09 pseudo code
- 1. ใบความรู้ที่ 3.1 เรื่อง Pseudo code การจาลองความคิดเป็นข้อความหรือคาบรรยาย (Pseudo code) ซูโดโค้ดเป็นคาอธิบายขั้นตอนการทางานของโปรแกรมโดยใช้ถ้อยคาผสมระหว่าง ภาษาอังกฤษและภาษาการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง หรืออาจใช้ภาษาไทยก็ได้แต่ควรเขียนเป็น ภาษาอังกฤษ โดยให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถพัฒนาขั้นตอนต่างๆ ให้กับโปรแกรมได้ง่ายขึ้น แต่ส่วน ใหญ่แล้วคาที่ใช้มักเป็นคาเฉพาะ (Reseved Word) ที่มีอยู่ในภาษาการเขียนโปรแกรมและมักจะ เขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ ซูโดโค้ดที่ดีจะต้องมีความชัดเจน สั้น และได้ใจความ ข้อมูลต่างๆ ที่ใช้จะ ถูกเขียนอยู่ในรูปแบบของตัวแปร ซูโดโค้ดนี้บางครั้งจะเรียกว่า อัลกอริทึม รูปแบบทั่วไปจะเป็นดังนี้ ซูโดโค้ด (Pseudo code) คือ การเขียนอัลกอริทึมโดยใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่สื่อ ความหมายง่าย ๆ สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้โดยทันที จากโจทย์สามารถเขียนซูโดโค้ด วิธีการเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) 1. ถ้อยคาหรือประโยคคาสั่ง (Statement) ให้เขียนอยู่ในรูปแบบของภาษาอังกฤษอย่าง ง่าย 2. ในหนึ่งบรรทัด ให้เขียนประโยคคาสั่งเพียงคาสั่งเดียว 3. ควรใช้ย่อหน้าให้เป็นประโยชน์ เพื่อแยกคาเฉพาะ (Keywords) ได้ชัดเจน รวมถึงจัด โครงสร้างการควบคุมให้เป็นสัดส่วน ซึ่งการกระทาดังกล่าวจะทาให้อ่านง่าย 4. แต่ละประโยคคาสั่งให้เขียนลาดับจากบนลงล่าง โดยมีทางเข้าเพียงทางเดียวและมี ทางออกทางเดียวเท่านั้น 5. กลุ่มของประโยคคาสั่งต่างๆ อาจจัดรวมกลุ่มเข้าด้วยกันในรูปแบบของโมดูล แต่ต้อง กาหนดชื่อโมดูลเหล่านั้นด้วย เพื่อให้สามารถเรียกใช้งานโมดูลนั้นได้ รูปแบบ Algorithm <ชื่อของอัลกอริทึม> 1………………………………. 2………………………………. ………………………………… END การรับข้อมูลเข้า และการแสดงผลข้อมูล การรับข้อมูลเข้า มักจะนิยมใช้คาว่า READ หรือ INPUT ตามด้วยชื่อตัวแปรที่ต้องการ เก็บข้อมูล ถ้าหากมีหลายตัวใช้ (" ; ") กั้น การแสดงผล ใช้คาว่า OUTPUT หรือ PRINT
- 2. การคานวณ ใช้คาว่า Compute ตามด้วยชื่อตัวแปรที่ต้องการเก็บค่าจากการคานวณ ตามด้วย เครื่องหมายเท่ากับ และนิพจน์ของการคานวณ เช่น Compute area = a * b; การตัดสินใจ และทดสอบทางเลือก มักจะใช้คาว่า IF หรือ IF-THEN-ELSE และ ENDIF สาหรับในกรณีที่มีมากกว่า 2 ทาง จะใช้คาว่า CASE และ ENDCASE เช่น การกระทาแบบวนซา (Loop) การทาซ้าจนกว่าเงื่อนไขที่กาหนดจะเป็นจริงจึงหยุดทา (REPEAT UNTIL) IF a>0 THEN PRINT POSITION ELSE PRINT NEGATIVE ENDIF CASE num OF 1 : PRINT ONE 2 : PRINT TWO 3 : PRINT THREE ENDCASE REPEAT Statement 1 Statement 2 ------------------ UNTIL (CONDITION)
- 3. มีการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเข้าทา ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จึงจะเข้าทาคาสั่งภายใน (DO...WHILE) 1. การเขียนซูโดโค้ดสาหรับให้คอมพิวเตอร์รับค่า 2 ค่าจากผู้ใช้ นามาบวกกัน อาจเขียนได้ดังนี้ DO (CONDITION) WHILE Statement 1 Statement 2 ------------------ ENDDO ตัวอย่าง Algorithm การบวกเลข 2 จานวน 1. เริ่มต้น 2. รับค่าจานวนที่ 1 3. รับค่าจานวนที่ 2 4. นาตัวเลขมาบวกกัน ผลรวม =จานวนที่ 1+ จานวนที่ 2 5. แสดงผลลัพธ์ทางจอภาพ 6. จบ Algorithm Add 2 Number 1. START 2. READ X, INPUT X 3. READ Y, INPUT Y 4. COMPUTE SUM = X+Y 5. PRINT SUM, OUTPUT SUM 6. STOP
