SlideShare a Scribd company logo
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์
maruays@yahoo.com
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No Evident or
Not Reported
BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
• Basic Requirements (สีแสด และ สีเหลือง) มีคะแนน 10-45%
• Overall Requirements (สีเขียว) มีคะแนน 50-65%
• Multiple Requirements (สีน้าเงิน และ สีคราม) มีคะแนน 70-100%
• ให้พิจารณาจากการอ่านรายงานผู้สมัคร ทั้ง Item แล้วเริ่มต้นที่ Band 4
(Overall) ก่อน ว่าได้ตอบสนองเกณฑ์อยู่ในช่วงคะแนนนี้ หรือไม่ (ถ้าไม่ใช่
จึงพิจารณาว่าจะเพิ่มหรือจะลด Band ต่อไป)
 คาอธิบายศัพท์การให้คะแนน (Defining Scoring Terms)
Processes (ADLI)
 การให้คะแนน Baldrige Criteria 2018 scoring steps
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No APPROACH BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
No
SYSTEMATIC,
ANECDOTAL
Beginning
SYSTEMATIC
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
Fully
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
SYSTEMATIC. Well-ordered, repeatable, and exhibiting the use of data and information so that learning is
possible.
EFFECTIVE. How well a process or a measure addresses its intended purpose. Effectiveness requires
(1) evaluating how well the process is aligned with the organization’s needs and how well it is deployed or
(2) Evaluating the outcome of the measure as an indicator of process or product performance.
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
Little or no
DEPLOYMENT
BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
little or no
evident
early stages in
most areas
DEPLOYED,
some areas in
early stages
well DEPLOYED,
may vary in
some areas
well DEPLOYED,
with no
significant gaps
fully DEPLOYED
without
significant
weakness or gap
Few = 5-15%
Some = 15-30%
Many = 30-50%
Most = 50-80%
Nearly All = 80-90%
All = 100%
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No LEARNING BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
no evident,
reacting to
problems
early stages to
general
improvement
beginning to
evaluation and
improvement
(PDCA)
fact-based,
evaluation and
improvement
(PDCA) +
INNOVATION
fact-based,
evaluation and
improvement
(PDCA) +
INNOVATION +
sharing
fact-based,
evaluation and
improvement
(PDCA) +
INNOVATION +
Analysis &
sharing
throughout
organization
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No ALIGNMENT BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
individual areas
or work units
operate
independently
ALIGNED with
other areas
through joint
problem solving
early stages of
ALIGNMENT
with basic
organizational
needs (OP) +
other process
items
ALIGNED with
overall
organizational
needs (OP) +
other process
items
INTEGRATED
current and
future
organizational
needs (OP) +
other process
items
well
INTEGRATED
current and
future
organizational
needs (OP) +
other process
items
Results (LeTCI)
 การให้คะแนน Baldrige Criteria 2018 scoring steps
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
no or poor
RESULTS
few RESULTS &
early good
levels
responsive to
BASIC
REQUIREMENTS
Good LEVELS
responsive to
BASIC
REQUIREMENTS
Good LEVELS
responsive to
OVERALL
REQUIREMENTS
Good-to-
excellent
LEVELS
responsive to
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Excellent
LEVELS fully
responsive to
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Good = better than average for relevant competitors, above industry average or median (top 50%)
Very Good = in top quartile of relevant competitors (top 25%)
Excellent = at or near top of relevant competitors (top 5%), best benchmark, better than best competitor
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
not reported or
mainly adverse
Some TREND
reported, with
some adverse
Some TREND
reported, most
beneficial
Beneficial
TRENDS
Beneficial
TRENDS
sustained over
time in most
areas
Beneficial
TRENDS
sustained over
time in all areas
Beneficial = favorable or advantageous; resulting in good
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
not reported Little or no
comparative
information
Early stages of
obtaining
comparative
information
Some good
LEVELS against
relevant
comparisons
and/or
BENCHMARKS
Many to most
TRENDS and
LEVELS very
good against
relevant
comparisons
and/or
BENCHMARKS
Industry and
BENCHMARK
leadership in
many areas
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
not reported few areas of
importance to
accomplishment
organization’s
MISSION
many areas of
importance to
accomplishment
organization’s
MISSION
most KEY
CUSTOMER,
market, and
PROCESS
Requirements
(Segmentation)
most KEY
CUSTOMER,
market, and
PROCESS
requirements
(Segmentation)
+ ACTION PLAN
most KEY
CUSTOMER,
market, and
PROCESS
requirements
(Segmentation)
+ ACTION PLAN
+ PROJECTIONS
การให้คะแนนที่เหมาะสมที่สุด (best scoring fit)
 เพื่อการให้คะแนนที่เหมาะที่สุด เป็นสิ่งสาคัญที่จะต้องพิจารณา
เกณฑ์การให้คะแนนแบบองค์รวม (holistically)
 เริ่มจาก Band 4 แล้วพิจารณาทุก ๆ ปัจจัยที่วิเคราะห์ไว้ ว่า
สมควรอยู่ใน band นี้ หรือไม่ ถ้าไม่ ควรจะเพิ่มหรือจะลด band
โดยอาศัยจากคาอธิบายปัจจัยที่ใช้พิจารณาทั้งหมด ไม่ใช่ปัจจัย
ใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น
 ส่วนคะแนนใน band ให้มากหรือน้อย พิจารณาจากปัจจัยย่อยว่า
มีแนวโน้มชิดกับขอบคะแนนด้านใด
Dale Carnegie
 การให้คะแนน Baldrige Criteria 2018 scoring steps
คาถามที่ 1 ถามว่า
What does “holistic scoring” mean?
