SlideShare a Scribd company logo
บทที่ 3
การสํารวจความคิดเห็น
( 12 ชั่วโมง )
การสํารวจความคิดเห็นเปนการเก็บรวบรวมขอมูลแบบหนึ่งเปนเรื่องที่ใกลตัว
ผูเรียน ซึ่งผูเรียนควรมีความรูพอที่จะสามารถนําผลที่ไดจากการสํารวจไปชวยในการ
ตัดสินใจบางอยางได
ผลการเรียนรูที่คาดหวัง
1. รูจักวิธีการสํารวจความคิดเห็นอยางงาย
2. นําผลที่ไดจากการสํารวจความคิดเห็นไปใชในการคาดการณบางอยางได
ผลการเรียนรูดังกลาวเปนผลการเรียนรูที่สอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูชวง
ชั้นทางดานความรู ในการเรียนการสอนทุกครั้งผูสอนตองคํานึงถึงมาตรฐานการเรียนรู
ทางดานทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรที่จําเปน และสอดแทรกกิจกรรม ปญหา
หรือคําถามที่เสริมสรางทักษะกระบวนการเหลานั้นดวย นอกจากนั้นควรปลูกฝงให
ผูเรียนทํางานอยางเปนระบบ มีระเบียบวินัย รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ
และมีความเชื่อมั่นในตนเอง
ขอเสนอแนะ
ในการสอนเรื่องการสํารวจความคิดเห็น ซึ่งผลการเรียนรูตองการใหผูเรียนรูจัก
วิธีการสํารวจความคิดเห็นอยางงาย พรอมทั้งสามารถนําไปใชได ดังนั้นในการเรียนการ
สอนจึงควรใหมีภาคปฏิบัติโดยการใชกิจกรรมที่เสริมใหผูเรียนมีความเขาใจในวิธีการและ
ขั้นตอนการสํารวจความคิดเห็นดวยตนเอง และเมื่อผูเรียนไดขอสรุปจากการสํารวจความ
คิดเห็นแลว ผูสอนควรใหผูเรียนทํารายงานเพื่อนําเสนอขอสรุปที่ไดจากการทํางานพรอม
51
ทั้งขอเสนอแนะที่อาจเปนความคิดเห็นสวนตัว ทั้งนี้เพื่อฝกใหผูเรียนมีทักษะกระบวนการ
ทางคณิตศาสตรตามมาตรฐานการเรียนรูที่ไดกําหนดไว
กิจกรรมเสนอแนะ
กิจกรรมที่ 1
เพื่อใหผูเรียนเกิดความเขาใจในสาระเรื่องการสํารวจขอมูล ผูสอนอาจใชกิจกรรม
ในการสํารวจขอมูลอยางงาย ๆ โดยใชหัวขอที่เกี่ยวของกับชีวิตประจําวันของผูเรียนใน
การทํากิจกรรมดังกลาว ผูเรียนควรมีความรูเพิ่มเติมในเรื่องตอไปนี้
1. แบบสอบถาม
2. วิธีการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม
3. การเก็บรวบรวมขอมูลและการสรุปผล
1. แบบสอบถามและการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม
ในการใชแบบสอบถามเปนเครื่องมือในการสํารวจขอมูล จําเปนตองออกแบบ
สอบถามใหเหมาะสมโดยพิจารณาจาก
1) เนื้อหาของแบบสอบถาม กอนที่จะลงมือเขียนแบบสอบถาม สิ่งที่ควรตอง
ทราบคือ จุดประสงคของการสํารวจขอมูล โดยจะตองกําหนดสิ่งที่ตองการสํารวจพรอม
ทั้งเหตุผล และกําหนดรายละเอียดเปนหัวขอ ซึ่งควรจะเรียงตามลําดับของความสําคัญ
โดยตองไมกําหนดหัวขอหรือเนื้อหามากเกินไป เพื่อไมทําใหแบบสอบถามยาวเกินไป
และไดคําถามที่ถามตรงประเด็นที่ตองการ ตัวอยางเชน
จุดประสงคของการสํารวจขอมูล ตองการปรับปรุงคุณภาพของอาหารและ
บริการของโรงอาหาร
หัวขอที่ตองการสํารวจ
1. คุณภาพของอาหาร ไดแก รสชาติ ความสะอาด
2. ความหลากหลายของอาหาร ไดแก ประเภทหรือชนิดของอาหารที่มีผูนิยม
รับประทาน หรือตองการใหมีการขายเพิ่มเติม
52
3. การบริการ เชน ตองการใหมีบริการน้ําดื่ม หรือมีบริการขายอาหารวาง
ชวงเวลาเลิกเรียน
ในการสํารวจขอมูลเกี่ยวกับโรงอาหารในโรงเรียน ผูสอนอาจใหผูเรียนชวยกัน
ระดมความคิดในสิ่งที่ควรทําการสํารวจ จากนั้นจึงนําขอมูลที่ไดมาเรียบเรียงและหา
ขอสรุปเพื่อเลือกประเด็นที่สําคัญ ที่จะใชในการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม
ขอแนะนําในการเขียนแบบสอบถาม
1. ใชขอความที่กระชับ ชัดเจน เพื่อใหผูตอบแบบสอบถามเขาใจคําถาม หลีกเลี่ยงการ
ใชขอความที่เกี่ยวของกับความรูสึก เชน มาก / นอย โดยไมจําเปนและใชคําถามที่
ผูตอบสามารถตอบไดอยางชัดเจนไมตองอธิบาย เชน
จงระบุรายชื่ออาหารที่ทานชอบมากที่สุดมา 1 รายการ
2. หลีกเลี่ยงการใชคําถามที่อาจไดคําตอบที่แตกตางกันมากทําใหยากในการสรุปขอมูล
เชน ทานมารับประทานอาหารในโรงอาหารเมื่อใด ซึ่งคําตอบอาจจะเปน
7 โมงเชา และเที่ยง
เฉพาะวันจันทร – วันพฤหัสบดี
พักเที่ยงและพักเชา
3. ในกรณีของคําถามปลายเปด การตีกรอบคําตอบอาจชวยทําใหการสรุปขอมูลทําไดงาย
ขึ้น เชน การถามอายุของผูตอบแบบสอบถาม อาจกําหนดอายุเปนชวง ๆ ไว เชน
11 – 13 ป 17 – 25 ป 36 – 50 ป
14 – 16 ป 26 – 35 ป 51 – 60 ป
4. สรางคําถามที่มีคําตอบตายตัว เชน
1) ทานรับประทานอาหารมังสวิรัติหรือไม
ใช ไมใช บางครั้ง
53
2) ทานรับประทานอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนหรือไม
ทุกวัน บางวัน นาน ๆ ครั้ง ไมเคยใชบริการ
3) ทานคิดวาอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนมีคุณภาพอยางไร (โดยรวม)
ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง
4) โดยเฉลี่ยแลวทานใชเงินในการจายคาอาหารแตละครั้ง เมื่อใชบริการจากโรงอาหาร
10 – 20 บาท 21 – 50 บาท มากกวา 50 บาท
5) เครื่องดื่มที่ทานเลือกจากรานคาในโรงอาหารเปนประจําไดแก
(ตอบไดมากกวา 1 คําตอบ)
น้ําเปลา น้ําอัดลม ชา กาแฟ
น้ําผลไม เครื่องดื่มบํารุงสุขภาพ (นม น้ําเตาหู)
สําหรับคําถามที่เกี่ยวของกับความคิดเห็นอาจกําหนดใหผูตอบแบบสอบถาม
เรียงลําดับความสําคัญของคําตอบ เชน
1. จงลําดับประเภทอาหารที่ทานชอบโดยให 1 เปนอาหารที่ทานชอบมากที่สุด และ 5
เปนอาหารที่ทานชอบนอยที่สุด
กวยเตี๋ยวแหง น้ํา
ขาวและกับขาว
ขาวมันไก
ขาวขาหมู
อาหารตามสั่ง
54
2. จงบอกเหตุผลที่ทานไมชอบใชบริการจากโรงอาหารของโรงเรียน โดยลําดับความ
ไมชอบมากที่สุดเปน 1 และนอยที่สุดเปน 5
แพงเกินไป
คุณภาพไมดี
รสชาติไมดี
มีใหเลือกนอยอยาง
เสียเวลาคอยนาน
นอกจากนั้นควรจะจัดทําแบบสอบถามที่งายตอการทําความเขาใจ และสามารถ
ตอบคําถามไดงายไมสับสน ในแบบสอบถามควรมีคํากลาวนําถึงจุดประสงคของ
แบบสอบถาม ซึ่งไดแกที่มาและสิ่งที่จะดําเนินการเมื่อไดขอสรุปจากแบบสอบถามแลว
เพื่อใหผูตอบแบบสอบถามไดทราบที่มาและประโยชนในการสํารวจขอมูล
กอนที่จะทําการสํารวจจริงผูสอนอาจใหผูเรียนแตละกลุมนําแบบสอบถามที่กลุม
