ค่าตัวแปรและตัวดำเนินการ [Web-Programming]
ในการประมวลผลใดๆ ในคอมพิวเตอร์ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลไว้ภายในหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ มิฉะนั้นแล้วการ ประมวลผลจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เหตุผลง่ายๆ คือถ้ามีการประมวลผลเกิดขึ้นแล้วต้องการที่จะนาผลลัพธ์ (Output) จาก การประมวลผลนี้จัดเก็บเอาไว้เพื่อที่จะนาไปเป็นข้อมูลนาเข้า (Input) ของการประมวลผลอื่นๆ ถัดไป การจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว นั้นภายในคอมพิวเตอร์ต้องมีการจัดสรรพื้นที่ของหน่วยความจาเอาไว้เก็บข้อมูล ซึ่งการจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจานี้เราสามา มรถกระทาได้โดยการใช้ตัวแปร (Variables) หรือ ค่าคงที่ (Constant) แต่ทั้งตัวแปรและค่าคงที่มีลักษณะและการใช้งานที่ แตกต่างกัน ในบทนี้เนื้อหาจะเน้นให้นักเรียนรู้จักการใช้งานของตัวแปรและค่าคงที่ 
การเปิดปิดแท็ก PHP (PHP Code Syntax) รูปแบบแท็ก เปิดแท็ก PHP ปิดแท็ก PHP 
แบบมาตรฐาน 
<?php 
?> 
แบบสั้น 
<? 
?> 
แบบ ASP 
<% 
%> 
แบบ Script 
<script language="PHP"> 
</script> 
รูปแบบคาสั่ง (PHP Statement) 
<BODY> <?php echo "Hello, World!!"; ?> </BODY> </HTML> 
ตัวแปร (Variables) 
ตัวแปร คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้จักเก็บข้อมูล การเขียนคาสั่งให้โปรแกรม (PHP) จองพื้นที่ในหน่วยความจา (Memory) ไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อเก็บข้อมูลใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวเลข ตัวอักษร เครื่องหมาย เป็นต้น ตามที่ผู้เขียนโปรแกรมกาหนด ลักษณะที่สาคัญของตัวแปร คือ 1. ค่าที่จัดเก็บในตัวแปรใดๆ เมื่อปิดโปรแกรมหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลนั้นจะถูกลบทิ้งจาก RAM 2. ตัวแปรสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงค่าที่จัดเก็บไว้ได้ตลอดเวลา ลองพิจารณาโปรแกรม PHP ต่อไปนี้ <? echo 40+5; echo “<br>”; echo 30-8; 
?>
จากโปรแกรมนี้คาสั่ง echo 40 + 5; จะมีค่าเท่ากับ 45 และ คาสั่ง echo 30 + 8; จะมีค่าเท่ากับ 22 ถ้าต้องการนา ข้อมูลหรือค่าที่ได้จากสองคาสั่งนี้มาทาการลบกัน หรือดาเนินการกัน เราจะทาอย่างไร ปัญหานี้ก็คือ เราต้องทาการจัดเก็บค่า 45 และ 22 ไว้ที่ใดที่หนึ่งเสียก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยนาค่าทั้งสองออกมาลบกัน ซึ่งที่ใดที่หนึ่งในที่นี้ก็คือหน่วยความจานั้นเอง โดยปกติแล้วหน่วยความจาคอมพิวเตอร์จะมีการแบ่งพื้นที่ในการจัดเก็บและมีการ อ้างอิงถึงพื้นที่ที่เก็บข้อมูลต่างๆ ด้วยหมายเลขที่อยู่ของหน่วยความจา เช่น หมายเลข 3762 เป็นหมายเลขที่อยู่จัดเก็บข้อมูลเลข 45 หมายเลข 1769 เป็นหมายเลขที่อยู่จัดเก็บข้อมูลเลข 22 ดังนั้นเราก็นาหมายเลขที่อยู่ 3762 และ 1769 มาลบกันได้ 
แต่ว่าในทางปฏิบัติจริงๆ แล้วจะไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลต่างๆ ถูกจัดเก็บไว้ที่หมายเลขที่อยู่อะไร ถึงแม้เราจะทราบ ว่าหมายเลขที่อยู่อะไร ก็ถือว่าเป็นความลาบากในการจดจาหมายเลขที่อยู่ดังกล่าว ดังนั้น ตัวแปร จึงถูกนามาใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลต่างๆในหน่วยความจา โดยที่ตัวแปรนี้จะเป็นการตั้งชื่อขึ้นมาเพื่ออ้างอิง ถึงข้อมูลต่างๆในหน่วยความจานั่นเอง 
การประกาศตัวแปร - การประกาศตัวแปรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย $ (Dollar sign) เสมอ - หลังเครื่องหมาย $ ชื่อตัวแปรจะต้องเริ่มต้นด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษหรือเครื่องหมาย underscore ("_") - ตัวถัดมาของชื่อตัวแปรสามารถเป็นตัวอักษร หรือตัวเลข หรือเครื่องหมาย _ (Under-score) เพื่อผสมชื่อได้เสมอ - ชื่อของตัวแปรมีคุณสมบัติเป็น case-sensitive คือตัวอักษรตัวใหญ่และตัวเล็กถือว่าเป็นคนละตัว 
ตัวอย่าง test1.php <? $name = “Robert”; $Age = 25; $age = 20; echo “$name <br>”; echo “$Age <br>”; echo “$age”; ?>
- ตัวแปรที่เป็นอักษรต้องอยู่ในเครื่องหมาย “…………” - ตัวแปร $Age และ $age ถือว่าเป็นคนละตัวกัน 
