More Related Content
พื้นฐานการเลือกสีและรหัสสี ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต (Internet Fundamental) คลื่นไมโครเวฟ (สุพิชชา มัลลิกา) 407 หลักสูตรบูรณาการ ไข่เจียว Slide share Viewers also liked (13)
Conduct disorder: causes, symptoms, diagnosis and treatment Developing retention rules that work ARQUITECTURA PALEOCRISTIANA Y BIZANTINA Semi-truck Parking - Reasons to Consider for Trucker Accommodation or Hotels Medicap Laboratories - Nutraceutical Contract Manufacturing 6 Puntos Soberania Itaipu Similar to Website D.I.Y. (20)
จุดประกาย สู่...เถ้าแก่ออนไลน์ [e-Commerce StartUP!] เคล็ดลับนักช้อปออนไลน์ ฉบับ...รู้ทันภัยไซเบอร์ e-Commerce Trend 2562 by ETDA Thailand Ecommerce Trend 2019 ฉลาดรู้เน็ต 1 ตอน internet of things ฉลาดรู้เน็ต 1 ตอน Internet of Things (IoT) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต Technology & marketing trend 2011 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ การตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (Search Engine Marketing) More from WiseKnow Thailand (20)
สุดยอดนวัตกรรมรักษา NCDs - เจาะเทคนิคป้องกัน Capital in the Twenty-First Century.pdf eBook_A_Legacy_for_All_6July2022.pdf The Age of Spiritual Machines: When Computers Exceed Human Intelligence ตำราตรวจโรคหมอสุรเกียรติ์.pdf รายงานผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2564 เอกสารการแถลงผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2564 คู่มือฉบับประชาชน กรณีรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักกันตนเอง.pdf Thailand Internet User Behavior 2020 Presentation Thailand Internet User Behavior 2020 เรียนรู้ อยู่กับฝุ่น PM2.5 Thailand Economic Monitor - Harnessing Fintech for Financial Inclusion สู่จุดจบ! | The Coming Collapse of Thailand เอกสารการแถลงผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2560 Thailand Internet User Profile 2016 เอกสารประกอบของ Thailand Internet User Profile 2016 What if the next big disruptor isn’t a what but a who? Website D.I.Y.
- 1. ETDA : e-Commerce Pocket Series
ท�ำเว็บไซต์ด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด
รวบรวมเทคนิคการท�ำเว็บไซต์
ให้ประสบความส�ำเร็จที่คุณก็ท�ำได้
- 3. 1 ใน ETDA e-Commerce Pocket Series
เราปั้นหนังสือเล่มนี้เพื่อ “เถ้าแก่ยุคไอที นักธุรกิจหน้าใหม่ SMEs/OTOP”
เลขมาตรฐานสากลประจ�ำหนังสือ ISBN 978-616-91910-6-3
สงวนลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2527
ห้ามคัดลอกเนื้อหา ภาพประกอบก่อนได้รับอนุญาต
รวมทั้งดัดแปลงเป็นแถบบันทึกเสียง วิดีโอ โทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ
พิมพ์ครั้งแรก : กันยายน 2557
สร้างสรรค์โดย
ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
อาคารเดอะไนท์ ทาวเวอร์ เลขที่ 33/4 ตึก B ชั้น 21
ถนนพระรามเก้า แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ 0-2123-1234 โทรสาร 0-2123-1200
www.etda.or.th
- 4. ก�ำหนดทิศทาง & แนะน�ำ สุรางคณา วายุภาพ (แอน)
ก�ำกับดูแล อรุณรุ่ง ธีระศักดิ์ (เอ)
สรสิช เนตรนิล (กอล์ฟ)
สรรค์สร้างเนื้อหา พายัพ ขาวเหลือง (ตั้ม)
ปริญญา สุวรรณชินกุล (เก่ง)
ทศพร โขมพัตร (โจ)
ดูประเด็นกฎหมาย พิชญลักษณ์ ค�ำทองสุก (หยี)
ดูแลกราฟิก ณัฐพงศ์ วรพิวุฒิ (เอ)
นภดล อุษณบุญศิริ (เฟรม)
ณัฐนัย รวดเร็ว (ฮอลล์)
ร่วมแรงกันท�ำ
สุรางคณา วายุภาพ
ผอ.สพธอ.
พายัพ ขาวเหลือง
ผู้จัดการ
ทีม e-Marketing
อรุณรุ่ง ธีระศักดิ์
ผู้อ�ำนวยการ
ส�ำนักส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ปริญญา สุวรรณชินกุล
ผู้จัดการ
ทีมพัฒนาธุรกิจ
สรสิช เนตรนิล
ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการ
ส�ำนักส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ทศพร โขมพัตร
Creative Content
ทีมกราฟิก
- 5. ค�ำน�ำ
“เว็บไซต์” กลายเป็นเครื่องมือหลักในการติดต่อสื่อสารของ
คนเราผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในโลกทุกวันนี้และกลายเป็นเครื่องมือ
ส�ำคัญของเจ้าของธุรกิจในการสื่อสารกับลูกค้า เพราะสามารถกระจาย
ข้อมูลข่าวสารของสินค้าหรือบริการต่างๆ ให้ออกไปได้ในวงกว้างอย่าง
รวดเร็ว ง่ายดาย ด้วยต้นทุนที่ต�่ำที่สุด ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs/
OTOP สามารถใช้ช่องทางนี้ในการน�ำธุรกิจไปสู่ความส�ำเร็จได้
หากแต่จะท�ำอย่างไรให้เว็บไซต์ประสบความส�ำเร็จนั่นหมายถึง
ความจ�ำเป็นในการออกแบบเว็บไซต์ให้ดึงดูดและน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมาย
หรือกลุ่มลูกค้า เพราะเว็บไซต์จ�ำนวนไม่น้อยที่พัฒนาโดยขาดการ
วางแผนและท�ำงานอย่างไม่เป็นระบบ เช่น การลงมือออกแบบโดยใช้
โปรแกรมส�ำเร็จรูป โดยจัดท�ำเนื้อหาและรูปแบบของเว็บไซต์ตามความคิด
ที่นึกขึ้นได้ขณะนั้นและเมื่อเห็นว่าดูดีแล้วก็เปิดตัวเลยท�ำให้เว็บไซต์นั้น
มีเป้าหมายและแนวทางที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์ที่ได้จึงเสี่ยงต่อการล้มลุก
คลุกคลานกว่าเว็บไซต์จะฮอตฮิต
- 6. “Website D.I.Y.” เป็น 1 ใน 3 ของหนังสือชุด ETDA
e-Commerce Pocket Series ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการท�ำธุรกรรมออนไลน์
เน้นกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs/OTOP ของส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
(องค์การมหาชน)(สพธอ.)หรือETDA(เอ็ทด้า)ที่จัดท�ำขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน
e-Commerceที่มีมาตรฐาน(Standard)และมั่นคงปลอดภัย(Security)เพื่อให้ผู้ที่สนใจ
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ขนาดย่อมและขนาดกลาง ทั้งกลุ่มที่ท�ำอยู่แล้ว
และกลุ่มที่คิดจะเริ่มต้น ได้น�ำไปเป็นแนวทางในการสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเอง และสามารถ
เข้าสู่ระบบการค้าออนไลน์ที่สามารถเพิ่มยอดขายหรือสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจมากขึ้น
หรือให้นักศึกษาที่ต้องการประกอบอาชีพอิสระสามารถน�ำไปประกอบธุรกิจของตนเองได้
ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดประชาคม
เศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งจะท�ำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสขยายฐานลูกค้าได้
เพิ่มขึ้นถึง 600 ล้านคน หากสามารถแสวงหาโอกาสจากช่องทางออนไลน์นี้
หนังสือเล่มนี้จะปูพื้นฐานให้รู้จักตั้งแต่วิธีการท�ำงานของเว็บไซต์ว่าต้องอาศัย
อุปกรณ์ใดบ้าง ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์โดยละเอียดที่ผู้อ่านสามารถน�ำไปปฏิบัติจริงได้
กลยุทธ์ในการสร้างเว็บไซต์ที่ดึงดูดลูกค้าและทันสมัย รวมทั้งการตั้งชื่อเว็บไซต์ให้ติดตลาด
และติดอันดับใน Search Engine ซึ่งจะเป็นส่วนส�ำคัญในการสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่
ที่สามารถพัฒนาเว็บไซต์ของตนเองได้อย่างตรงใจลูกค้าและประสบความส�ำเร็จมากที่สุด
สุรางคณา วายุภาพ
ผู้อ�ำนวยการ
ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
(องค์การมหาชน)
- 8. บทที่ 1 เวิลด์ไวด์เว็บ…ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก 8
1.1 “IoT” Internet of Things 10
1.2 กลไกของเวิลด์ไวด์เว็บ 16
1.3 อุปกรณ์พร้อม…เว็บก็พร้อม! 20
1.4 ขบวนการพัฒนาเว็บไซต์ 24
บทที่ 2 กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี 28
2.1 องค์ประกอบ 9 ด้าน...แต่งแต้มสีสันให้เว็บไซต์ 30
2.2 ท�ำเว็บสวยและดีแบบ Step by Step 42
2.3 จับกระแสเว็บดีไซน์ยุค 3.0 56
2.4 เปิดไอเดียสร้างสรรค์เว็บยุคใหม่ 62
บทที่ 3 นักพัฒนาเว็บมือใหม่…สไตล์ D.I.Y. 64
3.1 Web Template…สร้างเว็บเหมือนเสกได้ 66
3.2 e-Marketplace…ได้ทั้งเว็บได้ทั้งลูกค้า 74
3.3 CMS…โปรแกรมแต่งเว็บตามจินตนาการ 80
บทที่ 4 แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ 3.0 86
4.1 โดเมนเนม…ตั้งดีเว็บก็ดัง 89
4.2 บันไดหกขั้นปั้นเว็บให้น่าซื้อ 93
4.3 ล้วงลับปรับเว็บให้เป็นมิตรกับเสิร์ชเอนจิน 99
Appendix WEBSITE CHECKUP 60 SECONDS! 107
เกี่ยวกับ ETDA 112
Contents
- 13. WebsiteD.I.Y.
12
รูปภาพจาก www.unleashthephones.com
ดังเช่น ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ด้านการผลิต
และพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลกก็เปิดตัวโฆษณาเพื่องานมหกรรม
Super Bowl ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาอเมริกันฟุตบอล ตั้งชื่อโฆษณาว่า
Microsoft 2014 Super Bowl Commercial: Empowering โดยใช้
ประสบการณ์ของผู้พิการเป็นเครื่องมือบอกให้โลกเห็นถึงประโยชน์ของ
เทคโนโลยีซึ่งสามารถให้ความหวังเต็มเปี่ยมแก่มวลมนุษยชาติได้โฆษณา
ชิ้นนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่สามารถบอกถึงแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไอซีทีของ
โลกได้เป็นอย่างดี
กลับมาที่เมืองไทยบ้านเรา จากตัวเลขการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ล่าสุดในรายงานผลการส�ำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตใน
ประเทศไทย พ.ศ. 2557 โดย ETDA พบว่า ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต
มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ล่าสุดคนไทยใช้เวลาอยู่กับอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย
50.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 7.2 ชั่วโมงต่อวัน เทียบกับในทศวรรษก่อน
ที่ใช้เพียง 2.6 ชั่วโมงเท่านั้น โดยนิยมท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อรับส่งอีเมล
มากที่สุดรองลงมาคือการค้นหาข้อมูลต่างๆสิ่งนี้คงท�ำให้เรามองเห็นการ
เติบโตของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
- 14. บทที่1เวิลด์ไวด์เว็บ...ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก
13
พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของไทย พ.ศ. 2557
< 10 ชม. 10-20.9 ชม. 21-41.9 ชม. 42-76.9 ชม. 77-104.9 ชม. 105 ชม. ขึ้นไป
ภำพ 9 ร้อยละของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ จำแนกตำมจำนวนชั่วโมงกำรใช้
อินเทอร์เน็ตต่อสัปดำห์ ปี 2556 – 2557
ในการเปรียบเทียบจานวนชั่วโมงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในแต่ละกลุ่ม
ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ ดังแสดงในภาพ 10 พบว่า เพศชาย มีสัดส่วนการใช้
อินเทอร์เน็ตมากกว่าเพศหญิง โดยเพศชายใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 51.8 ชั่วโมงต่อ
สัปดาห์ ในขณะที่เพศหญิงใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 49.0 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และใน
35.7
25.8
10.7 11.5
7.3 9.0
13.7
19.3
16.7
20.2
16.1
13.9
0.0
5.0
10.0
15.0
20.0
25.0
30.0
35.0
40.0
< 10 ชม. 10 - 20.9 ชม.21 - 41.9 ชม.42 - 76.9 ชม.77 - 104.9 ชม.105 ชม.ขึ้นไป
2556 2557
ร้อยละ
49
ภำพ 14 ร้อยละของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ เปรียบเทียบตำมกิจกรรมกำรใช้งำน
ผ่ำนอินเทอร์เน็ตระหว่ำงอุปกรณ์เคลื่อนที่กับคอมพิวเตอร์
หมายเหตุ: ผู้ตอบสามารถเลือกตอบกิจกรรมฯ และอุปกรณ์ฯ ได้มากกว่า 1 ข้อ
จะสังเกตเห็นว่ากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทาธุรกรรมทางการเงิน
ได้แก่ การทาธุรกรรมการเงินออนไลน์, การซื้อ/ขายสินค้าและบริการ, การจอง
ตั๋ว/ซื้อตั๋วโดยสารออนไลน์ ยังคงได้รับความนิยมในการดาเนินการผ่าน
คอมพิวเตอร์สูงกว่าอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากหลายสาเหตุ เช่น
6.9
37.3
27.7
46.9
40.5
56.6
55.4
82.6
30.4
73.3
63.8
59.6
5.4
23.8
24.0
29.7
33.8
37.0
44.7
45.2
46.3
56.5
57.6
78.2
0.0 20.0 40.0 60.0 80.0 100.0
อื่นๆ
จอง/ซื้อตั๋วโดยสำรออนไลน์
ดูข้อมูลข่ำวสำรเกี่ยวกับหุ้น
ซื้อ/ขำยสินค้ำและบริกำรอื่นๆ
ทำธุรกรรมทำงกำรเงิน
ดำวน์โหลดซอฟต์แวร์/เพลง/
ละคร/เกม
ดูโทรทัศน์/ดูภำพยนตร์/ฟังวิทยุ
ออนไลน์
รับ-ส่งอีเมล
เล่นเกมออนไลน์
ค้นหำข้อมูล
อ่ำน/ติดตำมข่ำวสำร/อ่ำน
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
กำรใช้งำนเครือข่ำยสังคม
ออนไลน์
อุปกรณ์เคลื่อนที่
คอมพิวเตอร์
ร้อยละ
49
- 15. WebsiteD.I.Y.
14
Internet of Things : IoT (อ้างอิงข้อมูลจาก www.ams-ix.net)
ด้วยพัฒนาการของเวิลด์ไวด์เว็บที่มีอย่างต่อเนื่อง ที่สามารถ
เพิ่มขีดความสามารถด้านการน�ำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตมายังจอคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ท�ำให้การสื่อสารบน
อินเทอร์เน็ตมีประสิทธิภาพ ด้วยภาพและเสียงที่มีสีสันชวนติดตาม
มีการแสดงข้อมูลสื่อประสมที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้(Interactive
Multimedia) ท�ำให้ปัจจุบัน “เวิลด์ไวด์เว็บ” กลายเป็นเครื่องมือหลัก
ในการติดต่อสื่อสารและน�ำเสนอผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่นิยม
ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก จนมีส�ำนวนที่นิยมพูดกันว่า“Internet of
Things : IoT” คือ อินเทอร์เน็ตจะครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของ
มวลมนุษยชาตินั่นเอง
สรุปประโยชน์
ของอินเทอร์เน็ต
- 16. บทที่1เวิลด์ไวด์เว็บ...ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก
15
1. ด้านการศึกษา บริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่ส�ำคัญคือ
การค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีเว็บไซต์ที่ให้
บริการค้นหาข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการมากมาย เช่น
www.google.com ดังนั้น นักเรียน นักศึกษา
และบุคคลทั่วไป สามารถใช้ประโยชน์จากการ
ค้นหาข้อมูลนี้เพื่อใช้ในการค้นคว้าข้อมูล
นอกห้องเรียน ซึ่งถือได้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็น
แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดส�ำหรับค้นคว้าเพื่อ
การศึกษาและวิจัยเลยทีเดียว
2. ด้านการพาณิชย์ หลายคนคงมีประสบการณ์กับการ “ช้อปปิ้ง
ออนไลน์” หรือ e-Commerce ซึ่งการซื้อขาย
สินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตถือเป็นตัวอย่างประโยชน์
ของอินเทอร์เน็ตในเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจนที่สุด
เราสามารถสั่งสินค้าออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทาง
ไปที่ร้านค้าจริง โดยกระบวนการสั่งซื้อและ
ช�ำระเงินสามารถท�ำผ่านเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา
3. ด้านความบันเทิง สื่อด้านความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นเพลงวิดีโอหรือ
เกม สามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต
เช่น เราสามารถดูทีวีออนไลน์ หรือชมการ
ถ่ายทอดสดต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ รวมทั้ง
เกมออนไลน์ที่มีอยู่มากมายบนอินเทอร์เน็ต
- 17. WebsiteD.I.Y.
