SlideShare a Scribd company logo
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com
31 มีนาคม 2561
คาถามที่ 1 ถามว่า
What is the Baldrige definition of strategy?
 ถ้าในอภิธานศัพท์ไม่ระบุ หมายความว่า ไม่แตกต่างจากคาจากัด
ความทั่วไปในพจนานุกรม
 "กลยุทธ์ (Strategy)" คือ "แผนหรือวิธีการที่รอบคอบในการ
บรรลุเป้ าประสงค์ในระยะยาว, หรือ แผน วิธีการ หรือชุดของ
ยุทธวิธี เพื่อบรรลุเป้ าประสงค์หรือผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง"
(จาก Merriam-Webster)
 คนที่คุ้นเคยกับ Baldrige Criteria อาจกล่าวว่าคือ "แนวทางการ
จัดการในอนาคตขององค์กร"
คาถามที่ 2 ถามว่า
What is the Baldrige definition of transformational change?
 เมื่ออภิธานศัพท์ในเกณฑ์ไม่ระบุไว้ หมายความว่า ไม่แตกต่าง
จากคาจากัดความทั่วไปของพจนานุกรม
 "การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม (Transformational change)" คือ
การเปลี่ยนแปลงที่ก่อกวนสภาพความเป็นอยู่ขององค์กร บังคับ
ให้ผู้คนออกจากเขตสบายของตน และอาจทาให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมขององค์กร
 โดยทั่วไปแล้ว จะเป็นทั้งองค์กรและใช้ระยะเวลา ไม่เหมือนกับ
การเปลี่ยนแปลงแบบวิวัฒนาการ (evolutionary change)
 การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม ขับเคลื่อนด้วยผู้นา โดยอาจเป็น
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ กลยุทธ์ขององค์กร หรือ
ระบบงาน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบอย่างมาก
(เช่น การดูแลสุขภาพในปัจจุบัน) การเกิดนวัตกรรมที่ก่อกวนใน
ตลาด (เช่น กล้องดิจิทัล) หรือโอกาสทางการตลาดใหม่ (เช่น
กิจการร่วมค้า)
คาถามที่ 3 ถามว่า
Does innovation mean internal process improvement (for efficiency/effectiveness) or
external opportunity (strategic challenges and objectives)?
 ถูกทั้งคู่ นวัตกรรมสามารถพบได้ในทุกแง่มุมขององค์กร ตั้งแต่
การดาเนินงานขององค์กร กระบวนการเฉพาะ ด้านผลิตภัณฑ์
และบริการ ระบบงาน ไปจนถึงแบบจาลองทางธุรกิจ
 คาจากัดความของ Baldrige คือ "การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย
เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือประสิทธิผลขององค์กร
และสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย"
 นวัตกรรม เป็นมากกว่าการปรับปรุงแบบค่อยเป็นค่อยไป
 กระบวนการนวัตกรรม คือกระบวนการใหม่ ที่ประยุกต์ใช้กับ
ธุรกิจ/อุตสาหกรรม
คาถามที่ 4 ถามว่า
What is the potential impact of having several what questions in the overall
requirements in category 2?
 คาถามว่า "อะไรบ้าง (what)" จะกาหนดบริบทของ หัวข้อ (item)
นั้น และในอีกหลายๆ ประเด็นพิจารณา (areas to address) ในที่
อื่น ๆ
 ถ้าองค์กรไม่ให้คาตอบเหล่านั้น อาจเป็น โอกาสพัฒนา (OFI)
เช่น ในการตอบคาถาม "วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สาคัญของ
องค์กรมีอะไรบ้าง?" แล้วองค์กรไม่ได้แสดงความเกี่ยวข้องถึง
ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ ซึ่งกาหนดไว้ในโครงร่างองค์กร
 ในการให้คะแนน สาหรับการตอบคาถาม "อะไรบ้าง (what)"
แม้ว่าคุณกาลังพิจารณาช่วงคะแนน 50-65% ที่มี แนวทาง
(approaches) ตอบสนองต่อ ข้อกาหนดโดยรวม (overall
requirements) คุณควรให้คะแนน แบบองค์รวม (holistically) คือ
พิจารณาการตอบสนองต่อข้อกาหนดโดยรวม คือ "อย่างไร
(how)" และ "อะไรบ้าง (what)" ทั้งกลุ่ม เช่นเดียวกันกับการให้
คะแนน ข้อกาหนดย่อย (multiple requirements)
คาถามที่ 5 ถามว่า
Do the Criteria specifically address timeliness/speed and effectiveness of
decision making?
 มีหลายหมวด ซึ่งเกณฑ์บ่งบอกถึง ความทันเวลาและประสิทธิผล
ของการตัดสินใจ (Timeliness/Speed and Effectiveness of
Decision Making) เช่น
 หมวด 1 การสร้างองค์กรที่ประสบความสาเร็จ, ความคล่องตัว
ขององค์กร, เน้นการกระทา, การกาหนดวิสัยทัศน์และค่านิยม
(เพื่อให้เกิดการมอบอานาจ และการตัดสินใจด้านกาลังคนที่
สอดคล้องกัน)
 หมวด 2 ดาเนินการเปลี่ยนแปลง, ความคล่องตัว, ความยืดหยุ่น,
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่มีกาหนดเวลา, แผนปฏิบัติการที่มี
กาหนดเวลา, การจัดสรรทรัพยากร, การปรับแผนปฏิบัติการ
 หมวด 4 ข้อมูล สารสนเทศ และระบบ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ,
ความคล่องตัวในการวัดผล, การวิเคราะห์และทบทวนผลการ
ปฏิบัติงาน, ตอบสนองความต้องการขององค์กรที่เปลี่ยนแปลง
ไปอย่างรวดเร็ว
คาถามที่ 6 ถามว่า
How would I write an OFI related to agility without being prescriptive?
 คุณควรโยง โอกาสพัฒนา (OFI) กับข้อกาหนดของเกณฑ์ เช่นใน
ข้อ 1.1ค(1), 2.1ก(1), 2.2ข, 4.1ก(4) และ 6.1ก(3)
 เกณฑ์ไม่ได้มองว่า ความคล่องตัว เป็น กระบวนการ (process)
แต่เป็นคุณลักษณะ (เกี่ยวข้องกับค่านิยมหลัก)
 เกณฑ์ถามว่า องค์กรทาอย่างไรให้องค์กรมีความคล่องตัว?
 ดังนั้น OFI จึงเกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง วิธีการปรับปรุง
การดาเนินการ ที่ทาให้เกิดความคล่องตัว
 นี่เป็นตัวอย่างความสาคัญของ ปัจจัยสาคัญ (key factors) ที่มี
อิทธิพลต่อความสาคัญเกี่ยวข้องกับ เกณฑ์ (Criteria)
 บางอุตสาหกรรมและบางองค์กร ต้องการความคล่องตัวมากกว่า
บางแห่ง
คาถามที่ 7 ถามว่า
Where in the Criteria would I comment on how the organization determines
who its competitors are?
 ใน โครงร่างองค์กร (Organizational Profile) ข้อ 2ก(1) ถามว่า
องค์กรมีคู่แข่งขันจานวนเท่าใดและประเภทใดบ้าง แต่เกณฑ์
ไม่ได้ถามว่า คู่แข่งได้รับการพิจารณาอย่างไร
 ในหมายเหตุระบุไว้ชัดเจนว่า การแข่งขันอาจเกี่ยวกับลูกค้า
ทรัพยากร และการมองเห็นได้
 ตัวอย่างของ OFI อาจเกี่ยวข้องกับข้อกาหนดของเกณฑ์ใน
ประเด็นต่างๆ คือ 2.1ก(3) เกี่ยวกับจุดบอดที่อาจเกิดขึ้นในการ
วางแผนเชิงกลยุทธ์ (ดูหมายเหตุ 2.1ก[3]) และ 3.2ก ส่วนของ
ตลาด
คาถามที่ 8 ถามว่า
Why does 2.1b(1) have only “what” questions?
