SlideShare a Scribd company logo
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com
30 เมษายน 2559
วัตถุประสงค์ของรายงานป้ อนกลับ
 เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรผู้สมัคร
 ระบุ จุดแข็ง (Strength) และ โอกาสพัฒนา (Opportunity) ที่
องค์กรผู้สมัครสามารถใช้ประโยชน์ ในการปรับปรุงองค์กรให้
สมบูรณ์มากขึ้นต่อไป
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
ข้อคิดเห็นมี 2 ประเภท
1. จุดแข็ง (Strength) ในกรณีของกระบวนการ (Process) คือ ADLI
และผลลัพธ์ (Result) คือ LeTCI ที่องค์กรทาได้ตามเกณฑ์ที่
กาหนด
2. โอกาสพัฒนา (Opportunity For Improvement - OFI) ในกรณีที่
องค์กรทาได้ไม่ครอบคลุม หรือ ไม่ครบถ้วน
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
 A = Approach องค์กรใช้วิธีการ (methods) ที่เป็นระบบ
(systematic = ordered, repeatable, use of data & information for
learning) เหมาะสม (appropriate) มีประสิทธิผล (effectiveness)
เป็นกระบวนการสาคัญ (key organizational process) และไม่มี
รอยโหว่ (GAP)
(systematic + effective)
 D = Deployment อธิบายการปฏิบัติที่มีความทั่วถึง (breadth)
และทุกระดับ (depth) ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีหลักฐานบ่ง
ถึงการนาไปปฏิบัติในหน่วยอื่นขององค์กรด้วย
(breadth and depth)
 L = Learning อธิบายความรู้ ทักษะใหม่ที่ได้จากการประเมิน
การศึกษา ทดลอง และนวัตกรรม (innovation) มีวงจรการ
พัฒนาที่เป็นระบบและใช้ข้อเท็จจริง (PDCA) มีการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ (sharing) มีการเทียบเคียง และฝังตัวอยู่ในกระบวนการ
ทางาน
(PDCA + innovation + sharing)
 I = Integration อธิบายถึงความสอดคล้อง (alignment) ของ
แผน กระบวนการ ข่าวสาร การจัดสรรงบประมาณ การ
ปฏิบัติการ ผลลัพธ์ และการวิเคราะห์ที่ช่วยให้องค์กรบรรลุ
เป้ าหมาย (organizational needs) และมีการประสานกันของ
หลายหน่วยงาน รวมถึงการเกี่ยวเนื่องกับเกณฑ์หัวข้ออื่นด้วย
(other process)
(alignment + organizational needs in OP & other process)
ใช้ประโยชน์
• ในการเขียนใน OFI คือทาอย่างไรผู้สมัครจึงจะ ได้คะแนนสูงขึ้ น (promote)
• และเขียนใน Strength ว่าผู้สมัครทาอะไรได้ดีแล้วที่ ควรธารงรักษาไว้ ไม่ให้
คะแนนลดลง (demote)
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
ระดับผลดาเนินการ (Levels)
 แสดงอัตราส่วนที่เหมาะสม
 เทียบกับผลในอดีต การคาดการณ์ และเป้ าหมาย (ต่ากว่า ดีกว่า
เป็นเลิศ)
แนวโน้ม (Trends)
 ทิศทางและอัตราการปรับปรุง (เป็นที่น่าพอใจ ไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่เป็นที่น่าพอใจ)
 จานวนจุดอ้างอิง (อย่างน้อย 3 จุด)
 ความครอบคลุมในทุกภาคส่วน (มีคาอธิบายรูป)
การเปรียบเทียบ (Comparisons)
 มีความสัมพันธ์ : กับคู่แข่ง การเทียบเคียง หรือผู้นาใน
อุตสาหกรรมนั้น (ในผลลัพธ์ที่สาคัญ ไม่จาเป็นต้องมีทุกรูป)
 มีความสม่าเสมอ
บูรณาการ (Integration)
 สัมพันธ์กับข้อกาหนดของเกณฑ์
 แยกตามกลุ่มที่จัดไว้ (Segmentation) (ลูกค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ
ตลาด กระบวนการ แผนปฏิบัติการในลักษณะองค์กร และหัวข้อ
กระบวนงาน)
 สนับสนุนแผนปฏิบัติการขององค์กร
 ผลคาดการณ์ในอนาคต
ใช้ประโยชน์
• ในการเขียนใน OFI คือทาอย่างไรผู้สมัครจึงจะได้คะแนนสูงขึ้ น (promote)
• และเขียนใน Strength ว่าผู้สมัครทาอะไรได้ดีแล้วที่ควรธารงรักษาไว้
ไม่ให้คะแนนลดลง (demote) ของผลลัพธ์
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
 ขั้นตอนการตรวจประเมินรายงานเป็นรายบุคคล
1. ทบทวน Criteria Requirements
2. หา Key Factors
3. อ่านรายงานของผู้สมัคร
4. บันทึก Key processes & Results
5. หาหลักฐาน ADLI, LeTCI
6. ให้คะแนน
To refresh your memory and understand the Item Requirements
1. ทบทวนข้อกาหนดของเกณฑ์
 ให้เรียบเรียงใจความสาคัญ (Nugget, or Item main points) ของ
หัวข้อนั้น ตามความเข้าใจที่เป็นภาษาของเราเองให้กระชับได้
ใจความ และระลึกไว้ในใจในขณะอ่านแบบประเมินของผู้สมัคร
จะได้ไม่ใช้เกณฑ์เสมือนการทาเป็น check list
 ทาความเข้าใจของคาถามระดับ basic, overall, multiple
 ดูคาศัพท์และคาอธิบายที่มีความสาคัญของหัวข้อนั้นๆ
 อ่านหมายเหตุด้วย
To determine the most relevant key factors
2. คัดเลือกปัจจัยสาคัญ
 เริ่มจากหา KF ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Item
 คัดเลือก 4-6 KF ที่สอดคล้องกับระดับวุฒิภาวะของผู้สมัคร
(basic, overall, multiple) เช่น ความต้องการของลูกค้า
สภาพแวดล้อมการแข่งขัน ความต้องการของบุคลากร เป็นต้น
 เชื่อมโยง KF กับคาถามในหัวข้อต่าง ๆ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบ
กับความเป็นตัวตนหรือความท้าทายขององค์กร
The relevant section of the application
3. อ่านรายงานของผู้สมัคร
 มองเป็นองค์รวมของหัวข้อ ไม่ check list ทีละคาถาม
 คิดถึงความสัมพันธ์ของการตอบในหัวข้ออื่น ๆ ด้วย
 เน้นที่กระบวนการสาคัญที่สุดที่ผู้สมัครใช้
 คานึงถึงความเหมาะสมของวิธีการที่ใช้นั้นกับคาถามของเกณฑ์
 ความมีประสิทธิผลของกระบวนการ
 การบรรลุวัตถุประสงค์
The applicant uses to meet the Item requirements (mark up and/or take note)
4. วิเคราะห์การตอบสนองต่อเกณฑ์
 ใช้มุมมองที่เพิ่มคุณค่าให้กับผู้สมัคร
 เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับหัวข้ออื่น แม้ผู้สมัครจะไม่ได้ระบุไว้