16
เวิลด์ไวด์เว็บนั้นมีการท�ำงานอยู่สองฝั่ง ได้แก่ 1) เครื่อง
คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้(Client)และ2)เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายหรือ
ที่มักเรียกกันว่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์(Server)โดยในฝั่งเครื่องคอมพิวเตอร์
ของผู้ใช้นั้นจะเป็นรูปแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
(Desktop)คอมพิวเตอร์แบบพกพา(Notebook/Laptop)สมาร์ตโฟน
(Smartphone) รวมทั้งแท็บเล็ต (Tablet) ขอเพียงแค่คอมพิวเตอร์
เหล่านั้นสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและติดตั้งโปรแกรม
เพื่อใช้งานเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่าเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser)
ก็เพียงพอแล้วแต่ส�ำหรับฝั่งเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้นจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่
ท�ำหน้าที่ให้ข้อมูลตามที่เครื่องของผู้ใช้ร้องขอซึ่งต้องท�ำงานตลอดเวลา
ท�ำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็นคอมพิวเตอร์แม่ข่ายต้องเป็นเครื่อง
ที่มีประสิทธิภาพพอสมควร และแน่นอนว่าจะต้องเชื่อมต่ออยู่กับ
อินเทอร์เน็ตเช่นกัน รวมทั้งยังต้องติดตั้ง
โปรแกรมเฉพาะเพื่อให้คอมพิวเตอร์
เครื่องนั้นท�ำหน้าที่เป็นเครื่อง
เซิร์ฟเวอร์ได้อีกด้วย
1.2 กลไก
ของเวิลด์ไวด์เว็บ
- 18. บทที่1เวิลด์ไวด์เว็บ...ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก
17
วิธีการท�ำงานของระบบเวิลด์ไวด์เว็บ
วิธีการท�ำงานของ
World Wide Web
www.abc.com
ISP
1 2
3
1)ผู้ใช้ท�ำการป้อนที่อยู่เว็บไซต์หรือURL(เช่นwww.abc.com)
ที่โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (เช่น Internet Explorer, Google Chrome
หรือ Mozilla Firefox)
2) หลังจากนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ก็จะท�ำงานร่วมกับ
ระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาว่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ที่ต้องการนั้น
ตั้งอยู่ที่ใดในโลกใบนี้ เมื่อค้นหาได้แล้วก็จะท�ำการร้องขอหน้าเว็บไปยัง
เครื่องเซิร์ฟเวอร์เครื่องนั้น
3)เครื่องเซิร์ฟเวอร์เมื่อได้รับค�ำร้องขอแล้วก็จะส่งข้อมูลหน้าเว็บ
ที่ต้องการกลับไปยังโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ของเครื่องผู้ใช้เพื่อท�ำการ
แสดงผลออกมา
- 20. บทที่1เวิลด์ไวด์เว็บ...ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก
19
ตัวอย่างเว็บไซต์แบบ Dynamic
2) เว็บไซต์ที่ท�ำหน้าที่เสมือนโปรแกรม (Web
Application หรือ Dynamic Web) เป็นเว็บที่ผู้ใช้สามารถ
โต้ตอบกับเว็บได้โดยผู้ใช้อาจจะกรอกข้อมูลบางอย่างแล้วเว็บ
ก็ท�ำการประมวลผลข้อมูลนั้นๆ เช่น การซื้อขายแบบมีตะกร้า
สินค้าที่สามารถคลิกสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์และช�ำระเงินออนไลน์
(เช่น www.tohome.com) เว็บไซต์รูปแบบนี้จะมีความ
หลากหลายและสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างไรก็ตามผู้ที่ต้องการ
พัฒนาเว็บลักษณะนี้ต้องมีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับ
ระบบคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตพอสมควร เนื่องจากมี
ขั้นตอนการจัดการและต้องดูแลมากกว่า Static Web
- 21. WebsiteD.I.Y.
20
ตัวอย่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ PC / Mobile / Tablet
จากหัวข้อที่ผ่านมาเราได้ท�ำความรู้จักกับวิธีการ
ท�ำงานของเว็บไซต์ ซึ่งในการท�ำงานดังกล่าวต้องอาศัย
อุปกรณ์ Software และ Hardware ที่จ�ำเป็นแบ่งเป็น
2 ด้านคือ ผู้ใช้งาน และผู้พัฒนาเว็บ ดังนี้
1) Software และ Hardware ของผู้ใช้
คอมพิวเตอร์:เครื่องคอมพิวเตอร์ส�ำหรับผู้ใช้
หรือในเชิงเทคนิคจะเรียกกันว่าเครื่อง Client นั้น เป็น
คอมพิวเตอร์ทั่วไปที่สามารถเชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ต
และมีโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน
ระบบเว็บได้
1.3 อุปกรณ์พร้อม...
เว็บก็พร้อม!
- 23. WebsiteD.I.Y.
22
2) Software และ Hardware ของผู้พัฒนาเว็บ
คอมพิวเตอร์แม่ข่าย:หรือเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นคอมพิวเตอร์
ที่ท�ำหน้าที่ให้ข้อมูลตามที่ผู้ใช้ร้องขอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าเว็บ รูปภาพ เสียง
เพลง หรือวิดีโอ โดยปกติแล้วการเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายนั้น
จะต้องมีการระบุที่อยู่เว็บ (URL) ซึ่งอยู่ในรูปแบบ www.aaa.bbb โดย
wwwหมายถึงเวิลด์ไวด์เว็บaaaคือชื่อเว็บไซต์และbbbคือโดเมนของ
เว็บไซต์ ซึ่งที่อยู่เว็บไซต์จะต้องถูกเปลี่ยนเป็นที่อยู่ไอพี (IP Address) ซึ่ง
เป็นหมายเลขที่อยู่ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์โดยเครื่องDNS(DomainName
Server) ซึ่งเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์อีกเครื่องหนึ่งที่ท�ำหน้าที่เปลี่ยน
ที่อยู่เว็บเป็นที่อยู่ไอพีนั่นคือหากผู้พัฒนาเว็บสามารถติดตั้ง
เครื่องเซิร์ฟเวอร์ของตนเองเพื่อให้บริการเว็บไซต์ของ
ตนเอง และมีที่อยู่เว็บรวมทั้งที่อยู่ไอพีที่แน่นอน
อีกทั้งสามารถติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อท�ำหน้าที่
เป็นDNSได้แล้วก็จะสามารถให้บริการเว็บไซต์ของตน
ได้ทันที แต่ในทางปฏิบัติ การติดตั้งระบบเหล่านี้
มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและต้องอาศัยใช้ความรู้เฉพาะทาง
ดังนั้น จึงมีผู้ให้บริการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ส�ำหรับการให้
บริการเว็บโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Web Hosting นั่นเอง
ท�ำให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ไม่จ�ำเป็นต้องติดตั้งระบบต่างๆเหล่านี้เองเพียงแค่
ท�ำการสร้างเว็บและน�ำไปวางไว้ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ของ Web Hosting
เหล่านั้นแทน
ช่องทางการสื่อสาร:คือสื่อกลางที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์
ของผู้ใช้ติดต่อไปผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้
ตัวอย่างของช่องทางการสื่อสารที่เราคุ้นเคยกันก็คือ WiFi และระบบ 3G
ที่มีให้บริการอยู่ในปัจจุบันอย่างทั่วถึง ช่องทางการสื่อสารรูปแบบนี้
เป็นแบบไร้สายคือเราสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาแต่ก็ยังมี
ช่องทางการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งคือ รูปแบบที่พึ่งพาสายเคเบิลต่างๆ
ซึ่งจะมีความเร็วกว่าการสื่อสารแบบไร้สาย
- 24. บทที่1เวิลด์ไวด์เว็บ...ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก
23
ระบบปฏิบัติการส�ำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ : เมื่อกล่าวถึงเรื่อง
ระบบปฏิบัติการ (Operation System : OS) ก็คือ โปรแกรมที่ต้องติดตั้ง
ลงบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องเสมือนเป็นโปรแกรมหลักที่คอยดูแลการท�ำงาน
ของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ในแง่ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้อง
มีระบบปฏิบัติการที่จ�ำเพาะเนื่องจากต้องมีความสามารถในการจัดการ
ที่ซับซ้อนกว่าคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน โดยในทางปฏิบัติ หากผู้พัฒนาเว็บ
เลือกใช้บริการ Web Hosting แล้ว ก็ไม่จ�ำเป็นต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการ
ส�ำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ด้วยตนเองแต่อย่างใด
โปรแกรมที่ใช้พัฒนาเว็บ : ผู้พัฒนาเว็บสามารถพัฒนาเว็บ
โดยโปรแกรมใดๆ ก็ได้ที่สามารถพิมพ์ข้อความตัวอักษรได้ ทั้งนี้ การพัฒนา
เว็บไซต์ต้องสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างภาษาพิเศษที่มีไว้เฉพาะการท�ำเว็บไซต์
ที่เรียกว่า HTML อย่างไรก็ตาม มีผู้พัฒนาบางโปรแกรมที่มีความสามารถ
ช่วยเหลือในการเขียนแฟ้มข้อมูลเว็บในรูปแบบ HTML ได้อย่างเช่น Adobe
Dreamweaverนอกจากนี้ยังมีโปรแกรมรูปแบบอื่นๆที่ช่วยให้ผู้พัฒนาเว็บ
สามารถสร้างเว็บของตนเองได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเลย เช่น
โปรแกรมในรูปแบบ CMS (Content Management System) ที่เพียง
ผู้พัฒนาเว็บท�ำการติดตั้ง CMS บนเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์และ
ปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลตามที่ต้องการ ก็จะสามารถให้บริการเว็บไซต์
ได้โดยง่าย
ตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้พัฒนาเว็บในรูปแบบ CMS
- 26. บทที่1เวิลด์ไวด์เว็บ...ใยแมงมุมมัดใจคนทั้งโลก
25
1) ก�ำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ ถือเป็นขั้นตอนส�ำคัญของ
การพัฒนาเว็บ เพราะหากสามารถก�ำหนดวัตถุประสงค์ได้อย่างชัดเจน
ก็จะน�ำมาซึ่งการก�ำหนดคุณสมบัติของเว็บไซต์รวมทั้งรูปแบบและเนื้อหา
ภายในเว็บที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
2) รวบรวมข้อมูลเพื่อน�ำเสนอบนเว็บไซต์ เช่น รูปภาพและ
รายละเอียดสินค้า ข้อมูลร้านค้า ข้อมูลการติดต่อ รวมทั้งแผนที่ร้านค้า
3) ก�ำหนดรูปแบบเว็บไซต์ โดยผู้พัฒนาเว็บควรออกแบบ
การแสดงผลให้เหมาะสมกับเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายซึ่งเนื้อหาในบทต่อไป
จะได้แนะน�ำถึงเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีส�ำหรับการค้าขายออนไลน์
โดยเฉพาะ
1. ก�ำหนดวัตถุประสงค์
2. รวบรวมข้อมูล
3. ก�ำหนดรูปแบบเว็บไซต์
4. สร้างแฟ้มข้อมูล
5. บันทึกข้อมูลเครื่องแม่ข่าย
ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์
- 27. WebsiteD.I.Y.
26
4) สร้างแฟ้มข้อมูล โดยหากต้องการพัฒนาเว็บในรูปแบบ
Static ต้องสร้างแฟ้มข้อมูลแบบ HTML แต่หากพัฒนาเว็บในรูปแบบ
Dynamic ต้องพัฒนาแฟ้มข้อมูลที่มีการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม (เช่น
แฟ้มข้อมูล PHP) โดยขั้นตอนนี้อาจเป็นสิ่งยุ่งยากที่สุดในการพัฒนา
เว็บไซต์ โดยเฉพาะผู้ไม่มีความรู้ด้านภาษา HTML หรือการเขียน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาก่อน ซึ่งในกรณีนี้สามารถใช้ทางเลือกอื่น
ในการพัฒนาเว็บไซต์แทนได้เช่นโปรแกรมประเภทWYSIWYGที่อนุญาต
ให้ผู้พัฒนาสามารถพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ และสามารถจัด
รูปแบบการแสดงผลต่างๆได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาHTMLเลย
หรืออาจเลือกใช้โปรแกรมประเภท CMS ที่ผู้พัฒนาเว็บสามารถติดตั้ง
เว็บไซต์ได้โดยใช้เวลาไม่นาน โดยเนื้อหาในบทที่ 3 จะได้แนะน�ำถึงวิธี
พัฒนาเว็บไซต์ที่ไม่จ�ำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับภาษา HTML
5) บันทึกข้อมูลเว็บยังเครื่องแม่ข่าย ขั้นตอนสุดท้ายคือ
การน�ำแฟ้มข้อมูลเว็บ (HTML, PHP หรือแฟ้มอื่นๆ) ไปบันทึกไว้ที่
เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ซึ่งดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการติดตั้งเครื่อง
คอมพิวเตอร์แม่ข่ายเองนั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ดังนั้น ในทางปฏิบัติ
จึงควรใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย หรือ Web Hosting
ซึ่งจะมีขั้นตอนที่ง่ายกว่า โดยอาจแบ่งการให้บริการ Web Hosting
เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
- 31. WebsiteD.I.Y.
30
จากการรวบรวมข้อมูลการใช้ไอซีที
ของไทยในปี 2013 พบว่า คนไทยกว่า
26 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 40
ของประชากรทั้งหมดสามารถเข้าถึง
อินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวเลข
ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ การเปิดใช้
บริการหมายเลขโทรศัพท์มือถือมีสูงกว่า
93.8ล้านเลขหมายในขณะที่ประชากรไทย
มีเพียง 64 ล้านคนเท่านั้น นั่นจึงแสดงให้เห็นว่า
“คนไทยบางส่วนใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าคนละ
เครื่องกันแล้วนั่นเอง”
2.1 องค์ประกอบ 9 ด้าน...
แต่งแต้มสีสันให้เว็บไซต์
ข้อมูลการใช้ไอซีทีของไทยปี 2013
อ้างอิงข้อมูลจาก
* กรมการปกครอง (www.dopa.go.th)
** ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (www.nectec.or.th)
*** ส�ำนักงาน กสทช. (www.nbtc.go.th)
- 34. 33
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
(1)ความเรียบง่าย:การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีควรท�ำให้ผู้เข้าชม
สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้โดยง่าย เพราะมักจะพบเสมอว่าผู้พัฒนา
เว็บต้องการน�ำเสนอข้อมูลต่างๆ มากมายโดยไม่นึกถึงผู้ชม ดังนั้น การจ�ำกัด
องค์ประกอบเสริมให้เหลือเฉพาะองค์ประกอบหลักจะท�ำให้เว็บไซต์มีความ
เรียบง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น กล่าวคือ การสื่อสารข้อมูลเชิงเนื้อหานั้น ควร
เลือกสิ่งที่ต้องการน�ำเสนอจริงๆ ในส่วนของภาพกราฟิก สีสัน ตัวอักษรและ
ภาพเคลื่อนไหว ก็ควรเลือกให้พอเหมาะ เพราะหากมีมากเกินไปจะรบกวน
สายตาและสร้างความร�ำคาญต่อผู้ใช้ได้ ลองเปรียบเทียบเว็บไซต์ในรูปที่ 1
และ 2 จะเห็นได้ว่ารูปที่ 1 มีความเรียบง่ายและน่าใช้งานมากกว่า มีข้อมูล
และรูปภาพที่เห็นแล้วเข้าใจง่ายในครั้งแรกที่มองเห็น ในขณะที่เว็บไซต์รูปที่
2 จะเน้นข้อมูลที่เป็นข้อความเป็นหลัก แม้ว่าเว็บไซต์นี้จะเน้นเรื่องของข้อมูล
แต่การเรียบเรียงหรือการจัดวางข้อมูลต่างๆก็สามารถออกแบบให้ดูเรียบง่าย
กว่านี้ได้ “ขอให้จดจ�ำไว้ว่า ความเรียบง่ายไม่ได้หมายความว่าไม่มี แต่คือ
มีให้พอเหมาะพอควร” เช่น หากต้องการเน้นข้อมูลเป็นแบบข้อความจริงๆ
อาจจะท�ำเป็นลิงก์เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจอื่นๆ เพื่อแยกส่วนข้อความ
ไปอีกหน้าหนึ่ง ท�ำให้หน้าเว็บดูไม่รกจนเกินไป
รูปที่ 1 การออกแบบเว็บไซต์ของ www.apple.com
- 35. WebsiteD.I.Y.
