ทฤษฎี แนวคิด เทคนิค และรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการคิดแบบฮิวริสติกส์ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ เน้นให้ผู้เรียนใช้การคิดโดยเชื่อมโยงสิ่งที่มีความสัมพันธ์กันให้อยู่ในลักษณะที่เป็นระบบ โดยการ สารวจหาความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างข้อมูลของสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ แนวคิดของสิ่งที่ ต้องการเรียนรู้ หรือข้อมูลของปัญหาที่ต้องการสารวจตรวจค้น โดยผู้วิจัยประยุกต์ใช้ แบบจาลองความคิดของเชฟฟิลด์ (Sheffield, 2000: 38-49, 2003: 7) มาสร้างเป็น ขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ 
1) สร้างความสัมพันธ์ (Relate) คือ ใช้ข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้เชื่อมโยงให้ สัมพันธ์กัน โดยอาจเปรียบเทียบการโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลในปัญหาใหม่ที่พบกับปัญหา เก่าที่เคยมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหานั้น แล้วพิจารณาว่าปัญหาใหม่และปัญหาเก่ามีแนวคิด ทางคณิตศาสตร์ใดที่เหมือนกัน 
2) สารวจตรวจค้น (Investigate) คือ สารวจตรวจค้นปัญหา วิธีการ แก้ปัญหา หรือตรวจสอบความสัมพันธ์ต่างๆที่คิดไว้ สืบสวน คิดอย่างลึกซึ้ง และตั้ง คาถามเพื่อนาไปสู่คาตอบ/ผลลัพธ์ที่ต้องการศึกษา 
3) ประเมินและติดต่อสื่อสาร (Evaluate and Communicate) คือ ประเมินสิ่งที่ค้นพบหรือประเมินคาตอบที่ได้ว่าเป็นคาตอบที่ถูกต้อง เหมาะสมกับ สถานการณ์นั้นๆหรือไม่ และสิ่งที่ค้นพบหรือคาตอบนั้นมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ อย่างไร โดยใช้การอภิปรายร่วมกับผู้อื่น 
4) สร้างคาถามหรือปัญหา (Create) คือ สร้างคาถามใหม่หรือปัญหาใหม่ เพื่อใช้ในการสารวจตรวจค้นโดยพิจารณาว่ามีประเด็น คาถามหรือปัญหาใดที่ต้องการศึกษา เพิ่มเติมในหัวข้อที่กาลังสนใจ เมื่อตั้งประเด็น คาถาม หรือปัญหาใหม่ได้แล้วจึงเริ่มดาเนินการ ใหม่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งในแบบจาลองความคิด 
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสอบ เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมเพื่อ พัฒนานักเรียนด้านความสามารถในการคิด การแก้ปัญหา การแสวงหาความรู้ โดยให้ นักเรียนใช้กระบวนการทางความคิดในการแสวงหาความรู้ และค้นหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่ง ครูผู้สอนเป็นเพียงผู้ตั้งคาถามเป็นสื่อให้นักเรียนเกิดความคิด สืบค้น และหาคาตอบต่อปัญหา ของตนได้ ซึ่งในงานวิจัยจะพัฒนามโนทัศน์โดยจัดกระบวนการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการ สืบสอบของ Roger Bybee (2006) นักการศึกษาจากกลุ่ม BSCS (Biological Science Curriculum Study) ซึ่งมี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 
1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรียนด้วยเรื่องที่สนใจ ซึ่ง อาจเกิดขึ้นเองจากความสงสัย หรืออาจเริ่มจากความสนใจของตัวนักเรียนเอง หรือเกิดจากการ อภิปรายภายในกลุ่ม กิจกรรมประกอบด้วยการซักถามหรือใช้สื่อต่าง ๆ การทบทวนความรู้เดิม เพื่อสร้างคาถาม กาหนดประเด็นที่จะศึกษา 
2) ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration) เป็นขั้นวางแผนกาหนดแนวทางการสารวจ ตรวจสอบ กาหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏิบัติเพื่อรวบรวมข้อมูล วิธีการตรวจสอบทาได้ หลายวิธี เช่น ทาการทดลอง การศึกษาหาข้อมูลจากเอกสารอ้างอิงหรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
