Submit Search
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
0 likes
1,145 views
teerachon
1 of 46
Download now
Download to read offline
1
2
Most read
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
More Related Content
DOCX
ข้อสอบศิลปะ
Phichak Penpattanakul
PDF
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
Suriyawaranya Asatthasonthi
PDF
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
peter dontoom
PDF
ใบงาน 2.1 ข้อมูลและสารสนเทศ
โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
PDF
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
peter dontoom
PDF
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
teerachon
PDF
ข้อสอบ O net วิชา ศิลปะ (ทัศนศิลป์) ม.3 พร้อมเฉลย
Khunnawang Khunnawang
PDF
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
teerachon
ข้อสอบศิลปะ
Phichak Penpattanakul
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
Suriyawaranya Asatthasonthi
ข้อสอบ วิชานาฏศิลป์ กศน
peter dontoom
ใบงาน 2.1 ข้อมูลและสารสนเทศ
โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
peter dontoom
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.6
teerachon
ข้อสอบ O net วิชา ศิลปะ (ทัศนศิลป์) ม.3 พร้อมเฉลย
Khunnawang Khunnawang
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
teerachon
What's hot
(20)
PDF
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
Prachoom Rangkasikorn
PDF
7แบบทดสอบการรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ
สำเร็จ นางสีคุณ
PDF
หัวกระดาษข้อสอบ
worapanthewaha
PDF
เฉลยแบบทดสอบวิชาทัศนศิลป์ A net (กศน.)
peter dontoom
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
นันทนา วงศ์สมิตกุล
PDF
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
Khunnawang Khunnawang
PDF
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
krupornpana55
PDF
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
SAKANAN ANANTASOOK
PDF
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
Khunnawang Khunnawang
PDF
สุขฯ ม.2 หน่วย 10
supap6259
PDF
ใบงานที่ 1-5 ม.1 1/61
Beerza Kub
PDF
การสำรวจทางทะเล
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
PDF
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
teerachon
DOCX
ข้อสอบปลายภาค วิชานาฏศิลป์ รหัส ศ 32101
นารูโต๊ะ อิอิอิ
PDF
เฉลยปลายภาค ม42557
peter dontoom
PDF
แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
teerachon
PDF
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
suchinmam
PDF
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
อำนาจ ศรีทิม
PDF
ภูมิศาสตร์
koorimkhong
PDF
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การบูรณาการนาฏศิลป์กับแขนงและกลุ่มสาระอื่นๆ
Panomporn Chinchana
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet
Prachoom Rangkasikorn
7แบบทดสอบการรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ
สำเร็จ นางสีคุณ
หัวกระดาษข้อสอบ
worapanthewaha
เฉลยแบบทดสอบวิชาทัศนศิลป์ A net (กศน.)
peter dontoom
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
นันทนา วงศ์สมิตกุล
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 1 พร้อมเฉลย
Khunnawang Khunnawang
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
krupornpana55
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
SAKANAN ANANTASOOK
ข้อสอบวิชาศิลปะ ม.3 ฉบับที่ 2 พร้อมเฉลย
Khunnawang Khunnawang
สุขฯ ม.2 หน่วย 10
supap6259
ใบงานที่ 1-5 ม.1 1/61
Beerza Kub
การสำรวจทางทะเล
ครูต๋อง ฉึก ฉึก
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.1
teerachon
ข้อสอบปลายภาค วิชานาฏศิลป์ รหัส ศ 32101
นารูโต๊ะ อิอิอิ
เฉลยปลายภาค ม42557
peter dontoom
แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
teerachon
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
suchinmam
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
อำนาจ ศรีทิม
ภูมิศาสตร์
koorimkhong
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การบูรณาการนาฏศิลป์กับแขนงและกลุ่มสาระอื่นๆ
Panomporn Chinchana
Ad
Viewers also liked
(20)
PDF
3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
teerachon
PDF
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
teerachon
PDF
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
teerachon
PDF
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
teerachon
PDF
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
teerachon
PDF
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
teerachon
PDF
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
teerachon
PDF
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
teerachon
PDF
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
teerachon
PDF
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
teerachon
PDF
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
teerachon
PDF
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
teerachon
PDF
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
teerachon
PDF
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
teerachon
PDF
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
teerachon
PDF
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
teerachon
3.แนวข้อสอบ o net สังคมศึกษา(ม.6)
teerachon
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
teerachon
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
teerachon
7.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.6)
teerachon
1.แนวข้อสอบ o net ภาษาไทย(ม.3)
teerachon
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
teerachon
7.แนวข้อสอบ o net การงานอาชีพและเทคโนโลยี(ม.3)
teerachon
แบบทดสอบ การงานอาชีฯ ม.3
teerachon
2.แนวข้อสอบ o net คณิตศาสตร์(ม.3)
teerachon
แบบทดสอบ เทคโนโลยี ม.6
teerachon
3.แนวข้อสอบ o net วิทยาศาสตร์(ม.3)
teerachon
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
teerachon
แบบทดสอบ การงานอาชีพฯ ม.6
teerachon
แบบทดสอบ ทัศนศิลป์ ม.3
teerachon
แบบทดสอบ แรงและการเเคลื่อนที่ฯ ม.4 6
teerachon
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2
teerachon
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
teerachon
แบบทดสอบ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.3
teerachon
8.แนวข้อสอบ o net ภาษาอังกฤษ(ม.3)
teerachon
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.6
teerachon
Ad
Similar to 6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
(20)
PDF
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
neenpd11
PDF
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
sincerecin
PDF
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
SiwadolChaimano
PDF
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
just2miwz
PDF
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Preeyaporn Chamnan
PDF
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Nattarika Wonkumdang
PDF
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
rojanasak tipnek
PDF
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
Anawat Supappornchai
DOC
4. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Nakee Wk
DOC
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Jc C' Twc
PDF
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
bowing3925
DOC
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย)
Kruthai Kidsdee
PDF
ข้อสอบโอเนตม.6
peter dontoom
PDF
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
Kruthai Kidsdee
PDF
เฉลยข้อสอบโอเนตม.6 วันที่ 12 กพ 57
peter dontoom
PDF
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
Thanakrit Muangjun
PDF
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.6 ชุด 1
cookie47
PDF
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.6 ชุด 1
ParattakornDokrueankham
PDF
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.6 ชุด 1
JunyapornTakumnoi
PDF
ศิลปะ
prrimhuffy
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
neenpd11
775. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
sincerecin
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
SiwadolChaimano
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
just2miwz
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Preeyaporn Chamnan
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Nattarika Wonkumdang
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
rojanasak tipnek
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
Anawat Supappornchai
4. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Nakee Wk
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
Jc C' Twc
ข้อสอบ O-net - ศิลปะ
bowing3925
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย)
Kruthai Kidsdee
ข้อสอบโอเนตม.6
peter dontoom
วิชาศิลปะ มัธยมศึกษา ปีที่ 3 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่งกา...
Kruthai Kidsdee
เฉลยข้อสอบโอเนตม.6 วันที่ 12 กพ 57
peter dontoom
L43 c sdsauacpfzqaveaxk36inmapykcsrx66ofxrxatqjtalfkpwnayec531ab7a
Thanakrit Muangjun
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.6 ชุด 1
cookie47
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.6 ชุด 1
ParattakornDokrueankham
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.6 ชุด 1
JunyapornTakumnoi
ศิลปะ
prrimhuffy
More from teerachon
(18)
PDF
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
teerachon
PDF
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
teerachon
PDF
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
teerachon
PDF
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
teerachon
PDF
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
teerachon
PDF
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
teerachon
แบบทดสอบ นาฏศิลป์ ม.6
teerachon
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.6
teerachon
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
teerachon
แบบทดสอบ ดนตรี ม.6
teerachon
แบบทดสอบ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
teerachon
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
teerachon
แบบทดสอบ เศรษฐศาสตร์ ม.3
teerachon
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
teerachon
แบบทดสอบ ภูมิศาสตร์ ม.3
teerachon
แบบทดสอบ ภาษาไทย(หลักภาษา) ม.3
teerachon
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
teerachon
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
teerachon
แบบทดสอบ ประวัติศาสตร์ ม.3
teerachon
แบบทดสอบ เทคโน ม.3
teerachon
แบบทดสอบ คณิตศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
teerachon
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.2
teerachon
แบบทดสอบ สังคมศึกษา ม.2
teerachon
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ม.2
teerachon
6.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.3)
1.
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ
O-Net วิชา ทัศนศิลป์ มัธยมศึกษาตอนต้น คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กำรวำดภำพที่มีกำรตัดเส้น หรือวำดเส้นนิยมใช้กับงำนในข้อใด 1. ภำพทิวทัศน์เสมือนจริง 2. ภำพแสดงเหตุกำรณ์สำคัญ 3. ภำพประกอบนิทำน หรือละคร 4. ภำพที่ใช้เทคนิคต่ำง ๆ ผสมกัน 2. ถ้ำจะวำดภำพตัวละครให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไปต้องคำนึงถึงอะไร 1. ภำพสื่อให้เห็นถึงรูปแบบที่เรียบง่ำย มีควำมเหมือนจริงตำมธรรมชำติ 2. ภำพที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์ควำมรู้สึกได้ดี มีบุคลิกที่จำง่ำย 3. ภำพที่มีเส้นคมชัด ใช้สีที่เกินจริงจำกธรรมชำติ 4. ภำพลำยเส้นเรียบง่ำย สื่อวิถีชีวิตในสังคมได้ดี 3. กำรออกแบบโปสเตอร์ที่ดีและมีประสิทธิภำพในกำรสื่อสำรควรออกแบบให้มีคุณสมบัติตำมข้อใด 1. สะดุดตำอ่ำนง่ำยแต่แรกเห็น 2. มีควำมกลมกลืนไปกับสภำพแวดล้อม 3. ใช้ข้อควำมยำว ให้ได้รำยละเอียดมำก 4. มีแต่ภำพ ใช้ตัวอักษรให้น้อยที่สุด 4. เหตุผลข้อใดที่สนับสนุนคำกล่ำวที่ว่ำ “ผลงานทัศนศิลป์สามารถสะท้อนวัฒนธรรม” ได้ถูกต้องที่สุด 1. ผลงำนทัศนศิลป์สร้ำงขึ้นมำจำกควำมคิดของมนุษย์ 2. มนุษย์สร้ำงผลงำนทัศนศิลป์เลียนแบบผลงำนทัศนศิลป์ที่มีอยู่ 3. ศิลปินพัฒนำเทคนิค วิธีกำรในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม 4. วัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ ขณะเดียวกันผลงำนทัศนศิลป์ ก็ถ่ำยทอดเรื่องรำวของวัฒนธรรม 5. เมื่อเรำสำมำรถบรรยำยถึงควำมงำมที่เห็นว่ำเป็นดวงอำทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้ำยำมสนธยำ มีดวงโตสีส้ม เหลืองสวยงำมแสดงว่ำเรำรับรู้ทำงกำรเห็นที่เกิดจำกสิ่งใด 1. เกิดจำกควำมจำที่ดี 2. เกิดจำกควำมประทับใจกับสิ่งที่เห็น 3. เกิดจำกควำมสำมำรถในกำรรับรู้ธรรมชำติ 4. เกิดจำกจินตนำกำรอันกว้ำงไกล
2.
6. กำรออกแบบสัญลักษณ์ ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงสิ่งใดมำกที่สุด 1.
ควำมสวยงำมของสัญลักษณ์ 2. ควำมโดดเด่นและน่ำสนใจ 3. เหมำะสมกับยุคสมัย 4. กำรสื่อควำมหมำย 7. งำนศิลปะใดที่เหมำะแก่กำรนำไปใช้ตกแต่งสวนสำธำรณะน้อยที่สุด 1. สถำปัตยกรรม 2. เทคนิคผสม 3. จิตรกรรม 4. ประติมำกรรม 8. นำรีสร้ำงผลงำนโดยนำควำมขัดแย้งมำใช้ในภำพ นักเรียนคิดว่ำผลงำนของนำรีจะเป็นอย่ำงไร 1. ผลงำนมีควำมน่ำสนใจ 2. ผลงำนจะเกิดควำมแปลกใหม่ 3. ช่วยให้องค์ประกอบของผลงำนมีควำมกลมกลืน 4. ผลงำนสำมำรถกระตุ้นอำรมณ์ควำมรู้สึกของผู้ชมได้น้อย 9. ลักษณะเด่นของงำนสื่อผสมสอดคล้องกับข้อใด 1. สร้ำงขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง 2. นำวัสดุรำคำถูกมำสร้ำงงำนศิลป์ 3. มีกำรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในกำรสร้ำงงำน 4. ใช้เทคนิคและวัสดุหลำกหลำยชนิดมำผสมผสำนกัน 10.ข้อใดเป็นตัวอย่ำงของกำรนำผลงำนทัศนศิลป์มำสร้ำงสรรค์ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 1. แต่งกำยชุดนักเรียนมำโรงเรียน 2. เขียนหนังสือด้วยลำยมือที่อ่ำนง่ำย 3. นำภำพวำดมำตกแต่งบ้ำนเรือน 4. ใช้แสงไฟหลำกสีในงำนรื่นเริง 11.ข้อใดเป็นควำมสำคัญของสิ่งแวดล้อมต่อกำรสร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์ 1. ช่วยในเรื่องกำรจัดวำงองค์ประกอบศิลป์ 2. เป็นแบบอย่ำงให้งำนทัศนศิลป์ทำตำม 3. ทำให้เกิดกำรใช้แสงเงำในตัวผลงำน 4. เป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อสร้ำงงำนศิลป์
3.
12.เส้นในข้อใดที่เป็นเส้นหลักของกำรร่ำงภำพใบหน้ำตัวละคร 1. เส้นโค้ง เส้นตรง 2.
เส้นโค้ง เส้นเฉียง 3. เส้นรูปไข่ เส้นแนวตั้ง 4. เส้นแนวตั้ง เส้นแนวนอน 13.ข้อใดเป็นกำรนำเอำรูปธรรมชำติมำเป็นต้นแบบ เพื่อเน้นถึงลักษณะเด่นของโครงสร้ำงกำรออกแบบ ดอกไม้ในงำนทัศนศิลป์ 1. วำดภำพดอกไม้ด้วยกำรใช้เส้นต่ำง ๆ ให้เหมือนจริงตำมต้นแบบ แล้วค่อยตัดทอนรำยละเอียดออก เหลือไว้แต่ลักษณะเด่นของโครงสร้ำง 2. ในขั้นตอนแรกวำดรูปร่ำงของดอกไม้ให้ถูกต้องก่อน แล้วจึงใส่รำยละเอียดตำมที่ต้องกำร 3. วำดดอกไม้มีลักษณะเป็นวงกลม มีกลีบดอกเป็นรูปหอก มำจัดวำงซ้อนกันจนเป็นภำพดอกไม้ 4. ใช้เส้นโค้งครึ่งวงกลมเป็นหลัก แบ่งกลีบดอกตำมจำนวนกลีบดอกไม้และตกแต่งรำยละเอียด โดยใช้จุด 14.เมื่อเรำวำดภำพระบำยสีผลส้มโอหนึ่งผลจะเกิดทัศนธำตุอะไรบ้ำง 1. รูปร่ำงของผลส้มโอที่มีสีเขียว 2. ส้มโอหนึ่งผลมีขนำดใหญ่กว่ำผลมะยม 3. รูปทรง สี แสงเงำ น้ำหนักอ่อน-แก่ 4. ผลส้มโอมีรูปร่ำงรูปทรงและสีสันสวยงำมเหมือนจริง 15.ควำมกลมกลืนจะช่วยให้ผลงำนดูแล้วมีควำมรู้สึกเป็นอย่ำงไร 1. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 2. เกิดควำมขัดแย้งกันในผลงำน 3. เกิดกำรกระตุ้นและเร้ำควำมรู้สึก 4. สร้ำงควำมแตกต่ำงจำกผลงำนอื่น 16.ถ้ำนักเรียนต้องกำรให้ผลงำนไม่กระจัดกระจำยจะต้องใช้หลักกำรออกแบบในข้อใด 1. ควำมสมดุล 2. ควำมขัดแย้ง 3. ควำมเป็นเอกภำพ 4. ควำมสม่ำเสมอ
4.
