SlideShare a Scribd company logo
Mycom
บทที่ 1 บทนำ

บทที่ 2

บทที่ 3

บทที่ 4 ผลกำรทดลอง

เอกสำรที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 5 สรุป อภิปรำยผลและ
ข้อเสนอแนะ

วิธีกำรทดลอง

ภำคผนวก

บรรณำนุกรม
บทที่ 1 บทนำ
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
จากการที่ผ้ จดทาได้ เรี ยนวิชาชีววิทยา ในส่วนเนื ้อหาเรื่ องการหมัก(fermentation) ส่วนของการหมักที่ให้ ผลิตภัณฑ์
ูั
เป็ น CO2 และ Alcoholนัน คือการทางานของจุลินทรี ย์ เช่น ยีสต์ แบคทีเรี ย เป็ นต้ น เนื่องจากยีสต์หาซื ้อได้ ง่ายตาม
้
ท้ องตลาด จึงสะดวกที่จะนามาศึกษาต่อ พบว่ายีสต์ยงแบ่งออกได้ เป็ นสามชนิด คณะผู้จดทาจึงได้ ศึกษาเกี่ยวกับยีสต์ทง้ั
ั
ั
สามชนิดและพบอีกว่า ยีสต์แต่ละชนิดเมื่อหมักกับกลูโคสซึงยีสต์ใช้ เป็ นอาหารแล้ วเกิด CO2 ในปริ มาณที่ต่างกัน คณะ
่
ผู้จดทาจึงเกิดการคิดออกแบบระบบการหมักยีสต์ เพื่อเก็บ CO2 แทนที่น ้า เปรี ยบเทียบปริ มาณ CO2 ของยีสต์แต่ละชนิดที่
ั
ได้ จากการหมักออกเป็ นอัตราส่วน ทังนี ้เพื่อเป็ นประโยชน์ต่อการใช้ เทียบหาปริ มาณการใช้ ยีสต์ต่างชนิดกันในอุตสาหกรรม
้
อาหารที่แน่นอนและถูกต้ อง และกระบวนการหมักของยีสต์ยงสามารถ ต่อ CO2 ทางสายยางเข้ าสูระบบพรรณไม้ น ้า การ
ั
่
ทาระบบการหมักยีสต์เพื่อใช้ CO2 ในการสังเคราะห์ด้วยแสงของไม้ น ้านัน ยังต้ องตัดสินใจเลือกยีสต์ชนิดที่ให้ CO2 ใน
้
ปริ มาณที่เหมาะสม และระบบที่สมบูรณ์ปลอดเชื ้อ เพื่อให้ ได้ CO2 ที่เถียร ดังนันการทดลองกาอัตราการเกิด CO2 ของยีสต์
้
ต่างชนิดจึงมีความจาเป็ นต่ออุตสาหกรรมอาหารและระบบพรรณไม้ น ้าที่กล่าวมาข้ างต้ น
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาหาอัตราการเกิด CO2 ของระบบการหมักของยีสต์ต่างชนิดกันด้ วยกลูโคส
เพื่อศึกษาทดลอง ออกแบบระบบหมักยีสต์ที่สมบูรณ์ เพื่อให้ ได้ แต่ CO2 เสถียรปราศจากสิ่งเจอปน
เพื่อนาผลการทดลอง คืออัตราการเกิด CO2 ไปประยุกต์ใช้ กบอุตสาหกรรมอาหารและ ระบบพรรณไม้ น ้าต่อไป
ั

ขอบเขตของการศึกษา
ศึกษายีสต์ 3 ชนิดได้ แก่
1. ยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast)
ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast)
ยีสต์สด(Fresh yeast)
2. ทดลองในห้ องปฏิบติการชีววิทยา
ั
3. ใช้ น ้าตาลทรายแดงเป็ นอาหารของยีสต์เก็บ CO2 จากระบบของยีสต์ชนิดที่เกิด CO2 มากที่สดเป็ นมาตรฐาน
ุ
เก็บให้ ได้ 100 ml และบันทึกผลระบบยีสต์อื่นๆตาม
ประโยชน์ ท่ ได้ รับ
ี
1.ได้ รับความรู้เกี่ยวกับน ้าตาลที่ใช้ เป็ นอาหารของยีสต์
2.ได้ รับความรู้เกี่ยวกับชนิดของยีสต์ ลักษณะ การใช้ และการเก็บรักษาที่แตกต่าง
3. ได้ รับความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบการหมักยีสต์

สมมติฐาน
ยีสต์แต่ละชนิดเมื่อหมักกับกลูโคสแล้ วจะให้ ปริ มาณ CO2 ไม่เท่ากัน
บทที่ 2 เอกสำรที่เกียวข้ อง
่