Test2.php <? $num1 = 40 + 5; $num2 = 30 - 8; $result = $num1 - $num2; echo “$result”; ?> 
ชนิดของข้อมูล 
ในการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา PHP เช่นการประกาศตัวแปร หรือกาหนดค่าข้อมูลต่างๆ ต้องระบุชนิดข้อมูลอย่าง ชัดเจน โดยชนิดข้อมูลในภาษา PHP มี 2 ประเภท คือ 1. ชนิดข้อมูลพื้นฐาน (Primitive Data Type) คือชนิดข้อมูลที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมสาหรับเก็บข้อมูลชนิดต่างๆ ได้แก่ จานวนเต็ม(Integer) จานวนทศนิยม(Floating Point) ข้อมูลอักขระ(Character) และข้อมูลตรรกะ (Logical Data) 2. ชนิดข้อมูลแบบอ้างอิง (Reference Data Type) คือชนิดข้อมูลที่มีการอ้างอิงตาแหน่งในหน่วยความจา ได้แก่ข้อมูล ของคลาส เช่น String และข้อมูลแบบอาเรย์ 
ชนิดข้อมูลพื้นฐานในภาษา PHP มีทั้งหมด 8 ชนิดข้อมูลโดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 
1. ชนิดข้อมูลจานวนเต็ม(Integer) ได้แก่ long, int, short และ byte 2. ชนิดข้อมูลจานวนทศนิยม(Floating Point) ได้แก่ double และ float 3. ชนิดข้อมูลอักขระ(Character) ได้แก่ char 4. ชนิดข้อมูลตรรกะ (Logical Data) ได้แก่ Boolean ชนิดข้อมูลแต่ละประเภทจะมีขนาดและช่วงค่าของข้อมูลแตกต่างกัน และสามารถสรุปประเภทชนิดข้อมูล ขนาดและ ช่วงค่าของข้อมูล และค่าเริ่มต้น
ชนิดข้อมูลจานวนเต็ม(Integer) ชนิดข้อมูลจานวนเต็มประกอบด้วย 4 ชนิดได้แก่ long, int, short และ byte เป็นชนิดข้อมูลที่ใช้เก็บข้อมูลตัวเลข จานวนเต็มในทางคณิตศาสตร์ ช่วงของข้อมูลขึ้นอยู่ขนาดของตัวแปรที่ประกาศ ตัวอย่างเช่น ตัวแปร int จะมีขนาด 32 บิต เก็บ ข้อมูลได้ -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647 การกาหนดค่าข้อมูลให้กับตัวแปรชนิดข้อมูลจานวนเต็ม มีดังนี้ 
1. เลขฐานสิบคือการเขียนค่าของข้อมูลจานวนเต็มทั่วไป เช่น 1200 150 -250 เป็นต้น โดยการเขียนจะไม่มี เครื่องหมาย , (Comma) เช่น 25,000 จะต้องเขียนเป็น 25000 
2. เลขฐานแปดคือการเขียนค่าของข้อมูลจานวนเต็มโดยใช้เลขฐานแปด โดยการขึ้นต้นข้อมูลด้วยเลข 0 แล้ว ตามด้วยเลข 0 ถึง 7 ตัวอย่างเช่น 036 เป็นเลขฐานแปด มีค่าเท่ากับ 30 ในเลขฐานสิบ 
3. เลขฐานสิบหกคือการเขียนค่าของข้อมูลจานวนเต็มโดยใช้เลขฐานสิบหก โดยการขึ้นต้นข้อมูลด้วยเลข 0x หรือ 0X แล้วตามด้วยเลข 0 ถึง 9 และ ตัวอักษร A ถึง F ตัวอย่างเช่น 0XB2 เป็นเลขฐานแปด มีค่าเท่ากับ 178 ในเลขฐานสิบ 
การประกาศตัวแปรใดๆ ให้เป็นข้อมูลจานวนเต็มต้องคานึงถึงขอบเขตของช่วงข้อมูลที่เก็บได้ และต้องกาหนดค่าชนิด ข้อมูลในเหมาะสมตรงกับชนิดข้อมูลที่ประกาศตัวแปร 
Integer.php 
<? $num1 = 20; $num2 = 020; $num3 = 0x20; echo “ค่าของ 20 ในเลขฐานสิบมีค่าเท่ากับ $num1 <br>”; echo “ค่าของ 20 ในเลขฐานแปดมีค่าเท่ากับ $num2 <br>”; echo “ค่าของ 20 ในเลขฐานสิบหกมีค่าเท่ากับ $num3 <br>”; ?>
ชนิดข้อมูลจานวนทศนิยม(Floating Point) 
ชนิดข้อมูลจานวนทศนิยม ประกอบด้วยข้อมูลที่เป็นตัวเลขทศนิยม เช่น 1200.578 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา PHP จะประกาศตัวแปรด้วยคาว่า float และ double โดยชนิดข้อมูล float จะเก็บข้อมูล 32 บิตตามมาตรฐาน single precision คือมีส่วนละเอียดของตัวเลขจานวน 24 บิต และส่วนเลขยกกาลัง 8 บิต และชนิดข้อมูล double จะเก็บข้อมูล 64 บิตตาม มาตรฐาน double precision คือมีส่วนละเอียดของตัวเลขจานวน 53 บิต และส่วนเลขยกกาลัง 11 บิต รูปแบบการตัวเลข ทศนิยมมี 2 แบบ ดังนี้ 
1. ตัวเลขทศนิยม เป็นการเขียนตัวเลขทศนิยมที่มีเครื่องหมายจุดทศนิยม ตัวอย่างเช่น 3.14 เป็นต้น 
2. ตัวเลขยกกาลังสิบ เป็นการเขียนตัวเลขทศนิยมอยู่ในรูปเลขยกกาลังสิบ (Exponential Form) โดยใช้ตัวอักษร E หรือ e ระบุจานวนที่เป็นเลขยกกาลัง เช่น 6.12E12 หรือ 125.03E-5 เป็นต้น 
Float.php 
<? $num1 = 3.58; $num2 = 3.5e3; $num3 = 3e-4; echo “ค่าของ 3.58 มีค่าเท่ากับ $num1 <br>”; echo “ค่าของ 3.5e3 มีค่าเท่ากับ $num2 <br>”; echo “ค่าของ 3e-4 มีค่าเท่ากับ $num3 <br>”; ?> 
ชนิดข้อมูลอักขระ (Character) 
