข้อสรุป ข้อค้นพบใหม่ ความคิดใหม่ หรือองค์ความรู้ ใหม่ที่ได้จากการศึกษาศึกษาค้นคว้าและการสร้างองค์ความรู้ในสิ่งที่สนใจแล้วเรียบเรียงนําเสนอความคิด ข้อคิดเห็น และข้อเสนอเชิงวิชาการ โดยใช้ภาษาอย่างถูกต้อง และนําเสนอองค์ความรู้ด้วยด้วยวิธีการที่ หลากหลายและเหมาะสม การจัดการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถ สื่อสารและนําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุป หรือองค์ความรู้ ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า ด้วยวิธีการที่หลากหลาย และเหมาะสม แนวการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนจะต้องให้ความสําคัญกับ “การจัดโครงร่างของผลงาน” เนื่องจากจะช่วยให้ผู้เรียนจัดลําดับ เนื้อหาของการเขียนรายงานการค้นคว้าและการนําเสนอได้ดี โดยดําเนินการ ดังนี้ 1. การรายงานการค้นคว้าของผู้เรียน ให้ผู้เรียนนําหัวข้อเรื่องจากข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่ที่ตนเองสนใจเรียนรู้ เป็นข้อมูลในการนําเสนอ จากนั้นครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมี ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ - การเรียบเรียงหัวข้อการศึกษาค้นคว้า (Research Question) - แหล่งค้นคว้า / แหล่งการเรียนรู้ - การกําหนด / เขียนโครงร่าง (Outline) 2. การกําหนดโครงร่างของผลงาน การเขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้จากแหล่ง การเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อเรื่องที่ผู้เรียนได้เลือกอย่างอิสระ จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ คํา นํา (Introduction) เนื้อเรื่อง (Body /Development) และบทสรุป (Conclusion) 3. การนําเสนอการนําเสนองาน เป็นทักษะที่มีความสําคัญอย่างยิ่งสําหรับการนําเสนอ ผลการศึกษาค้นคว้า ตามองค์ประกอบ 3 ประการ ได้แก่ 3.1 การกําหนดวัตถุประสงค์และวิเคราะห์ผู้ฟัง 3.2 การวางโครงสร้างเนื้อหาการนําเสนอ 3.3 วิธีการนําเสนอ การวิเคราะห์ผู้ฟัง เป็นการวิเคราะห์ความต้องการ ความสนใจ หรือความกังวลใจของผู้ฟัง รวมถึงความเข้าใจในสไตล์ ความชอบของผู้ฟัง เพื่อให้สามารถออกแบบโครงสร้างและเนื้อหาการนําเสนอ รวมทั้งการใช้สื่อประกอบที่มีความเหมาะสม สอดคล้องและถูกใจผู้ฟัง บทบาทของผู้สอน 1. ส่งเสริม กระตุ้น สนับสนุน ชี้แนะให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการคิด ค้นคว้าเกี่ยวกับหัวข้อ / เรื่องที่ผู้เรียน เลือกค้นคว้า
  • 19. 19    2. ช่วยเหลือ แนะนําผู้เรียนในการค้นคว้าความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ 3. ช่วยเหลือแนะนําผู้เรียนสามารถเขียนรายงานการค้นคว้าได้อย่างถูกต้องตามเกณฑ์กําหนด 4. การนําเสนอ ครูควรดําเนินการ ดังนี้ 4.1 นําเสนอด้วยสื่อรูปธรรม เช่น รูปภาพ ของจริง กราฟ ตาราง แผนภูมิ ภาพสัญลักษณ์ สื่อ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วให้ผู้เรียนได้พรรณนาถึงสิ่งที่พบ 4.2 ควรใช้คําถามที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดอย่างหลากหลายและคิดอย่างสร้างสรรค์ สามารถ อธิบายความคิดของตนออกมา ด้วยการพูด การเขียน และให้ผู้เรียนได้ตั้งคําถามและหาคําตอบด้วยตนเองตาม ความสนใจ 4.3 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงแนวคิดของตนเอง 4.4 จัดกลุ่มให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดการสื่อสาร ในรูปแบบของการอธิบายแนวคิดและการอภิปรายในกลุ่ม 4.5 ใช้การชี้แนะทางตรงและชี้แนะทางอ้อม เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ และเห็น เป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น บทบาทของผู้เรียน 1. กําหนดแผนการทํางาน วันส่งงาน และการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งค้นคว้า รวมทั้ง การวางแผนการเขียนเรียบเรียงผลงาน 2. ศึกษาและฝึกการเขียนรายงานเชิงวิชาการแต่ละองค์ประกอบให้ถูกต้องสมบูรณ์ 3. เรียบเรียง รวบรวมโครงร่าง (Rough draft) ของรายงานให้ครบองค์ประกอบ และฝึกการ ตรวจสอบ (Edit) รายงานโดยใช้สัญลักษณ์ในการตรวจสอบ 4. จัดทําสื่อประกอบการนําเสนอ และเลือกวิธีการนําเสนอที่เหมาะสมกับผู้อ่าน/ผู้ฟัง
  • 20. 20    คําอธิบายรายวิชา การสื่อสารและการนําเสนอ (Communication and Presentation: IS2) รายวิชาเพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จํานวน 1.5 หน่วยกิต เงื่อนไขการเรียน: ผู้เรียนต้องผ่านการเรียนรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้มาก่อน ---------------------------------- ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจากข้อมูลองค์ความรู้จากการศึกษา ค้นคว้าในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation: IS1) โดย เขียนโครงร่าง บทนํา เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิงวิชาการ โดยใช้คําจํานวน 2,500 คํา มีการอ้างอิง แหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการ นําเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อประกอบที่ หลากหลาย และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการ สื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็น ประโยชน์แก่สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง 2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว 2,500 คํา 3. นําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual presentation) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่ออุปกรณ์ในการนําเสนอได้อย่างเหมาะสม 4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ 5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้แก่สาธารณะ
  • 21. 21    โครงสร้างรายวิชาเพิ่มเติมการสื่อสารและการนําเสนอ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสําคัญ ชั่วโมง น้ําหนักคะแนน 1 เตรียมความพร้อม 1. วางโครงร่างการเขียน ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ์ องค์ประกอบและวิธีการ เขียนโครงร่าง 5. เห็นประโยชน์และ คุณค่าในการสร้างสรรค์ งานและถ่ายทอดสิ่งที่ เรียนรู้แก่สาธารณะ การเชื่อมโยงทบทวนความรู้จาก การศึกษาค้นคว้า การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ มาสู่การสื่อสาร และการนําเสนอ มาเขียนสรุปความให้เป็นความ เรียงเชิงวิชาการพร้อมอ้างอิงตาม หลักวิชาการเป็นพื้นฐานสําคัญ ของการสื่อสารและการนําเสนอให้ เหมาะสมกับผู้อ่าน / ผู้ฟัง 4 10 2 ฝึ ก ซ้ อ ม เ ขี ย น โครงร่าง 1. วางโครงร่างการเขียน ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ์ องค์ประกอบและวิธีการ เขียนโครงร่าง การฝึกเขียนโครงร่างรายงาน เชิงวิชาการ ซึ่งมีองค์ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง ความนํา วัตถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขตการศึกษา เนื้อหา วิธีการศึกษาและการเก็บ รวบรวมข้อมูล เป็นการวางแผน การเขียนรายงานเชิงวิชาการอย่าง เป็นระบบ และการตรวจสอบทั้ง ด้วยตนเอง และเพื่อนช่วย ตรวจสอบโดยใช้สัญลักษณ์ในการ ตรวจสอบช่วยให้รายงานเชิง วิชาการนั้นถูกต้องแม่นยําและ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 8 20 3 สร้างผลงานเขียน 2. เขียนรายงานการศึกษา ค้ น ค ว้ า เ ชิ ง วิ ช า ก า ร ภาษาไทย ความยาว 2,500 คํา การถ่ายโอนองค์ความรู้จาก การศึกษา ค้นคว้า และข้อค้นพบ โดยการรายงานที่ใช้รูปแบบการ เขียนรายงานเชิงวิชาการได้ครบ องค์ประกอบและถูกต้องตาม หลักวิชาการเป็นการสื่อสารที่มี ประสิทธิภาพ 28 40
