13
Most read
14
Most read
18
Most read
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
Timeline
•ฌอง แบบติสท์ แวน เฮลมองค์ (Jean Baptiste Van Helmont)1648
• โจเซฟ พริสต์ลีย์ (Jeseph Priestley)1772
• อินเก็น ฮูซ (Ingen-Housz)1779
•นิโคลาส ธีโอดอร์ เดอ โซซูร์ (Nicolas Theodore de Saussure)1804
• แวน นีล (Van Niel)1930
• โรบิน ฮิลล์ (Robin Hill)1938
• แซม รูเบน และมาร์ติน คาเมน (Sam Ruben and Martin Kamen)1939
• แดเนียล อาร์นอน (Daniel Arnon)1954
อริสโตเติล (Aristotle)
Plants are soil eaters.
ฌอง แบบติสท์ แวน เฮลมองค์
(Jean Baptiste Van Helmont)
1648
ชั่งน้าหนักต้น
ห ลิ ว แ ล ะ ดิ น
จากนันปลูกต้น
หลิวและรดน้า
เพียงอย่างเดียว
เป็นเวลานาน
5 ปี
สรุปว่า
พืชไม่ได้ใช้ดินใน
การเติบโต แต่ใช้
น้าแทน
โจเซฟ พริสต์ลีย์ (Joseph Priestley)
1648
พริสต์ลีย์ทดลองจุดเทียนไขและใส่หนูไว้ในครอบแก้ว
1772
สรุปว่า
• แก๊สที่ใช้ในการลุกไหม้กับแก๊สที่ใช้ในการหายใจของสัตว์เป็นแก๊ส
เดียวกัน ซึ่งถูกสร้างได้โดยพืช (อากาศดี)
• แก๊สที่ปล่อยออกมาจากการลุกไหม้กับแก๊สที่ปล่อยออกมาจากการ
หายใจของสัตว์เป็นแก๊สเดียวกัน (อากาศเสีย)
• เอาเทียนไขไว้ในครอบแก้ว ปรากฏว่าผ่านไปสักครู่เทียนไขดับ
• เอาหนูใส่ไว้ในครอบแก้วปรากฏว่าผ่านไปสักครู่หนูตาย
• เอาหนูใส่ไปในครอบแก้วที่เทียนไขดับหนูจะตายทันที
• แต่ถ้ามีพืชอยู่ในครอบแก้วและใส่เทียนไขไป เทียนไขจะไม่ดับ หรือถ้าใส่หนู
ลงไปหนูจะไม่ตาย
อินเก็น ฮูซ (Ingen-Housz)
ท้าการทดลองร่วมกับ พริสลีย์ และ
พิสูจน์ให้เห็นว่าเทียนไขที่ลุกไหม้ได้ก็
ต่อเมื่ออยู่กับพืชที่ได้รับแสงตลอดเวลา
อินเก็น ฮูซ (Ingen-Housz)
ท้าการทดลองร่วมกับ พริสลีย์ และพิสูจน์ให้เห็นว่าเทียนไข
ที่ลุกไหม้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่กับพืชที่ได้รับแสงตลอดเวลา
• แก๊สที่ใช้ในการลุกไหม้กับแก๊สที่ใช้ในการหายใจของสัตว์เป็นแก๊ส
เดียวกัน คือ ออกซิเจน
• แก๊สที่ปล่อยออกมาจากการลุกไหม้กับแก๊สที่ปล่อยออกมาจาก
การหายใจของสัตว์เป็นแก๊สเดียวกัน คือ คาร์บอนไดออกไซด์
• พืชใช้แสงในการผลิตออกซิเจน
• น้าหนักของพืชที่เพิ่มขึนมาจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
นิโคลาส ธีโอดอร์ เดอ โซซูร์ (Nicolas Theodore de Saussure)
1648
เขาได้ศึกษาทดลองพบว่า
พื ช มี ก า ร ดู ด แ ก๊ ส
คาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้
ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร
สังเคราะห์ด้วยแสง
1772 1779 1804
นิโคลาส ธีโอดอร์ เดอ โซซูร์ (Nicolas Theodore de Saussure)
พืชได้รับธาตุคาร์บอนจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อ
เปลี่ยนให้อยู่ในรูปสารอินทรีย์และยังปล่อยแก๊สออกซิเจนออกสู่ชัน
บรรยากาศในช่วงที่ได้รับแสง
เขาทดลองให้เห็นว่าน้าหนักของพืชที่เพิ่มขึนมากกว่าน้าหนัก
ของแก๊สคาร์บอนได้ออกไซด์ที่พืชได้รับ
สรุปว่า พืชใช้น้าและคาร์บอนไดออกไซด์ในการสังเคราะห์ด้วยแสง
น้าหนักของพืชที่เพิ่มขึนนอกจากจะมาจากคาร์บอนไดออกไซด์แล้วยังมาจากน้า
แวน นีล (Van Niel)
1648
เขาทดลองเลียงแบคทีเรียที่
สังเคราะห์ด้วยแสงได้แต่ใช้
ไฮโดรเจนซัลไฟล์ (H2S)
แทนน้า (H2O)
1772 1779 1804 1930
แวน นีล (Van Niel)
สรุปว่า
• มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้
• ไม่จ้าเป็นต้องใช้น้าเสมอไป
• เมื่อไม่ใช้น้าในกระบวนการแล้วจะไม่ได้แก๊สออกซิเจนออกมา
S S
hydrogen sulfide sulfer
แซม รูเบน และมาร์ติน คาเมน
(Sam Ruben and Martin Kamen)
พวกเขาท้า
การทดลอง
เพื่อพิสูจน์
สมมติฐาน
ของแวนนีล
1930 1938
แซม รูเบน และมาร์ติน คาเมน
(Sam Ruben and Martin Kamen)
สรุปว่า
ออกซิเจนที่พืชปล่อยออกสู่บรรยากาศ มาจากออกซิเจนในโมเลกุลของน้า
โรบิน ฮิลล์ (Robin Hill)
น้าคลอโรพลาสต์ที่สกัด
จากผักโขมมาผสมกับน้า
แล้วแบ่งการทดลอง
ออกเป็น 2 ชุด
1930 19391938
โรบิน ฮิลล์ (Robin Hill)
สรุปว่า
การเกิดออกซิเจนต้องอาศัย
เกลือเฟอริก(ท้าหน้าที่เป็น
ตัวรับอิเล็กตรอน หากไม่มี
ตัวรับอิเล็กตรอนจะไม่เกิด
กระบวนการสังเคราะห์ด้วย
แสง)
แดเนียล อาร์นอน (Daniel Arnon)
เขาท้าทดลองสืบเนื่องจาก
การทดลองของฮิลล์
1930 19391938 1954
• พืชใช้แสงในการสร้าง ATP และ NADPH
• พืชใช้ ATP และ NADPH ในการสร้างอาหาร (น้าตาล)
การทดลองที่ 1
การทดลองที่ 2