 ข้อ 2.1ข(1) ขอให้องค์กรระบุเป้ าหมายเชิงกลยุทธ์ที่สาคัญ
 ข้อกาหนดนี้ เป็นบริบทสาหรับคาถามอื่นๆ ใน หัวข้อ (item) นี้
และในหัวข้ออื่นๆ ด้วย
 การตอบสนองจะได้รับการประเมิน ว่ามีหรือไม่มี ที่สัมพันธ์กับ
ข้อกาหนดในหัวข้อ หรือปัจจัยสาคัญอื่นๆ
 ทาไมคาถามเหล่านี้ ถึงไม่อยู่ในโครงร่างองค์กร? เพราะองค์กรที่
ประเมินแบบ Baldrige เป็นครั้งแรก มักจะเริ่มที่โครงร่างองค์กร
คาถามในข้อ 2.1ข(1) จึงเป็นเรื่องยาก พวกเขาอาจจะไม่มี
บริบทเหลือไว้ตอบคาถาม ในข้ออื่นๆ ของหัวข้อ 2.1
คาถามที่ 9 ถามว่า
Are goals (targets) required in an application?
 เกณฑ์ถามว่า "เป้ าประสงค์ของคุณมีอะไรบ้าง ... ?" ในหลายๆ
แห่งเช่นใน 1.2ข(1) เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและ
ตามกฎหมาย 2.1ข(1) เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
และ 5.1ข(1) ที่เกี่ยวข้องกับเป้ าหมายด้านการปรับปรุง
สภาพแวดล้อมการทางาน
 เป้ าหมายจะไม่ถูกถามเฉพาะในหมวด 7 แต่การประเมินผลลัพธ์
ที่เกี่ยวข้องสาหรับสิ่งเหล่านี้ เพื่อใช้พิจารณาว่า องค์กรมีการทา
ได้ตามเป้ าหมายหรือเกินเป้ าหมาย ที่ระบุไว้ได้ดีเพียงใด
คาถามที่ 10 ถามว่า
If an organization has a goal of top 10% performance, and several
measures show performance just below the top 10%, is that an OFI or a
strength?
 ประการแรก การให้ OFI คือ ไม่เป็นไปตามเป้ าหมายที่กาหนด
 จุดแข็งสาหรับการบรรลุเป้ าหมายโดยทั่วไป อาจจะไม่เหมาะสม
เสมอไป เว้นแต่ว่าเป้ าหมายจะโยงยึดกับวัตถุประสงค์ที่สูง เช่น
ผลประกอบการที่อยู่ใน 10% แรก (top 10%)
 ผลการปฏิบัติงานที่สม่าเสมอใน 10% แรก ถือว่าเป็นผลงานที่ดี
มาก และน่าจะคุ้มค่ากับความคิดเห็นที่เป็น จุดแข็ง (strength)
 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากการบรรลุหรือไม่ ใน
การประสบความสาเร็จใน 10% แรก เช่น ข้อมูลเรื่องแนวโน้ม
(มีผลลัพธ์น่าพอใจหรือไม่?), ผลประกอบการของคู่แข่ง
(ผลลัพธ์ดีกว่า หรือแย่กว่าคู่แข่ง?) และความสาคัญที่ระบุไว้ใน
การบรรลุเป้ าหมาย 10% แรก (เป็นมาตรการที่สาคัญสาหรับ
องค์กรหรือไม่?) ควรมีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของคุณด้วย
คาถามที่ 11 ถามว่า
Can I use results to determine the effectiveness of a process?
 ได้ในระดับที่จากัด
 จากคาจากัดความของ ประสิทธิผล (effective) คือ "การประเมิน
ว่ากระบวนการหรือมาตรการที่ใช้ สามารถตอบสนองเจตจานง
ที่ตั้งไว้ได้ดีเพียงใด. การประเมินประสิทธิผลต้อง (1) ประเมิน
ว่าแนวทางนั้น มีความสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับความ
ต้องการขององค์กร และองค์กรสามารถถ่ายทอดเพื่อนาแนวทาง
สู่การปฏิบัติได้ดีเพียงใด หรือ (2) ประเมินผลลัพธ์ของมาตรการ
ที่ใช้ โดยเป็นตัวบ่งชี้ของกระบวนการ หรือผลการดาเนินการของ
ผลิตภัณฑ์"
 ผลการปฏิบัติงาน เป็นตัวบ่งชี้ว่า ทางานได้ดีหรือไม่ดี แต่ยังมี
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อผลประกอบการ
 คุณไม่ควรคิดว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ดีมาจากกระบวนการที่ไม่ได้ผล
เท่านั้น หรือถือว่าการมีผลลัพธ์ที่ดี หมายความว่ามีแนวทางเป็น
ระบบ ปฏิบัติงานได้ดี มีการประเมินและปรับปรุงอย่างสม่าเสมอ
รวมทั้งมีความสอดคล้องกัน โดยอัตโนมัติ
 หากผลลัพธ์การดาเนินงาน เกิดจากการวุฒิภาวะและประสิทธิผล
ของกระบวนการเท่านั้น ก็ไม่จาเป็นต้องประเมินผลใดๆ (ADLI
ของกระบวนการ) นอกเหนือจากผลลัพธ์นะซิ
คาถามที่ 12 ถามว่า
How much benefit of the doubt do you give a subunit for things that are
mandated by the parent? Is the parent a stakeholder?
 ใช่แล้ว หน่วยแม่จะเป็น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder)
 ความสาคัญของความสัมพันธ์นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละ
องค์กร การมีหน่วยแม่เป็นองค์กรปกครอง อาจจะเป็นสิ่งที่ดี
หลายอย่าง
 หน่วยแม่อาจจัดหาทรัพยากร การสนับสนุน และกระบวนการที่
หน่วยย่อยต้องการ หน่วยแม่อาจต้องการให้หน่วยย่อยใช้
กระบวนการขององค์กร ที่ไม่เป็นไปตามอุดมคติสาหรับหน่วย
ย่อย
 ในท้ายที่สุด องค์กรผู้สมัครจะต้องรับผิดชอบต่อประสิทธิภาพ
และผลลัพธ์ของกระบวนการที่ใช้
 ดังนั้น บางครั้งหน่วยย่อยจะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่หน่วยแม่
กาหนด และบางครั้งหน่วยย่อยต้องมีความเป็นตัวตน เพื่อ
รองรับกระบวนการที่ท้าทาย
 ก่อนที่คุณจะพูดว่าไม่ยุติธรรม โปรดจาไว้ว่า ผู้ตรวจประเมินจะ
ไม่แยกส่วนของเกณฑ์ออกจากการพิจารณา เนื่องจากหน่วยแม่มี
กลยุทธ์หรือกระบวนการที่ต้องการให้หน่วยย่อยทาบางอย่างที่
ชัดเจนตามนั้น
 ผู้สมัครกาลังได้รับการประเมินตามมาตรฐานความเป็นเลิศ
 หากผู้สมัครใช้กระบวนการน้อยกว่าที่เหมาะสม ผู้สมัครควรทา
ทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการทางานร่วมกับ
องค์กรแม่ที่เป็นต้นน้า โดยคานึงถึงความสาคัญของกระบวนการ
นั้น ๆ
 ไม่ว่าคุณจะเขียน OFI หรือไม่ OFI ควรจะสะท้อนถึงความสาคัญ
ของการดาเนินงาน ที่มีต่อความสาเร็จและความยั่งยืน
คาถามที่ 13 ถามว่า
How should I handle responses that say “available on site”?