 มองหาข้อมูลข่าวสารที่หายไป
 การยกผลประโยชน์ให้ในกรณีที่ไม่แน่ใจ อย่างสมเหตุสมผล
 ระบุจุดแข็ง และ โอกาสพัฒนา ประมาณ 6 ข้อคิดเห็น
 ลาดับความสาคัญของข้อคิดเห็น
Analyze application response (bold – high priority observation)
5. เขียนข้อคิดเห็น
 เริ่มต้นด้วยข้อคิดเห็นที่เป็นใจความสาคัญ (Nugget) และหนึ่ง
ข้อคิดเห็นสื่อเพียงความหมายเดียวเท่านั้น
 ตามด้วย 1-2 ตัวอย่าง (Examples)
 ลงท้ายข้อคิดเห็นที่สื่อถึงความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับองค์กร
อย่างไร (Relevance)
 จบแต่ละข้อคิดเห็น (Done) ไม่ควรเกิน 75 คา
 อย่าลืมถามตนเองว่า ผู้สมัครจะเข้าใจ และสามารถนาไปใช้
ประโยชน์ได้หรือไม่ ถ้าไม่ ให้ปรับปรุงข้อคิดเห็นใหม่อีกครั้ง
Using scoring guidelines (holistic view)
6. ให้คะแนน
 โดยอาศัย แนวทางการให้คะแนน
 ดูเป็นองค์รวม (holistic) ต่อการตอบสนองคาถามของหัวข้อว่า
อยู่ระดับใด (basic, overall, multiple)
 คะแนนที่ได้ต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นที่ให้ และหลีกเลี่ยงการ
หาหลักฐานต่าง ๆ มายืนยันเกินความจาเป็น เนื่องจากผู้สมัครมี
เนื้ อที่จากัดในการนาเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์อย่างละเอียดละออ
 ช่วงของคะแนนจะสะท้อนวุฒิภาวะการพัฒนาขององค์กร
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines
 1. นาไปปฏิบัติได้ (Actionable): ผู้สมัครนาข้อเสนอแนะไป
ปฏิบัติได้จริง และเข้าใจศักยภาพที่มีอยู่
 2. มีความสอดคล้อง (Aligned): ข้อคิดเห็นที่สะท้อนเนื้ อหาของ
เกณฑ์ และสะท้อนการให้คะแนน
 3. มีความแม่นยา (Accurate): ใช้ข้อเท็จจริงและข้อมูล ที่มีความ
ถูกต้อง
 4. มีความเหมาะสม (Appropriate): สานวนแบบมืออาชีพ และ
เป็นบวก
1. นาไปปฏิบัติได้ (คาแนะนาที่ทาได้จริง)
 จัดรูปประโยคที่ผู้สมัครอ่านแล้วเข้าใจง่าย
 เขียนข้อคิดเห็นที่นาไปปฏิบัติได้และมีคุณค่าต่อผู้สมัครคือ:
 เริ่มประโยคด้วยแก่นความคิด (nugget) หนึ่งข้อมีหนึ่ง
ความคิดเห็น (one main idea per comment)
 มีความเกี่ยวข้อง (relevance) ให้ดูจากปัจจัยสาคัญ (key
factor) โดยในหนึ่งข้อคิดเห็น อ้างปัจจัยเดียวก็เพียงพอ
 ยก 1-2 ตัวอย่าง (examples) สนับสนุนความเห็น
 N = Nugget (essence or main point of the comment)
 E = Examples (some examples)
 R = Relevance (importance of the nugget to the applicant)
 D = Done
2. มีความสอดคล้อง (สะท้อนเกณฑ์และการให้คะแนน)
 จัดทาข้อคิดเห็นตามระดับวุฒิภาวะของผู้สมัคร คือดูจาก
ข้อกาหนดพื้นฐาน ข้อกาหนดโดยรวม หรือข้อกาหนดย่อย
(basic, overall, or multiple Criteria requirements)
 ใช้คาศัพท์จากเกณฑ์ ค่านิยมและแนวคิดหลัก และจากแนว
ทางการให้คะแนน เพื่อเพิ่มคุณค่าเท่าที่จาเป็น ไม่ลอกซ้าทั้งหมด
 ใช้ปัจจัยประเมิน กระบวนการหรือผลลัพธ์ (ADLI or LeTCI)
เพียงหนึ่งหรือสองปัจจัยการประเมินต่อหนึ่งข้อคิดเห็น
 ระวังไม่ให้ข้อคิดเห็นในเรื่องเดียวกันนั้นขัดแย้งกันเอง ทั้งที่อยู่
ในหัวข้อเดียวกันหรือที่อยู่ในหัวข้ออื่น
3. มีความแม่นยา (ข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกต้อง)
 ใช้คาศัพท์ที่ผู้สมัครใช้ เมื่อเห็นว่าเป็นการสมควร
 ใช้ชื่อและคาศัพท์ที่ถูกต้อง เช่น ชื่อกระบวนการ หรือชื่อรูป
 ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริง ที่ใช้เป็นหลักฐานในข้อคิดเห็น
ให้ระบุรูปด้วย (ถ้ามี)
 ไม่ลอกเลียนแบบ (Parrot) จากรายงานผู้สมัคร หรือนามาจาก
เกณฑ์ พยายามใช้เท่าที่จาเป็น ให้ใช้สารสนเทศที่เกิดคุณค่ากับ
ผู้สมัครจะดีกว่าการกล่าวซ้า
4. มีความเหมาะสม (เขียนแบบมืออาชีพและเป็นบวก)
 ไม่วิจารณ์รูปแบบการเขียนรายงานของผู้สมัคร (style of writing
or data presentation)
 ไม่ใช้คาศัพท์เฉพาะ (jargon or acronyms) นอกเสียจากว่า เป็น
คาที่ผู้สมัครใช้
 ไม่ตัดสินความ (judgmental) เช่น ดี ไม่ดี หรือ ไม่เพียงพอ
(good, bad, or inadequate )
 ไม่ให้คาแนะนา (prescriptive) เช่น สมควรทา (should or would)
 ไม่กล่าวเกินเลยเกณฑ์ หรือใส่ความคิดเห็นส่วนตัว (beyond the
requirements of the Criteria or assert your personal opinions)
สิ่งที่สมควรทาในเรื่องเนื้ อหา
 ไม่เพียงบอกกล่าว แสดงให้เห็น (Show, don’t just tell) ว่า ทาไม
ข้อคิดเห็นนี้ จึงมีความสาคัญต่อผู้สมัครโดยตรง
 ใช้ภาษาจากแนวทางการให้คะแนน เพื่อที่ผู้สมัครจะได้รู้วุฒิ
ภาวะของตนเอง เช่น อยู่ในขั้นเริ่มต้นของการนาไปปฏิบัติเกือบ
ทุกหน่วยงาน หรือ มีการนาไปปฏิบัติอย่างทั่วถึง
 มีการโยงข้ามหัวข้อ (Items) หรืออ้างอิงถึงโครงร่างองค์กร
(Organizational Profile - OP)
สิ่งที่สมควรทาในเรื่องรูปแบบ
 ใช้คาสุภาพ มืออาชีพ และเป็นบวก (polite, professional, and
positive tone)
 ใช้กาลกิริยาเป็นปัจจุบันและเป็นผู้กระทา ไม่ใช่ถูกกระทา
(completes rather than is completed)
 สิ่งที่ไม่พบให้ใช้คาว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ... (is not clear)
 ใช้สรรพนามเรียกองค์กรที่สมัครว่า ผู้สมัคร (the applicant) (จะ
ใช้ชื่อจริงก็ต่อเมื่อเป็นรายงานป้ อนกลับฉบับจริง ที่ส่งให้ผู้สมัคร)
สิ่งที่ควรทาเมื่อจัดทารายงาน
 คัดปัจจัยสาคัญ 4-6 ข้อ (four to six key factors) ในแต่ละหัวข้อ
(Item) และอ้างอิงเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่ต้องนามาทั้ง
พวง (one or two of the strategic challenges rather than all
strategic challenges)
 ให้ข้อคิดเห็นประมาณ 6 ข้อต่อหนึ่งหัวข้อ (around six feedback-