 ในการให้คะแนน เราขอให้คุณกาหนดช่วงคะแนนที่ "อธิบายได้
ตรงกับความจริงมากที่สุด (most descriptive)" ของผลปฏิบัติงาน
 สาหรับการตัดสินใจเลือกคาว่า "แบบองค์รวม (holistic)" นี้
เจตนาคานึงถึงคาจากัดความตามพจนานุกรม คือความคิดที่ว่า
ทั้งหมดเป็นมากกว่าผลรวมของส่วนต่าง ๆ (the whole is more
than merely the sum of its parts)
 ความคล้ายคลึงกัน อาจเป็นเรื่องของชายตาบอดหลายคนคลา
ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่ซับซ้อน แต่ละคนจะบอกเล่า ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขา
คลาช้างแต่ละส่วน แล้วตั้งข้อสังเกตขึ้นมา พวกเขามีคาอธิบายที่
แตกต่างกัน และไม่มีคาอธิบายใดที่ถูกต้อง
 การให้คะแนนแบบองค์รวม ไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ และไม่ได้
หมายความว่าจะให้เป็น เป็นเพียงคาแปล
 การให้คะแนนของผู้ตรวจประเมินแต่ละบุคคล ที่ทางานเป็น
อิสระ ให้มีความสอดคล้องเหมือนกัน ไม่ได้เป็นเป้าประสงค์
 การให้คะแนนโดยผู้ตรวจประเมินจากการทา IR (Independent
Review) ที่หลากหลาย ทาให้เกิดการอภิปรายที่หลากหลาย
ระหว่าง การตรวจทานร่วมกัน (Consensus Review) ที่เป็นการ
อภิปรายในหมู่ผู้ตรวจประเมิน ซึ่งจะนาไปสู่ความเข้าใจผู้สมัครที่
สมบูรณ์มากขึ้น และให้คะแนนที่ถูกต้องมากขึ้น
 หากเกณฑ์การให้คะแนนมีความสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ที่ IR
เราก็ไม่จาเป็นต้องทา CR (Consensus Review)
 มีบางโปรแกรมใช้ "เกณฑ์การสอบเทียบเกณฑ์ (scoring
calibration)" และ "ประตูกั้น (gates)" เพื่อป้องกันการให้คะแนน
ที่สูงขึ้น แต่ในโปรแกรมระดับชาติ ไม่ใช้วิธีนี้ ในการให้คะแนน
คาถามที่ 2 ถามว่า
What is the added value of holistic scoring to the organization? Why not
use a more precise method of arriving at a score?
 คุณค่าที่เพิ่มขึ้นคือ ความถูกต้องของคะแนน ซึ่งสะท้อนถึง
ผู้สมัครโดยภาพรวม เป็นเรื่องของ การมุ่งความถูกต้อง ไม่ใช่แค่
ความน่าเชื่อถือ (validity, not just reliability)
 ในการให้คะแนนแบบองค์รวม ไม่ใช้ปัจจัยการประเมินตัวใดตัว
หนึ่ง เป็นประตูกีดกันคะแนนจากช่วงที่สูงขึ้น
 การใช้สูตรทางคณิตศาสตร์สาหรับการให้คะแนน ที่มีปัจจัยการ
พิจารณาหนึ่งใดเป็นประตูกั้น (gate) อาจส่งผลให้คะแนนที่ต่า
กว่า และไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
 นอกจากนี้ ถ้าการใช้แนวทางการคานวณมีความเป็นไปได้ เราก็
ไม่จาเป็นต้องทา การตรวจทานข้อตกลงร่วมกัน (Consensus
Review)
คาถามที่ 3 ถามว่า
Give an example in which approach is scored lower than deployment,
learning, and integration.
 นี่คือตัวอย่าง: การมีแนวทาง (approach) ที่ตอบสนองต่อ
ข้อกาหนดโดยรวม (overall requirements = 50-65%) มีการ
นาไปปฏิบัติได้ดี ไม่มีช่องว่างอย่างมีนัยสาคัญ มีการประเมิน
ปรับปรุงอย่างเป็นระบบ และมีการเรียนรู้ขององค์กร ที่ใช้เป็น
เครื่องมือในการจัดการที่สาคัญ สอดคล้องกับความต้องการของ
องค์กรในปัจจุบันและอนาคต (70-85%) องค์กรนี้ น่าจะให้
คะแนนได้ถึง 70-85%
 สาหรับกรณีนี้ สถานการณ์นี้ อาจไม่เป็นที่พบบ่อย แต่มีความ
เป็นไปได้อย่างแน่นอน
 คะแนนควรเป็นผลจากการประเมินแบบองค์รวมทั้งสี่ปัจจัย เพื่อ
กาหนดช่วงที่เหมาะสมที่สุด ในการกาหนดระดับวุฒิภาวะของ
ผู้สมัคร
 องค์ประกอบของ การมีแนวทาง (A = 50-65%) ที่ข้อกาหนด
โดยรวม อาจเป็นประโยชน์ในการบ่งชี้ตาแหน่งที่จะเริ่มต้นการ
สนทนาของช่วงคะแนนที่จะเลือก แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการให้
คะแนนที่สูงขึ้น (not as a barrier to higher levels of scoring)
คาถามที่ 4 ถามว่า
Give an example of how using one evaluation factor as a gate might result
in a less accurate score.
 บ่อยครั้ง ที่ปัจจัยการประเมินผลที่ดูเหมือนว่า ดึงคะแนน (อย่าง
ผิดพลาด) คือ การนาไปปฏิบัติ และการเรียนรู้ (deployment and
learning)
 ตัวอย่างเช่น องค์กรอาจมี แนวทางที่เป็นระบบ (systematic
approach) ที่บูรณาการเข้ากับความต้องการขององค์กร แต่การ
นาไปปฏิบัติในบางตาแหน่งที่อยู่ระยะไกล หรือบางหน่วยที่พึ่งได้
รับมาเมื่อเร็วๆ นี้ อยู่ในระยะเริ่มต้น ผู้ตรวจประเมินบางรายอาจ
ให้ผู้สมัครออกจากช่วงคะแนนที่สูงกว่า เนื่องจากกรณีเล็กๆ
เหล่านี้ ที่ขาดการนาไปปฏิบัติ (minor cases of lack of deployment)
 ในทานองเดียวกัน แนวทางอาจมีประสิทธิผลและเป็นระบบ การ
นาไปปฏิบัติทาได้ดี และบูรณาการเข้ากับความต้องการของ
องค์กร แต่ไม่มีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง การใช้ปัจจัยนี้ กดคะแนน
จึงเป็นการ ไม่ถูกต้อง
 ความคิดเห็น ต้องสอดคล้องกับคะแนนที่ได้ เพราะทั้งสอง
ประการนี้ เป็นการบอกผู้สมัครจุดที่พวกเขายืนอยู่
 โปรแกรม Baldrige ไม่ได้ขอให้คุณหา "โอกาสพัฒนาที่ใช้ปิ ดกั้น
(blocking OFIs)" เพื่อใช้ ควบคุม (capitate) คะแนน
คาถามที่ 5 ถามว่า
Do you do interrater and intrarater reliability tests among teams to
reduce variance in scoring and in comments?
