SlideShare a Scribd company logo
2
Most read
แบบทดสอบปลายภาคเรียน
                            สาระการเรียนรู้คณิ ตศาสตร์เพิ มเติ ม 2 (ค41202)
                               ช่วงชันที 4 ชันปี ที 1 ชันมัธยมศึกษาปี ที 4




                                                    คําชีแจง
             1. แบบทดสอบฉบับนีครอบคลุมเนือหาดังต่อไปนี
                1.1 เมทริกซ์ จํานวน 10 ข้อ (ตอนที 1 ข้อ 1 – 10)
                1.2 ฟังก์ชน จํานวน 11 ข้อ (ตอนที 1 ข้อ 11 – 20 และตอนที 2 ข้อ 41)
                           ั
                1.3 เรขาคณิตวิเคราะห์ จํานวน 21 ข้อ (ตอนที 1 ข้อ 21 – 40 และตอนที 2 ข้อ 42)
             2. แบบทดสอบฉบับนีมีคะแนนเต็ม 60 คะแนน แบ่งเป็ น 2 ตอน ได้แก่
                ตอนที 1 แบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จํานวน 40 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
                             คะแนนรวม 40 คะแนน
                ตอนที 2 แบบทดสอบแบบเขียนบรรยาย (แสดงวิธทา) จํานวน 2 ข้อ ข้อละ 10 คะแนน
                                                                  ี ํ
                             คะแนนรวม 20 คะแนน
             3. ให้นักเรียนทําเครืองหมาย x หรือแสดงวิธทา แล้วแต่กรณี ลงในกระดาษคําตอบทีกําหนดให้
                                                        ี ํ
             4. อนุญาตให้นักเรียนนํ า “สรุปเนือหา” เข้าใช้ในการสอบได้
             5. ห้ามนักเรียนขีดเขียน หรือทําเครืองหมายใดๆ ลงในแบบทดสอบฉบับนีโดยเด็ดขาด
                ให้นักเรียนคิด คํานวณในกระดาษทดทีกําหนดให้เท่านัน หรือด้านหลังของกระดาษคําตอบ
             5. แบบทดสอบฉบับนีให้เวลาในการทํา 120 นาที
             6. การกระทําการอันเป็ นการทุจริตในการสอบ ถือว่าผลการสอบครังนีของนักเรียนเป็ นเป็ นโมฆะ
                และนักเรียนจะมีผลการเรียนเป็ น 0 สําหรับวิชานี




Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
ตอนที 1   ให้นักเรียนเลือกคําตอบทีถูกต้องทีสุดเพียงคําตอบเดียว และทําเครืองหมาย x ลงใน
                    กระดาษคําตอบทีกําหนดให้
          ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 1 มีความคิดรวบยอดเกียวกับเมทริกซ์และการดําเนินการของเมทริกซ์
          ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 2 หาดีเทอร์มแนนต์ของเมทริกซ์ n  n เมือ n เป็ นจํานวนเต็มบวกที
                                                    ิ
                                        มีค่าไม่เกิน 4
          ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 3 วิเคราะห์และหาคําตอบของระบบสมการเชิงเส้นได้
          1. กําหนดให้ A = [aij]32 โดยที aij = i + 2j แล้ว A คือเมทริกซ์ในข้อใด
                 3 5                    3 4                      3 6 9                3 5 7
             ก. 4 6                 ข. 5 6                 ค. 4 8 12           ง. 4 6 8
                 5 7                    7 8                    
                                                                                
                                                                                       
                                                                                               
                                                                                                
                                                
                                          0 เมือ a ij อยูเหนือเส้นทะแยงมุมหลัก
                                                            ่
          2. ถ้า A = [aij]33 โดยที aij = 
                                           1 เมือ a ij อยูบนหรืออยูใต้เส้นทะแยงมุมห ลัก
                                                          ่         ่
                                          
             แล้ว A คือเมทริกซ์ในข้อใด
                                                                   1 0 0                0 0 1
                  1 0                     0 1
             ก. 1 1                   ข.  1 1              ค. 1 1 0            ง.   0 1 1
                                                               1 1 1                 1 1 1
                                                                                              
                            2       1                      2
          3. กําหนดให้ A =          2  และ B =  3       3     1
                             1  1
                                                   0  2  2 และให้ a เป็ นสมาชิกทีมีค่าน้อย
                                    2                    3       
             ทีสุดของ A และ b เป็ นสมาชิกทีมีค่ามากทีสุดของ B ข้อสรุปใดถูกต้อง
             ก. a = b               ข. ab = -1             ค. a – b = 0        ง. a + b = 2
          4. ผลคูณของเมทริกซ์ในคู่ใดต่อไปนีมีค่าเท่ากับเมทริกซ์ศูนย์
                   4  1  2         1                           2    1  1  3
             ก.  2 6    8  4                         ข.  4  2  2       6
                                                            
                                                                          
                                                                                 
                  1  2 4  3                                 1 0 1 0
             ค.  2  1  2        1                     ง. 0 1  0  1
                                                            
                                                                      
                                                                             
                                                                               
                           23 4
                                 3 และ B = 
                                               3     1 1
          5. กําหนดให้ A =                 3  1  1 แล้ว A + B เท่ากับเมทริกซ์ใด
                             0 1 3                       
                                  