 การตอบสนองประเภทนี้ มีการใช้งานมากขึ้น แต่มีความเสี่ยง
สาหรับองค์กร เนื่องจากการ "ยกประโยชน์ให้ข้อสงสัย (benefit
of the doubt)"
 คุณควรยกประโยชน์ให้ข้อสงสัย เมื่อองค์กรได้จัดเตรียม
หลักฐานเพียงพอที่จะรับรองได้
 ดังนั้น ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานเพียงพอสาหรับกระบวนการ
และผลการดาเนินงาน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า องค์กรจะได้รับ
ประโยชน์จากข้อสงสัย
 ตัวอย่างเช่น เรื่องข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ หรือข้อมูลการแบ่งตาม
กลุ่ม ว่ามีอยู่ในสถานที่ประกอบการ แต่ไม่มีหลักฐานว่าองค์กร
ติดตามและใช้ข้อมูลดังกล่าว อาจไม่ได้รับประโยชน์จากข้อสงสัย
 อย่างไรก็ตาม หากมีการแสดงข้อมูลดังกล่าวในแผนภูมิ/กราฟ
หลายรายการ และแถลงการณ์ว่าข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ในสถานที่
ประกอบการแล้ว ข้อสงสัยอาจได้รับการยกประโยชน์ให้
 การยกประโยชน์ให้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรเป็นหัวข้อการ
อภิปรายของทีม ในระหว่างการประชุมเป็นเอกฉันท์
คาถามที่ 14 ถามว่า
Let’s say an organization’s total number of employees meets the criterion for a small
business (500 or fewer), but the organization has a large volunteer base that brings the
total over 500. Should examiners treat it as a small business (and apply the Considerations
for Small Organizations)?
 โปรดจาไว้ว่า "การพิจารณา ... " เป็นคาเตือนที่สาคัญเกี่ยวกับ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก ปัจจัยสาคัญ (key factors) บาง
ประการ
 องค์กรขนาดเล็กไม่เหมือนกันทั้งหมด และคุณไม่ควรคิดว่าการ
พิจารณาเหล่านี้ จะนาไปใช้กับทุกองค์กรขนาดเล็กที่คุณตรวจ
 ในกรณีนี้ การมีพนักงานอาสาสมัครจานวนมาก โดยเฉพาะเมื่อ
เทียบกับขนาดขององค์กร จะส่งผลต่อความคาดหวังของคุณ
สาหรับองค์กรนั้นอย่างแน่นอน
 องค์ประกอบบางอย่างจากการพิจารณาขององค์กรขนาดเล็ก อาจ
มีผลบังคับใช้ และบางส่วนอาจไม่สามารถทาได้
 ปัจจัยสาคัญอื่นๆ อีกหลายอย่าง จะมีผลต่อการตัดสินใจของคุณ
ซึ่งควรรวมถึงคือ องค์กรเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรแม่ที่มี
ทรัพยากรมากมายหรือไม่? อาสาสมัครทางานประเภทใด? งาน
นั้นสาคัญขนาดไหน?
 ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด และสิ่งที่ต้องคานึงถึงสาหรับองค์กร
ขนาดเล็ก ไม่ได้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ หรือตามข้อกาหนด
คาถามที่ 15 ถามว่า
Do responses to 1.2c(2), Community Support, have to be something beyond the
organization’s normal operations or mission? If community support is a normal part of
operations, does there need to be an external volunteer activity linked to the mission?
 1.2ค(2) ชี้ว่า องค์กรกาลังดาเนินการด้านใดด้านหนึ่ง
นอกเหนือจากการดาเนินงานตามปกติ เพื่อสนับสนุนและ
เสริมสร้างชุมชนที่สาคัญของตน ว่ามีอะไรบ้าง?
 หมายเหตุในเกณฑ์ Business/Nonprofit พูดถึงปัญหานี้ สาหรับ
องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกาไร
 การสนับสนุนนี้ ต้องเป็นการอาสาสมัครหรือไม่? ต้องเกี่ยวข้องกับ
พันธกิจขององค์กรหรือไม่? ไม่ใช่ บริษัทธุรกิจที่ให้การสนับสนุน
โรงเรียนในท้องถิ่น ระบบการดูแลสุขภาพ ให้บริการครูและ
โรงเรียนที่เป็นที่ตั้งค่ายกีฬาหลังเลิกเรียน เป็นตัวอย่างที่อาจไม่
เกี่ยวข้องโดยตรงกับพันธกิจ
คาถามที่ 16 ถามว่า
The Criteria ask about customer requirements and expectations (3.2b[1]), but not what
these are. 7.2a(2) asks for customer engagement results. How do I determine if what is
presented in 7.2a(2) is responsive to what is important to customer engagement?
 คุณควรอ้างถึงในโครงร่างองค์กร ข้อ 1ข(2) ซึ่งจะถามถึงความ
ต้องการและความคาดหวังของลูกค้าที่สาคัญ
 ความผูกพัน เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามข้อกาหนดเหล่านี้ และ
ปฏิบัติได้เกินความคาดหวัง รวมถึงจากด้านอื่นๆ ในการสร้าง
ความสัมพันธ์ (3.2ข)
คาถามที่ 17 ถามว่า
What is the difference between “blend and correlate” data (4.2b[1]) and
integrate” data (4.1a[1])?
 ความแตกต่างในบริบท ได้นาไปสู่การใช้คาที่แตกต่างกันเล็กน้อย
 ใน 4.2ข(1) หัวข้อคือ การจัดการความรู้ขององค์กร ดังนั้น การ
ผสานข้อมูล (Blending data) จากแหล่งต่างๆ หมายถึงความ
ต้องการในการจัดการ การวิเคราะห์ และใช้ข้อมูลและสารสนเทศ
ประเภทต่างๆ เช่น ตารางข้อมูล ข้อความ หรือแม้แต่วิดีโอ
 คาถามจะถามวิธีรวบรวมข้อมูล/สิ่งที่ค้นพบ จากแหล่งข้อมูล
ดังกล่าว มา สร้างความสัมพันธ์ (correlate) เพื่อกาหนด
ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล แล้วรวบรวมให้เป็นความรู้ที่ถูกต้อง
และนามาใช้ประโยชน์ได้
 ในข้อ 4.1ก (1) บริบทคือ ตัววัดผลประกอบการ (performance
measures)
 คาถามคือ วิธีการที่องค์กรเลือก เก็บ รวบรวม ปรับให้สอดคล้อง
และบูรณาการ ของข้อมูลและสารสนเทศ
 นี่คือ การบูรณาการ/การรวบรวมข้อมูลจากชุดข้อมูล/จาก
แหล่งข้อมูลที่ต่างกัน ลงในชุดข้อมูลชุดใหม่ชุดเดียว ที่อาจให้
ข้อมูลเชิงลึก และความรู้ที่ลึกกว่าการวิเคราะห์ที่แยกจากกัน
คาถามที่ 18 ถามว่า
How should diversity be carried into areas/categories outside of category 5,
Workforce?
 ประการแรก โปรดทราบว่า ความหลากหลาย (diversity) นั้น
หมายความมากกว่าเชื้อชาติ ชนกลุ่มน้อย ศาสนา เพศ และชาติ
กาเนิด นอกจากนี้ ยังรวมถึงอายุ ลักษณะ ทักษะ ความคิด
ความเห็น สาขาวิชาชีพ และมุมมอง
 โปรดสังเกตด้วยว่า ความหลากหลายในเกณฑ์ เป็น ความ
สัมพัทธ์ ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ (relative, not absolute)
 เกณฑ์ถามเกี่ยวกับความหลากหลาย ในแง่ความสัมพันธ์ในการ
จ้างงาน และชุมชนลูกค้าขององค์กร (นักศึกษา, ผู้ป่ วย)
 เนื่องจากบุคลากรเป็นผู้ทางานทั้งหมด การมีพนักงานที่มีความ
หลากหลายที่เหมาะสม จึงเป็นประโยชน์ต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่
องค์กรทา
 นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อความผูกพันของบุคลากร ความ
ผูกพันของลูกค้า ความผูกพันของชุมชน การเรียนรู้ขององค์กร
นวัตกรรม และความคล่องตัว
คาถามที่ 19 ถามว่า
6.1b in the Health Care Criteria includes questions about patient expectations and
preferences that are not in the Business/Nonprofit and Education Criteria. Why aren’t these
questions in the other two versions?