More Related Content

PDF
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
PDF
การสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้า (T)
PPTX
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
PDF
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
PPTX
13.การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
PDF
บทที่2กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
PDF
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
PDF
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้า (T)
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
เอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง
13.การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
บทที่2กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่3การสืบพันธุ์เจริญเติบโตพืชดอก
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)

What's hot (20)

PDF
กำเนิดสปีชีส์
PDF
translocation in plant
PDF
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 1 แก๊สและสมบัติของแก๊ส วิชาเคมี3 ว32223
PDF
สรุปเซลล์
PDF
บทที่ 5 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม1
PDF
มิวเทชัน (Mutation)
PDF
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
PPTX
14.พืช C4 and CAM
PDF
ประวัติการค้นคว้า
PDF
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
PDF
timeline research of the photosynthesis
PDF
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
PDF
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
PDF
โครงสร้างของดอกไม้
PDF
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
PDF
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
PDF
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
PDF
ระบบย่อยอาหาร
PDF
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
กำเนิดสปีชีส์
translocation in plant
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 1 แก๊สและสมบัติของแก๊ส วิชาเคมี3 ว32223
สรุปเซลล์
บทที่ 5 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม1
มิวเทชัน (Mutation)
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
14.พืช C4 and CAM
ประวัติการค้นคว้า
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
timeline research of the photosynthesis
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
รวมบทคัดย่อโครงงานวิทย์
โครงสร้างของดอกไม้
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ระบบย่อยอาหาร
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
Hormone and response plant
PDF
พันธุกรรมและความหลากหลาย
PDF
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
PDF
Gene and chromosome update
PDF
carbondioxide fixation
PDF
นิเวศวิทยา
PDF
Hand out ยีนและโครโมโซม
PDF
Hand out การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
PDF
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต (Hand out)
PDF
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
PDF
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต2
PDF
Taxonomy
PDF
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงlight
PDF
วิทย์เข้มข้น1 หน่วยที่ 1
PDF
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
PDF
ืnervous system
PDF
PDF
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
PDF
Kingdom plantae
PDF
ระบบประสาทPart1blank
Hormone and response plant
พันธุกรรมและความหลากหลาย
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
Gene and chromosome update
carbondioxide fixation
นิเวศวิทยา
Hand out ยีนและโครโมโซม
Hand out การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต (Hand out)
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต2
Taxonomy
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงlight
วิทย์เข้มข้น1 หน่วยที่ 1
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ืnervous system
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Kingdom plantae
ระบบประสาทPart1blank
Ad