34
(2) ความสม�่ำเสมอ : คือ การสร้างความสม�่ำเสมอ
ให้เกิดขึ้นตลอดทั้งเว็บไซต์ โดยอาจเลือกใช้รูปแบบเดียวกันตลอด
ทั้งเว็บก็ได้ เพราะถ้าหากว่าแต่ละหน้าของเว็บมีความแตกต่างกัน
มากเกินไป อาจท�ำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนและไม่แน่ใจว่าก�ำลังอยู่
ในเว็บไซต์เดิมหรือไม่ เพราะฉะนั้นการออกแบบเว็บไซต์แต่ละหน้า
ควรมีรูปแบบ สไตล์ของกราฟิก ตัวอักษร เมนูต่างๆ รวมทั้งระบบ
เนวิเกชัน (Navigation) และโทนสีที่มีความคล้ายคลึงกันตลอด
ทั้งเว็บ ตัวอย่างของความสม�่ำเสมอนี้สามารถทดลองเข้าไปที่เว็บไซต์
www.apple.com ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการออกแบบอย่างสม�่ำเสมอ
ในลักษณะเดียวกันทุกหน้าเว็บเพจ
รูปที่ 2 การออกแบบเว็บไซต์ของ www.moi.go.th
- 36. 35
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
(3) ความเป็นเอกลักษณ์ : สิ่งที่เราควรให้ความส�ำคัญเรื่อง
การออกแบบเว็บไซต์อีกประการหนึ่งก็คือ ตัวตนของธุรกิจ หรือ Corporate
Identity (คอร์เปอเรท ไอเดนติตี้) เนื่องจากเว็บไซต์เป็นสื่อที่สามารถสะท้อนถึง
เอกลักษณ์ของธุรกิจต่อผู้ใช้งานเว็บได้ ดังนั้น การเลือกใช้ตัวอักษร ชุดสี รูปภาพ
หรือกราฟิกต่างๆ ล้วนส่งผลต่อรูปแบบของเว็บไซต์เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น
ในธุรกิจธนาคารที่ตัวตนธุรกิจคือการแสดงถึงความน่าเชื่อถือ หากออกแบบ
เว็บไซต์โดยเลือกใช้สีสันฉูดฉาดและมีภาพกราฟิกมากมาย อาจท�ำให้ผู้ชมคิดว่า
เป็นเว็บไซต์สวนสนุกซึ่งย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจได้ในที่สุดตัวอย่าง
เว็บไซต์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (www.chula.ac.th) ซึ่งทุกคนทราบดีว่า
สีประจ�ำมหาวิทยาลัยคือสีชมพู เว็บไซต์นี้ก็เลือกใช้โทนสีชมพูเพื่อให้เป็น
เอกลักษณ์และตรงกับสัญลักษณ์ขององค์กร
หน้าหลัก (Homepage)
ตัวอย่างการออกแบบเว็บไซต์ที่มีความสม�่ำเสมอของ www.apple.com
หน้าสินค้า (Product)
- 37. WebsiteD.I.Y.
36
(4) เนื้อหา : เนื้อหาบนเว็บไซต์หรือ
ที่นิยมเรียกกันว่า Content ถือเป็นสิ่งส�ำคัญ
ที่สุดของเว็บไซต์ เนื้อหาที่น�ำเสนอบนเว็บไซต์
ต้องสมบูรณ์และควรปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ผู้พัฒนาต้องเตรียมข้อมูลและเนื้อหาที่ตรงกับ
กลุ่มเป้าหมายที่ส�ำคัญคือ ควรเป็นข้อมูลที่สดใหม่
ไม่ซ�้ำใคร เพราะเนื้อหาเหล่านี้จะถือเป็นจุดขาย
ที่สามารถดึงดูดผู้ใช้ให้มาเข้าเยี่ยมชมเว็บ
อย่างสม�่ำเสมอ เช่น www.lazada.co.th เว็บไซต์
ขายสินค้าออนไลน์ ที่มีการจัดโปรโมชันลดราคา
สินค้าตลอดเวลา ท�ำให้ผู้เยี่ยมชมต้องหมั่นเข้าชม
เพื่อซื้อสินค้าในราคาพิเศษ
ตัวอย่างการออกแบบเว็บไซต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของ
www.chula.ac.th
ตัวอย่างการออกแบบเนื้อหาเว็บไซต์ของ
www.lazada.co.th
- 38. 37
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
(5) ความง่ายของเมนูต่างๆ : เป็นส่วนประกอบที่มีความส�ำคัญ
ต่อเว็บไซต์มากเช่นกัน เปรียบเสมือนป้ายบอกทางที่ช่วยไม่ให้เกิดความสับสน
ระหว่างการเยี่ยมชมเว็บดังนั้นการออกแบบระบบเนวิเกชัน (Navigation) และ
เมนูต่างๆ จึงควรให้เข้าใจง่าย ใช้งานได้สะดวกถ้ามีการใช้กราฟิกก็ควรเป็นภาพ
ที่สื่อความหมายรวมทั้งต�ำแหน่งเนวิเกชันก็ควรจัดวางให้สม�่ำเสมอเช่นอยู่ต�ำแหน่ง
บนสุดของทุกหน้า เป็นต้น ซึ่งถ้าจะให้ดี เมื่อมีเนวิเกชันที่เป็นกราฟิกก็ควรเพิ่ม
ระบบเนวิเกชันที่เป็นตัวอักษรไว้ส่วนล่างด้วย เพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้
ที่ยกเลิกการแสดงผลภาพกราฟิกบนเว็บเบราว์เซอร์เช่นwww.officemate.co.th
เว็บไซต์จ�ำหน่ายเครื่องเขียนและเครื่องใช้ส�ำนักงานออนไลน์ มีการออกแบบเมนู
การใช้งาน และระบบเนวิเกชันด้วยภาพกราฟิกที่เข้าใจง่าย ท�ำให้ผู้ใช้สามารถ
เข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างการออกแบบระบบเนวิเกชันของ
www.officemate.co.th
- 40. 39
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
(7) ความสะดวกของการใช้งานในสภาพต่างๆ :
การใช้งานของเว็บไซต์นั้นไม่ควรมีข้อจ�ำกัดกล่าวคือต้องสามารถใช้งานได้ดี
ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่มีการบังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรม
อื่นใดเพิ่มเติมนอกจากเว็บเบราว์เซอร์ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ที่พัฒนาด้วยAdobe
Flash อาจจะไม่สามารถแสดงผลได้หากผู้ใช้ไม่ติดตั้ง Adobe Flash Player
ดังรูปด้านล่างนอกจากนี้การออกแบบเว็บไซต์ก็ควรแสดงผลได้ดีในทุกระบบ
ปฏิบัติการ ทุกความละเอียดหน้าจอ ซึ่งหากเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้บริการมาก
และกลุ่มเป้าหมายหลากหลายควรให้ความส�ำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ
ตัวอย่างเช่น www.facebook.com สังเกตว่าถ้าเราเปิดในคอมพิวเตอร์
จะเห็นหน้าเว็บรูปแบบหนึ่งแต่เมื่อเปิดผ่านSmartphoneหรือTabletจะมี
หน้าตาอีกรูปแบบหนึ่งที่เหมาะกับอุปกรณ์เหล่านี้
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่พัฒนาด้วย Adobe Flash
จะแสดงผลไม่ได้หากผู้ใช้งานไม่ติดตั้ง Adobe Flash Player
การออกแบบเว็บไซต์ที่แสดงผลตามลักษณะของอุปกรณ์ที่ต่างกันของ
www.facebook.com
Adobe Flash Player 10 is required to
playback video from this web page
- 41. WebsiteD.I.Y.
40
(8) ความถี่ในการออกแบบ : ถ้าต้องการ
ให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าเว็บไซต์มีคุณภาพ ถูกต้อง และเชื่อถือได้
ควรหมั่นปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดูทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งสามารถ
ท�ำได้ 2 ลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่ 1) การปรับปรุงเนื้อหา
การปรับปรุงข้อมูลสินค้าให้ทันสมัย เช่น ราคาสินค้า รูปภาพ
สินค้า คุณลักษณะของสินค้า รวมไปถึงการจัดโปรโมชัน หรือ
กิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างสม�่ำเสมอและ2)การปรับปรุง
การออกแบบเว็บไซต์ อาจวางแผนการ Re-Design เว็บไซต์
เป็นประจ�ำทุก 6 - 12 เดือน เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไม่เบื่อ
(9) เสถียรภาพของเว็บไซต์ : ควรหมั่น
ตรวจสอบการท�ำงานของระบบการท�ำงานต่างๆภายในเว็บไซต์
อย่างสม�่ำเสมอ ตัวอย่างเช่น ลิงก์เชื่อมโยงต่างๆ เพราะปัญหา
ที่อาจเกิดขึ้นคือ ลิงก์ขาด ท�ำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงไปยังลิงก์
ปลายทางได้ ซึ่งหากผู้ชมท�ำการคลิกลิงก์ดังกล่าวจะแสดง
ข้อความผิดพลาด สร้างความร�ำคาญเป็นอย่างมาก และยัง
ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์อีกด้วย
ข้อความผิดพลาดเมื่อคลิกลิงก์ที่มีปัญหา
การเชื่อมโยง
- 46. 45
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
(1) ก�ำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ : ขั้นตอนแรกของ
การออกแบบเว็บไซต์คือ การก�ำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ให้ชัดเจน
เสียก่อน โดยทั่วไปมักจะเข้าใจว่าการท�ำเว็บไซต์มีจุดมุ่งหมายเพื่อบริการ
ข้อมูลของหน่วยงานหรือองค์กรเท่านั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วแต่ละเว็บไซต์
จะมีเป้าหมายแตกต่างกันไป เช่น ท�ำเว็บไซต์มาเพื่อประชาสัมพันธ์ร้านค้า
จะได้เป็นการเพิ่มยอดขายท�ำให้ลูกค้ารู้จักร้านค้ามากยิ่งขึ้น หรือท�ำเว็บไซต์
เพื่อเพิ่มช่องทางการสั่งสินค้าให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องเดินทาง
มาที่ร้านค้า กล่าวโดยสรุป วัตถุประสงค์ในการสร้างเว็บไซต์มี ดังนี้
ขายสินค้า/บริการ
น�ำเสนอข้อมูลสินค้า/บริการ
สร้างภาพลักษณ์องค์กร
เพิ่มช่องทางการติดต่อกับลูกค้า
สร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์
เพื่อความบันเทิง
(2) การก�ำหนดกลุ่มเป้าหมาย : ผู้ออกแบบเว็บไซต์
ควรทราบถึงกลุ่มผู้ใช้เป้าหมายที่จะเข้ามาใช้บริการเว็บไซต์ เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจนเช่นกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์เกี่ยวกับ
เครื่องส�ำอางคือ ผู้หญิงวัยรุ่นและวัยท�ำงาน
- 47. WebsiteD.I.Y.
46
(3) การก�ำหนดสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจากเว็บ :หลังจากที่
ก�ำหนดวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์แล้ว ล�ำดับต่อไปคือ
การออกแบบเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้ได้นานที่สุด โดยทั่วไปแล้ว
สิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังจากการเข้าชมเว็บไซต์หนึ่งๆ ได้แก่ ข้อมูลที่น่าสนใจและ
เป็นประโยชน์ หรือความบันเทิงต่างๆ แต่ส�ำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซนั้น
อาจมีสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การจัดโปรโมชันส่งเสริมการตลาด วิธีการ
จัดส่งสินค้า การคืนสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพและการรีวิวสินค้าโดยลูกค้า
คนอื่นๆ
(4) การก�ำหนดข้อมูลหลักที่ควรมีบนเว็บไซต์ :
เมื่อเราทราบถึงสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการเมื่อเข้าชมเว็บไซต์แล้ว ก็ควรออกแบบให้มี
ข้อมูลเหล่านั้นโดยจัดกลุ่มเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คาดหวังจะได้รับเมื่อเข้าชม
เว็บไซต์ เช่น
ข้อมูลสินค้า/บริการ
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
ข่าวความคืบหน้า
ค�ำถามที่ถามบ่อยหรือค�ำถามยอดนิยม
ข้อมูลการติดต่อ
- 49. WebsiteD.I.Y.
48
ส�ำหรับวิธีการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์สามารถท�ำโดยวาดแผนภูมิต้นไม้เช่น
รูปตัวอย่าง ซึ่งเป็นการออกแบบเว็บไซต์สื่อการเรียนการสอนออนไลน์ จะเห็นได้ว่า
มีหน้าหลักคือหน้า “บทเรียนหลัก” ซึ่งจะมีลิงก์ไปยังหน้าอื่นๆ อีก 8 หน้า โดยในหน้า
เข้าสู่บทเรียนก็จะมีการเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ อีก การออกแบบลักษณะนี้จะท�ำให้
มองเห็นโครงสร้างภาพรวมทั้งหมดของเว็บไซต์ และท�ำให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นไปได้
ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การจัดโครงสร้างเว็บไซต์สามารถท�ำได้หลายวิธี แต่ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 แบบ
คือ การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ตามกลุ่มเนื้อหา และตามกลุ่มผู้ชม
1) จัดตามกลุ่มเนื้อหา (Content-based Structure)
เป็นรูปแบบการจัดวางโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นส่วนๆ ตามเนื้อหาของเว็บ เช่น
หากต้องการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ อาจจะแบ่งเนื้อหาตามประเภทสินค้า หรือตาม
ราคา เป็นต้น ดังเช่น www.tohome.com เป็นตัวอย่างของการออกแบบโครงสร้าง
ตามกลุ่มเนื้อหา โดยแบ่งเว็บไซต์เป็นกลุ่มๆ ตามประเภทของสินค้า
การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์โดยใช้แผนภูมิต้นไม้
- 50. 49
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
2) จัดตามกลุ่มผู้ชม (User-based Structure) เป็นรูปแบบการ
จัดโครงสร้างของเว็บไซต์ตามสิทธิการเข้าใช้งาน หรือตามความสนใจของผู้ใช้ เช่น ผู้ใช้งาน
ที่เป็นสมาชิกของเว็บจะได้รับข้อมูลมากกว่าผู้ใช้งานทั่วไปหรือโครงสร้างข้อมูลต่างๆในเว็บ
อาจจะแตกต่างกันตามเพศ อายุ หรือความสนใจของผู้ใช้ก็ได้ ดังเช่น www.amazon.com
เป็นตัวอย่างของการออกแบบโครงสร้างตามกลุ่มผู้ชมโดยภาพบนจะเห็นว่าก่อนเข้าสู่ระบบ
นั้นจะเป็นหน้าเว็บที่แสดงสินค้าประเภทภาพยนตร์ แต่หลังจากล็อกอินเข้าสู่ระบบแล้ว
จะเปลี่ยนไปแสดงสินค้าประเภทอื่นซึ่งเป็นสินค้าที่ผู้ใช้งานนั้นเคยซื้อมาก่อน
ก่อนล็อกอินเข้าสู่ระบบ หลังล็อกอินเข้าสู่ระบบ
การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์
จัดตามกลุ่มผู้ชมของ www.amazon.com
การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์
จัดตามกลุ่มเนื้อหาของ www.tohome.com
- 51. WebsiteD.I.Y.