3) ขั้นอธิบาย และลงข้อสรุป (Explanation) ขั้นของการอธิบายจะให้ความสาคัญ กับความสนใจ ความตั้งใจของผู้เรียนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์หรือกิจกรรม ในขั้นของการสร้างความสนใจและขั้นของการสารวจ ซึ่งนักเรียนจะแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ เกี่ยวกับมโนทัศน์ ทักษะกระบวนการ หรือพฤติกรรมต่างๆ โดยการนาข้อมูลที่ได้จากการสารวจ ตรวจ สอบมาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผล และนาเสนอผลที่ได้ในรูปต่าง ๆ เช่น บรรยายสรุป สร้างตาราง 
4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนาความรู้ที่สร้างขึ้นไปเชื่อมโยงกับ ความรู้เดิมหรือแนวคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติม หรือนาข้อสรุปที่ได้ไปอธิบายสถานการณ์หรือ เหตุการณ์อื่น ๆ นักเรียนสามารถพัฒนาความเข้าใจในเชิงลึก นาไปสู่ความรู้ใหม่หรือความรู้ที่ ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ประยุกต์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในเรื่องอื่นหรือสถานการณ์อื่นๆ 
5) ขั้นประเมิน (Evaluation) เป็นการประเมินความเข้าใจ ความสามารถ และ ความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยกระบวนการต่าง ๆ ว่านักเรียนมีความรู้อะไรบ้าง อย่างไร มาก น้อยเพียงใด ซึ่งจะนาไปสู่การนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่น 
การจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ เป็นวิธีการเรียนการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนใช้ ความสามารถเฉพาะตัว และศักยภาพในตนเองร่วมมือกันแก้ปัญหาต่างๆ ให้บรรลุผลสาเร็จได้ โดยที่สมาชิกในกลุ่มตระหนักว่า แต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ดังนั้น ความสาเร็จหรือความ ล้มเหลวของกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มต้องรับผิดชอบร่วมกัน สมาชิกจะมีการพูดคุยกัน ช่วยเหลือซึ่ง กันและกัน ผู้เรียนจะได้ความรู้จากเพื่อน ทั้งนี้การจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือมีหลายรูปแบบ ข้าพเจ้าได้เลือกจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ แบบ Co-op Co-op แบบการแข่งขัน ระหว่างกลุ่มด้วยเกม (Teams – Games – Tournament : TGT) และวิธีการเรียนแบบ ร่วมมือแบบต่อบทเรียน (Jigsaw II) และการเรียนแบบร่วมมือแบบการสอนเป็นกลุ่มย่อยหรือ รายบุคคล (Team Accelerated Instruction : TAI) 
Co-op Co-op สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มย่อยจะได้รับมอบหมายให้ศึกษาเนื้อหาหรือทา กิจกรรมที่ต่างกัน ทาเสร็จแล้วจึงนาผลงานมารวมกันเป็นงานกลุ่ม สมาชิกอ่านทบทวน ตรวจ แก้ไขภาษา ปรับปรุง เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ แล้วนาผลงานกลุ่มเสนอต่อชั้น เรียน Slavin (1990:101) ได้กล่าวถึงขั้นตอนการเรียนว่ามี 9 ขั้นตอน ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้ 
ขั้นที่ 1 ขั้นอภิปรายร่วมกันทั้งชั้น 
ขั้นที่ 2 เลือกสมาชิกและสร้างกลุ่ม 
ขั้นที่ 3 กลุ่มเลือกเรื่องที่จะศึกษา 
ขั้นที่ 4 กาหนดหัวข้อย่อย 
ขั้นที่ 5 การเตรียมหัวข้อย่อย 
ขั้นที่ 6 การนาเสนอหัวข้อย่อยภายในกลุ่ม 
ขั้นที่ 7 เตรียมการนาเสนอรายงานกลุ่ม 
ขั้นที่ 8 กลุ่มเสนอรายงาน
ขั้นที่ 9 การประเมินผล 
การเรียนแบบร่วมมือแบบการแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม (Teams – Games – Tournament : TGT) John Hopkins (อ้างถึงใน Devries and Others,1980) ได้ เสนอการเรียนการสอนตามรูปแบบการแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการ สอนที่ให้ผู้เรียนได้เรียนในกลุ่มเล็กๆ คละความสามารถและเพศ มีลักษณะการเรียนรู้ ดังนี้ 
1) การจัดผู้เรียนเข้ากลุ่ม โดยให้ผู้เรียนที่มีระดับความสามารถใกล้เคียงกันอยู่กลุ่ม เดียวกัน ซึ่งแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 3– 5 คน โดยสมาชิกของกลุ่มจะร่วมกันปฏิบัติ กิจกรรมตามกติกาของการจัดการเรียนการสอน ช่วยเหลือกันเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และสมาชิกทุก คนต้องพยายามทาให้ดีที่สุดเพื่อความสาเร็จร่วมกันของกลุ่ม 