Similar to ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง (18)

PDF
ใบความรู้ ม.5
PPT
การค้นคว้าเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง
PPT
การค้นคว้าเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง
PDF
Photosyntasis book
PDF
Bio3 62 photosyn_1
PDF
การสังเคราะห์ด้วยแสง1
PPSX
การสังเคราะห์ด้วยแสง
PPT
การค้นคว้าเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง
DOCX
PDF
3 photosyn 1
PDF
ตัวอย่างความเรียงเชิงวิชาการ
PPTX
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย
PPTX
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย
PPTX
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย
DOCX
สื่อการศึกษาชีวะ
PPTX
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย2
PPTX
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย2
PDF
Photosynthesis
ใบความรู้ ม.5
การค้นคว้าเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง
การค้นคว้าเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง
Photosyntasis book
Bio3 62 photosyn_1
การสังเคราะห์ด้วยแสง1
การสังเคราะห์ด้วยแสง
การค้นคว้าเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง
3 photosyn 1
ตัวอย่างความเรียงเชิงวิชาการ
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย
สื่อการศึกษาชีวะ
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย2
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ด้วย2
Photosynthesis

More from Thanyamon Chat. (20)

PDF
c4 and cam plant
PDF
carbon fixation
PDF
light reaction
PDF
transpiration and gas exchange in plant
PDF
water and mineral transport in plant
PDF
structure and function of the leaf
PDF
develope of root and stem
PDF
structure and function of the stem
PDF
structure and function of the root
PDF
Ppt digestive system
PDF
Kingdom Animalia
PDF
Genetic engineering แก้ไข60
PDF
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
PDF
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
PDF
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
PDF
stem structure
PDF
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
PDF
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
PDF
โครงสร้างและหน้าที่ของรากลำต้น
PDF
เนื้อเยื่อพืช
c4 and cam plant
carbon fixation
light reaction
transpiration and gas exchange in plant
water and mineral transport in plant
structure and function of the leaf
develope of root and stem
structure and function of the stem
structure and function of the root
Ppt digestive system
Kingdom Animalia
Genetic engineering แก้ไข60
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
stem structure
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
โครงสร้างและหน้าที่ของรากลำต้น
เนื้อเยื่อพืช

ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง

  • 2. Timeline •ฌอง แบบติสท์ แวน เฮลมองค์ (Jean Baptiste Van Helmont)1648 • โจเซฟ พริสต์ลีย์ (Jeseph Priestley)1772 • อินเก็น ฮูซ (Ingen-Housz)1779 •นิโคลาส ธีโอดอร์ เดอ โซซูร์ (Nicolas Theodore de Saussure)1804 • แวน นีล (Van Niel)1930 • โรบิน ฮิลล์ (Robin Hill)1938 • แซม รูเบน และมาร์ติน คาเมน (Sam Ruben and Martin Kamen)1939 • แดเนียล อาร์นอน (Daniel Arnon)1954
  • 4. ฌอง แบบติสท์ แวน เฮลมองค์ (Jean Baptiste Van Helmont) 1648 ชั่งน้าหนักต้น ห ลิ ว แ ล ะ ดิ น จากนันปลูกต้น หลิวและรดน้า เพียงอย่างเดียว เป็นเวลานาน 5 ปี
  • 6. โจเซฟ พริสต์ลีย์ (Joseph Priestley) 1648 พริสต์ลีย์ทดลองจุดเทียนไขและใส่หนูไว้ในครอบแก้ว 1772
  • 7. สรุปว่า • แก๊สที่ใช้ในการลุกไหม้กับแก๊สที่ใช้ในการหายใจของสัตว์เป็นแก๊ส เดียวกัน ซึ่งถูกสร้างได้โดยพืช (อากาศดี) • แก๊สที่ปล่อยออกมาจากการลุกไหม้กับแก๊สที่ปล่อยออกมาจากการ หายใจของสัตว์เป็นแก๊สเดียวกัน (อากาศเสีย) • เอาเทียนไขไว้ในครอบแก้ว ปรากฏว่าผ่านไปสักครู่เทียนไขดับ • เอาหนูใส่ไว้ในครอบแก้วปรากฏว่าผ่านไปสักครู่หนูตาย • เอาหนูใส่ไปในครอบแก้วที่เทียนไขดับหนูจะตายทันที • แต่ถ้ามีพืชอยู่ในครอบแก้วและใส่เทียนไขไป เทียนไขจะไม่ดับ หรือถ้าใส่หนู ลงไปหนูจะไม่ตาย
  • 8. อินเก็น ฮูซ (Ingen-Housz) ท้าการทดลองร่วมกับ พริสลีย์ และ พิสูจน์ให้เห็นว่าเทียนไขที่ลุกไหม้ได้ก็ ต่อเมื่ออยู่กับพืชที่ได้รับแสงตลอดเวลา
  • 9. อินเก็น ฮูซ (Ingen-Housz) ท้าการทดลองร่วมกับ พริสลีย์ และพิสูจน์ให้เห็นว่าเทียนไข ที่ลุกไหม้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่กับพืชที่ได้รับแสงตลอดเวลา • แก๊สที่ใช้ในการลุกไหม้กับแก๊สที่ใช้ในการหายใจของสัตว์เป็นแก๊ส เดียวกัน คือ ออกซิเจน • แก๊สที่ปล่อยออกมาจากการลุกไหม้กับแก๊สที่ปล่อยออกมาจาก การหายใจของสัตว์เป็นแก๊สเดียวกัน คือ คาร์บอนไดออกไซด์ • พืชใช้แสงในการผลิตออกซิเจน • น้าหนักของพืชที่เพิ่มขึนมาจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
  • 11. นิโคลาส ธีโอดอร์ เดอ โซซูร์ (Nicolas Theodore de Saussure) 1648 เขาได้ศึกษาทดลองพบว่า พื ช มี ก า ร ดู ด แ ก๊ ส คาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร สังเคราะห์ด้วยแสง 1772 1779 1804
  • 12. นิโคลาส ธีโอดอร์ เดอ โซซูร์ (Nicolas Theodore de Saussure) พืชได้รับธาตุคาร์บอนจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อ เปลี่ยนให้อยู่ในรูปสารอินทรีย์และยังปล่อยแก๊สออกซิเจนออกสู่ชัน บรรยากาศในช่วงที่ได้รับแสง เขาทดลองให้เห็นว่าน้าหนักของพืชที่เพิ่มขึนมากกว่าน้าหนัก ของแก๊สคาร์บอนได้ออกไซด์ที่พืชได้รับ สรุปว่า พืชใช้น้าและคาร์บอนไดออกไซด์ในการสังเคราะห์ด้วยแสง น้าหนักของพืชที่เพิ่มขึนนอกจากจะมาจากคาร์บอนไดออกไซด์แล้วยังมาจากน้า
  • 13. แวน นีล (Van Niel) 1648 เขาทดลองเลียงแบคทีเรียที่ สังเคราะห์ด้วยแสงได้แต่ใช้ ไฮโดรเจนซัลไฟล์ (H2S) แทนน้า (H2O) 1772 1779 1804 1930
  • 14. แวน นีล (Van Niel) สรุปว่า • มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ • ไม่จ้าเป็นต้องใช้น้าเสมอไป • เมื่อไม่ใช้น้าในกระบวนการแล้วจะไม่ได้แก๊สออกซิเจนออกมา S S hydrogen sulfide sulfer
  • 15. แซม รูเบน และมาร์ติน คาเมน (Sam Ruben and Martin Kamen) พวกเขาท้า การทดลอง เพื่อพิสูจน์ สมมติฐาน ของแวนนีล 1930 1938
  • 16. แซม รูเบน และมาร์ติน คาเมน (Sam Ruben and Martin Kamen) สรุปว่า ออกซิเจนที่พืชปล่อยออกสู่บรรยากาศ มาจากออกซิเจนในโมเลกุลของน้า
  • 17. โรบิน ฮิลล์ (Robin Hill) น้าคลอโรพลาสต์ที่สกัด จากผักโขมมาผสมกับน้า แล้วแบ่งการทดลอง ออกเป็น 2 ชุด 1930 19391938
  • 18. โรบิน ฮิลล์ (Robin Hill) สรุปว่า การเกิดออกซิเจนต้องอาศัย เกลือเฟอริก(ท้าหน้าที่เป็น ตัวรับอิเล็กตรอน หากไม่มี ตัวรับอิเล็กตรอนจะไม่เกิด กระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสง)
  • 19. แดเนียล อาร์นอน (Daniel Arnon) เขาท้าทดลองสืบเนื่องจาก การทดลองของฮิลล์ 1930 19391938 1954 • พืชใช้แสงในการสร้าง ATP และ NADPH • พืชใช้ ATP และ NADPH ในการสร้างอาหาร (น้าตาล)