 เราไม่มีการทดสอบ แต่เราคาดหวังและต้องการความแตกต่าง
ระหว่างสมาชิกในทีมในระหว่าง การทบทวนอิสระ (Independent
Review) ขั้นตอนนี้ ต้องใช้การตัดสินและการตีความด้วยตนเอง
 และยังมี การตรวจสอบข้อตกลงร่วมกัน (Consensus Review) ซึ่ง
เป็นกระบวนการในการหาตาแหน่งที่องค์กรยืนอยู่ เมื่อเทียบกับ
การให้คะแนน
 ความห่วงใยอาจเกิดขึ้น เมื่อมีความแปรปรวนมากเกินไป และ
ได้มีการพยายามลดความแปรปรวนนี้ ด้วยการฝึกอบรม
คาถามที่ 6 ถามว่า
In numerous instances in the Criteria (such as 2.2[b], 4.1a[4], and 4.2b(3),
there are only overall requirements and no multiple requirements. Won’t this
lower scores, since organizations never respond to multiple requirements?
 เป็นความเข้าใจผิด ข้อกาหนดโดยรวมที่เป็นตัวหนาถือว่าเป็น
ข้อกาหนดย่อยด้วย (The bolded overall requirements ARE
multiple requirements.)
 ข้อกาหนดโดยรวม เป็นข้อกาหนดที่สาคัญที่สุดและหรือเป็น
พื้นฐานของข้อกาหนดย่อยด้วย ดังนั้นเราจึงระบุว่า "โดยรวม
(overall)" แต่ก็ยังคงถือว่าเป็นข้อกาหนดย่อย
 ใน ประเด็นพิจารณา (areas to address) ที่มีแต่ ข้อกาหนด
โดยรวม (overall requirements) องค์กรที่มีการปฏิบัติตรงตาม
ข้อกาหนดโดยรวม ยังถือได้ว่าปฏิบัติตรงตามข้อกาหนดย่อยด้วย
 อาจได้คะแนนเพิ่มด้วยซ้า (ยกเว้นกรณีผู้ตรวจประเมินที่ให้
คะแนนแบบทีละข้อกาหนด) ซึ่งโดยมากพวกเขามองไปที่
ภาพรวมและปัจจัยการให้คะแนนทั้งหมด ไม่ใช่แค่ปัจจัย
"แนวทาง (approach)" เท่านั้น
คาถามที่ 7 ถามว่า
Comparisons are asked for in some multiple results requirements, but are
referenced in the 50–65% range along with the overall requirements. What
should we expect and how do we score?
 ข้อกาหนดย่อยของผลลัพธ์ ที่ต้องมีการเปรียบเทียบใช้เฉพาะ
ต่อเมื่อมีความสาคัญสาหรับองค์กรเท่านั้น (เช่น ผลลัพธ์ของ
ลูกค้าใน 7.2ก[1], ผลิตภัณฑ์และบริการใน 7.1ก และ
ประสิทธิผล/ประสิทธิภาพของกระบวนการใน 7.1ข[1])
นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของ ผลลัพธ์ทางการตลาด 7.5ก(2)
 การเปรียบเทียบ (Comparisons) เป็นสัญญาณของวุฒิภาวะ ที่มี
การอ้างอิงถึงเกณฑ์การให้คะแนนตั้งแต่ช่วง 10-25% แต่จริงๆ
เริ่มชัดเจนที่ 50-65% ซึ่งเป็นข้อกาหนดข้อกาหนดโดยรวม
 กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นความ "ต้องการ (required)" หรือ
"คาดหวัง (expected)" ของการตอบสนองข้อกาหนดย่อย (70-
85%) แต่องค์กรก็สามารถแสดงได้ในช่วงคะแนน 50-65%
 เราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปรียบเทียบ จนกว่าองค์กรจะมีวุฒิ
ภาวะเพียงพอ (ตัวอย่างได้แก่ การกากับดูแลองค์กร และการ
พัฒนาบุคลากร)
 การมีเกณฑ์เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนน แทน
ข้อกาหนดในเกณฑ์ จะช่วยสื่อสารและให้ความยืดหยุ่นกับ
องค์กรว่า ควรจะติดตามและใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว
คาถามที่ 8 ถามว่า
7.2a(1), Customer Satisfaction, calls for competitive comparisons. 7.2a(2,)
Customer Engagement, does not. Was this intentional, or is it assumed that
the applicant will provide comparisons for both anyway?
 เกณฑ์ให้มีการเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันในเรื่องที่มีความสาคัญ
เป็นพิเศษ ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของประเด็น
เหล่านี้ ดังนั้นการใช้การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง จึงเป็นส่วนหนึ่ง
ของ ข้อกาหนดย่อย (multiple requirements) สาหรับข้อ 7.2ก(1)
 การเปรียบเทียบเป็นปัจจัยการประเมินในแนวทางการให้คะแนน
เป็นเรื่องของวุฒิภาวะ ดังนั้นช่วงคะแนนที่ 50-65% จึงเรียกร้อง
ให้มี การเปรียบเทียบที่เกี่ยวข้อง (relevant comparisons)
 ช่วงคะแนน 70-85% เรียกร้อง "ความเป็นผู้นา (leadership)"
ความหมายนี้ จึงรวมถึง การเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันด้วย
คาถามที่ 9 ถามว่า
To score in the 70–85% range for an item, does an organization need to be
responsive to all the multiple requirements in that item?