ของตนเขียนมานําเสนอใหเพื่อนและครูผูสอนไดชวยกันพิจารณาปรับปรุงใหเหมาะสม
กอนนําไปใช สําหรับวิธีการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม
ผูสอนควรใหผูเรียนศึกษาจากหนังสือเรียน แลวนํามาเสนอวิธีการของแตละกลุม
กับผูสอนและเพื่อน เพื่ออภิปรายหาขอสรุปและคําแนะนํากอนดําเนินการ
ขอเสนอแนะในการเก็บรวบรวมขอมูล และการสรุปผล
1. ในการเก็บรวบรวมขอมูล ผูสอนแนะนําใหผูเรียนนําวิธีการในหนังสือเรียนมาใชโดย
อาจสรุปขอมูลที่ไดใหอยูในรูปรอยละ เชน ตัวอยางจากขอมูลสมมติตอไปนี้
55
ผลการสํารวจเรื่องการรับประทานอาหารในโรงอาหารของโรงเรียน มีดังนี้
จํานวนผูตอบแบบสอบถาม
(คน)
รอยละ
ทุกวัน
บางวัน
นาน ๆ ครั้ง
ไมเคยใชบริการ
57
38
16
9
47.5
31.7
13.3
7.5
รวม 120
จากการสํารวจขอมูลพบวา คนสวนมาก (92.5%) มารับประทานอาหารในโรง
อาหารของโรงเรียน และสวนใหญของผูที่มารับประทาน จะมารับประทานทุกวัน มีเพียง
สวนนอย (7.5%) ที่ไมเคยใชบริการ
2. สําหรับการสรุปความคิดเห็นที่ใหกําหนดลําดับตามความสําคัญ อาจสรุปไดดัง
ตัวอยางตอไปนี้
ประเภทอาหารที่มีผูนิยมรับประทานมากที่สุด สรุปจากคําตอบของผูตอบ
แบบสอบถามที่เลือกเปนอันดับ 1 มีดังนี้
รายการอาหาร จํานวนผูที่เลือกใหเปนอันดับ 1 รอยละ
กวยเตี๋ยวแหง น้ํา
อาหารตามสั่ง
ขาวมันไก
ขาวขาหมู
ขาวและกับขาว
34
15
29
19
23
28.3
12.5
24.2
15.8
19.2
56
จากขอสรุปขางตนพบวา อาหารที่มีผูนิยมรับประทานมากที่สุดโดยเลือกใหเปน
อันดับ 1 คือ กวยเตี๋ยวแหง น้ํา
นอกจากการสรุปโดยใชวิธีที่แสดงขางตน อาจสรุปโดยกําหนดน้ําหนักของ
คะแนนของแตละรายการเปน 1, 2, 3, 4 และ 5 สําหรับการเลือกลําดับที่ 1, 2, 3, 4
และ 5 ตามลําดับ
ใหกวยเตี๋ยวแหง น้ํา มีผูเลือกใหคะแนนเปนลําดับที่ 1 – 5 ดังนี้
ลําดับที่ (n) คะแนน (x) ความถี่ (f)
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
34
31
22
24
9
รวม 120
การหาคะแนนรวมซึ่งเปนคะแนนนิยมของอาหารชนิดนี้ทําไดโดยหาผลรวมของ
คะแนนนิยมที่ไดจากการหาผลคูณคะแนน (x) ของลําดับที่กับจํานวนความถี่ (f) ของผูตอบ
แบบสอบถาม จากตารางขางตน ดังนี้
เนื่องจากจํานวนผูที่เลือกใหกวยเตี๋ยวแหง น้ํา เปนอาหารที่นิยมมากที่สุดเปน
อันดับ 1 มี 34 คน จะไดคะแนนเทากับ 1 × 34 หรือ 34 คะแนน สําหรับคะแนนที่ได
จากลําดับความนิยม 2 – 5 หาไดดังนี้
ลําดับ
(n)
คะแนน
(x)
จํานวนผูที่เลือก
(f)
คะแนนนิยม
(xf)
2
3
4
5
2
3
4
5
31
22
24
9
2 × 31 หรือ 62
3 × 22 หรือ 66
4 × 24 หรือ 96
5 × 9 หรือ 45
57
จากคะแนนที่ไดทั้งหมดนํามาสรุปผลคะแนนนิยมของผูที่เลือกกวยเตี๋ยวแหง น้ํา
ซึ่งเทากับ 303 ไดดังนี้
ลําดับที่ (n) ความถี่ (f) คะแนนนิยม (xf)
1
2
3
4
5
34
31
22
24
9
1 × 34 = 34
2 × 31 = 62
3 × 22 = 66
4 × 24 = 96
5 × 9 = 45
รวม 303
โดยใชวิธีการเดียวกันหาคะแนนนิยมของอาหารแตละชนิดจากผลสรุปของ
แบบสอบถาม โดยใชเกณฑการใหคะแนนตามที่กลาวมาดังนี้
คะแนน
1) กวยเตี๋ยวแหง น้ํา 303
2) อาหารตามสั่ง 432
3) ขาวมันไก 302
4) ขาวขาหมู 377
5) ขาวและกับขาว 386
รวม 1,800 คะแนน
จากขอสรุปโดยใชเกณฑการใหคะแนนนิยมขางตนจะพบวา อาหารที่มีผูนิยม
รับประทานมากที่สุดจะเปนอาหารที่มีคะแนนนอยที่สุดไดแก ขาวมันไก (302 คะแนน)
รองลงมาไดแก กวยเตี๋ยวแหง น้ํา (303 คะแนน) ขาวขาหมู (377 คะแนน) และขาวและ
กับขาว (386 คะแนน) สวนอาหารซึ่งมีคะแนนมากที่สุด คือ อาหารตามสั่งมีคะแนน 432
คะแนน จะเปนอาหารที่มีผูนิยมรับประทานนอยที่สุด
58
ผูสอนควรจัดกิจกรรมใหผูเรียนไดทําการสํารวจความคิดเห็น โดยผูเรียนจะตองนํา
ความรูที่ไดจากหนังสือเรียนไปทดลองปฏิบัติ เพื่อใหรูจักวิธีการสํารวจความคิดเห็น และ
สามารถนําไปใชประโยชนได
กิจกรรมที่ 2
ในการสํารวจความคิดเห็นจากกลุมบุคคล ในเรื่องตาง ๆ เชน จากคอลัมนใน
หนังสือพิมพรายสัปดาหฉบับหนึ่ง กลาวถึงการสํารวจความเห็นของหญิงไทยตอการ
ทําศัลยกรรมตกแตงวา “ผูหญิงในกรุงเทพฯ สวนใหญ (21.5%) มีความเห็นวา การ
ทําศัลยกรรมตกแตงทําใหสวยขึ้น และเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในการสํารวจ
ความเห็นขางตน เปนการสํารวจความคิดเห็นของผูหญิงไทยที่อยูในวัยทํางาน
(ประชากร) โดยสุมตัวอยางจากผูหญิงที่อยูในวัยทํางานในกรุงเทพฯ 200 คน”
จากที่กลาวมาอาจมีขอสงสัยวา ขอสรุปนาเชื่อถือไดหรือไมเพียงใด ในวิชาสถิติมี
วิธีการที่จะบอกไดวา ขอสรุปที่ไดจากการใชตัวอยางเพียงไมกี่ตัวอยาง สามารถที่จะ
บอกลักษณะบางอยางของกลุมประชากรที่สนใจไดอยางถูกตอง หรือนาเชื่อถือไดเพียงใด
โดยการทดสอบสมมติฐาน (testing hypothesis) ซึ่งเปนการวิเคราะหผลที่ไดจากการสุม
ตัวอยางอยางมีหลักเกณฑตามหลักวิธีการทางสถิติที่ถูกตอง อันจะทําใหผลหรือขอสรุปที่
ไดนาเชื่อถือ
การที่จะทดสอบสมมติฐานไดนั้น จําเปนตองมีความรูทางสถิติชั้นสูง
นอกเหนือจากการเรียนรูเนื้อหาสถิติในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อแสดงใหเห็นวา
ขอสรุปที่ไดนาเชื่อถือเพียงใด โดยใชแนวความคิดทางสถิติ และพื้นฐานความรูในเรื่อง
ความนาจะเปน เปนเครื่องมือที่ใชในการวิเคราะหผล ในการทํากิจกรรมที่จะกลาวถึง
ตอไปนี้ ผูสอนควรอธิบายตัวอยางใหผูเรียนเขาใจกอนจากนั้นจึงใหผูเรียนสํารวจความ
คิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากกลุมนักเรียนในหองจํานวน 25 คน เมื่อไดขอสรุปแลวจึง
คอยดําเนินการเพื่อทดสอบวาขอสรุปที่ไดนาเชื่อถือเพียงใดโดยใชวิธีการดังตัวอยาง
ตอไปนี้
59
ในการสํารวจความคิดเห็นของผูปกครองกลุมหนึ่งที่มีบุตรหลานเปนวัยรุนและมี
อายุต่ํากวา 18 ป มีความเห็นดวยหรือไมวา ผูมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทน
ราษฎรไดควรมีอายุตั้งแต 20 ป บริบูรณขึ้นไป
การสํารวจความคิดเห็นกระทําโดยการสอบถามผูที่มีบุตร จํานวน 25 คน ดวยการ