2) กาหนดให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบคาถามหรือโจทย์ที่ครูเตรียมไว้ให้โดยแต่ ละโต๊ะจะมีโจทย์คาถามที่มีระดับความยากง่ายไม่เหมือนกัน ตามระดับความสามารถในกลุ่มของ ผู้เรียนที่แข่งขันด้วยกันนั้น 
3) จะจัดการแข่งขันกี่รอบก็ได้ แต่ละรอบจะใช้โจทย์คาถามกี่ข้อก็ได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป ปกติจะใช้เวลาในการแข่งขันรอบหนึ่งๆ ประมาณ 10 – 15 นาที การแข่งขันในแต่ละรอบจะมีการ เปลี่ยนโจทย์คาถามเป็นชุดใหม่ทุกครั้ง 
4) ในการแข่งขันจะมีกติกาที่ชัดเจน และเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในแต่ละรอบจะมีการย้ายหรือ เปลี่ยนผู้เรียนไปแข่งขันยังโต๊ะอื่นๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทาโจทย์ที่เหมาะกับความสามารถของเขา มากยิ่งขึ้น 
5) เมื่อแข่งขันครบทุกรอบตามที่กาหนดไว้ มีการประเมินความสาเร็จของกลุ่ม โดยการ นาคะแนนที่สมาชิกไปแข่งขันมารวมเป็นคะแนนของกลุ่ม และหาค่าเฉลี่ย กลุ่มที่มีคะแนนหรือ ค่าเฉลี่ยสูงสุดจะได้รับการยอมรับให้เป็นทีมชนะเลิศ และทีมที่ได้อันดับรองชนะเลิศลงมา หลังจากนั้นให้มีการประกาศผลการแข่งขันในที่สาธารณะ เช่น บอร์ดในชั้นเรียน บอร์ดของ โรงเรียน หรือวารสารของ โรงเรียน และมีการบันทึกสถิติไว้ด้วย 
วิธีการเรียนแบบร่วมมือแบบต่อบทเรียน (Jigsaw II) Elliot Aronson (1978) ได้ เสนอเทคนิคการต่อบทเรียน ซึ่งการเรียนแบบนี้ บางทีเรียกว่าการเรียนแบบต่อชิ้นส่วน หรือ การศึกษาเฉพาะส่วน การเรียนการสอนเทคนิคการต่อบทเรียน มีลักษณะการเรียนรู้ ดังนี้ 1) เป็นวิธีการที่แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม คละความสามารถและเพศ 2) ทุกกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้ทากิจกรรมเดียวกัน โดยผู้สอนให้เนื้อหา 1 เรื่อง สาหรับ 1 กลุ่ม และแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อยเท่าจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้แต่ละคนในกลุ่ม ศึกษาเฉพาะในหัวข้อนั้นๆ คนละ 1 หัวข้อ โดยผู้เรียนแต่ละคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องที่ ตนเองได้รับมอบหมาย สมาชิกที่อยู่ต่างกลุ่มที่ได้รับมอบหมายในหัวข้อเดียวกันจะร่วมกันศึกษา เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Expert Group) จากนั้นนาสิ่งที่ได้เรียนรู้ในหัวข้อของตนเองไปเสนอแก่ สมาชิกในกลุ่ม เพื่อให้เพื่อนในกลุ่มได้รู้เนื้อหาครบทุกหัวข้อ 3) หลังจากจบบทเรียนแล้วมีการทดสอบรายบุคคลตามเนื้อหาทุกหัวข้อ และนา คะแนนของสมาชิกแต่ละคนมารวมกันเป็นคะแนนกลุ่ม
การเรียนแบบร่วมมือแบบการสอนเป็นกลุ่มย่อยหรือรายบุคคล (Team Accelerated Instruction : TAI) การเรียนการสอนตามรูปแบบ การเรียนการสอนกลุ่ม เพื่อนช่วยเหลือเพื่อนเป็นรายบุคคล เป็นการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ และการเรียนการสอน รายบุคคลเข้าด้วยกัน โดยให้นักเรียนทากิจกรรมการเรียนด้วยตนเอง ตามความสามารถจาก แบบฝึกทักษะ และส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ ตลอดจนการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เมื่อนาการเรียนการสอนกลุ่มเพื่อนช่วยเหลือเพื่อนเป็น รายบุคคล มาประยุกต์ใช้กับ e – learning มีลักษณะการเรียนรู้ ดังนี้ 1) การทดสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียนก่อนเรียน โดยทาการทดสอบแบบ ออนไลน์บน Webpage แรกๆ 2) ผู้สอนจัดกลุ่มผู้เรียน โดยกาหนดให้นักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน ทางานร่วมกัน โดยแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 4 – 5 คน 3) ผู้สอนมอบหมายงานให้ผู้เรียนศึกษาร่วมกันเป็นคู่ๆ จะเน้นการฝึกปฏิบัติ โดย ให้ผู้เรียนต่างศึกษาเอกสารของผู้สอน