ิวิถีชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ กับการนำเสนอ Soft Power ของไทย
2
รายงานถอดความ (Transcript)
วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีน กับข้อเสนอ Soft Power ของไทย
ผู้นำเสนอหลัก
ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล
Ms.Liyue Zhou
คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย
รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์
ดำเนินรำยกำร
คุณยุวดี คาดการณ์ไกล
รำยงำนฉบับนี้ถอดควำมจำกเวทีวิชำกำรไทย-จีน (Thai – China Forum) เรื่อง "วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีน
กับข้อเสนอ Soft Power ของไทย" จัดโดย ศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ และ
สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ เมื่อวันที่ 9 สิงหำคม พ.ศ. 2566 (กำรประชุมออนไลน์)
บรรณาธิการ: ยุวดี คำดกำรณ์ไกล
ผู้ช่วยบรรณาธิการ: ณัฐธิดำ เย็นบำรุง
ผู้ถอดความ: กันตพงศ์ คำดกำรณ์ไกล
อานวยการผลิตโดย: สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ
ปีที่เผยแพร่: กันยำยน พ.ศ. 2566
www.klangpanya.in.th
ที่อยู่
สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
อำคำร The Line Phahon-Pradipat ถนนประดิพัทธิ์ แขวงสำมเสนใน เขตพญำไท กทม. 10400
3
คานา
เมื่อวันที่ 9 สิงหำคม พ.ศ. 2566 เวลำ 09.00-12.00 น. สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ และ
ศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ จัดเวทีวิชำกำรไทย-จีน เรื่อง "วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีน
กับข้อเสนอ Soft Power ของไทย" กำรจัดประชุมใช้รูปแบบเวทีวิชำกำรออนไลน์ผ่ำนแอปพลิเคชัน ZOOM
โดยมีนักคิด นักวิชำกำรมหำวิทยำลัย ครูจำกสถำนศึกษำต่ำงๆ CEO ผู้จัดกำร จำกบริษัทเอกชน ผู้สื่อข่ำวจำก
สำนักข่ำวจีนและไทย
ปัจจุบันประเทศจีนกำลังส่งเสริมกำรสร้ำงประเทศที่เข้มแข็งและฟื้นฟูด้วยควำมทันสมัยในแบบของจีน
อย่ำงกว้ำงขวำงและเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งขณะเดียวกันก็มีนโยบำยส่งเสริมควำมเป็นเมือง กำร
ขยำยตัวของเมืองให้เติบโตอย่ำงรวดเร็ว มีกำรเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับทั้งมิติทำงด้ำนเศรษฐกิจและสังคม
ควำมเป็นเมืองได้ขับเคลื่อนกำรเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีควำมหลำกหลำยที่อยู่ในสภำพแวดล้อมที่
เปลี่ยนแปลงเร็วทุกด้ำน จึงเป็นที่มำของคำถำมที่ท้ำทำยและน่ำชวนติดตำมในกำรที่จะแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น
สำหรับคนไทยและหน่วยงำนของไทยที่จะได้มีโอกำสมีส่วนร่วมในกำรศึกษำวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ เพื่อประโยชน์ใน
ควำมร่วมมือทำงกำรสร้ำงสัมพันธ์และกำรดำเนินงำนนโยบำยที่เกี่ยวข้อง ที่สอดคล้องกับสังคมที่มีกำร
เปลี่ยนแปลงไป
ในกำรนี้ สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ได้จัดทำรำยงำนสรุปและถอดควำมเนื้อหำเวที
วิชำกำรครั้งนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ควำมรู้สู่ผู้กำหนดและตัดสินใจเชิงนโยบำย ภำคส่วนต่ำง ๆ นิสิตนักศึกษำ และ
ประชำชนทั่วไปที่สนใจกำรสินค้ำเกษตรบนควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยและจีน
สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
4
สารบัญ
หน้า
คานา 3
กล่าวเปิด 6
ส่วนที่ 1
วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีนที่เปลี่ยนแปลงไป 8
Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 31
ส่วนที่ 2
ความนิยมไทยในจีนและข้อเสนอพัฒนา Soft Power ไทย 34
Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 47
กล่าวปิด 52
5
6
กล่าวเปิด
ดร.วิภารัตน์ ดีอ๋อง
ผู้อำนวยกำรสำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ
สวัสดีค่ะ ท่ำนวิทยำกรและแขกผู้มีเกียรติทุกท่ำน ในนำมของสำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ หรือ วช. มี
ควำมยินดีเป็นอย่ำงยิ่งที่ได้มีโอกำสมำเป็นประธำนเปิดเวทีกำรประชุมวิชำกำรไทย-จีน ในหัวข้อ “วิถีชีวิตคนจีน
รุ่นใหม่กับ Soft power ของไทย” ในวันนี้ค่ะ ประเทศไทยและประเทศจีนมีประวัติศำสตร์กำรไปมำหำสู่กัน
อย่ำงยำวนำน เป็นเพื่อนบ้ำนที่ดี เป็นหุ้นส่วนที่ดี และในช่วง 10 ปีที่ผ่ำนมำได้มีกำรร่วมสร้ำงแถบและเส้นทำง
ระหว่ำงไทยและจีนอย่ำงประสบควำมสำเร็จในหลำยประเด็น ปัจจุบันประเทศจีนกำลังส่งเสริมกำรสร้ำง
ประเทศที่เข้มแข็งและฟื้นฟูด้วยควำมทันสมัยในแบบของจีนอย่ำงกว้ำงขวำงและเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก
ซึ่งขณะเดียวกันก็มีนโยบำยส่งเสริมควำมเป็นเมือง กำรขยำยตัวของเมืองให้เติบโตอย่ำงรวดเร็ว สังคมจีนได้
เปลี่ยนจำกสังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมเมือง มีกำรเปลี่ยนแปลงทำงเศรษฐกิจที่ล้ำหน้ำและมีควำมรวดเร็ว มี
กำรเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับทั้งมิติทำงด้ำนเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดช่วงที่ผ่ำนมำจะเห็นภำพของกำรเคลื่อนด้ำนแรงงำนในภำคเมืองและภำคชนบทอย่ำงต่อเนื่อง
ซึ่งมีผลต่อกำรพัฒนำเศรษฐกิจของประเทศ ควำมเป็นเมืองได้ขับเคลื่อนกำรเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่
ที่มีควำมหลำกหลำย มีกลุ่มสังคมเมืองที่ก่อตัวขึ้น มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเทียบเคียงกับวิถีแบบเมือง ดังนั้น คนจีน
รุ่นใหม่ที่อยู่ในช่วงหลังปี ค.ศ 1990 หรือหลังปี ค.ศ 2000 อยู่ในสภำพแวดล้อมที่ได้มีกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำน
เศรษฐกิจ สังคม กำรศึกษำ และควำมก้ำวล้ำทำงเทคโนโลยีดังกล่ำว จึงเป็นที่มำของคำถำมที่ท้ำทำยและน่ำ
ชวนติดตำมในกำรที่จะแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นสำหรับคนไทยและหน่วยงำนของไทยที่จะได้มีโอกำสมีส่วนร่วม
7
ในกำรศึกษำ ทำควำมเข้ำใจในกำรดำเนินชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ในเรื่องของค่ำนิยมที่มีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง
และยังเป็นประโยชน์อย่ำงยิ่งในกำรทบทวนในเรื่องของควำมร่วมมือทำงกำรสร้ำงสัมพันธ์และกำรดำเนินงำน
นโยบำยที่เกี่ยวข้อง ที่สอดคล้องกับสังคมที่มีกำรเปลี่ยนแปลงไป
ในฐำนะที่สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ หรือ วช. ได้ให้ควำมสำคัญต่อกำรส่งเสริม สนับสนุนงำนวิจัยและ
นวัตกรรมสู่กำรใช้ประโยชน์ในทุกมิติ โดยเฉพำะในภำพของกำรยกระดับขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของ
ประเทศ ที่ทันต่อสถำนกำรณ์โลก ตลอดจนกำรส่งเสริมกำรสนับสนุนเครือข่ำยทำงวิชำกำรทั้งในและ
ต่ำงประเทศ โดยเฉพำะเวทีวิชำกำรไทย-จีน ที่สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ โดยศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน
ร่วมกับสถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ได้จัดให้มีกิจกรรมเช่นนี้มำอย่ำงต่อเนื่อง รู้สึกเป็นเกียรติอย่ำงยิ่ง
ค่ะ และต้องขอขอบคุณท่ำนวิทยำกรทุกท่ำนนะคะที่ให้เกียรติมำร่วมนำกำรสนทนำในครั้งนี้ ทั้งท่ำน ดร.ร่มฉัตร
จันทรำนุกูล ท่ำนอำจำรย์ประจำคณะศึกษำด้ำนอำเซียน มหำวิทยำลัยกำรศึกษำระหว่ำงประเทศ ปักกิ่ง
คุณ Liyue Zhou ผู้จัดกำรด้ำนกำรสื่อสำรในองค์กรระหว่ำงประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
ที่ปรึกษำกฎหมำยไทย-จีน บริษัทหยิ่งจ้งลอร์ออฟฟิศ คุณนิธินำคิน์ มิ่งรุจิรำลัย ประธำนเจ้ำหน้ำที่ด้ำนธุรกิจของ
บริษัทเทคโนโลยี Beijing Joynco Technology รวมถึงท่ำนรองศำสตรำจำรย์ ดร.วรำรัก เฉลิมพันธุศักดิ์
อำจำรย์ประจำสำขำวิชำรัฐศำสตร์มหำวิทยำลัยสุโขทัยธรรมำธิรำช
กำรประชุมวิชำกำรไทย-จีน ในวันนี้จะเป็นเวทีสำคัญในกำรสร้ำงกำรเรียนรู้ กำรแลกเปลี่ยน
ประสบกำรณ์ระหว่ำงฝ่ำยไทยและฝ่ำยจีน ทั้งในระดับนโยบำย ระดับพื้นที่ ในด้ำนควำมร่วมมือด้ำนเทคโนโลยี
เศรษฐกิจ และสังคม ควำมร่วมมือที่เกี่ยวข้องในประเด็นต่ำงๆ ผ่ำนกำรระดมสมองจำกนักวิจัยจำกผู้เชี่ยวชำญ
และผู้มีประสบกำรณ์ที่อยู่ในทั้งภำครัฐ ภำคเอกชน และภำคประชำสังคม มำร่วมกันให้ข้อเสนอแนะเชิง
นโยบำย เพื่อร่วมกันในกำรสร้ำงโอกำสที่ดี ในควำมร่วมมือทำงวิชำกำรระหว่ำงทั้งสองประเทศ ให้มีควำมแน่น
แฟ้นมำกยิ่งขึ้นและเป็นโอกำสอันดีที่ผู้เข้ำร่วมเวทีวิชำกำรทุกท่ำนจะได้ร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบกำรณ์
สร้ำงกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำองค์ควำมรู้ ที่จะนำไปสู่กำรต่อยอดกำรดำเนินงำนงำนนโยบำยต่ำงๆ และสำย
สัมพันธ์ทำงวิชำกำรไทย-จีน ให้มีควำมใกล้ชิดและเข้มแข็งยิ่งขึ้นค่ะ สุดท้ำยนี้ขอให้เวทีวิชำกำรไทย-จีนในครั้งนี้
ประสบควำมสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ ดังเจตนำรมณ์ที่ตั้งไว้ทุกประกำร ขอบคุณค่ะ
8
ส่วนที่ 1
วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีนที่เปลี่ยนแปลงไป
9
การเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ส่งผลต่อวิธีคิดของคนจีนรุ่นใหม่
โดย
ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล
อาจารย์ประจาคณะ Asian Studies,
Beijing of International Studies University (BISU)
สวัสดีค่ะทุกๆท่ำน ทั้งผู้เชี่ยวชำญและผู้ที่เข้ำมำนั่งฟังในวันนี้นะคะ เนื้อหำหลักที่จะนำเสนอในวันนี้
ประเด็นแรกเลยคือเรื่องของพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับอิทธิพลต่อแนวคิดประชำชน แล้วก็ค่ำนิยมของจีนในช่วง
ยุคต่ำงๆ คือกำรเปลี่ยนผ่ำนของจีน 40 กว่ำปีที่ผ่ำนมำนั้นมีกำรเปลี่ยนแปลงทุก 10 ปีที่ค่อนข้ำงเร็ว
เพรำะฉะนั้น คนในแต่ละรุ่นอำจจะมีค่ำนิยมที่ค่อนข้ำงต่ำงกันเยอะ และประเด็นที่ 3 ที่จะพูดถึงคือกำร
เปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์และแนวคิดของคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่น่ำสนใจและเรำควรจะติดตำมนะคะ เรื่อง
สุดท้ำยคือ Globalization หรือโลกำภิวัตน์ ที่ส่งผลต่อแนวคิดคนรุ่นใหม่กับควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีนใน
ปัจจุบัน ทีนี้เรำมำดูในเรื่องของแนวคิดของพรรคต่ออิทธิพลต่อประชาชน พรรคคอมมิวนิสต์จีนเรำเรียกสั้นๆ
ว่ำ CPC (Communist Party of China) ก่อตั้งในปี 1921 เป็นพรรคกำรเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปัจจุบันมี
สมำชิกอยู่ 98 ล้ำนคนทั่วทั้งประเทศ เพิ่มจำก ค.ศ. 2021 ถึง 1.32 ล้ำนคน ขนำดของพรรค CPC นั้นใหญ่มำก
และมีจำนวนสมำชิกเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ ทุกปี ในระดับมหำวิทยำลัยเอง นักศึกษำก็สำมำรถเข้ำเป็นสมำชิกพรรค
ได้ แต่ว่ำจะมีกระบวนกำรคัดสรรที่ค่อนข้ำงเข้มงวด และส่วนใหญ่นักศึกษำมหำวิทยำลัยที่อยำกเข้ำไปเป็น
สมำชิกพรรคเพรำะเขำมีเป้ำหมำยในอนำคตว่ำอยำกจะเข้ำเป็นข้ำรำชกำรหรือทำงำนรัฐวิสำหกิจ
10
ดังนั้น กำรเป็นสมำชิกพรรคจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมำกในกำรเติบโตในด้ำนหน้ำที่กำรงำนของคนจีนที่เข้ำ
ไปอยู่ในหน่วยงำนรัฐบำล โดยผู้ที่เป็นสมำชิกพรรคต้องจ่ำยค่ำสมำชิกพรรครำยเดือน แต่ละหน่วยงำนจะจ่ำยไม่
เท่ำกันนะคะ แล้วก็จะต้องทำงำนที่เป็นภำรกิจหน้ำที่ของพรรคด้วยนอกเหนือจำกงำนประจำที่ตัวเองรับผิดชอบ
อยู่ในหน่วยงำน เช่น ต้องมีงำนทำประโยชน์ให้สังคม หรือว่ำในหน่วยงำนเรำก็ต้องอยู่ในแถวหน้ำ คือกำร
ช่วยเหลือคน ซึ่งคนที่เป็นสมำชิกพรรคต้องมีแนวคิดในด้ำนนั้นที่ค่อนข้ำงดี มีกำรปลูกฝังเรื่องของกำรช่วยเหลือ
สังคมค่อนข้ำงมำก แล้วก็กำรควบคุมของพรรคคือเหนือรัฐบำล เหนือสื่อ และสถำปนำต่ำงๆของสังคม อันนี้
เป็นสิ่งที่เรำรู้กันอยู่แล้ว กำรถูกกำหนดนโยบำยและตัดสินใจโดยพรรค โดยทั้งหมดนั้นจึงไม่แปลกเลยที่พรรค
คอมมิวนิสต์จะมีอิทธิพลและผลกระทบต่อชีวิตประชำชนจีนเป็นอย่ำงมำก
เรำมำดูในเรื่องของประเด็นต่ำงๆ กับพรรคกับอิทธิพลต่อแนวคิดประชำชนจีน เริ่มแรกคือการศึกษา
และอุดมการณ์ กำรศึกษำและอุดมกำรณ์คือสิ่งพื้นฐำนในสังคมจีน และเป็นสิ่งที่รัฐบำลจีนมีปลูกฝังให้กับเด็กๆ
และเยำวชนตั้งแต่เล็ก อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เรื่องที่ 2 คือ สื่อและการชวนเชื่อ หรือกำรโฆษณำ (advertising)
หรืออำจจะบอกว่ำสื่อทุกอย่ำงถูกควบคุมโดยรัฐบำล เรำจะพูดอย่ำงนั้นก็ได้ คืออย่ำงเช่นว่ำสื่อ CCTV หรือจะ
เป็นในเรื่องของ Platform Online ต่ำงๆก็ถูกควบคุมเหมือนกันนะคะ เรื่องที่ 3 ที่สำคัญเลยก็คือเรื่องของ
สันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ โดยองค์กรนี้เป็นองค์กรที่ให้เยำวชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในเรื่องของกำรทำกิจกรรม
ของพรรคในกำรช่วยเหลือสังคมหรือว่ำกำรทำอะไรต่ำงๆที่พรรคสนับสนุน หลังจำกนั้นก็เป็นเรื่องของกำร
ควบคุมอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มดิจิทัล อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ประชำชนจีนรู้กันอยู่ อย่ำงเช่นข่ำวออนไลน์หรือ
อะไรต่ำงๆ ก็จะมีกำรคัดกรองทุกอย่ำงทั้งคอมเมนต์หรืออะไรต่ำงๆ แล้วก็สุดท้ำยก็คือควำมเป็นชำตินิยมและ
ควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นจีน ส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่รัฐบำลจีนพยำยำมที่จะปลูกฝังให้กับคนจีนตั้งแต่ยุคสมัยก่อน
จนถึงปัจจุบัน ให้มีควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นคนจีน และมองว่ำจีนคือจงกั๋ว จงคือกลำง แบบเป็นประเทศ
กลำงของโลก เป็นประเทศที่มีควำมยิ่งใหญ่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เรำมำดูในเรื่องของพรรคกับจีนรุ่นใหม่นะคะ อันนี้เป็นสิ่งที่น่ำสนใจเพรำะว่ำช่องว่ำงระหว่ำงวัยและ
ค่ำนิยมที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่พรรคยังมีอิทธิพลอยู่ ทำให้คนรุ่นใหม่มีแนวคิดที่เปลี่ยนไป โดยมีข้อบ่งชี้ว่ำ
ค่านิยมและลาดับความสาคัญของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป คนหนุ่มสำวจีนในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจำกทั่วโลก คือ
ไม่ใช่แค่ในจีนเท่ำนั้นและบำงคนอำจจะมีมุมมองแบบเสรีนิยมด้วยซ้ำ หรือมีควำมเป็นปัจเจกนิยมที่แตกต่ำงจำก
คนในอดีต มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ดังนั้นพรรคจึงต้องมีกำรสื่อสำรกับคนกลุ่มนี้ด้วย แต่ปัจจุบันพรรคก็ยังใช้
อิทธิพลสำคัญเหนือคนรุ่นใหม่ผ่ำนกำรศึกษำอยู่ อย่ำงที่บอกไป เช่นในเรื่องของสื่อองค์กรเยำวชนหรือว่ำโอกำส
ทำงเศรษฐกิจต่ำงๆ พรรคจะเป็นตัวชี้นำและมีอิทธิพลอยู่ในบริบททำงสังคม และมีพลวัตและกำรพัฒนำ แต่คน
รุ่นใหม่ก็ยังได้รับอิทธิพลจำกกระแสโลกด้วย ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีและค่ำนิยมที่เปลี่ยนแปลงไป ตรงนี้ก็
11
เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับคนรุ่นใหม่ เรื่องควำมแตกต่ำงทำงทัศนคติ ควำมเชื่อ ค่ำนิยม และพฤติกรรมระหว่ำง
กลุ่มอำยุต่ำงๆ ในจีนค่อนข้ำงชัดเจน
อย่ำงที่บอกไปว่ำจีนมีกำรพัฒนำทำงเศรษฐกิจรวดเร็วและมีกำรพัฒนำทำงสังคมที่รวดเร็วด้วย กำร
เปิดรับอิทธิพลจำกทั่วโลกเพิ่มขึ้น ทำให้กำรแบ่งรุ่นของคนจีนมีต่ำงกันไป และมีช่องว่ำงระหว่ำงวัยเกิดขึ้น
ชัดเจน ซึ่งคนจีนรุ่นใหม่ที่เรำเห็นนั้นจะมีควำมเป็นโลกำภิวัตน์ (Globalization) มำกขึ้น มีควำมคิดสร้ำงสรรค์
(Creativity) มีควำมเป็นปัจเจกบุคคลมำกขึ้น แล้วเรำมำดูในยุคของช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1940-1950
ผู้คนในยุคนั้นก็ต้องบอกว่ำอยู่ในช่วงของสถำนกำรณ์ในประเทศยังไม่มั่นคงเท่ำที่ควร มีกำรปฏิวัติวัฒนธรรม 10
ปี และได้รับประสบกำรณ์ในกำรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้ำนกำรเมืองและสังคม แต่คนกลุ่มนี้มีจุดเด่นเรื่องของ
อุดมกำรณ์ที่เข้ำใจอย่ำงลึกซึ้งและมีควำมเชื่อมั่นและศรัทธำต่อพรรคอย่ำงมำก อีกทั้งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ขยัน
ขันแข็งและแข็งแกร่ง เนื่องจำกต้องช่วยเหลือตัวเองและสังคมที่กำลังก่อร่ำงสร้ำงตัว ช่วงนี้ก็เห็นได้จำกที่คน
กลุ่มนี้ในปัจจุบันมักจะเกษียณอำยุแล้ว อำยุ 70-80 กันแล้วแต่ว่ำยังมีควำมเป็นนักสู้ เห็นเลือดนักสู้จำกในสมัย
อดีตแล้วก็มีควำมเชื่อมั่นและศรัทธำต่อพรรคและต่อประเทศค่ะ รุ่นต่อมำคือรุ่นปีค.ศ. 1960-1970 เป็นรุ่นหลัง
ปฏิวัติวัฒนธรรม เป็นรุ่นที่เริ่มเปิดรับกระแสระหว่ำงประเทศแล้ว และมีกำรเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจเหมือนกัน
คนรุ่นนี้จะมีกำรผสมผสำนระหว่ำงค่ำนิยมดั้งเดิมและควำมตระหนักที่เพิ่มขึ้นจำกอิทธิพลของโลกที่กำลัง
เปลี่ยนไป
กลุ่มต่อไปคือรุ่นที่เกิดในช่วงนโยบำยลูกคนเดียวช่วงปี 1980-1990 ที่จีนจะเรียกว่ำ ปำหลิงโฮ่ว
จิ่วหลิงโฮ่ว คือคนรุ่นนี้เติบโตมำในนโยบำยลูกคนเดียว ซึ่งมีผลถึงปีค.ศ. 2015 ซึ่งในปัจจุบันจีนให้มีลูกหลำยคน
ได้แล้ว คนรุ่นนี้เติบโตมำกับเศรษฐกิจที่ขยำยตัวอย่ำงรวดเร็วและมีกำรเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีที่มำกขึ้นด้วย คน
รุ่นนี้จะมีควำมหลำกหลำยที่มำกขึ้นเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน แล้วก็มีโอกำสทำงกำรศึกษำและกำรพัฒนำทำง
อำชีพมำกขึ้น อีกทั้งคนกลุ่มนี้เองก็เป็นกลุ่มคนที่เดินทำงไปเรียนต่อต่ำงประเทศเป็นจำนวนมำก เช่นไปเรียนต่อ
ที่อเมริกำ อังกฤษ ออสเตรเลียหรือประเทศต่ำงๆทั่วโลก แล้วเรำมำดูคนรุ่นหลังหรือก็คือคนที่มีควำมเชี่ยวชำญ
ด้ำนอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี คือกลุ่มที่เกิดปีค.ศ. 2000-2010 คนยุคนี้จะมีลักษณะเด่น คือเกิดมำในยุคที่
เข้ำถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว มีควำมก้ำวหน้ำด้ำนเทคโนโลยี คนกลุ่มนี้เองจึงเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะมีมุมมอง
ระดับโลกมำกยิ่งขึ้นและได้รับอิทธิพลจำกสื่อสังคมออนไลน์ที่มำกขึ้นด้วย มีวัฒนธรรมสมัยนิยมตำมเทรนมำก
ขึ้น รับกระแสจำกต่ำงประเทศมำกขึ้น มีควำมหลำกหลำยมำกขึ้น เพรำะฉะนั้นคนรุ่นปัจจุบันและอนำคตก็ยัง
ถูกหล่อหลอมด้วยกำรพัฒนำเศรษฐกิจอย่ำงต่อเนื่อง ด้วยวัฒนธรรม เทคโนโลยี และบรรทัดฐำนทำงสังคมที่
เปลี่ยนไปตำมยุคสมัย โดยคนรุ่นปัจจุบันและอนำคตจะให้ควำมสำคัญกับกำรเป็นปัจเจกนิยม กำรแสดงออก
ส่วนบุคคลที่มำกยิ่งขึ้น และมีกำรบริโภคนิยมมำกกว่ำเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน อีกทั้งยังตระหนักได้ถึงปัญหำ
สิ่งแวดล้อมและควำมกังวลเกี่ยวกับปัญหำสังคมมำกขึ้น ช่องว่ำงระหว่ำงวัยในจีนไม่เหมือนกันนะคะ อย่ำงที่
12
บอกไปมันจะขึ้นอยู่กับทำงด้ำนที่อยู่อำศัย ที่ตั้งทำงภูมิศำสตร์ หรือว่ำภูมิหลังทำงเศรษฐกิจและสังคม กำรศึกษำ
ที่เปลี่ยนไป เพรำะฉะนั้นค่ำนิยมต่ำงๆ จะมีปฏิสัมพันธ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนำคต ซึ่งจะเปลี่ยน
พฤติกรรมของคนรุ่นต่ำงๆในจีน
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่ำสนใจ ก็คือในเรื่องของกำรเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์และแนวคิดของคนรุ่นใหม่
โดยเฉพำะกลุ่มที่เกิดหลังปีค.ศ. 1985 หรือก็คือปำหลูโฮ่ว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อค่ำนิยมของสังคมจีนมำกใน
ปัจจุบัน โดยเฉพำะด้ำนวิถีชีวิตและแนวคิดต่ำงๆ จะแตกต่ำงจำกสมัยคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ปู่ย่ำตำยำยอย่ำงสิ้นเชิง
เลย ดำวเองว่ำมีเพื่อนหลำยคนที่อยู่ในรุ่นนี้และดำวเองก็อยู่ในรุ่นนี้ รุ่นหลังปี 1985 เหมือนกัน แล้วก็ค่ำนิยม
ของจีนรุ่นใหม่มักจะนำควำมแปลกใจมำให้กับสังคมจีนอย่ำงสม่ำเสมอ เพรำะถ้ำหำกว่ำเรำติดตำมเรื่องของ
ค่ำนิยมสังคมจีนที่เปลี่ยนไป เช่นมีคำกล่ำวว่ำ tang píng (躺平) หรือนอนรำบ ซึ่งเกิดจำกสังคมที่แข่งขันกัน
เยอะจนทุกคนไม่อยำกจะแข่งแล้ว เรำมำนอนรำบกันดีกว่ำ ไม่ต้องไปแข่งกับใครแล้วนอนรำบได้เลย ใช้ชีวิต
สบำยๆ อีกอันนึงก็คือกำร Fan xiàng xiaofèi (反向消费) อันนี้เป็นคำใหม่เลย มันคือกำรบริโภคสวนกระแส
ตรงนี้มันคือแบบในขณะที่รัฐบำลอยำกจะกระตุ้นให้คนใช้เงินแต่มันก็จะมีกระแสก็คือกำรบริโภคสวนกระแสคือ
ใช้เงินอย่ำงประหยัด และใช้เงินอย่ำงระมัดระวังมำกขึ้น แล้วก็พวก Bù hun zú, dingkè (不婚族, 丁克) คือ
กลุ่มที่ไม่แต่งงำนหรือไม่อยำกมีลูก อันนี้ก็เป็นคำที่คนรุ่นนี้คิดขึ้นมำ เพรำะพวกเขำมีควำมคิดเห็นว่ำเขำไม่
จำเป็นต้องแต่งงำน ไม่จำเป็นต้องมีลูก หรือถ้ำเรำแต่งงำน เรำไม่มีลูกก็ได้ เรำก็อยู่ได้อย่ำงสบำยใจ ไม่มีภำระ
มำกมำย เพื่อนที่อยู่รอบตัวที่เป็นคนปักกิ่งก็มีหลำยกลุ่ม หลำยคนที่เป็นแบบนี้ หรือแต่งงำนแล้วแต่ไม่มีลูกก็
เยอะพอสมควร
ต่อมำเป็นคำที่ดังมำกในอินเทอร์เน็ตจีนคือ Shìjiè nàme dà wo xiang qù kàn kàn (世界那么大
我 想去看看) เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ขอลำออกจำกงำน แล้วเขำเขียนนจดหมำยลำออกบอกเจ้ำนำยว่ำตัวเขำ
อยำกออกไปเพื่อดูโลกที่ยิ่งใหญ่ เหมือนอยำกลำออกไปเพื่อไปหำโลกที่กว้ำงใหญ่ อันนี้มันก็กลำยเป็นกระแส
สังคมจีนกลำยเป็นไวรัล (Viral) ขึ้นมำว่ำเรำควรมีกำรรักษำสมดุลระหว่ำงกำรทำงำนและกำรใช้ชีวิตไปด้วยกัน
ต่อมำก็คือ Jí jian shenghuó (极简生活) เป็นภำษำไทยคือกำรชีวิตแบบเรียบง่ำย (minimal) ประหยัด ทิ้ง
สิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจำกชีวิต แล้วก็มีโบรกเกอร์จีนบำงคนที่ออกมำถ่ำยชีวิตตัวเองที่เปลี่ยนจำกชีวิตในเมือง
มำเป็นชีวิตแบบ minimal แล้วมีควำมสุข สบำยขึ้นในชีวิต อันนี้ก็เป็นแนวคิดที่เปลี่ยนไปของคนในสังคมจีนค่ะ
เรื่องของโลกำภิวัฒน์ส่งผลต่อแนวคิดคนรุ่นใหม่อย่ำงไรและควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีน เรำจะเห็นว่ำ
โลกำภิวัฒน์จำกจีนก็คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีมำกขึ้น และวัฒนธรรมในกระแสต่ำงๆมีอิทธิพลต่อรสนิยม
ควำมชอบ และค่ำนิยมของคนรุ่นใหม่มำกขึ้น ทำให้จะเน้นไปที่ตัวตนและทำงเลือกส่วนตัวมำกขึ้น โลกำภิวัฒน์
กับจีน ทำให้คนจีนรุ่นใหม่มีทักษะทำงภำษำและกำรสื่อสำรระหว่ำงประเทศที่ดี ทำให้ชำวจีนยุคใหม่สื่อสำรและ
13
ทำงำนต่ำงประเทศมำกขึ้น มีควำมเป็นโลกำภิวัฒน์มำกขึ้น คนหนุ่มสำวจึงจำนวนมำก มีแรงจูงใจในกำรสร้ำงสิ่ง
ใหม่ๆและอยำกจะเริ่มต้นเป็น startup ทำธุรกิจของตัวเองมำกขึ้นโดยใช้ประโยชน์จำกเครือข่ำยและเทคโนโลยี
ระดับโลก
โลกำภิวัฒน์กับควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีน เช่น ควำมท้ำทำยต่อกำรควบคุมด้ำนอุดมกำรณ์ของคนใน
ชำติ เนื่องจำกโลกำภิวัฒน์ทำให้รัฐบำลจีนควบคุมข้อมูลและกำรแสดงออกได้ยำกยิ่งขึ้น เพรำะว่ำมันมีโซเชียล
มีเดียทำให้ข้อมูลต่ำงๆ แพร่กระจำยได้อย่ำงรรวดเร็ว ค่ำนิยมดั้งเดิมและเอกลักษณ์ทำงวัฒนธรรมอำจจะเจือ
จำงลง รัฐบำลอำจจะเผชิญกับควำมท้ำทำยในกำรพยำยำมส่งเสริมควำมภำคภูมิใจในชำติและควำมสำมัคคีเมื่อ
เผชิญกับอิทธิพลภำยนอก และควำมเหลื่อมล้ำทำงเศรษฐกิจและควำมคำดหวังของคนรุ่นใหม่ที่มำพร้อมกับ
โลกำภิวัฒน์ หรือก็คือรัฐบำลจีนจะเจอกับแรงกดดันในด้ำนกำรบริหำรและกระแสสังคม หำกบริหำรได้ไม่ดีอำจ
ส่งผลให้ประชำชนเสื่อมศรัทธำในรัฐบำลได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ำสนใจในอนำคต ยังมีกำรสร้ำงสมดุลระหว่ำงค่ำนิยม
ดั้งเดิมกับอิทธิพลสมัยใหม่ นี่ก็เป็นควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีนว่ำจะทำอย่ำงไรให้สำมำรถคงค่ำนิยมดั้งเดิมของ
จีนและยอมรับอิทธิพลสมัยใหม่ที่มำพร้อมกับโลกำภิวัฒน์มำกขึ้น ทำงรัฐบำลจีนเองก็ได้มีกำรใช้กลยุทธ์อย่ำง
กำรเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต กำรรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรม พยำยำมสร้ำงเสริมกำรศึกษำเชิงอุดมกำรณ์ กำร
จัดกำรควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบำยของชำติ และโลกำภิวัตน์ได้หล่อหลอม
แนวคิดและค่ำนิยมของคนรุ่นใหม่ในจีนอย่ำงมีนัยยะสำคัญ ในขณะเดียวกันเกิดควำมท้ำทำยซับซ้อนเหมือนกัน
ในขณะที่ทำให้ควำมเสถียรภำพในประเทศยังคงต่อไปได้ แต่ยังยึดมั่นในอุดมกำรณ์ที่รัฐบำลต้องกำรจะยึดมั่นอยู่
ภำพ สรุปไลฟสไตล์และแนวคิดของคนจีนรุ่นใหม่
ที่มำ ร่มฉัตร จันทรำนุกูล, (2566)
14
โดยสรุปแล้ว คนจีนรุ่นใหม่อย่ำงคนที่เกิดในปีค.ศ. 1980, 1990 หรือปี 2000 ได้รับกำรหล่อหลอมจำก
สังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็วในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่ำนมำเท่ำนั้นเอง โดยคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้จะมี
กำรแสวงหำเอกลักษณ์เฉพำะตัว มีควำมชำนำญเทคโนโลยี มีกำรศึกษำ มีควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์ สนใจที่จะ
เป็นผู้ประกอบกำร หรือสร้ำงสรรค์นวัตกรรมของตัวเอง แล้วก็เริ่มตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมมำกขึ้น มีเรื่องของ
กำรทำสิ่งแวดล้อม และ CSR (corporate social responsibility) มำกขึ้น และควำมจริงแล้วคนรุ่นใหม่ก็ยังรัก
เอกลักษณ์ ยังรักวัฒนธรรมจีนอยู่ ยังพยำยำมที่จะบวกวัฒนธรรมสมัยใหม่เข้ำมำ ให้มีควำมทันสมัยมำกขึ้น มี
กำรตำมเทรนด์ shopping online และทัศนคติกำรสร้ำงครอบครัวที่เปลี่ยนไป อย่ำงที่เล่ำไปสักครู่นี้ ทั้งยังมี
ส่วนร่วมกับกิจกรรมทำงสังคมมำกกว่ำคนยุคก่อน แล้วก็แสวงหำตัวเอง และใช้ชีวิตตัวเองชอบมำกยิ่งขึ้น นี่ก็
เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปของคนนจีนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ต้องขอขอบพระคุณทุกท่ำนนะคะ อย่ำงที่บอกไปว่ำเป็น
คอลัมนิสต์อยู่ที่ Manager Online ในคอลัมภ์ชื่อว่ำ “มุมจีน” สำมำรถไปติดตำมกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
15
มุมมองการออกแบบชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่
โดย
Ms.Liyue Zhou
Communication manager,
International Organization in China
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณอำจำรย์ยุวดีและผู้เข้ำร่วมทุกท่ำนมำกๆ ค่ะ ที่จริงหัวข้อนี้ถือว่ำเป็นหัวข้อที่
น่ำสนใจมำก จำได้ว่ำวันนั้นตอนที่คุยกับอำจำรย์ยุวดี พอดีเดือนได้ไปดูที่อินเทอร์เน็ต แล้วพอดีมำกเลยว่ำวัน
นั้นเจอคลิปหนึ่งที่น่ำจะเป็นคลิปที่มำจำกทีวีซีรีส์ของไทย ในคลิปนั้นคนที่พูดเป็นคนไทยชำวจีนผู้หญิงอำยุ
ประมำณ 40 ปี ซึ่งผู้หญิงคนนั้นพูดว่ำ “คนอย่ำงฉันไม่เคยหยุดนิ่ง เป็นลูกหลำนชำวจีนถูกพ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำย
สอนแต่ให้มีควำมขยัน” พอฟังแล้วก็รู้สึกว่ำน่ำจะเป็นอะไรที่น่ำสนใจมำก คนไทยเคยสงสัยไหมว่ำคนจีนรุ่นใหม่
ยังเป็นแบบนี้หรือเปล่ำ วันนี้จะมำเล่ำฟังในมุมมองของเดือนว่ำกำรออกแบบชีวิตหรือว่ำกำรดำเนินชีวิตของคน
จีนรุ่นใหม่เป็นอย่ำงไร การศึกษา การทางาน การสร้างครอบครัว หรือการแสวงหาเป้าหมายของชีวิต
โดยรวมนะคะ
ก่อนที่เดือนจะแบ่งปันต้องบอกว่ำ อย่ำงที่อำจำรย์ยุวดีพูดเมื่อสักครู่ ในปัจจุบันนี้ งำนปัจจุบันของ
เดือนไม่ได้มีควำมเกี่ยวข้องโดยตรงกับเมืองไทยแล้วนะคะ เพรำะฉะนั้น วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่ำงที่พูดจะไม่ได้พูดใน
นำมของที่ทำงำน แต่ถือว่ำเป็นกำรแบ่งปันให้กับทุกท่ำนว่ำมุมมองของคนจีนรุ่นใหม่อย่ำงเดือนคิดอย่ำงไรกับ
กำรดำเนินชีวิต เพรำะฉะนั้นต้องแนะนำก่อนค่ะ ว่ำคนจีนอย่ำงเดือนเป็นคนอย่ำงไรนะคะ เดือนเองก็เป็นผู้หญิง
คนจีนที่เกิดหลังปีค.ศ. 1990 เหมือนที่เมื่อครู่อำจำรย์ร่มฉัตรพูดค่ะ เป็นจิ่วหลิงโฮ่ว และเป็นลูกคนเดียวค่ะ แล้ว
ก็เคยไปเรียนต่อที่ต่ำงประเทศ ตอนนี้มีงำนที่ทำอยู่ และยังไม่ได้แต่งงำนหรือมีลูก มำดูกันว่ำคนอย่ำงเดือนจะ
คิดอย่ำงไร
16
ประเด็นแรกคือ การศึกษา เพื่อให้กำรแบ่งปันวันนี้สนุกมำกขึ้นนะคะ เดือนจะขอใช้วิธีที่ว่ำแชร์
catchword หรือคำที่เป็นที่นิยมในโซเชียลมีเดียของคนจีนรุ่นใหม่ว่ำมีอะไรบ้ำงที่เกี่ยวกับกำรศึกษำ คำแรกที่
ต้องพูดถึงซึ่งเมื่อครู่อำจำรย์ร่มฉัตรได้พูดไปบ้ำงแล้ว คำแรกที่อยำกแชร์ในวันนี้เป็นคำที่สำคัญมำกสำหรับคนจีน
รุ่นใหม่ในปัจจุบัน คำว่ำ juan (捲) หรือถ้ำแปลตรงตัวคือแปลว่ำ ม้วน หรือม้วนขึ้น แล้วมันหมำยควำมว่ำ
อะไร ที่จริงคำนี้มำจำกคำว่ำ Nèi juan (內捲) ซึ่งเป็นคำแปลที่มำจำกภำษำอังกฤษคำว่ำ Involution ซึ่งตอน
แรกมำจำกนักวิจัยทำงเศรษฐกิจมำกกว่ำ เพื่อที่จะอธิบำยถึงสถำนกำรณ์ตอนที่ประเทศมีประชำกรมำกขึ้นแต่
ว่ำเงินก็ยังมีจำนวนจำกัดอยู่ เพรำะฉะนั้นเงินต่อหัว หรือเงินต่อคนจึงน้อยลง เพรำะฉะนั้น ทุกคนถ้ำอยำกได้เงิน
มำกขึ้นหรือว่ำอยำกได้งำน ต้องขยันค่ะ ขยันทำกำรหรือว่ำขยันหำเงินหำงำนมำกกว่ำเดิม ตอนนี้เป็นคำที่ใช้กัน
บ่อยมำกไม่ใช่แค่กำรศึกษำเพียงอย่ำงเดียว แต่ในกำรทำงำน กำรใช้ชีวิตโดยรวมทุกคนก็ใช้คำนี้กันหมด
สมมุติว่ำถ้ำเรำเห็นใครที่ Overwork/Hard work หรือว่ำทำงำนมำกเกินไปเพื่อที่จะได้งำนหรือว่ำได้
เงิน เรำก็จะบอกว่ำคนนี้ “ม้วน” เกินไป หรือบำงคนอำจจะบอกว่ำ งำนนี้ฉันจะไม่ทำแล้วเพรำะว่ำ
สภำพแวดล้อมในกำรทำงำนของงำน “ม้วน” เกินไป “juan (捲)” เกินไป อำจจะหมำยควำมว่ำเจ้ำนำยให้ทำ
มำกเกินไป มำกกว่ำที่เหมำะสมนะคะ อันนี้จะเป็นคำแรก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนอยำก juan หรือว่ำอยำกม้วนนะคะ
บำงคนพอเจอกรณีแบบนี้รู้สึกว่ำกำรแข่งขันสูงเกินไป หรือว่ำมีควำมกดดันมำกเกินไป จะไปใช้วิถีชีวิตอีกแบบ
หนึ่งที่ถือว่ำเป็นอะไรที่ตรงกันข้ำมเลยค่ะ ซึ่งเรำเรียกว่ำ Tang (躺) ซึ่งเป็นคำที่ย่อมำจำกคำว่ำ Tang píng (
躺平) ถ้ำแปลตรงตัวก็คือ นอนลง นอนนิ่งๆ หรือนอนรำบนะคะ ทุกท่ำนน่ำจะนึกออกนะคะว่ำถ้ำเป็นคนที่
ขยันทำงำนคงนอนนิ่งไม่ได้หรอกคงจะลุกขึ้นทุกวันเช้ำมำกไปทำงำน อันนี้ก็อำจจะเป็นภำพลักษณ์ของคนจีน
สำหรับคนไทย ว่ำคนจีนต้องเป็นคนที่ขยันทุกคน แต่ตอนนี้คนจีนรุ่นใหม่เริ่มคิดแล้วว่ำ ทำไมเรำต้องขยันทำงำน
ทำไมเรำต้องทำให้ตัวเองกดดันถึงขนำดนี้ มันไม่ดีต่อร่ำงกำย ไม่ดีต่อจิตใจ เรำอยำกนอนนิ่งๆ อยำกอยู่สบำยๆ
อยำก Lying flat เหมือนในรูปเลยค่ะ คำว่ำ juan (ม้วน) หรือว่ำ Tang (นอนรำบ) ถือว่ำเป็นรูปแบบกำร
ตอบสนองสองแบบของคนจีนรุ่นใหม่ที่ตรงกันข้ำมกันเลยในเวลำที่เจอปัญหำหรือว่ำเจอกรณีที่มีควำมกดดันสูง
ในกำรเรียน กำรศึกษำ หรือว่ำกำรทำงำน ซึ่งสองคำนี้ตอนนี้ใช้กันบ่อยมำก
17
ภำพ คำว่ำ Tang (躺)
ที่มำ Liyue Zhou, 2566
เพรำะฉะนั้น คงไม่ใช่ใช้กันแค่ในกรณีของกำรศึกษำอย่ำงเดียว กำรทำงำนก็ใช้กันค่ะ ต่อมำเรำมำดูว่ำ
สำหรับการทางานคนรุ่นใหม่ของคนจีนพูดถึงอะไรกัน คำว่ำ Huà bing (画饼) ถ้ำแปลตรงตัว หมำยควำม
คือการวาดแพนเค้ก แล้ววำดแพนเค้กหมำยควำมว่ำอะไร คำนี้ที่จริงแล้วมำจำกวลีเก่ำของจีนที่ว่ำ huà bing
chong ji (画饼充饥) หมำยควำมว่ำวำดแพนเค้กเพื่อสนองหิวค่ะ ก็คือตอนที่เรำหิวมำกเรำอยำกกินแพนเค้ก
เหลือเกินแต่ว่ำบำงคนเขำอำจจะวำดรูปแพนเค้กให้เรำแล้วบอกว่ำกินเถอะนี่เป็นแพนเค้กของเธอไง หรือก็คือ
ควำมหมำยของคำนี้คือบำงคนให้ empty promise หรือว่ำเป็นคำสัญญำ หรือแผนที่ไม่สำมำรถทำให้เป็นควำม
จริงได้ คนจีนรุ่นใหม่จะพูดคำนี้เยอะมำก เพรำะว่ำคนจีนรุ่นใหม่จะเห็นว่ำทำไมมีเจ้ำนำยหลำยคน หรือคนที่มี
ตำแหน่งสูงกว่ำหลำยคนชอบพูดอะไรที่ไม่สำมำรถเป็นควำมจริงได้ สมมุติว่ำเจ้ำนำยบอกคนรุ่นใหม่ว่ำเพิ่งจบ
จำกมหำวิทยำลัยมำต้องขยันทำงำนนะเดี๋ยวอีก 2 ปีจะได้เป็น Manager นะรับปำกเลย แต่ทำจริงทำไม่ได้
สัญญำแบบนี้คนจีนก็จะเรียกว่ำ “วำดแพนเค้ก” แล้วถ้ำคนจีนรุ่นใหม่เจอกรณีแบบวำดแพนเค้กพวกเขำจะทำ
อย่ำงไร ซึ่งจะมี Reaction สองอย่ำงที่ไม่เหมือนกันเลยนั่นคือคำต่อไปเลยค่ะ
คำว่ำ Rùn (润) คำนี้จริงๆแล้วไม่ต้องไปสนใจว่ำมันแปลว่ำอะไรนะคะ เพรำะคำว่ำ Rùn มำจำก
ภำษำอังกฤษ R U N ซึ่งถ้ำออกเสียงตำมพินอินของภำษำจีนกลำงจะอ่ำนว่ำ Rùn เอำมำใช้ในควำมหมำยว่ำ วิ่ง
หรือว่าหนี พอคนรุ่นใหม่เจอเจ้ำนำยวำดแพนเค้ก พูดอะไรที่ไม่สำมำรถเป็นควำมจริงได้ หรือว่ำคนรุ่นใหม่เห็น
ว่ำเรำไม่เห็นจุดปลำยทำงหรือว่ำเป้ำหมำยของกำรขยันทำงำนเลย หรือว่ำเรำไม่ชอบสิ่งแวดล้อม หรือว่ำไม่ชอบ
ที่อยู่อำศัย ไม่ชอบมหำวิทยำลัย หรือว่ำไม่ชอบงำนที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ก็จะ Rùn หรือ Run away อยำกหนี
18
ออกจำกสถำนกำรณ์ที่ตัวเองอยู่ คำนี้ที่จริงออกมำในช่วงโควิด วันนี้เดือนไม่อยำกอธิบำยแบบลึกซึ้งว่ำทำไมมัน
ถึงจะขึ้นมำในช่วงโควิด แต่เขำบอกว่ำคำนี้ตอนนี้ใช้กันบ่อยมำกใช้ในทุกกรณีเลยค่ะ คนที่อยำก Run away
จำกกำรศึกษำ อยำกหนีจำกควำมกดดันของกำรงำน หรือว่ำอยำกหนีจำกที่อยู่อำศัยที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้ ก็จะ
ใช้คำนี้ค่ะ อันนี้น่ำจะสะท้อนให้เห็นถึงควำมคิดของคนจีนรุ่นใหม่ที่ต่ำงจำกคนจีนสมัยก่อนว่ำ ถ้ำเรำเจอปัญหำ
หรือว่ำเจอควำมกดดันเรำต้องอดทน แต่คนจีนรุ่นใหม่ไม่เอำแล้ว บำงคนจะบอกว่ำ I’m gonna runaway จะ
หนีออกจำกกรณีนี้เพื่อสุขภำพของตัวเอง
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะหนี เพรำะยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำอีกแบบ มำที่คำว่ำ Shàng'àn (上岸) ที่ถ้ำแปล
ตรงตัวคือ ขึ้นฝั่ง ซึ่งจะหมำยควำมว่ำ ทุกท่ำนลองนึกภำพว่ำเรำอยู่บนเรือบนทะเล ถ้ำอยู่บนเรือไปเรื่อยๆ ก็จะ
เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ ไม่มีควำมมั่นคง ไม่รู้ว่ำจุดมุ่งหมำยอยู่ที่ไหน เรำจะไปทำงไหน แล้วเรือจะไปที่ไหน หรือก็
คือไม่มีควำมมั่นคง รู้สึกไม่ปลอดภัย นี่ก็จะเป็นควำมรู้สึกของคนรุ่นใหม่ในจีนหลำยคนที่รู้สึกว่ำควำมสุขของ
ชีวิตอยู่ที่ควำมมั่นคง ซึ่งถ้ำอยำกได้ควำมมั่นคงเรำต้องหำงำนหรือว่ำหำวิธีกำรดำเนินชีวิตที่มั่นคง เพรำะฉะนั้น
เขำก็คิดว่ำที่มั่นคงที่สุดคงต้องเป็นข้ำรำชกำร เพรำะฉะนั้นตอนนี้ถ้ำทุกท่ำนสังเกตก็คือตอนนี้มีกระแสใหม่อย่ำง
หนึ่งคือ หลำยคนอยำกสอบข้ำรำชกำรเพื่อควำมมั่นคงของชีวิต ถ้ำสอบติดเขำก็จะบอกว่ำ Shàng'àn แล้วนะ
ขึ้นฝั่งแล้ว ซึ่งตอนนี้คำนี้ก็ใช้กันบ่อยมำกเหมือนกัน อำจจะไม่ใช่แค่สอบเข้ำรำชกำร กำรสอบเข้ำมหำลัยหรือว่ำ
โรงเรียน ได้เป็นครูหรือว่ำอำจำรย์ก็เป็นงำนที่มั่นคงเหมือนกันก็เรียกว่ำ ขึ้นฝั่ง แล้วเหมือนกัน หรือบำงคนยังหำ
งำนไม่เจอแล้วอยำกเรียนต่อ ถ้ำสอบได้ก็เรียกว่ำขึ้นฝั่งแล้วเหมือนกัน หมดกำรเรียน กำรศึกษำ กำรทำงำนจบ
แล้วนะคะ
เรำมำดูกันว่ำการหาคู่ หรือว่าการสร้างครอบครัว หรือว่ำกำรแสวงหำเป้ำหมำยของชีวิตของคนจีนรุ่น
ใหม่เป็นอย่ำงไรนะคะ เมื่อพูดถึงกำรสร้ำงครอบครัว เดือนใช้เวลำคิดนำนมำกว่ำมีคำที่มีควำมหมำยด้ำนดีอะไร
ที่เกี่ยวกับกำรสร้ำงครอบครัว ควำมคิดของกำรสร้ำงครอบครัวของคนรุ่นใหม่ เกือบจะนึกไม่ออกเลยค่ะ
เพรำะว่ำตอนนี้ถ้ำดูจำกสถิติ ทุกท่ำนก็จะเห็นว่ำคนจีนรุ่นใหม่ หรือว่ำคนจีนโดยรวมที่อยำกแต่งงำน หรือว่ำคน
จีนที่แต่งงำนแล้ว ในปีที่แล้วมีสถิติต่ำมำก ต่ำที่สุดเท่ำที่เคยมีสถิติมำ ถ้ำทุกท่ำนสนใจในเรื่องนี้สำมำรถไปดูได้
เกี่ยวกับอัตรำกำรแต่งงำน สถิติกำรแต่งงำน กำรมีลูกของคนจีนได้ที่ China’s national bureau of statistics
เขำมีรำยงำนแบบละเอียดถึงคนที่เกิดหลังปีค.ศ. 1990 มีแต่งงำนกันแล้วกี่คน กี่เปอร์เซ็นต์ คนที่เกิดหลังปีค.ศ.