ชื่อสามัญ : Brewer’s yeast, bakers yeast
ชื่อท้ องถิ่น : ยีสต์หมักเบียร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saccharomyces cerevisiae (Meyen ex E.C Hansen, 1883)
โดเมน : Eukaryota
อาณาจักร : Fungi
Class : Saccharomycetes
Oder : Saccharomycetales
Family : Saccharomycetaceae
ลักษณะทั่วไป :
- รากลุมหนึงที่สวนใหญ่เป็ นเซลล์เดี่ยวมีรูปร่างหลายแบบ เช่นรูปร่างกลม รี สามเหลี่ยม รูปร่างแบบมะนาว ฝรั่ง เป็ นต้ น
่ ่ ่
- เป็ นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว มีโครงสร้ างแบบยูคาริ โอต มีผนังเซลล์คล้ ายพืช(เซลลูโลสและไคติน) แต่ไม่มีคลอโรฟิ ลล์ จึงสร้ าง
อาหารเองไม่ได้
- ดารงชีวิตแบบปริ สิต
การขยายพันธุ์ : มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยวิธีการแตกหน่อ (budding)
กระบวนการหมัก(Fermentation) : เป็ น
กระบวนการที่สารอินทรี ย์เกิดการ
เปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยอาศัยการทางาน
ของจุลินทรี ย์ (เช่น ยีสต์ แบคทีเรี ย เป็ นต้ น)
หรื อเอนไซม์ เช่น การหมักแปง น ้าตาล โดย
้
ใช้ ยีสต์จะได้ เอทานอล
ยีสต์ สด Fresh yeast/Compressed yeast
เป็ นยีสต์ที่ผลิตขึ ้นโดยการเลี ้ยงอัดรวมกัน โดยมีอาหารของยีสต์ที่เปี ยกชื ้นเป็ นก้ อนแข็ง ห่อด้ วย
กระดาษตะกัวหรื อพลาสติกที่กนน ้าได้ ยีสต์จะมีความชื ้นอยู่ประมาณ 70% มีสีครี มอ่อนถึงน ้าตาลอ่อน
่
ั
ค่อนข้ างขาว มีความชื ้นสูงประมาณ 70%
การทางานของยีสต์จะช้ าลงเมื่ออุณหภูมิต่า ดังนันยีสต์สดจึงควรเก็บในตู้เย็นถ้ าจะเก็บไว้ นานเกิน
้
1 วัน และอาจจะเก็บไว้ ได้ นานเป็ นสัปดาห์โดยไม่เสื่อมคุณภาพที่อณหภูมิ 50 องศาฟาเรนไฮท์ เก็บไว้ ใน
ุ
นานเป็ นเดือนที่อณหภูมิ 30 องศาฟาเรนไฮท์ หลังจากนันจะเริ่ มเสื่อมคุณภาพลงที่ละน้ อยๆ การแช่แข็ง
ุ
้
ยีสต์สดจะทาให้ ยีสต์มีคณภาพอยู่ได้ นานขึ ้น แต่การแช่แข็งที่อณหภูมิสงยีสต์สดก็จะทาลายได้ ภายใน 24
ุ
ุ
ู
ชัวโมง แต่การแช่แข็งที่อณหภูมิต่ากว่า -3 องศาเซลเซียส จะทาลายคุณภาพของยีสต์ทาให้ ยีสต์ตายใน
่
ุ
ที่สด ยีสต์สดที่อ่อนตัวแล้ วไม่ควรนามาใช้
ุ
ก่อนใช้ ทำให้ ยีสต์สดแตกแล้ วละลำยในน ้ำก่อนที่จะเติมลงไปในแปง น ้ำที่ใช้ ละลำยยีสต์ควรมีอณหภูมิ
้
ุ
80 องศำฟำเรนไฮท์หรื อประมำณ 30 องศำเซลเซียส เสร็จแล้ วตังทิ ้งไว้ ประมำณ 5-10 นำทีก่อนที่จะ
้
นำไปใช้ น ้ำที่ใช้ ละลำยยีสต์ไม่ควรมีสวนผสมของเกลือ เพรำะจะทำให้ ยีสต์ตำยได้
่
สำหรับเมืองไทย แม้ ปัจจุบนจะมีโรงงำนที่ผลิตยีสต์สดออกมำได้ แต่ก็ยงไม่เป็ นที่นิยมเนื่องจำกควำมไม่
ั
ั
สะดวกในกำรใช้ งำนและกำรเก็บรักษำ แต่ยีสต์สดมีรำคำถูกและให้ กลิ่นของยีสต์ที่ดีแก่ผลิตภัณฑ์ในขัน
้
สุดท้ ำย
ข้ อดีของยีสต์ ชนิดนี ้คือ เป็ นยีสต์ที่ใหม่ และมีควำมแข็งแรงดี เมื่อนำไปใช้ ทำขนมปั งจะทำให้ ได้
ขนมปั งที่มีกลิ่นดี มีกลิ่นหอมตำมธรรมชำติ
กำรเก็บรักษำจะต้ องแช่เย็นให้ อยู่ระหว่ำง 2-10 องศำเซลเซียส มีอำยุกำรเก็บสัน ปริ มำณกำรใช้
้
2.5-5% ของน ้ำหนักแปง
้
ยีสต์ แห้ งชนิดผง Instant yeast /Instant Active dry yeast
เป็ นยีสต์ที่มีกาลังหมักสูงสุด นิยมใช้ มากที่สด มีลกษณะเป็ นผงละเอียด แปง มีความสามารถใน
ุ ั
้
การหมักสูง ไม่ต้องละลายน ้าก่อนนาไปใช้ วิธีใช้ มีหลายวิธีอาทิ
1. จะเติมลงไปหลังจากที่ได้ ผสมแปงกับส่วนผสมอื่นแล้ ว ใน 2 นาที ให้ ผสมยีสต์กบส่วนที่เป็ นของเหลว
้
ั
ชังหมักในสูตรก่อนนาไปผสมกับแปง
่
้
2. หรื อจะละลายกับน ้าอุ่นที่ 38 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที ก่อนนามาใช้ ก็ได้ มีวิธีใช้ หลายวิธีด้วยกัน
3. วิธีที่นิยมที่สดคือเติมลงในแปงได้ ทนที
ุ
้
ั
ปั จจุบนยีสต์แห้ งชนิดผงนี ้เป็ นที่นิยมกันในหมูผ้ ประกอบการด้ านนี ้ทัวๆ ไป เพราะจะสะดวกและ
ั
่ ู
่
ใช้ ได้ ง่าย ยีสต์แห้ งชนิดนี ้จะบรรจุในขวด กระป๋ อง หรื อถุงที่ทาด้ วยกระดาษตะกัวซึ่งภายในจะอัดก๊ าซ
่
ไนโตรเจนไว้ ในปริ มาณเท่าๆ กัน
วิธีกำรใช้ คือผสมน ้ำอุ่นกับน ้ำตำล รอจนน ้ำตำลละลำย จึงโรยยีสต์ลงไป หลังจำกนันค่อยเติมลงใน
้
ส่วนผสมของแปง จะทำให้ เกิดกำรหมักขึ ้น และทำให้ เกิดกำรฟู
้
วิธีกำรทดสอบคุณภำพยีสต์ โดยยีสต์ 1 ช้ อนโต๊ ะ ลงในน ้ำอุ่นปริ มำณ 1 ถ้ วยตวงที่มีน ้ำตำลทรำย
ละลำยอยู่ 1 ช้ อนโต๊ ะ แล้ วคนให้ เข้ ำกัน ตังทิ ้งไว้ ประมำณ 5-10 นำที หำกยีสต์ค่อยๆ ปุดขึ ้นมำบริ เวณ
้
ผิวหน้ ำของน ้ำแสดงว่ำยังไม่เสื่อมคุณภำพ และหำกยีสต์จมอยู่ที่ก้นแก้ วคือเสื่อมคุณภำพ ไม่ควรนำมำใช้
อีก
วิธีกำรเก็บรักษำ ควรบรรจุในขวดที่ปิดฝำสนิท เก็บให้ ห่ำงจำกควำมร้ อน และแสงแดด ควรให้ ให้ หมดก่อน
วันหมดอำยุ ควรแช่ในตู้เย็นเพื่อให้ ใช้ ได้ นำน
ผงฟู Baking Powder
ผงฟูเป็ นสารที่ทาให้ เกิดการขึ ้นฟู มีสวนผสมระหว่างเบกกิ ้งโซดากับกรด หรื อเกลือของกรดและแปง ซึงการขึ ้นฟูจะ
่
้ ่
เกิดขึ ้นระหว่างการอบ ส่วนที่กรดจะทาปฎิกริ ยากับเบกกิ ้งโซดา จึงทาให้ เกิดฟองก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์ ขนมจึงขึ ้นฟูทาให้
เนื ้อขนมที่ได้ มีความโปร่งเบา
ในท้ องตลาดจะมีอยู่ 2 ประเภทคือ
1. ผงฟูกาลังหนึง (single acting หรื อ fast action)
่
ผงฟูจะผลิตก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์ออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผสมกันและระหว่างที่รอเข้ าอบ ดังนันต้ องทาการผสม
้
และอบอย่างรวดเร็ว ถ้ าไม่อบทันที ขนมจะขึ ้นฟูไม่ดีเท่าที่ควร
2. ผงฟูกาลังสอง (double action)
เป็ นผงฟูที่ผลิตก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์สองขึ ้น คือในขันตอนการผสมส่วนหนึง และอีกส่วนเกิดขึ ้นขณะเจอความร้ อนคือ
้
่
การอบ ผงฟูกาลังสองเป็ นที่นิยมและหาซื ้อได้ ง่าย เพราะไม่ต้องเร่งรี บในการผสม และการอบ
วิธีทดสอบผงฟูว่าเสื่อมคุณภาพหรื อยัง ทาได้ โดยใส่ผงฟู 1 ช้ อนชาในน ้าร้ อน 1 ถ้ วยตวง ถ้ ามีฟองอากาศขึ ้นมาอย่าง
รวดเร็ว และค่อยๆ ช้ าลง แสดงว่าผงฟูมีคณภาพดี
ุ
บทที่ 3 วิธีการทดลอง
วัสดุ
- ยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast), ยีสต์แห้ ง
ชนิดเม็ด(Active dry yeast) และยีสต์สด(Fresh
yeast)
- น ้าตาลทรายแดง
- ผงฟู