50
ส�ำหรับการเชื่อมโยงหน้าเว็บต่างๆนั้นสามารถก�ำหนดรูปแบบการเชื่อมโยง
ในเว็บได้ 3 รูปแบบด้วยกันคือ
1) แบบเรียงล�ำดับ(Sequence)เป็นการเชื่อมโยงเนื้อหาในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งาน
จะต้องอ่านทีละหน้าเพื่อรับข้อมูลเป็นล�ำดับๆ ไป การออกแบบเว็บนี้เหมาะส�ำหรับ
เว็บไซต์ที่มีจ�ำนวนเว็บเพจไม่มากหรือเว็บไซต์ที่จ�ำเป็นต้องน�ำเสนอข้อมูลแบบทีละขั้นตอน
เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับคู่มือการใช้งานที่ต้องอ่านทีละขั้นตอนตามล�ำดับ เป็นต้น
2) แบบระดับชั้น (Hierarchy) เป็นรูปแบบการเชื่อมโยงในเว็บไซต์ที่นิยม
ใช้กันมากที่สุดคือแบ่งเนื้อหาออกเป็นกลุ่มและรวมอยู่ในเมนูเดียวกันผู้ใช้ท�ำการเข้าถึง
เนื้อหาผ่านทางเมนูต่างๆ การออกแบบเว็บลักษณะนี้เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีจ�ำนวน
เว็บเพจมากขึ้นเช่นwww.apple.com,www.tohome.comและwww.amazon.com
ดังตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ที่ผ่านมาแล้ว ที่จะเห็นได้ว่าในหน้าเว็บหลักนั้นจะมีเมนูย่อยๆ
และเมื่อเข้าไปในเมนูย่อยแล้วจะมีเมนูเพื่อเข้าถึงเนื้อหาต่อไปโดยที่ไม่ได้บังคับผู้ใช้
ให้เข้าถึงหน้าเว็บอย่างเป็นล�ำดับ
3) แบบผสม (Combination) เหมาะส�ำหรับเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อน โดย
น�ำข้อดีของรูปแบบทั้งสองข้างต้นมาผสมกัน นั่นคือแบ่งเนื้อหาออกแบบกลุ่มให้อยู่ใน
แต่ละเมนูย่อย และเมื่อผู้ใช้เข้าไปในเมนูนั้นๆ แล้ว การเข้าถึงเนื้อหาเว็บจะท�ำโดยการ
เข้าไปทีละล�ำดับ เช่น เว็บไซต์ที่เสมือนเป็นหนังสือที่มีหน้าหลักคือหน้าสารบัญ และ
เมื่อผู้ใช้ท�ำการคลิกที่หัวข้อในสารบัญแล้วเมื่อเข้าไปอ่านในแต่ละหัวข้อจ�ำเป็นจะต้อง
อ่านหน้าเว็บอย่างเป็นล�ำดับ
หลังจากที่ท�ำการออกแบบโครงสร้างการ
เชื่อมโยงของเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดมาคือ
เลือกโทนสีหรือThemeของเว็บไซต์เนื่องจาก
การสร้างสีสันบนหน้าเว็บเป็นสิ่งที่สื่อความหมาย
ของเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน การเลือกใช้สี
ให้เหมาะสมกลมกลืน ไม่เพียงแต่จะสร้าง
ความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ แต่ยังสามารถท�ำให้
เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเว็บไซต์ได้ โดยสีเป็น
องค์ประกอบหลักส�ำหรับการตกแต่งเว็บ จึงจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
ท�ำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกใช้สี
- 52. 51
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
ระบบสีที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีระบบการแสดงผลผ่าน
หลอดล�ำแสงที่เรียกว่า CRT (Cathode ray tube) โดยมีลักษณะระบบสี
แบบบวก อาศัยการผสมของแสงสีแดง สีเขียว และสีน�้ำเงิน หรือที่เรียกว่า
“ระบบสีRGB”สามารถก�ำหนดค่าแม่สีจาก0ถึง255ได้โดยค่า0หมายถึง
แม่สีนั้นๆมีความสว่างน้อยมากจนมืดเป็นสีด�ำไปเลยในขณะที่ค่า255หมายถึง
แม่สีนั้นมีความสว่างมากที่สุดจากการรวมสีของแม่สีหลักจะท�ำให้เกิดแสงสี
ต่างๆ บนหน้าจอ ส�ำหรับการพัฒนาเว็บไซต์โดยการใช้ภาษา HTML นั้น
ก็มีการก�ำหนดสีโดยใช้ระบบ RGB เช่นกัน
วงล้อสีส�ำหรับพัฒนาเว็บไซต์ด้วยภาษา HTML
สีมีอิทธิพลในเรื่องของอารมณ์การสื่อความหมายที่เด่นชัดกระตุ้น
การรับรู้ทางด้านจิตใจมนุษย์ สีแต่ละสีจะสะท้อนอารมณ์และความรู้สึก
ไม่เหมือนกันสีบางสีให้ความรู้สึกสงบบางสีให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจสีจึงเป็น
ส่วนส�ำคัญอย่างยิ่งต่อการออกแบบเว็บไซต์ ดังนั้น การเลือกใช้โทนสีภายใน
เว็บไซต์จึงเป็นการแสดงถึงความแตกต่างของสีที่แสดงออกทางอารมณ์
มีชีวิตชีวาหรือเศร้าโศก รูปแบบของสีที่สายตาของมนุษย์มองเห็น สามารถ
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
(รูปภาพจากwww.urlnexdoor.com)
- 53. WebsiteD.I.Y.
52
1. สีโทนร้อน (Warm Colors)เป็น
กลุ่มสีที่แสดงถึงความสุข ความปลอบโยน
ความอบอุ่น และดึงดูดใจ สีกลุ่มนี้ช่วยให้
หายจากความเฉื่อยชา มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเว็บไซต์เช่นwww.stickermule.com
2. สีโทนเย็น(CoolColors)แสดงถึง
ความสุภาพ อ่อนโยน เรียบร้อย จัดเป็น
กลุ่มสีที่มีคนชอบมากที่สุด เพราะเป็น
สีที่สามารถโน้มน้าวในระยะไกลได้ เช่น
www.ecopono.com
3. สีโทนกลาง (Neutral Colors)
สีที่เป็นกลางประกอบด้วยสีด�ำ สีขาว สีเทา
และสีน�้ำตาล กลุ่มสีเหล่านี้คือ สีกลางที่
สามารถน�ำไปผสมกับสีอื่นๆ เพื่อให้เกิด
สีกลางขึ้นมา เช่น www.amazon.com
ที่เน้นสีพื้นหลังเป็นสีขาว
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ออกแบบเว็บโดยใช้สีโทนร้อนของ
www.stickermule.com
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ออกแบบเว็บโดยใช้สีโทนเย็นของ
www.logolabs.nl
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ออกแบบเว็บโดยใช้สีโทนกลางของ
www.amazon.com
- 54. 53
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
โดยทั่วไปแล้ว หน้าเว็บต่างๆ
จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบ ดังนี้การก�ำหนด
ส่วนประกอบต่างๆ
ในหน้าเว็บไซต์
1) สัญลักษณ์ หรือโลโก้ (Logo)
เป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของ
เว็บนั้นๆ ควรจะเป็นรูปภาพหรือข้อความที่
จดจ�ำได้ง่ายโดยส่วนใหญ่นิยมวางไว้มุมซ้าย
บนสุดของเว็บไซต์
2) เมนูหรือเนวิเกชัน(Navigation)
เป็นส่วนที่รวมการเชื่อมโยงไปยังหน้าต่างๆ
ในเว็บไซต์ควรออกแบบให้เห็นชัดและเข้าถึง
ง่ายสะดวกใช้งานโดยส่วนใหญ่แล้วจะวางไว้
ส่วนบน หรือด้านซ้ายของเว็บไซต์ และควร
อยู่ในต�ำแหน่งที่เห็นได้เมื่อเข้าเว็บครั้งแรก
แสดงส่วนประกอบของเว็บไซต์ที่ดี
3) เนื้อหา(Content)ถือเป็นหัวใจหลักของเว็บไซต์ที่ท�ำให้ผู้ใช้ตัดสินใจเข้าใช้งาน
เว็บไซต์หรือออกจากเว็บไซต์ได้เลย การเขียนเนื้อหาควรเลือกใช้ขนาดตัวอักษร และสีสัน
ที่ดึงดูดผู้ใช้ ดูสะอาดตาเพื่อให้อ่านง่าย และควรมีรูปภาพประกอบที่สดใส สื่อถึงเนื้อหา
ชัดเจนหากมีส่วนของมัลติมีเดียอื่นๆเช่นวิดีโอหรือแอนิเมชันก็จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานได้มาก
ยิ่งขึ้นอีก
4) ส่วนท้ายของเว็บ(Footer) มักจะเป็นส่วนที่รวมลิงก์ไปยังบทความหรือส่วน
ที่ผู้ใช้มักจะเข้าถึงบ่อยๆหรือรวมช่องทางการติดต่อเพื่อให้ผู้ใช้ติดต่อกับเจ้าของเว็บไซต์ได้
5) พื้นที่ว่าง (White Space) เป็นส่วนที่ส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งของเว็บไซต์ แม้ว่า
พื้นที่ว่างจะไม่มีข้อมูล หรือเนื้อหาใดๆ แต่จะช่วยให้หน้าเว็บดูไม่อึดอัดจนเกินไป และยัง
ช่วยให้ผู้ใช้อ่านข้อมูลในเว็บได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น www.apple.com จะเห็นว่ามีพื้นที่ว่าง
มากมาย ถึงแม้ว่าจะไม่มีตัวหนังสือมากนักแต่ก็ดึงดูดผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
- 55. WebsiteD.I.Y.
54
การออกแบบหน้าเว็บไซต์นั้นอาจจะน�ำหลักการถ่ายภาพมาประยุกต์ใช้ร่วมได้การถ่ายภาพ
โดยส่วนใหญ่นั้นมักจะใช้เส้นกริด (Grid) เพื่อก�ำหนดต�ำแหน่งรายละเอียดในรูปภาพ ซึ่งการจัด
วางองค์ประกอบในหน้าเว็บอาจจะใช้วิธีการเดียวกันนี้ได้ ส�ำหรับแนวคิดเกี่ยวกับเส้นกริดนั้น
คือ“กฎสามส่วน”ซึ่งกล่าวไว้ว่าไม่ว่าภาพจะอยู่แนวตั้งหรือแนวนอนก็ตามหากเราแบ่งภาพนั้น
ออกเป็นสามส่วนทั้งตามแนวตั้งและแนวนอนแล้วลากเส้นแบ่งภาพทั้งสามเส้นจะเกิดจุดตัดกัน
ทั้งหมด 4 จุด ดังรูปด้านล่าง ซึ่งจุดตัดของเส้นทั้งสี่นี้เป็นต�ำแหน่งที่เหมาะสมส�ำหรับการจัดวาง
วัตถุที่ต้องการเน้นให้เป็นจุดเด่นหลัก ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นเป็นส่วนส�ำคัญที่รองลงมา
อาจจะวางในต�ำแหน่งอื่นๆ ก็ได้
ตัวอย่างโครงสร้างเว็บไซต์ของwww.apple.com การใช้เส้นกริดเพื่อก�ำหนดต�ำแหน่งรายละเอียด
ในรูปภาพ
ส�ำหรับการวางต�ำแหน่งเมนู
รวมทั้งต�ำแหน่งของส่วนประกอบต่างๆ
ในหน้าเว็บไซต์ที่นิยมใช้มีอยู่3รูปแบบ
ด้วยกันคือ
การก�ำหนดเมนูด้านซ้าย
เป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจาก
เป็นรูปแบบที่สามารถใช้งานได้ง่าย
แต่ก็มีข้อด้อยคืออาจดูไม่น่าสนใจ
เท่าที่ควรเพราะว่าผู้ใช้งานสามารถ
พบเห็นได้โดยทั่วไป
ตัวอย่างการจัดวางโครงสร้างเว็บ
โดยให้เมนูอยู่ด้านซ้าย
- 63. WebsiteD.I.Y.
62
ในหัวข้อนี้จะได้ยกตัวอย่างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีการ
ออกแบบที่ดี มีความสวยงาม และดึงดูดผู้เยี่ยมชม อีกทั้งยังสามารถ
ใช้ง่าย โดยที่ผู้ใช้ไม่จ�ำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้มากนัก โดยท่านสามารถ
ทดลองเข้าไปยังเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อศึกษาแนวทางการออกแบบ
เว็บไซต์ที่ดีและน�ำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ของตนเองได้
(1) www.gforce.be : เว็บไซต์ที่ออกแบบโดยใช้ภาพ
พื้นหลังขนาดใหญ่แบบSinglePageDesignโดยมุ่งเน้นความเรียบง่าย
ต่อการใช้งาน
(2) www.merchworld.eu : เว็บไซต์ที่ออกแบบด้วยการ
แบ่งสัดส่วนบนเว็บไซต์อย่างชัดเจนปุ่มไอคอนหรือเมนูที่เข้าถึงยังหน้า
เว็บต่างๆมีขนาดใหญ่เลือกใช้สีโทนกลางคือสีขาวเป็นThemeหลัก
บนเว็บไซต์ ซึ่งท�ำให้ท�ำให้เว็บไซต์ดูเรียบง่าย สบายตา น่าใช้ และดูมี
ความเป็นมืออาชีพ
2.4 เปิดไอเดีย
สร้างสรรค์เว็บยุคใหม่
- 64. 63
บทที่2กลเม็ดปั้นเว็บสวยและดี
(3) www.mendo.nl : เว็บไซต์ที่ออกแบบ
ในลักษณะ Single Page Design มีพื้นหลังเป็น
โทนสีกลางคือสีด�ำ มีการใช้ภาพพื้นหลังขนาดใหญ่
ท�ำให้ทราบทันทีเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ว่าเป็นเว็บไซต์
จ�ำหน่ายหนังสือ
(4) www.wantist.com : การออกแบบ
โดยใช้สีโทนกลางคือสีเทา แต่มีการเน้นความ
สวยงามด้วยสีโทนเย็นคือสีฟ้า รวมทั้งยังมีการจัด
โครงสร้างเว็บไซต์ตามประเภทของสินค้าด้วยภาพ
ขนาดใหญ่ ท�ำให้เว็บไซต์ดูน่าสนใจ และมีความง่าย
ในการใช้งาน
(5) www.scb.co.th/scbfirst/ : เว็บไซต์
ที่ออกแบบโดยเน้นสีที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์กรคือ
สีม่วงและใช้ภาพพื้นหลังขนาดใหญ่ที่เน้นประโยชน์
ของบริการนั่นคือผู้ใช้จะมีความสุขในการรับบริการ
มีการออกแบบเมนูและไอคอนเพื่อเข้าชมส่วนต่างๆ
ภายในเว็บไซต์อย่างสะดวก
จะเห็นว่าการออกแบบเว็บไซต์นั้นแม้ว่าจะมีอยู่หลายขั้นตอน แต่นั่นคง
ไม่ใช่ข้อจ�ำกัดที่จะลงมือท�ำ เพียงแต่ผู้พัฒนาเว็บควรค�ำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย
ที่เป็นผู้ใช้เว็บเป็นส�ำคัญการออกแบบเว็บไซต์ในยุคปัจจุบันนอกจากเนื้อหาต้องเป็น
ประโยชน์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริงแล้ว การออกแบบเว็บไซต์ที่สวยงาม เรียบง่าย น่าใช้
รวมไปถึงการจัดวางต�ำแหน่งข้อมูลต่างๆ อย่างเหมาะสมและโดดเด่น เป็นสิ่งส�ำคัญ
ที่จะเรียกใจผู้ใช้ให้อยู่กับเว็บไซต์ของเราได้นานที่สุดและติดใจที่จะกลับเข้ามาเยี่ยมชม
เว็บไซต์เราใหม่ในอนาคต
- 67. WebsiteD.I.Y.
66
การพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซนั้น แม้ว่าจะมีหลายขั้นตอนจนผู้ที่ไม่มี
ประสบการณ์เขียนโปรแกรมมาก่อนอาจรู้สึกว่าไม่สามารถท�ำได้แต่ด้วยความ
ก้าวหน้าของเทคโนโลยีต่างๆ ท�ำให้ปัจจุบันนี้ “ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้
ด้วยตนเองโดยไม่จ�ำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด”อย่างเช่น
การใช้บริการเว็บไซต์ส�ำเร็จรูปที่จะช่วยให้เรามีเว็บได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่
นาที หรือการใช้บริการในตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า
e-Marketplaceที่มีอยู่มากมายทั้งในและต่างประเทศหรือหากใครมีพื้นฐานความรู้
ด้านการเขียนโปรแกรมมาบ้างก็อาจเลือกใช้โปรแกรมส�ำเร็จรูปที่เรียกว่าCMSก็ได้
ซึ่งทั้งหมดจะได้แนะน�ำให้รู้จักกันในบทนี้
เว็บไซต์ส�ำเร็จรูป (Web Template) เป็นบริการที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออ�ำนวย
ความสะดวกให้กับผู้ต้องการมีเว็บไซต์แต่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมมาก่อน จึงมี
การพัฒนาเว็บไซต์แบบอัตโนมัติขึ้นเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน กล่าวคือ
ผู้ใช้บริการเว็บส�ำเร็จรูปมีหน้าที่เพียงกรอกข้อมูลลงบนแบบฟอร์มที่ผู้ให้บริการ
เว็บส�ำเร็จรูปจัดเตรียมไว้เช่นชื่อร้านค้ารายการสินค้าต่างๆข้อมูลการติดต่อจากนั้นระบบ
ก็จะท�ำงานให้โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างพัฒนาการวิธีสั่งสินค้าของ The Pizza Company
3.1 Web Template...
สร้างเว็บเหมือนเสกได้
ซื้อผ่านหน้าร้าน โทรสั่งอาหาร สั่งซื้อออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน
- 70. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
69
โดยทั่วไปแล้วข้อมูลพื้นฐานที่จะต้อง
กรอกเพื่อสมัครสมาชิกเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป เช่น
ชื่อ-นามสกุล ชื่อร้านค้า ข้อมูลการติดต่อ
อีเมลรวมถึงหมายเลขบัตรประชาชนฯลฯ
ในขั้นตอนนี้ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักจะก�ำหนด
ให้สมาชิกตั้งชื่อเว็บไซต์ในลักษณะที่เรียกว่า
“Subdomain”ด้วยซึ่งSubdomainก็คือ
เว็บไซต์ย่อยๆภายในเว็บไซต์หลักนั่นเองตัวอย่าง
เช่น เว็บไซต์หลักคือ www.igetweb.com
จะมีเว็บไซต์ย่อยๆ ภายใต้เว็บไซต์ดังกล่าว
เช่น สมมติเราเป็นธุรกิจบริการรถเช่า และ
ต้องการตั้งชื่อเว็บไซต์ว่า Car Rent ดังนั้น
Subdomain ภายใต้เว็บไซต์ igetweb ก็คือ
www.carrent.igetweb เป็นต้น
ตัวอย่างขั้นตอนการสมัครสมาชิก
เว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
(2) สร้างร้านค้าออนไลน์ :
เมื่อการสมัครสมาชิกเสร็จสมบูรณ์แล้วต่อมาคือขั้นตอนการสร้างร้านค้าออนไลน์ ซึ่งผู้ให้
บริการเว็บไซต์ส�ำเร็จรูปแต่ละรายก็มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ขั้นตอนโดยรวมๆ แล้ว
มักจะเป็นเรื่องการใส่โลโก้พร้อมข้อมูลร้านค้าข้อมูลและรูปภาพสินค้าข้อมูลการติดต่อช่องทาง
การช�ำระเงินนอกจากนี้บางเว็บเจ้าของเว็บสามารถเลือกรูปแบบเว็บไซต์ส�ำเร็จรูปหรือที่เรียกว่า
เทมเพลต (Template) ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้อีกด้วย
www.igetweb.com
www.shopup.com
ตัวอย่างเทมเพลตของเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
www.chaiyoreadyweb.com
ตั้งชื่อเว็บไซต์แบบsubdomain
ตั้งชื่อเว็บไซต์แบบsubdomain
www.lnwshop.com
- 71. WebsiteD.I.Y.