ชนิดข้อมูลอักขระจะต้องประกาศตัวแปรด้วยคาว่า char คือการเก็บข้อมูลเป็นตัวอักษร หรืออักขระบนแป้นพิมพ์ได้ เพียง 1 ตัวอักขระ ซึ่งในภาษา PHP จะเก็บข้อมูลอักขระอยู่ในรูปแบบของรหัสแอสกี (ASCII Code) หรือรูปแบบมาตรฐาน Unicode ขนาด 16 บิต การกาหนดค่าข้อมูลอักขระจะอยู่ในเครื่องหมาย ‘ ’ โดยจะขึ้นต้นด้วยสัญลักษณ์ u และตามด้วย เลขฐานสิบหก (Hexadecimal Number) โดยมีค่าตั้งแต่ ‘u0000’ ถึง ‘uFFFF’ หรือกาหนดค่าข้อมูลอักขระด้วยตัวอักขระ บนแป้นพิมพ์ ตัวอย่างเช่น ‘A’, ‘x’, ‘$’ หรือ ‘1’ เป็นต้น
ตัวอย่างการประกาศชนิดข้อมูลอักขระ เช่น 
char grade= ‘A’; char grade= ‘u0041’; 
เป็นการประกาศตัวแปรที่มีชื่อว่า grade เป็นชนิดข้อมูลอักขระ มีการกาหนดค่าเริ่มต้นเป็นตัวอักษร A ซึ่งมีค่าเป็น เลขฐานสิบหก คือ 0041 
ตัวอักขระพิเศษ หรือ Escape Sequence เป็นการแสดงข้อมูลอักขระบนแป้นพิมพ์ที่ใช้แทนการขึ้นบรรทัดใหม่ หรือ ตัวอักขระพิเศษในการเขียนโปรแกรม ตัวอักขระพิเศษ รหัส Unicode ความหมาย b u000B Backspace ลบอักขระตาแหน่งเคอร์เซอร์ t u0009 Tab การเว้นช่องว่างตามระยะ n u000A New Line การขึ้นบรรทัดใหม่ r u000D Return การขึ้นบรรทัดใหม่  u005C Backslash แสดงตัวอักขระ  ‘ u0027 Single Quote แสดงตัวอักขระ ‘ “ u0022 Double Quote แสดงตัวอักขระ “ 
Float.php 
<? $num1 = “A”; $num2 = “Jimmy”; $num3 = “450”; echo “ค่าตัวแปรของ $num1 มีค่าเท่ากับอักขระ $num1 <br>”; echo “ค่าของตัวแปร $num2 มีค่าเท่ากับสตริง $num2 <br>”; echo “ค่าของตัวแปร $num3 มีค่าเท่ากับสตริง $num3 <br>”; ?>
- $num3 จะเก็บสตริง 450 ไม่ใช่ตัวเลข 450 - ในโปรแกรมการใช้รหัส () Escape นาหน้าชื่อเพื่อให้แสดงเครื่องหมาย $ ออกมา ซึ่งทาไห้ num1 num2 num3 เป็นข้อความธรรมดา ไม่ได้เป็นตัวแปร 
ข้อมูลชนิดตรรกะ (Boolean) ลักษณะข้อมูลจะเก็บค่าเพื่อใช้สาหรับตรวจสอบเงื่อนไข ซึ่งจะมีค่าที่เก็บเพียง 2 ค่าเท่านั้น คือ ค่าจริง (True) และเท็จ (False) 
boolean.php 
<? $num1 = 5; $num2 = 10; $num3 = $num1 < $num2; $num4 = $num1 > $num2; echo “ค่าของ $num1 < $num2 มีค่าเท่ากับ $num3 <br>”; echo “ค่าของ $num1 > $num2 มีค่าเท่ากับสตริง $num4 <br>”; ?> 
ตัวแปรอาร์เรย์ 
Non_array.php <? $score1 = 58; $score2 = 65; $score3 = 74; $score4 = 62; $score5 = 85; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 1 เท่ากับ $score1 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 2 เท่ากับ $score2 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 3 เท่ากับ $score3 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 4 เท่ากับ $score4 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 5 เท่ากับ $score5 <br>”; ?>
Array1.php <? $score[1] = 58; $score[2] = 65; $score[3] = 74; $score[4] = 62; $score[5] = 85; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 1 เท่ากับ $score[1] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 2 เท่ากับ $score[2] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 3 เท่ากับ $score[3] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 4 เท่ากับ $score[4] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 5 เท่ากับ $score[5] <br>”; ?> 
Array หมายถึง ตัวแปรชุดที่ใช้เก็บตัวแปรชนิดเดียวกันไว้ด้วยกัน เช่น เก็บ ข้อมูล char ไว้กับ char เก็บ int ไว้กับ int ไม่สามารถเก็บข้อมูลต่างชนิดกันได้ เช่น char กับ int เรียก array อีกอย่างว่าหน่วยความจาแบ่งเป็นช่อง การกาหนดสมาชิกชิก ของ array จะเขียนภายในเครื่องหมาย [ ] 
Array2.php 
<? $score = array(“58”, “65”, “74”, “62”, “85”); echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 1 เท่ากับ $score[1] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 2 เท่ากับ $score[2] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 3 เท่ากับ $score[3] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 4 เท่ากับ $score[4] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 5 เท่ากับ $score[5] <br>”; ?> 
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับตัวแปร 