1980 แต่งงำนกันแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้เวลำไม่พอนะคะ ขอไม่ลงรำยละเอียดนะคะ
ถ้ำถำมคนจีนรุ่นใหม่ว่ำ ทำไมไม่อยำกแต่งงำน ก็คงจะมีหลำยสำเหตุ และสำเหตุจะซับซ้อนมำก แต่ถ้ำ
ถำมว่ำทำยังไง หรือว่ำกรณีแบบไหนถึงจะอยำกแต่งงำน ก็จะมีหลำยคนบอกคำนี้ค่ะ คำว่ำ shuangxiàng
benfù (双向奔赴) Yuàn women dou you shuangxiàng benfù de rén (愿我们都有双向奔赴
19
的人) หมำยควำมว่ำขอให้เรำทุกคนมีคนที่วิ่งเข้ำหำกัน ทุกท่ำนนึกออกไหมคะ ถ้ำสมมุติว่ำกำรแต่งงำนเป็น
เป้ำหมำยของเรำที่อยู่ตรงข้ำม หรือว่ำกำรมีควำมสุขของชีวิตเป็นเป้ำหมำยที่อยู่ตรงกลำง เรำไม่อยำกเป็นคนที่
ต้องวิ่งเข้ำหำเป้ำหมำยนี้อยู่ฝ่ำยเดียว เรำหวังว่ำจะมีอีกคนหนึ่งที่วิ่งเข้ำมำที่ตรงกลำงเข้ำหำกันกับเรำไปด้วยกัน
ค่ะ ก็คือหมำยควำมว่ำแต่ก่อนคนจีนสมัยก่อนอำจจะคิดว่ำกำรแต่งงำนถือว่ำเป็นควำมรับผิดชอบแบบหนึ่ง ทุก
คนต้องแต่งงำน หรือว่ำกำรแต่งงำนหมำยควำมว่ำต้องมีลูก หรือว่ำแต่งงำนเพื่อมีลูกหรืออะไรก็ตำม หรือก็คือ
แต่งงำนเพื่อคนอื่นนั่นแหละ อันนั้นอำจจะเป็นควำมคิดคนสมัยก่อน แต่ว่ำคนจีนรุ่นใหม่จะไม่คิดแบบนี้แล้ว เขำ
จะคิดว่ำถ้ำฉันแต่งงำนจะต้องเป็นเพรำะว่ำฉันอยำกแต่ง ฉันเจอคนที่วิ่งเข้ำหำกันด้วยกัน คนที่อยำกแต่งกับฉัน
เหมือนกัน ฉันถึงจะแต่ง เพรำะฉะนั้นคำว่ำ shuangxiàng benfù ตอนนี้จึงเป็นคำที่นิยมมำกเหมือนกัน อำจจะ
ไม่ได้ใช้ในแค่เรื่องแต่งงำนอย่ำงเดียว บำงทีบำงคนถ้ำพูดถึงเรื่องที่เขำอยำกประสบควำมสำเร็จ หรือว่ำควำมฝัน
อะไรก็ตำม ที่เขำประสบควำมสำเร็จแล้ว เรำก็จะเรียกว่ำ shuangxiàng benfù เหมือนกัน
เมื่อพูดถึงคนจีนรุ่นใหม่เรำมีอะไรที่พูดได้เยอะมำก และตำมที่เดือนได้แบ่งปันในวันนี้จะมี 3 ข้อที่ถือว่ำ
เป็นอะไรที่แน่นอนมำกค่ะ ข้อแรกคือวิถีชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ ถือว่ำเป็นวิถีชีวิตที่หลำกหลำยมำกขึ้น คงไม่
เหมือนสมัยก่อนที่ว่ำคนส่วนใหญ่จะเข้ำไปทำงำนในรัฐวิสำหกิจ ข้ำรำชกำร หรือว่ำอะไรก็ตำม เอกชนจะน้อย
มำก แต่ว่ำทุกคนต้องแต่งงำน หรือว่ำอะไรก็ตำม ตอนนี้วิถีชีวิตของของคนจีนรุ่นใหม่หลำกหลำยมำกขึ้น ข้อที่
สองคือคนจีนรุ่นใหม่ไม่ใช่ทุกคนที่จะให้คุณค่ำกับสิ่งเดียวกัน บำงคนอำจจะคิดว่ำสอบติดข้ำรำชกำรเป็นสิ่งที่
สำคัญที่สุดและเป็นเป้ำหมำยชีวิตของเขำ แต่บำงคนอำจจะอยำกหนีออกจำกควำมกดดัน ทุกคนจะคิดไม่
เหมือนกัน ข้อที่สำมคือเรำจะสังเกตได้ว่ำคนจีนรุ่นใหม่จะใส่ใจตัวเอง หรือว่ำให้ควำมสำคัญกับควำมรู้สึกของ
ตัวเองมำกขึ้น แต่ก่อนอำจจะคิดว่ำควำมเป็นปัจเจกบุคคลไม่สำคัญ แต่ว่ำตอนนี้จะคิดว่ำกำรเป็นปัจเจกบุคคลก็
สำคัญเหมือนกัน
สำเหตุเบื้องหลังคงจะมีหลำกหลำยมำก วันนี้จะขอบอกไว้ 4 สำเหตุที่คิดว่ำชัดเจนและสำคัญนะคะ
สำเหตุแรกสำหรับคนจีนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่คุณภำพชีวิตดีขึ้น ไม่เหมือนรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำย ที่ว่ำสิ่งที่สำคัญ
ที่สุดคือต้องสบำย ต้องอยู่ได้ ต้องหำข้ำวให้ลูกกินได้ แต่ว่ำตอนนี้ส่วนใหญ่มีข้ำวกินแล้ว ก็จะอยำกมีเวลำคิดว่ำ
ตัวเองอยำกแสวงหำเป้ำหมำยอะไรในชีวิต สำเหตุที่สองก็คือคนจีนรุ่นใหม่จะมีโอกำสมองเห็นและรู้จักโลกมำก
ขึ้น บำงคนอำจจะโชคดีได้ไปเรียนต่อที่ต่ำงประเทศ หรือว่ำบำงคนเรียนภำยในประเทศแต่ก็ได้มีโอกำสไปเจอ
โลกข้ำงนอกผ่ำนโซเชียลมีเดีย หรือว่ำผ่ำนอินเทอร์เน็ตก็ตำม ก็จะได้เห็นว่ำกำรใช้ชีวิตของคนมีหลำกหลำย
มำกมำยให้เลือก ไม่ใช่ว่ำต้องทำตำมที่พ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำยทำกันมำ สำเหตุที่สำมคือควำมกดดันสูงมำก สูง
เกินไปจนทำให้บำงคนอำจจะถึงจุดที่ต้องคิดแล้วว่ำทำต่อไป จะไม่ไหว ไม่ดีต่อสุขภำพ ไม่ดีต่อจิตใจ ต้องมีกำร
เปลี่ยนแปลง เพรำะฉะนั้นบำงคนก็อำจจะอยำกหนีออกมำ สำเหตุที่สี่น่ำจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับนโยบำยลูกคน
20
เดียวด้วย เพรำะว่ำเมื่อเป็นลูกคนเดียว คนที่ต้องนึกถึงก็จะน้อยลง แต่ก่อนอำจจะต้องนึกถึงพี่น้องด้วย หรือว่ำ
ลูกมีลูกน้องด้วย พ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำยด้วย แต่ว่ำตอนนี้มีแค่ลูกคนเดียว เรำอำจจะดูแลพ่อกับแม่ ปู่ย่ำ ตำยำย
แล้วที่เหลือก็คือดูแลตัวเอง สำเหตุอำจจะหลำกหลำยแต่เดือนคิดว่ำ 4 สำเหตุนี้เป็นอะไรที่สำคัญที่สุด วันนี้ขอ
พูดไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ
21
ภาระครอบครัวของคนจีนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่
โดย
คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
ที่ปรึกษากฎหมายไทยในจีน บริษัทหยิ่งจ้งลอร์ออฟฟิศ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณอำจำรย์ทุกท่ำนที่ให้โอกำสมำพูดในครั้งนี้ และต้องบอกว่ำเห็นด้วย
กับอำจำรย์ดำว แล้วก็น้องเดือนมำกเกี่ยวกับเรื่องที่พูดไปทั้งหมดนะคะ เนสเองก็อยู่จีนมำเป็นปีที่ 10 แล้วนะ
คะ วันนี้จะมำแชร์ประสบกำรณ์ในฐำนะสะใภ้จีนคนหนึ่งที่อยู่จีนมำประมำณ 10 ปี และในฐำนะคุณแม่ลูกสอง
ด้วยค่ะ ตอนนี้ลูกชำยคนโตอำยุ 7 ปีแล้ว ส่วนคนเล็กตอนนี้อำยุ 5 ปี วันนี้เรำมำพูดเอำแบบง่ำยๆแล้วกันให้มัน
ฟังเข้ำใจง่ำยๆสำหรับคนไทย แล้วก็จะมีกำรเปรียบเทียบในบำงมุมมอง แต่ตรงนี้จะเป็นกำรพูดในส่วนมุมมอง
ของเนสนะคะ แล้วประสบกำรณ์ที่อยู่จีนมำประมำณ 10 ปี
เรื่องภำระครอบครัวของคนจีนรุ่นใหม่ในสังคมเมืองใหญ่ เรำอำจจะต้องจัดประเภทเมืองของจีนก่อน
เช่นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เชินเจิ้น หรือกว่ำงโจวเป็นเมืองใหญ่ของจีนนะคะ ถือว่ำเป็นเมืองชั้นที่หนึ่ง (一线城市) คน
จีนก็จะรู้จักกัน เวลำคนจีนแบ่งเมืองแบบคุยกับคนจีนเขำสำมำรถบอกได้ว่ำคุณหำเงินได้ประมำณไหน คุณมี
ฐำนะครอบครัวประมำณไหน ลูกเรียนประมำณไหน เขำจะแบ่งกันแบบนี้เลย เพรำะฉะนั้นเลยอยำกให้เข้ำใจ
ก่อนว่ำ 4 เมืองใหญ่นี้ ถ้ำเทียบค่ำใช้จ่ำยแล้วสูงประมำณไหน ก็รำคำคล้ำยฮ่องกงเลยค่ะ คือไปฮ่องกงค่ำใช้จ่ำย
ก็จะสูง ก็คืออย่ำงเนสบินไปเที่ยวยุโรปที่ผ่ำนมำจะรู้สึกว่ำรำคำอำหำรไม่ได้ต่ำงจำกที่ปักกิ่งมำกนัก สั่งอำหำร
ยุโรประดับปกติเลยค่ะ คือค่ำใช้จ่ำยในปักกิ่งถือว่ำสูงมำก รำคำค่ำใช่จ่ำย ค่ำโรงแรม ค่ำรถ ไม่ได้ต่ำงกันมำกเลย
พอทีนี้เรำจะพูดในฐำนะที่อยู่ในปักกิ่งนะคะ ต่อมำจะขอพูดตรงๆเลย ในเรื่องของกำรแต่งงำน เวลำคน
จีน ถ้ำเวลำคนจีนเจอกันแล้วเขำจะถำมว่ำอำยุเท่ำไหร่แล้ว อย่ำงเนสเป็นปำหลิงโฮ่ว ก็คือแต่งงำนในรุ่นของปำ
22
หลิงโฮ่วเพรำะเนสเกิดปีค.ศ. 1988 แต่คนจีนรุ่นจิ่วหลิงโฮ่ว รุ่นหลังปีค.ศ. 1990 หรือรุ่นหลิงหลิงโฮ่ว หลังปีค.ศ.
2000 ในแต่ละมุมมองของควำมคิดคนที่เกิดในยุคปี 1980-1990 ก็จะมีควำมคิดไม่เหมือนกันเมื่อมองถึงด้ำน
กำรแต่งงำน อย่ำงที่อำจำรย์ดำวกับน้องเดือนได้พูดเลยคือคนจีนสมัยใหม่ไม่อยำกแต่งงำน จะขอเจำะลึกลงไป
อีก อย่ำงรุ่นปำหลิงโฮ่ว ควำมจริงแล้วเป็นรุ่นที่หย่ำร้ำงกันมำกที่สุดเพรำะว่ำแต่งงำนมำแล้ว ดังนั้นเขำจึงไม่
จำเป็นจะต้องมำคุยเรื่องแต่งงำนเพรำะว่ำแต่งไปแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องของกำรหย่ำแล้ว
พอมำถึงรุ่นเกิดหลังปี 1990 ก็จะเป็นรุ่นที่แบบว่ำกำรแต่งงำนจะแบ่งเป็นปี 1995 ขึ้นไปและปี 1995
ลงมำ เหมือนว่ำจะแต่งหรือไม่แต่งดี ควำมจริงรุ่นปี 1995 ลงมำ หรือก็คือคนที่เกิดปี 1995 ลงมำ บำงคนก็ยัง
ไม่แต่งงำน คิดอยู่ว่ำแต่งไม่แต่งวนไปอย่ำงนี้มัน เป็นควำมวุ่นวำยของสังคมของคนจีนสมัยนี้ ซึ่งเขำยังมีควำม
เหลื่อมล้ำกันอยู่ว่ำเขำควรจะแต่งหรือไม่แต่ง คือคนส่วนมำกดูเหมือนจะไม่แต่ง แต่ถ้ำถำมว่ำในชีวิตจริงแล้วเขำ
ก็ยังแต่งงำนกันอยู่ เพรำะว่ำมันมีควำมกดดันทำงด้ำนสังคม สิ่งแวดล้อม พ่อแม่ อะไรทำนองนี้อยู่ เพรำะฉะนั้น
เขำยังคงมีมุมมองว่ำเขำต้องแต่งงำน แล้วพอมำรุ่นหลิงหลิงโฮ่วพวกแนวคิดแบบนี้ก็เจือจำงหำยไปเลย ควำม
อยำกสร้ำงครอบครัวมันน้อยลงไปมำก เพรำะฉะนั้นรัฐบำลก็เลยออกนโยบำยที่ว่ำ Zhèngfu gulì sheng san
tai (政府鼓励生三胎) เพรำะว่ำรุ่นจิ่วหลิงโฮ่วและหลิงหลิงโฮ่วไม่ยอมแต่งงำนและไม่อยำกมีลูก จึง
กลำยเป็นว่ำเขำเลยต้องใช้นโยบำยกับรุ่นปำหลิงโฮ่วให้รุ่นนี้มีลูกคนที่สำม เพรำะรัฐบำลต้องกำรแก้ปัญหำที่อำจ
มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศระยะยำวในอนำคตไป จึงมำขอให้คลอดคนที่ 3 แต่อย่ำงเนสคือไม่มีเพิ่มแล้วมีแค่
สองคนพอ เพรำะว่ำมันมีภำระค่ำใช้จ่ำยเยอะมำก แต่รัฐบำลก็รู้อยู่แล้วว่ำคนไม่อยำกมีลูกคนที่ 3 ก็เลยต้องแก้
กฎหมำยในบำงเมือง เป็นว่ำแม้จะไม่มีทะเบียนสมรสก็สำมำรถทำใบเกิดให้ลูกได้ ซึ่งสมัยก่อนในกฎหมำยจีน
กำรจะมีลูกแต่ละคนนั้นต้องมีเอกสำรเยอะมำก แต่ตอนหลังเขำก็ตัดควำมวุ่นวำยออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบำง
เมืองมีนโยบำยออกมำว่ำในขณะที่ถ้ำคุณไม่แต่งงำนก็สำมำรถไปจดทะเบียนออกใบเกิดให้เด็กได้
เรื่องกำรแต่งงำนตำมจริงไม่ต้องพูดเยอะเพรำะว่ำทั้ง 2 ท่ำนก็ได้พูดไปมำกแล้ว และตอนนี้เรำก็รู้แล้ว
ว่ำคนจีนตอนนี้ไม่อยำกแต่งงำน เด็กรุ่นใหม่ก็ยิ่งแบบมีเงินใช้เองดีกว่ำ ไม่จำเป็นต้องมีลูก จะเลี้ยงลูกเพื่ออะไร
เพรำะว่ำเงินนี้หำได้ใช้เองก็ยังไม่พอเลยแล้วจะให้เลี้ยงลูกได้อย่ำงไร เพรำะฉะนั้นคนจีนก็เลยไม่เอำ ต่อมำเรื่อง
กำรหย่ำร้ำงที่มีมำกขึ้น อย่ำงถ้ำคนจีนรุ่นปำหลิงโฮ่วเป็นวัยที่เขำเรียกว่ำ สวย ขออนุญำตนะคะ แต่ว่ำคนจีนพูด
กันอย่ำงนี้จริงๆ คือเพรำะว่ำปำหลิงโฮ่วเป็นวัยที่เป็นลูกคนเดียวในช่วงนโยบำยลูกคนเดียวพอดี ตอนสมัยก่อน
รุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่ให้มีลูกหลำยคน ก็คือบ้ำนมีคนมีลูกคนเดียว เรำเป็นลูกคนเดียวเสร็จแล้ว ตอนนี้รัฐบำลให้เขำมี
ลูก 3 คน คือตัวเรำเองก็มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล แต่เรำยังโดนบังคับให้เรำมีลูกอีก 3 คน แปลว่ำผู้ชำยคนหนึ่งต้อง
ทำงำนดูแลพ่อแม่และต้องดูแลลูกอีก 3 คน ซึ่งภำระนี้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนจีนที่จะหำเงินมำให้พอ มัน
อำจจะเป็นไปได้ในบำงบ้ำนแต่น้อยมำก แต่ในบ้ำนส่วนใหญ่คือภำระหนักเกินไป กลำยเป็นว่ำตรงนี้ก็เลยนำมำ
ซึ่งกำรหย่ำร้ำงนั่นเอง ใน 100 คู่ที่แต่งงำนมี 57 คู่ที่หย่ำร้ำง ประมำณนี้เลย เพรำะว่ำอัตรำกำรหย่ำร้ำงสูงมำก
23
ในขณะที่จิ่วหลิงโฮ่วมีอัตรำหย่ำร้ำงอยู่ที่ประมำณ 16 เปอร์เซ็นต์ คือดูได้เลยว่ำในปี 2023 คนจีนแต่งงำน
น้อยลง แต่กำรหย่ำร้ำงมีมำกขึ้น และมันมีสำเหตุที่ทำไมครอบครัวจีนถึงหย่ำร้ำงกันมำกขึ้น อย่ำงเช่นคู่ของ
เนสเองเรำไปเจอกันที่เมืองนอก ในด้ำนฐำนะครอบครัวก็ถือว่ำไม่ได้ลำบำกแต่ก็ยังต้องดิ้นรนทำงำนหนักอยู่ แต่
ถำมว่ำค่ำใช้จ่ำยพอไหม ทั้งค่ำบ้ำน ค่ำรถ ค่ำเลี้ยงลูก ค่ำใช้จ่ำยมันสูงมำกจนกระทั่งว่ำเรำต้องทำงำนทุกวันเป็น
หนูติดจั่น มันเลยทำให้เกิดควำมรู้สึกว่ำเหนื่อย บำงคนเขำก็แบบไม่เอำอะไรเลย Tang píng (นอนรำบ; ไม่ดิ้น
รนแล้ว) รุ่นเนสคือในเมื่อมีลูกเกำะแขนเกำะขำแล้วเรำปล่อยอย่ำงนี้ไม่ได้ได้เรำก็ต้องดิ้นรนเป็นหนูติดจั่นกัน
ต่อไป
กลับมำที่สำเหตุกำรหย่ำร้ำงนะคะ อันนี้ก็อย่ำงที่บอกไปว่ำชีวิตมันลำบำก สำเหตุที่สองก็คือทุกวันนี้
ผู้หญิงแกร่งมำกขึ้น ผู้หญิงจีนแกร่งขึ้น หำเงินได้มำกขึ้น ฉันสวย ฉันรวย ฉันไม่ต้องง้อผู้ชำย ถ้ำเจอผู้ชำยที่ไม่ได้
เรื่องคือฉันไม่เอำ ฉันทิ้งเลย ฉันเลี้ยงลูกเองคนเดียวได้ อันนี้คือในมุมมองของผู้หญิงจีนที่เปลี่ยนไป ทำให้อัตรำ
กำรหย่ำร้ำงมำกขึ้น ในสมัยก่อนผู้หญิงก็จะอดทน แล้วรออยู่กับครอบครัวอะไรแบบนั้น ไม่หย่ำ ไม่ไปไหน แต่ว่ำ
สมัยนี้คือผู้หญิงจีน สวย เก่ง หำเงินเองได้ ผู้ชำยไม่ดีก็ทิ้งไป สำเหตุที่สำมคือในสังคมจีนคนเรำรู้จักกันง่ำยขึ้น มี
โทรศัพท์ มี WeChat ทำให้มีปัญหำเรื่องมือที่สำมกัน ซึ่งมันเป็นสภำพของสังคมที่เกิดขึ้นในจีน มันเลย
กลำยเป็นสำเหตุของกำรเลิกรำกัน สำเหตุที่สี่คือ Shanhun shan lí (闪婚闪离) เป็นส่วนหนึ่งของสังคมจีนที่
ยังมีคนที่แต่งงำนเร็วและหย่ำเร็ว แต่งงำนเร็วมำจำกที่ว่ำพ่อแม่แนะนำให้รู้จักกัน หรือก็คือกำรคลุมถุงชน คือยัง
ไม่ได้รู้จักกันแต่รู้สึกว่ำเหมำะกันในด้ำนฐำนะกำรเงิน ภำวะสังคม หรืออะไรหลำยๆอย่ำง ที่พ่อแม่แนะนำว่ำ
เหมำะสมก็เลยแต่ง แต่พอแต่งแล้วมันไม่ใช่ก็เลยหย่ำ อันนี้มันก็เลยเป็นตัวเสริมอัตรำกำรหย่ำร้ำงในสังคมจีน
อย่ำงที่บอกไปคือสี่สำเหตุนี้ถือว่ำเป็นสำเหตุหลักในกำรหย่ำร้ำง
ต่อมำพูดถึงเรื่องลูกเลยดีกว่ำ ในฐำนะที่เนสมีลูกสองคนนะคะ ซึ่งคนรุ่นเนสคือรุ่นปี 1980 พอมีลูกก็จะ
เป็นรุ่นประมำณปี 2000 เป็นหลิงหลิงโฮ่ว ประมำณนี้ คนรุ่นนี้ก็จะเป็นพ่อแม่ที่มีควำมรู้และเริ่มมีฐำนะ ดังนั้น
เขำจะเลือกกำรเลี้ยงลูกแบบว่ำไม่เน้นมีลูกเยอะๆ เหมือนสมัยก่อนที่มีลูกเยอะๆ เพื่อหวังว่ำอำจะมีสักคนที่
สำมำรถสร้ำงรำยได้ให้ครอบครัวได้ และกลับมำเลี้ยงครอบครัว แต่สมัยนี้คนจีนมีลูกแค่คนเดียว หรืออำจจะ
สองคน น้อยมำกที่จะยอมมีสำมคนเพรำะจะต้องรวยระดับหนึ่งเลยถึงเลี้ยงไหว ทำไมถึงบอกว่ำมันมันมี
ผลกระทบหนัก กำรมีลูกทำให้เขำคิดหนักเพรำะมันมีผลกระทบจำกรำยได้ที่เรำมี อย่ำงเนสมีลูก 2 คน ลูกตอน
อนุบำลเรียนอินเตอร์ถูกไหมคะ ค่ำใช้จ่ำยมันประมำณ 230,000-250,000 บำทต่อคนต่อปี ก็ประมำณล้ำนกว่ำ
บำท ซึ่งกำรมีลูก 1 คนต้องมีค่ำใช้จ่ำยประมำณ 1,500,000 บำท นี่ยังไม่รวมค่ำใช้จ่ำยอื่นๆอีก นี่นับเฉพำะค่ำ
เทอมแล้วนี่มี 2 คน คือปำไป 3 ล้ำนบำท เด็กจีนก็เลยแบบภำษำจีนก็ต้องได้ ภำษำอังกฤษก็ต้องดี กีฬำก็ต้อง
เด่น อย่ำงเนสเองก็ให้ลูกเรียนเยอะมำกทั้งเรียนบำสเกตบอล เรียนว่ำยน้ำ เรียนสกี เรียนศิลปะ คือพ่อแม่ในยุค
นี้ที่มีกำรศึกษำ หรือจบเมืองนอกมำ เขำจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับลูก แต่กลำยเป็นว่ำพอเขำเลือกสิ่งดีมำกทุกอย่ำงที่
24
จะต้องจ่ำยไปคือเงิน นี่ก็เลยเป็นภำระครอบครัวของคนจีนรุ่นใหม่ที่พอนำมำคำนวนแล้วทำให้ไม่อยำกมีลูกเลย
แม้กระทั่งตอนนี้คือรัฐบำลลดค่ำใช้จ่ำยจ่ำยกำรคลอดลูกช่วยลดภำระ อันนี้สำหรับปักกิ่งนะคะ สำหรับเมืองอื่น
เนสไม่แน่ใจ แต่สำหรับปักกิ่ง คือตัวเนสเองมีประกันสังคมในจีน หรือคู่ของเรำมีประกันสังคมในจีน เมื่อคลอด
แล้วทุกอย่ำงแทบจะฟรีทั้งหมด หมำยถึงว่ำกำรคลอดลูกในโรงพยำบำลรัฐบำล กำรอยู่ไฟ พวกค่ำผ้ำอ้อม ค่ำนม
ประมำณ 150,000 บำท หรือประมำณ 30,000 หยวน แต่ภำระมันก็ยังเยอะอยู่ดีถึงทำงรัฐบำลจะช่วยค่ำคลอด
ก็ตำม แต่หลังจำกนั้นก็ยังมีภำระเยอะอยู่ ภำระในกำรเรียน ตอนนี้เนสย้ำยลูกคนโตมำโรงเรียนรัฐบำลเพรำะ
หนึ่งอยำกลดค่ำใช้จ่ำย สองโรงเรียนรัฐบำลในจีนดีกว่ำโรงเรียนอินเตอร์ ซึ่งเรียนฟรีด้วย ป.1 แล้วเรียนฟรี แต่
กำรนำลูกเข้ำโรงเรียนรัฐบำลนั้นไม่ง่ำยเลย เพรำะบ้ำนต้องอยู่ในบริเวณเขตโรงเรียนถึงจะเข้ำเรียนได้ แล้วคนที่
ไม่มีฐำนะจะย้ำยเข้ำเขตโรงเรียนลูกเขำก็อำจจะไม่ต้องกลับไปเรียนต่ำงจังหวัด ที่โรงเรียนใกล้บ้ำนที่เมืองที่เขำ
อยู่ ซึ่งมันจะเป็นควำมเหลื่อมล้ำทำงด้ำนกำรศึกษำมำก อย่ำงเมืองปักกิ่งก็ถือว่ำเป็นเมืองที่ได้รับโอกำสที่ดีกว่ำ
ในกำรศึกษำและมีหลำยโรงเรียนให้เลือก แต่ก็ยังเป็นภำระที่หนักมำกจริงๆ ในมุมมองของคนรุ่นใหม่จึงเลือกที่
จะไม่มีลูกดีกว่ำ
หัวข้อสุดท้ำยเกี่ยวกับผู้สูงวัย ควำมจริงแล้วในปักกิ่งตอนนี้ระบบประกันสังคมมีแนวโน้มที่ในอนำคตว่ำ
คนไม่มีลูก คนรุ่นใหม่ไม่คลอดลูก ก็คือไม่มีคนรุ่นใหม่ ไม่มีเด็กรุ่นใหม่ที่มำจ่ำยเงินประกันสังคม ระบบภำษีก็เริ่ม
ล้มลงไปเรื่อยๆ กลำยเป็นว่ำตอนนี้สังคมผู้สูงวัยปัญหำนี้ได้รับควำมสนใจ แต่ก็ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ เพรำะว่ำเขำก็
ได้แต่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ยอมมีลูกกัน อันนี้ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปสัก 10 ปีนะคะ ทิ้งไว้เท่ำนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
25
การปรับตัวของผู้ประกอบการและการจ้างงานคนจีนรุ่นใหม่
โดย
คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย
Chief business officer, Beijing Joynco Technology Co., Ltd.
ผมจะมำพูดในมุมมองของผู้ประกอบกำร ทำงเรำทำธุรกิจด้ำน franchise ร้ำนอำหำรไทยในจีนนะครับ
เรำมีหลำยสำขำในหลำยเมืองมีในซัวเถำ ฉำงซำ กุ้ยหลิน หนำนหนิง ประมำณนี้นะครับ แต่จะไม่ได้ลงในเมือง
ระดับหนึ่งแบบปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น นะครับ เลยจะเป็นประสบกำรณ์ที่ของผู้ประกอบกำรในเมืองระดับสำม
เป็นส่วนใหญ่นะครับ ในด้ำนหนึ่งเรำก็ต้องบอกว่ำสังคมจีนปัจจุบัน ผมต้องคุยงำนกับกลุ่มที่เกิดหลังปี 2000
เป็นต้นไป ดังนั้นเขำก็จะมีควำม Extreme มำกกว่ำคนรุ่นผมหรือว่ำคนจีนรุ่นจิ่วหลิงโฮ่ว อย่ำงเมื่อครู่ที่ท่ำน
วิทยำกรหลำยท่ำนได้พูดมำนะครับไม่ว่ำจะเป็นเรื่องของ tang píng (躺平) ซึ่งก็เป็นมุมมองของคนยุคนี้นะครับ
ก็คือ 1) คุณต้องการ work-life balance 2) social security ต่างๆ ยิ่งเรำทำธุรกิจด้ำน franchise F&B
(Food and Beverage Service) คนพวกนี้ไม่ได้ดีไปกว่ำพวกเด็กจบมหำวิทยำลัย บำงคนจบม.6 ก็ออกมำหำ
งำนทำแล้ว ผมจะต้องคุยงำนกับคนพวกนี้บ่อยมำก
ในประเทศจีนอย่ำงที่เรำอำจจะพอทรำบกันอยู่คือเขำแบ่งเมืองออกเป็น 4 ระดับนะครับ คนที่อยู่ใน
เมืองระดับสี่ทำงรัฐบำลก็จะเน้นว่ำถ้ำอยู่ในชนบทให้ย้ำยเข้ำไปอยู่ในเมือง จะมีสินเชื่อให้นะครับ ดังนั้นคนกลุ่ม
นี้จะถูกย้ำยเข้ำมำอยู่ในเมือง แล้วก็ต้องหำงำนทำ บำงคนถ้ำสมมุติเรียนจบมัธยม หรือจบปวช. ปวส. เข้ำมำนะ
ครับ มันก็จะไม่ได้งำนในบริษัทใหญ่ หรือเป็นข้ำรำชกำรเพรำะอำจจะยังไม่มีวุฒิเพียงพอ เขำก็จะเข้ำมำทำงำน
ที่เป็น SME นะครับ มันเลยต้องมี SME พวกนี้เข้ำมำรองรับ เขำก็จะไม่ค่อยดิ้นรนอย่ำงหนัก เขำอยำกได้ work-
life balance และ social security ที่ดี จะเป็นรูปแบบนั้นเสียส่วนใหญ่นะครับ
26
ถ้ำเกิดว่ำไม่ได้อยู่ในปักกิ่ง หรือเซี่ยงไฮ้ คือถ้ำคนเรียนจบสถำบันที่ดีเข้ำมำ ควำมฝันส่วนใหญ่ก็คือ ฉัน
ขอไปทำงำนในปักกิ่งอย่ำงน้อยสัก 2 ปีแล้วค่อยกลับบ้ำน หรือฉันขอไปทำงำนในกวำงโจวสัก 5 ปีแล้วค่อยกลับ
บ้ำน แต่ถ้ำไม่ได้จบพวกนี้มำเขำก็ไม่มีทำงเลือกเขำก็ต้องย้ำยจำกเมืองระดับ 3 ไปอยู่ในเมืองระดับสอง 2 แล้ว
ทีนี้ต้องบอกว่ำปัจจุบันคนจีนค่อนข้ำงคิดเรื่อง work-life balance ค่อนข้ำงมำก ก็คือทำงำนต้องมี OT นะ ถ้ำ
สมมุติทำงำนไม่มี OT นี่ต้องเริ่มมำนั่งคุยกันแล้ว แต่ว่ำถ้ำเป็นคนรุ่นเก่ำประมำณรุ่น 1980-1990 เรื่องพวกนี้
อำจจะพอหยวนๆกันได้ แต่พอเป็นรุ่นหลังปี 2000 เริ่มไม่ได้แล้วนะ เช่นสมมุติว่ำคุณทำงำนบริกำรแล้วมีพัก
ช่วง 14.00 น. ต่อให้ลูกค้ำเข้ำมำพนักงำนเขำก็ไม่สนใจนะครับ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นในธุรกิจจีนปัจจุบัน ที่
จีนได้เปลี่ยนจำกภำคอุตสำหกรรมมำเป็นภำคบริกำร ดังนั้นงำนบริกำรจึงเป็นเรื่องที่สำคัญนะครับ
ดังนั้นคนที่เป็นผู้ประกอบกำรจะต้องคิดว่ำ work-life balance พนักงำนเป็นอย่ำงไร social security
ต้องครบถึงจะเรียกคนเข้ำมำทำงำนได้ แล้วยิ่งคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมำน้อย ดังนั้นในทุกอุตสำหกรรมจึงมีกำรแย่ง
คนเข้ำมำทำงำน ดังนั้นคนจีนรุ่นใหม่จึงสำมำรถที่จะเลือกทำงำนได้ หรือเลือกที่จะไม่ทำงำนก็ได้ อย่ำงตอนนี้จะ
มีคำหนึ่งขึ้นมำก็คือกำรเป็น full time children นะครับ ก็คือกำรที่ถึงแม้ว่ำเขำจะไม่ได้ทำงำนแต่เขำก็สำมำรถ
อยู่กับพ่อแม่เขำได้ ด้วยกำรที่เป็นลูกคนเดียว คุณเกิดมำเป็นลูกคนเดียวทำให้พ่อแม่ที่ต่อให้ไม่ได้มีฐำนะมำกก็
ยังมีควำมสำมำรถที่จะเลี้ยงลูกได้ ต่อให้ลูกโตไปแค่ไหนก็ตำม เช่น เงินเดือนพ่อแม่ รำยได้ 2 คน 8,000 หยวน
แต่ฉันเคยเลี้ยงลูกมำอยู่แล้ว ถึงลูกฉันจะโตอำยุ 20 กว่ำปี 24 ปี แล้วไปทำงำนมำแล้วออก หรือไม่มีงำนทำ
หรือว่ำโดนไล่ออกมำอะไรก็แล้วแต่ ไม่เป็นไรฉันยังไม่ตำยฉันก็ยังเรียนเลี้ยงลูกได้ ก็จะมีคนอย่ำงนี้อยู่ค่อนข้ำง
เยอะ ดังนั้นที่คนรุ่นใหม่ถูกถำมว่ำที่บ้ำนคุณมันก็ไม่ได้มีฐำนะ แต่ว่ำทำไมคุณถึงยังเลือกงำนอยู่ เพรำะว่ำเขำไม่
เป็นไร พ่อแม่เขำยังเลี้ยงได้อยู่เพรำะเขำเป็นลูกคนเดียวไม่ได้มีปัญหำอะไร ดังนั้นกำรติดต่องำนกับคนรุ่นใหม่
เลยต้องคิดเรื่องพวกนี้ค่อนข้ำงเยอะ
ปัจจุบันช่วงหลังโควิดเป็นต้นมำนั้น ทำงกำรจีนได้ปรับเรื่องนโยบำยสุขำภิบำล เรื่องนโยบำยกำรจ้ำง
งำนค่อนข้ำงเยอะและมีควำมเป็นสำกลมำกขึ้น ดังนั้น กำรวำงแผนเรื่องกำรขยำยธุรกิจในจีนจึงต้องปรับเปลี่ยน
ไปค่อนข้ำงเยอะ จำกเดิมทิศทำงของบริษัทจะเป็นกำรขยำยสำขำออกไปจำนวนมำก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเน้นเรื่อง
กำรส้รำง franchise แทน ต้องเน้นเรื่องกำรสร้ำงให้พนักงำนหรือว่ำให้คนรุ่นใหม่มีงำนนะครับ มีงำนที่ว่ำนี่ไม่ใช่
แค่มีงำนทำนะครับเพรำะที่จีนมีงำนเยอะมำกแต่ปัญหำของจีนคือเด็กที่เรียนจบมำแล้วไม่ว่ำจะเรียนจบมำจำก
สถำบันไหนมำกก็ตำม เขำไม่ได้ทำงำนตรงสำยที่เรียนมำ อันนี้เป็นปัญหำหลัก พอเรียนจบมำแล้วไม่ได้ทำงำน
ตรงสำย เขำก็รู้สึกไม่อยำกทำงำน คนเรียนจบวิทยำกำรคอมพิวเตอร์มำแต่ได้ทำงำนภำคบริกำร เขำก็ไม่
อยำกจะทำงำนด้ำนนั้นใช่ไหมครับ หรือว่ำเรียนจบงำนภำคบริกำรแต่ต้องมำทำงำนสำยเทคโนโลยี บำงครั้งอยู่
กันแค่ 3 ปีก็เบื่อแล้ว ไม่อยำกทำงำนแล้ว แต่คนพวกนี้เขำจะคิดว่ำ “ฉันอยำกจะเป็นเจ้ำของกิจกำร” กัน
ค่อนข้ำงเยอะมำก
27
ณ ปัจจุบัน อย่ำงในบริษัทของเรำสิ่งที่เรำได้รับกำรนำเสนอมำมำกที่สุดจำกบริษัทอสังหำทรัพย์ต่ำงๆ
หรือว่ำจำกภำครัฐบำลที่มำชวนเรำเข้ำไปลงทุนในกิจกรรมด้ำน Yèshì (夜市) หรือ Night market ปัจจุบันที่
จีนมีกระแสเรื่องนี้เยอะมำก ถำมว่ำทำไมต้องเป็น Night market ทั้งที่มันไม่ได้ทำเงินมำกมำยอะไรเลย สำหรับ
เจ้ำของพื้นที่มันอำจจะเพิ่มมูลค่ำของพื้นที่ขึ้นมำได้ แต่สำหรับรัฐบำลท้องถิ่นมันเป็นกำรเพิ่มธุรกิจ SME เป็น
กำรสร้ำงงำนให้กับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นยิ่งเรำมี franchise เข้ำมำเยอะ ยิ่งมี Night market เข้ำมำเยอะ เรำจะ
สำมำรถสร้ำงงำนให้กับคนรุ่นใหม่ได้ง่ำยนะครับ แล้วอย่ำงรัฐบำลจีนในปัจจุบันชอบแนวคิด Night market
แบบไทยมำก เพรำะว่ำคนรุ่นใหม่จบมำไม่ใช่ไม่มีงำนทำนะครับ แต่เขำเลือกงำน แต่เขำจะไม่เลือกงำนถ้ำเขำ
เป็นเจ้ำของกิจกำรเอง เขำต้องป้อนโครงกำร หำรูปแบบ franchise ทำให้พวกเขำทำงำนกันมำกขึ้นนะครับ
หรือเป็นเจ้ำของกิจกำรได้มำกขึ้น อันนี้เป็นรูปแบบที่รัฐบำลจีนท้องถิ่นนิยมเข้ำมำหำ Partner ด้ำนพวกนี้
ค่อนข้ำงเยอะครับ
ปัจจุบันถ้ำคุณทำบริษัทขึ้นมำ คุณต้องคิดเรื่อง ESOP (Employee Stock Option Program) ด้วยนะ
ครับ ถ้ำเกิดเป็นพนักงำนนะครับ แล้วสมัยนี้เรำเรียกเขำเป็นพนักงำนไม่ได้แล้วนะครับ เรำต้องเรียกเขำว่ำ
Héhuo rén (合伙人) หรือคนที่มำเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน และพนักงำนที่มีระดับสูงหน่อย ปัจจุบันผมต้อง
เรียกทุกคนว่ำเป็น leader นะ สมมุติคนชื่อหลี ผมก็ต้องเรียกว่ำ คุณหลีจ่ง ทั้งที่เขำมีตำแหน่งต่ำกว่ำเรำ ก็
เพรำะว่ำเรำต้องให้เกียรติเขำ ว่ำเขำเป็นหุ้นส่วนร่วมกันนะครับ เรำต้องมีหุ้นลมให้ ต้องมี stock equity ให้ ถึง
จะทำงำนกับเรำไปได้นำน ถึงจะสำมำรถใช้ควำมคิดร่วมกันได้นะครับ เพรำะคนจีนรุ่นใหม่มีทำงเลือก ยิ่งมำเป็น
ยุค 1980-1990 ที่เป็นยุคลูกคนเดียว พ่อแม่เขำก็มีเงินเก็บ ยิ่งคนจีนสมัยก่อนมักมีเงินเก็บเยอะ เขำเลยมี
ทำงเลือกเยอะ ทุกคนเลยอยำกเป็นเจ้ำของกิจกำรกัน สมัยนี้ถ้ำคุณมีพนักงำนที่เก่งมำกๆ คุณต้องคิดแล้วว่ำจะ
ดันเขำอย่ำงไรให้เขำโตไปแล้วยังเชื่อมต่อกับเรำได้อยู่ สมัยนี้กำรจ้ำงงำนไม่ใช่ว่ำคุณจะเป็นหัวหน้ำเขำตลอดไป
คุณต้องหำทำงดึงลูกน้องคุณขึ้นมำเป็นหุ้นส่วนให้ได้ อย่ำงถ้ำคุณทำงำนกับเรำมำแล้ว 2-3 ปี เรำก็ต้องลู่ทำง
แล้วว่ำ คุณอยำกเป็น supplier ให้เรำไหม คุณอยำกจะไปเปิด franchise กับเรำไหม คุณอยำกจะได้เงินทุนไป
ทำกิจกรรมเพิ่มไหม อันนี้ถึงจะเป็นรูปแบบที่สำมำรถเข้ำไปต่อรองงำนกับคนรุ่นใหม่ของจีนได้นะครับ แล้วเขำ
มองพวกนี้เป็น career path นะครับ
ในปัจจุบันสังคมจีนจะคล้ำยกับสังคมญี่ปุ่นช่วงปี 1990 นะครับ คือสังคมญี่ปุ่นในปี 1990 เขำไม่มี
Work-life Balance มีกำรแข่งขันสูง แต่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ก็เหมือนคนจีนปัจจุบันเลยครับ ก็คือเขำ tang píng
(นอนรำบ) ไม่แข่งขัน เขำจะขอ Work-life Balance เป็นหลักนะครับ ดังนั้น จีนในปัจจุบันสำมำรถเทียบเคียง
กับญี่ปุ่นในปี 1990 ได้จนถึงปัจจุบันนะครับ ผมได้ยินในกลุ่มนกลงทุนว่ำจีนในปัจจุบันมันไม่โต มัน GDP มันโต
ต่ำลงเรื่อยๆนะ ซึ่งเป็นเรื่องจริง ต้องยอมรับว่ำจีนไม่สำมำรถเอำอุตสำหกรรมภำคบริกำร หรือแนวคิด
เศรษฐศำสตร์เดิมไม่สำมำรถใช้กับจีนได้แล้ว รัฐบำลจีนเองก็ยอมรับว่ำไม่สำมำรถทำได้ เวลำจะทำอะไรก็ต้อง
28
เทียบเคียงดูญี่ปุ่นก่อนแล้วจีนก็จะทำตำมรูปแบบนั้น ปัจจุบันสิ่งที่รัฐบำลจีนท้องถิ่นพยำยำมทำคือ domestic
tourism หรือก็คือพยำยำมทำแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นมำ ทำให้มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆนะครับ ถำมว่ำทำไมต้อง
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่มันทำเงินสู้ภำคอุตสำหกรรมไม่ได้ นั่นก็เพรำะมันเกิดกำรสร้ำงงำนนะครับ มันสำมำรถ
เปลี่ยนคนจำกที่เคยทำงำนอยู่ในภำคอุตสำหกรรมแล้วมำกำรย้ำยฐำนไปเวียดนำมบ้ำง ไปไทยบ้ำง ไปอินเดีย
บ้ำง ย้ำยกลับมำสู่ภำคบริกำรได้ง่ำยขึ้น ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเทรนด์หลักในปัจจุบันเวลำคุยกับรัฐบำลท้องถิ่นจีน
ว่ำคุณจะทำอย่ำงไรในกำรสร้ำงงำนให้คนจำกภำคอุตสำหกรรมที่ย้ำยมำภำคบริกำรที่มีเยอะมำกขึ้นเรื่อยๆ นี่
เป็นเรื่องที่เรำต้องเข้ำใจในกำรพัฒนำธุรกิจในจีน นี่ก็เป็นกระแสหลักในจีนปัจจุบันนะครับ ขอบคุณมำกครับ
29
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนจีนรุ่นใหม่ในมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โดย
รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์
อาจารย์ประจาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
จำกฟังหลำยท่ำนมำนะคะ เดี๋ยวจะขอใช้คำ Generation แบบตะวันตกแล้วกันนะคะในฐำนะที่เป็น
Generation X (Gen Xers) นะคะ สิ่งที่ฟังแล้วเข้ำถึงอำรมณ์ควำมรู้สึก และรู้สึกเห็นใจ แล้วอยำกชวนให้ท่ำน
ที่มีควำมสนใจในประเทศจีนได้นำไปคิดต่อ นั่นคือเรื่องจำกคุณเนสที่มันให้ควำมรู้สึกว่ำเหนื่อยเหลือเกิน จะไม่
ไหวแล้ว อยำกจะบอกคุณเนสให้สบำยใจนะคะว่ำเรื่องนี้ Gen Xers เป็นกันทั้งโลก แต่แค่ว่ำตอนนี้โฟกัสมันมำ
อยู่ที่จีนเท่ำนั้นเองค่ะ และจำกที่คุณตี้พูดเมื่อครู่นี้ หรือจริงๆคือตั้งแต่ฟังคุณดำว คุณเดือน คุณเนส จนมำถึงคุณ
ตี้ อยำกจะบอกถึงท่ำนที่สนใจในเอเชียตะวันออก ประสบกำรณ์ที่จีนเจออยู่เป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นและเกำหลีใต้เจอ
มำแล้ว
จำกที่ฟังมำมีแค่คุณตี้คนเดียวที่พูดถึงคนกลุ่ม lower-middle class ว่ำเขำใช้ชีวิตในสังคมจีนอย่ำงไร
ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่ำสนใจมำกเลย เพรำะว่ำเขำเป็นประชำกรส่วนใหญ่ของประเทศจีน ด้วยควำมที่คน
กลุ่มนี้ไม่ค่อยสนใจอะไรมำกนักยกเว้นว่ำเขำจะเป็นเจ้ำของกิจกำรเอง เป็นกลุ่มที่มีควำมเคลื่อนไหวสูงมำกและ
พร้อมจะทดลองใช้ชีวิตในหลำยรูปแบบ สำหรับจีนเองกลุ่มคนขนำดใหญ่ที่มีควำมเคลื่อนไหวสูงและยังไม่มี
identity ที่ชัดเจน เป็นกลุ่มที่น่ำจะเติบโตต่อไปได้ในเชิงของ creative economy ไม่ว่ำเขำจะเป็น creator
หรือเป็นกลุ่มเป้ำหมำยก็ตำม ซึ่งสำหรับไทยเองคนกลุ่มนี้ก็น่ำสนใจในฐำนะกลุ่มเป้ำหมำยของ soft power แต่
ประเด็นก็คือคนกลุ่มนี้เขำไม่ได้สนใจ โดยเฉพำะถ้ำสังคมจีนเกิดกำรเปลี่ยนแปลงและเขำสำมำรถออกข้ำงนอก
ได้ เขำจะยังอยู่ในประเทศนี้หรือไม่ อันนี้ให้ไปคิดต่อนะคะ
30
จำกที่คุณตี้พูดมำเขำค่อนข้ำง extreme ซึ่งคำนี้มันตีควำมได้กว้ำงมำกในด้ำนควำมสัมพันธ์ระหว่ำง
ประเทศ แต่อย่ำงไรก็ตำมจำกที่คุณตี้พูดมำ วรำรักคิดว่ำมันค่อนข้ำง old fashioned มำกเลยนะคะ พวกวิธีคิด
ของรัฐบำลจีน หรือของไทยเองก็ตำม ที่พยำยำมจะสร้ำงกิจกรรมทำงเศรษฐกิจ (economic activity) ด้วยกำร
สนับสนุนให้ทุกคนเป็นเจ้ำของ SME และกำรทำ Night market ทั้งมันที่ไม่ได้เพิ่มมูลค่ำทำงเศรษกิจมำกนัก
แต่กลับแค่หวังให้คนที่ไม่คิดทำงำนรู้สึกว่ำยังอยู่ในสังคมและยังมีส่วนร่วมกับเศรษกิจของประเทศ ซึ่งที่บอกว่ำ
old fashioned เพรำะว่ำประเทศญี่ปุ่นทำมำแล้วและล้มเหลวด้วย ทุกวันนี้เขำยังคุยกันอยู่เลยว่ำปี 1990-
2010 เป็นช่วง Lost Decades ไต้หวันเองก็ประสบปัญหำนี้ เป็นที่น่ำสนใจว่ำจีนจะแก้ปัญหำนี้อย่ำงไร
เพรำะว่ำจีนมีจำนวนประชำกรเยอะมำกที่สุดในแถบนี้ นอกจำกนี้ ยังมีเรื่องปัญหำเด็กที่จบสถำบันชั้นนำแล้วหำ
งำนไม่ได้ แต่คนส่วนมำกก็ไม่ได้จบสถำบันชั้นนำกันหรอก เป็นเหมือนกันในหลำยประเทศ เรำยังต้องรอดูว่ำเขำ
จะแก้อย่ำงไร ที่น่ำสนใจมำกขึ้นไปอีกคือจีนจะทำอย่ำงไรที่จะให้คนกลุ่มนี้เข้ำร่วมกับคุณ
วิทยำกรทั้งสี่ท่ำนว่ำที่พูดโดยเฉลี่ยภำพรวมมำมันเป็นของกลุ่ม middle class ในควำมหมำยทั่วไป
ด้ำนกำรศึกษำ แต่กลุ่มนี้มีแยกเป็นสำมกลุ่มนะคะ มันมี lower-Middle Class ที่เกี่ยวข้องกับที่คุณตี้พูด อีก
กลุ่มคือ middle-middle class ซึ่งเป็นกลุ่มของ Gen Xers เป็นส่วนใหญ่ และกลุ่ม Upper-Middle Class ไม่
ทรำบว่ำท่ำนวิทยำกรพูดภำพของกลุ่มไหน แต่เท่ำที่ฟังมำคุณเนสจะพูดถึง Upper-Middle Class ซึ่งมันเป็น
ภำพที่เหนื่อยยำกเกินไปไหม นี่ขนำดเป็น Upper-Middle Class ยังเหนื่อยขนำดนี้เลย แล้ว middle-middle