ready comments per item) ที่มีความสาคัญที่สุดและตรงกับระดับ
วุฒิภาวะของผู้สมัคร
สิ่งที่ควรทาเมื่อจัดทารายงาน (ต่อ)
 ให้มั่นใจว่าคะแนนที่ให้ เหมาะสมกับข้อคิดเห็น ทั้งจานวนและ
เนื้ อหา (Ensure that the item’s score is supported by the
comments—both in number of comments and content of
comments)
 ใส่ข้อคิดเห็นตามหัวข้อของเกณฑ์ ไม่ใช่ใส่ตามที่อยู่ในรายงาน
ของผู้สมัคร
These following samples reflect the thinking of a single examiner and should not
necessarily be viewed as a “right” or “wrong assessment of the applicant.
ข้อคิดเห็นกระบวนการ
• จุดแข็ง/โอกาสพัฒนา เน้นความสาคัญโดยใช้ตัวหนา (bold) หรือ
double plus or minus (++, --)
• ให้ใช้แก่นของข้อคิดเห็น ในตอนเริ่มต้นประโยค
• ยกตัวอย่างประกอบ 1-2 ตัวอย่าง ที่ช่วยระบุปัจจัยในการ
ประเมินที่สาคัญ (approach, deployment, learning, or integration)
• ระบุความเกี่ยวข้อง
• จากัดแต่ละข้อคิดเห็นที่ 75 คา หรือไม่เกิน 500 ตัวอักษร
จุดแข็งของกระบวนการ
 5.1ข(1) คณะกรรมการความปลอดภัย ที่ประกอบด้วย
กรรมการบริหารจากแต่ละสถานที่ สนับสนุนการดูแลด้าน
สุขภาพความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยของ
พนักงาน (แก่นและความเกี่ยวข้อง) โดยผ่านการตรวจสอบของ
ระบบและนโยบายสิ่งอานวยความสะดวก ที่มีวิธีการและ
มาตรการที่เป็นการปฏิบัติที่ดีที่สุด มีทีมงานความร่วมมือในการ
ดูแลและระบบการวัดประสิทธิภาพ (APEX) เสริมสร้างระบบที่
มุ่งเน้นสิ่งอานวยความสะดวก ในการตอบสนองสุขภาพแรงงาน
และข้อกาหนดด้านความปลอดภัยที่สาคัญ (ตัวอย่าง)
โอกาสพัฒนาของกระบวนการ
 5.1ก,ข วิธีการของผู้สมัครในการจัดการความสามารถและความ
พอเพียงของบุคลากร รวมถึงการรักษาความปลอดภัยและ
บรรยากาศการทางานไม่ได้รวมกลุ่มแพทย์ไว้ (แก่น) ไม่ปรากฏว่ามี
การประเมินความสามารถของแพทย์ต่อความต้องการด้านบุคลากร
ของสิ่งอานวยความสะดวกที่ได้มาใหม่ ไม่ชัดเจนว่าแพทย์ได้รวมอยู่
ในการวางแผนกาลังการผลิต และความต้องการที่สาคัญของแพทย์ก็
ไม่ได้รับการระบุ (ตัวอย่าง) การไม่รวมกลุ่มแพทย์ไว้ อาจทาให้
ผู้สมัครพลาดโอกาสที่จะเตรียมความพร้อมสาหรับการเจริญเติบโต
และการส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม (ความเกี่ยวข้อง)
ข้อคิดเห็นของผลลัพธ์
• จุดแข็ง/โอกาสพัฒนา เน้นความสาคัญโดยใช้ตัวหนา (bold) หรือ
double plus or minus (++, --)
 เขียนให้สั้น กระชับ ได้ใจความ
 ยกตัวอย่างประกอบเพียง 1-2 ตัวอย่าง (ไม่ต้องยกตัวอย่าง
ทั้งหมดที่หาได้)
 เน้นที่หลักฐานตามปัจจัยการประเมิน (levels, trends,
comparisons, integration)
 จากัดหนึ่งข้อคิดเห็นไม่ให้เกิน 75 คาหรือ 500 ตัวอักษร
จุดแข็งของผลลัพธ์
 7.3ก(2) ผลลัพธ์การวัดผลและตัวชี้วัดของการมีสุขภาพและ
ความปลอดภัยของบุคลากร แสดงแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ และ
เป็นที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐาน (แก่นและความ
เกี่ยวข้อง) ตัวอย่างเช่น ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ระดับของการขาด
งานน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม (รูปที่ 7.3-
7) นอกจากนี้ OSHA TRR ขององค์กร มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่
ร้อยละ 80 ของ OSHA อย่างต่อเนื่อง (รูปที่ 7.3-8) (ตัวอย่าง)
โอกาสพัฒนาของผลลัพธ์
 7.3ก(4) ไม่พบผลลัพธ์การวัดผลและตัวชี้วัดของการพัฒนาผู้นา
และบุคลากร (แก่น) ที่มีการระบุว่า การบริการแบบตานาน ซึ่ง
เป็นปัจจัยความสาเร็จที่สาคัญสาหรับองค์กร (P.2-2) (ความ
เกี่ยวข้อง) แต่ไม่มีผลลัพธ์แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาบุคลากรใน
ด้านนี้ หรือด้านการพัฒนาทักษะความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การ
กู้คืนบริการ หรือทักษะการสื่อสารที่ทันสมัย (ตัวอย่าง)
 การเขียนข้อคิดเห็นโดยผู้ตรวจประเมิน มีขั้นตอนที่เป็นระบบ
สามารถทาซ้าได้ มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน มีปัจจัยในการประเมิน
และให้คะแนน เพื่อให้การประเมินองค์กรผู้สมัครเป็นไปอย่าง
เที่ยงธรรม
 มีการทวนสอบระหว่างกันโดยการทางานเป็นทีมที่ประกอบด้วย
ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาที่ผ่านการอบรมมาแล้ว จนมีความมั่นใจ
ระดับหนึ่งว่า ทุกองค์กรที่ส่งรายงานเข้ารับสมัครขอรับรางวัล ไม่
ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับรางวัลก็ตาม จะได้ประโยชน์จากรายงาน
ป้ อนกลับ เพื่อความสาเร็จในปัจจุบันและในอนาคตสืบไป
Aristotle

More Related Content

PDF
การเชื่อมโยงปัจจัยสำคัญ Key factors linkage
PDF
สรุปสำหรับผู้บริหารสูงสุด 2016 key theme
PDF
การบูรณาการหัวข้อและผลลัพธ์ Item integration & expected results
PDF
การให้คะแนน Scoring system
PDF
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น Comment guidelines 2015
PDF
คำถามในการเยี่ยมสถานที่ Site visit questions
PDF
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
PDF
ค่านิยมและแนวคิดหลัก New core values and concepts
การเชื่อมโยงปัจจัยสำคัญ Key factors linkage
สรุปสำหรับผู้บริหารสูงสุด 2016 key theme
การบูรณาการหัวข้อและผลลัพธ์ Item integration & expected results
การให้คะแนน Scoring system
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น Comment guidelines 2015
คำถามในการเยี่ยมสถานที่ Site visit questions