ตามสิ่งที่ระบุในการมอบหมายใบงาน ที่ได้แจ้งไว้บน กระดานข่าว แล้วฝึกหัดทาตาม ในเวลาเรียนผู้เรียนต้องมีความร่วมมือกัน ผู้เรียนที่เก่งจะต้อง ช่วยเหลือเพื่อนที่อ่อน ต่างตรวจสอบงานของกันและกัน เมื่อทาเสร็จแล้ว ให้ทากิจกรรมอื่นๆต่อ จนครบทุกกิจกรรมหรือหัวข้อที่ผู้สอนกาหนดไว้ และรวมตัวทางานกลุ่มร่วมกันที่เป็นการ สังเคราะห์ความรู้ทั้งหมด จากการที่ผู้เรียนได้ร่วมกันฝึกปฏิบัติกันในคู่ของตนมาก่อนแล้วนั่นเอง 4) ระหว่างที่ผู้เรียนช่วยกันเรียนกับคู่ของตนและกับสมาชิกอื่นๆในกลุ่ม ผู้สอนจะ ใช้เวลานี้นัดหมายเวลาให้ ผู้เรียนจากกลุ่มต่างๆที่มีความสามารถระดับใกล้เคียงกันมาครั้งละ 4- 6 คน เพื่อให้ความรู้เสริม ให้เหมาะกับระดับความสามารถของผู้เรียน โดยให้ความรู้เสริม ผ่านการ Chat 5) หลังจากที่ผู้เรียนได้ศึกษาด้วยตนเอง ได้เรียนร่วมกับเพื่อน ผ่านทุกจุดประสงค์ หรือทุกกิจกรรมร่วมกันทุกคน และได้เรียนจากครูเป็นกลุ่มย่อยโดยผ่านการ Chat แล้ว เมื่อจบ หน่วยการเรียน ครูจะมีการประเมินผลสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนไปทั้งหมด โดยการทดสอบรายบุคคล ซึ่งในกรณีนี้จะมีการดาเนินการบริหารการสอบ โดยจัดเป็นห้องสอบไว้โดยเฉพาะ มีผู้ดาเนินการ จัดสอบ และให้ผู้เรียนทาข้อสอบออนไลน์ และจัดส่งไฟล์ข้อสอบไปยังผู้สอนโดยตรง ภายใน ระยะเวลาการสอบที่ได้กาหนดไว้และนาคะแนนการทดสอบของนักเรียนแต่ละคนมาเฉลี่ยเป็นคะแนน ของกลุ่มต่อไป

More Related Content

PDF
บันทึกการทดลองใช้นวัตกรรม
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม
PDF
วิเคราะห์วิธีการสอนที่เหมาะกับวิชาคณิตศาสตร์ (1)
PDF
ครูมือใหม่
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
PDF
วิธีการเขียนวิจัยในชั้นเรียน
PPT
สื่อนวตกรรมนำเสนอ
PDF
ชื่อนวัตกรรม
บันทึกการทดลองใช้นวัตกรรม
คู่มือการใช้นวัตกรรม
วิเคราะห์วิธีการสอนที่เหมาะกับวิชาคณิตศาสตร์ (1)
ครูมือใหม่
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
วิธีการเขียนวิจัยในชั้นเรียน
สื่อนวตกรรมนำเสนอ
ชื่อนวัตกรรม

What's hot (18)

PPTX
เทคนิคการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดด้วยรูปแบบต่าง ๆ
PDF
บทความ เกี่ยวกับการสอนคณิตศาสตร์
PDF
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
PDF
ครูมือใหม่
PPS
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
PPT
กระบวนทัศน์ของการออกแบบการสอนเป็นอย่างไร
PPT
การออกแบบการสอน
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
PDF
ครูมือใหม่
DOCX
นวัตกรรมทางการศึกษา
PDF
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน.2
PDF
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มคอนสตรัคติวิสต์และการออกแบบการสอน
PDF
บทคัดย่อวิจัยการใช้นวัตกรรม
PDF
สถานการณ์ Constructivist theory
PPT
นายธนศิษฎ์ ศรีเมือง 525050434-9
PPT
วิจัยเรื่องผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย การแก้ปัญห...
PPT
ทฤษฎีการออกแบบการสอน
เทคนิคการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดด้วยรูปแบบต่าง ๆ
บทความ เกี่ยวกับการสอนคณิตศาสตร์
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
ครูมือใหม่
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
กระบวนทัศน์ของการออกแบบการสอนเป็นอย่างไร
การออกแบบการสอน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
ครูมือใหม่
นวัตกรรมทางการศึกษา
เค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน.2
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มคอนสตรัคติวิสต์และการออกแบบการสอน
บทคัดย่อวิจัยการใช้นวัตกรรม
สถานการณ์ Constructivist theory
นายธนศิษฎ์ ศรีเมือง 525050434-9
วิจัยเรื่องผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย การแก้ปัญห...