17.สีที่มีควำมบำงเบำมักจะระบำยระยะใด 1. ระยะตื้น 2. ระยะใกล้ 3.
ระยะไกล 4. ระยะใดก็ได้ 18.ถ้ำต้องกำรสร้ำงผลงำนที่สื่อถึงควำมแข็งแรง มั่นคง ควรใช้เส้นลักษณะใดเป็นหลักในผลงำน 1. เส้นแนวนอน 2. เส้นแนวตั้ง 3. เส้นโค้งคด 4. เส้นฟันปลำ 19.ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกในกำรวำดภำพตัวละครจำกวรรณคดีไทย 1. เลือกวรรณคดีไทยในเรื่องที่ตนเองชื่นชอบ 2. เลือกเหตุกำรณ์ หรือสถำนกำรณ์ที่ตนเองประทับใจ 3. ดูตัวอย่ำงผลงำนกำรวำดภำพของศิลปิน 4. ออกแบบตัวละครทั้งรูปร่ำง หน้ำตำและเครื่องแต่งกำย 20.ข้อใดเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยมำกที่สุด 1. กำรทำมำหำกิน 2. ศำสนำและควำมเชื่อ 3. สภำพลมฟ้ำอำกำศ 4. กำรต่อสู้ทำศึกสงครำม 21.ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยกับสำกลมีควำมคล้ำยคลึงกันในเรื่องใดมำกที่สุด 1. หน้ำที่ใช้สอย 2. กำรรับอิทธิพลศิลปะ 3. ประวัติควำมเป็นมำ 4. กำรเลือกใช้อุปกรณ์ 22.กำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยได้รับอิทธิพลจำกเรื่องใดมำกที่สุด 1. ควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำงพระพุทธศำสนำ 2. แนวควำมคิดสร้ำงสรรค์ของศิลปิน 3. อิทธิพลจำกอินเดีย จีนและศรีลังกำ 4. รูปแบบ เทคนิค วัสดุอุปกรณ์จำกตะวันตก
5.
23.คำว่ำ “สีเอกรงค์” (Monochrome)
ในงำนจิตรกรรมฝำผนังสมัยสุโขทัยมีลักษณะอย่ำงไร 1. สีเพียงสีเดียว คือ สีแดง 2. สีเพียงสีเดียว คือ สีส้ม 3. สี 2 สี คือ สีแดงและสีดำ 4. สี 2 สี คือ สีแดงและสีทอง 24.แนวคิดในกำรสร้ำงผลงำนจิตรกรรมไทยในสมัยโบรำณมำจำกเรื่องใดมำกที่สุด 1. บุคคลสำคัญ 2. พุทธประวัติ 3. นิทำนพื้นบ้ำน 4. เหตุกำรณ์ในยุคนั้น ๆ 25.ผลงำนจิตรกรรมไทยของแต่ละภำคมีควำมคล้ำยคลึงกันมำกที่สุดในเรื่องใด 1. รูปแบบกำรเขียน 2. เรื่องรำวที่นำเสนอ 3. กำรจัดองค์ประกอบ 4. สภำพของชุมชน 26.งำนจิตรกรรมไทยนิยมสร้ำงสรรค์ไว้ที่บริเวณใด 1. บ้ำนเรือนทั่วไป 2. สิ่งก่อสร้ำงทรงสูง 3. ฝำผนังในพระอุโบสถ 4. กำแพงพระนคร 27.ใครสร้ำงงำนทัศนศิลป์ประเภทจิตรกรรมที่สะท้อนถึงคุณค่ำของวัฒนธรรมไทย 1. แอมแกะสลักรูปคุณปู่ 2. เอ้พิมพ์ภำพด้วยเศษวัสดุ 3. เด่นปั้นตุ๊กตำตัวกำร์ตูนที่ชื่นชอบ 4. ก้อยวำดภำพประเพณีกำรแห่เทียนพรรษำ 28.อิทธิพลข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญในกำรสร้ำงสถำปัตยกรรมไทย 1. ศำสนำและควำมเชื่อ 2. สภำพภูมิอำกำศ 3. วิถีชีวิตควำมเป็นอยู่ 4. เครื่องมือและวัสดุก่อสร้ำง
6.
29.สถำปัตยกรรมมีควำมสัมพันธ์กับข้อใด 1. ผลงำนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้ำง 2. ผลงำนด้ำนกำรละคร 3.
ผลงำนศิลปะที่มีรูปทรง 3 มิติ 4. ผลงำนที่เกิดจำกกำรวำดภำพและกำรระบำยสี 30.ลักษณะของผลงำนทัศนศิลป์แบบสำกลมีลักษณะที่สอดคล้องกับข้อใด 1. ใช้เทคนิควิธีกำรแบบตะวันตก 2. เน้นเรื่องรำวของกรีกและโรมัน 3. มีรูปแบบเหมือนศิลปะยุโรป 4. ไม่มีรูปแบบของชำติใดชำติหนึ่ง 31.ข้อใดเป็นลักษณะของศิลปะสำกล 1. เป็นรูปแบบศิลปะตะวันตก 2. มีลักษณะเหมือนศิลปะยุโรป 3. คล้ำยคลึงกับศิลปะของอเมริกำ 4. เป็นนำนำชำติไม่สื่อว่ำเป็นของชำติใด 32.เหตุผลที่ถือว่ำผลงำนทัศนศิลป์เป็นภำษำสำกลในวงกำรศิลปะเนื่องจำกอะไร 1. ภำพถือเป็นสัญลักษณ์ทำงภำษำ 2. ผู้ชมเข้ำใจควำมหมำยได้ตรงกัน 3. กำรวำดภำพเหมือนกำรเขียนตัวอักษร 4. ภำพใช้สื่อควำมแทนคำพูด 33.แนวทำงกำรประเมินผลงำนในข้อใดถูกต้องที่สุด 1. กิจชัยใช้พื้นฐำนควำมรู้ของตนเองมำเป็นเกณฑ์ในกำรประเมินผลงำน 2. สุนันทำประเมินผลงำนทัศนศิลป์จำกภำพรวมของผลงำนแต่ละประเภท 3. นพวรรณกำหนดหลักกำรและตัวบ่งชี้ของผลงำนขึ้นมำก่อนที่จะประเมิน 4. นันทพรประเมินผลงำนตำมแนวทำงที่เคยเรียนรู้มำจำกศิลปินที่ตนชื่นชอบ 34.กำรวิจำรณ์ผลงำนศิลปะในข้อใดที่ใช้คำกล่ำวที่ ไม่เหมาะสม 1. ผลงำนแสดงถึงประวัติศำสตร์ชำติไทย 2. ผลงำนมีกำรออกแบบได้อย่ำงดีเยี่ยม 3. ผลงำนต้องให้ผู้ชมตีควำมได้ง่ำยขึ้น 4. ผลงำนไม่ควรค่ำแก่กำรชื่นชมแต่อย่ำงใด
7.
35.กำรวิจำรณ์เพื่อประเมินงำนทัศนศิลป์ ควรคำนึงถึงเรื่องใดเป็นสำคัญ 1. หลักเกณฑ์และแบบประเมิน 2.
หลักเกณฑ์และเหตุผล 3. กำรวิเครำะห์และเหตุผล 4. กำรแสดงควำมคิดเห็น 36.ข้อใดเป็นกำรวิเครำะห์รูปแบบทัศนธำตุ เมื่อดูภำพวำดภำพหนึ่ง 1. เห็นเส้นขอบ เนื้อหำในผลงำน 2. เห็นควำมคิดจินตนำกำรของศิลปิน 3. เห็นกำรใช้เส้น สี รูปทรง น้ำหนักแสงเงำ 4. เห็นควำมสมดุลและกลมกลืนของภำพ 37.ภำพวำดภำพหนึ่งเป็นผลงำนที่ศิลปินใช้สีม่วงน้ำเงิน สีน้ำเงิน สีฟ้ำ สีน้ำเงินดำ สีเทำ สร้ำงสรรค์เป็นภำพ ขึ้นมำ ภำพนี้เป็นกำรใช้สีอย่ำงเป็นเอกภำพแบบใด 1. กำรใช้สีแบบประสำน 2. กำรใช้สีแบบผสม 3. กำรใช้สีแบบขัดแย้ง 4. กำรใช้สีแบบน้ำหนักไม่เท่ำกัน 38.เมื่อลำกเส้นตรง 1, 2 และ 3 มำต่อกันดังนี้ จะได้รูปแบบทัศนธำตุที่เด่นชัดคืออะไร 1. รูปทรง 2. รูปร่ำง 3. สีและพื้นผิว 4. แสงและเงำ 39.ที่ว่ำงลวงตำ (Illusion Space) เกิดขึ้นโดยวิธีใด 1. โดยกำรเขียนภำพทิวทัศน์แบบทัศนียภำพมีระยะใกล้-ไกล 2. โดยกำรเว้นช่องว่ำงภำยในงำนประติมำกรรม 3. โดยกำรเว้นระยะช่องว่ำงระหว่ำงอำคำรกับสิ่งแวดล้อม 4. โดยกำรเว้นช่องว่ำงระหว่ำงประติมำกรรมกองทรำย 40.“เป็นจุดเริ่มต้นของทัศนศิลป์สมัยใหม่” ข้อควำมดังกล่ำวหมำยถึงผลงำนทัศนศิลป์แนวใด 1. แนวโรแมนติก 2. แนวอิมเพรสชันนิสม์ 3. แนวนีโอคลำสสิก 4. แนวคิวบิสม์ 1 2 3
8.
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ
O-Net วิชา ดนตรี คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เพรำะเหตุใดจึงมีกำรใช้เพลงโหมโรงเป็นเพลงแรกที่บรรเลงก่อนกำรแสดง 1. เป็นเพลงที่มีทำนองที่ไพเรำะ 2. เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงเพื่อประกำศว่ำจะมีกำรแสดง 3. เป็นเพลงเล่นได้ง่ำย มีจังหวะและทำนองที่สนุกสนำน 4. เป็นเพลงที่ได้รับควำมนิยมในหมู่นักดนตรี 2. เพรำะเหตุใดเรำจึงต้องใช้ดอกมะเขือ หญ้ำแพรก ข้ำวตอก ดอกเข็ม ในพิธีกำรไหว้ครู 1. หำซื้อได้ง่ำย 2. มีรำคำไม่แพง 3. เป็นของที่มีควำมหมำยที่ดี 4. เป็นของที่กำหนดไว้ให้ใช้มำตั้งแต่โบรำณ 3. ข้อใดคือสิ่งสำคัญของกำรฝึกขับร้องเพลงไทยเบื้องต้น 1. วิธีกำรนั่งขับร้องเพลง 2. กำรใช้กำลังเสียงและกำรผ่อนลมหำยใจ 3. จังหวะในกำรแบ่งส่วนย่อยของเพลง 4. กำรออกเสียงอักขระและกำรออกเสียงเอื้อน 4. ข้อใดกล่ำวเกี่ยวกับคำว่ำ “กานล” ได้ถูกต้อง 1. เครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่ง 2. เครื่องคำนับหรือเครื่องบูชำครู 3. เพลงไทยประเภทอัตรำจังหวะชั้นเดียว 4. กำรฟ้อนรำที่มีมำตั้งแต่สมัยโบรำณ 5. วงดุริยำงค์ หรือวงออร์เคสตรำเปรียบได้กับวงดนตรีไทยประเภทใด 1. วงเครื่องสำยเครื่องคู่ 2. วงปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์ 3. วงมโหรีเครื่องใหญ่ 4. วงปี่พำทย์เครื่องใหญ่
9.
6. เครื่องดนตรีในข้อใดจับคู่ได้อย่ำงเหมำะสม 1. โหวต
- ปี่ใน 2. หมำกกั๊บแก็บ - จะเข้ 3. สะล้อ - พิณ 4. รือบับ - กลองปูเจ่ 7. จำกภำพเป็นกำรใช้หน้ำทับชนิดใด - - ติง ทั่ง - ติง - - ติงทั่ง - ติง - ติงทั่ง - ทั่ง 1. หน้ำทับปรบไก่ชั้นเดียว 2. หน้ำทับปรบไก่ 2 ชั้น 3. หน้ำทับสองไม้ชั้นเดียว 4. หน้ำทับสองไม้ 2 ชั้น 8. เพรำะเหตุใดกำรแสดงของไทยจึงต้องมีดนตรีบรรเลงประกอบ 1. ดนตรีจะช่วยถ่ำยทอดอำรมณ์ต่ำง ๆ ของตัวละคร 2. ต้องมีกำรเตรียมตัวนักแสดง 3. เป็นกำรประกำศให้รู้ว่ำจะมีกำรแสดง 4. ต้องกำรเอำฤกษ์เอำชัย 9. เพลงลำวดวงเดือนให้อำรมณ์สอดคล้องกับบทประพันธ์ในข้อใด 1. จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอำลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก 2. ครั้นรักจำงห่ำงเหินไปเนิ่นนำน แต่น้ำตำลว่ำเปรี้ยวไม่เหลียวแล 3. แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ำรัก ใครอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน 4. แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลำย เจ็บจนตำยเพรำะเหน็บให้เจ็บใจ 10.ข้อใด ไม่ เข้ำพวก 1. เบลไลรำ กลอง ฉำบ 2. กีตำร์ ทูบำ ออร์แกน 3. คลำริเน็ต ฟลูต ฮอร์น 4. ไวโอลิน เชลโล กีตำร์
10.