สุมตัวอยางจากสมุดรายนามผูใชโทรศัพทในเขตกรุงเทพมหานครไดผลสรุปวา
มีผูเห็นดวย 15 คน
มีผูไมเห็นดวย 10 คน
รวมจํานวนผูแสดงความคิดเห็น 25 คน
จากการสุมตัวอยาง สรุปไดวามี คนในเขตกรุงเทพมหานคร เห็นดวยกับ
ความคิดที่วา ผูมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎรได ควรมีอายุ 20 ป
บริบูรณ ขึ้นไป มีจํานวน 15 คน จาก 25 คน หรือคิดเปน 60% ของผูถูกสํารวจ
ขอสรุปดังกลาว เชื่อถือไดหรือไม
เพื่อใหเกิดความมั่นใจมากขึ้นวา คนสวนใหญ (หรือประมาณ 60% ขึ้นไป)
เห็นดวยจริงหรือไม ในทางปฏิบัติอาจจะใชวิธีการสุมซ้ําซึ่งหมายถึงการสํารวจความ
คิดเห็นจากคนที่ถูกสุมมา 25 คน อีกหลาย ๆ กลุมตัวอยาง แลวสํารวจดูวา มีกี่กลุม
ตัวอยางที่มีผูเห็นดวยตั้งแต 15 คน ขึ้นไป
60
พิจารณาผลการสํารวจขอมูลเพิ่มอีก 100 กลุมตัวอยาง ดังนี้
จํานวนผูตอบวาเห็นดวย ความถี่ (จํานวนกลุมตัวอยาง)
0 0
1 0
2 0
3 0
4 0
5 0
6 0
7 1
8 2
9 7
10 9
11 14
12 18
13 15
14 11
15 9
16 7
17 5
18 2
19 0
20 0
21 0
22 0
23 0
24 0
25 0
23 ตัวอยาง
61
จากผลการสํารวจขางตน สรุปไดวา
1. จากการสอบถามจากกลุมตัวอยาง 100 กลุม ไมพบกลุมตัวอยางที่มีผูเห็นดวย 0 ถึง 6 คน
และ 19 ถึง 25 คน จากกลุมตัวอยางละ 25 คน
2. จํานวนกลุมตัวอยางที่มีผูตอบวา เห็นดวย ตั้งแต 15 คน ถึง 18 คน มีทั้งหมด 23 กลุม
ตัวอยาง จาก 100 กลุมตัวอยางดังนี้
15 คน มี 9 กลุมตัวอยาง
16 คน มี 7 กลุมตัวอยาง
17 คน มี 5 กลุมตัวอยาง
18 คน มี 2 กลุมตัวอยาง
รวม 23 กลุมตัวอยาง
สรุปไดวา มี 23 กลุมจาก 100 กลุม ที่มีความเห็นเชนเดียวกับขอสรุปขางตน
จึงกลาวไดวา จากการสอบถามจากกลุมตัวอยางทั้งหมด 100 กลุมตัวอยาง ซึ่งแต
ละกลุมตัวอยางแทนผลการสํารวจความคิดเห็นของคน 25 คน พบวามีเพียง 23 กลุม
ตัวอยาง จาก 100 กลุมตัวอยาง หรือเพียง 23% ที่เห็นดวย แสดงวาขอสรุปนี้มีไมถึง
50% ที่เห็นดวย จึงไมนาที่จะใชแทนความคิดเห็นของคนสวนใหญ (ประชากร) ได หรือ
กลาวไดวา ขอสรุปจากผลจากการสํารวจความคิดเห็นครั้งแรกยังไมนาเชื่อถือ
กิจกรรมดังกลาวนี้เปนแนวคิดหนึ่งที่สามารถทําใหเกิดความเขาใจในเรื่องของการ
ทดลองสุมและการตีความจากการสํารวจความคิดเห็นวา สมควรที่จะเชื่อถือไดหรือไม
แตอยางไรก็ดี ผลการสํารวจแตละครั้งจะนาเชื่อถือหรือไมนั้น จะตองอาศัยความรูทาง
สถิติ ในเรื่องการเลือกตัวอยางและการวิเคราะหและสรุปผลการสํารวจอีกมาก กิจกรรมนี้
จึงเปนเพียงการเสนอแนวความคิดใหกับผูเรียนซึ่งยังไมมีความรูทางสถิติลึกซึ้งไดเขาใจ
ความหมายของการตีความจากการสํารวจไดงายขึ้นเทานั้น
62
กิจกรรมเพิ่มเติม
1. ใหผูเรียนกําหนดหัวขอที่สนใจเพื่อสอบถามความคิดเห็นจากเพื่อนนักเรียนใน
ชั้น เชน การใหผูเรียนชวยกันสํารวจวา มีกิจกรรมใดที่ผูเรียนตองการใหโรงเรียน
สนับสนุน ตัวอยางเชน
1) ดานกีฬา
2) ดานดนตรี
3) การเพิ่มความรูทางวิชาการ
4) พื้นฐานการงานอาชีพที่สามารถนําไปใชได
5) การออม
หรือการใหผูเรียนสอบถามจากผูเรียนที่ใชหองสมุดของโรงเรียนวา ตองการใหมี
หนังสือวารสาร ฯลฯ ประเภทใดเพิ่มเติมในหองสมุด หรือตองการใหหองสมุดของ
โรงเรียนมีบริการใดเพิ่มเติมบาง
2. เมื่อผูเรียนไดหัวขอที่สนใจแลว จึงใชวิธีการสุมเพื่อสอบถามความคิดเห็นจาก
เพื่อนที่อยูในหองเรียนเดียวกันจํานวน 10 คน และเมื่อไดขอสรุปจากการสอบถามความ
คิดเห็นครั้งนี้แลว จึงทําการสอบถามเพิ่มเติมจากผูเรียนในหองเรียนอื่น หรือชั้นเรียนอื่น
โดยสอบถามใหครบ 10 คน แลวสรุปและใหทําซ้ําจนครบ 50 กลุม หรือ 100 กลุม เพื่อ
หาขอสรุปวา ผูเรียนสวนใหญมีความคิดเห็นสอดคลองกับผูเรียน 10 คนแรกที่อยูใน
หองเรียนเดียวกันหรือไม
การประเมินผล
เนื่องจากการเรียนการสอนในบทนี้ตองการใหผูเรียนมีความเขาใจวิธีการและนําผล
ที่ไดจากการสํารวจความคิดเห็นไปใชได ผูสอนจึงควรประเมินผลการเรียนรูโดยประเมิน
จากกิจกรรมที่มอบหมายใหแตละกลุมไปปฏิบัติโดยใชวิธีการที่หลากหลาย เชน การ
สังเกตการทํางานรวมกันเปนกลุม การวางแผนการทํางาน การคนควาขอมูล เพิ่มเติม
ความคิดสรางสรรคในการทํางาน ความสามารถในการสื่อสารขอมูลไดอยางถูกตอง และ
ชัดเจนรวมทั้งผลงานที่นําเสนอในรูปรายงานดวย
63
ตารางเลขสุม
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
1 03 47 43 73 89 36 96 47 36 61 46 98 63 71 62 33 26 16 80 45
2 97 74 24 67 62 42 81 14 54 20 42 53 32 37 32 27 07 36 07 51
3 16 76 62 27 66 56 50 26 71 07 32 90 79 78 83 13 55 38 58 89
4 12 56 85 99 26 96 96 68 27 31 05 03 72 93 15 57 12 10 14 21
5 55 59 56 35 64 38 54 82 46 22 31 62 43 09 90 06 18 44 32 53
6 60 11 14 10 95 06 22 77 94 39 49 54 43 54 81 17 37 93 23 78
7 24 51 79 89 73 84 42 17 53 31 57 24 55 06 88 77 04 74 47 67
8 88 97 54 14 10 63 01 63 78 59 16 95 55 67 19 98 10 50 71 75
9 88 26 49 81 76 33 21 12 34 29 78 64 56 07 82 52 42 07 44 38
10 23 83 01 30 30 53 60 86 32 44 06 47 27 96 54 49 17 46 09 62
11 87 35 20 96 43 84 26 34 91 64 18 18 07 92 46 44 17 16 53 09
12 21 76 33 50 25 83 92 12 06 76 26 62 38 97 75 84 16 07 44 99
13 12 86 73 58 07 44 36 52 38 79 23 42 40 64 74 82 92 77 77 81
14 15 51 11 13 42 99 66 02 79 54 52 36 28 19 95 50 92 26 11 79
15 90 52 84 77 27 08 02 73 43 28 37 85 94 35 12 83 39 50 08 30
16 39 83 86 19 62 06 76 50 30 10 55 23 64 05 05 70 29 14 12 13
17 83 11 46 32 24 20 14 85 88 45 10 93 72 88 70 56 62 18 37 35
18 07 45 32 14 08 32 98 94 07 72 93 85 79 10 75 19 49 57 22 77
19 00 56 76 31 38 80 22 02 53 35 86 60 42 04 53 16 08 15 04 72
20 42 34 03 96 88 54 42 06 87 78 36 35 25 48 39 31 16 93 32 43
21 40 33 20 38 26 13 89 51 03 74 17 76 37 13 04 07 74 21 19 30
