SlideShare a Scribd company logo
การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15
                     The Fifteenth National Software Contest (NSC 2013)
0. คานา
        ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันของมนุษย์และเกี่ยวข้องกับการศึกษา
และการทางานในทุกวงการ ปัจจัยสาคัญที่ทาให้เทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผลจาก
ความก้าวหน้าของการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ เนื่องจากเป็นส่วนสาคัญของการใช้งานคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์
สื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงสิ่งที่ใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมการทางาน
ซอฟต์แวร์จึงเปรียบเสมือนสมองที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมและสั่งงานให้เป็นไปตามที่ต้องการได้
        การพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่จาเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่สูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กาลังสมองของมนุษย์
เป็นฐานสาคัญในการพัฒนาสร้างสรรค์ ซึ่งประเทศไทยมีแนวโน้มและศักยภาพเพียงพอที่จะส่งเสริมและสร้าง
ความเข้มแข็งให้ผู้พัฒนาใช้เป็นอาชีพหลักและสร้างรายได้ ตลอดจนเพิ่มปริมาณและคุณภาพเป็นอุตสาหกรรม
ที่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศกาลังอยู่ในสภาวะ
เริ่มต้นและก้าวไปข้างหน้า บุคลากรที่เป็นพื้นฐานสาคัญยังมีไม่เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ จึงจาเป็น
อย่างยิ่งที่จะต้องเร่งส่งเสริมและกระตุ้นให้เพิ่มจานวนของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้มากยิ่งขึ้นทั้งด้านคุณภาพและ
ความสามารถของผู้พัฒนา
        ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
ตลอดจนปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมีนโยบายชัดเจนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภายในประเทศให้เป็น
อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยดาเนินการทั้งการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถนาไปสู่เป้าหมายของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
        โครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย เป็นโครงการที่เนคเทคดาเนินการ
เพื่อเป็นเวทีสาหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาจากทั่วประเทศที่สนใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ส่งโครงการที่พัฒนา
ด้วยตนเองเข้าร่วมประกวดแข่งขัน โดยเนคเทค ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภูมิภาคเพื่อเป็น
ศูนย์ประสานงานการประกวดในระดับภูมิภาค คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยศิลปากรและสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิริน
ธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากสานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
        สาหรับในปีนี้ เนคเทคได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม
สุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล โดยสสส.ได้เข้าร่วมสนับสนุนการพัฒนาผลงานซอฟต์แวร์ด้านการ
ส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะของประชาชนไทย ส่วนมูลนิธิสยามกัมมาจลร่วมยกระดับผลงานให้ไปสู่กลุ่ม
ผู้ใช้งานจริงทั้งในระดับชุมชน ภาคสังคมและเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนทุนพัฒนาต่อยอดผลงาน พร้อมจัดหา
หน่วยงานสนับสนุนเพื่อร่วมเป็นที่ปรึกษาให้เยาวชนได้ผลิตผลงานจนสามารถใช้งานได้จริงต่อไป
        เนคเทคจึงขอเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้พัฒนาที่สนใจส่งผลงานซอฟต์แวร์เข้าร่วมการ
แข่งขัน เพื่อยกระดับผลงานซอฟต์แวร์ของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ดังจะเห็นได้จากผลงานที่ได้รับรางวัล
ชนะเลิศของโครงการสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศของการแข่งขัน Asia Pacific ICT Alliance Awards อย่าง
สม่าเสมอ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาค และที่
ฝ่ายบริหารและสนับสนุนงานวิจัย หมายเลขโทรศัพท์ 02-564-6900 ต่อ 2345, 2326-2328 โทรสาร 02-
564-6768 E-mail: fic@nnet.nectec.or.th หรือ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ เข้าร่วมกลุ่ม
“NSC Thailand” ในสังคมออนไลน์ Facebook http://www.facebook.com/groups/NSCThailand/



                                             (นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์)
                                                    ผู้อานวยการ
                                   ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย
                                 The National Software Contest
1. หลักการและเหตุผล
        คอมพิวเตอร์มีบทบาทสาคัญมากในชีวิตประจาวันและนับวันยิ่งมีบทบาทยิ่งขึ้นในทุกขณะ การพัฒนา
ทักษะในการเขียนโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์นั้น ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันกับ
ต่างประเทศได้ แต่การผลิตบุคลากรที่จะมาพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอนั้น จาต้องอาศัยบุคลากร
จานวนมากเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับประเทศ จากความจาเป็นดังกล่าว ศูนย์เทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จึงได้จัดทาโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาทักษะการ
พัฒนาซอฟต์แวร์และนาเอาความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยสนับสนุนเงินทุนเพื่อ
เป็นแรงจูงใจและกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาทาการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยตนเองและเปิดโอกาสให้มีการ
ประกวดแข่งขันชิงเงินรางวัลในระดับประเทศ อันจะเป็นการสร้างเวทีสาหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจในการ
พัฒนาความรู้สู่การเป็นนักวิจัยระดับอาชีพต่อไป
        จาก “โครงการสนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก” ซึ่งได้เริ่มดาเนินการครั้งแรกตั้งแต่
ปีงบประมาณ 2537 เนคเทคได้ปรับกลยุทธ์ในการดาเนินโครงการโดยจัดให้มีเวทีการแข่งขันในระดับประเทศ
และเปลี่ยนชื่อเป็น “การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National Software
Contest – NSC)” ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับถึงปัจจุบัน มีโครงการที่ได้รับการสนับสนุนไปแล้วทั้งสิ้นรวม
7,777โครงการ ทั้งนี้จากจานวนโครงการที่นักเรียน นิสิต และนักศึกษาส่งเข้ามาร่วมในโครงการรวม 15,506
ข้อเสนอโครงการ จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศจานวนกว่า 150 สถาบัน
        การดาเนินงานโครงการที่ผ่านมา เนคเทคพบว่า จานวนโครงการที่ส่งเข้าประกวดมากขึ้นทุกๆ ปี และ
มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ข้อเสนอโครงการมีความหลากหลาย จึงมีความจาเป็นในการสรรหาผู้ที่มีความรู้และ
เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการให้พอเพียงเพื่อให้โครงการดาเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ
ได้มีการกาหนดหัวข้อในการสนับสนุนไว้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการนาผลงานไปประยุกต์ใช้ และ/หรือ
เผยแพร่ตามเป้าหมายของโครงการ นอกจากนี้ยังคานึงถึงเทคโนโลยีที่อยู่ในกระแสความนิยมเพื่อทาให้การ
แข่งขันเป็นไปด้วยความเข้มข้นยิ่งขึ้น ตลอดการดาเนินงานที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าแนวทางการสนับสนุนโครงการ
พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เนคเทคได้ดาเนินการมาแล้วนั้นประสบผลสาเร็จในระดับหนึ่ง ดังจะเห็นได้จากปริมาณ
ข้อเสนอโครงการที่เสนอเข้ามาเพื่อขอรับทุนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี คุณภาพโครงการที่ผ่านการพิจารณามีการปรับปรุง
เพื่อให้สอดคล้องกับหัวข้อที่ เนคเทคมุ่งเน้นและกระตุ้นให้เกิดการคิดในเชิงสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ
หน่วยงานภายนอกทั้งทางภาครัฐและเอกชน ได้ให้ความสนใจและยินดีเข้าร่วมในโครงการ สมควรสนับสนุนให้
ดาเนินการโครงการนี้ต่อไป โครงการนี้นับว่ามีส่วนสาคัญยิ่งในการผลักดันและยกระดับผลงานเยาวชนให้
ปรากฏสู่สาธารณชนและสู่ภาคเอกชน เป็นการริเริ่มและกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ตระหนักและเห็น
คุณค่าของการพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงกระตุ้นให้กลุ่มเยาวชนที่เป็นฐานกาลังในการพัฒนาของประเทศสร้าง
เสริมทักษะการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางในการสร้างเวทีสาหรับผู้ที่สนใจในงาน
การพัฒนาซอฟต์แวร์ อันจะเป็นรากฐานที่สาคัญยิ่งต่อการสร้างนักวิจัยและการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป
        นอกจากนั้น เนคเทค ยังได้ร่วมกับ SIPA และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย ส่งผล
งานซอฟต์แวร์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเข้าร่วมการประกวดในงาน Asia Pacific ICT Alliance Awards
(APICTA) ในประเภทนักเรียน และนิสิต นักศึกษา ซึ่งงาน APICTA นี้ เป็นการประกวดผลงานด้านซอฟต์แวร์
ในด้านต่างๆ สาหรับประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมด้าน
ไอซีทีของประเทศในภูมิภาค เปิดโอกาสให้มีการนาเสนอผลงานซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ และศักยภาพทางธุรกิจ
และการตลาดจากผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ ภาคการศึกษา และนักเรียน นิสิต นักศึกษา โดยประเทศใน
ภูมิภาคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลจากเวทีดังกล่าวอย่าง
ต่อเนื่องทุกปี
         เพื่อให้การดาเนินโครงการมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิผลยิ่งขึ้น เนคเทค ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยใน
ภูมิภาค จัดตั้งหน่วยประสานงานของโครงการระดับภูมิภาคขึ้น เพื่อช่วยดาเนินการและประสานงานใน
โครงการ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การมอบทุน การพิจารณาโครงการ รวมทั้งการสนับสนุนทางด้านเทคนิค
การฝึกอบรมระยะสั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อโครงการต่อไป ศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการ ได้แก่
ภาคเหนือ: ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ศูนย์ประสานงานเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ภาคใต้: ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ภาคตะวันออก: คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา
ภาคกลาง: สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ภาคตะวันตก: ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
2. วัตถุประสงค์
         2.1 เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา
         2.2 เพื่อพัฒนาทักษะความคิดริเริ่มในการเขียนโปรแกรมอันจะเป็นรากฐานที่สาคัญยิ่งต่อการพัฒนา
                 อุตสาหกรรมด้านซอฟต์แวร์ในอนาคต
         2.3 เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
                 ให้สามารถเกิดประโยชน์ในการนาไปใช้ต่อไป
         2.4 เพื่อสร้างเวทีการแข่งขันและสร้างความสนใจสาหรับเยาวชนที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์
                 และเทคนิคการเขียนโปรแกรม
         2.5 เพื่อให้ได้ซอฟต์แวร์ต้นแบบที่หลากหลายซึ่งสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้จริง
3. เป้าหมายของโครงการ
       3.1 สนับสนุนโครงการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากทั่วประเทศ ปีละไม่น้อยกว่า 400 โครงการ มี
           นักเรียน นิสิต นักศึกษาเข้าร่วมในโครงการรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 1,000 คน
       3.2 สร้างเวทีการแข่งขันด้านซอฟต์แวร์ระดับเยาวชนและระดับชาติ ตลอดจนนาผลงานไปสู่เชิง
           พาณิชย์และสังคมต่อไป
       3.3 สร้างโอกาสและสนับสนุนนักพัฒนาโปรแกรมที่มีความรู้ความสามารถและทักษะที่จะพัฒนาไปสู่
           นักเขียนโปรแกรมมืออาชีพต่อไป
       3.4 สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาและการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะ
           การพัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open Source)


4. หัวข้อการแข่งขัน
       4.1 ระดับนิสิต นักศึกษา
               หมวด 11 โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ได้แก่ โปรแกรมที่สร้างความบันเทิงหรือการฝึกหัด
       ด้วยภาพ เสียง สัมผัส การเคลื่อนที่ และการกระตุ้นการใช้ไหวพริบของผู้เล่น ซึ่งโปรแกรมดังกล่าว
       อาจพัฒนาบนระบบปฏิบัติการใดๆ ก็ได้ เช่น ลินุกซ์ หรือวินโดวส์ เป็นต้น หรืออาจจะพัฒนาโดยใช้
       โปรแกรมช่วยสร้างเกม (Game Engine) เช่น Torque หรือ Ogre 3D ช่วยในการพัฒนาก็ได้
       โปรแกรมนี้อาจเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่มีเมาส์และคีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์
       สาหรับการติดต่อ อาทิ โปรแกรมจาลองการขับเครื่องบิน โปรแกรมต่อสู้ตัวต่อตัว โปรแกรมวาง
       แผนการสู้รบ โปรแกรมการสร้างเมือง เกมจาลองสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อสังคม เช่น อุบัติเหตุใน
       ท้องถนน ปริมาณน้าในธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ป่าไม้ ปัญหายาเสพติด เป็นต้น มีอุปกรณ์เฉพาะ
       สาหรับการเล่น อาทิ โปรแกรมการเล่นสเก็ตบอร์ดที่มีสเก็ตบอร์ดเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้น หรือ
       เล่นหลายคนบนเครือข่าย อาทิ โปรแกรมสู้รบบนเครือข่าย โปรแกรมจาลองการซื้อขายหุ้น เป็นต้น
       ทั้งนี้ความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเป็นสิ่งสาคัญ การละเล่น
       ใหม่ๆ อาจเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานหลายๆ การละเล่นเข้าด้วยกันได้ อาทิ การขับรถชนพินโบวลิ่ง
เป็นต้น หรือ โปรแกรมเพื่อผลิตสื่อบันเทิง เช่น เพลง หรือภาพยนตร์ หรือ Animation บนแผ่นซีดี
แบบพกพา หรือ การพัฒนาเครื่องมือในการผลิตเกม (Tool หรือ Engine) การผลิต Model หรือ
Character ของตนเองในโปรแกรม
คาสาคัญ (KEYWORDS) ความคิดสร้างสรรค์ การละเล่นใหม่ๆ อุปกรณ์ต่อพ่วง Animation


        หมวด 12 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ หมายถึง "โครงการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดย
จัดทาในรูปโครงงานมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กล่าวคือ การผลิตชิ้นงาน หรือผลงานที่ประสมประสาน
ข้อมูลที่ประกอบด้วยภาพและข้อความ เสียงและข้อความ ภาพและเสียง หรือทั้ง 3 องค์ประกอบ โดย
มีการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ (Communication and Interaction) เป็นส่วนประกอบสาคัญ
ของมัลติมีเดีย นาเสนอบน Web หรือ Cyberlab โดยในการพัฒนาอาจใช้โปรแกรมภาษาใดภาษา
หนึ่งที่เหมาะสม" ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะในการคิด และทักษะในการแก้ปัญหา
(Thinking Skill and Problem Solving Skill) และผู้เรียนรู้สึกสนุกกับเนื้อหาบทเรียน โดยอาจทา
เป็นภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ การจาลองสถานการณ์ แบบฝึกหัดทดสอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
โปรแกรมเพื่อสนับสนุนการสอนวิชาการโดยใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีอยู่แล้วและ
ง่ายต่อการใช้งานในการสร้างบทเรียน โปรแกรมสื่อการสอนหรือโปรแกรมที่สร้างสื่อการสอนวิชาการ
ในสาขาต่างๆ บน Linux LiveCD โดยเนื้อหาในการนาเสนอกาหนดให้เป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คอมพิวเตอร์ ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ) สังคม (แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ศาสนา จริยธรรม และประวัติศาสตร์ไทย) และสอดคล้องกับหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้
โปรแกรมต้องสามารถใช้งานได้จริงบน Learnsquare (http://www.learnsquare.com/)
คาสาคัญ (KEYWORDS) การมีปฏิสัมพันธ์ การพัฒนาทักษะในการคิดและทักษะในการแก้ปัญหา
Cyberlab, Animation


        หมวด 13 โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการและผู้สูงอายุ ได้แก่ โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็น
เครื่องช่วยอานวยความสะดวกสาหรับคนพิการประเภทต่างๆ เช่น คนตาบอด คนตาเลือนราง คนหู
หนวก/หูตึง คนพิการแขน-ขา (รวม cerebral palsy) คนที่บกพร่องทางสติปัญญา คนที่บกพร่อง
ทางการเรียนรู้ คนที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์ บุคคลออทิสซึม รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยที่ให้
พัฒนาโปรแกรมเพื่อให้คนพิการและผู้สูงอายุสามารถดารงชีวิตอิสระได้ กล่าวคือ เมื่อใช้โปรแกรมนี้
แล้ว ผู้ใช้สามารถที่จะดาเนินชีวิตประจาวันได้ มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนในห้องได้ หรือสามารถ
ประกอบอาชีพได้ ตัวอย่างโปรแกรมเช่น โปรแกรมช่วยการเขียนหรือการอ่านของเด็กที่บกพร่อง
ทางด้านการเรียนรู้ โปรแกรมช่วยขยายหน้าจอของคนสายตาเลือนราง โปรแกรมต่างๆที่มีเสียงอ่าน
สาหรับคนตาบอด โปรแกรมควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องหรือบ้านของผู้พิการแขนขา โปรแกรม
โทรศัพท์ข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือหรือผ่านอินเทอร์เน็ต สาหรับคนหูหนวก เป็นต้น ทั้งนี้ให้เน้น
เรื่องการพัฒนาโปรแกรมเป็นหลัก โดยอาจมีอุปกรณ์ต่อพ่วงได้ (Human Machine Interface)
คาสาคัญ (KEYWORDS) โปรแกรมช่วยอานวยความสะดวกสาหรับคนพิการและผู้สูงอายุ อุปกรณ์
ต่อพ่วง (Human Machine Interface)


        หมวด 14 โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หมายถึง
โปรแกรมช่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นทฤษฎี ผลลัพธ์จากการทดลอง และ
งานวิจัยใหม่ๆ เช่น โปรแกรมเพื่อศึกษาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมที่ส่งเสริมงานด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือการแพทย์) การประยุกต์ทางด้าน Parallel & Distributed Computing
เช่น การเขียนโปรแกรม mpi เพื่อทาการคานวณงานที่มีความซับซ้อน รวมถึงโปรแกรมเพื่อการ
ทดลองทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมแบบจาลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เช่น Modeling,
Visualization, Simulation หรือ Optimization โปรแกรมการจาลองสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อ
สังคม เช่น อุบัติเหตุในท้องถนน ปริมาณน้าในธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ป่าไม้ โปรแกรมที่ใช้ใน
กิจกรรมของ Linux Clustering โปรแกรมเพื่อศึกษาหรือควบคุมความคับคั่งของทีซีพี (TCP
Congestion) โปรแกรมที่ศึกษาหรือประยุกต์งานที่เกี่ยวข้องกับ multicast โปรแกรมในสาขา
เทคโนโลยีไร้สาย โปรแกรมประยุกต์สาหรับใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) โปรแกรม
ประยุกต์ใช้ข้อมูลจราจร โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี โปรแกรมด้านความ
มั่นคงปลอดภัยของข้อมูล เช่น โปรแกรมการcrack พาสเวิร์ด โปรแกรมการดักข้อมูล โปรแกรมการ
ตรวจจับfake access points ในที่สาธารณะหรือองค์กร โปรแกรมแอพฯ คุยโทรศัพท์ผ่านระบบ
เข้ารหัสลับบทสนทนา โปรแกรมแอพฯ การเข้ารหัสSMS เป็นต้น โดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
วิทยาการรหัสลับ (Cryptography) ที่เหมาะสม เช่น random number generating, encryption
algorithm, secure tunneling, authentication และ key management รวมทั้งเทคโนโลยีที่
เกี่ยวข้อง
คาสาคัญ (KEYWORDS) การจาลองสถานการณ์ (Simulation), แบบจาลองทฤษฎีวิทยาศาสตร์
(Modeling), Visualization, Optimization


         หมวด 15 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์ (Linux Desktop
Application) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาและทางานบนระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux) ซึ่งเป็นอาจจะ
เป็นโปรแกรมที่พัฒนาต่อยอดจากโปรแกรมโอเพนซอร์ส (Open Source) หรือพัฒนาขึ้นเองใหม่
ทั้งหมด โดยเน้นโปรแกรมประยุกต์ที่ทางานบนลินุกซ์เดสก์ท็อป ทั้งนี้ สัญญาอนุญาตของโปรแกรม
จะต้องเป็นแบบโอเพนซอร์ส เช่น GPL หรือ ตามสัญญาอนุญาตเดิมของซอฟต์แวร์ที่นามาต่อยอด

     โปรแกรมที่พัฒนาขึ้น เป็น Native Application พัฒนาบน Linux Desktop distribution
         ต่างๆ เช่น Ubuntu, Fedora, Linux Mint, Debian เป็นต้น

     เครื่องมือที่ใช้พัฒนาต้องเป็นโอเพนซอร์ส เช่น PHP, Python, Mono, GCC, GTK, QT,
         Gimp, Bluefish, vi เป็นต้น

     ผู้พัฒนาอาจเลือกใช้ Compiler เช่น GCC, G++ เป็นต้น หรือ เลือกใช้ Interpreter เช่น
         Shell Script, Python เป็นต้น หรือ เลือกใช้ GUI tools kit เช่น GTK, QT, TCL/TK เป็น
         ต้น

     ทั้งนี้ โปรแกรมที่พัฒนาในหมวดนี้ไม่รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมด้วย Java
 ตัวอย่างโปรแกรมที่พัฒนา เช่น โปรแกรมบัญชี หรือ โปรแกรมเพื่อช่วยในงานวิจัยในด้าน
        วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมี Interface ที่ใช้งานได้บน X Window และพัฒนาโดยใช้
        Library QT หรือ GTK เป็นต้น
คาสาคัญ (KEYWORDS) โอเพนซอร์ส (Open Source) ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux)