 คาถามนี้ มีอยู่ในหมวด 3 ทุกฉบับ
 แต่ส่วนพิเศษนี้ จะรวมอยู่ในเกณฑ์การดูแลสุขภาพ เนื่องจาก
ความต้องการและความพอใจของผู้ป่ วย (patient requirements
and preference) เป็นสิ่งสาคัญอย่างยิ่งสาหรับการออกแบบ และ
การส่งมอบกระบวนการทางานที่สาคัญ (การดูแลผู้ป่ วย) ซึ่ง
มักจะใช้ในผู้ป่ วยแต่ละราย
คาถามที่ 20 ถามว่า
What if the organization is not in an “innovative industry”? How do you
score (and weight) 6.1d?
 ลักษณะของอุตสาหกรรมและบทบาทของนวัตกรรม มีผลต่อ
ความยั่งยืนและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์
 ส่งผลต่อขอบเขตที่คุณคาดหวังว่า จะเห็นกระบวนการที่มี
ประสิทธิภาพ สาหรับการแสวงหาโอกาสในการสร้างนวัตกรรม
และมีอิทธิพลต่อการให้คะแนนของคุณ
 ข้อกาหนดโดยรวม (overall requirements) ของการจัดการ
นวัตกรรม จะกล่าวถึง การแสวงหาโอกาสในการสร้างนวัตกรรม
ซึ่งถือเป็นสิ่งสาคัญต่อความสาเร็จ และความยั่งยืนในระยะยาว
 อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของคุณ ควรจะแตกต่างกันไปในแต่
ละองค์กร
 ตัวอย่างเช่น ในกรณีศึกษา Casey Comprehensive Care Case ปี
ค.ศ. 2015 คุณอาจไม่คาดหวังโอกาสมากมายสาหรับนวัตกรรม
ในผลิตภัณฑ์และบริการของการดูแลสุสาน
 แต่องค์กรอาจจะปรับปรุงกระบวนการดาเนินงานของตน เพิ่ม
ประสิทธิภาพ และปรับปรุงประสิทธิผล ด้วยนวัตกรรม
คาถามที่ 21 ถามว่า
For a health care applicant, where would I expect to see information on processes and results
for patient safety? For example, does the safe working environment referred to 6.2c(1)
include patients as well as the workforce? Or should processes for patient safety be described
as key work processes in 6.1? Similarly, where do results for patient safety belong?
 ขั้นแรก โปรดจาไว้ว่า ไม่ว่าองค์กรใดจะรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ
กระบวนการหรือผลลัพธ์ใด คุณควรพิจารณาว่า เกี่ยวข้องกับการ
ประเมินของคุณหรือไม่
 คุณคาดว่า จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเพื่อความปลอดภัย
ของผู้ป่ วยใน 6.1 เนื่องจากความปลอดภัยของผู้ป่ วย คือความ
ต้องการของกระบวนการบริการด้านสุขภาพ และความคาดหวัง
ของผู้ป่ วย
 6.2ค(1) เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในที่ทางาน (เช่นเดียวกับ
ในเกณฑ์ Business/Nonprofit และ Education Criteria) ดังนั้น
ผลลัพธ์ 7.1ข(2) จึงมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยใน
สถานที่ทางาน
 โดยทั่วไป คุณคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยของ
ผู้ป่ วยใน 7.1ก
 ผลลัพธ์สาหรับความพึงพอใจของผู้ป่ วยที่มีต่อความปลอดภัยอาจ
อยู่ใน 7.2ก(1) และตามที่ระบุไว้ในหมายเหตุ 7.4ก(1) อาจ
รวมถึงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามของผู้นา ในการสร้าง
และส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยของผู้ป่ วย
Jeune E. McIntyre

More Related Content

PDF
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ Frequency Asked Questions Baldrige Criteria part 1 of 3
PDF
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige criteria 2018
PDF
การให้คะแนน Baldrige Criteria 2018 scoring steps
PDF
มุมมองโรงพยาบาลกองทัพบกกับ HA - Ha & Army hospitals
PDF
ค่านิยมและแนวคิดหลัก New core values and concepts
PDF
การบูรณาการหัวข้อและผลลัพธ์ Item integration & expected results
PDF
การให้คะแนน Scoring system
PDF
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น Comment guidelines 2015
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ Frequency Asked Questions Baldrige Criteria part 1 of 3
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige criteria 2018
การให้คะแนน Baldrige Criteria 2018 scoring steps
มุมมองโรงพยาบาลกองทัพบกกับ HA - Ha & Army hospitals
ค่านิยมและแนวคิดหลัก New core values and concepts
การบูรณาการหัวข้อและผลลัพธ์ Item integration & expected results
การให้คะแนน Scoring system
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น Comment guidelines 2015

What's hot (20)

PDF
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
PDF
สรุปสำหรับผู้บริหารสูงสุด 2016 key theme
PDF
คำถามในการเยี่ยมสถานที่ Site visit questions
PDF
อธิบายเกณฑ์ด้วยแผนภาพ Criteria by diagrams
PDF
ข้อกำหนดโดยรวมในเกณฑ์ Overall requirements in 2015 - 2016
PDF
คำอธิบายเกณฑ์รายหัวข้อ 2016 criteria category and item commentary
PDF
การเชื่อมโยงปัจจัยสำคัญ Key factors linkage
PDF
ก้าวสู่ความเป็นเลิศ Introduction to performance excellence
PDF
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
PDF
เกณฑ์ Baldrige criteria 2015 2016
PDF
บันได 6 ขั้น สู่ความเป็นเลิศ 6 levels to performance excellence
PDF
เกณฑ์สู่ความเป็นเลิศขั้นก้าวหน้า 2021-2022 Progress level criteria for perfo...
PDF
สรุปคำศัพท์ทางการบริหาร
PDF
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Changes in 2015 2016 criteria
PDF
คำศัพท์ ต้องรู้
PDF
กรอบความเป็นเลิศ 2015-2016 Baldrige excellence builder
PDF
Chapter9 ความสำเร็จและปัญหาของการพัฒนาองค์การ
PDF
Scoring guideline 2011_v4_1_100910_ok
PDF
Chapter10 แนวทางการพัฒนาองค์การในสังคมไทย
PDF
การพัฒนาองค์การ (Organization Development:OD)
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
สรุปสำหรับผู้บริหารสูงสุด 2016 key theme
คำถามในการเยี่ยมสถานที่ Site visit questions
อธิบายเกณฑ์ด้วยแผนภาพ Criteria by diagrams
ข้อกำหนดโดยรวมในเกณฑ์ Overall requirements in 2015 - 2016
คำอธิบายเกณฑ์รายหัวข้อ 2016 criteria category and item commentary
การเชื่อมโยงปัจจัยสำคัญ Key factors linkage
ก้าวสู่ความเป็นเลิศ Introduction to performance excellence
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
เกณฑ์ Baldrige criteria 2015 2016
บันได 6 ขั้น สู่ความเป็นเลิศ 6 levels to performance excellence
เกณฑ์สู่ความเป็นเลิศขั้นก้าวหน้า 2021-2022 Progress level criteria for perfo...