1. ฟังก์ชัน gettype() จะ return ชนิดของตัวแปรกลับมา Boolean T-F integer ตัวเลขจานวนเต็ม double ตัวเลขจานวนทศนิยม string ตัวอักษร
array อาร์เรย์ object แบบอบเจ็กต์ NULL ว่าง unknown type ไม่ระบุชนิดตัวแปร 
นิพจน์ (Expression) คือ การนาค่าคงที่หรือตัวแปรมาเชื่อมต่อกัน ด้วยเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ เช่น 
ตัวดาเนินการคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์ ดังตัวอย่างในตารางข้างล่างนี้ ตัวดาเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง 
+ 
บวก (Addition) 
X + y 
- 
ลบ (Subtraction) 
X – y 
* 
คูณ (Multiplication) 
X * y 
/ 
หาร (Division) 
X / y 
% 
หารเอาผลลัพธ์เฉพาะเศษ (Modulus) 
X % y 
++ 
เพิ่มค่าให้กับตัวแปร $a ขึ้นหนึ่งค่า 
$a++ 
-- 
ลดค่าให้กับตัวแปร $a ลงหนึ่งค่า 
$b-- 
ตัวดาเนินการเปรียบเทียบ คือ เครื่องหมายที่ใช้ในการเปรียบเทียบในทางคณิตศาสตร์ ผลลัพธ์จะมี 2 กรณีคือ ถ้าผลลัพธ์ถูกต้องหรือเป็นจริง (True) จะมีค่าเป็น 1 ถ้าผลลัพธ์ผิดหรือเป็นเท็จ (False) จะมีค่า เป็น 0 ผลลัพธ์ของการเปรียบเทียบ เรียกว่า ค่าคงที่บูลีน (Boolean Constant) 
ตัวดาเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง > มากกว่า (Greather Than) X > y < น้อยกว่า (Less Than) X < y >= มากกว่าหรือเท่ากับ (Greather Than or Equal) X >= y <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ (Less Than or Equal) X <= y == เท่ากับ (Equal) X == y != ไม่เท่ากับ (Not Equal) X != y
ตัวดาเนินการตรรกะ คือเครื่องหมายที่ใช้เชื่อมเงื่อนไข 2 เงื่อนไข หรือมากกว่า 2 เงื่อนไข เพื่อให้การเปรียบเทียบมีความละเอียดมากขึ้น ใช้สัญลักษณ์แทนในแต่ละเครื่องหมาย ดังนี้ ตัวดาเนินการ อธิบาย ความหมาย && และ (and) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขทั้งสองเป็นจริง แต่ถ้าเงื่อนไขใดเป็นเท็จ หรือทั้งสองเงื่อนไขเป็นเท็จจะทาให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ || หรือ (or) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเป็นจริง หรือเป็นจริงทั้ง สองเงื่อนไข แต่ถ้าเป็นเท็จทั้งสองเงื่อนไขจะทาให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ! ไม่ใช่ (not) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขหลัง not เป็นเท็จ แต่ถ้าเงื่อนไข หลัง not เป็นจริงจะทาให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ตัวดาเนินการ ความหมาย

More Related Content

PDF
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับภาษา PHP
PDF
Pbl2 นะแนนxปิ้น
PDF
Pbl2 docx
PPT
C slide
PDF
การเขียนฟังก์ชั่นในภาษา C
PDF
ภาษา C#
PDF
Intro c
PDF
บทที่ 2 พื้นฐานภาษาจาวา
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับภาษา PHP
Pbl2 นะแนนxปิ้น
Pbl2 docx
C slide
การเขียนฟังก์ชั่นในภาษา C
ภาษา C#
Intro c
บทที่ 2 พื้นฐานภาษาจาวา

What's hot (19)

PPT
งาน
PDF
การสร้างแบบสอบถาม
PDF
3.3. ชนิดของข้อมูล
PDF
ตัวแปรและคำสงวน
DOC
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
PDF
ภาษาซีเบื้องต้น
PDF
เครื่องหมายและการดำเนินการในภาษาซี
PDF
บทที่1 พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
PPT
Java Programming [4/12] : Object Oriented Concept
PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก.
PDF
กลุ่ม3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
PDF
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
PDF
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น
PDF
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
PPTX
บทที่ 2
PDF
การเขียนคำสั่งขั้นพื้นฐาน(ภาษาC)
PDF
Java Programming: การเขียนโปรแกรมภาษาจาวาเชิงอ็อบเจกต์
DOC
Vb6 5 ข้อมูลและตัวแปร
งาน
การสร้างแบบสอบถาม
3.3. ชนิดของข้อมูล
ตัวแปรและคำสงวน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
ภาษาซีเบื้องต้น
เครื่องหมายและการดำเนินการในภาษาซี
บทที่1 พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
Java Programming [4/12] : Object Oriented Concept
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก.