สารเคมี
- น ้ากลัน
่

อุปกรณ์
- ขวดวัดปริ มาตร
- ตู้กระจก
-แท่งแก้ วคนสาร
- เครื่ องต้ มสารละลาย(hotplate stirrer)
- เครื่ องชังสาร(balance)
่
- บีกเกอร์
- จุกยางชนิดมีรู
- ข้ อต่อยาง
- กระบอกตวง
- ช้ อนตักสาร
- กรวยเทสารเคมี
วิธีการทดลอง
ขันที่ 1
้
1.ชังสารด้ วยเครื่ องชังสาร(balance)ดังนี ้
่
่
- น ้าตาลทรายแดง 100 g จานาวน 3 บีกเกอร์
- ผงฟู(baking powder) 100 g จานวน 3 บีกเกร์

- ยีสต์แห้ งชนิดyeast)
ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast)
10 g ชนิดละ 1 บีกเกร์
ยีสต์สด(Fresh yeast)
2. ตวงน ้ากลัน 500 ml ใบบีกเกอร์ จากนันนาต้ มด้ วยเครื่ องต้ มสารละลาย(hotplate
่
้
stirrer) แล้ วเติมน ้าตาลทรายแดงที่ชงไว้ ลงไปเป็ นสารละลายกลูโคส ทังหมด 3 บีก
ั่
้
เกอร์ ทิ ้งไว้ ให้ อณหภูมิลดลง
ุ
ขันที่ 2
้
1. ต้ มน ้ากลันปริ มาตร 500 ml จานวน 1 บีกเกอร์ จากนันนาไปล้ างขวดวัดปริ มาตรโดยใช้ กรวยเทสารทัง้ 3 ขวดเพื่อ
่
้
ฆ่าเชื ้อเตรี ยมหมักยีสต์
2. ต่อจุดยางเข้ ากับข้ อต่อด้ านหนึง ข้ อต่ออีกด้ านต่อกับสายยาง เตรี ยมปิ ดขวดวัดปริ มาตร 3 ชุด
่
3. นากระบอกตวงไปติดตังในตู้กระจกและต่อกับปลายสายยางด้ านที่ไม่ติดจุก
้
4. เติมน ้าในตู้กระจกใหเท่วมกระบอกตวง
ขันที่ 3
้
1. เติมสารละลายกลูโคสที่อ่นแล้ ว ทัง้ 3บีกเกอร์ ลงใน 3ขวดวัดปริ มาตร 1บีกเกอร์ /1ขวดวัดปริ มาตร
ุ
2. เติมผงฟู 3 บีเกอร์ ลงใน 3 ขวดวัดปริ มาตร ที่มีสารละลายกลูโคสอยู่แล้ ว
3. เติมยีสต์ 3 ชนิด ลงใน 3 ขวดวัดปริ มาตร พร้ อมเขียนปายกากับ
้
4. ปิ ดจุกยางทัง้ 3 ขวดวัดปริ มาตร เขย่า ปล่อยให้ เกิดฟองอากาศทิ ้งไปประมาณ 10 นาที เนื่องจากมีสิ่งเจือปนอื่นที่
ไม่ใช่ CO2 บริ สทธิ์
ุ
5. ต่อสายยางดข้ าไปที่กระบอกตวง สังเกตว่าระบบยีสต์ใดเกิดฟองแก๊ ส CO2 มากที่สด ให้ ใช้ ระบบยีสต์นนเป็ น
ุ
ั้
มาตรฐานเก็บ CO2 ให้ ถึง 100 ml จากนันบันทึกผลระบบยีสต์อื่นตาม
้
6. ปล่อย CO2 ที่เก็บได้ ทิ ้งไป เพื่อเก็บ CO2 ครังใหม่ ทาการทดลองซ ้าๆบันทึกผลไปเรื่ อยๆ นาผลที่ได้ หาค่าเฉลี่ย
้
และอัตราการเกิด CO2 ของแต่ละระบบ (การทาระบบหมัก 1 ครังสามาอยู่ได้ ประมาณ1เดือน จึงสามารถบันทึก
้
ผลได้ หลายครัง)
้
ปริมาณ CO2 ที่เกิดขึน (ml)
้
บันทึกผลครั งที่
้