4.2 ระดับนักเรียน
        หมวด 21 โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ได้แก่ โปรแกรมที่สร้างความบันเทิงหรือการฝึกหัด
ด้วยภาพ เสียง สัมผัส การเคลื่อนที่ และการกระตุ้นการใช้ไหวพริบของผู้เล่น ซึ่งโปรแกรมดังกล่าว
อาจพัฒนาบนระบบปฏิบัติการใดๆ ก็ได้ เช่น ลินุกซ์ หรือวินโดวส์ เป็นต้น หรืออาจจะพัฒนาโดยใช้
โปรแกรมช่วยสร้างเกม (Game Engine) เช่น Torque หรือ Ogre 3D ช่วยในการพัฒนาก็ได้
โปรแกรมนี้อาจเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่มีเมาส์และคีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์
สาหรับการติดต่อ อาทิ โปรแกรมจาลองการขับเครื่องบิน โปรแกรมต่อสู้ตัวต่อตัว โปรแกรมวาง
แผนการสู้รบ โปรแกรมการสร้างเมือง เกมจาลองสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อสังคม เช่น อุบัติเหตุใน
ท้องถนน ปริมาณน้าในธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ป่าไม้ ปัญหายาเสพติด เป็นต้น มีอุปกรณ์เฉพาะ
สาหรับการเล่น อาทิ โปรแกรมการเล่นสเก็ตบอร์ดที่มีสเก็ตบอร์ดเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้น หรือ
เล่นหลายคนบนเครือข่าย อาทิ โปรแกรมสู้รบบนเครือข่าย โปรแกรมจาลองการซื้อขายหุ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเป็นสิ่งสาคัญ การละเล่น
ใหม่ๆ อาจเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานหลายๆการละเล่นเข้าด้วยกันได้ อาทิ การขับรถชนพินโบวลิ่ง
เป็นต้น หรือ โปรแกรมเพื่อผลิตสื่อบันเทิง เช่น เพลง หรือภาพยนตร์ หรือ Animation บนแผ่นซีดี
แบบพกพา หรือ การพัฒนาเครื่องมือในการผลิตเกม (Tool หรือ Engine) การผลิต Model หรือ
Character ของตนเองในโปรแกรม
คาสาคัญ (KEYWORDS) ความคิดสร้างสรรค์, การละเล่นใหม่ๆ, อุปกรณ์ต่อพ่วง Animation
หมวด 22 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ หมายถึง "โครงการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดย
จัดทาในรูปโครงงานมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กล่าวคือ การผลิตชิ้นงาน หรือผลงานที่ประสมประสาน
ข้อมูลที่ประกอบด้วยภาพและข้อความ เสียงและข้อความ ภาพและเสียง หรือทั้ง 3 องค์ประกอบ โดย
มีการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ (Communication and Interaction) เป็นส่วนประกอบสาคัญ
ของมัลติมีเดีย นาเสนอบน Web หรือ Cyberlab โดยในการพัฒนาอาจใช้โปรแกรมภาษาใดภาษา
หนึ่งที่เหมาะสม" ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะในการคิด และทักษะในการแก้ปัญหา
(Thinking Skill and Problem Solving Skill) และผู้เรียนรู้สึกสนุกกับเนื้อหาบทเรียน โดยอาจทา
เป็นภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ การจาลองสถานการณ์ แบบฝึกหัดทดสอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
โปรแกรมเพื่อสนับสนุนการสอนวิชาการโดยใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีอยู่แล้วและ
ง่ายต่อการใช้งานในการสร้างบทเรียน โปรแกรมสื่อการสอนหรือโปรแกรมที่สร้างสื่อการสอนวิชาการ
ในสาขาต่างๆ บน Linux LiveCD โดยเนื้อหาในการนาเสนอกาหนดให้เป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
(ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา) คอมพิวเตอร์ ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ) สังคม (แนวคิดเศรษฐกิจ
พอเพียง ศาสนา จริยธรรม และประวัติศาสตร์ไทย) และสอดคล้องกับหลักสูตรของ
กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ โปรแกรมต้องสามารถใช้งานได้จริงบน Learnsquare
(http://www.learnsquare.com/)
คาสาคัญ (KEYWORDS) การมีปฏิสัมพันธ์ การพัฒนาทักษะในการคิดและทักษะในการแก้ปัญหา
Cyberlab, Animation


        หมวด 23 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน หมายถึง โปรแกรมช่วยการทางานด้าน
คอมพิวเตอร์ทุกชนิด ได้แก่ โมดูลในระบบจัดการการเรียนการสอน โปรแกรมควบคุมในห้องเรียน
สาหรับผู้สอน โปรแกรมรักษาความปลอดภัยบนระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย โปรแกรมสาหรับ
การเตรียมเอกสาร การประมวลผลภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ การบีบ
อัดข้อมูล การเข้าและถอดรหัสข้อมูล การรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย โปรแกรมประยุกต์สาหรับใช้งาน
บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) โปรแกรมเพื่อศึกษาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมเพื่อ
ช่วยเหลือผู้พิการ โปรแกรมประยุกต์ใช้ข้อมูลจราจร หรือ โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้ในการบริการ
เป็นต้น ทั้งนี้ความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้งานได้จริงเป็นสิ่งสาคัญ
         โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้ในการบริการ หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นามาประยุกต์
เสริมในการบริการเพื่อสร้างรูปแบบบริการใหม่ๆ หรือปรับปรุงประสิทธิภาพของการบริการเดิมให้ดี
ยิ่งขึ้น โดยอาจจะเลือกทากับธุรกิจบริการทั่วๆไปหรืออาจจะแปลงผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบบริการก็
ได้ เช่น เปลี่ยนจากการเดินไปซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ เป็นบริการสั่งของทางแผ่นพับและ QR
code แทน ซึ่งต้องมีโปรแกรมในการสั่งและส่งของ หรือจะเลือกทาโปรแกรมกับธุรกิจบริการที่มีอยู่
แล้ว เช่น ธุรกิจการโรงแรม พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ฯลฯ ตัวอย่าง
โปรแกรมได้แก่ โปรแกรมการจัดการแถวคอยในโรงพยาบาล หรือในชีวิตประจาวันของนักเรียน
บริการแจ้งเตือนต่างๆ บริการให้ข้อมูลข่าวสารโดยการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Cloud หรือ Sensor
บริการประเภท Location-based Service และบริการบนเครือข่ายสังคม เป็นต้น ผู้พัฒนาควร
คานึงถึงโจทย์ความต้องการจริงของบริการนั้นๆ การมีส่วนร่วมของผู้ให้และผู้รับบริการ (Co-
creation) การออกแบบขั้นตอนการให้บริการที่ผู้ใช้พอใจ (Usability) การออกแบบให้ขยายบริการได้
(Scalability) และความยั่งยืน (Sustainability)
คาสาคัญ (KEYWORDS) ธุรกิจบริการ นวัตกรรมบริการ Location-based Service วิทยาศาสตร์
บริการ



4.3. หัวข้อพิเศษ
         หมวด 31 แอพลิเคชั่นออนไลน์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Environment App Contest)
         อุบัติภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นตัวบ่ง
ชี้ให้เห็นถึงความสาคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และสร้าง
ผลกระทบให้กับชีวิตและทรัพย์สินของมนุษยชาติ ดังนั้น การทาความเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมและ
วิถีทางในการแก้ไขปัญหา จึงถือเป็นปัจจัยพื้นฐานหนึ่งในการอนุรักษ์และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคต
ในการแข่งขันนี้ จึงมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันพัฒนาแอพลิเคชั่น เพื่อส่งเสริมความตระหนัก
ถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสานึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และ/หรือบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ให้แก่
เยาวชนและบุคคลทั่วไป โดยผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องดาเนินการตามข้อกาหนดดังนี้
        (1) แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายหลักของแอพลิเคชั่นที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะทาการพัฒนา
ตัวอย่างเช่น “การรับมือกับปัญหาโลกร้อน” “การเฝ้าระวังและเตือนภัย” และ “การใช้
ชีวิตประจาวัน”
        (2) ส่งเสริมการเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมในชุมชนในระดับภูมิภาค
ระดับชาติ และระดับนานาชาติ
        (3) มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสม อาทิเช่น Web Services, Web 2.0
และ Cloud Computing รวมทั้งเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ภูมิศาสตร์ สารสนเทศ (GIS) และ
การแสดงผลด้วยภาพ (Visualization)
        (4) ไม่จากัดแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี และภาษาที่ใช้พัฒนา อาทิเช่น Facebook
Application, Mobile Application, Google App Engine, Google Gadget, Firefox Extension
หรือ Joomla Component เป็นต้น
        (5) แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในเชิงความคิดสร้างสรรค์ และการนาไปประยุกต์ใช้งาน
จริงต่อไปได้
        สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
http://www.informationgrid.org/EnvironmentAppContest และ FB page “NSC
Environment App Contest”
คาสาคัญ (KEYWORDS) Web Services, Web 2.0, สิ่งแวดล้อม (Environment), Mobile
Application


        หมวด 32 Mobile Application โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานบนเครือข่ายสาหรับ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นสาหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เคลื่อนที่ได้
(Mobile computing device) เช่น โทรศัพท์มือถือ, SmartPhone, Tablet หรือ PDA โดย
โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นต้องมีการเรียกใช้งานผ่านเครือข่าย เช่น รับส่งข้อมูลจากฐานข้อมูลบนเครือข่าย
มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้อื่นบนเครือข่าย ตัวอย่างเช่น โปรแกรมเกมแบบหลายผู้เล่น โปรแกรมประยุกต์ใช้
ข้อมูลจราจร โปรแกรมส่งข้อความแบบหลายแพลตฟอร์ม (MSN, Yahoo, ICQ) และ Social
Networking & RSS Feeder Client โปรแกรมแลกเปลี่ยนไฟล์ข้อมูลและ Torrent Client
โปรแกรมแลกเปลี่ยน/ชมวีดิทัศน์ (YouTube) และ MobileTV Client โปรแกรมประชุมทางไกล
โปรแกรมประยุกต์ P2P โดยใช้ SIP, VoIP โปรแกรมประยุกต์สาหรับใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ยุคหน้า (IPv6) เป็นต้น ระบบเครือข่ายนี้ไม่จากัดเฉพาะเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาจรวมถึง
เครือข่าย Wireless LAN เครือข่ายไร้สายเฉพาะกิจ (Wireless Ad-hoc Network) หรือ เครือข่าย
อินเทอร์เน็ต (IPv4) หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) ก็ได้ นอกจากนี้สามารถใช้ภาษาใดก็ได้
(JAVA, C, C++, ฯลฯ) และระบบปฏิบัติการใดก็ได้ (iOS, Android, Windows, SymbianOS,
PocketPC, Linux, PalmOS, ฯลฯ) ในการพัฒนา โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจะต้องสามารถทดลองใช้งาน
ได้จริงกับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการดังกล่าว
        โปรแกรมประยุกต์ใช้ รวบรวม หรือแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางขนส่งและจราจร
สาหรับผู้เดินทางไม่ว่าจะเป็นผู้ขับรถยนต์ส่วนตัว แท็กซี่ หรือผู้โดยสารสาธารณะ อาจพัฒนาปัจจัย
เสริมช่วยเหลือในการเดินทาง เช่น ตารางรถประจาทาง รายงานสภาพจราจร แผนที่นาทาง การ
บริหารจัดการการออกรถ เป็นต้น โดยสามารถสื่อสารระหว่างรถ หรือสื่อสารระหว่างรถกับศูนย์ข้อมูล
ตัวอย่างของการนาเสนอข้อมูลผ่านทางเว็บ ได้แก่ http://traffy.in.th นอกจากนี้ทางเนคเทค ได้มี
การรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลจราจรที่เป็นประโยชน์ ผ่านทางช่องทางของโครงการ Traffy
Application Programming Interface (Traffy API) โดยหน้าที่หลักของ Traffy API คือการเป็น
สื่อกลางระหว่างข้อมูลจราจรและนักพัฒนา ที่ต้องการนาข้อมูลไปต่อยอดอาทิเช่น ข้อมูลภาพจาก
กล้องวงจรปิด (CCTV), ข้อมูลสภาพการจราจรและระดับความติดขัด และข้อมูลชื่อและพิกัดของถนน
ต่างๆ ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://info.traffy.in.th/api/
คาสาคัญ (KEYWORDS) เครือข่ายเคลื่อนที่ โปรแกรมประยุกต์สาหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบขนส่ง
และจราจรอัจฉริยะ (Intelligent Transport System)


        หมวด 33 BEST 2013 : การแข่งขันสุดยอดการรู้จาตัวอักษรภาษาไทย (Thai
Character Recognition Contest)
        การวัดเปรียบเทียบสมรรถนะเพื่อพัฒนามาตรฐานการประมวลผลภาษาไทย (Benchmark
for Enhancing the Standard of Thai language processing) หรือ BEST นี้ เป็นชุดของการ
แข่งขันซอฟต์แวร์ที่สาคัญและเกี่ยวข้องกับการประมวลผลภาษาไทย โดยแต่ละปีจะมีการกาหนด
หัวข้อการแข่งขันตามความเหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมเนื้อหาในการประมวลผลภาษาไทยระดับต่างๆ
ในปีนี้ทางผู้จัดเลือกหัวข้อ การรู้จาตัวอักษรภาษาไทย (Thai Character Recognition) มาเป็นโจทย์
ในการแข่งขัน
        การรู้จาตัวอักษร (Character Recognition) เป็นหัวข้อที่มีผู้ทาวิจัยมาอย่างยาวนานและ
ต่อเนื่อง ทั้งนี้การรู้จาตัวอักษรในแต่ละภาษาจะมีความแตกต่างกันตามลักษณะของภาษานั้นๆ
ภาษาไทยถือได้ว่าเป็นภาษาที่มีความยากและซับซ้อนในการรู้จาภาษาหนึ่ง เนื่องจากภาษาไทยมี
จานวนตัวอักษรค่อนข้างมาก มีระดับการเขียนหลายระดับ และมีโอกาสเขียนติดหรือทับกัน จึงเป็น
การยากที่จะสร้างระบบรู้จาตัวอักษรที่มีความถูกต้องสมบูรณ์ขึ้นมาได้
        เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะจัดเรื่องการรู้จาตัวอักษรภาษาไทย ทางผู้จัดจึง
จากัดขอบเขตของโจทย์ให้เป็นเฉพาะการรู้จาตัวอักษรภาษาไทยที่เป็นตัวอักษรเดี่ยวเท่านั้น โดยทาง
หน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีภาพ (IMG) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(NECTEC) จะเปิดทรัพยากรภาษา อันได้แก่ ฐานข้อมูลภาพตัวอักษรที่มี ชนิด ขนาด และรูปแบบที่
หลากหลาย, ตัวอักษรคาตอบที่ต้องการ เป็นต้น โดยข้อมูลที่ให้จะแบ่งเป็น ชุดฝึกฝน (Training set)
และชุดทดลอง (Validation set) เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถนาไปพัฒนาโปรแกรมรู้จาตัวอักษรต่อไป
        ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันสามารถใช้ทรัพยากรภาษาที่จัดเตรียมไว้ให้ หรือจะจัดหามาเอง หรือจะ
พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดก็ได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า จะต้องไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น โดยผู้เข้า
แข่งขันจะต้องพิสูจน์การได้มาของข้อมูลรวมถึงโปรแกรมที่ใช้พัฒนาอย่างถูกต้อง รายละเอียดเพิ่มเติม
ติดตามได้จากเว็บไซต์ http://thailang.nectec.or.th/best/
คาสาคัญ (KEYWORDS) การวัดเปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark), การรู้จาตัวอักษร
(Character Recognition), การรู้จารูปแบบ (Pattern Recognition), ภาษาไทย (Thai Language),
การประมวลผลภาพ (Image Processing), การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language
Processing)


4.4 ระดับครู อาจารย์
        หมวด 41 สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ (Content for Learning
Management System) โดยพัฒนาเนื้อหาสาระการเรียนการสอนที่ต้องเผยแพร่แบบโอเพนซอร์ส
และสามารถนาไปใช้ได้กับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ (LMS) ที่เป็นฟรีแวร์หรือโอเพนซอร์ส เช่น
Moodle หรือ Learnsquare ลักษณะเนื้อหาที่พัฒนาขึ้น ควรเน้นภาพเคลื่อนไหวและการมี
ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อดึงดูดให้ผู้เรียนสนใจในบทเรียน และสามารถสร้างทักษะในการเรียนรู้
ภายใต้เนื้อหา โดยมีเนื้อหาตรงตามหลักสูตรด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา)
คอมพิวเตอร์ ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ) สังคม (แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ศาสนา จริยธรรม
และประวัติศาสตร์ไทย) ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทุกโรงเรียนหรือทุกสถาบันมีเนื้อหาหลักสูตร
เหมือนกัน ตลอดจนมีการนาไปใช้ในห้องเรียนจริง
        มาตรฐานการผลิตสื่อการเรียนการสอน สื่อเรียนรู้โดยเฉพาะการนาเสนอในรูปแบบ e-
Learning จะมีมาตรฐานมากขึ้น มาตรฐานหนึ่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ มาตรฐาน
SCORM (Shareable Content Object Reference Model) อันเป็นมาตรฐานที่ช่วยให้สื่อเรียนรู้
นั้นๆ สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ทั้งนี้ SCORM มีรายละเอียดหลายประการ ในที่นี้ ได้นาเสนอในส่วน
ของการพัฒนาเนื้อหาสาระ (Shareable Content Objects – SCOs) โดยส่วนของ SCOs ที่พัฒนา
อย่างเป็นมาตรฐานจะทาให้เกิดการนาเนื้อหาที่พั ฒนาแล้วนั้นไปใช้ต่อไปได้ ใช้กับระบบบริหาร
จัดการ e-Learning (LCMS: Learning and Content Management Systems) ระบบใดก็ได้ที่
รองรับมาตรฐาน SCORM
ลักษณะของสื่อเรียนรู้ตามมาตรฐาน SCORM จะมีจุดเด่นหลัก คือ
• มีลักษณะเป็นวัตถุเรียนรู้ (Learning Objects) ที่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งหน่วยการเรียน หรือ
เฉพาะชิ้น โดยวัตถุเรียนรู้จะอยู่ในฟอร์แมตใดก็ได้ ทั้ง Text, HTML files, Image, Flash Movie,
PDF
• สามารถนาเข้า (Import) และส่งออก (Export) เพื่อใช้กับ LCMS ใดก็ได้ที่สนับสนุนมาตรฐาน
SCORM
• เนื้อหา SCORM ที่พัฒนาแล้ว สามารถเรียกดูได้ทันที โดยไม่ต้องอาศัย LCMS ใดๆ ในลักษณะ
Offline
แนวทางการพัฒนา
การพัฒา SCORM Content มีแนวทาง 2 รูปแบบ ได้แก่
• การพัฒนาเครื่องมือแล้วพัฒนา SCORM Content จนครบทุกกระบวนการ โดยมีหัวใจหลักคือ การ
ใช้เทคโนโลยี XML เป็นตัวกลาง (imsmanifest.xml)
• การพัฒนาเฉพาะ SCORM Content โดยใช้เครื่องมือพัฒนาเนื้อหาที่สนับสนุนมาตรฐาน SCORM
เช่น LearnSquare ระบบ OpenSource e-Learning ที่เนคเทคสนับสนุนการพัฒนาและเผยแพร่
(http://www.learnsquare.com) จากนั้นส่งเฉพาะ SCORM Content เข้ามาประกวด
ตัวอย่างของ SCORM Content สามารถดาวน์โหลดได้จาก
• http://www.learnsquare.com
• http://www.adlnet.org/downloads
• http://www.unesco.org/cgi-
bin/webworld/portal_freesoftware/cgi/page.cgi?g=Software/Courseware_Tools/index.s
html&d=1
หมายเหตุ:

            1. โครงการฯ ส่งเสริมให้ผู้พัฒนาโครงการได้พัฒนาและใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตาม
    กฎหมายในการพัฒนาโปรแกรม ทั้งนี้ โครงการที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์ Open Source จะได้รับการ
    พิจารณาเป็นกรณีพิเศษ กรณีที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ จะต้องมีหลักฐานยืนยันว่า มีลิขสิทธิ์
    ถูกต้องตามกฎหมาย

            2. สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุนการพัฒนา
    โปรแกรมเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะองค์รวม ทั้ง 4 มิติ คือ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางจิต สุขภาวะทาง
    สังคม และสุขภาวะทางปัญญา พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการดูแลสุขภาพและสร้างค่านิยมการสร้าง
    เสริมสุขภาวะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยการนาเนื้อหาที่พัฒนาขึ้นโดยสานักงานกองทุนการสร้างเสริม
    สุขภาพ (สสส.) ซึ่งสามารถค้นหาสื่อความรู้ได้ที่ http://info.thaihealth.or.th/ ได้แก่ โปรแกรมการ
    ออกกาลังกาย การลดปัจจัยเสียงต่างๆ และการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เป็นต้น โปรแกรมจะต้องมีความ
    ถูกต้องแม่นยาสูง และเชื่อถือได้ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

            ตัวอย่างเช่น โปรแกรมหรือเกมส์ส่งเสริมการออกกาลังกาย โปรแกรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกาย
    และจิต โปรแกรมส่งเสริมการสร้างความตระหนักเรื่องโลกร้อน เกมส์ส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยหรือลด
    อุบัติเหตุจราจร โปรแกรมส่งเสริมการเลิกเหล้า/บุหรี่ โปรแกรมหรือเกมส์ให้ความรู้พิษภัยบุหรี่/เหล้า เป็น
    ต้น