70
ปัจจุบันนี้ระบบเว็บส�ำเร็จรูปได้พัฒนาให้ง่าย
ต่อการใช้งานมากขึ้น อย่างเช่น การสร้างร้านค้า
ในลักษณะที่เรียกว่า “Direct Manipulation”
ซึ่งเป็นรูปแบบการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับระบบ
โดยตรง หรือที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าเทคนิคแบบ
ลากและวาง(Drag&Drop)กล่าวคือผู้ให้บริการ
จะสร้างหน้าร้านค้าเริ่มต้นมาให้ก่อนหลังจากนั้น
เจ้าของเว็บสามารถคลิกเลือกต�ำแหน่งต่างๆ บน
เว็บไซต์ที่ต้องการแก้ไขข้อมูลได้ทันทีถือเป็น
รูปแบบการใช้งานที่ง่ายกว่ายุคก่อนที่ส่วนใหญ่
มักจะออกแบบเป็นแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูล
โดยไม่ได้แสดงตัวอย่างร้านค้าจริงให้เห็นในทันที
www.lnwshop.com
www.pro-webbiz.com
(ใช้เทคโนโลยีแบบ Direct Manipulation)
ตัวอย่างขั้นตอนการสร้างร้านค้าออนไลน์
ผ่านเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
(3) การใช้งานระบบหลังร้าน :
เป็นระบบที่ผู้ให้บริการเว็บส�ำเร็จรูป
จัดเตรียมไว้เพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้เจ้าของ
เว็บไซต์ใช้ในการดูแลบริหารจัดการธุรกิจของ
ตนเองได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น ระบบสต็อกสินค้า
ระบบติดตามการช�ำระเงินระบบสมาชิกระบบ
ดูแลลูกค้าอย่างไรก็ตามความสามารถในส่วนนี้
อาจมีหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการนั้นๆ
เป็นหลัก ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ
เว็บไซต์ส�ำเร็จรูปรายใด ก็อาจต้องพิจารณา
ถึงความสามารถในส่วนนี้ด้วย เพราะมันจะ
เป็นเครื่องมือที่เจ้าของธุรกิจสามารถน�ำไปใช้
ประโยชน์ได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว
www.readyplanet.com
www.lnwshop.com
ตัวอย่างระบบหลังร้านของเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
ระบบสมาชิก ระบบ vela Commerce
ระบบผู้ช่วย ระบบอัลบั้มรูป
SMS
l
เพิ่มสินค้า แก้ไข ลบ เพิ่มรูปสินค้า
l
รายการสั่งซื้อ
l
รายการแจ้งช�ำระเงิน
l
รายการจัดส่งสินค้า
l
เช็คข้อความติดต่อเรา
l
จัดการภาพสินค้า
จัดการหลังร้าน
- 72. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
71
(4) การติดตั้งส่วนประกอบเสริม :
อันที่จริงแล้ว เมื่อได้สร้างเว็บไซต์ส�ำเร็จรูปในขั้นตอนที่ 1 ถึง 3 ก็ถือว่า
เราได้เว็บไซต์พร้อมที่จะขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว แต่ดังที่
ได้อธิบายไปในบทที่ผ่านมาว่าการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีควรมีความสวยงามและ
ดึงดูดใจผู้ใช้งาน ดังนั้น ในทางปฏิบัติอาจต้องมีการติดตั้งส่วนประกอบเสริม
เพิ่มเติม หรือที่นิยมเรียกกันว่า Widget เพื่อเรียกความน่าสนใจให้กับเว็บไซต์
มากยิ่งขึ้นซึ่งโดยทั่วไปแล้วเว็บไซต์ส�ำเร็จรูปส่วนใหญ่ก็มักจะมีความสามารถในการ
ติดตั้งส่วนประกอบเสริมต่างๆ ลงบนเว็บได้แต่จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับ
ผู้ให้บริการนั้นๆ อาทิเช่น
LinkBanner:เป็นWidgetช่วยสร้างแบนเนอร์โฆษณาบนต�ำแหน่ง
ต่างๆ ของเว็บไซต์
Form :เป็นการสร้างแบบฟอร์มเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ป้อนข้อมูล
เช่น แบบฟอร์มสมัครสมาชิก แบบฟอร์มสั่งซื้อสินค้า แบบฟอร์ม
การติดต่อ เป็นต้น
HTML : เป็นการเพิ่ม Widget โดยการน�ำเอาโค้ด HTML มาใส่เอง
เช่น การติดตั้งตัววัดสถิติ การใส่เสียง วิดีโอต่างๆ บนเว็บไซต์ เป็นต้น
Google Map : เป็นการน�ำเอาแผนที่ Google Map มาวางไว้
บนหน้าเว็บไซต์ โดยเราสามารถใช้ประโยชน์ในการก�ำหนดต�ำแหน่ง
ของร้านค้าได้ในกรณีที่เราท�ำธุรกิจแบบมีหน้าร้าน
ตัวอย่างการติดตั้งส่วนประกอบเสริม
บนเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
www.lnwshop.com
www.blogger.com
- 73. WebsiteD.I.Y.
72
นอกจาก4ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์โดยใช้เว็บส�ำเร็จรูปที่กล่าวไปนั้นยังมีข้อควรค�ำนึงถึง
ซึ่งจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และช่วยท�ำให้เว็บนั้นๆ ติดล�ำดับในเว็บค้นหาต่างๆ
อย่างเช่น Google ได้ดียิ่งขึ้น ดังนี้
(1) รูปภาพสินค้า
ควรเป็นการถ่ายภาพที่เน้นหลายมุมมอง หรือที่นิยมเรียกว่าการถ่ายภาพแบบ 360 องศา
ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าได้โดยรอบ นอกจากนี้ เทคนิคการจัดแสงและเงาของการถ่ายภาพ
ก็เป็นสิ่งส�ำคัญเช่นเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วจะต้องจัดแสงให้พอเหมาะและพยายามไม่ให้เกิดเงา
ถ่ายภาพบนพื้นหลังสีเรียบก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยงาม
ตัวอย่างการจัดแสงส�ำหรับ
การถ่ายภาพสินค้า
(2) การก�ำหนดค�ำค้นหา (Keyword)
การสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ควรก�ำหนด Keyword หรือค�ำส�ำคัญเพื่อให้เว็บไซต์ที่พัฒนา
ขึ้นนั้นถูกค้นพบบนเว็บไซต์ค้นหาต่างๆ เช่น Google ซึ่งมีอยู่หลายเครื่องมือที่สามารถน�ำมาช่วย
ก�ำหนด Keyword ได้ อย่างเช่น Keyword Planner ซึ่งเป็นบริการดีๆ ที่พัฒนาโดย Google
(https://adwords.google.com/ko/KeywordPlanner/Home)
ตัวอย่างการแสดงภาพสินค้าแบบหลาย
มุมมองของ www.zalora.com
ตัวอย่างเครื่องมือวิเคราะห์ค�ำค้นหาของ www.google.com
- 74. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
73
(3) การก�ำหนดหมวดหมู่สินค้า
(Category)
การตั้งชื่อกลุ่มสินค้าก็เช่นเดียวกับ
การก�ำหนด Keyword ที่จ�ำเป็นต้อง
พิจารณาให้สอดคล้องกับสินค้านั้นๆ
เพราะนอกจากจะส่งผลต่อการถูกค้นพบ
ในเว็บไซต์ค้นหาต่างๆ แล้ว ประโยชน์
อีกด้านหนึ่งก็คือ จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเว็บ
สามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น
เช่น เว็บไซต์ lazada.co.th นอกจาก
จะแบ่งสินค้าออกเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่าย
ต่อการค้นหาแล้ว ยังเพิ่มลูกเล่นให้ผู้เยี่ยมชม
สามารถเลือกดูจากยี่ห้อสินค้า และตาม
ช่วงราคาอีกด้วย
จะเห็นว่าการสร้างเว็บไซต์โดยใช้เว็บส�ำเร็จรูปนั้น
ไม่มีความยุ่งยากอะไรเลยเพราะแม้จะไม่ใช่โปรแกรมเมอร์
ก็สามารถมีเว็บไซต์ที่ทั้งสวยและดูดีได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่
ควรจะต้องค�ำนึงถึงในการเลือกใช้เว็บไซต์เหล่านี้คือ บริการ
ที่ได้รับจากผู้ให้บริการที่นอกเหนือจากพื้นที่เว็บไซต์ เพราะ
บางเว็บไซต์ก็มีบริการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้าง
ร้านค้าออนไลน์ บริการวิเคราะห์ค่าสถิติต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้
แม้ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการพัฒนาเว็บแต่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์
ต่อการท�ำธุรกิจอีคอมเมิร์ซเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างการก�ำหนดหมวดหมู่สินค้า
ของ www.lazada.co.th
- 75. WebsiteD.I.Y.
74
e-Marketplace หรือตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นเว็บไซต์
ในรูปแบบของ“ตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่”เป็นบริการที่เปิดให้เจ้าของกิจการ
ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ สามารถน�ำธุรกิจของตนมาประชาสัมพันธ์
ผ่านe-Marketplaceในรูปแบบการสร้างเว็บไซต์แค็ตตาล็อกสินค้าอีกทั้งผู้ยัง
ไม่มีเว็บไซต์ก็สามารถสร้างเว็บขนาดย่อมๆ ผ่าน e-Marketplace ได้เช่นกัน
ดังนั้นเราจะพบว่าe-Marketplaceต่างๆจึงเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายมีการจัด
แบ่งหมวดหมู่อย่างเป็นระบบระเบียบให้ผู้เยี่ยมชมสามารถค้นหาร้านค้าได้ง่าย
และสะดวกโดยสามารถแบ่งเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่ B2C และ B2B ดังนี้
B2C e-Marketplace เป็นตลาดกลางระหว่างธุรกิจร้านค้า
(Business) ตรงไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย (Consumer) ตลาดกลางลักษณะนี้
จึงคล้ายกับช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ (Shopping Mall) ที่ลูกค้าสามารถเลือก
ซื้อสินค้าจากร้านค้าต่างๆภายในมอลล์แห่งนั้นได้ซึ่งมักจะเป็นการซื้อปลีกคือ
ซื้อคราวละไม่มากผ่านระบบตะกร้าสินค้า (Shopping Cart)
3.2 e-Marketplace...
ได้ทั้งเว็บได้ทั้งลูกค้า
ตัวอย่างเว็บไซต์ผู้ให้บริการ B2C e-Marketplace
www.tarad.com
www.lnwmarket.com
www.weloveshopping.com
www.priceza.com
- 76. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
75
B2B e-Marketplace เป็นตลาดกลางระหว่างผู้ที่ท�ำธุรกิจ
ด้วยกันเอง (Business to Business) เพื่อท�ำการค้าระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ
โดยตรง เช่น การซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจากผู้ผลิต เพื่อน�ำไป
แปรรูป หรือน�ำไปขายให้กับผู้บริโภคอีกที ดังนั้น ลักษณะการซื้อสินค้า
ในตลาดกลางนี้จะซื้อคราวละมากๆ และส่วนใหญ่จะไม่นิยมซื้อผ่านระบบ
ตะกร้าสินค้า แต่มักจะเจรจาต่อรองราคากันผ่านระบบแบบสอบถามราคา
ออนไลน์(InquiryForm)ที่ตลาดกลางฯเป็นผู้จัดเตรียมไว้ให้ผู้ซื้อและผู้ขาย
ตัวอย่างเว็บไซต์ผู้ให้บริการ B2B e-Marketplace
www.alibaba.com www.ec21.com
www.globaltrade.net www.thaitrade.com
www.b2bthai.com
www.lnwmarket.com
www.pantavanij.com
www.priceza.com
www.quinl.com
www.shoppingthai.com
www.tarad.com
www.thaiSecondhand.com
www.thaitambon.com
www.thaitechno.net
www.weloveshopping.com
www.alibaba.com
www.amazon.com
www.ec21.com
www.eceurope.com
www.ecplaza.net
www.eng.bestsme.com
www.europages.com
www.globaltrade.net
www.rusbiz.com
www.thaitrade.com
www.tradekey.com
www.verticalzoom.com
รายนามเว็บไซต์ผู้ให้บริการ e-Marketplace*
* อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก www.pawoot.com
Local Global
- 77. WebsiteD.I.Y.
76
ผู้ให้บริการเว็บไซต์e-Marketplaceส่วนใหญ่มุ่งเน้นสนับสนุนด้านการน�ำผู้ซื้อ
และผู้ขายให้มาพบปะ และค้าขายกัน ซึ่งมีบริการหลักๆ 3 ลักษณะ ได้แก่
บริการต่างๆ ใน
e-Marketplace
1) สารบัญธุรกิจ (Business
Directory)
e-Marketplace จะท�ำหน้าที่รวบรวม
ข้อมูลสินค้าและร้านค้าต่างๆ บนเว็บไซต์
เปรียบเสมือนสารบัญธุรกิจ โดยจะมีการจัด
แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถ
ค้นหา เลือกชมข้อมูลสินค้า/ร้านค้าต่างๆ
ได้ง่ายและสะดวก ตัวอย่างหน้าสารบัญธุรกิจของ
www.thaitechno.net
ตัวอย่างหน้าประกาศความต้องการทางธุรกิจ
ของ www.thaitrade.com
2)ประกาศความต้องการทาง
ธุรกิจ (Trade Leads)
เป็นบริการที่ผู้ซื้อสามารถใช้
เว็บไซต์ e-Marketplace เป็นช่องทาง
ในการประกาศต้องการซื้อสินค้าของ
ตนไปสู่ผู้ขาย ขณะเดียวกันผู้ขาย
ก็สามารถประกาศความต้องการ
ขายไปยังผู้ซื้อเช่นเดียวกัน เว็บไซต์
e-Marketplace จึงเป็นตลาดที่
เชื่อมโยงผู้ซื้อผู้ขายให้ได้พบกันเกิดการ
ติดต่อและท�ำการค้ากันโดยตรง
- 78. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
77
3) บริการเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป หรือ
แค็ตตาล็อกสินค้าออนไลน์
(Web Template)
เจ้าของธุรกิจสามารถใช้บริการจาก
e-Marketplace เพื่อจัดท�ำเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
ขนาดย่อมๆ ที่มีการน�ำเสนอข้อมูลสินค้า/
บริการ รวมทั้งข้อมูลร้านค้าได้ด้วยตัวเอง ซึ่ง
ลักษณะเด่นของบริการนี้ก็คือ นอกจากจะได้
เว็บไซต์ที่พร้อมใช้งานแล้ว ข้อมูลในร้านค้า
จะถูกน�ำไปรวบรวมและแยกเป็นหมวดหมู่ไว้
ในสารบัญธุรกิจของ e-Marketplace นั้นๆ
อีกด้วย
การสร้างเว็บไซต์โดยใช้ e-Marketplace
ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนแต่อย่างใดสามารถใช้
หลักการเช่นเดียวกับการสร้างเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
ที่อธิบายไปในหัวข้อก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม
ด้วยคุณสมบัติพิเศษของ e-Marketplace
ที่นอกจากจะท�ำให้มีเว็บไซต์ย่อมๆ แล้ว เว็บ
ดังกล่าวยังจะได้รับการประชาสัมพันธ์ใน
e-Marketplaceนั้นๆอีกด้วยดังนั้นในหัวข้อนี้
จะได้แนะน�ำถึงขั้นตอนพร้อมเทคนิคการเปิด
ร้านค้าออนไลน์ผ่าน e-Marketplace ดังนี้
ตัวอย่างเว็บไซต์ส�ำเร็จรูปของ
www.alibaba.com
ขั้นตอน
การพัฒนาเว็บไซต์
e-Marketplace
1. สมัครสมาชิก
ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์ผ่าน
e-Marketplace
2. สร้างร้านค้าออนไลน์
3. การจัดการหลังร้าน
- 79. WebsiteD.I.Y.