บทที่ 4 ผลการทดลอง

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

ยีสต์แห้ งชนิดผง ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด
(Instant yeast) (Active dry yeast)

100

54
52
53
56
50
52
54
57
45
46
49
52
48
47
46
56

ยีสต์สด
(Fresh yeast)

15
23
26
14
19
21
23
25
24
15
22
24
23
21
19
15
17
18
19
20
21
22
23

53
52
45
49
49
52
53

19
25
23
15
20
17
21

51
52
49
48
54
50
53
50.90

20
15
16
17
21
19
21
19.93

100

24
25
26
27
28
29
30
เฉลี่ย

100
บทที่ 5 สรุ ป อภิปรายผลและข้ อเสนอแนะ
จากการทดลองเก็บ CO2 โดยการเก็บแทนที่น ้า จากกระบวนการหมัก(fermentation) ของยีสต์ทงสามชนิด
ั้
ได้ ปริ มาณ CO2 ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) > ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast) > ยีสต์สด(Fresh yeast)
เป็ น 100 ml > 50.90 ml > 19.93 ml ตามลาดับ โดยให้ ปริ มาณ CO2 ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ซึงเกิด
่
CO2 มากที่สดคงที่ที่ 100 ml หาค่าเฉลี่ยอัตราการให้ CO2ของยีสต์ทงสามชนิด ได้ แก่
ุ
ั้
ยีสต์ แห้ งชนิดผง ยีสต์ แห้ งชนิด
ค่ าเฉลี่ย (Instant yeast) เม็ด(Active dry
ปั ด
100
yeast)
ทศนิยม
100
50.9
หารด้ วย
10
51
10
10
5.1
ปั ดตัว
5
เลย

ยีสต์ สด
(Fresh yeast)
19.93
20
2
2
ในทางกลับกัน หากต้ องการให้ ได้ CO2 ในปริ มาณที่เท่ากัน แต่ใช้ ยีสต์ต่างชนิดกัน (ใช้ เทียบหาปริ มาณการใช้ ใน
อุตสาหกรรมอาหาร) ต้ องใช้ ปริ มาณยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast):ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast):ยีสต์สด(Fresh
yeast) เป็ น 1:2:5 ตามลาดับ
ดังนันการนาระบบหมักยีสต์ไปประยุกต์ใช้ ในระบบไม้ พรรณไม้ น ้า สามารถตัดสินใจเลือกยีสต์และแนวทางได้ แม่นยา
้
ถูกต้ องมากขึ ้น กล่าวคือควรใช้ ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ที่ให้ ปริ มาณ CO2 มากที่สด และยังมีอายุการเก็บรักษา
ุ
ได้ นานกว่าชนิดอื่นๆ
ข้ อเสนอแนะ
1. ในขันตอนการผสมยีสต์ ผงฟูกบสารละลายกลูโคสในระบบ ควรทาพร้ อมกันทังสามระบบ เพื่อความพร้ อมกับในเรื่ องของ
้
ั
้
การเริ่ มต้ นการหมัก
2. การทดลองจาเป็ นต้ องมีผ้ ช่วยทาการทดลองอย่างน้ อย 4 คนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการบันทึกผลการทดลอง
ู
ในทางกลับกัน หากต้ องการให้ ได้ CO2 ในปริ มาณที่เท่ากัน แต่ใช้ ยีสต์ต่างชนิดกัน (ใช้ เทียบหาปริ มาณการใช้ ใน
อุตสาหกรรมอาหาร) ต้ องใช้ ปริ มาณยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast):ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast):ยีสต์สด(Fresh
yeast) เป็ น 1:2:5 ตามลาดับ
ดังนันการนาระบบหมักยีสต์ไปประยุกต์ใช้ ในระบบไม้ พรรณไม้ น ้า สามารถตัดสินใจเลือกยีสต์และแนวทางได้ แม่นยา
้
ถูกต้ องมากขึ ้น กล่าวคือควรใช้ ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ที่ให้ ปริ มาณ CO2 มากที่สด และยังมีอายุการเก็บรักษา
ุ
ได้ นานกว่าชนิดอื่นๆ
ข้ อเสนอแนะ
1. ในขันตอนการผสมยีสต์ ผงฟูกบสารละลายกลูโคสในระบบ ควรทาพร้ อมกันทังสามระบบ เพื่อความพร้ อมกับในเรื่ องของ
้
ั
้
การเริ่ มต้ นการหมัก
2. การทดลองจาเป็ นต้ องมีผ้ ช่วยทาการทดลองอย่างน้ อย 4 คนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการบันทึกผลการทดลอง
ู
ภาคผนวก
กำรชังยีสต์
่

กำรชังยีสต์และผงฟู
่
กำรเตรี ยมระบบหมัก
ยีสต์

กำรเตรี ยมสำรละลำย
กลูโคส อำหำรยีสต์
ฆ่ำเชื่ออุปกรณ์ที่ใช้ ทำระบบด้ วยน ้ำร้ อน
เริ่มทำระบบกำรหมักยีสต์ และบันทึกผล
บรรณานุกรม
ข้ อมูลเบืองต้ นเกี่ยวกับยีสต์
้
เข้ าถึงได้ จากhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=20609
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=20680
กระบวนการหมัก(Fermentation)
เข้ าถึงได้ จาก
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=35329
ยีสต์ ทงสามชนิดและผงฟู(Baking Powder)
ั้
เข้ าถึงได้ จาก
http://www.foodietaste.com/foodpedia_category.asp?id=8&pageno=3

More Related Content

Similar to Mycom (20)