กลุ่ม3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
บทที่ 2
การเขียนคำสั่งขั้นพื้นฐาน(ภาษาC)
Java Programming: การเขียนโปรแกรมภาษาจาวาเชิงอ็อบเจกต์
Vb6 5 ข้อมูลและตัวแปร
Ad

Similar to ค่าตัวแปรและตัวดำเนินการ [Web-Programming] (20)

PPT
PPT
Java Programming [2/12] : Overview of Java Programming Language
PDF
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
PDF
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
PDF
PDF
2.Java fundamentals
PDF
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
PPT
ไฟล์ Presentation ประกอบรายงาน PHP - Know2Pro.co.cc
PDF
งานนำเสนอ1
PDF
พื้นฐานภาษาจาวา
PDF
งานนำเสนอ1
PDF
งานทำ Blog บทที่ 2
PDF
ใบความรู้ที่ 5
PDF
Pbl2 docx
PDF
รายงาน PHP - Know2pro.com
PPT
7 pointer day10
PDF
Java script เบื้องต้น
PDF
Chapter 1 : ทบทวนภาษาจาวา
PDF
ตัวแปรและคำสงวน
Java Programming [2/12] : Overview of Java Programming Language
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
2.Java fundamentals
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
ไฟล์ Presentation ประกอบรายงาน PHP - Know2Pro.co.cc
งานนำเสนอ1
พื้นฐานภาษาจาวา
งานนำเสนอ1
งานทำ Blog บทที่ 2
ใบความรู้ที่ 5
Pbl2 docx
รายงาน PHP - Know2pro.com
7 pointer day10
Java script เบื้องต้น
Chapter 1 : ทบทวนภาษาจาวา
ตัวแปรและคำสงวน
Ad

More from Khon Kaen University (20)

PDF
หลักการแก้ปัญหา
PDF
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
PDF
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
PDF
คำสั่งและเงื่อนไข [Web-Programming]
PDF
รู้จักโปรแกรม Adobe Photoshop CS6
PDF
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Dreamweaver CS6
PDF
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
PDF
Course Syllabus การนำเสนองาน
PDF
Course Syllabus การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
PDF
Course Syllabus การสร้าง Home page
PDF
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
PDF
แผนการเรียนรู้ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
PDF
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
PDF
แผนการจัดการเรียนรู้หลักการแก้ปัญหา
PDF
PPT
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
PPT
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
PPT
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
PPT
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
หลักการแก้ปัญหา
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
คำสั่งและเงื่อนไข [Web-Programming]
รู้จักโปรแกรม Adobe Photoshop CS6
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Dreamweaver CS6
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
Course Syllabus การนำเสนองาน
Course Syllabus การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
Course Syllabus การสร้าง Home page
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
แผนการเรียนรู้ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
แผนการจัดการเรียนรู้หลักการแก้ปัญหา
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1
กิจกรรมที่ 5 ข้อ1

ค่าตัวแปรและตัวดำเนินการ [Web-Programming]

  • 2. ในการประมวลผลใดๆ ในคอมพิวเตอร์ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลไว้ภายในหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ มิฉะนั้นแล้วการ ประมวลผลจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เหตุผลง่ายๆ คือถ้ามีการประมวลผลเกิดขึ้นแล้วต้องการที่จะนาผลลัพธ์ (Output) จาก การประมวลผลนี้จัดเก็บเอาไว้เพื่อที่จะนาไปเป็นข้อมูลนาเข้า (Input) ของการประมวลผลอื่นๆ ถัดไป การจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว นั้นภายในคอมพิวเตอร์ต้องมีการจัดสรรพื้นที่ของหน่วยความจาเอาไว้เก็บข้อมูล ซึ่งการจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจานี้เราสามา มรถกระทาได้โดยการใช้ตัวแปร (Variables) หรือ ค่าคงที่ (Constant) แต่ทั้งตัวแปรและค่าคงที่มีลักษณะและการใช้งานที่ แตกต่างกัน ในบทนี้เนื้อหาจะเน้นให้นักเรียนรู้จักการใช้งานของตัวแปรและค่าคงที่ การเปิดปิดแท็ก PHP (PHP Code Syntax) รูปแบบแท็ก เปิดแท็ก PHP ปิดแท็ก PHP แบบมาตรฐาน <?php ?> แบบสั้น <? ?