  • 22. 22    หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสําคัญ ชั่วโมง น้ําหนักคะแนน 4 เพียรนําเสนอ 3. นําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่ เลือกในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual presentation) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อ อุปกรณ์ในการ นําเสนอได้อย่างเหมาะสม 4. เผยแพร่ผลงานสู่ สาธารณะ การนําเสนอผลงานจากการศึกษา ค้นคว้า ข้อค้นพบโดยมีการเตรียม ความพร้อมของผู้นําเสนอ การเลือกรูปแบบประเภทสื่อ ประกอบการนําเสนอให้เหมาะสม และสอดคล้องกับตามความ ต้องการ ความสนใจ ความชื่นชอบ ของผู้ฟัง ช่วยให้การเผยแพร่ ผลงานได้อย่างมีประสิทธิผล 20 30 รวม 60 100
  • 23. 23    การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เตรียมความพร้อม รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 4 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง 5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้แก่สาธารณะ ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) การเชื่อมโยงทบทวนความรู้จากการศึกษาค้นคว้า การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้มาสู่ การสื่อสารและการนําเสนอ มาเขียนสรุปความให้เป็น ความเรียงเชิงวิชาการพร้อมอ้างอิงตามหลักวิชาการ เป็นพื้นฐานสําคัญของการสื่อสารและการนําเสนอให้ เหมาะสมกับผู้อ่าน / ผู้ฟัง คําถามสําคัญ - จะนําทักษะและองค์ความรู้ที่สังเคราะห์ได้จากรายวิชา IS1 ม า ใ ช้ ใ น ก า ร นํ า เ ส น อ แ ล ะ ก า ร สื่ อ ส า ร อ ย่ า ง ไ ร - การเขียนสรุปความมีวิธีการอย่างไร - การเขียนความเรียงวิธีการอย่างไร - การเขียนอ้างอิงวิธีการอย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร(สาระการเรียนรู้) - การเชื่อมโยงข้อมูลและองค์ความรู้จากรายวิชา IS1 สู่การเรียนรายวิชา IS2 - การเขียนสรุปความ - การเขียนความเรียง - การเขียนอ้างอิง ผู้เรียนทําอะไรได้(ทักษะ/ทักษะกระบวนการ) - รวบรวมข้อมูลและองค์ความรู้จากรายวิชา IS1 มาเชื่อมโยงสู่การนําเสนอและการสื่อสาร - เขียนสรุปความและนํามาเชื่อมเป็นความเรียง - เ ขี ย น อ้ า ง อิ ง ไ ด้ ถู ก ห ลั ก ก า ร - ทํ า ง า น ร่ ว ม กั บ ผู้ อื่ น ต า ม ก ร ะ บ ว น ก า ร ก ลุ่ ม - ตรวจสอบงานเขียนความเรียง - วิ พ า ก ษ์ ง า น เ ขี ย น ค ว า ม เ รี ย ง ข อ ง ผู้ อื่ น - นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานเขียนของตน - นําข้อมูลจาก IS1มาวางแผนปฏิบัติใน IS2 - IS3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทํางาน การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน นําเสนอการวางแผนนําข้อมูลจากรายวิชา IS1 สู่การจัดทํารายงานเชิงวิชาการในรายวิชา IS2 และเชื่อมโยง นําความรู้สู่การปฏิบัติบริการสังคมในรายวิชา IS3 เกณฑ์การประเมินภาระงาน/ชิ้นงาน(ระบุประเด็นประเมิน) - ความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล - การเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่การเขียน - ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลของการศึกษา IS1 - IS3
  • 24. 24    ร่องรอยการเรียนรู้อื่นๆ - แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ / สังเคราะห์ข้อมูล - แบบบันทึกการเชื่อมข้อมูลจาก IS1 - IS3 - แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. รวบรวมข้อมูลพื้นฐานจากการเรียน IS1 มาทบทวนความรู้จากการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ สังเคราะห์และสร้างองค์ ความรู้มาสู่การสื่อสารและการนําเสนอ 2. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลที่จะนํามาออกแบบ วางแผนเชื่อมโยงข้อมูลสู่การเรียน IS2 3. ฝึกทักษะการเขียนสรุปความ 4. ฝึกทักษะการเขียนความเรียง 5. ฝึกทักษะการเขียนอ้างอิง 6. ศึกษาตัวอย่างการวางแผนการนําข้อมูลสู่การปฏิบัติโดยใช้แผนผังความคิด 7. ใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกันวางแผนนําข้อมูลจากการสรุปความและเขียนความเรียงใน IS1 สู่การจัดทํารายงานเชิง วิชาการใน IS2 และเชื่อมโยงนําความรู้สู่การปฏิบัติบริการสังคมใน IS3 8. ใช้ความรู้ หลักการและจินตนาการเพื่อคาดคะเนคําตอบที่เป็นไปได้ของการวางแผนจาก IS1 - IS3 9. ร่วมกันอภิปรายการวางแผนจาก IS1 - IS3 แล้วนําข้อมูลมานําเสนอ 10.ร่วมกันวิพากษ์การวางแผนของแต่และกลุ่ม 11.ปรับปรุงแผนที่วางไว้ก่อนนําไปจัดทําแผนการปฏิบัติระยะยาว สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. ตัวอย่างการเขียนสรุปความ, การเขียนความเรียง,การเขียนอ้างอิง 2. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ 3. ตัวอย่างการวางแผนระยะยาว 4. แผนผังการคิด
  • 25. 25    หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ฝึกซ้อมเขียนโครงร่าง รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 6 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) การเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ มีองค์ประกอบคือ ชื่อเรื่อง ความนํา วัตถุประสงค์ สมมติฐาน ขอบเขตการศึกษา เนื้อหา วิธี การศึกษาและการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นการวางแผนการเขียนรายงาน เชิงวิชาการอย่างเป็นระบบ และการตรวจสอบด้วยตนเองและเพื่อนช่วย ตรวจสอบ โดยใช้สัญลักษณ์ในการตรวจสอบช่วยให้รายงานเชิงวิชาการ นั้นถูกต้องแม่นยําและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คําถามสําคัญ - องค์ประกอบของการเขียนโครงร่างมีอะไรบ้าง - แต่ละองค์ประกอบของการเขียนโครงร่าง มีวิธีการเขียนอย่างไร - การเขียนโครงร่างที่สมบูรณ์มีลักษณะอย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) การวางโครงร่างการเขียนรายงานเชิงวิชาการ - องค์ประกอบของโครงร่าง - ชื่อเรื่อง - ความนํา - วัตถุประสงค์ - สมมุติฐาน - ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า - เนื้อเรื่อง - วิธีการศึกษาและรวบรวมข้อมูล ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / ทักษะกระบวนการ) - เขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ - ทํางานร่วมกับผู้อื่นตามกระบวนการกลุ่ม - ตรวจสอบงานเขียนโครงร่างเชิงวิชาการ - วิพากษ์งานเขียนโครงร่างของผู้อื่น - นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานเขียนโครงร่าง ของตนได้ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทํางาน การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน โครงร่างรายงานเชิงวิชาการ เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน) - ความครบถ้วนขององค์ประกอบโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ - ความถูกต้องสมบูรณ์ของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ - แบบบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตรวจสอบ / วิพากษ์ - แบบบันทึกการประเมินการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ - แบบบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน
  • 26. 26    การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. ศึกษาและวิธีเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการฉบับสมบูรณ์ 2. ร่วมกันฝึกเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ 3. กลุ่มอภิปรายการเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ 4. สรุปผลการอภิปรายการเขียนองค์ประกอบของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการของกลุ่มเตรียมนําเสนอ 5. กลุ่มนําเสนอโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ 6. ร่วมกันตรวจสอบและวิพากษ์ความสมบูรณ์ของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ 7. กลุ่มปรับโครงร่างรายงานเชิงวิชาการตามข้อเสนอแนะ 8. นักเรียนแต่ละคนนําแนวทางการจัดทําโครงร่างรายงานเชิงวิชาการที่ถูกต้อง ไปจัดทําโครงร่างรายงาน เชิงวิชาการของตนเอง สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. ตัวอย่างการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ 2. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บุคคล ฯลฯ
  • 27. 27    หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สร้างผลการเขียน รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 18 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้(ผลการเรียนรู้) 2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว 2,500 คํา ความเข้าใจที่คงทน(สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด) การถ่ายโอนองค์ความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า และ ข้อค้นพบ โดยการรายงานที่ใช้รูปแบบการเขียนรายงาน เชิงวิชาการได้ครบองค์ประกอบและถูกต้องตามหลัก วิชาการเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ คําถามสําคัญ - จะนําทักษะการวางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่างมาใช้อย่างไร - องค์ประกอบของรายงานเชิงวิชาการมีอะไรบ้าง และแต่ละองค์ประกอบมีวิธีการเขียนอย่างไร - การตรวจสอบงานเขียนมีวิธีการตรวจสอบอย่างไรและใช้ สัญลักษณ์อย่างไร - มารยาทในการวิพากษ์งานผู้อื่นมีอย่างไรบ้าง ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) การเขียนรายงานเชิงวิชาการ โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วน 1) องค์ประกอบส่วนหน้า - ปกนอก ปกใน - บทคัดย่อ กิตติกรรมประกาศ - สารบัญ สารบัญตาราง สารบัญภาพ 2) องค์ประกอบส่วนเนื้อเรื่อง - ความนํา วัตถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขต - เนื้อเรื่อง - วิธีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล - ผลการศึกษา - บทสรุป และอภิปรายผล 3) องค์ประกอบส่วนท้าย - บรรณานุกรม ภาคผนวก - ประวัติผู้จัดทํา ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / ทักษะกระบวนการ) - เขียนรายงานเชิงวิชาการฉบับสมบูรณ์ - ทํางานร่วมกับผู้อื่นตามกระบวนการกลุ่ม - ตรวจสอบงานเขียนเชิงวิชาการโดยใช้สัญลักษณ์ - วิพากษ์งานเขียนของผู้อื่น - นําข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานเขียนของตน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทํางาน การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน รายงานเชิงวิชาการฉบับสมบูรณ์ เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน(ระบุประเด็นประเมิน) - ความครบถ้วนขององค์ประกอบรายงาน - ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลขององค์ประกอบ - ความถูกต้องตามหลักวิชาการและความสมบูรณ์ของรายงาน ร่องรอยการเรียนรู้อื่นๆ - แบบประเมินองค์ประกอบ และความสมบูรณ์รายงานเชิงวิชาการ
  • 28. 28    การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. ดูตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์แล้วระดมสมองวิเคราะห์องค์ประกอบของรายงานนั้นแล้วร่วมกันวิเคราะห์อภิปราย องค์ประกอบของรายงาน 2. ร่วมกันวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลขององค์ประกอบของตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์ 3. ร่วมกันประเมินตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์ แล้วนําเสนอจุดเด่นจุดด้อย 4. ศึกษาวิธีการเขียนแต่ละองค์ประกอบ 5. ฝึกปฏิบัติการเขียนแต่ละองค์ประกอบของรายงาน 6. นําองค์ประกอบของรายงานมาเรียบเรียงตามลําดับ 7. ทบทวนการแก้ไขรายงานฉบับร่าง (Edit rough draft) และสัญลักษณ์การแก้ที่เรียนมาจากหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 8. ศึกษามารยาทในการวิพากษ์งานของผู้อื่น 9. ปฏิบัติการแก้ไข และวิพากษ์รายงาน 10. เขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ที่ครบองค์ประกอบ สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. ตัวอย่างรายงานฉบับสมบูรณ์ 2. สัญลักษณ์การตรวจสอบงานเขียน 3. ตัวอย่างโครงร่างการศึกษาค้นคว้า 4. ผังองค์ประกอบของรายงานเชิงวิชาการ
