SlideShare a Scribd company logo
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
 ความหมายและแนวคิดของการเรียนรู้แบบร่วมมือ
( Cooperative and Collaborative Learning )
ความหมาย
การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative
Learning) เป็นคำาที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เพราะมีลักษณะ
เป็นกระบวนการเรียนรู้เป็นแบบร่วมมือ ข้อแตกต่างระหว่าง
Cooperative Learning กับ Collaborative Learning อยู่ที่ระดับความ
ร่วมมือที่แตกต่างกัน Sunyoung, J. (2003) ได้สรุปว่า ความแตก
ต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่าง Cooperative Learning กับ
Collaborative Learning คือ เรื่องโครงสร้างของงาน ได้แก่ Pre –
Structure , Task – Structure และ Content Structure โดย
Cooperative Learning จะมีการกำาหนดโครงสร้างล่วงหน้ามากกว่า
มีความเกี่ยวข้องกับงานที่มีการจัดโครงสร้างไว้เพื่อคำาตอบที่
จำากัดมากกว่า และมีการเรียนรู้ในขอบข่ายความรู้และทักษะที่
ชัดเจน ส่วน Collaborative Learning มีการจัดโครงสร้างล่วงหน้า
น้อยกว่า เกี่ยวข้องกับงานที่มีการจัดโครงสร้างแบบหลวมๆ (ill –
Structure Task) เพื่อให้ได้คำาตอบที่ยืดหยุ่นหลากหลาย และมีการ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning and
Collaborative Learning) หรือนักวิชาการบางท่านได้
แปล Collaborative Learning ว่าคือ การเรียนรู้ร่วมกัน
ซึ่งเป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่ง ที่
เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานเป็นกลุ่มย่อย โดยมี
สมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน เพื่อ
เสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน
สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จน
บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังเป็นการ
ส่งเสริมการทำางานร่วมกันเป็นหมู่คณะ หรือทีม
ตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการพัฒนา
ความฉลาดทางอารมณ์ ทำาให้สามารถปรับตัวอยู่
2. ทฤษฎีและหลักการของการเรียนรู้
แบบร่วมมือ
2.1 องค์ประกอบของการเรียนแบบร่วมมือ
Johnson and Johnson (1994 : 31 - 37) ได้
สรุปว่า Cooperative Learning มีองค์ประกอบ ที่
สำาคัญ 5 ประการ ดังนี้
ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในทาง
บวก
การมีปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมกันระหว่าง
สมาชิกภายในกลุ่ม
ความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละ
บุคคล
การใช้ทักษะการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
1.ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในทางบวก
(PositiveInterdependent) หมายถึงการพึ่งพากันใน
ทางบวก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การ
พึ่งพากันเชิงผลลัพธ์ คือการพึ่งพากันใน
ด้านการได้รับผลประโยชน์จากความสำาเร็จ
ของกลุ่มร่วมกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน จึงจะ
เกิดแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีการพึ่งพาซึ่งกันและ
กัน สามารถร่วมมือกันทำางานให้บรรลุผล
สำาเร็จได้ และการพึ่งพาในเชิงวิธีการ คือ
การพึ่งพากันในด้านกระบวนการทำางานเพื่อ
ให้งานกลุ่มสามารถบรรลุได้ตามเป้าหมาย
2. การมีปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมกันระหว่าง
สมาชิกภายในกลุ่ม (Face to Face
Promotive Interdependence) หมายถึง การ
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนช่วยเหลือกัน มีการ
ติดต่อสัมพันธ์กัน การอภิปรายแลกเปลี่ยน