PDF
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
PDF
โครงงานคอม
DOCX
แป้งฟักทอง
PDF
Projectm6 2-2556
PPT
งานวิจัยโยเกิร์ตข้าวโพด
PDF
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องน้ำหมักผลไม้
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์
DOC
Prelab tom&yim
DOC
Paper การแยกแบคทีเรียแลคติกที่สามารถผลิตแบคทีริโอซินจากผัก ผลไม้ และธัญพืชหมัก
PDF
Bakeryandchem
PDF
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
PPTX
โครงงานโรคพืช
PDF
ການຖະໜອມອາຫານ ແລະ ການເກັບຮັກສາ (ພາສາໄທ)
PDF
Http --www thaikasetsart-com-เห็ดแปรรูปสารพัดเมนู-
PDF
งานนำเสนอครั้งที่ 2_
DOC
R 404941003
PDF
185+01010346 a+ขนมถ้วยฟู+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
DOCX
โครงงานฉบับสมบูรณ์
PDF
Pphy05 respiration
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานคอม
แป้งฟักทอง
Projectm6 2-2556
งานวิจัยโยเกิร์ตข้าวโพด
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องน้ำหมักผลไม้
โครงงานคอมพิวเตอร์
Prelab tom&yim
Paper การแยกแบคทีเรียแลคติกที่สามารถผลิตแบคทีริโอซินจากผัก ผลไม้ และธัญพืชหมัก
Bakeryandchem
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงานโรคพืช
ການຖະໜອມອາຫານ ແລະ ການເກັບຮັກສາ (ພາສາໄທ)
Http --www thaikasetsart-com-เห็ดแปรรูปสารพัดเมนู-
งานนำเสนอครั้งที่ 2_
R 404941003
185+01010346 a+ขนมถ้วยฟู+1301+ครัวการอาชีพชาววัง
โครงงานฉบับสมบูรณ์
Pphy05 respiration
Ad