  • 29. 29    หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เพียรนําเสนอ รายวิชาเพิ่มเติม การสื่อสารและการนําเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 12 ชั่วโมง เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้) 3. นําเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual presentation) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่ออุปกรณ์ในการนําเสนอได้เหมาะสม 4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ความเข้าใจที่คงทน (สาระสําคัญ / ความคิดรวบยอด) การนําเสนอผลงานจากการศึกษาค้นคว้า ข้อค้นพบ โดยการเตรียมความพร้อมของผู้นําเสนอ การเลือก รูปแบบ สื่อประกอบการนําเสนอที่เหมาะสม สอดคล้อง กับความต้องการ ความสนใจ ความชื่นชอบของผู้ฟัง ช่วยให้การนําเสนอผลงานประสบผลสําเร็จ คําถามสําคัญ - การนําเสนอผลงานมีขั้นตอนอย่างไร - การนําเสนอแบบปากเปล่ารูปแบบเดี่ยวและกลุ่ม เหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร - การวิเคราะห์ผู้ฟัง / ผู้อ่านมีวิธีการและให้ผลดีอย่างไร - จะใช้สื่ออุปกรณ์ประกอบการนําเสนอได้อย่างไร ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรียนรู้) - วิธีวิเคราะห์ผู้ฟัง / ผู้อ่าน - ประเภทของการนําเสนอแบบปากเปล่า - วิธีการจัดทําสื่อประกอบการนําเสนอ - ขั้นตอนและเทคนิคการนําเสนอแบบปากเปล่า ผู้เรียนทําอะไรได้ (ทักษะ / ทักษะกระบวนการ) - วิเคราะห์ผู้ฟัง / ผู้อ่าน - ทํางานร่วมกับผู้อื่นตามกระบวนการกลุ่ม - จัดทําสื่อ / สื่อเทคโนโลยีประกอบการนําเสนอ - นําเสนอผลงานทางวิชาการแบบปากเปล่า คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทํางาน 4. ซื่อสัตย์สุจริต การออกแบบการวัดผลประเมินผล ภาระงานรวบยอด / ชิ้นงาน การนําเสนอผลงานศึกษาค้นคว้า เกณฑ์การประเมินภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบุประเด็นประเมิน) - ขั้นตอนของการนําเสนอแบบปากเปล่า - ความชัดเจนของการนําเสนอ - เทคนิควิธีการนําเสนอ - การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟัง ร่องรอยการเรียนรู้อื่น ๆ แผนการนําเสนอและร่างการนําเสนอผลงาน การวางแผนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะ 1. ดูวีดิทัศน์ตัวอย่างการนําเสนอผลงานแบบปากเปล่าทั้งแบบ Oral individual presentation และ Oral panel presentation และร่วมกันวิเคราะห์รูปแบบวิธีการของการนําเสนอ 2. ศึกษารูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการนําเสนอผลงานแบบปากเปล่า และอภิปรายแสดงความคิดเห็น 3. ฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนการนําเสนอผลงาน 4. สะท้อนผลการฝึกปฏิบัติการนําเสนอผลงาน สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. วีดิทัศน์ตัวอย่างการนําเสนอผลงาน 2. รูปแบบและขั้นตอนวิธีการนําเสนอผลงาน 3. ตัวอย่างคําพูดที่จะนําเสนอในแต่ละขั้นตอน 4. ผังองค์ประกอบของรายงานเชิงวิชาการ
  • 30. 30    การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity: IS3) การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity: IS3) เป็น กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกทั้งด้านพื้นฐานความคิด ความรู้สึกและ การกระทําที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์ ความเสมอภาค ความยุติธรรมในสังคม ความเข้าใจกันในระหว่างมนุษย์ มุ่งเน้นกระบวนการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วมเพื่อให้ผู้เรียน มีความตระหนักรู้ในตนเอง ร่วมกันศึกษาสภาพและการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่นที่จะส่งผลกระทบต่อ สังคมโลก โดยการวิเคราะห์ข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ที่เป็นความจริงใกล้ตัวของผู้เรียน เลือกนําประเด็น / เรื่องราวที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระตุ้นให้เชื่อมโยงเหตุการณ์ในระดับท้องถิ่นกับ ระดับโลกในภาพกว้าง และอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ ดังกล่าวโดยจัดเป็นกิจกรรม โครงการ หรือโครงงาน เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน คุณภาพผู้เรียน มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย การนําความรู้ไปใช้ บริการสังคม - นําความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์ ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน - เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติเพื่อ ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน - นําความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์ประโยชน์ ต่อสังคมและโลก - เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จาก การลงมือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและ โลก การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคมมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเอง และพัฒนาซึ่งกันและกันผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential learning) ค้นพบตนเอง โดยการ ริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรม (Creativity) ปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (Action) อาสาช่วยเหลือ ผู้อื่นด้วยความสมัครใจ (Service) พัฒนาค่านิยมที่อยู่บนพื้นฐานความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของโลก ได้แก่ 1. ความนับถือและเชื่อมั่นในตนเอง 2. ความเคารพในตนเองและผู้อื่น 3. ความรับผิดชอบต่อสังคม 4. ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม 5. การเปิดใจกว้าง 6. เจตคติในการพัฒนา วิสัยทัศน์
  • 31. 31    7. เป็นสมาชิกชุมชนที่แข็งขัน มีส่วนร่วมรับผิดชอบ พัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้อง และสร้างเสริมเจตคติ ในการเป็นพลโลกทั้งในระดับบุคคลและส่วนรวม แนวทางการจัดกิจกรรม / โครงการ / โครงงาน การจัดกิจกรรม / โครงการ / โครงงานการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม มีหลักการและแนว ทางการดําเนินการ ดังนี้ 1. การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม มีหลักการ ดังนี้ 1.1 เป็นการเรียนรู้ที่อาศัยประสบการณ์ของผู้เรียน 1.2 ทําให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่ท้าทายอย่างต่อเนื่องและเป็นการเรียนรู้ที่เรียกว่า "Active Learning" 1.3 มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้สอนและผู้ที่เกี่ยวข้อง 1.4 เป็นการสร้างเครือข่ายความรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวาง 1.5 ใช้การพูด หรือการเขียนเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน วิเคราะห์ สังเคราะห์ ความรู้ พฤติกรรม และผลงาน 2. การจัดกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม สามารถจัดเป็นกิจกรรม / โครงงาน / โครงการ โดยจัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน 5 ขั้นตอน ดังนี้ 2.1 วางแผน (Plan) เป็นขั้นเริ่มต้นการปฏิบัติกิจกรรม ประกอบด้วย การกําหนดเป้าหมาย ความสําเร็จ การทําความกระจ่างในเป้าหมาย และการตัดสินใจว่าจะนําองค์ความรู้และประสบการณ์เดิมของ แต่ละคนมาใช้ได้อย่างไร 2.2 ลงมือปฏิบัติ (Act) เป็นขั้นลงมือปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของกิจกรรมนั้น ๆ โดย ใช้ประสบการณ์และองค์ความรู้ที่มีอยู่เป็นฐานในการเรียนรู้ใหม่ 2.3 สังเกต (Observe/Analyze) เป็นขั้นการวิเคราะห์การรับรู้ของผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้สังเกตและ พิจารณาถึงความรู้สึกของตนเอง รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับสมาชิกในกลุ่มและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ประสบการณ์จะเปลี่ยนเป็นการเรียนรู้เมื่อเจ้าของประสบการณ์ได้พิจารณาถึงอารมณ์ ความคิดและการกระทํา ของตนเองในเหตุการณ์ นั้น ๆ โดยไม่ปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นผ่านพ้นและจบไป 2.4 สะท้อน (Reflect) เป็นขั้นสะท้อนให้เห็นถึงสัมฤทธิ์ผลของผู้เรียน ประเด็นสําคัญที่ได้เรียนรู้ องค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน จุดแข็งและความท้าทายของแต่ละคน รวมทั้งเป็นขั้นการประเมินการปฏิบัติ ของผู้เรียน สังเคราะห์ความรู้ความเข้าใจใหม่ ๆ นับเป็นขั้นตอนที่สําคัญอย่างยิ่งของการเรียนรู้ผ่าน ประสบการณ์ ความสามารถในการสะท้อนการจัดกิจกรรมไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่จําเป็นต้องได้รับการ พัฒนาและสั่งสมประสบการณ์จากการฝึกฝน และชี้แนะ 2.5 ประยุกต์ (Apply) เป็นขั้นการนําผลการจัดกิจกรรมประสบการณ์และองค์ความรู้ ที่เกิดขึ้นไปใช้ ในสถานการณ์ใหม่ ๆ และชีวิตประจําวัน