            3. เยาวชนที่สนใจต่อยอดผลงานของตนเองจนสามารถใช้งานได้จริง สามารถเสนอขอรับทุน
    สนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพัฒนาผลงาน จาก “โครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่” สนับสนุนโดย มูลนิธิ
    สยามกัมมาจล โดยผลงานของเยาวชนที่ร่วมโครงการจะได้การCoaching แบบมืออาชีพจากหน่วยงานที่
    คว่าหวอดในสายงานที่ต่อยอดทั้งด้านที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม คุณภาพชีวิต
    คุณภาพสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมโอกาสในการได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการ
    แข่งขันในเวทีนานาชาติ ติดตามรายละเอียดและเงื่นไขการขอรับทุนเพิ่มเติมได้จาก เว็บไซต์
http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ facebook group: “NSC Thailand”

    http://www.facebook.com/groups/NSCThailand/

            4. สมาคมไอพีวี 6 ประเทศไทย ให้การสนับสนุนผลงานที่ส่งเข้าประกวดในหัวข้อใดก็ได้ ที่ได้รับ
    การพิจารณาแล้วว่าสามารถใช้งานได้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) และเป็นการใช้ประโยชน์
    จากความสามารถของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) โดยสมาคมฯ จะสนับสนุนเงินรางวัลพิเศษไม่
    เกิน 3 รางวัล มูลค่ารวม 30,000 บาท ตัวอย่างของโปรแกรมที่ใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า
    (IPv6) ได้แก่ โปรแกรมเกมแบบหลายผู้เล่น โปรแกรมแลกเปลี่ยนไฟล์ข้อมูล โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์
    ไฟฟ้าทางไกล โปรแกรมสนทนา โปรแกรมแลกเปลี่ยน/ชมวีดิทัศน์ โปรแกรมประชุมทางไกล โปรแกรม
    โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP) เป็นต้น สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่าย
    อินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) ได้ที่ http://ipv6.nectec.or.th

            5. ผู้พัฒนาในโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยทุกประเภท
    สามารถนา Application Program Interface (API) ของเนคเทค เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับแปลภาษา
    ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง (Text to Speech) ซอฟต์แวร์สืบค้นข้อมูล (Search Engine)
    ซอฟต์แวร์รู้จาตัวอักษรภาษาไทยด้วยแสง (Thai OCR) พจนานุกรม Lexitron ระบบบาร์โค้ด เป็นต้น มา
    ใช้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในการพัฒนางานของตนได้

            6. การรับสมัคร ผู้พัฒนาจะต้องสมัครและกรอกข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของโครงการ
    http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ http://www.nscthailand.net



5. กาหนดการรับสมัคร

    ส่งข้อเสนอโครงการ                                                   กรกฎาคม - สิงหาคม

    ประกาศผลข้อเสนอโครงการที่ผ่านการพิจารณา                             กันยายน

    ระยะเวลาพัฒนาซอฟต์แวร์                                              กันยายน - ธันวาคม

    ทาสัญญาและพิธีมอบทุน                                                ตุลาคม
 กาหนดส่งมอบผลงาน                                                      ต้นเดือนมกราคม

    ประกาศผลโครงการที่ผ่านการพิจารณาและโครงการที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ กลางเดือนมกราคม

    การประกวดรอบชิงชนะเลิศ                                                ต้นเดือนกุมภาพันธ์



6. เงินทุนและรางวัล
         โครงการที่ผ่านการพิจารณาจะได้รับทุนสนับสนุนรวมโครงการละ 12,000 บาท โดยมีรายละเอียด
         ดังนี้
         1. ผ่านการพิจารณาในรอบข้อเสนอโครงการ (รอบแรก) ได้รับทุนสนับสนุนโครงการละ 3,000 บาท
         2. ผ่านการพิจารณาในรอบผลงานโครงการ (รอบสอง) ได้รับทุนสนับสนุนโครงการละ 9,000 บาท
         (โดยทีมผู้พัฒนาได้รับ 7,000 บาท และอาจารย์ที่ปรึกษาได้รับ 2,000 บาท)
         สาหรับผลงานที่ผ่านการพิจารณาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จะมีเงินรางวัลพร้อมโล่เกียรติยศ ดังนี้
         รางวัลที่ 1     60,000 บาท และถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม
ราชกุมารี (เฉพาะประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษา)
         รางวัลที่ 2     40,000 บาท
         รางวัลที่ 3     20,000 บาท
         รางวัลชมเชย     ประเภทละ 2 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท
         รางวัลพิเศษ     รวมมูลค่า 30,000 บาท จาก สมาคมไอพีวี 6 ประเทศไทย สาหรับโปรแกรม
ประยุกต์สาหรับใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6 capable)
         เงินรางวัลทุกประเภท จะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยมอบให้ทีมผู้พัฒนา จานวน 80% และอาจารย์ที่ปรึกษา
20%
         สถาบันการศึกษาที่ได้รับรางวัลที่ 1, 2 และ 3 ในแต่ละประเภท จะได้รับโล่รางวัลเกียรติยศจาก
เนคเทค
7. ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ
       นักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่เข้าร่วม โครงการ NSC หรือ YSC และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่
มหาวิทยาลัยกาหนด มีสิทธิ์ได้รับโควตาเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยดังต่อไปนี้
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัย
ศิลปากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
       ทั้งนี้ สถานศึกษาบางแห่งมีการพิจารณาให้ทุนการศึกษาเพิ่มเติม สาหรับผู้พัฒนาที่ได้รับรางวัลในการ
ประกวดรอบชิงชนะเลิศ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น
       รายละเอียดติดต่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาค ณ มหาวิทยาลัยดังกล่าว หรือ ศูนย์เทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ


8. เกณฑ์การพิจารณาประกวดตัดสินโครงการ
       8.1 รอบคัดเลือกข้อเสนอโครงการ
       คัดเลือกผลงานจากข้อเสนอโครงการที่ส่งเข้ามา โดยกาหนดประเด็นพิจารณาไว้ 5 ด้าน เพื่อเป็น
แนวทางให้คณะกรรมการใช้สาหรับการพิจารณาข้อเสนอโครงการ โดยแต่ละกลุ่ม เกณฑ์และน้าหนักของการ
ให้คะแนนต่างกันตามตารางที่กาหนด เพื่อความเหมาะสมในการตัดสินในแต่ละประเภท โดยการพิจารณา
ข้อเสนอโครงการจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ด้านต่างๆ ดังนี้
       1. ด้านความสมบูรณ์ของข้อเสนอโครงการ ข้อเสนอโครงการมีรูปแบบและหัวข้อครบถ้วน
            สามารถสื่อสารให้ผู้อ่านเข้าใจได้ ใช้ภาษาได้ถูกต้อง มีภาพ ตาราง หรือ ตัวอย่างประกอบทาให้
            สื่อได้ชัดเจน
       2. ด้านความยากง่ายในการพัฒนา เทคนิคที่ใช้มีความซับซ้อน หรือ ขั้นสูง เทคโนโลยีใหม่และมี
            ประสิทธิภาพ มีคุณค่าในเชิงงานพัฒนาหรือการวิจัย หรือใช้เทคนิคที่ไม่ซับซ้อนมาก แต่ถ่ายทอด
            ได้น่าสนใจ โครงการที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open Source) จะได้รับการพิจารณา
            เป็นกรณีพิเศษ
3. ด้านความคิดสร้างสรรค์ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ แปลก ใหม่ ยังไม่มีผู้พัฒนาหรือคิดค้นมาก่อน
             หรือ มีผู้พัฒนามาแล้ว แต่นาเสนอหรือพัฒนาในแนวทางที่แตกต่างออกไป
         4. ด้านประโยชน์ใช้งาน สามารถนาไปใช้งานได้จริง มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง
             สามารถนาไปผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ สามารถนาไปพัฒนาต่อยอดได้
         5. ด้านความน่าจะพัฒนาโครงการได้เสร็จตามกาหนด ขอบเขตงาน สามารถพัฒนาได้เสร็จภายใน
             ระยะเวลาที่กาหนด 4 เดือน สาหรับงานใหม่ หรือ งานที่พัฒนาต่อยอดจากงานเดิมก็ตาม

                                                  ควา      ควา       ควา      ปร      ควา
                                                   ม        ม       มคิด      ะโ       ม
                   ประเภท                         สมบู     ยาก       สร้า     ยช      น่าจ          รวม
                                                  รณ์      ง่าย      งสร       น์      ะ
                                                  ของ       ใน       รค์      ใช้     พัฒ
                                                  ข้อเ     การ                งา       นา
                                                  สนอ      พัฒ                 น       ได้
                                                            นา                        เสร็
                                                                                       จ

โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักศึกษา)                20        20       25       20       15           100

โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักศึกษา)        20        15       25       25       15           100
โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการ (นักศึกษา)                20        20       15       30       15           100
โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์            20        25       25       20       10           100
และเทคโนโลยี (นักศึกษา)
โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์        20        25       15       25       15           100
(นักศึกษา)
โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักเรียน)                20        20       25       20       15           100
โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน)        20        15       25       25       15        100
โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน (นักเรียน)          20        20       20       25       15        100

Environment App Contest                           20        20       20       25       15        100
Mobile Application                                20        20       25       25       10        100

สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์          20        15       25       25       15        100

         หมายเหตุ: เนคเทค พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโครงการตามความเหมาะสม เพื่อให้ทุนสนับสนุน
 โครงการในแต่ละประเภทโดยพิจารณาจากการจัดลาดับคะแนนที่ได้สูงสุดลงมา ทั้งนี้ โครงการที่จะได้รับการ
 สนับสนุน ต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่า 50 คะแนน


         8.2 รอบการส่งผลงาน
         เนคเทค พิจารณาจากผลงานและรายงานฉบับสมบูรณ์ที่ผู้พัฒนาจัดส่งและตรวจสอบความครบถ้วน
 ของผลงานที่ส่งมอบ โดยพิจารณาจาก
         1. ในการนาเสนอผลงานและสาธิตซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น ผู้พัฒนาต้องมานาเสนอผลงานด้วยตนเอง
         2. สิ่งที่ต้องส่งมอบครบตามที่เนคเทคกาหนด คือ รายงานฉบับสมบูรณ์ คู่มือการติดตั้งและคู่มือการ
            ใช้งาน จานวน 2 ชุด และ CD-ROM จานวน 2 ชุด บรรจุข้อมูลดังนี้ ซอร์สโค้ด ชุดโปรแกรม
            สาหรับติดตั้ง (Setup Program) Software Libraries และ/หรือ Tools ไฟล์เอกสารรายงาน
            และข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (Disclaimer) คะแนนส่วนนี้กาหนด ไว้ไม่เกิน 25%
         3. ผลการทดลองใช้งานจริง เนคเทคจะมีคณะทางานตรวจสอบผลงาน โดยทดลองติดตั้งและทดลอง
            ใช้งานจริงตามคู่มือ จุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละผลงาน รวมทั้งข้อเสนอแนะผลงานจะถูกให้
            คะแนนโดยคณะผู้ตรวจ กาหนดไว้ไม่เกิน 75% ของคะแนนรวม
ราย      L    T    C    Ec   กา
                                             งาน      o    e    r    o    ร
                   ประเภท                    และ      o    c    e    n    นา   รวม
                                             การ      k    h    a    o    เส
                                             ติดตั้   &    n    t    mi   นอ
                                               ง           i    i    c    ผ
                                             โปร      F    q    v    &    งา
                                             แกร      e    u    i    So   น
                                              ม       e    e    t    ci
                                                      l         y    al
                                                                     Im
                                                                     pa
                                                                     ct
โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักศึกษา)            25      20   15   20   15   5    100

โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักศึกษา)    25      20   10   20   20   5    100

โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการ (นักศึกษา)            25      15   15   15   25   5    100

โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์        25      15   20   20   15   5    100
และเทคโนโลยี (นักศึกษา)
โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์    25      15   20   15   20   5    100
(นักศึกษา)
โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักเรียน)            25      20   15   20   15   5    100

โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน)    25      20   10   20   20   5    100

โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน (นักเรียน)      25      15   15   20   20   5    100
Environment App Contest                          25      10    20    20     20       5       100
Mobile Application                               25      15    15    20     20       5       100

สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์         25      20    10    20     20       5       100
        หมายเหตุ: ผลงานที่ผ่านการตรวจรับ จะถูกจัดลาดับคะแนน (Ranking) เพื่อการพิจารณาจานวน
โครงการที่เหมาะสมสาหรับการเข้าสู่รอบการประกวดชิงชนะเลิศต่อไป ทั้งนี้ โครงการที่จะได้รับการสนับสนุน
ต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่า 50 คะแนน และโครงการที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ต้องได้รับคะแนนไม่น้อย
กว่า 70 คะแนน และจัดทาสัญญาเรียบร้อยแล้ว


        8.3 การประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
        เนคเทค ได้กาหนดหลักเกณฑ์ ประเด็นการให้คะแนน การรวมคะแนน และวิธีการในการตัดสินให้
คณะกรรมการแต่ละชุดสามารถกาหนดเป็นเกณฑ์ร่วมกันก่อนการพิจารณาตัดสิน หากผลคะแนนไม่สามารถ
ตัดสินได้ การชี้ขาดให้สิทธิ์เป็นของคณะกรรมการ
        8.3.1 การให้คะแนน
        การให้คะแนนสาหรับโครงการในแต่ละประเภทที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนั้น พิจารณาจากประเด็น
ต่างๆ ทั้งสิ้น 5 ประเด็นหลัก กล่าวคือ
             1. Look and Feel เช่น

                   ความสวยงาม ความน่าสนใจของโปรแกรม

                   การใช้งานง่ายและสะดวก

                   ความถูกต้อง ครบถ้วนในเนื้อหาที่นาเสนอ
             2. Technique เช่น

                   ความยากง่ายของโปรแกรม (Programming Technique)

                   คุณค่าในเชิงงานพัฒนา หรือการวิจัย

                   ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี
 ความถูกต้องและประสิทธิภาพของโปรแกรม

         การพัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open Source)
    3. Creativity

         ความคิดสร้างสรรค์
    4. Economic & Social Impact เช่น

         ประโยชน์และคุณค่าทางเศรษฐกิจ

         ประโยชน์และคุณค่าทางสังคม

         ศักยภาพในการนาไปผลิตเชิงพาณิชย์ หรือ พัฒนาต่อยอด
    5. Presentation เช่น

         การแสดงผลงาน (โปสเตอร์, บูธ) และการนาเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ

         ความสุภาพและการแต่งตัว

         เอกสารเผยแพร่ผลงาน เป็นต้น
การคิดคะแนนรวม                คะแนนรวมทั้งสิ้นของทุกๆ ประเด็นหลัก เท่ากับ 100 คะแนนเต็ม


8..3.2 การกาหนดคะแนนของแต่ละประเด็น
เนคเทคได้กาหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนเป็นมาตรฐานร่วมกัน ดังนี้
Lo   Te   Cr    Eco   Pr
                                             ok   ch   ea    no    es
                   ประเภท                    &    ni   tiv   mic   en   รวม
                                             Fe   q    ity   &     ta
                                             el   ue         Soc   ti
                                                             ial   o
                                                             Imp   n
                                                             act

โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักศึกษา)           25   20   25    20    10   100

โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักศึกษา)   25   15   25    25    10   100
โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการ (นักศึกษา)           20   20   20    30    10   100

โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์       20   25   25    20    10   100
และเทคโนโลยี (นักศึกษา)
โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์   20   25   20    25    10   100
(นักศึกษา)

โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักเรียน)           25   20   25    20    10   100

โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน)   25   15   25    25    10   100

โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน (นักเรียน)     20   20   25    25    10   100
Environment App Contest                      15   25   25    25    10   100

Mobile Application                           20   20   25    25    10   100
สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์     25   15   25    25    10   100
8.3.3 หลักเกณฑ์ในการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ
        สาหรับโครงการที่จะได้รับรางวัลต่างๆ ของการแข่งขันในแต่ละประเภทนั้น ควรจะสอดคล้องกับ
เกณฑ์ต่างๆ ในเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
        รางวัลที่ 1 ต้องได้รับคะแนนสูงสุด และได้รับคะแนนเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 80 คะแนน 1 รางวัล
        รางวัลอื่นๆ จะทาการพิจารณาจากคะแนนที่ได้ตามลาดับ โดยสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
        รางวัลที่ 2 ต้องได้รับคะแนนเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 75 คะแนน 1 รางวัล
        รางวัลที่ 3 ต้องได้รับคะแนนเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 70 คะแนน 1 รางวัล
        รางวัลชมเชย 2 รางวัล
        หมายเหตุ: 1. ในกรณีที่โครงการที่ได้รับคะแนนสูงสุด มีคะแนนเฉลี่ยน้อยกว่า 80 คะแนน จะถือว่า
ไม่มีรางวัลที่ 1 สาหรับโครงการในประเภทนั้นๆ
        2. ในการตัดสิน กรณีที่มีปัญหา จะถือคาตัดสินของคณะกรรมการเป็นการชี้ขาด


9. คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ

     เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่กาลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ในภาครัฐ และเอกชนโดยไม่
        จากัดชั้นปี

     มีอาจารย์และหัวหน้าสถาบันการศึกษาให้การรับรองว่าเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่กาลังศึกษาอยู่
        ในสถาบันนั้นๆ จริง

     มีความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆ ในลักษณะที่มี
        ความคิดริเริ่มเป็นของตนเอง

     สาหรับประเภทสื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออนไลน์ ผู้เข้าร่วมประกวดต้องเป็นครูหรือ
        อาจารย์ในสถาบันการศึกษาและหัวหน้าสถาบันการศึกษาให้การรับรอง
10. เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ

    ผู้เสนอโครงการมีสิทธิ์เสนอเพียงคนละ 1 โครงการ และส่งได้ 1 ประเภท โครงการหนึ่งมีทีมพัฒนาได้
       ไม่เกิน 3 คน โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาลงนามรับรอง

    ระยะเวลาในการดาเนินโครงการประมาณ 4 เดือน ผู้เสนอโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากเนคเทค
       ต้องส่งผลงานตามเวลาที่ระบุ

    ทุกโครงการต้องดาเนินการจัดทาข้อตกลงการรับทุนให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด (ประมาณ
       เดือนพฤศจิกายน)

    ทรัพย์สินทางปัญญาของผลงานที่เกิดขึ้นเป็นของผู้พัฒนา ทั้งนี้ เนคเทคสามารถนาผลงานไปเผยแพร่
       ต่อสาธารณชน หรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อการศึกษา วิจัย ติชม วิจารณ์ หรือแนะนาผลงานได้

    ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการ ผู้พัฒนาจะต้องระบุข้อความ
       หรือแจ้งให้สาธารณชนทราบว่า ได้รับทุนสนับสนุนจากเนคเทค

    หากผู้รับทุนไม่สามารถพัฒนาผลงานได้ตามที่เสนอ จะต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอ
       ยกเลิกและส่งคืนเงินทุนให้แก่เนคเทค

    ผลงานที่ผ่านการตรวจรับจะได้รับคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กาหนด โดย จะคัดเลือกผลงานที่ยอดเยี่ยมเข้า
       สู่การแข่งขันรอบสุดท้าย เพื่อชิงชนะเลิศและรับเงินรางวัลแต่ละประเภท โดยมีคณะกรรมการ
       ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตัดสิน

    ผู้พัฒนาต้องติดตามข้อมูลข่าวสารที่ทางเนคเทค หรือ ศูนย์ประสานงาน ประกาศเป็นระยะๆ ผ่านทาง
       เว็บไซต์ อีเมล์ หรือ จดหมาย ตลอดจนให้ความร่วมมือในการแจ้งปรับปรุงข้อมูลของผู้พัฒนา หากมี
       การเปลี่ยนแปลงจากข้อเสนอโครงการแก่เนคเทค และศูนย์ประสานงาน เป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้ง
       เพื่อผลประโยชน์ของผู้พัฒนาเอง

    การรับเงินทุนสนับสนุน สามารถติดต่อขอรับเงินทุนสนับสนุนทั้ง 2 งวด และเงินสนับสนุนการ
       ประกวดรอบชิงชนะเลิศได้จากศูนย์ประสานงานโครงการที่สังกัด
 การรับเงินรางวัลในรอบชิงชนะเลิศ สามารถติดต่อขอรับเงินรางวัลได้ที่ เนคเทค เท่านั้น


11. การส่งข้อเสนอโครงการ
       11.1 ผู้ส่งข้อเสนอโครงการ ต้องลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ “GENA” (Genius-Aided System
for NSC) เพื่อรับรหัสโครงการ และอัพโหลดข้อเสนอโครงการที่ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ
http://www.nscthailand.net

       11.2 ส่งข้อเสนอโครงการจานวน 1 ชุด โดยต้องระบุรหัสโครงการ พร้อมลายเซ็นและสาเนาบัตร
ประจาตัวครบถ้วน ได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการในภูมิภาคที่สังกัดด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์
ภายในระยะเวลาที่ทางโครงการ NSC กาหนด (ประมาณเดือนสิงหาคม)
       รายละเอียดการเขียนข้อเสนอโครงการ
       1. ปก ตามตัวอย่าง ซึ่งระบุรายละเอียดต่างๆ ภายใน 1 หน้ากระดาษเท่านั้น ดังนี้