สรุปคำศัพท์ทางการบริหาร
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Changes in 2015 2016 criteria
คำศัพท์ ต้องรู้
กรอบความเป็นเลิศ 2015-2016 Baldrige excellence builder
Chapter9 ความสำเร็จและปัญหาของการพัฒนาองค์การ
Scoring guideline 2011_v4_1_100910_ok
Chapter10 แนวทางการพัฒนาองค์การในสังคมไทย
การพัฒนาองค์การ (Organization Development:OD)
Ad

Similar to ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige Criteria part 3 of 3 (20)

PDF
เครื่องมือสู่ความเป็นเลิศ Baldrige excellence builder 2019 2020
PDF
การเขียนรายงาน How to write application report (part 1 of 4)
PDF
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Revolutionary change
PDF
การวินิจฉัยองค์กร Organization diagnosis
PDF
การให้คะแนนในการให้รางวัล Award scoring
PDF
ระบบการนำอย่างมีกลยุทธ์ ภาคที่สอง Strategic leadership system 2
PDF
Performance management การบริหารสู่ความเป็นเลิศ
PDF
การทำให้สำเร็จ Execution premium
PDF
คำอธิบายเกณฑ์รายหัวข้อ 2018 criteria item commentary
PDF
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น - PMK internal assessor 6
PDF
การเรียนรู้กลยุทธ์จากต้นแบบ Strategy from role models
PDF
ระบบการนำอย่างมีกลยุทธ์ ภาคแรก Strategic leadership system 1
PDF
ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ Award winners' journeys
PDF
เกณฑ์รางวัล Baldrige ปี 2568 Baldrige Award Criteria 2025.pdf
PDF
๒.๑ สมรรถนะ จักราวุธ คำทวี
PDF
การเขียนรายงาน How to write application report (part 4 of 4)
PDF
แนวคิด Lean ในสำนักงาน Lean thinking in office
PDF
เกณฑ์รางวัล 2024 (ไม่ใช่ เกณฑ์ความเป็นเลิศ 2025-2026) Award Criteria for 2024...
PDF
รู้ลึกเรื่องยุทธศาสตร์ Strategy insights
เครื่องมือสู่ความเป็นเลิศ Baldrige excellence builder 2019 2020
การเขียนรายงาน How to write application report (part 1 of 4)
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Revolutionary change
การวินิจฉัยองค์กร Organization diagnosis
การให้คะแนนในการให้รางวัล Award scoring
ระบบการนำอย่างมีกลยุทธ์ ภาคที่สอง Strategic leadership system 2
Performance management การบริหารสู่ความเป็นเลิศ
การทำให้สำเร็จ Execution premium
คำอธิบายเกณฑ์รายหัวข้อ 2018 criteria item commentary
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น - PMK internal assessor 6
การเรียนรู้กลยุทธ์จากต้นแบบ Strategy from role models
ระบบการนำอย่างมีกลยุทธ์ ภาคแรก Strategic leadership system 1
ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ Award winners' journeys
เกณฑ์รางวัล Baldrige ปี 2568 Baldrige Award Criteria 2025.pdf
๒.๑ สมรรถนะ จักราวุธ คำทวี
การเขียนรายงาน How to write application report (part 4 of 4)
แนวคิด Lean ในสำนักงาน Lean thinking in office
เกณฑ์รางวัล 2024 (ไม่ใช่ เกณฑ์ความเป็นเลิศ 2025-2026) Award Criteria for 2024...
รู้ลึกเรื่องยุทธศาสตร์ Strategy insights
Ad

More from maruay songtanin (20)

DOCX
26. โรหิตัสสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
25. ชันตุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
24. ฆฏิการสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
23. เสรีสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
22. เขมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
21. สิวสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
20. อนาถปิณฑิกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
DOCX
19. อุตตรสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
18. กกุธสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
17. สุพรหมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
16. วาสุทัตตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
15. จันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
14. นันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
13. ทีฆลัฏฐิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
12. เวณฑุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
11. จันทิมสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
10. สุริยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
09. จันทิมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
08. ตายนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
07. ปัญจาลจัณฑสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
26. โรหิตัสสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
25. ชันตุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
24. ฆฏิการสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
23. เสรีสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
22. เขมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
21. สิวสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
20. อนาถปิณฑิกสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
19. อุตตรสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
18. กกุธสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
17. สุพรหมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
16. วาสุทัตตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
15. จันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
14. นันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
13. ทีฆลัฏฐิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
12. เวณฑุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
11. จันทิมสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
10. สุริยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
09. จันทิมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
08. ตายนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
07. ปัญจาลจัณฑสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...

ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige Criteria part 3 of 3

  • 1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 31 มีนาคม 2561
  • 2. คาถามที่ 1 ถามว่า What is the Baldrige definition of strategy?
  • 3.  ถ้าในอภิธานศัพท์ไม่ระบุ หมายความว่า ไม่แตกต่างจากคาจากัด ความทั่วไปในพจนานุกรม  "กลยุทธ์ (Strategy)" คือ "แผนหรือวิธีการที่รอบคอบในการ บรรลุเป้ าประสงค์ในระยะยาว, หรือ แผน วิธีการ หรือชุดของ ยุทธวิธี เพื่อบรรลุเป้ าประสงค์หรือผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง" (จาก Merriam-Webster)  คนที่คุ้นเคยกับ Baldrige Criteria อาจกล่าวว่าคือ "แนวทางการ จัดการในอนาคตขององค์กร"
  • 4. คาถามที่ 2 ถามว่า What is the Baldrige definition of transformational change?
  • 5.  เมื่ออภิธานศัพท์ในเกณฑ์ไม่ระบุไว้ หมายความว่า ไม่แตกต่าง จากคาจากัดความทั่วไปของพจนานุกรม  "การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม (Transformational change)" คือ การเปลี่ยนแปลงที่ก่อกวนสภาพความเป็นอยู่ขององค์กร บังคับ ให้ผู้คนออกจากเขตสบายของตน และอาจทาให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมขององค์กร  โดยทั่วไปแล้ว จะเป็นทั้งองค์กรและใช้ระยะเวลา ไม่เหมือนกับ การเปลี่ยนแปลงแบบวิวัฒนาการ (evolutionary change)
  • 6.  การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม ขับเคลื่อนด้วยผู้นา โดยอาจเป็น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ กลยุทธ์ขององค์กร หรือ ระบบงาน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบอย่างมาก (เช่น การดูแลสุขภาพในปัจจุบัน) การเกิดนวัตกรรมที่ก่อกวนใน ตลาด (เช่น กล้องดิจิทัล) หรือโอกาสทางการตลาดใหม่ (เช่น กิจการร่วมค้า)
  • 7. คาถามที่ 3 ถามว่า Does innovation mean internal process improvement (for efficiency/effectiveness) or external opportunity (strategic challenges and objectives)?
  • 8.  ถูกทั้งคู่ นวัตกรรมสามารถพบได้ในทุกแง่มุมขององค์กร ตั้งแต่ การดาเนินงานขององค์กร กระบวนการเฉพาะ ด้านผลิตภัณฑ์ และบริการ ระบบงาน ไปจนถึงแบบจาลองทางธุรกิจ  คาจากัดความของ Baldrige คือ "การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือประสิทธิผลขององค์กร และสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย"  นวัตกรรม เป็นมากกว่าการปรับปรุงแบบค่อยเป็นค่อยไป  กระบวนการนวัตกรรม คือกระบวนการใหม่ ที่ประยุกต์ใช้กับ ธุรกิจ/อุตสาหกรรม
  • 9. คาถามที่ 4 ถามว่า What is the potential impact of having several what questions in the overall requirements in category 2?
  • 10.  คาถามว่า "อะไรบ้าง (what)" จะกาหนดบริบทของ หัวข้อ (item) นั้น และในอีกหลายๆ ประเด็นพิจารณา (areas to address) ในที่ อื่น ๆ  ถ้าองค์กรไม่ให้คาตอบเหล่านั้น อาจเป็น โอกาสพัฒนา (OFI) เช่น ในการตอบคาถาม "วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สาคัญของ องค์กรมีอะไรบ้าง?" แล้วองค์กรไม่ได้แสดงความเกี่ยวข้องถึง ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ ซึ่งกาหนดไว้ในโครงร่างองค์กร
  • 11.  ในการให้คะแนน สาหรับการตอบคาถาม "อะไรบ้าง (what)" แม้ว่าคุณกาลังพิจารณาช่วงคะแนน 50-65% ที่มี แนวทาง (approaches) ตอบสนองต่อ ข้อกาหนดโดยรวม (overall requirements) คุณควรให้คะแนน แบบองค์รวม (holistically) คือ พิจารณาการตอบสนองต่อข้อกาหนดโดยรวม คือ "อย่างไร (how)" และ "อะไรบ้าง (what)" ทั้งกลุ่ม เช่นเดียวกันกับการให้ คะแนน ข้อกาหนดย่อย (multiple requirements)
  • 12. คาถามที่ 5 ถามว่า Do the Criteria specifically address timeliness/speed and effectiveness of decision making?