  • 32. 32    บทบาทของครูผู้สอน / ครูที่ปรึกษา 1. ศึกษาและทําความเข้าใจเกี่ยวกับความตระหนักถึงความสําคัญของทัศนะและบทบาทของเยาวชน ในการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีผลต่อประเด็นต่าง ๆ ในระดับโลก เข้าใจบทบาทของภาษา ขนบธรรมเนียม ถิ่นฐาน ศิลปะ ศาสนา ที่เป็นอัตลักษณ์ของตนเองและผู้อื่นในโลก 2. สนทนา ชี้แนะ ชี้แจง ผู้เรียนเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติกิจกรรม 3. แลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรม 4. สนับสนุนและเป็นกําลังใจในการคิดและการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง 5. ประเมินผลการดําเนินกิจกรรมและผลที่เกิดกับผู้เรียน บทบาทของผู้เรียน 1. สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและความจําเป็นของการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และมีความรับผิดชอบ 2. สนทนา รับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะปฏิบัติ 3. วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลข่าวสารและความเห็นจากสื่อการเรียนรู้และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ 4. ตัดสินใจเลือกกิจกรรมและวางแผนการปฏิบัติกิจกรรม 5. ปฏิบัติกิจกรรมตามแผนที่กําหนดด้วยความกระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบ 6. ประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม 7. สรุปและรายงานผลการปฏิบัติกิจกรรม
  • 33. 33    การปฏิบัติกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ลําดับ กิจกรรม ชั่วโมง หมายเหตุ 1 วิเคราะห์องค์ความรู้เพื่อกําหนดแนวทางการนําไปประยุกต์ ใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน เช่น - แนวทางในเรื่องภัยธรรมชาติ - แนวทางการป้องกันแก้ไข 2 วางแผนการทํากิจกรรมเพื่อนําความรู้ไปสร้างประโยชน์ต่อโรงเรียน และชุมชน เช่น - โครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ 3 ปฏิบัติกิจกรรมตามปฏิทินที่กําหนด เช่น - การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ - แนวทางการป้องกันแก้ไข 4 สรุปผลการดําเนินกิจกรรม - บันทึก - สะท้อนความคิดเห็นของตน / ชุมชนต่อการทํากิจกรรม 5 เผยแพร่ผลงาน - จัดทําแผ่นพับ - จัดทําเว็บไซต์ - จัดทํา Facebook รวม
  • 34. 34    กิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 15 ชั่วโมง / มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 20 ชั่วโมง ลําดับ ที่ ชื่อกิจกรรม วัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรม ภาระงาน เวลา (ชั่วโมง) 1 น้ําใจสู่ชุมชน เป็นสมาชิกชุมชนที่ แข็งขัน มีส่วนร่วม รับผิดชอบ พัฒนาทักษะ ที่เกี่ยวข้อง และสร้าง เสริมเจตคติในการเป็น พลโลกทั้งในระดับบุคคล และส่วนรวม กิจกรรมบน Facebook สร้างความตระหนักและ ขอความช่วยเหลือ สร้าง เครือข่าย จิตสาธารณะ ผ่าน facebook.com 2 เล่มนี้เพื่อน้อง ความรับผิดชอบต่อสังคม ชมรม ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม บริจาคหนังสือ โรงเรียน ขาด แคลน 3 การดูแลและ บํารุงรักษา ป่าต้นน้ํา ความรับผิดชอบต่อ สิ่งแวดล้อม ค่ายอนุรักษ์ รายงาน / นิทรรศการ 4 ก า ร เ ยี่ ย ม ผู้ป่วยไร้ญาติ การเปิดใจกว้าง โครงการอุ่นไอรัก รายงาน / นิทรรศการ 5 ต้นทางเศรษฐี ความนับถือและเชื่อมั่น ในตนเอง ธนาคารขยะ รายงาน / ชิ้นงาน 6 ดนตรีบําบัด ความเคารพในตนเอง และผู้อื่น การแสดงความสามารถ ทางดนตรี หรือสร้าง ผลงานทางศิลปะ เพื่อ หารายได้สําหรับการกุศล รายงาน / นิทรรศการ 7 รักษ์ศิลปกรรม เจตคติในการพัฒนา วิสัยทัศน์ การดูแลรักษาโบสถ์วิหาร การเฝ้าระวังโบราณสถาน และโบราณวัตถุไม่ให้ ถูกทําลาย รายงาน / นิทรรศการ รวม 15
  • 35. 35    ตารางปฏิทินการปฏิบัติกิจกรรมการนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 15 ชั่วโมง / มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 20 ชั่วโมง ชื่อกิจกรรม ......................................... ภาคเรียนที่...................ปีการศึกษา............................ สัปดาห์ที่ วัน เดือน ปี กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ - รับสมัครสมาชิก - ชี้แจงวัตถุประสงค์และร่วมวางแผนการดําเนินกิจกรรม - เขียนโครงการ - กําหนดขอบข่ายและวางแผนพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น และประเทศ - นําเสนอแผนพัฒนาต่อครูที่ปรึกษา - ประชุมปรับปรุงแผนและเตรียมแบ่งงานในความ รับผิดชอบ - กิจกรรมที่ 1…………….….. - กิจกรรมที่ 2………………… - สรุปผลการดําเนินงานระยะที่ 1 - จัดบอร์ดแสดงผลงาน - กิจกรรมที่ 3……………….. - กิจกรรมที่ 4……………….. - สรุปผลการดําเนินงานระยะที่ 2 - จัดบอร์ดแสดงผลงาน - ประชุมสรุปผลการดําเนินงาน - เสนอ (ร่าง) รายงานต่อครูที่ปรึกษาโครงการ - ครูที่ปรึกษาตรวจแก้ไขงาน - จัดทํารายงานฉบับสมบูรณ์ (ชิ้นงาน) - นําเสนอบทสรุปต่อโรงเรียนและประเมินผลโครงการ