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
ค่านิยมและแนวคิดหลัก New core values and concepts

What's hot (20)

PDF
มุมมองโรงพยาบาลกองทัพบกกับ HA - Ha & Army hospitals
PDF
ข้อกำหนดโดยรวมในเกณฑ์ Overall requirements in 2015 - 2016
PDF
การเขียนรายงาน How to write application report (part 4 of 4)
PDF
อธิบายเกณฑ์ด้วยแผนภาพ Criteria by diagrams
PDF
การเขียนรายงาน How to write application report (part 2 of 4)
PDF
ก้าวสู่ความเป็นเลิศ Introduction to performance excellence
PDF
บันได 6 ขั้น สู่ความเป็นเลิศ 6 levels to performance excellence
PDF
คำอธิบายเกณฑ์รายหัวข้อ 2016 criteria category and item commentary
PDF
การเขียนรายงาน How to write application report (part 3 of 4)
PDF
เกณฑ์ Baldrige criteria 2015 2016
PDF
การเขียนรายงาน How to write application report (part 1 of 4)
PDF
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Changes in 2015 2016 criteria
PDF
Thailand Quality Award 2553
PDF
แพลตฟอร์มเปลี่ยนโฉมธุรกิจ How platforms reshaping business
PDF
คำศัพท์ ต้องรู้
PPTX
การประเมินภายในตามแนวทาง EdPEx for internal assessment
PDF
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige Criteria part 3 of 3
PDF
กรอบความเป็นเลิศ 2015-2016 Baldrige excellence builder
มุมมองโรงพยาบาลกองทัพบกกับ HA - Ha & Army hospitals
ข้อกำหนดโดยรวมในเกณฑ์ Overall requirements in 2015 - 2016
การเขียนรายงาน How to write application report (part 4 of 4)
อธิบายเกณฑ์ด้วยแผนภาพ Criteria by diagrams
การเขียนรายงาน How to write application report (part 2 of 4)
ก้าวสู่ความเป็นเลิศ Introduction to performance excellence
บันได 6 ขั้น สู่ความเป็นเลิศ 6 levels to performance excellence
คำอธิบายเกณฑ์รายหัวข้อ 2016 criteria category and item commentary
การเขียนรายงาน How to write application report (part 3 of 4)
เกณฑ์ Baldrige criteria 2015 2016
การเขียนรายงาน How to write application report (part 1 of 4)
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ Changes in 2015 2016 criteria
Thailand Quality Award 2553
แพลตฟอร์มเปลี่ยนโฉมธุรกิจ How platforms reshaping business
คำศัพท์ ต้องรู้
การประเมินภายในตามแนวทาง EdPEx for internal assessment
ออเจ้าถาม Baldrige ตอบ FAQs of Baldrige Criteria part 3 of 3
กรอบความเป็นเลิศ 2015-2016 Baldrige excellence builder
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
ห่วงโซ่การบันทึกทางธุรกรรม The truth about blockchain
PDF
กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ The right to win
PDF
มุมมองใหม่ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล Rethinking HR
PDF
10 ขั้นตอนการเขียนรายงาน 10 steps to an award application
PDF
การจัดเตรียมรายงาน How to prepare application report
PDF
คนมาก่อนกลยุทธ์ People before strategy
PDF
ตัดสินใจให้ดีกว่าเดิม Make better decisions
PDF
การทำธุรกิจครอบครัวให้ยั่งยืน Lessons from great family businesses
PDF
กลยุทธ์ กับคำนิยามของผู้บริหาร Strategy definition
PDF
คณะกรรมการบริหาร Board of directors
PDF
การสร้างทีม Team building
PDF
5 หลักกลยุทธ์ Strategic five
PDF
การเรียนรู้สู่การเขียน From learning to writing
PDF
ข้อสังเกต การจัดการความรู้ Maruay 17th ha forum
PDF
กลยุทธ์ หรือ การทำให้สำเร็จ อะไรสำคัญกว่ากัน Strategy or execution
PDF
เมื่อคุณเบื่อเจ้านาย Do you hate your boss
PDF
การทำให้สำเร็จที่เป็นเลิศ Executional excellence
PDF
มนุษย์กับสมองกล Man and machine
PDF
ตัวตน ครอบครัว การงาน และชุมชน Work + home + community + self
PDF
ความรู้ การเรียนรู้ และการสร้างนวัตกรรม Knowledge, learning, and innovation
ห่วงโซ่การบันทึกทางธุรกรรม The truth about blockchain
กลยุทธ์เพื่อสิทธิที่จะชนะ The right to win
มุมมองใหม่ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล Rethinking HR
10 ขั้นตอนการเขียนรายงาน 10 steps to an award application
การจัดเตรียมรายงาน How to prepare application report
คนมาก่อนกลยุทธ์ People before strategy
ตัดสินใจให้ดีกว่าเดิม Make better decisions
การทำธุรกิจครอบครัวให้ยั่งยืน Lessons from great family businesses
กลยุทธ์ กับคำนิยามของผู้บริหาร Strategy definition
คณะกรรมการบริหาร Board of directors
การสร้างทีม Team building
5 หลักกลยุทธ์ Strategic five
การเรียนรู้สู่การเขียน From learning to writing
ข้อสังเกต การจัดการความรู้ Maruay 17th ha forum
กลยุทธ์ หรือ การทำให้สำเร็จ อะไรสำคัญกว่ากัน Strategy or execution
เมื่อคุณเบื่อเจ้านาย Do you hate your boss
การทำให้สำเร็จที่เป็นเลิศ Executional excellence
มนุษย์กับสมองกล Man and machine
ตัวตน ครอบครัว การงาน และชุมชน Work + home + community + self
ความรู้ การเรียนรู้ และการสร้างนวัตกรรม Knowledge, learning, and innovation
Ad

Similar to แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines (20)

PDF
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น - PMK internal assessor 6
PDF
การให้คะแนนในการให้รางวัล Award scoring
PDF
การวินิจฉัยองค์กร Organization diagnosis
PDF