  • 13.  มีหลายหมวด ซึ่งเกณฑ์บ่งบอกถึง ความทันเวลาและประสิทธิผล ของการตัดสินใจ (Timeliness/Speed and Effectiveness of Decision Making) เช่น  หมวด 1 การสร้างองค์กรที่ประสบความสาเร็จ, ความคล่องตัว ขององค์กร, เน้นการกระทา, การกาหนดวิสัยทัศน์และค่านิยม (เพื่อให้เกิดการมอบอานาจ และการตัดสินใจด้านกาลังคนที่ สอดคล้องกัน)
  • 14.  หมวด 2 ดาเนินการเปลี่ยนแปลง, ความคล่องตัว, ความยืดหยุ่น, วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่มีกาหนดเวลา, แผนปฏิบัติการที่มี กาหนดเวลา, การจัดสรรทรัพยากร, การปรับแผนปฏิบัติการ  หมวด 4 ข้อมูล สารสนเทศ และระบบ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ, ความคล่องตัวในการวัดผล, การวิเคราะห์และทบทวนผลการ ปฏิบัติงาน, ตอบสนองความต้องการขององค์กรที่เปลี่ยนแปลง ไปอย่างรวดเร็ว
  • 15. คาถามที่ 6 ถามว่า How would I write an OFI related to agility without being prescriptive?
  • 16.  คุณควรโยง โอกาสพัฒนา (OFI) กับข้อกาหนดของเกณฑ์ เช่นใน ข้อ 1.1ค(1), 2.1ก(1), 2.2ข, 4.1ก(4) และ 6.1ก(3)  เกณฑ์ไม่ได้มองว่า ความคล่องตัว เป็น กระบวนการ (process) แต่เป็นคุณลักษณะ (เกี่ยวข้องกับค่านิยมหลัก)  เกณฑ์ถามว่า องค์กรทาอย่างไรให้องค์กรมีความคล่องตัว?
  • 17.  ดังนั้น OFI จึงเกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง วิธีการปรับปรุง การดาเนินการ ที่ทาให้เกิดความคล่องตัว  นี่เป็นตัวอย่างความสาคัญของ ปัจจัยสาคัญ (key factors) ที่มี อิทธิพลต่อความสาคัญเกี่ยวข้องกับ เกณฑ์ (Criteria)  บางอุตสาหกรรมและบางองค์กร ต้องการความคล่องตัวมากกว่า บางแห่ง
  • 18. คาถามที่ 7 ถามว่า Where in the Criteria would I comment on how the organization determines who its competitors are?
  • 19.  ใน โครงร่างองค์กร (Organizational Profile) ข้อ 2ก(1) ถามว่า องค์กรมีคู่แข่งขันจานวนเท่าใดและประเภทใดบ้าง แต่เกณฑ์ ไม่ได้ถามว่า คู่แข่งได้รับการพิจารณาอย่างไร  ในหมายเหตุระบุไว้ชัดเจนว่า การแข่งขันอาจเกี่ยวกับลูกค้า ทรัพยากร และการมองเห็นได้  ตัวอย่างของ OFI อาจเกี่ยวข้องกับข้อกาหนดของเกณฑ์ใน ประเด็นต่างๆ คือ 2.1ก(3) เกี่ยวกับจุดบอดที่อาจเกิดขึ้นในการ วางแผนเชิงกลยุทธ์ (ดูหมายเหตุ 2.1ก[3]) และ 3.2ก ส่วนของ ตลาด
  • 20. คาถามที่ 8 ถามว่า Why does 2.1b(1) have only “what” questions?
  • 21.  ข้อ 2.1ข(1) ขอให้องค์กรระบุเป้ าหมายเชิงกลยุทธ์ที่สาคัญ  ข้อกาหนดนี้ เป็นบริบทสาหรับคาถามอื่นๆ ใน หัวข้อ (item) นี้ และในหัวข้ออื่นๆ ด้วย  การตอบสนองจะได้รับการประเมิน ว่ามีหรือไม่มี ที่สัมพันธ์กับ ข้อกาหนดในหัวข้อ หรือปัจจัยสาคัญอื่นๆ  ทาไมคาถามเหล่านี้ ถึงไม่อยู่ในโครงร่างองค์กร? เพราะองค์กรที่ ประเมินแบบ Baldrige เป็นครั้งแรก มักจะเริ่มที่โครงร่างองค์กร คาถามในข้อ 2.1ข(1) จึงเป็นเรื่องยาก พวกเขาอาจจะไม่มี บริบทเหลือไว้ตอบคาถาม ในข้ออื่นๆ ของหัวข้อ 2.1
  • 22. คาถามที่ 9 ถามว่า Are goals (targets) required in an application?
  • 23.  เกณฑ์ถามว่า "เป้ าประสงค์ของคุณมีอะไรบ้าง ... ?" ในหลายๆ แห่งเช่นใน 1.2ข(1) เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและ ตามกฎหมาย 2.1ข(1) เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และ 5.1ข(1) ที่เกี่ยวข้องกับเป้ าหมายด้านการปรับปรุง สภาพแวดล้อมการทางาน  เป้ าหมายจะไม่ถูกถามเฉพาะในหมวด 7 แต่การประเมินผลลัพธ์ ที่เกี่ยวข้องสาหรับสิ่งเหล่านี้ เพื่อใช้พิจารณาว่า องค์กรมีการทา ได้ตามเป้ าหมายหรือเกินเป้ าหมาย ที่ระบุไว้ได้ดีเพียงใด
  • 24. คาถามที่ 10 ถามว่า If an organization has a goal of top 10% performance, and several measures show performance just below the top 10%, is that an OFI or a strength?
  • 25.  ประการแรก การให้ OFI คือ ไม่เป็นไปตามเป้ าหมายที่กาหนด  จุดแข็งสาหรับการบรรลุเป้ าหมายโดยทั่วไป อาจจะไม่เหมาะสม เสมอไป เว้นแต่ว่าเป้ าหมายจะโยงยึดกับวัตถุประสงค์ที่สูง เช่น ผลประกอบการที่อยู่ใน 10% แรก (top 10%)  ผลการปฏิบัติงานที่สม่าเสมอใน 10% แรก ถือว่าเป็นผลงานที่ดี มาก และน่าจะคุ้มค่ากับความคิดเห็นที่เป็น จุดแข็ง (strength)
  • 26.  อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากการบรรลุหรือไม่ ใน การประสบความสาเร็จใน 10% แรก เช่น ข้อมูลเรื่องแนวโน้ม (มีผลลัพธ์น่าพอใจหรือไม่?), ผลประกอบการของคู่แข่ง (ผลลัพธ์ดีกว่า หรือแย่กว่าคู่แข่ง?) และความสาคัญที่ระบุไว้ใน การบรรลุเป้ าหมาย 10% แรก (เป็นมาตรการที่สาคัญสาหรับ องค์กรหรือไม่?) ควรมีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของคุณด้วย
  • 27. คาถามที่ 11 ถามว่า Can I use results to determine the effectiveness of a process?