                  5 2    7                        5 2 7
             ก.           3                     ข.         3
                  3      2
                           0                         3 2 4 
                 5  2 5 
                        3                            5  2 5  3
              ค.                                ง. 
                  0  0 2                          3    0 2  

Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
6. ข้อใดต่อไปนีไม่ถูกต้อง
                             2 4         5 1            7 7
                ก. ถ้า A – 3 1  4 0 แล้ว AT = 5 1
                           
                                    
                                           
                                                     
                                                             
                                                              
                              6 4          3 1              3  3
                ข. ถ้า BT + 1 2    2 4  แล้ว B =  3       2
                             
                                     
                                               
                                                        
                                                                  
                                4  6 3 7                    7 1
                ค. ถ้า C –  5            4 5 แล้ว (-C)T =   1 6
                                       1 
                           
                                                
                                                             
                                                                    
                                                                     
                               6 8        5    9             1     2
                ง. ถ้า DT + 6 1  8  7 แล้ว (DT)T =  1  8 
                             
                                     
                                               
                                                                    
             7. ผลลัพธ์ในข้อใดทําให้ดเี ทอร์มแนนต์ของผลลัพธ์ดงกล่าวมีค่าสูงสุด
                                             ิ               ั
                      1 1          1 1                             2 1           2 1
                ก. 2  2 – 1  1                           ข. 3 0 +  3 0 
                    
                             
                                           
                                                                 
                                                                          
                                                                                        
                                                                                          
                      2 2               4 3                         3 2             1 1
                ค.  4  1 –  1 1                          ง.  2 4  + 1 4 
                    
                               
                                                
                                                                 
                                                                                
                                                                                         
                                                                                           
             8. ผลคูณของเมทริกซ์ในข้อใดทําให้ดเี ทอร์มแนนต์ของผลคูณนันมีค่าตําสุด
                                                      ิ
                    1 2  3 2                                  2          1   1  3 
                ก.  2 3    2 1                            ข.   4  2   2          6
                                                                                      
                      4  1  2             1                 1 0  1 0 
                ค.  2 6    8  4                          ง. 0 1   0  1
                                                                                 
             9. จากตัวเลือกในข้อ 8 ผลคูณของเมทริกซ์ในข้อใดทําให้ดเทอร์มแนนต์ของเมทริกซ์นันมีค่าสูงสุด
                                                                   ี      ิ

             10. ถ้า A =  2 7  , B =  4 6  และ C =  2 7  แล้ว det((AB + AC)T) มีค่าเท่าใด
                         1 4
                                         2
                                        2            1 8
                                                        
                ก. -25                ข. -19                   ค. -12          ง. -10
             ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 4 มีความคิดรวบยอดเกียวกับฟังก์ชน  ั
             ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 5 เขียนกราฟของฟังก์ชนและสร้างฟังก์ชนจากโจทย์ปญหาที
                                                                ั          ั        ั
                                         กําหนดให้ได้
             ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 6 นําความรูเรืองฟังก์ชนไปใช้แก้ปญหาได้
                                                  ้          ั         ั
             11. ความสัมพันธ์ใดต่อไปนีเป็ นฟังก์ชน   ั
                 ก. r = {(1, a), (2, a), (3, c), (3, d)}
                 ข. r = {x, y)  R  R | x = 4}
                 ค. r = {x, y)  R  R | y = -5}
                                                  1 เมือ x  0
                 ง. r = {x, y)  R  R | y =  1 เมือ x  0 }
                                                 


Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
12. กําหนด f(x) = 2x2 + 2x – 4 ข้อใดต่อไปนีถูกต้อง
              ก. f(0) = 0                                    ข. f(-1) = 4
              ค. f(a) = 2a2 + 2a – 4                         ง. f(b + 1) = 2b2 + 2b – 4
          13. กําหนด      f = {(1, 3), (3, 2), (4, 5), (6, 4)}
                          g = {(4, 1), (3, 9), (7, 5), (8, -1)}
              ข้อใดต่อไปนีถูกต้อง
              ก. gof = {(1, 3)}                                 ข. fog = {(1, 9), (6, 1)}
              ค. (gof)(1) = 1                                   ง. (gof)(6) = 1
          14. จากข้อ 13 f + g เท่ากับเท่าใด
              ก. {(3, 11)}                                      ข. {(6, 11)}
              ค. {(1, 9), (6, 1)}                               ง. {(5, 4), (6, 11), (11, 10), (14, 3)}
          15. จากข้อ 13 f -1(2) + g -1(5) เท่ากับเท่าใด
              ก. 5                    ข. 7                      ค. 10                    ง. หาค่าไม่ได้
          16. กําหนด f(x) = 2x + 3 แล้ว f(3) – f(2) เท่ากับเท่าใด
              ก. 1                   ข. 2                       ค. 3                     ง. 4
          17. จากข้อ 16 ข้อสรุปใดต่อไปนีถูกต้อง
              ก. f -1 (2) = -1                                  ข. f -1 (3) = 0
              ค. f -1 (4) = -3                                  ง. f -1 (6) = -3
          18. กําหนด f = {(x, y) | 2x + 3y = 2} แล้วข้อใดต่อไปนีถูกต้อง
              ก. f -1 = {(x, y) | 2x + 3y = 2}                ข. f -1 = {(x, y) | 3x + 2y = 2}
              ค. f -1 = {(x, y) | 3x – 2y = 2}                ง. f -1 = {(x, y) | 3x – 2y = -2}
          19. กําหนดให้ f = {(1, 2), (2, a), (3, 0)}
                          g = {(1, b), (2, 2), (3, 4)} ข้อใดถูกต้อง
              ก. ถ้า (f + g)(2) = 4 แล้ว a = 2                   ข. หาค่า (f – g)(2) ไม่ได้
              ค. Df  Dg = {1, 2}                                ง. ถ้า a = b แล้ว f = g
          20. กําหนดความสัมพันธ์ r = {(x, y)  R  R  y =         1 } และ I แทน เซตของจํานวนเต็ม
                                                                  9 x2
              ข้อใดต่อไปนีถูกต้อง
              ก. Dr = [3, 3]                                              1
                                                                ข. Rr = ( 3 , )
              ค. D r 1  I มีสมาชิก 7 ตัว                      ง. R r 1  I สมาชิก 5 ตัว



Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 7 หาระยะทางระหว่างจุดสองจุด จุดกึงกลาง ระยะห่างระหว่าง
                                         เส้นตรงกับจุดได้
             ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 8 หาความชันของเส้นตรง สมการเส้นตรง เส้นขนาน เส้นตังฉาก
                                         และนําไปใช้ได้
             ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 9 เขียนความสัมพันธ์ ทีมีกราฟเป็ นภาคตัดกรวย เมือกําหนดส่วน
                                         ต่างๆ ของภาคตัดกรวยให้และเขียนกราฟของความสัมพันธ์นนได้ ั
             21. ระยะทางระหว่างจุด (3, -5) และ (-2, 4) เท่ากับเท่าใด
                 ก. 116                 ข. 106                  ค. 82                      ง.     26
             22. ถ้าระยะทางระหว่าง (3, y) และ (-4, 5) เท่ากับ 7 แล้ว y มีคาเท่ากับเท่าใด
                                                                          ่
                 ก. 3                   ข. 4                    ค. 5                     ง. 6
             23. ถ้า a เป็ นระยะทางระหว่างจุด (-4, 3) และ (2, 1)
                 และ b เป็ นระยะทางระหว่างจุด (-5, 3) และ (3, 9) แล้ว a2b เท่ากับเท่าใด
                 ก. 40 10               ข. 80 5                  ค. 200                 ง. 400
             24. จุดบนแกน X ทีห่างจากจุด (3, 4) และ (12, -5) เป็ นระยะทางเท่ากันคือจุดใด
                 ก. (18, 0)           ข. (8, 0)                ค. (-8, 0)              ง. (-18, 0)
             25. จุดกึงกลางระหว่างจุด (2, -5) กับ (-6, -7) เท่ากับจุดเป็ นจุดเดียวกับจุดกึงกลางระหว่างจุดคู่ใด
                 ต่อไปนี
                 ก. (-8, -15) กับ (4, 3)                          ข. (8, 15) กับ (4, 3)
                 ค. (-8, 15) กับ (-4, 3)                          ง. (8, -15) กับ (4, -3)
             26. เส้นตรง AB มีจด P(-2, -1) เป็ นจุดกึงกลาง ถ้าจุด A มีพกดเป็ น (-2, -6) แล้ว B มีพกดเท่ากับ
                               ุ                                       ิ ั                        ิ ั
                 เท่าใด
                 ก. (2, 1)              ข. (1, 4)                 ค. (4, 1)               ง. (-2, 4)
             27. พืนทีของรูปสามเหลียมทีมีจุดยอด A(0, 2), B(0, -4) และ C(4, 6) มีพนทีกีตารางหน่ วย
                                                                                 ื
                 ก. 6                 ข. 8                     ค. 12                  ง. 18
             28. พืนทีของรูปสีเหลียมทีมีจุดยอดที (7, -2), (-1, 0), (5, 3) และ (-3, -1) มีพนทีกีตารางหน่ วย
                                                                                          ื
                 ก. 2 1                   ข. 6                     ค. 24                    ง. 31
             29. เส้นตรงทีผ่านจุด (-4, 3) และ (2, 1) กับเส้นตรงทีผ่านจุด (-5, 3) และ (3, 9) มีความสัมพันธ์กน
                                                                                                           ั
                 อย่างไร
                 ก. ตังฉากกัน                                      ข. ขนานกัน
                 ค. เป็ นเส้นตรงเดียวกัน                           ง. ไม่ตงฉากและไม่ขนานกัน
                                                                           ั




Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
30. จากข้อ 29 ถ้า m1 เป็ นความชันของเส้นตรงทีผ่านจุด (-4, 3) และ (2, 1) และ m2 เป็ นความชัน
              ของเส้นตรงทีผ่านจุด (-5, 3) และ (3, 9) แล้วข้อสรุปใดถูกต้องทีสุด
              ก. m1 = 3 1              ข. m2 =  3             ค. m1m2 =  4 1                  1
                                                                                      ง. m1m2 = 4
                                                    4
                                                                         7
          31. ถ้าเส้นตรงทีผ่านจุด (-5, a), (6, -3) และมีความชันเท่ากับ  11 แล้ว a มีคาเท่าใด
                                                                                       ่
              ก. 100 7                 ข. 4                    ค. 3                   ง. 2
          32. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด P(0, -3) และมีความชันเท่ากับ -2 คือสมการใด
              ก. 2x + y – 6 = 0                           ข. 2x + y + 6 = 0
              ค. 2x – y + 6 = 0                           ง. 2x – y – 6 = 0
          33. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด (2, -3) และ (4, 2) คือสมการใด
              ก. 5x – 2y – 24 = 0                           ข. 5x + 2y – 24 = 0
              ค. 5x + 2y + 24 = 0                           ง. 5x – 2y + 24 = 0
          34. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด (1, -4) และขนานกับสมการเส้นตรง x – y + 4 = 0 คือสมการใด
              ก. x – y + 5 = 0                           ข. x – y – 5 = 0
              ค. x – y + 3 = 0                           ง. x – y – 3 = 0
          35. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด (3, -5) และตังฉากกับเส้นตรง 3x + y + 5 = 0 คือสมการใด
              ก. x + 3y – 18 = 0                            ข. x + 3y + 18 = 0
              ค. x – 3y – 18 = 0                            ง. x – 3y + 18 = 0
          36. ระยะห่างระหว่างจุด (2, -1) กับเส้นตรง 3x – 4y = -5 เท่ากับกีหน่ วย
              ก. 3                    ข. 4                   ค. 5                     ง. 6
          37. ถ้าระยะห่างระหว่างจุด (2, -1) กับเส้นตรง 3x + 4y + c = 0 เท่ากับ 2 หน่ วย แล้ว c มีค่าเท่าใด
              ก. 8, 12               ข. -8, -12              ค. 8, -12                ง. -8, 12
          38. ระยะทางระหว่างเส้นตรง 3x – 4y – 6 = 0 กับเส้นตรง 3x – 4y – 21 = 0 เท่ากับเท่าใด
              ก. 5                   ข. 3                   ค. 35                ง. 27 5
          39. เส้นตรง 7x – y – 12 = 0 อยูหางจากเส้นตรง -7x + y – 13 = 0 เท่าใด
                                         ่ ่
                                                                5 2
              ก. 1                   ข. 5 2                 ค. 2                 ง. หาค่าไม่ได้
          40. ถ้าเส้นตรง x – 2y + 5 = 0 และเส้นตรง x – 2y + k = 0 อยูหางกัน 2 5 หน่ วย แล้ว k มีค่า
                                                                    ่ ่
              เท่าใด
              ก. -2                  ข. -3                  ค. -4                ง. -5


Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
ตอนที 2 จงแสดงวิ ธีทา  ํ
             (ก่อนทําอย่าลืมเขียนชือ สกุล ชัน เลขที ทีมุมด้านขวาบนของกระดาษคําตอบด้วยนะครับ
             และให้ทา 1 ข้อ ต่อ 1 หน้ากระดาษเท่านัน)
                     ํ
             41. กําหนดให้ f = {(0, 3), (1, -3), (-1, -5), (2, 0), (-2, 4)}
                 และ         g = {(0, 7), (1, -4), (-1, 2), (-2, -1), (3, 5)}
                 จงหา f + g, f – g, fg และ f  g
             42. จงเขียนความสัมพันธ์ทมีกราฟเป็ นเส้นตรงทีมีเงือนไขดังนี
                                       ี
                 41.1 ผ่านจุด (3, -4) และขนานกับเส้นตรง 2x – 7y + 11 = 0
                 41.2 ผ่านจุด (-5, -8) และตังฉากกับเส้นตรง 3x – 9y = 18




                              ผูสอน
                                ้                                หน.กลุ่มสาระฯ                รอง ผอ.




Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/

More Related Content

PDF
ปลายภาค คณิต ม.4 เทอม 1 ชุดที่ 2
PDF
ปลายภาค คณิต ม.4 เทอม 1 ชุดที่ 1
PDF
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 1 หน่วยที่ 1
PDF
O-net คณิตศาสตร์ 2557
PDF
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 2
ปลายภาค คณิต ม.4 เทอม 1 ชุดที่ 2
ปลายภาค คณิต ม.4 เทอม 1 ชุดที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 1 หน่วยที่ 1
O-net คณิตศาสตร์ 2557
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 2

What's hot (20)

PDF
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.2 เทอม 1 ชุดที่ 2
PDF
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2552
PDF
เฉลย O-net คณิตศาสตร์ 54
PDF
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
PDF
Final 31201 53
PDF
ปลายภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับ 1
PDF
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 2 ฉบับที่ 1
PDF
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.3 เทอม 2 ชุดที่ 1
PDF
ข้อสอบปลายภาค คณิต ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 1 หน่วยที่ 3
PDF
ข้อสอบตรรกศาตร์ม.4
DOC
ตรีโกณมิติ
PDF
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2554
PDF
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
PDF
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.2 เทอม 2 ชุดที่ 1
PDF
ชุดการสอนที่ 2 เรื่อง เส้นขนานและมุมแย้ง
PDF
เมทริกซ์.pdf
PDF
การหารพหุนาม
PDF
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2556
PDF
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 2 หน่วยที่ 2
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.2 เทอม 1 ชุดที่ 2
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2552
เฉลย O-net คณิตศาสตร์ 54
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
Final 31201 53
ปลายภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 2 ฉบับที่ 1
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.3 เทอม 2 ชุดที่ 1
ข้อสอบปลายภาค คณิต ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 1 หน่วยที่ 3
ข้อสอบตรรกศาตร์ม.4
ตรีโกณมิติ
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2554
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.2 เทอม 2 ชุดที่ 1
ชุดการสอนที่ 2 เรื่อง เส้นขนานและมุมแย้ง
เมทริกซ์.pdf
การหารพหุนาม
เฉลยข้อสอบโอเน็ตคณิตศาสตร์ ม.3 ปีการศึกษา 2556
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.1 เทอม 1 ชุดที่ 2 หน่วยที่ 2
Ad