 ไม่ต้อง "การตอบสนองข้อกาหนดย่อยได้อย่างครบถ้วน" สะท้อน
ถึงคาอธิบายแนวทางในช่วง 90-100% นั่นหมายความว่า
องค์กรที่ได้คะแนน 70-85% อาจมีช่องว่างบ้าง
 ความสาคัญของช่องว่างเหล่านี้ จะส่งผลต่อการที่อยู่ในช่วง
คะแนนที่ลดลง แต่คุณไม่ควรคาดหวังว่า องค์กรจะสามารถ
ตอบสนองทุกข้อกาหนดย่อยในช่วงคะแนน 70-85%
 แน่นอน คุณจะดูผลงานขององค์กรด้วยปัจจัยการประเมิน
ทั้งหมด และเลือกช่วงที่สื่อความหมายมากที่สุด คุณจะไม่เลือก
คะแนนตามปัจจัยของ แนวทาง (approach) เท่านั้น
คาถามที่ 10 ถามว่า
Many requirements in item 7.4 do not ask for levels or trends. How then
should we evaluate responses to those requirements?
 หมายเหตุแรกใน 7.4 อธิบายว่า ระดับและแนวโน้ม (levels and
trends) อาจไม่จาเป็น เนื่องจากองค์กรอาจรายงานมาตรการหรือ
ตัวชี้วัดบางอย่างที่ไม่เป็นปริมาณ และหรือไม่มีแนวโน้ม
 ในกรณีนี้ คุณควรพิจารณาว่าผลลัพธ์/ตัวชี้วัดที่รายงาน มีความ
เหมาะสมและตอบสนองต่อข้อกาหนดขั้นพื้นฐาน ขั้นโดยรวม
หรือขั้นย่อย และเป็นไปตามความต้องการขององค์กรและความ
คาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียหลัก (มี Integration) หรือไม่
 อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้สมัครรายงานข้อมูลเชิงปริมาณ คุณควร
ประเมินระดับและแนวโน้ม (อยู่ในหมายเหตุ 1 ด้วย)
คาถามที่ 11 ถามว่า
If an organization’s results for several measures are 100%, is a comparison
required?
 คุณอาจไม่ให้ โอกาสพัฒนา หรือ OFI (Opportunity for
Improvement) สาหรับการไม่มีการเปรียบเทียบ ในมาตรการที่มี
ประสิทธิภาพอย่างสม่าเสมอที่ 100%
 แต่การมีการเปรียบเทียบเหล่านี้ จะช่วยให้คุณทราบว่าคู่แข่งอยู่
ที่ 100% หรืออยู่ที่ประมาณ 75% หรือไม่?
 การบรรลุเป้าหมาย 100% ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ใหญ่ ในขณะ
ที่ความเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้อยู่แล้วอย่างแน่นอน และอาจไม่น่า
ประทับใจ เท่ากับสถานการณ์ส่วนใหญ่ขององค์กรอื่นๆ พยายาม
ที่จะบรรลุถึง 75%
คาถามที่ 12 ถามว่า
What's in and out of bounds regarding expectations for the use of
comparative and competitive data?
 เกณฑ์การให้คะแนน อ้างอิงถึงสารสนเทศการเปรียบเทียบเช่น
การเทียบเคียง (benchmark) ไม่ได้เฉพาะเจาะจงสาหรับ การ
เปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน (competitive comparisons)
 อย่างไรก็ตาม รายการผลลัพธ์โดยเฉพาะที่เรียกร้องให้มีการ
เปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน อยู่ในเรื่องที่มีความสาคัญสาหรับ
องค์กร (เช่น 7.1ก, 7.1ข[1], 7.2ก[1])
 ในบางครั้ง ข้อมูลคู่แข่งขันไม่สามารถหามาได้ในกรณีเช่นนี้ เรา
ยังคาดหวังว่า องค์กรจะใช้ข้อมูลเปรียบเทียบที่ดีที่สุด
คาถามที่ 13 ถามว่า
How is innovation reflected in scoring?
 ขอบเขตของนวัตกรรม ("การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายเพื่อ
ปรับปรุงผลิตภัณฑ์กระบวนการ ... และสร้างคุณค่าใหม่ ๆ
สาหรับผู้มีส่วนได้เสีย") อยู่ในมิติ การเรียนรู้ (Learning) โดยเริ่ม
จากช่วงคะแนนที่ 50-65%
 บางโปรแกรม แบ่งคานิยามของนวัตกรรมออกเป็นสองแบบและ
แยกเป็นสองช่วงคะแนน แต่โปรแกรมระดับชาติ ไม่ใช้วิธีนี้ ใน
การให้คะแนน
Lao-Tzu

More Related Content

PDF
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige criteria 2018
PDF
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ Frequency Asked Questions Baldrige Criteria part 1 of 3
PDF
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige Criteria part 3 of 3
PDF
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น - PMK internal assessor 6
PDF
การให้คะแนนในการให้รางวัล Award scoring
PPT
เครื่องมือและการหาคุณภาพ55
PPT
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
PPT
Spss การหาคุณภาพเครื่องมือวัด
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige criteria 2018
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ Frequency Asked Questions Baldrige Criteria part 1 of 3
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige Criteria part 3 of 3
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น - PMK internal assessor 6
การให้คะแนนในการให้รางวัล Award scoring
เครื่องมือและการหาคุณภาพ55
การสร้างและหาคุณภาพศูนย์วิทย์(ดร.จันทิมา)
Spss การหาคุณภาพเครื่องมือวัด

What's hot (13)

PPT
Testข้อสอบอัตนัย
PDF
การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดผลการเรียนรู้
 
PDF
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
 
PPT
ค่าอำนาจจำแนก
PDF
การหาคุณภาพเครื่องมือวัดผล
PPT
การวิเคราะห์ข้อสอบItem analysis
PDF
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
PPTX
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
PPT
การสร้างเครื่องมือและการเก็บข้อมูล
PPTX
ข้อสอบแบบจับคู่
PDF
1principletest
PDF
แนวทางการให้คะแนน - PMK internal assessor 7
Testข้อสอบอัตนัย
การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดผลการเรียนรู้
 
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
 
ค่าอำนาจจำแนก
การหาคุณภาพเครื่องมือวัดผล
การวิเคราะห์ข้อสอบItem analysis
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นางสาวอลิศา รักญาติ น้องเอื้อย
การสร้างเครื่องมือและการเก็บข้อมูล
ข้อสอบแบบจับคู่
1principletest
แนวทางการให้คะแนน - PMK internal assessor 7
Ad

More from maruay songtanin (20)

DOCX
26. โรหิตัสสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
25. ชันตุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
24. ฆฏิการสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
23. เสรีสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
22. เขมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
21. สิวสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
20. อนาถปิณฑิกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
DOCX
19. อุตตรสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
18. กกุธสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
17. สุพรหมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
16. วาสุทัตตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
15. จันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
14. นันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
13. ทีฆลัฏฐิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
12. เวณฑุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
11. จันทิมสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
10. สุริยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
09. จันทิมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
08. ตายนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
07. ปัญจาลจัณฑสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
26. โรหิตัสสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
25. ชันตุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
24. ฆฏิการสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
23. เสรีสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
22. เขมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
21. สิวสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
20. อนาถปิณฑิกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
19. อุตตรสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
18. กกุธสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
17. สุพรหมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
16. วาสุทัตตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
15. จันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
14. นันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
13. ทีฆลัฏฐิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
12. เวณฑุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
11. จันทิมสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
10. สุริยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
09. จันทิมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
08. ตายนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
07. ปัญจาลจัณฑสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
Ad

การให้คะแนน Baldrige Criteria 2018 scoring steps

  • 2. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% No Evident or Not Reported BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS • Basic Requirements (สีแสด และ สีเหลือง) มีคะแนน 10-45% • Overall Requirements (สีเขียว) มีคะแนน 50-65% • Multiple Requirements (สีน้าเงิน และ สีคราม) มีคะแนน 70-100% • ให้พิจารณาจากการอ่านรายงานผู้สมัคร ทั้ง Item แล้วเริ่มต้นที่ Band 4 (Overall) ก่อน ว่าได้ตอบสนองเกณฑ์อยู่ในช่วงคะแนนนี้ หรือไม่ (ถ้าไม่ใช่ จึงพิจารณาว่าจะเพิ่มหรือจะลด Band ต่อไป)
  • 6. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% No APPROACH BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS No SYSTEMATIC, ANECDOTAL Beginning SYSTEMATIC EFFECTIVE, SYSTEMATIC EFFECTIVE, SYSTEMATIC EFFECTIVE, SYSTEMATIC Fully EFFECTIVE, SYSTEMATIC SYSTEMATIC. Well-ordered, repeatable, and exhibiting the use of data and information so that learning is possible. EFFECTIVE. How well a process or a measure addresses its intended purpose. Effectiveness requires (1) evaluating how well the process is aligned with the organization’s needs and how well it is deployed or (2) Evaluating the outcome of the measure as an indicator of process or product performance.
  • 7. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% Little or no DEPLOYMENT BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS little or no evident early stages in most areas DEPLOYED, some areas in early stages well DEPLOYED, may vary in some areas well DEPLOYED, with no significant gaps fully DEPLOYED without significant weakness or gap Few = 5-15% Some = 15-30% Many = 30-50% Most = 50-80% Nearly All = 80-90% All = 100%
  • 8. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% No LEARNING BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS no evident, reacting to problems early stages to general improvement beginning to evaluation and improvement (PDCA) fact-based, evaluation and improvement (PDCA) + INNOVATION fact-based, evaluation and improvement (PDCA) + INNOVATION + sharing fact-based, evaluation and improvement (PDCA) + INNOVATION + Analysis & sharing throughout organization
  • 9. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% No ALIGNMENT BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS individual areas or work units operate independently ALIGNED with other areas through joint problem solving early stages of ALIGNMENT with basic organizational needs (OP) + other process items ALIGNED with overall organizational needs (OP) + other process items INTEGRATED current and future organizational needs (OP) + other process items well INTEGRATED current and future organizational needs (OP) + other process items
  • 12. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS no or poor RESULTS few RESULTS & early good levels responsive to BASIC REQUIREMENTS Good LEVELS responsive to BASIC REQUIREMENTS Good LEVELS responsive to OVERALL REQUIREMENTS Good-to- excellent LEVELS responsive to MULTIPLE REQUIREMENTS Excellent LEVELS fully responsive to MULTIPLE REQUIREMENTS Good = better than average for relevant competitors, above industry average or median (top 50%) Very Good = in top quartile of relevant competitors (top 25%) Excellent = at or near top of relevant competitors (top 5%), best benchmark, better than best competitor
  • 13. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS not reported or mainly adverse Some TREND reported, with some adverse Some TREND reported, most beneficial Beneficial TRENDS Beneficial TRENDS sustained over time in most areas Beneficial TRENDS sustained over time in all areas Beneficial = favorable or advantageous; resulting in good
  • 14. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS not reported Little or no comparative information Early stages of obtaining comparative information Some good LEVELS against relevant comparisons and/or BENCHMARKS Many to most TRENDS and LEVELS very good against relevant comparisons and/or BENCHMARKS Industry and BENCHMARK leadership in many areas
  • 15. Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6 0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100% BASIC REQUIREMENTS BASIC REQUIREMENTS OVERALL REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS MULTIPLE REQUIREMENTS not reported few areas of importance to accomplishment organization’s MISSION many areas of importance to accomplishment organization’s MISSION most KEY CUSTOMER, market, and PROCESS Requirements (Segmentation) most KEY CUSTOMER, market, and PROCESS requirements (Segmentation) + ACTION PLAN most KEY CUSTOMER, market, and PROCESS requirements (Segmentation) + ACTION PLAN + PROJECTIONS
  • 16. การให้คะแนนที่เหมาะสมที่สุด (best scoring fit)  เพื่อการให้คะแนนที่เหมาะที่สุด เป็นสิ่งสาคัญที่จะต้องพิจารณา เกณฑ์การให้คะแนนแบบองค์รวม (holistically)  เริ่มจาก Band 4 แล้วพิจารณาทุก ๆ ปัจจัยที่วิเคราะห์ไว้ ว่า สมควรอยู่ใน band นี้ หรือไม่ ถ้าไม่ ควรจะเพิ่มหรือจะลด band โดยอาศัยจากคาอธิบายปัจจัยที่ใช้พิจารณาทั้งหมด ไม่ใช่ปัจจัย ใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น  ส่วนคะแนนใน band ให้มากหรือน้อย พิจารณาจากปัจจัยย่อยว่า มีแนวโน้มชิดกับขอบคะแนนด้านใด
  • 19. คาถามที่ 1 ถามว่า What does “holistic scoring” mean?