  • 28.  ได้ในระดับที่จากัด  จากคาจากัดความของ ประสิทธิผล (effective) คือ "การประเมิน ว่ากระบวนการหรือมาตรการที่ใช้ สามารถตอบสนองเจตจานง ที่ตั้งไว้ได้ดีเพียงใด. การประเมินประสิทธิผลต้อง (1) ประเมิน ว่าแนวทางนั้น มีความสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับความ ต้องการขององค์กร และองค์กรสามารถถ่ายทอดเพื่อนาแนวทาง สู่การปฏิบัติได้ดีเพียงใด หรือ (2) ประเมินผลลัพธ์ของมาตรการ ที่ใช้ โดยเป็นตัวบ่งชี้ของกระบวนการ หรือผลการดาเนินการของ ผลิตภัณฑ์"
  • 29.  ผลการปฏิบัติงาน เป็นตัวบ่งชี้ว่า ทางานได้ดีหรือไม่ดี แต่ยังมี ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อผลประกอบการ  คุณไม่ควรคิดว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ดีมาจากกระบวนการที่ไม่ได้ผล เท่านั้น หรือถือว่าการมีผลลัพธ์ที่ดี หมายความว่ามีแนวทางเป็น ระบบ ปฏิบัติงานได้ดี มีการประเมินและปรับปรุงอย่างสม่าเสมอ รวมทั้งมีความสอดคล้องกัน โดยอัตโนมัติ  หากผลลัพธ์การดาเนินงาน เกิดจากการวุฒิภาวะและประสิทธิผล ของกระบวนการเท่านั้น ก็ไม่จาเป็นต้องประเมินผลใดๆ (ADLI ของกระบวนการ) นอกเหนือจากผลลัพธ์นะซิ
  • 30. คาถามที่ 12 ถามว่า How much benefit of the doubt do you give a subunit for things that are mandated by the parent? Is the parent a stakeholder?
  • 31.  ใช่แล้ว หน่วยแม่จะเป็น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder)  ความสาคัญของความสัมพันธ์นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละ องค์กร การมีหน่วยแม่เป็นองค์กรปกครอง อาจจะเป็นสิ่งที่ดี หลายอย่าง  หน่วยแม่อาจจัดหาทรัพยากร การสนับสนุน และกระบวนการที่ หน่วยย่อยต้องการ หน่วยแม่อาจต้องการให้หน่วยย่อยใช้ กระบวนการขององค์กร ที่ไม่เป็นไปตามอุดมคติสาหรับหน่วย ย่อย
  • 32.  ในท้ายที่สุด องค์กรผู้สมัครจะต้องรับผิดชอบต่อประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ของกระบวนการที่ใช้  ดังนั้น บางครั้งหน่วยย่อยจะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่หน่วยแม่ กาหนด และบางครั้งหน่วยย่อยต้องมีความเป็นตัวตน เพื่อ รองรับกระบวนการที่ท้าทาย  ก่อนที่คุณจะพูดว่าไม่ยุติธรรม โปรดจาไว้ว่า ผู้ตรวจประเมินจะ ไม่แยกส่วนของเกณฑ์ออกจากการพิจารณา เนื่องจากหน่วยแม่มี กลยุทธ์หรือกระบวนการที่ต้องการให้หน่วยย่อยทาบางอย่างที่ ชัดเจนตามนั้น
  • 33.  ผู้สมัครกาลังได้รับการประเมินตามมาตรฐานความเป็นเลิศ  หากผู้สมัครใช้กระบวนการน้อยกว่าที่เหมาะสม ผู้สมัครควรทา ทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการทางานร่วมกับ องค์กรแม่ที่เป็นต้นน้า โดยคานึงถึงความสาคัญของกระบวนการ นั้น ๆ  ไม่ว่าคุณจะเขียน OFI หรือไม่ OFI ควรจะสะท้อนถึงความสาคัญ ของการดาเนินงาน ที่มีต่อความสาเร็จและความยั่งยืน
  • 34. คาถามที่ 13 ถามว่า How should I handle responses that say “available on site”?
  • 35.  การตอบสนองประเภทนี้ มีการใช้งานมากขึ้น แต่มีความเสี่ยง สาหรับองค์กร เนื่องจากการ "ยกประโยชน์ให้ข้อสงสัย (benefit of the doubt)"  คุณควรยกประโยชน์ให้ข้อสงสัย เมื่อองค์กรได้จัดเตรียม หลักฐานเพียงพอที่จะรับรองได้  ดังนั้น ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานเพียงพอสาหรับกระบวนการ และผลการดาเนินงาน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า องค์กรจะได้รับ ประโยชน์จากข้อสงสัย
  • 36.  ตัวอย่างเช่น เรื่องข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ หรือข้อมูลการแบ่งตาม กลุ่ม ว่ามีอยู่ในสถานที่ประกอบการ แต่ไม่มีหลักฐานว่าองค์กร ติดตามและใช้ข้อมูลดังกล่าว อาจไม่ได้รับประโยชน์จากข้อสงสัย  อย่างไรก็ตาม หากมีการแสดงข้อมูลดังกล่าวในแผนภูมิ/กราฟ หลายรายการ และแถลงการณ์ว่าข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ในสถานที่ ประกอบการแล้ว ข้อสงสัยอาจได้รับการยกประโยชน์ให้  การยกประโยชน์ให้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรเป็นหัวข้อการ อภิปรายของทีม ในระหว่างการประชุมเป็นเอกฉันท์
  • 37. คาถามที่ 14 ถามว่า Let’s say an organization’s total number of employees meets the criterion for a small business (500 or fewer), but the organization has a large volunteer base that brings the total over 500. Should examiners treat it as a small business (and apply the Considerations for Small Organizations)?
  • 38.  โปรดจาไว้ว่า "การพิจารณา ... " เป็นคาเตือนที่สาคัญเกี่ยวกับ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก ปัจจัยสาคัญ (key factors) บาง ประการ  องค์กรขนาดเล็กไม่เหมือนกันทั้งหมด และคุณไม่ควรคิดว่าการ พิจารณาเหล่านี้ จะนาไปใช้กับทุกองค์กรขนาดเล็กที่คุณตรวจ  ในกรณีนี้ การมีพนักงานอาสาสมัครจานวนมาก โดยเฉพาะเมื่อ เทียบกับขนาดขององค์กร จะส่งผลต่อความคาดหวังของคุณ สาหรับองค์กรนั้นอย่างแน่นอน
  • 39.  องค์ประกอบบางอย่างจากการพิจารณาขององค์กรขนาดเล็ก อาจ มีผลบังคับใช้ และบางส่วนอาจไม่สามารถทาได้  ปัจจัยสาคัญอื่นๆ อีกหลายอย่าง จะมีผลต่อการตัดสินใจของคุณ ซึ่งควรรวมถึงคือ องค์กรเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรแม่ที่มี ทรัพยากรมากมายหรือไม่? อาสาสมัครทางานประเภทใด? งาน นั้นสาคัญขนาดไหน?  ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด และสิ่งที่ต้องคานึงถึงสาหรับองค์กร ขนาดเล็ก ไม่ได้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ หรือตามข้อกาหนด
  • 40. คาถามที่ 15 ถามว่า Do responses to 1.2c(2), Community Support, have to be something beyond the organization’s normal operations or mission? If community support is a normal part of operations, does there need to be an external volunteer activity linked to the mission?
  • 41.  1.2ค(2) ชี้ว่า องค์กรกาลังดาเนินการด้านใดด้านหนึ่ง นอกเหนือจากการดาเนินงานตามปกติ เพื่อสนับสนุนและ เสริมสร้างชุมชนที่สาคัญของตน ว่ามีอะไรบ้าง?  หมายเหตุในเกณฑ์ Business/Nonprofit พูดถึงปัญหานี้ สาหรับ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกาไร  การสนับสนุนนี้ ต้องเป็นการอาสาสมัครหรือไม่? ต้องเกี่ยวข้องกับ พันธกิจขององค์กรหรือไม่? ไม่ใช่ บริษัทธุรกิจที่ให้การสนับสนุน โรงเรียนในท้องถิ่น ระบบการดูแลสุขภาพ ให้บริการครูและ โรงเรียนที่เป็นที่ตั้งค่ายกีฬาหลังเลิกเรียน เป็นตัวอย่างที่อาจไม่ เกี่ยวข้องโดยตรงกับพันธกิจ
  • 42. คาถามที่ 16 ถามว่า The Criteria ask about customer requirements and expectations (3.2b[1]), but not what these are. 7.2a(2) asks for customer engagement results. How do I determine if what is presented in 7.2a(2) is responsive to what is important to customer engagement?