22 96 83 50 87 75 97 12 25 93 47 70 33 24 03 54 97 77 46 44 80
23 88 42 94 45 72 16 64 36 16 00 04 43 18 66 79 94 77 24 21 90
24 33 27 14 37 09 45 89 34 68 40 12 72 07 33 45 99 27 72 90 14
25 50 27 89 87 10 20 15 37 00 47 52 85 66 60 44 38 68 88 11 80

More Related Content

PDF
07 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่1_การให้เหตุผล
PDF
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
PDF
08 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่2_ประพจน์และกาสมมูล
PDF
72 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่7_ความน่าจะเป็น2
PDF
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
07 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่1_การให้เหตุผล
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
08 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่2_ประพจน์และกาสมมูล
72 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่7_ความน่าจะเป็น2
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ

What's hot (20)

PDF
28 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่2_ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย
PDF
69 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่4_ทฤษฎีบททวินาม
PDF
10 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่4_ประโยคเปิดและวลีบ่งปริมาณ
PDF
แผนลำดับ
PDF
60 ลำดับและอนุกรม ตอนที่2_การประยุกต์ลำดับเลขคณิตและเรขาคณิต
PDF
04 เซต ตอนที่3_เอกลักษณ์ของการดำเนินการบนเซตและแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์
PDF
89 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่2_ปัญหาการวางตัวเบี้ยบนตารางจัตุรัส
PDF
12 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องตารางค่าความจริง
PDF
71 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่6_ความน่าจะเป็น1
PDF
14 จำนวนจริง ตอนที่1_สมบัติของจำนวนจริง
PDF
57 กำหนดการเชิงเส้น ตอนที่2_การหาค่าสุดขีด
PDF
21 จำนวนจริง ตอนที่8_การแก้อสมการค่าสัมบูรณ์
PDF
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
PDF
90 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่3_การถอดรากที่3
PDF
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
PDF
67 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่2_การเรียงสับเปลี่ยน
PDF
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
28 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่2_ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย
69 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่4_ทฤษฎีบททวินาม
10 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่4_ประโยคเปิดและวลีบ่งปริมาณ
แผนลำดับ
60 ลำดับและอนุกรม ตอนที่2_การประยุกต์ลำดับเลขคณิตและเรขาคณิต
04 เซต ตอนที่3_เอกลักษณ์ของการดำเนินการบนเซตและแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์
89 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่2_ปัญหาการวางตัวเบี้ยบนตารางจัตุรัส
12 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องตารางค่าความจริง
71 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่6_ความน่าจะเป็น1
14 จำนวนจริง ตอนที่1_สมบัติของจำนวนจริง
57 กำหนดการเชิงเส้น ตอนที่2_การหาค่าสุดขีด
21 จำนวนจริง ตอนที่8_การแก้อสมการค่าสัมบูรณ์
68 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่3_การจัดหมู่
90 โครงงานคณิตศาสตร์ ตอนที่3_การถอดรากที่3
09 การให้เหตุผลและตรรกศาสตร์ ตอนที่3_สัจนิรันดร์และการอ้างเหตุผล
67 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่2_การเรียงสับเปลี่ยน
70 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่5_การทดลองสุ่ม
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
85 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่12_ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล2
PDF
53 ตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องกราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติ
PDF
52 ตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องมุมบนวงกลมหนึ่งหน่วย
PDF
16 จำนวนจริง ตอนที่3_ทฤษฎีบทตัวประกอบ
PDF
54 ตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องกฎของไซน์และโคไซน์
85 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่12_ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล2
53 ตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องกราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติ
52 ตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องมุมบนวงกลมหนึ่งหน่วย
16 จำนวนจริง ตอนที่3_ทฤษฎีบทตัวประกอบ
54 ตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธ์เรื่องกฎของไซน์และโคไซน์
Ad

Similar to Basic m5-2-chapter3 (20)

PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
DOCX
003ชุดการเรียนรู้ชุดที่3
PDF
7บทที่3
PDF
8บทที่4
PDF
แผน 4 ชีวิต
PDF
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องเสียง
PDF
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องเสียง
PPT
การเขียนข้อสอบ
PDF
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
PDF
4. กลวิธี star
PDF
R wichuta
PDF
03การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้
DOC
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 02
PPT
สอบ วิจัย อ.สมพงษ์ มข.