- 4. 2. การเขียนซูโดโค้ดสาหรับคานวณหาพื้นที่สามเหลี่ยมโดยรับค่าความกว้างของฐานและความสูงจาก ผู้ใช้ และนามาคานวณหาพื้นที่และแสดงผลออกทางจอภาพ อาจเขียนได้ดังนี้ 3. การเขียนซูโดโค้ดสาหรับให้คอมพิวเตอร์หาค่าเฉลี่ยจากข้อมูลที่รับเข้าทางแป้นพิมพ์อาจเขียนได้ ดังนี้ Algorithm การหาพื้นที่สามเหลี่ยม 1. เริ่มต้น 2. รับค่าความกว้างฐาน 3. รับค่าความสูง 4. นาค่าที่รับมาคานวณหาพื้นที่ พื้นที่สามเหลี่ยม= 1 2 × ฐาน × สูง 5. แสดงผลลัพธ์ทางจอภาพ 6. จบ Algorithm The Triangle area. 1. START 2. INPUT W 3. INPUT H 4. COMPUTE TRIANGLE = 1 2 × 𝑤 × ℎ 5. PRINT TRIANGLE 6. STOP Algorithm การหาค่าเฉลี่ย 1. ตัวนับ = 0 2. ผลรวม = 0 3. รับค่าทางแป ้ นพิมพ์เก็บไว้ใน (ข้อมูล) 4. ถ้าข้อมูลมากกว่า 0 เพิ่มค่าตัวนับขึ้นหนึ่งค่า ผลรวม = ผลรวม + ค่าข้อมูล ย้อนกลับไปทาขั้นตอนที่ 3 ถ้าไม่มากกว่าไปทาขั้นตอนที่ 5 5. ค่าเฉลี่ย = ผลรวมหารด้วยตัวนับ 6. แสดงค่าเฉลี่ยทางจอภาพ โดยมี ทศนิยมสองตาแหน่ง 7. จบ Algorithm Avarage_Sum 1. COUNT = 0 2. SUM =0 3. INPUT (VALUE) 4. IF VALUE > 0 THEN COUNT = COUNT+1 SUM = SUM+ VALUE GOTO 3 ELSE GOTO 5 5. AVARAGE = SUM/COUNT 6. OUTPUT (AVARAGE) 7. END
- 5. จะเห็นว่าขั้นตอนการหาค่าเฉลี่ยได้เขียนไว้อย่างเข้าใจ เราสามารถทราบได้ว่าในการทางาน ต่างๆ จะต้องใช้ตัวแปรใดบ้าง แต่ละขั้นตอนมีการประมวลผลอย่างไร แต่โดยทั่วไปแล้วซูโดโค้ดจะถูก เขียนด้วยภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้ 4. การเขียนซูโดโค้ดเพื่อคานวณผลการเรียน การคิดผลการสอบของนักเรียนจากคะแนน โดย กาหนดให้ ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ80 ได้เกรด A ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 70 ได้เกรด B ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 60 ได้เกรด C ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ได้เกรด D ถ้าคะแนนน้อยกว่า 50 ได้เกรด F 1. SCORE = 0 2. INPUT (SCORE) 3. IF SCORE >= 80 GRADE = “A” ELSE IF SCORE >= 70 GRADE = “B” ELSE IF SCORE >= 60 GRADE = “C” ELSE IF SCORE >= 50 GRADE = “D” ELSE GRADE = “F” END IF END IF END IF END IF END IF 4. OUTPUT (GRADE) 5. END
- 6. 5. ตัวอย่างที่ 6 เขียนโปรแกรมเพื่อรับค่าตัวเลข และทาการบวกค่าที่รับเข้ามาแบบวนซ้าโดยให้ออก จากโปรแกรม เมื่อผลลัพธ์มีค่ามากกว่า 1,000 และแสดงผลของผลลัพธ์ที่ได้ ALGORITHM LOOPADDNUMBER 1. TOTAL = 0 2. WHILE TOTAL <= 1000 3. INPUT NUMBER 4. TOTAL = TOTAL + NUMBER 5. ENDWHILE 6. PRINT TOTAL 7. ENDLOOPADDNUMBER
- 7. สรุปเนือหา ซูโดโค้ด (Pseudo code) คือ การเขียนอัลกอริทึมโดยใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่สื่อ ความหมายง่าย ๆ สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้โดยทันที จากโจทย์สามารถเขียนซูโดโค้ด การรับข้อมูลเข้า และการแสดงผลข้อมูล - การรับข้อมูลเข้า มักจะนิยมใช้คาว่า READ หรือ INPUT ตามด้วยชื่อตัวแปรที่ต้องการ เก็บข้อมูล ถ้าหากมีหลายตัวใช้ (" ; ") กั้น - การแสดงผล ใช้คาว่า OUTPUT หรือ PRINT การคานวณ - ใช้คาว่า Compute ตามด้วยชื่อตัวแปรที่ต้องการเก็บค่าจากการคานวณ ตามด้วย เครื่องหมายเท่ากับ และนิพจน์ของการคานวณ เช่น Compute area = a * b; การตัดสินใจ และทดสอบทางเลือก - มักจะใช้คาว่า IF หรือ IF-THEN-ELSE และ ENDIF - สาหรับในกรณีที่มีมากกว่า 2 ทาง จะใช้คาว่า CASE และ ENDCASE การกระทาแบบวนซา (Loop) - การทาซ้าจนกว่าเงื่อนไขที่กาหนดจะเป็นจริงจึงหยุดทา (REPEAT UNTIL) - มีการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเข้าทา ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จึงจะเข้าทาคาสั่งภายใน (DO...WHILE) รูปแบบ Algorithm <ชื่อของอัลกอริทึม> 1. .......................................................... 2. .......................................................... .............................................................. END