คำแนะนำสำหรับผู้สมัครรางวัลคุณภาพแห่งชาติ Tips on journey to excellence
PDF
ประเด็นการเยี่ยมหน่วยงาน - PMK internal assessor 8
PDF
บทสรุปผู้บริหารและประเด็นการเยี่ยมหน่วยงาน Key Theme & Site Visit Issue.pdf
PPT
5 การประเมินโครงการ 5
PDF
Basic concept of pdca and swot analysis for mfg.
PDF
แนวทางการให้คะแนน - PMK internal assessor 7
PDF
แนวทางการเขียนรายงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ การป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพโดยกล...
PDF
การเขียน KTs & SVIs (ฉบับปรับปรุงใหม่) KTs & SVIs Revised Version.pdf
PDF
การพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง
PPT
PDF
๒.๑ สมรรถนะ จักราวุธ คำทวี
PPT
PDF
SI TQA
แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น - PMK internal assessor 6
การให้คะแนนในการให้รางวัล Award scoring
การวินิจฉัยองค์กร Organization diagnosis
คำแนะนำสำหรับผู้สมัครรางวัลคุณภาพแห่งชาติ Tips on journey to excellence
ประเด็นการเยี่ยมหน่วยงาน - PMK internal assessor 8
บทสรุปผู้บริหารและประเด็นการเยี่ยมหน่วยงาน Key Theme & Site Visit Issue.pdf
5 การประเมินโครงการ 5
Basic concept of pdca and swot analysis for mfg.
แนวทางการให้คะแนน - PMK internal assessor 7
แนวทางการเขียนรายงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ การป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพโดยกล...
การเขียน KTs & SVIs (ฉบับปรับปรุงใหม่) KTs & SVIs Revised Version.pdf
การพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง
๒.๑ สมรรถนะ จักราวุธ คำทวี
SI TQA

More from maruay songtanin (20)

DOCX
17. สุพรหมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
16. วาสุทัตตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
15. จันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
14. นันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
13. ทีฆลัฏฐิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
12. เวณฑุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
11. จันทิมสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
10. สุริยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
09. จันทิมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
08. ตายนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
07. ปัญจาลจัณฑสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
DOCX
06. กามทสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
05. ทามลิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
04. มาคธสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
03. มาฆสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
02. ทุติยกัสสปสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
DOCX
01. ปฐมกัสสปสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
DOCX
๘๑. อรณสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
๘๐. ปัชโชตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
DOCX
๗๙. ปาเถยยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
17. สุพรหมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
16. วาสุทัตตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
15. จันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
14. นันทนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
13. ทีฆลัฏฐิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
12. เวณฑุสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
11. จันทิมสสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
10. สุริยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
09. จันทิมสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
08. ตายนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
07. ปัญจาลจัณฑสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
06. กามทสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
05. ทามลิสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
04. มาคธสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
03. มาฆสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
02. ทุติยกัสสปสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
01. ปฐมกัสสปสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๘๑. อรณสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘๐. ปัชโชตสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๗๙. ปาเถยยสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

แนวทางการเขียนข้อคิดเห็น 2016 comment guidelines

  • 1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 30 เมษายน 2559
  • 2. วัตถุประสงค์ของรายงานป้ อนกลับ  เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรผู้สมัคร  ระบุ จุดแข็ง (Strength) และ โอกาสพัฒนา (Opportunity) ที่ องค์กรผู้สมัครสามารถใช้ประโยชน์ ในการปรับปรุงองค์กรให้ สมบูรณ์มากขึ้นต่อไป
  • 4. ข้อคิดเห็นมี 2 ประเภท 1. จุดแข็ง (Strength) ในกรณีของกระบวนการ (Process) คือ ADLI และผลลัพธ์ (Result) คือ LeTCI ที่องค์กรทาได้ตามเกณฑ์ที่ กาหนด 2. โอกาสพัฒนา (Opportunity For Improvement - OFI) ในกรณีที่ องค์กรทาได้ไม่ครอบคลุม หรือ ไม่ครบถ้วน