11.ข้อใดแตกต่ำงจำกพวก 1. เพลฝรั่งรำเท้ำ เพลงเวสสุกรรม
เพลงหงส์ทอง 2. เพลงตระบองกัน เพลงเสมอข้ำมสมุทร เพลงเชิดฉำน 3. เพลงลำวเล่นน้ำ เพลงสำวกระตุกกี่ เพลงกระแตเล็ก 4. เพลงพรำหมณ์เก็บหัวแหวน เพลงแขกบรเทศ เพลงเชิดนอก 12.ข้อใดวิเครำะห์ธำตุประกอบเพลงพระรำชนิพนธ์พรปีใหม่ได้ถูกต้องที่สุด 1. จังหวะปำนกลำง สง่ำ ผ่ำเผย บรรเลงด้วยเสียงดังปำนกลำงและมีอำรมณ์ด้ำนบวก 2. จังหวะเร็ว ให้ควำมสนุกสนำน บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนบวก 3. จังหวะช้ำ แสดงควำมเข้มขึง บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนลบ 4. จังหวะปำนกลำง ให้ควำมสงบ บรรเลงด้วยเสียงเบำและมีอำรมณ์ด้ำนลบ 13.“เปรียบเธอเพชรงามน้าหนึ่ง หวานปานน้าผึ้งเดือนห้า หยาดเพชรเกล็ดแก้วแววฟ้า ร่วงมาจากฟ้า หรือไร” จำกเนื้อเพลงข้ำงต้น ผู้ฟังเพลงจะได้รับรสทำงวรรณศิลป์ที่ทำให้เกิดอำรมณ์ควำมรู้สึกใด 1. รสแห่งควำมรัก 2. รสแห่งควำมสงบ 3. รสแห่งควำมโกรธ 4. รสแห่งควำมขบขัน 14.เพลงในข้อใดนำมำใช้บรรเลงประกอบกิริยำของตัวละครที่แสดงควำมโศกเศร้ำเสียใจ 1. เพลงทยอย 2. เพลงกลองโยน 3. เพลงตระบองกัน 4. เพลงคุกพำทย์ 15.ข้อใดคือกำรดูแลรักษำเครื่องดนตรีได้ถูกวิธี 1. วำงเครื่องดนตรีนอนรำบกับพื้น เพื่อป้องกันกำรชำรุด 2. นำผ้ำเปียกเช็ดเครื่องดนตรี เพื่อเป็นกำรทำควำมสะอำด 3. ลดสำยของเครื่องดนตรีที่มีสำยลง เพื่อยืดเวลำในกำรใช้งำน 4. นำเครื่องดนตรีวำงซ้อนทับกัน เพื่อจะได้เป็นระเบียบเรียบร้อย 16.บทเพลงที่ร้องประกอบกับดนตรีพื้นบ้ำนของภำคเหนือให้ควำมรู้สึกอย่ำงไร 1. คึกคัก สนุกสนำน 2. คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง 3. นุ่มนวล อ่อนหวำน 4. เศร้ำสร้อย ผิดหวัง
11.
17.ข้อใด ไม่ใช่ สำเหตุที่ทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงดนตรีในประเทศไทย 1.
กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองตำมนโยบำยของรัฐบำล 2. ภำยหลังเหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ.2516 3. สภำพทำงภูมิอำกำศและภูมิประเทศเกิดกำรเปลี่ยนแปลง 4. ปฏิรูปกำรปกครองแผ่นดินในสมัยรัชกำลที่ 5 18.เพลงใดที่ ไม่ ได้รับอิทธิพลมำจำกวิถีชีวิต 1. เพลงเรือ 2. เพลงสำธุกำร 3. เพลงเกี่ยวข้ำว 4. เพลงลำวกระทบไม้ 19.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับเพลงปลุกใจ 1. เพลงที่มีควำมหมำยมุ่งปลุกจิตสำนึกของคนไทยให้เกิดควำมรักชำติบ้ำนเมือง 2. เพลงปลุกใจของไทยเริ่มขึ้นในสมัยพระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย รัชกำลที่ 2 3. เป็นเพลงที่มีเนื้อร้อง ทำนอง จังหวะเร้ำใจ ชวนให้ผู้ฟังเกิดอำรมณ์ฮึกเหิมและคึกคัก 4. เพลงปลุกใจมีอยู่หลำยบทเพลง เช่น เพลงตื่นเถิดไทย เพลงใต้ร่มธงไทย เพลงถิ่นเมืองไทย เพลงไทยรวมกำลัง เป็นต้น 20.“จะขอตามรอยของพ่อ ท่องคาว่าเพียงและพอจากหัวใจ เป็นลูกที่ดีของพ่อ ด้วยความรัก ด้วยภักดี ตลอดไป” จำกเนื้อร้องข้ำงต้น เกิดจำกจินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลงจำกสิ่งใด 1. ควำมรักชำติ 2. ควำมเชื่อและศำสนำ 3. ควำมสุขและควำมทุกข์ 4. ควำมจงรักภักดีต่อพระมหำกษัตริย์ 21.บทเพลงในข้อใดต่อนี้ ไม่ จัดอยู่ในประเภทเพลงปลุกใจ 1. เพลงใต้ร่มธงไทย เพลงเทียนคุณธรรม 2. เพลงไทยรวมกำลัง เพลงสุดแผ่นดิน 3. เพลงสำยโลหิต เพลงพรุ่งนี้ต้องดีกว่ำ 4. เพลงควำมฝันอันสูงสุด เพลงแผ่นดินของเรำ
12.
22.เพลงใดต่อนี้มีกำรแสดงอำรมณ์เศร้ำ เหงำและปลงกับชีวิต 1. เพลงพระรำชนิพนธ์ยำมเย็น 2.
เพลงพระรำชนิพนธ์ใกล้รุ่ง 3. เพลงพระรำชนิพนธ์แสงเทียน 4. เพลงพระรำชนิพนธ์รัก 23.ข้อใดเป็นกำรประพันธ์เพลงขึ้นจำกปัจจัยภำยนอก 1. นักประพันธ์เพลงแต่งเพลงที่แสดงออกถึงควำมจงรักภักดีต่อพระมหำกษัตริย์ 2. นักประพันธ์เพลงไม่สมหวังในควำมรัก จึงแต่งเพลงเกี่ยวกับควำมรักที่ผิดหวัง 3. นักประพันธ์เพลงรู้สึกมีควำมทุกข์ เพรำะชีวิตไม่มีควำมสุขจึงแต่งเพลงเศร้ำขึ้น 4. นักประพันธ์เพลงรู้สึกโกรธแค้นบุคคล จึงแต่งเพลงล้อเลียนบุคคลในทำงที่ไม่ดี 24.ใครเลือกใช้เทคนิคและกำรแสดงออกถึงกำรจินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลงได้ถูกต้อง 1. เอเลือกแต่งเพลงเศร้ำด้วยจังหวะที่กระชับ เร้ำใจ 2. บียึดรูปแบบเพลงเก่ำ เพรำะกลัวไม่ได้รับควำมนิยม 3. ซีใช้เสียงที่อยู่ในระดับปำนกลำงในกำรแต่งเพลง 4. ดีนำผลงำนของผู้อื่นมำดัดแปลงเป็นผลงำนของตนเอง 25.อิริยำบถใดที่ถือว่ำ ไม่ สุภำพในกำรขับร้องเพลง 1. แสดงสีหน้ำและอำรมณ์สอดคล้องกับบทเพลง 2. ควบคุมสมำธิไม่ได้ สำยตำไม่หยุดนิ่งอยู่กับผู้ฟัง 3. วำงมือทั้ง 2 ข้ำง ไว้ข้ำงลำตัวอย่ำงสุภำพเรียบร้อย 4. ยืนตัวตรง หลังไม่ค่อม อกผำย ไหล่ผึ่ง เท้ำวำงห่ำงกันเล็กน้อย 26.บทเพลงในข้อใดแสดงถึงอำรมณ์โศกเศร้ำ 1. รุกขชำติดำดำษดอกดก ใบตกร่วงลงชลำสำย 2. เจ้ำนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำลงแล้วจะนอนที่รังไหน 3. พญำครุฑฟังนุชสุดสวำท ประคองนำฏรับขวัญขนิษฐำ 4. อนิจจำโอ้พระจอมกระหม่อมโลก มำซัดเสียให้เมียโศกน่ำสงสำร 27.ถ้ำนักเรียนต้องกำรบรรเลงเพลงต้นวรเชษฐ์สองชั้น ควรฝึกอ่ำนและเคำะจังหวะด้วยอัตรำจังหวะใดจึงจะ ถูกต้อง 1. | - - - - | | - - - ฉิ่ง | | - - - - | | - - - ฉับ | 2. | - - - ฉิ่ง | | - - - ฉับ | | - - - ฉิ่ง | | - - - ฉับ | 3. | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | | - ฉิ่ง - ฉับ | 4. | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - | | - ฉิ่ง ฉับ - |
13.
28.ข้อใดให้ควำมหมำยของคำว่ำหน้ำที่ผู้บรรเลงเพลงได้ถูกต้องที่สุด 1. ทำหน้ำที่เล่นเครื่องดนตรีให้ถูกต้องและไพเรำะ 2. ทำหน้ำที่เป็นตัวแปรสำคัญในกำรดึงดูดควำมสนใจจำกผู้ขับร้อง 3.
ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงเชื่อมควำมสัมพันธ์ระหว่ำงผู้ขับร้องกับผู้ฟัง 4. ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรถ่ำยทอดอำรมณ์ควำมรู้สึกที่สอดแทรกในบทเพลง 29.ใครขับร้องเพลงไทยได้ถูกต้องตำมหลักกำรมำกที่สุด 1. หนึ่งฝึกกำรออกเสียงให้เต็มเสียง 2. สองฝึกแบ่งระยะกำรหำยใจให้เหมำะสม 3. สำมฝึกเอื้อนทำนองเปล่ำสอดแทรกไปกับบทร้อง 4. สี่พยำยำมรักษำระดับเสียงให้เป็นไปตำมทำนองเพลงที่ถูกต้อง 30.เครื่องดนตรีชนิดใดจัดอยู่ในประเภทเดียวกันทั้งหมด 1. ไวโอลิน กีตำร์ ฮำร์ป เบลไลรำ 2. ริคอร์เดอร์ โอโบ ฟลูต ทูบำ 3. ออร์แกน เปียนโน อิเล็กโทน เฟรนซ์ฮอร์น 4. ทอมบำ ทรัยแองเกิ้ล มำรำคำ บองโก
14.
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ
O-Net วิชา นาฏศิลป์ คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กำรแสดงนำฏศิลป์ไทยประเภทใดที่นิยมนำมำแสดงสลับฉำก 1. รำเดี่ยว 2. รำคู่ 3. รำหมู่ 4. ฟ้อน 2. “เค้าโมงจับโมงมองเมียง คู่เค้าโมงเคียง เคียงคู่อยู่ปลายไม้โมง ลางลิงลิงเหนี่ยวลดาโยง ค่อยยุดฉุดโชลง โลดไล่ในกลางลางลิง” บทประพันธ์นี้เป็นกำรพำกย์ลักษณะใด 1. พำกย์เมือง 2. พำกย์รถ 3. พำกย์โอ้ 4. พำกย์ชมดง 3. ดนตรีและนำฏศิลป์ในช่วงรัชกำลที่ 7 มีกำรเปลี่ยนแปลง เพรำะเหตุใดเป็นสำคัญ 1. ค่ำนิยม 2. นโยบำยของรัฐบำล 3. สภำพสังคมและวิถีชีวิต 4. ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป 4. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ เข้ำพวก 1. ฟ้อนเล็บ ฟ้อนแพน ฟ้อนที 2. ฟ้อนมำลัย ฟ้อนดำบ ฟ้อนเจิง 3. ฟ้อนภูไท ฟ้อนเก็บฝ้ำย ฟ้อนตังหวำย 4. ฟ้อนเทียน ฟ้อนสำวไหม ฟ้อนจ้อง
15.
5. “ยวนยาเหล ยวนยาเหล
หัวใจว้าเหว่ ไม่รู้จะเห่ไปหาใคร จะซื้อเปลยวน ที่ด้ายหย่อน หย่อน (ซ้า) จะเอาน้องนอนไกวเช้าไกวเย็น” จำกข้อควำมนี้มีควำมเกี่ยวข้องกับข้อใด 1. เพลงรำโทน 2. เพลงร้องเรือ 3. เพลงรำวงมำตรฐำน 4. เพลงระบำพื้นเมือง 6. ข้อใด ไม่ใช่ จุดมุ่งหมำยหลักของกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมือง 1. เป็นกิจกรรมกลุ่ม 2. สร้ำงควำมสำมัคคี 3. ประกอบพิธีกรรม 4. ควำมสนุกสนำน 7. เซิ้งแหย่ไข่มดแดง ไม่ได้ สื่อถึงภูมิปัญญำท้องถิ่นในข้อใด 1. ลักษณะนิสัยของชำวอีสำน 2. วิถีชีวิตของชำวอีสำน 3. อำชีพของชำวอีสำน 4. ภำษำท้องถิ่นอีสำน 8. ข้อใดกล่ำวถึงกำรแสดงโขนได้ถูกต้องที่สุด 1. นักแสดงโขนต้องสวมหัวโขนทั้งหมด 2. กำรแสดงโขนนักแสดงจะต้องร้องและเจรจำเอง 3. เรำสำมำรถทรำบถึงตัวละครต่ำง ๆ ได้จำกกำรสังเกตลักษณะของหัวโขน 4. โขนนิยมนำเรื่องรำมเกียรติ์ อิเหนำและพระอภัยมณีมำแสดง 9. “ชาย มาเถิดหนาแม่มา มาเล่นพาดผ้ากันเอย พี่ตั้งวงไว้ท่า อย่านิ่งรอช้าเลยเอย พี่ตั้งวงไว้คอย อย่าให้วง กร่อยเลยเอย หญิง ให้พี่ยื่นแขนขวา เข้ามาพาดผ้าเถิดเอย” จำกบทร้องนี้หมำยถึงกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมืองประเภทใด 1. ลำตัด 2. ลิเก 3. รำเหย่อย 4. อีแซว
16.
10.จำกบทประพันธ์นี้ผู้แสดงจะต้องใช้กำรตีบทแสดงออกมำเป็นท่ำรำใด “บัดนั้น ลูกลมมองเขม้นเห็นยักษี กริ้วโกรธโดดตามข้ามอัคคี ขุนกระบี่เหาะไล่ไขว่คว้า” 1.
ดีใจ 2. โศกเศร้ำ 3. โกรธแค้น 4. เก้อเขิน 11.ถ้ำนักเรียนจะวิเครำะห์ วิจำรณ์องค์ประกอบของกำรร่ำยรำ ควรเลือกวิเครำะห์ วิจำรณ์เรื่องใดจึงจะ เหมำะสม 1. รูปแบบของกำรแสดง 2. กำรแต่งกำยของนักแสดง 3. ควำมเป็นเอกภำพของนักแสดง 4. ควำมถูกต้องตำมแบบแผนของท่ำรำ 12.ข้อใดกล่ำว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับนำฏศิลป์ไทย 1. ศิลปะที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของชำติ 2. กำรร่ำยรำมีควำมประณีต อ่อนช้อย งดงำม 3. นำฏศิลป์ไทยมีท่ำรำที่ตำยตัว ไม่สำมำรถปรับเปลี่ยนท่ำรำได้ 4. เป็นกำรแสดงที่ประกอบไปด้วยระบำ รำ ฟ้อน โขน ละครและกำรแสดงพื้นเมือง 13.ข้อใด ไม่ใช่ วิธีกำรเผยแพร่นำฏศิลป์พื้นบ้ำน 1. กำรออกงำนเพื่อแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำน 2. กำรอ่ำนหนังสือเกี่ยวกับนำฏศิลป์พื้นบ้ำน 3. กำรติดประกำศกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสถำนศึกษำ 4. กำรโฆษณำขำยอุปกรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสื่อต่ำง ๆ 14. จำกภำพเหมำะแก่กำรนำไปใช้เป็นฉำกแสดงละครประเภทใด 1. ละครใน 2. ละครพูด 3. ละครเสภำ 4. ละครสังคีต
17.
15.“ดงบงคมกลองด้วยเสียงพาด เสียงพิณ เสียงเลื่อน
เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจัก มักเลื้อน เลื้อน” จำกข้อควำมข้ำงต้นสะท้อนให้เห็นถึงกำรแสดงละครไทยอย่ำงไร 1. กำรแสดงละครไทยมีมำช้ำนำน 2. ประชำชนทุกคนต้องแสดงละครได้ 3. ประชำชนทุกคนชอบดูกำรแสดงละคร 4. กำรแสดงละครไทยต้องมีเครื่องดนตรีประกอบ 16.รูปหน้ำในข้อใดที่เหมำะสมสำหรับแสดงเป็นตัวนำง 1. 2. 3. 4.