class ล่ะ ไม่ถอดใจยอมแพ้ลงนอน (tang píng) กันหมดหรอ
และที่แปลกก็คือเรื่องที่ทั้งสำมท่ำนพูดมำนั้น วรำรักอ่ำนเจอมำเป็น 10 ปีแล้ว แต่ไม่ได้อ่ำนมำจำก
สังคมจีน วรำรักอ่ำนมำจำกเอกสำรสังคมญี่ปุ่น ที่น่ำสนใจคือคำว่ำ “ขึ้นฝั่ง” (Shàng'àn) คำนี้หมำยควำมว่ำ
อะไรกันแน่สำหรับ Gen Xers และ Gen Y ตอนต้น เพรำะคุณเนสบอกว่ำ Gen Xers แต่งงำนเร็ว หย่ำเร็ว กำร
เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมันจะไม่ทำให้ชีวิตยำกขึ้นไปอีกไหม อะไรกันแน่ที่เป็นกำรขึ้นฝั่ง (Shàng'àn) จริงๆ
รูปแบบชีวิตแบบไหนกันแน่ที่เขำอยำกได้จริงๆ เรำมีควำมรู้สึกว่ำสังคมจีนยังไม่ตกผลึกเนื่องจำก Gen Xers
เพิ่งจะเห็นวิกฤตปัญหำด้ำนอัตลักษณ์ของตัวเอง ไม่ใช่แค่ในฐำนะ generation แต่ในฐำนะ individual ด้วย
เพรำะพ่อแม่ที่เป็น Gen Xers ท้ำยที่สุดแล้วจะทำให้เส้นทำงชีวิตของลูกที่เป็น Gen Y บิดเบี้ยวไปจำกเดิม
อย่ำงในญี่ปุ่นก็กลำยเป็นปัญหำอำชญำกรรมแบบแปลกๆ เรำต้องรอดูว่ำจีนจะทำได้ไหม กับกำรเอำปัญหำของ
ตัวเองมำเป็น creative economy ของตัวเองได้ อย่ำงในญี่ปุ่นกำร์ตูนหรือมังงะที่เป็นแนวอำชญำวิทยำ
(criminology) สำมำรถทำเงินได้มำก แต่มันจะดูเศร้ำไปไหมสำหรับสังคมที่น่ำจะมีเส้นทำงที่ดีกว่ำนี้
ที่น่ำสนใจอีกอย่ำงคือกำรเกิด Hollowness ซึ่งเป็นคำที่สังคมยุโรปใช้เรียกสถำนกำรณ์สังคมของ
ตัวเองในช่วงประมำณปี 2010 เป็นต้นมำ คือกำรที่ตัวปัจเจกบุคคลรู้สึกว่ำชีวิตตัวเองนั้นกลวง ว่ำงเปล่ำ ไม่รู้ว่ำ
จุดมุ่งหมำยปลำยทำงอยู่ตรงไหน หรือต้องทำอย่ำงไรให้ถึงฝั่ง อันนี้เป็นสิ่งที่ยุโรปพยำยำมแก้ไขมำเป็นสิบปี
31
แล้วแต่ยังไม่สำเร็จ แต่หลำยที่ก็สำมำรถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกำสได้โดยกำรปรับเรื่องที่คนของเขำมี mobility
(ควำมคล่องตัว) ที่สูงและแต่ละคนก็ยังไม่รู้ว่ำตัวเองอยำกจะทำอะไร เรื่องนี้ถ้ำมองในแง่บวกมันก็ถือว่ำเป็น
พื้นที่ของโอกำสที่จะลองแนวคิดใหม่ในกำรดึงดูดคนได้ แต่ข้อเสียก็คือในเมื่อคนมี mobility (ควำมคล่องตัว) ที่
สูงเขำก็ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ในประเทศที่ไม่มีแรงจูงใจให้อยู่ ทำให้มีผลกระทบกับฐำนภำษีเนื่องจำกตอนนี้ Gen
Xers เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่จ่ำยภำษีให้กับรัฐบำลและคนรุ่นก่อนหน้ำ Gen Xers จึงคำดหวังให้รุ่นต่อไปอย่ำง Gen
Y และ Gen Z มำจ่ำยภำษีดูแลรุ่นตัวเอง แต่ถ้ำคนรุ่นไม่จ่ำย เขำอยำกจะ work-life balance อยำกจะออกไป
โลกภำยนอกหรืออะไรแบบนี้ แล้ว Gen Xers จะทำอย่ำงไร ซึ่งจีนเองก็ถูกเตือนแล้วว่ำอย่ำมั่นใจในทุนสำรอง
ของตัวเองมำกเกินไป เพรำะ Gen Xers ในตอนนี้คือกลุ่มคนที่ครองตำแหน่งทำงสังคมของโลกอยู่และในสังคม
จีนเรำต้องมำดูว่ำเขำจะออกนโยบำยอย่ำงไร
Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
รศ.ดร.จานง สรพิพัฒน์ :
ผมเห็นด้วยกับทำงอำจำรย์วรำรักและท่ำนวิทยำกรทุกท่ำน แต่ผมคิดว่ำยังมีอยู่ 2-3 เรื่องที่ผมอยำก
แชร์ให้ทุกคนช่วยกันคิดครับ ในภำพของจีนผมคิดว่ำผู้จัดกำรสัมมนำ คุณยุวดีจัดทำได้ดีมำก ทำให้เห็นภำพทั้ง
เมืองใหญ่ระดับหนึ่ง ระดับสอง ของเมืองจีนได้ครบถ้วน แต่ผมคิดว่ำยังขำดภำคชนบทของจีนอยู่ ผมไม่รู้ว่ำ
ประชำกรเขำมีเท่ำไหร่แต่คงไม่ต่ำกว่ำ 30% ซึ่งตรงนี้ผมคิดคงต่ำงกัน และสำหรับประเทศไทย ที่เรำพูดกันเยอะ
ในกำรตั้งคำถำมกับจีนบ้ำง ญี่ปุ่นบ้ำง เกำหลีบ้ำง ขอพูดในฐำนะ Babyboomer ที่จริงแล้วก็คือว่ำผมผ่ำนช่วงที่
เมืองไทยจนมำกและเมืองไทยก็ค่อยๆ ร่ำรวยขึ้นจนเริ่มหยุดนิ่งแล้วก็ค่อยๆเสื่อมลง ทุกวันนี้เรำก็มีปัญหำว่ำคน
ใดระดับสูง อย่ำงผมเองก็มีลูกศิษย์จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้ำนวิศวกรรมแล้วเขำมำเป็นผู้ช่วยวิจัยอยู่พักหนึ่ง
แต่สุดท้ำยก็ไปขำยกำแฟ แล้วก็มีลูกของเพื่อนที่จบสถำปัตยกรรมศำสตร์จำกต่ำงประเทศ แต่กลับมำก็มำขำย
กำแฟเหมือนกัน ผมรู้สึกว่ำเรำก็มีปัญหำเดียวกันเรื่องคนจบมำแล้วไม่ได้ใช้ในสิ่งที่ตัวเองเรียน สุดท้ำยเลยต้อง
ไปทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่ำเป็นงำนออกแนวสบำยๆ หน่อยที่ไม่ต้องแข่งขันกับใครมำกนัก อย่ำงเปิดร้ำนกำแฟของ
ตัวเองสบำยๆ ไป อันนี้เป็นกรณีของคนชั้นสูง
ส่วนคนระดับกลำง-ล่ำงนั้นผมไม่รู้ เพรำะผมยังไม่เคยเห็นงำนวิจัยของคนไทยด้วยกันเลย และ
สถำนกำรณ์ของเรำก็มีปัญหำแรงงำนในระดับล่ำงลงไปอีกของเรำก็ขำด แต่ตรงนี้เรำยังดีกว่ำเมืองจีน ดีกว่ำ
ญี่ปุ่น ตรงที่ว่ำเรำมีประชำกรจำกประเทศเพื่อนบ้ำน อย่ำงพม่ำ ลำว เขมร แต่คนเหล่ำนี้เขำก็สร้ำงตัว แล้วคน
32
พม่ำบำงคน วันก่อนผมอ่ำนข่ำวเจอ น่ำสนใจมำกเลยว่ำตำรวจไปจับที่เชียงใหม่ ที่ระนอง เพรำะว่ำอ้ำงเป็น
เจ้ำของ ให้คนไทยเป็นเจ้ำของในนำม แต่เจ้ำของตัวจริงคือคนพม่ำ ถ้ำผมคิดแบบพวกอเมริกัน ผมจะยกสัญชำติ
ไทยให้เขำไปเลยเพรำะว่ำเขำมีควำมสำมำรถ เขำสำมำรถสร้ำงงำน มีควำมสำมำรถในด้ำนเศรษฐกิจและสังคม
สร้ำงรำยได้ให้คนในพื้นที่ แต่เรำยังใช้ค่ำนิยมแบบเก่ำ ดังนั้นเรื่องนี้ถือว่ำเป็นควำมผิดตำมกฎหมำย มำขำย
แรงงำนอยู่ไทย 10 ปี กลำยเป็นเถ้ำแก่เฉยเลย แล้วก็เอำคนพม่ำด้วยกันมำเป็นแรงงำน ผมก็เลยอยำกจะให้ทุก
คนลองคิดว่ำ ในประเทศไทยเรำตอนนี้ ผมไม่เห็นงำนวิจัยเลยว่ำเรำก็มีปัญหำแบบนี้ทั้งระดับล่ำง ระดับกลำง
ระดับสูง แล้วเรำจะทำอย่ำงไรให้ออกแบบกำรแก้ปัญหำเพื่อให้สังคมเดินไปข้ำงหน้ำ ตอนนี้เมืองไทยเข้ำสู่
ageing society อย่ำงสมบูรณ์แล้วนะครับ เพรำะว่ำอัตรำล่ำสุดที่ผมอ่ำนข้อมูลจำกคณะประชำกรศำสตร์ เขำ
ออกข่ำวมำว่ำอัตรำกำรตำยจะมำกกว่ำอัตรำกำรเกิดในปีนี้ เดือนมิถุนำยนที่ผ่ำนมำ เพรำะฉะนั้นมันมำเร็วกว่ำ
ที่เรำคำดกำรณ์ไว้ประมำณ 10 ปี ผมก็ขอสั้นๆไว้แค่นี้ว่ำมันก็เป็นโจทย์ที่ประเทศไทยเรำก็ไม่เคยถำมตัวเอง ก็
เป็นเรื่องที่น่ำสนใจครับ ขอบคุณครับ
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง:
พอดีได้ฟังตั้งแต่แรกก็ดีมำกเลย ยิ่งมำถึงตอนท้ำยกลัวว่ำจะหลุด ผมไม่รู้ว่ำจะจับประเด็นเดียวกันได้
หรือเปล่ำ ที่อำจำรย์วรำรักถำมขึ้นมำตอนท้ำย ผมเลยสนใจมำกเพรำะคุณยุวดีคงจะนำไปเสนอเป็น Initiative
policy recommendations ว่ำต่อจำกนี้ใครจะมีบทบำทสำคัญในอนำคตของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่ำจะเป็น Upper-
middle class หรือ Lower-Middle Class หรือ Middle-Middle Class ที่พูดอย่ำงนี้เพรำะว่ำคนที่จะ
เปลี่ยนแปลงสังคมได้ก็คือคนระดับชนชั้นกลำง ว่ำมันเกิด Critical mass จำกส่วนไหนมำกที่สุด เพิ่มเติมจำกที่
อำจำรย์วรำรักได้ตั้งข้อสังเกตเอำไว้ ต้องฝำกทำงอำจำรย์ยุวดีช่วยถำมผู้วิจัยที่กำลังนำเสนอด้วยครับ ขอบคุณครับ
ดร.น้าทิพย์ อักษรกุล:
สวัสดีค่ะ รู้สึกดีใจมำกเลย เพรำะว่ำนอกจำกจะได้ควำมรู้แล้ว ก็ยังได้รับควำมสนุกสนำนเพลิดเพลิน
ได้รับควำมหลำกหลำยพอสมควรหลำยอย่ำงก็ยืนยันควำมคิดที่เกี่ยวกับคนจีนและชำติจีน ที่ตอนนี้รู้สึกอยู่นะ
คะ แต่หลำยอย่ำงก็ทำให้คิดต่อ แล้วก็มีประเด็นที่อยำกพูดอีกครั้งหนึ่งเพรำะว่ำอำจำรย์เนสและวิทยำกรท่ำน
อื่น แม้กระทั่งอำจำรย์วรำรักก็พูดเกี่ยวกับเรื่อง “เหนื่อย” เรื่องเหนื่อยนั้นเรำสังเกตได้ว่ำมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ทุกสังคมก็เป็น สังคมไทยก็เป็น แต่ว่ำสังคมจีนมันค่อนข้ำงจะสุดโต่งไปหน่อย คือว่ำทุกคนต้องทำให้เหมือนกับ
เพื่อนบ้ำน เขำมีอะไรเรำก็ต้องมี เขำมีรถ เรำก็ต้องมีรถ เขำมีรถกี่คัน เรำก็ต้องมีงำนทำเยอะๆ เรำต้องมีงำน 3
งำน 4 งำน เพื่อที่จะรวย แล้วก็พอมีแล้วก็ต้องพูดถึงสิ่งที่เรำมี ลูกฉันไปโรงเรียนไหน ฉันไปท่องเที่ยววันหยุดที่
33
เมืองไทยหรืออะไรอย่ำงนี้ แล้วเวลำเรำเจอคนพวกนี้ เรำก็สงสัยว่ำทำไม ทำไมถึงต้องเหนื่อยขนำดนี้ แล้วมัน
สำคัญนักเหรอ ก็เลยดีใจมำกเลยที่มี “กำรนอนรำบ” กันแบบนี้
อยำกจะมองย้อนกลับมำถึงเมืองไทย ต้องขอบคุณอำจำรย์จำนงที่เริ่มไว้ว่ำ ตอนนี้รัฐบำลก็เริ่มตระหนัก
ว่ำกำรที่สังคมคนจีนได้เห็นโลกภำยนอกเยอะขึ้นจำกด้วยโซเชียลมีเดีย หรือจำกกำรเดินทำงไปต่ำงประเทศ ซึ่ง
รัฐบำลก็เคยสนับสนุนให้ไปเรียนหนังสือที่ต่ำงประเทศ พอมีปัญหำเขำก็จะใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องหลอมรวม
ควำมสำมัคคี ควำมรักชำติ อะไรอย่ำงนี้นะคะ เรำก็รู้สึกว่ำเขำก็เน้นด้ำนนี้มำกขึ้น ทำให้เรำย้อนกลับมำมอง
เมืองไทยเหมือนกันว่ำเมืองไทยในระยะหลังช่วง 2-4 ปีมำนี้ เรำก็จะเน้นกำรใช้วัฒนธรรมในกำรสร้ำงชำติ
แม้ว่ำเรำจะไม่เคยพูดออกมำตรงๆ แต่จะสังเกตว่ำเรำจัดงำนหลำยร้อยชนิด ตั้งแต่อุ่นไอรัก, OTOP ที่จัดแล้วจัด
อีกไม่จบสักที เสร็จแล้วมีงำนสไตล์ เสร็จแล้วก็มีงำนครำฟต์ ทุกอย่ำงให้มันสนับสนุนสิ่งซึ่งเรำอำจจะเรียกว่ำ
ลักษณะไทย แล้วในกำรทำอย่ำงนี้ค่ะ บำงทีเรำก็ยังใช้ Concept เดิมๆ เก่ำๆ หรืออำจจะพูดกันภำษำเรำก็คือ
เชยๆ คือถ้ำมันเป็นวัฒนธรรมก็จะมีวิธีกำรดูเพียงอย่ำงเดียว วัฒนธรรมต้องเป็นเช่นนี้ ทีนี้ดิฉันคิดว่ำจีนก็อำจจะ
เหมือนกัน อันนี้ก็อยำกจะฟังผู้เชี่ยวชำญพูดนะคะ แต่ว่ำของไทยนี่แน่นอนเลยคือวัฒนธรรมต้องเป็นอย่ำงนี้
อย่ำงเดียว เพรำะฉะนั้น วัฒนธรรมในควำมคิดเห็นของผู้เชี่ยวชำญ ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศไทยก็จะมองว่ำคือ
สิ่งที่เปลี่ยนไม่ค่อยได้ เรำจะต้องเอำอย่ำงนั้น ควำมเป็นไทยมันติดอยู่ตรงนั้น ในขณะซึ่งในควำมเป็นจริงเรำก็
เหมือนเด็กจีน คนหนุ่มสำวจีน ที่เขำเปลี่ยนแปลงไปตำมสิ่งแวดล้อม สิ่งซึ่งเขำไปเห็น ไปรับมำจำกหลำยแห่ง
เลยทำให้เล็กคิดว่ำถ้ำเรำจะใช้วัฒนธรรมในกำรนำควำมคิดของคน มันอำจจะต้องคิดกว้ำงกว่ำนั้น มันอำจจะ
ต้องมีนวัตกรรมทำงวัฒนธรรม หรือมีนวัตกรรมทำงควำมคิด มำผสมกับของเก่ำเพื่อที่จะให้ของเก่ำมันอยู่ได้ดี
แต่มันก็จะอยู่มันจะอยู่ได้ดีที่ใหม่ ในบริบทใหม่ ในควำมต้องกำรของคนใหม่ ซึ่งหมำยควำมว่ำมันก็ต้องถูก
ปรับเปลี่ยน
อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้อยำกฟังมำกเลย คือว่ำคนจีนที่น้องตี้บอกว่ำเขำอยำกจะออกไปข้ำงนอก คนจีน
ระดับล่ำง ระดับกลำง ระดับไม่ได้สูงมำก ที่อยำกออกไปนอกประเทศ เขำมีอิสระ ถ้ำเขำมำได้เขำก็จะมำ แล้ว
เมื่อเขำมำเขำก็จะมีควำมเก่ง ควำมแกร่ง ควำมอึด เพรำะเขำฝึกฝนกันมำดี ว่ำต้องอดทนต้องถึงจะประสบ
ควำมสำเร็จ ควำมฉลำดก็ดี ดังนั้นแล้ว ประเทศไทยจะมำเป็นสถำนที่ให้เขำมำแสดงควำมเก่ง ควำมแกร่ง
ควำมสำเร็จ แล้วเรำได้คิดอะไรในกำรที่จะเตรียมสังคมของเรำ เรำมีนโยบำยอย่ำงไรในกำรที่จะรับเขำ แล้วจะ
เอื้อเขำ ในขณะเดียวกันก็จะเอื้อให้คนไทยหรือธุรกิจของไทยได้รับประโยชน์จำกกำรที่เขำมำร่วมกับเรำอยู่ในนี้
อยำกฟังเรื่องนี้ด้วยค่ะ อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงกำรระวังเรื่องผิดกฎหมำยอะไรนะคะ แต่ว่ำเอำแค่นี้ก่อน
ขอบพระคุณค่ะ
34
ส่วนที่ 2
ความนิยมไทยในจีน
และข้อเสนอพัฒนา Soft Power ไทย
35
ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล
อาจารย์ประจาคณะ Asian Studies, Beijing of International Studies University (BISU)
ช่วงที่สองนี้ ดำวจะมำเล่ำถึงประสบกำรณ์ของตัวเองนะคะ ที่มีเพื่อนคนจีนหรือว่ำเรำได้สัมผัสกับกลุ่ม
คนจีนที่ทำงำนอยู่ในวงกำรไทย-จีน อำจจะเป็นคนจีนที่ทำงำนในบริษัทไทย หรือบริษัทจีนที่ทำเกี่ยวกับนำเข้ำ
ภำพยนตร์มำที่จีนนะคะ ในเรื่องของ soft power ต้องบอกว่ำประชำกรจีนนั้นมีจำนวนมหำศำลและตอนนี้ก็
ถือว่ำ soft power ของไทยมีโอกำสดีในสังคมจีน เพรำะว่ำอย่ำงที่เรำทรำบว่ำจีนเขำจะมีกำรคัดกรองและมี
กำรควบคุมในเรื่องของสื่อ เรื่องของภำพยนตร์จะเข้ำมำฉำยในจีน อย่ำงหนังของอเมริกำก็ไม่ใช่ว่ำทุกเรื่องจะ
เข้ำมำฉำยได้ จีนไม่ได้ tracking ตำมรูปแบบเหมือนโรงหนังอื่นทั่วโลก จะมีบำงเรื่องเท่ำนั้นที่เข้ำมำฉำย และถ้ำ
เรำดูกระแสในเอเชียของเรำที่ยังดังนั้นก็จะเป็นในเรื่องของกระแส K-pop ของเกำหลีนะคะ กระแสของเกำหลี
นี้เข้ำตีตลำดแตกทุกประเทศเลยในอำเซียน แต่ในประเทศจีนนั้นในช่วงเริ่มต้นนเหมือนจะทำได้ดี แต่ถูกรัฐบำล
จีนเข้ำมำควบคุมก่อนที่จะตีตลำดแตก ต้องขอบอกว่ำที่จีนนั้นเรื่องกระแส soft power ต่ำงๆของประเทศอื่นที่
จะเข้ำประเทศจีนจะมีอีกส่วนหนึ่งที่มีผล นั่นคือเรื่องของ “ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ” และเรื่องของ
กำรเมืองนั้นสำคัญมำกสำหรับรัฐบำลจีน เพรำะฉะนั้น ในก่อนหน้ำนี้ที่ประเทศจีนมีปัญหำกับประเทศเกำหลี
เรื่องระบบในกำรป้องกันนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกำที่ไปติดตั้งที่เกำหลีใต้ ก็เกิดกระแสโจมตีเกำหลีใต้ขึ้นมำ
ในช่วงนั้นจีนได้เริ่มทำกำรแบนละครจำกเกำหลีใต้และซีรีส์เกำหลีทั้งหมด รวมถึงดำรำเกำหลีที่ได้เป็น Brand
Ambassador ให้สินค้ำจีนก็ถูกหยุดงำนกันหมดเลย
ส่วนกกระแสของไทยเริ่มเข้ำมำได้เพรำะว่ำเริ่มจำกเรื่องของละคร อันนี้พูดในมุมของจีนยุคใหม่นะคะ
เรื่องของละครและหนัง เช่นเรื่องสงครำมนำงฟ้ำที่เกี่ยวกับแอร์โฮสเตส อันนั้นเป็นเรื่องแรกเลยที่ดังมำกในจีน
แล้วก็คนจีนชอบมำกๆ และต่อมำก็มีหลำยเรื่อง จึงมีผู้ประกอบกำรจีนที่มำตั้งบริษัทอยู่ในไทยเขำได้ทำเรื่อง
เกี่ยวกับกำรที่จะนำหนังไทย ละครไทยเข้ำมำจีนมำกขึ้น อีกอย่ำงหนึ่งคือเรำได้รับกำรสนับสนุนจำกกระทรวง
วัฒนธรรมไทยด้วย ที่ทำงผู้บริหำรมีควำมตั้งใจที่จะให้ soft power ไทยเข้ำมำในจีนมำกขึ้น อีกอย่ำงที่เรำเห็น
ในมุมของกำรทำงำนของทำงกำรไทยในจีนคือเรื่องของ ททท. (กำรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ที่มีกำรจัด
แคมเปญในจีนเยอะมำกเลย คือถ้ำเป็นคนไทยในจีนจะรู้เลยว่ำที่เซี่ยงไฮ้หรือปักกิ่ง หรือว่ำเมืองชั้นหนึ่ง เมืองชั้น
สอง หรือที่ไหนก็ตำมที่มีกงสุลไทยอยู่ จะมีกำรจัดกิจกรรมอย่ำงเช่น Open House สถำนทูตไทย หรือทำ
กิจกรรมให้คนจีนได้บัตรฟรีเข้ำมำดูกำรแสดงไทย กำรต่อยมวย กำรชิมอำหำรไทย หรือว่ำเรื่องของกำร
ประชำสัมพันธ์สินค้ำไทย ซึ่งภำยหลังก็มีเรื่องของ SME ที่เข้ำมำในจีนมำกขึ้น และทำงสถำนทูตร่วมกับ
36
กระทรวงพำณิชย์ที่อยู่ต่ำงประเทศก็สนับสนุนให้สินค้ำไทยเข้ำมำมำกขึ้นโดยเฉพำะ ททท. ที่มีกำรจัดแคมเปญ
เยอะมำกโดยเฉพำะที่เซี่ยงไฮ้ เช่น เรื่องของกำรเกษตร เรื่องของผลไม้ที่คนจีนชอบ เช่นทุเรียน มังคุด ลำไย ทำ
ให้คนจีนรุ่นใหม่หันมำสนใจไทยมำกขึ้นอย่ำงกระแสเรื่องกำรใส่ชุดนักเรียนไทย เรื่องกำรเดินถ่ำยรูปตำมตลำด
ของไทยอย่ำงตลำดรัชดำ ซึ่งมันก็เป็นส่งที่มำจำกโซเชียลมีเดีย
คนจีนที่เป็น Wanghong (Influencer) ตำม TikTok (douyin 抖音) หรือ Kuaishou หรือ Bilibili
อีกทั้งยังมีกลุ่มคนจีนที่อำศัยอยู่ในต่ำงประเทศ อย่ำงในเมืองไทย ซึ่งเขำก็จะทำ content ออกมำเช่น เรื่องกิน
เรื่องเที่ยว เรื่องกำรซื้ออสังหำริมทรัพย์ที่เมืองไทย หรืออย่ำงกระแสเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่ำนมำอย่ำงเรื่องกำรมำ
เมืองไทยแล้วจะถูกตัดไตไปขำย กระแสพวกนี้ก็เกิดมำจำกพวก Wanghong ซึ่งเรำก็เข้ำใจว่ำเขำก็ต้องพยำยำม
ทำ content ให้คนมำสนใจ แต่บำงครั้งมันอำจจะเป็นดำบสองคมได้ มันอำจจะไม่เป็นไปตำมที่เรำต้องกำรจะ
สื่อ มันอำจจะออกมำเป็นกระแสในด้ำนลบก็ได้ ตรงนี้เรำก็ต้องทำควำมเข้ำใจต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกระแส soft
power ไทยในจีนก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ คนที่สนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยก็มีเพิ่มมำกขึ้นโดยเฉพำะในปัจจุบัน อย่ำง
ดำวอยู่ในมหำวิทยำลัย school of asian studies ก็เพิ่งจะเปิดสำขำไทยศึกษำเป็นคณะใหม่ แล้วดำวเป็นคน
ร่ำงหลักสูตรใหม่นี้ เพื่อให้เด็กจีนที่เข้ำมำเรียนปริญญำตรี และต้องกำรให้คนจีนรุ่นใหม่เข้ำใจบริบทของกำร
ร่วมมือระหว่ำงจีน-อำเซียนและจีน-ไทยมำกขึ้น โดยเฉพำะในด้ำนของเศรษฐกิจและกำรร่วมมือทำงด้ำน
เศรษฐกิจ ซึ่งนี่ก็เป็นสัญญำณที่ดี เพรำะในมุมมองของดำวเอง ในปัจจุบันจีนมีมหำวิทยำลัยที่มีเอกภำษำไทยแค่
2 มหำวิทยำลัยเท่ำนั้น หนึ่งคือ Beijing university สองคือ beijing weiwuying university หรือมหำวิทยำลัย
ปักกิ่งสำขำภำษำต่ำงประเทศ แต่ปัจจุบันนี้จะมี 3 ที่แล้ว คือที่ BISU ที่ดำวสอนอยู่ ซึ่งดำวก็จะดูในด้ำนของ
เศรษฐกิจเป็นหลัก ตรงนี้ก็ทำให้เรำเห็นว่ำเด็กจีนเริ่มสนใจอยำกเรียนรู้อำเซียน อยำกเรียนรู้ไทยนั้นมีมำกขึ้น นี่
จึงเป็นโอกำสในกำรพัฒนำ soft power ของไทย เพรำะ soft power จะไปต่อไม่ได้ถ้ำกำรร่วมมือของ
ประชำชนหยุดชะงัก อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดำวอยำกจะแชร์ และเป็นงำนที่ต้องทำต่อไปในระยะยำวและในหลำยด้ำน
ก็อำจจะต้องได้รับกำรสนับสนุนจำกหลำยหน่วยงำน ไม่ใช่แค่เอกชน ทำงรัฐบำลก็ต้องเข้ำมำช่วยเหลือตรงส่วน
นี้ด้วย ซึ่งรัฐบำลก็ทำอยู่ และเรำอำจจะต้องตำมกระแสโซเชียลมีเดียของจีนให้มำกยิ่งขึ้น เพรำะว่ำจีนมีควำม
เปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้ำงเร็ว แล้วก็ถ้ำเรำรู้จักจีนมำกขึ้น เรำก็จะรู้ว่ำกระแสนิยมของคนจีนเป็นอย่ำงไร เรำก็จะ
สำมำรถที่จะทำได้ทุกจุด ขอบคุณค่ะ
37
Ms.Liyue Zhou
Communication manager, International Organization in China
ก่อนที่เดือนจะแชร์อะไรนะคะ เดือนก็อยำกจะบอกว่ำนอกจำกว่ำจะไม่ได้พูดในนำมของที่ทำงำนแล้ว
และต้องบอกว่ำไม่ใช่ในฐำนะตัวแทนของคนจีนทุกคนแน่นอนค่ะ ประเทศจีนมีประชำกรเยอะมำก คนที่อำศัย
อยู่ในเมืองไม่เหมือนกันก็อำจจะคิดไม่เหมือนกัน ภูมิหลังไม่เหมือนกันก็อำจจะคิดไม่เหมือนกัน ควำมจริงไม่
อยำกใช้คำว่ำชนชั้นนะคะ ไม่อยำกใช้คำว่ำ Class แต่ต้องบอกว่ำเขำคิดไม่เหมือนกันจริงๆ เพรำะฉะนั้น เดือน
ว่ำแชร์ตำมประสบกำรณ์ของเดือนเองดีกว่ำนะคะ เดือนเป็นคนที่จบเอกภำษำไทยมำ สัมผัสกับภำษำไทยกับ
เมืองไทยตั้งแต่ปีค.ศ 2008 ดังนั้นจะเล่ำตั้งแต่ปีค.ศ. 2008 เลยนะคะ เล่ำในมุมมองที่ว่ำพอคนจีนทั่วไปรู้ว่ำ
เดือนเป็นคนที่เรียนภำษำไทยหรือว่ำพูดภำษำไทยได้ เขำจะพูดอะไรหรือว่ำเขำจะถำมอะไรนะคะ มีกำร
เปลี่ยนแปลงที่น่ำสนใจค่ะ
เริ่มจำกคนแรกค่ะ เดือนขอแนะนำคุณปู่ของเดือนค่ะ ในปี 2008 พอเดือนรู้ว่ำเดือนจะเข้ำมหำลัยและ
เรียนเอกภำษำไทยคุณปู่ก็ถือว่ำเป็นคนแรกที่รู้และตอนนั้นคุณปู่ก็บอกว่ำ “อ๋อภำษำไทย สยำมดีนะ เขำมีข้ำว
สวยที่ดี” พอจบมำแล้วอำจจะได้ทำกำรค้ำขำยที่เกี่ยวกับกำรขำยข้ำว อันนี้เป็นควำมคิดเห็นแรกที่เดือนได้มำ
จำกคุณปู่ที่ตอนนั้นอำยุ 90 กว่ำ นั่นก็อำจจะเป็นภำพลักษณ์ของไทยหรือควำมเป็นไทยในสำยตำของคนที่อยู่ใน
สมัยนั้นนะคะ หลังจำกได้เข้ำไปเรียนที่มหำวิทยำลัยภำษำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกวำงตุ้ง เพื่อนที่เรียน
ด้วยกันก็เรียนภำษำต่ำงประเทศไม่ว่ำจะเป็นภำษำยุโรป ภำษำอำเซียน ภำษำลำตินอเมริกำ ซึ่งพวกเขำก็จะ
ชอบถำมว่ำภำษำไทยเป็นอย่ำงไร เมืองไทยเป็นอย่ำงไร ตอนนั้นเดือนเองก็ไม่ค่อยรู้จัก ก็ไปถำมอำจำรย์
อำจำรย์มีทั้งหมด 6 คน มี 5 คนเป็นคนจีนที่เป็นอำจำรย์ประจำ และอีกคนหนึ่งเป็นอำจำรย์คนไทยที่เป็น
อำจำรย์แลกเปลี่ยนจำกมหำวิทยำลัยต่ำงๆ จำกเมืองไทย ซึ่งเมื่อเดือนไปถำมอำจำรย์คนจีน อำจำรย์ก็จะบอก
ว่ำต้องจำไว้นะในภำษำไทยคำที่สำคัญที่สุดคือคำว่ำ “น้ำ” เพรำะว่ำประเทศไทยเป็นประเทศที่ ในน้ำมีปลำ ใน
นำข้ำว และคนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ เพรำะฉะนั้น อันนี้จึงเป็นภำพลักษณ์ที่สองที่เดือนได้มำเกี่ยวกับเมืองไทยว่ำ
เป็นแบบนี้ หรือว่ำควำมเป็นไทยเป็นแบบนี้
อำจำรย์คนไทยที่เป็นอำจำรย์แลกเปลี่ยนจำกมหำวิทยำลัยของไทยมำ แล้วเดือนก็ไปถำมอำจำรย์ว่ำ
เมืองไทยเป็นอย่ำงไรใช่ไหมคะ อำจำรย์จะสอนวัฒนธรรมไทยหรือว่ำอะไรต่ำงๆ ของคนไทยโดยวิธีต่ำงๆ สมมุติ
ว่ำสอนเรำร้องเพลงไทย เพลงไทยเพลงแรกที่เดือนรู้จักคือเพลงของเบิร์ด ธงไชย คือ “สบำยๆ สบำยๆ ถูกใจก็
คบกันไป” ซึ่งเป็นเพลงที่สนุกสนำนค่ะ และอำจำรย์ก็บอกว่ำนี่ไม่ใช่แค่เพลงเฉยๆนะคะ มันสะท้อนให้เห็นถึงว่ำ
คนไทยเป็นอย่ำงไรและวัฒนธรรมเป็นอย่ำงไร คนไทยเป็นคนที่ชอบควำมสนุกสนำน และคนไทยเป็นคนที่
38
สบำยๆ ถูกใจก็คบกันไป ถ้ำถูกใจคนอื่นก็ไปคบกับคนอื่น ไม่เห็นเป็นอะไรเลย อันนี้ก็เป็นภำพลักษณ์ที่ 3 ที่
เดือนได้มำ
พอเรียนจบก็มีโอกำสสัมผัสกับคนไทยมำกขึ้น คุยกับคนไทยมำกขึ้น สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยมำกขึ้น
และรู้สึกว่ำที่อำจำรย์พูดมำก็เป็นจริงนะ คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ แต่
ตอนนั้นคือปี 2012 ค่ะ ถำมคนจีนทั่วไปที่ไม่ค่อยรู้จักเมืองไทยก็จะยังอยู่ในสถำนกำรณ์ที่ว่ำ รู้ว่ำเมืองไทยอยู่ที่
ไหนแต่อำจจะไม่เคยไป อำจจะไม่ค่อยรู้ว่ำนอกจำกทุเรียนกับช้ำงกับเรื่องกะเทย และเรื่อง Red-light district
ก็ไม่รู้ว่ำประเทศไทยมีอะไรอีก แต่ในตอนนั้นในปี 2013 มีภำพยนตร์เรื่องหนึ่งชื่อ Lost in Thailand ตอนนั้น
เดือนทำงำนที่สถำนทูตและมำโอกำสพำผู้กำกับกับทีมถ่ำยหนังของภำพยนตร์ Lost in Thailand ไปคำรวะกับ
นำยกรัฐมนตรีไทยในตอนนั้น ซึ่งข่ำวนี้กับภำพยนตร์เรื่องนี้กลำยเป็น headline กับ Trending word ที่นิยม
กันมำกในโซเชียลมีเดียของจีน คือตอนนี้จำสถิติที่ชัดเจนไม่ได้แล้วนะคะ แต่ว่ำถ้ำทุกท่ำนไปค้นหำใน
อินเทอร์เน็ตก่อนปี 2013 นักท่องเที่ยวจีนไปไทยทุกปี สมมุติว่ำประมำณ 3-4 ล้ำนคนต่อปี แต่ว่ำหลังจำก
ภำพยนตร์เรื่องนั้นไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ำมำสูงขึ้นเรื่อยๆ และสูงขึ้นเร็วมำก จนก่อนโควิดมีถึง 10 ล้ำนคนต่อ
ปี ถือว่ำเยอะมำกเพรำะว่ำถ้ำเดือนจำไม่ผิดประชำกรของไทยทั้งหมดคือมีไม่ถึง 70 ล้ำนคนใช่ไหมคะ แต่ว่ำคน
จีนที่มำเที่ยวไทยต่อปีก่อนโควิดมี 10 ล้ำนคนต่อปี ถือว่ำเยอะมำก
ในช่วง 2013-2019 เดือนแทบจะไม่รู้จักใครที่ไม่เคยไปเมืองไทยเลยค่ะ อำจจะด้วยว่ำเดือนอยู่ในเมือง
ใหญ่ คนใกล้ตัวเดือนก็เลยพอมีเงิน มีเวลำไปเที่ยวกัน ทุกคนไปเที่ยวเมืองไทยแล้วก็ถำมว่ำยำดมซื้อที่ไหน
หมอนยำงพำรำเจ้ำไหนดีที่สุด ควรจะไปเยำวรำชหรือห้วยขวำงของที่ไหนดีที่สุด ทุกคนรู้จักกันหมด แล้วในช่วง
นี้ก็เหมือนที่เมื่อครู่อำจำรย์ดำวพูดนะคะ มีภำพยนตร์ไทย ซีรีส์ไทยเข้ำจีนมำเรื่อยๆ แต่ถ้ำเป็นข้อสังเกตของ
เดือนเอง รู้สึกว่ำตอนนั้นยังถือว่ำเป็นอะไรที่แบบมีน้อย มีกลุ่มหนึ่งที่ชอบซีรีส์ไทยมำก ชอบภำพยนตร์ไทยมำก
ชอบหนังไทยมำก แต่ยังไม่ถึงกับเป็นกระแสใหญ่ คล้ำยๆกับ k-pop เลย แต่ในช่วงโควิดสังเกตเห็นว่ำมัน
เปลี่ยนไปแล้ว เดือนอยำกบอกว่ำมีเรื่องหนึ่งสำคัญมำกและทำให้ Thai-pop เป็นอะไรที่คล้ำยกับจะเป็นกระแส
ที่มำแรงเท่ำกับ K-pop เลยค่ะ มีหนังเรื่องหนึ่งเดือนจำชื่อเต็มไม่ค่อยได้น่ำจะชื่อคล้ำยๆกับ แปลควำมรักฉัน
ด้วยใจเธอ ประมำณนี้น่ะค่ะ เป็นซีรีส์หนึ่งที่ฉำยบนอินเทอร์เน็ตเล่ำถึงเรื่องชีวิตหรือว่ำควำมรักระหว่ำง
เด็กผู้ชำยกับเด็กผู้ชำย ดังมำกในเมืองจีนดังจนเหลือเชื่อเชื่อไหมคะว่ำซีรีส์เรื่องนั้นฉำยไปหลำยปีแล้ว แต่ว่ำในปี
นี้นักแสดงนำคนนึงในเรื่องนั้นน่ำจะชุดเดียวกับคุณบิวกิ้น ขอโทษนะคะถ้ำชื่อเรียกชื่อผิด คุณบิวกิ้นมำร่วม
คอนเสิร์ตหนึ่งในเมืองจีนที่เมืองชิงเต่ำ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ค่อยดังและไม่ค่อยมีกำรโฆษณำ แต่มี 100,000 คน
เข้ำไปดูเขำ เข้ำไปฟังเขำร้องเพลง และทั้ง 100,000 คนนั้นร้องเพลงไทยได้หมดทุกคน ร้องเพลงของเขำได้หมด
เลย นี่ทำได้อย่ำงไรไม่รู้นะคะ แต่มีสำมำรถแชร์กับทุกท่ำนได้ว่ำเมื่อเดือนที่แล้วเดือนได้คุยกับ executive ของ
บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งที่ทำเรื่อง social responsibility ซึ่งเขำเป็นคนจีนและเขำบอกว่ำในอีก 10 ปีข้ำงหน้ำ
39
Thai-pop อำจจะเป็นที่นิยมมำกกว่ำ K-pop อันนี้เดือนไม่รู้ว่ำจะเกิดขึ้นจริงไหมแต่เดือนหวังว่ำจะเป็นอย่ำง
นั้น แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เดือนก็อยำกจะถำมคำถำมหนึ่งเหมือนกัน เพรำะว่ำที่เดือนพูดมำเป็นเชิงบวกทั้งหมด แต่
ก็ดูควำมเป็นจริงว่ำไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่ำงที่คนจีนนึกถึงควำมเป็นไทยหรือประเทศไทยเป็นเชิงบวกทั้งหมด เดือน
จะขอแชร์ 2 เรื่องนะคะ เรื่องแรกคือตอนที่เรียนแลกเปลี่ยนที่ มศว. ที่เมืองไทย แล้วคุยกับกลุ่มเพื่อนว่ำ ถ้ำให้
คนไทยคิดว่ำสิ่งแรกที่คนจีนคิดถึงเมืองไทยจะเป็นอะไร บำงคนก็บอกเป็นช้ำง หรือไม่ก็ทุเรียนอะไรแบบนั้น แต่
ควำมจริงต้องขอบอกตำมตรงว่ำมันไม่ใช่ทั้งคู่ สิ่งแรกที่คนจีนคิดถึงประเทศไทยคือกะเทย สิ่งที่สองคือ Red-
light district
เรื่องรำวที่สองก็อย่ำงที่อำจำรย์ดำวพูดไปแล้วเหมือนกันว่ำตอนนี้ถ้ำดูในโซเชียลมีเดียก็จะเห็นว่ำทำไม
มีคนถำมกันเยอะมำกว่ำ ไม่กล้ำไปเมืองไทยแล้ว ไม่กล้ำไปเที่ยวแล้ว กลัวว่ำจะโดนตัดไต กลัวว่ำจะตำยที่นั่น
กลัวว่ำจะมีคนมำตัดไตไปขำย เดือนเองก็ไม่ได้ไปเมืองไทยหลังโควิดแล้วนะคะ ไม่แน่ใจว่ำตอนนี้เมืองไทยเป็น
อย่ำงไร แต่สำหรับเดือนที่ทำงำนเกี่ยวกับเมืองไทยมำนำนแล้วรักเมืองไทยจริงๆ ก็ไม่อยำกเชื่อว่ำมันเป็นควำม
จริง แล้วก็ไม่อยำกให้มันเป็นเรื่องที่เป็นกระแสที่สุดในโซเชียลมีเดียตอนที่คนจีนนึกถึงประเทศไทย ซึ่งคำถำม
ของเดือนก็คืออำจำรย์ทุกท่ำนหรือว่ำผู้เข้ำประชุมทุกท่ำนคิดว่ำเรำควรจะทำอย่ำงไร ไม่ว่ำจะเป็นคนจีนอย่ำง
เดือน หรือว่ำคนไทยอย่ำงทุกท่ำนนะคะ จะทำอย่ำงไรให้ภำพลักษณ์ของไทยหรือควำมเป็นไทยในสำยตำของ
คนจีนเป็นไปในทำงบวกมำกขึ้น หรือว่ำจะทำให้ที่คนนั้นพูดว่ำหวังว่ำ 10 ปีข้ำงหน้ำ Thai-pop จะเป็นอะไรที่
ดังที่สุด เรำควรจะทำอย่ำงไร ขอบคุณค่ะ
40
คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
ที่ปรึกษากฎหมายไทยในจีน บริษัทหยิ่งจ้งลอร์ออฟฟิศ
ที่จริงอำจำรย์ดำวกับอำจำรย์เดือนก็พูดไปบ้ำงแล้วนะคะ เนสอำจจะพูดเสริมอีกเล็กน้อยที่ได้มำจำก
Tiktok ของจีนนะคะ หลักๆ ที่ทั้งสองคนพูดไปคือเรื่องของดำรำไทย อันนี้เป็นที่ชัดเจนมำก อย่ำงลิซ่ำที่เป็น
หมำยเลขหนึ่งของไทยก็เป็น soft power ได้ดีมำก เวลำที่ลิซ่ำทำอะไรสักอย่ำง เช่น ใช้ยำดมของไทย ของกิน
ของใช้ที่ลิซ่ำใช้ จะเห็นได้ชัดว่ำคนเขำก็ไปทำตำมรอยกัน อันที่สองคือเรื่อง LGBTQ+ ควำมจริงเรื่องนี้ในสำยตำ
คนจีนเขำค่อนข้ำงมองว่ำประเทศไทยเปิดกว้ำงและประเทศจีนเองก็มีคนเป็น LGBTQ+ กันเยอะ หมำยถึงทั้ง
ชำย-ชำย และหญิง-หญิง ก็จะมีดำรำสำยวำยนะคะ เนสเคยช่วยคิดต่อกับคนกลุ่มนี้อยู่บ้ำง พวกเขำก็จะมีกลุ่ม
ของเขำเองใน Weibo ซึ่งเขำก็ติดตำมดำรำสำยวำยของไทย อย่ำงสมัยก่อนก็จะมีหนังดังที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
แอร์โฮสเตสใช่ไหมคะ ต่อมำก็จะเป็นรุ่นของมำริโอ้ ตอนนี้ก็จะเป็นดำรำรุ่นใหม่ที่เนสไม่รู้จักหน้ำเลย แม้น้องเขำ
หลำยคนจะดังมำกอย่ำง พีพี-บิวกิ้น ที่ถือว่ำเป็นอันดับต้นๆ ของบรรดำ LGBTQ+ ที่คนจีนติดตำมดู อย่ำง
คอนเสิร์ตที่ชิงเต่ำ หรือคอนเสิร์ตหลำยๆงำนที่ติดต่อ พีพี-บิวกิ้น ไปเพรำะว่ำถ้ำเขำไปรับประกันได้ว่ำงำนนั้นมี
คนหลักแสนแน่นอนอันนี้ในส่วนของดำรำไทยนะคะ
ต่อมำจะเป็นเรื่องของอำหำรไทย ซึ่งคงไม่ต้องลงรำยละเอียดมำกเพรำะเรำก็รู้อยู่แล้วว่ำอำหำรไทยมี
รสชำติที่ดีและคนจีนก็ชอบอำหำรไทย อันที่สำมคือเรื่องของโรงเรียนและมหำวิทยำลัย คือเนสได้คุยกับคุณแม่
ชำวจีนหลำยคน พวกเขำก็ยอมรับว่ำโรงเรียนนำนำชำติในไทยหลำยโรงเรียนมีดีมำกว่ำโรงเรียนนำนำชำติใน
ปักกิ่งเสียอีก ซึ่งนอกจำกโรงเรียนที่ได้รับควำมนิยม ชุดนักเรียนไทยเองก็เป็นกระแสในจีนอยู่ช่วงหนึ่งอยู่
เหมือนกันค่ะ อีกอันหนึ่งคือกำรแพทย์บ้ำนเรำนะคะ ไม่ว่ำจะเป็นควำมงำม ศัลยกรรม หรือเรื่องบ้ำนพักคนชรำ
ก็ด้วย พอคนจีนพูดถึงเมืองไทยก็คือรู้กันเลยว่ำถ้ำจะทำศัลยกรรมตั้งแต่คอลงไปให้ไปทำที่ไทย อันนี้ก็ไม่รู้ว่ำ
นับเป็น soft power ไหม แต่มันเป็นอะไรที่คนจีนรู้จักกัน หรืออย่ำงบ้ำนพักคนชรำ เนื่องจำกเมืองไทยเป็น
เมืองท่องเที่ยวอยู่แล้วและมีสภำพแวดล้อมที่ดี จึงมีคนจีนบำงกลุ่มที่เข้ำมำทำบ้ำนพักคนชรำอยู่ที่ไทย อย่ำงที่
ภูเก็ต หรือหัวหินเป็นต้นนะคะ ซึ่งบำงโครงกำรก็ขำยไปหมดแล้ว อันนี้เป็นอะไรที่พอคนจีนพูดถึงกำรแพทย์ไทย
คือทุกคนยอมรับหมดนะคะ
เรื่องสุดท้ำยที่เนสเก็บตกมำได้คือเรื่อง “สำยมู” ไม่ทรำบว่ำมีใครรู้หรือเปล่ำว่ำคนจีนในช่วงที่ไม่ทำงำน
(tang píng 躺平) ส่วนใหญ่จะไปไหว้พระกันค่ะ ซึ่งกระแสพระก็มำจำกเมืองไทยด้วยส่วนหนึ่ง อยำกบอก
ว่ำตอนนี้ในถำวเป่ำ (Taobao 淘宝) มีกำรขำยพระเครื่องกันแล้วนะคะ ดังนั้น สำยมูของไทยก็ถือว่ำเป็น
41
กระแสหนึ่งในTiktok นะคะ แบบว่ำไหว้พระที่ไหน ขอพรที่ไหน ต้องมำขอพระอะไร ทำไมคนจีนถึงมำพระ
พรหม มีที่มำคือคนจีนเขำถือว่ำเป็นเรื่องดีต่อจิตวิญญำณค่ะ อันนี้ไม่รู้ว่ำเป็น soft power อย่ำงหนึ่งไหม แต่ว่ำ
ทุกอันที่บอกมำไม่ว่ำจะ ดำรำไทย อำหำรไทย โรงเรียน กำรแพทย์ และสำยมู ต่ำงก็อยู่ใน Tiktok ทั้งหมดเลย
เหมือนกับว่ำมันเป็นตัวแทนของภำพลักษณ์ของเมืองไทยในสำยตำคนจีน อีกอย่ำงหนึ่งอย่ำงที่คุณเดือนได้กล่ำว
ไว้คืออยำกให้เน้นภำพลักษณ์ไทยให้ดีขึ้น เพรำะว่ำตอนนี้แม้กระทั่งเนสเอง หรือว่ำเพื่อนของแฟน ยังไม่มำที่
เมืองไทยเพรำะว่ำกลัวถูกจับไปตัดไต ซึ่งภำพลักษณ์นี้มันยังอยู่ ต่อให้ข่ำวมันจะเกี่ยวกับพม่ำหรือกัมพูชำ เขำก็
ยังโยงมำที่ไทยจำกที่ลองไปอ่ำนควำมคิดเห็นในTiktok ภำพลักษณ์แบบนี้มันยังติดอยู่และTiktok มีพลังมำกต่อ
กำรมองภำพลักษณ์ของไทยของคนจีน จึงอยำกให้ทำงกำรไทยเน้นเรื่องนี้มำกขึ้น เชื่อว่ำคนจีนจะกลับมำที่ไทย
มำกขึ้นค่ะ
42
คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย
Chief business officer, Beijing Joynco Technology Co., Ltd.