     ชื่อโครงการ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ

     ทีมพัฒนาโครงการ ระบุหัวหน้าโครงการ และผู้ร่วมพัฒนา

     อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ และข้อความรับรองจากอาจารย์

     หัวหน้าสถาบัน (อธิการบดี/คณบดี/หัวหน้าภาควิชา/ผู้อานวยการ/อาจารย์ใหญ่หรือเทียบเท่า/
        หัวหน้าหมวด) และข้อความรับรองจากหัวหน้าสถาบัน
       2. สาระสาคัญของโครงการ คาสาคัญ (Key Words)
       3. หลักการและเหตุผล
       4. วัตถุประสงค์
       5. ปัญหาหรือประโยชน์ที่เป็นเหตุผลให้ควรพัฒนาโปรแกรม
       6. เป้าหมายและขอบเขตของโครงการ
       7. รายละเอียดของการพัฒนา
7.1 เนื้อเรื่องย่อ (Story Board) ภาพประกอบ แบบจาลอง หรือ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่าง
    โปรแกรม หรือ ผลงานที่สื่อให้เห็นผลงานที่จะพัฒนาขึ้น
   7.2 เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ Algorithms ที่ใช้ โครงสร้าง
    ข้อมูล เป็นต้น โดยผู้พัฒนาต้องให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
   7.3 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ ภาษาที่ใช้เขียน Tools อื่นๆ ที่ใช้ช่วยในการพัฒนา
    โปรแกรม และอื่นๆ
   7.4 รายละเอียดโปรแกรมที่จะพัฒนา (Software Specification) ได้แก่

             Input/Output Specification

             Functional Specification

             โครงสร้างของซอฟต์แวร์ (Design)

             อื่นๆ
   7.5 ขอบเขตและข้อจากัดของโปรแกรมที่พัฒนา
8. บรรณานุกรม (Bibliography) ระบุแหล่งอ้างอิงอย่างน้อย 3 แห่ง เช่น จากหนังสือ บทความ
วารสารทางวิชาการ หรือ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
9. ประวัติและผลงานวิจัยดีเด่นของผู้พัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
10. สาเนาบัตรประจาตัวของผู้พัฒนาและอาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมลงลายมือชื่อสาเนาถูกต้อง กรณีที่
ผู้พัฒนาไม่มีบัตรประชาชน ให้แนบสาเนาทะเบียนบ้าน หรือ หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา
แบบฟอร์มหน้าปกข้อเสนอโครงการ
                                                                                                                           รหัสโครงการ ...........
                                                                       ข้อเสนอโครงการ
                                        การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย).............................................................................................................
                  (ภาษาอังกฤษ).........................................................................................................
ประเภทโปรแกรมที่เสนอ โปรแกรม..................................................……………................................
ทีมพัฒนา
หัวหน้าโครงการ
          1. ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส./ด.ช./ด.ญ.)...........................................……..............................
          วัน/เดือน/ปีเกิด..............ระดับการศึกษา................สถานศึกษา...........………...............................
          ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน........................................................................……............................…
          สถานที่ติดต่อ.....................................................................................…...............................
          โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................
                                                                 ลงชื่อ......................................………...................................
ผู้ร่วมโครงการ
          2. ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส./ด.ช./ด.ญ.)...........................................……..............................
          วัน/เดือน/ปีเกิด..............ระดับการศึกษา................สถานศึกษา...........………...............................
          ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน........................................................................……............................…
          สถานที่ติดต่อ.....................................................................................…...............................
          โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................
                                                                 ลงชื่อ......................................………...................................
ผู้ร่วมโครงการ
          3. ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส./ด.ช./ด.ญ.)...........................................……..............................
          วัน/เดือน/ปีเกิด..............ระดับการศึกษา................สถานศึกษา...........………...............................
          ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน........................................................................……............................…
          สถานที่ติดต่อ.....................................................................................…...............................
          โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................
                                                                 ลงชื่อ......................................………...................................
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
          ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส.)..................................................…….......................................….
          สังกัด/สถาบัน.....................................................................…..............................................
          สถานที่ติดต่อ.............................................................….......................................….............
          โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................
          คารับรอง “โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มของนักพัฒนาโครงการและไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากผู้อื่นผู้ใด ข้าพเจ้าขอ
รับรองว่าจะให้คาแนะนาและสนับสนุนให้นักพัฒนาในความดูแลของข้าพเจ้าดาเนินการศึกษา/วิจัย/พัฒนาตามหัวข้อที่เสนอ
และจะทาหน้าที่ประเมินผลงานดังกล่าวให้กับโครงการฯ ด้วย”
                                                                 ลงชื่อ......................................………...................................
หัวหน้าสถาบัน (อธิการบดี/คณบดี/หัวหน้าภาควิชา/ผู้อานวยการ/อาจารย์ใหญ่/หัวหน้าหมวด)
          ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส.)............................….ตาแหน่ง..........................…...............…........
สถาบัน.....................................................................….....................…………........................
        สถานที่ติดต่อ.............................................................….......................................….............
        โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................
        คารับรอง “ข้าพเจ้าขอรับรองว่าผู้พัฒนามีสิทธิ์ขอรับทุนสนับสนุนตามเงื่อนไขที่โครงการฯกาหนดและอนุญาตให้
ดาเนินการศึกษา/วิจัย/พัฒนาตามหัวข้อที่ได้เสนอมานี้ในสถาบันได้ภายใต้การบังคับบัญชาของข้าพเจ้า”
                                                                  ลงชื่อ......................................………...................................
12. ขั้นตอนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
        1. ลงทะเบียนในระบบออนไลน์ GENA โดยเลือก “ลงทะเบียนใหม่” เพื่อกรอกข้อมูลการสมัครเข้า
แข่งขันที่ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ http://www.nscthailand.net โดยต้องกรอกข้อมูล
Email address ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่มีอยู่จริง เพื่อให้ระบบส่งข้อมูลเพื่อยืนยันการลงทะเบียน
        2. ระบบจะส่งอีเมล์ไปยังหัวหน้าโครงการ เพื่อแจ้งให้หัวหน้าโครงการยืนยันการลงทะเบียน ทั้งนี้ หาก
ไม่ยืนยันการลงทะเบียน (Confirmation) ถือว่าการลงทะเบียนยังไม่เสร็จสิ้น และข้อมูลในการลงทะเบียนนั้น
จะถูกลบทิ้งภายใน 48 ชั่วโมง
        3. หลังจากยืนยันการลงทะเบียนแล้ว จะได้รับ 1) รหัสโครงการ และ 2) รหัสผ่านเพื่อใช้เข้าระบบ
ออนไลน์ GENA
        4. เข้าสู่ระบบโดยใช้ รหัสโครงการ และรหัสผ่านที่ได้รับ เพื่ออัพโหลดข้อเสนอโครงการทั้ง 2 รูปแบบ
คือ ไฟล์ PDF และ ไฟล์ plain text (text file) ตามขั้นตอนในระบบ
        5. พิมพ์แบบฟอร์มหน้าปกข้อเสนอโครงการจากในระบบ และลงนามให้ครบถ้วน เพื่อประกอบเป็น
หน้าปกข้อเสนอโครงการ โดยจัดหน้ากระดาษในการพิมพ์ภายใน 1 หน้ากระดาษ A4
        6. แนบสาเนาบัตรประจาตัวประชาชนพร้อมลงนามให้ครบถ้วน ภายในเล่มข้อเสนอโครงการ
        7. ส่งข้อเสนอโครงการ (ต้นฉบับ) จานวน 1 ชุด ทางไปรษณีย์ หรือส่งด้วยตนเองไปยังศูนย์
ประสานงานภูมิภาคที่ท่านสังกัด
        8. เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
หมายเหตุ
        1. ควรเตรียมข้อมูลส่วนตัว สาเนาบัตร ที่อยู่ อีเมล์ ของทีมผู้พัฒนาและอาจารย์ที่ปรึกษา และ
ผู้บริหารสถาบันการศึกษา หรือตัวแทน ให้พร้อมก่อนทาการลงทะเบียน
        2. การอัพโหลดข้อเสนอโครงการ ต้องทาการอัพโหลด 2 รูปแบบ คือ ไฟล์ PDF (ใช้การแปลงไฟล์จาก
โปรแกรม ห้ามใช้วิธีการสแกน) และ ไฟล์ plain text (text file)
        3. โปรดระวังการอัพโหลดซ้า เพราะระบบจะบันทึกข้อมูลเฉพาะไฟล์ล่าสุดเท่านั้น
4. โปรดตรวจสอบรายชื่อจังหวัดของแต่ละศูนย์ภูมิภาคจากคู่มือการแข่งขัน หรือจากการลงทะเบียน
ในระบบ
13. การส่งผลงานและรายงานฉบับสมบูรณ์
       ผู้รับทุนสนับสนุนในโครงการ NSC ต้องดาเนินโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้แล้วเสร็จในระยะเวลาที่
กาหนด (ประมาณ 4 เดือน ระหว่างเดือนกันยายน – ธันวาคม) นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติ และต้องส่งผลงาน
ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการในภูมิภาคที่สังกัด (ประมาณเดือน
มกราคม) โดยมีรายละเอียดดังนี้
       13.1 รายงานฉบับสมบูรณ์ จานวน 1 ชุด ประกอบด้วยเนื้อหาดังนี้

    การเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ คู่มือการติดตั้ง และคู่มือการใช้งาน ให้ใช้โปรแกรม OpenOffice
       Writer หรือ Microsoft Word ภาษาไทย 97 (เป็นอย่างต่า) โดยใช้ฟอนต์แห่งชาติ TH SarabunPSK
       (สามารถดาวน์โหลดได้จาก
       http://www.sipa.or.th/index.php?option=com_content&task=view&id=20&Itemid=78)
       ตัวอักษรขนาด 16 กาหนดขอบด้านซ้าย ด้านขวา บน และล่าง 1 นิ้ว พร้อมระบุเลขหน้า พิมพ์บน
       กระดาษขาว ขนาดมาตรฐาน A4 เข้าเล่มรายงานให้เรียบร้อยพร้อมปกหน้าและปกหลัง

    หน้าปก (Cover) ตามแบบที่กาหนด (รูปแบบตามตัวอย่าง)

    กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) ระบุข้อความการได้รับทุนอุดหนุนโครงการการแข่งขัน
       พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ
       คอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ พร้อมระบุชื่อโครงการที่
       ได้รับทุนไว้ด้วย

    เนื้อหาของรายงาน ประกอบด้วย
               1. บทคัดย่อ (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) คาสาคัญ (Key Words)
               2. บทนา (แนวคิด ความสาคัญ และความเป็นมาของโครงการ)
               3. สารบัญ
               4. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
               5. รายละเอียดของการพัฒนา
5.1 เนื้อเรื่องย่อ (Story Board) ภาพประกอบ แบบจาลอง หรือ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
     ตัวอย่างโปรแกรม หรือ ผลงานที่สื่อให้เห็นผลงานที่พัฒนาขึ้น
     5.2 ทฤษฎีหลักการและเทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์
     Algorithms ที่ใช้ โครงสร้างข้อมูล เป็นต้น โดยผู้พัฒนาต้องให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง
     ประกอบด้วย
     5.3 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ ภาษาที่ใช้เขียน Tools อื่นๆ ที่ใช้ช่วยในการ
     พัฒนาโปรแกรม และอื่นๆ
     5.4 รายละเอียดโปรแกรมที่ได้พัฒนาในเชิงเทคนิค (Software Specification) ได้แก่

              Input/Output Specification

              Functional Specification

              โครงสร้างของซอฟต์แวร์ (Design)

              อื่นๆ

              ผู้พัฒนาต้องชี้แจงส่วนสาคัญที่ทีมงาน/ผู้พัฒนาได้พัฒนาขึ้นเอง รวมทั้งต้อง
                 ระบุแหล่งที่มาของโปรแกรม หรือ Source Code อื่นที่มาประกอบใน
                 โปรแกรมไว้ด้วย โดยมิต้องจัดพิมพ์ Source Code แนบมา
     5.5 ขอบเขตและข้อจากัดของโปรแกรมที่พัฒนา
     5.6 คุณลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้กับโปรแกรม (ถ้ามี)
6. กลุ่มผู้ใช้โปรแกรม
7. ผลของการทดสอบโปรแกรม
8. ปัญหาและอุปสรรค
9. แนวทางในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ร่วมกับงานอื่นๆ ในขั้นต่อไป
10. ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ
11. เอกสารอ้างอิง (Reference)
12. สถานที่ติดต่อของผู้พัฒนาและอาจารย์ที่ปรึกษา โทรศัพท์ มือถือ โทรสาร E-mail
   13. ภาคผนวก (Appendix)

         คู่มือการติดตั้งอย่างละเอียด

         คู่มือการใช้งานอย่างละเอียด
13.2 CD-ROM จานวน 1 ชุด พร้อมกล่องใส่ CD บรรจุข้อมูลและจัดหมวดหมู่ (Directory) เป็น
4 หมวด ดังนี้

     Source Code : ซอร์สโค้ด

     Setup Program : ชุดโปรแกรมสาหรับติดตั้งที่สมบูรณ์และใช้งานได้

     Tools : ระบุ Software Libraries และ/หรือ Tools อื่นๆ ที่นามาใช้เป็นส่วนประกอบ
        สาคัญในการพัฒนาและติดตั้ง

     Document : ไฟล์เอกสารรายงาน จัดทาใน 2 รูปแบบ คือ 1. Pdf และ 2.
        OpenOffice Writer หรือ Word ประกอบด้วย
        - ไฟล์ข้อเสนอโครงการ
        - ไฟล์รายงานฉบับสมบูรณ์
        - ไฟล์คู่มือการติดตั้ง
        - ไฟล์คู่มือการใช้งาน
        - ข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (Disclaimer)
        - รูปภาพแสดงตัวอย่างโปรแกรม (Screen captured) ขนาด 640x480 พิกเซล
        - ไฟล์โปสเตอร์ หรือ แผ่นพับ สาหรับการเผยแพร่ (ถ้ามี)
หน้าปกรายงานฉบับสมบูรณ์


                                                                                   รหัสโครงการ...............




                                  (ชื่อโครงการ)
                               (ประเภทโครงการ)




                             รายงานฉบับสมบูรณ์
                                      เสนอต่อ
        ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
         สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
                   กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี




          ได้รับทุนอุดหนุนโครงการวิจัย พัฒนาและวิศวกรรม
โครงการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15
                         ประจาปีงบประมาณ 2555


                                         โดย
              (ชื่อผู้พัฒนา ..............................................)
    (ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ..............................................)
(สถาบันการศึกษา .......................................)
14. ข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (Disclaimer)
        ในการส่งผลงานตามข้อกาหนดของการรับทุนสนับสนุนภายใต้โครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 สาหรับประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษานั้น เนคเทคกาหนดให้ทุก
โครงการที่ส่งผลงานจะต้องปรากฏข้อความข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ) ใน
ผลงานดังกล่าว ซึ่งผู้พัฒนาสามารถจะใส่ไว้ที่ Readme.txt หน้าแรกของการติดตั้งหน้าแรกของการเรียก
โปรแกรมขึ้นใช้งานหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของโปรแกรม ได้แก่ help เมนู เป็นต้นด้วย


ข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์
        ซอฟต์แวร์นี้เป็นผลงานที่พัฒนาขึ้นโดย ....(ชื่อผู้พัฒนา).... จาก ....(ชื่อสถาบัน).... ภายใต้การดูแลของ
....(ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา).... ภายใต้โครงการ ....(ชื่อโครงการ).... ซึ่งสนับสนุนโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนและนักศึกษาได้เรียนรู้และฝึกทักษะในการ
พัฒนาซอฟต์แวร์ ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์นี้จึงเป็นของผู้พัฒนา ซึ่งผู้พัฒนาได้อนุญาตให้ศูนย์เทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เผยแพร่ซอฟต์แวร์นี้ตาม “ต้นฉบับ” โดยไม่มีการแก้ไขดัดแปลงใดๆ
ทั้งสิ้น ให้แก่บุคคลทั่วไปได้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลหรือประโยชน์ทางการศึกษาที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในเชิง
พาณิชย์ โดยไม่คิดค่าตอบแทนการใช้ซอฟต์แวร์ ดังนั้น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
แห่งชาติ จึงไม่มีหน้าที่ในการดูแล บารุงรักษา จัดการอบรมการใช้งาน หรือพัฒนาประสิทธิภาพซอฟต์แวร์
รวมทั้งไม่รับรองความถูกต้องหรือประสิทธิภาพการทางานของซอฟต์แวร์ ตลอดจนไม่รับประกันความเสียหาย
ต่างๆ อันเกิดจากการใช้ซอฟต์แวร์นี้ทั้งสิ้น


License Agreement
        This software is a work developed by …(Developer’s name)… from …(School’s
name)… under the provision of …(Advisor’s name)…. under …(Project’s name)… , which has
been supported by the National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC), in
order to encourage pupils and students to learn and practice their skills in developing
software. Therefore, the intellectual property of this software shall belong to the developer
and the developer gives NECTEC a permission to distribute this software as an “as is ” and
non-modified software for a temporary and non-exclusive use without remuneration to
anyone for his or her own purpose or academic purpose, which are not commercial
purposes. In this connection, NECTEC and SIPA shall not be responsible to the user for
taking care, maintaining, training or developing the efficiency of this software. Moreover,
NECTEC shall not be liable for any error, software efficiency and damages in connection with
or arising out of the use of the software.”
15. สถานที่ติดต่อ
        15.1 ภาคเหนือ
        ดร. กานต์ ปทานุคม และ ดร.อัญญา อาภาวัชรุตม์
        ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
50200
        โทรศัพท์ 0-5394-2024, 0-5394-2071         โทรสาร 0-5394-2072
        e-mail: karn@eng.cmu.ac.th, anya@eng.cmu.ac.th, northernNSC@gmail.com
        http://www.cpe.eng.cmu.ac.th/

        15.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
        ผศ.วันชัย สุ่มเล็ก
        ศูนย์ประสานงานเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (E-Saan Software Park)
        อาคารพิมล กลกิจ ชั้น 4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40002
        โทรศัพท์ 0-4320-2426                          โทรสาร 0-4320-2292
        e-mail: nsc@esswpark.org, wanchai@kku.ac.th
        http://www.esswpark.org

        15.3 ภาคใต้
        ดร.อนันท์ ชกสุริวงค์ และ ผศ.มัลลิกา อุณหวิวรรธน์
        ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์
        มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90112
        โทรศัพท์ 0-7428-7358, 0-7428-7075           โทรสาร 0-7428-7076
        e-mail: ant@coe.psu.ac.th, mallika@coe.psu.ac.th
        http://www.coe.psu.ac.th

        15.4 ภาคตะวันออก
        ผศ.ดร.กฤษณะ ชินสาร, อ.ภูสิต กุลเกษม และ อ.เบญจภรณ์ จันทรกองกุล
        คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา อ.เมือง จ.ชลบุรี 20131
        โทรศัพท์ 0-3874-5900 ต่อ 2045               โทรสาร 0-3839-3240
        e-mail: ckrisana@gmail.com, pusitk@gmail.com, benchapornj@yahoo.com
        http://www.cs.buu.ac.th
15.5 ภาคกลาง
รศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง, รศ.ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ และ ผศ.ดร.ชลวิช นัทธี
ศูนย์ประสานงานภูมิภาคภาคกลาง (โครงการ NSC)
ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร
สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์บางกะดี)
131 หมู่ 5 ถ.ติวานนท์ ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12000
โทรศัพท์ 0-2501-3505-20 ต่อ 2015, 2018                  โทรสาร 0-2501-3524
e-mail: siitnsc@gmail.com
http://www.vcharkarn.com/nsc, http://www.nscthailand.net

15.6 ภาคตะวันตก
อ.โอภาส วงษ์ทวีทรัพย์, ดร.ทัศนวรรณ ศูนย์กลาง และ ดร.สุนีย์ พงษ์พินิจภิญโญ
ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม 73000
โทรศัพท์ 0-3427-2923                           โทรสาร 0-3427-2923
e-mail : oatcomster@gmail.com, anncenter@gmail.com
http://www.cp.su.ac.th

15.7 ดาเนินการโดย
โครงการ NSC 2013
ฝ่ายบริหารและสนับสนุนงานวิจัย
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
112 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
โทรศัพท์ 0-2564-6900 ต่อ 2345, 2326-2328           โทรสาร 0-2564-6768
e-mail: fics@nnet.nectec.or.th
http://www.nectec.or.th/nsc/
facebook group: “NSC Thailand” http://www.facebook.com/groups/NSCThailand/

More Related Content

PDF
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
PDF
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
PDF
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
PDF
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
DOCX
ใบงานที่8 การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
PDF
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง หุ่นยนต์
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่8 การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง หุ่นยนต์
โครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์

What's hot (10)