Similar to 31202 final512 (20)

PDF
Pre โควตา มช. คณิตศาสตร์1
DOCX
12333333333
PDF
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
PDF
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
PDF
คณ ตศาสตร
PDF
อนุกรมเรขาคณิต
PDF
อนุกรสเรขาคณิต
PDF
PDF
ตัวอย่างข้อสอบ Las 8คณิตศาสตร์ม.1
PDF
ลำดับเรขาคณิต
PDF
ตัวอย่างข้อสอบ Pre o net คณิตศาสตร์ม.6
PDF
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
PDF
Pretest เรขาคณิตวิเคราะห์
PDF
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 2
PDF
Pat1 ก.พ. 61
PDF
PDF
Onet5602
Pre โควตา มช. คณิตศาสตร์1
12333333333
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.2
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
คณ ตศาสตร
อนุกรมเรขาคณิต
อนุกรสเรขาคณิต
ตัวอย่างข้อสอบ Las 8คณิตศาสตร์ม.1
ลำดับเรขาคณิต
ตัวอย่างข้อสอบ Pre o net คณิตศาสตร์ม.6
ตัวอย่างข้อสอบ Las คณิตศาสตร์ม.5
Pretest เรขาคณิตวิเคราะห์
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 2
Pat1 ก.พ. 61
Onet5602
Ad

More from คุณครูพี่อั๋น (20)

PDF
01 history of numbers and numerals
PDF
เซต เล่ม 2
PDF
เซต เล่ม 1
PDF
I30201 1-ส่วนหน้า
PDF
I30201 2-แผนการสอน
PDF
การตั้งคำถาม และแหล่งข้อมูล
PDF
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
PDF
PDF
สาระย่อ ทำไมเด็กไทยพูดภาษอังกฤษไม่ได้
PDF
ทำไมเด็กไทยพูดภาษอังกฤษไม่ได้
PDF
สองรางวัลระดับชาติจากการนำ Social media มาใช้เป็นส่วนหนึ่ง
PDF
รวมข้อสอบคณิตศาสตร์เตรียมทหาร ม.3
PDF
แบบฝึกหัด เรื่อง สมการและอสมการพหุนาม ชุดที่ 1
PDF
แบบฝึกหัด เรื่อง สมการและอสมการพหุนาม ชุดที่ 2
PDF
แยกเรื่อง 04-เลขยกกำลัง (และราก) pwk
01 history of numbers and numerals
เซต เล่ม 2
เซต เล่ม 1
I30201 1-ส่วนหน้า
I30201 2-แผนการสอน
การตั้งคำถาม และแหล่งข้อมูล
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
สาระย่อ ทำไมเด็กไทยพูดภาษอังกฤษไม่ได้
ทำไมเด็กไทยพูดภาษอังกฤษไม่ได้
สองรางวัลระดับชาติจากการนำ Social media มาใช้เป็นส่วนหนึ่ง
รวมข้อสอบคณิตศาสตร์เตรียมทหาร ม.3
แบบฝึกหัด เรื่อง สมการและอสมการพหุนาม ชุดที่ 1
แบบฝึกหัด เรื่อง สมการและอสมการพหุนาม ชุดที่ 2
แยกเรื่อง 04-เลขยกกำลัง (และราก) pwk