ควำมจริงแล้วผมอยู่ในสำยงำนที่ทำ soft power ของไทยมำตั้งแต่เริ่มเลยครับ เรียนจบมำก็ทำด้ำนนี้
มำตลอด งำนแรกที่เกี่ยวกับ soft power คือตอนที่ผมทำงำนอยู่ KKday ทำเรื่องกำรท่องเที่ยวนะครับ แต่กำร
ท่องเที่ยวไทยเรำมำดังจริงๆ ก็ตอน Lost in Thailand อย่ำงที่คุณเดือนพูดเลยครับ ก่อนปี 2013 นักท่องเที่ยว
จีนมำไทยปีละไม่ถึงล้ำนคน พอหลัง Lost in Thailand เข้ำฉำย นักท่องเที่ยวก็มำไทยเกินล้ำนคนทุกปี จนช่วง
ก่อนโควิดเรำมีนักท่องเที่ยวอยู่ 10 ล้ำนคน แล้วธุรกิจที่ผมทำอยู่ในปัจจุบันก็มำจำก soft power นี่แหละครับ
เพรำะจีนเขำไม่ได้มีแค่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น หรือกวำงโจว จีนยังมีเมืองอีกเยอะมำกเลย แล้วพอเรำเปิดตำรำง
บินของสนำมบินดูก็พบว่ำ อย่ำงฉำงซำมีเครื่องบินมำไทยอยู่อำทิตย์ละ 7 เที่ยวบิน เที่ยวละประมำณ 130 ที่นั่ง
แสดงว่ำปีหนึ่งมีนักท่องเที่ยวที่เคยมำไทยอยู่อย่ำงน้อย 40,000 คน แสดงว่ำมีตลำดทำร้ำนอำหำรไทยอยู่ และ
พอเรำสำรวจดูพบว่ำมีร้ำนอำหำรไทยอยู่ 2 ร้ำน แสดงว่ำตลำดมัน Blue Ocean (มีกลุ่มลูกค้ำแต่ไม่มีกลุ่ม
ให้บริกำร) ตลำดแบบนี้น่ำทำธุรกิจมำก แต่ก่อนเริ่มธุรกิจเรำมำดูก่อนว่ำนักท่องเที่ยวมีมำเรื่อยๆ แล้วก็เมือง
บำงเมืองอย่ำงฉือเจียจวง เขำไม่มีเที่ยวบินไปต่ำงประเทศเลย จำกฉือเจียจวง จำกกุ้ยหลิน จำกเมืองเล็กๆ เมือง
ระดับสำม ระดับสี่ พวกนี้มีเที่ยวบินมำเมืองไทยหมดนะครับ แต่ไม่มีไปที่อื่นเลยใกล้ๆอย่ำงโตเกียว ฮ่องกงยังไม่
มีเที่ยวบินเลย แต่เขำมีเที่ยวบินมำกรุงเทพ แสดงว่ำหลังจำก Lost in Thailand มันก็อยู่ในกระแสที่ว่ำคนต้อง
มำเที่ยวเมืองไทยกัน คุณมีเงินหน่อยสัก 2,000 หยวน คุณไปเที่ยวเมืองไทยได้แล้วนะครับ Once in your
lifetime คุณจะต้องมำเมืองไทยสักครั้ง
พอหลังจำก Lost In Thailand มันก็จะเริ่มมีกระแสไทยขึ้นมำ เมื่อก่อนละครไทยเป็น Niche Market
(ตลำดเฉพำะกลุ่ม) เช่นที่เขำดู รักแห่งสยำม เพรำะเขำชอบมำริโอ หรือสงครำมนำงฟ้ำเพรำะพี่ป้องอะไรอย่ำงนี้
นะครับ แต่พอหลัง Lost In Thailand มันเริ่มมีสื่อไทยเข้ำมำเยอะขึ้น ตอนที่ผมย้ำยจำกทำง KKDay ไปทำงำน
อยู่ที่แอปหนึ่งชื่อว่ำ Blued ซึ่งเป็นแอปเกย์ที่ใหญ่สุดในโลกของประเทศจีน ที่ตลกคือทุกคนมองว่ำจีนเป็น
ประเทศปิดกั้น LGBTQ+ นะ แต่จีนมีแอปพลิเคชัน LGBTQ+ อันดับหนึ่งของโลก แต่เขำสปอนเซอร์งำนทุกงำน
ที่เกี่ยวกับละครวำย งำน LGBTQ+ ใหญ่ๆเกือบทุกงำน Blued จะเข้ำมำสปอนเซอร์หมด ตอนนั้นผมเป็นผู้ชำย
แท้ๆคนเดียวในปักกิ่งที่ทำงำนในบริษัท ที่เหลือจะเป็นถ้ำไม่ใช่ Lgbt ผู้หญิงก็จะเป็น Lgbt ผู้ชำย จะเห็นได้ว่ำ
กระแสกำรเติบโตของละครไทยจะมำจำกกลุ่มละครวำย ซึ่งกลุ่มละครวำยมันเริ่มเติบโตขึ้นมำค่อนข้ำงเร็วในจีน
แต่ที่จีนเองก็ไม่ทำละครวำย เกำหลีก็ไม่ค่อยมี ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยได้มี ปรำกฏว่ำก็มีไทยเรำที่ทำละครวำยเข้ำตลำด
จีนเรื่อยๆ อีกทั้งกลุ่มคนที่ดูละครวำยเขำมีเงินด้วยครับ สมมุติว่ำเป็น ปำหลิงโฮ่ว จิ่วหลิงโฮ่ว นะครับ ถ้ำเขำ
43
ชอบดำรำคนนี้มำก ชอบพีพี-บิวกิ้นมำกๆเลย ฉันต้องสนับสนุนเขำ เป็นที่ยึดเหนี่ยว แล้วละครวำยมันจะเป็น
ผู้ชำย-ผู้ชำยและผู้ชำยก็หน้ำตำดีทุกคู่ด้วย คนก็ยิ่งชอบเข้ำไปใหญ่ มำริโอ้เองต้องยอมรับว่ำเกิดได้จำกละครวำย
เหมือนกันนะครับ พอเขำดูละครวำยไปเรื่อยๆ เขำก็สนับสนุนสินค้ำของไทยและกำรท่องเที่ยวของไทยไปในตัว
คนจีนก็จะมำแนวนั้น
ต้องบอกว่ำไม่ใช่แค่จีนอย่ำงเดียว ผมไปบรำซิลมำ ไปเพรำะมีธุรกิจอื่นในบรำซิลด้วย คนบรำซิลก็ชอบ
ละครไทยมำกๆเลย แต่พอไปดูแล้วเขำก็ชอบละครวำยกันนะครับ ดังนั้น ผมมองว่ำกระแสไทยเอำควำมเป็นจริง
และปัจจุบันที่มันเกิดขึ้นมำ มันเกิดจำกละครวำย พีพี-บิวกิ้นก็ละครวำย ช่วงก่อนหน้ำ F4 ก็มีละครวำยดังอยู่
เรื่องหนึ่งผมจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่คนจีนไปตำมรอยละครกันที่เชียงใหม่เยอะมำก อย่ำงดำรำไทย ลิซ่ำ ดังเป็น
อันดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ตั้งแต่ที่สองลงมำมันจะเป็นดำรำวำยหมดเลย อำจจะบอกได้ว่ำถ้ำอยำกจะสนับสนุนกัน
จริงๆก็ต้องไปสนับสนุนละครวำยกัน เพรำะพอคนเขำดูละครเขำก็มำเที่ยวตำมรอยที่เมืองไทย กลับมำจำก
เมืองไทยเขำก็สนับสนุนสินค้ำไทย อย่ำงเรำทำธุรกิจเป็น franchise ร้ำนอำหำรไทยนะครับ ร้ำนอำหำรไทย
ปัจจุบันมันอยู่ในเทรนด์ด้วยนะครับ แบบว่ำคนจีนไปเที่ยวเมืองไทยมำแล้วกลับมำ สมมุติว่ำเป็น First time
oversea นะครับ พอเขำกลับมำเขำก็จะแนะนำอำหำรต่ำงประเทศที่เขำเคยกินให้ครอบครัวเขำ พอเขำเคย
อำหำรไทยมำ เขำก็จะแนะนำอำหำรไทยให้ครอบครัวนะครับ มันก็จะเป็นเทรนด์แนวนี้ไป สมมุติคุณอยู่อู๋ซี คุณ
อยู่ใกล้ญี่ปุ่น ใกล้เกำหลี แต่คุณไม่เคยไปแต่มีเที่ยวบินมำเมืองไทย พอเมืองไทยลองไปกินต้มยำกุ้ง กลับไปที่อู๋ซี
ปุ๊บ บอกเพื่อนวันนี้ไปกินอำหำรต่ำงประเทศกัน ฉันเบื่อกินอำหำรจีนแล้ว ก็จะแนะนำให้กินอำหำรไทยดีกว่ำ เท
รนด์พวกเนี้ยมันก็เริ่มเติบโตไปกับอะไรประมำณนี้นะครับ อย่ำงร้ำนคู่แข่งผมก็เริ่มขยำย franchise ไปทั่วจีน
แล้วนะครับ มีร้ำนอำหำรไทยที่คล้ำยกับแบบนี้อยู่เยอะมำก ไม่ต้องพูดถึงควำมเป็น original ตัดทิ้งไปได้เลย คน
เขำไม่สนใจจุดนั้นกัน แต่อย่ำงน้อยยเรำขำยควำมเป็นไทยเข้ำไปในร้ำนพวกนั้นได้
ช่วงก่อนโควิดเรำมีสินค้ำไทยเข้ำมำเยอะ แต่ช่วงหลังโควิดกฎหมำยกำรนำเขำของจีนค่อนข้ำงเป็น
อุปสรรคค่อนข้ำงเยอะนะครับ สินค้ำไทยก็เลยหำยไปจำกตลำดค่อนข้ำงเยอะมำก เพรำะว่ำไม่สำมำรถทำตำม
กฎระเบียบได้ ดังนั้น สินค้ำไทยจึงหำยไปค่อนข้ำงเยอะ ยกเว้นบริษัทใหญ่เพรำะเขำสำมำรถทำเอกสำรได้
ลงทุนเพิ่มได้ อย่ำงในปัจจุบันเรำค่อนข้ำงมีปัญหำว่ำเรำนำเข้ำสินค้ำไทยเข้ำมำไม่ได้ เรำเลยต้องนำสินค้ำนั้นมำ
ผลิตในจีนแทน มันเลยจะไม่ได้เป็น made in Thailand แล้วตอนนี้ ดังนั้น ผมเลยต้องบอกว่ำควำมเป็นไทยใน
จีนโตได้ค่อนข้ำงเยอะ อย่ำง Night market เขำก็อยำกได้ตลำดแบบไทย แบบตลำดรถไฟ อย่ำงนั้นมำอยู่ในจีน
ในแต่ละเมืองของจีน ถำมว่ำทำไม นั่นก็เพรำะว่ำตลำดเมื่อก่อนของจีนมันเก่ำ ตำมตลำดก็ขำยหมำล่ำกัน ขำย
ของทอดกัน อะไรแบบนี้ ซึ่งมันเก่ำ มันไม่มีอะไรไปดึงดูดคน แต่ตลำดแบบไทยมันมีควำมคิดสร้ำงสรรค์เข้ำไป
ด้วย และถ้ำวัยรุ่นจีนสำมำรถเข้ำมำทำแล้วใส่ควำมคิดสร้ำงสรรค์เข้ำไป มันอำจจะสำมำรถพัฒนำเป็นแบรนด์
สินค้ำได้ อย่ำงปัจจุบันสมมุติเรำลองไปเดินตลำดในจีนเรำจะเจออย่ำงแรกเลยคือ ร้ำนลูกชุบ มีอยู่ทุกที่เลย
44
เพรำะมันทำง่ำย อย่ำงที่สองคือร้ำนชำมะนำวแบบไทย ยิ่งช่วงหน้ำร้อนด้วยแล้วอำจจะมีร้ำนชำมะนำว 9 จำก
10 ร้ำนเลย แล้วก็ร้ำนชำ มีทั้งชำไทยและชำลำว ซึ่งที่จริงในลำวไม่มีชำลำว ซึ่งมันก็คือชำไทยนั่นแหละครับ
ถำมว่ำไอ้ควำมเป็นไทยแบบนี้มันขำยได้เยอะ ยิ่งพอเรำเอำ Concept ของ Night market ของ franchise เข้ำ
มำ อย่ำงคนไทยมีเยอะขำยเครป มันทำให้คนจีนมำต่อยอดสร้ำงงำนให้เขำ แค่สินค้ำไทยมันจะนำเข้ำยำกขึ้น
เรื่อยๆ ผมบอกเลยอีก 3 ปีข้ำงหน้ำทุเรียนเวียดนำมครองตลำดจีนหมด เพรำะทุเรียนเวียดนำมมันถูกกว่ำ
ทุเรียนไทยหลำยเท่ำ แต่แม้เรำจะเสียส่วนแบ่งตลำดทุเรียนให้เวียดนำมไป แต่เรำก็ยังมีอย่ำงอื่นมำแข่งกับ
เวียดนำมได้ อย่ำงมำเลเซียที่ไม่กลัวไทย เพรำะในมูลค่ำ 100% ของตลำดทุเรียนจีน ประเทศไทยได้ไป 70%
เวียดนำมได้ไปประมำณ 10% มำเลเซียได้ไป 20% นะครับ แต่ไทยกับเวียดนำมต้องแข่งกัน แต่ 20% ของ
มำเลเซียไม่ต้องแข่งกับใคร เพรำะเขำขำยตลำดแบบ high market หรือแปรรูปเป็นไอศกรีมทุเรียน ซึ่งของไทย
เรำก็มีแต่ไม่เห็นได้เข้ำมำทำ ทุเรียนเกรด premium ของไทยก็ไม่ได้เข้ำมำขำย ในอนำคตเรำกับเวียดนำมต้อง
แข่งกันเรื่องรำคำ แต่มำเลเซียรำคำเขำอยู่ที่เดิม ตอนนี้ถ้ำเรำจะเอำสินค้ำเกษตรไทยเข้ำมำในจีนเรำต้องคิดเรื่อง
กำรสร้ำงมูลค่ำด้วยนะครับ
45
รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์
อาจารย์ประจาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ในฐำนะที่คุณยุวดีเน้นหนักเน้นหนำว่ำเรำเป็นอำจำรย์ทำงด้ำนควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศก็จะใช้
มุมมองของ IR (International Relations) นะคะ อย่ำงแรกเลยต้องไม่ลืมว่ำเวลำที่พูดว่ำ soft power มัน
ไม่ได้เป็น activity ที่ลงรำยละเอียดอย่ำงที่หลำยท่ำนพูดให้รำยละเอียดกัน เวลำที่ใช้คำว่ำ soft power จริงๆ
มันเป็นเป็น Concept ที่จริงๆตำมที่ Joseph Samuel Nye Jr. ให้นิยำมไว้แล้วมีเอำไว้เพื่อบอกว่ำ You still
alive/ You still active ในช่วงเวลำนั้นอเมริกำถูกตีกินในหลำยพื้นที่ เพรำะฉะนั้นเวลำที่พูดถึง soft power
มันมีทั้งที่เป็น Tangible สิ่งจับต้องได้อย่ำงชัดเจน ซึ่งหลำยท่ำนให้รำยละเอียดมำนะคะ และเป็น Intangible
ซึ่งมองไม่เห็นแต่ว่ำมันก็จับต้องได้ในอนำคต ซึ่งอำจจะไม่ใช่จับต้องได้
ณ เวลำนี้ เวลำที่พูดถึง soft Power ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่ำต้องนำเอำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศใน
ช่วงเวลำนี้เข้ำมำคำนวณด้วย เช่น ตอนที่อำจำรย์ดำวพูดถึงในกรณีของเกำหลีใต้กับจีน อยำกจะบอกว่ำมันใช่
เลย นั่นคือนัยของ soft power แต่ไทยกับจีนไม่ค่อยเห็นมิติแบบนั้นชัดเจน เพรำะว่ำเรำไม่ได้อยู่ในสิ่งที่คนจีน
หรือว่ำผู้กำหนดนโยบำยจีนมองว่ำมันเป็นควำมเสี่ยงด้ำนกลยุทธ์ (Strategic Risk) ในตอนที่อำจำรย์ดำวพูดถึง
เรำไม่แน่ใจที่ออกเสียงภำษำจีน แต่อำจำรย์ดำวน่ำจะหมำยถึงหมำยถึงระบบ THAAD missile system ซึ่งเป็น
ระบบที่มี mobility สูงมำก และควำมแม่นยำในพิสัยทำกำรสูงมำก อีกทั้งมีควำมสำมำรถในกำรยิงไม่ใช่แค่
medium-range แต่ยังยิง ICBM (Intercontinental ballistic missile) ได้ด้วย และด้วย mobility ที่สูง คุณ
สำมำรถเคลื่อนย้ำยมันไปตรงไหนก็ได้และประกอบติดตั้งได้ภำยในเวลำไม่เกิน 24 ชั่วโมง จีนก็เลยต้องแบน
เกำหลี เพรำะว่ำเรื่องของเกำหลีมันเป็นอะไรที่มันซึมลึก แล้วก็ควำมจริงอยำกจะบอกว่ำหลังจำกที่ Joseph
Samuel Nye Jr. ให้นิยำมเรื่อง soft power เสร็จเรียบร้อย อเมริกำมี hollywood มีอะไรแบบนี้ แล้วก็มีวิถี
ชีวิตที่หลำยคนอำจจะลืมไปแล้วกับ Concept ที่ตื่นเช้ำมำต้องดื่มกำแฟพร้อมกับขนมปังปิ้ง จะเป็นขนมปังปิ้ง
กับอะไรก็แล้วแต่ นั่นคือ New yorker lifestyle ที่อื่นอำจจะไม่ได้ตื่นมำแล้วกินแบบนี้ก็ได้ แต่ว่ำนั่นคือสิ่งที่คุณ
เสพจำก American soft power ผ่ำนหนัง hollywood หรืออะไรแบบนั้น แต่รัฐบำลอเมริกำไม่ได้ผลักดันตรง
จุดนี้สักเท่ำไหร่นะคะ คนที่ผลักดัน soft power อย่ำงเป็นเรื่องเป็นรำว จนเป็นตำนำนแห่งควำมสำเร็จจนทุก
วันนี้ คุณตี้อำจจะมีรำยละเอียดมำกกว่ำวรำรักอีกด้วยซ้ำไป นั่นคือเกำหลีใต้ คือคิมแดจุง จนหลำยที่พยำยำม
เลียนแบบ ญี่ปุ่นเองก็พยำยำมทำตำมแต่ไม่สำเร็จ
46
soft power ของไทยเรำไม่ได้เดินตำมแบบอเมริกำหรือเกำหลีใต้เลย อำจจะเรียกได้ว่ำไร้ทิศทำง กรณี
ของอเมริกำคือเมื่อ hard power ของเขำถูกวิพำกษ์วิจำรณ์อย่ำงชัดเจน เขำจึงใช้ soft power เพื่อให้คน
อเมริกำได้อุ่นใจ เป็น soft power ที่เน้นคนในชำติ แต่รูปแบบของ คิมแดจุง นั้นแตกต่ำง เพรำะว่ำก่อนจะถึง
สมัยของ คิมแดจุง เกำหลีใต้ลองมำหลำยวิธีแล้วจนจะหมดหนทำงแล้ว คิมแดจุง จึงนำ soft power มำใช้
ตอนนั้นไม่ได้เรียก soft power ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นในโลกของธุรกิจและกำรตลำดมันเป็นเรื่องของ innovation
และ creative จนสำยเศรษฐศำสตร์เขำนำไปใช้เป็น creative economy ทำงเกำหลีใต้ทำตรงนี้อย่ำงเป็นเรื่อง
เป็นรำวที่สุด มีหน่วยงำนรองรับ มีเงินทุนอัดฉีด มีกำรวำงแผนเป็นขั้นตอน มีกำรจัดกลุ่ม culture industry มี
กำรวำงกลุ่มเป้ำหมำยชัดเจน ดังนั้นทุกอย่ำงที่เรำเห็นจำก K-pop ไม่มีอะไรเป็นควำมจริงจำกสังคมเกำหลีเลย
มันอำจจะมีเค้ำโครงบ้ำงเล็กน้อย แต่เขำใช้เป็นตัวหนัง ตัวซีรีส์ ที่มีบุคคลที่คุณจับต้องได้ ซึ่งประสบควำมสำเร็จ
ไปแล้วด้วยกำรผลักดันจำกรัฐบำล
ในกรณีของ soft power ของไทยที่ทุกท่ำนลงเรื่องอำหำร กำรใช้ชีวิต หรือซีรีส์ไทย มันไปโดย
ธรรมชำติ ไปโดยนักเรียนแลกเปลี่ยน ไปโดยคนทำงำน ไปโดยนักท่องเที่ยว แล้วค่อยมำได้รับกำรสนับสนุนที
หลัง และไม่ได้สนับสนุนในฐำนะโครงกำรในแบบที่เกำหลีใต้ทำ แต่สนับสนุนเป็นงำนๆไป ถ้ำเรำคิดจะทำ soft
power จริงจังมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ที่น่ำสนใจคือประเทศไทยเคยถำมตัวเองหรือไม่ว่ำเรำอยำกจะส่งออก
soft power อะไรกันแน่ เพรำะตอนนี้สิ่งที่คนจีนติดที่สุดจำกไทยคือ Boy love เพรำะอย่ำงที่คุณตี้ว่ำเขำมี
แอปพลิเคชันรำยใหญ่สนับสนุน แต่เรื่องแบบนี้มันไม่น่ำเปิดเผยไง อย่ำงช่วงก่อนยุคสีจิ้นผิงประมำณ 3-4 ปี ที่
จีนเองก็มีหนังประมำณมิตรภำพลูกผู้ชำยรอฉำยเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง แต่พอสีจิ้นผิงสั่งปรับแก้เรื่องระเบียบของ
ภำพยนตร์มันก็เลยถูกแช่แข็งไปตำมระเบียบ แต่เรำก็อยำกถำมคนไทยว่ำอยำกให้ soft power ของไทยเป็น
Boy love อย่ำงเดียวหรือไม่
สองคือเรื่องที่คุณตี้พูดเรื่องตลำดรถไฟ ควำมจริงต้องขอบคุณพวกช่ำงภำพ พวกคนที่มำถ่ำยวีดีโอ ที่ทำ
ให้ตลำดรถไฟดังขึ้นมำได้ เพรำะตลำดรถไฟก็เปิดมำนำนแล้วแต่เพิ่งมำดังช่วงหลังนี้เอง มันเลยเป็นภำพที่มี
ชีวิตชีวำ มีทั้งคนขำย คนชื้อ คนกิน คนเดินเล่น รวมอยู่ในพื้นที่ที่บริหำรจัดกำรได้ มันเรียนว่ำ intangible soft
power คือกำรที่เรำไม่ได้ขำยสินค้ำเป็นตัวๆ แต่เรำขำยไปพร้อมกับ Concept ที่ถ้ำขำดองค์ประกอบอย่ำงใด
อย่ำงหนึ่งไปมันจะไม่ใช่ตลำดรถไฟ อันนี้เรำต้องคิดแล้วเพรำะอย่ำงสิ่งที่ซ่อนอยู่ใน soft power ของเกำหลีที่
จำให้มันจับต้องได้คือเรื่องรำวเหล่ำนี้ ที่น่ำเศร้ำใจแทนคนจีนคือช่วงที่เกำหลีกำลังทำ soft power สำรพัด
อย่ำง จีนมีกำรยัดเยียดมำกจนสมำคมที่คุ้มครองผู้บริโภคออกมำตั้งคำถำมจนเกิดกระแสตีกลับ เป็นทั้งซีรีส์จีน
และซีรีส์ไทย ทั้งที่ถ้ำเรำปล่อยให้มันไหลไปตำมธรรมชำติมันจะดีกว่ำ อย่ำงตอนนี้ซีรีส์ญี่ปุ่นเริ่มทำออกมำได้ดี
แล้ว ทำให้ขำยได้เยอะพอสมควร และจำกคำถำมที่ทิ้งไว้จำกช่วงแรกเรื่องของกำรเคลื่อนไหวของผู้คนและ
domestic tourism ควำมจริงต้องบอกว่ำไทยเป็นคนนำกระแส ถ้ำใครยังจำออเจ้ำได้ ตลำดเจ้ำพรหมที่อยุธยำ
ก่อนซีรีส์ออเจ้ำแทบจะไม่มีคนรู้จักมำก แต่พอมีซีรีส์ออเจ้ำก็ทำให้เศรษฐกิจของอยุธยำมีกำรฟื้นขึ้นมำ กำรทำ
ตรงนี้ก็เป็น soft power ประเภทหนึ่งนะคะ ต่อไปท่ำนที่อยู่ในจีนอำจจะรู้ดีกว่ำเพรำะก็จำชื่อจีนมันไม่ได้แต่
ตอนที่ซีรีส์ จันทรำอัสดง ฉำยเขำก็เลียนแบบ concept ของออเจ้ำกับอยุธยำไป อันนี้ก็แบบธรรมชำติอีก
เหมือนกันไม่ได้เป็นแบบเกำหลี ของเกำหลีเขำจัดฉำกไว้อย่ำงดีแล้วเขำสำมำรถปรับรูปแบบได้ถ้ำมันไม่ดีพอ แต่
47
ของไทยเรำปล่อยให้ซีรีส์โตเองแบบเหนื่อยยำกทำให้มันเสี่ยงที่จะตำยได้ ถำมจริงๆว่ำคุณคิดว่ำกระแส Boy
love จะไปได้นำนสักแค่ไหน ตอนนี้มันโตได้เพรำะคน Gen Y คน Gen Z เขำยังหำตัวเองอยู่ ถ้ำเขำหำเจอแล้ว
กลำยเป็นว่ำมันไม่ใช่ เรื่องนี้เป็นแค่ทำงเลือกรองของเขำ ไม่ใช่สิ่งสนใจหลัก แล้ว soft power ไทยยังจะโตได้
อยู่ไหม
Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ดร.น้าทิพย์ อักษรกุล :
ถูกใจมำกเลยที่อำจำรย์วรำรักพูดไป ในประสบกำรณ์ของตัวเองนะคะ เมื่อคุยกับคนจีนตั้งแต่อำจำรย์
ในมหำวิทยำลัย นักวิจัย คนมีสตำงค์มีเงินทองที่มำซื้อคอนโดมิเนียมอยู่ในเมืองไทย ไม่ใช่ห้องสองห้อง แต่ซื้อ
เป็นหลำยสิบห้อง เป็นกำรลงทุน แล้วก็ซื้อไว้ให้คนเพื่อให้คนต่ำงชำติเช่ำนะคะ จำกคนเหล่ำนั้นรวมลงไปถึงคน
ที่เป็นชำวนำอยู่ในยูนนำน ในกุ้ยโจว ในย่ำนตะวันตก ซึ่งถือว่ำยำกจนมำกในประเทศจีน เป็นมณฑลที่ยำกจน
มำก ทุกคนจะพูดเป็นคำเดียวกันเมื่อเขำเจอเรำ เขำจะบอกว่ำไปเมืองไทยมำแล้ว เพรำะว่ำ ถูก แล้วเขำก็ทำ
หน้ำแบบไม่ได้ชื่นชมนะคะ แล้วพอเขำบอกว่ำไปเมืองไทยเรำคิดว่ำคงบอกอย่ำงที่เรำคิดว่ำอำหำรดี คนน่ำรัก
ไม่ใช่เลยค่ะ เขำบอกว่ำเขำไปเพรำะถูกมำก ก็ขนำดคนที่ดิฉันเคยทำงำนด้วย ซึ่งเป็นพวกไม่รู้หนังสือ เป็น
ชำวนำที่เคยไม่รู้หนังสือ ตอนนี้รู้แล้ว แต่ก่อนนั้น 20-30 ปีที่แล้วไม่รู้หนังสือ เขำพอเขำเจอหน้ำเรำอีกครั้ง เขำ
บอกเขำไปมำแล้วนะเมืองไทย เรำก็ถำมว่ำไปทำอะไร เขำก็บอกไปท่องเที่ยว เพรำะมันถูกมำกเขำสำมำรถมำได้
เรำมักจะภูมิใจว่ำประเทศไทยเป็นประเทศที่น่ำอยู่ ทำไมจะไม่น่ำมำอยู่ล่ะ ใครเขำก็มองเรำว่ำเรำชอบ
เงินง่ำยๆ นิดๆ หน่อยๆ ไม่ต้องคิดมำก เขำมองเรำว่ำเป็นแค่ประเทศที่สวยงำม อำหำรอร่อย คนก็สบำยๆ ไม่
ซีเรียส ใครๆ ก็มำอยู่ได้ง่ำยๆ มำทำอะไรได้ง่ำยๆ ถ้ำมีเงินมำกพอก็ทุกอย่ำงซื้อได้หมด รวมทั้งคน รวมทั้งตำรวจ
เขำก็เคยไปประพฤติเช่นนี้ เช่นสมมุติเรำไปแอฟริกำ อันนี้เรื่องจริงและนักท่องเที่ยวจีนถือเป้ไปขโมยนก
เพนกวินเขำมำ 1 ตัว ใส่กระเป๋ำมำ เขำคิดวำงแผนรองรับไว้หมดแล้วเขำมี Magnetic band ที่เขำใส่ไว้ที่ข้อ
เท้ำของนกเขำ เขำสำมำรถตำมมำเอำนกเพนกวินเขำคืนได้ แถมลงโทษอย่ำงเหมำะสมได้ แต่ของไทยไม่มีอย่ำง
นี้ มันเหมือนเรำเป็นประเทศที่ได้ง่ำย มันถูกแล้วมันง่ำยทั้งๆ ที่ของเรำมีค่ำมำก ประเทศอื่นมีเหรอคะ
พระบรมมหำรำชวัง ประเทศอื่นไม่มีค่ะ เกำะกระดำนซึ่งสวยที่สุดในโลก ไม่มีใครมีเท่ำเรำ แต่เรำไม่ค่อยเห็นค่ำ
แล้วก็โครเอเชียกำแพงเมืองสั้นมำกก็คิด 37 เหรียญประเทศไทยมีอะไรรำคำแบบนั้นบ้ำงไหม ถ้ำถำมเขำก็จะ
ตอบมำว่ำเขำไม่ต้องกำรคนเยอะ แต่ก็ต้องกำรคนมีคุณภำพเพรำะว่ำไปเหยียบย่ำกำแพงเขำมำกๆ เดี๋ยวมันจะ
พัง เดี๋ยวมันจะทลำยลงมำ เพรำะฉะนั้น เรำเห็นด้วยอย่ำงมำกเลย
48
อำจำรย์ชื่อดร.ปริวัฒน์ ซึ่งเป็นอำจำรย์นิติศำสตร์ที่อังกฤษ แล้วตอนนี้กลับมำอยู่เมืองไทย ชอบออกมำ
พูดเรื่องกำรเมืองกำรเลือกตั้ง ท่ำนบอกว่ำมันน่ำเสียดำยที่ทุกคนจะมองเมืองไทยแค่อย่ำงนั้นเอง อะไรที่ได้มำ
ง่ำยๆ อำจจะไม่ค่อยมีค่ำเท่ำไหร่ เพรำะฉะนั้น เรำพลำดโอกำสจำกกำรที่มีคนมำชื่นชมเรำเยอะๆ แล้วเรำตั้งตัว
เป็นผู้นำในทำงที่ดี เรำไม่มีที่ดีๆ ที่เหมำะสมบนแผ่นดินบนโลกที่จะเป็นผู้นำด้ำนควำมคิด เรื่องจริยธรรมใน
ฐำนะชำตินะคะ ในฐำนะประเทศ ซึ่งควำมยุติธรรม ควำมถูกต้อง ในหลำยแง่หลำยมุม ไม่ใช่เฉพำะกำรเมือง
อย่ำงเดียวท่ำนอำจจะคิดว่ำดิฉันพูดถึงเรื่องกำรเมือง แต่มันเป็นเรื่องของทุกด้ำนนะคะ เรื่องควำมปลอดภัยของ
คนและทรัพย์สิน แม้กระทั่งเรื่องไตนี่ก็อำจจะมีแค่กรณี 2-3 กรณี แต่มันเป็นเรื่องที่น่ำคิดเหมือนกัน
เพรำะฉะนั้นปัญหำมันก็กลับมำที่คนของเรำนี่แหละค่ะ คุณภำพของคนเรำมีแค่ไหน น่ำศรัทธำ น่ำนิยมเป็น
ตัวอย่ำงได้แค่ไหน ดิฉันก็ไม่ทรำบว่ำจะไปต่ออย่ำงไร แต่ก็ขอรำพึงดังๆ แชร์กันนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
ขอบพระคุณผู้จัดด้วยค่ะ
รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์ :
วรำรักมีประเด็นที่อยำกจะเสนอไว้ในที่นี้ เพรำะที่ทุกท่ำนพูดมำแล้วเชื่อมโยงที่ soft power ถ้ำเป็นใน
ทัศนะของวรำรักเอง มันเป็นแค่เฉดหนึ่งของ soft power เพรำะอย่ำงที่บอกไป soft power มันก็คือ Power
อย่ำงหนึ่ง มันจะต้องช่วยให้คุณหรือประเทศของคุณปกป้องตัวเองได้ ให้คุณได้รับ consent จำกสังคมระหว่ำง
ประเทศว่ำ “คุณมีดี” นี่ก็เป็นเรื่องน่ำเศร้ำเหมือนกันนะ ขอให้ทุกท่ำนลองนึกภำพตำมดูกับโฆษณำที่มักจะใช้
คำพูดว่ำ อยำกให้โลกรู้ว่ำเมืองไทยมีดี ภำพสวย กำรถ่ำยทำสวย แต่มีตอนไหนบ้ำงที่ใช้นักแสดงคนไทย ลองนึก
ดูนะคะ เพรำะว่ำสิ่งเหล่ำนี้มันคือภำพลักษณ์ และคนจำนวนมำกใช้ภำพลักษณ์นั้นแทนค่ำของ soft power ทั้ง
ที่มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
ดังนั้น ตรงนี้เรำต้องระวังโดยเฉพำะท่ำนที่เกี่ยวข้องกับกำรจัดทำนโยบำย ถำมตัวเองให้มำกว่ำ ตกลง
แล้ว collective identity ที่คุณอยำกจะนำเสนอออกไปคืออะไรกันแน่ แล้วค่อยจัดวำงแนวทำงก็ยังไม่สำย
อย่ำให้มันไร้ทิศทำงจน soft power ของไทยถูกมองว่ำเป็นแค่ cheap product จนเป็น cheap for
everything แม้กระทั่ง cheap for thai life เพรำะสิ่งที่คุณเนสพูดทำให้วรำรักกังวล เรื่องของกำรปรับเปลี่ยน
นโยบำยของจีนในกำรจดทะเบียนเกิดให้ลูก ในเมื่อมันมีแนวโน้มว่ำคนรุ่นใหม่จะไม่เกิด คนไม่อยำกจะมีลูก คิด
ว่ำเด็กหลอดแก้วรำคำถูกหรอคะ ดังนั้น กำรค้ำมนุษย์ต้องกลับมำอีกแน่นอน ดังนั้น เรำต้องไปคิดว่ำปัญหำแบบ
นี้จะแก้อย่ำงไร แต่ก็อยำกจะถำมทุกท่ำนในที่นี้ว่ำในทัศนะของท่ำนเอง soft power ที่ท่ำนหวังให้คนไทย
represents ออกมำเป็นอย่ำงไร อย่ำง soft power ฉบับเกำหลีของคิมแดจุง ซึ่งปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้วนะคะ
เขำถึงกับวำงแผนว่ำยิ้มแบบไหนที่เขำอยำกให้ชำวโลกจดจำว่ำเป็นยิ้มแบบเกำหลี เขำคิดถึงมุมกล้องและสีสันที่
จะใช้ represents ควำมเป็นเกำหลี เขำทำถึงขั้นนั้น แล้วประเทศไทยทำอะไรอยู่ ฝำกไว้เท่ำนี้ค่ะ
49
ดร.ร่มฉัตร ฉันทรานุกูล :
พอดีว่ำเมื่อครู่พูดถึงเรื่องตัวเลขของประชำกรจีน คือในกลุ่มโครงสร้ำงที่บอกว่ำเป็น upper- income,
middle- income, lower-income พอดีเพิ่งไปหำตัวเลขมำนะคะ แล้วก็จะมำพูดให้ฟังคร่ำวๆ ก็คือว่ำควำมมั่ง
คั่งรวมของจีนในปัจจุบัน อยู่ที่ประมำณ 790 ล้ำนล้ำนหยวน โดยที่จะคิดเป็นสินทรัพย์ของรัฐกับสินทรัพย์ของ
เอกชน สินทรัพย์ของรัฐคิดเป็น 45.57% ของเอกชนอยู่ที่ 54.43% เพรำะฉะนั้น ตอนนี้โครงสร้ำงเศรษฐกิจจีน
นั้นเอกชนมีบทบำทค่อนข้ำงมำก ส่วนเรื่องกลุ่มต่ำงๆ อย่ำงเช่น กลุ่มที่ร่ำ รวยที่สุดในจีนปัจจุบันมีประมำณ 1.4
ล้ำนครัวเรือนทั่วประเทศ มีทรัพย์สินของคนกลุ่มนี้คิดเป็น 67.4% ของควำมมั่งคั่งรวมของทั้งประเทศ แล้วก็ถ้ำ
คิดในจำนวนประชำกรเค้ำคิดเป็น 0.33% ของประชำกรประเทศที่เป็นคนร่ำรวยที่สุดในจีน จีนเมื่อเทียบกับ
หลำยๆประเทศโดยเฉพำะอเมริกำ สัดส่วนนี้ยังถือว่ำยอมรับได้ แล้วก็ชนชั้นกลำงปัจจุบันมีอยู่ประมำณ 31
ล้ำนครัวเรือนหรือ 99 ล้ำนคนโดยประมำณ และมีทรัพย์สินรวมคือประมำณ 25.6% ของควำมมั่งคั่งรวมของ
ทั้งประเทศ ในชนชั้นกลำงของจีนคิดเป็นมูลค่ำประมำณ 110 ล้ำนล้ำนหยวน คิดเป็น 6.9% ของประชำกรทั้ง
ประเทศ กลุ่มคนที่“ไม่รวย” (fei fu yi:非富裕) และกลุ่มที่ไม่ใช่ชนชั้นกลำง (fei zhong chan: 非中产) มี
จำนวน 1.322 พันล้ำนคน คิดเป็นจำนวน 92.77% ของประชำกรทั้งประเทศ ตรงนี้ดำวก็มีคำถำมเหมือนกัน ที่
รัฐบำลจีนบอกว่ำเขำจัดกำรกับ“ควำมยำกส่วนที่เบ็ดเสร็จ”นั้นเขำจัดกำรได้แล้ว แต่ควำมยำกจนคือจริงๆ ยังมี
อยู่ในสังคมของจีน
คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย :
คือจีนเขำเป็นประเทศที่แปลกอย่ำงหนึ่ง ถ้ำเป็นที่อื่นเวลำรัฐบำลออกนโยบำยมำใช้ อย่ำงประเทศไทย
ออกนโยบำย A ค่ำสัมประสิทธิ์มันจะอยู่ที่รำว 50-60% นี่คืออย่ำงดีแล้วนะครับ แต่ที่จีนไม่ใช่ ถ้ำถำมว่ำทำไม
คนถึงฟังพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่เพรำะคนเชื่อในพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ว่ำพรรคคอมมิวนิสต์มีเงินจ้ำงคนให้ไป
ทำงำน อันที่สองคือจีนเขำมีแผนพัฒนำเศรษฐกิจของเขำอยู่ว่ำแต่ละปีเขำต้องเอำเงินไปทำอะไรบ้ำงและ
ภำคเอกชนต้องตำมรัฐบำลมำอย่ำงไรบ้ำง อย่ำงที่บอกว่ำอยู่เหนือเส้นควำมยำกจน มันอยู่เหนืออยู่แล้ว แต่เรื่อง
ควำมมั่งคั่งของคน อยู่ที่ว่ำในบัญชีของคุณมีเงินอยู่เท่ำไหร่ กลุ่มที่มีรำยได้น้อยเขำก็มีเงินในบัญชีน้อยอยู่แล้ว
เพรำะเขำรับมำและก็จ่ำยไป
เรำต้องมำดูกันมำกกว่ำนั้น คือจีนเขำใช้ urban planning กำรพัฒนำเมือง กำรพัฒนำชีวิตคน ทำไม
รัฐบำลต้องทุ่มทุนสร้ำงรถไฟควำมเร็วสูงทั่วประเทศ นั่นก็เพื่อให้มันมีเมืองที่มันโตมำกขึ้น เกิด economic
activity ที่มำกพอให้มีเงินหมุนในเมืองนั้นได้ อย่ำงเวลำเรำอยำกจะขยำยธุรกิจไปยังมณฑลนี้ เรำต้องดูว่ำเมือง
นี้มีแผนกำรพัฒนำเมืองอย่ำงไรบ้ำง เป็นสำเหตุที่ทำไมผมมำที่ฉำงซำและอู่ฮั่น เพรำะมันอยู่ในแผนพัฒนำเมือง
ของรัฐที่เขำกำลังจะทำ รู้ไหมว่ำเวลำผมลงทุนในเมืองไหนผมดูอย่ำงไร ผมไม่ได้ดูว่ำคนในเมืองมีเงินมำกแค่ไหน
50
ผมดูว่ำที่เมืองมี Starbucks อยู่กี่แห่ง สองคือ economic activity ดีหรือไม่ผมดูที่ Walmart เข้ำมำเปิดหรือ
ยัง สำมคือ McDonald's มีเยอะไหม เพรำะว่ำ McDonald's ไม่ใช่สินค้ำหรูแต่ก็ไม่ใช่สินค้ำถูกเช่นกัน มันคือ
สินค้ำที่คนที่มีเงินน้อยที่สุดจะสำมำรถซื้อควำมเป็น middle-class ได้ จำนวนของ McDonald's บ่งบอกถึง
จำนวนของคนที่พร้อมจะขึ้นเป็น middle-class มีมำกแค่ไหน และระดับชั้นของเมืองผมก็ไม่ได้นับตำมที่
รัฐบำลจัดไว้ แต่ผมนับได้จำก Wanda square (万达广场) เปิดให้บริกำรหรือยัง ถ้ำเปิดแล้วแปลว่ำเมืองนี้
พร้อมขยำยใหญ่แล้ว เมืองนี้กลุ่ม CRC เข้ำไปเปิดหรือยัง เข้ำไปทำโคงกำรหรือยัง ถ้ำเข้ำไปแล้ว เมืองนี้พร้อม
จะขยำยใหญ่แล้ว จำนวน income per capita น่ำจะมำกพอแล้ว น่ำจะเกิน 2,000-3,000 หยวนต่อคนแล้ว
เรำถึงจะเริ่มทำธุรกิจได้ เพรำะฉะนั้นมันมีตัวชี้วัดที่มำกกว่ำเรื่อง GDP บำงครั้งเรำต้องดูนโยบำยรัฐบำลว่ำเขำ
ให้บริษัทนี้เข้ำไปตั้งหรือยัง หรืออย่ำงบริษัทรถไฟควำมเร็วสูงของเมือง อย่ำงเช่นซ่ำงไห่ จะมีสถำนีรถไฟ เป่ย
จ่ำน หนำนจ่ำน และมีอีกหลำยสิบจ่ำนเลย แต่บำงเมืองก็มีแค่สถำนีเดียว ซึ่งแปลว่ำควำมกระจำยของควำม
เจริญมันกระจุกอยู่แค่นิดเดียว แต่ถ้ำเรำเริ่มมีหลำยสถำนีแสดงว่ำเมืองมันเริ่มขยำยใหญ่ขึ้นแล้วมันเริ่มทำธุรกิจ
ได้ คนเริ่มมีกำลังซื้อมำกขึ้น ดังนั้นตัวชี้วัดปรกติที่เรำใช้กับไทยมันใช้กับจีนไม่ได้ หรือตัวชี้วัดแบบอเมริกำก็ใช้
กับจีนไม่ได้เหมือนกัน เพรำะมันมีทั้งเรื่องรัฐบำล เรื่องกำรขยำยตัวของเมือง ก็ขอฝำกไว้เท่ำนี้ครับ
คุณยุวดี คาดการณ์ไกล :
เรื่องที่คุณตี้พูดนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องเตรียมไว้จัดประชุมครั้งหน้ำนะคะ เพรำะเรื่องเมือง
ของจีนนี่เป็นอะไรที่เกินควำมคิดของคนไทย เพรำคนไทยไม่คุ้นชินกับกำรขยำยเมืองแบบจีน จีนเขำใช้เมืองเป็น
เครื่องมือทำงกำรพัฒนำเศรษกิจของชำติเลยก็ว่ำได้ อีกทั้งเรื่องระดับของเมืองต่ำงๆ ที่ค่อนข้ำงซับซ้อนไว้ค่อย
คุยอีกรอบหนึ่งนะคะ ไม่ทรำบว่ำวิทยำกรท่ำนอื่นจะฝำกอะไรอีกไหมคะ
คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ :
อย่ำงที่พูดไปตอนแรกว่ำทำไมในสังคมเมืองถึงเหนื่อยมำก ที่จริงมันมีเรื่องของกฎหมำยจีนเข้ำมำด้วย
สมมุติว่ำคนอำยุเท่ำเนสไปอยู่ที่เมืองไทยจะไม่เหนื่อยเท่ำอยู่จีน เพรำะว่ำจีนจะมีกฎหมำย เช่นหนึ่งครอบครัวมี
บ้ำนได้สองหลัง จะมีรถได้เมื่อมีสิทธิ์ทะเบียนรถก่อนแล้วถึงจะซื้อรถได้ มันจะมีกฎหมำยพวกนี้คอยแทรกเข้ำมำ
ทำให้คนในเมืองใหญ่นั้นเหนื่อยกว่ำปรกติ อย่ำที่เซี่ยงไฮ้ถ้ำจะซื้อบ้ำนเรำเดินไปซื้อเลยไม่ได้ มีเงินก็ซื้อไม่ได้
เพรำะต้องมี social credit score ที่มำกพอด้วยถ้ำสมมุติว่ำเนสมี 60 คะแนนเนสก็จะซื้อบ้ำนในโครงกำรนี้
ไม่ได้ เพรำะต้องใช้ 90 คะแนนถึงจะมีสิทธิ์ซื้อได้ คนไทยเรำอำจจะนึกภำพไม่ออกแต่คนจีนในเมืองใหญ่เจอ
ประจำ แล้วเป็นอะไรที่เหนื่อยมำก อย่ำงรถที่เนสใช้อยู่ก็เป็นชื่อแฟนหรือไม่ก็ญำติแฟน เพรำะไปยื่นขอสิทธิ์
ทะเบียนรถหลำยครั้งแล้วไม่ได้ เพรำะเขำใช้ระบบลอตเตอรี่ด้วย มันมีควำมลำบำกในกฎหมำยตรงนี้ที่คนไทยไม่
51
เคยเจอ และอีกอย่ำงคือเห็นด้วยกับที่คุณตี้พูดมำกเลย อย่ำแฟนเนสบ้ำนเขำอยู่ที่เมืองระดับสี่ จำกที่ไปมำครำว
ก่อนยังไม่มี starbucks แต่ตอนนี้ล่ำสุดที่ไปคือมีแล้ว แสดงว่ำ GDP ของเมืองนี้ดีขึ้นแล้ว อันนี้ก็ฝำกไว้เผื่อใคร
สนใจศึกษำเพิ่มเติมค่ะ
Ms.Liyue Zhou :
วันนี้รู้สึกสนุกมำกค่ะ คือได้ทุกมุมมองจำกคนไทย ในฐำนะที่เป็นสะใภ้จีน เป็นอำจำรย์ เป็นนักธุรกิจ
หรือเป็นนักวิจัยนะคะ สนุกมำกค่ะอำจำรย์ยุวดี ต่อไปถ้ำมีงำนแบบนี้อีกก็ส่งลิงค์ให้เดือนด้วยนะคะ เดือนอยำก
เข้ำมำฟังด้วย จริงๆ แล้วอยำกถำมคุณตี้ตั้งนำนแล้วค่ะ เพรำะเห็นว่ำในโซเชียลมีเดียมำหลำยปี เปิดร้ำนที่เมือง
นั้น เมืองนี้ อยำกถำมตั้งนำนแล้วว่ำ ใช้อะไรในกำรตัดสินใจลงทุนเมืองนี้ อ๋อ วันนี้รู้แล้ว ใช้ starbucks นี่เอง ก็
อยำกจะเสริมสักประโยคหนึ่ง อย่ำงที่เมื่อครู่หลำยท่ำนพูดว่ำกำรพัฒนำของจีนในหลำยๆด้ำน ก็อำจจะสำมำรถ
จะเปรียบเทียบกับประเทศอื่นด้วย เพรำะว่ำประเทศอื่นอำจจะผ่ำนมำแล้ว แต่ว่ำประเทศจีนก็ถือว่ำเป็น
ประเทศที่ค่อนข้ำงพิเศษ ไม่ว่ำจะมองในมุมไหนก็ตำม เดือนก็รู้สึกดีใจนะคะว่ำ เมืองจีนมีนักวิจัย หรือว่ำนัก
ธุรกิจ หรือใครก็ตำมนะคะ ที่อยำกรู้จักจีนมำกขึ้นต่อไปก็น่ำจะมีงำนอะไรที่เกี่ยวกับจีนมำกขึ้น เดือนก็ Look
forwards to read นะคะ ขอบคุณค่ะ
52
กล่าวปิด
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง
ผู้อำนวยกำรศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ
ก่อนอื่นก็ต่องขอขอบคุณวิทยำกรทุกท่ำน เท่ำที่ฟังมำต้องขอบอกว่ำเป็นทั้งควำมสนุก เป็นทั้งควำมรู้ที่
ไม่เคยได้รับทรำบมำจำกแว่นของตะวันตกมองตะวันออก หรือแว่นของตะวันออกมองตะวันออกเอง ก็ยังมีอยู่
หลำยแว่น ผลงำนวันนี้ผมมั่นใจว่ำทำงผู้จัดจะนำไปทำ initiative policy recommendations อย่ำงแน่นอน
เพรำะวันนี้เรำได้เยอะเหลือเกิน แต่ว่ำเป้ำหมำยเรำนั้นต้องทำอย่ำงไร แม้กระทั่งที่อำจำรย์หลำยท่ำนได้บอกว่ำ
เรำทำโดยตั้งใจแล้วหรือยัง มีแผนหรือยัง ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมำกคือ soft power
คำว่ำ soft power ก็ควรจะครอบคลุมอะไรอีกหลำยอย่ำง บำงท่ำนได้ให้ข้อคิดว่ำ ประเทศไทยมีดี
ถูกต้อง ไม่ถูกต้องอย่ำงไร ต้องกล้ำที่จะพูด แต่อย่ำงไรก็ตำม policy recommendations หรือ policy
initiative นั้น ต้องอำศัย policy maker ที่เข้ำใจ แต่เชื่อไหมครับ policy maker อยู่บนผลประโยชน์ของ
policy maker จำนวนมำก เพรำะฉะนั้นวิธีเขียนก็คงต้องเขียนหนักมำก ไมเคิล ฟำรำเดย์ ใช้เวลำนำนมำกกว่ำ
รัฐมนตรีจะอนุมัติกำรใช้มอเตอร์ เพรำะเขำอธิบำยได้แต่เพียงว่ำมันดีอย่ำงไร แต่สุดท้ำยแล้วรัฐมนตรีก็จะถำม
ว่ำแล้วผมได้อะไร policy maker ได้อะไร ไมเคิล ฟำรำเดย์ จึงบอกว่ำ สักวันหนึ่งท่ำนจะเก็บภำษีจำกมันได้
ประโยชน์ของภำษีจะเกิดแก่ประชำชน ผลประโยชน์จำกกำรกำหนดกฎหมำยตัวนี้จะเกิดผลประโยชน์กับ
ท้องถิ่นอย่ำงไรในอนำคต อันนี้เป็นเรื่องท้ำทำยมำก
ผมหวังเป็นอย่ำงยิ่งครับว่ำ งำนในครั้งนี้จะได้หลอมรวมออกมำรีบทำ เพรำะสี่อย่ำงนี้แพงมำก 1) เวลำ
มีเงินก็ซื้อไม่ได้ 2) ควำมรัก รักที่จะให้ ให้โอกำส ให้ข้อคิดดีๆ อย่ำงวันนี้ 3) ชีวิต คือคุณค่ำของสิ่งที่เรำมีอยู่ วิถี
53
ที่เรำอยำกนำเสนอ สุดท้ำยคือมิตรแท้ ผมมั่นใจว่ำทุกคนเป็นมิตรแท้ให้แก่กันและกัน เรำเพิ่งทำสัมนำไปว่ำมิตร
แท้คือคนที่ไปมำหำสู่กัน เรำจะให้เขำได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่ำงไร ในขณะเดียวกันเรำจะป้องกันสิ่งไม่ดีไม่ให้เกิดขึ้น
ได้อย่ำงไร ก็เป็นควำมท้ำทำยมำกของงำนนี้ และก็สนุกมำก โดยเฉพำะของอำจำรย์เดือน ขอบคุณมำกสำหรับ
วิธีคิด หรืออะไรต่ำงๆ แต่มั่นนใจว่ำสุดท้ำยแล้วคนจีนน่ำจะไม่ค่อยชอบ vacation ใช่ไหมครับ กำรทำงำนไปพัก
ไปหลำยท่ำนบอกว่ำทำงำนไม่ยอมหยุด เป็น work-cation บำงส่วนเรำก็อำจจะช่วยให้เขำได้อย่ำทำงำนมำก
จนเกินไป แต่ของไทยเรำจะทำให้ดีขึ้น ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ คณะผู้จัด วิทยำกร รวมทั้งท่ำนอำจำรย์หลำย
ท่ำนที่ได้ให้ควำมคิดเห็นร่วมเข้ำมำในงำนครั้งนี้ เสียดำยที่เวลำน้อยนะครับ ก็ขอให้ทุกคนได้มีควำมสุขอัน
ประนีตยิ่งๆขึ้นไป คณะของเรำก็หวังว่ำจะได้รับกำรสนับสนุนจำกท่ำนผู้ชม และท่ำนวิทยำกรทุกท่ำนครับ
ขอบคุณมำกครับ สวัสดีครับ
54
55

More Related Content

PDF
การพัฒนาหลักสูตร ไทเลอร์ ทาบา โอลิวา
PDF
การเขียนบรรณานุกรม
PDF
กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย (2556)
PDF
อำลา อาลัย จากใจครู
PPTX
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
PDF
แนวทางการดูแลผู้ป่วยสติปัญญาบกพร่อง ออทิสติก สมาธิสั้น และภาวะบกพร่องทางการเร...
PDF
มหาเวสสันดรชาดก ชุด1
การพัฒนาหลักสูตร ไทเลอร์ ทาบา โอลิวา
การเขียนบรรณานุกรม
กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย (2556)
อำลา อาลัย จากใจครู
พระพุทธศาสนาวัชรยาน Vajrayana Buddhism
แนวทางการดูแลผู้ป่วยสติปัญญาบกพร่อง ออทิสติก สมาธิสั้น และภาวะบกพร่องทางการเร...