Mycom

  • 2. บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 บทที่ 3 บทที่ 4 ผลกำรทดลอง เอกสำรที่เกี่ยวข้อง บทที่ 5 สรุป อภิปรำยผลและ ข้อเสนอแนะ วิธีกำรทดลอง ภำคผนวก บรรณำนุกรม
  • 3. บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสาคัญของโครงงาน จากการที่ผ้ จดทาได้ เรี ยนวิชาชีววิทยา ในส่วนเนื ้อหาเรื่ องการหมัก(fermentation) ส่วนของการหมักที่ให้ ผลิตภัณฑ์ ูั เป็ น CO2 และ Alcoholนัน คือการทางานของจุลินทรี ย์ เช่น ยีสต์ แบคทีเรี ย เป็ นต้ น เนื่องจากยีสต์หาซื ้อได้ ง่ายตาม ้ ท้ องตลาด จึงสะดวกที่จะนามาศึกษาต่อ พบว่ายีสต์ยงแบ่งออกได้ เป็ นสามชนิด คณะผู้จดทาจึงได้ ศึกษาเกี่ยวกับยีสต์ทง้ั ั ั สามชนิดและพบอีกว่า ยีสต์แต่ละชนิดเมื่อหมักกับกลูโคสซึงยีสต์ใช้ เป็ นอาหารแล้ วเกิด CO2 ในปริ มาณที่ต่างกัน คณะ ่ ผู้จดทาจึงเกิดการคิดออกแบบระบบการหมักยีสต์ เพื่อเก็บ CO2 แทนที่น ้า เปรี ยบเทียบปริ มาณ CO2 ของยีสต์แต่ละชนิดที่ ั ได้ จากการหมักออกเป็ นอัตราส่วน ทังนี ้เพื่อเป็ นประโยชน์ต่อการใช้ เทียบหาปริ มาณการใช้ ยีสต์ต่างชนิดกันในอุตสาหกรรม ้ อาหารที่แน่นอนและถูกต้ อง และกระบวนการหมักของยีสต์ยงสามารถ ต่อ CO2 ทางสายยางเข้ าสูระบบพรรณไม้ น ้า การ ั ่ ทาระบบการหมักยีสต์เพื่อใช้ CO2 ในการสังเคราะห์ด้วยแสงของไม้ น ้านัน ยังต้ องตัดสินใจเลือกยีสต์ชนิดที่ให้ CO2 ใน ้ ปริ มาณที่เหมาะสม และระบบที่สมบูรณ์ปลอดเชื ้อ เพื่อให้ ได้ CO2 ที่เถียร ดังนันการทดลองกาอัตราการเกิด CO2 ของยีสต์ ้ ต่างชนิดจึงมีความจาเป็ นต่ออุตสาหกรรมอาหารและระบบพรรณไม้ น ้าที่กล่าวมาข้ างต้ น
  • 4. วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาหาอัตราการเกิด CO2 ของระบบการหมักของยีสต์ต่างชนิดกันด้ วยกลูโคส เพื่อศึกษาทดลอง ออกแบบระบบหมักยีสต์ที่สมบูรณ์ เพื่อให้ ได้ แต่ CO2 เสถียรปราศจากสิ่งเจอปน เพื่อนาผลการทดลอง คืออัตราการเกิด CO2 ไปประยุกต์ใช้ กบอุตสาหกรรมอาหารและ ระบบพรรณไม้ น ้าต่อไป ั ขอบเขตของการศึกษา ศึกษายีสต์ 3 ชนิดได้ แก่ 1. ยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast) ยีสต์สด(Fresh yeast) 2. ทดลองในห้ องปฏิบติการชีววิทยา ั 3. ใช้ น ้าตาลทรายแดงเป็ นอาหารของยีสต์เก็บ CO2 จากระบบของยีสต์ชนิดที่เกิด CO2 มากที่สดเป็ นมาตรฐาน ุ เก็บให้ ได้ 100 ml และบันทึกผลระบบยีสต์อื่นๆตาม
  • 5. ประโยชน์ ท่ ได้ รับ ี 1.ได้ รับความรู้เกี่ยวกับน ้าตาลที่ใช้ เป็ นอาหารของยีสต์ 2.ได้ รับความรู้เกี่ยวกับชนิดของยีสต์ ลักษณะ การใช้ และการเก็บรักษาที่แตกต่าง 3. ได้ รับความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบการหมักยีสต์ สมมติฐาน ยีสต์แต่ละชนิดเมื่อหมักกับกลูโคสแล้ วจะให้ ปริ มาณ CO2 ไม่เท่ากัน
  • 6. บทที่ 2 เอกสำรที่เกียวข้ อง ่ ชื่อสามัญ : Brewer’s yeast, bakers yeast ชื่อท้ องถิ่น : ยีสต์หมักเบียร์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saccharomyces cerevisiae (Meyen ex E.C Hansen, 1883) โดเมน : Eukaryota อาณาจักร : Fungi Class : Saccharomycetes Oder : Saccharomycetales Family : Saccharomycetaceae
  • 7. ลักษณะทั่วไป : - รากลุมหนึงที่สวนใหญ่เป็ นเซลล์เดี่ยวมีรูปร่างหลายแบบ เช่นรูปร่างกลม รี สามเหลี่ยม รูปร่างแบบมะนาว ฝรั่ง เป็ นต้ น ่ ่ ่ - เป็ นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว มีโครงสร้ างแบบยูคาริ โอต มีผนังเซลล์คล้ ายพืช(เซลลูโลสและไคติน) แต่ไม่มีคลอโรฟิ ลล์ จึงสร้ าง อาหารเองไม่ได้ - ดารงชีวิตแบบปริ สิต การขยายพันธุ์ : มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยวิธีการแตกหน่อ (budding)
  • 8. กระบวนการหมัก(Fermentation) : เป็ น กระบวนการที่สารอินทรี ย์เกิดการ เปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยอาศัยการทางาน ของจุลินทรี ย์ (เช่น ยีสต์ แบคทีเรี ย เป็ นต้ น) หรื อเอนไซม์ เช่น การหมักแปง น ้าตาล โดย ้ ใช้ ยีสต์จะได้ เอทานอล
  • 9. ยีสต์ สด Fresh yeast/Compressed yeast เป็ นยีสต์ที่ผลิตขึ ้นโดยการเลี ้ยงอัดรวมกัน โดยมีอาหารของยีสต์ที่เปี ยกชื ้นเป็ นก้ อนแข็ง ห่อด้ วย กระดาษตะกัวหรื อพลาสติกที่กนน ้าได้ ยีสต์จะมีความชื ้นอยู่ประมาณ 70% มีสีครี มอ่อนถึงน ้าตาลอ่อน ่ ั ค่อนข้ างขาว มีความชื ้นสูงประมาณ 70% การทางานของยีสต์จะช้ าลงเมื่ออุณหภูมิต่า ดังนันยีสต์สดจึงควรเก็บในตู้เย็นถ้ าจะเก็บไว้ นานเกิน ้ 1 วัน และอาจจะเก็บไว้ ได้ นานเป็ นสัปดาห์โดยไม่เสื่อมคุณภาพที่อณหภูมิ 50 องศาฟาเรนไฮท์ เก็บไว้ ใน ุ นานเป็ นเดือนที่อณหภูมิ 30 องศาฟาเรนไฮท์ หลังจากนันจะเริ่ มเสื่อมคุณภาพลงที่ละน้ อยๆ การแช่แข็ง ุ ้ ยีสต์สดจะทาให้ ยีสต์มีคณภาพอยู่ได้ นานขึ ้น แต่การแช่แข็งที่อณหภูมิสงยีสต์สดก็จะทาลายได้ ภายใน 24 ุ ุ ู ชัวโมง แต่การแช่แข็งที่อณหภูมิต่ากว่า -3 องศาเซลเซียส จะทาลายคุณภาพของยีสต์ทาให้ ยีสต์ตายใน ่ ุ ที่สด ยีสต์สดที่อ่อนตัวแล้ วไม่ควรนามาใช้ ุ