78
1) การลงทะเบียน :
เป็นขั้นตอนแรกของการสร้างร้านค้าออนไลน์ผ่าน
เว็บไซต์ผู้ให้บริการ e-Marketplace วิธีการมีความ
คล้ายคลึงกับการสร้างเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป แต่สิ่งที่อาจมี
ความแตกต่างกันบ้างก็คือผู้ให้บริการe-Marketplace
บางเว็บจะก�ำหนดให้สมาชิกใส่“ค�ำค้นหาหรือKeyword”
ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บง่ายต่อ
การค้นหาธุรกิจตาม Keyword ดังนั้น ในขั้นตอนนี้
จึงไม่ควรละเลยตั้ง Keyword ปลอมๆ ขึ้นไป แต่ควร
ก�ำหนดให้เหมาะสมกับธุรกิจมากที่สุด โดยพึงระลึก
ไว้เสมอว่าควรเป็นค�ำที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมใช้ในการ
ค้นหา ไม่ใช่ค�ำที่เราต้องการค้นหา
ตัวอย่างขั้นตอนการสมัครสมาชิก
www.tradekey.com
2) สร้างร้านค้าออนไลน์ :
การสร้างร้านค้าออนไลน์ผ่าน e-Marketplace
มีวิธีการใกล้เคียงกับการสร้างเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป
กล่าวคือหลักๆเป็นการป้อนข้อมูลร้านค้าข้อมูลและ
รูปภาพสินค้า ข้อมูลการติดต่อ รวมทั้งการเลือก
รูปแบบเทมเพลตให้กับเว็บไซต์
ตัวอย่างการสร้างร้านค้าออนไลน์
ผ่าน www.alibaba.com
3) การจัดการหลังร้าน :
โดยทั่วไปแล้วเว็บไซต์ e-Marketplace จะมีความเป็นอิสระในการ
จัดการได้น้อยกว่าเว็บส�ำเร็จรูป เนื่องจากมุ่งเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์
ธุรกิจของผู้ขายไปยังผู้ซื้อเป็นหลักมากกว่าเรื่องความสามารถของเว็บไซต์
ดังนั้น ในเรื่องการจัดการระบบหลังร้านต่างๆ อาจจะท�ำไม่ได้ในบาง
e-Marketplace อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรค�ำนึงถึงก็คือ ข้อมูลบางอย่าง
ที่กรอกลงไปในระบบจะมีผลต่อการถูกค้นพบบนเว็บไซต์นั้นๆ ด้วย
ก�ำหนด “Keyword”
- 80. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
79
ตัวอย่างการสร้างแค็ตตาล็อกสินค้า
ผ่าน www.alibaba.com
จะเห็นว่าการมีเว็บไซต์ผ่านเว็บส�ำเร็จรูปและe-Marketplace
ดูผิวเผินแล้วอาจมีขั้นตอนที่ใกล้เคียงกัน แต่เมื่อพิจารณา
ในรายละเอียดแล้ว จะมีความแตกต่างกันตั้งแต่วัตถุประสงค์
ในการจัดท�ำเพราะเว็บส�ำเร็จรูปจะมีจุดเด่นเรื่องความสามารถของ
เว็บไซต์ในขณะที่e-Marketplaceจะมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์
ธุรกิจของผู้ขายไปยังผู้ซื้อมากกว่า ดังนั้น การพิจารณาว่า
จะเลือกสร้างเว็บไซต์โดยใช้เว็บส�ำเร็จรูปหรือe-Marketplaceนั้น
จึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเจ้าของเว็บเป็นส�ำคัญอย่างไรก็ตาม
ก็ไม่ได้มีข้อจ�ำกัดว่าหากท�ำเว็บส�ำเร็จรูปแล้วจะมีเว็บผ่าน
e-Marketplace ไม่ได้ ดังนั้น เราจึงสามารถที่จะมีเว็บไซต์
โดยใช้เครื่องมือทั้งสองแบบนี้ร่วมกันได้ซึ่งย่อมจะส่งผลดีต่อธุรกิจ
ได้มากขึ้นนั่นเอง
เช่นการก�ำหนดกลุ่มสินค้า(Category)การตั้งชื่อสินค้า
(Product Name) การก�ำหนดค�ำค้นหา (Keyword)
การก�ำหนดสถานะของสินค้า นอกจากนี้ ในบางเว็บ
ยังก�ำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของข้อมูล
หากใครมีข้อมูลที่สมบูรณ์กว่า ก็จะมีโอกาสติดล�ำดับ
การค้นหามากกว่าเว็บที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน เช่น
รูปภาพสินค้า เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลบริษัท ดังนั้น
การสร้างร้านค้าออนไลน์ผ่าน e-Marketplace จึง
ควรศึกษาหลักการค้นหาข้อมูลจาก e-Marketplace
นั้นๆ เท่าที่จะท�ำได้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มาก
ยิ่งขึ้นนั่นเองเช่นภาพด้านล่างเป็นการสร้างแค็ตตาล็อก
สินค้าผ่านเว็บไซต์ alibaba.com ซึ่งต้องมีการใส่
รูปภาพสินค้าก�ำหนดชื่อสินค้าค�ำค้นหาและหมวดหมู่
สินค้า เป็นต้น โดยข้อมูลเหล่านี้จะส่งผลต่อผลลัพธ์
การค้นหาภายในเว็บไซต์ alibaba.com
- 83. WebsiteD.I.Y.
82
จุดเด่นของการพัฒนาเว็บไซต์ผ่านโปรแกรม CMS มีหลายประการ
คือ เราไม่จ�ำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการท�ำเว็บไซต์มากมาย เพียงแค่เคยพิมพ์
หรือโพสต์ข้อความทางอินเทอร์เน็ตก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้โดยใช้เวลา
ไม่มากค่าใช้จ่ายไม่สูงอีกทั้งยังสามารถจัดหาระบบPlug-inมาใส่เพิ่มได้มากมาย
อย่างเช่น ระบบแกลลอรี่ ตะกร้าสินค้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม โปรแกรม CMS
ก็ยังมีข้อจ�ำกัดอยู่บ้าง เช่น
ผู้ใช้จะต้องศึกษาระบบ CMS ที่ผู้พัฒนาสร้างขึ้นมา เช่น จะต้อง
ใส่ข้อความลงตรงไหน จะต้องแทรกภาพอย่างไร อย่างไรก็ตาม
ความล�ำบากนี้จะเป็นเพียงแค่ช่วงแรกเท่านั้น
ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการออกแบบหน้าตาของเว็บหรือ Theme เอง
จะต้องใช้ความรู้มากกว่าปกติ เนื่องจาก CMS มีหลายๆ ระบบ
มารวมกันท�ำให้เกิดความยุ่งยากส�ำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้
ความยุ่งยากในการติดตั้งและก�ำหนดค่าของเครื่องแม่ข่าย
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีผู้ให้บริการเครื่องแม่ข่ายมากมายที่ติดตั้งระบบ
CMS ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหากเราเลือกใช้บริการเครื่องแม่ข่าย
ของผู้ให้บริการนั้นๆ
เมื่อพิจารณาจุดเด่นและข้อจ�ำกัดของ CMS แล้วจะพบว่าโปรแกรม
ลักษณะนี้เป็นระบบที่น่าใช้งานและสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างเว็บไซต์
ขายสินค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดีโดยเราสามารถแบ่ง CMS ออกเป็น 2 ส่วน
หลักๆ ได้แก่
1)Frontendคือส่วนที่แสดงผล
ให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์เห็นกล่าวง่ายๆ
ก็คือหน้าเว็บไซต์นั่นเอง
2)Backendคือส่วนการจัดการ
เนื้อหารวมถึงโครงสร้างของ
เว็บไซต์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
ส่วน Admin นั่นเองตัวอย่างหน้าจอ Back end ของ Joomla
- 84. บทที่3นักพัฒนาเว็บมือใหม่...สไตล์D.I.Y.
83
อย่างไรก็ตาม การใช้งาน CMS เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอส�ำหรับ
เว็บไซต์แบบอีคอมเมิร์ซดังนั้นจึงมีผู้พัฒนาโปรแกรมส่วนเสริมหรือที่มักเรียกกัน
ว่าPlug-inเพื่อการซื้อขายออนไลน์ได้เช่นโปรแกรมVirtrueMartโดยส่วนเสริม
ดังกล่าวจะมีระบบตะกร้าสินค้า รวมทั้งระบบอื่นๆ ทั้งหน้าร้านและหลังร้าน
เพื่อสร้างให้เว็บนั้นๆ มีความพร้อมส�ำหรับการซื้อขายออนไลน์ เช่น
ระบบจัดการจ�ำนวนสินค้าและหมวดหมู่สินค้าได้ไม่จ�ำกัด
ใส่รูปภาพ หรือไฟล์ให้กับสินค้าได้
ใส่รายละเอียดให้กับสินค้าได้
ระบุราคาให้กับตัวสินค้าได้
การจัดการระบบลูกค้า
การจัดการระบบสต็อกสินค้า
ระบบเตือนลูกค้าของเราเมื่อมีสินค้าอยู่ในสต็อกแล้ว
สามารถน�ำเข้า หรือเอาออกเอกสารข้อมูลสินค้าในรูปแบบ CSV จึง
สามารถน�ำไปเปิดในโปรแกรมประเภท Spreadsheet เช่น Microsoft
Excel ได้
ระบบสถิติร้านค้าเพื่อน�ำไปใช้ในการวางแผนการตลาด
- 85. WebsiteD.I.Y.
84
การพัฒนาเว็บไซต์ในสไตล์ D.I.Y. ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง
ร้านค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป ผ่าน e-Marketplace หรือ
CMS ก็ตาม เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถท�ำได้โดยไม่ต้องพึ่งพา
โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องเตรียมSoftwareหรือHardwardให้ยุ่งยาก
มากมายแต่สิ่งส�ำคัญคือต้องก�ำหนดวัตถุประสงค์ในการท�ำที่ชัดเจน
บวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจและเริ่มลงมือท�ำทันที เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่า
เว็บสวยและดีจะอยู่ในมือเราอย่างแน่นอน
สรุปจุดเด่นของ
การพัฒนาเว็บไซต์
แบบ D.I.Y.
จะเห็นได้ว่าการใช้โปรแกรมCMSเพื่อสร้างเว็บนั้นจะมีขั้นตอน
ที่ยุ่งยากกว่าเว็บไซต์ส�ำเร็จรูป และ e-Marketplace แต่ก็มีความ
สามารถที่มากกว่าในด้านการติดตั้งและปรับแต่งสิ่งต่างๆบนเว็บไซต์
ได้ยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเว็บไซต์แบบ CMS จะมีขั้นตอน
ที่ยุ่งยากแต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปส�ำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์มือใหม่ อีกทั้ง
ผู้พัฒนาในประเทศไทยยังมีการปรับแต่ง CMS และส่วนเสริมต่างๆ
ให้รองรับภาษาไทยท�ำให้การใช้งานไม่ได้ยากอย่างที่คิด
- 89. WebsiteD.I.Y.
88
พัฒนาการของอินเทอร์เน็ตนั้นไม่มีวันหยุด
จริงๆ จากยุคแรกหรือที่เรียกกันว่า
เว็บ 1.0 จะมุ่งเน้นการสื่อสาร
ทางเดียวคือ เจ้าของเว็บเป็น
ผู้น�ำเสนอข้อมูลต่างๆโดยผู้ชม
แทบไม่มีส่วนร่วมบนเว็บไซต์
เหล่านั้นเลย กระทั่งก้าว
เข้าสู่ยุคเว็บ 2.0 ที่ผู้ใช้
สามารถสร้างเนื้อหาได้เอง
พร้อมความสามารถใน
การแบ่งปันเนื้อหาออกสู่สังคม
ในวงกว้าง เช่น การเขียนบล็อก
(Blog) การแชร์รูปภาพและไฟล์
มัลติมีเดียต่างๆ โซเชียลเน็ตเวิร์ก
รวมทั้งเว็บอย่างเช่น Wikipedia คลังความรู้
ขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาและต่อยอดออกไปอย่าง
ไม่มีที่สิ้นสุด ในยุคนี้เรียกว่าเป็นยุคแห่งข้อมูล
ที่มีปริมาณมหาศาลที่เกิดจากการสร้างและ
แบ่งปันกันอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดเป็น
วิวัฒนาการไปสู่เว็บ 3.0 ที่มีความสามารถ
ในการจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านั้น
อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่สามารถวิเคราะห์ความ
ต้องการของผู้ใช้ให้เข้ามามีบทบาทต่อเว็บมากยิ่งขึ้น
พูดง่ายๆ ก็คือ เว็บยุค 3.0 จะมีความชาญฉลาด
เหนือความคาดหมายของผู้ใช้นั่นเอง
- 90. บทที่4แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ3.0
89
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าการแข่งขันทางด้านการตลาดของธุรกิจ
หลายๆ ประเภทนั้น เริ่มต้นจากการสร้างแบรนด์ หรือการท�ำให้ชื่อ
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นที่รู้จักไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ก็เช่นเดียวกัน จุดเริ่มต้นส�ำคัญที่สุดคือการตั้งชื่อเว็บไซต์ หรือที่เรียกกัน
ว่า“โดเมนเนม(DomainName)”เพราะเป็นการสร้างลักษณะเฉพาะ
ของเว็บไซต์ (Brand Identity) อีกรูปแบบหนึ่ง
4.1 โดเมนเนม...
ตั้งดีเว็บก็ดัง
การพัฒนาเว็บไซต์ในยุค 3.0 จึงมีความยากกว่ายุคก่อนๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่
อุปสรรคขวางกั้น เพราะเว็บไซต์ก็ยังถือเป็นสื่อที่ทรงพลังที่สุด และลูกค้าก็มักจะ
นึกถึงเป็นล�ำดับแรกเมื่อต้องการท�ำความรู้จักกับธุรกิจของเรา ดังนั้น เนื้อหาในบทนี้
จะได้กล่าวถึงข้อควรปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้ากล้าคลิกสั่งซื้อสินค้า
บนเว็บไซต์ อีกทั้งยังได้แนะน�ำถึงเรื่องหลักการตั้งชื่อเว็บไซต์ และวิธีเล็กๆ น้อยๆ ที่
จะท�ำให้เว็บของเราถูกค้นพบผ่านเว็บค้นหา หรือ Search Engine ต่างๆ อย่างเช่น
Google อีกด้วย
- 91. WebsiteD.I.Y.