ความรู้ ความคิด การอธิบายให้สมาชิกใน
กลุ่มได้เกิดการเรียนรู้ การรับฟังเหตุผล
ของสมาชิกในกลุ่ม การรับฟังเหตุผลของ
สมาชิกภายในกลุ่ม จะก่อให้เกิดการพัฒนา
กระบวนการคิดของผู้เรียน เป็นการเปิด
โอกาสให้ ผู้เรียนได้รู้จักการทำางานร่วมกัน
ทางสังคม จากการช่วยเหลือสนับสนุนกัน
3. ความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละ
บุคคล (Individual Accountability)
หมายถึง ความรับผิดชอบในการเรียนรู้
ของสมาชิกแต่ละคน โดยต้องทำางานที่ได้
รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ โดย
ประเมินผลงานของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งรวม
กันเป็นผลงานของกลุ่มให้ข้อมูลย้อนกลับ
ทั้งกลุ่มและรายบุคคลให้สมาชิกทุกคน
รายงานหรือมีโอกาสแสดงความคิดเห็นโดย
ทั่วถึงกัน
4. การใช้ทักษะการปฏิสัมพันธ์
ระหว่างบุคคลและทักษะการทำางาน
กลุ่มย่อย (Interpersonal and Small
Group Skills)
หมายถึง การมีทักษะทางสังคม
(Social Skill) เพื่อให้สามารถทำางาน
ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข คือ มีความ
เป็นผู้นำา รู้จักตัดสินใจ สามารถสร้าง
ความไว้วางใจ รู้จักติดต่อสื่อสาร และ
สามารถแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งในการ
ทำางานร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งจำาเป็นสำาหรับ
การทำางานร่วมกันที่จะช่วยให้การทำางาน
5. กระบวนการทำางานของกลุ่ม (Group
Processing)
หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ของกลุ่ม
โดยผู้เรียนจะต้องเรียนรู้จากกลุ่มให้มาก
ที่สุด มีความร่วมมือทั้งด้านความคิด การ
ทำางาน และความ รับผิดชอบร่วมกันจน
สามารถบรรลุเป้าหมายได้ การที่จะช่วย
ให้การดำาเนินงานของกลุ่มเป็นไปได้อย่าง
มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายนั้น กลุ่ม
จะต้องมีหัวหน้าที่ดี สมาชิกดี และ
กระบวนการทำางานดี นั่นคือ มีการเข้าใจ
ในเป้าหมายการทำางานร่วมกัน
ประเภทของกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ
1. กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่างเป็น
ทางการ (Formal Cooperative Learning
Group)
กลุ่มประเภทนี้ ครูจัดขึ้นโดยการวางแผน จัด
ระเบียบ กฎเกณฑ์ วิธีการและเทคนิคต่างๆเพื่อให้
ผู้เรียนได้ร่วมมือกันเรียนรู้สาระต่างๆ อย่างต่อ
เนื่อง ซึ่งอาจเป็นหลายๆชั่วโมงติดต่อกัน หรือ
หลายสัปดาห์ติดต่อกัน จนกระทั่งผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้และบรรลุจุดมุ่งหมายตามที่กำาหนด
2. กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่างไม่เป็น
ทางการ (Informal Cooperative Learning
Group)
กลุ่มประเภทนี้ ครูจัดขึ้นเฉพาะกิจเป็นครั้ง
3. กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่าง
ถาวร (Cooperative Base Group) หรือ Long -
TermGroup
กลุ่มประเภทนี้ เป็นกลุ่มการเรียนรู้ที่
สมาชิกกลุ่มมีประสบการณ์การทำางาน / การ
เรียนรู้ร่วมกันมานานมากกว่า 1 หลักสูตร
หรือภาคการศึกษา จนกระทั่งเกิด
สัมพันธภาพที่แน่นแฟ้น สมาชิกกลุ่มมีความ
ผูกพัน ห่วงใย ช่วยเหลือกันและกันอย่างต่อ
เนื่อง
ข้อดีของการเรียนรู้แบบร่วมมือ
ก. ใคร่ครวญในความหลากหลาย
ข. ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล
ค. การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง
บุคคล
ง. การรวมนักเรียนที่มีความ
กระตือรือร้นในการเรียนรู้
จ. มีโอกาสมากกว่าสำาหรับการป้อน
กลับส่วนบุคคล
สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
นั้น ย่อมมีทั้งข้อดีในการพัฒนาผู้เรียนใน
ด้านต่างๆ และข้อจำากัดของกระบวนการ