31202 final512

  • 1. แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้คณิ ตศาสตร์เพิ มเติ ม 2 (ค41202) ช่วงชันที 4 ชันปี ที 1 ชันมัธยมศึกษาปี ที 4 คําชีแจง 1. แบบทดสอบฉบับนีครอบคลุมเนือหาดังต่อไปนี 1.1 เมทริกซ์ จํานวน 10 ข้อ (ตอนที 1 ข้อ 1 – 10) 1.2 ฟังก์ชน จํานวน 11 ข้อ (ตอนที 1 ข้อ 11 – 20 และตอนที 2 ข้อ 41) ั 1.3 เรขาคณิตวิเคราะห์ จํานวน 21 ข้อ (ตอนที 1 ข้อ 21 – 40 และตอนที 2 ข้อ 42) 2. แบบทดสอบฉบับนีมีคะแนนเต็ม 60 คะแนน แบ่งเป็ น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที 1 แบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จํานวน 40 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน คะแนนรวม 40 คะแนน ตอนที 2 แบบทดสอบแบบเขียนบรรยาย (แสดงวิธทา) จํานวน 2 ข้อ ข้อละ 10 คะแนน ี ํ คะแนนรวม 20 คะแนน 3. ให้นักเรียนทําเครืองหมาย x หรือแสดงวิธทา แล้วแต่กรณี ลงในกระดาษคําตอบทีกําหนดให้ ี ํ 4. อนุญาตให้นักเรียนนํ า “สรุปเนือหา” เข้าใช้ในการสอบได้ 5. ห้ามนักเรียนขีดเขียน หรือทําเครืองหมายใดๆ ลงในแบบทดสอบฉบับนีโดยเด็ดขาด ให้นักเรียนคิด คํานวณในกระดาษทดทีกําหนดให้เท่านัน หรือด้านหลังของกระดาษคําตอบ 5. แบบทดสอบฉบับนีให้เวลาในการทํา 120 นาที 6. การกระทําการอันเป็ นการทุจริตในการสอบ ถือว่าผลการสอบครังนีของนักเรียนเป็ นเป็ นโมฆะ และนักเรียนจะมีผลการเรียนเป็ น 0 สําหรับวิชานี Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
  • 2. ตอนที 1 ให้นักเรียนเลือกคําตอบทีถูกต้องทีสุดเพียงคําตอบเดียว และทําเครืองหมาย x ลงใน กระดาษคําตอบทีกําหนดให้ ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 1 มีความคิดรวบยอดเกียวกับเมทริกซ์และการดําเนินการของเมทริกซ์ ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 2 หาดีเทอร์มแนนต์ของเมทริกซ์ n  n เมือ n เป็ นจํานวนเต็มบวกที ิ มีค่าไม่เกิน 4 ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 3 วิเคราะห์และหาคําตอบของระบบสมการเชิงเส้นได้ 1. กําหนดให้ A = [aij]32 โดยที aij = i + 2j แล้ว A คือเมทริกซ์ในข้อใด 3 5 3 4  3 6 9 3 5 7 ก. 4 6 ข. 5 6 ค. 4 8 12 ง. 4 6 8 5 7 7 8              0 เมือ a ij อยูเหนือเส้นทะแยงมุมหลัก ่ 2. ถ้า A = [aij]33 โดยที aij =  1 เมือ a ij อยูบนหรืออยูใต้เส้นทะแยงมุมห ลัก ่ ่  แล้ว A คือเมทริกซ์ในข้อใด 1 0 0  0 0 1 1 0  0 1 ก. 1 1  ข.  1 1 ค. 1 1 0  ง. 0 1 1     1 1 1   1 1 1      2 1 2 3. กําหนดให้ A =  2  และ B =  3 3 1 1  1   0  2  2 และให้ a เป็ นสมาชิกทีมีค่าน้อย  2  3  ทีสุดของ A และ b เป็ นสมาชิกทีมีค่ามากทีสุดของ B ข้อสรุปใดถูกต้อง ก. a = b ข. ab = -1 ค. a – b = 0 ง. a + b = 2 4. ผลคูณของเมทริกซ์ในคู่ใดต่อไปนีมีค่าเท่ากับเมทริกซ์ศูนย์   4  1  2 1 2 1  1  3 ก.  2 6    8  4  ข.  4  2  2 6          1  2 4  3 1 0 1 0 ค.  2  1  2 1 ง. 0 1  0  1          23 4 3 และ B =  3 1 1 5. กําหนดให้ A =     3  1  1 แล้ว A + B เท่ากับเมทริกซ์ใด 0 1 3      5 2 7  5 2 7 ก.  3 ข.  3  3 2 0    3 2 4  5  2 5  3  5  2 5 3 ค.  ง.   0 0 2  3 0 2  Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