90
“โดเมนเนม” ถือเป็นประตูที่จะดึงให้ผู้สนใจสามารถเข้าไปยัง
เว็บไซต์ดังนั้นจึงถือเป็นสิ่งส�ำคัญประการแรกที่จะต้องคิดให้ดีเพราะชื่อดี
ก็มีส่วนสร้างเว็บไซต์ให้ประสบความส�ำเร็จ โดยหลักการตั้งชื่อ มีด้วยกัน
หลายวิธีไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับชื่อนั้นๆ เข้ากับลักษณะของเว็บ และตรงใจ
กับกลุ่มเป้าหมายมากน้อยเพียงใดทั้งนี้ก่อนที่จะตั้งชื่อเว็บก็ควรทบทวน
ความเข้าใจว่าเว็บของเรานั้นเป็นเว็บแบบไหน ให้บริการอะไร ที่ส�ำคัญ
จุดเด่นและข้อแตกต่างกับเว็บอื่นๆคืออะไรนั่นคือการค้นหาจุดขายให้ได้
ก่อน จากนั้นก็ควรเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเว็บด้วย ว่าพวกเขาเป็นใคร
ต้องการอะไรและจะได้อะไรจากเว็บของเราเพื่อจะได้ตั้งชื่อเว็บให้สื่อถึง
บริการ และตรงใจกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด
1. ต้องสร้างแบรนด์ :
หากมีชื่อบริษัท ชื่อสินค้า/บริการ
ก็สามารถตั้งเป็นชื่อเว็บไซต์เพื่อสร้างแบรนด์ได้
อีกช่องทางหนึ่ง เช่น บริษัทชื่อ ABC ก็ตั้งชื่อเว็บว่า www.ABC.com
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าโดเมนเนมในโลกนี้ต้องไม่ซ�้ำกัน ดังนั้น
ถ้าหากABC.comมีผู้แย่งจดทะเบียนไปแล้วอาจเลี่ยงไปใช้นามสกุลอื่น
ที่สอดคล้องกับธุรกิจแทน เช่น .co.th, .net เป็นต้น นอกจากนี้
ชื่อแคมเปญการตลาดก็สามารถน�ำมาตั้งเป็นชื่อเว็บไซต์ได้เช่นกัน เรา
มักจะพบเสมอว่าแบรนด์สินค้าชั้นน�ำต่างๆนิยมสร้างเว็บเฉพาะแคมเปญ
นั้นๆเช่นChevronเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ว่าwww.WillYouJoinUs.com
เพื่อแนะน�ำเรื่องการใช้พลังงาน เป็นต้น
- 92. บทที่4แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ3.0
91
2. ต้องสั้น :
การตั้งโดเมนเนมสามารถก�ำหนดตัวอักษรได้ตั้งแต่ 3-63
โดยใช้ a-z, 0-9, ขีดกลาง (-) และ “.” เท่านั้น เราจะพบว่า
เว็บไซต์ดังๆ ของเมืองไทยยุคแรกๆ นิยมใช้ชื่อภาษาไทย
มาสะกดทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ เช่น sanook.com,
tarad.com, sabuy.com เพราะคนจะจดจ�ำได้ง่ายแถมยัง
บ่งบอกถึงความเป็นไทยอีกด้วย
3. ต้องจ�ำง่าย :
การตั้งโดเมนเนมต้องจ�ำง่าย พูดง่าย และสะกดง่าย
เพราะบางครั้งการเข้าเว็บไซต์ก็มาจากการบอกต่อ หรือ
การได้ฟังจากวิทยุหรือเห็นตามโฆษณาในสื่อต่างๆ ดังนั้น
หากชื่อเว็บจดจ�ำได้ง่ายพูดและสะกดง่ายก็จะช่วยเพิ่มโอกาส
ให้ลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์ได้ถูกต้อง เช่น หากเราเปรียบเทียบ
ชื่อเว็บไซต์ www.tohome.com กับ www.lazada.co.th
จะเห็นว่า tohome มีชื่อที่สั้น กระชับ จ�ำง่าย สะกดง่าย และ
สื่อความหมายธุรกิจได้ดีกว่า lazada เป็นต้น
4. ต้องตรงตัว :
ชื่อเว็บไซต์ควรสื่อถึงสินค้า/บริการของธุรกิจ เพราะแม้
กฎข้อหนึ่งของการตั้งชื่อเว็บไซต์คือต้องสั้น แต่หากสามารถ
ตั้งชื่อได้สื่อความหมายถึงธุรกิจได้อย่างชัดเจนแม้จะเป็นชื่อยาว
ก็ยังสามารถจ�ำได้ง่ายเช่นกันเช่นwww.thaisecondhand.com
เป็นต้น
5. ต้องหลีกเลี่ยงการใช้–(ขีดกลางหรือHyphen)
แม้เป็นอักขระที่อนุญาตให้ใช้ในการตั้งชื่อเว็บไซต์ได้
แต่หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพราะมันยากต่อการบอกต่อ
ซึ่งนั่นหมายถึง เราอาจสูญเสียลูกค้าในอนาคตได้เลยทีเดียว
- 93. WebsiteD.I.Y.
92
ส�ำหรับการตั้งชื่อโดเมนนั้นอีกเรื่อง
หนึ่งที่จ�ำเป็นต้องเข้าใจคือข้อความหลัง
เครื่องหมาย “.” เช่น .com หรือ .co.th
โดยความหมายมีดังนี้
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าเมื่อจดชื่อโดเมนเรามักนึกถึง .com
หรือดอทอื่น เช่น .org, .net เป็นต้น เอาเข้าจริงๆ การจดดอทเหล่านั้น
อาจไม่มีการตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของเว็บหรือเจ้าของเว็บ แต่หากจด
อะไรก็ตามที่ลงท้ายด้วย.thก็อาจมีการดูแลเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนของ
เว็บนั้นถึง 3 ขั้นด้วยกัน ขั้นแรกคือ THNIC ที่รับจดทะเบียน .th และหาก
เราไปแจ้งกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เครื่องหมายรับรองความมีตัวตน หรือ
Verified ก็เป็นอีกขั้นหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น หาก สพธอ. หรือ ETDA ออกตัว
Trust Mark ที่ดูแลความมีตัวตนของเว็บออกมาอีก ก็จะท�ำให้การยืนยัน
ตัวตนของเว็บนั้นสามารถตรวจสอบได้แบบ Real Time เลยทีเดียว
เลือกใช้ }ดอท~
อะไรดีหนอ?
นามสกุล ย่อมาจาก วัตถุประสงค์
.com Commercial การค้า บริษัท องค์กร
.net Network เครือข่าย
.org Organization องค์กรไม่หวังผลก�ำไร
.biz Business องค์กร บริษัท ห้างหุ้นส่วน คล้ายกับ .com
.info Information ข้อมูลสารสนเทศ
.us united states ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะต้องมีภูมิล�ำเนาอยู่ที่ประเทศนี้ด้วย
.co.th commercial in Thailand บริษัท หรือองค์กร ที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
.ac.th academic in Thailand โรงเรียน มหาวิทยาลัย ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
.or.th organization in Thailand องค์กรไม่หวังผลก�ำไร ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
.in.th individual in Thailand บุคคลทั่วไป ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
.net.th network in Thailand หน่วยงาน/องค์กรท�ำธุรกิจด้านเครือข่าย ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
- 94. บทที่4แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ3.0
93
4.2 บันไดหกขั้น
ปั้นเว็บให้น่าซื้อ
www.evenuwhitecream.com
ร้านค้ายอดเยี่ยมประจ�ำปี 2012
ของ www.lnwshop.com
1. เว็บต้องสวย
เว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนหน้าร้านค้าทั่วๆ ไป หากมีการประดับตกแต่งร้าน
อย่างสวยงาม ย่อมดึงดูดให้มีลูกค้าเข้าร้าน ในบางครั้งจะพบว่าสินค้ายี่ห้อเดียวกัน
เมื่อน�ำไปวางอยู่ในร้านค้าต่างกันก็ส่งผลต่อการตั้งราคาด้วย เช่น ในห้างสรรพสินค้า
ย่อมตั้งราคาได้สูงกว่าร้านค้าแผงลอยทั่วไป แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันก็ตาม ซึ่งการ
ปรับแต่งเว็บไซต์ให้สวยและดีนั้น ได้อธิบายโดยละเอียดแล้วในบทที่ 2 ลองน�ำเทคนิค
เหล่านั้นไปปฏิบัติกันดูโดยวิธีที่จะช่วยทดสอบว่าเว็บของเราสวยแล้วหรือยังก็อาจลอง
ถามจากเพื่อนฝูงหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเว็บไซต์ให้ลองวิพากษ์วิจารณ์กันแบบเปิดใจหรือ
บันไดหกขั้นปั้นเว็บให้น่าซื้อ
วัดผลความส�ำเร็จ
ท�ำให้น่าเชื่อถือ
ข้อมูลร้านค้าชัดเจน
ข้อมูลสินค้าต้องครบ
สินค้าต้องเยอะ
เว็บต้องสวย
อีกวิธีก็คือเข้าร่วมการประกวดเว็บไซต์
ดังเช่น www.lnwshop.com ซึ่งเป็น
ผู้ให้บริการเว็บส�ำเร็จรูปที่มีกิจกรรม
จัดประกวดเว็บไซต์ยอดเยี่ยมเป็นประจ�ำ
ทุกปี
หลังจากเราได้ชื่อเว็บไซต์ที่
คิดว่าน่าจะถูกอกถูกใจลูกค้าอันเป็น
ที่รักของเราแล้ว ต่อมาก็ควรปรับแต่
เว็บไซต์ให้ดูน่าเชื่อถือซึ่งเป็นสิ่งส�ำคัญ
อย่างหนึ่งที่จะท�ำให้ลูกค้าเกิดความ
เชื่อมั่น และตัดสินใจซื้อสินค้าบน
เว็บไซต์ของเราในที่สุดดังนั้นในหัวข้อนี้
จะกล่าวถึงข้อควรปฏิบัติ 6 ประการ
เพื่อท�ำให้เว็บไซต์น่าซื้อ
- 95. WebsiteD.I.Y.
94
2. สินค้าต้องเยอะไว้ก่อน
ลองนึกภาพว่า ถ้าเราเดินไปที่ร้านค้าแบบมีหน้าร้าน และเห็นสินค้าโชว์อยู่เพียง
ไม่กี่ชิ้นในขณะที่ร้านข้างๆขายของเหมือนกันแต่จัดวางสินค้าไว้มากมายเราจะเดินเข้า
ร้านไหน?เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ย่อมต้องการทางเลือกเยอะๆและเดินไปยังร้านที่มีสินค้า
มากกว่าแน่นอนเพราะดูน่าซื้อและน่าเชื่อถือมากกว่า เช่นเดียวกับ เว็บอีคอมเมิร์ซ
ก็ควรน�ำเสนอสินค้า/บริการบนเว็บไซต์ให้มากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ (ขั้นต�่ำ 20 – 30
รายการ)และพยายามเพิ่มจ�ำนวนสินค้าบนหน้าเว็บทุกครั้งที่มีสินค้าใหม่อย่างไรก็ตาม
บางธุรกิจที่มีสินค้าจ�ำนวนน้อยเช่นขายรองเท้าแค่ยี่ห้อเดียวสินค้าก็มีแค่รายการเดียว
แล้วจะให้ท�ำอย่างไร? กรณีนี้เราก็ยังสามารถน�ำเสนอรองเท้าบนหน้าเว็บแม้จะเป็น
ยี่ห้อเดียว หรือรายการเดียวก็ตามให้มีความน่าสนใจมากขึ้นได้ เช่น การแสดง
รองเท้าทุกสี ทุกขนาด หรือในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมุมภาพรวม ด้านข้าง ด้านบน
ด้านล่าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในตัวสินค้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้
ประโยชน์อีกด้านของการมีข้อมูลบนเว็บไซต์จ�ำนวนมากก็คือ ธุรกิจของเราก็มีโอกาส
ถูกค้นพบบนเว็บค้นหา (Search Engine) ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่างการแสดงสินค้า
“หมวดรองเท้า”
บนเว็บไซต์ต่างๆ
ตัวอย่างการแสดงสินค้า
“หมวดของที่ระลึก”
บนเว็บไซต์ต่างๆ
www.shoes.com
www.zalora.com
www.postmart.co.th
www.loftbangkok.com
www.shoethailand.com
www.baoji-shop.com
www.premium360.com
www.gifts.com
- 96. บทที่4แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ3.0
95
3. ข้อมูลสินค้าต้องครบถ้วน
เจ้าของเว็บควรระลึกไว้เสมอว่า การขายสินค้าออนไลน์นั้นมีความแตกต่างจาก
การขายแบบมีหน้าร้านตรงที่ “การสื่อสารกับลูกค้า” เพราะโอกาสที่ลูกค้าจะสอบถาม
ข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ นั้นอาจเป็นไปได้ยาก ดังนั้น แนวทางหนึ่งที่สามารถท�ำได้ก็คือ
การให้ข้อมูลสินค้าที่สมบูรณ์ครบถ้วนให้มากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ในระดับที่ลูกค้าสามารถ
ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ของเราหรือไม่เพราะหากขาดข้อมูล
ประกอบการตัดสินใจ นั่นอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสที่ลูกค้าจะออกจากเว็บไซต์
ของเรา แล้วไปซื้อกับเว็บอื่นที่ให้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์มากกว่า ตัวอย่างเช่น
www.shoes.com และ www.zalora.com เว็บช้อปปิ้งออนไลน์ตามรูปด้านล่าง
ที่พยายามให้ข้อมูลสินค้าอย่างครบถ้วนที่สุด ไม่ว่าจะเป็นชื่อสินค้า ราคา คุณสมบัติ
ของสินค้า ระยะเวลาจัดส่ง หรือแม้แต่รูปสินค้าก็แสดงให้เห็นทุกสี ทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้า
ใช้ประกอบการตัดสินใจสั่งซื้อได้ทันที
ตัวอย่างการน�ำเสนอข้อมูลสินค้าบนเว็บไซต์ต่างๆ
www.zalora.com
www.shoes.com
- 98. บทที่4แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ3.0
97
www.officemate.co.th www.shoes.com
วิธีสร้างความเชื่อมั่นของเว็บไซต์ต่างๆ
5. ท�ำให้น่าเชื่อถือ
อันที่จริงแล้วจาก 4 ข้อควรปฏิบัติข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการ
สร้างเว็บไซต์ให้สวยงาม การแสดงสินค้าจ�ำนวนมาก มี
รายละเอียดสินค้าครบถ้วน และข้อมูลร้านค้าที่ชัดเจน หาก
สามารถท�ำได้ตามค�ำแนะน�ำก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
ต่อลูกค้าได้มากแล้วแต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความ
น่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ได้มากขึ้นอีก เช่น ในขั้นตอนที่ลูกค้า
ต้องช�ำระเงินออนไลน์ อาจสร้างความเชื่อมั่นด้วยการพัฒนา
ความสามารถของเว็บไซต์เพื่อให้ได้การรับรองจากสถาบัน
ที่มีความน่าเชื่อถือด้านความมั่นคงปลอดภัยต่างๆ ดังเช่น
www.zalora.com
วิธีสร้างความเชื่อมั่นของ
www.zalora.com
รวมทั้งการแสดงขั้นตอนการช�ำระเงินที่ชัดเจนแบบ Step by Step ก็ช่วยสร้าง
ความมั่นใจต่อการช�ำระเงินของลูกค้าได้ไม่น้อย ยิ่งหากเจ้าของเว็บสามารถเพิ่ม
การช�ำระเงินได้หลากหลายช่องทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งการช�ำระเงินเมื่อได้รับสินค้า
ก็ยิ่งเพิ่มความไว้วางใจมากขึ้นเช่นwww.officemate.co.thนอกจากนี้ยังสามารถ
ใช้วิธีการให้คะแนน(Ratings)และแสดงความคิดเห็น(Reviews)ของลูกค้ารายอื่นๆ
ที่มีต่อสินค้าเพราะโดยทั่วไปแล้วลูกค้ามักจะไม่เชื่อสิ่งที่เจ้าของเว็บพูดแต่จะเชื่อถือ
ลูกค้าด้วยกันเอง เช่น www.shoes.com ที่เปิดเวทีให้ลูกค้าสามารถให้คะแนน
และแสดงความคิดเห็นต่อสินค้าต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ และลูกค้าจะยิ่งเชื่อถือมากขึ้น
หากมีการแจ้งสถานะการจัดส่งของที่สามารถติดตามได้เองตลอด 24 ชั่วโมง เช่น
www.postmart.co.th
www.postmart.co.th
- 101. WebsiteD.I.Y.
100
SEO เป็นวิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงกับ
หลักการค้นหาของเสิร์ชเอนจินซึ่งหากสามารถ
ท�ำได้จะท�ำให้ผลลัพธ์การค้นหาถูกจัดอยู่ในอันดับ
ต้นๆ โดยวิธีการท�ำ SEO สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วน
ที่ควรท�ำไปพร้อมกันได้แก่ 1) On Page Factor คือ
การปรับแต่งเว็บเพจให้ตรงกับหลักการค้นหาของเสิร์ชเอนจิน
เช่น การปรับแต่งเนื้อหาของเว็บเพจให้มีคีย์เวิร์ด (Keyword) จ�ำนวนมากๆ
สอดคล้องเป็นเรื่องราวเดียวกัน มีความทันสมัยตลอดเวลา และ
การท�ำแผนผังเว็บไซต์ (Site Map) 2) Off Page Factor เป็นเทคนิค
การใช้ปัจจัยภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งเว็บไซต์ของเจ้าของเว็บ
เช่นการแลกลิงก์(Link)กับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันและการสร้างประกาศ
ซื้อขายบนเว็บไซต์ต่างๆเป็นต้นอย่างไรก็ตามแม้ว่าการท�ำSEOจะเป็นวิธีทาง
การตลาดออนไลน์ที่อาจไม่ต้องใช้เงินลงทุนหรือใช้เงินลงทุนไม่สูงแต่ก็เป็น
เทคนิคที่ต้องอาศัยเวลากว่าจะเห็นผลรวมทั้งต้องใช้ประสบการณ์และ
ความเชี่ยวชาญของผู้ท�ำด้วย
ต�ำแหน่งการแสดงผลลัพธ์ในเว็บค้นหา (Search Engine) จากการท�ำ SEO
(รูปภาพจาก www.switchconsultancy.com/what-is-seo-ppc)
- 103. WebsiteD.I.Y.