ทฤษฎีการออกแบบการสอน
Ad

Viewers also liked (9)

PDF
คณิตคิดสนุก
PPT
Co op
PDF
เอกสารประกอบการเรียนการสอน
PDF
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
PDF
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบ Jigsaw
PDF
หลักการสร้างเกมส์ด้วย powerpoint design principle
PDF
PDF
เอกสารประกอบการเรียนการสอนทฤษฎีความรู้ Tok วิทยาศาสตร์ ม.1 ขึ้นเว็บไซต์
PDF
Present Perfect Tense
คณิตคิดสนุก
Co op
เอกสารประกอบการเรียนการสอน
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบ Jigsaw
หลักการสร้างเกมส์ด้วย powerpoint design principle
เอกสารประกอบการเรียนการสอนทฤษฎีความรู้ Tok วิทยาศาสตร์ ม.1 ขึ้นเว็บไซต์
Present Perfect Tense
Ad

Similar to ทฤษฎี แนวคิด เทคนิค และรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายของครูปุ๊กปิ๊ก (20)

PDF
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
PDF
เทคนิคการสอน
PDF
Constructivismใหม่j
PDF
Constructivismใหม่j
PDF
การเรียนแบบร่วมมือ
PPT
วิทยากรวิจัยชั้นเรียนสถาบันวิจัย[1].สุธาสินี
PDF
บทความการออกแบบการสอน
PDF
บทความการออกแบบการสอน
PDF
บทความการออกแบบการสอน
DOC
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
PPT
010การเรียนรู้
PDF
ความสำคัญของการคิด
PDF
Power point นำเสนองานวิจัย
PPT
PPT
การจัดการเรียนการสอน
PDF
บทความการสอนแบบเป็นทีม
DOCX
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
PDF
เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม
PDF
งานนำเสนอ..[1]
PDF
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
เทคนิคการสอน
Constructivismใหม่j
Constructivismใหม่j
การเรียนแบบร่วมมือ
วิทยากรวิจัยชั้นเรียนสถาบันวิจัย[1].สุธาสินี
บทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอน
บทความการออกแบบการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
010การเรียนรู้
ความสำคัญของการคิด
Power point นำเสนองานวิจัย
การจัดการเรียนการสอน
บทความการสอนแบบเป็นทีม
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม
งานนำเสนอ..[1]
ครูผู้ช่วย ภารกิจ

More from Jirathorn Buenglee (20)

PDF
ประกวดคำขวัญ ตราสัญลักษณ์ เพลงมาร์ช 59
PDF
โรคไข้ซิกา
PDF
การประกวดสุนทรพจน์เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย 59
PDF
ประชาสัมพันธ์สิทธิการรักษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น
PDF
ประกวดภาพยนตร์สั้น
PDF
ประกวดคลิปวีดีโอและภาพอินโฟกราฟิกเนื่องในวันความสุขสากล2559
PDF
แผนออกรับบริจาคโลหิต 2559
PDF
ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานคุมป...
PDF
Teacher For Thailand
PDF
โครงการฝึกงาน (1)
PDF
เอกสารแนะแนวทางเรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
PDF
รวมแบบประเมินก่อนและหลังใช้นวัตกรรม
PDF
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน9
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน8
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน7
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน6
PDF
คู่มือการใช้นวัตกกรม แผน5
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน4
PDF
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน3
ประกวดคำขวัญ ตราสัญลักษณ์ เพลงมาร์ช 59
โรคไข้ซิกา
การประกวดสุนทรพจน์เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย 59
ประชาสัมพันธ์สิทธิการรักษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น
ประกวดภาพยนตร์สั้น
ประกวดคลิปวีดีโอและภาพอินโฟกราฟิกเนื่องในวันความสุขสากล2559
แผนออกรับบริจาคโลหิต 2559
ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานคุมป...
Teacher For Thailand
โครงการฝึกงาน (1)
เอกสารแนะแนวทางเรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
รวมแบบประเมินก่อนและหลังใช้นวัตกรรม
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน9
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน8
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน7
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน6
คู่มือการใช้นวัตกกรม แผน5
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน4