  • 10. ก่อนใช้ ทำให้ ยีสต์สดแตกแล้ วละลำยในน ้ำก่อนที่จะเติมลงไปในแปง น ้ำที่ใช้ ละลำยยีสต์ควรมีอณหภูมิ ้ ุ 80 องศำฟำเรนไฮท์หรื อประมำณ 30 องศำเซลเซียส เสร็จแล้ วตังทิ ้งไว้ ประมำณ 5-10 นำทีก่อนที่จะ ้ นำไปใช้ น ้ำที่ใช้ ละลำยยีสต์ไม่ควรมีสวนผสมของเกลือ เพรำะจะทำให้ ยีสต์ตำยได้ ่ สำหรับเมืองไทย แม้ ปัจจุบนจะมีโรงงำนที่ผลิตยีสต์สดออกมำได้ แต่ก็ยงไม่เป็ นที่นิยมเนื่องจำกควำมไม่ ั ั สะดวกในกำรใช้ งำนและกำรเก็บรักษำ แต่ยีสต์สดมีรำคำถูกและให้ กลิ่นของยีสต์ที่ดีแก่ผลิตภัณฑ์ในขัน ้ สุดท้ ำย ข้ อดีของยีสต์ ชนิดนี ้คือ เป็ นยีสต์ที่ใหม่ และมีควำมแข็งแรงดี เมื่อนำไปใช้ ทำขนมปั งจะทำให้ ได้ ขนมปั งที่มีกลิ่นดี มีกลิ่นหอมตำมธรรมชำติ กำรเก็บรักษำจะต้ องแช่เย็นให้ อยู่ระหว่ำง 2-10 องศำเซลเซียส มีอำยุกำรเก็บสัน ปริ มำณกำรใช้ ้ 2.5-5% ของน ้ำหนักแปง ้
  • 11. ยีสต์ แห้ งชนิดผง Instant yeast /Instant Active dry yeast เป็ นยีสต์ที่มีกาลังหมักสูงสุด นิยมใช้ มากที่สด มีลกษณะเป็ นผงละเอียด แปง มีความสามารถใน ุ ั ้ การหมักสูง ไม่ต้องละลายน ้าก่อนนาไปใช้ วิธีใช้ มีหลายวิธีอาทิ 1. จะเติมลงไปหลังจากที่ได้ ผสมแปงกับส่วนผสมอื่นแล้ ว ใน 2 นาที ให้ ผสมยีสต์กบส่วนที่เป็ นของเหลว ้ ั ชังหมักในสูตรก่อนนาไปผสมกับแปง ่ ้ 2. หรื อจะละลายกับน ้าอุ่นที่ 38 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที ก่อนนามาใช้ ก็ได้ มีวิธีใช้ หลายวิธีด้วยกัน 3. วิธีที่นิยมที่สดคือเติมลงในแปงได้ ทนที ุ ้ ั ปั จจุบนยีสต์แห้ งชนิดผงนี ้เป็ นที่นิยมกันในหมูผ้ ประกอบการด้ านนี ้ทัวๆ ไป เพราะจะสะดวกและ ั ่ ู ่ ใช้ ได้ ง่าย ยีสต์แห้ งชนิดนี ้จะบรรจุในขวด กระป๋ อง หรื อถุงที่ทาด้ วยกระดาษตะกัวซึ่งภายในจะอัดก๊ าซ ่ ไนโตรเจนไว้ ในปริ มาณเท่าๆ กัน
  • 12. วิธีกำรใช้ คือผสมน ้ำอุ่นกับน ้ำตำล รอจนน ้ำตำลละลำย จึงโรยยีสต์ลงไป หลังจำกนันค่อยเติมลงใน ้ ส่วนผสมของแปง จะทำให้ เกิดกำรหมักขึ ้น และทำให้ เกิดกำรฟู ้ วิธีกำรทดสอบคุณภำพยีสต์ โดยยีสต์ 1 ช้ อนโต๊ ะ ลงในน ้ำอุ่นปริ มำณ 1 ถ้ วยตวงที่มีน ้ำตำลทรำย ละลำยอยู่ 1 ช้ อนโต๊ ะ แล้ วคนให้ เข้ ำกัน ตังทิ ้งไว้ ประมำณ 5-10 นำที หำกยีสต์ค่อยๆ ปุดขึ ้นมำบริ เวณ ้ ผิวหน้ ำของน ้ำแสดงว่ำยังไม่เสื่อมคุณภำพ และหำกยีสต์จมอยู่ที่ก้นแก้ วคือเสื่อมคุณภำพ ไม่ควรนำมำใช้ อีก วิธีกำรเก็บรักษำ ควรบรรจุในขวดที่ปิดฝำสนิท เก็บให้ ห่ำงจำกควำมร้ อน และแสงแดด ควรให้ ให้ หมดก่อน วันหมดอำยุ ควรแช่ในตู้เย็นเพื่อให้ ใช้ ได้ นำน
  • 13. ผงฟู Baking Powder ผงฟูเป็ นสารที่ทาให้ เกิดการขึ ้นฟู มีสวนผสมระหว่างเบกกิ ้งโซดากับกรด หรื อเกลือของกรดและแปง ซึงการขึ ้นฟูจะ ่ ้ ่ เกิดขึ ้นระหว่างการอบ ส่วนที่กรดจะทาปฎิกริ ยากับเบกกิ ้งโซดา จึงทาให้ เกิดฟองก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์ ขนมจึงขึ ้นฟูทาให้ เนื ้อขนมที่ได้ มีความโปร่งเบา ในท้ องตลาดจะมีอยู่ 2 ประเภทคือ 1. ผงฟูกาลังหนึง (single acting หรื อ fast action) ่ ผงฟูจะผลิตก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์ออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผสมกันและระหว่างที่รอเข้ าอบ ดังนันต้ องทาการผสม ้ และอบอย่างรวดเร็ว ถ้ าไม่อบทันที ขนมจะขึ ้นฟูไม่ดีเท่าที่ควร 2. ผงฟูกาลังสอง (double action) เป็ นผงฟูที่ผลิตก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์สองขึ ้น คือในขันตอนการผสมส่วนหนึง และอีกส่วนเกิดขึ ้นขณะเจอความร้ อนคือ ้ ่ การอบ ผงฟูกาลังสองเป็ นที่นิยมและหาซื ้อได้ ง่าย เพราะไม่ต้องเร่งรี บในการผสม และการอบ วิธีทดสอบผงฟูว่าเสื่อมคุณภาพหรื อยัง ทาได้ โดยใส่ผงฟู 1 ช้ อนชาในน ้าร้ อน 1 ถ้ วยตวง ถ้ ามีฟองอากาศขึ ้นมาอย่าง รวดเร็ว และค่อยๆ ช้ าลง แสดงว่าผงฟูมีคณภาพดี ุ
  • 14. บทที่ 3 วิธีการทดลอง วัสดุ - ยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast), ยีสต์แห้ ง ชนิดเม็ด(Active dry yeast) และยีสต์สด(Fresh yeast) - น ้าตาลทรายแดง - ผงฟู สารเคมี - น ้ากลัน ่ อุปกรณ์ - ขวดวัดปริ มาตร - ตู้กระจก -แท่งแก้ วคนสาร - เครื่ องต้ มสารละลาย(hotplate stirrer) - เครื่ องชังสาร(balance) ่ - บีกเกอร์ - จุกยางชนิดมีรู - ข้ อต่อยาง - กระบอกตวง - ช้ อนตักสาร - กรวยเทสารเคมี
  • 15. วิธีการทดลอง ขันที่ 1 ้ 1.ชังสารด้ วยเครื่ องชังสาร(balance)ดังนี ้ ่ ่ - น ้าตาลทรายแดง 100 g จานาวน 3 บีกเกอร์ - ผงฟู(baking powder) 100 g จานวน 3 บีกเกร์ - ยีสต์แห้ งชนิดyeast) ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast) 10 g ชนิดละ 1 บีกเกร์ ยีสต์สด(Fresh yeast) 2. ตวงน ้ากลัน 500 ml ใบบีกเกอร์ จากนันนาต้ มด้ วยเครื่ องต้ มสารละลาย(hotplate ่ ้ stirrer) แล้ วเติมน ้าตาลทรายแดงที่ชงไว้ ลงไปเป็ นสารละลายกลูโคส ทังหมด 3 บีก ั่ ้ เกอร์ ทิ ้งไว้ ให้ อณหภูมิลดลง ุ