จัดการเรียนรู้ เพราะเป็นการทำางานร่วมกับ
บุคคลอื่นที่มีความแตกต่างในหลายๆด้าน
ซึ่งทักษะทางสังคมเป็นสิ่งจำาเป็นที่ต้อง
พัฒนาในตัวผู้เรียนแต่ละคน และหากผู้สอน
ได้นำาเทคนิคการจัดการกับความขัดแย้งมา
ใช้ได้ทันท่วงที ในระยะแรกที่ความขัดแย้ง
ได้เกิดขึ้น ก็จะเป็นการช่วยลดอุปสรรคใน
การเรียนรู้ และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ
ของการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วย
จบการนำาเสนอ
ชื่อสมาชิก
นางสาวอัญธิดา เชื้อชาญ รหัส
561166052
นางสาววรัญญา พรรณเหล็ก รหัส
561166069
นางสาวกนกวรรณ เถินโจง รหัส
561166096
นางสาวอัญชลี เกเย็น รหัส
561166097
นางสาว มนธิญา สายวงศ์โห้ รหัส
561166099
คณะครุศาสตร์ วิชาเอกภาษาไทย
Section AE

More Related Content

PDF
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
PDF
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
PDF
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
PPT
รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้Graphic organizer
PDF
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
PDF
ทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
PDF
ห้องสีขาว 1.1
PDF
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
คำนำ สารบัญ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่มที่...
ตัวอย่างแผนการเรียนรู้ BackWard Design
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้Graphic organizer
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
ทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ห้องสีขาว 1.1
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้

What's hot (20)

PDF
ใบความรู้ สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
PPT
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
PDF
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
PDF
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2560
PDF
คำอธิบายรายวิชาIS3
DOCX
วิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับการศึกษา
PPTX
Wolfgang kohler
PDF
Collaborative learning
PPTX
ตัวอย่าง PPT นำเสนอประเมินการพัฒนางาน ว.PA (15 นา.pptx
PDF
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
PDF
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้(ครูพิณทิพย์)
PDF
แผนKpa ส่งจริง (ซ่อมแซม)
PPTX
Testแนวการออกข้อสอบวัดการคิดระดับสังเคราะห์
PPTX
สื่อการสอน เรื่อง งานประดิษฐ์
PPTX
การยืมคำ ตปท.มาใช้
PDF
ใบงานที่ 1-5 ม.1 1/61
PDF
แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ และวิจารณ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธ...
ใบความรู้ สังคมศึกษา ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+426+dltvsocp2+T1 p1 3-sheet
รูปแบบการสอนดร.ทิศนา แขมณี
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2560
คำอธิบายรายวิชาIS3
วิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับการศึกษา
Wolfgang kohler
Collaborative learning
ตัวอย่าง PPT นำเสนอประเมินการพัฒนางาน ว.PA (15 นา.pptx
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้(ครูพิณทิพย์)
แผนKpa ส่งจริง (ซ่อมแซม)
Testแนวการออกข้อสอบวัดการคิดระดับสังเคราะห์
สื่อการสอน เรื่อง งานประดิษฐ์
การยืมคำ ตปท.มาใช้
ใบงานที่ 1-5 ม.1 1/61
แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ และวิจารณ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธ...