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน3

ทฤษฎี แนวคิด เทคนิค และรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายของครูปุ๊กปิ๊ก

  • 1. ทฤษฎี แนวคิด เทคนิค และรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการคิดแบบฮิวริสติกส์ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ เน้นให้ผู้เรียนใช้การคิดโดยเชื่อมโยงสิ่งที่มีความสัมพันธ์กันให้อยู่ในลักษณะที่เป็นระบบ โดยการ สารวจหาความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างข้อมูลของสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ แนวคิดของสิ่งที่ ต้องการเรียนรู้ หรือข้อมูลของปัญหาที่ต้องการสารวจตรวจค้น โดยผู้วิจัยประยุกต์ใช้ แบบจาลองความคิดของเชฟฟิลด์ (Sheffield, 2000: 38-49, 2003: 7) มาสร้างเป็น ขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) สร้างความสัมพันธ์ (Relate) คือ ใช้ข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้เชื่อมโยงให้ สัมพันธ์กัน โดยอาจเปรียบเทียบการโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลในปัญหาใหม่ที่พบกับปัญหา เก่าที่เคยมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหานั้น แล้วพิจารณาว่าปัญหาใหม่และปัญหาเก่ามีแนวคิด ทางคณิตศาสตร์ใดที่เหมือนกัน 2) สารวจตรวจค้น (Investigate) คือ สารวจตรวจค้นปัญหา วิธีการ แก้ปัญหา หรือตรวจสอบความสัมพันธ์ต่างๆที่คิดไว้ สืบสวน คิดอย่างลึกซึ้ง และตั้ง คาถามเพื่อนาไปสู่คาตอบ/ผลลัพธ์ที่ต้องการศึกษา 3) ประเมินและติดต่อสื่อสาร (Evaluate and Communicate) คือ ประเมินสิ่งที่ค้นพบหรือประเมินคาตอบที่ได้ว่าเป็นคาตอบที่ถูกต้อง เหมาะสมกับ สถานการณ์นั้นๆหรือไม่ และสิ่งที่ค้นพบหรือคาตอบนั้นมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ อย่างไร โดยใช้การอภิปรายร่วมกับผู้อื่น 4) สร้างคาถามหรือปัญหา (Create) คือ สร้างคาถามใหม่หรือปัญหาใหม่ เพื่อใช้ในการสารวจตรวจค้นโดยพิจารณาว่ามีประเด็น คาถามหรือปัญหาใดที่ต้องการศึกษา เพิ่มเติมในหัวข้อที่กาลังสนใจ เมื่อตั้งประเด็น คาถาม หรือปัญหาใหม่ได้แล้วจึงเริ่มดาเนินการ ใหม่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งในแบบจาลองความคิด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสอบ เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมเพื่อ พัฒนานักเรียนด้านความสามารถในการคิด การแก้ปัญหา การแสวงหาความรู้ โดยให้ นักเรียนใช้กระบวนการทางความคิดในการแสวงหาความรู้ และค้นหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่ง ครูผู้สอนเป็นเพียงผู้ตั้งคาถามเป็นสื่อให้นักเรียนเกิดความคิด สืบค้น และหาคาตอบต่อปัญหา ของตนได้ ซึ่งในงานวิจัยจะพัฒนามโนทัศน์โดยจัดกระบวนการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการ สืบสอบของ Roger Bybee (2006) นักการศึกษาจากกลุ่ม BSCS (Biological Science Curriculum Study) ซึ่งมี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรียนด้วยเรื่องที่สนใจ ซึ่ง อาจเกิดขึ้นเองจากความสงสัย หรืออาจเริ่มจากความสนใจของตัวนักเรียนเอง หรือเกิดจากการ อภิปรายภายในกลุ่ม กิจกรรมประกอบด้วยการซักถามหรือใช้สื่อต่าง ๆ การทบทวนความรู้เดิม เพื่อสร้างคาถาม กาหนดประเด็นที่จะศึกษา 2) ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration) เป็นขั้นวางแผนกาหนดแนวทางการสารวจ ตรวจสอบ กาหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏิบัติเพื่อรวบรวมข้อมูล วิธีการตรวจสอบทาได้ หลายวิธี เช่น ทาการทดลอง การศึกษาหาข้อมูลจากเอกสารอ้างอิงหรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