PDF
รายงานโครงงานคอม22
PDF
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
PDF
PDF
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
รายงานโครงงานคอม22
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
Manchakhiri old town.
PDF
ขั้นตอนการติดตั้ง UsbWebserver v8.6
PDF
ผลงาน Ict 1 2555_koksipittayasan
PDF
Living room Work shop for m.s. 2 by kruood
PDF
กำหนดการ(..
PDF
Course lap
DOC
โรงเรียนช่างเขียนแบบก่อสร้างสยาม
PDF
Basic primitives
PDF
การสร้างห้องนั่งเล่น
PDF
ชุดแก้วกาแฟจากวัตถุแบบ Polygon และ nurbs curve
PDF
Web dreamcs5
PDF
คู่มือการใช้ Marvin
PDF
การสร้าง Model บ้านชั้นเดียวด้วยวัตถุแบบ polygon
PDF
คู่มือกระบวนการหลักด้านกระบวนการผลิตน้ำประปา เล่ม 2
PDF
The Guitar Of Chet Atkins -
PDF
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
PDF
กระบวนการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
PPT
ระบบฐานข้อมูลเรื่องค้าปลีก
PDF
เกณฑ์การแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 65 ปีการศึกษา 2558 การงานอาชีพแล...
Manchakhiri old town.
ขั้นตอนการติดตั้ง UsbWebserver v8.6
ผลงาน Ict 1 2555_koksipittayasan
Living room Work shop for m.s. 2 by kruood
กำหนดการ(..
Course lap
โรงเรียนช่างเขียนแบบก่อสร้างสยาม
Basic primitives
การสร้างห้องนั่งเล่น
ชุดแก้วกาแฟจากวัตถุแบบ Polygon และ nurbs curve
Web dreamcs5
คู่มือการใช้ Marvin
การสร้าง Model บ้านชั้นเดียวด้วยวัตถุแบบ polygon
คู่มือกระบวนการหลักด้านกระบวนการผลิตน้ำประปา เล่ม 2
The Guitar Of Chet Atkins -
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
กระบวนการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
ระบบฐานข้อมูลเรื่องค้าปลีก
เกณฑ์การแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 65 ปีการศึกษา 2558 การงานอาชีพแล...
Ad

Similar to Nsc2013 booklet (20)

PDF
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
PDF
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
PDF
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
PDF
PDF
Fact sheet TSPA & Members
PDF
PPTX
งานวิชาคอม
PDF
PDF
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
DOC
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
PDF
รายงานโปรแกรมสื่อบทเรียนสำหรับระบบการเรียนรู้ออนไลน์ เรื่อง ส่วนประกอบของคอมพ...
PDF
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
PDF
โครงงานคอมพ วเตอร
PDF
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
PDF
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
DOCX
โครงงานคอมโปรแกรม inSSIDer ( หน้าปกฯลฯ )
PDF
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
Fact sheet TSPA & Members
งานวิชาคอม
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 รหัสวิชา ง32101 แก้ไขแล้ว
รายงานโปรแกรมสื่อบทเรียนสำหรับระบบการเรียนรู้ออนไลน์ เรื่อง ส่วนประกอบของคอมพ...
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพ วเตอร
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
โครงงานคอมโปรแกรม inSSIDer ( หน้าปกฯลฯ )
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน

More from kruood (16)

PDF
แบบประเมินการออกแบบ สพม.25 ระดับ ม.4 6
PDF
Nsc2014 isan-web koksi2556
PDF
เรื่องที่ 4 มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
PDF
เรื่องที่ 1 เครื่องมือและอุปกรณ์ในงานเขียนแบบ
PDF
Korat th
PDF
Korat eng
PDF
Fermented eng
PDF
Fried eng
PDF
Fermented th
PDF
Blue crab th
PDF
Blue crab eng
PDF
Nsc2012 isan-second round.-koksi
PDF
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
PDF
แบบประเมินการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ครูอำนาจ สพม 25
PDF
Nsc2012 isan koksipittayasan
PDF
การสร้างโต๊ะด้วย Nurbs curve
แบบประเมินการออกแบบ สพม.25 ระดับ ม.4 6
Nsc2014 isan-web koksi2556
เรื่องที่ 4 มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
เรื่องที่ 1 เครื่องมือและอุปกรณ์ในงานเขียนแบบ
Korat th
Korat eng
Fermented eng
Fried eng
Fermented th
Blue crab th
Blue crab eng
Nsc2012 isan-second round.-koksi
แบบประเมินงานนำเสนอในรูปแบบออนไลน์
แบบประเมินการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ครูอำนาจ สพม 25
Nsc2012 isan koksipittayasan
การสร้างโต๊ะด้วย Nurbs curve