18.
17.ลักษณะวิธีกำรแสดงตำรีกีปัสมีควำมคล้ำยคลึงกับกำรแสดงชุดใด 1. ร่อนแร่ 2. กรีดยำง 3.
ซำเป็ง 4. รองเง็ง 18.ศิลปะกำรแสดงที่มีควำมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในภำคกลำงคือข้อใด 1. ระบำเก็บใบชำ 2. เต้นกำรำเคียว 3. เซิ้งแหย่ไข่มดแดง 4. ระบำร่อนแร่ 19.ข้อใด ไม่ใช่ กำรแสดงที่เรียกได้ว่ำเป็น “มหรสพ” 1. งิ้ว 2. ลิเก 3. หนังใหญ่ 4. ผีตำโขน 20.ชื่อของรำโทนมีที่มำจำกสิ่งใด 1. จำนวนของผู้รำ 2. เครื่องดนตรีที่ใช้ 3. แหล่งกำเนิดกำรแสดง 4. บทร้องประกอบกำรร่ำยรำ 21.กำรแปลงบทละครที่เป็นอักษรให้เป็นกำรแสดง จัดเป็นองค์ประกอบของกำรแสดงละครด้ำนใด 1. กำรสมมติ 2. จินตนำกำร 3. กำรสร้ำงสมำธิ 4. กำรสื่อสำรสัมพันธ์ 22.ถ้ำนักเรียนรับมอบหมำยให้เป็นตัวละครเอกของละคร 1 เรื่อง สิ่งแรกที่นักเรียนจะต้องทำคือข้อใด 1. ศึกษำบทละครให้เข้ำใจ 2. ศึกษำประวัติควำมเป็นมำของผู้เขียนบท 3. ทำควำมรู้จักกับทีมงำนผู้สร้ำงละครทุกคน 4. เตรียมออกแบบเครื่องแต่งกำยประกอบกำรแสดงที่เหมำะสม
19.
23.ข้อใดเป็นบรรยำกำศที่เหมำะสมที่สุดในกำรจัดกำรแสดงละครเวทีเรื่องแผลเก่ำ 1. ฉำกวิถีชีวิตชำวชนบท มีกระท่อม
ทุ่งนำ วัว ควำย แม่น้ำ 2. ฉำกในสนำมรบ มีปืนใหญ่ มีดดำบ กำแพง ทุ่งหญ้ำ ก้อนหิน 3. ฉำกชุมชนแออัด มีบ้ำนเรือนตั้งหนำแน่น ลำคลอง สะพำนไม้ 4. ฉำกป่ำเขำลำเนำไพร มีต้นไม้ เสียงนกร้อง น้ำตก สัตว์นำนำชนิด 24.เพลงประกอบละครมีควำมสำคัญในด้ำนใด 1. ทำให้เห็นภำพชัดเจน 2. กำหนดอำรมณ์ของตัวละคร 3. เป็นแนวคิดสำคัญของเรื่อง 4. ทำให้ผู้ชมมีควำมรู้สึกคล้อยตำม 25.องค์ประกอบของกำรแสดงละครในข้อใดเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญในกำรสร้ำงอำรมณ์ของตัวละคร 1. กำรสมมติ 2. จินตนำกำร 3. กำรสร้ำงสมำธิ 4. กำรสื่อสำรสัมพันธ์ 26.ละครในข้อใดแสดงให้เห็นถึงกำรมุ่งเน้นประชำชนให้เกิดควำมรักชำติ 1. ละครพันทำง 2. ละครปลุกใจ 3. ละครดึกดำบรรพ์ 4. ละครหลวงวิจิตรวำทกำร 27.กำรประเมินผลกำรแสดงมีประโยชน์ในด้ำนใดมำกที่สุด 1. เพื่อนำมำให้คะแนนได้ 2. เพื่อคัดเลือกนักแสดงให้เหมำะสม 3. เพื่อวัดควำมนิยมของผู้ชม 4. เพื่อปรับปรุงแก้ไขกำรแสดงในครั้งต่อไป 28.กำรแสดงบทบำทสมมติเป็นบุคคลในอำชีพต่ำงๆ จะต้องปฏิบัติอย่ำงไร จึงจะสำมำรถเลียนแบบได้ เหมือนจริงที่สุด 1. ศึกษำจำกสภำพควำมเป็นจริง 2. ศึกษำจำกรูปภำพและกำรแต่งกำย 3. สังเกตจำกกริยำท่ำทำงและกำรแนะนำตัว 4. ทำควำมเข้ำใจกับเอกลักษณ์เฉพำะของตัวละคร
20.
19.สิ่งที่พึงปฏิบัติหลังจบกำรแสดงละครคือข้อใด 1. จัดพิธีไหว้ครู 2. ฝึกซ้อมอย่ำงต่อเนื่อง 3.
เชิญวิทยำกรมำอบรม 4. ทำกำรประเมินผล 30.ประโยชน์ในกำรทำให้รู้จักคุณค่ำของศิลปะ และควำมงำมของกำรแสดงละครมีควำมหมำยตรงกับข้อใด 1. แบบกำรวิจำรณ์ 2. งำนออกแบบฉำก 3. แบบกำรวิเครำะห์ 4. งำนออกแบบตัวละคร
21.
ชุดที่ 2 ข้อสอบ
O-Net วิชา ศิลปะ 2552 ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 35 ข้อ (รวม 40 คะแนน) ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 30 ข้อ (ข้อ 1-30) : ข้อละ 1 คะแนน (รวม 30 คะแนน) 1. ข้อใดจัดเป็นงำนประติมำกรรมทั้งหมด 1. กำแพงเมืองจีน / วัดโพธิ์ / เหรียญบำท 2. พระแก้วมรกต / พระเครื่อง / อนุสำวรีย์ชัยสมรภูมิ 3. โต๊ะนักเรียน / ธนบัตร / พระแก้วมรกต 4. เหรียญทองโอลิมปิก / สะพำนพระรำม 8 / พระพุทธมณฑล 2. กำรแบ่งประเภทของประติมำกรรมใช้เกณฑ์ในข้อใด 1. ปริมำตรของรูปทรง 2. ควำมลึกของส่วนที่ถูกแกะออกไป 3. วัสดุที่นำมำขึ้นรูป 4. ควำมสูงของส่วนที่นูนขึ้นมำ 3. งำนจิตรกรรมและงำนภำพพิมพ์แตกต่ำงกันอย่ำงไร 1. งำนจิตรกรรมจัดเป็นงำนศิลปะ แต่งำนภำพพิมพ์เกิดจำกแท่นพิมพ์ 2. งำนจิตรกรรมต้องใช้เวลำนำนในกำรสร้ำงงำน ส่วนงำนภำพพิมพ์ใช้เวลำสั้นในกำรสร้ำงงำน 3. งำนภำพพิมพ์จะต้องมีแม่พิมพ์ ส่วนงำนจิตรกรรมไม่เกี่ยวข้องกับแท่นพิมพ์ 4. งำนจิตรกรรมสำมำรถทำซ้ำได้ ส่วนงำนภำพพิมพ์ไม่สำมำรถทำซ้ำได้ 4. ประติมำกรรมในข้อใดจัดเป็นกระบวนกำรเชิงบวก 1. รูปปั้นหน้ำคนจำกดินเหนียว 2. บำนประตูวัดสุทัศน์ 3. ประติมำกรรมหินรูปเจ้ำแม่กวนอิม 4. งำนแกะสลักน้ำแข็ง ปีการศึกษา
22.
5. ประเภทของงำนสถำปัตยกรรมในข้อใดไม่เข้ำพวก 1. พระที่นั่งอนันตสมำคม 2.
พิพิธภัณฑสถำนแห่งชำติ 3. เจดีย์ศรีสุริโยทัย 4. พระรำชวังบำงปะอิน 6. ดินสอที่ใช้ในกำรร่ำงภำพได้แก่ดินสอประเภทใด 1. ดินสอ 2B 2. ดินสอ 3B 3. ดินสอ 4B 4. ดินสอ 5B 7. จำนผสมสีมีหลำยขนำดส่วนมำกจำนผสมสีจะมีสีอะไร 1. สีแดง 2. สีเหลือง 3. สีขำว 4. สีดำ 8. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของสีน้ำ 1. สีน้ำเป็นสีที่มีลักษณะโปร่งใส 2. เนื้อสีของสีน้ำบำงเบำเมื่อระบำยสีบนกระดำษจะเห็นควำมใสของสีบนผิวกระดำษ 3. เวลำระบำยสีน้ำต้องรู้จักคอยจังหวะเวลำ เพื่อกำหนดควำมชุ่มเปียกของผิวกระดำษ 4. ใช้สีขำวผสมสีให้อ่อนหรือสว่ำงขึ้นและใช้สีดำผสมสีให้เข้มหรือมืดลง 9. ข้อใดไม่ใช่หลักกำรจัดองค์ประกอบศิลป์ 1. เอกภำพ 2. จินตนำกำร 3. ควำมสมดุล 4. จุดสนใจ 10.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของจิตรกรรมไทย 1. เป็นภำพเขียนแบบสองมิติ 2. แสดงควำมรู้สึกของภำพด้วยเส้นและท่ำทำง 3. แสดงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลด้วยสี 4. แสดงจุดสนใจโดยคำนึงถึงสัดส่วน
23.
11.ในคำร้องของเพลงสรรเสริญพระบำรมี “ข้ำวรพุทธเจ้ำ เอำมโนและศิระกรำน”
พยำงค์ใดตรงกับ จังหวะหนัก 1. พุทธ 2. และ 3. ศิ 4. กรำน 12.ถ้ำท่ำนจัดงำนเลี้ยงสังสรรค์ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อแสดงควำมยินดีในโอกำสที่ ญำติผู้ใหญ่ของท่ำนได้รับพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์ ชั้นสูง ซึ่งจะมีแขกมำร่วมงำนประมำณ 100 คน ท่ำนคิดว่ำควรใช้วงดนตรีประเภทใดบรรเลงในงำนนี้ 1. วงโยธวำทิต 2. วงขับร้องประสำนเสียง 3. วงสตริงควอร์เต็ต 4. วงซิมโฟนีออร์เคสตร้ำ 13.ข้อใดเป็นระดับเสียงของนักร้องหญิง 1. อัลโต 2. เทเนอร์ 3. บำริโทน 4. เบส 14.เครื่องดนตรีในข้อใดมักใช้เล่นเสียงประสำนเมื่ออยู่ในวงดนตรี 1. ฮอร์น 2. ฟลู้ต 3. คลำริเน็ต 4. ปิคโคโล 15.ข้อใดไม่ถูกต้องในกำรดูแลรักษำเครื่องดนตรี 1. ล้ำงปำกเป่ำทรัมเป็ตด้วยน้ำ 2. ล้ำงตัวเครื่องทรอมโบนด้วยน้ำ 3. ล้ำงตัวเครื่องแซกโซโฟนด้วยน้ำ 4. ล้ำงปำกเป่ำคลำริเน็ตด้วยน้ำ
24.
16.ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีของภำคกลำงทั้งหมด 1. ซอสำมสำย กระจับปี่
พิณน้ำเต้ำ 2. จะเข้ ซอด้วง พิณน้ำเต้ำ 3. จะเข้ กระจับปี่ พิณเพียะ 4. ซออู้ ซอด้วง ซอสำมสำย 17.ข้อใดกล่ำวถึงลักษณะของเพลงเถำไม่ถูกต้อง 1. เริ่มจำกทำนองที่ยำวไปหำทำนองที่สั้น 2. เริ่มจำกทำนองที่สั้นไปหำทำนองที่ยำว 3. เริ่มจำกอัตรำจังหวะช้ำไปหำอัตรำจังหวะเร็ว 4. บรรเลงโดยมีกำรขับร้อง หรือไม่มีกำรขับร้องก็ได้ 18.ลักษณะของเพลงหน้ำพำทย์ที่แตกต่ำงจำกเพลงประเภทอื่น คือ 1. ต้องมีบทร้องประกอบเสมอเมื่อมีกำรบรรเลง 2. ใช้ประกอบกำรแสดงระบำในกำรแสดงละคร 3. ใช้ในพิธีกรรม หรือประกอบกำรแสดง 4. ใช้เฉพำะเจ้ำนำยชั้นสูง หรือพระรำชพิธีเท่ำนั้น 19.ข้อใดคือลักษณะเด่นของดนตรีไทย 1. กำรขับร้องที่ต้องใช้เสียงสูงมำก 2. เครื่องตีที่ใช้มือตีทั้ง 2 ข้ำงตีประกอบกัน 3. กลองที่สำมำรถตีเป็นเสียงต่ำงๆ ได้ในใบเดียวกัน 4. เครื่องเป่ำ ที่สำมำรถเป่ำได้โดยไม่ต้องหยุดหำยใจ 20.ข้อใดกล่ำวถึงควำมสัมพันธ์ของดนตรีกับภำษำไทยได้ถูกต้องที่สุด 1. ลักษณะของร้อยกรองมีลักษณะใกล้เคียงลักษณะของดนตรี 2. คำในภำษำไทยทุกคำสำมำรถร้องได้ทุกระดับเสียงโดยควำมหมำยไม่เปลี่ยนแปลง 3. กำรเอื้อน คือ กำรใช้คำหลำยคำ เชื่อมโยงด้วยเสียงหลำยเสียง 4. เสียงในภำษำไทยไม่มีกำรเน้นกำรออกเสียงเฉพำะที่เหมือนภำษำอังกฤษ จึงไม่มีลักษณะของ เสียงดนตรี
25.
21.กำรจีบตำมหลักนำฏศิลป์ไทยที่ถูกต้องคือข้อใด 1. 2. 3. 4.
26.
22.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของระบำศิลปำชีพ 1. เป็นกำรอนุรักษ์ภูมิปัญญำท้องถิ่น 2. ได้รับอิทธิพลจำกวิถีกำรดำเนินชีวิต 3.
มุ่งเน้นกำรร่ำยรำตำมแบบแผน มีควำมประณีต 4. สะท้อนค่ำนิยม ประเพณีอันดีงำม 23.ข้อใดเป็นองค์ประกอบของละคร 1. เรื่องรำว + กำรแสดง + นักแสดง 2. เหตุกำรณ์ + นักแสดง + ผู้ชม 3. กำรแสดง + ศิลปะ + เรื่องรำว + นักแสดง + ผู้ชม 4. ศิลปะ + กำรแสดง + เรื่องรำว + ผู้กำกับ + นักแสดง + ผู้ชม 24.“...วิวัฒนำกำรมำจำกหนังใหญ่ ต่อมำใช้ตัวโขนสลับกำรเชิดหนังใหญ่ที่เรียกว่ำหนังติดตัวโขน เมื่อควำมนิยมเรื่องหนังใหญ่เลิกลงจึงนิยมแสดงโขนชนิดนี้...” จำกข้อควำม หมำยถึงกำรแสดงชนิดใด 1. โขนหน้ำจอ 2. โขนฉำก 3. โขนโรงนอก 4. โขนสลับฉำก 25.ข้อใดมีควำมสัมพันธ์กัน 1. รำมเกียรติ์ + รำศุภลักษณ์อุ้มสม + ปี่พำทย์เครื่องคู่ 2. อิเหนำ + ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์ + แต่งกำยยืนเครื่อง 3. ผู้ชนะสิบทิศ + ปี่พำทย์มอญ + พำกย์ชมดง 4. ผิดทุกข้อ 26.ข้อใดเป็นคุณลักษณะของนำฏศิลป์ในรำชสำนัก 1. คนงำม 2. รำงำม 3. เครื่องแต่งกำยงำม 4. ถูกทุกข้อ
27.