DOCX
บทคัดย่อ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
003ชุดการเรียนรู้ชุดที่3
7บทที่3
8บทที่4
แผน 4 ชีวิต
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องเสียง
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องเสียง
การเขียนข้อสอบ
บทที่ 8 การวัดผลและประเมินการเรียนรู้
4. กลวิธี star
R wichuta
03การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 02
สอบ วิจัย อ.สมพงษ์ มข.
บทคัดย่อ

More from กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุตรดิตถ์ (15)

Basic m5-2-chapter3

  • 1. บทที่ 3 การสํารวจความคิดเห็น ( 12 ชั่วโมง ) การสํารวจความคิดเห็นเปนการเก็บรวบรวมขอมูลแบบหนึ่งเปนเรื่องที่ใกลตัว ผูเรียน ซึ่งผูเรียนควรมีความรูพอที่จะสามารถนําผลที่ไดจากการสํารวจไปชวยในการ ตัดสินใจบางอยางได ผลการเรียนรูที่คาดหวัง 1. รูจักวิธีการสํารวจความคิดเห็นอยางงาย 2. นําผลที่ไดจากการสํารวจความคิดเห็นไปใชในการคาดการณบางอยางได ผลการเรียนรูดังกลาวเปนผลการเรียนรูที่สอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูชวง ชั้นทางดานความรู ในการเรียนการสอนทุกครั้งผูสอนตองคํานึงถึงมาตรฐานการเรียนรู ทางดานทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรที่จําเปน และสอดแทรกกิจกรรม ปญหา หรือคําถามที่เสริมสรางทักษะกระบวนการเหลานั้นดวย นอกจากนั้นควรปลูกฝงให ผูเรียนทํางานอยางเปนระบบ มีระเบียบวินัย รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง ขอเสนอแนะ ในการสอนเรื่องการสํารวจความคิดเห็น ซึ่งผลการเรียนรูตองการใหผูเรียนรูจัก วิธีการสํารวจความคิดเห็นอยางงาย พรอมทั้งสามารถนําไปใชได ดังนั้นในการเรียนการ สอนจึงควรใหมีภาคปฏิบัติโดยการใชกิจกรรมที่เสริมใหผูเรียนมีความเขาใจในวิธีการและ ขั้นตอนการสํารวจความคิดเห็นดวยตนเอง และเมื่อผูเรียนไดขอสรุปจากการสํารวจความ คิดเห็นแลว ผูสอนควรใหผูเรียนทํารายงานเพื่อนําเสนอขอสรุปที่ไดจากการทํางานพรอม
  • 2. 51 ทั้งขอเสนอแนะที่อาจเปนความคิดเห็นสวนตัว ทั้งนี้เพื่อฝกใหผูเรียนมีทักษะกระบวนการ ทางคณิตศาสตรตามมาตรฐานการเรียนรูที่ไดกําหนดไว กิจกรรมเสนอแนะ กิจกรรมที่ 1 เพื่อใหผูเรียนเกิดความเขาใจในสาระเรื่องการสํารวจขอมูล ผูสอนอาจใชกิจกรรม ในการสํารวจขอมูลอยางงาย ๆ โดยใชหัวขอที่เกี่ยวของกับชีวิตประจําวันของผูเรียนใน การทํากิจกรรมดังกลาว ผูเรียนควรมีความรูเพิ่มเติมในเรื่องตอไปนี้ 1. แบบสอบถาม 2. วิธีการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม 3. การเก็บรวบรวมขอมูลและการสรุปผล 1. แบบสอบถามและการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม ในการใชแบบสอบถามเปนเครื่องมือในการสํารวจขอมูล จําเปนตองออกแบบ สอบถามใหเหมาะสมโดยพิจารณาจาก 1) เนื้อหาของแบบสอบถาม กอนที่จะลงมือเขียนแบบสอบถาม สิ่งที่ควรตอง ทราบคือ จุดประสงคของการสํารวจขอมูล โดยจะตองกําหนดสิ่งที่ตองการสํารวจพรอม ทั้งเหตุผล และกําหนดรายละเอียดเปนหัวขอ ซึ่งควรจะเรียงตามลําดับของความสําคัญ โดยตองไมกําหนดหัวขอหรือเนื้อหามากเกินไป เพื่อไมทําใหแบบสอบถามยาวเกินไป และไดคําถามที่ถามตรงประเด็นที่ตองการ ตัวอยางเชน จุดประสงคของการสํารวจขอมูล ตองการปรับปรุงคุณภาพของอาหารและ บริการของโรงอาหาร หัวขอที่ตองการสํารวจ 1. คุณภาพของอาหาร ไดแก รสชาติ ความสะอาด 2. ความหลากหลายของอาหาร ไดแก ประเภทหรือชนิดของอาหารที่มีผูนิยม รับประทาน หรือตองการใหมีการขายเพิ่มเติม
  • 3. 52 3. การบริการ เชน ตองการใหมีบริการน้ําดื่ม หรือมีบริการขายอาหารวาง ชวงเวลาเลิกเรียน ในการสํารวจขอมูลเกี่ยวกับโรงอาหารในโรงเรียน ผูสอนอาจใหผูเรียนชวยกัน ระดมความคิดในสิ่งที่ควรทําการสํารวจ จากนั้นจึงนําขอมูลที่ไดมาเรียบเรียงและหา ขอสรุปเพื่อเลือกประเด็นที่สําคัญ ที่จะใชในการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม ขอแนะนําในการเขียนแบบสอบถาม 1. ใชขอความที่กระชับ ชัดเจน เพื่อใหผูตอบแบบสอบถามเขาใจคําถาม หลีกเลี่ยงการ ใชขอความที่เกี่ยวของกับความรูสึก เชน มาก / นอย โดยไมจําเปนและใชคําถามที่ ผูตอบสามารถตอบไดอยางชัดเจนไมตองอธิบาย เชน จงระบุรายชื่ออาหารที่ทานชอบมากที่สุดมา 1 รายการ 2. หลีกเลี่ยงการใชคําถามที่อาจไดคําตอบที่แตกตางกันมากทําใหยากในการสรุปขอมูล เชน ทานมารับประทานอาหารในโรงอาหารเมื่อใด ซึ่งคําตอบอาจจะเปน 7 โมงเชา และเที่ยง เฉพาะวันจันทร – วันพฤหัสบดี พักเที่ยงและพักเชา 3. ในกรณีของคําถามปลายเปด การตีกรอบคําตอบอาจชวยทําใหการสรุปขอมูลทําไดงาย ขึ้น เชน การถามอายุของผูตอบแบบสอบถาม อาจกําหนดอายุเปนชวง ๆ ไว เชน 11 – 13 ป 17 – 25 ป 36 – 50 ป 14 – 16 ป 26 – 35 ป 51 – 60 ป 4. สรางคําถามที่มีคําตอบตายตัว เชน 1) ทานรับประทานอาหารมังสวิรัติหรือไม ใช ไมใช บางครั้ง