  • 36. 36    การวัดและประเมินผล การวัดและประเมินผลการเรียนรู้สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS ) ตามหลักสูตรสถานศึกษา อาศัยหลักการดําเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยพิจารณาจากคุณภาพของชิ้นงานหรือการปฏิบัติที่เป็นผลผลิต/ ร่องรอยหลักฐานการเรียนรู้ของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของผู้เรียนว่าเป็นไปตามเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนมาตรฐานสากลหรือไม่ โดยใช้วิธีการและเครื่องมือที่หลากหลายและเกณฑ์การประเมิน (Rubrics) แนวทางการวัดและประเมิน 1. กรณีที่จัดบูรณาการสาระการเรียนรู้การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS )ใน รายวิชาพื้นฐาน ที่โรงเรียนพิจารณาเห็นว่าเหมาะสมให้แยกจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้เฉพาะและประเมินผลการ เรียนรู้ของหน่วยการเรียนรู้นี้ให้ชัดเจน 2. กรณีที่จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ต้องประเมินและตัดสินผลการเรียนโดยให้ระดับผลการเรียนรายวิชา ของสาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study: IS) ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด 3. กรณีที่จัดบูรณาการสาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study: IS) เฉพาะ เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (IS3 : Social Service Activity) ในกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์) ซึ่งเป็นการนําความรู้ที่ได้จาก IS1 และ IS2 มาใช้ ให้วัดและประเมินผลการวางแผนการปฏิบัติกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมตามแผนที่กําหนด และการสรุป รายงานผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยให้ผลการประเมินเป็นผ่านและไม่ผ่าน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด
  • 37. 37    -ตัวอย่าง- โครงสร้างการจัดการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลระดับมัธยมศึกษา สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS) คะแนนคะแนน คะแนน+ + = 100 หน่วยที่ 1 คําถาม/สมมติฐาน หน่วยที่ 2 สืบค้น/ทดลอง หน่วยที่ 3 สรุปองค์ความรู้ IS1: รายวิชาการศึกษาคนควาเพื่อการเรียนรู ร่องรอย/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์ ร่องรอย/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์ ร่องรอย/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์
  • 38. 38    -ตัวอย่าง- โครงสร้างการจัดการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลระดับมัธยมศึกษา สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS) ความรู/ทักษะ/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ ความรู/ทักษะ/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ งานเขียนเชิงวิชาการ/การนําเสนอองคความรู วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ + คะแนนคะแนนคะแนน + = 100 IS2: รายวิชาการสื่อสารและการนําเสนอ หนวยที่ 2 ICT กับการนําเสนอ หนวยที่ 3 การเขียนและการนําเสนอ หนวยที่ 1 หลักการเขียนงานเชิงวิชาการ
  • 39. 39    -ตัวอย่าง- โครงสร้างการจัดการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลระดับมัธยมศึกษา สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS) ร่องรอย/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์ ร่องรอย/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์ ร่องรอย/ชิ้นงาน วิธีการ/เครื่องมือ/เกณฑ์ + ผ่าน/ไม่ผ่านผ่าน/ไม่ผ่านผ่าน/ไม่ผ่าน + = ผ่าน/ไม่ผ่าน IS3 : การนําองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม จุดประสงคสําคัญ 2 การปฏิบัติกิจกรรมตามแผน จุดประสงคสําคัญ 3 สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรมและการเผยแพร จุดประสงคสําคัญ 1 แผนการปฏิบัติกิจกรรม
  • 40. 40    แนวทางการวัดและประเมินผลในระดับมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 2 เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน ตัวอย่างชิ้นงาน/ผล การเรียนรู้ ตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียน แนวทางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ การตั้งประเด็นคําถาม/ สมมติฐานอย่างมีเหตุผล (Hypothesis Formulation) 1.แบบบันทึกประเด็น คําถาม 2 . แ บ บ บั น ทึ ก สมมติฐาน/คําตอบที่ คาดคะเน 1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่ตน สนใจโดยเริ่มจากตัวเอง เชื่อมโยง กับชุมชนท้องถิ่น ประเทศ 2.ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ ตรวจสอบการตั้งคําถาม และการตั้งสมมติฐานของ นักเรียน แบบบันทึกการตรวจสอบการตั้งคําถามและการ ตั้งสมมติฐานของนักเรียน เกณฑ์การประเมิน การสืบค้นความรู้จากแหล่ง เรียนรู้และสารสนเทศหรือ จากการปฏิบัติทดลอง (Searching for Information) 1 . แ ผ น ก า ร เ ก็ บ รวบรวม/การสืบค้น ข้อมูล 2.แบบบันทึกการ สืบค้นข้อมูล 3.ออกแบบ วางแผนรวบรวมข้อมูล โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ 4.ศึกษาแสวงหาข้อมูล ประเด็น ความรู้เกี่ยวข้องกับสมมติฐานที่ตั้ง ไว้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น ห้องสมุด หนังสือ วารสาร แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ วารสาร ฯลฯ) ประเมินการสืบค้นข้อมูล จากแหล่งเรียนรู้ของ นักเรียน แบบประเมินการสืบค้นข้อมูล เกณฑ์การประเมิน
  • 41. 41    เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน ตัวอย่างชิ้นงาน/ผล การเรียนรู้ ตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียน แนวทางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ 5.ใช้กระบวนการกลุ่มในการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้ ความรู้จากสาขาวิชาและแหล่ง เรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ ครบถ้วนสมบูรณ์ 6.ทํางานบรรลุเป้าหมายภายใต้ กรอบการดําเนินงานที่กําหนด โดยการกํากับดูแลของครูอย่าง ต่อเนื่อง ก า ร ส รุ ป อ ง ค์ ค ว า ม รู้ (Knowledge Formation) 1.แบบบันทึกการ วิ เ ค ร า ะ ห์ ก า ร สังเคราะห์ข้อมูล 2.แบบบันทึกการสรุป องค์ความรู้ 7.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่ เหมาะสม 8.สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้ อภิปรายผลและ เปรียบเทียบ เชื่อมโยงความรู้จากแหล่งค้นคว้า ต่าง ๆ 9.เสนอแนวคิดหรือวิธีการ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ตรวจผลงานการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการสรุปองค์ ความรู้และอภิปรายผลของ นักเรียน แบบบันทึกการตรวจผลงานการวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปองค์และอภิปรายผลของนักเรียน เกณฑ์การประเมิน