  • 6.  A = Approach องค์กรใช้วิธีการ (methods) ที่เป็นระบบ (systematic = ordered, repeatable, use of data & information for learning) เหมาะสม (appropriate) มีประสิทธิผล (effectiveness) เป็นกระบวนการสาคัญ (key organizational process) และไม่มี รอยโหว่ (GAP) (systematic + effective)
  • 7.  D = Deployment อธิบายการปฏิบัติที่มีความทั่วถึง (breadth) และทุกระดับ (depth) ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีหลักฐานบ่ง ถึงการนาไปปฏิบัติในหน่วยอื่นขององค์กรด้วย (breadth and depth)
  • 8.  L = Learning อธิบายความรู้ ทักษะใหม่ที่ได้จากการประเมิน การศึกษา ทดลอง และนวัตกรรม (innovation) มีวงจรการ พัฒนาที่เป็นระบบและใช้ข้อเท็จจริง (PDCA) มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ (sharing) มีการเทียบเคียง และฝังตัวอยู่ในกระบวนการ ทางาน (PDCA + innovation + sharing)
  • 9.  I = Integration อธิบายถึงความสอดคล้อง (alignment) ของ แผน กระบวนการ ข่าวสาร การจัดสรรงบประมาณ การ ปฏิบัติการ ผลลัพธ์ และการวิเคราะห์ที่ช่วยให้องค์กรบรรลุ เป้ าหมาย (organizational needs) และมีการประสานกันของ หลายหน่วยงาน รวมถึงการเกี่ยวเนื่องกับเกณฑ์หัวข้ออื่นด้วย (other process) (alignment + organizational needs in OP & other process)
  • 10. ใช้ประโยชน์ • ในการเขียนใน OFI คือทาอย่างไรผู้สมัครจึงจะ ได้คะแนนสูงขึ้ น (promote) • และเขียนใน Strength ว่าผู้สมัครทาอะไรได้ดีแล้วที่ ควรธารงรักษาไว้ ไม่ให้ คะแนนลดลง (demote)
  • 12. ระดับผลดาเนินการ (Levels)  แสดงอัตราส่วนที่เหมาะสม  เทียบกับผลในอดีต การคาดการณ์ และเป้ าหมาย (ต่ากว่า ดีกว่า เป็นเลิศ)
  • 13. แนวโน้ม (Trends)  ทิศทางและอัตราการปรับปรุง (เป็นที่น่าพอใจ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นที่น่าพอใจ)  จานวนจุดอ้างอิง (อย่างน้อย 3 จุด)  ความครอบคลุมในทุกภาคส่วน (มีคาอธิบายรูป)
  • 14. การเปรียบเทียบ (Comparisons)  มีความสัมพันธ์ : กับคู่แข่ง การเทียบเคียง หรือผู้นาใน อุตสาหกรรมนั้น (ในผลลัพธ์ที่สาคัญ ไม่จาเป็นต้องมีทุกรูป)  มีความสม่าเสมอ
  • 15. บูรณาการ (Integration)  สัมพันธ์กับข้อกาหนดของเกณฑ์  แยกตามกลุ่มที่จัดไว้ (Segmentation) (ลูกค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ ตลาด กระบวนการ แผนปฏิบัติการในลักษณะองค์กร และหัวข้อ กระบวนงาน)  สนับสนุนแผนปฏิบัติการขององค์กร  ผลคาดการณ์ในอนาคต
  • 16. ใช้ประโยชน์ • ในการเขียนใน OFI คือทาอย่างไรผู้สมัครจึงจะได้คะแนนสูงขึ้ น (promote) • และเขียนใน Strength ว่าผู้สมัครทาอะไรได้ดีแล้วที่ควรธารงรักษาไว้ ไม่ให้คะแนนลดลง (demote) ของผลลัพธ์
  • 18.  ขั้นตอนการตรวจประเมินรายงานเป็นรายบุคคล 1. ทบทวน Criteria Requirements 2. หา Key Factors 3. อ่านรายงานของผู้สมัคร 4. บันทึก Key processes & Results 5. หาหลักฐาน ADLI, LeTCI 6. ให้คะแนน
  • 19. To refresh your memory and understand the Item Requirements
  • 20. 1. ทบทวนข้อกาหนดของเกณฑ์  ให้เรียบเรียงใจความสาคัญ (Nugget, or Item main points) ของ หัวข้อนั้น ตามความเข้าใจที่เป็นภาษาของเราเองให้กระชับได้ ใจความ และระลึกไว้ในใจในขณะอ่านแบบประเมินของผู้สมัคร จะได้ไม่ใช้เกณฑ์เสมือนการทาเป็น check list  ทาความเข้าใจของคาถามระดับ basic, overall, multiple  ดูคาศัพท์และคาอธิบายที่มีความสาคัญของหัวข้อนั้นๆ  อ่านหมายเหตุด้วย
  • 21. To determine the most relevant key factors
  • 22. 2. คัดเลือกปัจจัยสาคัญ  เริ่มจากหา KF ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Item  คัดเลือก 4-6 KF ที่สอดคล้องกับระดับวุฒิภาวะของผู้สมัคร (basic, overall, multiple) เช่น ความต้องการของลูกค้า สภาพแวดล้อมการแข่งขัน ความต้องการของบุคลากร เป็นต้น  เชื่อมโยง KF กับคาถามในหัวข้อต่าง ๆ ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบ กับความเป็นตัวตนหรือความท้าทายขององค์กร
  • 23. The relevant section of the application
  • 24. 3. อ่านรายงานของผู้สมัคร  มองเป็นองค์รวมของหัวข้อ ไม่ check list ทีละคาถาม  คิดถึงความสัมพันธ์ของการตอบในหัวข้ออื่น ๆ ด้วย  เน้นที่กระบวนการสาคัญที่สุดที่ผู้สมัครใช้  คานึงถึงความเหมาะสมของวิธีการที่ใช้นั้นกับคาถามของเกณฑ์  ความมีประสิทธิผลของกระบวนการ  การบรรลุวัตถุประสงค์
  • 25. The applicant uses to meet the Item requirements (mark up and/or take note)
  • 26. 4. วิเคราะห์การตอบสนองต่อเกณฑ์  ใช้มุมมองที่เพิ่มคุณค่าให้กับผู้สมัคร  เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับหัวข้ออื่น แม้ผู้สมัครจะไม่ได้ระบุไว้  มองหาข้อมูลข่าวสารที่หายไป  การยกผลประโยชน์ให้ในกรณีที่ไม่แน่ใจ อย่างสมเหตุสมผล  ระบุจุดแข็ง และ โอกาสพัฒนา ประมาณ 6 ข้อคิดเห็น  ลาดับความสาคัญของข้อคิดเห็น
  • 27. Analyze application response (bold – high priority observation)
  • 28. 5. เขียนข้อคิดเห็น  เริ่มต้นด้วยข้อคิดเห็นที่เป็นใจความสาคัญ (Nugget) และหนึ่ง ข้อคิดเห็นสื่อเพียงความหมายเดียวเท่านั้น  ตามด้วย 1-2 ตัวอย่าง (Examples)  ลงท้ายข้อคิดเห็นที่สื่อถึงความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับองค์กร อย่างไร (Relevance)  จบแต่ละข้อคิดเห็น (Done) ไม่ควรเกิน 75 คา  อย่าลืมถามตนเองว่า ผู้สมัครจะเข้าใจ และสามารถนาไปใช้ ประโยชน์ได้หรือไม่ ถ้าไม่ ให้ปรับปรุงข้อคิดเห็นใหม่อีกครั้ง