  • 43.  คุณควรอ้างถึงในโครงร่างองค์กร ข้อ 1ข(2) ซึ่งจะถามถึงความ ต้องการและความคาดหวังของลูกค้าที่สาคัญ  ความผูกพัน เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามข้อกาหนดเหล่านี้ และ ปฏิบัติได้เกินความคาดหวัง รวมถึงจากด้านอื่นๆ ในการสร้าง ความสัมพันธ์ (3.2ข)
  • 44. คาถามที่ 17 ถามว่า What is the difference between “blend and correlate” data (4.2b[1]) and integrate” data (4.1a[1])?
  • 45.  ความแตกต่างในบริบท ได้นาไปสู่การใช้คาที่แตกต่างกันเล็กน้อย  ใน 4.2ข(1) หัวข้อคือ การจัดการความรู้ขององค์กร ดังนั้น การ ผสานข้อมูล (Blending data) จากแหล่งต่างๆ หมายถึงความ ต้องการในการจัดการ การวิเคราะห์ และใช้ข้อมูลและสารสนเทศ ประเภทต่างๆ เช่น ตารางข้อมูล ข้อความ หรือแม้แต่วิดีโอ  คาถามจะถามวิธีรวบรวมข้อมูล/สิ่งที่ค้นพบ จากแหล่งข้อมูล ดังกล่าว มา สร้างความสัมพันธ์ (correlate) เพื่อกาหนด ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล แล้วรวบรวมให้เป็นความรู้ที่ถูกต้อง และนามาใช้ประโยชน์ได้
  • 46.  ในข้อ 4.1ก (1) บริบทคือ ตัววัดผลประกอบการ (performance measures)  คาถามคือ วิธีการที่องค์กรเลือก เก็บ รวบรวม ปรับให้สอดคล้อง และบูรณาการ ของข้อมูลและสารสนเทศ  นี่คือ การบูรณาการ/การรวบรวมข้อมูลจากชุดข้อมูล/จาก แหล่งข้อมูลที่ต่างกัน ลงในชุดข้อมูลชุดใหม่ชุดเดียว ที่อาจให้ ข้อมูลเชิงลึก และความรู้ที่ลึกกว่าการวิเคราะห์ที่แยกจากกัน
  • 47. คาถามที่ 18 ถามว่า How should diversity be carried into areas/categories outside of category 5, Workforce?
  • 48.  ประการแรก โปรดทราบว่า ความหลากหลาย (diversity) นั้น หมายความมากกว่าเชื้อชาติ ชนกลุ่มน้อย ศาสนา เพศ และชาติ กาเนิด นอกจากนี้ ยังรวมถึงอายุ ลักษณะ ทักษะ ความคิด ความเห็น สาขาวิชาชีพ และมุมมอง  โปรดสังเกตด้วยว่า ความหลากหลายในเกณฑ์ เป็น ความ สัมพัทธ์ ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ (relative, not absolute)  เกณฑ์ถามเกี่ยวกับความหลากหลาย ในแง่ความสัมพันธ์ในการ จ้างงาน และชุมชนลูกค้าขององค์กร (นักศึกษา, ผู้ป่ วย)
  • 49.  เนื่องจากบุคลากรเป็นผู้ทางานทั้งหมด การมีพนักงานที่มีความ หลากหลายที่เหมาะสม จึงเป็นประโยชน์ต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ องค์กรทา  นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อความผูกพันของบุคลากร ความ ผูกพันของลูกค้า ความผูกพันของชุมชน การเรียนรู้ขององค์กร นวัตกรรม และความคล่องตัว
  • 50. คาถามที่ 19 ถามว่า 6.1b in the Health Care Criteria includes questions about patient expectations and preferences that are not in the Business/Nonprofit and Education Criteria. Why aren’t these questions in the other two versions?
  • 51.  คาถามนี้ มีอยู่ในหมวด 3 ทุกฉบับ  แต่ส่วนพิเศษนี้ จะรวมอยู่ในเกณฑ์การดูแลสุขภาพ เนื่องจาก ความต้องการและความพอใจของผู้ป่ วย (patient requirements and preference) เป็นสิ่งสาคัญอย่างยิ่งสาหรับการออกแบบ และ การส่งมอบกระบวนการทางานที่สาคัญ (การดูแลผู้ป่ วย) ซึ่ง มักจะใช้ในผู้ป่ วยแต่ละราย
  • 52. คาถามที่ 20 ถามว่า What if the organization is not in an “innovative industry”? How do you score (and weight) 6.1d?
  • 53.  ลักษณะของอุตสาหกรรมและบทบาทของนวัตกรรม มีผลต่อ ความยั่งยืนและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์  ส่งผลต่อขอบเขตที่คุณคาดหวังว่า จะเห็นกระบวนการที่มี ประสิทธิภาพ สาหรับการแสวงหาโอกาสในการสร้างนวัตกรรม และมีอิทธิพลต่อการให้คะแนนของคุณ  ข้อกาหนดโดยรวม (overall requirements) ของการจัดการ นวัตกรรม จะกล่าวถึง การแสวงหาโอกาสในการสร้างนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นสิ่งสาคัญต่อความสาเร็จ และความยั่งยืนในระยะยาว
  • 54.  อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของคุณ ควรจะแตกต่างกันไปในแต่ ละองค์กร  ตัวอย่างเช่น ในกรณีศึกษา Casey Comprehensive Care Case ปี ค.ศ. 2015 คุณอาจไม่คาดหวังโอกาสมากมายสาหรับนวัตกรรม ในผลิตภัณฑ์และบริการของการดูแลสุสาน  แต่องค์กรอาจจะปรับปรุงกระบวนการดาเนินงานของตน เพิ่ม ประสิทธิภาพ และปรับปรุงประสิทธิผล ด้วยนวัตกรรม
  • 55. คาถามที่ 21 ถามว่า For a health care applicant, where would I expect to see information on processes and results for patient safety? For example, does the safe working environment referred to 6.2c(1) include patients as well as the workforce? Or should processes for patient safety be described as key work processes in 6.1? Similarly, where do results for patient safety belong?
  • 56.  ขั้นแรก โปรดจาไว้ว่า ไม่ว่าองค์กรใดจะรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ กระบวนการหรือผลลัพธ์ใด คุณควรพิจารณาว่า เกี่ยวข้องกับการ ประเมินของคุณหรือไม่  คุณคาดว่า จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเพื่อความปลอดภัย ของผู้ป่ วยใน 6.1 เนื่องจากความปลอดภัยของผู้ป่ วย คือความ ต้องการของกระบวนการบริการด้านสุขภาพ และความคาดหวัง ของผู้ป่ วย  6.2ค(1) เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในที่ทางาน (เช่นเดียวกับ ในเกณฑ์ Business/Nonprofit และ Education Criteria) ดังนั้น ผลลัพธ์ 7.1ข(2) จึงมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยใน สถานที่ทางาน
  • 57.  โดยทั่วไป คุณคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยของ ผู้ป่ วยใน 7.1ก  ผลลัพธ์สาหรับความพึงพอใจของผู้ป่ วยที่มีต่อความปลอดภัยอาจ อยู่ใน 7.2ก(1) และตามที่ระบุไว้ในหมายเหตุ 7.4ก(1) อาจ รวมถึงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามของผู้นา ในการสร้าง และส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยของผู้ป่ วย