  • 4. 53 2) ทานรับประทานอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนหรือไม ทุกวัน บางวัน นาน ๆ ครั้ง ไมเคยใชบริการ 3) ทานคิดวาอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนมีคุณภาพอยางไร (โดยรวม) ดีมาก ดี พอใช ควรปรับปรุง 4) โดยเฉลี่ยแลวทานใชเงินในการจายคาอาหารแตละครั้ง เมื่อใชบริการจากโรงอาหาร 10 – 20 บาท 21 – 50 บาท มากกวา 50 บาท 5) เครื่องดื่มที่ทานเลือกจากรานคาในโรงอาหารเปนประจําไดแก (ตอบไดมากกวา 1 คําตอบ) น้ําเปลา น้ําอัดลม ชา กาแฟ น้ําผลไม เครื่องดื่มบํารุงสุขภาพ (นม น้ําเตาหู) สําหรับคําถามที่เกี่ยวของกับความคิดเห็นอาจกําหนดใหผูตอบแบบสอบถาม เรียงลําดับความสําคัญของคําตอบ เชน 1. จงลําดับประเภทอาหารที่ทานชอบโดยให 1 เปนอาหารที่ทานชอบมากที่สุด และ 5 เปนอาหารที่ทานชอบนอยที่สุด กวยเตี๋ยวแหง น้ํา ขาวและกับขาว ขาวมันไก ขาวขาหมู อาหารตามสั่ง
  • 5. 54 2. จงบอกเหตุผลที่ทานไมชอบใชบริการจากโรงอาหารของโรงเรียน โดยลําดับความ ไมชอบมากที่สุดเปน 1 และนอยที่สุดเปน 5 แพงเกินไป คุณภาพไมดี รสชาติไมดี มีใหเลือกนอยอยาง เสียเวลาคอยนาน นอกจากนั้นควรจะจัดทําแบบสอบถามที่งายตอการทําความเขาใจ และสามารถ ตอบคําถามไดงายไมสับสน ในแบบสอบถามควรมีคํากลาวนําถึงจุดประสงคของ แบบสอบถาม ซึ่งไดแกที่มาและสิ่งที่จะดําเนินการเมื่อไดขอสรุปจากแบบสอบถามแลว เพื่อใหผูตอบแบบสอบถามไดทราบที่มาและประโยชนในการสํารวจขอมูล กอนที่จะทําการสํารวจจริงผูสอนอาจใหผูเรียนแตละกลุมนําแบบสอบถามที่กลุม ของตนเขียนมานําเสนอใหเพื่อนและครูผูสอนไดชวยกันพิจารณาปรับปรุงใหเหมาะสม กอนนําไปใช สําหรับวิธีการสํารวจขอมูลโดยใชแบบสอบถาม ผูสอนควรใหผูเรียนศึกษาจากหนังสือเรียน แลวนํามาเสนอวิธีการของแตละกลุม กับผูสอนและเพื่อน เพื่ออภิปรายหาขอสรุปและคําแนะนํากอนดําเนินการ ขอเสนอแนะในการเก็บรวบรวมขอมูล และการสรุปผล 1. ในการเก็บรวบรวมขอมูล ผูสอนแนะนําใหผูเรียนนําวิธีการในหนังสือเรียนมาใชโดย อาจสรุปขอมูลที่ไดใหอยูในรูปรอยละ เชน ตัวอยางจากขอมูลสมมติตอไปนี้
  • 6. 55 ผลการสํารวจเรื่องการรับประทานอาหารในโรงอาหารของโรงเรียน มีดังนี้ จํานวนผูตอบแบบสอบถาม (คน) รอยละ ทุกวัน บางวัน นาน ๆ ครั้ง ไมเคยใชบริการ 57 38 16 9 47.5 31.7 13.3 7.5 รวม 120 จากการสํารวจขอมูลพบวา คนสวนมาก (92.5%) มารับประทานอาหารในโรง อาหารของโรงเรียน และสวนใหญของผูที่มารับประทาน จะมารับประทานทุกวัน มีเพียง สวนนอย (7.5%) ที่ไมเคยใชบริการ 2. สําหรับการสรุปความคิดเห็นที่ใหกําหนดลําดับตามความสําคัญ อาจสรุปไดดัง ตัวอยางตอไปนี้ ประเภทอาหารที่มีผูนิยมรับประทานมากที่สุด สรุปจากคําตอบของผูตอบ แบบสอบถามที่เลือกเปนอันดับ 1 มีดังนี้ รายการอาหาร จํานวนผูที่เลือกใหเปนอันดับ 1 รอยละ กวยเตี๋ยวแหง น้ํา อาหารตามสั่ง ขาวมันไก ขาวขาหมู ขาวและกับขาว 34 15 29 19 23 28.3 12.5 24.2 15.8 19.2
  • 7. 56 จากขอสรุปขางตนพบวา อาหารที่มีผูนิยมรับประทานมากที่สุดโดยเลือกใหเปน อันดับ 1 คือ กวยเตี๋ยวแหง น้ํา นอกจากการสรุปโดยใชวิธีที่แสดงขางตน อาจสรุปโดยกําหนดน้ําหนักของ คะแนนของแตละรายการเปน 1, 2, 3, 4 และ 5 สําหรับการเลือกลําดับที่ 1, 2, 3, 4 และ 5 ตามลําดับ ใหกวยเตี๋ยวแหง น้ํา มีผูเลือกใหคะแนนเปนลําดับที่ 1 – 5 ดังนี้ ลําดับที่ (n) คะแนน (x) ความถี่ (f) 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 34 31 22 24 9 รวม 120 การหาคะแนนรวมซึ่งเปนคะแนนนิยมของอาหารชนิดนี้ทําไดโดยหาผลรวมของ คะแนนนิยมที่ไดจากการหาผลคูณคะแนน (x) ของลําดับที่กับจํานวนความถี่ (f) ของผูตอบ แบบสอบถาม จากตารางขางตน ดังนี้ เนื่องจากจํานวนผูที่เลือกใหกวยเตี๋ยวแหง น้ํา เปนอาหารที่นิยมมากที่สุดเปน อันดับ 1 มี 34 คน จะไดคะแนนเทากับ 1 × 34 หรือ 34 คะแนน สําหรับคะแนนที่ได จากลําดับความนิยม 2 – 5 หาไดดังนี้ ลําดับ (n) คะแนน (x) จํานวนผูที่เลือก (f) คะแนนนิยม (xf) 2 3 4 5 2 3 4 5 31 22 24 9 2 × 31 หรือ 62 3 × 22 หรือ 66 4 × 24 หรือ 96 5 × 9 หรือ 45