  • 42. 42    เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน ตัวอย่างชิ้นงาน/ผล การเรียนรู้ ตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียน แนวทางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ การสื่อสารและการนําเสนอ อย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication) 1.ผลงานการเขียนเชิง วิชาการ 2.การนําเสนอองค์ ความรู้ 10.เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิด อย่างชัดเจนเป็นระบบ 11.นําเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual presentation)หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้ สื่อประกอบหลากหลาย 12.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิง วิชาการความยาว 2,500 คํา โดยมีการ อ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่าง หลากหลาย 13.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ 1.ตรวจผลงานการเขียน รายงานเชิงวิชาการของ นักเรียน 2.สังเกตการพูดนําเสนองาน ของนักเรียน 1.แบบบันทึกการตรวจผลงาน การเขียนรายงานเชิงวิชาการ ของนักเรียน 2.แบบบันทึกการสังเกตการ นําเสนองานของนักเรียน เกณฑ์การประเมิน การนําความรู้ไปใช้บริการ สังคม(Public Service) 1.การปฏิบัติกิจกรรม เพื่อบริการชุมชน 2.การเผยแพร่ผลการ ปฏิบัติกิจกรรมบริการ ชุมชน 14.นําความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์ ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน 15.เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ที่ ได้จากการลงมือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ ต่อโรงเรียนและชุมชน ประเมินการนําความรู้ไปใช้ ในการทํากิจกรรมบริการ โรงเรียน ชุมชนและการ เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ ประสบการณ์การบริการ โรงเรียนและชุมชน แบบประเมินการทํากิจกรรม บริการโรงเรียนและชุมชน
  • 43. 43    ระดับคุณภาพการประเมินผลระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.1 การตั้งประเด็นคําถาม 1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่ ตนเองสนใจได้ด้วยตนเอง 2.ขอบข่ายประเด็นคําถาม ชัดเจน ครอบคลุมข้อมูล/ ปัจจัยหรือตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ ตนเองเชื่อมโยงกับชุมชน ท้ อ ง ถิ่ น ป ร ะ เ ท ศ 3.คําถามมีความแปลกใหม่และ สร้างสรรค์ มีความเป็นไปได้ใน การแสวงหาคําตอบ 1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่ ตนเองสนใจได้โดยมีครูคอย ชี้แนะ 2.ขอบข่ายประเด็นคําถาม ชัดเจน ครอบคลุมข้อมูล/ ปัจจัยหรือตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ ตนเองเชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ 3.คําถามมีความเป็นไปได้ใน การแสวงหาคําตอบ 1.ตั้งประเด็นคําถามในเรื่องที่ ตนเองสนใจได้โดยมีครูคอย ชี้แนะ 2.ขอบข่ายประเด็นคําถามชัดเจน แต่ยังไม่ครอบคลุมข้อมูล/ปัจจัย หรือตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ 3.คําถามมีความเป็นไปได้ในการ แสวงหาคําตอบ ใช้คําถามที่ครูชี้แนะมากําหนด ประเด็นคําถาม 1.2 การตั้งสมมติฐาน 1.พูดหรือเขียนคาดคะเน คําตอบล่วงหน้าโดยอาศัย ความรู้สาขาวิชาต่าง ๆ 2.คําตอบที่คาดคะเนหรือ สมมุติฐานแสดงการเชื่อมโยง 1.พูดหรือเขียนคาดคะเน คําตอบล่วงหน้าโดยอาศัย ความรู้จากสาขาวิชาต่าง ๆ 2.คําตอบที่คาดคะเนหรือ สมมุติแสดงการเชื่อมโยง 1.พูดหรือเขียนคาดคะเนคําตอบ ล่วงหน้าโดยอาศัยความรู้จาก สาขาวิชาต่าง ๆ 2. คําตอบที่คาดคะเนหรือ สมมุติฐานมีความสัมพันธ์ของ 1.พูดหรือเขียนคาดคะเนคําตอบ ล่วงหน้าได้ โดยอาศัยความรู้จาก สาขาวิชาต่าง ๆ 2.คําตอบหรือสมมุติฐานไม่มี ความสัมพันธ์ของข้อมูล/ตัว
  • 44. 44    ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสัมพันธ์ของข้อมูล/ตัวแปร ที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน ครอบคลุมสอดคล้องกับ ประเด็นคําถาม สมเหตุสมผล มี ความเป็นไปได้ในการตรวจสอบ ความสัมพันธ์ของข้อมูล/ตัวแปร ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ไ ด้ ชั ด เ จ น สอดคล้องกับประเด็นคําถาม สมเหตุสมผล มีความเป็นไปได้ ในการตรวจสอบ ข้อมูล/ตัวแปรที่เกี่ยวข้องบ้าง สอดคล้องกับประเด็นคําถาม แต่ มีความเป็นไปได้น้อย ในการ ตรวจสอบ แปรที่เกี่ยวข้อง ไม่สอดคล้องกับ ประเด็นคําถาม มีความเป็นไปได้ น้อย ในการตรวจสอบ 2.การสืบค้นความรู้ 1.วางแผนเก็บรวบรวม/สืบค้น ข้อมูลชัดเจนและปฏิบัติได้ วิธีการรวบรวม/สืบค้นข้อมูล เหมาะสม 2.ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้หลากหลาย ครอบคลุมทุกประเด็นคําตอบที่ คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้ 3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในกลุ่ม โดยใช้ความรู้จาก สาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ ครบถ้วนสมบูรณ์ 1.วางแผนเก็บรวบรวม/สืบค้น ข้อมูลชัดเจนและปฏิบัติได้ วิธีการรวบรวม/สืบค้นข้อมูล เหมาะสม 2.ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้หลากหลาย ครอบคลุมทุกประเด็นคําตอบที่ คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้ 3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในกลุ่ม โดยใช้ความรู้จาก สาขาวิชาต่าง ๆ 1.วางแผนเก็บรวบรวม/สืบค้น ข้อมูลชัดเจนและปฏิบัติได้ วิธีการรวบรวม/สืบค้นข้อมูล เหมาะสมไว้ 2.ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้ไม่หลากหลาย แต่ ครอบคลุมทุกประเด็นคําตอบที่ คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้ 3.มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในกลุ่ม โดยใช้ความรู้จาก สาขาวิชาต่าง ๆ 1.ไม่มีการวางแผนหรือมีการ วางแผนแต่ไม่สามารถนําไปปฏิบัติ จริงได้ 2. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้ไม่หลากหลาย และไม่ ครอบคลุมประเด็นคําตอบที่ คาดคะเน/สมมติฐานที่ตั้งไว้ 3.ไม่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในกลุ่ม
  • 45. 45    ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 4.มีการบันทึกข้อมูลเหมาะสม และได้ข้อมูลครบทุกประเด็น ตามเป้าหมาย โดยมีการปรึกษา ครูอย่างสม่ําเสมอและต่อเนื่อง 4.มีการบันทึกข้อมูลเหมาะสม และได้ข้อมูลเฉพาะประเด็น สําคัญ โดยการปรึกษาครูเป็น ครั้งคราว 4.มีการบันทึกข้อมูล ได้ข้อมูลใน ประเด็นสําคัญ มีการปรึกษาครู บ้าง 4.บันทึกข้อมูล ไม่ตรงประเด็น สําคัญ 3.การสรุปองค์ความรู้ 1.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่ เหมาะสม 2.สังเคราะห์และสรุปองค์ ความรู้ได้อย่างชัดเจน มีการ อภิปรายผล เปรียบเทียบ เ ชื่ อ ม โ ย ง ค ว า ม รู้ อ ย่ า ง สมเหตุสมผล 3.นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเสนอ แนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่าง เป็นระบบ 1.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่ เหมาะสม 2.สังเคราะห์และสรุปองค์ ความรู้ได้อย่างชัดเจน มีการ อภิปรายผล เปรียบเทียบ เชื่อมโยงความรู้ 3.นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเสนอ แนวคิด วิธีการแก้ปัญหาได้แต่ ยังไม่เป็นระบบ 1.วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการที่ เหมาะสม 2.สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้ ได้อย่างชัดเจน มีการอภิปรายผล เปรียบเทียบแต่ยังไม่ชัดเจน 3.นําองค์ความรู้ที่ได้ไปเสนอ วิธีการแก้ปัญหาได้แต่ยังไม่เป็น ระบบ 1.ไม่มีการวิเคราะห์ข้อมูลหรือ วิเคราะห์ข้อมูลไม่ถูกต้อง 2.สังเคราะห์และสรุปองค์ความรู้ได้ ไม่ชัดเจน 3.ไม่มีการนําองค์ความรู้ไปเสนอ แนวคิด วิธีการแก้ปัญหา