102
3) ใส่ค�ำส�ำคัญ (Keyword) ให้หนาแน่น ค�ำส�ำคัญ
ที่ก�ำหนดในแต่ละหน้าเว็บไซต์ไม่จ�ำเป็นต้องมีเพียงจุดเดียว
เราสามารถใส่ค�ำส�ำคัญได้ซ�้ำๆ ได้ แต่ก็ไม่ควรมากเกินไป
จนดูไม่เป็นธรรมชาติ (แนะน�ำไม่ควรเกิน 20% ของจ�ำนวน
อักษรในหน้าเว็บเพจนั้น) โดยเมื่อ Search Engine พบ
ค�ำส�ำคัญซ�้ำๆ บ่อยๆ ก็จะตีความว่าเป็นเว็บที่เกี่ยวข้องกับค�ำ
เหล่านั้น และน�ำไปแสดงเป็นผลลัพธ์ในการค้นหา ทั้งนี้
มีเครื่องมือที่สามารถน�ำมาใช้ในการวิเคราะห์ค�ำส�ำคัญ
บนเว็บไซต์ได้คือ www.ranks.nl ตัวอย่างเช่น ลองค้นหา
ค�ำส�ำคัญของwww.thaibodyguard.comซึ่งเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซ
ที่จ�ำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันตัวส�ำหรับผู้หญิง จะพบว่าค�ำที่พบ
3 ล�ำดับแรกคือ com, thaibodyguard และสเปรย์พริกไทย
ตามล�ำดับ โดยเมื่อเห็นข้อมูลดังกล่าวแล้วก็สามารถน�ำไป
วิเคราะห์ต่อได้ทันทีว่าจะเน้นใช้ค�ำไหนเป็นค�ำส�ำคัญ ดังเช่น
ตัวอย่างนี้ ก็ควรเน้นค�ำว่า สเปรย์พริกไทย อุปกรณ์ป้องกันตัว
มากกว่าค�ำว่า com และ thaibodyguard
www.ranks.nl เครื่องมือวิเคราะห์ค�ำส�ำคัญบนเว็บไซต์
Word
com
thaibodyguard
สเปรย์พริกไทย
อุปกรณ์ป้องกันตัว
splitted
mailsubscribe
www
ป้องกันตัว
Repeats
6 T,U,D,K
5 T,HST,D,K
4 T,D,K
4 T,D,K
7
6
2 u,D,K
2 A,K
Density
3.30%
2.75%
2.20%
2.20%
3.85%
3.30%
1.10%
1.10%
Prominence
74.27
84.40
90.11
90.11
23.00
55.22
84.62
78.85
Wizard
- 104. บทที่4แต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ3.0
103
4) เลี่ยงการออกแบบเว็บไซต์ด้วยแอนิเมชันหรือ
รูปภาพเยอะเกินไป โดยไม่มีตัวหนังสืออธิบายเลย
เนื่องจาก Search Engine จะพิจารณาเนื้อหาเฉพาะที่เป็น
ข้อความเป็นหลัก ซึ่งหากเว็บไซต์มีแต่ภาพแล้ว Search Engine
จะไม่เข้าใจเว็บไซต์ของเรานั่นเอง
5)ควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพและใส่ค�ำอธิบายให้กับภาพ
โดยควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพที่ตรงกับKeywordที่ต้องการและควร
ใส่ค�ำอธิบายภาพ เพื่อท�ำให้ Search Engine รู้ว่าภาพที่ใส่เข้าไป
ในเว็บไซต์คือภาพอะไร และเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอะไร
6) แลกลิงก์กับเว็บไซต์อื่นๆ เนื่องจากการแลกลิงก์กับ
เว็บไซต์อื่นๆและมีเว็บไซต์อื่นๆลิงก์มาหาเว็บไซต์ของเราเยอะๆนั้น
เป็นการแสดงว่าเว็บไซต์ของเราก�ำลังเป็นที่รู้จัก ได้รับความนิยม
Search Engine ก็จะให้คะแนนเว็บไซต์ของเรา โดยถ้าเรา
มีคะแนนสูงก็จะมีผลต่ออันดับการแสดงผลลัพธ์ในเว็บของ
Search Engine นั้นๆ
จะเห็นได้ว่าส่วนส�ำคัญของการท�ำ SEO คือการก�ำหนด “ค�ำส�ำคัญ
หรือ Keyword” ซึ่งแนวทางหนึ่งที่ท�ำได้คือการใช้เครื่องมือช่วยเหลือ
อย่างเช่นGoogleAdwordsซึ่งสามารถเข้าใช้บริการได้ที่www.google.com/
adwords/ โดยเมื่อสมัครสมาชิกและเข้าสู่ระบบแล้ว ระบบจะพาเข้าสู่
หน้าจอหลัก ให้คลิกที่เมนู “Tool and Analysis” และเลือกเมนูย่อย
“Keyword Planner” หลังจากนั้นคลิก “Search for keyword and
ad group ideas” ดังรูปด้านล่าง
การวิเคราะห์ค�ำส�ำคัญ (Keyword) ผ่านเว็บ
www.google.com/adwords ขั้น 1
- 105. WebsiteD.I.Y.
104
ระบบจะพาเข้าสู่การวิเคราะห์ค�ำส�ำคัญ (Keyword) ดังรูป
ต่อไป โดยส่วนที่ต้องกรอกเพื่อท�ำการวิเคราะห์ข้อมูลนั้นมี ดังนี้
(1) สินค้าและบริการของเรา
(2) ชื่อเว็บไซต์ของเรา
(3) ประเภทของสินค้าและบริการของเรา
(4) เป้าหมาย โดยให้เราท�ำการปรับประเทศและภาษาใน
2 ช่องแรกตามเป้าหมายลูกค้าที่ต้องการ
(5) ส่วนนี้เป็นส่วนของปรับค่าเกี่ยวกับKeywordที่เราต้องการ
ส่วนที่น่าจะปรับคือ“Avg.MonthlySearch”หรือจ�ำนวน
ครั้งที่ Keyword นี้ถูกใช้โดยเฉลี่ยต่อเดือน
การวิเคราะห์ค�ำส�ำคัญ (Keyword) ผ่านเว็บ
www.google.com/adwords ขั้น 2
- 107. WebsiteD.I.Y.
106
…เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้หวังว่าสาระเกี่ยวกับการสร้าง
เว็บไซต์ฉบับD.I.Y.เล่มนี้คงจะพอหอมปากหอมคอช่วยเติมเต็ม
ความรู้ในอีกแง่มุมหนึ่งให้กับ “เถ้าแก่ไฮเทค” ทุกท่าน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ “เทคโนโลยีไม่มีวันหยุด” ดังนั้น ขยัน
ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม�่ำเสมอจุดประกายไอเดียใหม่ๆ
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เราในทุกๆ วัน พวกเราทีมงาน
ETDA (เอ็ทด้า) ขอให้ท่านประสบความส�ำเร็จในธุรกิจผ่าน
โลกออนไลน์กันทุกคนนะจ๊ะ (:
การท�ำ SEO นั้นมีอยู่มากมายหลายวิธี ซึ่งที่กล่าวถึง
ในหัวข้อนี้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น ที่สามารถน�ำมา
ประยุกต์ใช้กับเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม ต้องพึงระลึก
ไว้เสมอว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเว็บไซต์
ในโลกนี้มีอยู่เป็นจ�ำนวนมากการที่SearchEngineจะเข้ามา
จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของเว็บเรานั้น ก็ไม่ใช่ทุกวัน อีกทั้งการท�ำ
SEOต้องอาศัยคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์และการหมั่น
ปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาจึงจะส่งผลดีต่อการ
ถูกค้นพบใน Search Engine ดังนั้น ความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของ
เจ้าของเว็บจึงถือเป็นสิ่งส�ำคัญที่สุดที่นอกจากจะท�ำให้เว็บไซต์
ของเราสวยและดูดีแล้ว ยังมีลูกค้าเข้าร้านอีกด้วย
- 109. WebsiteD.I.Y.
108
1 ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่บ่นว่าเว็บใช้งานยาก
2 มีการจัดหมวดหมู่สินค้า/บริการอย่างชัดเจน
3 มีฟังก์ชัน Search เพื่อให้ง่าย
ต่อการค้นหาข้อมูลบนเว็บ
4 ปุ่ม Click ต่างๆ บนเว็บแสดงให้เห็นชัดเจน หาง่าย
5 มีระบบน�ำทางบนเว็บไซต์ (Navigation)
6 มีแผนผังเว็บไซต์ (Site Map)
7 มีพื้นที่ว่าง (White Space) ในระดับที่ท�ำให้เว็บ
ดูสบายตา
ถูกต้อง พอใช้ ไม่ถูกต้องด้านความเรียบง่าย
มาตรวจสุขภาพเว็บไซต์
ของเรากันเถอะ
- 110. AppendixWEBSITECHECKUP60SECONDS!
109
ถูกต้อง พอใช้ ไม่ถูกต้องด้านความดึงดูดน่าสนใจ
8 ต�ำแหน่งโลโก้แสดงชัดเจน เห็นง่าย พร้อมมี
Tagline อธิบายเว็บไซต์สั้นๆ
9 ภาพทุกภาพบนเว็บไซต์มีความคมชัด
10 ใช้ภาพบุคคลประกอบบนหน้าเว็บ
11 ตัวอักษรอ่านง่าย และสีอักษรกับสีพื้นหลัง
เป็นสีที่ตัดกัน (Contrast)
12 เนื้อหาส�ำคัญที่สุดแสดงอยู่บริเวณระดับสายตา
ของผู้เยี่ยมชม (Eye Contact)
13 เนื้อหาบนเว็บไซต์อ่านง่าย น่าติดตาม
ถูกต้อง พอใช้ ไม่ถูกต้องด้านความสามารถในการเข้าถึง
14 ใช้ Screen Resolution ที่เหมาะสมกับผู้เยี่ยมชม
(ดูได้ที่ www.truehits.net)
15 ใช้ Web Browser ที่เหมาะสมกับผู้เยี่ยมชม
(ดูได้ที่ www.truehits.net)
16 ใช้ Font ตามมาตรฐานเว็บ (ไทย-Tahoma
อังกฤษ-Arial, Verdana, Times New Roman)
17 รูปภาพมี Alternative Text
18 ใช้ Pop Up บางโอกาสเท่านั้น
19 โหลดเว็บเพจแต่ละหน้าไม่เกิน 6 วินาที
(ทดสอบได้ที่ www.webwait.com)
- 111. WebsiteD.I.Y.
110
ถูกต้อง พอใช้ ไม่ถูกต้อง
ถูกต้อง พอใช้ ไม่ถูกต้อง
ด้านความน่าเชื่อถือ
20 มีเมนู “เกี่ยวกับเรา (About Us)”
21 มีแผนที่ร้านค้าชัดเจน
22 มีเมนู “ค�ำถามที่พบบ่อย (FAQs)”
23 ตัวสะกดบนหน้าเว็บไซต์ถูกต้อง และส�ำนวน
การเขียนที่น่าเชื่อถือ
24 มีเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในด้านต่างๆ
25 ชี้แจงข้อมูลสินค้าทุกรายการอย่างชัดเจน เช่น
ชื่อสินค้า รหัส รูปภาพ คุณลักษณะ
26 ชี้แจงขั้นตอนการสั่งซื้อและการช�ำระเงินอย่าง
ชัดเจน
27 ข้อมูลการติดต่อชัดเจน เช่น ที่อยู่ โทรศัพท์ โทรสาร
อีเมล โซเชียลมีเดีย
28 มีเมนู “ข้อตกลงและเงื่อนไข/นโยบายความเป็น
ส่วนตัว”
29 มีข้อก�ำหนดด้านนโยบายการเปลี่ยน/คืนสินค้า
และชี้แจงขั้นตอนปฏิบัติอย่างชัดเจน
30 มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบนเว็บไซต์
และน�ำไปใช้จริง
ด้านความน่าเชื่อถือ การรักษาความเป็นส่วนตัว
และความมั่นคงปลอดภัยบนเว็บไซต์
- 112. AppendixWEBSITECHECKUP60SECONDS!
111
ต�่ำกว่า 15 คะแนน เว็บไซต์อยู่ในเกณฑ์ “ต�่ำกว่ามาตรฐาน” ควรรีบปรับปรุง
เว็บไซต์ในด้านที่ท่านยังด้อยอยู่นะจ๊ะ
15 – 23 คะแนน เว็บไซต์อยู่ในเกณฑ์ “มาตรฐาน” แต่ก็ยังสามารถพัฒนา
เว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นได้อีกนะ
ตั้งแต่ 24 คะแนน ว้าว ว้าว ว้าว!!! เว็บไซต์ของท่านอยู่ในเกณฑ์ “ยอดเยี่ยม”
แล้วล่ะ อุดช่องโหว่ในเรื่องที่ท่านยังตอบว่า “ไม่ถูกต้อง”
รับรองได้เลยเว็บไซต์ท่านจะประทับอยู่ในใจลูกค้าแน่นอน
ผลตรวจสุขภาพเว็บ
คะแนนของคุณคือ.....................คะแนน
- 113. บริการของ สพธอ. งานวิชาการ การให้ค�ำปรึกษา
è ด้านนโยบายและการวางแผนเกี่ยวกับการท�ำธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์
è ด้านสถิติข้อมูลเชิงลึก ที่เกี่ยวกับการท�ำธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ
è ด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวกับการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
è ด้านความมั่นคงปลอดภัย และมาตรฐาน ในการท�ำธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการตรวจและพิสูจน์พยานหลักฐาน
อิเล็กทรอนิกส์
è ด้านระบบบริการส�ำคัญที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จ�ำเป็นเกี่ยวกับ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
è งานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
สพธอ. เป็นองค์การมหาชนที่มีภารกิจส�ำคัญในการผลักดัน พัฒนา ส่งเสริม
และสนับสนุนการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ โดยมุ่งสร้าง
สภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือ
ของทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการในการท�ำธุรกรรมทางออนไลน์ ด้วยความ
มุ่งมั่นในการท�ำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่าย
ความร่วมมือในการท�ำงานจากทุกภาคส่วนทั้งภายในประเทศและ
ต่างประเทศ สามารถเป็นที่พึ่งด้านการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ให้กับทุกภาคส่วนได้ ประกอบกับเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวสูง ด้วยทีม
ผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่
“Secure e – transactions : Opportunities for Thailand”
การยกระดับขีดความสามารถบุคลากร
สพธอ. ให้บริการการฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะและความ
เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้กับบุคลากรในประเทศเกี่ยวกับ
มาตรฐานและความมั่นคงปลอดภัยในการท�ำธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งทางด้านเทคนิคและหลักสูตรประยุกต์
ส�ำหรับผู้ประกอบการ e-Commerce และผู้ที่สนใจ
เกี่ยวกับ ETDA
ETDA
ท�ำหน้าที่อะไรครับ?
ETDA ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
เป็นองค์กรส�ำคัญในการสนับสนุน
SMART THAILAND โดยส่งเสริม
ให้การท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เติบโต
อย่างมั่นคงปลอดภัยทัดเทียมผู้น�ำในภูมิภาค
SECURE e – TRANSACTIONS
ธุรกรรมออนไลน์ ยกระดับคุณภาพชีวิต
จัดท�ำนโยบาย
ส่งเสริมและพัฒนา
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
และมาตรฐาน
ด้านไอซีที
ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
อาคารเดอะไนท์ ทาวเวอร์ เลขที่ 33/4 ตึก B ชั้น 21 ถนนพระรามเก้า
แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ 0-2123-1234 โทรสาร 0-2123-1200
สพธอ. www.etda.or.th
ภารกิจ
สพธอ.พัฒนาและ
สร้างโครงสร้าง
พื้นฐานส�ำคัญ
รองรับการท�ำ
ธุรกรรม
ทางออนไลน์
ของประเทศ สนับสนุน
การด�ำเนินงาน
ของคณะกรรมการ
ธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ สร้างกลไกที่
เพิ่มศักยภาพ
และขีดความสามารถ
ในการแข่งขันของประเทศ
สร้าง
ความเชื่อมั่น
ในการท�ำธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์
- 114. สร้างสรรค์โดย
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
อาคารเดอะไนท์ ทาวเวอร์ เลขที่ 33/4 ตึก B ชั้น 21
ถนนพระรามเก้า แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ 0-2123-1234 โทรสาร 0-2123-1200
สพธอ. www.etda.or.th
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร www.mict.go.th
“เว็บไซต์” กลายเป็นช่องทางหลัก
ในการเข้าถึงลูกค้าในยุคดิจิทัล เพราะสามารถ
น�ำเสนอข้อมูลออกไปได้ในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ง่ายดาย ด้วยต้นทุนที่ต�่ำที่สุด แต่ก็มีจ�ำนวน
ไม่น้อยที่ขาดความเข้าใจเรื่องพฤติกรรมการ
เยี่ยมชมเว็บไซต์ของลูกค้ายุคใหม่ สุดท้ายลูกค้า
ก็ไม่ประทับใจและจากเราไปในที่สุด “แล้วต้อง
ท�ำอย่างไรให้การพัฒนาเว็บไซต์ด้วยตัวเอง
ง่ายๆ และประสบความส�ำเร็จได้”...หนังสือ
เล่มนี้คือค�ำตอบ
อยากมีเว็บไซต์ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
กลเม็ดปั้นเว็บให้สวยและโดนใจลูกค้า
เผยเทคนิคท�ำเว็บส�ำหรับมือใหม่...สไตล์ D.I.Y.
แนะน�ำวิธีปรับแต่งเว็บขั้นเทพในยุคเว็บ 3.0
เราปั้นหนังสือเล่มนี้เพื่อคุณ :
เถ้าแก่ยุคไอที
นักช้อปออนไลน์
ครอบครัวไซเบอร์