  • 29. Using scoring guidelines (holistic view)
  • 30. 6. ให้คะแนน  โดยอาศัย แนวทางการให้คะแนน  ดูเป็นองค์รวม (holistic) ต่อการตอบสนองคาถามของหัวข้อว่า อยู่ระดับใด (basic, overall, multiple)  คะแนนที่ได้ต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นที่ให้ และหลีกเลี่ยงการ หาหลักฐานต่าง ๆ มายืนยันเกินความจาเป็น เนื่องจากผู้สมัครมี เนื้ อที่จากัดในการนาเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์อย่างละเอียดละออ  ช่วงของคะแนนจะสะท้อนวุฒิภาวะการพัฒนาขององค์กร
  • 33.  1. นาไปปฏิบัติได้ (Actionable): ผู้สมัครนาข้อเสนอแนะไป ปฏิบัติได้จริง และเข้าใจศักยภาพที่มีอยู่  2. มีความสอดคล้อง (Aligned): ข้อคิดเห็นที่สะท้อนเนื้ อหาของ เกณฑ์ และสะท้อนการให้คะแนน  3. มีความแม่นยา (Accurate): ใช้ข้อเท็จจริงและข้อมูล ที่มีความ ถูกต้อง  4. มีความเหมาะสม (Appropriate): สานวนแบบมืออาชีพ และ เป็นบวก
  • 34. 1. นาไปปฏิบัติได้ (คาแนะนาที่ทาได้จริง)  จัดรูปประโยคที่ผู้สมัครอ่านแล้วเข้าใจง่าย  เขียนข้อคิดเห็นที่นาไปปฏิบัติได้และมีคุณค่าต่อผู้สมัครคือ:  เริ่มประโยคด้วยแก่นความคิด (nugget) หนึ่งข้อมีหนึ่ง ความคิดเห็น (one main idea per comment)  มีความเกี่ยวข้อง (relevance) ให้ดูจากปัจจัยสาคัญ (key factor) โดยในหนึ่งข้อคิดเห็น อ้างปัจจัยเดียวก็เพียงพอ  ยก 1-2 ตัวอย่าง (examples) สนับสนุนความเห็น
  • 35.  N = Nugget (essence or main point of the comment)  E = Examples (some examples)  R = Relevance (importance of the nugget to the applicant)  D = Done
  • 36. 2. มีความสอดคล้อง (สะท้อนเกณฑ์และการให้คะแนน)  จัดทาข้อคิดเห็นตามระดับวุฒิภาวะของผู้สมัคร คือดูจาก ข้อกาหนดพื้นฐาน ข้อกาหนดโดยรวม หรือข้อกาหนดย่อย (basic, overall, or multiple Criteria requirements)  ใช้คาศัพท์จากเกณฑ์ ค่านิยมและแนวคิดหลัก และจากแนว ทางการให้คะแนน เพื่อเพิ่มคุณค่าเท่าที่จาเป็น ไม่ลอกซ้าทั้งหมด  ใช้ปัจจัยประเมิน กระบวนการหรือผลลัพธ์ (ADLI or LeTCI) เพียงหนึ่งหรือสองปัจจัยการประเมินต่อหนึ่งข้อคิดเห็น  ระวังไม่ให้ข้อคิดเห็นในเรื่องเดียวกันนั้นขัดแย้งกันเอง ทั้งที่อยู่ ในหัวข้อเดียวกันหรือที่อยู่ในหัวข้ออื่น
  • 37. 3. มีความแม่นยา (ข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกต้อง)  ใช้คาศัพท์ที่ผู้สมัครใช้ เมื่อเห็นว่าเป็นการสมควร  ใช้ชื่อและคาศัพท์ที่ถูกต้อง เช่น ชื่อกระบวนการ หรือชื่อรูป  ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริง ที่ใช้เป็นหลักฐานในข้อคิดเห็น ให้ระบุรูปด้วย (ถ้ามี)  ไม่ลอกเลียนแบบ (Parrot) จากรายงานผู้สมัคร หรือนามาจาก เกณฑ์ พยายามใช้เท่าที่จาเป็น ให้ใช้สารสนเทศที่เกิดคุณค่ากับ ผู้สมัครจะดีกว่าการกล่าวซ้า
  • 38. 4. มีความเหมาะสม (เขียนแบบมืออาชีพและเป็นบวก)  ไม่วิจารณ์รูปแบบการเขียนรายงานของผู้สมัคร (style of writing or data presentation)  ไม่ใช้คาศัพท์เฉพาะ (jargon or acronyms) นอกเสียจากว่า เป็น คาที่ผู้สมัครใช้  ไม่ตัดสินความ (judgmental) เช่น ดี ไม่ดี หรือ ไม่เพียงพอ (good, bad, or inadequate )  ไม่ให้คาแนะนา (prescriptive) เช่น สมควรทา (should or would)  ไม่กล่าวเกินเลยเกณฑ์ หรือใส่ความคิดเห็นส่วนตัว (beyond the requirements of the Criteria or assert your personal opinions)
  • 39. สิ่งที่สมควรทาในเรื่องเนื้ อหา  ไม่เพียงบอกกล่าว แสดงให้เห็น (Show, don’t just tell) ว่า ทาไม ข้อคิดเห็นนี้ จึงมีความสาคัญต่อผู้สมัครโดยตรง  ใช้ภาษาจากแนวทางการให้คะแนน เพื่อที่ผู้สมัครจะได้รู้วุฒิ ภาวะของตนเอง เช่น อยู่ในขั้นเริ่มต้นของการนาไปปฏิบัติเกือบ ทุกหน่วยงาน หรือ มีการนาไปปฏิบัติอย่างทั่วถึง  มีการโยงข้ามหัวข้อ (Items) หรืออ้างอิงถึงโครงร่างองค์กร (Organizational Profile - OP)
  • 40. สิ่งที่สมควรทาในเรื่องรูปแบบ  ใช้คาสุภาพ มืออาชีพ และเป็นบวก (polite, professional, and positive tone)  ใช้กาลกิริยาเป็นปัจจุบันและเป็นผู้กระทา ไม่ใช่ถูกกระทา (completes rather than is completed)  สิ่งที่ไม่พบให้ใช้คาว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ... (is not clear)  ใช้สรรพนามเรียกองค์กรที่สมัครว่า ผู้สมัคร (the applicant) (จะ ใช้ชื่อจริงก็ต่อเมื่อเป็นรายงานป้ อนกลับฉบับจริง ที่ส่งให้ผู้สมัคร)
  • 41. สิ่งที่ควรทาเมื่อจัดทารายงาน  คัดปัจจัยสาคัญ 4-6 ข้อ (four to six key factors) ในแต่ละหัวข้อ (Item) และอ้างอิงเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่ต้องนามาทั้ง พวง (one or two of the strategic challenges rather than all strategic challenges)  ให้ข้อคิดเห็นประมาณ 6 ข้อต่อหนึ่งหัวข้อ (around six feedback- ready comments per item) ที่มีความสาคัญที่สุดและตรงกับระดับ วุฒิภาวะของผู้สมัคร
  • 42. สิ่งที่ควรทาเมื่อจัดทารายงาน (ต่อ)  ให้มั่นใจว่าคะแนนที่ให้ เหมาะสมกับข้อคิดเห็น ทั้งจานวนและ เนื้ อหา (Ensure that the item’s score is supported by the comments—both in number of comments and content of comments)  ใส่ข้อคิดเห็นตามหัวข้อของเกณฑ์ ไม่ใช่ใส่ตามที่อยู่ในรายงาน ของผู้สมัคร
  • 43. These following samples reflect the thinking of a single examiner and should not necessarily be viewed as a “right” or “wrong assessment of the applicant.