> แบบ ASP <% %> แบบ Script <script language="PHP"> </script> รูปแบบคาสั่ง (PHP Statement) <BODY> <?php echo "Hello, World!!"; ?> </BODY> </HTML> ตัวแปร (Variables) ตัวแปร คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้จักเก็บข้อมูล การเขียนคาสั่งให้โปรแกรม (PHP) จองพื้นที่ในหน่วยความจา (Memory) ไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อเก็บข้อมูลใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวเลข ตัวอักษร เครื่องหมาย เป็นต้น ตามที่ผู้เขียนโปรแกรมกาหนด ลักษณะที่สาคัญของตัวแปร คือ 1. ค่าที่จัดเก็บในตัวแปรใดๆ เมื่อปิดโปรแกรมหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลนั้นจะถูกลบทิ้งจาก RAM 2. ตัวแปรสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงค่าที่จัดเก็บไว้ได้ตลอดเวลา ลองพิจารณาโปรแกรม PHP ต่อไปนี้ <? echo 40+5; echo “<br>”; echo 30-8; ?>
  • 3. จากโปรแกรมนี้คาสั่ง echo 40 + 5; จะมีค่าเท่ากับ 45 และ คาสั่ง echo 30 + 8; จะมีค่าเท่ากับ 22 ถ้าต้องการนา ข้อมูลหรือค่าที่ได้จากสองคาสั่งนี้มาทาการลบกัน หรือดาเนินการกัน เราจะทาอย่างไร ปัญหานี้ก็คือ เราต้องทาการจัดเก็บค่า 45 และ 22 ไว้ที่ใดที่หนึ่งเสียก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยนาค่าทั้งสองออกมาลบกัน ซึ่งที่ใดที่หนึ่งในที่นี้ก็คือหน่วยความจานั้นเอง โดยปกติแล้วหน่วยความจาคอมพิวเตอร์จะมีการแบ่งพื้นที่ในการจัดเก็บและมีการ อ้างอิงถึงพื้นที่ที่เก็บข้อมูลต่างๆ ด้วยหมายเลขที่อยู่ของหน่วยความจา เช่น หมายเลข 3762 เป็นหมายเลขที่อยู่จัดเก็บข้อมูลเลข 45 หมายเลข 1769 เป็นหมายเลขที่อยู่จัดเก็บข้อมูลเลข 22 ดังนั้นเราก็นาหมายเลขที่อยู่ 3762 และ 1769 มาลบกันได้ แต่ว่าในทางปฏิบัติจริงๆ แล้วจะไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลต่างๆ ถูกจัดเก็บไว้ที่หมายเลขที่อยู่อะไร ถึงแม้เราจะทราบ ว่าหมายเลขที่อยู่อะไร ก็ถือว่าเป็นความลาบากในการจดจาหมายเลขที่อยู่ดังกล่าว ดังนั้น ตัวแปร จึงถูกนามาใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลต่างๆในหน่วยความจา โดยที่ตัวแปรนี้จะเป็นการตั้งชื่อขึ้นมาเพื่ออ้างอิง ถึงข้อมูลต่างๆในหน่วยความจานั่นเอง การประกาศตัวแปร - การประกาศตัวแปรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย $ (Dollar sign) เสมอ - หลังเครื่องหมาย $ ชื่อตัวแปรจะต้องเริ่มต้นด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษหรือเครื่องหมาย underscore ("_") - ตัวถัดมาของชื่อตัวแปรสามารถเป็นตัวอักษร หรือตัวเลข หรือเครื่องหมาย _ (Under-score) เพื่อผสมชื่อได้เสมอ - ชื่อของตัวแปรมีคุณสมบัติเป็น case-sensitive คือตัวอักษรตัวใหญ่และตัวเล็กถือว่าเป็นคนละตัว ตัวอย่าง test1.php <? $name = “Robert”; $Age = 25; $age = 20; echo “$name <br>”; echo “$Age <br>”; echo “$age”; ?>
  • 4. - ตัวแปรที่เป็นอักษรต้องอยู่ในเครื่องหมาย “…………” - ตัวแปร $Age และ $age ถือว่าเป็นคนละตัวกัน Test2.php <? $num1 = 40 + 5; $num2 = 30 - 8; $result = $num1 - $num2; echo “$result”; ?> ชนิดของข้อมูล ในการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา PHP เช่นการประกาศตัวแปร หรือกาหนดค่าข้อมูลต่างๆ ต้องระบุชนิดข้อมูลอย่าง ชัดเจน โดยชนิดข้อมูลในภาษา PHP มี 2 ประเภท คือ 1. ชนิดข้อมูลพื้นฐาน (Primitive Data Type) คือชนิดข้อมูลที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมสาหรับเก็บข้อมูลชนิดต่างๆ ได้แก่ จานวนเต็ม(Integer) จานวนทศนิยม(Floating Point) ข้อมูลอักขระ(Character) และข้อมูลตรรกะ (Logical Data) 2. ชนิดข้อมูลแบบอ้างอิง (Reference Data Type) คือชนิดข้อมูลที่มีการอ้างอิงตาแหน่งในหน่วยความจา ได้แก่ข้อมูล ของคลาส เช่น String และข้อมูลแบบอาเรย์ ชนิดข้อมูลพื้นฐานในภาษา PHP มีทั้งหมด 8 ชนิดข้อมูลโดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 1. ชนิดข้อมูลจานวนเต็ม(Integer) ได้แก่ long, int, short และ byte 2. ชนิดข้อมูลจานวนทศนิยม(Floating Point) ได้แก่ double และ float 3. ชนิดข้อมูลอักขระ(Character) ได้แก่ char 4. ชนิดข้อมูลตรรกะ (Logical Data) ได้แก่ Boolean ชนิดข้อมูลแต่ละประเภทจะมีขนาดและช่วงค่าของข้อมูลแตกต่างกัน และสามารถสรุปประเภทชนิดข้อมูล ขนาดและ ช่วงค่าของข้อมูล และค่าเริ่มต้น