  • 46. 46    ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 4.การสื่อสารและการนําเสนอ 1.เรียบเรียงและถ่ายทอด ความคิดจากการศึกษาค้นคว้า ได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ 2.เขียนรายงานการศึกษา ค้นคว้าเชิงวิชาการเป็น ภาษาไทยความยาวประมาณ 2,500 คํา เนื้อหาสาระถูกต้อง สมบูรณ์ เข้าใจง่ายโดยอ้างอิง แหล่งความรู้ที่เชื่อถืออย่าง หลากหลาย 1.เรียบเรียงและถ่ายทอด ความคิดจากการศึกษาค้นคว้า ได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ 2.เขียนรายงานการศึกษา ค้นคว้าเชิงวิชาการเป็น ภาษาไทยความยาวประมาณ 2,500 คําเนื้อหาสาระถูกต้อง สมบูรณ์ โดยอ้างอิงแหล่ง ความรู้ที่เชื่อถือได้อย่าง หลากหลาย 1.เรียบเรียงและถ่ายทอด ความคิดจากการศึกษาค้นคว้าได้ อย่างชัดเจน 2.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เชิงวิชาการเป็นภาษาไทยความ ยาว ประมาณ 2,500 คําเนื้อหา สาระถูกต้อง โดยอ้างอิงแหล่ง ความรู้ที่เชื่อถือได้ 1.เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิด จากการศึกษาค้นคว้าได้ 2.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าได้ โดยอ้างอิงแหล่งความรู้
  • 47. 47    ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้า ในรูปแบบเดี่ยวและกลุ่มโดยใช้ สื่อที่หลากหลายอย่างเหมาะสม 4.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 2 ช่องทาง 3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้า ในรูปแบบเดี่ยวหรือกลุ่มโดยใช้ สื่อที่หลากหลาย 4.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2 ช่องทาง 3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้าใน รูปแบบเดี่ยวหรือกลุ่มโดยใช้สื่อ ประกอบ 4.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะผ่าน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 1 ช่องทาง 3.นําเสนอผลการศึกษาค้นคว้าใน รูปแบบกลุ่ม 4.ไม่มีการเผยแพร่ผลงานสู่ สาธารณะ 5.การนําความรู้ไปใช้บริการ สังคม 1.นําความรู้จากการศึกษา ค้นคว้าไปประยุกต์ใช้ใน กิจกรรมที่สร้างสรรค์เป็น ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน 2 . เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ ประสบการณ์ที่ได้จากการลง มือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อ โรงเรียนและชุมชน ผ่านสื่อ หลากหลายรูปแบบ 1.นําความรู้จากการศึกษา ค้นคว้าไปประยุกต์ใช้ใน กิจกรรมที่สร้างสรรค์เป็น ประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน 2 . เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ ประสบการณ์ที่ได้จากการลง มือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อ โรงเรียนและชุมชน ผ่านสื่อ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง 1.นําความรู้จากการศึกษาค้นคว้า ไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมที่ สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน 2 . เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ แ ล ะ ประสบการณ์ที่ได้จากการลง มือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ต่อ โรงเรียน ผ่านสื่อรูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง 1.ไม่ได้นําความรู้จากการศึกษา ค้นคว้าไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมที่ เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนหรือ ชุมชน 2.ไม่มีการเผยแพร่ความรู้และ ประสบการณ์ที่ได้จากการลง มือปฏิบัติ
  • 48. 48    การรายงานผลการเรียนรู้การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ชั้นมัธยมศึกษาที่จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติมจํานวน 2 รายวิชา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งต้องตัดสิน ผลการเรียนเป็นระดับผลการเรียน หรือผ่าน/ไม่ผ่านตามที่สถานศึกษากําหนดแล้ว สถานศึกษาสามารถจัดทํา ใบรายงานผลการพัฒนาผู้เรียนเฉพาะสาระการศึกษาค้นคว้า ด้วยตนเอง (Independent Study :IS) เพื่อ แสดงระดับคุณภาพของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ประกอบ ปพ. 6 ได้ ดังนี้ แบบรายงานผลการพัฒนาผู้เรียนการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study :IS) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่..............ปีการศึกษา................... โรงเรียน.................................................. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต.............. ชื่อ เด็กชาย/เด็กหญิง/นาย/นางสาว......................................................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่......................... วิชา/กิจกรรม สาระการเรียนรู้ เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน ระดับ คุณภาพ 1.วิชาการศึกษา ค้นคว้า แ ล ะ ส ร้ า ง อ ง ค์ ความรู้ IS1:การศึกษาค้นคว้า และสร้างองค์ความรู้ 1.การตั้งประเด็นคําถาม/สมมติฐาน 2.การสืบค้นความรู้จากแหล่งเรียนรู้และ สารสนเทศ 3.การสรุปองค์ความรู้ 2.วิชาการสื่อสาร และการนําเสนอ IS2:การสื่อสารและ การนําเสนอ 4.การสื่อสารและการนําเสนออย่างมี ประสิทธิภาพ 3.กิจกรรมเพื่อ สั ง ค ม แ ล ะ สาธารณประโยชน์ IS3:การนําความรู้ไปใช้ บริการสังคม 5.การบริการสังคมและจิตสาธารณะ กิจกรรม..................................................... ..................................................................... สรุปภาพรวม ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของครูผู้สอน .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน ลงชื่อ..................................................ฝ่ายวิชาการ (...............................................) (...............................................) ลงชื่อ.....................................................ผู้อํานวยการโรงเรียน (....................................................)
  • 49. 49    การรายงานภาพรวมระดับห้องเรียน โรงเรียน...................................................สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา........................................................ รายวิชา.............................................ชั้น.........................................................ปีการศึกษา............................. เลขที่ เลขประจําตัว ชื่อ – สกุล ระดับคุณภาพเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน สรุปภาพรวม การตั้งคําถาม การสืบค้นความรู้ การสรุปองค์ความรู้ การสื่อสารและการนําเสนอ การบริการสังคม/จิตสาธารณะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15