  • 20.  ในการให้คะแนน เราขอให้คุณกาหนดช่วงคะแนนที่ "อธิบายได้ ตรงกับความจริงมากที่สุด (most descriptive)" ของผลปฏิบัติงาน  สาหรับการตัดสินใจเลือกคาว่า "แบบองค์รวม (holistic)" นี้ เจตนาคานึงถึงคาจากัดความตามพจนานุกรม คือความคิดที่ว่า ทั้งหมดเป็นมากกว่าผลรวมของส่วนต่าง ๆ (the whole is more than merely the sum of its parts)  ความคล้ายคลึงกัน อาจเป็นเรื่องของชายตาบอดหลายคนคลา ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่ซับซ้อน แต่ละคนจะบอกเล่า ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขา คลาช้างแต่ละส่วน แล้วตั้งข้อสังเกตขึ้นมา พวกเขามีคาอธิบายที่ แตกต่างกัน และไม่มีคาอธิบายใดที่ถูกต้อง
  • 21.  การให้คะแนนแบบองค์รวม ไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ และไม่ได้ หมายความว่าจะให้เป็น เป็นเพียงคาแปล  การให้คะแนนของผู้ตรวจประเมินแต่ละบุคคล ที่ทางานเป็น อิสระ ให้มีความสอดคล้องเหมือนกัน ไม่ได้เป็นเป้าประสงค์  การให้คะแนนโดยผู้ตรวจประเมินจากการทา IR (Independent Review) ที่หลากหลาย ทาให้เกิดการอภิปรายที่หลากหลาย ระหว่าง การตรวจทานร่วมกัน (Consensus Review) ที่เป็นการ อภิปรายในหมู่ผู้ตรวจประเมิน ซึ่งจะนาไปสู่ความเข้าใจผู้สมัครที่ สมบูรณ์มากขึ้น และให้คะแนนที่ถูกต้องมากขึ้น
  • 22.  หากเกณฑ์การให้คะแนนมีความสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ที่ IR เราก็ไม่จาเป็นต้องทา CR (Consensus Review)  มีบางโปรแกรมใช้ "เกณฑ์การสอบเทียบเกณฑ์ (scoring calibration)" และ "ประตูกั้น (gates)" เพื่อป้องกันการให้คะแนน ที่สูงขึ้น แต่ในโปรแกรมระดับชาติ ไม่ใช้วิธีนี้ ในการให้คะแนน
  • 23. คาถามที่ 2 ถามว่า What is the added value of holistic scoring to the organization? Why not use a more precise method of arriving at a score?
  • 24.  คุณค่าที่เพิ่มขึ้นคือ ความถูกต้องของคะแนน ซึ่งสะท้อนถึง ผู้สมัครโดยภาพรวม เป็นเรื่องของ การมุ่งความถูกต้อง ไม่ใช่แค่ ความน่าเชื่อถือ (validity, not just reliability)  ในการให้คะแนนแบบองค์รวม ไม่ใช้ปัจจัยการประเมินตัวใดตัว หนึ่ง เป็นประตูกีดกันคะแนนจากช่วงที่สูงขึ้น  การใช้สูตรทางคณิตศาสตร์สาหรับการให้คะแนน ที่มีปัจจัยการ พิจารณาหนึ่งใดเป็นประตูกั้น (gate) อาจส่งผลให้คะแนนที่ต่า กว่า และไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง  นอกจากนี้ ถ้าการใช้แนวทางการคานวณมีความเป็นไปได้ เราก็ ไม่จาเป็นต้องทา การตรวจทานข้อตกลงร่วมกัน (Consensus Review)
  • 25. คาถามที่ 3 ถามว่า Give an example in which approach is scored lower than deployment, learning, and integration.
  • 26.  นี่คือตัวอย่าง: การมีแนวทาง (approach) ที่ตอบสนองต่อ ข้อกาหนดโดยรวม (overall requirements = 50-65%) มีการ นาไปปฏิบัติได้ดี ไม่มีช่องว่างอย่างมีนัยสาคัญ มีการประเมิน ปรับปรุงอย่างเป็นระบบ และมีการเรียนรู้ขององค์กร ที่ใช้เป็น เครื่องมือในการจัดการที่สาคัญ สอดคล้องกับความต้องการของ องค์กรในปัจจุบันและอนาคต (70-85%) องค์กรนี้ น่าจะให้ คะแนนได้ถึง 70-85%  สาหรับกรณีนี้ สถานการณ์นี้ อาจไม่เป็นที่พบบ่อย แต่มีความ เป็นไปได้อย่างแน่นอน
  • 27.  คะแนนควรเป็นผลจากการประเมินแบบองค์รวมทั้งสี่ปัจจัย เพื่อ กาหนดช่วงที่เหมาะสมที่สุด ในการกาหนดระดับวุฒิภาวะของ ผู้สมัคร  องค์ประกอบของ การมีแนวทาง (A = 50-65%) ที่ข้อกาหนด โดยรวม อาจเป็นประโยชน์ในการบ่งชี้ตาแหน่งที่จะเริ่มต้นการ สนทนาของช่วงคะแนนที่จะเลือก แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการให้ คะแนนที่สูงขึ้น (not as a barrier to higher levels of scoring)
  • 28. คาถามที่ 4 ถามว่า Give an example of how using one evaluation factor as a gate might result in a less accurate score.