  • 5. ชนิดข้อมูลจานวนเต็ม(Integer) ชนิดข้อมูลจานวนเต็มประกอบด้วย 4 ชนิดได้แก่ long, int, short และ byte เป็นชนิดข้อมูลที่ใช้เก็บข้อมูลตัวเลข จานวนเต็มในทางคณิตศาสตร์ ช่วงของข้อมูลขึ้นอยู่ขนาดของตัวแปรที่ประกาศ ตัวอย่างเช่น ตัวแปร int จะมีขนาด 32 บิต เก็บ ข้อมูลได้ -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647 การกาหนดค่าข้อมูลให้กับตัวแปรชนิดข้อมูลจานวนเต็ม มีดังนี้ 1. เลขฐานสิบคือการเขียนค่าของข้อมูลจานวนเต็มทั่วไป เช่น 1200 150 -250 เป็นต้น โดยการเขียนจะไม่มี เครื่องหมาย , (Comma) เช่น 25,000 จะต้องเขียนเป็น 25000 2. เลขฐานแปดคือการเขียนค่าของข้อมูลจานวนเต็มโดยใช้เลขฐานแปด โดยการขึ้นต้นข้อมูลด้วยเลข 0 แล้ว ตามด้วยเลข 0 ถึง 7 ตัวอย่างเช่น 036 เป็นเลขฐานแปด มีค่าเท่ากับ 30 ในเลขฐานสิบ 3. เลขฐานสิบหกคือการเขียนค่าของข้อมูลจานวนเต็มโดยใช้เลขฐานสิบหก โดยการขึ้นต้นข้อมูลด้วยเลข 0x หรือ 0X แล้วตามด้วยเลข 0 ถึง 9 และ ตัวอักษร A ถึง F ตัวอย่างเช่น 0XB2 เป็นเลขฐานแปด มีค่าเท่ากับ 178 ในเลขฐานสิบ การประกาศตัวแปรใดๆ ให้เป็นข้อมูลจานวนเต็มต้องคานึงถึงขอบเขตของช่วงข้อมูลที่เก็บได้ และต้องกาหนดค่าชนิด ข้อมูลในเหมาะสมตรงกับชนิดข้อมูลที่ประกาศตัวแปร Integer.php <? $num1 = 20; $num2 = 020; $num3 = 0x20; echo “ค่าของ 20 ในเลขฐานสิบมีค่าเท่ากับ $num1 <br>”; echo “ค่าของ 20 ในเลขฐานแปดมีค่าเท่ากับ $num2 <br>”; echo “ค่าของ 20 ในเลขฐานสิบหกมีค่าเท่ากับ $num3 <br>”; ?>
  • 6. ชนิดข้อมูลจานวนทศนิยม(Floating Point) ชนิดข้อมูลจานวนทศนิยม ประกอบด้วยข้อมูลที่เป็นตัวเลขทศนิยม เช่น 1200.578 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา PHP จะประกาศตัวแปรด้วยคาว่า float และ double โดยชนิดข้อมูล float จะเก็บข้อมูล 32 บิตตามมาตรฐาน single precision คือมีส่วนละเอียดของตัวเลขจานวน 24 บิต และส่วนเลขยกกาลัง 8 บิต และชนิดข้อมูล double จะเก็บข้อมูล 64 บิตตาม มาตรฐาน double precision คือมีส่วนละเอียดของตัวเลขจานวน 53 บิต และส่วนเลขยกกาลัง 11 บิต รูปแบบการตัวเลข ทศนิยมมี 2 แบบ ดังนี้ 1. ตัวเลขทศนิยม เป็นการเขียนตัวเลขทศนิยมที่มีเครื่องหมายจุดทศนิยม ตัวอย่างเช่น 3.14 เป็นต้น 2. ตัวเลขยกกาลังสิบ เป็นการเขียนตัวเลขทศนิยมอยู่ในรูปเลขยกกาลังสิบ (Exponential Form) โดยใช้ตัวอักษร E หรือ e ระบุจานวนที่เป็นเลขยกกาลัง เช่น 6.12E12 หรือ 125.03E-5 เป็นต้น Float.php <? $num1 = 3.58; $num2 = 3.5e3; $num3 = 3e-4; echo “ค่าของ 3.58 มีค่าเท่ากับ $num1 <br>”; echo “ค่าของ 3.5e3 มีค่าเท่ากับ $num2 <br>”; echo “ค่าของ 3e-4 มีค่าเท่ากับ $num3 <br>”; ?> ชนิดข้อมูลอักขระ (Character) ชนิดข้อมูลอักขระจะต้องประกาศตัวแปรด้วยคาว่า char คือการเก็บข้อมูลเป็นตัวอักษร หรืออักขระบนแป้นพิมพ์ได้ เพียง 1 ตัวอักขระ ซึ่งในภาษา PHP จะเก็บข้อมูลอักขระอยู่ในรูปแบบของรหัสแอสกี (ASCII Code) หรือรูปแบบมาตรฐาน Unicode ขนาด 16 บิต การกาหนดค่าข้อมูลอักขระจะอยู่ในเครื่องหมาย ‘ ’ โดยจะขึ้นต้นด้วยสัญลักษณ์ u และตามด้วย เลขฐานสิบหก (Hexadecimal Number) โดยมีค่าตั้งแต่ ‘u0000’ ถึง ‘uFFFF’ หรือกาหนดค่าข้อมูลอักขระด้วยตัวอักขระ บนแป้นพิมพ์ ตัวอย่างเช่น ‘A’, ‘x’, ‘$’ หรือ ‘1’ เป็นต้น
  • 7. ตัวอย่างการประกาศชนิดข้อมูลอักขระ เช่น char grade= ‘A’; char grade= ‘u0041’; เป็นการประกาศตัวแปรที่มีชื่อว่า grade เป็นชนิดข้อมูลอักขระ มีการกาหนดค่าเริ่มต้นเป็นตัวอักษร A ซึ่งมีค่าเป็น เลขฐานสิบหก คือ 0041 ตัวอักขระพิเศษ หรือ Escape Sequence เป็นการแสดงข้อมูลอักขระบนแป้นพิมพ์ที่ใช้แทนการขึ้นบรรทัดใหม่ หรือ ตัวอักขระพิเศษในการเขียนโปรแกรม ตัวอักขระพิเศษ รหัส Unicode ความหมาย b u000B Backspace ลบอักขระตาแหน่งเคอร์เซอร์ t u0009 Tab การเว้นช่องว่างตามระยะ n u000A New Line การขึ้นบรรทัดใหม่ r u000D Return การขึ้นบรรทัดใหม่ u005C Backslash แสดงตัวอักขระ ‘ u0027 Single Quote แสดงตัวอักขระ ‘ “ u0022 Double Quote แสดงตัวอักขระ “ Float.php <? $num1 = “A”; $num2 = “Jimmy”; $num3 = “450”; echo “ค่าตัวแปรของ $num1 มีค่าเท่ากับอักขระ $num1 <br>”; echo “ค่าของตัวแปร $num2 มีค่าเท่ากับสตริง $num2 <br>”; echo “ค่าของตัวแปร $num3 มีค่าเท่ากับสตริง $num3 <br>”; ?>