27.ข้อใดไม่สัมพันธ์กับสุนทรียภำพที่เกิดจำกกำรรับชมนำฏศิลป์ 1. โขนยกรบ -
ควำมยิ่งใหญ่ 2. ละครใน - ควำมละเมียดละไม 3. ละครนอก - ควำมกระฉับกระเฉง 4. กำยกรรม - ควำมอลังกำร 28.ข้อใดเป็นหลักของกำรวิจำรณ์ละครที่ดี 1. เลือกใช้ภำษำรุนแรงเพื่อเร้ำอำรมณ์ผู้ฟังหรือผู้อ่ำน 2. ติหรือชมเพื่อให้เกิดผลในทำงบวก 3. กำรเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นข้อบกพร่องอย่ำงชัดเจน 4. ถูกทุกข้อ 29.ข้อใดเป็นกำรใช้จินตนำกำรในกำรแสดงออกซึ่งควำมคิดโดยผ่ำนกำรแสดงละครได้อย่ำงเหมำะสม 1. พอลล่ำเล่ำเหตุกำรณ์ตื่นเต้นที่ตนประสบมำให้เพื่อนๆ ในห้องฟังพร้อมแสดงท่ำทำงประกอบเพื่อให้ เห็นภำพ 2. น้ำเชื่อมยืนเอำมือไพล่หลังเวลำพูดเพื่อไม่ให้ดูเกะกะ 3. ตุ้มติ้มทำท่ำทำงล้อเลียนเพื่อให้เกิดควำมอับอำย 4. ตุ๊กติ๊กแสดงท่ำทำงมั่นใจตลอดเวลำแม้ไม่มีใครมอง 30.ข้อใดเป็นกำรประยุกต์ใช้องค์ประกอบของนำฏศิลป์มำใช้ในกำรแสดงอย่ำงเหมำะสม 1. สมชำยนำบทละครเสภำเรื่องขุนช้ำงขุนแผนมำจัดแสดงเป็นละครเวทีเนื่องในวันภำษำไทย 2. สมศรีแต่งกำยยืนเครื่องพระ แสดงเป็นเจ้ำชำยในละครโรงเรียน 3. สมหวังจัดสร้ำงเครื่องแต่งกำยละครรำโดยไม่ศึกษำค้นคว้ำถึงที่มำก่อน 4. สมเกียรตินำละครนอกมำแสดงให้นักเรียนชั้นอนุบำลได้ชมฟรี
28.
ส่วนที่ 2 :
แบบระบำยคำตอบที่สัมพันธ์กันจำนวน4ข้อ : (ข้อ31-34): ข้อละ2คะแนน (รวม8คะแนน) ข้อ 31-34 จงพิจำรณำคำตอบจำกข้อมูลแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 คำตอบ ที่สัมพันธ์กันและเกี่ยวข้องกับโจทย์ให้ถูกต้องครบทุกกลุ่ม จึงจะได้คะแนน 31. กำรสร้ำงบรรยำกำศและกำรตกแต่งร้ำนอำหำรเหนือของไทย กลุ่ม กลุ่ม กลุ่ม 1. เครื่องปั้นดินเผำ 1. ฟ้อนสำวไหม 1. วงพิณแคน 2. ปลำตะเพียนสำน 2. ฟ้อนสำละวัน 2. วงมโหรี 3. ตัวหนังตะลุงประดับผนัง 3. รำวรเชษฐ์ 3. วงสะล้อ 4. ผ้ำปักชำวเขำประดับผนัง 4. ตำลียอเก็จ 4. รองเง็ง 5. เขำควำยประดับผนัง 5. ละครหุ่น 5. วงกำหลอ 32. กำรจัดกำรแสดงดนตรีและนำฏศิลป์ในงำนขึ้นบ้ำนใหม่ตำมประเพณีไทย กลุ่ม กลุ่ม 1. รำฉุยฉำย 1. วงปี่พำทย์นำงหงส์ 2. รำอวยพร 2. วงปี่พำทย์มอญ 3. ละครเรื่องพระเวสสันดรชำดก 3. วงเครื่องสำยปี่ชวำ 4. รำถวำยพระพร 4. วงบัวลอย 5. รำวงมำตรฐำน 5. วงเครื่องสำยผสมขิม 33. กำรแสดงถึงอำรมณ์โกรธ มีควำมสัมพันธ์กับข้อใด กลุ่ม กลุ่ม 1. ขำว 1. กระทืบเท้ำ 2. เหลือง 2. มือประสำนที่อก 3. เทำ 3. ก้มหน้ำลงมือประสำนที่หน้ำตัก 4. ชมพู 4. จีบที่มุมปำก 5. แดง 5. ฝ่ำมือแตะที่แก้ม CA B A B A B
29.
34. องค์ประกอบในข้อใดแสดงถึง “ควำมสมดุล” กลุ่ม
กลุ่ม 1. พระปฐมเจดีย์ 1. อนุสำวรีย์เทพีเสรีภำพ 2. สะพำนพระรำมแปด 2. กำแพงเมืองจีน 3. จิตรกรรมฝำผนัง 3. หอไอเฟิล 4. พระบรมรูปทรงม้ำ 4. หอเอนปิซ่ำ 5. ลำยกระหนก 5. สโตนเฮนจ์ ส่วนที่ 3 : แบบระบำยตัวเลือกมำกกว่ำ 1 ตัวเลือก : จำนวน 1 ข้อ : ข้อละ 2 คะแนน (รวม 2 คะแนน) 35.ข้อใดจัดเป็นกำรแสดงนำฏศิลป์ประยุกต์โดยใช้หลักองค์ประกอบศิลป์มำเป็นส่วนหนึ่งของกำรแสดง (มีคำตอบที่ถูกต้องมำกกว่ำ 1 ข้อ ต้องตอบให้ครบทุกข้อ) 1. กำรร่ำยรำ โดยใช้ผ้ำเส้นยำว เป็นส่วนประกอบกำรแสดง 2. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงอยู่หลังม่ำนขำว ผู้ชมเห็นเพียงเงำดำ 3. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงแต่งกำยสีสันไม่ซ้ำกัน 4. กำรร่ำยรำ โดยผู้แสดงถือพู่กันวำดภำพประกอบกำรแสดง A B
30.
ชุดที่ 2 ข้อสอบ
O-Net วิชา ศิลปะ 2553 ตอนที่ 1 ศิลปะ : จำนวน 12 ข้อ (รวม 20 คะแนน) ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 1-5) : ข้อละ 1.5 คะแนน (รวม 7.5 คะแนน) 1. ข้อใดไม่ใช่งำนศิลปะพื้นบ้ำน 1. เครื่องปั้นดินเผำด่ำนเกวียน 2. กำรทอผ้ำพื้นเมือง 3. กำรทำโอ่งมังกร 4. กำรเขียนภำพสีน้ำมัน 2. ข้อใดจัดเป็นงำนประติมำกรรมลอยตัวทั้งหมด 1. เจดีย์ / วัดพระแก้ว / เหรียญบำท 2. พระพุทธชินรำช / พระบรมรำชำนุสำวรีย์ / อนุสำวรีย์ชัยสมรภูมิ 3. เสำธงชำติ / ธนบัตร / อนุสำวรีย์ย่ำเหล 4. ป้ำยรถเมล์ / สะพำนลอย / รำงรถไฟฟ้ำ 3. กำรแปรอักษรบนอัฒจันทร์ใช้องค์ประกอบศิลป์ในเรื่องใดน้อยที่สุด 1. จุด 2. สี 3. น้ำหนัก 4. รูปทรง 4. ศิลปะไทยได้รับอิทธิพลมำจำกสิ่งใดมำกที่สุด 1. ธรรมชำติ 2. วัฒนธรรม 3. ศำสนำ 4. ประเพณี ปีการศึกษา
31.
5. ข้อใดเปรียบเทียบได้ไม่ถูกต้องเมื่อคำนึงถึงประเภทของเครื่องดนตรีที่ใช้ในวงเท่ำนั้น 1. วงมโหรีและวงออร์เคสตรำ 2.
ปี่พำทย์และวงซิมโฟนิกแบนด์ 3. วงเครื่องสำยประสมเปียโนและวงเปียนโนควอร์เต็ต 4. ปี่พำทย์ดึกดำบรรพ์และวงซิมโฟนิกแบนด์ ส่วนที่ 2 : แบบปรนัยหลำยตัวเลือก จำนวน 2 ข้อ (ข้อ 6-7) : ข้อละ 2.5 คะแนน (รวม 5 คะแนน) ข้อ 6-7 จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องให้ครบ 3 คำตอบ จึงจะได้คะแนน 6. เครื่องดนตรีในข้อใดใช้ในวงปี่พำทย์หรือวงออร์เคสตรำเท่ำนั้น 1. เครื่องกระทบ (Percussion) 2. เครื่องสำยใช้ดีด (Bowed string instrument) 3. เครื่องสำยใช้สี (Plucked string instrument) 4. เครื่องลมไม้ ( Woodwind instrument) 5. เครื่องลมทองเหลือง (Brass instrument) 7. องค์ประกอบของกำรบันทึกโน้ตสำกลในข้อใดไม่มีในดนตรีไทย 1. เส้นกั้นห้อง (Barline) 2. เครื่องหมำยโยงเสียง (Tie) 3. ตัวหยุด (Rest) 4. เครื่องหมำยกำหนดจังหวะ (Time Signature) 5. เครื่องหมำยย้อน (Repeat) ส่วนที่ 3 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 8-12) : ข้อละ 1.5 คะแนน (รวม 7.5 คะแนน) 8. ข้อใดแสดงทัศนคติที่ไม่เหมำะสมเกี่ยวกับกำรฟังหรือกำรเล่นดนตรี 1. สมชำยวิจำรณ์กำรแสดงของนักเปียโนให้เพื่อนฟังหลังจำกจบคอนเสิร์ต 2. สมชำยออกควำมเห็นว่ำไม่ชอบผลงำนเพลงของโมสำร์ต 3. สมชำยซ้อมหนักเพื่อให้กำรแสดงดนตรีของตนเองออกมำดี 4. สมชำยคิดว่ำตนเองเล่นดนตรีเก่งที่สุดในห้องเรียนจึงไม่ต้องฝึกซ้อมมำก
32.
9. ข้อใดถูกต้อง 1. โขนจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง 2.
ละครจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง 3. โขนและละครจัดเป็นรำชูปโภคอย่ำงหนึ่ง 4. โขนและละครไม่จัดเป็นรำชูปโภค 10.ข้อใดถูกต้องในรำวงมำตรฐำน 1. งำมแสงเดือน ท่ำรำ ชักแป้งผัดหน้ำ 2. ชำวไทย ท่ำรำ ยูงฟ้อนหำง 3. หญิงไทยใจงำม ท่ำรำ สอดสร้อยมำลำ 4. ดวงจันทร์ขวัญฟ้ำ ท่ำรำ ช้ำงประสำนงำ 11.ข้อใดไม่ถูกต้อง 1. โขนเป็นนำฏศิลป์ไทยโบรำณ 2. ผู้แสดงโขนสวมหัวปิดหน้ำทั้งหมด 3. เรื่องที่ใช้แสดงโขนเรื่องรำมเกียรติ์ 4. เพลงที่ใช้ประกอบกิริยำในกำรแสดงโขนและละครรำไทยเรียกว่ำเพลงหน้ำพำทย์ 12.ข้อใดถูกต้อง 1. พระบิดำของพระรำม คือ พระพรต 2. ลิงยอด คือ หนุมำน 3. ลิงยอด คือ สุครีพ 4. สมุนวำนรตัวแรกของพระรำม คือ องคต
33.
เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ
O-Net วิชา ทัศนศิลป์ ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ 1. 3 กำรวำดภำพโดยกำรตัดเส้น หรือวำดเส้นทับโครงร่ำงภำพเดิม โดยใช้สีดำ หรือสีเข้ม อื่นๆ มีจุดมุ่งหมำยเพื่อให้ภำพเด่นชัดและตกแต่งรำยละเอียดของภำพให้สมบูรณ์ ซึ่งนิยมใช้กับกำรวำดภำพประกอบเรื่องที่เป็นนิทำน วรรณคดี ละคร ภำพจินตนำกำร แต่กำรใช้เทคนิคนี้จะทำให้ภำพมีควำมแตกต่ำงจำกของจริงที่จะไม่ปรำกฏเส้น ขอบภำพออกมำให้เห็นอย่ำงชัดเจน 2. 2 กำรวำดภำพตัวละครให้เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ผู้วำดจะต้องวำดภำพที่สื่อให้เห็นถึง รูปแบบที่เรียบง่ำย สื่อสำรอำรมณ์และควำมรู้สึกได้ดี แต่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพำะของ ตัวละคร จึงจะทำให้ผู้ชมแยกแยะควำมแตกต่ำงของตัวละครแต่ละตัวได้ง่ำย 3. 1 โปสเตอร์ที่ดีจะต้องสะดุดตำแต่แรกเห็น อ่ำนง่ำย ผู้อ่ำนเข้ำใจสิ่งที่ต้องกำรจะสื่อได้ อย่ำงรวดเร็ว ทั้งนี้เพรำะผู้อ่ำนโปสเตอร์จะใช้เวลำดูไม่นำน ดังนั้นโปสเตอร์จึงไม่ ควรใช้ข้อควำมที่กำกวม ข้อควำมยำว หรือมีข้อควำมมำกเกินไป 4. 4 เพรำะวัฒนธรรมเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ และใน ขณะเดียวกันผลงำนทัศนศิลป์ก็ถ่ำยทอดลักษณะเรื่องรำวของวัฒนธรรมลงไปด้วย ในลักษณะที่มีควำมเกื้อหนุนกันจึงเป็นเหตุผลที่สะท้อนคำกล่ำวที่ว่ำผลงำน ทัศนศิลป์สำมำรถสะท้อนวัฒนธรรมได้ดีที่สุด 5. 2 เพรำะควำมรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อควำมงำมในธรรมชำติที่เห็นนั้นเป็นควำมรู้สึกที่ ประทับใจไม่รู้ลืม ควำมรู้สึกประทับใจจะทำให้เกิดควำมติดตำตรึงใจในภำพที่เห็น 6. 4 เนื่องจำกเป้ำหมำยหลักของกำรสร้ำงสัญลักษณ์ต่ำงๆ นั้น เพื่อกำรสื่อสำรควำมหมำย ให้มนุษย์เข้ำใจร่วมกัน ปฏิบัติร่วมกันได้อย่ำงถูกต้อง ดังนั้น ในกำรออกแบบ สัญลักษณ์ผู้ออกแบบควรคำนึงถึงกำรสื่อควำมหมำยของสัญลักษณ์มำกที่สุด โดยสัญลักษณ์นั้นต้องสำมำรถสื่อควำมหมำยได้อย่ำงชัดเจนให้ผู้ที่พบเห็นได้เข้ำใจ ตรงกัน 7. 3 เนื่องจำกงำนจิตรกรรมเป็นกำรเขียนภำพระบำยสี ซึ่งผลงำนอำจจะชำรุดเสียหำยได้ ถ้ำนำไปตั้งไว้ไม่ถูกที่ เช่น โดนน้ำฝน โดนแดด เป็นต้น ดังนั้น ผลงำนจิตรกรรม ทุกประเภทจึงไม่เหมำะกับกำรนำไปใช้ตกแต่งสวนสำธำรณะ
34.