  • 29.  บ่อยครั้ง ที่ปัจจัยการประเมินผลที่ดูเหมือนว่า ดึงคะแนน (อย่าง ผิดพลาด) คือ การนาไปปฏิบัติ และการเรียนรู้ (deployment and learning)  ตัวอย่างเช่น องค์กรอาจมี แนวทางที่เป็นระบบ (systematic approach) ที่บูรณาการเข้ากับความต้องการขององค์กร แต่การ นาไปปฏิบัติในบางตาแหน่งที่อยู่ระยะไกล หรือบางหน่วยที่พึ่งได้ รับมาเมื่อเร็วๆ นี้ อยู่ในระยะเริ่มต้น ผู้ตรวจประเมินบางรายอาจ ให้ผู้สมัครออกจากช่วงคะแนนที่สูงกว่า เนื่องจากกรณีเล็กๆ เหล่านี้ ที่ขาดการนาไปปฏิบัติ (minor cases of lack of deployment)
  • 30.  ในทานองเดียวกัน แนวทางอาจมีประสิทธิผลและเป็นระบบ การ นาไปปฏิบัติทาได้ดี และบูรณาการเข้ากับความต้องการของ องค์กร แต่ไม่มีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง การใช้ปัจจัยนี้ กดคะแนน จึงเป็นการ ไม่ถูกต้อง  ความคิดเห็น ต้องสอดคล้องกับคะแนนที่ได้ เพราะทั้งสอง ประการนี้ เป็นการบอกผู้สมัครจุดที่พวกเขายืนอยู่  โปรแกรม Baldrige ไม่ได้ขอให้คุณหา "โอกาสพัฒนาที่ใช้ปิ ดกั้น (blocking OFIs)" เพื่อใช้ ควบคุม (capitate) คะแนน
  • 31. คาถามที่ 5 ถามว่า Do you do interrater and intrarater reliability tests among teams to reduce variance in scoring and in comments?
  • 32.  เราไม่มีการทดสอบ แต่เราคาดหวังและต้องการความแตกต่าง ระหว่างสมาชิกในทีมในระหว่าง การทบทวนอิสระ (Independent Review) ขั้นตอนนี้ ต้องใช้การตัดสินและการตีความด้วยตนเอง  และยังมี การตรวจสอบข้อตกลงร่วมกัน (Consensus Review) ซึ่ง เป็นกระบวนการในการหาตาแหน่งที่องค์กรยืนอยู่ เมื่อเทียบกับ การให้คะแนน  ความห่วงใยอาจเกิดขึ้น เมื่อมีความแปรปรวนมากเกินไป และ ได้มีการพยายามลดความแปรปรวนนี้ ด้วยการฝึกอบรม
  • 33. คาถามที่ 6 ถามว่า In numerous instances in the Criteria (such as 2.2[b], 4.1a[4], and 4.2b(3), there are only overall requirements and no multiple requirements. Won’t this lower scores, since organizations never respond to multiple requirements?
  • 34.  เป็นความเข้าใจผิด ข้อกาหนดโดยรวมที่เป็นตัวหนาถือว่าเป็น ข้อกาหนดย่อยด้วย (The bolded overall requirements ARE multiple requirements.)  ข้อกาหนดโดยรวม เป็นข้อกาหนดที่สาคัญที่สุดและหรือเป็น พื้นฐานของข้อกาหนดย่อยด้วย ดังนั้นเราจึงระบุว่า "โดยรวม (overall)" แต่ก็ยังคงถือว่าเป็นข้อกาหนดย่อย
  • 35.  ใน ประเด็นพิจารณา (areas to address) ที่มีแต่ ข้อกาหนด โดยรวม (overall requirements) องค์กรที่มีการปฏิบัติตรงตาม ข้อกาหนดโดยรวม ยังถือได้ว่าปฏิบัติตรงตามข้อกาหนดย่อยด้วย  อาจได้คะแนนเพิ่มด้วยซ้า (ยกเว้นกรณีผู้ตรวจประเมินที่ให้ คะแนนแบบทีละข้อกาหนด) ซึ่งโดยมากพวกเขามองไปที่ ภาพรวมและปัจจัยการให้คะแนนทั้งหมด ไม่ใช่แค่ปัจจัย "แนวทาง (approach)" เท่านั้น
  • 36. คาถามที่ 7 ถามว่า Comparisons are asked for in some multiple results requirements, but are referenced in the 50–65% range along with the overall requirements. What should we expect and how do we score?
  • 37.  ข้อกาหนดย่อยของผลลัพธ์ ที่ต้องมีการเปรียบเทียบใช้เฉพาะ ต่อเมื่อมีความสาคัญสาหรับองค์กรเท่านั้น (เช่น ผลลัพธ์ของ ลูกค้าใน 7.2ก[1], ผลิตภัณฑ์และบริการใน 7.1ก และ ประสิทธิผล/ประสิทธิภาพของกระบวนการใน 7.1ข[1]) นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของ ผลลัพธ์ทางการตลาด 7.5ก(2)  การเปรียบเทียบ (Comparisons) เป็นสัญญาณของวุฒิภาวะ ที่มี การอ้างอิงถึงเกณฑ์การให้คะแนนตั้งแต่ช่วง 10-25% แต่จริงๆ เริ่มชัดเจนที่ 50-65% ซึ่งเป็นข้อกาหนดข้อกาหนดโดยรวม
  • 38.  กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นความ "ต้องการ (required)" หรือ "คาดหวัง (expected)" ของการตอบสนองข้อกาหนดย่อย (70- 85%) แต่องค์กรก็สามารถแสดงได้ในช่วงคะแนน 50-65%  เราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปรียบเทียบ จนกว่าองค์กรจะมีวุฒิ ภาวะเพียงพอ (ตัวอย่างได้แก่ การกากับดูแลองค์กร และการ พัฒนาบุคลากร)  การมีเกณฑ์เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนน แทน ข้อกาหนดในเกณฑ์ จะช่วยสื่อสารและให้ความยืดหยุ่นกับ องค์กรว่า ควรจะติดตามและใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว
  • 39. คาถามที่ 8 ถามว่า 7.2a(1), Customer Satisfaction, calls for competitive comparisons. 7.2a(2,) Customer Engagement, does not. Was this intentional, or is it assumed that the applicant will provide comparisons for both anyway?