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
การเรียนแบบร่วมมือ
PDF
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
PPT
PDF
การจัดการเรียนรู้ Stad
PDF
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
PPTX
การจัดการเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (Stad
PPTX
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
PPT
การจัดการเรียนการสอนแบบ Tgt
PPTX
วิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น
PDF
Cooperative learning macal 2013
PPTX
รูปแบบการสอนเน้นประสบการณ์
DOCX
mind mapสื่อการเรียนรู้
DOCX
mind map สื่อการเรียนรู้
PPT
เทคนิคการสอนและรูปแบบที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
PPTX
การจัดการเรียนรู้แบบค้นพบ
PPT
หน่วยที่ 13 เกมและสถานการณ์จำลอง
PPTX
รูปแบบการเรียนการสอนกระบวนการคิดสร้างสรรค์ (Synectics Instructional Model)
PDF
Constructivismใหม่j
DOCX
แผน Stad
PPT
การสอนคิดแบบหมวก 6 ใบ (power point)
การเรียนแบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การจัดการเรียนรู้ Stad
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การจัดการเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (Stad
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
การจัดการเรียนการสอนแบบ Tgt
วิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น
Cooperative learning macal 2013
รูปแบบการสอนเน้นประสบการณ์
mind mapสื่อการเรียนรู้
mind map สื่อการเรียนรู้
เทคนิคการสอนและรูปแบบที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
การจัดการเรียนรู้แบบค้นพบ
หน่วยที่ 13 เกมและสถานการณ์จำลอง
รูปแบบการเรียนการสอนกระบวนการคิดสร้างสรรค์ (Synectics Instructional Model)
Constructivismใหม่j
แผน Stad
การสอนคิดแบบหมวก 6 ใบ (power point)
Ad

Similar to การเรียนรู้แบบร่วมมือ (20)

PPTX
Cooperative learning
PPTX
Cooperative Learning
PPT
010การเรียนรู้
PDF
บทความการเรียนแบบร่วมมือ
PDF
เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม
PDF
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
PDF
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
PPT
topic6_collaborative
PPTX
ร่วมมือ
PDF
บทความการสอนแบบเป็นทีม
PDF
ภารกิจครูมือใหม่
PPTX
57 edu 3.0_080657_econs
PDF
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย2
PDF
ครูมือใหม่
PPT
จิตวิทยาการเรียนรู้ 2
PPT
ภารกิจระดับครูมือใหม่
DOC
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
PPT
ครูฝึกหัด
PDF
ครูมือใหม่
Cooperative learning
Cooperative Learning
010การเรียนรู้
บทความการเรียนแบบร่วมมือ
เทคนิคการสอน กระบวนการกลุ่ม
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
topic6_collaborative
ร่วมมือ
บทความการสอนแบบเป็นทีม
ภารกิจครูมือใหม่
57 edu 3.0_080657_econs
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย2
ครูมือใหม่
จิตวิทยาการเรียนรู้ 2
ภารกิจระดับครูมือใหม่
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ครูฝึกหัด
ครูมือใหม่

การเรียนรู้แบบร่วมมือ