  • 3. 6. ข้อใดต่อไปนีไม่ถูกต้อง 2 4 5 1 7 7 ก. ถ้า A – 3 1  4 0 แล้ว AT = 5 1             6 4 3 1  3  3 ข. ถ้า BT + 1 2    2 4  แล้ว B =  3 2            4  6 3 7 7 1 ค. ถ้า C –  5  4 5 แล้ว (-C)T =   1 6 1            6 8 5 9  1 2 ง. ถ้า DT + 6 1  8  7 แล้ว (DT)T =  1  8            7. ผลลัพธ์ในข้อใดทําให้ดเี ทอร์มแนนต์ของผลลัพธ์ดงกล่าวมีค่าสูงสุด ิ ั 1 1 1 1 2 1  2 1 ก. 2  2 – 1  1 ข. 3 0 +  3 0                  2 2 4 3 3 2 1 1 ค.  4  1 –  1 1  ง.  2 4  + 1 4                  8. ผลคูณของเมทริกซ์ในข้อใดทําให้ดเี ทอร์มแนนต์ของผลคูณนันมีค่าตําสุด ิ 1 2  3 2  2 1   1  3  ก.  2 3    2 1  ข.   4  2   2 6         4  1  2 1 1 0  1 0  ค.  2 6    8  4  ง. 0 1   0  1       9. จากตัวเลือกในข้อ 8 ผลคูณของเมทริกซ์ในข้อใดทําให้ดเทอร์มแนนต์ของเมทริกซ์นันมีค่าสูงสุด ี ิ 10. ถ้า A =  2 7  , B =  4 6  และ C =  2 7  แล้ว det((AB + AC)T) มีค่าเท่าใด 1 4 2  2 1 8       ก. -25 ข. -19 ค. -12 ง. -10 ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 4 มีความคิดรวบยอดเกียวกับฟังก์ชน ั ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 5 เขียนกราฟของฟังก์ชนและสร้างฟังก์ชนจากโจทย์ปญหาที ั ั ั กําหนดให้ได้ ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 6 นําความรูเรืองฟังก์ชนไปใช้แก้ปญหาได้ ้ ั ั 11. ความสัมพันธ์ใดต่อไปนีเป็ นฟังก์ชน ั ก. r = {(1, a), (2, a), (3, c), (3, d)} ข. r = {x, y)  R  R | x = 4} ค. r = {x, y)  R  R | y = -5}  1 เมือ x  0 ง. r = {x, y)  R  R | y =  1 เมือ x  0 }  Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
  • 4. 12. กําหนด f(x) = 2x2 + 2x – 4 ข้อใดต่อไปนีถูกต้อง ก. f(0) = 0 ข. f(-1) = 4 ค. f(a) = 2a2 + 2a – 4 ง. f(b + 1) = 2b2 + 2b – 4 13. กําหนด f = {(1, 3), (3, 2), (4, 5), (6, 4)} g = {(4, 1), (3, 9), (7, 5), (8, -1)} ข้อใดต่อไปนีถูกต้อง ก. gof = {(1, 3)} ข. fog = {(1, 9), (6, 1)} ค. (gof)(1) = 1 ง. (gof)(6) = 1 14. จากข้อ 13 f + g เท่ากับเท่าใด ก. {(3, 11)} ข. {(6, 11)} ค. {(1, 9), (6, 1)} ง. {(5, 4), (6, 11), (11, 10), (14, 3)} 15. จากข้อ 13 f -1(2) + g -1(5) เท่ากับเท่าใด ก. 5 ข. 7 ค. 10 ง. หาค่าไม่ได้ 16. กําหนด f(x) = 2x + 3 แล้ว f(3) – f(2) เท่ากับเท่าใด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 17. จากข้อ 16 ข้อสรุปใดต่อไปนีถูกต้อง ก. f -1 (2) = -1 ข. f -1 (3) = 0 ค. f -1 (4) = -3 ง. f -1 (6) = -3 18. กําหนด f = {(x, y) | 2x + 3y = 2} แล้วข้อใดต่อไปนีถูกต้อง ก. f -1 = {(x, y) | 2x + 3y = 2} ข. f -1 = {(x, y) | 3x + 2y = 2} ค. f -1 = {(x, y) | 3x – 2y = 2} ง. f -1 = {(x, y) | 3x – 2y = -2} 19. กําหนดให้ f = {(1, 2), (2, a), (3, 0)} g = {(1, b), (2, 2), (3, 4)} ข้อใดถูกต้อง ก. ถ้า (f + g)(2) = 4 แล้ว a = 2 ข. หาค่า (f – g)(2) ไม่ได้ ค. Df  Dg = {1, 2} ง. ถ้า a = b แล้ว f = g 20. กําหนดความสัมพันธ์ r = {(x, y)  R  R  y = 1 } และ I แทน เซตของจํานวนเต็ม 9 x2 ข้อใดต่อไปนีถูกต้อง ก. Dr = [3, 3] 1 ข. Rr = ( 3 , ) ค. D r 1  I มีสมาชิก 7 ตัว ง. R r 1  I สมาชิก 5 ตัว Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
  • 5. ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 7 หาระยะทางระหว่างจุดสองจุด จุดกึงกลาง ระยะห่างระหว่าง เส้นตรงกับจุดได้ ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 8 หาความชันของเส้นตรง สมการเส้นตรง เส้นขนาน เส้นตังฉาก และนําไปใช้ได้ ผลการเรียนรู้ทีคาดหวังข้อ 9 เขียนความสัมพันธ์ ทีมีกราฟเป็ นภาคตัดกรวย เมือกําหนดส่วน ต่างๆ ของภาคตัดกรวยให้และเขียนกราฟของความสัมพันธ์นนได้ ั 21. ระยะทางระหว่างจุด (3, -5) และ (-2, 4) เท่ากับเท่าใด ก. 116 ข. 106 ค. 82 ง. 26 22. ถ้าระยะทางระหว่าง (3, y) และ (-4, 5) เท่ากับ 7 แล้ว y มีคาเท่ากับเท่าใด ่ ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 23. ถ้า a เป็ นระยะทางระหว่างจุด (-4, 3) และ (2, 1) และ b เป็ นระยะทางระหว่างจุด (-5, 3) และ (3, 9) แล้ว a2b เท่ากับเท่าใด ก. 40 10 ข. 80 5 ค. 200 ง. 400 24. จุดบนแกน X ทีห่างจากจุด (3, 4) และ (12, -5) เป็ นระยะทางเท่ากันคือจุดใด ก. (18, 0) ข. (8, 0) ค. (-8, 0) ง. (-18, 0) 25. จุดกึงกลางระหว่างจุด (2, -5) กับ (-6, -7) เท่ากับจุดเป็ นจุดเดียวกับจุดกึงกลางระหว่างจุดคู่ใด ต่อไปนี ก. (-8, -15) กับ (4, 3) ข. (8, 15) กับ (4, 3) ค. (-8, 15) กับ (-4, 3) ง. (8, -15) กับ (4, -3) 26. เส้นตรง AB มีจด P(-2, -1) เป็ นจุดกึงกลาง ถ้าจุด A มีพกดเป็ น (-2, -6) แล้ว B มีพกดเท่ากับ ุ ิ ั ิ ั เท่าใด ก. (2, 1) ข. (1, 4) ค. (4, 1) ง. (-2, 4) 27. พืนทีของรูปสามเหลียมทีมีจุดยอด A(0, 2), B(0, -4) และ C(4, 6) มีพนทีกีตารางหน่ วย ื ก. 6 ข. 8 ค. 12 ง. 18 28. พืนทีของรูปสีเหลียมทีมีจุดยอดที (7, -2), (-1, 0), (5, 3) และ (-3, -1) มีพนทีกีตารางหน่ วย ื ก. 2 1 ข. 6 ค. 24 ง. 31 29. เส้นตรงทีผ่านจุด (-4, 3) และ (2, 1) กับเส้นตรงทีผ่านจุด (-5, 3) และ (3, 9) มีความสัมพันธ์กน ั อย่างไร ก. ตังฉากกัน ข. ขนานกัน ค. เป็ นเส้นตรงเดียวกัน ง. ไม่ตงฉากและไม่ขนานกัน ั Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
  • 6. 30. จากข้อ 29 ถ้า m1 เป็ นความชันของเส้นตรงทีผ่านจุด (-4, 3) และ (2, 1) และ m2 เป็ นความชัน ของเส้นตรงทีผ่านจุด (-5, 3) และ (3, 9) แล้วข้อสรุปใดถูกต้องทีสุด ก. m1 = 3 1 ข. m2 =  3 ค. m1m2 =  4 1 1 ง. m1m2 = 4 4 7 31. ถ้าเส้นตรงทีผ่านจุด (-5, a), (6, -3) และมีความชันเท่ากับ  11 แล้ว a มีคาเท่าใด ่ ก. 100 7 ข. 4 ค. 3 ง. 2 32. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด P(0, -3) และมีความชันเท่ากับ -2 คือสมการใด ก. 2x + y – 6 = 0 ข. 2x + y + 6 = 0 ค. 2x – y + 6 = 0 ง. 2x – y – 6 = 0 33. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด (2, -3) และ (4, 2) คือสมการใด ก. 5x – 2y – 24 = 0 ข. 5x + 2y – 24 = 0 ค. 5x + 2y + 24 = 0 ง. 5x – 2y + 24 = 0 34. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด (1, -4) และขนานกับสมการเส้นตรง x – y + 4 = 0 คือสมการใด ก. x – y + 5 = 0 ข. x – y – 5 = 0 ค. x – y + 3 = 0 ง. x – y – 3 = 0 35. สมการเส้นตรงทีผ่านจุด (3, -5) และตังฉากกับเส้นตรง 3x + y + 5 = 0 คือสมการใด ก. x + 3y – 18 = 0 ข. x + 3y + 18 = 0 ค. x – 3y – 18 = 0 ง. x – 3y + 18 = 0 36. ระยะห่างระหว่างจุด (2, -1) กับเส้นตรง 3x – 4y = -5 เท่ากับกีหน่ วย ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 37. ถ้าระยะห่างระหว่างจุด (2, -1) กับเส้นตรง 3x + 4y + c = 0 เท่ากับ 2 หน่ วย แล้ว c มีค่าเท่าใด ก. 8, 12 ข. -8, -12 ค. 8, -12 ง. -8, 12 38. ระยะทางระหว่างเส้นตรง 3x – 4y – 6 = 0 กับเส้นตรง 3x – 4y – 21 = 0 เท่ากับเท่าใด ก. 5 ข. 3 ค. 35 ง. 27 5 39. เส้นตรง 7x – y – 12 = 0 อยูหางจากเส้นตรง -7x + y – 13 = 0 เท่าใด ่ ่ 5 2 ก. 1 ข. 5 2 ค. 2 ง. หาค่าไม่ได้ 40. ถ้าเส้นตรง x – 2y + 5 = 0 และเส้นตรง x – 2y + k = 0 อยูหางกัน 2 5 หน่ วย แล้ว k มีค่า ่ ่ เท่าใด ก. -2 ข. -3 ค. -4 ง. -5 Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/
  • 7. ตอนที 2 จงแสดงวิ ธีทา ํ (ก่อนทําอย่าลืมเขียนชือ สกุล ชัน เลขที ทีมุมด้านขวาบนของกระดาษคําตอบด้วยนะครับ และให้ทา 1 ข้อ ต่อ 1 หน้ากระดาษเท่านัน) ํ 41. กําหนดให้ f = {(0, 3), (1, -3), (-1, -5), (2, 0), (-2, 4)} และ g = {(0, 7), (1, -4), (-1, 2), (-2, -1), (3, 5)} จงหา f + g, f – g, fg และ f  g 42. จงเขียนความสัมพันธ์ทมีกราฟเป็ นเส้นตรงทีมีเงือนไขดังนี ี 41.1 ผ่านจุด (3, -4) และขนานกับเส้นตรง 2x – 7y + 11 = 0 41.2 ผ่านจุด (-5, -8) และตังฉากกับเส้นตรง 3x – 9y = 18 ผูสอน ้ หน.กลุ่มสาระฯ รอง ผอ. Created with Print2PDF. To remove this line, buy a license at: http://www.software602.com/