มหาเวสสันดรชาดก ชุด1

What's hot (20)

PDF
ใบความรู้ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
DOCX
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
PDF
การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก
PPTX
ปรัชญาทั่วไป ตอนทฤษฎีความรู้ (ญาณวิทยา)
PDF
หัวใจชายหนุ่ม
PDF
PDF
การสำรวจทางทะเล
DOCX
สารบัญโครงงานคอม
PPTX
การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก
PDF
Power point รวมกลุ่มเศรษฐกิจ แก้ใหม่
PPTX
สื่อครูมาณี ปี59
PPTX
หน่วยที่-4 สหกรณ์และการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาชุมชนของไทย
PDF
ศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
PDF
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
PDF
การสร้างคำในภาษาไทย
PDF
Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058
PDF
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
PPTX
PDF
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
ใบความรู้ องค์ประกอบของพยางค์และคำ
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน
การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก
ปรัชญาทั่วไป ตอนทฤษฎีความรู้ (ญาณวิทยา)
หัวใจชายหนุ่ม
การสำรวจทางทะเล
สารบัญโครงงานคอม
การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก
Power point รวมกลุ่มเศรษฐกิจ แก้ใหม่
สื่อครูมาณี ปี59
หน่วยที่-4 สหกรณ์และการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาชุมชนของไทย
ศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
การสร้างคำในภาษาไทย
Nursing Care for Coronary Artery disease edition 111058
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก (Orthopedics nursing problem)
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
Ad

Similar to ิวิถีชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ กับการนำเสนอ Soft Power ของไทย (20)

PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 6 ประจำเดือนกันยายน 2565
PDF
ประสบการณ์การพัฒนาใหม่ในชนบทจีนและไทย
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 7 ฉบับที่ 7 ประจำเดือนตุลาคม 2564
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนกรกฎาคม 2565
PDF
PDF
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนมิถุนายน 2565
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 8 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565
PDF
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
PDF
Heritage ok 05-01-54science
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 3 ประจำเดือนมิถุนายน 2565
PDF
หนังสือสรุปผลการดำเนินงานที่ประชุมประธาน สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (...
PDF
Information2012
PDF
PDF
การจัดการภาครัฐสมัยใหม่
PDF
Oha@chiangmai54
PDF
การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
PDF
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 6 ประจำเดือนกันยายน 2565
ประสบการณ์การพัฒนาใหม่ในชนบทจีนและไทย
NSTDA Newsletter ปีที่ 7 ฉบับที่ 7 ประจำเดือนตุลาคม 2564
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนกรกฎาคม 2565
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนมิถุนายน 2565
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 8 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
Heritage ok 05-01-54science
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 3 ประจำเดือนมิถุนายน 2565
หนังสือสรุปผลการดำเนินงานที่ประชุมประธาน สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (...
Information2012
การจัดการภาครัฐสมัยใหม่
Oha@chiangmai54
การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
Ad

More from Klangpanya (20)

PDF
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
PDF
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China ...
PDF
World-changing and the Thai-Chinese Relations
PDF
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
PDF
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
PDF
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
PDF
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
PDF
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
PDF
Trends in Social and Environmental Responsibility Presentation
PDF
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
PDF
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
PDF
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
PDF
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
PDF
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
PDF
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
PDF
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
PDF
Korakot Design for International 02 อว.pdf
PDF
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
PDF
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
PDF
ปัญญาในวิถีคิดและวิถีปฏิบัติของโลกแห่งอ.pdf
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China ...
World-changing and the Thai-Chinese Relations
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
Trends in Social and Environmental Responsibility Presentation
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
Korakot Design for International 02 อว.pdf
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
ปัญญาในวิถีคิดและวิถีปฏิบัติของโลกแห่งอ.pdf

ิวิถีชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ กับการนำเสนอ Soft Power ของไทย

  • 2. 2 รายงานถอดความ (Transcript) วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีน กับข้อเสนอ Soft Power ของไทย ผู้นำเสนอหลัก ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล Ms.Liyue Zhou คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์ ดำเนินรำยกำร คุณยุวดี คาดการณ์ไกล รำยงำนฉบับนี้ถอดควำมจำกเวทีวิชำกำรไทย-จีน (Thai – China Forum) เรื่อง "วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีน กับข้อเสนอ Soft Power ของไทย" จัดโดย ศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ และ สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ เมื่อวันที่ 9 สิงหำคม พ.ศ. 2566 (กำรประชุมออนไลน์) บรรณาธิการ: ยุวดี คำดกำรณ์ไกล ผู้ช่วยบรรณาธิการ: ณัฐธิดำ เย็นบำรุง ผู้ถอดความ: กันตพงศ์ คำดกำรณ์ไกล อานวยการผลิตโดย: สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ปีที่เผยแพร่: กันยำยน พ.ศ. 2566 www.klangpanya.in.th ที่อยู่ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ อำคำร The Line Phahon-Pradipat ถนนประดิพัทธิ์ แขวงสำมเสนใน เขตพญำไท กทม. 10400
  • 3. 3 คานา เมื่อวันที่ 9 สิงหำคม พ.ศ. 2566 เวลำ 09.00-12.00 น. สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ และ ศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ จัดเวทีวิชำกำรไทย-จีน เรื่อง "วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีน กับข้อเสนอ Soft Power ของไทย" กำรจัดประชุมใช้รูปแบบเวทีวิชำกำรออนไลน์ผ่ำนแอปพลิเคชัน ZOOM โดยมีนักคิด นักวิชำกำรมหำวิทยำลัย ครูจำกสถำนศึกษำต่ำงๆ CEO ผู้จัดกำร จำกบริษัทเอกชน ผู้สื่อข่ำวจำก สำนักข่ำวจีนและไทย ปัจจุบันประเทศจีนกำลังส่งเสริมกำรสร้ำงประเทศที่เข้มแข็งและฟื้นฟูด้วยควำมทันสมัยในแบบของจีน อย่ำงกว้ำงขวำงและเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งขณะเดียวกันก็มีนโยบำยส่งเสริมควำมเป็นเมือง กำร ขยำยตัวของเมืองให้เติบโตอย่ำงรวดเร็ว มีกำรเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับทั้งมิติทำงด้ำนเศรษฐกิจและสังคม ควำมเป็นเมืองได้ขับเคลื่อนกำรเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีควำมหลำกหลำยที่อยู่ในสภำพแวดล้อมที่ เปลี่ยนแปลงเร็วทุกด้ำน จึงเป็นที่มำของคำถำมที่ท้ำทำยและน่ำชวนติดตำมในกำรที่จะแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น สำหรับคนไทยและหน่วยงำนของไทยที่จะได้มีโอกำสมีส่วนร่วมในกำรศึกษำวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ เพื่อประโยชน์ใน ควำมร่วมมือทำงกำรสร้ำงสัมพันธ์และกำรดำเนินงำนนโยบำยที่เกี่ยวข้อง ที่สอดคล้องกับสังคมที่มีกำร เปลี่ยนแปลงไป ในกำรนี้ สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ได้จัดทำรำยงำนสรุปและถอดควำมเนื้อหำเวที วิชำกำรครั้งนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ควำมรู้สู่ผู้กำหนดและตัดสินใจเชิงนโยบำย ภำคส่วนต่ำง ๆ นิสิตนักศึกษำ และ ประชำชนทั่วไปที่สนใจกำรสินค้ำเกษตรบนควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยและจีน สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
  • 4. 4 สารบัญ หน้า คานา 3 กล่าวเปิด 6 ส่วนที่ 1 วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่จีนที่เปลี่ยนแปลงไป 8 Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 31 ส่วนที่ 2 ความนิยมไทยในจีนและข้อเสนอพัฒนา Soft Power ไทย 34 Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 47 กล่าวปิด 52
  • 5. 5
  • 6. 6 กล่าวเปิด ดร.วิภารัตน์ ดีอ๋อง ผู้อำนวยกำรสำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ สวัสดีค่ะ ท่ำนวิทยำกรและแขกผู้มีเกียรติทุกท่ำน ในนำมของสำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ หรือ วช. มี ควำมยินดีเป็นอย่ำงยิ่งที่ได้มีโอกำสมำเป็นประธำนเปิดเวทีกำรประชุมวิชำกำรไทย-จีน ในหัวข้อ “วิถีชีวิตคนจีน รุ่นใหม่กับ Soft power ของไทย” ในวันนี้ค่ะ ประเทศไทยและประเทศจีนมีประวัติศำสตร์กำรไปมำหำสู่กัน อย่ำงยำวนำน เป็นเพื่อนบ้ำนที่ดี เป็นหุ้นส่วนที่ดี และในช่วง 10 ปีที่ผ่ำนมำได้มีกำรร่วมสร้ำงแถบและเส้นทำง ระหว่ำงไทยและจีนอย่ำงประสบควำมสำเร็จในหลำยประเด็น ปัจจุบันประเทศจีนกำลังส่งเสริมกำรสร้ำง ประเทศที่เข้มแข็งและฟื้นฟูด้วยควำมทันสมัยในแบบของจีนอย่ำงกว้ำงขวำงและเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งขณะเดียวกันก็มีนโยบำยส่งเสริมควำมเป็นเมือง กำรขยำยตัวของเมืองให้เติบโตอย่ำงรวดเร็ว สังคมจีนได้ เปลี่ยนจำกสังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมเมือง มีกำรเปลี่ยนแปลงทำงเศรษฐกิจที่ล้ำหน้ำและมีควำมรวดเร็ว มี กำรเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับทั้งมิติทำงด้ำนเศรษฐกิจและสังคม ตลอดช่วงที่ผ่ำนมำจะเห็นภำพของกำรเคลื่อนด้ำนแรงงำนในภำคเมืองและภำคชนบทอย่ำงต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อกำรพัฒนำเศรษฐกิจของประเทศ ควำมเป็นเมืองได้ขับเคลื่อนกำรเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีควำมหลำกหลำย มีกลุ่มสังคมเมืองที่ก่อตัวขึ้น มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเทียบเคียงกับวิถีแบบเมือง ดังนั้น คนจีน รุ่นใหม่ที่อยู่ในช่วงหลังปี ค.ศ 1990 หรือหลังปี ค.ศ 2000 อยู่ในสภำพแวดล้อมที่ได้มีกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำน เศรษฐกิจ สังคม กำรศึกษำ และควำมก้ำวล้ำทำงเทคโนโลยีดังกล่ำว จึงเป็นที่มำของคำถำมที่ท้ำทำยและน่ำ ชวนติดตำมในกำรที่จะแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นสำหรับคนไทยและหน่วยงำนของไทยที่จะได้มีโอกำสมีส่วนร่วม
  • 7. 7 ในกำรศึกษำ ทำควำมเข้ำใจในกำรดำเนินชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ในเรื่องของค่ำนิยมที่มีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง และยังเป็นประโยชน์อย่ำงยิ่งในกำรทบทวนในเรื่องของควำมร่วมมือทำงกำรสร้ำงสัมพันธ์และกำรดำเนินงำน นโยบำยที่เกี่ยวข้อง ที่สอดคล้องกับสังคมที่มีกำรเปลี่ยนแปลงไป ในฐำนะที่สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ หรือ วช. ได้ให้ควำมสำคัญต่อกำรส่งเสริม สนับสนุนงำนวิจัยและ นวัตกรรมสู่กำรใช้ประโยชน์ในทุกมิติ โดยเฉพำะในภำพของกำรยกระดับขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของ ประเทศ ที่ทันต่อสถำนกำรณ์โลก ตลอดจนกำรส่งเสริมกำรสนับสนุนเครือข่ำยทำงวิชำกำรทั้งในและ ต่ำงประเทศ โดยเฉพำะเวทีวิชำกำรไทย-จีน ที่สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ โดยศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน ร่วมกับสถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ได้จัดให้มีกิจกรรมเช่นนี้มำอย่ำงต่อเนื่อง รู้สึกเป็นเกียรติอย่ำงยิ่ง ค่ะ และต้องขอขอบคุณท่ำนวิทยำกรทุกท่ำนนะคะที่ให้เกียรติมำร่วมนำกำรสนทนำในครั้งนี้ ทั้งท่ำน ดร.ร่มฉัตร จันทรำนุกูล ท่ำนอำจำรย์ประจำคณะศึกษำด้ำนอำเซียน มหำวิทยำลัยกำรศึกษำระหว่ำงประเทศ ปักกิ่ง คุณ Liyue Zhou ผู้จัดกำรด้ำนกำรสื่อสำรในองค์กรระหว่ำงประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่ปรึกษำกฎหมำยไทย-จีน บริษัทหยิ่งจ้งลอร์ออฟฟิศ คุณนิธินำคิน์ มิ่งรุจิรำลัย ประธำนเจ้ำหน้ำที่ด้ำนธุรกิจของ บริษัทเทคโนโลยี Beijing Joynco Technology รวมถึงท่ำนรองศำสตรำจำรย์ ดร.วรำรัก เฉลิมพันธุศักดิ์ อำจำรย์ประจำสำขำวิชำรัฐศำสตร์มหำวิทยำลัยสุโขทัยธรรมำธิรำช กำรประชุมวิชำกำรไทย-จีน ในวันนี้จะเป็นเวทีสำคัญในกำรสร้ำงกำรเรียนรู้ กำรแลกเปลี่ยน ประสบกำรณ์ระหว่ำงฝ่ำยไทยและฝ่ำยจีน ทั้งในระดับนโยบำย ระดับพื้นที่ ในด้ำนควำมร่วมมือด้ำนเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม ควำมร่วมมือที่เกี่ยวข้องในประเด็นต่ำงๆ ผ่ำนกำรระดมสมองจำกนักวิจัยจำกผู้เชี่ยวชำญ และผู้มีประสบกำรณ์ที่อยู่ในทั้งภำครัฐ ภำคเอกชน และภำคประชำสังคม มำร่วมกันให้ข้อเสนอแนะเชิง นโยบำย เพื่อร่วมกันในกำรสร้ำงโอกำสที่ดี ในควำมร่วมมือทำงวิชำกำรระหว่ำงทั้งสองประเทศ ให้มีควำมแน่น แฟ้นมำกยิ่งขึ้นและเป็นโอกำสอันดีที่ผู้เข้ำร่วมเวทีวิชำกำรทุกท่ำนจะได้ร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบกำรณ์ สร้ำงกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำองค์ควำมรู้ ที่จะนำไปสู่กำรต่อยอดกำรดำเนินงำนงำนนโยบำยต่ำงๆ และสำย สัมพันธ์ทำงวิชำกำรไทย-จีน ให้มีควำมใกล้ชิดและเข้มแข็งยิ่งขึ้นค่ะ สุดท้ำยนี้ขอให้เวทีวิชำกำรไทย-จีนในครั้งนี้ ประสบควำมสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ ดังเจตนำรมณ์ที่ตั้งไว้ทุกประกำร ขอบคุณค่ะ
  • 9. 9 การเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ส่งผลต่อวิธีคิดของคนจีนรุ่นใหม่ โดย ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล อาจารย์ประจาคณะ Asian Studies, Beijing of International Studies University (BISU) สวัสดีค่ะทุกๆท่ำน ทั้งผู้เชี่ยวชำญและผู้ที่เข้ำมำนั่งฟังในวันนี้นะคะ เนื้อหำหลักที่จะนำเสนอในวันนี้ ประเด็นแรกเลยคือเรื่องของพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับอิทธิพลต่อแนวคิดประชำชน แล้วก็ค่ำนิยมของจีนในช่วง ยุคต่ำงๆ คือกำรเปลี่ยนผ่ำนของจีน 40 กว่ำปีที่ผ่ำนมำนั้นมีกำรเปลี่ยนแปลงทุก 10 ปีที่ค่อนข้ำงเร็ว เพรำะฉะนั้น คนในแต่ละรุ่นอำจจะมีค่ำนิยมที่ค่อนข้ำงต่ำงกันเยอะ และประเด็นที่ 3 ที่จะพูดถึงคือกำร เปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์และแนวคิดของคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่น่ำสนใจและเรำควรจะติดตำมนะคะ เรื่อง สุดท้ำยคือ Globalization หรือโลกำภิวัตน์ ที่ส่งผลต่อแนวคิดคนรุ่นใหม่กับควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีนใน ปัจจุบัน ทีนี้เรำมำดูในเรื่องของแนวคิดของพรรคต่ออิทธิพลต่อประชาชน พรรคคอมมิวนิสต์จีนเรำเรียกสั้นๆ ว่ำ CPC (Communist Party of China) ก่อตั้งในปี 1921 เป็นพรรคกำรเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปัจจุบันมี สมำชิกอยู่ 98 ล้ำนคนทั่วทั้งประเทศ เพิ่มจำก ค.ศ. 2021 ถึง 1.32 ล้ำนคน ขนำดของพรรค CPC นั้นใหญ่มำก และมีจำนวนสมำชิกเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ ทุกปี ในระดับมหำวิทยำลัยเอง นักศึกษำก็สำมำรถเข้ำเป็นสมำชิกพรรค ได้ แต่ว่ำจะมีกระบวนกำรคัดสรรที่ค่อนข้ำงเข้มงวด และส่วนใหญ่นักศึกษำมหำวิทยำลัยที่อยำกเข้ำไปเป็น สมำชิกพรรคเพรำะเขำมีเป้ำหมำยในอนำคตว่ำอยำกจะเข้ำเป็นข้ำรำชกำรหรือทำงำนรัฐวิสำหกิจ
  • 10. 10 ดังนั้น กำรเป็นสมำชิกพรรคจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมำกในกำรเติบโตในด้ำนหน้ำที่กำรงำนของคนจีนที่เข้ำ ไปอยู่ในหน่วยงำนรัฐบำล โดยผู้ที่เป็นสมำชิกพรรคต้องจ่ำยค่ำสมำชิกพรรครำยเดือน แต่ละหน่วยงำนจะจ่ำยไม่ เท่ำกันนะคะ แล้วก็จะต้องทำงำนที่เป็นภำรกิจหน้ำที่ของพรรคด้วยนอกเหนือจำกงำนประจำที่ตัวเองรับผิดชอบ อยู่ในหน่วยงำน เช่น ต้องมีงำนทำประโยชน์ให้สังคม หรือว่ำในหน่วยงำนเรำก็ต้องอยู่ในแถวหน้ำ คือกำร ช่วยเหลือคน ซึ่งคนที่เป็นสมำชิกพรรคต้องมีแนวคิดในด้ำนนั้นที่ค่อนข้ำงดี มีกำรปลูกฝังเรื่องของกำรช่วยเหลือ สังคมค่อนข้ำงมำก แล้วก็กำรควบคุมของพรรคคือเหนือรัฐบำล เหนือสื่อ และสถำปนำต่ำงๆของสังคม อันนี้ เป็นสิ่งที่เรำรู้กันอยู่แล้ว กำรถูกกำหนดนโยบำยและตัดสินใจโดยพรรค โดยทั้งหมดนั้นจึงไม่แปลกเลยที่พรรค คอมมิวนิสต์จะมีอิทธิพลและผลกระทบต่อชีวิตประชำชนจีนเป็นอย่ำงมำก เรำมำดูในเรื่องของประเด็นต่ำงๆ กับพรรคกับอิทธิพลต่อแนวคิดประชำชนจีน เริ่มแรกคือการศึกษา และอุดมการณ์ กำรศึกษำและอุดมกำรณ์คือสิ่งพื้นฐำนในสังคมจีน และเป็นสิ่งที่รัฐบำลจีนมีปลูกฝังให้กับเด็กๆ และเยำวชนตั้งแต่เล็ก อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เรื่องที่ 2 คือ สื่อและการชวนเชื่อ หรือกำรโฆษณำ (advertising) หรืออำจจะบอกว่ำสื่อทุกอย่ำงถูกควบคุมโดยรัฐบำล เรำจะพูดอย่ำงนั้นก็ได้ คืออย่ำงเช่นว่ำสื่อ CCTV หรือจะ เป็นในเรื่องของ Platform Online ต่ำงๆก็ถูกควบคุมเหมือนกันนะคะ เรื่องที่ 3 ที่สำคัญเลยก็คือเรื่องของ สันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ โดยองค์กรนี้เป็นองค์กรที่ให้เยำวชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในเรื่องของกำรทำกิจกรรม ของพรรคในกำรช่วยเหลือสังคมหรือว่ำกำรทำอะไรต่ำงๆที่พรรคสนับสนุน หลังจำกนั้นก็เป็นเรื่องของกำร ควบคุมอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มดิจิทัล อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ประชำชนจีนรู้กันอยู่ อย่ำงเช่นข่ำวออนไลน์หรือ อะไรต่ำงๆ ก็จะมีกำรคัดกรองทุกอย่ำงทั้งคอมเมนต์หรืออะไรต่ำงๆ แล้วก็สุดท้ำยก็คือควำมเป็นชำตินิยมและ ควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นจีน ส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่รัฐบำลจีนพยำยำมที่จะปลูกฝังให้กับคนจีนตั้งแต่ยุคสมัยก่อน จนถึงปัจจุบัน ให้มีควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นคนจีน และมองว่ำจีนคือจงกั๋ว จงคือกลำง แบบเป็นประเทศ กลำงของโลก เป็นประเทศที่มีควำมยิ่งใหญ่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรำมำดูในเรื่องของพรรคกับจีนรุ่นใหม่นะคะ อันนี้เป็นสิ่งที่น่ำสนใจเพรำะว่ำช่องว่ำงระหว่ำงวัยและ ค่ำนิยมที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่พรรคยังมีอิทธิพลอยู่ ทำให้คนรุ่นใหม่มีแนวคิดที่เปลี่ยนไป โดยมีข้อบ่งชี้ว่ำ ค่านิยมและลาดับความสาคัญของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป คนหนุ่มสำวจีนในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจำกทั่วโลก คือ ไม่ใช่แค่ในจีนเท่ำนั้นและบำงคนอำจจะมีมุมมองแบบเสรีนิยมด้วยซ้ำ หรือมีควำมเป็นปัจเจกนิยมที่แตกต่ำงจำก คนในอดีต มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ดังนั้นพรรคจึงต้องมีกำรสื่อสำรกับคนกลุ่มนี้ด้วย แต่ปัจจุบันพรรคก็ยังใช้ อิทธิพลสำคัญเหนือคนรุ่นใหม่ผ่ำนกำรศึกษำอยู่ อย่ำงที่บอกไป เช่นในเรื่องของสื่อองค์กรเยำวชนหรือว่ำโอกำส ทำงเศรษฐกิจต่ำงๆ พรรคจะเป็นตัวชี้นำและมีอิทธิพลอยู่ในบริบททำงสังคม และมีพลวัตและกำรพัฒนำ แต่คน รุ่นใหม่ก็ยังได้รับอิทธิพลจำกกระแสโลกด้วย ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีและค่ำนิยมที่เปลี่ยนแปลงไป ตรงนี้ก็
  • 11. 11 เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับคนรุ่นใหม่ เรื่องควำมแตกต่ำงทำงทัศนคติ ควำมเชื่อ ค่ำนิยม และพฤติกรรมระหว่ำง กลุ่มอำยุต่ำงๆ ในจีนค่อนข้ำงชัดเจน อย่ำงที่บอกไปว่ำจีนมีกำรพัฒนำทำงเศรษฐกิจรวดเร็วและมีกำรพัฒนำทำงสังคมที่รวดเร็วด้วย กำร เปิดรับอิทธิพลจำกทั่วโลกเพิ่มขึ้น ทำให้กำรแบ่งรุ่นของคนจีนมีต่ำงกันไป และมีช่องว่ำงระหว่ำงวัยเกิดขึ้น ชัดเจน ซึ่งคนจีนรุ่นใหม่ที่เรำเห็นนั้นจะมีควำมเป็นโลกำภิวัตน์ (Globalization) มำกขึ้น มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ (Creativity) มีควำมเป็นปัจเจกบุคคลมำกขึ้น แล้วเรำมำดูในยุคของช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1940-1950 ผู้คนในยุคนั้นก็ต้องบอกว่ำอยู่ในช่วงของสถำนกำรณ์ในประเทศยังไม่มั่นคงเท่ำที่ควร มีกำรปฏิวัติวัฒนธรรม 10 ปี และได้รับประสบกำรณ์ในกำรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้ำนกำรเมืองและสังคม แต่คนกลุ่มนี้มีจุดเด่นเรื่องของ อุดมกำรณ์ที่เข้ำใจอย่ำงลึกซึ้งและมีควำมเชื่อมั่นและศรัทธำต่อพรรคอย่ำงมำก อีกทั้งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ขยัน ขันแข็งและแข็งแกร่ง เนื่องจำกต้องช่วยเหลือตัวเองและสังคมที่กำลังก่อร่ำงสร้ำงตัว ช่วงนี้ก็เห็นได้จำกที่คน กลุ่มนี้ในปัจจุบันมักจะเกษียณอำยุแล้ว อำยุ 70-80 กันแล้วแต่ว่ำยังมีควำมเป็นนักสู้ เห็นเลือดนักสู้จำกในสมัย อดีตแล้วก็มีควำมเชื่อมั่นและศรัทธำต่อพรรคและต่อประเทศค่ะ รุ่นต่อมำคือรุ่นปีค.ศ. 1960-1970 เป็นรุ่นหลัง ปฏิวัติวัฒนธรรม เป็นรุ่นที่เริ่มเปิดรับกระแสระหว่ำงประเทศแล้ว และมีกำรเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจเหมือนกัน คนรุ่นนี้จะมีกำรผสมผสำนระหว่ำงค่ำนิยมดั้งเดิมและควำมตระหนักที่เพิ่มขึ้นจำกอิทธิพลของโลกที่กำลัง เปลี่ยนไป กลุ่มต่อไปคือรุ่นที่เกิดในช่วงนโยบำยลูกคนเดียวช่วงปี 1980-1990 ที่จีนจะเรียกว่ำ ปำหลิงโฮ่ว จิ่วหลิงโฮ่ว คือคนรุ่นนี้เติบโตมำในนโยบำยลูกคนเดียว ซึ่งมีผลถึงปีค.ศ. 2015 ซึ่งในปัจจุบันจีนให้มีลูกหลำยคน ได้แล้ว คนรุ่นนี้เติบโตมำกับเศรษฐกิจที่ขยำยตัวอย่ำงรวดเร็วและมีกำรเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีที่มำกขึ้นด้วย คน รุ่นนี้จะมีควำมหลำกหลำยที่มำกขึ้นเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน แล้วก็มีโอกำสทำงกำรศึกษำและกำรพัฒนำทำง อำชีพมำกขึ้น อีกทั้งคนกลุ่มนี้เองก็เป็นกลุ่มคนที่เดินทำงไปเรียนต่อต่ำงประเทศเป็นจำนวนมำก เช่นไปเรียนต่อ ที่อเมริกำ อังกฤษ ออสเตรเลียหรือประเทศต่ำงๆทั่วโลก แล้วเรำมำดูคนรุ่นหลังหรือก็คือคนที่มีควำมเชี่ยวชำญ ด้ำนอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี คือกลุ่มที่เกิดปีค.ศ. 2000-2010 คนยุคนี้จะมีลักษณะเด่น คือเกิดมำในยุคที่ เข้ำถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว มีควำมก้ำวหน้ำด้ำนเทคโนโลยี คนกลุ่มนี้เองจึงเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะมีมุมมอง ระดับโลกมำกยิ่งขึ้นและได้รับอิทธิพลจำกสื่อสังคมออนไลน์ที่มำกขึ้นด้วย มีวัฒนธรรมสมัยนิยมตำมเทรนมำก ขึ้น รับกระแสจำกต่ำงประเทศมำกขึ้น มีควำมหลำกหลำยมำกขึ้น เพรำะฉะนั้นคนรุ่นปัจจุบันและอนำคตก็ยัง ถูกหล่อหลอมด้วยกำรพัฒนำเศรษฐกิจอย่ำงต่อเนื่อง ด้วยวัฒนธรรม เทคโนโลยี และบรรทัดฐำนทำงสังคมที่ เปลี่ยนไปตำมยุคสมัย โดยคนรุ่นปัจจุบันและอนำคตจะให้ควำมสำคัญกับกำรเป็นปัจเจกนิยม กำรแสดงออก ส่วนบุคคลที่มำกยิ่งขึ้น และมีกำรบริโภคนิยมมำกกว่ำเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน อีกทั้งยังตระหนักได้ถึงปัญหำ สิ่งแวดล้อมและควำมกังวลเกี่ยวกับปัญหำสังคมมำกขึ้น ช่องว่ำงระหว่ำงวัยในจีนไม่เหมือนกันนะคะ อย่ำงที่
  • 12. 12 บอกไปมันจะขึ้นอยู่กับทำงด้ำนที่อยู่อำศัย ที่ตั้งทำงภูมิศำสตร์ หรือว่ำภูมิหลังทำงเศรษฐกิจและสังคม กำรศึกษำ ที่เปลี่ยนไป เพรำะฉะนั้นค่ำนิยมต่ำงๆ จะมีปฏิสัมพันธ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนำคต ซึ่งจะเปลี่ยน พฤติกรรมของคนรุ่นต่ำงๆในจีน อันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่ำสนใจ ก็คือในเรื่องของกำรเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์และแนวคิดของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพำะกลุ่มที่เกิดหลังปีค.ศ. 1985 หรือก็คือปำหลูโฮ่ว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อค่ำนิยมของสังคมจีนมำกใน ปัจจุบัน โดยเฉพำะด้ำนวิถีชีวิตและแนวคิดต่ำงๆ จะแตกต่ำงจำกสมัยคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ปู่ย่ำตำยำยอย่ำงสิ้นเชิง เลย ดำวเองว่ำมีเพื่อนหลำยคนที่อยู่ในรุ่นนี้และดำวเองก็อยู่ในรุ่นนี้ รุ่นหลังปี 1985 เหมือนกัน แล้วก็ค่ำนิยม ของจีนรุ่นใหม่มักจะนำควำมแปลกใจมำให้กับสังคมจีนอย่ำงสม่ำเสมอ เพรำะถ้ำหำกว่ำเรำติดตำมเรื่องของ ค่ำนิยมสังคมจีนที่เปลี่ยนไป เช่นมีคำกล่ำวว่ำ tang píng (躺平) หรือนอนรำบ ซึ่งเกิดจำกสังคมที่แข่งขันกัน เยอะจนทุกคนไม่อยำกจะแข่งแล้ว เรำมำนอนรำบกันดีกว่ำ ไม่ต้องไปแข่งกับใครแล้วนอนรำบได้เลย ใช้ชีวิต สบำยๆ อีกอันนึงก็คือกำร Fan xiàng xiaofèi (反向消费) อันนี้เป็นคำใหม่เลย มันคือกำรบริโภคสวนกระแส ตรงนี้มันคือแบบในขณะที่รัฐบำลอยำกจะกระตุ้นให้คนใช้เงินแต่มันก็จะมีกระแสก็คือกำรบริโภคสวนกระแสคือ ใช้เงินอย่ำงประหยัด และใช้เงินอย่ำงระมัดระวังมำกขึ้น แล้วก็พวก Bù hun zú, dingkè (不婚族, 丁克) คือ กลุ่มที่ไม่แต่งงำนหรือไม่อยำกมีลูก อันนี้ก็เป็นคำที่คนรุ่นนี้คิดขึ้นมำ เพรำะพวกเขำมีควำมคิดเห็นว่ำเขำไม่ จำเป็นต้องแต่งงำน ไม่จำเป็นต้องมีลูก หรือถ้ำเรำแต่งงำน เรำไม่มีลูกก็ได้ เรำก็อยู่ได้อย่ำงสบำยใจ ไม่มีภำระ มำกมำย เพื่อนที่อยู่รอบตัวที่เป็นคนปักกิ่งก็มีหลำยกลุ่ม หลำยคนที่เป็นแบบนี้ หรือแต่งงำนแล้วแต่ไม่มีลูกก็ เยอะพอสมควร ต่อมำเป็นคำที่ดังมำกในอินเทอร์เน็ตจีนคือ Shìjiè nàme dà wo xiang qù kàn kàn (世界那么大 我 想去看看) เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ขอลำออกจำกงำน แล้วเขำเขียนนจดหมำยลำออกบอกเจ้ำนำยว่ำตัวเขำ อยำกออกไปเพื่อดูโลกที่ยิ่งใหญ่ เหมือนอยำกลำออกไปเพื่อไปหำโลกที่กว้ำงใหญ่ อันนี้มันก็กลำยเป็นกระแส สังคมจีนกลำยเป็นไวรัล (Viral) ขึ้นมำว่ำเรำควรมีกำรรักษำสมดุลระหว่ำงกำรทำงำนและกำรใช้ชีวิตไปด้วยกัน ต่อมำก็คือ Jí jian shenghuó (极简生活) เป็นภำษำไทยคือกำรชีวิตแบบเรียบง่ำย (minimal) ประหยัด ทิ้ง สิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจำกชีวิต แล้วก็มีโบรกเกอร์จีนบำงคนที่ออกมำถ่ำยชีวิตตัวเองที่เปลี่ยนจำกชีวิตในเมือง มำเป็นชีวิตแบบ minimal แล้วมีควำมสุข สบำยขึ้นในชีวิต อันนี้ก็เป็นแนวคิดที่เปลี่ยนไปของคนในสังคมจีนค่ะ เรื่องของโลกำภิวัฒน์ส่งผลต่อแนวคิดคนรุ่นใหม่อย่ำงไรและควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีน เรำจะเห็นว่ำ โลกำภิวัฒน์จำกจีนก็คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีมำกขึ้น และวัฒนธรรมในกระแสต่ำงๆมีอิทธิพลต่อรสนิยม ควำมชอบ และค่ำนิยมของคนรุ่นใหม่มำกขึ้น ทำให้จะเน้นไปที่ตัวตนและทำงเลือกส่วนตัวมำกขึ้น โลกำภิวัฒน์ กับจีน ทำให้คนจีนรุ่นใหม่มีทักษะทำงภำษำและกำรสื่อสำรระหว่ำงประเทศที่ดี ทำให้ชำวจีนยุคใหม่สื่อสำรและ
  • 13. 13 ทำงำนต่ำงประเทศมำกขึ้น มีควำมเป็นโลกำภิวัฒน์มำกขึ้น คนหนุ่มสำวจึงจำนวนมำก มีแรงจูงใจในกำรสร้ำงสิ่ง ใหม่ๆและอยำกจะเริ่มต้นเป็น startup ทำธุรกิจของตัวเองมำกขึ้นโดยใช้ประโยชน์จำกเครือข่ำยและเทคโนโลยี ระดับโลก โลกำภิวัฒน์กับควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีน เช่น ควำมท้ำทำยต่อกำรควบคุมด้ำนอุดมกำรณ์ของคนใน ชำติ เนื่องจำกโลกำภิวัฒน์ทำให้รัฐบำลจีนควบคุมข้อมูลและกำรแสดงออกได้ยำกยิ่งขึ้น เพรำะว่ำมันมีโซเชียล มีเดียทำให้ข้อมูลต่ำงๆ แพร่กระจำยได้อย่ำงรรวดเร็ว ค่ำนิยมดั้งเดิมและเอกลักษณ์ทำงวัฒนธรรมอำจจะเจือ จำงลง รัฐบำลอำจจะเผชิญกับควำมท้ำทำยในกำรพยำยำมส่งเสริมควำมภำคภูมิใจในชำติและควำมสำมัคคีเมื่อ เผชิญกับอิทธิพลภำยนอก และควำมเหลื่อมล้ำทำงเศรษฐกิจและควำมคำดหวังของคนรุ่นใหม่ที่มำพร้อมกับ โลกำภิวัฒน์ หรือก็คือรัฐบำลจีนจะเจอกับแรงกดดันในด้ำนกำรบริหำรและกระแสสังคม หำกบริหำรได้ไม่ดีอำจ ส่งผลให้ประชำชนเสื่อมศรัทธำในรัฐบำลได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ำสนใจในอนำคต ยังมีกำรสร้ำงสมดุลระหว่ำงค่ำนิยม ดั้งเดิมกับอิทธิพลสมัยใหม่ นี่ก็เป็นควำมท้ำทำยของรัฐบำลจีนว่ำจะทำอย่ำงไรให้สำมำรถคงค่ำนิยมดั้งเดิมของ จีนและยอมรับอิทธิพลสมัยใหม่ที่มำพร้อมกับโลกำภิวัฒน์มำกขึ้น ทำงรัฐบำลจีนเองก็ได้มีกำรใช้กลยุทธ์อย่ำง กำรเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต กำรรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรม พยำยำมสร้ำงเสริมกำรศึกษำเชิงอุดมกำรณ์ กำร จัดกำรควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบำยของชำติ และโลกำภิวัตน์ได้หล่อหลอม แนวคิดและค่ำนิยมของคนรุ่นใหม่ในจีนอย่ำงมีนัยยะสำคัญ ในขณะเดียวกันเกิดควำมท้ำทำยซับซ้อนเหมือนกัน ในขณะที่ทำให้ควำมเสถียรภำพในประเทศยังคงต่อไปได้ แต่ยังยึดมั่นในอุดมกำรณ์ที่รัฐบำลต้องกำรจะยึดมั่นอยู่ ภำพ สรุปไลฟสไตล์และแนวคิดของคนจีนรุ่นใหม่ ที่มำ ร่มฉัตร จันทรำนุกูล, (2566)
  • 14. 14 โดยสรุปแล้ว คนจีนรุ่นใหม่อย่ำงคนที่เกิดในปีค.ศ. 1980, 1990 หรือปี 2000 ได้รับกำรหล่อหลอมจำก สังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็วในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่ำนมำเท่ำนั้นเอง โดยคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้จะมี กำรแสวงหำเอกลักษณ์เฉพำะตัว มีควำมชำนำญเทคโนโลยี มีกำรศึกษำ มีควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์ สนใจที่จะ เป็นผู้ประกอบกำร หรือสร้ำงสรรค์นวัตกรรมของตัวเอง แล้วก็เริ่มตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมมำกขึ้น มีเรื่องของ กำรทำสิ่งแวดล้อม และ CSR (corporate social responsibility) มำกขึ้น และควำมจริงแล้วคนรุ่นใหม่ก็ยังรัก เอกลักษณ์ ยังรักวัฒนธรรมจีนอยู่ ยังพยำยำมที่จะบวกวัฒนธรรมสมัยใหม่เข้ำมำ ให้มีควำมทันสมัยมำกขึ้น มี กำรตำมเทรนด์ shopping online และทัศนคติกำรสร้ำงครอบครัวที่เปลี่ยนไป อย่ำงที่เล่ำไปสักครู่นี้ ทั้งยังมี ส่วนร่วมกับกิจกรรมทำงสังคมมำกกว่ำคนยุคก่อน แล้วก็แสวงหำตัวเอง และใช้ชีวิตตัวเองชอบมำกยิ่งขึ้น นี่ก็ เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปของคนนจีนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ต้องขอขอบพระคุณทุกท่ำนนะคะ อย่ำงที่บอกไปว่ำเป็น คอลัมนิสต์อยู่ที่ Manager Online ในคอลัมภ์ชื่อว่ำ “มุมจีน” สำมำรถไปติดตำมกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
  • 15. 15 มุมมองการออกแบบชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ โดย Ms.Liyue Zhou Communication manager, International Organization in China ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณอำจำรย์ยุวดีและผู้เข้ำร่วมทุกท่ำนมำกๆ ค่ะ ที่จริงหัวข้อนี้ถือว่ำเป็นหัวข้อที่ น่ำสนใจมำก จำได้ว่ำวันนั้นตอนที่คุยกับอำจำรย์ยุวดี พอดีเดือนได้ไปดูที่อินเทอร์เน็ต แล้วพอดีมำกเลยว่ำวัน นั้นเจอคลิปหนึ่งที่น่ำจะเป็นคลิปที่มำจำกทีวีซีรีส์ของไทย ในคลิปนั้นคนที่พูดเป็นคนไทยชำวจีนผู้หญิงอำยุ ประมำณ 40 ปี ซึ่งผู้หญิงคนนั้นพูดว่ำ “คนอย่ำงฉันไม่เคยหยุดนิ่ง เป็นลูกหลำนชำวจีนถูกพ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำย สอนแต่ให้มีควำมขยัน” พอฟังแล้วก็รู้สึกว่ำน่ำจะเป็นอะไรที่น่ำสนใจมำก คนไทยเคยสงสัยไหมว่ำคนจีนรุ่นใหม่ ยังเป็นแบบนี้หรือเปล่ำ วันนี้จะมำเล่ำฟังในมุมมองของเดือนว่ำกำรออกแบบชีวิตหรือว่ำกำรดำเนินชีวิตของคน จีนรุ่นใหม่เป็นอย่ำงไร การศึกษา การทางาน การสร้างครอบครัว หรือการแสวงหาเป้าหมายของชีวิต โดยรวมนะคะ ก่อนที่เดือนจะแบ่งปันต้องบอกว่ำ อย่ำงที่อำจำรย์ยุวดีพูดเมื่อสักครู่ ในปัจจุบันนี้ งำนปัจจุบันของ เดือนไม่ได้มีควำมเกี่ยวข้องโดยตรงกับเมืองไทยแล้วนะคะ เพรำะฉะนั้น วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่ำงที่พูดจะไม่ได้พูดใน นำมของที่ทำงำน แต่ถือว่ำเป็นกำรแบ่งปันให้กับทุกท่ำนว่ำมุมมองของคนจีนรุ่นใหม่อย่ำงเดือนคิดอย่ำงไรกับ กำรดำเนินชีวิต เพรำะฉะนั้นต้องแนะนำก่อนค่ะ ว่ำคนจีนอย่ำงเดือนเป็นคนอย่ำงไรนะคะ เดือนเองก็เป็นผู้หญิง คนจีนที่เกิดหลังปีค.ศ. 1990 เหมือนที่เมื่อครู่อำจำรย์ร่มฉัตรพูดค่ะ เป็นจิ่วหลิงโฮ่ว และเป็นลูกคนเดียวค่ะ แล้ว ก็เคยไปเรียนต่อที่ต่ำงประเทศ ตอนนี้มีงำนที่ทำอยู่ และยังไม่ได้แต่งงำนหรือมีลูก มำดูกันว่ำคนอย่ำงเดือนจะ คิดอย่ำงไร