  • 2. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ  ความหมายและแนวคิดของการเรียนรู้แบบร่วมมือ ( Cooperative and Collaborative Learning ) ความหมาย การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) เป็นคำาที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เพราะมีลักษณะ เป็นกระบวนการเรียนรู้เป็นแบบร่วมมือ ข้อแตกต่างระหว่าง Cooperative Learning กับ Collaborative Learning อยู่ที่ระดับความ ร่วมมือที่แตกต่างกัน Sunyoung, J. (2003) ได้สรุปว่า ความแตก ต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่าง Cooperative Learning กับ Collaborative Learning คือ เรื่องโครงสร้างของงาน ได้แก่ Pre – Structure , Task – Structure และ Content Structure โดย Cooperative Learning จะมีการกำาหนดโครงสร้างล่วงหน้ามากกว่า มีความเกี่ยวข้องกับงานที่มีการจัดโครงสร้างไว้เพื่อคำาตอบที่ จำากัดมากกว่า และมีการเรียนรู้ในขอบข่ายความรู้และทักษะที่ ชัดเจน ส่วน Collaborative Learning มีการจัดโครงสร้างล่วงหน้า น้อยกว่า เกี่ยวข้องกับงานที่มีการจัดโครงสร้างแบบหลวมๆ (ill – Structure Task) เพื่อให้ได้คำาตอบที่ยืดหยุ่นหลากหลาย และมีการ
  • 3. การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning and Collaborative Learning) หรือนักวิชาการบางท่านได้ แปล Collaborative Learning ว่าคือ การเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่ง ที่ เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานเป็นกลุ่มย่อย โดยมี สมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน เพื่อ เสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จน บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังเป็นการ ส่งเสริมการทำางานร่วมกันเป็นหมู่คณะ หรือทีม ตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการพัฒนา ความฉลาดทางอารมณ์ ทำาให้สามารถปรับตัวอยู่
  • 4. 2. ทฤษฎีและหลักการของการเรียนรู้ แบบร่วมมือ 2.1 องค์ประกอบของการเรียนแบบร่วมมือ Johnson and Johnson (1994 : 31 - 37) ได้ สรุปว่า Cooperative Learning มีองค์ประกอบ ที่ สำาคัญ 5 ประการ ดังนี้ ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในทาง บวก การมีปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมกันระหว่าง สมาชิกภายในกลุ่ม ความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละ บุคคล การใช้ทักษะการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
  • 5. 1.ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในทางบวก (PositiveInterdependent) หมายถึงการพึ่งพากันใน ทางบวก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การ พึ่งพากันเชิงผลลัพธ์ คือการพึ่งพากันใน ด้านการได้รับผลประโยชน์จากความสำาเร็จ ของกลุ่มร่วมกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน จึงจะ เกิดแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีการพึ่งพาซึ่งกันและ กัน สามารถร่วมมือกันทำางานให้บรรลุผล สำาเร็จได้ และการพึ่งพาในเชิงวิธีการ คือ การพึ่งพากันในด้านกระบวนการทำางานเพื่อ ให้งานกลุ่มสามารถบรรลุได้ตามเป้าหมาย
  • 6. 2. การมีปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมกันระหว่าง สมาชิกภายในกลุ่ม (Face to Face Promotive Interdependence) หมายถึง การ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนช่วยเหลือกัน มีการ ติดต่อสัมพันธ์กัน การอภิปรายแลกเปลี่ยน ความรู้ ความคิด การอธิบายให้สมาชิกใน กลุ่มได้เกิดการเรียนรู้ การรับฟังเหตุผล ของสมาชิกในกลุ่ม การรับฟังเหตุผลของ สมาชิกภายในกลุ่ม จะก่อให้เกิดการพัฒนา กระบวนการคิดของผู้เรียน เป็นการเปิด โอกาสให้ ผู้เรียนได้รู้จักการทำางานร่วมกัน ทางสังคม จากการช่วยเหลือสนับสนุนกัน
  • 7. 3. ความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละ บุคคล (Individual Accountability) หมายถึง ความรับผิดชอบในการเรียนรู้ ของสมาชิกแต่ละคน โดยต้องทำางานที่ได้ รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ โดย ประเมินผลงานของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งรวม กันเป็นผลงานของกลุ่มให้ข้อมูลย้อนกลับ ทั้งกลุ่มและรายบุคคลให้สมาชิกทุกคน รายงานหรือมีโอกาสแสดงความคิดเห็นโดย ทั่วถึงกัน