Nsc2013 booklet

  • 1. การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 The Fifteenth National Software Contest (NSC 2013) 0. คานา ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันของมนุษย์และเกี่ยวข้องกับการศึกษา และการทางานในทุกวงการ ปัจจัยสาคัญที่ทาให้เทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผลจาก ความก้าวหน้าของการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ เนื่องจากเป็นส่วนสาคัญของการใช้งานคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ สื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงสิ่งที่ใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมการทางาน ซอฟต์แวร์จึงเปรียบเสมือนสมองที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมและสั่งงานให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ การพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่จาเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่สูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กาลังสมองของมนุษย์ เป็นฐานสาคัญในการพัฒนาสร้างสรรค์ ซึ่งประเทศไทยมีแนวโน้มและศักยภาพเพียงพอที่จะส่งเสริมและสร้าง ความเข้มแข็งให้ผู้พัฒนาใช้เป็นอาชีพหลักและสร้างรายได้ ตลอดจนเพิ่มปริมาณและคุณภาพเป็นอุตสาหกรรม ที่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศกาลังอยู่ในสภาวะ เริ่มต้นและก้าวไปข้างหน้า บุคลากรที่เป็นพื้นฐานสาคัญยังมีไม่เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ จึงจาเป็น อย่างยิ่งที่จะต้องเร่งส่งเสริมและกระตุ้นให้เพิ่มจานวนของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้มากยิ่งขึ้นทั้งด้านคุณภาพและ ความสามารถของผู้พัฒนา ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ตลอดจนปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมีนโยบายชัดเจนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภายในประเทศให้เป็น อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยดาเนินการทั้งการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถนาไปสู่เป้าหมายของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย เป็นโครงการที่เนคเทคดาเนินการ เพื่อเป็นเวทีสาหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาจากทั่วประเทศที่สนใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ส่งโครงการที่พัฒนา ด้วยตนเองเข้าร่วมประกวดแข่งขัน โดยเนคเทค ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภูมิภาคเพื่อเป็น ศูนย์ประสานงานการประกวดในระดับภูมิภาค คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • 2. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยศิลปากรและสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิริน ธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากสานักงานส่งเสริมอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สาหรับในปีนี้ เนคเทคได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล โดยสสส.ได้เข้าร่วมสนับสนุนการพัฒนาผลงานซอฟต์แวร์ด้านการ ส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะของประชาชนไทย ส่วนมูลนิธิสยามกัมมาจลร่วมยกระดับผลงานให้ไปสู่กลุ่ม ผู้ใช้งานจริงทั้งในระดับชุมชน ภาคสังคมและเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนทุนพัฒนาต่อยอดผลงาน พร้อมจัดหา หน่วยงานสนับสนุนเพื่อร่วมเป็นที่ปรึกษาให้เยาวชนได้ผลิตผลงานจนสามารถใช้งานได้จริงต่อไป เนคเทคจึงขอเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้พัฒนาที่สนใจส่งผลงานซอฟต์แวร์เข้าร่วมการ แข่งขัน เพื่อยกระดับผลงานซอฟต์แวร์ของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ดังจะเห็นได้จากผลงานที่ได้รับรางวัล ชนะเลิศของโครงการสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศของการแข่งขัน Asia Pacific ICT Alliance Awards อย่าง สม่าเสมอ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาค และที่ ฝ่ายบริหารและสนับสนุนงานวิจัย หมายเลขโทรศัพท์ 02-564-6900 ต่อ 2345, 2326-2328 โทรสาร 02- 564-6768 E-mail: fic@nnet.nectec.or.th หรือ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ เข้าร่วมกลุ่ม “NSC Thailand” ในสังคมออนไลน์ Facebook http://www.facebook.com/groups/NSCThailand/ (นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์) ผู้อานวยการ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
  • 3. การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย The National Software Contest 1. หลักการและเหตุผล คอมพิวเตอร์มีบทบาทสาคัญมากในชีวิตประจาวันและนับวันยิ่งมีบทบาทยิ่งขึ้นในทุกขณะ การพัฒนา ทักษะในการเขียนโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์นั้น ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันกับ ต่างประเทศได้ แต่การผลิตบุคลากรที่จะมาพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอนั้น จาต้องอาศัยบุคลากร จานวนมากเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับประเทศ จากความจาเป็นดังกล่าว ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จึงได้จัดทาโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรม คอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาทักษะการ พัฒนาซอฟต์แวร์และนาเอาความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยสนับสนุนเงินทุนเพื่อ เป็นแรงจูงใจและกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาทาการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยตนเองและเปิดโอกาสให้มีการ ประกวดแข่งขันชิงเงินรางวัลในระดับประเทศ อันจะเป็นการสร้างเวทีสาหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจในการ พัฒนาความรู้สู่การเป็นนักวิจัยระดับอาชีพต่อไป จาก “โครงการสนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก” ซึ่งได้เริ่มดาเนินการครั้งแรกตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2537 เนคเทคได้ปรับกลยุทธ์ในการดาเนินโครงการโดยจัดให้มีเวทีการแข่งขันในระดับประเทศ และเปลี่ยนชื่อเป็น “การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National Software Contest – NSC)” ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับถึงปัจจุบัน มีโครงการที่ได้รับการสนับสนุนไปแล้วทั้งสิ้นรวม
  • 4. 7,777โครงการ ทั้งนี้จากจานวนโครงการที่นักเรียน นิสิต และนักศึกษาส่งเข้ามาร่วมในโครงการรวม 15,506 ข้อเสนอโครงการ จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศจานวนกว่า 150 สถาบัน การดาเนินงานโครงการที่ผ่านมา เนคเทคพบว่า จานวนโครงการที่ส่งเข้าประกวดมากขึ้นทุกๆ ปี และ มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ข้อเสนอโครงการมีความหลากหลาย จึงมีความจาเป็นในการสรรหาผู้ที่มีความรู้และ เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการให้พอเพียงเพื่อให้โครงการดาเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ ได้มีการกาหนดหัวข้อในการสนับสนุนไว้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการนาผลงานไปประยุกต์ใช้ และ/หรือ เผยแพร่ตามเป้าหมายของโครงการ นอกจากนี้ยังคานึงถึงเทคโนโลยีที่อยู่ในกระแสความนิยมเพื่อทาให้การ แข่งขันเป็นไปด้วยความเข้มข้นยิ่งขึ้น ตลอดการดาเนินงานที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าแนวทางการสนับสนุนโครงการ พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เนคเทคได้ดาเนินการมาแล้วนั้นประสบผลสาเร็จในระดับหนึ่ง ดังจะเห็นได้จากปริมาณ ข้อเสนอโครงการที่เสนอเข้ามาเพื่อขอรับทุนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี คุณภาพโครงการที่ผ่านการพิจารณามีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับหัวข้อที่ เนคเทคมุ่งเน้นและกระตุ้นให้เกิดการคิดในเชิงสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ หน่วยงานภายนอกทั้งทางภาครัฐและเอกชน ได้ให้ความสนใจและยินดีเข้าร่วมในโครงการ สมควรสนับสนุนให้ ดาเนินการโครงการนี้ต่อไป โครงการนี้นับว่ามีส่วนสาคัญยิ่งในการผลักดันและยกระดับผลงานเยาวชนให้ ปรากฏสู่สาธารณชนและสู่ภาคเอกชน เป็นการริเริ่มและกระตุ้นให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ตระหนักและเห็น คุณค่าของการพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงกระตุ้นให้กลุ่มเยาวชนที่เป็นฐานกาลังในการพัฒนาของประเทศสร้าง เสริมทักษะการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางในการสร้างเวทีสาหรับผู้ที่สนใจในงาน การพัฒนาซอฟต์แวร์ อันจะเป็นรากฐานที่สาคัญยิ่งต่อการสร้างนักวิจัยและการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป นอกจากนั้น เนคเทค ยังได้ร่วมกับ SIPA และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย ส่งผล งานซอฟต์แวร์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเข้าร่วมการประกวดในงาน Asia Pacific ICT Alliance Awards (APICTA) ในประเภทนักเรียน และนิสิต นักศึกษา ซึ่งงาน APICTA นี้ เป็นการประกวดผลงานด้านซอฟต์แวร์ ในด้านต่างๆ สาหรับประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมด้าน ไอซีทีของประเทศในภูมิภาค เปิดโอกาสให้มีการนาเสนอผลงานซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ และศักยภาพทางธุรกิจ และการตลาดจากผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ ภาคการศึกษา และนักเรียน นิสิต นักศึกษา โดยประเทศใน
  • 5. ภูมิภาคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลจากเวทีดังกล่าวอย่าง ต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้การดาเนินโครงการมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิผลยิ่งขึ้น เนคเทค ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยใน ภูมิภาค จัดตั้งหน่วยประสานงานของโครงการระดับภูมิภาคขึ้น เพื่อช่วยดาเนินการและประสานงานใน โครงการ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การมอบทุน การพิจารณาโครงการ รวมทั้งการสนับสนุนทางด้านเทคนิค การฝึกอบรมระยะสั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อโครงการต่อไป ศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการ ได้แก่ ภาคเหนือ: ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ศูนย์ประสานงานเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคใต้: ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภาคตะวันออก: คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา ภาคกลาง: สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคตะวันตก: ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา 2.2 เพื่อพัฒนาทักษะความคิดริเริ่มในการเขียนโปรแกรมอันจะเป็นรากฐานที่สาคัญยิ่งต่อการพัฒนา อุตสาหกรรมด้านซอฟต์แวร์ในอนาคต 2.3 เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้สามารถเกิดประโยชน์ในการนาไปใช้ต่อไป 2.4 เพื่อสร้างเวทีการแข่งขันและสร้างความสนใจสาหรับเยาวชนที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ และเทคนิคการเขียนโปรแกรม 2.5 เพื่อให้ได้ซอฟต์แวร์ต้นแบบที่หลากหลายซึ่งสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้จริง
  • 6. 3. เป้าหมายของโครงการ 3.1 สนับสนุนโครงการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากทั่วประเทศ ปีละไม่น้อยกว่า 400 โครงการ มี นักเรียน นิสิต นักศึกษาเข้าร่วมในโครงการรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 1,000 คน 3.2 สร้างเวทีการแข่งขันด้านซอฟต์แวร์ระดับเยาวชนและระดับชาติ ตลอดจนนาผลงานไปสู่เชิง พาณิชย์และสังคมต่อไป 3.3 สร้างโอกาสและสนับสนุนนักพัฒนาโปรแกรมที่มีความรู้ความสามารถและทักษะที่จะพัฒนาไปสู่ นักเขียนโปรแกรมมืออาชีพต่อไป 3.4 สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาและการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะ การพัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open Source) 4. หัวข้อการแข่งขัน 4.1 ระดับนิสิต นักศึกษา หมวด 11 โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ได้แก่ โปรแกรมที่สร้างความบันเทิงหรือการฝึกหัด ด้วยภาพ เสียง สัมผัส การเคลื่อนที่ และการกระตุ้นการใช้ไหวพริบของผู้เล่น ซึ่งโปรแกรมดังกล่าว อาจพัฒนาบนระบบปฏิบัติการใดๆ ก็ได้ เช่น ลินุกซ์ หรือวินโดวส์ เป็นต้น หรืออาจจะพัฒนาโดยใช้ โปรแกรมช่วยสร้างเกม (Game Engine) เช่น Torque หรือ Ogre 3D ช่วยในการพัฒนาก็ได้ โปรแกรมนี้อาจเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่มีเมาส์และคีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์ สาหรับการติดต่อ อาทิ โปรแกรมจาลองการขับเครื่องบิน โปรแกรมต่อสู้ตัวต่อตัว โปรแกรมวาง แผนการสู้รบ โปรแกรมการสร้างเมือง เกมจาลองสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อสังคม เช่น อุบัติเหตุใน ท้องถนน ปริมาณน้าในธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ป่าไม้ ปัญหายาเสพติด เป็นต้น มีอุปกรณ์เฉพาะ สาหรับการเล่น อาทิ โปรแกรมการเล่นสเก็ตบอร์ดที่มีสเก็ตบอร์ดเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้น หรือ เล่นหลายคนบนเครือข่าย อาทิ โปรแกรมสู้รบบนเครือข่าย โปรแกรมจาลองการซื้อขายหุ้น เป็นต้น ทั้งนี้ความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเป็นสิ่งสาคัญ การละเล่น ใหม่ๆ อาจเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานหลายๆ การละเล่นเข้าด้วยกันได้ อาทิ การขับรถชนพินโบวลิ่ง
  • 7. เป็นต้น หรือ โปรแกรมเพื่อผลิตสื่อบันเทิง เช่น เพลง หรือภาพยนตร์ หรือ Animation บนแผ่นซีดี แบบพกพา หรือ การพัฒนาเครื่องมือในการผลิตเกม (Tool หรือ Engine) การผลิต Model หรือ Character ของตนเองในโปรแกรม คาสาคัญ (KEYWORDS) ความคิดสร้างสรรค์ การละเล่นใหม่ๆ อุปกรณ์ต่อพ่วง Animation หมวด 12 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ หมายถึง "โครงการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดย จัดทาในรูปโครงงานมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กล่าวคือ การผลิตชิ้นงาน หรือผลงานที่ประสมประสาน ข้อมูลที่ประกอบด้วยภาพและข้อความ เสียงและข้อความ ภาพและเสียง หรือทั้ง 3 องค์ประกอบ โดย มีการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ (Communication and Interaction) เป็นส่วนประกอบสาคัญ ของมัลติมีเดีย นาเสนอบน Web หรือ Cyberlab โดยในการพัฒนาอาจใช้โปรแกรมภาษาใดภาษา หนึ่งที่เหมาะสม" ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะในการคิด และทักษะในการแก้ปัญหา (Thinking Skill and Problem Solving Skill) และผู้เรียนรู้สึกสนุกกับเนื้อหาบทเรียน โดยอาจทา เป็นภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ การจาลองสถานการณ์ แบบฝึกหัดทดสอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง โปรแกรมเพื่อสนับสนุนการสอนวิชาการโดยใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีอยู่แล้วและ ง่ายต่อการใช้งานในการสร้างบทเรียน โปรแกรมสื่อการสอนหรือโปรแกรมที่สร้างสื่อการสอนวิชาการ ในสาขาต่างๆ บน Linux LiveCD โดยเนื้อหาในการนาเสนอกาหนดให้เป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คอมพิวเตอร์ ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ) สังคม (แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ศาสนา จริยธรรม และประวัติศาสตร์ไทย) และสอดคล้องกับหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ โปรแกรมต้องสามารถใช้งานได้จริงบน Learnsquare (http://www.learnsquare.com/) คาสาคัญ (KEYWORDS) การมีปฏิสัมพันธ์ การพัฒนาทักษะในการคิดและทักษะในการแก้ปัญหา Cyberlab, Animation หมวด 13 โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการและผู้สูงอายุ ได้แก่ โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็น เครื่องช่วยอานวยความสะดวกสาหรับคนพิการประเภทต่างๆ เช่น คนตาบอด คนตาเลือนราง คนหู
  • 8. หนวก/หูตึง คนพิการแขน-ขา (รวม cerebral palsy) คนที่บกพร่องทางสติปัญญา คนที่บกพร่อง ทางการเรียนรู้ คนที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์ บุคคลออทิสซึม รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยที่ให้ พัฒนาโปรแกรมเพื่อให้คนพิการและผู้สูงอายุสามารถดารงชีวิตอิสระได้ กล่าวคือ เมื่อใช้โปรแกรมนี้ แล้ว ผู้ใช้สามารถที่จะดาเนินชีวิตประจาวันได้ มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนในห้องได้ หรือสามารถ ประกอบอาชีพได้ ตัวอย่างโปรแกรมเช่น โปรแกรมช่วยการเขียนหรือการอ่านของเด็กที่บกพร่อง ทางด้านการเรียนรู้ โปรแกรมช่วยขยายหน้าจอของคนสายตาเลือนราง โปรแกรมต่างๆที่มีเสียงอ่าน สาหรับคนตาบอด โปรแกรมควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องหรือบ้านของผู้พิการแขนขา โปรแกรม โทรศัพท์ข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือหรือผ่านอินเทอร์เน็ต สาหรับคนหูหนวก เป็นต้น ทั้งนี้ให้เน้น เรื่องการพัฒนาโปรแกรมเป็นหลัก โดยอาจมีอุปกรณ์ต่อพ่วงได้ (Human Machine Interface) คาสาคัญ (KEYWORDS) โปรแกรมช่วยอานวยความสะดวกสาหรับคนพิการและผู้สูงอายุ อุปกรณ์ ต่อพ่วง (Human Machine Interface) หมวด 14 โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หมายถึง โปรแกรมช่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นทฤษฎี ผลลัพธ์จากการทดลอง และ งานวิจัยใหม่ๆ เช่น โปรแกรมเพื่อศึกษาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมที่ส่งเสริมงานด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือการแพทย์) การประยุกต์ทางด้าน Parallel & Distributed Computing เช่น การเขียนโปรแกรม mpi เพื่อทาการคานวณงานที่มีความซับซ้อน รวมถึงโปรแกรมเพื่อการ ทดลองทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมแบบจาลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เช่น Modeling, Visualization, Simulation หรือ Optimization โปรแกรมการจาลองสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อ สังคม เช่น อุบัติเหตุในท้องถนน ปริมาณน้าในธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ป่าไม้ โปรแกรมที่ใช้ใน กิจกรรมของ Linux Clustering โปรแกรมเพื่อศึกษาหรือควบคุมความคับคั่งของทีซีพี (TCP Congestion) โปรแกรมที่ศึกษาหรือประยุกต์งานที่เกี่ยวข้องกับ multicast โปรแกรมในสาขา เทคโนโลยีไร้สาย โปรแกรมประยุกต์สาหรับใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) โปรแกรม
  • 9. ประยุกต์ใช้ข้อมูลจราจร โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี โปรแกรมด้านความ มั่นคงปลอดภัยของข้อมูล เช่น โปรแกรมการcrack พาสเวิร์ด โปรแกรมการดักข้อมูล โปรแกรมการ ตรวจจับfake access points ในที่สาธารณะหรือองค์กร โปรแกรมแอพฯ คุยโทรศัพท์ผ่านระบบ เข้ารหัสลับบทสนทนา โปรแกรมแอพฯ การเข้ารหัสSMS เป็นต้น โดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี วิทยาการรหัสลับ (Cryptography) ที่เหมาะสม เช่น random number generating, encryption algorithm, secure tunneling, authentication และ key management รวมทั้งเทคโนโลยีที่ เกี่ยวข้อง คาสาคัญ (KEYWORDS) การจาลองสถานการณ์ (Simulation), แบบจาลองทฤษฎีวิทยาศาสตร์ (Modeling), Visualization, Optimization หมวด 15 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์ (Linux Desktop Application) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาและทางานบนระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux) ซึ่งเป็นอาจจะ เป็นโปรแกรมที่พัฒนาต่อยอดจากโปรแกรมโอเพนซอร์ส (Open Source) หรือพัฒนาขึ้นเองใหม่ ทั้งหมด โดยเน้นโปรแกรมประยุกต์ที่ทางานบนลินุกซ์เดสก์ท็อป ทั้งนี้ สัญญาอนุญาตของโปรแกรม จะต้องเป็นแบบโอเพนซอร์ส เช่น GPL หรือ ตามสัญญาอนุญาตเดิมของซอฟต์แวร์ที่นามาต่อยอด  โปรแกรมที่พัฒนาขึ้น เป็น Native Application พัฒนาบน Linux Desktop distribution ต่างๆ เช่น Ubuntu, Fedora, Linux Mint, Debian เป็นต้น  เครื่องมือที่ใช้พัฒนาต้องเป็นโอเพนซอร์ส เช่น PHP, Python, Mono, GCC, GTK, QT, Gimp, Bluefish, vi เป็นต้น  ผู้พัฒนาอาจเลือกใช้ Compiler เช่น GCC, G++ เป็นต้น หรือ เลือกใช้ Interpreter เช่น Shell Script, Python เป็นต้น หรือ เลือกใช้ GUI tools kit เช่น GTK, QT, TCL/TK เป็น ต้น  ทั้งนี้ โปรแกรมที่พัฒนาในหมวดนี้ไม่รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมด้วย Java
  • 10.  ตัวอย่างโปรแกรมที่พัฒนา เช่น โปรแกรมบัญชี หรือ โปรแกรมเพื่อช่วยในงานวิจัยในด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมี Interface ที่ใช้งานได้บน X Window และพัฒนาโดยใช้ Library QT หรือ GTK เป็นต้น คาสาคัญ (KEYWORDS) โอเพนซอร์ส (Open Source) ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux) 4.2 ระดับนักเรียน หมวด 21 โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ได้แก่ โปรแกรมที่สร้างความบันเทิงหรือการฝึกหัด ด้วยภาพ เสียง สัมผัส การเคลื่อนที่ และการกระตุ้นการใช้ไหวพริบของผู้เล่น ซึ่งโปรแกรมดังกล่าว อาจพัฒนาบนระบบปฏิบัติการใดๆ ก็ได้ เช่น ลินุกซ์ หรือวินโดวส์ เป็นต้น หรืออาจจะพัฒนาโดยใช้ โปรแกรมช่วยสร้างเกม (Game Engine) เช่น Torque หรือ Ogre 3D ช่วยในการพัฒนาก็ได้ โปรแกรมนี้อาจเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่มีเมาส์และคีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์ สาหรับการติดต่อ อาทิ โปรแกรมจาลองการขับเครื่องบิน โปรแกรมต่อสู้ตัวต่อตัว โปรแกรมวาง แผนการสู้รบ โปรแกรมการสร้างเมือง เกมจาลองสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อสังคม เช่น อุบัติเหตุใน ท้องถนน ปริมาณน้าในธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ป่าไม้ ปัญหายาเสพติด เป็นต้น มีอุปกรณ์เฉพาะ สาหรับการเล่น อาทิ โปรแกรมการเล่นสเก็ตบอร์ดที่มีสเก็ตบอร์ดเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้น หรือ เล่นหลายคนบนเครือข่าย อาทิ โปรแกรมสู้รบบนเครือข่าย โปรแกรมจาลองการซื้อขายหุ้น เป็นต้น ทั้งนี้ความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเป็นสิ่งสาคัญ การละเล่น ใหม่ๆ อาจเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานหลายๆการละเล่นเข้าด้วยกันได้ อาทิ การขับรถชนพินโบวลิ่ง เป็นต้น หรือ โปรแกรมเพื่อผลิตสื่อบันเทิง เช่น เพลง หรือภาพยนตร์ หรือ Animation บนแผ่นซีดี แบบพกพา หรือ การพัฒนาเครื่องมือในการผลิตเกม (Tool หรือ Engine) การผลิต Model หรือ Character ของตนเองในโปรแกรม คาสาคัญ (KEYWORDS) ความคิดสร้างสรรค์, การละเล่นใหม่ๆ, อุปกรณ์ต่อพ่วง Animation
  • 11. หมวด 22 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ หมายถึง "โครงการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดย จัดทาในรูปโครงงานมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กล่าวคือ การผลิตชิ้นงาน หรือผลงานที่ประสมประสาน ข้อมูลที่ประกอบด้วยภาพและข้อความ เสียงและข้อความ ภาพและเสียง หรือทั้ง 3 องค์ประกอบ โดย มีการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ (Communication and Interaction) เป็นส่วนประกอบสาคัญ ของมัลติมีเดีย นาเสนอบน Web หรือ Cyberlab โดยในการพัฒนาอาจใช้โปรแกรมภาษาใดภาษา หนึ่งที่เหมาะสม" ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาทักษะในการคิด และทักษะในการแก้ปัญหา (Thinking Skill and Problem Solving Skill) และผู้เรียนรู้สึกสนุกกับเนื้อหาบทเรียน โดยอาจทา เป็นภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ การจาลองสถานการณ์ แบบฝึกหัดทดสอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง โปรแกรมเพื่อสนับสนุนการสอนวิชาการโดยใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีอยู่แล้วและ ง่ายต่อการใช้งานในการสร้างบทเรียน โปรแกรมสื่อการสอนหรือโปรแกรมที่สร้างสื่อการสอนวิชาการ ในสาขาต่างๆ บน Linux LiveCD โดยเนื้อหาในการนาเสนอกาหนดให้เป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา) คอมพิวเตอร์ ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ) สังคม (แนวคิดเศรษฐกิจ พอเพียง ศาสนา จริยธรรม และประวัติศาสตร์ไทย) และสอดคล้องกับหลักสูตรของ กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ โปรแกรมต้องสามารถใช้งานได้จริงบน Learnsquare (http://www.learnsquare.com/) คาสาคัญ (KEYWORDS) การมีปฏิสัมพันธ์ การพัฒนาทักษะในการคิดและทักษะในการแก้ปัญหา Cyberlab, Animation หมวด 23 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน หมายถึง โปรแกรมช่วยการทางานด้าน คอมพิวเตอร์ทุกชนิด ได้แก่ โมดูลในระบบจัดการการเรียนการสอน โปรแกรมควบคุมในห้องเรียน สาหรับผู้สอน โปรแกรมรักษาความปลอดภัยบนระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย โปรแกรมสาหรับ การเตรียมเอกสาร การประมวลผลภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ การบีบ อัดข้อมูล การเข้าและถอดรหัสข้อมูล การรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย โปรแกรมประยุกต์สาหรับใช้งาน บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) โปรแกรมเพื่อศึกษาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมเพื่อ