  • 16. 16 ประเด็นแรกคือ การศึกษา เพื่อให้กำรแบ่งปันวันนี้สนุกมำกขึ้นนะคะ เดือนจะขอใช้วิธีที่ว่ำแชร์ catchword หรือคำที่เป็นที่นิยมในโซเชียลมีเดียของคนจีนรุ่นใหม่ว่ำมีอะไรบ้ำงที่เกี่ยวกับกำรศึกษำ คำแรกที่ ต้องพูดถึงซึ่งเมื่อครู่อำจำรย์ร่มฉัตรได้พูดไปบ้ำงแล้ว คำแรกที่อยำกแชร์ในวันนี้เป็นคำที่สำคัญมำกสำหรับคนจีน รุ่นใหม่ในปัจจุบัน คำว่ำ juan (捲) หรือถ้ำแปลตรงตัวคือแปลว่ำ ม้วน หรือม้วนขึ้น แล้วมันหมำยควำมว่ำ อะไร ที่จริงคำนี้มำจำกคำว่ำ Nèi juan (內捲) ซึ่งเป็นคำแปลที่มำจำกภำษำอังกฤษคำว่ำ Involution ซึ่งตอน แรกมำจำกนักวิจัยทำงเศรษฐกิจมำกกว่ำ เพื่อที่จะอธิบำยถึงสถำนกำรณ์ตอนที่ประเทศมีประชำกรมำกขึ้นแต่ ว่ำเงินก็ยังมีจำนวนจำกัดอยู่ เพรำะฉะนั้นเงินต่อหัว หรือเงินต่อคนจึงน้อยลง เพรำะฉะนั้น ทุกคนถ้ำอยำกได้เงิน มำกขึ้นหรือว่ำอยำกได้งำน ต้องขยันค่ะ ขยันทำกำรหรือว่ำขยันหำเงินหำงำนมำกกว่ำเดิม ตอนนี้เป็นคำที่ใช้กัน บ่อยมำกไม่ใช่แค่กำรศึกษำเพียงอย่ำงเดียว แต่ในกำรทำงำน กำรใช้ชีวิตโดยรวมทุกคนก็ใช้คำนี้กันหมด สมมุติว่ำถ้ำเรำเห็นใครที่ Overwork/Hard work หรือว่ำทำงำนมำกเกินไปเพื่อที่จะได้งำนหรือว่ำได้ เงิน เรำก็จะบอกว่ำคนนี้ “ม้วน” เกินไป หรือบำงคนอำจจะบอกว่ำ งำนนี้ฉันจะไม่ทำแล้วเพรำะว่ำ สภำพแวดล้อมในกำรทำงำนของงำน “ม้วน” เกินไป “juan (捲)” เกินไป อำจจะหมำยควำมว่ำเจ้ำนำยให้ทำ มำกเกินไป มำกกว่ำที่เหมำะสมนะคะ อันนี้จะเป็นคำแรก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนอยำก juan หรือว่ำอยำกม้วนนะคะ บำงคนพอเจอกรณีแบบนี้รู้สึกว่ำกำรแข่งขันสูงเกินไป หรือว่ำมีควำมกดดันมำกเกินไป จะไปใช้วิถีชีวิตอีกแบบ หนึ่งที่ถือว่ำเป็นอะไรที่ตรงกันข้ำมเลยค่ะ ซึ่งเรำเรียกว่ำ Tang (躺) ซึ่งเป็นคำที่ย่อมำจำกคำว่ำ Tang píng ( 躺平) ถ้ำแปลตรงตัวก็คือ นอนลง นอนนิ่งๆ หรือนอนรำบนะคะ ทุกท่ำนน่ำจะนึกออกนะคะว่ำถ้ำเป็นคนที่ ขยันทำงำนคงนอนนิ่งไม่ได้หรอกคงจะลุกขึ้นทุกวันเช้ำมำกไปทำงำน อันนี้ก็อำจจะเป็นภำพลักษณ์ของคนจีน สำหรับคนไทย ว่ำคนจีนต้องเป็นคนที่ขยันทุกคน แต่ตอนนี้คนจีนรุ่นใหม่เริ่มคิดแล้วว่ำ ทำไมเรำต้องขยันทำงำน ทำไมเรำต้องทำให้ตัวเองกดดันถึงขนำดนี้ มันไม่ดีต่อร่ำงกำย ไม่ดีต่อจิตใจ เรำอยำกนอนนิ่งๆ อยำกอยู่สบำยๆ อยำก Lying flat เหมือนในรูปเลยค่ะ คำว่ำ juan (ม้วน) หรือว่ำ Tang (นอนรำบ) ถือว่ำเป็นรูปแบบกำร ตอบสนองสองแบบของคนจีนรุ่นใหม่ที่ตรงกันข้ำมกันเลยในเวลำที่เจอปัญหำหรือว่ำเจอกรณีที่มีควำมกดดันสูง ในกำรเรียน กำรศึกษำ หรือว่ำกำรทำงำน ซึ่งสองคำนี้ตอนนี้ใช้กันบ่อยมำก
  • 17. 17 ภำพ คำว่ำ Tang (躺) ที่มำ Liyue Zhou, 2566 เพรำะฉะนั้น คงไม่ใช่ใช้กันแค่ในกรณีของกำรศึกษำอย่ำงเดียว กำรทำงำนก็ใช้กันค่ะ ต่อมำเรำมำดูว่ำ สำหรับการทางานคนรุ่นใหม่ของคนจีนพูดถึงอะไรกัน คำว่ำ Huà bing (画饼) ถ้ำแปลตรงตัว หมำยควำม คือการวาดแพนเค้ก แล้ววำดแพนเค้กหมำยควำมว่ำอะไร คำนี้ที่จริงแล้วมำจำกวลีเก่ำของจีนที่ว่ำ huà bing chong ji (画饼充饥) หมำยควำมว่ำวำดแพนเค้กเพื่อสนองหิวค่ะ ก็คือตอนที่เรำหิวมำกเรำอยำกกินแพนเค้ก เหลือเกินแต่ว่ำบำงคนเขำอำจจะวำดรูปแพนเค้กให้เรำแล้วบอกว่ำกินเถอะนี่เป็นแพนเค้กของเธอไง หรือก็คือ ควำมหมำยของคำนี้คือบำงคนให้ empty promise หรือว่ำเป็นคำสัญญำ หรือแผนที่ไม่สำมำรถทำให้เป็นควำม จริงได้ คนจีนรุ่นใหม่จะพูดคำนี้เยอะมำก เพรำะว่ำคนจีนรุ่นใหม่จะเห็นว่ำทำไมมีเจ้ำนำยหลำยคน หรือคนที่มี ตำแหน่งสูงกว่ำหลำยคนชอบพูดอะไรที่ไม่สำมำรถเป็นควำมจริงได้ สมมุติว่ำเจ้ำนำยบอกคนรุ่นใหม่ว่ำเพิ่งจบ จำกมหำวิทยำลัยมำต้องขยันทำงำนนะเดี๋ยวอีก 2 ปีจะได้เป็น Manager นะรับปำกเลย แต่ทำจริงทำไม่ได้ สัญญำแบบนี้คนจีนก็จะเรียกว่ำ “วำดแพนเค้ก” แล้วถ้ำคนจีนรุ่นใหม่เจอกรณีแบบวำดแพนเค้กพวกเขำจะทำ อย่ำงไร ซึ่งจะมี Reaction สองอย่ำงที่ไม่เหมือนกันเลยนั่นคือคำต่อไปเลยค่ะ คำว่ำ Rùn (润) คำนี้จริงๆแล้วไม่ต้องไปสนใจว่ำมันแปลว่ำอะไรนะคะ เพรำะคำว่ำ Rùn มำจำก ภำษำอังกฤษ R U N ซึ่งถ้ำออกเสียงตำมพินอินของภำษำจีนกลำงจะอ่ำนว่ำ Rùn เอำมำใช้ในควำมหมำยว่ำ วิ่ง หรือว่าหนี พอคนรุ่นใหม่เจอเจ้ำนำยวำดแพนเค้ก พูดอะไรที่ไม่สำมำรถเป็นควำมจริงได้ หรือว่ำคนรุ่นใหม่เห็น ว่ำเรำไม่เห็นจุดปลำยทำงหรือว่ำเป้ำหมำยของกำรขยันทำงำนเลย หรือว่ำเรำไม่ชอบสิ่งแวดล้อม หรือว่ำไม่ชอบ ที่อยู่อำศัย ไม่ชอบมหำวิทยำลัย หรือว่ำไม่ชอบงำนที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ก็จะ Rùn หรือ Run away อยำกหนี
  • 18. 18 ออกจำกสถำนกำรณ์ที่ตัวเองอยู่ คำนี้ที่จริงออกมำในช่วงโควิด วันนี้เดือนไม่อยำกอธิบำยแบบลึกซึ้งว่ำทำไมมัน ถึงจะขึ้นมำในช่วงโควิด แต่เขำบอกว่ำคำนี้ตอนนี้ใช้กันบ่อยมำกใช้ในทุกกรณีเลยค่ะ คนที่อยำก Run away จำกกำรศึกษำ อยำกหนีจำกควำมกดดันของกำรงำน หรือว่ำอยำกหนีจำกที่อยู่อำศัยที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้ ก็จะ ใช้คำนี้ค่ะ อันนี้น่ำจะสะท้อนให้เห็นถึงควำมคิดของคนจีนรุ่นใหม่ที่ต่ำงจำกคนจีนสมัยก่อนว่ำ ถ้ำเรำเจอปัญหำ หรือว่ำเจอควำมกดดันเรำต้องอดทน แต่คนจีนรุ่นใหม่ไม่เอำแล้ว บำงคนจะบอกว่ำ I’m gonna runaway จะ หนีออกจำกกรณีนี้เพื่อสุขภำพของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะหนี เพรำะยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำอีกแบบ มำที่คำว่ำ Shàng'àn (上岸) ที่ถ้ำแปล ตรงตัวคือ ขึ้นฝั่ง ซึ่งจะหมำยควำมว่ำ ทุกท่ำนลองนึกภำพว่ำเรำอยู่บนเรือบนทะเล ถ้ำอยู่บนเรือไปเรื่อยๆ ก็จะ เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ ไม่มีควำมมั่นคง ไม่รู้ว่ำจุดมุ่งหมำยอยู่ที่ไหน เรำจะไปทำงไหน แล้วเรือจะไปที่ไหน หรือก็ คือไม่มีควำมมั่นคง รู้สึกไม่ปลอดภัย นี่ก็จะเป็นควำมรู้สึกของคนรุ่นใหม่ในจีนหลำยคนที่รู้สึกว่ำควำมสุขของ ชีวิตอยู่ที่ควำมมั่นคง ซึ่งถ้ำอยำกได้ควำมมั่นคงเรำต้องหำงำนหรือว่ำหำวิธีกำรดำเนินชีวิตที่มั่นคง เพรำะฉะนั้น เขำก็คิดว่ำที่มั่นคงที่สุดคงต้องเป็นข้ำรำชกำร เพรำะฉะนั้นตอนนี้ถ้ำทุกท่ำนสังเกตก็คือตอนนี้มีกระแสใหม่อย่ำง หนึ่งคือ หลำยคนอยำกสอบข้ำรำชกำรเพื่อควำมมั่นคงของชีวิต ถ้ำสอบติดเขำก็จะบอกว่ำ Shàng'àn แล้วนะ ขึ้นฝั่งแล้ว ซึ่งตอนนี้คำนี้ก็ใช้กันบ่อยมำกเหมือนกัน อำจจะไม่ใช่แค่สอบเข้ำรำชกำร กำรสอบเข้ำมหำลัยหรือว่ำ โรงเรียน ได้เป็นครูหรือว่ำอำจำรย์ก็เป็นงำนที่มั่นคงเหมือนกันก็เรียกว่ำ ขึ้นฝั่ง แล้วเหมือนกัน หรือบำงคนยังหำ งำนไม่เจอแล้วอยำกเรียนต่อ ถ้ำสอบได้ก็เรียกว่ำขึ้นฝั่งแล้วเหมือนกัน หมดกำรเรียน กำรศึกษำ กำรทำงำนจบ แล้วนะคะ เรำมำดูกันว่ำการหาคู่ หรือว่าการสร้างครอบครัว หรือว่ำกำรแสวงหำเป้ำหมำยของชีวิตของคนจีนรุ่น ใหม่เป็นอย่ำงไรนะคะ เมื่อพูดถึงกำรสร้ำงครอบครัว เดือนใช้เวลำคิดนำนมำกว่ำมีคำที่มีควำมหมำยด้ำนดีอะไร ที่เกี่ยวกับกำรสร้ำงครอบครัว ควำมคิดของกำรสร้ำงครอบครัวของคนรุ่นใหม่ เกือบจะนึกไม่ออกเลยค่ะ เพรำะว่ำตอนนี้ถ้ำดูจำกสถิติ ทุกท่ำนก็จะเห็นว่ำคนจีนรุ่นใหม่ หรือว่ำคนจีนโดยรวมที่อยำกแต่งงำน หรือว่ำคน จีนที่แต่งงำนแล้ว ในปีที่แล้วมีสถิติต่ำมำก ต่ำที่สุดเท่ำที่เคยมีสถิติมำ ถ้ำทุกท่ำนสนใจในเรื่องนี้สำมำรถไปดูได้ เกี่ยวกับอัตรำกำรแต่งงำน สถิติกำรแต่งงำน กำรมีลูกของคนจีนได้ที่ China’s national bureau of statistics เขำมีรำยงำนแบบละเอียดถึงคนที่เกิดหลังปีค.ศ. 1990 มีแต่งงำนกันแล้วกี่คน กี่เปอร์เซ็นต์ คนที่เกิดหลังปีค.ศ. 1980 แต่งงำนกันแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้เวลำไม่พอนะคะ ขอไม่ลงรำยละเอียดนะคะ ถ้ำถำมคนจีนรุ่นใหม่ว่ำ ทำไมไม่อยำกแต่งงำน ก็คงจะมีหลำยสำเหตุ และสำเหตุจะซับซ้อนมำก แต่ถ้ำ ถำมว่ำทำยังไง หรือว่ำกรณีแบบไหนถึงจะอยำกแต่งงำน ก็จะมีหลำยคนบอกคำนี้ค่ะ คำว่ำ shuangxiàng benfù (双向奔赴) Yuàn women dou you shuangxiàng benfù de rén (愿我们都有双向奔赴
  • 19. 19 的人) หมำยควำมว่ำขอให้เรำทุกคนมีคนที่วิ่งเข้ำหำกัน ทุกท่ำนนึกออกไหมคะ ถ้ำสมมุติว่ำกำรแต่งงำนเป็น เป้ำหมำยของเรำที่อยู่ตรงข้ำม หรือว่ำกำรมีควำมสุขของชีวิตเป็นเป้ำหมำยที่อยู่ตรงกลำง เรำไม่อยำกเป็นคนที่ ต้องวิ่งเข้ำหำเป้ำหมำยนี้อยู่ฝ่ำยเดียว เรำหวังว่ำจะมีอีกคนหนึ่งที่วิ่งเข้ำมำที่ตรงกลำงเข้ำหำกันกับเรำไปด้วยกัน ค่ะ ก็คือหมำยควำมว่ำแต่ก่อนคนจีนสมัยก่อนอำจจะคิดว่ำกำรแต่งงำนถือว่ำเป็นควำมรับผิดชอบแบบหนึ่ง ทุก คนต้องแต่งงำน หรือว่ำกำรแต่งงำนหมำยควำมว่ำต้องมีลูก หรือว่ำแต่งงำนเพื่อมีลูกหรืออะไรก็ตำม หรือก็คือ แต่งงำนเพื่อคนอื่นนั่นแหละ อันนั้นอำจจะเป็นควำมคิดคนสมัยก่อน แต่ว่ำคนจีนรุ่นใหม่จะไม่คิดแบบนี้แล้ว เขำ จะคิดว่ำถ้ำฉันแต่งงำนจะต้องเป็นเพรำะว่ำฉันอยำกแต่ง ฉันเจอคนที่วิ่งเข้ำหำกันด้วยกัน คนที่อยำกแต่งกับฉัน เหมือนกัน ฉันถึงจะแต่ง เพรำะฉะนั้นคำว่ำ shuangxiàng benfù ตอนนี้จึงเป็นคำที่นิยมมำกเหมือนกัน อำจจะ ไม่ได้ใช้ในแค่เรื่องแต่งงำนอย่ำงเดียว บำงทีบำงคนถ้ำพูดถึงเรื่องที่เขำอยำกประสบควำมสำเร็จ หรือว่ำควำมฝัน อะไรก็ตำม ที่เขำประสบควำมสำเร็จแล้ว เรำก็จะเรียกว่ำ shuangxiàng benfù เหมือนกัน เมื่อพูดถึงคนจีนรุ่นใหม่เรำมีอะไรที่พูดได้เยอะมำก และตำมที่เดือนได้แบ่งปันในวันนี้จะมี 3 ข้อที่ถือว่ำ เป็นอะไรที่แน่นอนมำกค่ะ ข้อแรกคือวิถีชีวิตของคนจีนรุ่นใหม่ ถือว่ำเป็นวิถีชีวิตที่หลำกหลำยมำกขึ้น คงไม่ เหมือนสมัยก่อนที่ว่ำคนส่วนใหญ่จะเข้ำไปทำงำนในรัฐวิสำหกิจ ข้ำรำชกำร หรือว่ำอะไรก็ตำม เอกชนจะน้อย มำก แต่ว่ำทุกคนต้องแต่งงำน หรือว่ำอะไรก็ตำม ตอนนี้วิถีชีวิตของของคนจีนรุ่นใหม่หลำกหลำยมำกขึ้น ข้อที่ สองคือคนจีนรุ่นใหม่ไม่ใช่ทุกคนที่จะให้คุณค่ำกับสิ่งเดียวกัน บำงคนอำจจะคิดว่ำสอบติดข้ำรำชกำรเป็นสิ่งที่ สำคัญที่สุดและเป็นเป้ำหมำยชีวิตของเขำ แต่บำงคนอำจจะอยำกหนีออกจำกควำมกดดัน ทุกคนจะคิดไม่ เหมือนกัน ข้อที่สำมคือเรำจะสังเกตได้ว่ำคนจีนรุ่นใหม่จะใส่ใจตัวเอง หรือว่ำให้ควำมสำคัญกับควำมรู้สึกของ ตัวเองมำกขึ้น แต่ก่อนอำจจะคิดว่ำควำมเป็นปัจเจกบุคคลไม่สำคัญ แต่ว่ำตอนนี้จะคิดว่ำกำรเป็นปัจเจกบุคคลก็ สำคัญเหมือนกัน สำเหตุเบื้องหลังคงจะมีหลำกหลำยมำก วันนี้จะขอบอกไว้ 4 สำเหตุที่คิดว่ำชัดเจนและสำคัญนะคะ สำเหตุแรกสำหรับคนจีนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่คุณภำพชีวิตดีขึ้น ไม่เหมือนรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำย ที่ว่ำสิ่งที่สำคัญ ที่สุดคือต้องสบำย ต้องอยู่ได้ ต้องหำข้ำวให้ลูกกินได้ แต่ว่ำตอนนี้ส่วนใหญ่มีข้ำวกินแล้ว ก็จะอยำกมีเวลำคิดว่ำ ตัวเองอยำกแสวงหำเป้ำหมำยอะไรในชีวิต สำเหตุที่สองก็คือคนจีนรุ่นใหม่จะมีโอกำสมองเห็นและรู้จักโลกมำก ขึ้น บำงคนอำจจะโชคดีได้ไปเรียนต่อที่ต่ำงประเทศ หรือว่ำบำงคนเรียนภำยในประเทศแต่ก็ได้มีโอกำสไปเจอ โลกข้ำงนอกผ่ำนโซเชียลมีเดีย หรือว่ำผ่ำนอินเทอร์เน็ตก็ตำม ก็จะได้เห็นว่ำกำรใช้ชีวิตของคนมีหลำกหลำย มำกมำยให้เลือก ไม่ใช่ว่ำต้องทำตำมที่พ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำยทำกันมำ สำเหตุที่สำมคือควำมกดดันสูงมำก สูง เกินไปจนทำให้บำงคนอำจจะถึงจุดที่ต้องคิดแล้วว่ำทำต่อไป จะไม่ไหว ไม่ดีต่อสุขภำพ ไม่ดีต่อจิตใจ ต้องมีกำร เปลี่ยนแปลง เพรำะฉะนั้นบำงคนก็อำจจะอยำกหนีออกมำ สำเหตุที่สี่น่ำจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับนโยบำยลูกคน
  • 20. 20 เดียวด้วย เพรำะว่ำเมื่อเป็นลูกคนเดียว คนที่ต้องนึกถึงก็จะน้อยลง แต่ก่อนอำจจะต้องนึกถึงพี่น้องด้วย หรือว่ำ ลูกมีลูกน้องด้วย พ่อแม่ ปู่ย่ำ ตำยำยด้วย แต่ว่ำตอนนี้มีแค่ลูกคนเดียว เรำอำจจะดูแลพ่อกับแม่ ปู่ย่ำ ตำยำย แล้วที่เหลือก็คือดูแลตัวเอง สำเหตุอำจจะหลำกหลำยแต่เดือนคิดว่ำ 4 สำเหตุนี้เป็นอะไรที่สำคัญที่สุด วันนี้ขอ พูดไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ
  • 21. 21 ภาระครอบครัวของคนจีนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่ โดย คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่ปรึกษากฎหมายไทยในจีน บริษัทหยิ่งจ้งลอร์ออฟฟิศ สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณอำจำรย์ทุกท่ำนที่ให้โอกำสมำพูดในครั้งนี้ และต้องบอกว่ำเห็นด้วย กับอำจำรย์ดำว แล้วก็น้องเดือนมำกเกี่ยวกับเรื่องที่พูดไปทั้งหมดนะคะ เนสเองก็อยู่จีนมำเป็นปีที่ 10 แล้วนะ คะ วันนี้จะมำแชร์ประสบกำรณ์ในฐำนะสะใภ้จีนคนหนึ่งที่อยู่จีนมำประมำณ 10 ปี และในฐำนะคุณแม่ลูกสอง ด้วยค่ะ ตอนนี้ลูกชำยคนโตอำยุ 7 ปีแล้ว ส่วนคนเล็กตอนนี้อำยุ 5 ปี วันนี้เรำมำพูดเอำแบบง่ำยๆแล้วกันให้มัน ฟังเข้ำใจง่ำยๆสำหรับคนไทย แล้วก็จะมีกำรเปรียบเทียบในบำงมุมมอง แต่ตรงนี้จะเป็นกำรพูดในส่วนมุมมอง ของเนสนะคะ แล้วประสบกำรณ์ที่อยู่จีนมำประมำณ 10 ปี เรื่องภำระครอบครัวของคนจีนรุ่นใหม่ในสังคมเมืองใหญ่ เรำอำจจะต้องจัดประเภทเมืองของจีนก่อน เช่นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เชินเจิ้น หรือกว่ำงโจวเป็นเมืองใหญ่ของจีนนะคะ ถือว่ำเป็นเมืองชั้นที่หนึ่ง (一线城市) คน จีนก็จะรู้จักกัน เวลำคนจีนแบ่งเมืองแบบคุยกับคนจีนเขำสำมำรถบอกได้ว่ำคุณหำเงินได้ประมำณไหน คุณมี ฐำนะครอบครัวประมำณไหน ลูกเรียนประมำณไหน เขำจะแบ่งกันแบบนี้เลย เพรำะฉะนั้นเลยอยำกให้เข้ำใจ ก่อนว่ำ 4 เมืองใหญ่นี้ ถ้ำเทียบค่ำใช้จ่ำยแล้วสูงประมำณไหน ก็รำคำคล้ำยฮ่องกงเลยค่ะ คือไปฮ่องกงค่ำใช้จ่ำย ก็จะสูง ก็คืออย่ำงเนสบินไปเที่ยวยุโรปที่ผ่ำนมำจะรู้สึกว่ำรำคำอำหำรไม่ได้ต่ำงจำกที่ปักกิ่งมำกนัก สั่งอำหำร ยุโรประดับปกติเลยค่ะ คือค่ำใช้จ่ำยในปักกิ่งถือว่ำสูงมำก รำคำค่ำใช่จ่ำย ค่ำโรงแรม ค่ำรถ ไม่ได้ต่ำงกันมำกเลย พอทีนี้เรำจะพูดในฐำนะที่อยู่ในปักกิ่งนะคะ ต่อมำจะขอพูดตรงๆเลย ในเรื่องของกำรแต่งงำน เวลำคน จีน ถ้ำเวลำคนจีนเจอกันแล้วเขำจะถำมว่ำอำยุเท่ำไหร่แล้ว อย่ำงเนสเป็นปำหลิงโฮ่ว ก็คือแต่งงำนในรุ่นของปำ
  • 22. 22 หลิงโฮ่วเพรำะเนสเกิดปีค.ศ. 1988 แต่คนจีนรุ่นจิ่วหลิงโฮ่ว รุ่นหลังปีค.ศ. 1990 หรือรุ่นหลิงหลิงโฮ่ว หลังปีค.ศ. 2000 ในแต่ละมุมมองของควำมคิดคนที่เกิดในยุคปี 1980-1990 ก็จะมีควำมคิดไม่เหมือนกันเมื่อมองถึงด้ำน กำรแต่งงำน อย่ำงที่อำจำรย์ดำวกับน้องเดือนได้พูดเลยคือคนจีนสมัยใหม่ไม่อยำกแต่งงำน จะขอเจำะลึกลงไป อีก อย่ำงรุ่นปำหลิงโฮ่ว ควำมจริงแล้วเป็นรุ่นที่หย่ำร้ำงกันมำกที่สุดเพรำะว่ำแต่งงำนมำแล้ว ดังนั้นเขำจึงไม่ จำเป็นจะต้องมำคุยเรื่องแต่งงำนเพรำะว่ำแต่งไปแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องของกำรหย่ำแล้ว พอมำถึงรุ่นเกิดหลังปี 1990 ก็จะเป็นรุ่นที่แบบว่ำกำรแต่งงำนจะแบ่งเป็นปี 1995 ขึ้นไปและปี 1995 ลงมำ เหมือนว่ำจะแต่งหรือไม่แต่งดี ควำมจริงรุ่นปี 1995 ลงมำ หรือก็คือคนที่เกิดปี 1995 ลงมำ บำงคนก็ยัง ไม่แต่งงำน คิดอยู่ว่ำแต่งไม่แต่งวนไปอย่ำงนี้มัน เป็นควำมวุ่นวำยของสังคมของคนจีนสมัยนี้ ซึ่งเขำยังมีควำม เหลื่อมล้ำกันอยู่ว่ำเขำควรจะแต่งหรือไม่แต่ง คือคนส่วนมำกดูเหมือนจะไม่แต่ง แต่ถ้ำถำมว่ำในชีวิตจริงแล้วเขำ ก็ยังแต่งงำนกันอยู่ เพรำะว่ำมันมีควำมกดดันทำงด้ำนสังคม สิ่งแวดล้อม พ่อแม่ อะไรทำนองนี้อยู่ เพรำะฉะนั้น เขำยังคงมีมุมมองว่ำเขำต้องแต่งงำน แล้วพอมำรุ่นหลิงหลิงโฮ่วพวกแนวคิดแบบนี้ก็เจือจำงหำยไปเลย ควำม อยำกสร้ำงครอบครัวมันน้อยลงไปมำก เพรำะฉะนั้นรัฐบำลก็เลยออกนโยบำยที่ว่ำ Zhèngfu gulì sheng san tai (政府鼓励生三胎) เพรำะว่ำรุ่นจิ่วหลิงโฮ่วและหลิงหลิงโฮ่วไม่ยอมแต่งงำนและไม่อยำกมีลูก จึง กลำยเป็นว่ำเขำเลยต้องใช้นโยบำยกับรุ่นปำหลิงโฮ่วให้รุ่นนี้มีลูกคนที่สำม เพรำะรัฐบำลต้องกำรแก้ปัญหำที่อำจ มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศระยะยำวในอนำคตไป จึงมำขอให้คลอดคนที่ 3 แต่อย่ำงเนสคือไม่มีเพิ่มแล้วมีแค่ สองคนพอ เพรำะว่ำมันมีภำระค่ำใช้จ่ำยเยอะมำก แต่รัฐบำลก็รู้อยู่แล้วว่ำคนไม่อยำกมีลูกคนที่ 3 ก็เลยต้องแก้ กฎหมำยในบำงเมือง เป็นว่ำแม้จะไม่มีทะเบียนสมรสก็สำมำรถทำใบเกิดให้ลูกได้ ซึ่งสมัยก่อนในกฎหมำยจีน กำรจะมีลูกแต่ละคนนั้นต้องมีเอกสำรเยอะมำก แต่ตอนหลังเขำก็ตัดควำมวุ่นวำยออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบำง เมืองมีนโยบำยออกมำว่ำในขณะที่ถ้ำคุณไม่แต่งงำนก็สำมำรถไปจดทะเบียนออกใบเกิดให้เด็กได้ เรื่องกำรแต่งงำนตำมจริงไม่ต้องพูดเยอะเพรำะว่ำทั้ง 2 ท่ำนก็ได้พูดไปมำกแล้ว และตอนนี้เรำก็รู้แล้ว ว่ำคนจีนตอนนี้ไม่อยำกแต่งงำน เด็กรุ่นใหม่ก็ยิ่งแบบมีเงินใช้เองดีกว่ำ ไม่จำเป็นต้องมีลูก จะเลี้ยงลูกเพื่ออะไร เพรำะว่ำเงินนี้หำได้ใช้เองก็ยังไม่พอเลยแล้วจะให้เลี้ยงลูกได้อย่ำงไร เพรำะฉะนั้นคนจีนก็เลยไม่เอำ ต่อมำเรื่อง กำรหย่ำร้ำงที่มีมำกขึ้น อย่ำงถ้ำคนจีนรุ่นปำหลิงโฮ่วเป็นวัยที่เขำเรียกว่ำ สวย ขออนุญำตนะคะ แต่ว่ำคนจีนพูด กันอย่ำงนี้จริงๆ คือเพรำะว่ำปำหลิงโฮ่วเป็นวัยที่เป็นลูกคนเดียวในช่วงนโยบำยลูกคนเดียวพอดี ตอนสมัยก่อน รุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่ให้มีลูกหลำยคน ก็คือบ้ำนมีคนมีลูกคนเดียว เรำเป็นลูกคนเดียวเสร็จแล้ว ตอนนี้รัฐบำลให้เขำมี ลูก 3 คน คือตัวเรำเองก็มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล แต่เรำยังโดนบังคับให้เรำมีลูกอีก 3 คน แปลว่ำผู้ชำยคนหนึ่งต้อง ทำงำนดูแลพ่อแม่และต้องดูแลลูกอีก 3 คน ซึ่งภำระนี้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนจีนที่จะหำเงินมำให้พอ มัน อำจจะเป็นไปได้ในบำงบ้ำนแต่น้อยมำก แต่ในบ้ำนส่วนใหญ่คือภำระหนักเกินไป กลำยเป็นว่ำตรงนี้ก็เลยนำมำ ซึ่งกำรหย่ำร้ำงนั่นเอง ใน 100 คู่ที่แต่งงำนมี 57 คู่ที่หย่ำร้ำง ประมำณนี้เลย เพรำะว่ำอัตรำกำรหย่ำร้ำงสูงมำก
  • 23. 23 ในขณะที่จิ่วหลิงโฮ่วมีอัตรำหย่ำร้ำงอยู่ที่ประมำณ 16 เปอร์เซ็นต์ คือดูได้เลยว่ำในปี 2023 คนจีนแต่งงำน น้อยลง แต่กำรหย่ำร้ำงมีมำกขึ้น และมันมีสำเหตุที่ทำไมครอบครัวจีนถึงหย่ำร้ำงกันมำกขึ้น อย่ำงเช่นคู่ของ เนสเองเรำไปเจอกันที่เมืองนอก ในด้ำนฐำนะครอบครัวก็ถือว่ำไม่ได้ลำบำกแต่ก็ยังต้องดิ้นรนทำงำนหนักอยู่ แต่ ถำมว่ำค่ำใช้จ่ำยพอไหม ทั้งค่ำบ้ำน ค่ำรถ ค่ำเลี้ยงลูก ค่ำใช้จ่ำยมันสูงมำกจนกระทั่งว่ำเรำต้องทำงำนทุกวันเป็น หนูติดจั่น มันเลยทำให้เกิดควำมรู้สึกว่ำเหนื่อย บำงคนเขำก็แบบไม่เอำอะไรเลย Tang píng (นอนรำบ; ไม่ดิ้น รนแล้ว) รุ่นเนสคือในเมื่อมีลูกเกำะแขนเกำะขำแล้วเรำปล่อยอย่ำงนี้ไม่ได้ได้เรำก็ต้องดิ้นรนเป็นหนูติดจั่นกัน ต่อไป กลับมำที่สำเหตุกำรหย่ำร้ำงนะคะ อันนี้ก็อย่ำงที่บอกไปว่ำชีวิตมันลำบำก สำเหตุที่สองก็คือทุกวันนี้ ผู้หญิงแกร่งมำกขึ้น ผู้หญิงจีนแกร่งขึ้น หำเงินได้มำกขึ้น ฉันสวย ฉันรวย ฉันไม่ต้องง้อผู้ชำย ถ้ำเจอผู้ชำยที่ไม่ได้ เรื่องคือฉันไม่เอำ ฉันทิ้งเลย ฉันเลี้ยงลูกเองคนเดียวได้ อันนี้คือในมุมมองของผู้หญิงจีนที่เปลี่ยนไป ทำให้อัตรำ กำรหย่ำร้ำงมำกขึ้น ในสมัยก่อนผู้หญิงก็จะอดทน แล้วรออยู่กับครอบครัวอะไรแบบนั้น ไม่หย่ำ ไม่ไปไหน แต่ว่ำ สมัยนี้คือผู้หญิงจีน สวย เก่ง หำเงินเองได้ ผู้ชำยไม่ดีก็ทิ้งไป สำเหตุที่สำมคือในสังคมจีนคนเรำรู้จักกันง่ำยขึ้น มี โทรศัพท์ มี WeChat ทำให้มีปัญหำเรื่องมือที่สำมกัน ซึ่งมันเป็นสภำพของสังคมที่เกิดขึ้นในจีน มันเลย กลำยเป็นสำเหตุของกำรเลิกรำกัน สำเหตุที่สี่คือ Shanhun shan lí (闪婚闪离) เป็นส่วนหนึ่งของสังคมจีนที่ ยังมีคนที่แต่งงำนเร็วและหย่ำเร็ว แต่งงำนเร็วมำจำกที่ว่ำพ่อแม่แนะนำให้รู้จักกัน หรือก็คือกำรคลุมถุงชน คือยัง ไม่ได้รู้จักกันแต่รู้สึกว่ำเหมำะกันในด้ำนฐำนะกำรเงิน ภำวะสังคม หรืออะไรหลำยๆอย่ำง ที่พ่อแม่แนะนำว่ำ เหมำะสมก็เลยแต่ง แต่พอแต่งแล้วมันไม่ใช่ก็เลยหย่ำ อันนี้มันก็เลยเป็นตัวเสริมอัตรำกำรหย่ำร้ำงในสังคมจีน อย่ำงที่บอกไปคือสี่สำเหตุนี้ถือว่ำเป็นสำเหตุหลักในกำรหย่ำร้ำง ต่อมำพูดถึงเรื่องลูกเลยดีกว่ำ ในฐำนะที่เนสมีลูกสองคนนะคะ ซึ่งคนรุ่นเนสคือรุ่นปี 1980 พอมีลูกก็จะ เป็นรุ่นประมำณปี 2000 เป็นหลิงหลิงโฮ่ว ประมำณนี้ คนรุ่นนี้ก็จะเป็นพ่อแม่ที่มีควำมรู้และเริ่มมีฐำนะ ดังนั้น เขำจะเลือกกำรเลี้ยงลูกแบบว่ำไม่เน้นมีลูกเยอะๆ เหมือนสมัยก่อนที่มีลูกเยอะๆ เพื่อหวังว่ำอำจะมีสักคนที่ สำมำรถสร้ำงรำยได้ให้ครอบครัวได้ และกลับมำเลี้ยงครอบครัว แต่สมัยนี้คนจีนมีลูกแค่คนเดียว หรืออำจจะ สองคน น้อยมำกที่จะยอมมีสำมคนเพรำะจะต้องรวยระดับหนึ่งเลยถึงเลี้ยงไหว ทำไมถึงบอกว่ำมันมันมี ผลกระทบหนัก กำรมีลูกทำให้เขำคิดหนักเพรำะมันมีผลกระทบจำกรำยได้ที่เรำมี อย่ำงเนสมีลูก 2 คน ลูกตอน อนุบำลเรียนอินเตอร์ถูกไหมคะ ค่ำใช้จ่ำยมันประมำณ 230,000-250,000 บำทต่อคนต่อปี ก็ประมำณล้ำนกว่ำ บำท ซึ่งกำรมีลูก 1 คนต้องมีค่ำใช้จ่ำยประมำณ 1,500,000 บำท นี่ยังไม่รวมค่ำใช้จ่ำยอื่นๆอีก นี่นับเฉพำะค่ำ เทอมแล้วนี่มี 2 คน คือปำไป 3 ล้ำนบำท เด็กจีนก็เลยแบบภำษำจีนก็ต้องได้ ภำษำอังกฤษก็ต้องดี กีฬำก็ต้อง เด่น อย่ำงเนสเองก็ให้ลูกเรียนเยอะมำกทั้งเรียนบำสเกตบอล เรียนว่ำยน้ำ เรียนสกี เรียนศิลปะ คือพ่อแม่ในยุค นี้ที่มีกำรศึกษำ หรือจบเมืองนอกมำ เขำจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับลูก แต่กลำยเป็นว่ำพอเขำเลือกสิ่งดีมำกทุกอย่ำงที่
  • 24. 24 จะต้องจ่ำยไปคือเงิน นี่ก็เลยเป็นภำระครอบครัวของคนจีนรุ่นใหม่ที่พอนำมำคำนวนแล้วทำให้ไม่อยำกมีลูกเลย แม้กระทั่งตอนนี้คือรัฐบำลลดค่ำใช้จ่ำยจ่ำยกำรคลอดลูกช่วยลดภำระ อันนี้สำหรับปักกิ่งนะคะ สำหรับเมืองอื่น เนสไม่แน่ใจ แต่สำหรับปักกิ่ง คือตัวเนสเองมีประกันสังคมในจีน หรือคู่ของเรำมีประกันสังคมในจีน เมื่อคลอด แล้วทุกอย่ำงแทบจะฟรีทั้งหมด หมำยถึงว่ำกำรคลอดลูกในโรงพยำบำลรัฐบำล กำรอยู่ไฟ พวกค่ำผ้ำอ้อม ค่ำนม ประมำณ 150,000 บำท หรือประมำณ 30,000 หยวน แต่ภำระมันก็ยังเยอะอยู่ดีถึงทำงรัฐบำลจะช่วยค่ำคลอด ก็ตำม แต่หลังจำกนั้นก็ยังมีภำระเยอะอยู่ ภำระในกำรเรียน ตอนนี้เนสย้ำยลูกคนโตมำโรงเรียนรัฐบำลเพรำะ หนึ่งอยำกลดค่ำใช้จ่ำย สองโรงเรียนรัฐบำลในจีนดีกว่ำโรงเรียนอินเตอร์ ซึ่งเรียนฟรีด้วย ป.1 แล้วเรียนฟรี แต่ กำรนำลูกเข้ำโรงเรียนรัฐบำลนั้นไม่ง่ำยเลย เพรำะบ้ำนต้องอยู่ในบริเวณเขตโรงเรียนถึงจะเข้ำเรียนได้ แล้วคนที่ ไม่มีฐำนะจะย้ำยเข้ำเขตโรงเรียนลูกเขำก็อำจจะไม่ต้องกลับไปเรียนต่ำงจังหวัด ที่โรงเรียนใกล้บ้ำนที่เมืองที่เขำ อยู่ ซึ่งมันจะเป็นควำมเหลื่อมล้ำทำงด้ำนกำรศึกษำมำก อย่ำงเมืองปักกิ่งก็ถือว่ำเป็นเมืองที่ได้รับโอกำสที่ดีกว่ำ ในกำรศึกษำและมีหลำยโรงเรียนให้เลือก แต่ก็ยังเป็นภำระที่หนักมำกจริงๆ ในมุมมองของคนรุ่นใหม่จึงเลือกที่ จะไม่มีลูกดีกว่ำ หัวข้อสุดท้ำยเกี่ยวกับผู้สูงวัย ควำมจริงแล้วในปักกิ่งตอนนี้ระบบประกันสังคมมีแนวโน้มที่ในอนำคตว่ำ คนไม่มีลูก คนรุ่นใหม่ไม่คลอดลูก ก็คือไม่มีคนรุ่นใหม่ ไม่มีเด็กรุ่นใหม่ที่มำจ่ำยเงินประกันสังคม ระบบภำษีก็เริ่ม ล้มลงไปเรื่อยๆ กลำยเป็นว่ำตอนนี้สังคมผู้สูงวัยปัญหำนี้ได้รับควำมสนใจ แต่ก็ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ เพรำะว่ำเขำก็ ได้แต่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ยอมมีลูกกัน อันนี้ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปสัก 10 ปีนะคะ ทิ้งไว้เท่ำนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
  • 25. 25 การปรับตัวของผู้ประกอบการและการจ้างงานคนจีนรุ่นใหม่ โดย คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย Chief business officer, Beijing Joynco Technology Co., Ltd. ผมจะมำพูดในมุมมองของผู้ประกอบกำร ทำงเรำทำธุรกิจด้ำน franchise ร้ำนอำหำรไทยในจีนนะครับ เรำมีหลำยสำขำในหลำยเมืองมีในซัวเถำ ฉำงซำ กุ้ยหลิน หนำนหนิง ประมำณนี้นะครับ แต่จะไม่ได้ลงในเมือง ระดับหนึ่งแบบปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น นะครับ เลยจะเป็นประสบกำรณ์ที่ของผู้ประกอบกำรในเมืองระดับสำม เป็นส่วนใหญ่นะครับ ในด้ำนหนึ่งเรำก็ต้องบอกว่ำสังคมจีนปัจจุบัน ผมต้องคุยงำนกับกลุ่มที่เกิดหลังปี 2000 เป็นต้นไป ดังนั้นเขำก็จะมีควำม Extreme มำกกว่ำคนรุ่นผมหรือว่ำคนจีนรุ่นจิ่วหลิงโฮ่ว อย่ำงเมื่อครู่ที่ท่ำน วิทยำกรหลำยท่ำนได้พูดมำนะครับไม่ว่ำจะเป็นเรื่องของ tang píng (躺平) ซึ่งก็เป็นมุมมองของคนยุคนี้นะครับ ก็คือ 1) คุณต้องการ work-life balance 2) social security ต่างๆ ยิ่งเรำทำธุรกิจด้ำน franchise F&B (Food and Beverage Service) คนพวกนี้ไม่ได้ดีไปกว่ำพวกเด็กจบมหำวิทยำลัย บำงคนจบม.6 ก็ออกมำหำ งำนทำแล้ว ผมจะต้องคุยงำนกับคนพวกนี้บ่อยมำก ในประเทศจีนอย่ำงที่เรำอำจจะพอทรำบกันอยู่คือเขำแบ่งเมืองออกเป็น 4 ระดับนะครับ คนที่อยู่ใน เมืองระดับสี่ทำงรัฐบำลก็จะเน้นว่ำถ้ำอยู่ในชนบทให้ย้ำยเข้ำไปอยู่ในเมือง จะมีสินเชื่อให้นะครับ ดังนั้นคนกลุ่ม นี้จะถูกย้ำยเข้ำมำอยู่ในเมือง แล้วก็ต้องหำงำนทำ บำงคนถ้ำสมมุติเรียนจบมัธยม หรือจบปวช. ปวส. เข้ำมำนะ ครับ มันก็จะไม่ได้งำนในบริษัทใหญ่ หรือเป็นข้ำรำชกำรเพรำะอำจจะยังไม่มีวุฒิเพียงพอ เขำก็จะเข้ำมำทำงำน ที่เป็น SME นะครับ มันเลยต้องมี SME พวกนี้เข้ำมำรองรับ เขำก็จะไม่ค่อยดิ้นรนอย่ำงหนัก เขำอยำกได้ work- life balance และ social security ที่ดี จะเป็นรูปแบบนั้นเสียส่วนใหญ่นะครับ
  • 26. 26 ถ้ำเกิดว่ำไม่ได้อยู่ในปักกิ่ง หรือเซี่ยงไฮ้ คือถ้ำคนเรียนจบสถำบันที่ดีเข้ำมำ ควำมฝันส่วนใหญ่ก็คือ ฉัน ขอไปทำงำนในปักกิ่งอย่ำงน้อยสัก 2 ปีแล้วค่อยกลับบ้ำน หรือฉันขอไปทำงำนในกวำงโจวสัก 5 ปีแล้วค่อยกลับ บ้ำน แต่ถ้ำไม่ได้จบพวกนี้มำเขำก็ไม่มีทำงเลือกเขำก็ต้องย้ำยจำกเมืองระดับ 3 ไปอยู่ในเมืองระดับสอง 2 แล้ว ทีนี้ต้องบอกว่ำปัจจุบันคนจีนค่อนข้ำงคิดเรื่อง work-life balance ค่อนข้ำงมำก ก็คือทำงำนต้องมี OT นะ ถ้ำ สมมุติทำงำนไม่มี OT นี่ต้องเริ่มมำนั่งคุยกันแล้ว แต่ว่ำถ้ำเป็นคนรุ่นเก่ำประมำณรุ่น 1980-1990 เรื่องพวกนี้ อำจจะพอหยวนๆกันได้ แต่พอเป็นรุ่นหลังปี 2000 เริ่มไม่ได้แล้วนะ เช่นสมมุติว่ำคุณทำงำนบริกำรแล้วมีพัก ช่วง 14.00 น. ต่อให้ลูกค้ำเข้ำมำพนักงำนเขำก็ไม่สนใจนะครับ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นในธุรกิจจีนปัจจุบัน ที่ จีนได้เปลี่ยนจำกภำคอุตสำหกรรมมำเป็นภำคบริกำร ดังนั้นงำนบริกำรจึงเป็นเรื่องที่สำคัญนะครับ ดังนั้นคนที่เป็นผู้ประกอบกำรจะต้องคิดว่ำ work-life balance พนักงำนเป็นอย่ำงไร social security ต้องครบถึงจะเรียกคนเข้ำมำทำงำนได้ แล้วยิ่งคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมำน้อย ดังนั้นในทุกอุตสำหกรรมจึงมีกำรแย่ง คนเข้ำมำทำงำน ดังนั้นคนจีนรุ่นใหม่จึงสำมำรถที่จะเลือกทำงำนได้ หรือเลือกที่จะไม่ทำงำนก็ได้ อย่ำงตอนนี้จะ มีคำหนึ่งขึ้นมำก็คือกำรเป็น full time children นะครับ ก็คือกำรที่ถึงแม้ว่ำเขำจะไม่ได้ทำงำนแต่เขำก็สำมำรถ อยู่กับพ่อแม่เขำได้ ด้วยกำรที่เป็นลูกคนเดียว คุณเกิดมำเป็นลูกคนเดียวทำให้พ่อแม่ที่ต่อให้ไม่ได้มีฐำนะมำกก็ ยังมีควำมสำมำรถที่จะเลี้ยงลูกได้ ต่อให้ลูกโตไปแค่ไหนก็ตำม เช่น เงินเดือนพ่อแม่ รำยได้ 2 คน 8,000 หยวน แต่ฉันเคยเลี้ยงลูกมำอยู่แล้ว ถึงลูกฉันจะโตอำยุ 20 กว่ำปี 24 ปี แล้วไปทำงำนมำแล้วออก หรือไม่มีงำนทำ หรือว่ำโดนไล่ออกมำอะไรก็แล้วแต่ ไม่เป็นไรฉันยังไม่ตำยฉันก็ยังเรียนเลี้ยงลูกได้ ก็จะมีคนอย่ำงนี้อยู่ค่อนข้ำง เยอะ ดังนั้นที่คนรุ่นใหม่ถูกถำมว่ำที่บ้ำนคุณมันก็ไม่ได้มีฐำนะ แต่ว่ำทำไมคุณถึงยังเลือกงำนอยู่ เพรำะว่ำเขำไม่ เป็นไร พ่อแม่เขำยังเลี้ยงได้อยู่เพรำะเขำเป็นลูกคนเดียวไม่ได้มีปัญหำอะไร ดังนั้นกำรติดต่องำนกับคนรุ่นใหม่ เลยต้องคิดเรื่องพวกนี้ค่อนข้ำงเยอะ ปัจจุบันช่วงหลังโควิดเป็นต้นมำนั้น ทำงกำรจีนได้ปรับเรื่องนโยบำยสุขำภิบำล เรื่องนโยบำยกำรจ้ำง งำนค่อนข้ำงเยอะและมีควำมเป็นสำกลมำกขึ้น ดังนั้น กำรวำงแผนเรื่องกำรขยำยธุรกิจในจีนจึงต้องปรับเปลี่ยน ไปค่อนข้ำงเยอะ จำกเดิมทิศทำงของบริษัทจะเป็นกำรขยำยสำขำออกไปจำนวนมำก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเน้นเรื่อง กำรส้รำง franchise แทน ต้องเน้นเรื่องกำรสร้ำงให้พนักงำนหรือว่ำให้คนรุ่นใหม่มีงำนนะครับ มีงำนที่ว่ำนี่ไม่ใช่ แค่มีงำนทำนะครับเพรำะที่จีนมีงำนเยอะมำกแต่ปัญหำของจีนคือเด็กที่เรียนจบมำแล้วไม่ว่ำจะเรียนจบมำจำก สถำบันไหนมำกก็ตำม เขำไม่ได้ทำงำนตรงสำยที่เรียนมำ อันนี้เป็นปัญหำหลัก พอเรียนจบมำแล้วไม่ได้ทำงำน ตรงสำย เขำก็รู้สึกไม่อยำกทำงำน คนเรียนจบวิทยำกำรคอมพิวเตอร์มำแต่ได้ทำงำนภำคบริกำร เขำก็ไม่ อยำกจะทำงำนด้ำนนั้นใช่ไหมครับ หรือว่ำเรียนจบงำนภำคบริกำรแต่ต้องมำทำงำนสำยเทคโนโลยี บำงครั้งอยู่ กันแค่ 3 ปีก็เบื่อแล้ว ไม่อยำกทำงำนแล้ว แต่คนพวกนี้เขำจะคิดว่ำ “ฉันอยำกจะเป็นเจ้ำของกิจกำร” กัน ค่อนข้ำงเยอะมำก
  • 27. 27 ณ ปัจจุบัน อย่ำงในบริษัทของเรำสิ่งที่เรำได้รับกำรนำเสนอมำมำกที่สุดจำกบริษัทอสังหำทรัพย์ต่ำงๆ หรือว่ำจำกภำครัฐบำลที่มำชวนเรำเข้ำไปลงทุนในกิจกรรมด้ำน Yèshì (夜市) หรือ Night market ปัจจุบันที่ จีนมีกระแสเรื่องนี้เยอะมำก ถำมว่ำทำไมต้องเป็น Night market ทั้งที่มันไม่ได้ทำเงินมำกมำยอะไรเลย สำหรับ เจ้ำของพื้นที่มันอำจจะเพิ่มมูลค่ำของพื้นที่ขึ้นมำได้ แต่สำหรับรัฐบำลท้องถิ่นมันเป็นกำรเพิ่มธุรกิจ SME เป็น กำรสร้ำงงำนให้กับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นยิ่งเรำมี franchise เข้ำมำเยอะ ยิ่งมี Night market เข้ำมำเยอะ เรำจะ สำมำรถสร้ำงงำนให้กับคนรุ่นใหม่ได้ง่ำยนะครับ แล้วอย่ำงรัฐบำลจีนในปัจจุบันชอบแนวคิด Night market แบบไทยมำก เพรำะว่ำคนรุ่นใหม่จบมำไม่ใช่ไม่มีงำนทำนะครับ แต่เขำเลือกงำน แต่เขำจะไม่เลือกงำนถ้ำเขำ เป็นเจ้ำของกิจกำรเอง เขำต้องป้อนโครงกำร หำรูปแบบ franchise ทำให้พวกเขำทำงำนกันมำกขึ้นนะครับ หรือเป็นเจ้ำของกิจกำรได้มำกขึ้น อันนี้เป็นรูปแบบที่รัฐบำลจีนท้องถิ่นนิยมเข้ำมำหำ Partner ด้ำนพวกนี้ ค่อนข้ำงเยอะครับ ปัจจุบันถ้ำคุณทำบริษัทขึ้นมำ คุณต้องคิดเรื่อง ESOP (Employee Stock Option Program) ด้วยนะ ครับ ถ้ำเกิดเป็นพนักงำนนะครับ แล้วสมัยนี้เรำเรียกเขำเป็นพนักงำนไม่ได้แล้วนะครับ เรำต้องเรียกเขำว่ำ Héhuo rén (合伙人) หรือคนที่มำเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน และพนักงำนที่มีระดับสูงหน่อย ปัจจุบันผมต้อง เรียกทุกคนว่ำเป็น leader นะ สมมุติคนชื่อหลี ผมก็ต้องเรียกว่ำ คุณหลีจ่ง ทั้งที่เขำมีตำแหน่งต่ำกว่ำเรำ ก็ เพรำะว่ำเรำต้องให้เกียรติเขำ ว่ำเขำเป็นหุ้นส่วนร่วมกันนะครับ เรำต้องมีหุ้นลมให้ ต้องมี stock equity ให้ ถึง จะทำงำนกับเรำไปได้นำน ถึงจะสำมำรถใช้ควำมคิดร่วมกันได้นะครับ เพรำะคนจีนรุ่นใหม่มีทำงเลือก ยิ่งมำเป็น ยุค 1980-1990 ที่เป็นยุคลูกคนเดียว พ่อแม่เขำก็มีเงินเก็บ ยิ่งคนจีนสมัยก่อนมักมีเงินเก็บเยอะ เขำเลยมี ทำงเลือกเยอะ ทุกคนเลยอยำกเป็นเจ้ำของกิจกำรกัน สมัยนี้ถ้ำคุณมีพนักงำนที่เก่งมำกๆ คุณต้องคิดแล้วว่ำจะ ดันเขำอย่ำงไรให้เขำโตไปแล้วยังเชื่อมต่อกับเรำได้อยู่ สมัยนี้กำรจ้ำงงำนไม่ใช่ว่ำคุณจะเป็นหัวหน้ำเขำตลอดไป คุณต้องหำทำงดึงลูกน้องคุณขึ้นมำเป็นหุ้นส่วนให้ได้ อย่ำงถ้ำคุณทำงำนกับเรำมำแล้ว 2-3 ปี เรำก็ต้องลู่ทำง แล้วว่ำ คุณอยำกเป็น supplier ให้เรำไหม คุณอยำกจะไปเปิด franchise กับเรำไหม คุณอยำกจะได้เงินทุนไป ทำกิจกรรมเพิ่มไหม อันนี้ถึงจะเป็นรูปแบบที่สำมำรถเข้ำไปต่อรองงำนกับคนรุ่นใหม่ของจีนได้นะครับ แล้วเขำ มองพวกนี้เป็น career path นะครับ ในปัจจุบันสังคมจีนจะคล้ำยกับสังคมญี่ปุ่นช่วงปี 1990 นะครับ คือสังคมญี่ปุ่นในปี 1990 เขำไม่มี Work-life Balance มีกำรแข่งขันสูง แต่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ก็เหมือนคนจีนปัจจุบันเลยครับ ก็คือเขำ tang píng (นอนรำบ) ไม่แข่งขัน เขำจะขอ Work-life Balance เป็นหลักนะครับ ดังนั้น จีนในปัจจุบันสำมำรถเทียบเคียง กับญี่ปุ่นในปี 1990 ได้จนถึงปัจจุบันนะครับ ผมได้ยินในกลุ่มนกลงทุนว่ำจีนในปัจจุบันมันไม่โต มัน GDP มันโต ต่ำลงเรื่อยๆนะ ซึ่งเป็นเรื่องจริง ต้องยอมรับว่ำจีนไม่สำมำรถเอำอุตสำหกรรมภำคบริกำร หรือแนวคิด เศรษฐศำสตร์เดิมไม่สำมำรถใช้กับจีนได้แล้ว รัฐบำลจีนเองก็ยอมรับว่ำไม่สำมำรถทำได้ เวลำจะทำอะไรก็ต้อง
