![•
จำนวนรอบของการทำงาน = N-1 รอบ
•
จะทำตั้งแต่ข้อมูลตัวที่ 2 ถึงตัวสุดท้าย
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
34
8
64
51
32
21](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-3-320.jpg)
![[i]
[0]
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
เปรียบเทียบ
ข้อมูลเดิม
34
8
64
51
32
21
i = 2
8
8
34
21
64
51
32
5
i = 3
21
8
21
34
32
64
51
4
i = 4
32
8
21
32
34
51
64
3
i = 5
32
8
21
32
34
51
64
2
i = 6
32
8
21
32
34
51
64
1](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-4-320.jpg)
![[i]
[0]
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
เปรียบเทียบ
ข้อมูลเดิม
8
21
32
34
51
64
i = 2
8
21
32
34
51
64
5
i = 3
8
21
32
34
51
64
4
i = 4
8
21
32
34
51
64
3
i = 5
8
21
32
34
51
64
2
i= 6
8
21
32
34
51
64
1](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-7-320.jpg)
![[i]
[0]
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
เปรียบเทียบ
ข้อมูลเดิม
64
51
34
32
21
8
i = 2
8
8
64
51
34
32
21
5
i = 3
21
8
21
64
51
34
32
4
i = 4
32
8
21
32
64
51
34
3
i = 5
34
8
21
32
34
64
51
2
i = 6
51
8
21
32
34
51
64
1](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-10-320.jpg)
![[i]
[0]
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
Exchange
เปรียบ
เทียบ
ข้อมูลเดิม
34
8
64
51
32
21
i = 2
8
8
34
21
64
51
32
True
5
i = 3
21
8
21
34
32
64
51
True
4
i = 4
32
8
21
32
34
51
64
True
3
i = 5
32
8
21
32
34
51
64
False
2
สรุปจำนวนครั้งที่เปรียบเทียบ
= 5 + 4 + 3 + 2 = (N-1) + (N-2) + (N-3) + (N-4)](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-13-320.jpg)
![[i]
[0]
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
Exchange
เปรียบ
เทียบ
ข้อมูลเดิม
1
20
30
9
25
40
i = 2
9
1
9
20
30
25
40
True
5
i = 3
25
1
9
20
25
30
40
True
4
i = 4
25
1
9
20
25
30
40
False
3
สรุปจำนวนครั้งที่เปรียบเทียบ
= 5 + 4 + 3 = (N-1) + (N-2) + (N-3)](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-14-320.jpg)
![หลักการคือ แบ่งชุดข้อมูลออกเป็น 2 ส่วน ณ ตำแหน่ง K
Data [1]
Data [2]
…
Data [K-1]
Data [K]
Data [K+1]
Data [K+2]
…
Data [N]
มีค่าน้อยกว่าหรือ เท่ากับData [K]
มีค่ามากกว่าหรือ เท่ากับ Data [K]](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-16-320.jpg)
![[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
34
8
64
51
32
21
i
i
j
34
8
21
51
32
64
i
j
34
8
21
32
51
64
j
i
32
8
21
34
51
64
ส่วนที่ 1
ส่วนที่ 2](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-18-320.jpg)
![[1]
[2]
[3]
[4]
32
8
21
34
i
i , j
i
21
8
32
ส่วนที่ 1
ส่วนที่ 1.1](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-19-320.jpg)
![[1]
[2]
[3]
21
8
32
i , j
i
8
21
ส่วนที่ 1.1](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-20-320.jpg)
![[5]
[6]
51
64
j
i , j
51
64
ส่วนที่ 2](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-21-320.jpg)
![จะได้ ชุดข้อมูลที่เรียงลำดับแล้ว
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
8
21
32
34
51
64](https://image.slidesharecdn.com/sorting2-141119072209-conversion-gate02/85/Sorting-2-22-320.jpg)
Sorting 2
- 1. การเรียงลำดับด้วยการแลกเปลี่ยน (Sorting by Exchange) : Bubble Sort
- 2. ใช้วิธีการเปรียบเทียบข้อมูลที่อยู่ ตำแหน่งติดกันทีละคู่ ถ้าข้อมูลตัวใด ยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการก็ให้ สลับตำแหน่งกัน ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกเรียงลำดับ
- 3. • จำนวนรอบของการทำงาน = N-1 รอบ • จะทำตั้งแต่ข้อมูลตัวที่ 2 ถึงตัวสุดท้าย [1] [2] [3] [4] [5] [6] 34 8 64 51 32 21
- 4. [i] [0] [1] [2] [3] [4] [5] [6] เปรียบเทียบ ข้อมูลเดิม 34 8 64 51 32 21 i = 2 8 8 34 21 64 51 32 5 i = 3 21 8 21 34 32 64 51 4 i = 4 32 8 21 32 34 51 64 3 i = 5 32 8 21 32 34 51 64 2 i = 6 32 8 21 32 34 51 64 1
- 5. การวัดประสิทธิภาพ พิจารณาจากจำนวนครั้งในการ เปรียบเทียบในแต่ละรอบ (Function Big-Oh) แยกพิจารณาเป็น 2 กรณี
- 7. [i] [0] [1] [2] [3] [4] [5] [6] เปรียบเทียบ ข้อมูลเดิม 8 21 32 34 51 64 i = 2 8 21 32 34 51 64 5 i = 3 8 21 32 34 51 64 4 i = 4 8 21 32 34 51 64 3 i = 5 8 21 32 34 51 64 2 i= 6 8 21 32 34 51 64 1
- 8. สรุปจำนวนครั้งที่เปรียบเทียบ = 5 + 4 + 3 + 2 + 1 = 15 ครั้ง = (N-1) + … + 2 + 1 = (N-1) (N)/2 ประสิทธิภาพ= O (N2)
- 10. [i] [0] [1] [2] [3] [4] [5] [6] เปรียบเทียบ ข้อมูลเดิม 64 51 34 32 21 8 i = 2 8 8 64 51 34 32 21 5 i = 3 21 8 21 64 51 34 32 4 i = 4 32 8 21 32 64 51 34 3 i = 5 34 8 21 32 34 64 51 2 i = 6 51 8 21 32 34 51 64 1
- 11. สรุปจำนวนครั้งที่เปรียบเทียบ = 5 + 4 + 3 + 2 + 1 = 15 ครั้ง = (N-1) + … + 2 + 1 = (N-1) (N)/2 ประสิทธิภาพ= O (N2)
- 12. สามารถปรับปรุงอัลกอริทึมของ Bubble Sort ให้มีจำนวนครั้งการเปรียบเทียบ น้อยลงได้ โดยตรวจสอบว่าในแต่ละรอบมีการ สับเปลี่ยนข้อมูลกันหรือไม่
- 13. [i] [0] [1] [2] [3] [4] [5] [6] Exchange เปรียบ เทียบ ข้อมูลเดิม 34 8 64 51 32 21 i = 2 8 8 34 21 64 51 32 True 5 i = 3 21 8 21 34 32 64 51 True 4 i = 4 32 8 21 32 34 51 64 True 3 i = 5 32 8 21 32 34 51 64 False 2 สรุปจำนวนครั้งที่เปรียบเทียบ = 5 + 4 + 3 + 2 = (N-1) + (N-2) + (N-3) + (N-4)
- 14. [i] [0] [1] [2] [3] [4] [5] [6] Exchange เปรียบ เทียบ ข้อมูลเดิม 1 20 30 9 25 40 i = 2 9 1 9 20 30 25 40 True 5 i = 3 25 1 9 20 25 30 40 True 4 i = 4 25 1 9 20 25 30 40 False 3 สรุปจำนวนครั้งที่เปรียบเทียบ = 5 + 4 + 3 = (N-1) + (N-2) + (N-3)
- 15. การเรียงลำดับด้วยการแลกเปลี่ยน (Sorting by Exchange) : Quick Sort
- 16. หลักการคือ แบ่งชุดข้อมูลออกเป็น 2 ส่วน ณ ตำแหน่ง K Data [1] Data [2] … Data [K-1] Data [K] Data [K+1] Data [K+2] … Data [N] มีค่าน้อยกว่าหรือ เท่ากับData [K] มีค่ามากกว่าหรือ เท่ากับ Data [K]
- 17. และจะทำเช่นเดียวกันนี้กับข้อมูล ทั้ง 2 ชุดนี้อีกเรื่อยๆ ไปจนแต่ละ ชุดมีสมาชิกเหลือเพียงตัวเดียว
- 18. [1] [2] [3] [4] [5] [6] 34 8 64 51 32 21 i i j 34 8 21 51 32 64 i j 34 8 21 32 51 64 j i 32 8 21 34 51 64 ส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2
- 19. [1] [2] [3] [4] 32 8 21 34 i i , j i 21 8 32 ส่วนที่ 1 ส่วนที่ 1.1
- 20. [1] [2] [3] 21 8 32 i , j i 8 21 ส่วนที่ 1.1
- 21. [5] [6] 51 64 j i , j 51 64 ส่วนที่ 2
- 22. จะได้ ชุดข้อมูลที่เรียงลำดับแล้ว [1] [2] [3] [4] [5] [6] 8 21 32 34 51 64
- 23. กรณีที่ดีที่สุด (Best Case) เป็นกรณีที่ข้อมูลที่นำมาเรียงลำดับไม่มี การเรียงลำดับอยู่ก่อนเลย ทำให้ในแต่ละ รอบของการแบ่งชุดข้อมูลมีข้อมูลหลัก อยู่ตรงกลางๆ ของชุดข้อมูลนั้นเสมอ ประสิทธิภาพ = O (Nlog2N)
- 24. กรณีที่เลวที่สุด (Worst Case) เป็นกรณีที่ข้อมูลที่จะนำมาเรียงลำดับมีการ เรียงลำดับอยู่ก่อนแล้ว การแบ่งชุดข้อมูลแต่ละครั้งจะได้ข้อมูลที่ถูกแบ่ง เพียงส่วนเดียวเท่านั้น เนื่องจากข้อมูลหลักที่ใช้ ในการเปรียบเทียบจะอยู่ในตำแหน่งปลายสุดของ ข้อมูลพอดี ประสิทธิภาพ = O (N2)