  • 8. 57 จากคะแนนที่ไดทั้งหมดนํามาสรุปผลคะแนนนิยมของผูที่เลือกกวยเตี๋ยวแหง น้ํา ซึ่งเทากับ 303 ไดดังนี้ ลําดับที่ (n) ความถี่ (f) คะแนนนิยม (xf) 1 2 3 4 5 34 31 22 24 9 1 × 34 = 34 2 × 31 = 62 3 × 22 = 66 4 × 24 = 96 5 × 9 = 45 รวม 303 โดยใชวิธีการเดียวกันหาคะแนนนิยมของอาหารแตละชนิดจากผลสรุปของ แบบสอบถาม โดยใชเกณฑการใหคะแนนตามที่กลาวมาดังนี้ คะแนน 1) กวยเตี๋ยวแหง น้ํา 303 2) อาหารตามสั่ง 432 3) ขาวมันไก 302 4) ขาวขาหมู 377 5) ขาวและกับขาว 386 รวม 1,800 คะแนน จากขอสรุปโดยใชเกณฑการใหคะแนนนิยมขางตนจะพบวา อาหารที่มีผูนิยม รับประทานมากที่สุดจะเปนอาหารที่มีคะแนนนอยที่สุดไดแก ขาวมันไก (302 คะแนน) รองลงมาไดแก กวยเตี๋ยวแหง น้ํา (303 คะแนน) ขาวขาหมู (377 คะแนน) และขาวและ กับขาว (386 คะแนน) สวนอาหารซึ่งมีคะแนนมากที่สุด คือ อาหารตามสั่งมีคะแนน 432 คะแนน จะเปนอาหารที่มีผูนิยมรับประทานนอยที่สุด
  • 9. 58 ผูสอนควรจัดกิจกรรมใหผูเรียนไดทําการสํารวจความคิดเห็น โดยผูเรียนจะตองนํา ความรูที่ไดจากหนังสือเรียนไปทดลองปฏิบัติ เพื่อใหรูจักวิธีการสํารวจความคิดเห็น และ สามารถนําไปใชประโยชนได กิจกรรมที่ 2 ในการสํารวจความคิดเห็นจากกลุมบุคคล ในเรื่องตาง ๆ เชน จากคอลัมนใน หนังสือพิมพรายสัปดาหฉบับหนึ่ง กลาวถึงการสํารวจความเห็นของหญิงไทยตอการ ทําศัลยกรรมตกแตงวา “ผูหญิงในกรุงเทพฯ สวนใหญ (21.5%) มีความเห็นวา การ ทําศัลยกรรมตกแตงทําใหสวยขึ้น และเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในการสํารวจ ความเห็นขางตน เปนการสํารวจความคิดเห็นของผูหญิงไทยที่อยูในวัยทํางาน (ประชากร) โดยสุมตัวอยางจากผูหญิงที่อยูในวัยทํางานในกรุงเทพฯ 200 คน” จากที่กลาวมาอาจมีขอสงสัยวา ขอสรุปนาเชื่อถือไดหรือไมเพียงใด ในวิชาสถิติมี วิธีการที่จะบอกไดวา ขอสรุปที่ไดจากการใชตัวอยางเพียงไมกี่ตัวอยาง สามารถที่จะ บอกลักษณะบางอยางของกลุมประชากรที่สนใจไดอยางถูกตอง หรือนาเชื่อถือไดเพียงใด โดยการทดสอบสมมติฐาน (testing hypothesis) ซึ่งเปนการวิเคราะหผลที่ไดจากการสุม ตัวอยางอยางมีหลักเกณฑตามหลักวิธีการทางสถิติที่ถูกตอง อันจะทําใหผลหรือขอสรุปที่ ไดนาเชื่อถือ การที่จะทดสอบสมมติฐานไดนั้น จําเปนตองมีความรูทางสถิติชั้นสูง นอกเหนือจากการเรียนรูเนื้อหาสถิติในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อแสดงใหเห็นวา ขอสรุปที่ไดนาเชื่อถือเพียงใด โดยใชแนวความคิดทางสถิติ และพื้นฐานความรูในเรื่อง ความนาจะเปน เปนเครื่องมือที่ใชในการวิเคราะหผล ในการทํากิจกรรมที่จะกลาวถึง ตอไปนี้ ผูสอนควรอธิบายตัวอยางใหผูเรียนเขาใจกอนจากนั้นจึงใหผูเรียนสํารวจความ คิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากกลุมนักเรียนในหองจํานวน 25 คน เมื่อไดขอสรุปแลวจึง คอยดําเนินการเพื่อทดสอบวาขอสรุปที่ไดนาเชื่อถือเพียงใดโดยใชวิธีการดังตัวอยาง ตอไปนี้
  • 10. 59 ในการสํารวจความคิดเห็นของผูปกครองกลุมหนึ่งที่มีบุตรหลานเปนวัยรุนและมี อายุต่ํากวา 18 ป มีความเห็นดวยหรือไมวา ผูมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทน ราษฎรไดควรมีอายุตั้งแต 20 ป บริบูรณขึ้นไป การสํารวจความคิดเห็นกระทําโดยการสอบถามผูที่มีบุตร จํานวน 25 คน ดวยการ สุมตัวอยางจากสมุดรายนามผูใชโทรศัพทในเขตกรุงเทพมหานครไดผลสรุปวา มีผูเห็นดวย 15 คน มีผูไมเห็นดวย 10 คน รวมจํานวนผูแสดงความคิดเห็น 25 คน จากการสุมตัวอยาง สรุปไดวามี คนในเขตกรุงเทพมหานคร เห็นดวยกับ ความคิดที่วา ผูมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎรได ควรมีอายุ 20 ป บริบูรณ ขึ้นไป มีจํานวน 15 คน จาก 25 คน หรือคิดเปน 60% ของผูถูกสํารวจ ขอสรุปดังกลาว เชื่อถือไดหรือไม เพื่อใหเกิดความมั่นใจมากขึ้นวา คนสวนใหญ (หรือประมาณ 60% ขึ้นไป) เห็นดวยจริงหรือไม ในทางปฏิบัติอาจจะใชวิธีการสุมซ้ําซึ่งหมายถึงการสํารวจความ คิดเห็นจากคนที่ถูกสุมมา 25 คน อีกหลาย ๆ กลุมตัวอยาง แลวสํารวจดูวา มีกี่กลุม ตัวอยางที่มีผูเห็นดวยตั้งแต 15 คน ขึ้นไป
  • 11. 60 พิจารณาผลการสํารวจขอมูลเพิ่มอีก 100 กลุมตัวอยาง ดังนี้ จํานวนผูตอบวาเห็นดวย ความถี่ (จํานวนกลุมตัวอยาง) 0 0 1 0 2 0 3 0 4 0 5 0 6 0 7 1 8 2 9 7 10 9 11 14 12 18 13 15 14 11 15 9 16 7 17 5 18 2 19 0 20 0 21 0 22 0 23 0 24 0 25 0 23 ตัวอยาง