  • 28. 28 เทียบเคียงดูญี่ปุ่นก่อนแล้วจีนก็จะทำตำมรูปแบบนั้น ปัจจุบันสิ่งที่รัฐบำลจีนท้องถิ่นพยำยำมทำคือ domestic tourism หรือก็คือพยำยำมทำแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นมำ ทำให้มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆนะครับ ถำมว่ำทำไมต้อง ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่มันทำเงินสู้ภำคอุตสำหกรรมไม่ได้ นั่นก็เพรำะมันเกิดกำรสร้ำงงำนนะครับ มันสำมำรถ เปลี่ยนคนจำกที่เคยทำงำนอยู่ในภำคอุตสำหกรรมแล้วมำกำรย้ำยฐำนไปเวียดนำมบ้ำง ไปไทยบ้ำง ไปอินเดีย บ้ำง ย้ำยกลับมำสู่ภำคบริกำรได้ง่ำยขึ้น ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเทรนด์หลักในปัจจุบันเวลำคุยกับรัฐบำลท้องถิ่นจีน ว่ำคุณจะทำอย่ำงไรในกำรสร้ำงงำนให้คนจำกภำคอุตสำหกรรมที่ย้ำยมำภำคบริกำรที่มีเยอะมำกขึ้นเรื่อยๆ นี่ เป็นเรื่องที่เรำต้องเข้ำใจในกำรพัฒนำธุรกิจในจีน นี่ก็เป็นกระแสหลักในจีนปัจจุบันนะครับ ขอบคุณมำกครับ
  • 29. 29 วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนจีนรุ่นใหม่ในมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดย รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์ อาจารย์ประจาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จำกฟังหลำยท่ำนมำนะคะ เดี๋ยวจะขอใช้คำ Generation แบบตะวันตกแล้วกันนะคะในฐำนะที่เป็น Generation X (Gen Xers) นะคะ สิ่งที่ฟังแล้วเข้ำถึงอำรมณ์ควำมรู้สึก และรู้สึกเห็นใจ แล้วอยำกชวนให้ท่ำน ที่มีควำมสนใจในประเทศจีนได้นำไปคิดต่อ นั่นคือเรื่องจำกคุณเนสที่มันให้ควำมรู้สึกว่ำเหนื่อยเหลือเกิน จะไม่ ไหวแล้ว อยำกจะบอกคุณเนสให้สบำยใจนะคะว่ำเรื่องนี้ Gen Xers เป็นกันทั้งโลก แต่แค่ว่ำตอนนี้โฟกัสมันมำ อยู่ที่จีนเท่ำนั้นเองค่ะ และจำกที่คุณตี้พูดเมื่อครู่นี้ หรือจริงๆคือตั้งแต่ฟังคุณดำว คุณเดือน คุณเนส จนมำถึงคุณ ตี้ อยำกจะบอกถึงท่ำนที่สนใจในเอเชียตะวันออก ประสบกำรณ์ที่จีนเจออยู่เป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นและเกำหลีใต้เจอ มำแล้ว จำกที่ฟังมำมีแค่คุณตี้คนเดียวที่พูดถึงคนกลุ่ม lower-middle class ว่ำเขำใช้ชีวิตในสังคมจีนอย่ำงไร ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่ำสนใจมำกเลย เพรำะว่ำเขำเป็นประชำกรส่วนใหญ่ของประเทศจีน ด้วยควำมที่คน กลุ่มนี้ไม่ค่อยสนใจอะไรมำกนักยกเว้นว่ำเขำจะเป็นเจ้ำของกิจกำรเอง เป็นกลุ่มที่มีควำมเคลื่อนไหวสูงมำกและ พร้อมจะทดลองใช้ชีวิตในหลำยรูปแบบ สำหรับจีนเองกลุ่มคนขนำดใหญ่ที่มีควำมเคลื่อนไหวสูงและยังไม่มี identity ที่ชัดเจน เป็นกลุ่มที่น่ำจะเติบโตต่อไปได้ในเชิงของ creative economy ไม่ว่ำเขำจะเป็น creator หรือเป็นกลุ่มเป้ำหมำยก็ตำม ซึ่งสำหรับไทยเองคนกลุ่มนี้ก็น่ำสนใจในฐำนะกลุ่มเป้ำหมำยของ soft power แต่ ประเด็นก็คือคนกลุ่มนี้เขำไม่ได้สนใจ โดยเฉพำะถ้ำสังคมจีนเกิดกำรเปลี่ยนแปลงและเขำสำมำรถออกข้ำงนอก ได้ เขำจะยังอยู่ในประเทศนี้หรือไม่ อันนี้ให้ไปคิดต่อนะคะ
  • 30. 30 จำกที่คุณตี้พูดมำเขำค่อนข้ำง extreme ซึ่งคำนี้มันตีควำมได้กว้ำงมำกในด้ำนควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ประเทศ แต่อย่ำงไรก็ตำมจำกที่คุณตี้พูดมำ วรำรักคิดว่ำมันค่อนข้ำง old fashioned มำกเลยนะคะ พวกวิธีคิด ของรัฐบำลจีน หรือของไทยเองก็ตำม ที่พยำยำมจะสร้ำงกิจกรรมทำงเศรษฐกิจ (economic activity) ด้วยกำร สนับสนุนให้ทุกคนเป็นเจ้ำของ SME และกำรทำ Night market ทั้งมันที่ไม่ได้เพิ่มมูลค่ำทำงเศรษกิจมำกนัก แต่กลับแค่หวังให้คนที่ไม่คิดทำงำนรู้สึกว่ำยังอยู่ในสังคมและยังมีส่วนร่วมกับเศรษกิจของประเทศ ซึ่งที่บอกว่ำ old fashioned เพรำะว่ำประเทศญี่ปุ่นทำมำแล้วและล้มเหลวด้วย ทุกวันนี้เขำยังคุยกันอยู่เลยว่ำปี 1990- 2010 เป็นช่วง Lost Decades ไต้หวันเองก็ประสบปัญหำนี้ เป็นที่น่ำสนใจว่ำจีนจะแก้ปัญหำนี้อย่ำงไร เพรำะว่ำจีนมีจำนวนประชำกรเยอะมำกที่สุดในแถบนี้ นอกจำกนี้ ยังมีเรื่องปัญหำเด็กที่จบสถำบันชั้นนำแล้วหำ งำนไม่ได้ แต่คนส่วนมำกก็ไม่ได้จบสถำบันชั้นนำกันหรอก เป็นเหมือนกันในหลำยประเทศ เรำยังต้องรอดูว่ำเขำ จะแก้อย่ำงไร ที่น่ำสนใจมำกขึ้นไปอีกคือจีนจะทำอย่ำงไรที่จะให้คนกลุ่มนี้เข้ำร่วมกับคุณ วิทยำกรทั้งสี่ท่ำนว่ำที่พูดโดยเฉลี่ยภำพรวมมำมันเป็นของกลุ่ม middle class ในควำมหมำยทั่วไป ด้ำนกำรศึกษำ แต่กลุ่มนี้มีแยกเป็นสำมกลุ่มนะคะ มันมี lower-Middle Class ที่เกี่ยวข้องกับที่คุณตี้พูด อีก กลุ่มคือ middle-middle class ซึ่งเป็นกลุ่มของ Gen Xers เป็นส่วนใหญ่ และกลุ่ม Upper-Middle Class ไม่ ทรำบว่ำท่ำนวิทยำกรพูดภำพของกลุ่มไหน แต่เท่ำที่ฟังมำคุณเนสจะพูดถึง Upper-Middle Class ซึ่งมันเป็น ภำพที่เหนื่อยยำกเกินไปไหม นี่ขนำดเป็น Upper-Middle Class ยังเหนื่อยขนำดนี้เลย แล้ว middle-middle class ล่ะ ไม่ถอดใจยอมแพ้ลงนอน (tang píng) กันหมดหรอ และที่แปลกก็คือเรื่องที่ทั้งสำมท่ำนพูดมำนั้น วรำรักอ่ำนเจอมำเป็น 10 ปีแล้ว แต่ไม่ได้อ่ำนมำจำก สังคมจีน วรำรักอ่ำนมำจำกเอกสำรสังคมญี่ปุ่น ที่น่ำสนใจคือคำว่ำ “ขึ้นฝั่ง” (Shàng'àn) คำนี้หมำยควำมว่ำ อะไรกันแน่สำหรับ Gen Xers และ Gen Y ตอนต้น เพรำะคุณเนสบอกว่ำ Gen Xers แต่งงำนเร็ว หย่ำเร็ว กำร เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมันจะไม่ทำให้ชีวิตยำกขึ้นไปอีกไหม อะไรกันแน่ที่เป็นกำรขึ้นฝั่ง (Shàng'àn) จริงๆ รูปแบบชีวิตแบบไหนกันแน่ที่เขำอยำกได้จริงๆ เรำมีควำมรู้สึกว่ำสังคมจีนยังไม่ตกผลึกเนื่องจำก Gen Xers เพิ่งจะเห็นวิกฤตปัญหำด้ำนอัตลักษณ์ของตัวเอง ไม่ใช่แค่ในฐำนะ generation แต่ในฐำนะ individual ด้วย เพรำะพ่อแม่ที่เป็น Gen Xers ท้ำยที่สุดแล้วจะทำให้เส้นทำงชีวิตของลูกที่เป็น Gen Y บิดเบี้ยวไปจำกเดิม อย่ำงในญี่ปุ่นก็กลำยเป็นปัญหำอำชญำกรรมแบบแปลกๆ เรำต้องรอดูว่ำจีนจะทำได้ไหม กับกำรเอำปัญหำของ ตัวเองมำเป็น creative economy ของตัวเองได้ อย่ำงในญี่ปุ่นกำร์ตูนหรือมังงะที่เป็นแนวอำชญำวิทยำ (criminology) สำมำรถทำเงินได้มำก แต่มันจะดูเศร้ำไปไหมสำหรับสังคมที่น่ำจะมีเส้นทำงที่ดีกว่ำนี้ ที่น่ำสนใจอีกอย่ำงคือกำรเกิด Hollowness ซึ่งเป็นคำที่สังคมยุโรปใช้เรียกสถำนกำรณ์สังคมของ ตัวเองในช่วงประมำณปี 2010 เป็นต้นมำ คือกำรที่ตัวปัจเจกบุคคลรู้สึกว่ำชีวิตตัวเองนั้นกลวง ว่ำงเปล่ำ ไม่รู้ว่ำ จุดมุ่งหมำยปลำยทำงอยู่ตรงไหน หรือต้องทำอย่ำงไรให้ถึงฝั่ง อันนี้เป็นสิ่งที่ยุโรปพยำยำมแก้ไขมำเป็นสิบปี
  • 31. 31 แล้วแต่ยังไม่สำเร็จ แต่หลำยที่ก็สำมำรถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกำสได้โดยกำรปรับเรื่องที่คนของเขำมี mobility (ควำมคล่องตัว) ที่สูงและแต่ละคนก็ยังไม่รู้ว่ำตัวเองอยำกจะทำอะไร เรื่องนี้ถ้ำมองในแง่บวกมันก็ถือว่ำเป็น พื้นที่ของโอกำสที่จะลองแนวคิดใหม่ในกำรดึงดูดคนได้ แต่ข้อเสียก็คือในเมื่อคนมี mobility (ควำมคล่องตัว) ที่ สูงเขำก็ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ในประเทศที่ไม่มีแรงจูงใจให้อยู่ ทำให้มีผลกระทบกับฐำนภำษีเนื่องจำกตอนนี้ Gen Xers เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่จ่ำยภำษีให้กับรัฐบำลและคนรุ่นก่อนหน้ำ Gen Xers จึงคำดหวังให้รุ่นต่อไปอย่ำง Gen Y และ Gen Z มำจ่ำยภำษีดูแลรุ่นตัวเอง แต่ถ้ำคนรุ่นไม่จ่ำย เขำอยำกจะ work-life balance อยำกจะออกไป โลกภำยนอกหรืออะไรแบบนี้ แล้ว Gen Xers จะทำอย่ำงไร ซึ่งจีนเองก็ถูกเตือนแล้วว่ำอย่ำมั่นใจในทุนสำรอง ของตัวเองมำกเกินไป เพรำะ Gen Xers ในตอนนี้คือกลุ่มคนที่ครองตำแหน่งทำงสังคมของโลกอยู่และในสังคม จีนเรำต้องมำดูว่ำเขำจะออกนโยบำยอย่ำงไร Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รศ.ดร.จานง สรพิพัฒน์ : ผมเห็นด้วยกับทำงอำจำรย์วรำรักและท่ำนวิทยำกรทุกท่ำน แต่ผมคิดว่ำยังมีอยู่ 2-3 เรื่องที่ผมอยำก แชร์ให้ทุกคนช่วยกันคิดครับ ในภำพของจีนผมคิดว่ำผู้จัดกำรสัมมนำ คุณยุวดีจัดทำได้ดีมำก ทำให้เห็นภำพทั้ง เมืองใหญ่ระดับหนึ่ง ระดับสอง ของเมืองจีนได้ครบถ้วน แต่ผมคิดว่ำยังขำดภำคชนบทของจีนอยู่ ผมไม่รู้ว่ำ ประชำกรเขำมีเท่ำไหร่แต่คงไม่ต่ำกว่ำ 30% ซึ่งตรงนี้ผมคิดคงต่ำงกัน และสำหรับประเทศไทย ที่เรำพูดกันเยอะ ในกำรตั้งคำถำมกับจีนบ้ำง ญี่ปุ่นบ้ำง เกำหลีบ้ำง ขอพูดในฐำนะ Babyboomer ที่จริงแล้วก็คือว่ำผมผ่ำนช่วงที่ เมืองไทยจนมำกและเมืองไทยก็ค่อยๆ ร่ำรวยขึ้นจนเริ่มหยุดนิ่งแล้วก็ค่อยๆเสื่อมลง ทุกวันนี้เรำก็มีปัญหำว่ำคน ใดระดับสูง อย่ำงผมเองก็มีลูกศิษย์จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้ำนวิศวกรรมแล้วเขำมำเป็นผู้ช่วยวิจัยอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ำยก็ไปขำยกำแฟ แล้วก็มีลูกของเพื่อนที่จบสถำปัตยกรรมศำสตร์จำกต่ำงประเทศ แต่กลับมำก็มำขำย กำแฟเหมือนกัน ผมรู้สึกว่ำเรำก็มีปัญหำเดียวกันเรื่องคนจบมำแล้วไม่ได้ใช้ในสิ่งที่ตัวเองเรียน สุดท้ำยเลยต้อง ไปทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่ำเป็นงำนออกแนวสบำยๆ หน่อยที่ไม่ต้องแข่งขันกับใครมำกนัก อย่ำงเปิดร้ำนกำแฟของ ตัวเองสบำยๆ ไป อันนี้เป็นกรณีของคนชั้นสูง ส่วนคนระดับกลำง-ล่ำงนั้นผมไม่รู้ เพรำะผมยังไม่เคยเห็นงำนวิจัยของคนไทยด้วยกันเลย และ สถำนกำรณ์ของเรำก็มีปัญหำแรงงำนในระดับล่ำงลงไปอีกของเรำก็ขำด แต่ตรงนี้เรำยังดีกว่ำเมืองจีน ดีกว่ำ ญี่ปุ่น ตรงที่ว่ำเรำมีประชำกรจำกประเทศเพื่อนบ้ำน อย่ำงพม่ำ ลำว เขมร แต่คนเหล่ำนี้เขำก็สร้ำงตัว แล้วคน
  • 32. 32 พม่ำบำงคน วันก่อนผมอ่ำนข่ำวเจอ น่ำสนใจมำกเลยว่ำตำรวจไปจับที่เชียงใหม่ ที่ระนอง เพรำะว่ำอ้ำงเป็น เจ้ำของ ให้คนไทยเป็นเจ้ำของในนำม แต่เจ้ำของตัวจริงคือคนพม่ำ ถ้ำผมคิดแบบพวกอเมริกัน ผมจะยกสัญชำติ ไทยให้เขำไปเลยเพรำะว่ำเขำมีควำมสำมำรถ เขำสำมำรถสร้ำงงำน มีควำมสำมำรถในด้ำนเศรษฐกิจและสังคม สร้ำงรำยได้ให้คนในพื้นที่ แต่เรำยังใช้ค่ำนิยมแบบเก่ำ ดังนั้นเรื่องนี้ถือว่ำเป็นควำมผิดตำมกฎหมำย มำขำย แรงงำนอยู่ไทย 10 ปี กลำยเป็นเถ้ำแก่เฉยเลย แล้วก็เอำคนพม่ำด้วยกันมำเป็นแรงงำน ผมก็เลยอยำกจะให้ทุก คนลองคิดว่ำ ในประเทศไทยเรำตอนนี้ ผมไม่เห็นงำนวิจัยเลยว่ำเรำก็มีปัญหำแบบนี้ทั้งระดับล่ำง ระดับกลำง ระดับสูง แล้วเรำจะทำอย่ำงไรให้ออกแบบกำรแก้ปัญหำเพื่อให้สังคมเดินไปข้ำงหน้ำ ตอนนี้เมืองไทยเข้ำสู่ ageing society อย่ำงสมบูรณ์แล้วนะครับ เพรำะว่ำอัตรำล่ำสุดที่ผมอ่ำนข้อมูลจำกคณะประชำกรศำสตร์ เขำ ออกข่ำวมำว่ำอัตรำกำรตำยจะมำกกว่ำอัตรำกำรเกิดในปีนี้ เดือนมิถุนำยนที่ผ่ำนมำ เพรำะฉะนั้นมันมำเร็วกว่ำ ที่เรำคำดกำรณ์ไว้ประมำณ 10 ปี ผมก็ขอสั้นๆไว้แค่นี้ว่ำมันก็เป็นโจทย์ที่ประเทศไทยเรำก็ไม่เคยถำมตัวเอง ก็ เป็นเรื่องที่น่ำสนใจครับ ขอบคุณครับ พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง: พอดีได้ฟังตั้งแต่แรกก็ดีมำกเลย ยิ่งมำถึงตอนท้ำยกลัวว่ำจะหลุด ผมไม่รู้ว่ำจะจับประเด็นเดียวกันได้ หรือเปล่ำ ที่อำจำรย์วรำรักถำมขึ้นมำตอนท้ำย ผมเลยสนใจมำกเพรำะคุณยุวดีคงจะนำไปเสนอเป็น Initiative policy recommendations ว่ำต่อจำกนี้ใครจะมีบทบำทสำคัญในอนำคตของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่ำจะเป็น Upper- middle class หรือ Lower-Middle Class หรือ Middle-Middle Class ที่พูดอย่ำงนี้เพรำะว่ำคนที่จะ เปลี่ยนแปลงสังคมได้ก็คือคนระดับชนชั้นกลำง ว่ำมันเกิด Critical mass จำกส่วนไหนมำกที่สุด เพิ่มเติมจำกที่ อำจำรย์วรำรักได้ตั้งข้อสังเกตเอำไว้ ต้องฝำกทำงอำจำรย์ยุวดีช่วยถำมผู้วิจัยที่กำลังนำเสนอด้วยครับ ขอบคุณครับ ดร.น้าทิพย์ อักษรกุล: สวัสดีค่ะ รู้สึกดีใจมำกเลย เพรำะว่ำนอกจำกจะได้ควำมรู้แล้ว ก็ยังได้รับควำมสนุกสนำนเพลิดเพลิน ได้รับควำมหลำกหลำยพอสมควรหลำยอย่ำงก็ยืนยันควำมคิดที่เกี่ยวกับคนจีนและชำติจีน ที่ตอนนี้รู้สึกอยู่นะ คะ แต่หลำยอย่ำงก็ทำให้คิดต่อ แล้วก็มีประเด็นที่อยำกพูดอีกครั้งหนึ่งเพรำะว่ำอำจำรย์เนสและวิทยำกรท่ำน อื่น แม้กระทั่งอำจำรย์วรำรักก็พูดเกี่ยวกับเรื่อง “เหนื่อย” เรื่องเหนื่อยนั้นเรำสังเกตได้ว่ำมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกสังคมก็เป็น สังคมไทยก็เป็น แต่ว่ำสังคมจีนมันค่อนข้ำงจะสุดโต่งไปหน่อย คือว่ำทุกคนต้องทำให้เหมือนกับ เพื่อนบ้ำน เขำมีอะไรเรำก็ต้องมี เขำมีรถ เรำก็ต้องมีรถ เขำมีรถกี่คัน เรำก็ต้องมีงำนทำเยอะๆ เรำต้องมีงำน 3 งำน 4 งำน เพื่อที่จะรวย แล้วก็พอมีแล้วก็ต้องพูดถึงสิ่งที่เรำมี ลูกฉันไปโรงเรียนไหน ฉันไปท่องเที่ยววันหยุดที่
  • 33. 33 เมืองไทยหรืออะไรอย่ำงนี้ แล้วเวลำเรำเจอคนพวกนี้ เรำก็สงสัยว่ำทำไม ทำไมถึงต้องเหนื่อยขนำดนี้ แล้วมัน สำคัญนักเหรอ ก็เลยดีใจมำกเลยที่มี “กำรนอนรำบ” กันแบบนี้ อยำกจะมองย้อนกลับมำถึงเมืองไทย ต้องขอบคุณอำจำรย์จำนงที่เริ่มไว้ว่ำ ตอนนี้รัฐบำลก็เริ่มตระหนัก ว่ำกำรที่สังคมคนจีนได้เห็นโลกภำยนอกเยอะขึ้นจำกด้วยโซเชียลมีเดีย หรือจำกกำรเดินทำงไปต่ำงประเทศ ซึ่ง รัฐบำลก็เคยสนับสนุนให้ไปเรียนหนังสือที่ต่ำงประเทศ พอมีปัญหำเขำก็จะใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องหลอมรวม ควำมสำมัคคี ควำมรักชำติ อะไรอย่ำงนี้นะคะ เรำก็รู้สึกว่ำเขำก็เน้นด้ำนนี้มำกขึ้น ทำให้เรำย้อนกลับมำมอง เมืองไทยเหมือนกันว่ำเมืองไทยในระยะหลังช่วง 2-4 ปีมำนี้ เรำก็จะเน้นกำรใช้วัฒนธรรมในกำรสร้ำงชำติ แม้ว่ำเรำจะไม่เคยพูดออกมำตรงๆ แต่จะสังเกตว่ำเรำจัดงำนหลำยร้อยชนิด ตั้งแต่อุ่นไอรัก, OTOP ที่จัดแล้วจัด อีกไม่จบสักที เสร็จแล้วมีงำนสไตล์ เสร็จแล้วก็มีงำนครำฟต์ ทุกอย่ำงให้มันสนับสนุนสิ่งซึ่งเรำอำจจะเรียกว่ำ ลักษณะไทย แล้วในกำรทำอย่ำงนี้ค่ะ บำงทีเรำก็ยังใช้ Concept เดิมๆ เก่ำๆ หรืออำจจะพูดกันภำษำเรำก็คือ เชยๆ คือถ้ำมันเป็นวัฒนธรรมก็จะมีวิธีกำรดูเพียงอย่ำงเดียว วัฒนธรรมต้องเป็นเช่นนี้ ทีนี้ดิฉันคิดว่ำจีนก็อำจจะ เหมือนกัน อันนี้ก็อยำกจะฟังผู้เชี่ยวชำญพูดนะคะ แต่ว่ำของไทยนี่แน่นอนเลยคือวัฒนธรรมต้องเป็นอย่ำงนี้ อย่ำงเดียว เพรำะฉะนั้น วัฒนธรรมในควำมคิดเห็นของผู้เชี่ยวชำญ ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศไทยก็จะมองว่ำคือ สิ่งที่เปลี่ยนไม่ค่อยได้ เรำจะต้องเอำอย่ำงนั้น ควำมเป็นไทยมันติดอยู่ตรงนั้น ในขณะซึ่งในควำมเป็นจริงเรำก็ เหมือนเด็กจีน คนหนุ่มสำวจีน ที่เขำเปลี่ยนแปลงไปตำมสิ่งแวดล้อม สิ่งซึ่งเขำไปเห็น ไปรับมำจำกหลำยแห่ง เลยทำให้เล็กคิดว่ำถ้ำเรำจะใช้วัฒนธรรมในกำรนำควำมคิดของคน มันอำจจะต้องคิดกว้ำงกว่ำนั้น มันอำจจะ ต้องมีนวัตกรรมทำงวัฒนธรรม หรือมีนวัตกรรมทำงควำมคิด มำผสมกับของเก่ำเพื่อที่จะให้ของเก่ำมันอยู่ได้ดี แต่มันก็จะอยู่มันจะอยู่ได้ดีที่ใหม่ ในบริบทใหม่ ในควำมต้องกำรของคนใหม่ ซึ่งหมำยควำมว่ำมันก็ต้องถูก ปรับเปลี่ยน อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้อยำกฟังมำกเลย คือว่ำคนจีนที่น้องตี้บอกว่ำเขำอยำกจะออกไปข้ำงนอก คนจีน ระดับล่ำง ระดับกลำง ระดับไม่ได้สูงมำก ที่อยำกออกไปนอกประเทศ เขำมีอิสระ ถ้ำเขำมำได้เขำก็จะมำ แล้ว เมื่อเขำมำเขำก็จะมีควำมเก่ง ควำมแกร่ง ควำมอึด เพรำะเขำฝึกฝนกันมำดี ว่ำต้องอดทนต้องถึงจะประสบ ควำมสำเร็จ ควำมฉลำดก็ดี ดังนั้นแล้ว ประเทศไทยจะมำเป็นสถำนที่ให้เขำมำแสดงควำมเก่ง ควำมแกร่ง ควำมสำเร็จ แล้วเรำได้คิดอะไรในกำรที่จะเตรียมสังคมของเรำ เรำมีนโยบำยอย่ำงไรในกำรที่จะรับเขำ แล้วจะ เอื้อเขำ ในขณะเดียวกันก็จะเอื้อให้คนไทยหรือธุรกิจของไทยได้รับประโยชน์จำกกำรที่เขำมำร่วมกับเรำอยู่ในนี้ อยำกฟังเรื่องนี้ด้วยค่ะ อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงกำรระวังเรื่องผิดกฎหมำยอะไรนะคะ แต่ว่ำเอำแค่นี้ก่อน ขอบพระคุณค่ะ
  • 35. 35 ดร.ร่มฉัตร จันทรานุกูล อาจารย์ประจาคณะ Asian Studies, Beijing of International Studies University (BISU) ช่วงที่สองนี้ ดำวจะมำเล่ำถึงประสบกำรณ์ของตัวเองนะคะ ที่มีเพื่อนคนจีนหรือว่ำเรำได้สัมผัสกับกลุ่ม คนจีนที่ทำงำนอยู่ในวงกำรไทย-จีน อำจจะเป็นคนจีนที่ทำงำนในบริษัทไทย หรือบริษัทจีนที่ทำเกี่ยวกับนำเข้ำ ภำพยนตร์มำที่จีนนะคะ ในเรื่องของ soft power ต้องบอกว่ำประชำกรจีนนั้นมีจำนวนมหำศำลและตอนนี้ก็ ถือว่ำ soft power ของไทยมีโอกำสดีในสังคมจีน เพรำะว่ำอย่ำงที่เรำทรำบว่ำจีนเขำจะมีกำรคัดกรองและมี กำรควบคุมในเรื่องของสื่อ เรื่องของภำพยนตร์จะเข้ำมำฉำยในจีน อย่ำงหนังของอเมริกำก็ไม่ใช่ว่ำทุกเรื่องจะ เข้ำมำฉำยได้ จีนไม่ได้ tracking ตำมรูปแบบเหมือนโรงหนังอื่นทั่วโลก จะมีบำงเรื่องเท่ำนั้นที่เข้ำมำฉำย และถ้ำ เรำดูกระแสในเอเชียของเรำที่ยังดังนั้นก็จะเป็นในเรื่องของกระแส K-pop ของเกำหลีนะคะ กระแสของเกำหลี นี้เข้ำตีตลำดแตกทุกประเทศเลยในอำเซียน แต่ในประเทศจีนนั้นในช่วงเริ่มต้นนเหมือนจะทำได้ดี แต่ถูกรัฐบำล จีนเข้ำมำควบคุมก่อนที่จะตีตลำดแตก ต้องขอบอกว่ำที่จีนนั้นเรื่องกระแส soft power ต่ำงๆของประเทศอื่นที่ จะเข้ำประเทศจีนจะมีอีกส่วนหนึ่งที่มีผล นั่นคือเรื่องของ “ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ” และเรื่องของ กำรเมืองนั้นสำคัญมำกสำหรับรัฐบำลจีน เพรำะฉะนั้น ในก่อนหน้ำนี้ที่ประเทศจีนมีปัญหำกับประเทศเกำหลี เรื่องระบบในกำรป้องกันนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกำที่ไปติดตั้งที่เกำหลีใต้ ก็เกิดกระแสโจมตีเกำหลีใต้ขึ้นมำ ในช่วงนั้นจีนได้เริ่มทำกำรแบนละครจำกเกำหลีใต้และซีรีส์เกำหลีทั้งหมด รวมถึงดำรำเกำหลีที่ได้เป็น Brand Ambassador ให้สินค้ำจีนก็ถูกหยุดงำนกันหมดเลย ส่วนกกระแสของไทยเริ่มเข้ำมำได้เพรำะว่ำเริ่มจำกเรื่องของละคร อันนี้พูดในมุมของจีนยุคใหม่นะคะ เรื่องของละครและหนัง เช่นเรื่องสงครำมนำงฟ้ำที่เกี่ยวกับแอร์โฮสเตส อันนั้นเป็นเรื่องแรกเลยที่ดังมำกในจีน แล้วก็คนจีนชอบมำกๆ และต่อมำก็มีหลำยเรื่อง จึงมีผู้ประกอบกำรจีนที่มำตั้งบริษัทอยู่ในไทยเขำได้ทำเรื่อง เกี่ยวกับกำรที่จะนำหนังไทย ละครไทยเข้ำมำจีนมำกขึ้น อีกอย่ำงหนึ่งคือเรำได้รับกำรสนับสนุนจำกกระทรวง วัฒนธรรมไทยด้วย ที่ทำงผู้บริหำรมีควำมตั้งใจที่จะให้ soft power ไทยเข้ำมำในจีนมำกขึ้น อีกอย่ำงที่เรำเห็น ในมุมของกำรทำงำนของทำงกำรไทยในจีนคือเรื่องของ ททท. (กำรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ที่มีกำรจัด แคมเปญในจีนเยอะมำกเลย คือถ้ำเป็นคนไทยในจีนจะรู้เลยว่ำที่เซี่ยงไฮ้หรือปักกิ่ง หรือว่ำเมืองชั้นหนึ่ง เมืองชั้น สอง หรือที่ไหนก็ตำมที่มีกงสุลไทยอยู่ จะมีกำรจัดกิจกรรมอย่ำงเช่น Open House สถำนทูตไทย หรือทำ กิจกรรมให้คนจีนได้บัตรฟรีเข้ำมำดูกำรแสดงไทย กำรต่อยมวย กำรชิมอำหำรไทย หรือว่ำเรื่องของกำร ประชำสัมพันธ์สินค้ำไทย ซึ่งภำยหลังก็มีเรื่องของ SME ที่เข้ำมำในจีนมำกขึ้น และทำงสถำนทูตร่วมกับ
  • 36. 36 กระทรวงพำณิชย์ที่อยู่ต่ำงประเทศก็สนับสนุนให้สินค้ำไทยเข้ำมำมำกขึ้นโดยเฉพำะ ททท. ที่มีกำรจัดแคมเปญ เยอะมำกโดยเฉพำะที่เซี่ยงไฮ้ เช่น เรื่องของกำรเกษตร เรื่องของผลไม้ที่คนจีนชอบ เช่นทุเรียน มังคุด ลำไย ทำ ให้คนจีนรุ่นใหม่หันมำสนใจไทยมำกขึ้นอย่ำงกระแสเรื่องกำรใส่ชุดนักเรียนไทย เรื่องกำรเดินถ่ำยรูปตำมตลำด ของไทยอย่ำงตลำดรัชดำ ซึ่งมันก็เป็นส่งที่มำจำกโซเชียลมีเดีย คนจีนที่เป็น Wanghong (Influencer) ตำม TikTok (douyin 抖音) หรือ Kuaishou หรือ Bilibili อีกทั้งยังมีกลุ่มคนจีนที่อำศัยอยู่ในต่ำงประเทศ อย่ำงในเมืองไทย ซึ่งเขำก็จะทำ content ออกมำเช่น เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องกำรซื้ออสังหำริมทรัพย์ที่เมืองไทย หรืออย่ำงกระแสเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่ำนมำอย่ำงเรื่องกำรมำ เมืองไทยแล้วจะถูกตัดไตไปขำย กระแสพวกนี้ก็เกิดมำจำกพวก Wanghong ซึ่งเรำก็เข้ำใจว่ำเขำก็ต้องพยำยำม ทำ content ให้คนมำสนใจ แต่บำงครั้งมันอำจจะเป็นดำบสองคมได้ มันอำจจะไม่เป็นไปตำมที่เรำต้องกำรจะ สื่อ มันอำจจะออกมำเป็นกระแสในด้ำนลบก็ได้ ตรงนี้เรำก็ต้องทำควำมเข้ำใจต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกระแส soft power ไทยในจีนก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ คนที่สนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยก็มีเพิ่มมำกขึ้นโดยเฉพำะในปัจจุบัน อย่ำง ดำวอยู่ในมหำวิทยำลัย school of asian studies ก็เพิ่งจะเปิดสำขำไทยศึกษำเป็นคณะใหม่ แล้วดำวเป็นคน ร่ำงหลักสูตรใหม่นี้ เพื่อให้เด็กจีนที่เข้ำมำเรียนปริญญำตรี และต้องกำรให้คนจีนรุ่นใหม่เข้ำใจบริบทของกำร ร่วมมือระหว่ำงจีน-อำเซียนและจีน-ไทยมำกขึ้น โดยเฉพำะในด้ำนของเศรษฐกิจและกำรร่วมมือทำงด้ำน เศรษฐกิจ ซึ่งนี่ก็เป็นสัญญำณที่ดี เพรำะในมุมมองของดำวเอง ในปัจจุบันจีนมีมหำวิทยำลัยที่มีเอกภำษำไทยแค่ 2 มหำวิทยำลัยเท่ำนั้น หนึ่งคือ Beijing university สองคือ beijing weiwuying university หรือมหำวิทยำลัย ปักกิ่งสำขำภำษำต่ำงประเทศ แต่ปัจจุบันนี้จะมี 3 ที่แล้ว คือที่ BISU ที่ดำวสอนอยู่ ซึ่งดำวก็จะดูในด้ำนของ เศรษฐกิจเป็นหลัก ตรงนี้ก็ทำให้เรำเห็นว่ำเด็กจีนเริ่มสนใจอยำกเรียนรู้อำเซียน อยำกเรียนรู้ไทยนั้นมีมำกขึ้น นี่ จึงเป็นโอกำสในกำรพัฒนำ soft power ของไทย เพรำะ soft power จะไปต่อไม่ได้ถ้ำกำรร่วมมือของ ประชำชนหยุดชะงัก อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดำวอยำกจะแชร์ และเป็นงำนที่ต้องทำต่อไปในระยะยำวและในหลำยด้ำน ก็อำจจะต้องได้รับกำรสนับสนุนจำกหลำยหน่วยงำน ไม่ใช่แค่เอกชน ทำงรัฐบำลก็ต้องเข้ำมำช่วยเหลือตรงส่วน นี้ด้วย ซึ่งรัฐบำลก็ทำอยู่ และเรำอำจจะต้องตำมกระแสโซเชียลมีเดียของจีนให้มำกยิ่งขึ้น เพรำะว่ำจีนมีควำม เปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้ำงเร็ว แล้วก็ถ้ำเรำรู้จักจีนมำกขึ้น เรำก็จะรู้ว่ำกระแสนิยมของคนจีนเป็นอย่ำงไร เรำก็จะ สำมำรถที่จะทำได้ทุกจุด ขอบคุณค่ะ
  • 37. 37 Ms.Liyue Zhou Communication manager, International Organization in China ก่อนที่เดือนจะแชร์อะไรนะคะ เดือนก็อยำกจะบอกว่ำนอกจำกว่ำจะไม่ได้พูดในนำมของที่ทำงำนแล้ว และต้องบอกว่ำไม่ใช่ในฐำนะตัวแทนของคนจีนทุกคนแน่นอนค่ะ ประเทศจีนมีประชำกรเยอะมำก คนที่อำศัย อยู่ในเมืองไม่เหมือนกันก็อำจจะคิดไม่เหมือนกัน ภูมิหลังไม่เหมือนกันก็อำจจะคิดไม่เหมือนกัน ควำมจริงไม่ อยำกใช้คำว่ำชนชั้นนะคะ ไม่อยำกใช้คำว่ำ Class แต่ต้องบอกว่ำเขำคิดไม่เหมือนกันจริงๆ เพรำะฉะนั้น เดือน ว่ำแชร์ตำมประสบกำรณ์ของเดือนเองดีกว่ำนะคะ เดือนเป็นคนที่จบเอกภำษำไทยมำ สัมผัสกับภำษำไทยกับ เมืองไทยตั้งแต่ปีค.ศ 2008 ดังนั้นจะเล่ำตั้งแต่ปีค.ศ. 2008 เลยนะคะ เล่ำในมุมมองที่ว่ำพอคนจีนทั่วไปรู้ว่ำ เดือนเป็นคนที่เรียนภำษำไทยหรือว่ำพูดภำษำไทยได้ เขำจะพูดอะไรหรือว่ำเขำจะถำมอะไรนะคะ มีกำร เปลี่ยนแปลงที่น่ำสนใจค่ะ เริ่มจำกคนแรกค่ะ เดือนขอแนะนำคุณปู่ของเดือนค่ะ ในปี 2008 พอเดือนรู้ว่ำเดือนจะเข้ำมหำลัยและ เรียนเอกภำษำไทยคุณปู่ก็ถือว่ำเป็นคนแรกที่รู้และตอนนั้นคุณปู่ก็บอกว่ำ “อ๋อภำษำไทย สยำมดีนะ เขำมีข้ำว สวยที่ดี” พอจบมำแล้วอำจจะได้ทำกำรค้ำขำยที่เกี่ยวกับกำรขำยข้ำว อันนี้เป็นควำมคิดเห็นแรกที่เดือนได้มำ จำกคุณปู่ที่ตอนนั้นอำยุ 90 กว่ำ นั่นก็อำจจะเป็นภำพลักษณ์ของไทยหรือควำมเป็นไทยในสำยตำของคนที่อยู่ใน สมัยนั้นนะคะ หลังจำกได้เข้ำไปเรียนที่มหำวิทยำลัยภำษำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกวำงตุ้ง เพื่อนที่เรียน ด้วยกันก็เรียนภำษำต่ำงประเทศไม่ว่ำจะเป็นภำษำยุโรป ภำษำอำเซียน ภำษำลำตินอเมริกำ ซึ่งพวกเขำก็จะ ชอบถำมว่ำภำษำไทยเป็นอย่ำงไร เมืองไทยเป็นอย่ำงไร ตอนนั้นเดือนเองก็ไม่ค่อยรู้จัก ก็ไปถำมอำจำรย์ อำจำรย์มีทั้งหมด 6 คน มี 5 คนเป็นคนจีนที่เป็นอำจำรย์ประจำ และอีกคนหนึ่งเป็นอำจำรย์คนไทยที่เป็น อำจำรย์แลกเปลี่ยนจำกมหำวิทยำลัยต่ำงๆ จำกเมืองไทย ซึ่งเมื่อเดือนไปถำมอำจำรย์คนจีน อำจำรย์ก็จะบอก ว่ำต้องจำไว้นะในภำษำไทยคำที่สำคัญที่สุดคือคำว่ำ “น้ำ” เพรำะว่ำประเทศไทยเป็นประเทศที่ ในน้ำมีปลำ ใน นำข้ำว และคนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ เพรำะฉะนั้น อันนี้จึงเป็นภำพลักษณ์ที่สองที่เดือนได้มำเกี่ยวกับเมืองไทยว่ำ เป็นแบบนี้ หรือว่ำควำมเป็นไทยเป็นแบบนี้ อำจำรย์คนไทยที่เป็นอำจำรย์แลกเปลี่ยนจำกมหำวิทยำลัยของไทยมำ แล้วเดือนก็ไปถำมอำจำรย์ว่ำ เมืองไทยเป็นอย่ำงไรใช่ไหมคะ อำจำรย์จะสอนวัฒนธรรมไทยหรือว่ำอะไรต่ำงๆ ของคนไทยโดยวิธีต่ำงๆ สมมุติ ว่ำสอนเรำร้องเพลงไทย เพลงไทยเพลงแรกที่เดือนรู้จักคือเพลงของเบิร์ด ธงไชย คือ “สบำยๆ สบำยๆ ถูกใจก็ คบกันไป” ซึ่งเป็นเพลงที่สนุกสนำนค่ะ และอำจำรย์ก็บอกว่ำนี่ไม่ใช่แค่เพลงเฉยๆนะคะ มันสะท้อนให้เห็นถึงว่ำ คนไทยเป็นอย่ำงไรและวัฒนธรรมเป็นอย่ำงไร คนไทยเป็นคนที่ชอบควำมสนุกสนำน และคนไทยเป็นคนที่
  • 38. 38 สบำยๆ ถูกใจก็คบกันไป ถ้ำถูกใจคนอื่นก็ไปคบกับคนอื่น ไม่เห็นเป็นอะไรเลย อันนี้ก็เป็นภำพลักษณ์ที่ 3 ที่ เดือนได้มำ พอเรียนจบก็มีโอกำสสัมผัสกับคนไทยมำกขึ้น คุยกับคนไทยมำกขึ้น สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยมำกขึ้น และรู้สึกว่ำที่อำจำรย์พูดมำก็เป็นจริงนะ คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ แต่ ตอนนั้นคือปี 2012 ค่ะ ถำมคนจีนทั่วไปที่ไม่ค่อยรู้จักเมืองไทยก็จะยังอยู่ในสถำนกำรณ์ที่ว่ำ รู้ว่ำเมืองไทยอยู่ที่ ไหนแต่อำจจะไม่เคยไป อำจจะไม่ค่อยรู้ว่ำนอกจำกทุเรียนกับช้ำงกับเรื่องกะเทย และเรื่อง Red-light district ก็ไม่รู้ว่ำประเทศไทยมีอะไรอีก แต่ในตอนนั้นในปี 2013 มีภำพยนตร์เรื่องหนึ่งชื่อ Lost in Thailand ตอนนั้น เดือนทำงำนที่สถำนทูตและมำโอกำสพำผู้กำกับกับทีมถ่ำยหนังของภำพยนตร์ Lost in Thailand ไปคำรวะกับ นำยกรัฐมนตรีไทยในตอนนั้น ซึ่งข่ำวนี้กับภำพยนตร์เรื่องนี้กลำยเป็น headline กับ Trending word ที่นิยม กันมำกในโซเชียลมีเดียของจีน คือตอนนี้จำสถิติที่ชัดเจนไม่ได้แล้วนะคะ แต่ว่ำถ้ำทุกท่ำนไปค้นหำใน อินเทอร์เน็ตก่อนปี 2013 นักท่องเที่ยวจีนไปไทยทุกปี สมมุติว่ำประมำณ 3-4 ล้ำนคนต่อปี แต่ว่ำหลังจำก ภำพยนตร์เรื่องนั้นไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ำมำสูงขึ้นเรื่อยๆ และสูงขึ้นเร็วมำก จนก่อนโควิดมีถึง 10 ล้ำนคนต่อ ปี ถือว่ำเยอะมำกเพรำะว่ำถ้ำเดือนจำไม่ผิดประชำกรของไทยทั้งหมดคือมีไม่ถึง 70 ล้ำนคนใช่ไหมคะ แต่ว่ำคน จีนที่มำเที่ยวไทยต่อปีก่อนโควิดมี 10 ล้ำนคนต่อปี ถือว่ำเยอะมำก ในช่วง 2013-2019 เดือนแทบจะไม่รู้จักใครที่ไม่เคยไปเมืองไทยเลยค่ะ อำจจะด้วยว่ำเดือนอยู่ในเมือง ใหญ่ คนใกล้ตัวเดือนก็เลยพอมีเงิน มีเวลำไปเที่ยวกัน ทุกคนไปเที่ยวเมืองไทยแล้วก็ถำมว่ำยำดมซื้อที่ไหน หมอนยำงพำรำเจ้ำไหนดีที่สุด ควรจะไปเยำวรำชหรือห้วยขวำงของที่ไหนดีที่สุด ทุกคนรู้จักกันหมด แล้วในช่วง นี้ก็เหมือนที่เมื่อครู่อำจำรย์ดำวพูดนะคะ มีภำพยนตร์ไทย ซีรีส์ไทยเข้ำจีนมำเรื่อยๆ แต่ถ้ำเป็นข้อสังเกตของ เดือนเอง รู้สึกว่ำตอนนั้นยังถือว่ำเป็นอะไรที่แบบมีน้อย มีกลุ่มหนึ่งที่ชอบซีรีส์ไทยมำก ชอบภำพยนตร์ไทยมำก ชอบหนังไทยมำก แต่ยังไม่ถึงกับเป็นกระแสใหญ่ คล้ำยๆกับ k-pop เลย แต่ในช่วงโควิดสังเกตเห็นว่ำมัน เปลี่ยนไปแล้ว เดือนอยำกบอกว่ำมีเรื่องหนึ่งสำคัญมำกและทำให้ Thai-pop เป็นอะไรที่คล้ำยกับจะเป็นกระแส ที่มำแรงเท่ำกับ K-pop เลยค่ะ มีหนังเรื่องหนึ่งเดือนจำชื่อเต็มไม่ค่อยได้น่ำจะชื่อคล้ำยๆกับ แปลควำมรักฉัน ด้วยใจเธอ ประมำณนี้น่ะค่ะ เป็นซีรีส์หนึ่งที่ฉำยบนอินเทอร์เน็ตเล่ำถึงเรื่องชีวิตหรือว่ำควำมรักระหว่ำง เด็กผู้ชำยกับเด็กผู้ชำย ดังมำกในเมืองจีนดังจนเหลือเชื่อเชื่อไหมคะว่ำซีรีส์เรื่องนั้นฉำยไปหลำยปีแล้ว แต่ว่ำในปี นี้นักแสดงนำคนนึงในเรื่องนั้นน่ำจะชุดเดียวกับคุณบิวกิ้น ขอโทษนะคะถ้ำชื่อเรียกชื่อผิด คุณบิวกิ้นมำร่วม คอนเสิร์ตหนึ่งในเมืองจีนที่เมืองชิงเต่ำ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ค่อยดังและไม่ค่อยมีกำรโฆษณำ แต่มี 100,000 คน เข้ำไปดูเขำ เข้ำไปฟังเขำร้องเพลง และทั้ง 100,000 คนนั้นร้องเพลงไทยได้หมดทุกคน ร้องเพลงของเขำได้หมด เลย นี่ทำได้อย่ำงไรไม่รู้นะคะ แต่มีสำมำรถแชร์กับทุกท่ำนได้ว่ำเมื่อเดือนที่แล้วเดือนได้คุยกับ executive ของ บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งที่ทำเรื่อง social responsibility ซึ่งเขำเป็นคนจีนและเขำบอกว่ำในอีก 10 ปีข้ำงหน้ำ
  • 39. 39 Thai-pop อำจจะเป็นที่นิยมมำกกว่ำ K-pop อันนี้เดือนไม่รู้ว่ำจะเกิดขึ้นจริงไหมแต่เดือนหวังว่ำจะเป็นอย่ำง นั้น แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เดือนก็อยำกจะถำมคำถำมหนึ่งเหมือนกัน เพรำะว่ำที่เดือนพูดมำเป็นเชิงบวกทั้งหมด แต่ ก็ดูควำมเป็นจริงว่ำไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่ำงที่คนจีนนึกถึงควำมเป็นไทยหรือประเทศไทยเป็นเชิงบวกทั้งหมด เดือน จะขอแชร์ 2 เรื่องนะคะ เรื่องแรกคือตอนที่เรียนแลกเปลี่ยนที่ มศว. ที่เมืองไทย แล้วคุยกับกลุ่มเพื่อนว่ำ ถ้ำให้ คนไทยคิดว่ำสิ่งแรกที่คนจีนคิดถึงเมืองไทยจะเป็นอะไร บำงคนก็บอกเป็นช้ำง หรือไม่ก็ทุเรียนอะไรแบบนั้น แต่ ควำมจริงต้องขอบอกตำมตรงว่ำมันไม่ใช่ทั้งคู่ สิ่งแรกที่คนจีนคิดถึงประเทศไทยคือกะเทย สิ่งที่สองคือ Red- light district เรื่องรำวที่สองก็อย่ำงที่อำจำรย์ดำวพูดไปแล้วเหมือนกันว่ำตอนนี้ถ้ำดูในโซเชียลมีเดียก็จะเห็นว่ำทำไม มีคนถำมกันเยอะมำกว่ำ ไม่กล้ำไปเมืองไทยแล้ว ไม่กล้ำไปเที่ยวแล้ว กลัวว่ำจะโดนตัดไต กลัวว่ำจะตำยที่นั่น กลัวว่ำจะมีคนมำตัดไตไปขำย เดือนเองก็ไม่ได้ไปเมืองไทยหลังโควิดแล้วนะคะ ไม่แน่ใจว่ำตอนนี้เมืองไทยเป็น อย่ำงไร แต่สำหรับเดือนที่ทำงำนเกี่ยวกับเมืองไทยมำนำนแล้วรักเมืองไทยจริงๆ ก็ไม่อยำกเชื่อว่ำมันเป็นควำม จริง แล้วก็ไม่อยำกให้มันเป็นเรื่องที่เป็นกระแสที่สุดในโซเชียลมีเดียตอนที่คนจีนนึกถึงประเทศไทย ซึ่งคำถำม ของเดือนก็คืออำจำรย์ทุกท่ำนหรือว่ำผู้เข้ำประชุมทุกท่ำนคิดว่ำเรำควรจะทำอย่ำงไร ไม่ว่ำจะเป็นคนจีนอย่ำง เดือน หรือว่ำคนไทยอย่ำงทุกท่ำนนะคะ จะทำอย่ำงไรให้ภำพลักษณ์ของไทยหรือควำมเป็นไทยในสำยตำของ คนจีนเป็นไปในทำงบวกมำกขึ้น หรือว่ำจะทำให้ที่คนนั้นพูดว่ำหวังว่ำ 10 ปีข้ำงหน้ำ Thai-pop จะเป็นอะไรที่ ดังที่สุด เรำควรจะทำอย่ำงไร ขอบคุณค่ะ
  • 40. 40 คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่ปรึกษากฎหมายไทยในจีน บริษัทหยิ่งจ้งลอร์ออฟฟิศ ที่จริงอำจำรย์ดำวกับอำจำรย์เดือนก็พูดไปบ้ำงแล้วนะคะ เนสอำจจะพูดเสริมอีกเล็กน้อยที่ได้มำจำก Tiktok ของจีนนะคะ หลักๆ ที่ทั้งสองคนพูดไปคือเรื่องของดำรำไทย อันนี้เป็นที่ชัดเจนมำก อย่ำงลิซ่ำที่เป็น หมำยเลขหนึ่งของไทยก็เป็น soft power ได้ดีมำก เวลำที่ลิซ่ำทำอะไรสักอย่ำง เช่น ใช้ยำดมของไทย ของกิน ของใช้ที่ลิซ่ำใช้ จะเห็นได้ชัดว่ำคนเขำก็ไปทำตำมรอยกัน อันที่สองคือเรื่อง LGBTQ+ ควำมจริงเรื่องนี้ในสำยตำ คนจีนเขำค่อนข้ำงมองว่ำประเทศไทยเปิดกว้ำงและประเทศจีนเองก็มีคนเป็น LGBTQ+ กันเยอะ หมำยถึงทั้ง ชำย-ชำย และหญิง-หญิง ก็จะมีดำรำสำยวำยนะคะ เนสเคยช่วยคิดต่อกับคนกลุ่มนี้อยู่บ้ำง พวกเขำก็จะมีกลุ่ม ของเขำเองใน Weibo ซึ่งเขำก็ติดตำมดำรำสำยวำยของไทย อย่ำงสมัยก่อนก็จะมีหนังดังที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ แอร์โฮสเตสใช่ไหมคะ ต่อมำก็จะเป็นรุ่นของมำริโอ้ ตอนนี้ก็จะเป็นดำรำรุ่นใหม่ที่เนสไม่รู้จักหน้ำเลย แม้น้องเขำ หลำยคนจะดังมำกอย่ำง พีพี-บิวกิ้น ที่ถือว่ำเป็นอันดับต้นๆ ของบรรดำ LGBTQ+ ที่คนจีนติดตำมดู อย่ำง คอนเสิร์ตที่ชิงเต่ำ หรือคอนเสิร์ตหลำยๆงำนที่ติดต่อ พีพี-บิวกิ้น ไปเพรำะว่ำถ้ำเขำไปรับประกันได้ว่ำงำนนั้นมี คนหลักแสนแน่นอนอันนี้ในส่วนของดำรำไทยนะคะ ต่อมำจะเป็นเรื่องของอำหำรไทย ซึ่งคงไม่ต้องลงรำยละเอียดมำกเพรำะเรำก็รู้อยู่แล้วว่ำอำหำรไทยมี รสชำติที่ดีและคนจีนก็ชอบอำหำรไทย อันที่สำมคือเรื่องของโรงเรียนและมหำวิทยำลัย คือเนสได้คุยกับคุณแม่ ชำวจีนหลำยคน พวกเขำก็ยอมรับว่ำโรงเรียนนำนำชำติในไทยหลำยโรงเรียนมีดีมำกว่ำโรงเรียนนำนำชำติใน ปักกิ่งเสียอีก ซึ่งนอกจำกโรงเรียนที่ได้รับควำมนิยม ชุดนักเรียนไทยเองก็เป็นกระแสในจีนอยู่ช่วงหนึ่งอยู่ เหมือนกันค่ะ อีกอันหนึ่งคือกำรแพทย์บ้ำนเรำนะคะ ไม่ว่ำจะเป็นควำมงำม ศัลยกรรม หรือเรื่องบ้ำนพักคนชรำ ก็ด้วย พอคนจีนพูดถึงเมืองไทยก็คือรู้กันเลยว่ำถ้ำจะทำศัลยกรรมตั้งแต่คอลงไปให้ไปทำที่ไทย อันนี้ก็ไม่รู้ว่ำ นับเป็น soft power ไหม แต่มันเป็นอะไรที่คนจีนรู้จักกัน หรืออย่ำงบ้ำนพักคนชรำ เนื่องจำกเมืองไทยเป็น เมืองท่องเที่ยวอยู่แล้วและมีสภำพแวดล้อมที่ดี จึงมีคนจีนบำงกลุ่มที่เข้ำมำทำบ้ำนพักคนชรำอยู่ที่ไทย อย่ำงที่ ภูเก็ต หรือหัวหินเป็นต้นนะคะ ซึ่งบำงโครงกำรก็ขำยไปหมดแล้ว อันนี้เป็นอะไรที่พอคนจีนพูดถึงกำรแพทย์ไทย คือทุกคนยอมรับหมดนะคะ เรื่องสุดท้ำยที่เนสเก็บตกมำได้คือเรื่อง “สำยมู” ไม่ทรำบว่ำมีใครรู้หรือเปล่ำว่ำคนจีนในช่วงที่ไม่ทำงำน (tang píng 躺平) ส่วนใหญ่จะไปไหว้พระกันค่ะ ซึ่งกระแสพระก็มำจำกเมืองไทยด้วยส่วนหนึ่ง อยำกบอก ว่ำตอนนี้ในถำวเป่ำ (Taobao 淘宝) มีกำรขำยพระเครื่องกันแล้วนะคะ ดังนั้น สำยมูของไทยก็ถือว่ำเป็น