8. 1 กำรออกแบบผลงำนทัศนศิลป์ บำงครั้งควำมขัดแย้งกับควำมกลมกลืนก็มีควำม เกี่ยวข้องกัน
เพรำะถ้ำส่วนมำกมีควำมกลมกลืนมำกเกินไป อำจทำให้ผู้ชมเกิด ควำมรู้สึกซ้ำซำก ไม่น่ำสนใจ ดังนั้น กำรออกแบบโดยกำรนำควำมขัดแย้งมำใช้ใน ภำพก็จะช่วยทำให้ผลงำนเด่นสะดุดตำ น่ำสนใจมำกยิ่งขึ้น 9. 4 งำนสื่อผสมเป็นผลงำนทัศนศิลป์ที่เกิดขึ้นจำกกำรนำเทคนิควิธีกำรที่หลำกหลำยมำ ผสมผสำนกัน เพื่อสร้ำงสรรค์เป็นผลงำนออกมำ ซึ่งผลงำนที่ออกกมำนั้นก็จะมีควำม แปลกตำและน่ำสนใจแตกต่ำงไปจำกงำนทัศนศิลป์ประเภทอื่นๆ 10. 3 กำรนำภำพซึ่งเป็นผลงำนจิตรกรรมอันเป็นงำนประเภทหนึ่งของงำนทัศนศิลป์มำใช้ ประดับตกแต่งบ้ำนให้น่ำดูให้มีสีสัน ช่วยดึงดูดสำยตำ ถือเป็นกำรนำเอำผลงำน ทัศนศิลป์มำใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ส่วนกำรใช้แสงไฟหลำกสีไม่ถือเป็น ผลงำนทัศนศิลป์ 11. 2 กำรสร้ำงผลงำนทัศนศิลป์ ไม่ว่ำจะเป็นรูปแบบใดก็ตำม ผู้สร้ำงสรรค์ล้วนได้รับ อิทธิพลหรือแบบอย่ำงมำจำกสิ่งแวดล้อมตำมธรรมชำติ เช่น กำรใช้สีเขียวในกำรวำด ใบไม้ กำรวำดรูปพระอำทิตย์เป็นวงกลมมีแสงสีสัน เป็นต้น 12. 4 เส้นแนวตั้งและเส้นแนวนอนเป็นหลักสำคัญในกำรบอกทิศทำงกำรหันใบหน้ำของ ตัวละครว่ำตัวละครจะหันใบหน้ำไปทำงซ้ำย หันไปทำงขวำ ก้มหน้ำ หรือเงยหน้ำ กำรจัดเส้นแนวตั้งและแนวนอนก็จะโค้งไปตำมรูปทรงของใบหน้ำ 13. 1 เพรำะหลักกำรออกแบบที่ดีนั้น ก็คือ กำรศึกษำจำกต้นแบบของจริงก่อนแล้วค่อยตัด ทอนเหลือเป็นโครงสร้ำงเด่นๆ ไว้ ซึ่งผู้ชมสำมำรถรับรู้ได้ว่ำเป็นดอกไม้ 14. 3 เพรำะข้อ 3. ระบุถึงทัศนธำตุต่ำงๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนข้อ 1. เป็นกำรกล่ำวถึงสิ่งที่มองเห็น ข้อ 2. เป็นกำรกล่ำวแบบเปรียบเทียบ ส่วนข้อ 4. เป็นกำรกล่ำวถึงควำมรู้สึกด้ำนควำม งำมที่ได้เห็นจำกภำพส้มโอ 15. 1 ควำมกลมกลืนช่วยให้กำรจัดองค์ประกอบศิลป์ เกิดกำรประสำนกลมกลืนสอดคล้อง สัมพันธ์เข้ำกันได้ จนกลำยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งควำมกลมกลืนมีทั้งควำม กลมกลืนของทัศนธำตุและควำมกลมกลืนของเนื้อหำสำระทั้งหมด 16. 3 เพรำะควำมเป็นเอกภำพในทำงศิลปะ คือ กำรจัดภำพให้เกิดควำมสัมพันธ์อยู่ในกลุ่ม เดียวกัน มีควำมสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ไม่กระจัดกระจำย หรือก่อให้เกิดควำมสับสน แม้จะมีส่วนแตกแยกไปบ้ำงก็เป็นเพียงส่วนประกอบย่อยเท่ำนั้น 17. 3 ในทำงทัศนศิลป์กำรระบำยสีมีหลักกำรที่สำคัญประกำรหนึ่งคือ สีบอกระยะ ใกล้-ไกล คือ สีเข้ม บอกระยะใกล้ สีอ่อน บอกระยะไกล ซึ่งจะทำให้ภำพเกิดควำม สวยงำม เกิดควำมสมจริงและมองเห็นเป็นมิติระยะใกล้-ไกล
35.
18. 2 เนื่องจำกเส้นแนวตั้ง หรือเส้นตั้ง
ดังเช่นรูปทรงของวัตถุที่เป็นแนวตั้ง เช่น ตึกทรง สูง เสำไฟฟ้ำ เป็นต้น จะให้ควำมรู้สึกในกำรมองว่ำมีควำมมั่นคง ตั้งมั่น แข็งแรง สง่ำงำม เป็นระเบียบ 19. 1 ขั้นตอนแรกของกำรวำดภำพตัวละครจำกวรรณคดีไทย คือ ผู้วำดต้องเลือกวรรณคดี ไทยเรื่องที่ตนเองชื่นชอบและควรอ่ำนเนื้อเรื่องโดยรวมก่อนทั้งเล่ม จนเกิดควำม เข้ำใจและเกิดมโนภำพของตัวละครที่จะวำด จำกนั้นจึงค่อยลงมือวำดภำพตัวละคร 20. 2 ศำสนำและควำมเชื่อเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ ประเภทต่ำงๆ โดยเฉพำะผลงำนที่มีควำมยิ่งใหญ่และมีควำมประณีต สวยงำม ศิลปิน และผู้ร่วมสร้ำงสรรค์ผลงำนจะต้องมีควำมเชื่อถือและควำมศรัทธำเป็นหลัก จึงจะมี พลังกำยและพลังใจที่จะสร้ำงสรรค์ผลงำนดังกล่ำวไว้เป็นมรดกของแผ่นดิน สืบต่อไป 21. 1 หน้ำที่ใช้สอย กล่ำวคือ ผลงำนทัศนศิลป์ทั้งไทยและสำกลสร้ำงขึ้นเพื่อนำไปใช้ ตอบสนองเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้ คือ เพื่อชื่นชม หรือเพื่อแสดงออกทำงควำมงำม ใช้ประดับตกแต่ง เพื่อเป็นที่เคำรพบูชำ หรือเพื่อเผยแผ่ศำสนำ 22. 1 อิทธิพลที่มีผลต่อกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยมีอยู่หลำยปัจจัยด้วยกัน แต่ปัจจัยที่เด่นชัดที่สุด คือ ปัจจัยด้ำนควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำงพระพุทธศำสนำ เพรำะผลงำนทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัยล้วนสร้ำงขึ้นเพื่อแสดงออกซึ่งควำม ศรัทธำต่อศำสนำ ผลงำนทัศนศิลป์ของไทยที่เกิดขึ้นจำกควำมเชื่อ ควำมศรัทธำทำง พระพุทธศำสนำเป็นจำนวนมำก เช่น วัด สถูป เจดีย์ พระพุทธรูป ภำพจิตรกรรม เป็นต้น 23. 4 งำนจิตรกรรมฝำผนังสมัยสุโขทัยสีที่ใช้จะเป็นแบบดำ แดง เรียกว่ำ “สีเอกรงค์” (Monochrome) ภำพเขียนที่สำคัญ คือ ภำพจิตรกรรมฝำผนังพระพุทธรูป ปำงมำรวิชัยในเจดีย์วัดเจดีย์เจ็ดแถว อำเภอศรีสัชนำลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นภำพที่ ได้รับอิทธิพลมำจำกศิลปะอินเดีย ลังกำและเขมรผสมผสำนกัน 24. 2 ผลงำนจิตรกรรมไทยในอดีตนิยมเขียนเกี่ยวกับพุทธประวัติจำกพระปฐมสมโพธิกถำ และเรื่องรำวทำงศำสนำ โดยจะนิยมเขียนขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชำตำมผนังโบสถ์ วิหำร ศำลำกำรเปรียญและผนังถ้ำ ทั้งนี้เพื่อประดับตกแต่งสถำนที่แล้วยังถือเป็นกำรเผยแผ่ ศำสนำในอีกทำงหนึ่งด้วย 25. 2 จิตรกรรมไทยถึงแม้ในแต่ละภำคจะมีวิธีกำรเขียน รูปแบบที่ใช้ คตินิยมในกำรสร้ำงที่ แตกต่ำงกันไป ทำให้ผลงำนที่แล้วเสร็จออกมำมีควำมแตกต่ำงกัน ดูแล้วสำมำรถจะ บอกได้ว่ำเป็นของภำคใด แต่เรื่องรำวที่นิยมนำมำวำดส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องรำว พุทธประวัติ หรือแสดงเรื่องรำวที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศำสนำ
36.
26. 3 จิตรกรรมไทย เป็นงำนศิลปะสำขำหนึ่งที่มีควำมงดงำมอย่ำงยิ่ง
แสดงถึงเอกลักษณ์ ทำงวัฒนธรรมของชำติ โดยทั่วไปแล้วกำรเขียนภำพจิตรกรรมไทย นิยมเขียนบน ผนังอำคำรทำงพุทธศำสนำ เช่น โบสถ์ วิหำร ศำลำกำรเปรียญ หอพระไตรปิฎก ผนังกรุ พระปรำงค์ หรือเจดีย์ เป็นต้น จึงมีกำรเรียกจิตรกรรมเหล่ำนี้ว่ำ “จิตรกรรม ฝาผนัง” มีจุดมุ่งหมำยเพื่อประดับตกแต่งพื้นผนังให้สวยงำมถวำยเป็นพุทธบูชำ โดยนิยมนำเรื่องรำวในพระพุทธศำสนำมำถ่ำยทอดเป็นภำพ เช่น พุทธประวัติ ชำดก ปริศนำธรรม เป็นต้น 27. 4 เพรำะประเพณีกำรแห่เทียนพรรษำเป็นประเพณีไทยที่ควรอนุรักษ์และสืบทอด ดังนั้น กำรที่ก้อยวำดภำพประเพณีกำรแห่เทียนพรรษำจึงถือเป็นกำรสร้ำงงำน ทัศนศิลป์ประเภทจิตรกรรมที่สะท้อนคุณค่ำของวัฒนธรรมไทย 28. 1 ศำสนำและควำมเชื่อเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อสถำปัตยกรรมของไทย ซึ่งจะ สังเกตได้ว่ำสถำปัตยกรรมไทยที่เกี่ยวเนื่องกับศำสนำและควำมเชื่อจะมีอยู่มำกมำย ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เช่น วัด โบสถ์ วิหำร เป็นต้น และมีลักษณะที่ไม่ แตกต่ำงกันมำกนัก โดยจะมีกำรพัฒนำรูปแบบมำอย่ำงต่อเนื่องยำวนำน รวมทั้ง ได้รับกำรสร้ำงสรรค์จำกช่ำงฝีมือที่มีควำมเชี่ยวชำญ เพรำะเชื่อว่ำจะได้อำนิสงส์ ผลบุญอย่ำงมำก 29. 1 สถำปัตยกรรมมีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้ำงที่สร้ำงขึ้นอย่ำงงดงำมผ่ำนกระบวนกำร ออกแบบ เขียนแบบ วำงแผนและก่อสร้ำง มีควำมมั่นคงแข็งแรง โดยสร้ำงขึ้นเพื่อ ประโยชน์ใช้สอยในด้ำนต่ำงๆ ทั้งประดับตกแต่ง หรือเพื่อเป็นศำสนสถำน 30. 4 ผลงำนทัศนศิลป์ที่เป็นสำกล แม้จะมีต้นแบบมำจำกศิลปะตะวันตกก็ตำม แต่ก็ได้มี กำรพัฒนำจนกลำยเป็นศิลปะร่วมของคนทั้งโลก ไม่ได้เป็นของชำติใดชำติหนึ่ง ไม่มี รูปแบบที่ตำยตัว มีลักษณะร่วมกันที่ผู้คนทั่วโลกดูแล้วสำมำรถทำควำมเข้ำใจได้ สอดคล้องตรงกัน 31. 4 ศิลปะสำกลเป็นศิลปะที่ผสมผสำนแนวคิด รูปแบบ หรือสไตล์จำกศิลปะสกุลต่ำงๆ จนออกมำเป็นศิลปะสำกลที่มีควำมเป็นนำนำชำติ ไม่สื่อว่ำเป็นของชำติใด หรือ ศิลปะสกุลใดโดยเฉพำะ แม้จะมีรำกฐำนมำจำกศิลปะตะวันตกก็ตำม ทำให้ผู้คนจำก ทุกวัฒนธรรมดูแล้วมีควำมเข้ำใจตรงกัน 32. 2 ผลงำนทัศนศิลป์เป็นภำษำกลำงที่ผู้คนทุกชำติ ทุกภำษำ ทุกสังคม เมื่อมองดูแล้ว สำมำรถจะเข้ำใจควำมหมำยของภำพได้ว่ำ ศิลปินต้องกำรจะสื่ออะไร รำยละเอียด ของผลงำนเป็นอย่ำงไร มีควำมสวยงำมมำกน้อยเพียงใด ถึงแม้จะไม่มีกำรเขียน บรรยำย หรือคำพูดเปล่งออกมำ ทุกคนก็สำมำรถรับรู้เรื่องรำวได้ 33. 3 กำรประเมินผลงำนทัศนศิลป์ให้มีประสิทธิภำพนั้น ผู้ประเมินจะต้องมีกำรกำหนด
37.
หลักกำรและตัวบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นและจุดด้อยของผลงำนขึ้นมำเสียก่อน เพื่อจะได้มีกรอบ หรือประเด็นที่จะประเมินว่ำจะต้องมีเกณฑ์จำกอะไร กำรประเมินผลงำนจึงจะเป็นไปอย่ำงมีคุณภำพและรอบคอบ 34. 4 เพรำะกำรวิจำรณ์ผลงำนศิลปะจะต้องเป็นไปเพื่อกำรแก้ไขและปรับปรุงผลงำน พัฒนำงำนให้ดีขึ้น
ก้ำวหน้ำขึ้น แต่ไม่ใช่กำรตำหนิผลงำนจนทำให้ผู้สร้ำงสรรค์ ผลงำนเกิดควำมท้อแท้ หมดกำลังใจในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนต่อไป ดังนั้น กำรวิจำรณ์ผลงำนศิลปะอย่ำงในข้อ 4. จึงไม่ถูกต้องและไม่ควรกระทำอย่ำงยิ่ง 35. 3 กำรวิจำรณ์เพื่อประเมินงำนทัศนศิลป์ต้องคำนึงถึงกำรคิดวิเครำะห์ผลงำนอย่ำงมี เหตุผล ทั้งนี้กำรวิจำรณ์อย่ำงมีเหตุผลจะทำได้ก็ต้องอำศัยควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ตำมประสบกำรณ์ของแต่ละบุคคล 36. 3 เพรำะระบุถึงส่วนประกอบ หรือปัจจัยของกำรมองเห็นในเบื้องต้น ซึ่งหมำยถึง ลักษณะของทัศนธำตุต่ำง ๆ 37. 1 เนื่องจำกผลงำนกำรใช้สีที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน ใช้สีเดียวที่มีน้ำหนักอ่อน-แก่ สีโดยรอบทั้งหมดประสำนกลมกลืนกัน 38. 2 เพรำะเส้นทั้ง 3 เส้นที่มำต่อกันเป็นภำพสองมิติ คือ มีควำมกว้ำงและควำมยำว ไม่มี ควำมหนำ ไม่ปรำกฏแสงเงำ สีและผิวพื้นแต่อย่ำงใด 39. 1 หลักกำรสร้ำงที่ว่ำงลวงตำใช้วิธีเดียวกันกับกำรสร้ำงภำพให้มีระยะ เป็นลักษณะ ทัศนียภำพเหมือนที่ตำเรำมองเห็นวัตถุ หรือสิ่งแวดล้อมธรรมชำติในโลกควำมจริง 3 มิติ เมื่อมีระยะ มีควำมลึก ก็จะเกิดช่องว่ำงระหว่ำงวัตถุ หรือช่องที่เป็นระยะห่ำงขึ้น เป็นที่ว่ำงในระนำบ 2 มิตินั่นเอง 40. 2 นักวิชำกำรทัศนศิลป์ชำวตะวันตก เห็นพ้องกันว่ำ ผลงำนทัศนศิลป์ “แนวอิมเพรส- ชันนิสม์” คือ จุดเริ่มต้นของทัศนศิลป์สมัยใหม่ เพรำะภำพผลงำนจิตกรรมที่สร้ำงขึ้น จะหลุดออกไปจำกกลวิธีและหลักทำงควำมงำมแบบดั้งเดิม ที่ถือว่ำควำมงำม คือ ควำมเรียบร้อยไปสู่ผลงำนที่มีเทคนิคกำรป้ำยสีอย่ำงหยำบ โดยไม่เกลี่ยให้กลมกลืน และเนื้อหำก็ไม่ได้พันธนำกำรไว้กับเรื่องรำวของศำสนำคริสต์ เทพเจ้ำ หรือบุคคล ชั้นสูงอีกต่อไป
38.
เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ
O-Net วิชา ดนตรี ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ 1. 2 เพรำะเพลงโหมโรง เป็นเพลงที่ใช้เบิกโรง เพื่อเป็นกำรประกำศให้ผู้คนทรำบว่ำที่นี่ มีงำนอะไร และเพื่ออัญเชิญเหล่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลำยทั้งปวงให้มำชุมนุมกันภำยใน งำน เพื่อควำมเป็นสิริมงคลในงำนนั้นอีกด้วย 2. 3 เพรำะเป็นของที่มีควำมหมำยที่ดี คือ ดอกมะเขือ เป็นสัญลักษณ์ของควำมเคำรพ ควำมอ่อนน้อมถ่อมตน หญ้ำแพรก เป็นสัญลักษณ์ของควำมมีระเบียบวินัย ดอกเข็ม เป็นสัญลักษณ์ของควำมมีสติปัญญำเฉียบแหลมประดุจดังเข็ม ซึ่งนับว่ำเป็นสัญลักษณ์ที่ให้ควำมหมำยของกำรแสดงออกถึงกำรเป็นศิษย์ที่ดีของครู ได้ครบถ้วนในด้ำนกำรฝำกตัวเป็นศิษย์ ควำมกตัญญูกตเวทีและกำรขอพรให้ เจริญรุ่งเรือง 3. 2 เพรำะในกำรฝึกขับร้องเพลงไทยเบื้องต้น ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ในเรื่องของกำรใช้ กำลังเสียง และกำรผ่อนลมหำยใจ คือ ต้องออกเสียงดังอย่ำงเต็มที่ในช่วงระยะลม หำยใจแต่ละช่วง เพื่อให้ออกเสียงได้ชัดเจน ไม่ขึ้นจมูก และกำรผ่อนลมหำยใจ จะต้องรู้ระยะ กำรผ่อนในแต่ละวรรค แต่ละช่วง กำรร้องเพลงให้เสียงดีนั้นขึ้นอยู่กับ วิธีกำรหำยใจที่ถูกต้อง เพรำะในขณะหำยใจลมจะผ่อนหลอดเสียงทำให้เกิดเป็น เสียงต่ำงๆ ถ้ำเรำหำยใจได้อย่ำงสม่ำเสมอเสียงร้องเพลงก็จะสม่ำเสมอด้วย 4. 2 เพรำะกำนล คือ เครื่องคำนับ หรือเครื่องบูชำครู ในกำรไหว้ครูดนตรีไทยจะมีกำร เตรียมขัน 5 กำนล 6 ขัน คือ กำรนำสิ่งของรวม 5 อย่ำง ได้แก่ ขัน ดอกไม้ ธูป 5 ดอก เทียนไข และผ้ำขำว 1 ผืน พร้อมกับเงินกำนล 6 บำท สิ่งของทั้งหมดนี้ ครูผู้ทำพิธีจะ ใช้บูชำครูเทพสังคีตำจำรย์ เพื่อขออนุญำตและประสิทธิ์ประสำทควำมเป็นสิริมงคล ในกำรเรียนให้แก่ศิษย์ต่อไป 5. 3 เพรำะวงมโหรีเครื่องใหญ่ เป็นวงดนตรีไทยที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีครบ ทุกประเภทเช่นเดียวกับวงออร์เคสตรำของดนตรีสำกล 6. 1 เพรำะโหวดและปี่ใน จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่ำเหมือนกัน โหวด เป็น เครื่องดนตรีพื้นบ้ำนอีสำน มีรูปร่ำงเป็นทรงกระบอก ส่วนปี่ใน จัดเป็นปี่ที่มีขนำด
39.
ใหญ่และมีเสียงต่ำ มีลักษณะเป็นปี่ท่อนเดียว ที่เรียกว่ำ
“ปี่ใน” ก็เพรำะว่ำ ปี่ชนิดนี้ เทียบเสียงตรงกับระดับเสียงที่เรียกว่ำ “เสียงใน” ซึ่งเป็นระดับเสียงที่วงปี่พำทย์ ไม้แข็งบรรเลง 7. 1 เพรำะเป็นจังหวะหน้ำทับปรบไก่ชั้นเดียวของดนตรีไทยที่มีระดับเร็ว คือ เร็วกว่ำ 2 ชั้น เท่ำตัว หรือเร็วกว่ำ 3 ชั้น 4 เท่ำ ซึ่งจะเรียกหน้ำทับและเรียกเพลงที่มีจังหวะ เช่นนี้ว่ำหน้ำทับชั้นเดียว 8. 1 เพรำะดนตรีจะช่วยถ่ำยทอดอำรมณ์ต่ำงๆ ของตัวละคร ว่ำตัวละครกำลังอยู่ในภำวะ ใด เช่น ตัวละครกำลังแสดงควำมรัก ก็จะใช้เพลงโลม ถ้ำกำลังร้องไห้ ก็จะใช้เพลง โอด ถ้ำกำลังเสียใจก็จะใช้เพลงทยอย เป็นต้น 9. 1 เพรำะบทประพันธ์ได้กล่ำวถึงกำรจะตัดใจในสิ่งอื่นๆ นั้นสำมำรถตัดใจได้ง่ำย แต่ กำรตัดใจจำกคนรักนั้นยำกยิ่งกว่ำ ซึ่งมีควำมสอดคล้องกับเพลงลำวดวงเดือน ที่มี เนื้อหำแสดงถึงอำรมณ์ควำมคิดถึงคะนึงหำหญิงอันเป็นที่รัก 10. 2 เพรำะกีตำร์ จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสำย ทูบำ จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภท เครื่องเป่ำลมทองเหลือง และออร์แกน จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลิ่มนิ้ว 11. 2 เพรำะเพลงตระบองกัน เพลงเสมอข้ำมสมุทร เพลงเชิดฉำน จัดอยู่ในประเภท เพลงโหมโรง คือ เพลงที่บรรเลงเพื่อเป็นกำรประกำศให้รู้ว่ำขณะนี้งำนดังกล่ำว กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วและเป็นกำรบรรเลงเพื่อเคำรพสักกำระครูอำจำรย์และอัญเชิญ เทพยดำมำยังสถำนมงคลพิธี ส่วนคำตอบข้อ 1, 3, 4 จัดเป็นเพลงตับเรื่อง คือ เพลง ที่นำมำรวมร้องและบรรเลงติดต่อกัน มีบทร้องที่เป็นเรื่องเดียวกันและดำเนินไปโดย ลำดับ ฟังแล้วรู้เรื่องโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ 12. 2 เพรำะเพลงพระรำชนิพนธ์พรปีใหม่ มีจังหวะรวดเร็ว สนุกสนำน นิยมบรรเลงด้วย เสียงเบำและให้อำรมณ์ด้ำนบวก 13. 1 เพรำะจำกเนื้อเพลงเป็นกำรกล่ำวถึงหญิงอันเป็นที่รัก โดยเปรียบเทียบควำมงำมของ ผู้หญิงว่ำเป็น “เพชร” ดังนั้น ผู้ฟังเพลงจะได้รับรสทำงวรรณศิลป์ทำให้เกิด ควำมรู้สึกรัก 14. 1 เพรำะเพลงทยอย เป็นเพลงบรรเลงที่แสดงถึงควำมเศร้ำโศก เสียใจ นิยมนำมำใช้ บรรเลงประกอบกำรแสดงโขน ละคร เช่น กำรแสดงละครเรื่องพระเวสสันดรชำดก ตอนพระนำงมัทรีเดินร้องไห้ตำมหำพระกุมำรทั้งสอง ดนตรีจะบรรเลงเพลงทยอย เพื่อสื่อให้เห็นอำรมณ์โศกเศร้ำของตัวละคร เป็นต้น 15. 3 เพรำะกำรลดสำยของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสีลงหลังจำกกำรใช้งำนเสร็จ เรียบร้อย จะเป็นกำรยืดเวลำในกำรใช้งำนของเครื่องดนตรีให้มีควำมยำวนำนมำก
40.
ยิ่งขึ้น และจะเป็นกำรช่วยถนอมส่วนประกอบอื่นของเครื่องดนตรี เช่น
หนังหน้ำ กะโหลกซอ เพรำะถ้ำสำยตึงอยู่ตลอดเวลำ สำยอำจจะขำดได้ นอกจำกนี้จะทำให้ หนักหน้ำกะโกลกซอหย่อน เพรำะถูกหย่อง หรือหมอนกดอยู่ตลอดเวลำ เป็นต้น 16. 3 บทเพลงที่ร้องประกอบกับดนตรีพื้นบ้ำนของภำคเหนือจะมีควำมนุ่มนวล และ อ่อนหวำน ตำมลักษณะนิสัยของชำวเหนือที่ส่วนใหญ่จะมีนิสัยอ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใส มีน้ำใจไมตรี 17. 3 เพรำะสภำพภูมิอำกำศและภูมิประเทศเกิดกำรเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ ทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงดนตรีในประเทศไทย 18. 2 เพรำะเพลงสำธุกำร เป็นเพลงหน้ำพำทย์ชั้นสูงเพลงหนึ่ง นิยมนำมำใช้สำหรับ พิธีกำรมงคลต่ำงๆ เป็นเพลงแรกในกำรบรรเลงโหมโรง ซึ่งถือว่ำเป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์ ที่จะนำควำมมงคลมำสู่ทั้งผู้ฟัง ผู้บรรเลง ผู้แสดงและสถำนที่ 19. 2 เพรำะเพลงปลุกใจของไทยเริ่มขึ้นในสมัยพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว 20. 4 เพรำะจำกข้อควำมที่ได้อ่ำนนี้ เป็นเนื้อเพลงเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกำสที่ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษำ 80 พรรษำ ในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นกำรแสดงควำมจงรักภักดีต่อสถำบันพระมหำกษัตริย์ผ่ำนบทเพลงที่มีชื่อว่ำ “เพลงรูปที่มีทุกบ้าน” คำร้องโดยนิติพงษ์ ห่อนำค ทำนองโดยอภิไชย เย็นพูนสุข และขับร้องโดยธงไชย แมคอินไตย์ 21. 4 เพรำะเพลงควำมฝันอันสูงสุด และเพลงแผ่นดินของเรำจัดเป็นเพลงพระรำชนิพนธ์ ในพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิอดุลยเดช ทั้ง 2 เพลง แต่เพลงควำมฝัน อันสูงสุดก็สำมำรถนำมำขับร้องเพื่อใช้เป็นเพลงปลุกใจได้ 22. 3 เพรำะเพลงพระรำชนิพนธ์แสงเทียนจัดเป็นเพลงบลูส์ที่มีกำรแฝงปรัชญำชีวิต และ เนื้อหำที่แฝงธรรมเกี่ยวกับควำมไม่เที่ยงของสังขำร 23. 1 เพรำะเป็นกำรแต่งเพลงที่นำปัจจัยภำยนอก เช่น สภำพสังคม กำรเมือง กำรปกครอง เศรษฐกิจ ขนบธรรมเนียม ประเพณี พิธีกรรม ควำมเชื่อ เป็นต้น มำสร้ำงสรรค์เป็น บทเพลง 24. 3 เพรำะเสียงที่นำมำใช้ในกำรแต่งเพลงให้เกิดอำรมณ์ต่ำงๆ จะต้องใช้เสียงในระดับ เดียวกัน เช่น เพลงที่ต้องกำรเน้นควำมสนุกสนำน จะต้องใช้เสียงที่อยู่ในระดับ ปำนกลำง ไม่สูง หรือไม่ต่ำจนเกินไป มีกำรสลับเสียงสูง-ต่ำ เพื่อเป็นกำรสร้ำงสรรค์ ให้แก่บทเพลง เป็นต้น
41.