  • 12. 61 จากผลการสํารวจขางตน สรุปไดวา 1. จากการสอบถามจากกลุมตัวอยาง 100 กลุม ไมพบกลุมตัวอยางที่มีผูเห็นดวย 0 ถึง 6 คน และ 19 ถึง 25 คน จากกลุมตัวอยางละ 25 คน 2. จํานวนกลุมตัวอยางที่มีผูตอบวา เห็นดวย ตั้งแต 15 คน ถึง 18 คน มีทั้งหมด 23 กลุม ตัวอยาง จาก 100 กลุมตัวอยางดังนี้ 15 คน มี 9 กลุมตัวอยาง 16 คน มี 7 กลุมตัวอยาง 17 คน มี 5 กลุมตัวอยาง 18 คน มี 2 กลุมตัวอยาง รวม 23 กลุมตัวอยาง สรุปไดวา มี 23 กลุมจาก 100 กลุม ที่มีความเห็นเชนเดียวกับขอสรุปขางตน จึงกลาวไดวา จากการสอบถามจากกลุมตัวอยางทั้งหมด 100 กลุมตัวอยาง ซึ่งแต ละกลุมตัวอยางแทนผลการสํารวจความคิดเห็นของคน 25 คน พบวามีเพียง 23 กลุม ตัวอยาง จาก 100 กลุมตัวอยาง หรือเพียง 23% ที่เห็นดวย แสดงวาขอสรุปนี้มีไมถึง 50% ที่เห็นดวย จึงไมนาที่จะใชแทนความคิดเห็นของคนสวนใหญ (ประชากร) ได หรือ กลาวไดวา ขอสรุปจากผลจากการสํารวจความคิดเห็นครั้งแรกยังไมนาเชื่อถือ กิจกรรมดังกลาวนี้เปนแนวคิดหนึ่งที่สามารถทําใหเกิดความเขาใจในเรื่องของการ ทดลองสุมและการตีความจากการสํารวจความคิดเห็นวา สมควรที่จะเชื่อถือไดหรือไม แตอยางไรก็ดี ผลการสํารวจแตละครั้งจะนาเชื่อถือหรือไมนั้น จะตองอาศัยความรูทาง สถิติ ในเรื่องการเลือกตัวอยางและการวิเคราะหและสรุปผลการสํารวจอีกมาก กิจกรรมนี้ จึงเปนเพียงการเสนอแนวความคิดใหกับผูเรียนซึ่งยังไมมีความรูทางสถิติลึกซึ้งไดเขาใจ ความหมายของการตีความจากการสํารวจไดงายขึ้นเทานั้น
  • 13. 62 กิจกรรมเพิ่มเติม 1. ใหผูเรียนกําหนดหัวขอที่สนใจเพื่อสอบถามความคิดเห็นจากเพื่อนนักเรียนใน ชั้น เชน การใหผูเรียนชวยกันสํารวจวา มีกิจกรรมใดที่ผูเรียนตองการใหโรงเรียน สนับสนุน ตัวอยางเชน 1) ดานกีฬา 2) ดานดนตรี 3) การเพิ่มความรูทางวิชาการ 4) พื้นฐานการงานอาชีพที่สามารถนําไปใชได 5) การออม หรือการใหผูเรียนสอบถามจากผูเรียนที่ใชหองสมุดของโรงเรียนวา ตองการใหมี หนังสือวารสาร ฯลฯ ประเภทใดเพิ่มเติมในหองสมุด หรือตองการใหหองสมุดของ โรงเรียนมีบริการใดเพิ่มเติมบาง 2. เมื่อผูเรียนไดหัวขอที่สนใจแลว จึงใชวิธีการสุมเพื่อสอบถามความคิดเห็นจาก เพื่อนที่อยูในหองเรียนเดียวกันจํานวน 10 คน และเมื่อไดขอสรุปจากการสอบถามความ คิดเห็นครั้งนี้แลว จึงทําการสอบถามเพิ่มเติมจากผูเรียนในหองเรียนอื่น หรือชั้นเรียนอื่น โดยสอบถามใหครบ 10 คน แลวสรุปและใหทําซ้ําจนครบ 50 กลุม หรือ 100 กลุม เพื่อ หาขอสรุปวา ผูเรียนสวนใหญมีความคิดเห็นสอดคลองกับผูเรียน 10 คนแรกที่อยูใน หองเรียนเดียวกันหรือไม การประเมินผล เนื่องจากการเรียนการสอนในบทนี้ตองการใหผูเรียนมีความเขาใจวิธีการและนําผล ที่ไดจากการสํารวจความคิดเห็นไปใชได ผูสอนจึงควรประเมินผลการเรียนรูโดยประเมิน จากกิจกรรมที่มอบหมายใหแตละกลุมไปปฏิบัติโดยใชวิธีการที่หลากหลาย เชน การ สังเกตการทํางานรวมกันเปนกลุม การวางแผนการทํางาน การคนควาขอมูล เพิ่มเติม ความคิดสรางสรรคในการทํางาน ความสามารถในการสื่อสารขอมูลไดอยางถูกตอง และ ชัดเจนรวมทั้งผลงานที่นําเสนอในรูปรายงานดวย
  • 14. 63 ตารางเลขสุม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 1 03 47 43 73 89 36 96 47 36 61 46 98 63 71 62 33 26 16 80 45 2 97 74 24 67 62 42 81 14 54 20 42 53 32 37 32 27 07 36 07 51 3 16 76 62 27 66 56 50 26 71 07 32 90 79 78 83 13 55 38 58 89 4 12 56 85 99 26 96 96 68 27 31 05 03 72 93 15 57 12 10 14 21 5 55 59 56 35 64 38 54 82 46 22 31 62 43 09 90 06 18 44 32 53 6 60 11 14 10 95 06 22 77 94 39 49 54 43 54 81 17 37 93 23 78 7 24 51 79 89 73 84 42 17 53 31 57 24 55 06 88 77 04 74 47 67 8 88 97 54 14 10 63 01 63 78 59 16 95 55 67 19 98 10 50 71 75 9 88 26 49 81 76 33 21 12 34 29 78 64 56 07 82 52 42 07 44 38 10 23 83 01 30 30 53 60 86 32 44 06 47 27 96 54 49 17 46 09 62 11 87 35 20 96 43 84 26 34 91 64 18 18 07 92 46 44 17 16 53 09 12 21 76 33 50 25 83 92 12 06 76 26 62 38 97 75 84 16 07 44 99 13 12 86 73 58 07 44 36 52 38 79 23 42 40 64 74 82 92 77 77 81 14 15 51 11 13 42 99 66 02 79 54 52 36 28 19 95 50 92 26 11 79 15 90 52 84 77 27 08 02 73 43 28 37 85 94 35 12 83 39 50 08 30 16 39 83 86 19 62 06 76 50 30 10 55 23 64 05 05 70 29 14 12 13 17 83 11 46 32 24 20 14 85 88 45 10 93 72 88 70 56 62 18 37 35 18 07 45 32 14 08 32 98 94 07 72 93 85 79 10 75 19 49 57 22 77 19 00 56 76 31 38 80 22 02 53 35 86 60 42 04 53 16 08 15 04 72 20 42 34 03 96 88 54 42 06 87 78 36 35 25 48 39 31 16 93 32 43 21 40 33 20 38 26 13 89 51 03 74 17 76 37 13 04 07 74 21 19 30 22 96 83 50 87 75 97 12 25 93 47 70 33 24 03 54 97 77 46 44 80 23 88 42 94 45 72 16 64 36 16 00 04 43 18 66 79 94 77 24 21 90 24 33 27 14 37 09 45 89 34 68 40 12 72 07 33 45 99 27 72 90 14 25 50 27 89 87 10 20 15 37 00 47 52 85 66 60 44 38 68 88 11 80