  • 44. ข้อคิดเห็นกระบวนการ • จุดแข็ง/โอกาสพัฒนา เน้นความสาคัญโดยใช้ตัวหนา (bold) หรือ double plus or minus (++, --) • ให้ใช้แก่นของข้อคิดเห็น ในตอนเริ่มต้นประโยค • ยกตัวอย่างประกอบ 1-2 ตัวอย่าง ที่ช่วยระบุปัจจัยในการ ประเมินที่สาคัญ (approach, deployment, learning, or integration) • ระบุความเกี่ยวข้อง • จากัดแต่ละข้อคิดเห็นที่ 75 คา หรือไม่เกิน 500 ตัวอักษร
  • 45. จุดแข็งของกระบวนการ  5.1ข(1) คณะกรรมการความปลอดภัย ที่ประกอบด้วย กรรมการบริหารจากแต่ละสถานที่ สนับสนุนการดูแลด้าน สุขภาพความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยของ พนักงาน (แก่นและความเกี่ยวข้อง) โดยผ่านการตรวจสอบของ ระบบและนโยบายสิ่งอานวยความสะดวก ที่มีวิธีการและ มาตรการที่เป็นการปฏิบัติที่ดีที่สุด มีทีมงานความร่วมมือในการ ดูแลและระบบการวัดประสิทธิภาพ (APEX) เสริมสร้างระบบที่ มุ่งเน้นสิ่งอานวยความสะดวก ในการตอบสนองสุขภาพแรงงาน และข้อกาหนดด้านความปลอดภัยที่สาคัญ (ตัวอย่าง)
  • 46. โอกาสพัฒนาของกระบวนการ  5.1ก,ข วิธีการของผู้สมัครในการจัดการความสามารถและความ พอเพียงของบุคลากร รวมถึงการรักษาความปลอดภัยและ บรรยากาศการทางานไม่ได้รวมกลุ่มแพทย์ไว้ (แก่น) ไม่ปรากฏว่ามี การประเมินความสามารถของแพทย์ต่อความต้องการด้านบุคลากร ของสิ่งอานวยความสะดวกที่ได้มาใหม่ ไม่ชัดเจนว่าแพทย์ได้รวมอยู่ ในการวางแผนกาลังการผลิต และความต้องการที่สาคัญของแพทย์ก็ ไม่ได้รับการระบุ (ตัวอย่าง) การไม่รวมกลุ่มแพทย์ไว้ อาจทาให้ ผู้สมัครพลาดโอกาสที่จะเตรียมความพร้อมสาหรับการเจริญเติบโต และการส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม (ความเกี่ยวข้อง)
  • 47. ข้อคิดเห็นของผลลัพธ์ • จุดแข็ง/โอกาสพัฒนา เน้นความสาคัญโดยใช้ตัวหนา (bold) หรือ double plus or minus (++, --)  เขียนให้สั้น กระชับ ได้ใจความ  ยกตัวอย่างประกอบเพียง 1-2 ตัวอย่าง (ไม่ต้องยกตัวอย่าง ทั้งหมดที่หาได้)  เน้นที่หลักฐานตามปัจจัยการประเมิน (levels, trends, comparisons, integration)  จากัดหนึ่งข้อคิดเห็นไม่ให้เกิน 75 คาหรือ 500 ตัวอักษร
  • 48. จุดแข็งของผลลัพธ์  7.3ก(2) ผลลัพธ์การวัดผลและตัวชี้วัดของการมีสุขภาพและ ความปลอดภัยของบุคลากร แสดงแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ และ เป็นที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐาน (แก่นและความ เกี่ยวข้อง) ตัวอย่างเช่น ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ระดับของการขาด งานน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม (รูปที่ 7.3- 7) นอกจากนี้ OSHA TRR ขององค์กร มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่ ร้อยละ 80 ของ OSHA อย่างต่อเนื่อง (รูปที่ 7.3-8) (ตัวอย่าง)
  • 49. โอกาสพัฒนาของผลลัพธ์  7.3ก(4) ไม่พบผลลัพธ์การวัดผลและตัวชี้วัดของการพัฒนาผู้นา และบุคลากร (แก่น) ที่มีการระบุว่า การบริการแบบตานาน ซึ่ง เป็นปัจจัยความสาเร็จที่สาคัญสาหรับองค์กร (P.2-2) (ความ เกี่ยวข้อง) แต่ไม่มีผลลัพธ์แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาบุคลากรใน ด้านนี้ หรือด้านการพัฒนาทักษะความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การ กู้คืนบริการ หรือทักษะการสื่อสารที่ทันสมัย (ตัวอย่าง)
  • 50.  การเขียนข้อคิดเห็นโดยผู้ตรวจประเมิน มีขั้นตอนที่เป็นระบบ สามารถทาซ้าได้ มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน มีปัจจัยในการประเมิน และให้คะแนน เพื่อให้การประเมินองค์กรผู้สมัครเป็นไปอย่าง เที่ยงธรรม  มีการทวนสอบระหว่างกันโดยการทางานเป็นทีมที่ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาที่ผ่านการอบรมมาแล้ว จนมีความมั่นใจ ระดับหนึ่งว่า ทุกองค์กรที่ส่งรายงานเข้ารับสมัครขอรับรางวัล ไม่ ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับรางวัลก็ตาม จะได้ประโยชน์จากรายงาน ป้ อนกลับ เพื่อความสาเร็จในปัจจุบันและในอนาคตสืบไป