  • 8. 4. การใช้ทักษะการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลและทักษะการทำางาน กลุ่มย่อย (Interpersonal and Small Group Skills) หมายถึง การมีทักษะทางสังคม (Social Skill) เพื่อให้สามารถทำางาน ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข คือ มีความ เป็นผู้นำา รู้จักตัดสินใจ สามารถสร้าง ความไว้วางใจ รู้จักติดต่อสื่อสาร และ สามารถแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งในการ ทำางานร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งจำาเป็นสำาหรับ การทำางานร่วมกันที่จะช่วยให้การทำางาน
  • 9. 5. กระบวนการทำางานของกลุ่ม (Group Processing) หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ของกลุ่ม โดยผู้เรียนจะต้องเรียนรู้จากกลุ่มให้มาก ที่สุด มีความร่วมมือทั้งด้านความคิด การ ทำางาน และความ รับผิดชอบร่วมกันจน สามารถบรรลุเป้าหมายได้ การที่จะช่วย ให้การดำาเนินงานของกลุ่มเป็นไปได้อย่าง มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายนั้น กลุ่ม จะต้องมีหัวหน้าที่ดี สมาชิกดี และ กระบวนการทำางานดี นั่นคือ มีการเข้าใจ ในเป้าหมายการทำางานร่วมกัน
  • 10. ประเภทของกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ 1. กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่างเป็น ทางการ (Formal Cooperative Learning Group) กลุ่มประเภทนี้ ครูจัดขึ้นโดยการวางแผน จัด ระเบียบ กฎเกณฑ์ วิธีการและเทคนิคต่างๆเพื่อให้ ผู้เรียนได้ร่วมมือกันเรียนรู้สาระต่างๆ อย่างต่อ เนื่อง ซึ่งอาจเป็นหลายๆชั่วโมงติดต่อกัน หรือ หลายสัปดาห์ติดต่อกัน จนกระทั่งผู้เรียนเกิดการ เรียนรู้และบรรลุจุดมุ่งหมายตามที่กำาหนด 2. กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่างไม่เป็น ทางการ (Informal Cooperative Learning Group) กลุ่มประเภทนี้ ครูจัดขึ้นเฉพาะกิจเป็นครั้ง
  • 11. 3. กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่าง ถาวร (Cooperative Base Group) หรือ Long - TermGroup กลุ่มประเภทนี้ เป็นกลุ่มการเรียนรู้ที่ สมาชิกกลุ่มมีประสบการณ์การทำางาน / การ เรียนรู้ร่วมกันมานานมากกว่า 1 หลักสูตร หรือภาคการศึกษา จนกระทั่งเกิด สัมพันธภาพที่แน่นแฟ้น สมาชิกกลุ่มมีความ ผูกพัน ห่วงใย ช่วยเหลือกันและกันอย่างต่อ เนื่อง
  • 12. ข้อดีของการเรียนรู้แบบร่วมมือ ก. ใคร่ครวญในความหลากหลาย ข. ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล ค. การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง บุคคล ง. การรวมนักเรียนที่มีความ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ จ. มีโอกาสมากกว่าสำาหรับการป้อน กลับส่วนบุคคล
  • 13. สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ นั้น ย่อมมีทั้งข้อดีในการพัฒนาผู้เรียนใน ด้านต่างๆ และข้อจำากัดของกระบวนการ จัดการเรียนรู้ เพราะเป็นการทำางานร่วมกับ บุคคลอื่นที่มีความแตกต่างในหลายๆด้าน ซึ่งทักษะทางสังคมเป็นสิ่งจำาเป็นที่ต้อง พัฒนาในตัวผู้เรียนแต่ละคน และหากผู้สอน ได้นำาเทคนิคการจัดการกับความขัดแย้งมา ใช้ได้ทันท่วงที ในระยะแรกที่ความขัดแย้ง ได้เกิดขึ้น ก็จะเป็นการช่วยลดอุปสรรคใน การเรียนรู้ และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ของการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วย
  • 15. ชื่อสมาชิก นางสาวอัญธิดา เชื้อชาญ รหัส 561166052 นางสาววรัญญา พรรณเหล็ก รหัส 561166069 นางสาวกนกวรรณ เถินโจง รหัส 561166096 นางสาวอัญชลี เกเย็น รหัส 561166097 นางสาว มนธิญา สายวงศ์โห้ รหัส 561166099 คณะครุศาสตร์ วิชาเอกภาษาไทย Section AE