  • 16. ขันที่ 2 ้ 1. ต้ มน ้ากลันปริ มาตร 500 ml จานวน 1 บีกเกอร์ จากนันนาไปล้ างขวดวัดปริ มาตรโดยใช้ กรวยเทสารทัง้ 3 ขวดเพื่อ ่ ้ ฆ่าเชื ้อเตรี ยมหมักยีสต์ 2. ต่อจุดยางเข้ ากับข้ อต่อด้ านหนึง ข้ อต่ออีกด้ านต่อกับสายยาง เตรี ยมปิ ดขวดวัดปริ มาตร 3 ชุด ่ 3. นากระบอกตวงไปติดตังในตู้กระจกและต่อกับปลายสายยางด้ านที่ไม่ติดจุก ้ 4. เติมน ้าในตู้กระจกใหเท่วมกระบอกตวง
  • 17. ขันที่ 3 ้ 1. เติมสารละลายกลูโคสที่อ่นแล้ ว ทัง้ 3บีกเกอร์ ลงใน 3ขวดวัดปริ มาตร 1บีกเกอร์ /1ขวดวัดปริ มาตร ุ 2. เติมผงฟู 3 บีเกอร์ ลงใน 3 ขวดวัดปริ มาตร ที่มีสารละลายกลูโคสอยู่แล้ ว 3. เติมยีสต์ 3 ชนิด ลงใน 3 ขวดวัดปริ มาตร พร้ อมเขียนปายกากับ ้ 4. ปิ ดจุกยางทัง้ 3 ขวดวัดปริ มาตร เขย่า ปล่อยให้ เกิดฟองอากาศทิ ้งไปประมาณ 10 นาที เนื่องจากมีสิ่งเจือปนอื่นที่ ไม่ใช่ CO2 บริ สทธิ์ ุ 5. ต่อสายยางดข้ าไปที่กระบอกตวง สังเกตว่าระบบยีสต์ใดเกิดฟองแก๊ ส CO2 มากที่สด ให้ ใช้ ระบบยีสต์นนเป็ น ุ ั้ มาตรฐานเก็บ CO2 ให้ ถึง 100 ml จากนันบันทึกผลระบบยีสต์อื่นตาม ้ 6. ปล่อย CO2 ที่เก็บได้ ทิ ้งไป เพื่อเก็บ CO2 ครังใหม่ ทาการทดลองซ ้าๆบันทึกผลไปเรื่ อยๆ นาผลที่ได้ หาค่าเฉลี่ย ้ และอัตราการเกิด CO2 ของแต่ละระบบ (การทาระบบหมัก 1 ครังสามาอยู่ได้ ประมาณ1เดือน จึงสามารถบันทึก ้ ผลได้ หลายครัง) ้
  • 18. ปริมาณ CO2 ที่เกิดขึน (ml) ้ บันทึกผลครั งที่ ้ บทที่ 4 ผลการทดลอง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 ยีสต์แห้ งชนิดผง ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด (Instant yeast) (Active dry yeast) 100 54 52 53 56 50 52 54 57 45 46 49 52 48 47 46 56 ยีสต์สด (Fresh yeast) 15 23 26 14 19 21 23 25 24 15 22 24 23 21 19 15
  • 20. บทที่ 5 สรุ ป อภิปรายผลและข้ อเสนอแนะ จากการทดลองเก็บ CO2 โดยการเก็บแทนที่น ้า จากกระบวนการหมัก(fermentation) ของยีสต์ทงสามชนิด ั้ ได้ ปริ มาณ CO2 ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) > ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast) > ยีสต์สด(Fresh yeast) เป็ น 100 ml > 50.90 ml > 19.93 ml ตามลาดับ โดยให้ ปริ มาณ CO2 ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ซึงเกิด ่ CO2 มากที่สดคงที่ที่ 100 ml หาค่าเฉลี่ยอัตราการให้ CO2ของยีสต์ทงสามชนิด ได้ แก่ ุ ั้ ยีสต์ แห้ งชนิดผง ยีสต์ แห้ งชนิด ค่ าเฉลี่ย (Instant yeast) เม็ด(Active dry ปั ด 100 yeast) ทศนิยม 100 50.9 หารด้ วย 10 51 10 10 5.1 ปั ดตัว 5 เลย ยีสต์ สด (Fresh yeast) 19.93 20 2 2
  • 21. ในทางกลับกัน หากต้ องการให้ ได้ CO2 ในปริ มาณที่เท่ากัน แต่ใช้ ยีสต์ต่างชนิดกัน (ใช้ เทียบหาปริ มาณการใช้ ใน อุตสาหกรรมอาหาร) ต้ องใช้ ปริ มาณยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast):ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast):ยีสต์สด(Fresh yeast) เป็ น 1:2:5 ตามลาดับ ดังนันการนาระบบหมักยีสต์ไปประยุกต์ใช้ ในระบบไม้ พรรณไม้ น ้า สามารถตัดสินใจเลือกยีสต์และแนวทางได้ แม่นยา ้ ถูกต้ องมากขึ ้น กล่าวคือควรใช้ ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ที่ให้ ปริ มาณ CO2 มากที่สด และยังมีอายุการเก็บรักษา ุ ได้ นานกว่าชนิดอื่นๆ ข้ อเสนอแนะ 1. ในขันตอนการผสมยีสต์ ผงฟูกบสารละลายกลูโคสในระบบ ควรทาพร้ อมกันทังสามระบบ เพื่อความพร้ อมกับในเรื่ องของ ้ ั ้ การเริ่ มต้ นการหมัก 2. การทดลองจาเป็ นต้ องมีผ้ ช่วยทาการทดลองอย่างน้ อย 4 คนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการบันทึกผลการทดลอง ู
  • 22. ในทางกลับกัน หากต้ องการให้ ได้ CO2 ในปริ มาณที่เท่ากัน แต่ใช้ ยีสต์ต่างชนิดกัน (ใช้ เทียบหาปริ มาณการใช้ ใน อุตสาหกรรมอาหาร) ต้ องใช้ ปริ มาณยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast):ยีสต์แห้ งชนิดเม็ด(Active dry yeast):ยีสต์สด(Fresh yeast) เป็ น 1:2:5 ตามลาดับ ดังนันการนาระบบหมักยีสต์ไปประยุกต์ใช้ ในระบบไม้ พรรณไม้ น ้า สามารถตัดสินใจเลือกยีสต์และแนวทางได้ แม่นยา ้ ถูกต้ องมากขึ ้น กล่าวคือควรใช้ ของยีสต์แห้ งชนิดผง(Instant yeast) ที่ให้ ปริ มาณ CO2 มากที่สด และยังมีอายุการเก็บรักษา ุ ได้ นานกว่าชนิดอื่นๆ ข้ อเสนอแนะ 1. ในขันตอนการผสมยีสต์ ผงฟูกบสารละลายกลูโคสในระบบ ควรทาพร้ อมกันทังสามระบบ เพื่อความพร้ อมกับในเรื่ องของ ้ ั ้ การเริ่ มต้ นการหมัก 2. การทดลองจาเป็ นต้ องมีผ้ ช่วยทาการทดลองอย่างน้ อย 4 คนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการบันทึกผลการทดลอง ู
  • 27. บรรณานุกรม ข้ อมูลเบืองต้ นเกี่ยวกับยีสต์ ้ เข้ าถึงได้ จากhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=20609 http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=20680 กระบวนการหมัก(Fermentation) เข้ าถึงได้ จาก http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=35329 ยีสต์ ทงสามชนิดและผงฟู(Baking Powder) ั้ เข้ าถึงได้ จาก http://www.foodietaste.com/foodpedia_category.asp?id=8&pageno=3