  • 12. ช่วยเหลือผู้พิการ โปรแกรมประยุกต์ใช้ข้อมูลจราจร หรือ โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้ในการบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้งานได้จริงเป็นสิ่งสาคัญ โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้ในการบริการ หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นามาประยุกต์ เสริมในการบริการเพื่อสร้างรูปแบบบริการใหม่ๆ หรือปรับปรุงประสิทธิภาพของการบริการเดิมให้ดี ยิ่งขึ้น โดยอาจจะเลือกทากับธุรกิจบริการทั่วๆไปหรืออาจจะแปลงผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบบริการก็ ได้ เช่น เปลี่ยนจากการเดินไปซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ เป็นบริการสั่งของทางแผ่นพับและ QR code แทน ซึ่งต้องมีโปรแกรมในการสั่งและส่งของ หรือจะเลือกทาโปรแกรมกับธุรกิจบริการที่มีอยู่ แล้ว เช่น ธุรกิจการโรงแรม พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ฯลฯ ตัวอย่าง โปรแกรมได้แก่ โปรแกรมการจัดการแถวคอยในโรงพยาบาล หรือในชีวิตประจาวันของนักเรียน บริการแจ้งเตือนต่างๆ บริการให้ข้อมูลข่าวสารโดยการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Cloud หรือ Sensor บริการประเภท Location-based Service และบริการบนเครือข่ายสังคม เป็นต้น ผู้พัฒนาควร คานึงถึงโจทย์ความต้องการจริงของบริการนั้นๆ การมีส่วนร่วมของผู้ให้และผู้รับบริการ (Co- creation) การออกแบบขั้นตอนการให้บริการที่ผู้ใช้พอใจ (Usability) การออกแบบให้ขยายบริการได้ (Scalability) และความยั่งยืน (Sustainability) คาสาคัญ (KEYWORDS) ธุรกิจบริการ นวัตกรรมบริการ Location-based Service วิทยาศาสตร์ บริการ 4.3. หัวข้อพิเศษ หมวด 31 แอพลิเคชั่นออนไลน์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Environment App Contest) อุบัติภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นตัวบ่ง ชี้ให้เห็นถึงความสาคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และสร้าง ผลกระทบให้กับชีวิตและทรัพย์สินของมนุษยชาติ ดังนั้น การทาความเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมและ วิถีทางในการแก้ไขปัญหา จึงถือเป็นปัจจัยพื้นฐานหนึ่งในการอนุรักษ์และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะ เกิดขึ้นในอนาคต
  • 13. ในการแข่งขันนี้ จึงมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันพัฒนาแอพลิเคชั่น เพื่อส่งเสริมความตระหนัก ถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสานึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และ/หรือบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ให้แก่ เยาวชนและบุคคลทั่วไป โดยผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องดาเนินการตามข้อกาหนดดังนี้ (1) แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายหลักของแอพลิเคชั่นที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะทาการพัฒนา ตัวอย่างเช่น “การรับมือกับปัญหาโลกร้อน” “การเฝ้าระวังและเตือนภัย” และ “การใช้ ชีวิตประจาวัน” (2) ส่งเสริมการเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมในชุมชนในระดับภูมิภาค ระดับชาติ และระดับนานาชาติ (3) มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสม อาทิเช่น Web Services, Web 2.0 และ Cloud Computing รวมทั้งเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ภูมิศาสตร์ สารสนเทศ (GIS) และ การแสดงผลด้วยภาพ (Visualization) (4) ไม่จากัดแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี และภาษาที่ใช้พัฒนา อาทิเช่น Facebook Application, Mobile Application, Google App Engine, Google Gadget, Firefox Extension หรือ Joomla Component เป็นต้น (5) แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในเชิงความคิดสร้างสรรค์ และการนาไปประยุกต์ใช้งาน จริงต่อไปได้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก http://www.informationgrid.org/EnvironmentAppContest และ FB page “NSC Environment App Contest” คาสาคัญ (KEYWORDS) Web Services, Web 2.0, สิ่งแวดล้อม (Environment), Mobile Application หมวด 32 Mobile Application โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานบนเครือข่ายสาหรับ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นสาหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เคลื่อนที่ได้
  • 14. (Mobile computing device) เช่น โทรศัพท์มือถือ, SmartPhone, Tablet หรือ PDA โดย โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นต้องมีการเรียกใช้งานผ่านเครือข่าย เช่น รับส่งข้อมูลจากฐานข้อมูลบนเครือข่าย มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้อื่นบนเครือข่าย ตัวอย่างเช่น โปรแกรมเกมแบบหลายผู้เล่น โปรแกรมประยุกต์ใช้ ข้อมูลจราจร โปรแกรมส่งข้อความแบบหลายแพลตฟอร์ม (MSN, Yahoo, ICQ) และ Social Networking & RSS Feeder Client โปรแกรมแลกเปลี่ยนไฟล์ข้อมูลและ Torrent Client โปรแกรมแลกเปลี่ยน/ชมวีดิทัศน์ (YouTube) และ MobileTV Client โปรแกรมประชุมทางไกล โปรแกรมประยุกต์ P2P โดยใช้ SIP, VoIP โปรแกรมประยุกต์สาหรับใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ยุคหน้า (IPv6) เป็นต้น ระบบเครือข่ายนี้ไม่จากัดเฉพาะเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาจรวมถึง เครือข่าย Wireless LAN เครือข่ายไร้สายเฉพาะกิจ (Wireless Ad-hoc Network) หรือ เครือข่าย อินเทอร์เน็ต (IPv4) หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) ก็ได้ นอกจากนี้สามารถใช้ภาษาใดก็ได้ (JAVA, C, C++, ฯลฯ) และระบบปฏิบัติการใดก็ได้ (iOS, Android, Windows, SymbianOS, PocketPC, Linux, PalmOS, ฯลฯ) ในการพัฒนา โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจะต้องสามารถทดลองใช้งาน ได้จริงกับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการดังกล่าว โปรแกรมประยุกต์ใช้ รวบรวม หรือแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางขนส่งและจราจร สาหรับผู้เดินทางไม่ว่าจะเป็นผู้ขับรถยนต์ส่วนตัว แท็กซี่ หรือผู้โดยสารสาธารณะ อาจพัฒนาปัจจัย เสริมช่วยเหลือในการเดินทาง เช่น ตารางรถประจาทาง รายงานสภาพจราจร แผนที่นาทาง การ บริหารจัดการการออกรถ เป็นต้น โดยสามารถสื่อสารระหว่างรถ หรือสื่อสารระหว่างรถกับศูนย์ข้อมูล ตัวอย่างของการนาเสนอข้อมูลผ่านทางเว็บ ได้แก่ http://traffy.in.th นอกจากนี้ทางเนคเทค ได้มี การรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลจราจรที่เป็นประโยชน์ ผ่านทางช่องทางของโครงการ Traffy Application Programming Interface (Traffy API) โดยหน้าที่หลักของ Traffy API คือการเป็น สื่อกลางระหว่างข้อมูลจราจรและนักพัฒนา ที่ต้องการนาข้อมูลไปต่อยอดอาทิเช่น ข้อมูลภาพจาก กล้องวงจรปิด (CCTV), ข้อมูลสภาพการจราจรและระดับความติดขัด และข้อมูลชื่อและพิกัดของถนน ต่างๆ ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://info.traffy.in.th/api/
  • 15. คาสาคัญ (KEYWORDS) เครือข่ายเคลื่อนที่ โปรแกรมประยุกต์สาหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบขนส่ง และจราจรอัจฉริยะ (Intelligent Transport System) หมวด 33 BEST 2013 : การแข่งขันสุดยอดการรู้จาตัวอักษรภาษาไทย (Thai Character Recognition Contest) การวัดเปรียบเทียบสมรรถนะเพื่อพัฒนามาตรฐานการประมวลผลภาษาไทย (Benchmark for Enhancing the Standard of Thai language processing) หรือ BEST นี้ เป็นชุดของการ แข่งขันซอฟต์แวร์ที่สาคัญและเกี่ยวข้องกับการประมวลผลภาษาไทย โดยแต่ละปีจะมีการกาหนด หัวข้อการแข่งขันตามความเหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมเนื้อหาในการประมวลผลภาษาไทยระดับต่างๆ ในปีนี้ทางผู้จัดเลือกหัวข้อ การรู้จาตัวอักษรภาษาไทย (Thai Character Recognition) มาเป็นโจทย์ ในการแข่งขัน การรู้จาตัวอักษร (Character Recognition) เป็นหัวข้อที่มีผู้ทาวิจัยมาอย่างยาวนานและ ต่อเนื่อง ทั้งนี้การรู้จาตัวอักษรในแต่ละภาษาจะมีความแตกต่างกันตามลักษณะของภาษานั้นๆ ภาษาไทยถือได้ว่าเป็นภาษาที่มีความยากและซับซ้อนในการรู้จาภาษาหนึ่ง เนื่องจากภาษาไทยมี จานวนตัวอักษรค่อนข้างมาก มีระดับการเขียนหลายระดับ และมีโอกาสเขียนติดหรือทับกัน จึงเป็น การยากที่จะสร้างระบบรู้จาตัวอักษรที่มีความถูกต้องสมบูรณ์ขึ้นมาได้ เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะจัดเรื่องการรู้จาตัวอักษรภาษาไทย ทางผู้จัดจึง จากัดขอบเขตของโจทย์ให้เป็นเฉพาะการรู้จาตัวอักษรภาษาไทยที่เป็นตัวอักษรเดี่ยวเท่านั้น โดยทาง หน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีภาพ (IMG) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) จะเปิดทรัพยากรภาษา อันได้แก่ ฐานข้อมูลภาพตัวอักษรที่มี ชนิด ขนาด และรูปแบบที่ หลากหลาย, ตัวอักษรคาตอบที่ต้องการ เป็นต้น โดยข้อมูลที่ให้จะแบ่งเป็น ชุดฝึกฝน (Training set) และชุดทดลอง (Validation set) เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถนาไปพัฒนาโปรแกรมรู้จาตัวอักษรต่อไป ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันสามารถใช้ทรัพยากรภาษาที่จัดเตรียมไว้ให้ หรือจะจัดหามาเอง หรือจะ พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดก็ได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า จะต้องไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น โดยผู้เข้า
  • 16. แข่งขันจะต้องพิสูจน์การได้มาของข้อมูลรวมถึงโปรแกรมที่ใช้พัฒนาอย่างถูกต้อง รายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้จากเว็บไซต์ http://thailang.nectec.or.th/best/ คาสาคัญ (KEYWORDS) การวัดเปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark), การรู้จาตัวอักษร (Character Recognition), การรู้จารูปแบบ (Pattern Recognition), ภาษาไทย (Thai Language), การประมวลผลภาพ (Image Processing), การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) 4.4 ระดับครู อาจารย์ หมวด 41 สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ (Content for Learning Management System) โดยพัฒนาเนื้อหาสาระการเรียนการสอนที่ต้องเผยแพร่แบบโอเพนซอร์ส และสามารถนาไปใช้ได้กับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ (LMS) ที่เป็นฟรีแวร์หรือโอเพนซอร์ส เช่น Moodle หรือ Learnsquare ลักษณะเนื้อหาที่พัฒนาขึ้น ควรเน้นภาพเคลื่อนไหวและการมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อดึงดูดให้ผู้เรียนสนใจในบทเรียน และสามารถสร้างทักษะในการเรียนรู้ ภายใต้เนื้อหา โดยมีเนื้อหาตรงตามหลักสูตรด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา) คอมพิวเตอร์ ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ) สังคม (แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ศาสนา จริยธรรม และประวัติศาสตร์ไทย) ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทุกโรงเรียนหรือทุกสถาบันมีเนื้อหาหลักสูตร เหมือนกัน ตลอดจนมีการนาไปใช้ในห้องเรียนจริง มาตรฐานการผลิตสื่อการเรียนการสอน สื่อเรียนรู้โดยเฉพาะการนาเสนอในรูปแบบ e- Learning จะมีมาตรฐานมากขึ้น มาตรฐานหนึ่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ มาตรฐาน SCORM (Shareable Content Object Reference Model) อันเป็นมาตรฐานที่ช่วยให้สื่อเรียนรู้ นั้นๆ สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ทั้งนี้ SCORM มีรายละเอียดหลายประการ ในที่นี้ ได้นาเสนอในส่วน ของการพัฒนาเนื้อหาสาระ (Shareable Content Objects – SCOs) โดยส่วนของ SCOs ที่พัฒนา อย่างเป็นมาตรฐานจะทาให้เกิดการนาเนื้อหาที่พั ฒนาแล้วนั้นไปใช้ต่อไปได้ ใช้กับระบบบริหาร
  • 17. จัดการ e-Learning (LCMS: Learning and Content Management Systems) ระบบใดก็ได้ที่ รองรับมาตรฐาน SCORM ลักษณะของสื่อเรียนรู้ตามมาตรฐาน SCORM จะมีจุดเด่นหลัก คือ • มีลักษณะเป็นวัตถุเรียนรู้ (Learning Objects) ที่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งหน่วยการเรียน หรือ เฉพาะชิ้น โดยวัตถุเรียนรู้จะอยู่ในฟอร์แมตใดก็ได้ ทั้ง Text, HTML files, Image, Flash Movie, PDF • สามารถนาเข้า (Import) และส่งออก (Export) เพื่อใช้กับ LCMS ใดก็ได้ที่สนับสนุนมาตรฐาน SCORM • เนื้อหา SCORM ที่พัฒนาแล้ว สามารถเรียกดูได้ทันที โดยไม่ต้องอาศัย LCMS ใดๆ ในลักษณะ Offline แนวทางการพัฒนา การพัฒา SCORM Content มีแนวทาง 2 รูปแบบ ได้แก่ • การพัฒนาเครื่องมือแล้วพัฒนา SCORM Content จนครบทุกกระบวนการ โดยมีหัวใจหลักคือ การ ใช้เทคโนโลยี XML เป็นตัวกลาง (imsmanifest.xml) • การพัฒนาเฉพาะ SCORM Content โดยใช้เครื่องมือพัฒนาเนื้อหาที่สนับสนุนมาตรฐาน SCORM เช่น LearnSquare ระบบ OpenSource e-Learning ที่เนคเทคสนับสนุนการพัฒนาและเผยแพร่ (http://www.learnsquare.com) จากนั้นส่งเฉพาะ SCORM Content เข้ามาประกวด ตัวอย่างของ SCORM Content สามารถดาวน์โหลดได้จาก • http://www.learnsquare.com • http://www.adlnet.org/downloads • http://www.unesco.org/cgi- bin/webworld/portal_freesoftware/cgi/page.cgi?g=Software/Courseware_Tools/index.s html&d=1
  • 18. หมายเหตุ: 1. โครงการฯ ส่งเสริมให้ผู้พัฒนาโครงการได้พัฒนาและใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตาม กฎหมายในการพัฒนาโปรแกรม ทั้งนี้ โครงการที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์ Open Source จะได้รับการ พิจารณาเป็นกรณีพิเศษ กรณีที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ จะต้องมีหลักฐานยืนยันว่า มีลิขสิทธิ์ ถูกต้องตามกฎหมาย 2. สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุนการพัฒนา โปรแกรมเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะองค์รวม ทั้ง 4 มิติ คือ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางจิต สุขภาวะทาง สังคม และสุขภาวะทางปัญญา พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการดูแลสุขภาพและสร้างค่านิยมการสร้าง เสริมสุขภาวะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยการนาเนื้อหาที่พัฒนาขึ้นโดยสานักงานกองทุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) ซึ่งสามารถค้นหาสื่อความรู้ได้ที่ http://info.thaihealth.or.th/ ได้แก่ โปรแกรมการ ออกกาลังกาย การลดปัจจัยเสียงต่างๆ และการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เป็นต้น โปรแกรมจะต้องมีความ ถูกต้องแม่นยาสูง และเชื่อถือได้ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมหรือเกมส์ส่งเสริมการออกกาลังกาย โปรแกรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกาย และจิต โปรแกรมส่งเสริมการสร้างความตระหนักเรื่องโลกร้อน เกมส์ส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยหรือลด อุบัติเหตุจราจร โปรแกรมส่งเสริมการเลิกเหล้า/บุหรี่ โปรแกรมหรือเกมส์ให้ความรู้พิษภัยบุหรี่/เหล้า เป็น ต้น 3. เยาวชนที่สนใจต่อยอดผลงานของตนเองจนสามารถใช้งานได้จริง สามารถเสนอขอรับทุน สนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพัฒนาผลงาน จาก “โครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่” สนับสนุนโดย มูลนิธิ สยามกัมมาจล โดยผลงานของเยาวชนที่ร่วมโครงการจะได้การCoaching แบบมืออาชีพจากหน่วยงานที่ คว่าหวอดในสายงานที่ต่อยอดทั้งด้านที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม คุณภาพชีวิต คุณภาพสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมโอกาสในการได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการ แข่งขันในเวทีนานาชาติ ติดตามรายละเอียดและเงื่นไขการขอรับทุนเพิ่มเติมได้จาก เว็บไซต์
  • 19. http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ facebook group: “NSC Thailand” http://www.facebook.com/groups/NSCThailand/ 4. สมาคมไอพีวี 6 ประเทศไทย ให้การสนับสนุนผลงานที่ส่งเข้าประกวดในหัวข้อใดก็ได้ ที่ได้รับ การพิจารณาแล้วว่าสามารถใช้งานได้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) และเป็นการใช้ประโยชน์ จากความสามารถของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) โดยสมาคมฯ จะสนับสนุนเงินรางวัลพิเศษไม่ เกิน 3 รางวัล มูลค่ารวม 30,000 บาท ตัวอย่างของโปรแกรมที่ใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) ได้แก่ โปรแกรมเกมแบบหลายผู้เล่น โปรแกรมแลกเปลี่ยนไฟล์ข้อมูล โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ ไฟฟ้าทางไกล โปรแกรมสนทนา โปรแกรมแลกเปลี่ยน/ชมวีดิทัศน์ โปรแกรมประชุมทางไกล โปรแกรม โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP) เป็นต้น สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่าย อินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6) ได้ที่ http://ipv6.nectec.or.th 5. ผู้พัฒนาในโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยทุกประเภท สามารถนา Application Program Interface (API) ของเนคเทค เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับแปลภาษา ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง (Text to Speech) ซอฟต์แวร์สืบค้นข้อมูล (Search Engine) ซอฟต์แวร์รู้จาตัวอักษรภาษาไทยด้วยแสง (Thai OCR) พจนานุกรม Lexitron ระบบบาร์โค้ด เป็นต้น มา ใช้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในการพัฒนางานของตนได้ 6. การรับสมัคร ผู้พัฒนาจะต้องสมัครและกรอกข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของโครงการ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ http://www.nscthailand.net 5. กาหนดการรับสมัคร  ส่งข้อเสนอโครงการ กรกฎาคม - สิงหาคม  ประกาศผลข้อเสนอโครงการที่ผ่านการพิจารณา กันยายน  ระยะเวลาพัฒนาซอฟต์แวร์ กันยายน - ธันวาคม  ทาสัญญาและพิธีมอบทุน ตุลาคม
  • 20.  กาหนดส่งมอบผลงาน ต้นเดือนมกราคม  ประกาศผลโครงการที่ผ่านการพิจารณาและโครงการที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ กลางเดือนมกราคม  การประกวดรอบชิงชนะเลิศ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 6. เงินทุนและรางวัล โครงการที่ผ่านการพิจารณาจะได้รับทุนสนับสนุนรวมโครงการละ 12,000 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. ผ่านการพิจารณาในรอบข้อเสนอโครงการ (รอบแรก) ได้รับทุนสนับสนุนโครงการละ 3,000 บาท 2. ผ่านการพิจารณาในรอบผลงานโครงการ (รอบสอง) ได้รับทุนสนับสนุนโครงการละ 9,000 บาท (โดยทีมผู้พัฒนาได้รับ 7,000 บาท และอาจารย์ที่ปรึกษาได้รับ 2,000 บาท) สาหรับผลงานที่ผ่านการพิจารณาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จะมีเงินรางวัลพร้อมโล่เกียรติยศ ดังนี้ รางวัลที่ 1 60,000 บาท และถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี (เฉพาะประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษา) รางวัลที่ 2 40,000 บาท รางวัลที่ 3 20,000 บาท รางวัลชมเชย ประเภทละ 2 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท รางวัลพิเศษ รวมมูลค่า 30,000 บาท จาก สมาคมไอพีวี 6 ประเทศไทย สาหรับโปรแกรม ประยุกต์สาหรับใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคหน้า (IPv6 capable) เงินรางวัลทุกประเภท จะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยมอบให้ทีมผู้พัฒนา จานวน 80% และอาจารย์ที่ปรึกษา 20% สถาบันการศึกษาที่ได้รับรางวัลที่ 1, 2 และ 3 ในแต่ละประเภท จะได้รับโล่รางวัลเกียรติยศจาก เนคเทค
  • 21. 7. ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่เข้าร่วม โครงการ NSC หรือ YSC และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่ มหาวิทยาลัยกาหนด มีสิทธิ์ได้รับโควตาเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยดังต่อไปนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัย ศิลปากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ทั้งนี้ สถานศึกษาบางแห่งมีการพิจารณาให้ทุนการศึกษาเพิ่มเติม สาหรับผู้พัฒนาที่ได้รับรางวัลในการ ประกวดรอบชิงชนะเลิศ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น รายละเอียดติดต่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาค ณ มหาวิทยาลัยดังกล่าว หรือ ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 8. เกณฑ์การพิจารณาประกวดตัดสินโครงการ 8.1 รอบคัดเลือกข้อเสนอโครงการ คัดเลือกผลงานจากข้อเสนอโครงการที่ส่งเข้ามา โดยกาหนดประเด็นพิจารณาไว้ 5 ด้าน เพื่อเป็น แนวทางให้คณะกรรมการใช้สาหรับการพิจารณาข้อเสนอโครงการ โดยแต่ละกลุ่ม เกณฑ์และน้าหนักของการ ให้คะแนนต่างกันตามตารางที่กาหนด เพื่อความเหมาะสมในการตัดสินในแต่ละประเภท โดยการพิจารณา ข้อเสนอโครงการจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ด้านต่างๆ ดังนี้ 1. ด้านความสมบูรณ์ของข้อเสนอโครงการ ข้อเสนอโครงการมีรูปแบบและหัวข้อครบถ้วน สามารถสื่อสารให้ผู้อ่านเข้าใจได้ ใช้ภาษาได้ถูกต้อง มีภาพ ตาราง หรือ ตัวอย่างประกอบทาให้ สื่อได้ชัดเจน 2. ด้านความยากง่ายในการพัฒนา เทคนิคที่ใช้มีความซับซ้อน หรือ ขั้นสูง เทคโนโลยีใหม่และมี ประสิทธิภาพ มีคุณค่าในเชิงงานพัฒนาหรือการวิจัย หรือใช้เทคนิคที่ไม่ซับซ้อนมาก แต่ถ่ายทอด ได้น่าสนใจ โครงการที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open Source) จะได้รับการพิจารณา เป็นกรณีพิเศษ
  • 22. 3. ด้านความคิดสร้างสรรค์ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ แปลก ใหม่ ยังไม่มีผู้พัฒนาหรือคิดค้นมาก่อน หรือ มีผู้พัฒนามาแล้ว แต่นาเสนอหรือพัฒนาในแนวทางที่แตกต่างออกไป 4. ด้านประโยชน์ใช้งาน สามารถนาไปใช้งานได้จริง มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง สามารถนาไปผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ สามารถนาไปพัฒนาต่อยอดได้ 5. ด้านความน่าจะพัฒนาโครงการได้เสร็จตามกาหนด ขอบเขตงาน สามารถพัฒนาได้เสร็จภายใน ระยะเวลาที่กาหนด 4 เดือน สาหรับงานใหม่ หรือ งานที่พัฒนาต่อยอดจากงานเดิมก็ตาม ควา ควา ควา ปร ควา ม ม มคิด ะโ ม ประเภท สมบู ยาก สร้า ยช น่าจ รวม รณ์ ง่าย งสร น์ ะ ของ ใน รค์ ใช้ พัฒ ข้อเ การ งา นา สนอ พัฒ น ได้ นา เสร็ จ โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักศึกษา) 20 20 25 20 15 100 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักศึกษา) 20 15 25 25 15 100 โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการ (นักศึกษา) 20 20 15 30 15 100 โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ 20 25 25 20 10 100 และเทคโนโลยี (นักศึกษา) โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์ 20 25 15 25 15 100 (นักศึกษา) โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักเรียน) 20 20 25 20 15 100
  • 23. โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน) 20 15 25 25 15 100 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน (นักเรียน) 20 20 20 25 15 100 Environment App Contest 20 20 20 25 15 100 Mobile Application 20 20 25 25 10 100 สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ 20 15 25 25 15 100 หมายเหตุ: เนคเทค พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโครงการตามความเหมาะสม เพื่อให้ทุนสนับสนุน โครงการในแต่ละประเภทโดยพิจารณาจากการจัดลาดับคะแนนที่ได้สูงสุดลงมา ทั้งนี้ โครงการที่จะได้รับการ สนับสนุน ต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่า 50 คะแนน 8.2 รอบการส่งผลงาน เนคเทค พิจารณาจากผลงานและรายงานฉบับสมบูรณ์ที่ผู้พัฒนาจัดส่งและตรวจสอบความครบถ้วน ของผลงานที่ส่งมอบ โดยพิจารณาจาก 1. ในการนาเสนอผลงานและสาธิตซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น ผู้พัฒนาต้องมานาเสนอผลงานด้วยตนเอง 2. สิ่งที่ต้องส่งมอบครบตามที่เนคเทคกาหนด คือ รายงานฉบับสมบูรณ์ คู่มือการติดตั้งและคู่มือการ ใช้งาน จานวน 2 ชุด และ CD-ROM จานวน 2 ชุด บรรจุข้อมูลดังนี้ ซอร์สโค้ด ชุดโปรแกรม สาหรับติดตั้ง (Setup Program) Software Libraries และ/หรือ Tools ไฟล์เอกสารรายงาน และข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (Disclaimer) คะแนนส่วนนี้กาหนด ไว้ไม่เกิน 25% 3. ผลการทดลองใช้งานจริง เนคเทคจะมีคณะทางานตรวจสอบผลงาน โดยทดลองติดตั้งและทดลอง ใช้งานจริงตามคู่มือ จุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละผลงาน รวมทั้งข้อเสนอแนะผลงานจะถูกให้ คะแนนโดยคณะผู้ตรวจ กาหนดไว้ไม่เกิน 75% ของคะแนนรวม
  • 24. ราย L T C Ec กา งาน o e r o ร ประเภท และ o c e n นา รวม การ k h a o เส ติดตั้ & n t mi นอ ง i i c ผ โปร F q v & งา แกร e u i So น ม e e t ci l y al Im pa ct โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักศึกษา) 25 20 15 20 15 5 100 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักศึกษา) 25 20 10 20 20 5 100 โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการ (นักศึกษา) 25 15 15 15 25 5 100 โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ 25 15 20 20 15 5 100 และเทคโนโลยี (นักศึกษา) โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์ 25 15 20 15 20 5 100 (นักศึกษา) โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักเรียน) 25 20 15 20 15 5 100 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน) 25 20 10 20 20 5 100 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน (นักเรียน) 25 15 15 20 20 5 100
  • 25. Environment App Contest 25 10 20 20 20 5 100 Mobile Application 25 15 15 20 20 5 100 สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ 25 20 10 20 20 5 100 หมายเหตุ: ผลงานที่ผ่านการตรวจรับ จะถูกจัดลาดับคะแนน (Ranking) เพื่อการพิจารณาจานวน โครงการที่เหมาะสมสาหรับการเข้าสู่รอบการประกวดชิงชนะเลิศต่อไป ทั้งนี้ โครงการที่จะได้รับการสนับสนุน ต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่า 50 คะแนน และโครงการที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ต้องได้รับคะแนนไม่น้อย กว่า 70 คะแนน และจัดทาสัญญาเรียบร้อยแล้ว 8.3 การประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เนคเทค ได้กาหนดหลักเกณฑ์ ประเด็นการให้คะแนน การรวมคะแนน และวิธีการในการตัดสินให้ คณะกรรมการแต่ละชุดสามารถกาหนดเป็นเกณฑ์ร่วมกันก่อนการพิจารณาตัดสิน หากผลคะแนนไม่สามารถ ตัดสินได้ การชี้ขาดให้สิทธิ์เป็นของคณะกรรมการ 8.3.1 การให้คะแนน การให้คะแนนสาหรับโครงการในแต่ละประเภทที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนั้น พิจารณาจากประเด็น ต่างๆ ทั้งสิ้น 5 ประเด็นหลัก กล่าวคือ 1. Look and Feel เช่น  ความสวยงาม ความน่าสนใจของโปรแกรม  การใช้งานง่ายและสะดวก  ความถูกต้อง ครบถ้วนในเนื้อหาที่นาเสนอ 2. Technique เช่น  ความยากง่ายของโปรแกรม (Programming Technique)  คุณค่าในเชิงงานพัฒนา หรือการวิจัย  ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี
  • 26.  ความถูกต้องและประสิทธิภาพของโปรแกรม  การพัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (Open Source) 3. Creativity  ความคิดสร้างสรรค์ 4. Economic & Social Impact เช่น  ประโยชน์และคุณค่าทางเศรษฐกิจ  ประโยชน์และคุณค่าทางสังคม  ศักยภาพในการนาไปผลิตเชิงพาณิชย์ หรือ พัฒนาต่อยอด 5. Presentation เช่น  การแสดงผลงาน (โปสเตอร์, บูธ) และการนาเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ  ความสุภาพและการแต่งตัว  เอกสารเผยแพร่ผลงาน เป็นต้น การคิดคะแนนรวม คะแนนรวมทั้งสิ้นของทุกๆ ประเด็นหลัก เท่ากับ 100 คะแนนเต็ม 8..3.2 การกาหนดคะแนนของแต่ละประเด็น เนคเทคได้กาหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนเป็นมาตรฐานร่วมกัน ดังนี้
  • 27. Lo Te Cr Eco Pr ok ch ea no es ประเภท & ni tiv mic en รวม Fe q ity & ta el ue Soc ti ial o Imp n act โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักศึกษา) 25 20 25 20 10 100 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักศึกษา) 25 15 25 25 10 100 โปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการ (นักศึกษา) 20 20 20 30 10 100 โปรแกรมเพื่องานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ 20 25 25 20 10 100 และเทคโนโลยี (นักศึกษา) โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งานสาหรับลินุกซ์ 20 25 20 25 10 100 (นักศึกษา) โปรแกรมเพื่อความบันเทิง (นักเรียน) 25 20 25 20 10 100 โปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (นักเรียน) 25 15 25 25 10 100 โปรแกรมเพื่อการประยุกต์ใช้งาน (นักเรียน) 20 20 25 25 10 100 Environment App Contest 15 25 25 25 10 100 Mobile Application 20 20 25 25 10 100 สื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออน์ไลน์ 25 15 25 25 10 100
  • 28. 8.3.3 หลักเกณฑ์ในการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ สาหรับโครงการที่จะได้รับรางวัลต่างๆ ของการแข่งขันในแต่ละประเภทนั้น ควรจะสอดคล้องกับ เกณฑ์ต่างๆ ในเบื้องต้น ดังต่อไปนี้ รางวัลที่ 1 ต้องได้รับคะแนนสูงสุด และได้รับคะแนนเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 80 คะแนน 1 รางวัล รางวัลอื่นๆ จะทาการพิจารณาจากคะแนนที่ได้ตามลาดับ โดยสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ รางวัลที่ 2 ต้องได้รับคะแนนเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 75 คะแนน 1 รางวัล รางวัลที่ 3 ต้องได้รับคะแนนเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 70 คะแนน 1 รางวัล รางวัลชมเชย 2 รางวัล หมายเหตุ: 1. ในกรณีที่โครงการที่ได้รับคะแนนสูงสุด มีคะแนนเฉลี่ยน้อยกว่า 80 คะแนน จะถือว่า ไม่มีรางวัลที่ 1 สาหรับโครงการในประเภทนั้นๆ 2. ในการตัดสิน กรณีที่มีปัญหา จะถือคาตัดสินของคณะกรรมการเป็นการชี้ขาด 9. คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ  เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่กาลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ในภาครัฐ และเอกชนโดยไม่ จากัดชั้นปี  มีอาจารย์และหัวหน้าสถาบันการศึกษาให้การรับรองว่าเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่กาลังศึกษาอยู่ ในสถาบันนั้นๆ จริง  มีความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆ ในลักษณะที่มี ความคิดริเริ่มเป็นของตนเอง  สาหรับประเภทสื่อบทเรียนสาหรับระบบการเรียนรู้ออนไลน์ ผู้เข้าร่วมประกวดต้องเป็นครูหรือ อาจารย์ในสถาบันการศึกษาและหัวหน้าสถาบันการศึกษาให้การรับรอง
  • 29. 10. เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ  ผู้เสนอโครงการมีสิทธิ์เสนอเพียงคนละ 1 โครงการ และส่งได้ 1 ประเภท โครงการหนึ่งมีทีมพัฒนาได้ ไม่เกิน 3 คน โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาลงนามรับรอง  ระยะเวลาในการดาเนินโครงการประมาณ 4 เดือน ผู้เสนอโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากเนคเทค ต้องส่งผลงานตามเวลาที่ระบุ  ทุกโครงการต้องดาเนินการจัดทาข้อตกลงการรับทุนให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด (ประมาณ เดือนพฤศจิกายน)  ทรัพย์สินทางปัญญาของผลงานที่เกิดขึ้นเป็นของผู้พัฒนา ทั้งนี้ เนคเทคสามารถนาผลงานไปเผยแพร่ ต่อสาธารณชน หรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อการศึกษา วิจัย ติชม วิจารณ์ หรือแนะนาผลงานได้  ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการ ผู้พัฒนาจะต้องระบุข้อความ หรือแจ้งให้สาธารณชนทราบว่า ได้รับทุนสนับสนุนจากเนคเทค  หากผู้รับทุนไม่สามารถพัฒนาผลงานได้ตามที่เสนอ จะต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอ ยกเลิกและส่งคืนเงินทุนให้แก่เนคเทค  ผลงานที่ผ่านการตรวจรับจะได้รับคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กาหนด โดย จะคัดเลือกผลงานที่ยอดเยี่ยมเข้า สู่การแข่งขันรอบสุดท้าย เพื่อชิงชนะเลิศและรับเงินรางวัลแต่ละประเภท โดยมีคณะกรรมการ ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตัดสิน  ผู้พัฒนาต้องติดตามข้อมูลข่าวสารที่ทางเนคเทค หรือ ศูนย์ประสานงาน ประกาศเป็นระยะๆ ผ่านทาง เว็บไซต์ อีเมล์ หรือ จดหมาย ตลอดจนให้ความร่วมมือในการแจ้งปรับปรุงข้อมูลของผู้พัฒนา หากมี การเปลี่ยนแปลงจากข้อเสนอโครงการแก่เนคเทค และศูนย์ประสานงาน เป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้ง เพื่อผลประโยชน์ของผู้พัฒนาเอง  การรับเงินทุนสนับสนุน สามารถติดต่อขอรับเงินทุนสนับสนุนทั้ง 2 งวด และเงินสนับสนุนการ ประกวดรอบชิงชนะเลิศได้จากศูนย์ประสานงานโครงการที่สังกัด
  • 30.  การรับเงินรางวัลในรอบชิงชนะเลิศ สามารถติดต่อขอรับเงินรางวัลได้ที่ เนคเทค เท่านั้น 11. การส่งข้อเสนอโครงการ 11.1 ผู้ส่งข้อเสนอโครงการ ต้องลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ “GENA” (Genius-Aided System for NSC) เพื่อรับรหัสโครงการ และอัพโหลดข้อเสนอโครงการที่ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ http://www.nscthailand.net 11.2 ส่งข้อเสนอโครงการจานวน 1 ชุด โดยต้องระบุรหัสโครงการ พร้อมลายเซ็นและสาเนาบัตร ประจาตัวครบถ้วน ได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการในภูมิภาคที่สังกัดด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ ภายในระยะเวลาที่ทางโครงการ NSC กาหนด (ประมาณเดือนสิงหาคม) รายละเอียดการเขียนข้อเสนอโครงการ 1. ปก ตามตัวอย่าง ซึ่งระบุรายละเอียดต่างๆ ภายใน 1 หน้ากระดาษเท่านั้น ดังนี้  ชื่อโครงการ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ  ทีมพัฒนาโครงการ ระบุหัวหน้าโครงการ และผู้ร่วมพัฒนา  อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ และข้อความรับรองจากอาจารย์  หัวหน้าสถาบัน (อธิการบดี/คณบดี/หัวหน้าภาควิชา/ผู้อานวยการ/อาจารย์ใหญ่หรือเทียบเท่า/ หัวหน้าหมวด) และข้อความรับรองจากหัวหน้าสถาบัน 2. สาระสาคัญของโครงการ คาสาคัญ (Key Words) 3. หลักการและเหตุผล 4. วัตถุประสงค์ 5. ปัญหาหรือประโยชน์ที่เป็นเหตุผลให้ควรพัฒนาโปรแกรม 6. เป้าหมายและขอบเขตของโครงการ 7. รายละเอียดของการพัฒนา
  • 31. 7.1 เนื้อเรื่องย่อ (Story Board) ภาพประกอบ แบบจาลอง หรือ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่าง โปรแกรม หรือ ผลงานที่สื่อให้เห็นผลงานที่จะพัฒนาขึ้น 7.2 เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ Algorithms ที่ใช้ โครงสร้าง ข้อมูล เป็นต้น โดยผู้พัฒนาต้องให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย 7.3 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ ภาษาที่ใช้เขียน Tools อื่นๆ ที่ใช้ช่วยในการพัฒนา โปรแกรม และอื่นๆ 7.4 รายละเอียดโปรแกรมที่จะพัฒนา (Software Specification) ได้แก่  Input/Output Specification  Functional Specification  โครงสร้างของซอฟต์แวร์ (Design)  อื่นๆ 7.5 ขอบเขตและข้อจากัดของโปรแกรมที่พัฒนา 8. บรรณานุกรม (Bibliography) ระบุแหล่งอ้างอิงอย่างน้อย 3 แห่ง เช่น จากหนังสือ บทความ วารสารทางวิชาการ หรือ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น 9. ประวัติและผลงานวิจัยดีเด่นของผู้พัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 10. สาเนาบัตรประจาตัวของผู้พัฒนาและอาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมลงลายมือชื่อสาเนาถูกต้อง กรณีที่ ผู้พัฒนาไม่มีบัตรประชาชน ให้แนบสาเนาทะเบียนบ้าน หรือ หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา
  • 32. แบบฟอร์มหน้าปกข้อเสนอโครงการ รหัสโครงการ ........... ข้อเสนอโครงการ การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ชื่อโครงการ (ภาษาไทย)............................................................................................................. (ภาษาอังกฤษ)......................................................................................................... ประเภทโปรแกรมที่เสนอ โปรแกรม..................................................……………................................ ทีมพัฒนา หัวหน้าโครงการ 1. ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส./ด.ช./ด.ญ.)...........................................…….............................. วัน/เดือน/ปีเกิด..............ระดับการศึกษา................สถานศึกษา...........………............................... ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน........................................................................……............................… สถานที่ติดต่อ.....................................................................................…............................... โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................ ลงชื่อ......................................………................................... ผู้ร่วมโครงการ 2. ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส./ด.ช./ด.ญ.)...........................................…….............................. วัน/เดือน/ปีเกิด..............ระดับการศึกษา................สถานศึกษา...........………............................... ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน........................................................................……............................… สถานที่ติดต่อ.....................................................................................…............................... โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................ ลงชื่อ......................................………................................... ผู้ร่วมโครงการ 3. ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส./ด.ช./ด.ญ.)...........................................…….............................. วัน/เดือน/ปีเกิด..............ระดับการศึกษา................สถานศึกษา...........………............................... ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน........................................................................……............................… สถานที่ติดต่อ.....................................................................................…............................... โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................ ลงชื่อ......................................………................................... อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส.)..................................................…….......................................…. สังกัด/สถาบัน.....................................................................….............................................. สถานที่ติดต่อ.............................................................….......................................…............. โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................ คารับรอง “โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มของนักพัฒนาโครงการและไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากผู้อื่นผู้ใด ข้าพเจ้าขอ รับรองว่าจะให้คาแนะนาและสนับสนุนให้นักพัฒนาในความดูแลของข้าพเจ้าดาเนินการศึกษา/วิจัย/พัฒนาตามหัวข้อที่เสนอ และจะทาหน้าที่ประเมินผลงานดังกล่าวให้กับโครงการฯ ด้วย” ลงชื่อ......................................………................................... หัวหน้าสถาบัน (อธิการบดี/คณบดี/หัวหน้าภาควิชา/ผู้อานวยการ/อาจารย์ใหญ่/หัวหน้าหมวด) ชื่อ-นามสกุล(นาย/นาง/น.ส.)............................….ตาแหน่ง..........................…...............…........
  • 33. สถาบัน.....................................................................….....................…………........................ สถานที่ติดต่อ.............................................................….......................................…............. โทรศัพท์.....................มือถือ...................โทรสาร............…..........E-mail................................ คารับรอง “ข้าพเจ้าขอรับรองว่าผู้พัฒนามีสิทธิ์ขอรับทุนสนับสนุนตามเงื่อนไขที่โครงการฯกาหนดและอนุญาตให้ ดาเนินการศึกษา/วิจัย/พัฒนาตามหัวข้อที่ได้เสนอมานี้ในสถาบันได้ภายใต้การบังคับบัญชาของข้าพเจ้า” ลงชื่อ......................................………...................................
  • 34. 12. ขั้นตอนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 1. ลงทะเบียนในระบบออนไลน์ GENA โดยเลือก “ลงทะเบียนใหม่” เพื่อกรอกข้อมูลการสมัครเข้า แข่งขันที่ http://www.nectec.or.th/nsc/ หรือ http://www.nscthailand.net โดยต้องกรอกข้อมูล Email address ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่มีอยู่จริง เพื่อให้ระบบส่งข้อมูลเพื่อยืนยันการลงทะเบียน 2. ระบบจะส่งอีเมล์ไปยังหัวหน้าโครงการ เพื่อแจ้งให้หัวหน้าโครงการยืนยันการลงทะเบียน ทั้งนี้ หาก ไม่ยืนยันการลงทะเบียน (Confirmation) ถือว่าการลงทะเบียนยังไม่เสร็จสิ้น และข้อมูลในการลงทะเบียนนั้น จะถูกลบทิ้งภายใน 48 ชั่วโมง 3. หลังจากยืนยันการลงทะเบียนแล้ว จะได้รับ 1) รหัสโครงการ และ 2) รหัสผ่านเพื่อใช้เข้าระบบ ออนไลน์ GENA 4. เข้าสู่ระบบโดยใช้ รหัสโครงการ และรหัสผ่านที่ได้รับ เพื่ออัพโหลดข้อเสนอโครงการทั้ง 2 รูปแบบ คือ ไฟล์ PDF และ ไฟล์ plain text (text file) ตามขั้นตอนในระบบ 5. พิมพ์แบบฟอร์มหน้าปกข้อเสนอโครงการจากในระบบ และลงนามให้ครบถ้วน เพื่อประกอบเป็น หน้าปกข้อเสนอโครงการ โดยจัดหน้ากระดาษในการพิมพ์ภายใน 1 หน้ากระดาษ A4 6. แนบสาเนาบัตรประจาตัวประชาชนพร้อมลงนามให้ครบถ้วน ภายในเล่มข้อเสนอโครงการ 7. ส่งข้อเสนอโครงการ (ต้นฉบับ) จานวน 1 ชุด ทางไปรษณีย์ หรือส่งด้วยตนเองไปยังศูนย์ ประสานงานภูมิภาคที่ท่านสังกัด 8. เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ หมายเหตุ 1. ควรเตรียมข้อมูลส่วนตัว สาเนาบัตร ที่อยู่ อีเมล์ ของทีมผู้พัฒนาและอาจารย์ที่ปรึกษา และ ผู้บริหารสถาบันการศึกษา หรือตัวแทน ให้พร้อมก่อนทาการลงทะเบียน 2. การอัพโหลดข้อเสนอโครงการ ต้องทาการอัพโหลด 2 รูปแบบ คือ ไฟล์ PDF (ใช้การแปลงไฟล์จาก โปรแกรม ห้ามใช้วิธีการสแกน) และ ไฟล์ plain text (text file) 3. โปรดระวังการอัพโหลดซ้า เพราะระบบจะบันทึกข้อมูลเฉพาะไฟล์ล่าสุดเท่านั้น
  • 36. 13. การส่งผลงานและรายงานฉบับสมบูรณ์ ผู้รับทุนสนับสนุนในโครงการ NSC ต้องดาเนินโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้แล้วเสร็จในระยะเวลาที่ กาหนด (ประมาณ 4 เดือน ระหว่างเดือนกันยายน – ธันวาคม) นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติ และต้องส่งผลงาน ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ได้ที่ ศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการในภูมิภาคที่สังกัด (ประมาณเดือน มกราคม) โดยมีรายละเอียดดังนี้ 13.1 รายงานฉบับสมบูรณ์ จานวน 1 ชุด ประกอบด้วยเนื้อหาดังนี้  การเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ คู่มือการติดตั้ง และคู่มือการใช้งาน ให้ใช้โปรแกรม OpenOffice Writer หรือ Microsoft Word ภาษาไทย 97 (เป็นอย่างต่า) โดยใช้ฟอนต์แห่งชาติ TH SarabunPSK (สามารถดาวน์โหลดได้จาก http://www.sipa.or.th/index.php?option=com_content&task=view&id=20&Itemid=78) ตัวอักษรขนาด 16 กาหนดขอบด้านซ้าย ด้านขวา บน และล่าง 1 นิ้ว พร้อมระบุเลขหน้า พิมพ์บน กระดาษขาว ขนาดมาตรฐาน A4 เข้าเล่มรายงานให้เรียบร้อยพร้อมปกหน้าและปกหลัง  หน้าปก (Cover) ตามแบบที่กาหนด (รูปแบบตามตัวอย่าง)  กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) ระบุข้อความการได้รับทุนอุดหนุนโครงการการแข่งขัน พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ พร้อมระบุชื่อโครงการที่ ได้รับทุนไว้ด้วย  เนื้อหาของรายงาน ประกอบด้วย 1. บทคัดย่อ (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) คาสาคัญ (Key Words) 2. บทนา (แนวคิด ความสาคัญ และความเป็นมาของโครงการ) 3. สารบัญ 4. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย 5. รายละเอียดของการพัฒนา
  • 37. 5.1 เนื้อเรื่องย่อ (Story Board) ภาพประกอบ แบบจาลอง หรือ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างโปรแกรม หรือ ผลงานที่สื่อให้เห็นผลงานที่พัฒนาขึ้น 5.2 ทฤษฎีหลักการและเทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ Algorithms ที่ใช้ โครงสร้างข้อมูล เป็นต้น โดยผู้พัฒนาต้องให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 5.3 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ ภาษาที่ใช้เขียน Tools อื่นๆ ที่ใช้ช่วยในการ พัฒนาโปรแกรม และอื่นๆ 5.4 รายละเอียดโปรแกรมที่ได้พัฒนาในเชิงเทคนิค (Software Specification) ได้แก่  Input/Output Specification  Functional Specification  โครงสร้างของซอฟต์แวร์ (Design)  อื่นๆ  ผู้พัฒนาต้องชี้แจงส่วนสาคัญที่ทีมงาน/ผู้พัฒนาได้พัฒนาขึ้นเอง รวมทั้งต้อง ระบุแหล่งที่มาของโปรแกรม หรือ Source Code อื่นที่มาประกอบใน โปรแกรมไว้ด้วย โดยมิต้องจัดพิมพ์ Source Code แนบมา 5.5 ขอบเขตและข้อจากัดของโปรแกรมที่พัฒนา 5.6 คุณลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้กับโปรแกรม (ถ้ามี) 6. กลุ่มผู้ใช้โปรแกรม 7. ผลของการทดสอบโปรแกรม 8. ปัญหาและอุปสรรค 9. แนวทางในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ร่วมกับงานอื่นๆ ในขั้นต่อไป 10. ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ 11. เอกสารอ้างอิง (Reference)
  • 38. 12. สถานที่ติดต่อของผู้พัฒนาและอาจารย์ที่ปรึกษา โทรศัพท์ มือถือ โทรสาร E-mail 13. ภาคผนวก (Appendix)  คู่มือการติดตั้งอย่างละเอียด  คู่มือการใช้งานอย่างละเอียด 13.2 CD-ROM จานวน 1 ชุด พร้อมกล่องใส่ CD บรรจุข้อมูลและจัดหมวดหมู่ (Directory) เป็น 4 หมวด ดังนี้  Source Code : ซอร์สโค้ด  Setup Program : ชุดโปรแกรมสาหรับติดตั้งที่สมบูรณ์และใช้งานได้  Tools : ระบุ Software Libraries และ/หรือ Tools อื่นๆ ที่นามาใช้เป็นส่วนประกอบ สาคัญในการพัฒนาและติดตั้ง  Document : ไฟล์เอกสารรายงาน จัดทาใน 2 รูปแบบ คือ 1. Pdf และ 2. OpenOffice Writer หรือ Word ประกอบด้วย - ไฟล์ข้อเสนอโครงการ - ไฟล์รายงานฉบับสมบูรณ์ - ไฟล์คู่มือการติดตั้ง - ไฟล์คู่มือการใช้งาน - ข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (Disclaimer) - รูปภาพแสดงตัวอย่างโปรแกรม (Screen captured) ขนาด 640x480 พิกเซล - ไฟล์โปสเตอร์ หรือ แผ่นพับ สาหรับการเผยแพร่ (ถ้ามี)
  • 39. หน้าปกรายงานฉบับสมบูรณ์ รหัสโครงการ............... (ชื่อโครงการ) (ประเภทโครงการ) รายงานฉบับสมบูรณ์ เสนอต่อ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับทุนอุดหนุนโครงการวิจัย พัฒนาและวิศวกรรม โครงการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 ประจาปีงบประมาณ 2555 โดย (ชื่อผู้พัฒนา ..............................................) (ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ..............................................)
  • 41. 14. ข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (Disclaimer) ในการส่งผลงานตามข้อกาหนดของการรับทุนสนับสนุนภายใต้โครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรม คอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 สาหรับประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษานั้น เนคเทคกาหนดให้ทุก โครงการที่ส่งผลงานจะต้องปรากฏข้อความข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ (ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ) ใน ผลงานดังกล่าว ซึ่งผู้พัฒนาสามารถจะใส่ไว้ที่ Readme.txt หน้าแรกของการติดตั้งหน้าแรกของการเรียก โปรแกรมขึ้นใช้งานหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของโปรแกรม ได้แก่ help เมนู เป็นต้นด้วย ข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์นี้เป็นผลงานที่พัฒนาขึ้นโดย ....(ชื่อผู้พัฒนา).... จาก ....(ชื่อสถาบัน).... ภายใต้การดูแลของ ....(ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา).... ภายใต้โครงการ ....(ชื่อโครงการ).... ซึ่งสนับสนุนโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนและนักศึกษาได้เรียนรู้และฝึกทักษะในการ พัฒนาซอฟต์แวร์ ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์นี้จึงเป็นของผู้พัฒนา ซึ่งผู้พัฒนาได้อนุญาตให้ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เผยแพร่ซอฟต์แวร์นี้ตาม “ต้นฉบับ” โดยไม่มีการแก้ไขดัดแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ให้แก่บุคคลทั่วไปได้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลหรือประโยชน์ทางการศึกษาที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในเชิง พาณิชย์ โดยไม่คิดค่าตอบแทนการใช้ซอฟต์แวร์ ดังนั้น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ จึงไม่มีหน้าที่ในการดูแล บารุงรักษา จัดการอบรมการใช้งาน หรือพัฒนาประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ รวมทั้งไม่รับรองความถูกต้องหรือประสิทธิภาพการทางานของซอฟต์แวร์ ตลอดจนไม่รับประกันความเสียหาย ต่างๆ อันเกิดจากการใช้ซอฟต์แวร์นี้ทั้งสิ้น License Agreement This software is a work developed by …(Developer’s name)… from …(School’s name)… under the provision of …(Advisor’s name)…. under …(Project’s name)… , which has been supported by the National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC), in order to encourage pupils and students to learn and practice their skills in developing
  • 42. software. Therefore, the intellectual property of this software shall belong to the developer and the developer gives NECTEC a permission to distribute this software as an “as is ” and non-modified software for a temporary and non-exclusive use without remuneration to anyone for his or her own purpose or academic purpose, which are not commercial purposes. In this connection, NECTEC and SIPA shall not be responsible to the user for taking care, maintaining, training or developing the efficiency of this software. Moreover, NECTEC shall not be liable for any error, software efficiency and damages in connection with or arising out of the use of the software.”
  • 43. 15. สถานที่ติดต่อ 15.1 ภาคเหนือ ดร. กานต์ ปทานุคม และ ดร.อัญญา อาภาวัชรุตม์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0-5394-2024, 0-5394-2071 โทรสาร 0-5394-2072 e-mail: karn@eng.cmu.ac.th, anya@eng.cmu.ac.th, northernNSC@gmail.com http://www.cpe.eng.cmu.ac.th/ 15.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผศ.วันชัย สุ่มเล็ก ศูนย์ประสานงานเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (E-Saan Software Park) อาคารพิมล กลกิจ ชั้น 4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40002 โทรศัพท์ 0-4320-2426 โทรสาร 0-4320-2292 e-mail: nsc@esswpark.org, wanchai@kku.ac.th http://www.esswpark.org 15.3 ภาคใต้ ดร.อนันท์ ชกสุริวงค์ และ ผศ.มัลลิกา อุณหวิวรรธน์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90112 โทรศัพท์ 0-7428-7358, 0-7428-7075 โทรสาร 0-7428-7076 e-mail: ant@coe.psu.ac.th, mallika@coe.psu.ac.th http://www.coe.psu.ac.th 15.4 ภาคตะวันออก ผศ.ดร.กฤษณะ ชินสาร, อ.ภูสิต กุลเกษม และ อ.เบญจภรณ์ จันทรกองกุล คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา อ.เมือง จ.ชลบุรี 20131 โทรศัพท์ 0-3874-5900 ต่อ 2045 โทรสาร 0-3839-3240 e-mail: ckrisana@gmail.com, pusitk@gmail.com, benchapornj@yahoo.com http://www.cs.buu.ac.th
  • 44. 15.5 ภาคกลาง รศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง, รศ.ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ และ ผศ.ดร.ชลวิช นัทธี ศูนย์ประสานงานภูมิภาคภาคกลาง (โครงการ NSC) ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์บางกะดี) 131 หมู่ 5 ถ.ติวานนท์ ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12000 โทรศัพท์ 0-2501-3505-20 ต่อ 2015, 2018 โทรสาร 0-2501-3524 e-mail: siitnsc@gmail.com http://www.vcharkarn.com/nsc, http://www.nscthailand.net 15.6 ภาคตะวันตก อ.โอภาส วงษ์ทวีทรัพย์, ดร.ทัศนวรรณ ศูนย์กลาง และ ดร.สุนีย์ พงษ์พินิจภิญโญ ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม 73000 โทรศัพท์ 0-3427-2923 โทรสาร 0-3427-2923 e-mail : oatcomster@gmail.com, anncenter@gmail.com http://www.cp.su.ac.th 15.7 ดาเนินการโดย โครงการ NSC 2013 ฝ่ายบริหารและสนับสนุนงานวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 112 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 โทรศัพท์ 0-2564-6900 ต่อ 2345, 2326-2328 โทรสาร 0-2564-6768 e-mail: fics@nnet.nectec.or.th http://www.nectec.or.th/nsc/ facebook group: “NSC Thailand” http://www.facebook.com/groups/NSCThailand/