  • 2. 3) ขั้นอธิบาย และลงข้อสรุป (Explanation) ขั้นของการอธิบายจะให้ความสาคัญ กับความสนใจ ความตั้งใจของผู้เรียนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์หรือกิจกรรม ในขั้นของการสร้างความสนใจและขั้นของการสารวจ ซึ่งนักเรียนจะแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ เกี่ยวกับมโนทัศน์ ทักษะกระบวนการ หรือพฤติกรรมต่างๆ โดยการนาข้อมูลที่ได้จากการสารวจ ตรวจ สอบมาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผล และนาเสนอผลที่ได้ในรูปต่าง ๆ เช่น บรรยายสรุป สร้างตาราง 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนาความรู้ที่สร้างขึ้นไปเชื่อมโยงกับ ความรู้เดิมหรือแนวคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติม หรือนาข้อสรุปที่ได้ไปอธิบายสถานการณ์หรือ เหตุการณ์อื่น ๆ นักเรียนสามารถพัฒนาความเข้าใจในเชิงลึก นาไปสู่ความรู้ใหม่หรือความรู้ที่ ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ประยุกต์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในเรื่องอื่นหรือสถานการณ์อื่นๆ 5) ขั้นประเมิน (Evaluation) เป็นการประเมินความเข้าใจ ความสามารถ และ ความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยกระบวนการต่าง ๆ ว่านักเรียนมีความรู้อะไรบ้าง อย่างไร มาก น้อยเพียงใด ซึ่งจะนาไปสู่การนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่น การจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ เป็นวิธีการเรียนการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนใช้ ความสามารถเฉพาะตัว และศักยภาพในตนเองร่วมมือกันแก้ปัญหาต่างๆ ให้บรรลุผลสาเร็จได้ โดยที่สมาชิกในกลุ่มตระหนักว่า แต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ดังนั้น ความสาเร็จหรือความ ล้มเหลวของกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มต้องรับผิดชอบร่วมกัน สมาชิกจะมีการพูดคุยกัน ช่วยเหลือซึ่ง กันและกัน ผู้เรียนจะได้ความรู้จากเพื่อน ทั้งนี้การจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือมีหลายรูปแบบ ข้าพเจ้าได้เลือกจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ แบบ Co-op Co-op แบบการแข่งขัน ระหว่างกลุ่มด้วยเกม (Teams – Games – Tournament : TGT) และวิธีการเรียนแบบ ร่วมมือแบบต่อบทเรียน (Jigsaw II) และการเรียนแบบร่วมมือแบบการสอนเป็นกลุ่มย่อยหรือ รายบุคคล (Team Accelerated Instruction : TAI) Co-op Co-op สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มย่อยจะได้รับมอบหมายให้ศึกษาเนื้อหาหรือทา กิจกรรมที่ต่างกัน ทาเสร็จแล้วจึงนาผลงานมารวมกันเป็นงานกลุ่ม สมาชิกอ่านทบทวน ตรวจ แก้ไขภาษา ปรับปรุง เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ แล้วนาผลงานกลุ่มเสนอต่อชั้น เรียน Slavin (1990:101) ได้กล่าวถึงขั้นตอนการเรียนว่ามี 9 ขั้นตอน ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นอภิปรายร่วมกันทั้งชั้น ขั้นที่ 2 เลือกสมาชิกและสร้างกลุ่ม ขั้นที่ 3 กลุ่มเลือกเรื่องที่จะศึกษา ขั้นที่ 4 กาหนดหัวข้อย่อย ขั้นที่ 5 การเตรียมหัวข้อย่อย ขั้นที่ 6 การนาเสนอหัวข้อย่อยภายในกลุ่ม ขั้นที่ 7 เตรียมการนาเสนอรายงานกลุ่ม ขั้นที่ 8 กลุ่มเสนอรายงาน
  • 3. ขั้นที่ 9 การประเมินผล การเรียนแบบร่วมมือแบบการแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม (Teams – Games – Tournament : TGT) John Hopkins (อ้างถึงใน Devries and Others,1980) ได้ เสนอการเรียนการสอนตามรูปแบบการแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการ สอนที่ให้ผู้เรียนได้เรียนในกลุ่มเล็กๆ คละความสามารถและเพศ มีลักษณะการเรียนรู้ ดังนี้ 1) การจัดผู้เรียนเข้ากลุ่ม โดยให้ผู้เรียนที่มีระดับความสามารถใกล้เคียงกันอยู่กลุ่ม เดียวกัน ซึ่งแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 3– 5 คน โดยสมาชิกของกลุ่มจะร่วมกันปฏิบัติ กิจกรรมตามกติกาของการจัดการเรียนการสอน ช่วยเหลือกันเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และสมาชิกทุก คนต้องพยายามทาให้ดีที่สุดเพื่อความสาเร็จร่วมกันของกลุ่ม 2) กาหนดให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบคาถามหรือโจทย์ที่ครูเตรียมไว้ให้โดยแต่ ละโต๊ะจะมีโจทย์คาถามที่มีระดับความยากง่ายไม่เหมือนกัน ตามระดับความสามารถในกลุ่มของ ผู้เรียนที่แข่งขันด้วยกันนั้น 3) จะจัดการแข่งขันกี่รอบก็ได้ แต่ละรอบจะใช้โจทย์คาถามกี่ข้อก็ได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป ปกติจะใช้เวลาในการแข่งขันรอบหนึ่งๆ ประมาณ 10 – 15 นาที การแข่งขันในแต่ละรอบจะมีการ เปลี่ยนโจทย์คาถามเป็นชุดใหม่ทุกครั้ง 4) ในการแข่งขันจะมีกติกาที่ชัดเจน และเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในแต่ละรอบจะมีการย้ายหรือ เปลี่ยนผู้เรียนไปแข่งขันยังโต๊ะอื่นๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทาโจทย์ที่เหมาะกับความสามารถของเขา มากยิ่งขึ้น 