  • 8. - $num3 จะเก็บสตริง 450 ไม่ใช่ตัวเลข 450 - ในโปรแกรมการใช้รหัส () Escape นาหน้าชื่อเพื่อให้แสดงเครื่องหมาย $ ออกมา ซึ่งทาไห้ num1 num2 num3 เป็นข้อความธรรมดา ไม่ได้เป็นตัวแปร ข้อมูลชนิดตรรกะ (Boolean) ลักษณะข้อมูลจะเก็บค่าเพื่อใช้สาหรับตรวจสอบเงื่อนไข ซึ่งจะมีค่าที่เก็บเพียง 2 ค่าเท่านั้น คือ ค่าจริง (True) และเท็จ (False) boolean.php <? $num1 = 5; $num2 = 10; $num3 = $num1 < $num2; $num4 = $num1 > $num2; echo “ค่าของ $num1 < $num2 มีค่าเท่ากับ $num3 <br>”; echo “ค่าของ $num1 > $num2 มีค่าเท่ากับสตริง $num4 <br>”; ?> ตัวแปรอาร์เรย์ Non_array.php <? $score1 = 58; $score2 = 65; $score3 = 74; $score4 = 62; $score5 = 85; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 1 เท่ากับ $score1 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 2 เท่ากับ $score2 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 3 เท่ากับ $score3 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 4 เท่ากับ $score4 <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 5 เท่ากับ $score5 <br>”; ?>
  • 9. Array1.php <? $score[1] = 58; $score[2] = 65; $score[3] = 74; $score[4] = 62; $score[5] = 85; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 1 เท่ากับ $score[1] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 2 เท่ากับ $score[2] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 3 เท่ากับ $score[3] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 4 เท่ากับ $score[4] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 5 เท่ากับ $score[5] <br>”; ?> Array หมายถึง ตัวแปรชุดที่ใช้เก็บตัวแปรชนิดเดียวกันไว้ด้วยกัน เช่น เก็บ ข้อมูล char ไว้กับ char เก็บ int ไว้กับ int ไม่สามารถเก็บข้อมูลต่างชนิดกันได้ เช่น char กับ int เรียก array อีกอย่างว่าหน่วยความจาแบ่งเป็นช่อง การกาหนดสมาชิกชิก ของ array จะเขียนภายในเครื่องหมาย [ ] Array2.php <? $score = array(“58”, “65”, “74”, “62”, “85”); echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 1 เท่ากับ $score[1] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 2 เท่ากับ $score[2] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 3 เท่ากับ $score[3] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 4 เท่ากับ $score[4] <br>”; echo “คะแนนสอบนักเรียนคนที่ 5 เท่ากับ $score[5] <br>”; ?> ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับตัวแปร 1. ฟังก์ชัน gettype() จะ return ชนิดของตัวแปรกลับมา Boolean T-F integer ตัวเลขจานวนเต็ม double ตัวเลขจานวนทศนิยม string ตัวอักษร
  • 10. array อาร์เรย์ object แบบอบเจ็กต์ NULL ว่าง unknown type ไม่ระบุชนิดตัวแปร นิพจน์ (Expression) คือ การนาค่าคงที่หรือตัวแปรมาเชื่อมต่อกัน ด้วยเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ เช่น ตัวดาเนินการคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์ ดังตัวอย่างในตารางข้างล่างนี้ ตัวดาเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง + บวก (Addition) X + y - ลบ (Subtraction) X – y * คูณ (Multiplication) X * y / หาร (Division) X / y % หารเอาผลลัพธ์เฉพาะเศษ (Modulus) X % y ++ เพิ่มค่าให้กับตัวแปร $a ขึ้นหนึ่งค่า $a++ -- ลดค่าให้กับตัวแปร $a ลงหนึ่งค่า $b-- ตัวดาเนินการเปรียบเทียบ คือ เครื่องหมายที่ใช้ในการเปรียบเทียบในทางคณิตศาสตร์ ผลลัพธ์จะมี 2 กรณีคือ ถ้าผลลัพธ์ถูกต้องหรือเป็นจริง (True) จะมีค่าเป็น 1 ถ้าผลลัพธ์ผิดหรือเป็นเท็จ (False) จะมีค่า เป็น 0 ผลลัพธ์ของการเปรียบเทียบ เรียกว่า ค่าคงที่บูลีน (Boolean Constant) ตัวดาเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง > มากกว่า (Greather Than) X > y < น้อยกว่า (Less Than) X < y >= มากกว่าหรือเท่ากับ (Greather Than or Equal) X >= y <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ (Less Than or Equal) X <= y == เท่ากับ (Equal) X == y != ไม่เท่ากับ (Not Equal) X != y
  • 11. ตัวดาเนินการตรรกะ คือเครื่องหมายที่ใช้เชื่อมเงื่อนไข 2 เงื่อนไข หรือมากกว่า 2 เงื่อนไข เพื่อให้การเปรียบเทียบมีความละเอียดมากขึ้น ใช้สัญลักษณ์แทนในแต่ละเครื่องหมาย ดังนี้ ตัวดาเนินการ อธิบาย ความหมาย && และ (and) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขทั้งสองเป็นจริง แต่ถ้าเงื่อนไขใดเป็นเท็จ หรือทั้งสองเงื่อนไขเป็นเท็จจะทาให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ || หรือ (or) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเป็นจริง หรือเป็นจริงทั้ง สองเงื่อนไข แต่ถ้าเป็นเท็จทั้งสองเงื่อนไขจะทาให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ! ไม่ใช่ (not) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขหลัง not เป็นเท็จ แต่ถ้าเงื่อนไข หลัง not เป็นจริงจะทาให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ตัวดาเนินการ ความหมาย