  • 41. 41 กระแสหนึ่งในTiktok นะคะ แบบว่ำไหว้พระที่ไหน ขอพรที่ไหน ต้องมำขอพระอะไร ทำไมคนจีนถึงมำพระ พรหม มีที่มำคือคนจีนเขำถือว่ำเป็นเรื่องดีต่อจิตวิญญำณค่ะ อันนี้ไม่รู้ว่ำเป็น soft power อย่ำงหนึ่งไหม แต่ว่ำ ทุกอันที่บอกมำไม่ว่ำจะ ดำรำไทย อำหำรไทย โรงเรียน กำรแพทย์ และสำยมู ต่ำงก็อยู่ใน Tiktok ทั้งหมดเลย เหมือนกับว่ำมันเป็นตัวแทนของภำพลักษณ์ของเมืองไทยในสำยตำคนจีน อีกอย่ำงหนึ่งอย่ำงที่คุณเดือนได้กล่ำว ไว้คืออยำกให้เน้นภำพลักษณ์ไทยให้ดีขึ้น เพรำะว่ำตอนนี้แม้กระทั่งเนสเอง หรือว่ำเพื่อนของแฟน ยังไม่มำที่ เมืองไทยเพรำะว่ำกลัวถูกจับไปตัดไต ซึ่งภำพลักษณ์นี้มันยังอยู่ ต่อให้ข่ำวมันจะเกี่ยวกับพม่ำหรือกัมพูชำ เขำก็ ยังโยงมำที่ไทยจำกที่ลองไปอ่ำนควำมคิดเห็นในTiktok ภำพลักษณ์แบบนี้มันยังติดอยู่และTiktok มีพลังมำกต่อ กำรมองภำพลักษณ์ของไทยของคนจีน จึงอยำกให้ทำงกำรไทยเน้นเรื่องนี้มำกขึ้น เชื่อว่ำคนจีนจะกลับมำที่ไทย มำกขึ้นค่ะ
  • 42. 42 คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย Chief business officer, Beijing Joynco Technology Co., Ltd. ควำมจริงแล้วผมอยู่ในสำยงำนที่ทำ soft power ของไทยมำตั้งแต่เริ่มเลยครับ เรียนจบมำก็ทำด้ำนนี้ มำตลอด งำนแรกที่เกี่ยวกับ soft power คือตอนที่ผมทำงำนอยู่ KKday ทำเรื่องกำรท่องเที่ยวนะครับ แต่กำร ท่องเที่ยวไทยเรำมำดังจริงๆ ก็ตอน Lost in Thailand อย่ำงที่คุณเดือนพูดเลยครับ ก่อนปี 2013 นักท่องเที่ยว จีนมำไทยปีละไม่ถึงล้ำนคน พอหลัง Lost in Thailand เข้ำฉำย นักท่องเที่ยวก็มำไทยเกินล้ำนคนทุกปี จนช่วง ก่อนโควิดเรำมีนักท่องเที่ยวอยู่ 10 ล้ำนคน แล้วธุรกิจที่ผมทำอยู่ในปัจจุบันก็มำจำก soft power นี่แหละครับ เพรำะจีนเขำไม่ได้มีแค่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น หรือกวำงโจว จีนยังมีเมืองอีกเยอะมำกเลย แล้วพอเรำเปิดตำรำง บินของสนำมบินดูก็พบว่ำ อย่ำงฉำงซำมีเครื่องบินมำไทยอยู่อำทิตย์ละ 7 เที่ยวบิน เที่ยวละประมำณ 130 ที่นั่ง แสดงว่ำปีหนึ่งมีนักท่องเที่ยวที่เคยมำไทยอยู่อย่ำงน้อย 40,000 คน แสดงว่ำมีตลำดทำร้ำนอำหำรไทยอยู่ และ พอเรำสำรวจดูพบว่ำมีร้ำนอำหำรไทยอยู่ 2 ร้ำน แสดงว่ำตลำดมัน Blue Ocean (มีกลุ่มลูกค้ำแต่ไม่มีกลุ่ม ให้บริกำร) ตลำดแบบนี้น่ำทำธุรกิจมำก แต่ก่อนเริ่มธุรกิจเรำมำดูก่อนว่ำนักท่องเที่ยวมีมำเรื่อยๆ แล้วก็เมือง บำงเมืองอย่ำงฉือเจียจวง เขำไม่มีเที่ยวบินไปต่ำงประเทศเลย จำกฉือเจียจวง จำกกุ้ยหลิน จำกเมืองเล็กๆ เมือง ระดับสำม ระดับสี่ พวกนี้มีเที่ยวบินมำเมืองไทยหมดนะครับ แต่ไม่มีไปที่อื่นเลยใกล้ๆอย่ำงโตเกียว ฮ่องกงยังไม่ มีเที่ยวบินเลย แต่เขำมีเที่ยวบินมำกรุงเทพ แสดงว่ำหลังจำก Lost in Thailand มันก็อยู่ในกระแสที่ว่ำคนต้อง มำเที่ยวเมืองไทยกัน คุณมีเงินหน่อยสัก 2,000 หยวน คุณไปเที่ยวเมืองไทยได้แล้วนะครับ Once in your lifetime คุณจะต้องมำเมืองไทยสักครั้ง พอหลังจำก Lost In Thailand มันก็จะเริ่มมีกระแสไทยขึ้นมำ เมื่อก่อนละครไทยเป็น Niche Market (ตลำดเฉพำะกลุ่ม) เช่นที่เขำดู รักแห่งสยำม เพรำะเขำชอบมำริโอ หรือสงครำมนำงฟ้ำเพรำะพี่ป้องอะไรอย่ำงนี้ นะครับ แต่พอหลัง Lost In Thailand มันเริ่มมีสื่อไทยเข้ำมำเยอะขึ้น ตอนที่ผมย้ำยจำกทำง KKDay ไปทำงำน อยู่ที่แอปหนึ่งชื่อว่ำ Blued ซึ่งเป็นแอปเกย์ที่ใหญ่สุดในโลกของประเทศจีน ที่ตลกคือทุกคนมองว่ำจีนเป็น ประเทศปิดกั้น LGBTQ+ นะ แต่จีนมีแอปพลิเคชัน LGBTQ+ อันดับหนึ่งของโลก แต่เขำสปอนเซอร์งำนทุกงำน ที่เกี่ยวกับละครวำย งำน LGBTQ+ ใหญ่ๆเกือบทุกงำน Blued จะเข้ำมำสปอนเซอร์หมด ตอนนั้นผมเป็นผู้ชำย แท้ๆคนเดียวในปักกิ่งที่ทำงำนในบริษัท ที่เหลือจะเป็นถ้ำไม่ใช่ Lgbt ผู้หญิงก็จะเป็น Lgbt ผู้ชำย จะเห็นได้ว่ำ กระแสกำรเติบโตของละครไทยจะมำจำกกลุ่มละครวำย ซึ่งกลุ่มละครวำยมันเริ่มเติบโตขึ้นมำค่อนข้ำงเร็วในจีน แต่ที่จีนเองก็ไม่ทำละครวำย เกำหลีก็ไม่ค่อยมี ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยได้มี ปรำกฏว่ำก็มีไทยเรำที่ทำละครวำยเข้ำตลำด จีนเรื่อยๆ อีกทั้งกลุ่มคนที่ดูละครวำยเขำมีเงินด้วยครับ สมมุติว่ำเป็น ปำหลิงโฮ่ว จิ่วหลิงโฮ่ว นะครับ ถ้ำเขำ
  • 43. 43 ชอบดำรำคนนี้มำก ชอบพีพี-บิวกิ้นมำกๆเลย ฉันต้องสนับสนุนเขำ เป็นที่ยึดเหนี่ยว แล้วละครวำยมันจะเป็น ผู้ชำย-ผู้ชำยและผู้ชำยก็หน้ำตำดีทุกคู่ด้วย คนก็ยิ่งชอบเข้ำไปใหญ่ มำริโอ้เองต้องยอมรับว่ำเกิดได้จำกละครวำย เหมือนกันนะครับ พอเขำดูละครวำยไปเรื่อยๆ เขำก็สนับสนุนสินค้ำของไทยและกำรท่องเที่ยวของไทยไปในตัว คนจีนก็จะมำแนวนั้น ต้องบอกว่ำไม่ใช่แค่จีนอย่ำงเดียว ผมไปบรำซิลมำ ไปเพรำะมีธุรกิจอื่นในบรำซิลด้วย คนบรำซิลก็ชอบ ละครไทยมำกๆเลย แต่พอไปดูแล้วเขำก็ชอบละครวำยกันนะครับ ดังนั้น ผมมองว่ำกระแสไทยเอำควำมเป็นจริง และปัจจุบันที่มันเกิดขึ้นมำ มันเกิดจำกละครวำย พีพี-บิวกิ้นก็ละครวำย ช่วงก่อนหน้ำ F4 ก็มีละครวำยดังอยู่ เรื่องหนึ่งผมจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่คนจีนไปตำมรอยละครกันที่เชียงใหม่เยอะมำก อย่ำงดำรำไทย ลิซ่ำ ดังเป็น อันดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ตั้งแต่ที่สองลงมำมันจะเป็นดำรำวำยหมดเลย อำจจะบอกได้ว่ำถ้ำอยำกจะสนับสนุนกัน จริงๆก็ต้องไปสนับสนุนละครวำยกัน เพรำะพอคนเขำดูละครเขำก็มำเที่ยวตำมรอยที่เมืองไทย กลับมำจำก เมืองไทยเขำก็สนับสนุนสินค้ำไทย อย่ำงเรำทำธุรกิจเป็น franchise ร้ำนอำหำรไทยนะครับ ร้ำนอำหำรไทย ปัจจุบันมันอยู่ในเทรนด์ด้วยนะครับ แบบว่ำคนจีนไปเที่ยวเมืองไทยมำแล้วกลับมำ สมมุติว่ำเป็น First time oversea นะครับ พอเขำกลับมำเขำก็จะแนะนำอำหำรต่ำงประเทศที่เขำเคยกินให้ครอบครัวเขำ พอเขำเคย อำหำรไทยมำ เขำก็จะแนะนำอำหำรไทยให้ครอบครัวนะครับ มันก็จะเป็นเทรนด์แนวนี้ไป สมมุติคุณอยู่อู๋ซี คุณ อยู่ใกล้ญี่ปุ่น ใกล้เกำหลี แต่คุณไม่เคยไปแต่มีเที่ยวบินมำเมืองไทย พอเมืองไทยลองไปกินต้มยำกุ้ง กลับไปที่อู๋ซี ปุ๊บ บอกเพื่อนวันนี้ไปกินอำหำรต่ำงประเทศกัน ฉันเบื่อกินอำหำรจีนแล้ว ก็จะแนะนำให้กินอำหำรไทยดีกว่ำ เท รนด์พวกเนี้ยมันก็เริ่มเติบโตไปกับอะไรประมำณนี้นะครับ อย่ำงร้ำนคู่แข่งผมก็เริ่มขยำย franchise ไปทั่วจีน แล้วนะครับ มีร้ำนอำหำรไทยที่คล้ำยกับแบบนี้อยู่เยอะมำก ไม่ต้องพูดถึงควำมเป็น original ตัดทิ้งไปได้เลย คน เขำไม่สนใจจุดนั้นกัน แต่อย่ำงน้อยยเรำขำยควำมเป็นไทยเข้ำไปในร้ำนพวกนั้นได้ ช่วงก่อนโควิดเรำมีสินค้ำไทยเข้ำมำเยอะ แต่ช่วงหลังโควิดกฎหมำยกำรนำเขำของจีนค่อนข้ำงเป็น อุปสรรคค่อนข้ำงเยอะนะครับ สินค้ำไทยก็เลยหำยไปจำกตลำดค่อนข้ำงเยอะมำก เพรำะว่ำไม่สำมำรถทำตำม กฎระเบียบได้ ดังนั้น สินค้ำไทยจึงหำยไปค่อนข้ำงเยอะ ยกเว้นบริษัทใหญ่เพรำะเขำสำมำรถทำเอกสำรได้ ลงทุนเพิ่มได้ อย่ำงในปัจจุบันเรำค่อนข้ำงมีปัญหำว่ำเรำนำเข้ำสินค้ำไทยเข้ำมำไม่ได้ เรำเลยต้องนำสินค้ำนั้นมำ ผลิตในจีนแทน มันเลยจะไม่ได้เป็น made in Thailand แล้วตอนนี้ ดังนั้น ผมเลยต้องบอกว่ำควำมเป็นไทยใน จีนโตได้ค่อนข้ำงเยอะ อย่ำง Night market เขำก็อยำกได้ตลำดแบบไทย แบบตลำดรถไฟ อย่ำงนั้นมำอยู่ในจีน ในแต่ละเมืองของจีน ถำมว่ำทำไม นั่นก็เพรำะว่ำตลำดเมื่อก่อนของจีนมันเก่ำ ตำมตลำดก็ขำยหมำล่ำกัน ขำย ของทอดกัน อะไรแบบนี้ ซึ่งมันเก่ำ มันไม่มีอะไรไปดึงดูดคน แต่ตลำดแบบไทยมันมีควำมคิดสร้ำงสรรค์เข้ำไป ด้วย และถ้ำวัยรุ่นจีนสำมำรถเข้ำมำทำแล้วใส่ควำมคิดสร้ำงสรรค์เข้ำไป มันอำจจะสำมำรถพัฒนำเป็นแบรนด์ สินค้ำได้ อย่ำงปัจจุบันสมมุติเรำลองไปเดินตลำดในจีนเรำจะเจออย่ำงแรกเลยคือ ร้ำนลูกชุบ มีอยู่ทุกที่เลย
  • 44. 44 เพรำะมันทำง่ำย อย่ำงที่สองคือร้ำนชำมะนำวแบบไทย ยิ่งช่วงหน้ำร้อนด้วยแล้วอำจจะมีร้ำนชำมะนำว 9 จำก 10 ร้ำนเลย แล้วก็ร้ำนชำ มีทั้งชำไทยและชำลำว ซึ่งที่จริงในลำวไม่มีชำลำว ซึ่งมันก็คือชำไทยนั่นแหละครับ ถำมว่ำไอ้ควำมเป็นไทยแบบนี้มันขำยได้เยอะ ยิ่งพอเรำเอำ Concept ของ Night market ของ franchise เข้ำ มำ อย่ำงคนไทยมีเยอะขำยเครป มันทำให้คนจีนมำต่อยอดสร้ำงงำนให้เขำ แค่สินค้ำไทยมันจะนำเข้ำยำกขึ้น เรื่อยๆ ผมบอกเลยอีก 3 ปีข้ำงหน้ำทุเรียนเวียดนำมครองตลำดจีนหมด เพรำะทุเรียนเวียดนำมมันถูกกว่ำ ทุเรียนไทยหลำยเท่ำ แต่แม้เรำจะเสียส่วนแบ่งตลำดทุเรียนให้เวียดนำมไป แต่เรำก็ยังมีอย่ำงอื่นมำแข่งกับ เวียดนำมได้ อย่ำงมำเลเซียที่ไม่กลัวไทย เพรำะในมูลค่ำ 100% ของตลำดทุเรียนจีน ประเทศไทยได้ไป 70% เวียดนำมได้ไปประมำณ 10% มำเลเซียได้ไป 20% นะครับ แต่ไทยกับเวียดนำมต้องแข่งกัน แต่ 20% ของ มำเลเซียไม่ต้องแข่งกับใคร เพรำะเขำขำยตลำดแบบ high market หรือแปรรูปเป็นไอศกรีมทุเรียน ซึ่งของไทย เรำก็มีแต่ไม่เห็นได้เข้ำมำทำ ทุเรียนเกรด premium ของไทยก็ไม่ได้เข้ำมำขำย ในอนำคตเรำกับเวียดนำมต้อง แข่งกันเรื่องรำคำ แต่มำเลเซียรำคำเขำอยู่ที่เดิม ตอนนี้ถ้ำเรำจะเอำสินค้ำเกษตรไทยเข้ำมำในจีนเรำต้องคิดเรื่อง กำรสร้ำงมูลค่ำด้วยนะครับ
  • 45. 45 รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์ อาจารย์ประจาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐำนะที่คุณยุวดีเน้นหนักเน้นหนำว่ำเรำเป็นอำจำรย์ทำงด้ำนควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศก็จะใช้ มุมมองของ IR (International Relations) นะคะ อย่ำงแรกเลยต้องไม่ลืมว่ำเวลำที่พูดว่ำ soft power มัน ไม่ได้เป็น activity ที่ลงรำยละเอียดอย่ำงที่หลำยท่ำนพูดให้รำยละเอียดกัน เวลำที่ใช้คำว่ำ soft power จริงๆ มันเป็นเป็น Concept ที่จริงๆตำมที่ Joseph Samuel Nye Jr. ให้นิยำมไว้แล้วมีเอำไว้เพื่อบอกว่ำ You still alive/ You still active ในช่วงเวลำนั้นอเมริกำถูกตีกินในหลำยพื้นที่ เพรำะฉะนั้นเวลำที่พูดถึง soft power มันมีทั้งที่เป็น Tangible สิ่งจับต้องได้อย่ำงชัดเจน ซึ่งหลำยท่ำนให้รำยละเอียดมำนะคะ และเป็น Intangible ซึ่งมองไม่เห็นแต่ว่ำมันก็จับต้องได้ในอนำคต ซึ่งอำจจะไม่ใช่จับต้องได้ ณ เวลำนี้ เวลำที่พูดถึง soft Power ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่ำต้องนำเอำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศใน ช่วงเวลำนี้เข้ำมำคำนวณด้วย เช่น ตอนที่อำจำรย์ดำวพูดถึงในกรณีของเกำหลีใต้กับจีน อยำกจะบอกว่ำมันใช่ เลย นั่นคือนัยของ soft power แต่ไทยกับจีนไม่ค่อยเห็นมิติแบบนั้นชัดเจน เพรำะว่ำเรำไม่ได้อยู่ในสิ่งที่คนจีน หรือว่ำผู้กำหนดนโยบำยจีนมองว่ำมันเป็นควำมเสี่ยงด้ำนกลยุทธ์ (Strategic Risk) ในตอนที่อำจำรย์ดำวพูดถึง เรำไม่แน่ใจที่ออกเสียงภำษำจีน แต่อำจำรย์ดำวน่ำจะหมำยถึงหมำยถึงระบบ THAAD missile system ซึ่งเป็น ระบบที่มี mobility สูงมำก และควำมแม่นยำในพิสัยทำกำรสูงมำก อีกทั้งมีควำมสำมำรถในกำรยิงไม่ใช่แค่ medium-range แต่ยังยิง ICBM (Intercontinental ballistic missile) ได้ด้วย และด้วย mobility ที่สูง คุณ สำมำรถเคลื่อนย้ำยมันไปตรงไหนก็ได้และประกอบติดตั้งได้ภำยในเวลำไม่เกิน 24 ชั่วโมง จีนก็เลยต้องแบน เกำหลี เพรำะว่ำเรื่องของเกำหลีมันเป็นอะไรที่มันซึมลึก แล้วก็ควำมจริงอยำกจะบอกว่ำหลังจำกที่ Joseph Samuel Nye Jr. ให้นิยำมเรื่อง soft power เสร็จเรียบร้อย อเมริกำมี hollywood มีอะไรแบบนี้ แล้วก็มีวิถี ชีวิตที่หลำยคนอำจจะลืมไปแล้วกับ Concept ที่ตื่นเช้ำมำต้องดื่มกำแฟพร้อมกับขนมปังปิ้ง จะเป็นขนมปังปิ้ง กับอะไรก็แล้วแต่ นั่นคือ New yorker lifestyle ที่อื่นอำจจะไม่ได้ตื่นมำแล้วกินแบบนี้ก็ได้ แต่ว่ำนั่นคือสิ่งที่คุณ เสพจำก American soft power ผ่ำนหนัง hollywood หรืออะไรแบบนั้น แต่รัฐบำลอเมริกำไม่ได้ผลักดันตรง จุดนี้สักเท่ำไหร่นะคะ คนที่ผลักดัน soft power อย่ำงเป็นเรื่องเป็นรำว จนเป็นตำนำนแห่งควำมสำเร็จจนทุก วันนี้ คุณตี้อำจจะมีรำยละเอียดมำกกว่ำวรำรักอีกด้วยซ้ำไป นั่นคือเกำหลีใต้ คือคิมแดจุง จนหลำยที่พยำยำม เลียนแบบ ญี่ปุ่นเองก็พยำยำมทำตำมแต่ไม่สำเร็จ
  • 46. 46 soft power ของไทยเรำไม่ได้เดินตำมแบบอเมริกำหรือเกำหลีใต้เลย อำจจะเรียกได้ว่ำไร้ทิศทำง กรณี ของอเมริกำคือเมื่อ hard power ของเขำถูกวิพำกษ์วิจำรณ์อย่ำงชัดเจน เขำจึงใช้ soft power เพื่อให้คน อเมริกำได้อุ่นใจ เป็น soft power ที่เน้นคนในชำติ แต่รูปแบบของ คิมแดจุง นั้นแตกต่ำง เพรำะว่ำก่อนจะถึง สมัยของ คิมแดจุง เกำหลีใต้ลองมำหลำยวิธีแล้วจนจะหมดหนทำงแล้ว คิมแดจุง จึงนำ soft power มำใช้ ตอนนั้นไม่ได้เรียก soft power ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นในโลกของธุรกิจและกำรตลำดมันเป็นเรื่องของ innovation และ creative จนสำยเศรษฐศำสตร์เขำนำไปใช้เป็น creative economy ทำงเกำหลีใต้ทำตรงนี้อย่ำงเป็นเรื่อง เป็นรำวที่สุด มีหน่วยงำนรองรับ มีเงินทุนอัดฉีด มีกำรวำงแผนเป็นขั้นตอน มีกำรจัดกลุ่ม culture industry มี กำรวำงกลุ่มเป้ำหมำยชัดเจน ดังนั้นทุกอย่ำงที่เรำเห็นจำก K-pop ไม่มีอะไรเป็นควำมจริงจำกสังคมเกำหลีเลย มันอำจจะมีเค้ำโครงบ้ำงเล็กน้อย แต่เขำใช้เป็นตัวหนัง ตัวซีรีส์ ที่มีบุคคลที่คุณจับต้องได้ ซึ่งประสบควำมสำเร็จ ไปแล้วด้วยกำรผลักดันจำกรัฐบำล ในกรณีของ soft power ของไทยที่ทุกท่ำนลงเรื่องอำหำร กำรใช้ชีวิต หรือซีรีส์ไทย มันไปโดย ธรรมชำติ ไปโดยนักเรียนแลกเปลี่ยน ไปโดยคนทำงำน ไปโดยนักท่องเที่ยว แล้วค่อยมำได้รับกำรสนับสนุนที หลัง และไม่ได้สนับสนุนในฐำนะโครงกำรในแบบที่เกำหลีใต้ทำ แต่สนับสนุนเป็นงำนๆไป ถ้ำเรำคิดจะทำ soft power จริงจังมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ที่น่ำสนใจคือประเทศไทยเคยถำมตัวเองหรือไม่ว่ำเรำอยำกจะส่งออก soft power อะไรกันแน่ เพรำะตอนนี้สิ่งที่คนจีนติดที่สุดจำกไทยคือ Boy love เพรำะอย่ำงที่คุณตี้ว่ำเขำมี แอปพลิเคชันรำยใหญ่สนับสนุน แต่เรื่องแบบนี้มันไม่น่ำเปิดเผยไง อย่ำงช่วงก่อนยุคสีจิ้นผิงประมำณ 3-4 ปี ที่ จีนเองก็มีหนังประมำณมิตรภำพลูกผู้ชำยรอฉำยเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง แต่พอสีจิ้นผิงสั่งปรับแก้เรื่องระเบียบของ ภำพยนตร์มันก็เลยถูกแช่แข็งไปตำมระเบียบ แต่เรำก็อยำกถำมคนไทยว่ำอยำกให้ soft power ของไทยเป็น Boy love อย่ำงเดียวหรือไม่ สองคือเรื่องที่คุณตี้พูดเรื่องตลำดรถไฟ ควำมจริงต้องขอบคุณพวกช่ำงภำพ พวกคนที่มำถ่ำยวีดีโอ ที่ทำ ให้ตลำดรถไฟดังขึ้นมำได้ เพรำะตลำดรถไฟก็เปิดมำนำนแล้วแต่เพิ่งมำดังช่วงหลังนี้เอง มันเลยเป็นภำพที่มี ชีวิตชีวำ มีทั้งคนขำย คนชื้อ คนกิน คนเดินเล่น รวมอยู่ในพื้นที่ที่บริหำรจัดกำรได้ มันเรียนว่ำ intangible soft power คือกำรที่เรำไม่ได้ขำยสินค้ำเป็นตัวๆ แต่เรำขำยไปพร้อมกับ Concept ที่ถ้ำขำดองค์ประกอบอย่ำงใด อย่ำงหนึ่งไปมันจะไม่ใช่ตลำดรถไฟ อันนี้เรำต้องคิดแล้วเพรำะอย่ำงสิ่งที่ซ่อนอยู่ใน soft power ของเกำหลีที่ จำให้มันจับต้องได้คือเรื่องรำวเหล่ำนี้ ที่น่ำเศร้ำใจแทนคนจีนคือช่วงที่เกำหลีกำลังทำ soft power สำรพัด อย่ำง จีนมีกำรยัดเยียดมำกจนสมำคมที่คุ้มครองผู้บริโภคออกมำตั้งคำถำมจนเกิดกระแสตีกลับ เป็นทั้งซีรีส์จีน และซีรีส์ไทย ทั้งที่ถ้ำเรำปล่อยให้มันไหลไปตำมธรรมชำติมันจะดีกว่ำ อย่ำงตอนนี้ซีรีส์ญี่ปุ่นเริ่มทำออกมำได้ดี แล้ว ทำให้ขำยได้เยอะพอสมควร และจำกคำถำมที่ทิ้งไว้จำกช่วงแรกเรื่องของกำรเคลื่อนไหวของผู้คนและ domestic tourism ควำมจริงต้องบอกว่ำไทยเป็นคนนำกระแส ถ้ำใครยังจำออเจ้ำได้ ตลำดเจ้ำพรหมที่อยุธยำ ก่อนซีรีส์ออเจ้ำแทบจะไม่มีคนรู้จักมำก แต่พอมีซีรีส์ออเจ้ำก็ทำให้เศรษฐกิจของอยุธยำมีกำรฟื้นขึ้นมำ กำรทำ ตรงนี้ก็เป็น soft power ประเภทหนึ่งนะคะ ต่อไปท่ำนที่อยู่ในจีนอำจจะรู้ดีกว่ำเพรำะก็จำชื่อจีนมันไม่ได้แต่ ตอนที่ซีรีส์ จันทรำอัสดง ฉำยเขำก็เลียนแบบ concept ของออเจ้ำกับอยุธยำไป อันนี้ก็แบบธรรมชำติอีก เหมือนกันไม่ได้เป็นแบบเกำหลี ของเกำหลีเขำจัดฉำกไว้อย่ำงดีแล้วเขำสำมำรถปรับรูปแบบได้ถ้ำมันไม่ดีพอ แต่
  • 47. 47 ของไทยเรำปล่อยให้ซีรีส์โตเองแบบเหนื่อยยำกทำให้มันเสี่ยงที่จะตำยได้ ถำมจริงๆว่ำคุณคิดว่ำกระแส Boy love จะไปได้นำนสักแค่ไหน ตอนนี้มันโตได้เพรำะคน Gen Y คน Gen Z เขำยังหำตัวเองอยู่ ถ้ำเขำหำเจอแล้ว กลำยเป็นว่ำมันไม่ใช่ เรื่องนี้เป็นแค่ทำงเลือกรองของเขำ ไม่ใช่สิ่งสนใจหลัก แล้ว soft power ไทยยังจะโตได้ อยู่ไหม Q&A และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดร.น้าทิพย์ อักษรกุล : ถูกใจมำกเลยที่อำจำรย์วรำรักพูดไป ในประสบกำรณ์ของตัวเองนะคะ เมื่อคุยกับคนจีนตั้งแต่อำจำรย์ ในมหำวิทยำลัย นักวิจัย คนมีสตำงค์มีเงินทองที่มำซื้อคอนโดมิเนียมอยู่ในเมืองไทย ไม่ใช่ห้องสองห้อง แต่ซื้อ เป็นหลำยสิบห้อง เป็นกำรลงทุน แล้วก็ซื้อไว้ให้คนเพื่อให้คนต่ำงชำติเช่ำนะคะ จำกคนเหล่ำนั้นรวมลงไปถึงคน ที่เป็นชำวนำอยู่ในยูนนำน ในกุ้ยโจว ในย่ำนตะวันตก ซึ่งถือว่ำยำกจนมำกในประเทศจีน เป็นมณฑลที่ยำกจน มำก ทุกคนจะพูดเป็นคำเดียวกันเมื่อเขำเจอเรำ เขำจะบอกว่ำไปเมืองไทยมำแล้ว เพรำะว่ำ ถูก แล้วเขำก็ทำ หน้ำแบบไม่ได้ชื่นชมนะคะ แล้วพอเขำบอกว่ำไปเมืองไทยเรำคิดว่ำคงบอกอย่ำงที่เรำคิดว่ำอำหำรดี คนน่ำรัก ไม่ใช่เลยค่ะ เขำบอกว่ำเขำไปเพรำะถูกมำก ก็ขนำดคนที่ดิฉันเคยทำงำนด้วย ซึ่งเป็นพวกไม่รู้หนังสือ เป็น ชำวนำที่เคยไม่รู้หนังสือ ตอนนี้รู้แล้ว แต่ก่อนนั้น 20-30 ปีที่แล้วไม่รู้หนังสือ เขำพอเขำเจอหน้ำเรำอีกครั้ง เขำ บอกเขำไปมำแล้วนะเมืองไทย เรำก็ถำมว่ำไปทำอะไร เขำก็บอกไปท่องเที่ยว เพรำะมันถูกมำกเขำสำมำรถมำได้ เรำมักจะภูมิใจว่ำประเทศไทยเป็นประเทศที่น่ำอยู่ ทำไมจะไม่น่ำมำอยู่ล่ะ ใครเขำก็มองเรำว่ำเรำชอบ เงินง่ำยๆ นิดๆ หน่อยๆ ไม่ต้องคิดมำก เขำมองเรำว่ำเป็นแค่ประเทศที่สวยงำม อำหำรอร่อย คนก็สบำยๆ ไม่ ซีเรียส ใครๆ ก็มำอยู่ได้ง่ำยๆ มำทำอะไรได้ง่ำยๆ ถ้ำมีเงินมำกพอก็ทุกอย่ำงซื้อได้หมด รวมทั้งคน รวมทั้งตำรวจ เขำก็เคยไปประพฤติเช่นนี้ เช่นสมมุติเรำไปแอฟริกำ อันนี้เรื่องจริงและนักท่องเที่ยวจีนถือเป้ไปขโมยนก เพนกวินเขำมำ 1 ตัว ใส่กระเป๋ำมำ เขำคิดวำงแผนรองรับไว้หมดแล้วเขำมี Magnetic band ที่เขำใส่ไว้ที่ข้อ เท้ำของนกเขำ เขำสำมำรถตำมมำเอำนกเพนกวินเขำคืนได้ แถมลงโทษอย่ำงเหมำะสมได้ แต่ของไทยไม่มีอย่ำง นี้ มันเหมือนเรำเป็นประเทศที่ได้ง่ำย มันถูกแล้วมันง่ำยทั้งๆ ที่ของเรำมีค่ำมำก ประเทศอื่นมีเหรอคะ พระบรมมหำรำชวัง ประเทศอื่นไม่มีค่ะ เกำะกระดำนซึ่งสวยที่สุดในโลก ไม่มีใครมีเท่ำเรำ แต่เรำไม่ค่อยเห็นค่ำ แล้วก็โครเอเชียกำแพงเมืองสั้นมำกก็คิด 37 เหรียญประเทศไทยมีอะไรรำคำแบบนั้นบ้ำงไหม ถ้ำถำมเขำก็จะ ตอบมำว่ำเขำไม่ต้องกำรคนเยอะ แต่ก็ต้องกำรคนมีคุณภำพเพรำะว่ำไปเหยียบย่ำกำแพงเขำมำกๆ เดี๋ยวมันจะ พัง เดี๋ยวมันจะทลำยลงมำ เพรำะฉะนั้น เรำเห็นด้วยอย่ำงมำกเลย
  • 48. 48 อำจำรย์ชื่อดร.ปริวัฒน์ ซึ่งเป็นอำจำรย์นิติศำสตร์ที่อังกฤษ แล้วตอนนี้กลับมำอยู่เมืองไทย ชอบออกมำ พูดเรื่องกำรเมืองกำรเลือกตั้ง ท่ำนบอกว่ำมันน่ำเสียดำยที่ทุกคนจะมองเมืองไทยแค่อย่ำงนั้นเอง อะไรที่ได้มำ ง่ำยๆ อำจจะไม่ค่อยมีค่ำเท่ำไหร่ เพรำะฉะนั้น เรำพลำดโอกำสจำกกำรที่มีคนมำชื่นชมเรำเยอะๆ แล้วเรำตั้งตัว เป็นผู้นำในทำงที่ดี เรำไม่มีที่ดีๆ ที่เหมำะสมบนแผ่นดินบนโลกที่จะเป็นผู้นำด้ำนควำมคิด เรื่องจริยธรรมใน ฐำนะชำตินะคะ ในฐำนะประเทศ ซึ่งควำมยุติธรรม ควำมถูกต้อง ในหลำยแง่หลำยมุม ไม่ใช่เฉพำะกำรเมือง อย่ำงเดียวท่ำนอำจจะคิดว่ำดิฉันพูดถึงเรื่องกำรเมือง แต่มันเป็นเรื่องของทุกด้ำนนะคะ เรื่องควำมปลอดภัยของ คนและทรัพย์สิน แม้กระทั่งเรื่องไตนี่ก็อำจจะมีแค่กรณี 2-3 กรณี แต่มันเป็นเรื่องที่น่ำคิดเหมือนกัน เพรำะฉะนั้นปัญหำมันก็กลับมำที่คนของเรำนี่แหละค่ะ คุณภำพของคนเรำมีแค่ไหน น่ำศรัทธำ น่ำนิยมเป็น ตัวอย่ำงได้แค่ไหน ดิฉันก็ไม่ทรำบว่ำจะไปต่ออย่ำงไร แต่ก็ขอรำพึงดังๆ แชร์กันนะคะ ขอบพระคุณค่ะ ขอบพระคุณผู้จัดด้วยค่ะ รศ.ดร.วรารัก เฉลิมพันธุศักดิ์ : วรำรักมีประเด็นที่อยำกจะเสนอไว้ในที่นี้ เพรำะที่ทุกท่ำนพูดมำแล้วเชื่อมโยงที่ soft power ถ้ำเป็นใน ทัศนะของวรำรักเอง มันเป็นแค่เฉดหนึ่งของ soft power เพรำะอย่ำงที่บอกไป soft power มันก็คือ Power อย่ำงหนึ่ง มันจะต้องช่วยให้คุณหรือประเทศของคุณปกป้องตัวเองได้ ให้คุณได้รับ consent จำกสังคมระหว่ำง ประเทศว่ำ “คุณมีดี” นี่ก็เป็นเรื่องน่ำเศร้ำเหมือนกันนะ ขอให้ทุกท่ำนลองนึกภำพตำมดูกับโฆษณำที่มักจะใช้ คำพูดว่ำ อยำกให้โลกรู้ว่ำเมืองไทยมีดี ภำพสวย กำรถ่ำยทำสวย แต่มีตอนไหนบ้ำงที่ใช้นักแสดงคนไทย ลองนึก ดูนะคะ เพรำะว่ำสิ่งเหล่ำนี้มันคือภำพลักษณ์ และคนจำนวนมำกใช้ภำพลักษณ์นั้นแทนค่ำของ soft power ทั้ง ที่มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ดังนั้น ตรงนี้เรำต้องระวังโดยเฉพำะท่ำนที่เกี่ยวข้องกับกำรจัดทำนโยบำย ถำมตัวเองให้มำกว่ำ ตกลง แล้ว collective identity ที่คุณอยำกจะนำเสนอออกไปคืออะไรกันแน่ แล้วค่อยจัดวำงแนวทำงก็ยังไม่สำย อย่ำให้มันไร้ทิศทำงจน soft power ของไทยถูกมองว่ำเป็นแค่ cheap product จนเป็น cheap for everything แม้กระทั่ง cheap for thai life เพรำะสิ่งที่คุณเนสพูดทำให้วรำรักกังวล เรื่องของกำรปรับเปลี่ยน นโยบำยของจีนในกำรจดทะเบียนเกิดให้ลูก ในเมื่อมันมีแนวโน้มว่ำคนรุ่นใหม่จะไม่เกิด คนไม่อยำกจะมีลูก คิด ว่ำเด็กหลอดแก้วรำคำถูกหรอคะ ดังนั้น กำรค้ำมนุษย์ต้องกลับมำอีกแน่นอน ดังนั้น เรำต้องไปคิดว่ำปัญหำแบบ นี้จะแก้อย่ำงไร แต่ก็อยำกจะถำมทุกท่ำนในที่นี้ว่ำในทัศนะของท่ำนเอง soft power ที่ท่ำนหวังให้คนไทย represents ออกมำเป็นอย่ำงไร อย่ำง soft power ฉบับเกำหลีของคิมแดจุง ซึ่งปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้วนะคะ เขำถึงกับวำงแผนว่ำยิ้มแบบไหนที่เขำอยำกให้ชำวโลกจดจำว่ำเป็นยิ้มแบบเกำหลี เขำคิดถึงมุมกล้องและสีสันที่ จะใช้ represents ควำมเป็นเกำหลี เขำทำถึงขั้นนั้น แล้วประเทศไทยทำอะไรอยู่ ฝำกไว้เท่ำนี้ค่ะ
  • 49. 49 ดร.ร่มฉัตร ฉันทรานุกูล : พอดีว่ำเมื่อครู่พูดถึงเรื่องตัวเลขของประชำกรจีน คือในกลุ่มโครงสร้ำงที่บอกว่ำเป็น upper- income, middle- income, lower-income พอดีเพิ่งไปหำตัวเลขมำนะคะ แล้วก็จะมำพูดให้ฟังคร่ำวๆ ก็คือว่ำควำมมั่ง คั่งรวมของจีนในปัจจุบัน อยู่ที่ประมำณ 790 ล้ำนล้ำนหยวน โดยที่จะคิดเป็นสินทรัพย์ของรัฐกับสินทรัพย์ของ เอกชน สินทรัพย์ของรัฐคิดเป็น 45.57% ของเอกชนอยู่ที่ 54.43% เพรำะฉะนั้น ตอนนี้โครงสร้ำงเศรษฐกิจจีน นั้นเอกชนมีบทบำทค่อนข้ำงมำก ส่วนเรื่องกลุ่มต่ำงๆ อย่ำงเช่น กลุ่มที่ร่ำ รวยที่สุดในจีนปัจจุบันมีประมำณ 1.4 ล้ำนครัวเรือนทั่วประเทศ มีทรัพย์สินของคนกลุ่มนี้คิดเป็น 67.4% ของควำมมั่งคั่งรวมของทั้งประเทศ แล้วก็ถ้ำ คิดในจำนวนประชำกรเค้ำคิดเป็น 0.33% ของประชำกรประเทศที่เป็นคนร่ำรวยที่สุดในจีน จีนเมื่อเทียบกับ หลำยๆประเทศโดยเฉพำะอเมริกำ สัดส่วนนี้ยังถือว่ำยอมรับได้ แล้วก็ชนชั้นกลำงปัจจุบันมีอยู่ประมำณ 31 ล้ำนครัวเรือนหรือ 99 ล้ำนคนโดยประมำณ และมีทรัพย์สินรวมคือประมำณ 25.6% ของควำมมั่งคั่งรวมของ ทั้งประเทศ ในชนชั้นกลำงของจีนคิดเป็นมูลค่ำประมำณ 110 ล้ำนล้ำนหยวน คิดเป็น 6.9% ของประชำกรทั้ง ประเทศ กลุ่มคนที่“ไม่รวย” (fei fu yi:非富裕) และกลุ่มที่ไม่ใช่ชนชั้นกลำง (fei zhong chan: 非中产) มี จำนวน 1.322 พันล้ำนคน คิดเป็นจำนวน 92.77% ของประชำกรทั้งประเทศ ตรงนี้ดำวก็มีคำถำมเหมือนกัน ที่ รัฐบำลจีนบอกว่ำเขำจัดกำรกับ“ควำมยำกส่วนที่เบ็ดเสร็จ”นั้นเขำจัดกำรได้แล้ว แต่ควำมยำกจนคือจริงๆ ยังมี อยู่ในสังคมของจีน คุณนิธินาคิน์ มิ่งรุจิราลัย : คือจีนเขำเป็นประเทศที่แปลกอย่ำงหนึ่ง ถ้ำเป็นที่อื่นเวลำรัฐบำลออกนโยบำยมำใช้ อย่ำงประเทศไทย ออกนโยบำย A ค่ำสัมประสิทธิ์มันจะอยู่ที่รำว 50-60% นี่คืออย่ำงดีแล้วนะครับ แต่ที่จีนไม่ใช่ ถ้ำถำมว่ำทำไม คนถึงฟังพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่เพรำะคนเชื่อในพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ว่ำพรรคคอมมิวนิสต์มีเงินจ้ำงคนให้ไป ทำงำน อันที่สองคือจีนเขำมีแผนพัฒนำเศรษฐกิจของเขำอยู่ว่ำแต่ละปีเขำต้องเอำเงินไปทำอะไรบ้ำงและ ภำคเอกชนต้องตำมรัฐบำลมำอย่ำงไรบ้ำง อย่ำงที่บอกว่ำอยู่เหนือเส้นควำมยำกจน มันอยู่เหนืออยู่แล้ว แต่เรื่อง ควำมมั่งคั่งของคน อยู่ที่ว่ำในบัญชีของคุณมีเงินอยู่เท่ำไหร่ กลุ่มที่มีรำยได้น้อยเขำก็มีเงินในบัญชีน้อยอยู่แล้ว เพรำะเขำรับมำและก็จ่ำยไป เรำต้องมำดูกันมำกกว่ำนั้น คือจีนเขำใช้ urban planning กำรพัฒนำเมือง กำรพัฒนำชีวิตคน ทำไม รัฐบำลต้องทุ่มทุนสร้ำงรถไฟควำมเร็วสูงทั่วประเทศ นั่นก็เพื่อให้มันมีเมืองที่มันโตมำกขึ้น เกิด economic activity ที่มำกพอให้มีเงินหมุนในเมืองนั้นได้ อย่ำงเวลำเรำอยำกจะขยำยธุรกิจไปยังมณฑลนี้ เรำต้องดูว่ำเมือง นี้มีแผนกำรพัฒนำเมืองอย่ำงไรบ้ำง เป็นสำเหตุที่ทำไมผมมำที่ฉำงซำและอู่ฮั่น เพรำะมันอยู่ในแผนพัฒนำเมือง ของรัฐที่เขำกำลังจะทำ รู้ไหมว่ำเวลำผมลงทุนในเมืองไหนผมดูอย่ำงไร ผมไม่ได้ดูว่ำคนในเมืองมีเงินมำกแค่ไหน
  • 50. 50 ผมดูว่ำที่เมืองมี Starbucks อยู่กี่แห่ง สองคือ economic activity ดีหรือไม่ผมดูที่ Walmart เข้ำมำเปิดหรือ ยัง สำมคือ McDonald's มีเยอะไหม เพรำะว่ำ McDonald's ไม่ใช่สินค้ำหรูแต่ก็ไม่ใช่สินค้ำถูกเช่นกัน มันคือ สินค้ำที่คนที่มีเงินน้อยที่สุดจะสำมำรถซื้อควำมเป็น middle-class ได้ จำนวนของ McDonald's บ่งบอกถึง จำนวนของคนที่พร้อมจะขึ้นเป็น middle-class มีมำกแค่ไหน และระดับชั้นของเมืองผมก็ไม่ได้นับตำมที่ รัฐบำลจัดไว้ แต่ผมนับได้จำก Wanda square (万达广场) เปิดให้บริกำรหรือยัง ถ้ำเปิดแล้วแปลว่ำเมืองนี้ พร้อมขยำยใหญ่แล้ว เมืองนี้กลุ่ม CRC เข้ำไปเปิดหรือยัง เข้ำไปทำโคงกำรหรือยัง ถ้ำเข้ำไปแล้ว เมืองนี้พร้อม จะขยำยใหญ่แล้ว จำนวน income per capita น่ำจะมำกพอแล้ว น่ำจะเกิน 2,000-3,000 หยวนต่อคนแล้ว เรำถึงจะเริ่มทำธุรกิจได้ เพรำะฉะนั้นมันมีตัวชี้วัดที่มำกกว่ำเรื่อง GDP บำงครั้งเรำต้องดูนโยบำยรัฐบำลว่ำเขำ ให้บริษัทนี้เข้ำไปตั้งหรือยัง หรืออย่ำงบริษัทรถไฟควำมเร็วสูงของเมือง อย่ำงเช่นซ่ำงไห่ จะมีสถำนีรถไฟ เป่ย จ่ำน หนำนจ่ำน และมีอีกหลำยสิบจ่ำนเลย แต่บำงเมืองก็มีแค่สถำนีเดียว ซึ่งแปลว่ำควำมกระจำยของควำม เจริญมันกระจุกอยู่แค่นิดเดียว แต่ถ้ำเรำเริ่มมีหลำยสถำนีแสดงว่ำเมืองมันเริ่มขยำยใหญ่ขึ้นแล้วมันเริ่มทำธุรกิจ ได้ คนเริ่มมีกำลังซื้อมำกขึ้น ดังนั้นตัวชี้วัดปรกติที่เรำใช้กับไทยมันใช้กับจีนไม่ได้ หรือตัวชี้วัดแบบอเมริกำก็ใช้ กับจีนไม่ได้เหมือนกัน เพรำะมันมีทั้งเรื่องรัฐบำล เรื่องกำรขยำยตัวของเมือง ก็ขอฝำกไว้เท่ำนี้ครับ คุณยุวดี คาดการณ์ไกล : เรื่องที่คุณตี้พูดนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องเตรียมไว้จัดประชุมครั้งหน้ำนะคะ เพรำะเรื่องเมือง ของจีนนี่เป็นอะไรที่เกินควำมคิดของคนไทย เพรำคนไทยไม่คุ้นชินกับกำรขยำยเมืองแบบจีน จีนเขำใช้เมืองเป็น เครื่องมือทำงกำรพัฒนำเศรษกิจของชำติเลยก็ว่ำได้ อีกทั้งเรื่องระดับของเมืองต่ำงๆ ที่ค่อนข้ำงซับซ้อนไว้ค่อย คุยอีกรอบหนึ่งนะคะ ไม่ทรำบว่ำวิทยำกรท่ำนอื่นจะฝำกอะไรอีกไหมคะ คุณณัฐริณี รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ : อย่ำงที่พูดไปตอนแรกว่ำทำไมในสังคมเมืองถึงเหนื่อยมำก ที่จริงมันมีเรื่องของกฎหมำยจีนเข้ำมำด้วย สมมุติว่ำคนอำยุเท่ำเนสไปอยู่ที่เมืองไทยจะไม่เหนื่อยเท่ำอยู่จีน เพรำะว่ำจีนจะมีกฎหมำย เช่นหนึ่งครอบครัวมี บ้ำนได้สองหลัง จะมีรถได้เมื่อมีสิทธิ์ทะเบียนรถก่อนแล้วถึงจะซื้อรถได้ มันจะมีกฎหมำยพวกนี้คอยแทรกเข้ำมำ ทำให้คนในเมืองใหญ่นั้นเหนื่อยกว่ำปรกติ อย่ำที่เซี่ยงไฮ้ถ้ำจะซื้อบ้ำนเรำเดินไปซื้อเลยไม่ได้ มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพรำะต้องมี social credit score ที่มำกพอด้วยถ้ำสมมุติว่ำเนสมี 60 คะแนนเนสก็จะซื้อบ้ำนในโครงกำรนี้ ไม่ได้ เพรำะต้องใช้ 90 คะแนนถึงจะมีสิทธิ์ซื้อได้ คนไทยเรำอำจจะนึกภำพไม่ออกแต่คนจีนในเมืองใหญ่เจอ ประจำ แล้วเป็นอะไรที่เหนื่อยมำก อย่ำงรถที่เนสใช้อยู่ก็เป็นชื่อแฟนหรือไม่ก็ญำติแฟน เพรำะไปยื่นขอสิทธิ์ ทะเบียนรถหลำยครั้งแล้วไม่ได้ เพรำะเขำใช้ระบบลอตเตอรี่ด้วย มันมีควำมลำบำกในกฎหมำยตรงนี้ที่คนไทยไม่
  • 51. 51 เคยเจอ และอีกอย่ำงคือเห็นด้วยกับที่คุณตี้พูดมำกเลย อย่ำแฟนเนสบ้ำนเขำอยู่ที่เมืองระดับสี่ จำกที่ไปมำครำว ก่อนยังไม่มี starbucks แต่ตอนนี้ล่ำสุดที่ไปคือมีแล้ว แสดงว่ำ GDP ของเมืองนี้ดีขึ้นแล้ว อันนี้ก็ฝำกไว้เผื่อใคร สนใจศึกษำเพิ่มเติมค่ะ Ms.Liyue Zhou : วันนี้รู้สึกสนุกมำกค่ะ คือได้ทุกมุมมองจำกคนไทย ในฐำนะที่เป็นสะใภ้จีน เป็นอำจำรย์ เป็นนักธุรกิจ หรือเป็นนักวิจัยนะคะ สนุกมำกค่ะอำจำรย์ยุวดี ต่อไปถ้ำมีงำนแบบนี้อีกก็ส่งลิงค์ให้เดือนด้วยนะคะ เดือนอยำก เข้ำมำฟังด้วย จริงๆ แล้วอยำกถำมคุณตี้ตั้งนำนแล้วค่ะ เพรำะเห็นว่ำในโซเชียลมีเดียมำหลำยปี เปิดร้ำนที่เมือง นั้น เมืองนี้ อยำกถำมตั้งนำนแล้วว่ำ ใช้อะไรในกำรตัดสินใจลงทุนเมืองนี้ อ๋อ วันนี้รู้แล้ว ใช้ starbucks นี่เอง ก็ อยำกจะเสริมสักประโยคหนึ่ง อย่ำงที่เมื่อครู่หลำยท่ำนพูดว่ำกำรพัฒนำของจีนในหลำยๆด้ำน ก็อำจจะสำมำรถ จะเปรียบเทียบกับประเทศอื่นด้วย เพรำะว่ำประเทศอื่นอำจจะผ่ำนมำแล้ว แต่ว่ำประเทศจีนก็ถือว่ำเป็น ประเทศที่ค่อนข้ำงพิเศษ ไม่ว่ำจะมองในมุมไหนก็ตำม เดือนก็รู้สึกดีใจนะคะว่ำ เมืองจีนมีนักวิจัย หรือว่ำนัก ธุรกิจ หรือใครก็ตำมนะคะ ที่อยำกรู้จักจีนมำกขึ้นต่อไปก็น่ำจะมีงำนอะไรที่เกี่ยวกับจีนมำกขึ้น เดือนก็ Look forwards to read นะคะ ขอบคุณค่ะ
  • 52. 52 กล่าวปิด พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยกำรศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ ก่อนอื่นก็ต่องขอขอบคุณวิทยำกรทุกท่ำน เท่ำที่ฟังมำต้องขอบอกว่ำเป็นทั้งควำมสนุก เป็นทั้งควำมรู้ที่ ไม่เคยได้รับทรำบมำจำกแว่นของตะวันตกมองตะวันออก หรือแว่นของตะวันออกมองตะวันออกเอง ก็ยังมีอยู่ หลำยแว่น ผลงำนวันนี้ผมมั่นใจว่ำทำงผู้จัดจะนำไปทำ initiative policy recommendations อย่ำงแน่นอน เพรำะวันนี้เรำได้เยอะเหลือเกิน แต่ว่ำเป้ำหมำยเรำนั้นต้องทำอย่ำงไร แม้กระทั่งที่อำจำรย์หลำยท่ำนได้บอกว่ำ เรำทำโดยตั้งใจแล้วหรือยัง มีแผนหรือยัง ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมำกคือ soft power คำว่ำ soft power ก็ควรจะครอบคลุมอะไรอีกหลำยอย่ำง บำงท่ำนได้ให้ข้อคิดว่ำ ประเทศไทยมีดี ถูกต้อง ไม่ถูกต้องอย่ำงไร ต้องกล้ำที่จะพูด แต่อย่ำงไรก็ตำม policy recommendations หรือ policy initiative นั้น ต้องอำศัย policy maker ที่เข้ำใจ แต่เชื่อไหมครับ policy maker อยู่บนผลประโยชน์ของ policy maker จำนวนมำก เพรำะฉะนั้นวิธีเขียนก็คงต้องเขียนหนักมำก ไมเคิล ฟำรำเดย์ ใช้เวลำนำนมำกกว่ำ รัฐมนตรีจะอนุมัติกำรใช้มอเตอร์ เพรำะเขำอธิบำยได้แต่เพียงว่ำมันดีอย่ำงไร แต่สุดท้ำยแล้วรัฐมนตรีก็จะถำม ว่ำแล้วผมได้อะไร policy maker ได้อะไร ไมเคิล ฟำรำเดย์ จึงบอกว่ำ สักวันหนึ่งท่ำนจะเก็บภำษีจำกมันได้ ประโยชน์ของภำษีจะเกิดแก่ประชำชน ผลประโยชน์จำกกำรกำหนดกฎหมำยตัวนี้จะเกิดผลประโยชน์กับ ท้องถิ่นอย่ำงไรในอนำคต อันนี้เป็นเรื่องท้ำทำยมำก ผมหวังเป็นอย่ำงยิ่งครับว่ำ งำนในครั้งนี้จะได้หลอมรวมออกมำรีบทำ เพรำะสี่อย่ำงนี้แพงมำก 1) เวลำ มีเงินก็ซื้อไม่ได้ 2) ควำมรัก รักที่จะให้ ให้โอกำส ให้ข้อคิดดีๆ อย่ำงวันนี้ 3) ชีวิต คือคุณค่ำของสิ่งที่เรำมีอยู่ วิถี
  • 53. 53 ที่เรำอยำกนำเสนอ สุดท้ำยคือมิตรแท้ ผมมั่นใจว่ำทุกคนเป็นมิตรแท้ให้แก่กันและกัน เรำเพิ่งทำสัมนำไปว่ำมิตร แท้คือคนที่ไปมำหำสู่กัน เรำจะให้เขำได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่ำงไร ในขณะเดียวกันเรำจะป้องกันสิ่งไม่ดีไม่ให้เกิดขึ้น ได้อย่ำงไร ก็เป็นควำมท้ำทำยมำกของงำนนี้ และก็สนุกมำก โดยเฉพำะของอำจำรย์เดือน ขอบคุณมำกสำหรับ วิธีคิด หรืออะไรต่ำงๆ แต่มั่นนใจว่ำสุดท้ำยแล้วคนจีนน่ำจะไม่ค่อยชอบ vacation ใช่ไหมครับ กำรทำงำนไปพัก ไปหลำยท่ำนบอกว่ำทำงำนไม่ยอมหยุด เป็น work-cation บำงส่วนเรำก็อำจจะช่วยให้เขำได้อย่ำทำงำนมำก จนเกินไป แต่ของไทยเรำจะทำให้ดีขึ้น ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ คณะผู้จัด วิทยำกร รวมทั้งท่ำนอำจำรย์หลำย ท่ำนที่ได้ให้ควำมคิดเห็นร่วมเข้ำมำในงำนครั้งนี้ เสียดำยที่เวลำน้อยนะครับ ก็ขอให้ทุกคนได้มีควำมสุขอัน ประนีตยิ่งๆขึ้นไป คณะของเรำก็หวังว่ำจะได้รับกำรสนับสนุนจำกท่ำนผู้ชม และท่ำนวิทยำกรทุกท่ำนครับ ขอบคุณมำกครับ สวัสดีครับ
  • 54. 54
  • 55. 55