5) เมื่อแข่งขันครบทุกรอบตามที่กาหนดไว้ มีการประเมินความสาเร็จของกลุ่ม โดยการ นาคะแนนที่สมาชิกไปแข่งขันมารวมเป็นคะแนนของกลุ่ม และหาค่าเฉลี่ย กลุ่มที่มีคะแนนหรือ ค่าเฉลี่ยสูงสุดจะได้รับการยอมรับให้เป็นทีมชนะเลิศ และทีมที่ได้อันดับรองชนะเลิศลงมา หลังจากนั้นให้มีการประกาศผลการแข่งขันในที่สาธารณะ เช่น บอร์ดในชั้นเรียน บอร์ดของ โรงเรียน หรือวารสารของ โรงเรียน และมีการบันทึกสถิติไว้ด้วย วิธีการเรียนแบบร่วมมือแบบต่อบทเรียน (Jigsaw II) Elliot Aronson (1978) ได้ เสนอเทคนิคการต่อบทเรียน ซึ่งการเรียนแบบนี้ บางทีเรียกว่าการเรียนแบบต่อชิ้นส่วน หรือ การศึกษาเฉพาะส่วน การเรียนการสอนเทคนิคการต่อบทเรียน มีลักษณะการเรียนรู้ ดังนี้ 1) เป็นวิธีการที่แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม คละความสามารถและเพศ 2) ทุกกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้ทากิจกรรมเดียวกัน โดยผู้สอนให้เนื้อหา 1 เรื่อง สาหรับ 1 กลุ่ม และแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อยเท่าจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้แต่ละคนในกลุ่ม ศึกษาเฉพาะในหัวข้อนั้นๆ คนละ 1 หัวข้อ โดยผู้เรียนแต่ละคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องที่ ตนเองได้รับมอบหมาย สมาชิกที่อยู่ต่างกลุ่มที่ได้รับมอบหมายในหัวข้อเดียวกันจะร่วมกันศึกษา เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Expert Group) จากนั้นนาสิ่งที่ได้เรียนรู้ในหัวข้อของตนเองไปเสนอแก่ สมาชิกในกลุ่ม เพื่อให้เพื่อนในกลุ่มได้รู้เนื้อหาครบทุกหัวข้อ 3) หลังจากจบบทเรียนแล้วมีการทดสอบรายบุคคลตามเนื้อหาทุกหัวข้อ และนา คะแนนของสมาชิกแต่ละคนมารวมกันเป็นคะแนนกลุ่ม
  • 4. การเรียนแบบร่วมมือแบบการสอนเป็นกลุ่มย่อยหรือรายบุคคล (Team Accelerated Instruction : TAI) การเรียนการสอนตามรูปแบบ การเรียนการสอนกลุ่ม เพื่อนช่วยเหลือเพื่อนเป็นรายบุคคล เป็นการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ และการเรียนการสอน รายบุคคลเข้าด้วยกัน โดยให้นักเรียนทากิจกรรมการเรียนด้วยตนเอง ตามความสามารถจาก แบบฝึกทักษะ และส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ ตลอดจนการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เมื่อนาการเรียนการสอนกลุ่มเพื่อนช่วยเหลือเพื่อนเป็น รายบุคคล มาประยุกต์ใช้กับ e – learning มีลักษณะการเรียนรู้ ดังนี้ 1) การทดสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียนก่อนเรียน โดยทาการทดสอบแบบ ออนไลน์บน Webpage แรกๆ 2) ผู้สอนจัดกลุ่มผู้เรียน โดยกาหนดให้นักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน ทางานร่วมกัน โดยแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 4 – 5 คน 3) ผู้สอนมอบหมายงานให้ผู้เรียนศึกษาร่วมกันเป็นคู่ๆ จะเน้นการฝึกปฏิบัติ โดย ให้ผู้เรียนต่างศึกษาเอกสารของผู้สอน ตามสิ่งที่ระบุในการมอบหมายใบงาน ที่ได้แจ้งไว้บน กระดานข่าว แล้วฝึกหัดทาตาม ในเวลาเรียนผู้เรียนต้องมีความร่วมมือกัน ผู้เรียนที่เก่งจะต้อง ช่วยเหลือเพื่อนที่อ่อน ต่างตรวจสอบงานของกันและกัน เมื่อทาเสร็จแล้ว ให้ทากิจกรรมอื่นๆต่อ จนครบทุกกิจกรรมหรือหัวข้อที่ผู้สอนกาหนดไว้ และรวมตัวทางานกลุ่มร่วมกันที่เป็นการ สังเคราะห์ความรู้ทั้งหมด จากการที่ผู้เรียนได้ร่วมกันฝึกปฏิบัติกันในคู่ของตนมาก่อนแล้วนั่นเอง 4) ระหว่างที่ผู้เรียนช่วยกันเรียนกับคู่ของตนและกับสมาชิกอื่นๆในกลุ่ม ผู้สอนจะ ใช้เวลานี้นัดหมายเวลาให้ ผู้เรียนจากกลุ่มต่างๆที่มีความสามารถระดับใกล้เคียงกันมาครั้งละ 4- 6 คน เพื่อให้ความรู้เสริม ให้เหมาะกับระดับความสามารถของผู้เรียน โดยให้ความรู้เสริม ผ่านการ Chat 5) หลังจากที่ผู้เรียนได้ศึกษาด้วยตนเอง ได้เรียนร่วมกับเพื่อน ผ่านทุกจุดประสงค์ หรือทุกกิจกรรมร่วมกันทุกคน และได้เรียนจากครูเป็นกลุ่มย่อยโดยผ่านการ Chat แล้ว เมื่อจบ หน่วยการเรียน ครูจะมีการประเมินผลสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนไปทั้งหมด โดยการทดสอบรายบุคคล ซึ่งในกรณีนี้จะมีการดาเนินการบริหารการสอบ โดยจัดเป็นห้องสอบไว้โดยเฉพาะ มีผู้ดาเนินการ จัดสอบ และให้ผู้เรียนทาข้อสอบออนไลน์ และจัดส่งไฟล์ข้อสอบไปยังผู้สอนโดยตรง ภายใน ระยะเวลาการสอบที่ได้กาหนดไว้และนาคะแนนการทดสอบของนักเรียนแต่ละคนมาเฉลี่ยเป็นคะแนน ของกลุ่มต่อไป