  • 40.  เกณฑ์ให้มีการเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันในเรื่องที่มีความสาคัญ เป็นพิเศษ ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของประเด็น เหล่านี้ ดังนั้นการใช้การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง จึงเป็นส่วนหนึ่ง ของ ข้อกาหนดย่อย (multiple requirements) สาหรับข้อ 7.2ก(1)  การเปรียบเทียบเป็นปัจจัยการประเมินในแนวทางการให้คะแนน เป็นเรื่องของวุฒิภาวะ ดังนั้นช่วงคะแนนที่ 50-65% จึงเรียกร้อง ให้มี การเปรียบเทียบที่เกี่ยวข้อง (relevant comparisons)  ช่วงคะแนน 70-85% เรียกร้อง "ความเป็นผู้นา (leadership)" ความหมายนี้ จึงรวมถึง การเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันด้วย
  • 41. คาถามที่ 9 ถามว่า To score in the 70–85% range for an item, does an organization need to be responsive to all the multiple requirements in that item?
  • 42.  ไม่ต้อง "การตอบสนองข้อกาหนดย่อยได้อย่างครบถ้วน" สะท้อน ถึงคาอธิบายแนวทางในช่วง 90-100% นั่นหมายความว่า องค์กรที่ได้คะแนน 70-85% อาจมีช่องว่างบ้าง  ความสาคัญของช่องว่างเหล่านี้ จะส่งผลต่อการที่อยู่ในช่วง คะแนนที่ลดลง แต่คุณไม่ควรคาดหวังว่า องค์กรจะสามารถ ตอบสนองทุกข้อกาหนดย่อยในช่วงคะแนน 70-85%  แน่นอน คุณจะดูผลงานขององค์กรด้วยปัจจัยการประเมิน ทั้งหมด และเลือกช่วงที่สื่อความหมายมากที่สุด คุณจะไม่เลือก คะแนนตามปัจจัยของ แนวทาง (approach) เท่านั้น
  • 43. คาถามที่ 10 ถามว่า Many requirements in item 7.4 do not ask for levels or trends. How then should we evaluate responses to those requirements?
  • 44.  หมายเหตุแรกใน 7.4 อธิบายว่า ระดับและแนวโน้ม (levels and trends) อาจไม่จาเป็น เนื่องจากองค์กรอาจรายงานมาตรการหรือ ตัวชี้วัดบางอย่างที่ไม่เป็นปริมาณ และหรือไม่มีแนวโน้ม  ในกรณีนี้ คุณควรพิจารณาว่าผลลัพธ์/ตัวชี้วัดที่รายงาน มีความ เหมาะสมและตอบสนองต่อข้อกาหนดขั้นพื้นฐาน ขั้นโดยรวม หรือขั้นย่อย และเป็นไปตามความต้องการขององค์กรและความ คาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียหลัก (มี Integration) หรือไม่  อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้สมัครรายงานข้อมูลเชิงปริมาณ คุณควร ประเมินระดับและแนวโน้ม (อยู่ในหมายเหตุ 1 ด้วย)
  • 45. คาถามที่ 11 ถามว่า If an organization’s results for several measures are 100%, is a comparison required?
  • 46.  คุณอาจไม่ให้ โอกาสพัฒนา หรือ OFI (Opportunity for Improvement) สาหรับการไม่มีการเปรียบเทียบ ในมาตรการที่มี ประสิทธิภาพอย่างสม่าเสมอที่ 100%  แต่การมีการเปรียบเทียบเหล่านี้ จะช่วยให้คุณทราบว่าคู่แข่งอยู่ ที่ 100% หรืออยู่ที่ประมาณ 75% หรือไม่?  การบรรลุเป้าหมาย 100% ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ใหญ่ ในขณะ ที่ความเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้อยู่แล้วอย่างแน่นอน และอาจไม่น่า ประทับใจ เท่ากับสถานการณ์ส่วนใหญ่ขององค์กรอื่นๆ พยายาม ที่จะบรรลุถึง 75%
  • 47. คาถามที่ 12 ถามว่า What's in and out of bounds regarding expectations for the use of comparative and competitive data?
  • 48.  เกณฑ์การให้คะแนน อ้างอิงถึงสารสนเทศการเปรียบเทียบเช่น การเทียบเคียง (benchmark) ไม่ได้เฉพาะเจาะจงสาหรับ การ เปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน (competitive comparisons)  อย่างไรก็ตาม รายการผลลัพธ์โดยเฉพาะที่เรียกร้องให้มีการ เปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน อยู่ในเรื่องที่มีความสาคัญสาหรับ องค์กร (เช่น 7.1ก, 7.1ข[1], 7.2ก[1])  ในบางครั้ง ข้อมูลคู่แข่งขันไม่สามารถหามาได้ในกรณีเช่นนี้ เรา ยังคาดหวังว่า องค์กรจะใช้ข้อมูลเปรียบเทียบที่ดีที่สุด
  • 49. คาถามที่ 13 ถามว่า How is innovation reflected in scoring?
  • 50.  ขอบเขตของนวัตกรรม ("การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายเพื่อ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์กระบวนการ ... และสร้างคุณค่าใหม่ ๆ สาหรับผู้มีส่วนได้เสีย") อยู่ในมิติ การเรียนรู้ (Learning) โดยเริ่ม จากช่วงคะแนนที่ 50-65%  บางโปรแกรม แบ่งคานิยามของนวัตกรรมออกเป็นสองแบบและ แยกเป็นสองช่วงคะแนน แต่โปรแกรมระดับชาติ ไม่ใช้วิธีนี้ ใน การให้คะแนน