25. 2 เพรำะกำรที่ผู้ขับร้องเพลงไม่สำมำรถควบคุมสมำธิได้นั้น
จะทำให้ไม่สำมำรถ ถ่ำยทอดอำรมณ์เพลงออกมำได้ดี และกำรที่สำยตำของผู้ขับร้องไม่หยุดนิ่งอยู่กับ ผู้ฟังนั้น ก็จัดเป็นกริยำที่ไม่สุภำพและไม่ควรปฏิบัติ ผู้ขับร้องควรทำสีหน้ำให้ปกติ สำยตำมองอยู่ที่ผู้ชมจึงจะมีควำมเหมำะสมมำกกว่ำ 26. 4 เพรำะเนื้อหำเพลงแสดงให้เห็นถึงควำมโศกเศร้ำ เสียใจ ซึ่งเป็นเนื้อเพลงธรณีร้องไห้ บทเพลงซึ่งประกอบอยู่ในบทร้องตับเพลงต้นเพลงฉิ่ง โดยนำบทร้องมำจำก บทละครเรื่องพระรถเสนของเก่ำในตอนที่นำงเมรีตื่นมำไม่พบพระรถเสนที่หนีไปก็ เกิดควำมโศกเศร้ำ เสียใจ 27. 2 เพรำะเป็นเพลงไทยอัตรำจังหวะ 2 ชั้น และชั้นเดียว ทำนองเพลงของเก่ำสมัยอยุธยำ ซึ่งถูกรวบรวมไว้อยู่ในเพลงประเภทสองไม้และเพลงเร็วเรื่องเต่ำกินผักบุ้ง 28. 4 เพรำะผู้บรรเลงเพลง เป็นบุคคลซึ่งทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรถ่ำยทอดอำรมณ์ ควำมรู้สึกที่สอดแทรกในบทเพลงให้แก่ผู้ฟังได้รับรู้และสัมผัสถึงควำมไพเรำะและ ควำมงดงำมของเสียงดนตรีที่บรรเลง 29. 2 เพรำะกำรหำยใจเข้ำออกเนื่องจำกกำรร้องเพลง ต้องอำศัยลมในกำรเปล่งเสียง ดังนั้น กำรหำยใจเข้ำออกจึงมีควำมสำคัญในกำรร้องเพลงเพรำะเกี่ยวข้องกับกำรหมุนเวียน ของลมในร่ำงกำย กำรหำยใจเข้ำออกให้สอดคล้องกับกำรร้องเพลง จึงมีส่วนช่วย ทำให้ร้องเพลงได้ดีขึ้น 30. 4 เพรำะจัดเป็นเครื่องดนตรีสำกลประเภทตี ประเภทที่มีระดับเสียงไม่แน่นอน
42.
เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ
O-Net วิชา นาฏศิลป์ ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ 1. 1 เพรำะเป็นกำรรำที่มีผู้แสดงเพียงคนเดียว มีจุดมุ่งหมำยเพียงอวดฝีมือในกำรร่ำยรำ หรือเป็นกำรแสดงสลับฉำก เพื่อรอจัดฉำก หรือรอตัวละครอื่นๆ ที่ยังแต่งกำยไม่ เรียบร้อย กำรรำเดี่ยวบำงครั้งก็นำมำแสดง “เบิกโรง” 2. 4 เพรำะในบทประพันธ์กล่ำวถึงภูมิประเทศ ป่ำเขำลำเนำไพร สัตว์ป่ำ ซึ่งกำรพำกย์ ชมดงจะเป็นกำรพำกย์เกี่ยวกับกำรชมป่ำเขำลำเนำไพร 3. 2 เพรำะในช่วงรัชสมัยที่ 7 มีกำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครอง ซึ่งรัฐบำลได้เข้ำมำควบคุม เกี่ยวกับกำรแสดงออกทำงด้ำนศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้เป็นเหตุผลทำงด้ำนควำมมั่นคง ดังนั้นกำรแสดงดนตรีนำฏศิลป์จึงได้เปลี่ยนแปลงไปตำมนโยบำยของรัฐบำล 4. 3 เพรำะกำรแสดงฟ้อนภูไท ฟ้อนเก็บฝ้ำย ฟ้อนตังหวำย จัดเป็นกำรแสดงพื้นบ้ำนของ ภำคอีสำน 5. 1 เพรำะจำกข้อควำม คือ เพลงยวนยำเหล ซึ่งจัดเป็นเพลงรำโทน สังเกตได้จำกกำรใช้ ภำษำที่เรียบง่ำย เนื้อร้องเป็นเชิงเย้ำแหย่ หยอกล้อ เกี้ยวพำรำสีกันระหว่ำงหนุ่มสำว 6. 3 เพรำะกำรแสดงนำฏศิลป์พื้นเมืองโดยส่วนใหญ่ เป็นกำรแสดงที่เน้นถึงกำรสร้ำง ควำมสำมัคคีของคนในท้องถิ่น กำรทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้ำงควำมสนุกสนำน รื่นเริงใจ แต่ไม่ใช่เพื่อประกอบพิธีกรรม 7. 4 เพรำะในกำรแสดงเซิ้งแหย่ไข่มดแดงนั้น จะใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้ำนทำทำนองเพลง ประกอบกำรแสดง คือ ลำยสุดสะแนนและลำยเซิ้งบั้งไฟ ไม่มีเนื้อร้อง จึงไม่ได้สื่อถึง ภูมิปัญญำท้องถิ่นในเรื่องภำษำท้องถิ่นอีสำน 8. 3 เพรำะหัวโขนแต่ละประเภทมีควำมแตกต่ำงกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ชมเข้ำใจได้ว่ำ ตัวละคร ที่สวมหัวโขนอยู่นั้นแสดงเป็นตัวละครใด เช่น ทศกัณฐ์ จะสวมหัวโขนที่มีลักษณะ เป็นหน้ำยักษ์ 3 ชั้น คือ ชั้นแรกมีหน้ำปกติ 1 หน้ำ และมีหน้ำเล็กๆ เรียงกัน 3 หน้ำ ตรงท้ำยทอย ชั้นที่ 2 ทำเป็นหน้ำเล็กๆ 4 หน้ำ เรียง 4 ด้ำน ชั้นที่ 3 ทำหน้ำเป็นพรหม ด้ำนหน้ำ หน้ำยักษ์ด้ำนหลัง ปำกแสยะ ตำโพลง สวมมงกุฎยอดชัย เป็นต้น 9. 3 เพรำะในบทร้องกล่ำวถึงคำว่ำพำดผ้ำ ซึ่งคำว่ำ “พาดผ้า” เป็นชื่อเรียกอีกอย่ำงหนึ่ง ของกำรรำเหย่อย
43.
10. 3 เพรำะในบทประพันธ์ได้กล่ำวถึงอำรมณ์โกรธ
ซึ่งนักแสดงจะต้องตีบทออกมำเป็น ภำษำท่ำ เพื่อสื่อควำมหมำยให้ผู้ชมเข้ำใจ คือ ใช้ฝ่ำมือข้ำงใดข้ำงหนึ่งถูที่ก้ำนคอ บริเวณใต้ใบหูไปมำ พร้อมทั้งกระทืบเท้ำลงที่พื้นอย่ำงแรง 11. 3 เพรำะในกำรแสดงชุดหนึ่งๆ นักแสดงจะต้องมีควำมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น กำรร่ำยรำมีควำมสวยงำม มีควำมพร้อมเพรียงกัน เป็นต้น 12. 3 เพรำะนำฏศิลป์ไทยมีกำรเปลี่ยนแปลงท่ำรำได้ ยกเว้นกำรรำที่เป็นแบบมำตรฐำน จะไม่สำมำรถเปลี่ยนแปลงท่ำรำได้ เช่น ระบำดำวดึงส์ ระบำกฤดำภินิหำร ระบำ เทพบันเทิง ระบำโบรำณคดี เป็นต้น 13. 4 เพรำะกำรโฆษณำขำยอุปกรณ์กำรแสดงนำฏศิลป์พื้นบ้ำนตำมสื่อต่ำงๆ ไม่ใช่วิธีกำร เผยแพร่นำฏศิลป์พื้นบ้ำน แต่เป็นกำรค้ำขำยในเชิงธุรกิจ 14. 1 เพรำะฉำกมีควำมสวยงำมและยิ่งใหญ่อลังกำร เหมำะสำหรับนำมำใช้ประกอบ กำรแสดงละครใน เช่น กำรแสดงเรื่องรำมเกียรติ์ เป็นต้น นอกจำกนี้กำรแต่งกำยของ กำรแสดงละครในยังมีควำมสวยงำมตระกำรตำ ถ้ำนำมำรวมกันแล้วก็จะทำให้ กำรแสดงมีควำมสวยงำมมำกขึ้น 15. 1 เพรำะกำรละครไทยมีมำตั้งแต่สมัยโบรำณ เป็นศิลปะและเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงเห็น ถึงควำมเป็นไทย ถึงแม้ว่ำกำรแสดงนั้นๆ จะได้รับอิทธิพลจำกชำติมำ แต่ก็ได้มี กำรดัดแปลง ปรับปรุงจนเป็นลักษณะของไทย 16. 3 เพรำะผู้ที่จะแสดงเป็นตัวนำงนั้นควรมีรูปหน้ำที่กลม ช่วงคอยำว ไหล่ลำด ขำทั้ง 2 ข้ำงๆ ไม่โก่งงอ ผิวพรรณสะอำดและต้องมีสัดส่วนที่สันทัดกว่ำตัวพระ 17. 4 เพรำะตำรีกีปัสจะมีลีลำท่ำรำที่มีลักษณะเอกลักษณ์เฉพำะ คือ กำรเล่นเท้ำ แตะเท้ำ ซึ่งมีควำมเข้ำใจกันว่ำน่ำจะเป็นชุดกำรแสดงที่สร้ำงสรรค์ขึ้นโดยใช้ท่ำรำของรองเง็ง เป็นพื้นฐำน เนื่องจำกมีกำรเล่นเท้ำ ยักย้ำยส่ำยสะโพกเช่นเดียวกัน 18. 2 เพรำะเต้นกำรำเคียว เป็นเพลงพื้นบ้ำนของชำวไทยภำคกลำง ซึ่งชำวนำนิยมร้องเล่น กันตำมท้องนำในฤดูเก็บเกี่ยวข้ำว เพื่อสร้ำงควำมบันเทิงและควำมสนุกสนำน โดย ผู้เล่นจะเป็นชำย-หญิง มือหนึ่งถือเคียว มือหนึ่งถือรวงข้ำว ร้องรำกันอย่ำงสนุกสนำน โดยพ่อเพลงจะร้องชวนแม่เพลงก่อน แล้วลูกคู่จึงร้องรับ 19. 4 เพรำะมหรสพ คือ กำรแสดงที่จะต้องขออนุญำตจำกฝ่ำยบ้ำนเมืองก่อนจึงจะสำมำรถ จัดแสดงได้ เช่น ละครไทย งิ้ว หุ่นไทย หนังไทย หนังตะลุง ลิเก กลองยำว เป็นต้น ส่วนผีตำโขนนั้นจัดเป็นประเพณีหนึ่งในงำนบุญประเพณีใหญ่ หรือที่เรียกว่ำ “งานบุญหลวง” หรือ “บุญผะเหวด” ซึ่งตรงกับเดือน 7 เป็นกำรละเล่นที่ถือเป็น ประเพณีที่มีควำมเกี่ยวโยงกับงำนบุญพระเวส หรือเทศน์มหำชำติ จัดที่อำเภอ ด่ำนซ้ำย จังหวัดเลย
44.
20. 2 เพรำะกำรรำโทน
จะใช้โทนตีประกอบจังหวะในกำรรำ ต่อมำจึงมีกำรเพิ่มกรับและ ฉิ่ง แต่ยังไม่มีกำรขับร้องประกอบในกำรรำ จะรำไปตำมจังหวะโทนเพียงอย่ำงเดียว 21. 2 เพรำะในกำรสร้ำงละคร ผู้ประพันธ์จะต้องแปลงบทละครที่เป็นตัวอักษรให้เป็น กำรแสดง โดยต้องสร้ำงจินตนำกำรเข้ำมำเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้กำรแสดง สำมำรถถ่ำยทอดเรื่องรำวออกมำได้อย่ำงสมบูรณ์ 22. 1 เพรำะบทละครเป็นสิ่งที่นักแสดงทุกคนควรต้องศึกษำให้เข้ำใจอย่ำงถ่องแท้ เพื่อให้ สำมำรถแสดงบทบำทได้อย่ำงถูกต้อง ตรงตำมลักษณะของตัวละครที่ผู้ประพันธ์ได้ แต่งไว้ 23. 1 เพรำะแผลเก่ำ คือ ละครที่สะท้อนให้เห็นถึงควำมรักของหนุ่มสำวที่ไม่สมหวัง ในบทละครจะกล่ำวถึงท้องทุ่งบำงกะปิ มีตัวละครที่สำคัญ คือ ขวัญและเรียม ฉำกวิถี ชีวิตชำวชนบท มีกระท่อมทุ่งนำ วัว ควำย แม่น้ำ จึงมีควำมเหมำะสมมำกที่สุด 24. 2 เพรำะเพลง หรือดนตรีถือว่ำเป็นองค์ประกอบสำคัญในกำรเชื่อมฉำก กำหนดอำรมณ์ ของตัวละคร ทำให้ละครมีควำมสมจริงมำกขึ้น 25. 3 เพรำะกำรสร้ำงสมำธิ เป็นกำรกำหนดจิตใจให้มีควำมแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่ำน เพรำะถ้ำ ตัวละครไม่สำมำรถควบคุมอำรมณ์ได้นั้น ก็จะทำให้แสดงบทบำทออกมำได้อย่ำงไม่ เหมำะสม 26. 4 เพรำะละครหลวงวิจิตรวำทกำร เป็นละครที่นำเนื้อเรื่องมำจำกประวัติศำสตร์ โดยมี จุดมุ่งหมำยเพื่อปลุกใจให้ประชำชนรักชำติ มีควำมสำมัคคี บทละครจะมีทั้งบทรัก รบ สะเทือนอำรมณ์ ควำมรักที่มีต่อคู่รัก ถึงแม้จะมำกมำยเพียงไรก็ไม่เท่ำกับควำมรัก ชำติ 27. 4 เพรำะกำรประเมินผลกำรแสดงจะสำมำรถทำให้ผู้จัดกำรแสดงนำข้อติชมต่ำงๆ มำใช้ เพื่อพัฒนำ ปรับปรุง แก้ไข กำรแสดงให้มีควำมสมบูรณ์แบบมำกยิ่งขึ้น 28. 4 เพรำะกำรทำควำมเข้ำใจเอกลักษณ์เฉพำะของตัวละครจะทำให้นักแสดงสำมำรถ แสดงบทบำทสมมติได้สมบูรณ์ที่สุด เช่น ถ้ำต้องแสดงบทบำทสมมติว่ำเป็นชำวนำ ครู นำยอำเภอ พ่อค้ำ เป็นต้น นักแสดงจะต้องพูด ต้องคิด ต้องประพฤติตน ให้เหมือนกับลักษณะของบุคคลที่สวมบทบำทอยู่ 29. 4 เพรำะหลังจำกที่มีกำรแสดงละครจบแล้ว ควรมีกำรประเมินผลกำรแสดงทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ทำให้ทรำบว่ำกำรแสดงละครนั้นเกิดข้อผิดพลำดใดบ้ำงที่ควรนำมำ ปรับปรุงแก้ไขกำรแสดงละครให้มีควำมสมบูรณ์มำกยิ่งขึ้น 30. 1 เพรำะกำรวิจำรณ์เป็นกำรแสดงควำมคิดเห็น ติชม มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ หรือ สร้ำงสรรค์และทำลำย
45.
เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 2 ข้อสอบ
O-Net วิชา ศิลปะ 2552 1. 2 2. 1 3. 3 4. 1 5. 3 6. 1 7. 3 8. 4 9. 2 10. 4 11. 1 12. 3 13. 1 14. 3 15. 3 16. 4 17. 2 18. 3 19. 4 20. 3 21. 3 22. 3 23. 1 24. 1 25. 4 26. 4 27. 4 28. 2 29. 2 30. 1 31. 4, 1, 3 32. 2, 3 33. 5, 1 34. 1, 3 35. 1, 2, 3 ปีการศึกษา
46.
เฉลยข้อสอบ ชุดที่ 2 ข้อสอบ
O-Net วิชา ศิลปะ 2553 1. 4 2. 2 3. 4 4. 1 5. 3 6. 2, 3, 5 7. 2, 4, 5 8. 4 9. 2 10. 4 11. 4 12. 3 ปีการศึกษา
Download